00:00:00 → 00:00:06 คุณเคยไหมครับที่อยากให้กำลังใจเพื่อน หรือคนที่รักที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่
00:00:06 → 00:00:13 ยากลำบากมากๆจนเราไม่รู้จะพูดอะไรดี เคยค่ะคุณกันและคำแรกๆที่เรามักจะนึกถึง
00:00:13 → 00:00:19 ก็คงไม่พ้นคำว่าสู้ๆนะใช่มั้ยคะเพราะเรา เชื่อว่าคำนี้มันสั้นๆง่ายๆฟังแล้วให้
00:00:19 → 00:00:24 กำลังใจดี ใช่เลยครับและเราก็ทำไปเพราะเจตนาดีจริงๆ
00:00:24 → 00:00:30 แต่ในมุมของผู้ที่เผชิญกับโรคซิมเศร้า ซึ่งเป็นภาวะที่ซับซ้อนกว่าความเศร้าทั่ว
00:00:30 → 00:00:37 ไปมากนักคำว่าสู้ๆที่เราพูดออกไปอาจจะไม่ ได้ช่วยอะไรเลยแถมบางครั้งยังอาจทำให้อีก
00:00:37 → 00:00:42 ฝ่ายรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
00:00:42 → 00:00:47 จริงๆค่ะและเป็นสิ่งที่เราในฐานะคนรอบ ข้างควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องเพราะบาง
00:00:47 → 00:00:51 ครั้งเราอาจกำลังทำร้ายใครบางคนโดยที่เรา ไม่รู้ตัว
00:00:51 → 00:00:58 เพราะสุขภาพดีเริ่มต้นจากความเข้าใจครับ ในตอนนี้เราจะมาเจาะลึกไปพร้อมๆกันว่า
00:00:58 → 00:01:04 ทำไมคำว่าสู้สู้ถึงไม่ควรใช้กับคนที่เป็น โรคซึ้งเศร้าและที่สำคัญเรามีทางเลือก
00:01:04 → 00:01:08 อื่นไหมที่จะช่วยให้กำลังใจพวกเขาได้ อย่างถูกวิธี
00:01:08 → 00:01:13 เพราะการทำความเข้าใจอาการของโรคอย่างแท้ จริงจะช่วยให้เราสื่อสารและอยู่เคียงข้าง
00:01:13 → 00:01:19 พวกเขาได้อย่างเหมาะสมครับเตรียมตัวให้ พร้อมนะครับสำหรับการเดินทางเข้าสู่โลก
00:01:19 → 00:01:24 ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนนี้แต่ เชื่อเถอะครับว่าถ้าเราเข้าใจเราจะช่วย
00:01:24 → 00:01:30 ให้เขาก้าวผ่านมันไปได้ดีกว่าเดิมแน่นอน ครับเราได้เริ่มต้นการสนทนาด้วยคำถามที่
00:01:30 → 00:01:36 หลายคนอาจจะสงสัยนะครับคุณเกตว่าก็แค่คำ ว่าสู้ๆแล้วทำไมมันถึงกลายเป็นคำต้องห้าม
00:01:36 → 00:01:40 ไปได้ ค่ะและเกดคิดว่าเพื่อจะหายคำตอบเราต้อง
00:01:40 → 00:01:45 ลองมาทำความเข้าใจโรคที่ผู้ป่วยโรคซึม เศร้ากำลังเผชิญอยู่ให้ลึกซึ้งกว่าเดิม
00:01:45 → 00:01:48 ค่ะ ถูกต้องเลยครับลองจินตนาการตามผมนะครับ
00:01:48 → 00:01:53 คุณเกตสมมุติว่าเราเป็นคนนึงที่กำลังจม อยู่ในบ่อน้ำที่มืดมิดและหนาวเหน็บ
00:01:53 → 00:01:59 อืมแค่คิดก็รู้สึกอึดอัดแล้วค่ะ แล้วมีคนคั้นบนที่กำลังยืนอยู่บนพื้นดิน
00:01:59 → 00:02:04 ที่แห้งสนิทสบายๆแล้วตะโกนลงมาว่าสู้ๆนะ พร้อมกับยื่นมือลงมา
00:02:04 → 00:02:11 เราคงจะอยากคว้ามือเนะคะแต่คำว่าสู้ๆนี่ มันช่วยอะไรได้หรอกคะในสถานการณ์แบบนี้ใน
00:02:11 → 00:02:16 เมื่อเราไม่มีแรงจะปีนขึ้นไปแล้วจริงๆ นั่นแหละครับมันไม่ช่วยอะไรเลยเพราะ
00:02:16 → 00:02:22 สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าคำว่าสู้ๆมัน เหมือนการบอกเขาว่าที่คุณยังไม่หายก็
