00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับถ้าใครเคยไปตรวจสุขภาพไปพบหมอ
00:00:03 → 00:00:06 เนี่ยหมอมักจะถามคำถามกับเราแต่เราเนี่ย
00:00:06 → 00:00:10 ก็อาจจะตอบได้ไม่ละเอียดตามที่หมอต้องการ
00:00:10 → 00:00:13 ในวงการจิตแพทย์หรือว่าหมอด้านสุขภาพจิต
00:00:13 → 00:00:15 เนี่ยก็เจอปัญหานี้เช่นกันนะครับซึ่งคำ
00:00:15 → 00:00:18 ถามก็เช่นเราเนี่ยนอนหลับดีมยช่วงนี้
00:00:18 → 00:00:20 เนี่ยเครียดหรือเปล่าได้ออกไปเจอเพื่อน
00:00:20 → 00:00:23 บ้างไหมแต่ก็อย่างที่บอกไปนะครับบางที
00:00:23 → 00:00:26 เนี่ยเราก็ลืมอาจจะไม่ได้ตอบตรงๆหรือถ้า
00:00:26 → 00:00:29 ตอบได้เนี่ยก็อาจจะไม่ละเอียดทีนี้เนี่ย
00:00:29 → 00:00:32 นี่ใจเลยเริ่มมองไปที่สิ่งที่เราเนี่ยใช้
00:00:32 → 00:00:36 ติดตัวแทบ 24 ชม.นั่นก็คือโทรศัพท์หรือ
00:00:36 → 00:00:38 สมาร์ทโฟนของเรานั่นเองนะครับโดย
00:00:38 → 00:00:41 สมาร์ทโฟนเนี่ยจะช่วยเก็บข้อมูลเล็กๆน้อย
00:00:41 → 00:00:44 ๆที่เราอาจจะลืมหรือไม่ได้เล่าทั้งหมด
00:00:44 → 00:00:47 ซึ่งจะเป็นการเก็บข้อมูลจาก GPS ซึ่งอาจ
00:00:47 → 00:00:50 บอกได้ว่าเราเนี่ยออกจากบ้านบ่อยแค่ไหน
00:00:50 → 00:00:53 เวลาที่ใช้อยู่กับหน้าจอก็อาจบอกได้ว่า
00:00:53 → 00:00:56 เราเนี่ยนอนดึกหรือเปล่าหรือจะเป็นสถิติ
00:00:56 → 00:00:59 การโทรเข้าโทรออกก็อาจบอกได้ว่าเราเนี่ย
00:00:59 → 00:01:01 ยังเชื่อมโยงกับคนรอบข้างอยู่หรือเปล่า
00:01:01 → 00:01:04 ทั้งหมดนี้เนี่ยคือข้อมูลที่แพทย์ต้องการ
00:01:05 → 00:01:07 และเราเนี่ยอาจจะลืมเล่าให้เขาฟังนะครับ
00:01:08 → 00:01:10 ลองนึกภาพถ้ามีคนๆนึงอยู่ในห้องตรวจเนี่ย
00:01:10 → 00:01:13 หมอถามว่าช่วงนี้เนี่ยคุณนอนเป็นยังไง
00:01:13 → 00:01:16 บ้างคนนั้นเขาก็อาจจะตอบว่าก็นอนปกตินะ
00:01:16 → 00:01:19 ครับแต่ว่ามือถือของเขาเนี่ยกลับเก็บหลัก
00:01:19 → 00:01:22 ฐานได้ว่าเค้าเนี่ยส่องหน้าจอจนถึง 2:00
00:01:22 → 00:01:25 น. 3:00 น.เกือบทุกวันหรือเวลาที่หมอถาม
00:01:25 → 00:01:28 ว่าได้ออกไปข้างนอกบ้างมยเขาก็อาจจะตอบ
00:01:28 → 00:01:32 ว่าก็มีบ้างแต่ข้อมูล GPS จากโทรศัพท์เขา
00:01:32 → 00:01:34 เนี่ยแทบจะไม่ได้ออกจากบ้านมาเป็นสัปดาห์
00:01:34 → 00:01:37 แล้วเรียกได้ว่าข้อมูลจาก GPS จะช่วยให้
