ทำไมความไม่รักถึงทำให้คนตาบอดเหมือนกัน

ความ (ไม่) รักทำให้คนตาบอด | ศัลยกรรม...ความสุข

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:00 [เพลง]

00:00:0000:00:03 This Is tha PBS podcast View the

00:00:0300:00:06 world vi The Voice สวัสดีครับผม

00:00:0600:00:10 วีรพงษ์ทวีศักดิ์และนี่คือศัลยกรรมความ

00:00:1000:00:11 สุข

00:00:1100:00:39 [เพลง]

00:00:3900:00:43 คุณผู้ฟังครับมีคำสุภาษิตหรือคำพังเพยอัน

00:00:4300:00:46 หนึ่งที่อยู่มานานแล้วนะครับจะว่าเก่าแก่

00:00:4600:00:50 ก็ได้นะครับถ้าพูดแล้วทุกคนคงจะคุ้นหู

00:00:5000:00:52 คุ้นชินดีนะครับแล้วก็น่าจะเข้าใจความ

00:00:5200:00:55 หมายเป็นอย่างดีด้วยนะครับสุภาษิตหรือคำ

00:00:5500:00:59 พังเพยที่ว่าก็คือความรักทำให้คนตาบอดนะ

00:00:5900:01:03 ครับแต่ว่าวันนี้ผมจะไม่ได้มาชวนคุย

00:01:0300:01:06 เรื่องความรักทำให้คนตาบอดนะครับผมอยากจะ

00:01:0600:01:09 มาชวนพูดคุยแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องความ

00:01:0900:01:14 ไม่รักทำให้คนตา

00:01:1400:01:18 บอดใช่เลยครับคุณผู้ฟังเราจะคุ้นมากใช่

00:01:1800:01:21 มั้ยครับกับเรื่องของคำพูดที่ว่าความรัก

00:01:2100:01:25 ทำให้คนตาบอดผมเชื่อว่าคุณผู้ฟังส่วนใหญ่

00:01:2500:01:29 ก็จะเข้าใจทันทีใช่มั้ยครับว่าอ๋อมันน่า

00:01:2900:01:33 จะหมายหถึงว่าคนเราเนี่ยเวลาที่มีความรัก

00:01:3300:01:36 นะครับถ้าเกิดเรารักใครเนี่ยนะครับความ

00:01:3600:01:41 รักเนี่ยมันทำให้เราตาบอดก็คือเราจะตามืด

00:01:4100:01:46 บอดชั่วขณะนะครับมองมองไม่เห็นสิ่งที่

00:01:4600:01:49 เค้าทำที่ไม่ดีไม่ถูกต้องเราจะไม่เห็นเลย

00:01:4900:01:53 ครับทำอะไรคือถ้าเรารักใครเนี่ยใครทำอะไร

00:01:5300:01:56 คนๆนั้นนะเรารักใครคนๆนั้นทำอะไรนะเราก็

00:01:5600:01:58 จะเห็นดีเห็นงามไปหมดน่ะส่วนใหญ่นะครับ

00:01:5800:02:02 เค้าก็เลยเป็นที่มาของการพูดว่าความรักทำ

00:02:0200:02:06 ให้คนตาบอดนะคือตัดสินใจผิดพลาดไปหมดนะ

00:02:0600:02:10 ครับแต่ว่าวันนี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องของ

00:02:1000:02:14 ความรักทำให้คนตาบอดอย่างที่ผมได้บอกไว้

00:02:1400:02:19 แล้วก็คือผมอยากจะมาชวนคุยว่าความไม่รัก

00:02:1900:02:23 นั่นแหละทำให้คนตาบอดด้วยเหมือนกันนะครับ

00:02:2300:02:26 ยังไงครับก็จริงๆแล้วคุณผู้ฟังเชื่อมครับ

00:02:2600:02:30 ว่ามันก็คือรูปแบบเดียวกับความรักทำให้คน

00:02:3000:02:33 ตาบอดนั่นแหละความไม่รักก็ทำให้คนตาบอด

00:02:3300:02:38 เหมือนกันครับคือความรักทำให้เราตาบอดมอง

00:02:3800:02:44 ไม่เห็นสิ่งไม่ดีที่เขาทำคือเรารักใครชอบ

00:02:4400:02:49 ใครนะครับเค้าทำไม่ดียังไงเค้าจะแย่ขนาด

00:02:4900:02:52 ไหนเา้าจะผลิดจะพลาดยังไงนี่เราไม่เห็น

00:02:5200:02:54 เลยนะครับพอเรารักเค้าซะแล้วนี่เราไม่

00:02:5400:02:57 เห็นเลยครับข้ามมองข้ามไปหมดเลยโอเคได้

00:02:5700:03:00 ยอมรับได้ทุกเรื่องนะครับในในทางเดียวกัน

00:03:0000:03:04 นะครับความไม่รักก็ทำให้เราตาบอดเพราะ

00:03:0400:03:07 เวลาที่เราไม่ชอบใครไม่รักใครนะครับคุณ

00:03:0700:03:11 ผู้ฟังเค้าทำอะไรดีเราก็ไม่เห็นนะครับก็

00:03:1100:03:14 คือความรักทำให้เราตาบอดมองไม่เห็นสิ่ง

00:03:1400:03:18 ไม่ดีแต่ความไม่รักเนี่ยก็ทำให้เราตาบอด

00:03:1800:03:23 ครับทำให้เรามองไม่เห็นสิ่งดีๆที่เขามี

00:03:2300:03:27 สิ่งดีๆที่เขาทำเรากลับมองไม่เห็นเหมือน

00:03:2700:03:30 กันเพราะอะไรเพราะว่าเราไม่รักเขาครับเรา

00:03:3000:03:33 ไม่รักเราไม่ชอบเราเกลียดคนเนี้ยครับไม่

00:03:3400:03:37 ว่าจะทำดีแค่ไหนเราก็ทำทำไม่รู้ไม่ชี้มอง

00:03:3700:03:39 ไม่เห็นไปซะอย่างงั้นน่ะมองข้ามความดีไป

00:03:3900:03:42 หมดเลยเพราะฉะนั้นคุณผู้ฟังครับผมนึกถึง

00:03:4200:03:44 เรื่องนี้เพราะอะไรรู้มั้ยครับเพราะว่าผม

00:03:4400:03:48 เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมเนี่ยมีอยู่