00:02:22 → 00:02:27 เพราะคุณยังพยายามไม่มากพอซึ่งมันทำให้ ผู้ป่วยรู้สึกผิดและรู้สึกว่าตัวเองเป็น
00:02:27 → 00:02:31 คนไร้ความสามารถที่แม้แต่จะสู้ก็ยังทำไม่ ได้
00:02:31 → 00:02:37 โหพอฟังแบบนี้แล้วรู้สึกหดหู่แทนเลยค่ะ มันกลายเป็นว่าคำที่เราคิดว่าดีที่สุด
00:02:37 → 00:02:42 กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตำหนิว่าไม่ พยายามทั้งๆที่มันเป็นอาการป่วย
00:02:42 → 00:02:49 ใช่ครับเพราะสำหรับโรคซึมเศร้าอาการที่ เกิดขึ้นอย่างภาวะหมดแรงหรือไม่มีความสน
00:02:49 → 00:02:54 ใจในสิ่งใดๆที่ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า แอนเฮโดเนียมันไม่ใช่ความขี้เกียจไม่ใช่
00:02:54 → 00:03:00 ความอ่อนแอแต่มันเป็นอาการของโรคครับ แล้วอาการแบบนี้มันส่งผลกระทบต่อชีวิต
00:03:00 → 00:03:04 ประจำวันของเขายังไงบ้างคะ มันทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนแบกเกราะ
00:03:04 → 00:03:09 เหล็กที่หนักอึ้งอยู่ตลอดเวลาครับหนักจน เขาแทบจะขยับตัวไม่ได้เลยเรื่องง่ายๆ
00:03:09 → 00:03:14 อย่างการตื่นนอนในตอนเช้าก็กลายเป็น เรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาล
00:03:14 → 00:03:18 เขาอาจจะรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแม้จะได้นอน หลับเต็มอิ่มแล้วก็ตาม
00:03:18 → 00:03:22 เหมือนกับพลังกายและพลังใจมันถูกสูบออกไป จนหมดเลยนะคะ
00:03:22 → 00:03:28 ถูกต้องเลยครับและนอกจากความรู้สึกหมดแรง แล้วผู้ป่วยยังต้องเผชิญเชิญกับความรู้
00:03:28 → 00:03:32 สึกไร้ค่าและความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้น อย่างไม่มีเหตุผล
00:03:32 → 00:03:37 ความรู้สึกผิดนี่คือผิดในเรื่องอะไรหรอคะ เป็นความรู้สึกผิดที่รุนแรงครับคุณเกตแม้
00:03:37 → 00:03:43 กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นใน ชีวิตประจำวันเช่นการที่เขาตื่นสายเพียง
00:03:43 → 00:03:48 แค่ 5 นาทีก็อาจจะรู้สึกผิดว่าตัวเองเป็น คนล้มเหลวหรือแม้แต่การที่เขาไม่ได้ทำงาน
00:03:48 → 00:03:54 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนปกติเขาก็จะ โทษตัวเองอย่างรุนแรงว่าเขาเป็นคนไร้ค่า
00:03:54 → 00:04:00 เป็นภาระของคนรอบข้างซึ่งความรู้สึกเหล่า นี้มันเกิดขึ้นเองจากโรคโดยที่ไม่มีใครมา
00:04:00 → 00:04:04 ว่าอะไรเขาสักคำ แล้วถ้าเป็นความรู้สึกไร้ค่าล่ะคะมันจะ
00:04:04 → 00:04:07 ส่งผลยังไง มันทำให้ผู้ป่วยไม่มีแรงใจที่จะทำอะไรเลย
00:04:07 → 00:04:14 ครับเพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรเขาก็จะมองว่า มันไม่มีคุณค่าหรือไม่ดีพ้ออยู่เสมอความ
00:04:14 → 00:04:19 คิดแบบนี้มันจะวนเวียนอยู่ในหัวเขาตลอด เวลาจนในที่สุดก็จะทำให้เขาไม่อยากทำอะไร
