00:00:00 → 00:00:01 คราวนี้เมื่อกี้หมอหนึ่งพูดเกี่ยวกับ
00:00:01 → 00:00:03 เรื่องของสารอาหารไปแล้วเนาะนะว่าเอามา
00:00:03 → 00:00:05 ประยุกต์ใช้ยังไงบ้างกับคำถามที่หลายๆคน
00:00:05 → 00:00:08 ถามมานะครับมันก็จะมีสเต็ปที่ 2 ของการลด
00:00:08 → 00:00:10 น้ำหนักอ่ามาดูสเต็ปที่ 2 คือเรื่องของ
00:00:10 → 00:00:13 การทำ If บางคนเนี่ยมีคำถามเกี่ยวกับการ
00:00:13 → 00:00:16 ทำ If เยอะมากคุณหมอคะทำ If ทำไมไม่ผอมคะ
00:00:16 → 00:00:18 ผมตอบตรงนี้เลยนะทำไม f ไม่ผอมเพราะคุณ
00:00:18 → 00:00:21 ปรับสารอาหารในข้อ 1 ไม่ดีถ้าคุณปรับสาร
00:00:21 → 00:00:24 อาหารในข้อ 1 ดีคืองดเครื่องดื่มที่มีน้ำ
00:00:24 → 00:00:27 ตาลและขนมที่มีน้ำตาลลดปริมาณแป้งลงได้
00:00:27 → 00:00:30 ไม่กินแป้งซ้ำซ้อนกินโปรตีนจนอิ่มร่างกาย
00:00:30 → 00:00:32 มีโปรตีนเพียงพอที่จะเอาไปสร้างกล้าม
00:00:32 → 00:00:34 เนื้อคุณทำแค่นี้นะคุณยังไม่ทำ If เลยนะ
00:00:34 → 00:00:38 พร้อมแล้วเพราะอะไรเพราะ If ไม่ใช่การลด
00:00:38 → 00:00:41 น้ำหนักแต่เป็นการจัดเวลาการทานเฉยๆนะ
00:00:41 → 00:00:43 ครับเนาะเพราะฉะนั้นถ้าอยากเริ่มต้นลดน้ำ
00:00:43 → 00:00:46 หนักคุณอาจจะเริ่มจากการทำ If แค่ 12/12
00:00:46 → 00:00:48 ก็ได้หมอ 1 ก็ให้นักเรียนหมอ 1 เริ่มแค่
00:00:48 → 00:00:50 นี้เองบางคนไม่เคยรู้เลยว่า 12/12 คือ
00:00:50 → 00:00:53 อะไรอ่ะมาฟังตรงนี้ก่อนนะครับปกติแล้วใน 1
00:00:53 → 00:00:56 วันมันจะมี 24 ชมถูกมั้ยนะครับเราจะแบ่ง
00:00:56 → 00:00:58 เป็นช่วงที่เรากินกับช่วงที่เราหยุดกิน
00:00:58 → 00:01:00 อ่านะครับช่วงที่เรากินบางคนเนี่ยนะตื่น
00:01:00 → 00:01:03 มาตั้งแต่เช้านะ 8:00 นกินเที่นกิน 1600
00:01:03 → 00:01:06 นกิน 20:00 นกินเที่ยงคืนก็ยังกินก่อนนอน
00:01:06 → 00:01:09 ขอนมซักแก้วก็ยังดีช่วงเวลาที่หยุดกินมี
00:01:09 → 00:01:12 แค่เที่ยงคืนตอนที่นอนจนถึง 8:00 นเพราะ
00:01:12 → 00:01:14 อะไรตอนนั้นหลับอยู่คงกินไม่ได้ถูกมั้ย
00:01:14 → 00:01:16 ไอ้ช่วงที่คุณหยุดกินนั่นแหละร่างกายจะ
00:01:16 → 00:01:18 ไม่ได้พลังงานจากสิ่งที่กินภายนอกก็เลย
00:01:18 → 00:01:20 ต้องไปเอาพลังงานที่อยู่ภายในมาใช้ซึ่ง
00:01:20 → 00:01:23 มันก็คือพลังงานจากไขมันนะครับแต่ 8 ชม
00:01:23 → 00:01:26 เนี่ยนะครับเค้นพบว่ามันไม่เพียงพอต่อการ
00:01:26 → 00:01:28 ที่คุณจะผอมได้เขาก็เลยบอกว่าถ้าคุณอยาก
00:01:28 → 00:01:32 ลดน้ำหนักนะให้ทำ If นะแล้วมีช่วงกิน
00:01:32 → 00:01:35 เนี่ย 12 ชมช่วงอด 12 ชมนะเป็นการเริ่ม
00:01:35 → 00:01:38 ต้นอ่าหมายความว่าอะไรหมายความว่าสมมุติ
00:01:38 → 00:01:40 วันนี้หมอหนึ่งหยุดกินตอน 20:00 นนับไป 12
00:01:40 → 00:01:43 ชมงหมอหนึ่งจะไปเริ่มกินอีกทีนึงตอนกี่
00:01:43 → 00:01:46 โมงครับ 8:00 นของวันรุ่งขึ้นหรืออาจจะ
00:01:46 → 00:01:49 เรทไปหน่อยก็ได้ถ้าเรทไปจนถึงเที่ยนกลาย
00:01:49 → 00:01:52 เป็นหยุดกินนตอน 20:00 นไปกินอีกทีตอน
00:01:52 → 00:01:54 เที่ยงวันอีกวันนึงกลายเป็น 16 ชมนะครับ
00:01:54 → 00:01:57 หยุดกิน 16 ชมอันเนี้ยเราเลยเรียกว่า If
00:01:57 → 00:02:01 16/8 โอเคมยนะครับตัวเลขข้างหน้าคือช่วง
00:02:01 → 00:02:03 เวลาการอดตัวเลขข้างหลังคือช่วงเวลาการ
00:02:03 → 00:02:06 กินเผื่อบางคนหลายๆคนไม่เคยฟังมาก่อนเนาะ
00:02:06 → 00:02:08 เพราะฉะนั้นถ้าอยากใช้ไขมันได้ดีต้องมี
