00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาพูดถึงยา 2 ตัวที่
00:00:04 → 00:00:07 ใช้ในการเร่งเผาผลาญไขมันแล้วก็เพิ่มความ
00:00:07 → 00:00:09 ทนทานในการออกกำลังกายซึ่งเป็นที่กล่าว
00:00:09 → 00:00:12 ขานแล้วก็ใช้กันในวงการฟิตเนสแล้วก็วงการ
00:00:12 → 00:00:15 เพาะกายเป็นอย่างมากนะครับ 2 ตัวที่ผมจะ
00:00:15 → 00:00:18 เล่าในวันนี้ก็คือตัวที่ชื่อว่า cardarine
00:00:18 → 00:00:22 แล้วก็ stab olic นะครับ 2 ตัวนี้แน่นอน
00:00:22 → 00:00:24 ถ้าใครอยู่วงการฟิตเนสแล้วต้องการที่จะ
00:00:24 → 00:00:27 เร่งเผาผลาญไขมันก็อยากจะหามันมาใช้แล้ว
00:00:27 → 00:00:30 บางครั้งเราก็ไปได้ยินมาจากแหล่งต่างๆว่า
00:00:30 → 00:00:32 มันดีอย่างนั้นดีอย่างนี้นะครับวันนี้ผม
00:00:32 → 00:00:36 จะมาเล่าทั้งข้อดีแล้วก็ข้อเสียเพื่อที่
00:00:36 → 00:00:39 จะให้เราพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจในการ
00:00:39 → 00:00:42 ใช้มันนะครับก็ลองฟังดูก่อนนะครับพบกับผม
00:00:42 → 00:00:44 นะครับนายแพทย์ธานีธนียวันเป็นอาจารย์
00:00:44 → 00:00:46 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ
00:00:46 → 00:00:49 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:49 → 00:00:52 เราเริ่มกันที่ตัวแรกก่อนก็คือตัวที่ชื่อ
00:00:52 → 00:00:55 ว่าคีนั่นเองตัวนี้เนี่ยมันมีอีก 2 ชื่อ
00:00:55 → 00:00:58 นะครับบางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อที่เรียก
00:00:58 → 00:01:02 ว่า ur นะครับมันมาจากมันย่อมาจากคำว่า
00:01:02 → 00:01:05 endurance ก็คือความทนทานในการออกกำลัง
00:01:05 → 00:01:07 กายนั่นเองก็เลยเอามาตั้งชื่อว่าเป็น End
00:01:07 → 00:01:09 durable นะครับอีกชื่อนึงก็คือเป็นชื่อ
00:01:09 → 00:01:12 Code name ของมันก็คือ
00:01:12 → 00:01:16 gw501516 นะครับงั้นไอ้ 3 ชื่อเนี้ยมัน
00:01:16 → 00:01:19 คือตัวเดียวกันนะครับ carine End
00:01:19 → 00:01:20 durable
00:01:20 → 00:01:24 gw501516 นะครับจริงๆมันก็มีโค้ดเนมอีก
00:01:24 → 00:01:26 ชื่ออื่นๆเหมือนกันนะครับแต่ว่า 3 ชื่อ
00:01:26 → 00:01:28 เนี้ยเป็นชื่อที่รู้จักกันมากที่สุดโดย
00:01:28 → 00:01:31 ตัวนี้เนี่ยมันถูกพัฒนามาครั้งแรกนะครับ
00:01:31 → 00:01:35 โดยบริษัท gsk นะครับร่วมกับบริษัทอีก
00:01:35 → 00:01:38 บริษัทหนึ่งนะครับเพื่อที่จะเอามาช่วยใน
00:01:38 → 00:01:42 การรักษาโรคเบาหวานลดน้ำตาลนะครับลดไขมัน