00:03:4800:03:53 ครั้งนึงครับผมเคยไปชมละครเวทีเป็นการ

00:03:5300:03:57 แสดงละครเวทีเพื่อที่จะเสียดสีจะเรียกว่า

00:03:5700:04:00 เสียดเสียดสีสังคมหรือเปล่าประมาณนั้นนะ

00:04:0000:04:03 ครับเป็นการแสดงละครเวทีเพื่อจะเสเสียดสี

00:04:0300:04:06 สังคมในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็คือว่าใน

00:04:0600:04:10 สังคมเนี่ยมันก็จะมีคนอยู่ 2 ฝ่ายฝ่ายนึง

00:04:1000:04:15 ก็จะเอ่อเชียร์ฝ่ายของตัวเองอีกฟากนึงก็

00:04:1500:04:17 จะเชียร์ฟากของตัวเองแล้วมันทำให้เกิดการ

00:04:1700:04:20 เผชิญหน้ากันของ 2 ฝ่ายนะครับต่างคนต่าง

00:04:2000:04:24 เผชิญหน้ากันแล้วก็ไม่คือขัดแย้งกันตลอด

00:04:2400:04:27 เวลานะครับแล้วเขาก็ทำละครเวทีขึ้นมา

00:04:2700:04:30 เพื่อเสียดสีสังคมในเรื่องนี้นี่แหละนะฮะ

00:04:3000:04:33 ในระหว่างนั้นเนี่ยที่เขามีการแสดงละคร

00:04:3300:04:37 เวทีกันเนี่ยเค้าก็จินตนาการว่าไอ้ 2

00:04:3700:04:41 ฝ่ายที่มันเห็นตรงกันข้ามกันเนี่ยมันมา

00:04:4100:04:45 จากคนละดาวครับคนนึงก็มาจากดาวดวงนึงอีก

00:04:4500:04:48 คนนึงก็มาจากดาวอีกดวงนึงเพราะฉะนั้น 2

00:04:4800:04:52 ฝ่ายเนี่ยคนที่มาจากดาวคนละดวงเนี่ยมันจะ

00:04:5200:04:55 คิดไม่เหมือนกันเห็นไม่เหมือนกันแล้วมัน

00:04:5500:04:59 ก็เกิดการขัดแย้งกันแล้วก็ทะเลาะกันตลอด

00:04:5900:05:02 เวลานะครับหลังจากที่เขาแสดงละครเรื่อง

00:05:0200:05:04 ความขัดแย้งของ 2 กลุ่มนี้เนี่ยนะครับคุณ

00:05:0400:05:07 ผู้ฟังเขาก็ให้ผู้ชมอ่ะมีส่วนร่วมด้วยการ

00:05:0700:05:11 ถามคำถามว่าเนี่ยเอาา 2 ฟากที่ต้องเผชิญ

00:05:1100:05:13 หน้ากันมาทะเลาะกันบนเวทีเนี่ยแล้วให้ผู้

00:05:1300:05:17 ชมถามถามผู้ชมว่าเห็นด้วยกับฝ่ายไหนนะ

00:05:1700:05:22 ครับแล้วก็อยากจะถามคำถามอะไรมยประมาณนี้

00:05:2200:05:26 นะครับซึ่งผมเห็นกิจกรรมแบบนั้นแล้วผมก็

00:05:2600:05:28 คิดว่าเ้ยกิจกรรมนี้ดีนะครับเนี่ยเพราะ

00:05:2900:05:30 ว่า

00:05:3000:05:35 การที่ให้คน 2 ฝ่ายที่อยู่ฟากตรงข้ามอ่ะ

00:05:3500:05:38 ที่ไม่ชอบกันที่เกลียดกันเนี่ยได้มาเจอ

00:05:3800:05:42 หน้ากันเนี่ยแล้วก็มาพูดคุยกันเนี่ยมัน

00:05:4200:05:45 น่าจะทำให้มันเกิดความเข้าใจกันมากขึ้น

00:05:4500:05:48 เพียงอันนั้นแนวความคิดที่ผมมีแต่แรกแต่

00:05:4800:05:53 พอผมดูดูกิจกรรมไปเรื่อยๆแล้วบอกเอ๊น่า

00:05:5300:05:55 สังเกตที่

00:05:5500:05:59 ทำไมการพูดคุยกันในเวทีหรือว่าการเสนอ

00:05:5900:06:03 ความเห็นของผู้ชมที่โยนเข้าไปในบนเวที

00:06:0300:06:07 เนี่ยทำไมมันกลับทำให้ความเห็นที่มันต่าง

00:06:0700:06:11 กันเนี่ยมันมากขึ้นความเกลียดชังจะมีมาก

00:06:1100:06:15 ขึ้นผมสังเกตแล้วผมก็ประหลาดใจว่าในที่

00:06:1500:06:20 สุดผมพบว่าอ๋อเป็นเพราะว่ากิจกรรมในวัน

00:06:2000:06:23 นั้นเนี่ยแล้วก็คำถามที่เขาตั้งเนี่ยเป็น

00:06:2300:06:28 คำถามที่ตอกย้ำความแตกแยกแล้วก็เป็นคำถาม

00:06:2800:06:32 ที่ตอกย้ำความแตกต่างวินาทีนั้นผมก็เกิด

00:06:3200:06:36 ความคิดขึ้นมาว่าเอ๊ะแล้วคำถามที่มันจะทำ

00:06:3600:06:41 ให้เชื่อมความสัมพันธ์คำถามที่จะทำให้

00:06:4100:06:44 ความแตกแยกเนี่ยมันน้อยลงหรือความแตกต่าง

00:06:4400:06:49 เนี่ยมันน้อยลงมีมคำถามแบบนั้นมีมระหว่าง

00:06:4900:06:52 ที่คิดนั้นผมก็เกิดเกิดความคิดขึ้นมาว่า

00:06:5200:06:57 เออน่าลองนะถ้าเราถามคำถามถ้ามันมีวิธีใน