00:04:19 → 00:04:22 เลยครับเพราะรู้สึกว่าทำไปก็เปล่า ประโยชน์
00:04:22 → 00:04:27 จากที่เคยคิดว่าเป็นแค่ความเศร้าธรรมดา ตอนนี้เข้าใจเลยค่ะว่ามันซับซ้อนกว่าที่
00:04:27 → 00:04:32 เราคิดมากจริงๆ ใช่ครับเพราะคำว่าสู้ๆสำหรับพวกเขามันไม่
00:04:32 → 00:04:37 ใช่เรื่องของการพยายามให้มากขึ้นแต่มัน คือการพยายามในสิ่งที่พวกเขาไม่มีพลังงาน
00:04:37 → 00:04:43 จะทำได้แล้วจริงๆและเมื่อทำไม่ได้เขาก็จะ รู้สึกผิดซ้ำๆแล้วเริ่มเหมาะว่าตัวเอง
00:04:43 → 00:04:48 เป็นภาระของคนอื่นซึ่งนี่แหละครับคือสิ่ง ที่อันตรายที่สุดเมื่อเราได้ทำความเข้าใจ
00:04:48 → 00:04:54 ถึงโรคภายในของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไปแล้ว นะครับพลเกดว่ามันซับซ้อนและหนักหนาขนาด
00:04:54 → 00:05:01 ไหนคำถามสำคัญต่อไปก็คือแล้วเราควรจะทำ ยังไงเราจะสื่อสารกับเขาด้วยคำพูดแบบไหน
00:05:01 → 00:05:05 ที่ไม่ใช่คำว่าสู้ๆเพื่อให้กำลังใจได้ อย่างถูกวิธีครับ
00:05:05 → 00:05:11 เกดคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ เปลี่ยนจากการสั่งให้สู้ไปเป็นการอยู่
00:05:11 → 00:05:14 เคียงข้างเพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่ ตัวคนเดียวค่ะ
00:05:14 → 00:05:20 ถูกต้องเลยครับและการจะทำแบบนั้นได้เรามี เทคนิคการสื่อสารที่สามารถนำไปปรับใช้ได้
00:05:20 → 00:05:24 เลยครับอย่างแรกเลยคือการยอมรับความรู้ สึกของเขาครับ
00:05:24 → 00:05:30 การยอมรับความรู้สึกคือยังไงหรอคะ ก็คือการที่เราบอกเขาไปตรงๆว่าฉันรับรู้
00:05:30 → 00:05:36 ได้นะว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกแย่มากหรือ ฉันเข้าใจว่าช่วงนี้มันหนักสำหรับเธอแค่
00:05:36 → 00:05:43 ไหนคำพูดเหล่านี้จะทำให้เขารู้สึกว่ามีคน เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขากำลังเผชิญ
00:05:43 → 00:05:47 อยู่จริงๆไม่ใช่แค่การปฏิเสธหรือมองข้าม ปัญหาของเขาครับ
00:05:47 → 00:05:52 มันเป็นการเปิดพื้นที่ให้เขารู้สึกปลอด ภัยที่จะแสดงความรู้สึกออกมาได้เต็มที่
00:05:52 → 00:05:58 ใช่ครับแล้วอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลย ก็คือการแสดงความห่วงใยและยืนยันว่าเราจะ
00:05:58 → 00:06:05 อยู่เคียงข้างอย่างชัดเจนครับแทนที่จะพูด ว่าสู้ๆนะเราควรจะพูดว่าฉันอยู่ตรงนี้
00:06:05 → 00:06:12 เสมอนะหรือมีอะไรให้ฉันช่วยบอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจคำพูดเหล่านี้มันให้ความรู้
00:06:12 → 00:06:17 สึกที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงครับ เพราะมันไม่ได้เป็นการสั่งให้เขาไปทำอะไร
00:06:17 → 00:06:22 แต่เป็นการยืนยันว่าเราพร้อมที่จะอยู่ เคียงข้างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
