00:00:00 → 00:00:03 This is Thai PBS Podcast. Vi the
00:00:03 → 00:00:06 world by the voice
00:00:06 → 00:00:08 >> คนที่ชอบความรุนแรงเข้าไปจับคู่กับคน
00:00:08 → 00:00:12 ธรรมดาหรือคนที่เป็นมาซิที่ชอบให้คนทำ
00:00:12 → 00:00:14 รุนแรงกับตัวเองเนี่ยพี่ตบหนูหน่อยพี่ด่า
00:00:14 → 00:00:17 หนูแรงๆซิอะไรอย่างเงี้ยคนธรรมดาอาจจะรับ
00:00:17 → 00:00:20 ไม่ได้คนไทยเนี่ยคิดว่าการสร้างร่องรอย
00:00:20 → 00:00:23 ต่างๆของการมีเซ็ก์เนี่ยเป็นเรื่องดีถาม
00:00:23 → 00:00:25 ว่าถ้าคนนึงแฮปปี้แต่อีกคนนึงไม่แฮปปี้
00:00:25 → 00:00:27 เพราะคนที่มันถูกสร้างรอยมันต้องเจ็บทั้ง
00:00:27 → 00:00:29 เจ็บทั้งทรมานกับการมีเพศสัมพันธ์แล้วมัน
00:00:29 → 00:00:32 จะดีได้ยังไงผู้หญิงไม่เหมือนผู้ชายไงค่ะ
00:00:32 → 00:00:35 >> ผู้ชายเนี่ยหนัง X ชอบแต่ผู้หญิงเนี่ยเรท
00:00:35 → 00:00:37 R โอเคการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีและปลอดภัย
00:00:37 → 00:00:40 เนี่ยมันต้องอาศัยความเข้าใจนะอาศัยความ
00:00:40 → 00:00:43 รับผิดชอบแล้วก็การสื่อสารที่ดีระหว่างคน
00:00:43 → 00:00:46 รักกันด้วย
00:00:46 → 00:00:50 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:50 → 00:00:53 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:53 → 00:00:56 >> This is Thai PBS Podcast
00:00:56 → 00:00:59 >> คุณผู้ฟังวันนี้สิ่งที่ควรรู้เพื่อให้
00:00:59 → 00:01:01 เซ็ก์นั้นดีและปลอดภัยนะคะเอาจริงจริงๆ
00:01:01 → 00:01:04 คุณผู้ฟังก็อาจจะรู้บ้างแล้วแหละแต่ว่า
00:01:04 → 00:01:07 บางอย่างมันสนุกสนานมันแบบเอ้ยมันดีก็
00:01:07 → 00:01:11 จริงแต่ว่ามันปลอดภัยมนะคะแต่ความปลอดภัย
00:01:11 → 00:01:13 นี้ก็เป็นทั้งต้องเป็นทั้ง 2 ฝ่ายด้วยนะ
00:01:13 → 00:01:15 คุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.
00:01:15 → 00:01:17 จันทร์วิภาสัมพันธ์ผู้ทรงคุณวุฒิ
00:01:17 → 00:01:20 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาผู้
00:01:20 → 00:01:22 เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และครอบครัวค่ะ
00:01:22 → 00:01:23 สวัสดีค่ะอาจารย์คะ
00:01:23 → 00:01:26 >> ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุกท่าน
00:01:26 → 00:01:26 ค่ะ
00:01:26 → 00:01:29 >> ค่ะเดี๋ยวนี้ก็ค่อนข้างจะฟรี one วัน
00:01:29 → 00:01:32 สแตน์เห็นกันครั้งเดียวเอ้ยถูกใจหรืออาจ
00:01:32 → 00:01:35 จะเป็นลักษณะของการไปเที่ยวหรืออะไรก็
00:01:35 → 00:01:38 แล้วแต่มีการมีเพศสัมพันธ์กันหรืออะไร
00:01:38 → 00:01:41 หรือการที่เป็นคู่รักของตัวเองเพราะเอ่อ
00:01:41 → 00:01:42 สามีภรรยาอะไรก็แล้วแต่
00:01:42 → 00:01:45 >> เคยเห็นค่ะตัวเขี่ยวช้ำเป็นจ้ำเลยเฮ้ยไป
00:01:45 → 00:01:49 โดนอะไรมาอะไรเงี้ยค่ะก็เลยบอกว่าก็การมี
00:01:49 → 00:01:51 เซ็ก์แหละแล้วทำไมมันต้องช้ำขนาดนี้อ่ะ
00:01:51 → 00:01:54 เฮ้ยมันไปทั้งตัวอันนี้มันคือโอเคหรอหรือ
00:01:54 → 00:01:56 ยังไงเราเราควรจะมีเซ็ก์แบบไม่ได้ต้องทำ
00:01:56 → 00:01:59 ร้ายกันหรือทำไมมันช้ำอ่ะยังยังสงสัยอยู่
00:01:59 → 00:02:02 อันเนี้ยเขาอาจเป็นความพึงพอใจส่วนตัว
00:02:02 → 00:02:04 >> ถ้าถึงขั้นเหล่าเนี้ยที่คุณสุรีพรเล่า
00:02:04 → 00:02:06 เนี่ยบางทีมันเวอร์ไป
00:02:06 → 00:02:07 >> อื
00:02:07 → 00:02:10 >> นะฮะคำว่ามันมากเกินไปจนกระทั่งกลายเป็น
00:02:10 → 00:02:12 เหมือนกับภาษาอังกฤษเ้าเรียกว่า
00:02:12 → 00:02:15 เซ็กซีเวียนคือการเบี่ยงเบนทางเพศไปและ
00:02:15 → 00:02:18 >> นึกออกมั้ฮะเอ่อมันไม่ได้เป็นลักษณะเอ่อ
00:02:18 → 00:02:20 อย่างเช่นที่คุณสุริพรกำลังพูดเนี่ยเป็น
00:02:20 → 00:02:23 ลักษณะของซาดิตหรือมาโซคิสถูกมั้ยคะซึ่ง
00:02:23 → 00:02:26 มันเป็นลักษณะของการเบี่ยงเบนทางจิต