00:02:08 → 00:02:12 ช่วงเวลาของการอดนานกว่า 12 ชมงขึ้นไปนะ
00:02:12 → 00:02:15 ครับเพราะฉะนั้นใครที่เคยได้ยิน If 16/8
00:02:15 → 00:02:17 ก็เลยบอกว่าอ๋อแบบนี้มันผอมเพราะว่ามี
00:02:17 → 00:02:19 ช่วงเวลาของการอดนานกว่า 12 ชมงขึ้นไปแต่
00:02:19 → 00:02:22 บางคนบอกว่าเฮ้ยโหแบบนี้แสดงว่าคุณหมอคะ
00:02:22 → 00:02:26 If 23/1 ต้องดีกว่าใช่มยคะ 23/1 คือ
00:02:26 → 00:02:30 อะไรอ่ะทุกคนลองตอบพร้อมกันอด 23 ชมมกิน 1
00:02:30 → 00:02:33 ช่มมันหมายความว่าอะไรมันหมายความว่าคุณ
00:02:33 → 00:02:37 กินวันละ 1 มื้อคนส่วนใหญ่กินวันละ 1
00:02:37 → 00:02:40 มื้อเนี่ยจะผอมช่วงแรกๆแต่ทำไปสักแป๊บนึง
00:02:40 → 00:02:42 น้ำหนักจะนิ่งแล้วไม่ผอมต่อด้วยเหตุผลคือ
00:02:42 → 00:02:45 การที่คุณกินวันละ 1 มื้อมักจะมีปัญหา
00:02:45 → 00:02:47 เกี่ยวกับเรื่องของสารอาหารไม่พอโดยเฉพาะ
00:02:47 → 00:02:51 โปรตีนเห็นภาพมั้ยเพราะฉะนั้นหมอ 1 กำลัง
00:02:51 → 00:02:53 จะสอนสิ่งที่ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ง่ายที่
00:02:53 → 00:02:55 สุดโดยที่ไม่เบียดเบียนการใช้ชีวิตประจำ
00:02:55 → 00:02:57 วันถ้าคุณลดน้ำหนักแล้วคุณรู้สึกว่ามันทำ
00:02:57 → 00:03:00 ยากมันต้องฝืนนั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง
00:03:00 → 00:03:02 นักเรียนหมอหนึ่งแต่ละคนเใช้ชีวิตปกติ
00:03:02 → 00:03:05 16/8 ก็ผอมแล้วถ้าสารอาหารถูกต้องเห็น
00:03:05 → 00:03:08 ภาพเนาะบางคนเริ่ม 12/12 แทบยังไม่ได้ทำ
00:03:08 → 00:03:10 If เลยแต่สารอาหารถูกต้องก็ผอมได้ในเวลา
00:03:10 → 00:03:13 สั้นๆนะครับเนาะคราวนี้มาเข้าคำถามดีกว่า
00:03:13 → 00:03:15 คนนี้ถามว่ากินอาหารไม่เป็นเวลามีผลต่อ
00:03:15 → 00:03:17 การลดน้ำหนักยนะครับเนี่ยคนนี้เคถามว่า
00:03:17 → 00:03:20 คุณหมอคะมีวิธีแนะนำสำหรับคนที่ทำงานเข้า
00:03:20 → 00:03:23 กะมใครที่ทำงานแล้วไม่เป็นเวลาหรือกินไม่
00:03:23 → 00:03:25 ตรงเวลากันเลยในแต่ละวันเพราะงานยุ่งมาก
00:03:25 → 00:03:28 ฟังให้ดีๆนะครับนะเพราะกินนอนไม่เป็นเวลา
00:03:28 → 00:03:30 เลยค่ะพยายามหลายครั้งแล้วครั้งล่าสุดน้ำ
00:03:30 → 00:03:32 หนักคร้างเลยถอดใจเลยหยุดทำมา 2-3 เดือน
00:03:32 → 00:03:34 แล้วนะครับเพราะฉะนั้นกลับมามีกำลังใจนะ
00:03:35 → 00:03:37 หมอนึงอธิบายให้ฟังนะครับหากคุณกินอาหาร
00:03:37 → 00:03:39 ไม่เป็นเวลาจะมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกันนะ
00:03:39 → 00:03:45 ครับข้อที่ 1 คือใช้ชีวิตปกตินะ
00:03:45 → 00:03:49 แต่งานยุ่งอ่าใช้ชีวิตปกติแต่งานยุ่งหมาย
00:03:49 → 00:03:52 ความว่าอะไรตื่นเช้าทำงานเสร็จปั๊บเย็น
00:03:52 → 00:03:54 กลับบ้านนอนตอนกลางคืนอันนี้คือคนที่ใช้
00:03:54 → 00:03:57 ชีวิตปกติแต่งานยุ่งแบบนี้ไม่ต้องกังวล
00:03:57 → 00:04:00 เลยนะลดง่ายมากๆแม้จะกินข้าวบางวัน 8:00
00:04:00 → 00:04:02 นบางวัน 10:00 นบางวัน 1200 นบางวัน 99:00
00:04:02 → 00:04:05 นนะครับทำไมหมอหนถึงบอกว่าง่ายมากๆอย่าง
00:04:05 → 00:04:07 นี้มันก็นับเวลา If ไม่ได้สิคะคุณหมอการ
00:04:07 → 00:04:10 ที่คุณทำ If ไม่จำเป็นต้องกินเวลาเดิมนะ
00:04:10 → 00:04:13 ครับถ้าไม่กินเวลาเดิมแล้วจะนับ If ยังไง
00:04:13 → 00:04:15 ล่ะครับว่ามันเป็นเท่าไหร่เททับเท่าไหร่
00:04:15 → 00:04:17 ไม่ต้องนับแต่ให้สนใจช่วงเวลาของการหยุด
00:04:18 → 00:04:20 ทานเป็นหลักนะครับเช่นหมอ 1 บอกว่าวัน
