00:00:00 → 00:00:16 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:19 สวัสดีค่ะคุณผู้ชมนี่คือรายการ The
00:00:19 → 00:00:22 Doctor รายการที่จะรวมสุดยอดแพทย์ผู้
00:00:22 → 00:00:25 เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การชะลอวัยมาให้
00:00:25 → 00:00:28 ข้อมูลและสาระความรู้แก่คุณผู้ชมนะคะ
00:00:28 → 00:00:30 เพื่อที่ให้คุณผู้ชมนั้นมีการชลรวัยที่
00:00:30 → 00:00:33 สมบูรณ์แบบและก็มีสุขภาพที่ดีค่ะสำหรับใน
00:00:33 → 00:00:36 วันนี้นะคะหลายๆคนคงอยากจะรู้ว่าเป็น
00:00:36 → 00:00:38 เรื่องราวเกี่ยวกับอะไรอ่าเนยจะใบ้ให้นะ
00:00:38 → 00:00:41 คะใครที่ได้เพลงนี้นะคะไม่ว่าจะเป็น
00:00:41 → 00:00:44 วาเลนไทน์ก็ดีวันเกิดก็ดีหรือว่าจะวันปี
00:00:44 → 00:00:48 ใหม่นะคะอ้วนๆๆใครๆก็หาว่าเธอนะอ้วนหน้า
00:00:48 → 00:00:51 อกหน้าใจหน้าท้องจัไปมีแต่ไขมันล้วนๆอ่า
00:00:51 → 00:00:54 ฟังแล้วคุ้นๆใช่มล่ะคะใครที่มีปัญหาแบบ
00:00:54 → 00:00:57 นี้ลก็โปรดฟังทางนี้ค่ะเพราะว่าความอ้วน
00:00:57 → 00:01:01 ของคุณนั้นนะคะสามารถสแกนได้อ่าเป็น
00:01:01 → 00:01:03 นวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่าสแกนแล้วจะรู้เลย
00:01:03 → 00:01:06 ว่าคุณอ้วนจุดไหนนะคะอยากรู้เทคโนโลยีนี้
00:01:06 → 00:01:09 ไปดูพร้อมๆกัน
00:01:09 → 00:01:15 [เพลง]
00:01:15 → 00:01:23 [เสียงหัวเราะ]
00:01:23 → 00:01:27 ค่ะในบางครั้งคนอ้วนเวลาขยับเยื้อนร่าง
00:01:27 → 00:01:30 กายก็ดูน่ารักดีนะครับแต่ถ้าเกิดว่าเรา
00:01:30 → 00:01:33 ปล่อยให้ความอ้วนนั้นลุกลามไปมากจนเกิน
00:01:33 → 00:01:36 กว่าที่จะยับยั้งได้ความทุกข์ก็จะเกิด
00:01:36 → 00:01:38 ขึ้น
00:01:38 → 00:01:41 ครับอย่างภาพที่เห็นเธอคนนี้น้ำหนักร่วม
00:01:41 → 00:01:44 500 กกเลยทีเดียวครับทำให้เธอสามารถขยับ
00:01:44 → 00:01:47 เยื้อนร่างกายได้เพียงอวัยวะบางส่วนเท่า
00:01:47 → 00:01:50 นั้นแน่นอนที่สุดถ้าพูดถึงความอ้วนเราคง
00:01:50 → 00:01:53 คิดว่าการกินเป็นสาเหตุหลักแน่ๆใช่ไหมม
00:01:53 → 00:01:56 ล่ะครับแต่จริงๆแล้วความอ้วนมีหลากหลาย
00:01:56 → 00:02:00 สาเหตุส่วนจะมีสาเหตุอะไรบ้างวันนี้เราจะ
00:02:00 → 00:02:02 มาสแกนให้เห็นถึงสาเหตุที่แท้จริงของความ
00:02:02 → 00:02:05 อ้วนว่าเกิดจากอะไรจะได้แก้ไขให้ทันท่วง
00:02:05 → 00:02:09 ทีร่างกายของเราจะได้กลับมาสวยและดูดีติด
00:02:09 → 00:02:15 ตามได้วันนี้ใน The
00:02:16 → 00:02:18 Doctor จากสาเหตุของความอ้วนนะคะที่มี
00:02:18 → 00:02:21 หลายประการนะคะที่จะทำให้คนเรานั้นมีความ
00:02:21 → 00:02:23 อ้วนแตกต่างกันแน่นอนที่สุดคงจะไม่ใช่