00:02:26 → 00:02:28 เกี่ยวกับเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ไปอีก
00:02:28 → 00:02:29 แบบนึงและ
00:02:29 → 00:02:29 >> อ
00:02:29 → 00:02:32 >> แต่ถ้าถามว่าเป็นโรคจิตเลยมั้ยยังตอบไม่
00:02:32 → 00:02:34 ได้ขึ้นอยู่กับคู่
00:02:34 → 00:02:37 >> นะฮะสมมุติว่าคนที่ชอบความรุนแรงแบบเนี้ย
00:02:37 → 00:02:39 เไปจับคู่กับคนธรรมดา
00:02:39 → 00:02:42 >> คนธรรมดาอาจจะรับไม่ได้ใช่มั้ฮะที่ต้องมี
00:02:42 → 00:02:47 รอยดูดรอยกัดลอยอะไรเนี่ยที่ว่าช้ำทั้ง
00:02:47 → 00:02:48 ตัวเนี่ยนะฮะ
00:02:48 → 00:02:51 >> หรือคนที่เป็นมาโซคิสที่ชอบให้คนทำรุนแรง
00:02:52 → 00:02:55 กับตัวเองเนี่ยไปจับคู่กับคนธรรมดาพอจะ
00:02:55 → 00:02:57 หวานแหววกันเนี่ยพี่ตบหนูหน่อยพี่ด่าหนู
00:02:57 → 00:02:59 แรงๆซิอะไรอย่างเงี้ย
00:02:59 → 00:03:01 >> แล้วก็อาจจะยอมรับไม่ได้แต่ถ้าเมื่อไหร่
00:03:01 → 00:03:05 ก็ตามที่ซาดิกับมาซคิมาจับคู่กันคู่กัน
00:03:05 → 00:03:06 >> ใช่มั้ยคะ
00:03:06 → 00:03:06 >> ลงตัว
00:03:06 → 00:03:09 >> อ่าลงตัวมันเป็นเรื่องของคน 2 คนในห้อง
00:03:09 → 00:03:10 เราโหฐาน
00:03:11 → 00:03:14 >> นะฮะเป็นกิจกรรมทางเพศของเขาเพราะอเป็น
00:03:14 → 00:03:16 โรคจิตก็ไม่ได้
00:03:16 → 00:03:19 >> เอ่อใช้คำว่าเป็นรสนิยมทางเพศที่มันไม่
00:03:19 → 00:03:22 ปกติเหมือนคนทั่วๆไปในสังคมแล้วกันอ
00:03:22 → 00:03:23 >> ออือฮึ
00:03:23 → 00:03:26 >> เอ่อแล้วมันก็มีพวกสื่ออ่ะนะไอ้นิยาย
00:03:27 → 00:03:29 นิยายที่แนวอีโรติกหน่อยเนี่ยนะฮะตอน
00:03:29 → 00:03:32 เนี้ยที่สำรวจตลาดหนังสือเนี่ยนะฮะนิยาย
00:03:32 → 00:03:35 แนวแนวอีโรติกทั้งหลายเนี่ยมันก็จะต้อง
00:03:35 → 00:03:38 แสดงถึงร่องรอยของการมีเวสสัมพันธ์นะคะ
00:03:38 → 00:03:40 เพราะฉะนั้นจะมีรอยมีอะไรอย่างที่คุณว่า
00:03:40 → 00:03:41 เนี่ย
00:03:41 → 00:03:43 >> เพราะฉะนั้นคนที่อ่านหนังสือเหล่านี้แล้ว
00:03:43 → 00:03:47 เชื่อว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนเขาทำกันฮ
00:03:47 → 00:03:50 >> อ่าก็อาจจะคิดว่าเอาเหอะมันก็มีรอยบ้าง
00:03:50 → 00:03:51 อะไรอย่างนี้เป็นต้น
00:03:51 → 00:03:52 >> อ๋อ
00:03:52 → 00:03:53 >> นึกออกมั้ยคะ
00:03:53 → 00:03:56 >> หรือบางคนก็พยายามที่จะสร้างรอยให้เหมือน
00:03:56 → 00:03:58 กับในหนังสือที่เขาทำ
00:03:58 → 00:04:02 >> นึกออกมั้ยอ่าเพื่อเป็นไปตามสังคมที่เ้า
00:04:02 → 00:04:04 นิยมกันอะไรอย่างงี้เป็นต้น
00:04:04 → 00:04:06 >> อพวกหนังโป๊งหนังโป๊อะไรพวกเนี้ย
00:04:06 → 00:04:10 >> มันก็จะมีตีก้นบ้างแหละตีแรงๆเราก็โอ้โห
00:04:10 → 00:04:12 ไม่เจ็บหรออะไรอย่างเงี้ยหรือแบบเอาไอ้
00:04:12 → 00:04:13 ไอ้นู่นไอ้นั่นมาหนีบ
00:04:14 → 00:04:17 >> ส่วนใหญ่มันเป็นผลจากสื่อเช่นไอ้พวกโซ่
00:04:17 → 00:04:20 แซ่กุญแจมือเนี่ยหนังที่ดังมากก็คือ
00:04:20 → 00:04:22 >> จำชื่อเรื่องไม่ได้ที่เป็นเฉดสีสีเทาอ่ะ
00:04:22 → 00:04:25 ว่ามีกี่สีอ่ะที่มันเป็นพระเอกมันเป็น
00:04:25 → 00:04:26 ซาดิตแบบเนี้ย
00:04:26 → 00:04:26 >> ออ
00:04:26 → 00:04:30 >> อ่าแล้วก็มีนางเอกซึ่งซึ่งยอมรับการซาดิต
00:04:30 → 00:04:31 ของพระเอกได้
00:04:31 → 00:04:31 >> ค่ะ
00:04:31 → 00:04:34 >> อ่า 20 Shad of Greยอะไรเนี่ยรู้สึกจะ
00:04:34 → 00:04:35 ชื่อเรื่องอย่างนี้นะคะจำไม่ได้แล้วมัน
00:04:35 → 00:04:37 นานและเพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันก็เริ่ม
00:04:37 → 00:04:40 เข้าสู่สังคมมาก็ทำให้คนเนี่ยเริ่มมี
00:04:40 → 00:04:43 จินตนาการทางเพศที่มันหลากหลายเข้าไปนะคะ
00:04:43 → 00:04:45 แล้วอย่างที่บอกว่าตอนเนี้ยสื่อในเมือง
00:04:45 → 00:04:48 ไทยเนี่ยกำลังนิยมมากกับไอ้เรื่องอีโรติก
00:04:48 → 00:04:52 ที่แบบเห็นร่องรอยของการมีเซ็ก์กันเนี่ยอ
00:04:52 → 00:04:56 >> นะฮะตั้งแต่อีโรติกแบบเบาๆประเภทเรท 18 +