00:06:5700:07:00 การถามคำถามที่ทำให้สถานการณ์ขึ้นน่ะมัน

00:07:0000:07:03 น่าจะเป็นยังไงแล้วพอดีระหว่างที่กำลัง

00:07:0300:07:06 คิดอยู่อย่างงั้นนะครับบนเวทีเบอกอ้าวมี

00:07:0600:07:10 ผู้ชมท่านไหนที่อยากจะแสดงความเห็นหรือ

00:07:1000:07:14 อยากจะถามคำถามมยนะครับผมก็เลยเกิด

00:07:1400:07:17 จินตนาการแล้วอยากทดลองครับก็เลยยกมือ

00:07:1700:07:21 ครับบอกมีครับผมมีคำถามครับเออคำถามที่ผม

00:07:2100:07:26 ถามก็คือคนที่มาจากดาวคนละดวงนะครับข้อดี

00:07:2600:07:30 แล้วก็ข้อเสียครับของคนที่มาจากคนละดวง

00:07:3000:07:35 เนี่ยแต่เพียงแต่ว่าผมแค่สลับคำถามครับผม

00:07:3500:07:40 ถามดาวดวงนึงว่าคนที่มาจากดาวอีกคนละดวง

00:07:4000:07:45 เนี่ยคนฟากตรงข้ามคุณน่ะพูดง่ายๆคุณคิด

00:07:4500:07:49 ว่าเค้ามีข้อดีอะไรบ้าง

00:07:4900:07:52 ไหมคือผมไม่ถามข้อเสียหรือข้อแตกต่างแต่

00:07:5300:07:56 ผมถามว่าถามถึงข้อดีของคนที่อยู่ตรงข้าม

00:07:5600:08:01 คุณน่ะคุณคิดว่าเคมีข้อดีอะไรมั้แล้วผมก็

00:08:0100:08:04 ถามคำถามนี้กับอีกฟากนึงด้วยนะครับว่าคน

00:08:0400:08:08 ที่นั่งตรงข้ามคุณเนี่ยคุณคิดว่าเค้ามี

00:08:0800:08:11 ข้อดีอะไรมหรือมีสักเรื่องนึงมที่คุณคิด

00:08:1100:08:16 ว่าเออดีมันพอรับได้อะไรอย่างเงี้ยมี

00:08:1600:08:20 มั้ยคุณผู้ฟังเชื่อมยครับว่าพอผมโยนคำถาม

00:08:2000:08:21 นี้ไป

00:08:2100:08:25 เนี่ยมันเหมือนกับเป็นสัญญาณที่จะบอกว่า

00:08:2500:08:28 ถ้าเกิดเขาตอบได้นะครับมันจะเป็นสัญญาณ

00:08:2800:08:33 ที่มันจะทำให้เาสามารถที่จะลดความขัดแย้ง

00:08:3300:08:39 ลงได้แต่ปรากฏว่าเวทีนั้นเป็นเวทีที่เขา

00:08:3900:08:43 จัดมาเพื่อตอย้ำความขัดแย้งครับเไม่

00:08:4300:08:47 ต้องการการสมานชัยไเค้าก็เลยมองหน้ากลับ

00:08:4700:08:50 มาที่ผมซึ่งเป็นคนถามคำถามประมาณว่าคนนี้

00:08:5100:08:54 มาจากไหนอ่ะนะฮะเพราะว่าคำถามเค้าเนี่ย

00:08:5400:08:57 มันจะทำให้เวทีที่เค้าต้องการตอกย้ำความ

00:08:5700:09:00 ขัดแย้งเนี่ยคำถามแบบนั้นมันจะทำให้เวที

00:09:0000:09:03 นั้นเดินต่อไม่ได้ครับเพราะว่าถ้าเกิดเ

00:09:0300:09:07 ตอบคำถามได้เนี่ยมันจะเกิดการสมานฉันครับ

00:09:0700:09:10 แล้วมันจะเกิดความเข้าใจเค้าก็เลยไม่มี

00:09:1100:09:15 การตอบใดๆนะแล้วพิธีกรที่โยมคำถามมาหรือ

00:09:1600:09:19 ดำเนินการต่อก็ไม่เอาประเด็นนี้ไปสานต่อ

00:09:1900:09:24 ใดๆครับปล่อยให้มันจางหายไปในเวทีนั่น

00:09:2400:09:27 แหละนะแล้วก็ไปเน้นที่ความขัดแย้งเหมือน

00:09:2700:09:32 เดิมคุณวังเห็นมั้ยครับว่าคำพูดที่บอกว่า

00:09:3200:09:36 ความรักทำให้คนตาบอดเนี่ยความไม่รักก็ทำ

00:09:3600:09:39 ให้คนตาบอดเหมือนกันครับเพียงแต่ว่ามัน

00:09:4000:09:44 เป็นประเด็นที่ตรงกันข้ามกันความรักทำให้

00:09:4400:09:48 เราไม่เห็นข้อเสียครับไม่ว่าเค้าทำอะไร

00:09:4800:09:52 ถ้าเรารักเค้าซะแล้วเราจะเห็นแต่ข้อดี

00:09:5200:09:56 ความไม่รักก็ส่งผลเหมือนกันแต่ตรงกันข้าม

00:09:5600:10:00 คือความไม่รักทำให้เราไม่เห็นข้อดีเขาเลย

00:10:0000:10:04 ครับไม่ว่าเขาจะทำดีแค่ไหนเราจะไม่เห็น

00:10:0400:10:07 เลยแต่เราจะเห็นแต่ข้อเสียเพราะ

00:10:0700:10:11 ฉะนั้นทั้ง 2 กรณีครับคุณผู้ฟังมันเป็น

00:10:1100:10:16 กรณีที่เราต้องระมัดระวังอย่างยิ่งแล้ว

00:10:1600:10:21 เราจะต้องฝึกฝึกยังไงครับฝึกที่จะทำยังไง