00:01:43 → 00:01:46 ส่วนเกินในร่างกายโดยเฉพาะในเลือดนะครับ
00:01:46 → 00:01:48 ทำให้ไขมันตัวดีคือ hdl เนี่ยเพิ่มมาก
00:01:48 → 00:01:51 ขึ้นแล้วก็ลดปริมาณไขมันตัวที่ไม่ดีก็คือ
00:01:51 → 00:01:56 ldl แล้วก็ vldl ลงนอกจากนี้ยังมีส่วนใน
00:01:56 → 00:01:59 การต้านการอักเสบนะครับแล้วก็อาจจะช่วย
00:01:59 → 00:02:02 ช่วยเหลือในกรณีของมะเร็งบางชนิดได้นะ
00:02:02 → 00:02:06 ครับนี่คือผลทั้งหมดที่มีการศึกษามานะฮะ
00:02:06 → 00:02:09 โดยกลไกการทำงานของมันเนี่ยมันจะไป
00:02:09 → 00:02:12 กระตุ้นส่วนเ่อสารอย่างหนึ่งซึ่งชื่อว่า
00:02:12 → 00:02:16 PP Delta นะครับ ppar Delta ตัวนี้นะ
00:02:16 → 00:02:19 ครับแล้วอันเนี้ยมันเชื่อว่าทำให้เกิดผล
00:02:19 → 00:02:23 ทางร่างกายที่ดีนะครับที
00:02:23 → 00:02:27 นี้แล้วทำไมมันดีขนาดเมันมันถึงไม่มีใคร
00:02:27 → 00:02:31 ออกมาใช้จริงอยู่ว่ามันมีการทดลองในสัตว์
00:02:31 → 00:02:34 ทดลองในคนนะครับพบว่ามันทำได้อย่างที่มัน
00:02:34 → 00:02:37 กล่าวจริงๆคือน้ำตาลก็จะดีขึ้นนะครับไข
00:02:37 → 00:02:40 มันตัวที่ดีมันก็จะเพิ่มขึ้นไขมันตัวที่
00:02:40 → 00:02:42 ไม่ดีมันก็จะหายไปนะครับแล้วทุกๆอย่างมัน
00:02:42 → 00:02:46 ก็จะดูเหมือนจะดีแต่ปรากฏว่ามันไปเจอว่า
00:02:46 → 00:02:50 มีการทดลองในสัตว์ทดลองนหนูเนี่ยแหละครับ
00:02:50 → 00:02:53 2 งานวิจัยหลักๆเลยแล้วเขาก็เอาไปพรีเซน
00:02:53 → 00:02:57 ในงานเอ่องานสัมมนาด้วยเเจอว่าอะไรรู้
00:02:57 → 00:03:02 มั้ยครับการใช้คารีนในหนูเนี่ยทดลองมัน
00:03:02 → 00:03:05 เกิดมะเร็งขึ้นในหลายอวัยวะเลยทีเดียว
00:03:05 → 00:03:09 มะเร็งอะไรบ้างมะเร็งไทรอยด์มะเร็ง
00:03:09 → 00:03:13 กระเพาะอาหารมะเร็งตับมะเร็งท่อทางเดิน
00:03:13 → 00:03:17 ปัสสาวะมะเร็งผิวหนังมะเร็งรังไข่มะเร็ง
00:03:17 → 00:03:20 อันถะเกิดขึ้นหมดเลย
00:03:20 → 00:03:25 ครับแล้วด้วยเหตุนี้เองบริษัท GS จึงยก
00:03:25 → 00:03:28 เลิกการผลิตยกเลิกการวิจัยของคารีนออกไป
00:03:28 → 00:03:30 หมดเลย
00:03:30 → 00:03:34 นะครับนี่แหละครับคือปัญหาทีนี้หลังจาก
00:03:35 → 00:03:37 การยกเลิกไปแล้วเนี่ยก็ยังมีคนทำวิจัยออก
00:03:37 → 00:03:41 มาเรื่อยๆแล้วก็บางงานวิจัยเนี่ยก็ได้ผล
00:03:41 → 00:03:44 ตรงกันข้ามก็คือว่าเฮ้ยทำไมงานวิจัยเนี้ย
00:03:44 → 00:03:47 มันช่วยเรื่องของมะเร็งบางชนิดนะแต่ว่า
00:03:47 → 00:03:50 ทำไมไปขัดกับตอนแรกที่นหนูเนี่ยมันเป็น