00:04:56 → 00:04:57 20 บนะ
00:04:57 → 00:04:58 >> ฮะ
00:04:58 → 00:05:00 >> อ่าอะไรพวกนี้ล่ะค่ะมันก็ทำให้คนคิดว่า
00:05:00 → 00:05:01 อ๊ะ
00:05:01 → 00:05:04 >> ต้องมีรอยสิจะแสดงว่ารักจริงแหมเพราะพระ
00:05:04 → 00:05:07 เอกก็สร้างรอยกับนางเอกเยอะเหลือเกินอะไร
00:05:07 → 00:05:08 เงี้ยในหลายๆเรื่อง
00:05:08 → 00:05:10 >> เพราะฉะนั้นตรงเนี้ยมันก็เลยทำให้เกิด
00:05:10 → 00:05:13 กระแสอันนี้ความคิดของเจ้านิพพานนะคะ
00:05:13 → 00:05:15 เพราะว่าจากการวิเคราะห์สื่อเนี่ยที่เรา
00:05:15 → 00:05:18 เราดูอยู่กันอยู่เรื่อยๆเนี่ยนะคะก็จะพบ
00:05:18 → 00:05:21 ว่ามันเป็นการสร้างกระแสอย่างหนึ่งให้คน
00:05:21 → 00:05:24 ไทยเนี่ยชอบอะไรที่ตามแฟชั่น
00:05:24 → 00:05:27 >> นึกออกมั้ยไม่ทันสมัยไม่ได้ต้องinทรนเ้า
00:05:27 → 00:05:29 เป็นยังไงต้องเป็นอย่างงั้นก็เลยคิดว่า
00:05:29 → 00:05:31 การสร้างร่องรอยต่างๆของการมีเซ็ก์เนี่ย
00:05:32 → 00:05:33 เป็นเรื่องดีอ
00:05:33 → 00:05:34 >> ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่หรอก
00:05:34 → 00:05:37 >> ถามว่าถ้าคนนึงแฮปปี้แต่อีกคนนึงไม่
00:05:37 → 00:05:39 แฮปปี้เพราะคนที่มันถูกสร้างรอยคือฝ่าย
00:05:39 → 00:05:40 หญิงเนี่ยมันต้องเจ็บถูกมั้คะ
00:05:40 → 00:05:41 >> ใช่ใช่
00:05:41 → 00:05:44 >> ทั้งกับการมีเพศสัมพันธ์แล้วมันจะดีได้
00:05:44 → 00:05:44 ยังไง
00:05:44 → 00:05:47 >> แต่หนังสืออโรติเหล่ามันมักจะให้พระเอก
00:05:47 → 00:05:50 เนี่ยเป็นปีศาจร้ายชอบผู้หญิงคนไหนก็ฉุด
00:05:50 → 00:05:54 เลยเอามานอนด้วยเลยแล้วก็รุนแรงอะไรอย่าง
00:05:54 → 00:05:58 เงี้ยนั่นมันคือตัวละครในนิยายเหล่านั้น
00:05:58 → 00:06:01 แต่ในชีวิตจริงมันยังไม่ใช่อฮ
00:06:01 → 00:06:02 >> นึกออกมั้ยคะ
00:06:02 → 00:06:05 >> เพราะว่ามันต้องการสร้างอารมณ์ให้คนอ่าน
00:06:05 → 00:06:07 เนี่ยเกิดอารมณ์ทางเพศอ
00:06:07 → 00:06:09 >> แล้วแล้วหนังสือเค้าก็จะขายได้
00:06:09 → 00:06:09 >> ค่ะ
00:06:10 → 00:06:12 >> ถูกมั้ยอ๋อสร้างจินตนยิ่งจินตนาการยิ่ง
00:06:12 → 00:06:13 แบบว่าเออ
00:06:13 → 00:06:15 >> อ่ามันคนเรามันต้องมีจินตนาการผู้หญิงไม่
00:06:15 → 00:06:18 เหมือนผู้ชายไงผู้ชายเนี่ยหนัง X ชอบแต่
00:06:18 → 00:06:21 ผู้หญิงเนี่ยเรท R โอเคต้องคิดต่อเองถูก
00:06:21 → 00:06:24 มั้ยคะอ่าเพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เลยเป็น
00:06:24 → 00:06:26 อะไรที่ทำให้คนเราเนี่ยเข้าใจผิดว่าอ๋อเ
00:06:26 → 00:06:28 ต้องมีรอยอย่างนี้เนาะถึงจะแปลว่ารักกัน
00:06:28 → 00:06:31 จริงถึงจะเป็นแมนถึงจะเป็นอะไรจริงๆมัน
00:06:31 → 00:06:32 ไม่ใช่
00:06:32 → 00:06:33 >> เออ
00:06:33 → 00:06:36 >> ถูกมั้ยคะเอาเบาๆก็ได้คือแต่ละคนไม่ได้
00:06:36 → 00:06:37 ชอบเหมือนกัน
00:06:37 → 00:06:37 >> ค่ะ
00:06:37 → 00:06:40 >> นะฮะผู้หญิงบางคนนี่เจอรุนแรงปั๊บหนีเลย
00:06:40 → 00:06:43 นะไม่เอาเลยนะกลัวกลัวมันจะแรงขึ้นเรื่อย
00:06:43 → 00:06:46 ๆเพราะว่าพวกที่เป็นซาดิตเนี่ยจริงๆเนี่ย
00:06:46 → 00:06:48 เขาก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆ
00:06:48 → 00:06:51 >> ออคือตอนแรกอาจจะยังไม่เปิดเผยอะไรเยอะพอ
00:06:51 → 00:06:54 เริ่มมีความสัมพันธไปเรื่อยๆแล้วผู้หญิง
00:06:54 → 00:06:56 เริ่มแบบทีละนิดทีละนิดแล้วเยอมรับได้อ้า
00:06:56 → 00:06:57 ทีเริ่ม
00:06:57 → 00:06:58 >> ไปเรื่อยๆ
00:06:58 → 00:06:59 >> เอออันนี้ก็อันตรายเหมือนกัน
00:06:59 → 00:07:02 >> ก็เหมือนไอ้พระเอกที่ 20 Shad of Greย
00:07:02 → 00:07:05 อะไรนนะฮะพระเอกเก็ในส่วนเขาก็แฮปปี้แหละ
00:07:05 → 00:07:07 แต่ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนผู้
00:07:07 → 00:07:08 หญิงคนอื่น
00:07:08 → 00:07:11 >> เก็ค่อยปรับๆปรับปรับตามผู้ชายไปนั่นก็