00:02:23 → 00:02:25 เรื่องราวของอาหารอย่างเดียวค่ะและในวัน
00:02:25 → 00:02:28 นี้นะคะเราอยู่กับแพทย์หญิงอัจจิมาสุวรรณ
00:02:28 → 00:02:30 จินดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กัน
00:02:30 → 00:02:33 ชะลอวัยจากศูนย์แพทย์เมดดิไซน์ค่ะสวัสดี
00:02:33 → 00:02:35 ค่ะคุณหมอสวัสพบกันอีกแล้วพบกันอีกแล้ว
00:02:35 → 00:02:37 คราวที่แล้วคุณหมอก็เอ่อให้เรื่องราว
00:02:37 → 00:02:41 เกี่ยวกับการวัดเอ่อดัชนีมนต์กายไปค่ะใน
00:02:41 → 00:02:43 วันนี้นะคะก็เลยอยากจะให้คุณหมอเนี่ยมา
00:02:43 → 00:02:46 พูดถึงสาเหตุของความอ้วนที่ไม่ได้มาจาก
00:02:46 → 00:02:48 กินๆๆอย่างเดียวอันนี้เเชื่อว่าการกิน
00:02:48 → 00:02:51 เนี่ยหลายคนคงทราบทานมากก็ได้ผลมาก you
00:02:51 → 00:02:53 are what you eat แต่ว่าความอ้วนที่
00:02:53 → 00:02:56 ไม่ได้มาจากการกินมีอะไรบ้างคะคุณหมอโอ้
00:02:56 → 00:02:58 ก็เยอะมากเลยนะคะจะมาจากเรื่องของฮอร์โมน
00:02:58 → 00:03:00 ก็ได้นะคะส่วนใหญ
00:03:00 → 00:03:05 อวามผปเผผอาหารงกายนะคะทำให้เราเนี่ยเอ่อ
00:03:05 → 00:03:08 รับประทานแล้วก็มีส่วนเหลือของพลังงาน
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ยมากกว่าส่วนที่เราใช้ไปก็จะสะสมเป็น
00:03:11 → 00:03:14 ไขมันส่วนต่างๆของร่างกายนะคะเพราะฉะนั้น
00:03:14 → 00:03:16 เอในส่วนของตัวที่จะควบคุมเกี่ยวกับตรง
00:03:16 → 00:03:18 นี้เนี่ยก็จะมีส่วนที่สำคัญก็คือเรื่อง
00:03:18 → 00:03:21 ของสมองเรื่องของฮอร์โมนนะคะซึ่งเกี่ยว
00:03:21 → 00:03:24 กับเรื่องของการเผาผลาญอาหารนะคะในส่วน
00:03:24 → 00:03:26 ของสมองเองก็จะเป็นตัวที่จะควบคุมเกี่ยว
00:03:26 → 00:03:28 กับการทำงานการหลั่งสารฮอร์โมนต่างๆของ
00:03:28 → 00:03:31 ร่างกายนะนี้ก็จะเป็นตัวหลักๆหรือว่าอีก
00:03:31 → 00:03:32 อันนึงก็จะเป็นเรื่องของการอักเสบของร่าง
00:03:32 → 00:03:34 กายก็ได้อย่างเช่นบางทีเนี่ยเรามีภาวะการ
00:03:34 → 00:03:36 อักเสบของร่างกายซ่อนเร้นอยู่นะคะอย่าง
00:03:36 → 00:03:39 เช่นเรื่องของภูมิแพ้เรืรังนะคะซึ่งเ่อก็
00:03:39 → 00:03:41 เป็นสาเหตุนึงที่เราเจอบ่อยแต่ว่าคนส่วน
00:03:41 → 00:03:42 ใหญ่เนี่ยไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองเนี่ยแพ้
00:03:42 → 00:03:45 อะไรนะคะก็อาจจะเป็นสิ่งที่เราทานเป็น
00:03:45 → 00:03:47 ประจำแล้วเราก็ไม่รู้นะคะแล้วก็ทำให้เกิด
00:03:47 → 00:03:49 การอักเสบของร่างกายซ่อนเร้นอยู่แล้วก็ทำ
00:03:49 → 00:03:52 ให้เอ่อมีอาการบวมน้ำอ๋อเป็นอาการอ้วนแบบ
00:03:52 → 00:03:55 บวมน้ำไม่ใช่อ้วนไขมันใช่มั้ยคะใช่ค่ะก็
00:03:55 → 00:03:58 จะมีอยู่หลายๆสาเหตุอ่ะค่ะที่ที่เ่อทำให้