00:04:20 → 00:04:23 เนี้ยนะครับหมอ 1 เนี่ยหยุดกินตอน 20:00
00:04:23 → 00:04:25 นแล้ววันรุ่งขึ้นเนี่ยหมอหนึ่งงานยุ่งมาก
00:04:25 → 00:04:28 ช่วงเช้าหมอหนึ่งก็กินแต่กาแฟดำไปแล้ว
00:04:28 → 00:04:29 ตรวจคนไข้ให้เสร็จก่อนแล้วเพิ่งไปไปกิน
00:04:30 → 00:04:33 อีกทีตอนเที่ยนแบบเนี้ยกลายเป็น If 16/8
00:04:33 → 00:04:34 แต่หมอหนึ่งจะไม่นับนะหมอหนึ่งแค่อยากรู้
00:04:34 → 00:04:37 ว่าหมอหนึ่งอดกี่ชั่วโมงอ๋ออด 16 ชมแสดง
00:04:37 → 00:04:40 ว่าเป็นไรแสดงว่าโอเคเผ่าผ่านไขมันได้ดี
00:04:40 → 00:04:42 เพราะว่ามีช่วงอดนานกว่า 12 ช่วโมงแล้ว
00:04:42 → 00:04:44 แล้ววันนี้หมอหนึ่งกินตอนเที่ยนแล้วก็กิน
00:04:44 → 00:04:46 ตอน 18:00 น 2 มื้อแต่กินสารอาหารให้ครบ
00:04:47 → 00:04:48 นะกินโปรตีนให้อิ่มนะลดแป้งลงนะไม่กินของ
00:04:49 → 00:04:51 หวานๆนะหมอหนหยุด 18:00 นวันรุ่งขึ้นหมอ
00:04:51 → 00:04:53 หนเข้าเวรตอนเช้าแล้วยังพอมีเวลากินอยู่
00:04:53 → 00:04:56 บ้างหมอนึงทำไงครับหยุดตั้งแต่ 18:00 น
00:04:56 → 00:04:59 วิ่งไปเรื่อยๆแล้วก็ไปกินอีกทีตอน 10:00
00:04:59 → 00:05:00 น
00:05:00 → 00:05:02 ไม่ได้กินเที่ยนแล้วนะแต่กิน 10:00 นนะอด
00:05:02 → 00:05:04 กี่ชั่วโมงครับ 18:00 น 18:00 นถึง 18:00
00:05:04 → 00:05:08 น 12 ชมแล้วนะนับไปถึง 10:00 นก็ 16 ชม 16
00:05:08 → 00:05:11 ชมเหมือนกันแต่เวลากินตรงกันมยไม่ตรงกันม
00:05:11 → 00:05:14 นึงอาจจะไปกิน 9:00 นได้มยได้เพราะอะไรก็
00:05:14 → 00:05:17 กลายเป็นอด 15 ชั่วโมงถ้าเราเป็นคนที่ใช้
00:05:17 → 00:05:20 ชีวิตค่อนข้างงานยุ่งให้ดูช่วงเวลาของการ
00:05:20 → 00:05:23 หยุดทานเป็นหลักขอให้นานกว่า 12 ชมงก็พอ
00:05:23 → 00:05:26 ถ้าได้ 15 166 ชัมก็ดีเห็นมยเราไม่ได้
00:05:26 → 00:05:28 ไม่ผอมเพราะว่าชีวิตประจำวันของเรามันผิด
00:05:28 → 00:05:31 ปกติกับคนอื่นแต่เราแค่ไม่รู้หลักการเฉยๆ
00:05:31 → 00:05:33 นักเรียนหมอหนึเป็นพยาบาลเป็นหมอด้วยกัน
00:05:33 → 00:05:36 แล้วก็เป็นแอร์ hostage เยอะมากบางคนเป็น
00:05:36 → 00:05:39 เซลล์เดินทางตลอดงานยุ่งมากๆบางคนเปิด
00:05:39 → 00:05:41 ร้านอาหารของตัวเองไม่มีเวลากินข้าวเอง
00:05:41 → 00:05:44 เลยให้ดูแต่ช่วงเวลาอดก็พอดีที่สุดในจุด
00:05:44 → 00:05:47 ที่ทำได้จำไว้นะโอเคมอย่าไปสนใจว่าคนอื่น
00:05:47 → 00:05:50 ใช้ชีวิตยังไงผอมง่ายผอมยากเอาแค่เราผอม
00:05:50 → 00:05:54 ก็พอนะครับแล้วก็แบบที่ 2 คือใช้ชีวิต
00:05:54 → 00:05:58 ปกติแต่เปลี่ยนเวลาอ่าแต่เปลี่ยนเวลาคำ
00:05:58 → 00:06:00 ว่าเปลี่ยนเวลาคือคืออะไรจากกลางวันเป็น
00:06:00 → 00:06:02 กลางคืนบางคนทำงานกลลางคืนเพราะว่าต้อง
00:06:03 → 00:06:05 ตื่นไปขายของกลางคืนแต่นอนกลางวันแบบนี้
00:06:05 → 00:06:08 ไม่ยากนะเพราะอะไรบางคนเคยกินข้าวตอน 8:00
00:06:08 → 00:06:11 น 1200 นแล้วก็ 17:00 นคุณก็แค่ปรับถ้า
00:06:11 → 00:06:14 คุณเริ่มมื้อแรกคุณนอนตื่นตอน 21:00 น
00:06:14 → 00:06:16 แล้วคุณไปทำงานตั้งแต่ 21:00 นแล้วคุณไป
00:06:16 → 00:06:19 นอนอีกทีตอน 99:00 นคุณก็อาจจะกินมื้อแรก
00:06:19 → 00:06:22 ตอนไง 22:00 นได้มั้ยได้แล้วออกไปขายของ
00:06:22 → 00:06:24 กินอีกทีตอน 2:00 นได้มั้ยได้แล้วกินอีก
00:06:24 → 00:06:27 ที 6:00 นได้มั้ยได้เห็นภาพมั้ยถ้าคุณใช้
00:06:27 → 00:06:29 กิจวัตรประจำวันแบบเนี้ยเหมือนกันทุกทก