00:03:50 → 00:03:54 มะเร็งทุกชนิดเลยเค้าก็ไปสันนิษฐานว่า
00:03:54 → 00:03:57 เอ๊ะหรือมันจะเกี่ยวข้องกับขนาดของอ่า
00:03:57 → 00:04:01 คารีนที่เราให้หนูมันใช้แล้วก็ให้คนมัน
00:04:01 → 00:04:04 ใช้นะครับอาจจะไม่เหมือนกันนะครับการทด
00:04:04 → 00:04:08 ลองในคนเนี่ยมีการทดลองระยะสั้นเท่านั้น
00:04:08 → 00:04:10 ส่วนใหญ่ใช้ขนาดประมาณสัก 10 มิลกรัมต่อ
00:04:10 → 00:04:15 วันไม่เกิน 3 เดือนนะครับเรามีข้อมูลอยู่
00:04:15 → 00:04:17 แค่นี้เลยที่พบว่าถ้าใน 3 เดือนกินขนาด
00:04:17 → 00:04:20 เนี้ยมันไม่ได้เจอว่ามีมะเร็งเกิดขึ้นมา
00:04:20 → 00:04:23 ขนาดนั้นอย่างไรก็ตามต้องบอกไว้ก่อนว่า
00:04:23 → 00:04:26 งานวิจัยที่มีทั้งหมดนั้นมันเป็นงานวิจัย
00:04:26 → 00:04:28 ที่มีจำนวนตัวอย่างไม่มากนะครับแล้วก็มี
00:04:29 → 00:04:31 งานวิจัยแค่ขนาดประมาณเท่าเนี้ยซึ่งถือ
00:04:31 → 00:04:34 ว่าน้อยมากนะครับอ่าน้อยมากส่วนมันจะได้
00:04:34 → 00:04:36 ประโยชน์หรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
00:04:36 → 00:04:39 งั้นนี่คือข้อจำกัดของ cardarine หรือ
00:04:39 → 00:04:46 gw501516 หรือ endor นะครับแปลว่าถ้าเรา
00:04:46 → 00:04:49 จะกินตัวนี้นะถ้าเรากินตัวนี้คุณต้องรู้
00:04:49 → 00:04:52 เลยว่ามีโอกาสเกิดมะเร็งได้แล้วถ้าจะกิน
00:04:52 → 00:04:56 ก็ไม่ควรกินเยอะนะครับ 10 มกร 3 เดือน
00:04:56 → 00:04:59 อันเนี้ยยังพอมีข้อมูลบ้างอย่างไรก็ตาม
00:04:59 → 00:05:03 ถ้าคุณไปดูที่เขาคขายกันเนี่ยมันไม่ได้
00:05:03 → 00:05:07 ขาย 10 มิลกรัมครับมันจะมีแบบ 10 มกร 12.5
00:05:07 → 00:05:11 มกร 15 มกรจนกระทั่งถึง 30 มกรเลยซึ่งพวก
00:05:11 → 00:05:14 นั้นเนี่ยบางคนก็จะบอกว่าเฮ้ยเราอยากจะ
00:05:14 → 00:05:17 เผาผลาไขมันเร็วๆต้องกินขนาดสูงๆเข้าไป
00:05:17 → 00:05:20 อ่ะมันจะได้เผาผลาญเยอะๆแต่ว่าอย่าลืมนะ
00:05:20 → 00:05:21 ครับว่าเราไม่มีข้อมูลและเรารู้อยู่แล้ว
00:05:21 → 00:05:25 ว่าถ้าขนาดสูงมันอาจจะมีผลต่อการก่อโรค
00:05:25 → 00:05:28 มะเร็งในร่างกายของเราได้ในงานทดลองของ
00:05:28 → 00:05:30 หนูที่เค้าเกิดมาเ็งเนี่ยต้องบอกว่าทดลอง
00:05:30 → 00:05:34 ยาวกว่าของคนนะครับคือเา้าทดลองเอ่อเป็น
00:05:34 → 00:05:37 ปีเลยอ่ะน่าถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะ 104
00:05:37 → 00:05:39 สัปดาห์อะไรสักอย่างนี้แหละครับค่อนข้าง
00:05:39 → 00:05:42 ที่จะนานนะครับนั้นโอกาสเกิดมะเร็งเนี่ย
00:05:42 → 00:05:44 ก็อาจจะมากขึ้นในกรณีที่เราใช้ไปนานๆก็