00:10:2100:10:24 ก็ตามเราหลุดพ้นจากอคติของความรักและก็

00:10:2500:10:28 ความไม่รักอ่ะเราจะต้องหลุดพ้นจากอคติ

00:10:2800:10:31 หรือหรือสิ่งที่บังตานี้ให้ได้เหมือนกับ

00:10:3100:10:35 ต้องไปลอกต้อออกนะฮะเวลาที่เราตาเราถ้า

00:10:3500:10:38 มองไม่ชัดนี่ถ้ามันมีต้อมันจะมองไม่ชัด

00:10:3800:10:41 ใช่มั้ครับวิธีที่จะทำให้เรากลับมาเห็น

00:10:4100:10:44 อะไรบางอย่างชัดเจนสดใสเหมือนเดิมอ่ะก็

00:10:4400:10:48 ต้องไปลอกต้อออกใช่มั้ยฮะเพราะฉะนั้นสาย

00:10:4800:10:50 ตาที่ถ้าเราอยากจะเป็นคนที่มองอย่างเป็น

00:10:5000:10:54 กลางแบบตามความเป็นจริงนะครับถ้าเรากำลัง

00:10:5400:10:57 มีความรักเราก็ต้องไปลอกต้อไอ้ความรักนี่

00:10:5700:11:02 ออกนะแต่ถ้าเกิดเรามีความไม่รักเรามีความ

00:11:0200:11:05 เกลียดชังใครเนี่ยเราก็ต้องไปลอกต้อไอ้

00:11:0500:11:08 ความเกลียดชังความไม่รักนี้ออกพอเราลอก

00:11:0800:11:12 ฟิล์มบางๆที่เคลือบอยู่นี้ออกเนี่ยเราถึง

00:11:1200:11:16 จะเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงแบบที่มัน

00:11:1600:11:20 เป็นจริงๆแล้วเราถึงจะหลุดรอดจาก

00:11:2000:11:23 สถานการณ์นี้ที่ว่าความรักแล้วก็ความไม่

00:11:2300:11:27 รักทำให้เราตาบอทั้งคู่อนะมันจะทำให้เรา

00:11:2700:11:32 ดวงตาเราเนี่ยสดใสกลับมามองทุกอย่างแบบ

00:11:3200:11:36 ที่มันเป็นจริงจริงๆแล้วหลังจากนั้นเนี่ย

00:11:3600:11:39 ผมเชื่อว่ามันจะทำให้ชีวิตเราเนี่ยไม่บิด

00:11:3900:11:43 เบี้ยวผิดเพี้ยนนะครับถูกก็ว่าไปตามถูก

00:11:4300:11:47 ผิดก็ว่าไปตามผิดไม่ว่าคนๆนั้นเป็นใครถ้า

00:11:4700:11:50 เราทำแบบนี้ได้นะครับคุณผู้ฟังชีวิตเรา

00:11:5000:11:55 เนี่ยจะสดใสมากแล้วเราก็จะไม่บิดเบี้ยผิด

00:11:5500:11:58 เพี้ยนเราจะไม่ขุ่นมัวเลยนะครับคุณผู้ฟัง

00:11:5800:12:00 ครับเดี๋ยวเราลองมาดูดูซิว่าว่าด้วย

00:12:0000:12:04 เรื่องของอคติหรือสิ่งที่มาบังตาเรามัน

00:12:0400:12:07 ยังมีอะไรอีกแล้วเราสามารถที่จะจัดการ

00:12:0700:12:10 อะไรกับมันได้บ้างเดี๋ยวเราพักสักครู่

00:12:1000:12:18 แล้วเรามาพบกันช่วงที่ 2

00:12:1800:12:20 [เพลง]

00:12:2000:12:24 ครับ About to

00:12:2400:12:28 leave come

00:12:2800:12:31 [เพลง]

00:12:3100:12:33 to a Place

00:12:3300:12:37 [เพลง]

00:12:3700:12:41 We About to see the world in

00:12:4100:12:44 Action what we can

00:12:4400:12:46 be

00:12:4600:12:49 distractions get away This Is what

00:12:4900:12:50 we waited

00:12:5000:12:54 [เพลง]

00:12:5400:12:59 for take my Hand Make It

00:12:5900:13:03 We Can't Miss

00:13:0300:13:05 Out

00:13:0500:13:07 I'm with

00:13:0700:13:10 the with

00:13:1000:13:17 my Be Free with mee

00:13:1700:13:27 [เพลง]

00:13:3200:13:37 Back E on the

00:13:3700:13:39 fre

00:13:3900:13:41 CL on

00:13:4100:13:42 the is

00:13:4200:13:44 What

00:13:4400:13:47 [เพลง]

00:13:4700:13:51 For Take Hand

00:13:5100:13:56 Make We

00:13:5600:14:05 [เพลง]

00:14:0500:14:11 Free with

00:14:1100:14:21 [เพลง]

00:14:4000:14:46 Be Free with

00:14:4600:14:48 me let

00:14:4800:14:50 go

00:14:5000:14:53 Free with

00:14:5300:14:58 me Oh Come On Let's go let Be

00:14:5800:15:02 Free

00:15:0200:15:14 [เพลง]