00:06:29 → 00:06:31 วันก็จะไม่ยากเพราะอะไรคุณแค่เปลี่ยนกลาง
00:06:31 → 00:06:33 วันเป็นกลางคืนกลางคืนเป็นกลางวันไงเเห็น
00:06:33 → 00:06:36 ภาพป่ะอยากให้เอาไปประยุกต์ใช้เป็นนะนะ
00:06:36 → 00:06:39 ครับอันที่ยากที่สุดจะเป็นแบบที่ 3 คือ
00:06:39 → 00:06:44 เข้าเวรเป็นกะเข้าเวรเป็นกะแล้วมีอะไร
00:06:44 → 00:06:47 ด้วยมีเปลี่ยนกะด้วยนะอ่าเคยเห็นมั้ยบาง
00:06:47 → 00:06:48 คนเข้างานโรงงานนะครับเนาะหมอ 1 มีนัก
00:06:48 → 00:06:50 เรียนแบบนี้เยอะมากเลยนะแบบนี้ก็เหมือน
00:06:51 → 00:06:54 แบบแรกพยายามนับช่วงเวลาของการหยุดทานให้
00:06:54 → 00:06:57 ได้นานกว่า 12 ชมงก็พอแล้วไปเน้นฐาน
00:06:57 → 00:07:00 พีระมิดคืออะไรครับเรื่องของสัตอาหารงด
00:07:00 → 00:07:02 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลให้ได้ลดปริมาณ
00:07:02 → 00:07:04 แป้งไม่กินแป้งซ้ำซ้อนกินโปรตีนให้อิ่ม
00:07:04 → 00:07:07 ออกกำลังกาย 1015 นาทีเพื่อเอาโปรตีนไป
00:07:07 → 00:07:10 สร้างเป็นกล้ามเนื้อระบบเผาผลาญใได้ดีแค่
00:07:10 → 00:07:12 นี้เองดีที่สุดในจุดที่ทำได้โอเคมเพราะ
00:07:12 → 00:07:15 ฉะนั้นกินไม่เป็นเวลาใช้ปัญหามไม่ใช่นะ
00:07:15 → 00:07:18 ครับเนาะเป็นกำลังใจให้นะอย่าให้อุปสรรค
00:07:18 → 00:07:20 ในการทำงานมาเป็นอุปสรรคในเรื่องสุขภาพ
00:07:20 → 00:07:22 เด็ดขาดอันไหนทำได้ทำอันไหนทำไม่ได้ไม่
00:07:22 → 00:07:24 เป็นไรนะครับเนาะคราวนี้ก็จะมีอีกคำถาม
00:07:24 → 00:07:28 นึงนะยอดฮิตมากๆคุณหมอคะทำ If แล้วเป็น
00:07:28 → 00:07:30 โรคกระเพาะอ่ะค่ะทำยังยังไงล่ะครับมันถึง
00:07:30 → 00:07:32 จะไม่เป็นโรคกระเพาะเออนะครับใครที่ไม่
00:07:32 → 00:07:35 เข้าใจข้อนี้ทำ If เพื่อลดน้ำหนักแล้วจะ
00:07:35 → 00:07:37 เป็นโรคกระเพาะหมดเลยนะม 1 ต้องเอาเรื่อง
00:07:37 → 00:07:39 นี้มาพูดเพราะมีคนถามว่าคุณหมอคะเนี่ยไป
00:07:39 → 00:07:42 ดูคลิป If ของคุณหมอมาเนี่ยเสร็จปั๊บคน
00:07:42 → 00:07:44 ที่เป็นโรคกระเพาะจะมีผลเสียมถ้าเราทำ If
00:07:44 → 00:07:47 คำตอบคือคุณต้องเข้าใจกระเพาะของตัวเอง
00:07:47 → 00:07:49 ก่อนนะครับกระเพาะของคนเราอยู่ตรงไหนเออ
00:07:49 → 00:07:51 บางคนไม่รู้เลยกระเพาะอยู่ตรงไหนนะครับ
00:07:51 → 00:07:53 กระเพาะมันจะเอียงไปซ้ายๆนิดนึงนะนะครับ
00:07:53 → 00:07:55 มันไม่ไม่ได้อยู่ตรงกลางเลยนะมันจะเอียง
00:07:55 → 00:07:57 ไปซ้ายๆหน่อยนะครับเอามือซ้ายตัวเองขึ้น
00:07:57 → 00:07:59 มาแล้วก็จับไปใต้ชายโครงอันนั้นคือตำ
00:07:59 → 00:08:01 ตำหน่งกระเพาะเอามือขวาขึ้นมาจับใต้ชาย
00:08:01 → 00:08:03 โครงอันนั้นคือตำแหน่งของตับโอเคมยนะครับ
00:08:03 → 00:08:05 เนาะคราวเนี้ยกระเพาะของคนเรามันจะเป็น
00:08:05 → 00:08:08 รูปตัวเเห็นมั้ยเป็นรูปตัวเเนาะกระเพาะ
00:08:08 → 00:08:10 ตรงนี้เนี่ยข้างบนเนี่ยคือหลอดอาหารอ่า
00:08:10 → 00:08:13 เสร็จปั๊บลงมากระเพาะอาหารก็จะไปต่อที่ลำ
00:08:13 → 00:08:17 ไส้เล็กคำถามคือถ้าคุณอดอาหารจะเกิดอะไร
00:08:17 → 00:08:19 กับกระเพาะกระเพาะหลังอะไรออกมาหลังน้ำ
00:08:19 → 00:08:22 ย่อยใช่มยกระเพาะหลังน้ำย่อยออกมาหลังน้ำ
00:08:22 → 00:08:24 ย่อยออกมาคุณเคยอดอาหารนานสุดนานเท่าไหร่
00:08:24 → 00:08:27 ครับบางคนที่ต้องเข้ารับการรักษาหมอให้อด
00:08:27 → 00:08:30 อาหาร 24 ชมเลยถ้าสมมุติว่ากระเพาะคุณ
00:08:30 → 00:08:33 อ่อนแอมากๆป่านี้กระเพาะคุณถูกย่อยจนทะลุ