00:05:44 → 00:05:47 ได้สำหรับในคนใช้นานแค่ไหนหรือจึงเกิด
00:05:47 → 00:05:49 มะเร็งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะว่ามัน
00:05:49 → 00:05:52 ไม่มีข้อมูลบอกไว้เลยนะครับนี่คือปัญหา
00:05:52 → 00:05:57 ของตัวนี้ทีนี้ถ้าเราจะกินเราจะกินยังไง
00:05:57 → 00:06:00 ถ้าผมแนะนำนะครับก็อย่าไปเกิน 10 มลกต่อ
00:06:00 → 00:06:03 วันนะฮะแล้วก็กินไม่เกิน 3 เดือนต่อครั้ง
00:06:03 → 00:06:06 นะหรือ 2 เดือนอย่างมากคนที่กินเข้าไป
00:06:06 → 00:06:09 ใหม่ๆบางคนมีปัญหาทางด้านของระบบทางเดิน
00:06:09 → 00:06:11 อาหารเช่นคลื่นไส้อาเจียนปวดท้องบางคน
00:06:11 → 00:06:14 ท้องเสียบางคนท้องผูกมันเป็นไปได้หมดนะ
00:06:14 → 00:06:17 ครับเป็นไปได้หมดสิ่งที่เราจะได้จากตัว
00:06:17 → 00:06:20 เนี้ยคือ 1 มันช่วยในการเผาผลาญไขมันตาม
00:06:20 → 00:06:23 ผิวหนังของเราต่างๆนะครับแล้วก็จะช่วย
00:06:23 → 00:06:25 เพิ่มความทนทางในการออกกำลังกายอย่างที่
00:06:25 → 00:06:28 มันว่าจริงๆนั่นแหละนะครับอ่าแต่ก็ต้อง
00:06:28 → 00:06:30 แลกมาด้วยความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
00:06:30 → 00:06:33 อย่างที่ผมบอกไปนะครับอ่าตรงนี้สำคัญ
00:06:34 → 00:06:37 นะมาถึงตัวที่ 2 กันบ้างตัวเนี้ยที่ผมเอา
00:06:37 → 00:06:41 มาพูดคู่กันเพราะว่ามันมันมักจะถูกโฆษณา
00:06:41 → 00:06:43 ไปในทางเดียวกันน่ะแต่ไอ้ 2 ตัวเนี้ยไม่
00:06:43 → 00:06:46 มีใครพูดถึงข้อเสียของมันสักคนเลยอ่ะเท่า
00:06:46 → 00:06:48 ที่ผมไปอ่านมาตามเว็บไซต์ก็ไม่มีใครพูด
00:06:48 → 00:06:51 ถึงเรื่องของมะเร็งนะครับนั้นผมก็เลยอยาก
00:06:51 → 00:06:55 จะเอามาชี้ตรงนี้ให้ฟังเลยตัวที่ 2 คือ SR
00:06:55 → 00:06:59 9009 อ่าหรือ stan bolic นั่นเองนัเอง
00:06:59 → 00:07:01 นะครับ 2 ตัวเนี้ยคือชื่อมันเหมือนกัน
00:07:01 → 00:07:04 นั่นแหละแล้วมันก็จะมีอีกตัวนึงคือ SR
00:07:04 → 00:07:07 9011 อันนี้ไม่ใช่ตัวเดียวกันนะครับแต่
00:07:07 → 00:07:11 ว่าทำหน้าที่กลไกการออกเนี่ยมันคล้ายกัน
00:07:11 → 00:07:15 นะครับ ST bolic หรือ SR 9009 นั้น
00:07:15 → 00:07:17 ครั้งแรกที่เขาทำออกมาเนี่ยเาทำออกมา
00:07:17 → 00:07:21 เพื่อที่จะศึกษาวงจรการหลับการตื่นหรือ
00:07:21 → 00:07:24 ที่เรียกว่า circadian Rhythm นะครับโดย
00:07:24 → 00:07:28 ไอ้ยาตัวเนี้ย stab olic เนี่ยมันจะไป
00:07:28 → 00:07:31 กระตุ้นกลไกการนึงเรียกว่า ref erb