00:15:1400:15:17 คุณผู้ฟังครับช่วงที่ 2 ของศัลยกรรมความ

00:15:1700:15:21 สุขนะครับตอนนี้เป็นชื่อตอนที่มีชื่อว่า

00:15:2100:15:25 ความไม่รักทำให้คนตาบอดนะครับก็อย่างที่

00:15:2500:15:27 ผมได้บอกไปแล้วนะครับว่าจริงๆแล้วทั้ง 2

00:15:2700:15:30 อย่างครับทั้งความรักและความไม่รักมันทำ

00:15:3000:15:33 ให้คนตาบอดทั้งคู่แหละนะเพียงแต่ว่าบอด

00:15:3300:15:37 บอดกับอะไรมองไม่เห็นอะไรนะครับรักก็จะ

00:15:3700:15:40 มองเห็นแต่เรื่องดีๆอะไรไม่ดีมองไม่เห็น

00:15:4000:15:44 ข้ามไปหมดความไม่รักก็ทำให้เห็นแต่สิ่ง

00:15:4400:15:48 ที่ไม่ดีครับอะไรดีๆมองข้ามไปหมดซึ่งมัน

00:15:4800:15:52 เป็นลักษณะที่ใกล้เคียงกันเพียงแต่ว่าตรง

00:15:5200:15:55 กันข้ามเรื่องกันนะครับคือเรื่องดีกับ

00:15:5500:15:58 เรื่องไม่ดีแล้วมันส่งผลยังไงครับคุณผู้

00:15:5800:16:01 ฟังเรามาดูีอีกทีนึงก็คือว่าดูเหมือนว่า

00:16:0100:16:05 คนที่ถูกปฏิบัติแบบนี้เนี่ยสมมุติว่าเรา

00:16:0500:16:09 รักใครคนๆนั้นทำอะไรไม่ดีเนี่ยเราก็ไม่

00:16:0900:16:12 เห็นเนี่ยเราจะเห็นแต่เรื่องดีๆเนี่ยถาม

00:16:1200:16:17 ว่าสิ่งนี้มันส่งผลดีต่อคนคนนั้นหรือไม่

00:16:1700:16:21 เอาเข้าจริงๆแล้วเนี่ยครับคุณผู้ฟังดู

00:16:2100:16:24 เหมือนว่าจะเป็นผลดีนะที่เขาได้รับความ

00:16:2400:16:27 รักจากเราเราก็เลยไม่ตำหนิเขาไม่เห็นข้อ

00:16:2700:16:29 เสียเขาดูเหมือนจะเป็นผลดีดีแต่จริงๆแล้ว

00:16:2900:16:33 ไม่ใช่ผลดีนะครับอันเนี้ยกลายเป็นสิ่งที่

00:16:3300:16:36 ส่งผลร้ายอย่างมหาศาลเลยครับคุณผู้ฟัง

00:16:3600:16:38 เชื่อมยครับว่าสิ่งนึงที่ผมเห็นในสังคม

00:16:3800:16:41 ปัจจุบันนี้เยอะมากเลยนะครับก็คือเวลาที่

00:16:4200:16:45 พ่อแม่เนี่ยมีลูกเล็กๆนะครับแน่นอนเลย

00:16:4500:16:48 ครับพ่อแม่โดยทั่วไปธรรมชาติเนี่ยเห็นลูก

00:16:4900:16:51 ตัวเองก็จะรู้สึกว่าลูกตัวเองน่ะน่ารักไป

00:16:5100:16:54 หมดนะครับลูกตัวเองทำอะไรก็ดีไปหมดนะ

00:16:5400:16:59 โอ้โหชื่นชมนะฮะไม่ว่าจะทำอะไรลูกเราถูก

00:16:5900:17:02 ถูกเสมอนะถ้าไปมีกรณีขัดแย้งมีประเด็นกับ

00:17:0200:17:05 ใครอะไรยังไงลูกเราถูกเสมออันนี้เป็นพ่อ

00:17:0500:17:08 แม่ที่เห็นได้โดยทั่วไปนะครับถึงแม้เรา

00:17:0800:17:11 อาจจะบอกว่าเอ่อไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือว่า

