00:00:00 → 00:00:03 (หมอ) คนไข้มีปัญหาว่าเป็นเบาหวานมานานหลายปี
00:00:03 → 00:00:09 แล้วก็มาหาเราด้วยไปเหยียบเศษแก้ว แล้วก็มีแผลที่ฝ่าเท้า
00:00:09 → 00:00:11 แล้วแผลมันไม่หายสักทีนะครับ
00:00:11 → 00:00:14 วันนี้ก็มาดูว่าแผลมันหายไหม
00:00:14 → 00:00:15 เท้าผิดรูปเป็นอย่างไร
00:00:15 → 00:00:17 เดี๋ยวเราดูเท้ากันเลยแล้วกันนะครับ
00:00:17 → 00:00:22 ก็จะเห็นว่าเท้าด้านขวานี่ รูปเท้ายังปกตินะครับ
00:00:23 → 00:00:26 เห็นเท้าด้านซ้ายไหม เท้ามันแปร มันเบ้
00:00:26 → 00:00:28 (กิ๊ฟ) เบี้ยวออกไปด้านข้าง (หมอ) เบี้ยวออกไปด้านข้างครับ
00:00:28 → 00:00:31 (หมอ) ซึ่งภาษาแพทย์นี่ อย่างนี้เขาเรียกว่า "เท้าแบน"
00:00:31 → 00:00:34 แล้วก็มีปลายเท้าบิดออกไปด้านนอกนะครับ
00:00:34 → 00:00:38 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกระดูกมันทรุดไปแล้ว
00:00:38 → 00:00:44 ลักษณะกระดูกตรงนี้นะครับ ตรงกลางฝ่าเท้านี่มันทรุดลงไปเลยนะครับ
00:00:44 → 00:00:46 จากการที่มีความเสื่อม
00:00:46 → 00:00:48 แล้วคุณป้าไม่รู้สึก
00:00:48 → 00:00:53 คือข้อคงเคยอักเสบ แล้วกระดูกมันก็เลยทรุดไป
00:00:53 → 00:00:56 แล้วก็คุณป้าก็ยังไม่เจ็บ เพราะว่าปลายประสาทมันไม่ดี
00:00:56 → 00:00:58 ก็เดินไปจนเท้าเบี้ยวไปเรื่อย
00:00:58 → 00:01:01 (กิ๊ฟ) ที่คุณหมอบอกว่า ปลายประสาทไม่รับรู้นี่
00:01:01 → 00:01:02 คือเกิดจากโรคเบาหวาน
00:01:02 → 00:01:04 (หมอ) เกิดจากเบาหวานครับ ใช่
00:01:04 → 00:01:06 (กิ๊ฟ) พอเป็นเบาหวานปั๊บ ปลายประสาทมันไม่รับรู้
00:01:06 → 00:01:06 (หมอ) ครับ
00:01:06 → 00:01:07 (กิ๊ฟ) พอเรา...
00:01:07 → 00:01:10 (หมอ) เหยียบไป กระดูกมันทรุด ก็ไม่เจ็บ
00:01:10 → 00:01:11 ก็เหยียบต่อไปอีก
00:01:11 → 00:01:12 (กิ๊ฟ) จนมันเบี้ยวออกด้านข้าง
00:01:12 → 00:01:15 (หมอ) จนมันเบี้ยวออกไปด้านข้าง ใช่ครับ
00:01:15 → 00:01:16 ก็จะเกิดการอักเสบ
00:01:16 → 00:01:19 (หมอ) แล้วก็ซ่อมตัวเองจนมันหายเจ็บ
00:01:19 → 00:01:19 (กิ๊ฟ) ครับ
00:01:19 → 00:01:23 (หมอ) แต่คนที่เป็นเบาหวานนี่ กลไกนี้มันหายไปนะครับ
00:01:23 → 00:01:26 ก็เลยทำให้เกิดแผล เกิดอะไรได้ง่าย
00:01:26 → 00:01:28 (กิ๊ฟ) คือมันไม่เจ็บ พอไม่เจ็บก็เดินไปเรื่อย ๆ
00:01:28 → 00:01:32 (หมอ) ใช่ครับ บางคนมีเศษหินอยู่ในรองเท้า
00:01:32 → 00:01:35 แล้วหินมันก็ทิ่มไปทิ่มมา ทิ่มมาทิ่มไป ถูไปถูมา
00:01:36 → 00:01:37 (กิ๊ฟ) ยังไม่รู้สึกเลย (หมอ) ยังไม่รู้สึกเลย
00:01:37 → 00:01:41 (หมอ) ถอดออกมาอีกที เลือดเต็มถุงเท้า แต่ไม่เจ็บ
00:01:41 → 00:01:43 (กิ๊ฟ) แล้วตอนนั้น คุณป้าก็ไม่เจ็บจริง ๆ (คนไข้) ไม่เจ็บ
00:01:43 → 00:01:44 (หมอ) ไม่เจ็บครับ
00:01:44 → 00:01:46 (กิ๊ฟ) แก้วบาดก็ไม่เจ็บ (คนไข้) ไม่เจ็บค่ะ
