00:00:02 → 00:00:04 ภาวะผมบางจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมน
00:00:05 → 00:00:08 เป็นที่น่าสนใจว่าในช่วงนี้ เจอผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อย ๆนะคะ
00:00:08 → 00:00:12 บางคนก็เริ่มมีอาการ ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบก็มีนะคะ
00:00:12 → 00:00:22 [เสียงดนตรี]
00:00:22 → 00:00:25 (คนไข้) มีอาการผมบางครับ ศีรษะล้าน
00:00:25 → 00:00:28 (หมอ) ก็คือสังเกตว่าผมบางลงใช่ไหมคะ
00:00:28 → 00:00:29 เป็นมานานหรือยังคะ
00:00:29 → 00:00:32 (คนไข้) จริง ๆ ก็เป็นมาเกือบ 10 ปีได้แล้ว
00:00:32 → 00:00:37 แต่ผมรู้สึกว่าช่วงนี้มันจะมองกระจกแล้ว มันจะดูบางลงกว่าเดิมเยอะเลย
00:00:37 → 00:00:39 ภาวะผมบางจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมน
00:00:39 → 00:00:43 การวินิจฉัย จริง ๆ แล้ว หลัก ๆ ก็เป็นการซักประวัติ ตรวจร่างกาย
00:00:43 → 00:00:48 แล้วก็อาจจะใช้เครื่องมือ ที่เรียกว่า Dermoscope ช่วยส่องดู
00:00:48 → 00:00:52 ส่องดูแล้ว ความหนาแน่นของผมบริเวณ ด้านหนัากับตรงกลางศีรษะ
00:00:52 → 00:00:53 ความหนาแน่นน้อยกว่าด้านหลัง
00:00:53 → 00:00:57 แล้วก็จะมีลักษณะผมเส้นเล็กเส้นใหญ่สลับกัน
00:00:57 → 00:00:59 ถ้าเกิดผู้ป่วยไม่ได้มีลักษณะหนังศีรษะอักเสบ
00:00:59 → 00:01:01 หรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ นี่
00:01:01 → 00:01:04 เวลาเราดึงผม หรือการทำที่เรียกว่า Hair pulling test
00:01:04 → 00:01:07 มันก็จะไม่ได้มีผมร่วงติดมือออกมาด้วย
00:01:07 → 00:01:09 ก็จะมีแต่ผมบางลงอย่างเดียวค่ะ
00:01:09 → 00:01:11 ก็จากที่ตรวจร่างกายนะคะ
00:01:11 → 00:01:14 แล้วก็จากประวัติเมื่อสักครู่หมอตรวจแล้ว
00:01:14 → 00:01:16 ก็ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร
00:01:16 → 00:01:17 สิ่งที่ตรวจเจอก็คือ
00:01:17 → 00:01:21 ลักษณะผมบางลง ผมเส้นเล็กลงนะคะ
00:01:21 → 00:01:24 เป็นมากบริเวณกลางศีรษะและด้านหน้า
00:01:24 → 00:01:28 ซึ่งลักษณะเหล่านี้ มันเข้าได้กับ ภาวะผมบางจากพันธุกรรมฮอร์โมน
00:01:28 → 00:01:31 การรักษาอย่างแรกนะคะ ยาทา
00:01:31 → 00:01:33 ก็คือจะเป็นกลุ่มของ Minoxidil
00:01:33 → 00:01:36 ให้ทาบริเวณหนังศีรษะ เช้าและเย็น
00:01:36 → 00:01:37 เวลาทาต้องทาให้สม่ำเสมอ
00:01:37 → 00:01:39 ความสม่ำเสมอมีความสำคัญ
00:01:39 → 00:01:41 ในส่วนของยารับประทาน
00:01:41 → 00:01:43 จะเป็นยากลุ่มต้านฮอร์โมนเพศชาย
00:01:43 → 00:01:46 แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ยากลุ่มนี้มันมีผลข้างเคียง
00:01:46 → 00:01:48 ประมาณ 3-4% ของคนที่กิน
00:01:48 → 00:01:52 อาจจะมีเรื่องอารมณ์ทางเพศลดลง สมรรถภาพทางเพศแย่ลง
00:01:52 → 00:01:54 ผู้ชายอาจจะมีเนื้อเต้านมเพิ่มขึ้น
00:01:54 → 00:01:57 มีเจ็บเต้านม มีเจ็บหน่วงบริเวณอัณฑะ
00:01:57 → 00:01:59 หรือว่ามีอารมณ์แปรปรวน
00:01:59 → 00:02:02 ไม่ว่าจะเป็นด้านซึมเศร้าหรืออารมณ์รุนแรง
00:02:02 → 00:02:05 ก่อนกินยา ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ แล้วก็มาคุย
00:02:05 → 00:02:08 เพราะว่าจริง ๆ แล้ว มันมีรายละเอียดของ ข้อห้ามใช้อะไรอย่างนี้อีก
00:02:08 → 00:02:10 (หมอ) คนไข้อยากจะเริ่มจากยาทา
00:02:10 → 00:02:14 ส่วนยารับประทาน คนไข้อาจจะเริ่มกินไปเลยไหม
00:02:14 → 00:02:17 หรือว่าอยากจะลองดูผลของยาทาก่อน
00:02:17 → 00:02:21 แต่ว่าการใช้ยา อาจจะมี การปรับเพิ่มขึ้น ลดลง ตามอาการ
00:02:21 → 00:02:23 สมมุติถ้าเกิดเรากินยา ทายาไปเต็มที่