00:08:33 → 00:08:35 ไปแล้วถูกมั้ยเออแสดงว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:08:35 → 00:08:38 กระเพาะของคนเราเนี่ยเคถูกออกแบบมาให้ทน
00:08:38 → 00:08:41 ต่อการหลั่งกรดจำไว้เลยนะกรดที่อยู่ใน
00:08:41 → 00:08:44 กระเพาะเนี่ยมันมีความเข้มข้นสูงมากแต่
00:08:44 → 00:08:47 กระเพาะของคนเรามีการสร้างสิ่งที่เรียก
00:08:47 → 00:08:51 ว่าเยื่อเมือกเนี่ยเอามาปกคลุมกระเพาะเอา
00:08:51 → 00:08:53 ไว้เพราะฉะนั้นต่อให้คุณเนี่ยไม่ได้กิน
00:08:53 → 00:08:56 อาหารแต่ถ้าเมือกของคุณแข็งแรงคุณก็จะไม่
00:08:57 → 00:08:59 เป็นโรคกระเพาะเพราะฉะนั้นถามว่าการทำ yf
00:08:59 → 00:09:01 หรือว่าการกินไม่ตรงเวลาทำให้เป็นโรค
00:09:01 → 00:09:04 กระเพาะจริงมยไม่จริงบุคลากรทางการแพทย์
00:09:04 → 00:09:06 ก็มีส่วนผิดเหมือนกันที่เราเคยแนะนำคนไข้
00:09:06 → 00:09:08 ว่าถ้าไม่อยากเป็นโรคกระเพาะให้กินอาหาร
00:09:08 → 00:09:11 ให้ตรงเวลานะมันมีผลแต่น้อยมากๆมันไม่ใช่
00:09:11 → 00:09:14 สาเหตุถ้าคุณเป็นโรคกระเพาะแล้วการกิน
00:09:14 → 00:09:16 อาหารให้ตรงเวลาย่อมดีกว่าการกินไม่ตรง
00:09:16 → 00:09:20 เวลาแต่ถ้ากระเพาะคุณปกติการที่คุณทำไ
00:09:20 → 00:09:22 แล้วบางวันกินอาหารไม่ตรงเวลาหรือไม่ได้
00:09:22 → 00:09:25 กินข้าวเช้าไม่ได้ทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะ
00:09:25 → 00:09:27 นะสาเหตุหลักๆที่ทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะ
00:09:27 → 00:09:31 ข้อที่ 1 ครับนะคือสิ่งที่เรียกว่า
00:09:31 → 00:09:35 แบคทีเรียอ้าเคยได้ยินมยถ้าลึกลงไปหน่อย
00:09:35 → 00:09:39 ก็จะเป็นแบคทีเรียที่ชื่อว่า H ไพโรไล
00:09:39 → 00:09:42 ซึ่งจะชอบอยู่ในกระเพาะบางคนมีแบคทีเรีย
00:09:42 → 00:09:45 ตัวเนี้ยเยอะกว่าปกติทำให้เป็นแผลใน
00:09:45 → 00:09:47 กระเพาะพอเป็นแผลในกระเพาะกินอะไรเข้าไป
00:09:47 → 00:09:50 นิดหน่อยผิดแำแดงนิดหน่อยก็จะเริ่มปวด
00:09:50 → 00:09:52 ท้องแล้วคุณก็จะคิดว่าเป็นจากการที่เรา
00:09:52 → 00:09:54 กินข้าวไม่ตรงเวลาหรือเปล่าไม่ใช่แต่
00:09:54 → 00:09:56 แบคทีเรียในกระเพาะตัวนี้คุณมันเยอะกว่า
00:09:56 → 00:09:58 คนทั่วไปซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เป็น
00:09:58 → 00:10:00 มะเร็งกระเพาะอาหารหรือมะเร็งที่อยู่ใน
00:10:00 → 00:10:02 ทางเดือนอาหารเห็นภาพเนาะเพราะฉะนั้นถ้า
00:10:02 → 00:10:05 ใครที่เป็นโรคกระเพาะแล้วเป็นบ่อยๆไม่หาย
00:10:05 → 00:10:08 นะครับปวดแสบปวดร้อนท้องปวดบิดท้องไปตรวจ
00:10:08 → 00:10:10 นะถ้าคุณหมอให้ยามากินแล้วก็ยังไม่หายคุณ
00:10:11 → 00:10:12 หมอก็จะตรวจตัวนี้แหละนะครับว่าคุณมี
00:10:12 → 00:10:15 แบคทีเรียตัวนี้เยอะไมถ้ามีเยอะรักษาด้วย
00:10:15 → 00:10:18 การกินยาปฏิชีวนะ 2 สัปดาห์ก็จะดีขึ้น
00:10:18 → 00:10:20 หรือถ้าไม่หายอีกคุณหมอก็อาจจะส่องกล้อง
00:10:20 → 00:10:23 ดูกระเพาะอาหารแต่อย่างที่บอก If ไม่ใช่
00:10:23 → 00:10:25 สาเหตหลักที่ทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะอาหาร
00:10:25 → 00:10:29 เจ้าแบคทีเรียตัวนี้ต่างหากนะครับคราวนี้
00:10:29 → 00:10:30 มันมีปัจจัยอะไรอีกที่ทำให้คุณเป็นโรค
00:10:30 → 00:10:33 กระเพาะนอกจากการทำ If อย่าเพิ่งโทษ If
00:10:33 → 00:10:37 นะปัจจัยที่ 2 คือสิ่งที่เรียกว่าความ
00:10:37 → 00:10:40 เครียดเคยได้ยินคำว่าเครียดลงกระเพาะมย