00:07:11 → 00:07:13 อะไรเพราะพื้นฐานของความรัก
00:07:13 → 00:07:13 >> ค่ะ
00:07:13 → 00:07:15 >> และรู้ว่าผู้ชายเป็นแบบเนี้ยซึ่งถ้าคน
00:07:15 → 00:07:18 อื่นก็จะยอมรับไม่ได้ว่าผิดปกติแน่นอนผู้
00:07:18 → 00:07:20 ชายเองก็รู้ตัวเพราะฉะนั้นเค้าก็จะไม่ให้
00:07:20 → 00:07:23 คนอื่นมาเห็นไอ้ห้องพิเศษของเค้าเนี่ย
00:07:23 → 00:07:26 >> อ๋ออาจารย์บอกว่า
00:07:26 → 00:07:28 >> ที่ยอมเนี่ยก็เพราะว่าด้วยความรัก
00:07:28 → 00:07:29 >> อือฮึ
00:07:29 → 00:07:31 >> เปลี่ยนตัวเองหรืออะไรแบบเนี้ยเอ้ยมันก็
00:07:31 → 00:07:33 มีคนผู้หญิงพร้อมที่จะหรือเอาผู้ชายก็ได้
00:07:33 → 00:07:35 นะใครก็ได้เอางี้ดีกว่า
00:07:35 → 00:07:37 >> เขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเพื่อ
00:07:37 → 00:07:38 >> คนที่เรัก
00:07:38 → 00:07:39 >> ใช่ใช่
00:07:39 → 00:07:42 >> ถ้าเเปลี่ยนได้ก็โอเคแต่บางคนเปลี่ยนด้วย
00:07:42 → 00:07:43 ความฝืนใจ
00:07:43 → 00:07:46 >> แล้วในที่สุดมันก็จะความอดทนคนเรามันก็จะ
00:07:46 → 00:07:46 สิ้นสุด
00:07:46 → 00:07:47 >> อื
00:07:47 → 00:07:48 >> ถูกมั้ยคะ
00:07:48 → 00:07:51 >> แต่มันถ้าเกิดมันอันตรายอ่ะมันก็ไม่ควรนะ
00:07:51 → 00:07:53 >> เนี่ยเนี่ยคือสิ่งที่เรากำลังจะพูดกันว่า
00:07:54 → 00:07:56 อะไรล่ะที่จะช่วยให้เซ็ก์ที่ดีและปลอดภัย
00:07:56 → 00:07:59 ขีดเส้นใต้ 3 เส้นต้องคำว่าปลอดภัยค่ะ
00:07:59 → 00:07:59 >> อ่า
00:07:59 → 00:08:02 >> ถูกมั้ฮะเพราะฉะนั้นการที่เราจะมีความสุข
00:08:02 → 00:08:04 ด้วยแล้วก็มีความปลอดภัยด้วยในเรื่องของ
00:08:04 → 00:08:07 การมีเพศสัมพันธ์ปลอดภัยจากอะไรคะปลอดภัย
00:08:07 → 00:08:09 จากโรคปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พึง
00:08:09 → 00:08:13 ประสงค์ถูกมั้คะแล้วก็เพื่อให้มีการสื่อ
00:08:13 → 00:08:15 สารที่ดีระหว่างคนรักแล้วทั้งคู่ก็มี
00:08:15 → 00:08:17 สุขภาพที่ดีด้วยหลังการมีเพศสัมพันธ์
00:08:17 → 00:08:20 เนี่ยนะฮะอาจารย์วิภาอยากคิดถึง 5 ข้อ
00:08:20 → 00:08:22 ด้วยกันข้อที่ 1 ก็คือในเรื่องของการใช้
00:08:22 → 00:08:25 ถุงยางอนามัยถุงยางอนามัยเนี่ยในขณะนี้นะ
00:08:25 → 00:08:28 คะมันยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราค้นพบ
00:08:28 → 00:08:31 ได้ในสมัยนี้อยู่นะคะก็คือว่า
00:08:31 → 00:08:34 >> มันสามารถช่วยป้องกันได้ทั้งโรคติดต่อทาง
00:08:34 → 00:08:38 เพศสัมพันธ์นะคะรวมทั้งด้วยนะคะไม่ว่าจะ
00:08:38 → 00:08:41 เป็นหนองไซิฟิสอะไรก็แล้วแต่เนี่ยนะคะ
00:08:41 → 00:08:43 แล้วก็ยังป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึง
00:08:43 → 00:08:44 ประสงค์ได้ด้วย
00:08:44 → 00:08:44 >> ค่ะ
00:08:44 → 00:08:47 >> นั่นก็คือนึกภาพนะคะว่าถุงยาอนามัยเนี่ย
00:08:47 → 00:08:51 มันก็จะกั้นนะฮะหรือกักเก็บน้ำอสุจิเอา
00:08:51 → 00:08:54 ไว้ซึ่งมันเป็นตัวแพร่เชื้อถูกมั้ยคะแล้ว
00:08:54 → 00:08:56 ก็เป็นตัวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ด้วย
00:08:56 → 00:09:00 >> นะฮะแต่การจะใช้ถุงยาอนามัยก็ไม่ใช่ศัก
00:09:00 → 00:09:04 แต่ว่าจะใช้อย่างแรกนะคะให้ดูเสมอตรวจสอบ
00:09:04 → 00:09:07 วันที่หมดอายุข้างกล่องให้ดีนะคะเพราะว่า
00:09:07 → 00:09:11 พอพอมันเลยเนี่ยสภาพมันจะเสื่อมนะฮะเช่น
00:09:11 → 00:09:13 ถุงยางมันอาจจะรั่วอาจจะแตก
00:09:13 → 00:09:17 >> นะคะรวมทั้งการเก็บรักษาด้วยบางทีเนี่ยไป
00:09:17 → 00:09:19 วางไว้ในที่ที่มีแดดเช่นบางคนเนี่ยเอาไว้
00:09:19 → 00:09:20 ในรถอ่ะค่ะ
00:09:20 → 00:09:23 >> นะฮะไว้ที่ตรงหน้าข้างหน้าแดดมันส่องอะไร
00:09:23 → 00:09:24 อย่างเงี้ยนะคะ
00:09:24 → 00:09:27 >> ค่ะอีกประการนึงก็คือต้องคิดถึงเรื่องของ
00:09:27 → 00:09:28 ขนาด
00:09:28 → 00:09:30 >> นะคะขนาดของทุนยาอนามัยที่ขายอยู่ทุกวัน