00:03:58 → 00:04:02 อ้วนได้นอกเหนือจากภาวะที่เอ่อเรากินตาม
00:04:02 → 00:04:05 ใจปากอะไรบางทีก็เครียดเอ่อเวลาคนเครียด
00:04:05 → 00:04:07 เนี่ยมีการหลังฮอร์โมนความเครียดก็เป็น
00:04:07 → 00:04:10 ตัวนึงที่ทำให้เกิดสาเหตุของความอ้วนได้
00:04:10 → 00:04:13 แล้วก็อย่างกรณีของกรรมพันธ์ล่ะคะคุณหมอ
00:04:13 → 00:04:15 อันนี้จะทำให้เราอ้วนได้มั้ยคะโอได้อยู่
00:04:15 → 00:04:17 แล้วก็ตอนที่แล้วเราคุยกันไปแล้วเรื่อง
00:04:17 → 00:04:20 ของพันธุกรรมใช่มั้ยคะว่าพันธุกรรมก็เป็น
00:04:20 → 00:04:23 สาเหตุหนึงที่ทำให้เอ่อคนอ้วนนะคะมีตั้ง
00:04:23 → 00:04:26 แต่เ่ออ้วนพันธุกรรมที่เกิดจากยินเดียว
00:04:26 → 00:04:28 ซึ่งจะเกิดตั้งแต่เด็กๆเลยกับอีกกลุ่มนึง
00:04:28 → 00:04:30 ก็คือกลุ่มที่เกิด
00:04:30 → 00:04:32 จากยีนหลายตัวซึ่งพรุ่งนี้เนี่ยนอกเหนือ
00:04:32 → 00:04:34 จากพันธุกรรมแลนอกเหนือจากยีนแล้วจะต้อง
00:04:34 → 00:04:37 เอมีเรื่องของสิ่งแวดล้อมภายนอกเข้าไป
00:04:37 → 00:04:40 เกี่ยวข้องด้วยอย่างเช่นอาจจะทานเยอะนะ
00:04:40 → 00:04:42 กว่าที่เราใช้นะคะแล้วก็ไม่ได้ออกกำลัง
00:04:42 → 00:04:45 กายนะคะหรือว่าไม่ได้นอนหลับอย่างเงี้ย
00:04:45 → 00:04:47 แต่พักผ่อนเต็มที่ก็เป็นสาเหตุนึงที่
00:04:47 → 00:04:49 ประกอบกันแล้วก็ทำให้เกิดอาการอ้วนได้แต่
00:04:49 → 00:04:52 ถ้าสาเหตุจากภายหลังเนี่ยบางทีแล้วก็จะพบ
00:04:52 → 00:04:56 ว่าเอ่อเอถ้าเราควบคุมนะคะควบคุมปัจจัย
00:04:56 → 00:04:59 อื่นอย่างเช่นเรารับประทานอาหารที่ดีเรา
00:04:59 → 00:05:01 ออกอกำลังกายนะคะแล้วก็ใช้พลังงานให้พอ
00:05:01 → 00:05:04 กับเ่อใช้พลังงานให้เท่ากับที่เราที่เรา
00:05:04 → 00:05:08 เ่อที่เราอะไรอ่ะที่เราเผาพันพลไปทุกวัน
00:05:08 → 00:05:10 เนี่ยมันก็ใช่มันก็จะทำให้ไม่อ้วนถ้ามัน
00:05:10 → 00:05:12 เท่ากันมันก็ไม่อ้วนอย่าเงี้ยคอันนี้ความ
00:05:12 → 00:05:14 หมายของคุณหมอคือว่าถ้าเกิดกรพันธ์อย่าง
00:05:14 → 00:05:16 เรามีคุณพ่อคุณแม่หรือคุณปู่คุณย่าอ้วน
00:05:16 → 00:05:19 อย่างงี้นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะอ้วน
00:05:19 → 00:05:21 ถ้าเรามีพฤติกรรมที่ที่เหมาะสมทำทำตัวให้
00:05:21 → 00:05:25 ถูกต้องกินแล้วก็ใช้ออกให้ทหมดใช่คือถ้า
00:05:25 → 00:05:28 สมมุติว่าเถ้าสมมุติว่าพ่อกับแม่อ้วนเรา
00:05:28 → 00:05:32 ก็จะมีโอกาสอ้วถึง 80% เพราะว่าอะไรคะอัน
00:05:32 → 00:05:34 นี้คือพันธุกรรมนะคะก็คือความเสี่ยงเอ่อ
00:05:34 → 00:05:36 ความเสี่ยงของพันธุกรรมถ้าสมมุติว่าเรามี
00:05:36 → 00:05:38 ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ที่อ้วนเราก็จะมี