00:10:40 → 00:10:43 เออความเครียดจะทำให้สมดุลของสิ่งที่
00:10:43 → 00:10:45 เรียกว่าเยื่อเมือกที่กระเพาะเนี่ยมันลด
00:10:45 → 00:10:48 ลงจากที่กระเพาะของคุณเคยมีเมือกเคลือบ
00:10:48 → 00:10:50 อยู่กระเพาะคุณหลังน้ำย่อยออกมายังไงก็
00:10:50 → 00:10:52 ย่อยกระเพาะไม่ได้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่
00:10:52 → 00:10:55 คุณเครียดเมือกมันจะบางลงบางลงบางลงจนสุด
00:10:55 → 00:10:58 ท้ายกระเพาะคุณเริ่มถูกน้ำย่อยๆได้แต่มัน
00:10:58 → 00:11:00 ย่อยเพราะอะไรเพราะเมือกมันบางลงความ
00:11:00 → 00:11:02 เครียดในที่นี้เกิดจากอะไรได้บ้างความ
00:11:02 → 00:11:04 เครียดจากความคิดจากเรื่องงานจากเรื่อง
00:11:04 → 00:11:06 อื่นๆในชีวิตเป็นไปได้มีความเครียดจาก
00:11:06 → 00:11:09 อะไรอีกนะครับความเครียดจากการเจ็บป่วยก็
00:11:09 → 00:11:11 เป็นไปได้หลายคนเลยรู้สึกว่าเฮ้ยเวลาที่
00:11:11 → 00:11:14 เราป่วยเสร็จทำไมพอสักพักนึงเริ่มเป็นโรค
00:11:14 → 00:11:16 กระเพาะตามมาเพราะว่าช่วงที่ร่างกายเจ็บ
00:11:16 → 00:11:18 ป่วยมันก็มีความเครียดเกิดขึ้นนะครับมี
00:11:18 → 00:11:21 อะไรอีกที่ทำร้ายกระเพาะคุณโดยตรงเลยนะ
00:11:21 → 00:11:25 ครับก็มีนี่บุหรี่นะมีอะไรอีกเหล้า
00:11:25 → 00:11:28 แอลกอฮอล์พวกเนี้ยนะครับมันไปกัดกระเพาะ
00:11:28 → 00:11:30 โดยตรงเลยนะก็ทำให้กระเพาะของคุณเป็นแผล
00:11:30 → 00:11:32 แล้วก็เป็นโรคกระเพาะได้เพราะฉะนั้นเห็น
00:11:32 → 00:11:34 ภาพมว่าหลักๆใช่ If มั้ยที่ทำให้เป็นโรค
00:11:34 → 00:11:38 กระเพาะไม่ใช่แต่หลายคนจะไม่รู้นะครับว่า
00:11:38 → 00:11:40 อาหารบางชนิดทำให้เป็นโรคกระเพาะได้จริง
00:11:40 → 00:11:43 มยจริงนะครับอาหารอะไรที่ทำให้เกิดการ
00:11:43 → 00:11:45 อักเสบอันนั้นแหละทำให้เกิดโรคกระเพาะได้
00:11:45 → 00:11:47 ด้วยเพราะฉะนั้นน่าแปลกใจมากๆที่หลายคน
00:11:47 → 00:11:50 บอกว่าเออถ้าสมมุติว่าคุณลดน้ำตาลนะงด
00:11:50 → 00:11:52 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในช่วงลดน้ำหนักนะ
00:11:52 → 00:11:54 หลายคนโลกกระเพาะหายเลยเพราะพอคุณลดน้ำ
00:11:54 → 00:11:57 ตาลลงตัดเครื่องดื่มกับขนมที่มีน้ำตาลออก
00:11:57 → 00:11:59 กระเพาะคุณเนี่ยแผลที่มันเคยเป็นมันหายดี
00:11:59 → 00:12:02 ขึ้นคุณเคยเห็นมั้ยเวลาที่คนเป็นแผลน่ะ
00:12:02 → 00:12:04 แล้วกินน้ำตาลเยอะๆแล้วแผลมันไม่หายอ่ะคน
00:12:04 → 00:12:07 ที่เป็นเบาหวานแล้วแผลที่ขาหายช้ามากๆอ่ะ
00:12:07 → 00:12:09 เนี่ยแหละสาเหตุเพราะฉะนั้นถ้าอยากให้
00:12:09 → 00:12:12 กระเพาะของคุณไม่มีแผลหรือแผลหายเร็วคุณ
00:12:12 → 00:12:15 ต้องงดของที่เป็นน้ำตาลและอาจจะบวกลบกับ
00:12:16 → 00:12:19 ของที่เป็นอาหารรสจัดที่อาจจะต้องเลี่ยง
00:12:19 → 00:12:21 หน่อยนะเพราะอะไรเพราะว่าเผ็ดมันก็ระคาย
00:12:21 → 00:12:23 กระเพาะได้เหมือนกันถ้ามีกระแผลในกระเพาะ
00:12:23 → 00:12:26 อยู่แล้วโอเคมยนะครับเนาะแล้วก็พวก
00:12:26 → 00:12:29 เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนะครับกาแฟน้ำอัด
00:12:29 → 00:12:32 ลมนะชาต่างๆพวกนี้ก็กระตุ้นการหลั่งกรด
00:12:32 → 00:12:34 ได้ในช่วงที่คุณมีโรคกระเพาะอยู่ก็แค่
00:12:34 → 00:12:36 เลี่ยงมันออกไปก่อนแค่นั้นเองแต่อย่า
00:12:36 → 00:12:38 เพิ่งโทษ If นะบางคนเป็นโรคกระเพาะเนี่ย
00:12:38 → 00:12:40 หมอหนึ่งบอกเลยว่านักเรียนหมอหนึ่งหลายคน