00:09:30 → 00:09:33 เนี้ยมันจะมีเมืองไทยเราเนี่ยนะฮะส่วน
00:09:33 → 00:09:35 ใหญ่เนี่ยจะฮิตที่เบอร์ 49
00:09:35 → 00:09:39 >> นะคะแต่ก็จะมีเบอร์ 52 กับ 56 วางขายด้วย
00:09:39 → 00:09:42 เพราะฉะนั้นถ้าเราเนี่ยซื้อผิดขนาดนะคะก็
00:09:42 → 00:09:45 จะทำให้เราเนี่ยถ้าใส่แล้วมันฟิตแน่นเกิน
00:09:45 → 00:09:47 ไปเราก็ไม่แฮปปี้
00:09:47 → 00:09:47 >> อ่ะเลือดไม่เดิน
00:09:47 → 00:09:49 >> ใส่แล้วมันหลวมมันหลุด
00:09:49 → 00:09:51 >> มันก็ไม่มีประโยชน์นะฮะเพราะฉะนั้นวิธี
00:09:51 → 00:09:55 ง่ายๆเนี่ยเขาบอกว่าให้วัดรอบวงของที่โคน
00:09:55 → 00:09:58 องค์ชาติเนี่ยนะคะในขณะที่แข็งตัวเต็มที่
00:09:58 → 00:09:59 แล้วหารด้วย 2
00:09:59 → 00:10:00 >> อหาร 2
00:10:00 → 00:10:02 >> ค่ะมันก็จะได้เบอร์ที่เราต้องการเพราะมัน
00:10:02 → 00:10:05 จะมีเบอร์ 49 52 กับ 56 ค่ะ
00:10:05 → 00:10:08 >> ก็เอาที่ใกล้เรามากที่สุดนะคะอย่างเงี้ย
00:10:08 → 00:10:11 ค่ะอันที่ 2 ก็คือการใช้ถุงยาอนามัยทุก
00:10:11 → 00:10:13 ครั้งเนี่ยไม่ว่าจะกับช่องทางไหนเพราะ
00:10:13 → 00:10:16 เดี๋ยวเนี้ยมันมีหลายหลายช่องทางนะคะตั้ง
00:10:16 → 00:10:19 แต่ทางทวารหนักทางอ่อทาง
00:10:19 → 00:10:20 >> ช่องคลอด
00:10:20 → 00:10:23 >> ช่องคลอดทางเอ่อปากอะไรอย่างเงี้นะคะก็
00:10:23 → 00:10:26 ต้องใช้ถุงยาใหม่หมดแต่อย่างที่บอกอ่ะว่า
00:10:26 → 00:10:28 ยิ่งบางก็ยิ่งแพง
00:10:28 → 00:10:29 >> ค่ะ
00:10:29 → 00:10:30 >> นะฮะเพราะฉะนั้นก็เลือกซื้อเอาตาม
00:10:30 → 00:10:33 อัธยาศัยและกำลังทรัพย์ของแต่ละท่านแล้ว
00:10:33 → 00:10:36 ก็ไม่ควรที่จะใช้ซ้ำนะฮะในการวิเศษ
00:10:36 → 00:10:38 สัมพันธ์ครั้งเดียวเนี่ยแต่เรามีหลายๆ
00:10:38 → 00:10:41 ครั้งนึกออกมั้คะมีเพศสัมพันธ์หลายๆครั้ง
00:10:41 → 00:10:44 ที่มีการหลั่งน้ำอซูจิก็ต้องเปลี่ยนทุก
00:10:44 → 00:10:45 ครั้ง
00:10:45 → 00:10:48 >> นะคะไม่ใช่ไปเอาไปอาบน้ำตากแดด
00:10:48 → 00:10:50 >> แล้วก็เอามาใช้ใหม่อย่างเงี้ไม่ได้นะคะ
00:10:50 → 00:10:51 ค่ะ
00:10:51 → 00:10:53 >> เอ่อประเด็นที่ 2 ก็คือในการ
00:10:53 → 00:10:56 วิเศษสัมพันธ์เอย่างที่คุณสุรีพรพูดเนาะ
00:10:56 → 00:10:59 เดี๋ยวนี้เรามีวันstนเรามีการอยู่กันก่อน
00:10:59 → 00:11:02 แต่งเป็นแฟนกันก็ต้องมีเซ็ก์กันเราคิด
00:11:02 → 00:11:05 อย่างงั้นน่ะนะฮะซึ่งอันนี้ไม่ได้เป็นข้อ
00:11:05 → 00:11:09 กำหนดของสังคคมนะคะมันขึ้นอยู่กับคนนะคะ
00:11:09 → 00:11:11 เราก็ต้องมีการตรวจหา
00:11:12 → 00:11:17 STD ก็คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะฮะ
00:11:17 → 00:11:19 ให้ตรวจเป็นประจำเลยค่ะทั้งตัวเราทั้งคู่
00:11:19 → 00:11:20 ขาด้วย
00:11:21 → 00:11:24 >> เพราะไม่มีใครไปนั่งเฝ้าใครได้ตลอดเวลา
00:11:24 → 00:11:26 ถูกมั้ฮะตัวคุณเองก็ต้องตรวจ
00:11:26 → 00:11:29 >> นะฮะเมื่อคราวก่อนนู้นเราพูดกันถึงเรื่อง
00:11:29 → 00:11:32 ของจำได้มั้ยคะว่าถ้าเราไปติดเชื้อมาไม่
00:11:32 → 00:11:34 มีทางบอกได้เลยถ้าเราไม่เจาะเลือด
00:11:34 → 00:11:36 >> นะฮะเพราะฉะนั้นน้องต้องตรวจเพื่อความ
00:11:36 → 00:11:40 มั่นใจและถ้ารีบพบก็รีบรักษาทันทีนะคะ
00:11:40 → 00:11:43 เพื่อที่ในทันทีที่เราพบว่ามีการติดเชื้อ
00:11:43 → 00:11:46 ไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตามนะคะค่ะแล้วก็มีการ
00:11:46 → 00:11:49 ปรึกษาแพทย์เพื่อถ้ามีข้อสงสัยกังวลอะไร
00:11:49 → 00:11:52 ก็ได้รับคำแนะนำหรือแก้ไขได้ทันท่วงที
00:11:52 → 00:11:54 เพราะโรคบางโรคเนี่ยแม้แต่ไม่ใช่เอดส์
00:11:54 → 00:11:57 เช่นซิฟิเนี่ยอยู่ในตัวคนเราได้ 20 กว่า
00:11:57 → 00:11:58 ปีอ่ะ
00:11:58 → 00:11:58 >> ออ
00:11:58 → 00:12:02 >> ค่ะเคยมีคุณลุงคนนึงอายุเยอะแล้วเอาเรียก
00:12:02 → 00:12:03 คุณปู่แล้วกัน