00:07:31 → 00:07:35 pathway r v แล้วก็ SL erb Alpha
00:07:35 → 00:07:39 และเบ้านะครับตัวนี้เนี่ยมันจะมีฤทธิ์ไป
00:07:39 → 00:07:43 วุ่นวายกับระบบที่ใช้ในการควบ
00:07:43 → 00:07:47 คุมวงจรการหลับการตื่นหรือ circadian rym
00:07:47 → 00:07:50 นะครับถ้าใครอยากรู้มันจะไปยุ่งเกี่ยว
00:07:50 → 00:07:53 ข้องกับยนที่เรียกว่า BM One
00:07:53 → 00:07:58 bm1 กับ Clock gen c นะครับมันจริงๆ
00:07:58 → 00:08:00 แปลว่านาฬิกาแต่จริงๆมันเป็นตัวย่อยาวๆ
00:08:00 → 00:08:02 ซึ่งผมก็จำไม่ได้เหมือนกันนะครับคอกจน
00:08:02 → 00:08:05 เนี่ยนะฮะตัวเนี้ยจะเกี่ยวข้องกับระบบ
00:08:05 → 00:08:08 cardian rhm แล้วอย่างที่เราทราบกันดี
00:08:08 → 00:08:12 ว่าการที่เราไปยุ่งกับ cur rit เนี่ยมัน
00:08:12 → 00:08:14 มีผลต่อระบบเมตาบอลิกของร่างกายคือระบบ
00:08:14 → 00:08:17 metabolism ระบบการเผาผลานไขมันซึ่งสุด
00:08:17 → 00:08:20 ท้ายแล้วเนี่ยมันก็จะให้ผลคล้ายกับกรณี
00:08:20 → 00:08:23 ของ cardarine ที่เมื่อกี้ผมพูดไปนั่นเอง
00:08:23 → 00:08:26 นะครับโดยมันอาจจะช่วยเรื่องของการทำให้
00:08:26 → 00:08:30 น้ำตาลในเลือดลดลงทำให้เรื่องของไขมันที่
00:08:30 → 00:08:32 อยู่ตามผิวหนังต่างๆของเราลดลงไขมันใน
00:08:32 → 00:08:34 เลือดของเราเนี่ยก็จะเป็นเป็นทางที่ดี
00:08:34 → 00:08:37 ขึ้นนะครับแล้วก็จะช่วยลดการอักเสบได้ใน
00:08:37 → 00:08:42 บางกรณีนะฮะทีนี้มันมีปัญหายังไงตัวนี้
00:08:43 → 00:08:47 ปัญหามันคืออย่างนี้ครับไอ้ยาเนี่ย ref แ
00:08:47 → 00:08:49 การที่มันเป็นกระตุ้ม RE erb เนี่ยมันไป
00:08:49 → 00:08:52 ยุ่งกับ DNA ของคนครับอะไรก็แล้วแต่ที่ไป
00:08:52 → 00:08:55 ยุ่งกับ DNA ยุ่งขัดยีนของคนเนี่ยมันมี
00:08:55 → 00:08:58 โอกาสทำให้เกิดการผิดปกติของยีนแล้วก็ก่อ
00:08:58 → 00:09:03 มะเร็งได้นะครับและจริงๆไอ้ตัว SR 9009
00:09:03 → 00:09:05 เนี่ยมันมีเอ่อส่วนประกอบตัวนึงในในตัว
00:09:05 → 00:09:09 มันเลยนะครับโครงสร้างอันนึงนะครับ
00:09:09 → 00:09:12 เอ่อตัวเนี้ยผมไม่ค่อยแน่ใจว่ามันชื่อ
00:09:12 → 00:09:17 อะไรน่าจะชื่อ 2 ไนโตร
00:09:17 → 00:09:19 ไทโอฟาเนต
00:09:19 → 00:09:23 ไอฟินมันจะเป็นตัวที่มีฤทธิ์ในการก่อ
00:09:23 → 00:09:26 มะเร็งได้นะครับเคไม่ได้เจอตรงๆว่า SR
00:09:27 → 00:09:29 9009 หรือสบิเก่อมะเร็งนะแต่ไอ้ส่วน
00:09:29 → 00:09:32 ประกอบส่วนเนี้ยเคยมีคนไปตรวจสอบแล้วว่า
00:09:32 → 00:09:35 มันทำให้เกิดมะเร็งได้นะครับมะเร็งเนี่ย