00:12:40 → 00:12:42 มากๆที่ก่อนจะสมัครเรียนกับหมอหนึ่งแล้ว
00:12:42 → 00:12:45 ถามว่าต้องทำไมั้ยคะพอถามไปถามมาเบอกว่า
00:12:45 → 00:12:47 เคยทำไค่ะคุณหมอแล้วเป็นโรคกระเพาะเลย
00:12:47 → 00:12:49 กลัวมากผมเลยบอกว่าโอ๊ยไม่ต้องกลัวตรวจ
00:12:49 → 00:12:52 ตามนี้ก่อนพอเริ่มปรับตามที่ผมสอนปรับสาร
00:12:52 → 00:12:54 อาหารปับโรคกระเพาะเค้าหายเลยอ่ะเเลยแบบ
00:12:54 → 00:12:57 อ๋อโชคดีจังเลยไม่งั้นก็เข้าใจผิดไปนาน
00:12:57 → 00:12:59 เลยว่า If แล้วเป็นโรคกระเพาะนะครับเนาะ
00:12:59 → 00:13:01 เพราะฉะนั้นหวังว่าจะเข้าใจมากขึ้นนะว่า
00:13:01 → 00:13:03 วิธีลดน้ำหนักจริงๆเนี่ยไม่ว่าจะเป็น
00:13:03 → 00:13:05 เรื่องการเลือกเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็น
00:13:05 → 00:13:07 เรื่องเครื่องปรุงไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:13:07 → 00:13:09 โซเดียมต่างๆการอ่านฉลากหรือว่าโลกเกี่ยว
00:13:09 → 00:13:11 กับเกี่ยวกับเรื่องของการปรับเวลาในการทำ
00:13:11 → 00:13:14 If เนี่ยทุกอย่างมีที่มาที่ไปหมดขอแค่
00:13:14 → 00:13:17 เข้าใจเลยพีระมิดความผอมแค่นั้นเองนะครับ
00:13:17 → 00:13:20 เนาะถ้าคุณเข้าใจพีระมิดความผอมจริงๆลึกๆ
00:13:20 → 00:13:21 เลยนะเนี่ยจะเป็นแบบนักเรียนหมอ 1 เลย
00:13:21 → 00:13:23 เนี่ยในกลุ่มลบน้ำหนัก VIP บางคนเพิ่ง
00:13:23 → 00:13:25 เข้าไป 2 สัปดาห์เองลดไปเท่าไหร่แล้วลดไป
00:13:25 → 00:13:29 3.5 กแบบงงๆใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ใจใจ
00:13:29 → 00:13:32 ฟูเลยใจฟูคือมีมีกำลังใจมีกำลังใจอยากลด
00:13:32 → 00:13:35 ต่อมั้ยอยากลดต่อเห็นภาพป่าอีกคนนึงเพิ่ง
00:13:35 → 00:13:37 เข้ากลุ่มไปได้ 9 วันนะครับทำตามที่หมอ
00:13:37 → 00:13:40 หนึสอน 9 วันสบายตัวขึ้นเลยค่ะแฟนทักว่า
00:13:40 → 00:13:43 ตัวเล็กลงมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยสำคัญที่
00:13:43 → 00:13:45 สุดนะไม่จำเป็นต้องปรับทุกอย่างใน 1 วัน
00:13:45 → 00:13:47 ในกลุ่มเรียนลดน้ำหนัก VIP หมอหนึจะซอย
00:13:47 → 00:13:49 ไว้ให้ว่าบทที่ 1 2 3 4 5 ทำอะไร
00:13:50 → 00:13:51 เพราะไม่อยากให้ปรับทุกอย่างในวันเดียว
00:13:51 → 00:13:53 มันทำไม่ได้คุณควรจะต้องเรียนรู้ร่างกาย
00:13:53 → 00:13:56 ไปเรื่อยๆว่าปรับน้ำตาลเสร็จปั๊บร่างกาย
00:13:56 → 00:13:58 เกิดอะไรขึ้นอ๋อหิวหิวเสร็จแก้ยังไงครับ
00:13:58 → 00:14:01 คุณหมอหมอบทถัดไปปรับโปรตีนสิกินโปรตีน
00:14:01 → 00:14:03 ให้อิ่มแบบไหนเรียกอิ่มครับคุณหมอผมก็จะ
00:14:03 → 00:14:05 เริ่มสอนว่าน้ำหนักแบบนี้กินโปรตีนเท่า
00:14:05 → 00:14:07 ไหร่อาหารในทั่วไปในชีวิตประจำวันเราดู
00:14:07 → 00:14:09 โปรตีนยังไงโดยที่คุณไม่ต้องนับแคลอรี่
00:14:09 → 00:14:12 เห็นภาพเนาะทุกอย่างเกิดจากการที่คุณไม่
00:14:12 → 00:14:14 รู้เฉยๆเท่านั้นเองนะครับเนี่ยอย่างคน
00:14:14 → 00:14:16 เนี้ยลดไปได้แค่ 9 วันเองนะอาการปวดเข่า
00:14:16 → 00:14:18 ปวดหลังดีขึ้นมากดีใจที่สุดที่ได้เรียน
00:14:18 → 00:14:20 กับหมอ 1 นะครับเนาะเพราะฉะนั้นสำหรับใคร
00:14:21 → 00:14:23 ที่ฟังแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยอยากเริ่มต้นลด
00:14:23 → 00:14:25 น้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตนะครับก็
00:14:25 → 00:14:26 มาเรียนด้วยกันในกลุ่มลดน้ำหนักครั้งสุด