00:17:1100:17:13 เราบอกว่าไม่จริงฉันไม่ได้เป็นอย่างงั้น

00:17:1300:17:16 อะไรก็ตามทีนะครับลองสังเกตดีๆส่วนใหญ่

00:17:1600:17:19 ที่เราเห็นในสังคมก็จะเป็นแบบนี้การที่

00:17:1900:17:23 ลูกเราเราก็รักนี่เป็นเรื่องปกติแต่ว่าพอ

00:17:2300:17:27 ลูกเราทำอะไรไม่ว่าจะยังไงก็ตามถูกเสมอ

00:17:2700:17:31 เนี่ยดูเหมือนจะเป็นผลดีแต่จริงๆเพราะว่า

00:17:3100:17:33 เขาได้รับความรักใช่มั้ยครับแต่ในความ

00:17:3300:17:36 เป็นจริงแล้วสิ่งนี้เนี่ยส่งผลเสียอย่าง

00:17:3600:17:39 มหาศาลเลยนะครับเพราะว่าจากปรากฏที่เรา

00:17:3900:17:42 จากปรากฏการณ์ที่เราเห็นก็คือเด็กเหล่า

00:17:4200:17:48 นั้นเนี่ยมันทำให้เขาเติบโตมาในสภาวะที่

00:17:4800:17:50 เขาไม่ได้รับรู้เลยนะครับว่าจริงๆแล้ว

00:17:5000:17:53 สิ่งที่เขาทำนั้นน่ะมันไม่ถูกต้องตามหลัก

00:17:5300:17:58 เกณฑ์ของสากลหรือในของสังคมปกติเคไม่รู้

00:17:5800:18:01 นะครับครับแล้วเค้าก็จะคิดว่าเค้าทำแบบ

00:18:0100:18:06 นี้ได้เคทำสิ่งนี้ได้นะครับผมเคยเห็นเด็ก

00:18:0600:18:09 บางคนนะครับคุณผู้ฟังที่ในที่สาธารณะ

00:18:0900:18:14 เนี่ยแล้วเค้าก็เล่นกับพ่อแม่เค้าเนี่ย

00:18:1400:18:17 อย่างรุนแรงคือ

00:18:1700:18:22 ปีนคือจริงๆก็เล่นได้นะปีนเข้าไปทุบหัว

00:18:2200:18:25 หรืออะไรก็ตามทีเนี่ยแล้วพ่อแม่ก็จะ

00:18:2500:18:29 หัวเราะชื่นชมเด็กก็ไม่รู้นะครับว่าแบบ

00:18:2900:18:34 นั้นทำกับคนอื่นไม่ได้แต่ว่าพ่อแม่บอกทำ

00:18:3400:18:37 ได้ก็ลูกเราใช่มั้ยแล้วหลังจากนั้นเด็กคน

00:18:3700:18:40 นี้ก็ไปเล่นแบบนี้

00:18:4000:18:44 นะกับคนอื่นกับเพื่อนคนอื่นพอไปแสดงแบบ

00:18:4400:18:47 นี้กับคนอื่นปุ๊บแบบนั้นเนี่ยกลายเป็น

00:18:4700:18:52 ความไม่มีมารยาทกลายเป็นความก้าวร้าวทัน

00:18:5200:18:54 ทีคุณผู้ฟังเห็นมั้ยครับเรื่องนี้เป็น

00:18:5400:18:58 เรื่องที่เราเห็นบ่อยๆในสังคมเพราะฉะนั้น

00:18:5800:19:01 ที่เราต้องต้องระมัดระวังก็คือไอ้ความรัก

00:19:0100:19:05 หรือความไม่รักเนี่ยมันทำให้เราเนี่ยบิด

00:19:0500:19:07 เบี้ยวผิดเพี้ยนกับคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว

00:19:0700:19:10 ข้อหนึแล้วข้อที่ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น

00:19:1000:19:13 ไปอีกเพราะอะไรเพราะว่าความบิดเบี้ยวผิด

00:19:1300:19:16 เพี้ยนนั้นไม่ว่าจะรักหรือไม่รักดีไม่ดี

00:19:1600:19:20 ชอบไม่ชอบเนี่ยความบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนนี้

00:19:2000:19:25 มันจะส่งผลกระทบต่อคนๆนั้นเสมอไม่ว่าจะ

00:19:2500:19:28 รักหรือไม่รักคือถ้าเราไม่รักใครสักคนนึง

00:19:2800:19:32 แล้วเราก็เห็นแต่เรื่องไม่ดีของเค้า

00:19:3200:19:34 เรื่องดีเราไม่เห็นเนี่ยมันก็ทำให้เราไม่

00:19:3400:19:38 ยุติธรรมกับเาเคก็ได้รับความอยุติธรรมใช่

00:19:3800:19:42 มั้ยฮะแต่คนที่เรารักเราก็บิดเบี้ยวผิด

00:19:4200:19:46 เพี้ยนก็ต้องนับว่ามันก็ไม่ยุติธรรมกับ

00:19:4600:19:50 เขาเหมือนกันเพราะอะไรเพราะเค้าไม่รู้ตัว

00:19:5000:19:55 ครับว่าเคทำแบบนั้นกับคนอื่นไม่ได้นะเค้า

00:19:5500:19:59 ทำแบบนี้เค้ามีกิริยาแบบนี้ในที่สาธารณะ

00:19:5900:20:05 ไม่ได้เาทำแบบนี้กับผู้ใหญ่คนอื่นไม่ได้

00:20:0500:20:09 แล้วเราเห็นมาจนนับครั้งไม่ท้วดแล้วใน

00:20:0900:20:12 สื่อในโซเชียลมีเดียหรือ

00:20:1200:20:16 ว่าในข่าวต่างๆคุณผู้ฟังเคยสังเกตมั้ย

00:20:1600:20:21 ครับว่าทุกครั้งเวลาที่มีข่าวใหญ่ๆนะครับ

00:20:2100:20:26 ไม่ว่าจะเป็นข่าวใหญ่ขนาดไหนนะคนๆนึงที่

00:20:2600:20:31 ทำความผิดในเรื่องใหญ่โตด้วยนะครับเป็น

00:20:3100:20:35 ฆาตกรไปฆ่าใครหรือไปสร้างความรุนแรงกับ

00:20:3500:20:39 ใครเนี่ยแล้วเวลาที่เป็นคดีความเรื่องยาว

00:20:3900:20:43 ใหญ่โตเนี่ยพ่อแม่หรือแม้กระทั่งปู่ย่าตา

00:20:4300:20:47 ยายก็จะมักจะออกมาให้ข่าวแบบนี้เสมอว่า

00:20:4700:20:51 ไม่จริงลูกฉันหลานฉันเป็นคนดีนะฮะไม่ไม่

00:20:5100:20:57 เคยโกรธใครไม่เคยคือจะเป็นอย่างนี้เสมอ

00:20:5700:21:00 แล้วคำถามก็คือว่าการที่ใครสักคนนึงหรือ

00:21:0000:21:03 เด็กสักคนนึงจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนแบบไหน

00:21:0300:21:07 เนี่ยอยู่ๆไม่ใช่วันนึงมาถึงวันนึงแล้วก็

00:21:0700:21:10 เปลี่ยนเป็นแบบนี้เลยนะครับทุกอย่างนั้น

00:21:1000:21:14 เนี่ยจะต้องผ่านการสั่งสมแล้วก็ค่อยๆ

00:21:1500:21:19 พัฒนาค่อยๆเรียนรู้ค่อยๆพัฒนามาเรื่อยๆ

00:21:1900:21:22 อย่างต่อเนื่องด้วยนะครับจนกระทั่งเป็น

00:21:2200:21:25 แบบนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวแล้วนะตอนนั้นไม่