00:02:23 → 00:02:26 แต่ว่าถ้าอาการดี เราอาจจะมีการลดยา พักยา
00:02:26 → 00:02:28 หรือว่าปรับชนิดของยาได้ค่ะ
00:02:28 → 00:02:30 การรักษาอื่น ๆ
00:02:30 → 00:02:34 การฉีดกลุ่ม PRP หรือ Platelet-rich plasma
00:02:34 → 00:02:38 การฉีด PRP ก็เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
00:02:38 → 00:02:43 การทำก็คือจะดูดเลือด ก็คือใช้เลือดของคนไข้เองออกมาปั่น
00:02:43 → 00:02:45 พอปั่นแล้ว เราจะเอาเฉพาะส่วนที่มันเป็น
00:02:45 → 00:02:49 เกล็ดเลือดเข้มข้น กับส่วนที่เป็นน้ำเหลืองหรือพลาสมา
00:02:49 → 00:02:52 มาฉีดกลับบริเวณหนังศีรษะคนไข้
00:02:52 → 00:02:55 ในส่วนที่เรามาฉีด มันจะมีตัว Growth Factor
00:02:55 → 00:02:59 ที่ทำให้กระตุ้นให้ผมมันขึ้นดีขึ้น หรือลดการหลุดร่วง
00:02:59 → 00:03:03 ปริมาณผมที่เพิ่มขึ้นอาจจะ 10-20%
00:03:03 → 00:03:06 หรือว่าในบางรายก็อาจจะได้ผลดีกว่านั้น
00:03:06 → 00:03:12 การฉีด PRP ก็แนะนำว่า ควรจะเป็นการรักษาเสริม
00:03:12 → 00:03:14 ในกรณีที่ทำสองอย่างแรกแล้ว
00:03:14 → 00:03:19 หรือว่ามีข้อจำกัดในการกินยาทายา ก็อาจจะใช้การรักษาพวกนี้ได้
00:03:22 → 00:03:25 การผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผม มันมีหลายแบบ
00:03:25 → 00:03:27 หมายถึงว่า บางคนบางไม่มาก
00:03:27 → 00:03:28 แต่ต้องการแก้ไขรูปหน้า
00:03:28 → 00:03:31 ก็อาจจะผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผมได้เลย
00:03:31 → 00:03:34 แต่ว่าในบางกรณีที่ต้องการเสริม
00:03:35 → 00:03:37 กินยา ทายาไปแล้ว รู้สึกว่ายังได้ผลไม่เต็มที่
00:03:37 → 00:03:40 ก็อาจจะผ่าตัดปลูกเสริมได้
00:03:40 → 00:03:42 แต่ว่าการผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผม
00:03:42 → 00:03:45 จะนำผมบริเวณท้ายทอยย้ายไปบริเวณด้านหน้า
00:03:45 → 00:03:47 มันจะทำให้ผมบริเวณที่ย้ายมาปลูก
00:03:47 → 00:03:51 มันไม่ค่อยไวกับฮอร์โมน ทำให้ผมบริเวณนั้นมันไม่ค่อยบางลง
00:03:51 → 00:03:54 อีกอย่างหนึ่งที่คนไข้มักจะเข้าใจผิดก็คือว่า
00:03:54 → 00:03:56 ผมบริเวณท้ายทอยมันจะไม่ขึ้นใหม่แล้ว
00:03:56 → 00:03:58 ผมบริเวณด้านหลัง มันก็จะบางลง
00:03:58 → 00:04:01 แต่ว่าบางทีไม่ได้สังเกตเห็นได้ว่า มันบางลงชัดเจนนะคะ
00:04:01 → 00:04:03 การผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผมนี่
00:04:03 → 00:04:05 ถ้าเกิดเราทำเสริมแล้ว
00:04:05 → 00:04:07 ยังไงก็ต้องกินยาทายาต่อนะคะ
00:04:07 → 00:04:09 เพราะว่าถ้าเกิดไม่กินยาทายา
00:04:09 → 00:04:11 ผมบริเวณเดิม มันจะบางลง
00:04:11 → 00:04:14 (หมอ) เดี๋ยวครั้งต่อไป หมดนัดที่ 1 เดือน
00:04:14 → 00:04:17 ถ้าเกิดคนไข้ใช้ยาแล้วมีปัญหาอะไร
00:04:17 → 00:04:19 สามารถหยุดใช้ได้ทันทีนะคะ
00:04:19 → 00:04:24 แล้วก็มาก่อนนัด เพื่อมาพูดคุยกันว่า เราจะปรับการรักษาอย่างไร
00:04:24 → 00:04:27 ปกติการรักษา ภาวะผมบางจากพันธุกรรมฮอร์โมน
00:04:27 → 00:04:30 กว่าจะเริ่มเห็นผลการรักษา อาจจะประมาณ 3-6 เดือน
00:04:30 → 00:04:33 แล้วก็จะเห็นผลเต็มที่ที่ 1-2 ปี
00:04:33 → 00:04:37 ภาวะผมบางจากพันธุกรรมฮอร์โมน เรายังแก้ไปที่ตัวพันธุกรรมไม่ได้
00:04:37 → 00:04:40 ยังไงการรักษา ก็คงต้องต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ค่ะ
00:04:40 → 00:04:44 อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า ถ้าเกิดรีบรักษา จะได้ผลดีกว่านะคะ
00:04:44 → 00:04:47 แล้วก็มีโอกาสผมดกดำมากขึ้น
00:04:47 → 00:04:54 [เสียงดนตรี]
00:04:54 → 00:04:57 ถ้าคุณมีปัญหาสุขภาพ อย่าลืมมาพบหมอกันนะคะ