00:05:38 → 00:05:41 โอกาสที่จะอ้วนได้ถึง 80% แต่ถ้าเรามีเ่อ
00:05:41 → 00:05:44 คุณพ่อหรือคุณแม่อ้วนเราก็จะมีโอกาสเพียง
00:05:45 → 00:05:49 แค่ 40% ค่ะหรือถ้าเอ่อถ้าไม่มีคุณพ่อคุณ
00:05:49 → 00:05:51 แม่อ้วนเลยอันนี้เราก็มีโอกาสได้เหมือน
00:05:51 → 00:05:53 กันคือไม่ใช่ไม่มีอะไคือ 7% 7% ใช่อัน
00:05:53 → 00:05:55 นี้ก็เป็นเรื่องของพันธุกรรมซึ่งมีผลต่อ
00:05:55 → 00:05:57 ความอ้วนแต่อย่างที่บอกว่าไม่ได้หมายความ
00:05:57 → 00:05:58 ว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่อ้วนแล้วเราจะต้อง
00:05:59 → 00:06:01 เจริญจะลอยตามคุณพ่อคุณแม่อะไรเงี้ยคือ
00:06:01 → 00:06:03 ไม่จำเป็นนะคะถ้าเราดูแลตัวเองดีเรารับ
00:06:03 → 00:06:05 ประทานอาหารดีออกกำลังกายดีมีการเผาผลาญ
00:06:05 → 00:06:09 ของร่างกายดีไม่มีความผิดปกติของฮอร์โมน
00:06:09 → 00:06:12 แล้วก็เอ่อไม่มีการอักเสบในร่างกายนะคะ
00:06:12 → 00:06:14 อันนี้ก็จะทำให้ปัญหาอ้วนไม่ใช่ปัญหาของ
00:06:15 → 00:06:17 เราค่ะแล้วอย่างที่คุณหมอได้ยืนยันอีก
00:06:17 → 00:06:18 ครั้งนึงว่าความอ้วนเนี่ยก็คือเกิดจาก
00:06:19 → 00:06:20 กรรมพานที่คุณหมอได้แบ่งสัดส่วนเป็น
00:06:20 → 00:06:22 เปอร์เซ็นต์นะคะนายอยากจะถามคุณหมอค่ะว่า
00:06:22 → 00:06:24 ความอ้วนที่เกิดจากกรรมพันธ์น่ะค่ะกับ
00:06:24 → 00:06:27 ความอ้วนที่เกิดจากการกินอาหารของเราที่
00:06:27 → 00:06:29 เรียกว่ากินไม่ถูกวิธีเนี่ยนะคะอย่าง
00:06:29 → 00:06:31 รักษายากกว่ากันคะ
00:06:31 → 00:06:34 เอ่อจริงๆแล้วถ้าอ้วนจากพันธุกรรมอย่าง
00:06:34 → 00:06:36 ที่บอกว่ามันจะมีความรุนแรงมากกว่าก็จะ
00:06:36 → 00:06:39 เกิดขึ้นตั้งแต่เด็กอนะคะแต่ว่าถ้าเป็น
00:06:39 → 00:06:41 อ้วนอย่างเรารับประทานไม่ถูกวิธีเนี่ยมัน
00:06:41 → 00:06:44 ก็จะลดง่ายกว่านะค่ะแล้วสำหรับเอ่อวิธี
00:06:45 → 00:06:47 การที่เนยได้กล่าวกับท่านผู้ชมไปตอนแรกนะ
00:06:47 → 00:06:50 คะเรื่องของการสแกนนะคะคุณหมอสแกนไบโอ
00:06:50 → 00:06:52 สแกนเนี่ยเราจะสามารถสแกนรู้ได้ทั้ง
00:06:52 → 00:06:54 พันธุกรรมเอ่อแล้วก็ความอ้วนที่เกิดจาก
00:06:54 → 00:06:57 การรับประทานอาหารเลยยคะจริงๆแล้วการตรวจ
00:06:57 → 00:06:59 Total biosan เนี่ยมันเป็นการการหา
00:07:00 → 00:07:03 สาเหตุนะคะของความอ้วนเพราะว่าถ้าเรา
00:07:03 → 00:07:06 รักษาความอ้วนโดยที่เราไม่รู้ว่าสาเหตุ
00:07:06 → 00:07:08 ของความอ้วนคืออะไรมันก็จะเป็นสาเหตุที่
00:07:08 → 00:07:11 ทำให้เรารักษาไม่ด้วยผลอถูกมคะเพราะะนั้น
00:07:11 → 00:07:14 การรักษาก็คือต้องรักษาที่ต้นเหตุต้นเหตุ