00:12:03 → 00:12:07 >> เคยมาตรวจที่ศรีราชหมอเหาสาเหตุไม่เจอว่า
00:12:07 → 00:12:09 เป็นอะไรเดี๋ยวมีผืนขึ้นเดี๋อะไรต่ออะไร
00:12:09 → 00:12:13 ใช่มั้ยคะหมอก็ถามว่าคุณลุงเคยไปเที่ยว
00:12:13 → 00:12:16 เอ่อขอเจาะเลือดนะหมอเก็จะเจาะเลือดตรวจ
00:12:16 → 00:12:20 STD เนี่ยปรากฏว่ามีซิฟิสนะฮะพอบอกว่ามี
00:12:20 → 00:12:24 เชื้อซิฟิสอูคุณครูด่าคุณลุงด่าหมอซะลั่น
00:12:24 → 00:12:27 เลยผมไม่รักเดียวใจเดียวนะผมไม่เคยไป
00:12:27 → 00:12:29 เที่ยวไหนเลยนะอย่างงั้นอย่างงี้แต่ถาม
00:12:29 → 00:12:32 ว่าก่อนหน้านั้น 20 ปีอ่ะโว้
00:12:32 → 00:12:35 >> เคยไปมั้ยเคยหนุ่มๆก็เคยเลยทั้งนั้นน่ะ
00:12:35 → 00:12:37 เห็นมั้คะว่าเชื้อมันอยู่ในตัวเราได้เป็น
00:12:37 → 00:12:40 10 ปีโดยที่เราไม่รู้แต่มันมาแสดงผล
00:12:40 → 00:12:43 เมื่อเราอายุเยอะความต้านทานต่ำลงอย่างี้
00:12:43 → 00:12:44 เป็นต้น
00:12:44 → 00:12:46 >> อันต่อไปคือเรื่องของการสื่อสารระหว่าง
00:12:46 → 00:12:49 คู่ร่วมเพศหรือคู่รักนะคะ
00:12:49 → 00:12:52 >> เราควรจะคุยกันก่อนนะฮะขอใช้คำว่าคู่ขา
00:12:52 → 00:12:55 แล้วกันเนาะนะฮะคุยกับคู่ขาก่อนเกี่ยวกับ
00:12:55 → 00:12:57 เรื่องสุขภาพทางเพศเนี่ยหรือประวัติของ
00:12:57 → 00:13:00 การมีเพศสัมพันธ์เนี่ยนะฮะไม่ใช่ไปซัก
00:13:00 → 00:13:03 ประวัติแบบนี้นะแต่อาจจะคุยกันโดยไม่รู้
00:13:03 → 00:13:06 ล่ะมีวิธีคุยแล้วกันนะฮะที่จะถามว่าเค้า
00:13:06 → 00:13:10 เคยอะไรมั้ยเค้าเคยเสี่ยงมั้ยเคยมีแฟนมา
00:13:10 → 00:13:12 หรือยังบางทีเราไม่ต้องถามตรงๆน่ะแค่เค้า
00:13:12 → 00:13:14 มีแฟนมาแล้วเราก็อาจจะประมาณได้แล้วว่า
00:13:14 → 00:13:17 เค้าต้องเคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นนะฮะ
00:13:17 → 00:13:19 หรือเขาใช้ชีวิตโสดเค้ายังไงอะไรอย่าง
00:13:19 → 00:13:20 เงี้ยนะคะ
00:13:20 → 00:13:23 >> แล้วก็คุยกันเรื่องถึงความต้องการทางเพศ
00:13:23 → 00:13:26 นะคะความแตกต่างหรือขอบเขตของแต่ละคนเช่น
00:13:26 → 00:13:29 บางคนเนี่ยนะไstandนที่เเคยมาเล่าให้
00:13:29 → 00:13:31 จันวิภาฟังเนี่ยเค้ามีข้อกำหนดเลยเขาจะ
00:13:31 → 00:13:33 ไม่จูบปาก
00:13:33 → 00:13:37 >> อ๋ออ๋อคุยเลยเคุยเลยเจะไม่จุบปากเจะไม่
00:13:37 → 00:13:39 อย่างงั้นอย่างงี้เจะไม่ออโรซ็กนะอะไร
00:13:39 → 00:13:42 อย่างเงี้ยค่ะนั่นคือข้อตกลงกันก่อนนะคะ
00:13:42 → 00:13:44 แล้วก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์นั้นมันราบ
00:13:44 → 00:13:46 รื่นคือไม่มีการคาดหวังว่าเสร็จแล้วจะ
00:13:47 → 00:13:49 ต้องทำให้กันและกันอ่าเค้ายอมให้อีกฝ่าย
00:13:49 → 00:13:52 ทำนะแต่เขาไม่ทำให้นะอะไรอย่างงี้เป็นต้น
00:13:52 → 00:13:55 ยอมรับได้มั้อย่างเงี้ยนะคะเพราะฉะนั้นก็
00:13:55 → 00:13:57 เป็นเรื่องที่เขาต้องคุยกันสำหรับการมี
00:13:57 → 00:13:59 เพศสัมพันธ์ไม่งั้นมานั่งทะเลาะกันหรือ
00:13:59 → 00:14:04 อารมณ์เสียในขณะที่แหมอารมณ์รักเนาะอ
00:14:04 → 00:14:08 เป็นต้นนะคะหรือในบางคู่เอาจจะบอกว่า
00:14:08 → 00:14:12 >> เให้แค่ภายนอกนะเไม่ให้มีการสอดใสนะ
00:14:12 → 00:14:15 >> อ่าอะไรอย่างนี้เป็นต้นนะคะเพราะข้อตกลง
00:14:15 → 00:14:17 เพราะว่าเดี๋ยวเนี้ยมันเป็นสังคมที่เปิด
00:14:17 → 00:14:20 มากขึ้นในเรื่องของเซ็ก์ใช่มั้ยคะข้อต่อ
00:14:20 → 00:14:22 ไปข้อที่ 4 ก็คือในเรื่องของการดูแลรักษา
00:14:23 → 00:14:26 สุขภาพอนามัยของแต่ละคนนะคะควรจะต้องทำ
00:14:26 → 00:14:29 ความสะอาดร่างกายโดยเฉพาะถ้าเราในเรื่อง
00:14:29 → 00:14:32 ของอวัยวเเพศนะฮะทั้งก่อนและหลังการมีเพศ
00:14:32 → 00:14:33 สัมพันธ์
00:14:33 → 00:14:36 นะฮะคนจะต้องล้างมือทั้งก่อนและหลังการมี
00:14:36 → 00:14:38 เพศสัมพันธ์อย่าลืมว่ามือเนี่ยมันก็เป็น
00:14:38 → 00:14:41 ตัวที่มีปฏิกิริยากับทั่วร่างกายในการ
00:14:42 → 00:14:45 สัมผัสแตะต้องนะฮะการเร้าอารมณ์ต่างๆการ