00:09:35 → 00:09:37 มันก็ไม่ได้ชัดขนาดของคารีนซึ่งแบบทำทด
00:09:37 → 00:09:39 ลองในหนูแล้วหนูเกิดมะเร็งเต็มไปหมดเลยนะ
00:09:39 → 00:09:42 ครับอันนี้คือเป็นแค่สมมุติฐานเท่านั้น
00:09:42 → 00:09:45 ดังนั้นโอกาสในการกร่อมะเร็งของ SR 9009
00:09:45 → 00:09:47 สำหรับผมเนี่ยคิดว่ามันน้อยกว่ากรณีของ
00:09:47 → 00:09:52 คีนนะครับแต่มันก็ไม่ใช่เป็น0นนะฮะนี่คือ
00:09:52 → 00:09:55 ปัญหาของมันแล้วอันที่ 2 คือเออมันทำออก
00:09:55 → 00:10:00 มาเพื่อที่จะให้คนที่ใช้เนี่ยมีความทนทาน
00:10:00 → 00:10:02 ในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นแต่เค้าก็ไปเจอ
00:10:02 → 00:10:04 อีกแล้วครับว่างานวิจัยบางอย่างเมันเจอ
00:10:04 → 00:10:07 ว่าแทนที่มันช่วยทำให้การออกกำลังกายดี
00:10:07 → 00:10:09 ขึ้นเนี่ยมันกลับไปเจอว่ามันมีปัญหาต่อ
00:10:09 → 00:10:13 ไมโทคอนเดรียซึ่งเป็นอวัยวะในเซลล์ที่ใช้
00:10:13 → 00:10:16 ในการเพิ่มพลังงานหรือผลิตพลังงานนั่นเอง
00:10:16 → 00:10:18 มันทำให้มันเจอว่ามีไอไมโตคอนเดรียบางอัน
00:10:18 → 00:10:20 เนี่ยไม่สามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอซึ่ง
00:10:20 → 00:10:22 ตรรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะฮะเพราะ
00:10:22 → 00:10:25 ว่าในทางปฏิบัติแล้วเนี่ยมันสามารถทำให้
00:10:25 → 00:10:27 เรามีความทนทานมากขึ้นแต่นี้คือเป็นผลใน
00:10:27 → 00:10:29 เซลล์อย่างเดียวที่เราไปเจอดังนั้นผลใน
00:10:29 → 00:10:31 เซลล์กับผลของจริงเนี่ยบางทีมันอาจจะไม่
00:10:31 → 00:10:36 เหมือนกันก็ได้นะครับและถ้าเราพิจารณาตรง
00:10:36 → 00:10:40 นี้แล้วเนี่ยจะกินกินแค่ไหนนะครับส่วน
00:10:40 → 00:10:42 ใหญ่จะประมาณสัก 20 มิลลิกรัมต่อวันนะ
00:10:42 → 00:10:45 ครับปัญหาของการกินเนี่ยคือไอ้ตัว ST
00:10:45 → 00:10:48 bolic หรือ SR 9009 เนี่ยนะครับค่า
00:10:48 → 00:10:51 ครึ่งชีวิตของมันสั้นมากๆเลยคือประมาณสัก
00:10:51 → 00:10:54 5 ชมหมายความว่าอะไรหมายความว่าคุณอาจจะ
00:10:54 → 00:10:58 ต้องแบ่งกินวันละ 2-3 มื้อนะครับอ่าหรือ
00:10:59 → 00:11:00 อีกแบบหนึ่งก็คือคุณไปกินทั้งหมดนัแหละ
00:11:00 → 00:11:03 แต่กินก่อนออกกำลังกายสักประมาณครึ่ง
00:11:03 → 00:11:05 ชั่วโมงนะครับเพราะว่ามีฤทธิ์สั้นๆมันก็
00:11:05 → 00:11:08 จะออกไปตามตอนที่เราออกกำลังกายก็อาจจะ
00:11:08 → 00:11:10 ได้ฤทธิ์อย่างนั้นมากกว่าในการเผาผลาญไข