00:07:14 → 00:07:16 อยู่ที่ไหนก็ไปรักษาที่ต้นเหตุงั้นการใช้
00:07:16 → 00:07:18 to b scan เนี่ยจะเป็นการที่ช่วยบอก
00:07:18 → 00:07:22 การทำงานของอวัยวะของร่างกายในภาพรวมค่ะ
00:07:22 → 00:07:25 แล้วก็ทำให้เรารู้ว่าสาเหตุที่ทำให้คน
00:07:25 → 00:07:29 เนี้ยอ้วนมีอะไรบ้างเขามีความเสี่ยงที่จะ
00:07:29 → 00:07:31 เกิดเกิดเอ่อโรคอ้วนจากอะไรบ้างแล้วก็ที่
00:07:31 → 00:07:35 สำคัญก็คือเขาจะเ่อเขามีปัญหาหรือผลแทรก
00:07:35 → 00:07:37 ซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วนหรือยังเพราะอย่า
00:07:37 → 00:07:40 ลืมว่าอ้วนก็คือโรคค่ะนะคะอ้วนก็คือความ
00:07:40 → 00:07:43 เสื่อมของร่างกายชนิดหนึ่งอ้วนถ้าเราเป็น
00:07:43 → 00:07:45 ตอนอายุมากๆอ้วนก็เป็นความเสื่อมเป็นความ
00:07:45 → 00:07:48 แก่อย่างหนึ่งนะคะของมนุษย์ใช่ค่ะสังเกต
00:07:48 → 00:07:52 คนอ้วนเนี่ยก็มักจะดูแก่ดูชราภาพกว่าคน
00:07:52 → 00:07:54 ที่ไม่อ้วนคือเขาจะมีความเสื่อมในร่างกาย
00:07:54 → 00:07:57 มากกว่าปกติเขาก็จะมีโรคมากกว่าปกติอ๋อ
00:07:57 → 00:07:59 คือไม่ใช่เป็นเรื่องของความสวยงามอย่าง
00:07:59 → 00:07:59 เดียว
00:07:59 → 00:08:02 ว่าตัวโที่แทรกซ้อนด้วยใช่ค่ะค่ะแล้วก็ใน
00:08:03 → 00:08:06 ส่วนของไกนเนี่ยค่ะคุณหมอขั้นตอนการทำ
00:08:06 → 00:08:08 ต้องมีการตรวจเลือดด้วยใช่มั้คะคือการ
00:08:08 → 00:08:11 ตรวจเสแกนเนี่ยจะใช้เป็นเหมือนกับเป็นการ
00:08:11 → 00:08:14 วินิจฉัยเบื้องต้นเอ่อเป็นการ screening
00:08:14 → 00:08:16 อย่าใช้คำว่าวินิจฉัยก็คือเป็นการเป็นการ
00:08:16 → 00:08:19 สกรีนก็คือเอ่อเป็นการเหมือนกับวิเคราะห์
00:08:19 → 00:08:22 กรองค่ะนะคะแยกแล้วก็ดูหน้าที่การทำงาน
00:08:22 → 00:08:25 ของอวยวะต่างๆเพราะว่าหลักการของมันก็คือ
00:08:25 → 00:08:28 มันเป็นการผ่านกระแสนะคะเข้าไปในร่างกาย
00:08:28 → 00:08:31 คือร่างกายเราเนี่ยทำงานเอ่อในแต่ละ
00:08:31 → 00:08:33 อวัยวะของเราเนี่ยมันจะมีความต้านทานต่อ
00:08:33 → 00:08:36 กระแสไฟฟ้าค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่มัน
00:08:36 → 00:08:39 มีความเวลาที่เราผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปมัน
00:08:39 → 00:08:42 ก็จะเกิดความแตกต่างนะคะของกระแสไฟแล้ว
00:08:42 → 00:08:44 เราก็วัดค่าความแตกต่างของความต้านทานนั
00:08:44 → 00:08:48 น่ะออกมาเป็นเ่อค่าทางสถิติที่เขาคำนวณมา
00:08:48 → 00:08:51 เรียบร้อยแล้วแล้วก็บอกประมาณได้ว่านะคะ
00:08:51 → 00:08:54 เอ่อในแต่ละอวัยวะเนี่ยมีการทำงานเพิ่ม
00:08:54 → 00:08:57 ขึ้นหรือน้อยลงหรือมีความเสี่ยงของการ
00:08:57 → 00:09:02 เกิดโรคอะไรบ้างค่ะก็จะเหมือนกับเป็นการ