00:06:22 → 00:06:27 นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่เขาต้องการมากที่ คือการรู้สึกว่ายังมีคนที่ไม่ทอดทิ้งเขา
00:06:27 → 00:06:31 ไปไหน และที่สำคัญครับคุณเกดการให้กำลังใจที่ดี
00:06:31 → 00:06:37 ที่สุดไม่ใช่การไปบอกให้เขาทำอะไรนะครับ แต่คือการเปิดพื้นที่ให้เขาได้พูดให้เขา
00:06:37 → 00:06:44 ระบายความรู้สึกออกมาโดยที่เราไม่ตัดสิน ใช่เลยค่ะเพราะบางครั้งเขาก็แค่ต้องการคน
00:06:44 → 00:06:48 รับฟังที่เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขา เป็น
00:06:48 → 00:06:53 ลองใช้ประโยคที่กระตุ้นให้เขาได้พูดบ้าง ก็ได้ครับเช่นถ้าอยากระบายเล่าให้ฉันฟัง
00:06:53 → 00:07:00 ได้นะฉันพร้อมจะฟังเสมอหรือฉันอาจจะไม่ ได้เข้าใจทั้งหมดแต่ฉันอยากจะลองเข้าใจนะ
00:07:00 → 00:07:06 เล่าให้ฉันฟังได้มยคำถามเหล่านี้จะช่วย ให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวและ
00:07:06 → 00:07:09 เราพร้อมที่จะรับฟังเขาด้วยความเต็มใจ จริงๆ
00:07:09 → 00:07:15 นอกจากเรื่องคำพูดแล้วยังมีเรื่องของการ กระทำเล็กๆน้อยๆที่สำคัญมากค่ะ
00:07:15 → 00:07:19 การกระทำหมายถึงการชวนเขาไปทำกิจกรรมต่าง ๆอย่างนี้หรอครับ
00:07:19 → 00:07:25 ถูกต้องค่ะแต่ต้องเป็นกิจกรรมที่ไม่กดดัน นะคะเช่นวันนี้ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ
00:07:25 → 00:07:32 กันมยอยากดูหนังเรื่องที่ชอบไหมเดี๋ยวฉัน ไปเป็นเพื่อนหรือไปนั่งจิบกาแฟเงียบๆียบ
00:07:32 → 00:07:39 กันมการกระทำเหล่านี้มันจะช่วยให้เขารู้ สึกว่าชีวิตยังคงมีสีสันเล็กๆน้อยๆและรู้
00:07:39 → 00:07:42 สึกว่ามีคนคอยประคับประคองเขาอยู่ตลอด เวลาค่ะ
00:07:42 → 00:07:47 แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงล่ะครับ ถ้าเราไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงและสังเกตเห็น
00:07:47 → 00:07:53 ว่าอาการของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆสิ่ง สำคัญที่สุดคือการสนับสนุนให้เขาเข้ารับ
00:07:53 → 00:08:00 การรักษาค่ะเราอาจจะลองพูดว่าอาการแบบนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะฉันว่าถ้าเธอไปหา
00:08:00 → 00:08:06 หมอมันจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ นะและอาจจะเสนอตัวไปเป็นเพื่อนเพื่อช่วย
00:08:06 → 00:08:12 ให้เขารู้สึกอุ่นใจในการไปพบคุณหมอด้วย ค่ะสุดท้ายนะคะสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย
00:08:12 → 00:08:18 ก็คือการดูแลตัวเองของผู้ดูแลด้วยค่ะ ทำไมหรอครับเพราะการอยู่เคียงข้างคนที่
00:08:18 → 00:08:23 กำลังเผชิญกับโรคซึมเศร้ามันเป็นเรื่อง ที่ต้องใช้พลังงานสูงมากครับหากเราไม่ดู
00:08:23 → 00:08:30 แลตัวเองเราก็อาจจะรู้สึกหมดแรงและท้อแท้ ไปกับเขาด้วยครับดังนั้นอย่าลืมให้เวลา