00:14:45 → 00:14:47 แตะต้องสัมผัสกับอวัยวเเพศด้วยอะไรด้วย
00:14:47 → 00:14:48 เนี่ยนะคะ
00:14:48 → 00:14:51 >> การทำความสะอาดช่องปากนะฮะโดยเฉพาะถ้าใคร
00:14:51 → 00:14:54 เนี่ยชอบอal se นะคะก็จะต้องทำความสะอาด
00:14:54 → 00:14:56 ช่องปากเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
00:14:56 → 00:14:57 >> นะคะค่ะ
00:14:57 → 00:14:59 >> ควรจะต้องมีการปัสสาวะหลังการมี
00:14:59 → 00:15:02 เพศสัมพันธ์นะฮะเพื่อลดความเสี่ยงของการ
00:15:02 → 00:15:05 ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะนะคะอาจจะ
00:15:05 → 00:15:08 ไม่ต้องทันทีแล้วลุกขึ้นมานะคะทิ้งระยะจน
00:15:08 → 00:15:11 ปวดปัสสาวะก่อนไม่งั้นเดี๋อารมณ์มันจะ
00:15:11 → 00:15:14 เสียไปแต่ควรจะต้องมีการเอ่อปัสสาวะทิ้ง
00:15:14 → 00:15:16 นะคะหลังจากการวิเศษสัมพันธ
00:15:16 → 00:15:18 >> อาจจะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนแล้ว
00:15:18 → 00:15:20 ค่อยมามีเซ็ก์ก็ได้แล้วก็หลังจากนั้นก็
00:15:20 → 00:15:22 หลังจากนั้นพอเรานอนหลับกันไปแล้วตื่น
00:15:22 → 00:15:26 ขึ้นมาก็ควรจะปัสสาวะสักอีกทีทั้งหญิงและ
00:15:26 → 00:15:27 ชายนะคะ
00:15:27 → 00:15:31 >> ค่ะแล้วก็อื่นๆที่ควรจะต้องดูแลด้วยนะคะ
00:15:31 → 00:15:33 เช่นหลีกหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพราะ
00:15:33 → 00:15:36 การดื่มแอลกอฮอล์เนี่ยหลายคนบอกดื่มแล้ว
00:15:36 → 00:15:38 มันจะได้มีอารมณ์เซ็ก์มากขึ้นอะไรมากขึ้น
00:15:38 → 00:15:41 แต่มันทำให้การควบคุมตัวเองน้อยลงนะฮะอาจ
00:15:41 → 00:15:43 จะลืมในเรื่องของการต้องใส่
00:15:43 → 00:15:45 >> ถุงยางอนามัยก็ได้
00:15:45 → 00:15:49 >> อันที่ 2 คือควรจะต้องฉีดวัคซีนมีวัคซีน
00:15:49 → 00:15:52 บางตัวที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศ
00:15:52 → 00:15:55 สัมพันธ์บางตัวได้แต่ไม่ใช่นะฮะเอสป้อง
00:15:55 → 00:15:57 กันไม่ได้แต่ตัวอื่นเนี่ยอาจจะมีวัคซีน
00:15:58 → 00:15:58 ช่วยได้
00:15:58 → 00:15:59 >> ค่ะ
00:15:59 → 00:16:01 >> ตอนเวัคซีนออกมาใหม่ๆเยอะควรจะปรึกษา
00:16:01 → 00:16:05 แพทย์นะคะจันทร์วิภาก็ตามไม่ทันออกมาใหม่
00:16:05 → 00:16:07 เยอะเหลือเกินนะคะที่มันจะช่วยนั่นช่วย
00:16:07 → 00:16:10 นี่ได้นะคะถ้ามีการใช้เซ็ก์toอยก็ควรจะ
00:16:10 → 00:16:13 ต้องดูแลเรื่องความสะอาดของเซ็ก์toอยทั้ง
00:16:13 → 00:16:14 ก่อนและหลังการใช้
00:16:15 → 00:16:17 >> นะฮะบางอย่างเนี่ยมันใช้แล้วทิ้งเลยแต่
00:16:17 → 00:16:19 บางอย่างเนี่ยมันสามารถที่จะทำความสะอาด
00:16:19 → 00:16:20 แล้วเอามาใช้ได้อีก
00:16:20 → 00:16:23 >> แต่ก็ไม่ควรที่จะใช้ร่วมกับคนอื่น
00:16:23 → 00:16:26 >> นะคะยืมเงินไปใช้อย่างเงี้ยนะคะต้องดูแล
00:16:26 → 00:16:28 ความสะอาดให้ดีนะคะเพื่อป้องกันโรคอื่น
00:16:28 → 00:16:32 ที่อาจจะเข้ามาด้วยเช่นบางทีหวัดอย่าง
00:16:32 → 00:16:34 เงี้ยค่ะมันก็ติดต่อกับนางเซ็กซอยได้ด้วย
00:16:34 → 00:16:34 นะคะ
00:16:34 → 00:16:35 >> อื
00:16:35 → 00:16:37 >> มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเต้องหลีก
00:16:37 → 00:16:40 เลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆนะฮะอย่างพวก
00:16:40 → 00:16:43 night stand เนี่ยเสี่ยงมากเลยนะ
00:16:43 → 00:16:47 >> หรือการที่ไปเที่ยวตามโฮสบารหรือตามอะไร
00:16:47 → 00:16:50 ก็แล้วแต่นะคะบางทีเราก็ต้องเปลี่ยนคู่
00:16:50 → 00:16:53 นอนบ่อยๆอ่ะเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยก็ยิ่ง
00:16:53 → 00:16:55 เสี่ยงมากขึ้นไปอีกนะฮะเพราะฉะนั้นถ้าเรา
00:16:55 → 00:16:58 หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยการเปลี่ยน
00:16:58 → 00:17:01 คู่นอนบ่อยๆได้มันก็จะลดความเสี่ยงลงนะคะ
00:17:01 → 00:17:04 ค่ะนี้การมีเพศสัมพันธ์ที่ดีและปลอดภัย