00:01:37 → 00:01:40 หมอเนี่ยได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้นและ
00:01:40 → 00:01:43 อาจช่วยให้หมอเนี่ยเห็นความจริงที่เรามอง
00:01:43 → 00:01:46 ข้ามไปได้นะครับโดยนักวิจัยจาก University
00:01:46 → 00:01:49 of Pittsburg พบว่าข้อมูลมือถือเหล่า
00:01:49 → 00:01:52 นี้เนี่ยสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มอาการทาง
00:01:52 → 00:01:56 จิตใจหลายอย่างเช่นความวิตกกังวลภาวะซึม
00:01:56 → 00:01:59 เศร้าหรือแม้แต่ความรู้สึกตัดขาดจากสังคม
00:01:59 → 00:02:03 นะครับและที่สำคัญคือมันสะท้อนภาพรวมไม่
00:02:03 → 00:02:05 ได้เจาะจงโลกใดโลกหนึ่งนะครับแต่มันทำให้
00:02:05 → 00:02:09 หมอเห็นว่าคนๆนั้นเนี่ยมีความเสี่ยงหรือ
00:02:09 → 00:02:12 มีสัญญาณที่ควรต้องใส่ใจนะครับแต่นัก
00:02:12 → 00:02:15 วิจัยเนี่ยก็ย้ำว่าการใช้ข้อมูลจาก GPS
00:02:15 → 00:02:19 ก็ยังมาแทนการตอบแบบสอบถามหรือการปรึกษา
00:02:19 → 00:02:21 จากแพทย์ไม่ได้นะครับแต่ข้อมูลเหล่านี้
00:02:21 → 00:02:24 เนี่ยจะเป็นเหมือนกล้องส่องที่ทำให้แพทย์
00:02:24 → 00:02:26 เนี่ยเห็นภาพชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้
00:02:26 → 00:02:29 ชัดขึ้นเพราะฉะนั้นในวันหนึ่งเนี่ยเราก็
00:02:29 → 00:02:32 อาจจะมีแอปที่ช่วยบันทึกและส่งข้อมูลให้
00:02:32 → 00:02:35 แพทย์แบบอัตโนมัตินะครับหมอก็จะสามารถติด
00:02:35 → 00:02:37 ตามผู้ป่วยได้ต่อเนื่องมากขึ้นไม่ต้องรอ
00:02:37 → 00:02:40 ให้มีอาการหนักแล้วค่อยมาหาหมอนะครับแต่
00:02:40 → 00:02:43 สิ่งที่เราทำได้ในวันนี้ถ้าเราอยากลด
00:02:43 → 00:02:46 โอกาสในการไปพบเจอกับจิตแพทย์นั่นก็คือ
00:02:46 → 00:02:48 การปรับพฤติกรรมของเรานะครับลองสังเกตดู
00:02:48 → 00:02:51 ว่าช่วงนี้เนี่ยเรานอนพอหรือเปล่าได้ออก
00:02:51 → 00:02:55 ไปพบพบปะผู้คนบ้างมยได้ออกไปสูดอากาศได้
00:02:55 → 00:02:58 ไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้างหรือเปล่าการทำ
00:02:58 → 00:03:00 ถามเหล่านี้เนี่ยก็จะช่วยให้เราตระหนัก
00:03:00 → 00:03:02 และถ้าเราปรับพฤติกรรมได้ดีขึ้นด้วยเนี่ย
00:03:02 → 00:03:05 มันก็จะไปช่วยลดโอกาสที่เราจะต้องไปพบกับ
00:03:05 → 00:03:08 จิตแพทย์ได้นั่นเองนะครับแล้วเจอกันใหม่
00:03:08 → 00:03:13 ใน episode ต่อไปสำหรับวันนี้ขอบคุณครับ