00:21:2500:21:29 รู้ตัวแล้วแว่าเจะเป็นยังไงเนี่ยแต่ละคน

00:21:2900:21:32 นะครับคุณผู้ฟังเวลาที่มีใครสักคนหนึ่ง

00:21:3200:21:36 ก่อเหตุสะเทือนใจรุนแรงในบ้านเมืองในโลก

00:21:3600:21:39 นี้ก็ตามทีเนี่ยพอสืบค้นไปจะพบว่า

00:21:3900:21:43 พฤติกรรมเหล่านั้นมีที่มาเสมอไม่ว่าจะใน

00:21:4300:21:48 ระดับตั้งแต่การเลี้ยงดูของพ่อแม่หรือการ

00:21:4800:21:51 อบรมเลี้ยงดูในโรงเรียนตั้งแต่ตอนที่เขา

00:21:5100:21:54 เป็นเด็กเหล่านั้นเนี่ยล้วนแต่ส่งเสริม

00:21:5400:21:58 ให้เขามาถึงจุดนี้มาถึงวันนี้ทั้งทั้ง

00:21:5800:22:02 สิ้นนะครับแล้วทั้งหมดเนี้ยก็มาจากนี้เลย

00:22:0200:22:07 นะครับคุณผู้ฟังมาจากอคติบางตาของคนรอบ

00:22:0700:22:12 ข้างใกล้ชิดที่มีหน้าที่ในการดูแลรับผิด

00:22:1200:22:15 ชอบในการอบรมเลี้ยงดูดูแลคนๆนึงขึ้นมาก็

00:22:1500:22:18 คือความรักกับความไม่รักนี่แหละนะทำให้

00:22:1800:22:22 เราตาบอดเราไม่เห็นพอเราไม่เห็นก็มา

00:22:2200:22:25 ยุติธรรมกับเขาแล้วเป็นตัวส่งเสริมให้เขา

00:22:2500:22:29 เป็นแบบนั้นในเวลาต่อมา

00:22:2900:22:31 มีอยู่ครั้งนึงครับคุณผู้ฟังผมได้ยินคำ

00:22:3100:22:37 พูดคำนึงจากคนๆนึงนะฮะพอผมได้ยินนี่ผม

00:22:3700:22:40 อยู่ในอาการตกใจมากๆเลยนะก็คือในระหว่าง

00:22:4000:22:45 ที่แม่คนนึงเนี่ยกำลังพาลูกไปเดินเล่น

00:22:4500:22:50 อยู่ในสวนสาธารณะนะซึ่งก็มีพ่อแม่คนอื่น

00:22:5000:22:54 พาลูกๆเล็กๆไปวิ่งเล่นในสวนสาธารณะด้วย

00:22:5400:22:57 เช่นเดียวกันในระหว่างนั้นพ่อแม่ก็เดินดู

00:22:5700:23:01 เล่นไปไปดูลูกไปนะครับเล่นกับลูกบ้างหัน

00:23:0100:23:03 ไปนู่นนี่นั่นบ้างในระหว่างนั้นเด็กๆก็

00:23:0300:23:07 เล่นกับพ่อแม่ตัวเองบ้างเล่นกับเด็กคน

00:23:0700:23:09 อื่นบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้น

00:23:0900:23:12 ในสวนสาธารณะใช่มั้ยครับในระหว่างนั้นก็

00:23:1200:23:16 มีเด็กคนนึงครับคุณผู้ฟังไปเล่นรุนแรงกับ

00:23:1600:23:20 เด็กคนอื่นนะไปเล่นรุนแรงมีพฤติกรรมแบบ

00:23:2000:23:25 รุนแรงเลยครับพอแล้วเขาเป็นเด็กโตกว่า

00:23:2500:23:28 เด็กที่เา้าไปก่อความรุนแรงด้วยแม่ของ

00:23:2800:23:32 เด็กเล็กเนี่ยซึ่งอยู่ตรงนั้นเนี่ยครับก็

00:23:3200:23:35 เลยปกป้องลูกตัวเองแล้วการปกป้องลูกตัว

00:23:3500:23:38 เองเนี่ยก็เผอิญมันก็อยู่ในอาการเหมือน

00:23:3800:23:43 กับจะไปไปห้ามปรามเด็กโตอ่ะครับซึ่งกำลัง

00:23:4300:23:46 ก่อความรุนแรงกับลูกตัวเองเหมือนไปห้าม

00:23:4600:23:48 ปรามแต่ว่ามองจากอีกฟากนึงก็เหมือนกับจะ

00:23:4800:23:53 ไปตักเตือนหรือว่าถ้าคนมองก็อาจจะบอกว่า

00:23:5300:23:58 ไปตีไปทำร้ายลูกเ้าก็ได้นะครับีพอแม่ของ

00:23:5800:24:01 เด็กโตซึ่งไปทำร้ายเด็กเล็กเนี่ยเห็นเข้า

00:24:0100:24:03 เนี่ยนะครับ

00:24:0300:24:07 ออหผมสังเกตพิธีการผมสังเกตเหตุการณ์อยู่

00:24:0700:24:10 ผมสังเกตเห็นเลยว่าโอ้โหแม่ของเด็กโต

00:24:1000:24:14 เนี่ยโกรธมากแล้วยอมไม่ได้เลยนะครับเพราะ

00:24:1400:24:17 เวลาที่เขาหันมาเห็นเนี่ยเขาไม่ได้เห็น

00:24:1700:24:20 ตอนที่ลูกเขาไปทำร้ายเด็กเล็กแต่เวลาที่

00:24:2000:24:24 เขาหันมาเห็นเมาเห็นตอนที่ลูกเ้าอ่ะโดน

00:24:2400:24:28 แม่ของเด็กเล็กเนี่ยกำลังห้ามปรามซึ่งเม

00:24:2800:24:31 มองว่าเหมือนกับเป็นการทำร้ายลูกเขาเท่า

00:24:3100:24:35 นั้นแครับคุณผู้ฟังเกิดการถกเถียงโต้แย้ง

00:24:3500:24:38 กันอย่างรุนแรงในสวนสาธารณะนั้นเลยนะครับ

00:24:3800:24:43 คำพูดคำพูดหนึ่งของแม่ของเด็กโตนะครับที่