00:11:10 → 00:11:15 มันนะครับข้อควรระวังนอกเหนือจากผลที่มัน
00:11:15 → 00:11:17 เกี่ยวข้องกับเรื่องของอาจจะเกิดมะเร็ง
00:11:17 → 00:11:20 แล้วเนี่ยมันยังมีส่วนในการช่วยทำให้เรา
00:11:20 → 00:11:22 นอนไม่หลับนะครับบางคนกินเข้าไปแล้วนอน
00:11:22 → 00:11:24 ไม่หลับบางคนกินแล้วมันมีรู้สึกปั่นป่วน
00:11:24 → 00:11:26 มวลท้องคลื่นแส้แจนเหมือนกันเหมือนกับ
00:11:26 → 00:11:30 กรณีของคารีนเป๊ะเลยนะครับ
00:11:30 → 00:11:34 นี่คือปัญหาของ SR 9009 นะครับแล้วถาม
00:11:34 → 00:11:37 ว่าไอ้ 2 ตัวเนี้ยมันต่างกันยังไงเออต่าง
00:11:37 → 00:11:38 เอาเรื่องของประโยชน์มันต่างกันยังไง
00:11:39 → 00:11:41 คารีนได้ประโยชน์มากกว่าหรือสบิอะไรได้
00:11:41 → 00:11:43 ประโยชน์มากกว่านะครับต้องบอกอย่างนี้
00:11:43 → 00:11:48 ครับคารีเนี่ยในแง่ของผลประโยชน์ของมันใน
00:11:48 → 00:11:51 การเผาผลาญไขมันเพิ่มเรื่องของความทนทาน
00:11:51 → 00:11:55 แล้วก็ช่วยลดการอักเสบเนี่ยคินดีกว่าดี
00:11:55 → 00:11:59 กว่าสน bolic นะครับแล้วก็คียนกินวันละ
00:11:59 → 00:12:02 ครั้งแต่สบิเนี่ยอาจจะต้องมากกว่าวันละ
00:12:02 → 00:12:04 ครั้งหรือถ้าจะกินวันละครั้งก็ต้องกิน
00:12:04 → 00:12:06 ก่อนออกกำลังกายสักครึ่งชั่วโมงนะ
00:12:06 → 00:12:09 ครับแต่ปัญหาของคีนมีมากกว่าเพราะว่า
00:12:09 → 00:12:12 ปัญหาทางด้านของมะเร็งมันชัดกว่าเยอะเลย
00:12:12 → 00:12:16 นะครับมันชัดกว่าเยอะเลยนะดังนั้นแล้ว
00:12:16 → 00:12:20 เนี่ยรู้อย่างนี้แล้วถ้าเรายอมรับความ
00:12:20 → 00:12:22 เสี่ยงได้ว่าไอ้ 2 ตัวเนี้ยมันมีโอกาส
00:12:22 → 00:12:25 เกิดมะเร็งคลอรีมีมากกว่าเบอิแล้วเราอยาก
00:12:25 → 00:12:27 จะกินมันจริง
00:12:27 → 00:12:30 ๆก็ได้ครับแต่ต้องระวังไว้ด้วยตัวเองนะ
00:12:30 → 00:12:34 ครับอย่างที่บอกคารีนถ้าจะกินนะฮะกินวัน
00:12:34 → 00:12:38 ละครั้ง 10 มกรไม่เกิน 3 เดือนถ้าเกิน
00:12:38 → 00:12:42 นั้นตัวใครตัวเขาครับเสี่ยงกันเอาเองผมก็
00:12:42 → 00:12:43 ตอบไม่ได้ว่าจะเกิดมะเร็งหรือไม่เกิด
00:12:43 → 00:12:45 มะเร็งคนไหนที่มีโอกาศเกินมะเร็งอยู่แล้ว
00:12:45 → 00:12:48 เคยเป็นมะเร็งไม่แนะนำให้กินคารีนนะครับ
00:12:48 → 00:12:50 ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะครับท่านอาจจะมีปัญหา
00:12:50 → 00:12:54 ขึ้นมาก็ได้นะครับแล้วก็อย่าไปกินเยอะ
00:12:55 → 00:12:57 กว่านั้นบางคนบอกว่าอยากจะเผาผลานไข่มัน
00:12:57 → 00:12:59 ให้เร็วๆเราจะกิน 203 30 มลกเหมือนที่