00:01:46 → 00:01:48 (กิ๊ฟ) เหลือเชื่อ ผมเพิ่งเคยได้ยิน (หมอ) ครับ
00:01:48 → 00:01:53 (คนไข้) จนแผลที่ตำนะ ขาข้างนี้แดงก่ำเลย
00:01:53 → 00:01:54 ถึงได้มาหาหมอ
00:01:54 → 00:01:59 (หมอ) ก็เลยทำให้เกิดเท้าผิดรูป แล้วยังไม่มีอาการ ไม่รู้ตัว
00:01:59 → 00:02:00 (กิ๊ฟ) เห็นแล้ว กระดูกทรุด มันไม่เป็นรูปเหมือนที่เราเห็น
00:02:00 → 00:02:03 (หมอ) ครับกระดูกทรุด แต่ว่าด้านข้างนะครับ
00:02:03 → 00:02:07 ด้านข้างจะมีกระดูกนูนออกมานิดเดียว เห็นไหมตรงนี้มันจะนูน
00:02:07 → 00:02:10 แต่ว่ามันยังอยู่แนวเดียว กับส้นเท้ากับปลายเท้า
00:02:10 → 00:02:14 อันนี้ยังโชคดีเพราะว่ามันยังไม่ทิ่มพื้น
00:02:14 → 00:02:18 เพราะฉะนั้น เราก็จะส่งไปทำรองเท้าพิเศษ
00:02:18 → 00:02:20 เหมือนที่คุณป้าใส่อยู่
00:02:20 → 00:02:22 นี่คือ เป็นรองเท้าพิเศษ
00:02:22 → 00:02:24 (กิ๊ฟ) อ๋อ สั่งมาเฉพาะเท้าคุณป้าเลย
00:02:24 → 00:02:26 (หมอ) เราก็จะปั๊มรูปเท้า (กิ๊ฟ) ครับ
00:02:26 → 00:02:28 (หมอ) เพื่อที่จะให้น้ำหนักกระจายทั่ว ๆ ไป
00:02:28 → 00:02:30 แล้วรองเท้ามันจะนิ่ม
00:02:30 → 00:02:31 (กิ๊ฟ) นิ่มมาก
00:02:31 → 00:02:33 (หมอ) โดนแล้วก็ไม่เจ็บ
00:02:33 → 00:02:36 เพราะฉะนั้น การรักษาก็คือ ปรับรองเท้าอย่างเดียว
00:02:36 → 00:02:37 บางคนไม่โชคดีอย่างนี้
00:02:37 → 00:02:41 คือเบี้ยวเยอะ เราต้องมาแก้ เรียงกระดูกใหม่
00:02:41 → 00:02:43 ก็คือ ไปทำให้มันหักใหม่
00:02:43 → 00:02:45 แล้วก็มาเรียงให้มันตรง
00:02:45 → 00:02:49 เพื่อ...พูดตรง ๆ คือ รักษาเท้าไว้ ไม่ให้ถูกตัด
00:02:49 → 00:02:52 เพราะว่าถ้าเบี้ยวมาก ๆ แล้วมันจะเกิดแผลเรื้อรัง
00:02:52 → 00:02:54 และรักษาไม่หาย ก็จะต้องถูกตัด
00:02:54 → 00:02:56 (กิ๊ฟ) คนทั่วไปที่ดูรายการนี้นะ (หมอ) ครับ
00:02:56 → 00:02:57 (กิ๊ฟ) ควรจะทำตัวอย่างไรดีคุณหมอครับ
00:02:58 → 00:02:59 (หมอ) ครับ อย่างแรกเลยนะครับ
00:03:00 → 00:03:01 กลับไปคุมเบาหวาน
00:03:01 → 00:03:03 สำคัญที่สุด
00:03:03 → 00:03:05 แล้วก็ได้ผลดีที่สุดนะครับ
00:03:05 → 00:03:09 แต่ว่าทำยากที่สุดนะ คือ...ตามใจปากส่วนใหญ่
00:03:09 → 00:03:11 (กิ๊ฟ) เป็นพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
00:03:11 → 00:03:13 (หมอ) ใช่ครับ คือเมืองไทยอาหารเยอะ
00:03:13 → 00:03:16 มันจะมีน้ำตาลในเลือดและน้ำตาลสะสมนะครับ
00:03:16 → 00:03:18 ถ้าคุมน้ำตาลในเลือดได้ดี
00:03:19 → 00:03:23 แต่น้ำตาลสะสมไม่ดี แปลว่าระหว่างวันมีความสวิงนะครับ
00:03:23 → 00:03:26 เพราะฉะนั้น ต้องคุมน้ำตาลสะสมให้อยู่นะครับ
00:03:26 → 00:03:27 ถ้าน้ำตาลสะสมดี
00:03:27 → 00:03:31 การถูกทำลายของปลายประสาทส่วนปลายก็จะน้อย
00:03:31 → 00:03:35 ก็จะไม่ขึ้นตา จะไม่ไปไต จะไม่ไปเท้านะครับ
00:03:36 → 00:03:38 พวกนี้ป้องกันได้ดีที่สุดเลย