00:08:30 → 00:08:35 ตัวเองได้พักผ่อนและทำกิจกรรมที่ตัวเอง ชอบเพื่อชาร์จพลังให้พร้อมที่จะอยู่เคียง
00:08:35 → 00:08:40 ข้างเขาในระยะยาวครับ คำแนะนำทั้งหมดนี้ละเอียดมากจริงๆค่ะเกด
00:08:40 → 00:08:46 เชื่อว่าถ้าผู้ฟังนำไปปรับใช้จะสามารถ เป็นเพื่อนที่เข้าใจและช่วยเหลือคนที่เขา
00:08:46 → 00:08:51 รักได้อย่างถูกวิธีแน่นอนค่ะ ตลอดการสนทนาของเราในวันนี้เราได้เรียน
00:08:51 → 00:08:57 รู้กันไปแล้วนะครับคุณเกดว่าคำว่าสู้ๆที่ เราพูดออกไปด้วยเจตนาดีๆนั้นอาจไม่ได้
00:08:57 → 00:09:03 ช่วยคนที่กำลังเผชิญกับโรคซึมเศร้าเลยแต่ มันอาจจะกลับไปสร้างแรงกดดันและทำให้เขา
00:09:03 → 00:09:07 รู้สึกผิดมากขึ้น ใช่ค่ะเพราะโรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องของ
00:09:07 → 00:09:13 ความขี้เกียจหรือความอ่อนแอแต่มันคือการ เจ็บป่วยที่ต้องได้รับการรักษาและที่
00:09:13 → 00:09:16 สำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจจากคนรอบ ข้าง
00:09:16 → 00:09:22 และที่สำคัญนะครับจากที่เคยเป็นคำที่ใช้ สั่งให้สู้เรามาเปลี่ยนเป็นคำที่ใช้โอบ
00:09:22 → 00:09:26 กอดด้วยความเข้าใจและพร้อมจะอยู่เคียง ข้างเขาจะดีกว่าครับ
00:09:26 → 00:09:33 จากนี้ไปเรามาลองเปลี่ยนคำพูดของเรากัน ใหม่นะคะจากสู้ๆนะเป็นฉันเข้าใจนะฉันอยู่
00:09:33 → 00:09:39 ตรงนี้เสมอนะหรือให้ฉันช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่ได้เป็นการสั่งให้เขา
00:09:39 → 00:09:45 ทำอะไรแต่เป็นการยืนยันว่าเราพร้อมจะอยู่ เคียงข้างและเราพร้อมที่จะเป็นกำลังใจที่
00:09:45 → 00:09:50 แท้จริงให้กับพวกเขา สุดท้ายนะครับการจะช่วยเหลือใครสักคนที่
00:09:50 → 00:09:55 กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่าง โรคซึมเศร้าสิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างแรก
00:09:55 → 00:10:01 ไม่ใช่การเร่งให้เขาหายแต่เป็นการเข้าใจ เขาอย่างแท้จริงและเมื่อเราเข้าใจแล้วเรา
00:10:01 → 00:10:06 จะสามารถเป็นแสงสว่างเล็กๆที่ช่วยให้เขา ได้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคงครับ
00:10:06 → 00:10:11 ถ้าหากคุณผู้ฟังเห็นว่าเนื้อหาในวันนี้ เป็นประโยชน์อย่าลืมแบ่งปันพcสตอนนี้ให้
00:10:11 → 00:10:15 กับคนที่คุณรักนะคะ และถ้าคุณมีเรื่องราวหรือข้อสงสัยที่อยาก
00:10:15 → 00:10:21 จะมาแลกเปลี่ยนกันอย่าลืมคอมเมนต์มาพูด คุยกับพวกเราได้เลยนะครับพวกเราสุขภาพ
00:10:21 → 00:10:26 สนทนายินดีที่จะรับฟังและพร้อมจะอยู่ เคียงข้างคุณเสมอครับเนื้อหาในตอนนี้ถูก
00:10:26 → 00:10:31 สร้างขึ้นโดยความร่วมมื้อของปัญญา ประดิษฐ์และเสียงที่คุณได้ยินก็ถูก
00:10:31 → 00:10:36 สังเคราะห์ขึ้นด้วย AI เช่นกันเพื่อให้ เราสามารถนำเสนอข้อมูลสุขภาพดีๆได้อย่าง
00:10:36 → 00:10:41 สม่ำเสมอและมีคุณภาพครับ