00:12:59 → 00:13:02 เอ่อเทรนเนอร์บางคนบอกแล้วได้มยตามสบาย
00:13:02 → 00:13:04 เลยครับแต่เราไม่มีข้อมูลว่ากินขนาดนั้น
00:13:04 → 00:13:06 ท่านจะเกิดมะเร็งขึ้นมาหรือเปล่าผมก็ตอบ
00:13:06 → 00:13:08 คุณไม่ได้เหมือนกันแล้วมีอะไรป้องกัน
00:13:08 → 00:13:12 มะเร็งได้มยไม่มีครับไม่มีไม่มียาอะไร
00:13:12 → 00:13:15 ป้องกันพิษออกมันได้เลยสักนิดเดียวไม่มี
00:13:15 → 00:13:27 นะครับสูตร
00:13:27 → 00:13:30 stabicraft เนี่ยของคารีนต่อก่อต่อการ
00:13:30 → 00:13:33 ก่อมะเร็งมันชัดกว่านะครับแล้วถ้าจะกิน 20
00:13:33 → 00:13:37 มกรแบ่งกินนะครับหรือจะกินวันละครั้งแต่
00:13:37 → 00:13:39 เป็นออกก่อนก่อนออกกำลังกายแล้วก็บางคน
00:13:40 → 00:13:43 ที่นอนไม่หลับนะก็อย่าไปกินตัวสบินะครับ
00:13:43 → 00:13:45 บางคนอาจจะยิ่งนอนไม่หลับมันอาจจะมีอาการ
00:13:45 → 00:13:49 เอ่อวิตกกังวลอะไรเงี้ยขี้กังวลแพนิคขึ้น
00:13:49 → 00:13:51 มาได้นะครับถ้ากินตัวสบิเพราะมันไปยุ่ง
00:13:51 → 00:13:54 กับวงจรการหลับการตื่นของเราโดยตรงนะครับ
00:13:54 → 00:13:56 แล้วไปยุ่งกับ DNA ของเราด้วยเหมือนกันนะ
00:13:56 → 00:14:00 นั่นคือปัญหานะครับดังนั้น 2 ตัวนี้เนี่ย
00:14:00 → 00:14:03 ถ้าใครจะกินแล้วไปฟังเทรนเนอร์มาว่าเ้มัน
00:14:03 → 00:14:06 ปลอดภัยคุณฟังผมก่อนนะครับแล้วผมจะเอาข้อ
00:14:06 → 00:14:09 มูลที่ผมหามาได้เนี่ยแปละให้คุณไปอเอาเอง
00:14:09 → 00:14:11 เลยนะครับเพราะไม่ฉะนั้นถ้ามันมีผลดี
00:14:11 → 00:14:13 อย่างเดียวจริงๆแล้วเนี่ยทำไมเค้าถึงไม่
00:14:13 → 00:14:17 พัฒนามันออกมาต่อเนื่องแล้วทำไมวงการการ
00:14:17 → 00:14:21 กีฬาระดับอาชีพเนี่ยเขาถึงแบนไอ้ 2 ตัว
00:14:21 → 00:14:25 เนี้ยไม่ให้มีการใช้นะครับก็มันมีข้อดี
00:14:25 → 00:14:28 มันก็มีข้อเสียถ้าคุณคิดว่าการเผาผลานไข
00:14:28 → 00:14:30 มันมันเป็นสิ่งที่สุดยอดของคุณแล้วคุณ
00:14:30 → 00:14:32 อยากจะใช้ตัวช่วยโดยที่คุณไม่สนใจว่าเฮ้ย
00:14:32 → 00:14:35 มันก่อมะเร็งได้นะหรือมันก่อมะเร็งก็เอ้ย
00:14:35 → 00:14:37 มันอาจจะนิดเดียวถ้าเรากินนิดนึงคงไม่
00:14:37 → 00:14:39 เป็นไรหรอกเราคงไม่ใช่คนโชคร้ายอันนี้ก็
00:14:39 → 00:14:42 เป็นแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนะกันนะ
00:14:42 → 00:14:44 ครับโอเควันนี้ผมเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้
00:14:44 → 00:14:49 นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