00:24:4300:24:46 ไปทำร้ายเด็กเล็กเนี่ยเพูดออกมาบอกว่ามา

00:24:4700:24:50 ทำมาทำร้ายลูกเ้าได้ยังไงนะครับแล้วเขพูด

00:24:5000:24:54 มาบอกว่าฉันเนี่ยนะยอมเห็นลูกเป็นโจรดี

00:24:5400:24:58 กว่าเห็นลูกโดนคนอื่นทำร้ายครับอูพราะผม

00:24:5800:25:00 ได้ยินคำนั้นนี้ผมตกใจมากแต่ผมก็ไม่รู้

00:25:0000:25:03 ว่าคำพูดนี้ออกมาจากปากของแม่คนนั้นได้

00:25:0300:25:07 ยังไงนะครับไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพูด

00:25:0700:25:10 ไปเพราะความโกรธเพราะความโมโหเพราะความ

00:25:1000:25:12 ไม่ได้ยั้งคิดหรือเปล่าหรืออะไรก็ไม่รู้

00:25:1200:25:15 นะครับแต่ผมได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของ

00:25:1500:25:19 แม่คนหนึ่งจริงๆที่เป็นแม่ของเด็กโตที่ไป

00:25:1900:25:24 ทำร้ายเด็กเล็กคำพูดนี้ที่บอกว่ายอมเห็น

00:25:2400:25:27 ลูกตัวเองเป็นโจรดีกว่ายอมที่จะเห็นลูก

00:25:2700:25:31 ตัวเองถูกถูกทำร้ายเนี่ยโหมันเป็นวิธีคิด

00:25:3100:25:35 เป็นทัศนคติที่ผมผมไม่แน่ใจเลยนะครับว่า

00:25:3500:25:38 ไม่กล้าตัดสินด้วยว่ามันถูกหรือผิดนะแต่

00:25:3800:25:41 ฟังดูแล้วมันแปลกๆนะครับแล้วก็ได้แต่ถาม

00:25:4100:25:44 ตัวเองว่ามันใช่มอ่ะความคิดแบบนี้มันใช่

00:25:4400:25:47 ไหมเอาเขจริงๆผมก็ไม่สามารถตัดสินได้นะ

00:25:4700:25:50 แต่ผมสงสัยเฉยๆว่ามันใช่ไหมนะครับคุณผู้

00:25:5000:25:55 ฟังก็ลองเอาไปคิดแล้วลองพิจารณาดูนะครับ

00:25:5500:25:57 ถ้าเห็นว่าใช่หรือไม่ใช่เห็นด้วยหรือไม่

00:25:5700:26:01 เห็นด้วยเพราะอะไรเนี่ยคุณู้ฟังก็ส่งข้อ

00:26:0100:26:04 ความหรือส่งข้อความมาทางใดก็ได้นะฮะมาถึง

00:26:0400:26:07 ผมก็ได้มาพูดคุยแบ่งปันกันในประเด็นนี้ก็

00:26:0700:26:10 น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยนะครับแต่ประเด็น

00:26:1000:26:13 ก็คือคุณผู้ฟังครับวันนี้เนี่ยผมได้ยก

00:26:1300:26:16 ประเด็นมาพูดคุยกับคุณผู้ฟังว่าคำพูดที่

00:26:1600:26:18 เราได้ยินบ่อยคือความรักทำให้คนตาบอด

00:26:1800:26:22 เนี่ยเราเข้าใจแต่ผมเกิดความคิดว่าแท้ที่

00:26:2300:26:26 จริงแล้วความไม่รักก็ทำให้เราตาบอดเหมือน

00:26:2600:26:30 กันแต่ทั้งคู่ครับมันทำให้เราตาบอดเพราะ

00:26:3000:26:34 อะไรมันมาบังตาเราครับมันทำให้เราไม่เห็น

00:26:3400:26:38 ความจริงแบบที่เป็นจริงๆมันทำให้สายตาเรา

00:26:3800:26:42 บิดเบี้ยวผิดเพี้ยนทั้ง 2 กรณีเพราะ

00:26:4200:26:47 ฉะนั้นจะดีมากเลยครับถ้าเราสามารถที่จะ

00:26:4700:26:51 ลอกต้อของดวงตาเราออกฮลอกความบิดเบี้ยว

00:26:5100:26:53 ผิดเพี้ยนออกทั้งความรักและความไม่รักนี่

00:26:5300:26:57 แหละเราจะได้มองเห็นสถานการณ์ต่างๆแบบที่

00:26:5700:27:01 มันเป็นจริงจริงๆนะครับก็จะได้ทำให้เรา

00:27:0100:27:04 เนี่ยมีชีวิตหลุดรอดจากการมีอคติต่อ

00:27:0400:27:07 เรื่องราวต่างๆรอบตัวนะครับซึ่งผมมีความ

00:27:0700:27:10 เชื่อว่าก็จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขมาก

00:27:1000:27:13 ขึ้นแล้วก็มีความทุกข์น้อยลงวันนี้ผม

00:27:1300:27:16 วีรพงษ์ทวีศักดิ์ต้องขอลาไปก่อนนะครับ

00:27:1600:27:18 ขอบคุณคุณผู้ฟังทุกท่านที่ติดตามรับฟัง

00:27:1800:27:22 รายการนะครับสวัสดี

00:27:2200:27:25 ครับติดตามรายการทางเว็บไซต์และ

00:27:2500:27:29 แอปพลิเคชันของไย PBS podcast spotify

00:27:2900:27:31 soundcloud Google podcast Apple

00:27:3100:27:35 podcast และ YouTube Channel Thai PBS

00:27:3500:27:38 podcast tha PBS podcast View the

00:27:3800:27:40 world via The Voice

00:27:4000:27:46 [เพลง]