00:14:26 → 00:14:28 ท้ายในชีวิตกลุ่ม VIP ได้เนาะอันนี้อีกคน
00:14:28 → 00:14:31 นึงนะเรียนกับม 1 มาตั้งแต่ปี 2022 อ่ะนะ
00:14:31 → 00:14:32 ครับถือว่าคุ้มค่ามากค่ะเป็นการล้นน้ำ
00:14:32 → 00:14:34 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตจริงๆแค่เลือก
00:14:34 → 00:14:36 อาหารเป็นแล้วก็รู้จักกลไกร่างกายเห็น
00:14:36 → 00:14:39 มั้ยผ่านไป 3 ปีหุ่นในฝันหลายๆคนเลยนะ
00:14:39 → 00:14:41 ครับทุกวันนี้ยังผอมอยู่เลยไม่กลับไปโยโย
00:14:42 → 00:14:43 เลยขอแค่มีความรู้แค่นั้นเองนะครับ
00:14:43 → 00:14:46 พีระมิดความผอมจริงๆมันก็จะมีอีก 2 สเต็ป
00:14:46 → 00:14:48 คือเรื่องของการแก้ปัญหาน้ำหนักนิ่งแล้ว
00:14:48 → 00:14:50 ก็พอผอมแล้วทำยังไงให้ไม่กลับไปโยโย่อีก
00:14:50 → 00:14:52 นะครับก็จะมีสอนครบเลยในกลุ่มลดน้ำหนัก
00:14:52 → 00:14:54 VIP นะครับอันนี้ก็เป็นอีกคนนึงนะครับลด
00:14:54 → 00:14:57 ไป 30 วันเป็นไงมีความสุขที่สุดไม่
00:14:57 → 00:14:59 เหนื่อยกินหมูกระทะได้กินชาบูก็ได้คือพูด
00:14:59 → 00:15:01 ง่ายๆคือคุณกินอาหารในชีวิตประจำวันได้
00:15:01 → 00:15:03 เลยอ่ะไม่ต้องใช้อาหารเสริมไม่ต้องทำ
00:15:03 → 00:15:05 อาหารเองเลยนะครับน้ำหนักลดไปประมาณ 5-6
00:15:05 → 00:15:08 กลละแล้วก็เป็นไงเอรถไปเท่าไหร่เอวดไป 3
00:15:08 → 00:15:10 นิ้วเลยนะครับเนาะก็ดีใจกับนักเรียนท่าน
00:15:10 → 00:15:12 นี้อีกท่านนึงด้วยนะครับซึ่งสำหรับใครที่
00:15:12 → 00:15:14 ฟังคลิปหมอหนึ่งไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่า
00:15:14 → 00:15:16 เฮ้ยมีกำลังใจในการลดน้ำหนักอยากเริ่มต้น
00:15:16 → 00:15:18 ลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตนะครับก็
00:15:18 → 00:15:20 สามารถดูรายละเอียดวิธีการเข้ากลุ่มลดน้ำ
00:15:20 → 00:15:23 หนัก VIP ได้นะครับแอดไปที่ LINE @th
00:15:23 → 00:15:25 ฮีโร่นะแล้วก็แจ้งน้ำหนักส่วนสูงโรคประจำ
00:15:25 → 00:15:27 ตัวนะครับทีมงานของผมจะคอยให้รายละเอียด
00:15:27 → 00:15:30 สอบถามรายละเอียดกันก่อนว่าติดปัญหาอะไร
00:15:30 → 00:15:32 ในการลดน้ำหนักมาหรือเปล่าติดปัญหาตรงไหน
00:15:32 → 00:15:34 อยากให้หมอหนึ่งช่วยอะไรนะครับเนาะซึ่ง
00:15:34 → 00:15:36 ทีมงานก็จะอธิบายวิธีรายละเอียดในการ
00:15:36 → 00:15:38 เรียนและวิธีเข้ากลุ่มให้นะครับเนาะก็มา
00:15:38 → 00:15:40 ลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตด้วยกันนะ
00:15:40 → 00:15:42 ครับก็แอดไปที่ LINE @th Hero นะครับ
00:15:42 → 00:15:44 แล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับชมคลิปหมอ 1
00:15:44 → 00:15:46 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะ
00:15:46 → 00:15:48 ได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1 นะครับส่วน
00:15:48 → 00:15:50 คลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทางซ้ายมือได้
00:15:50 → 00:15:52 เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักครั้งสุด
00:15:52 → 00:15:53 ท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับหม 1 นะครับกด
00:15:53 → 00:15:55 ดูรายละเอียดจากทางขวามือหรือดูราย
00:15:55 → 00:15:57 ละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้เลยนะครับ
00:15:57 → 00:16:00 แล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