00:17:04 → 00:17:07 เนี่ยมันต้องอาศัยความเข้าใจนะอาศัยความ
00:17:07 → 00:17:10 รับผิดชอบแล้วก็การสื่อสารที่ดีระหว่างคน
00:17:10 → 00:17:13 รักกันด้วยทีนี้อีกที่อยากจะแนะนำเพิ่ม
00:17:13 → 00:17:17 เติมเพื่อให้มีเซ็ก์ที่ดีนะคะก็คือกินการ
00:17:17 → 00:17:20 กินยาคุมกำเนิดค่ะนะฮะการกินยาคุมกำเนิดเ
00:17:20 → 00:17:22 มันช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ที่ไม่พึง
00:17:22 → 00:17:26 ประสงค์ได้นะคะแต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุม
00:17:26 → 00:17:30 ฉุกเฉินบ่อยๆนะคะยาคุมฉุกเฉินเนี่ยเนี่ย
00:17:30 → 00:17:32 ให้ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
00:17:32 → 00:17:34 >> แต่ควรจะใช้วิธีอื่นถ้าเราจะมีเซ็ก์ไป
00:17:34 → 00:17:36 ตลอดนะคะคือบางคนเนี่ยถือว่าการมีเซ็ก์
00:17:36 → 00:17:40 เป็นส่วนหนึ่งของมีคนรักหรือมีแฟนเนี่ยก็
00:17:40 → 00:17:43 อาจจะใช้ยาฝังไปเลยก็ได้นะฮะหรือยาฉีด
00:17:43 → 00:17:46 อะไรพวกเนี้ยไม่อยากให้หรือยากินแต่ยากิน
00:17:46 → 00:17:49 เนี่ยบางคนรำคาญว่าต้องกินทุกวันอะไร
00:17:49 → 00:17:50 อย่างเงี้ยนะคะ
00:17:50 → 00:17:53 >> แต่ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินเพราะว่ามันจะทำ
00:17:53 → 00:17:56 ให้โดยเฉพาะมดลูกเนี่ยค่ะแย่ลงไปเรื่อยๆ
00:17:56 → 00:17:58 ผนังมันจะบางลงไปเรื่อยๆแล้วพอถึงเวลาที่
00:17:58 → 00:18:01 เราอยากจะมีลูกจริงๆเนี่ยทำไม่ได้
00:18:01 → 00:18:03 >> คืออ่าอาจารย์คะข้อเนี้ยอันนี้นิดนึงค่ะ
00:18:03 → 00:18:04 ว่า
00:18:04 → 00:18:06 >> เอ่อมันก็เป็นเคยเป็นกระแสอยู่ช่วงนึงที่
00:18:06 → 00:18:09 ว่าเรื่องของการกินยาคุมอ่าผู้หญิงก็ต้อง
00:18:09 → 00:18:10 มานั่งกินยาคุม
00:18:10 → 00:18:10 >> อือฮึ
00:18:10 → 00:18:12 >> ผู้ชายไม่ยอมใส่ถุงยางอ่าผู้หญิงต้องมา
00:18:12 → 00:18:15 นั่งกินยาคุมแต่บลืมบ้างอะไรบ้างมันก็
00:18:15 → 00:18:17 เป็นสิ่งที่บอกว่าทำไมผู้หญิงต้องเป็นคน
00:18:18 → 00:18:20 ป้องกันอย่างเดียวระวังอย่างเดียวทำไมผู้
00:18:20 → 00:18:21 ชายถึงไม่
00:18:21 → 00:18:25 >> มันมียาในผู้ชายค่ะยาคุมในผู้ชายแต่ผลมัน
00:18:25 → 00:18:26 ยังไม่ได้ดีอ
00:18:26 → 00:18:28 >> นะฮะเอาเป็นว่าอย่างงี้แล้วกันนิภาจะขอ
00:18:28 → 00:18:31 ให้แน่แง่คิดคุณผู้หญิงได้ว่าถ้าท้องขึ้น
00:18:31 → 00:18:33 มาแล้วใครเดือดร้อนมากกว่ากันระหว่างหญิง
00:18:33 → 00:18:34 กับชาย
00:18:34 → 00:18:35 >> เราสิคะเอ
00:18:35 → 00:18:37 >> เพราะฉะนั้นเมื่อคุณรู้ว่าคุณจะเดือดร้อน
00:18:37 → 00:18:40 มากกว่าเขาคุณก็ลงทุนที่จะป้องกันเถอะค่ะ
00:18:40 → 00:18:40 >> อือฮึ
00:18:40 → 00:18:42 >> ถูกมั้คะเพราะการป้องกันของผู้หญิงนั้น
00:18:42 → 00:18:44 ง่ายกว่าผู้ชายเยอะ
00:18:44 → 00:18:47 >> นะคะแล้วคนที่จะต้องได้รับผลของมันคือตัว
00:18:47 → 00:18:50 คุณเองชัดๆแล้วคุณจะไม่ป้องกันตัวเองหรือ
00:18:50 → 00:18:50 >> อื
00:18:50 → 00:18:51 >> นะฮะ
00:18:51 → 00:18:54 >> ถุงยางอนามัยผู้หญิงก็มีนะคะที่ใส่ไว้ใน
00:18:54 → 00:18:56 ช่องคลอดก็ได้
00:18:56 → 00:18:59 >> นะคะถ้าเค้าผู้ชายเไม่ใส่เราก็ใส่ของเรา
00:18:59 → 00:19:01 เองแต่ราคามันก็แพงกว่าของผู้ชาย
00:19:01 → 00:19:03 >> ใส่ไว้แต่มันป้องกันได้ค่ะ
00:19:03 → 00:19:05 >> อืแล้วการกินยาคุมเนี่ยค่ะ
00:19:05 → 00:19:08 >> เอ่อคุมกำเนิดได้อย่างเดียวไม่ได้เกี่ยว
00:19:08 → 00:19:09 กับเรื่องโรคเลยใช่มั้
00:19:09 → 00:19:10 >> ไม่เกี่ยวค่ะ
00:19:10 → 00:19:13 >> นะฮะเพราะฉะนั้นเอ่อถ้าเป็นจันทร์วิภา
00:19:13 → 00:19:16 จันทวิภาจะเลือกใช้วิธีฝังอย่าฝัง
00:19:16 → 00:19:17 >> อืมันอยู่ได้นาน
00:19:17 → 00:19:20 >> อ่าอยู่ได้นานแล้วก็ไม่มีผลข้างเคียงมาก
00:19:20 → 00:19:23 แล้วก็เอาออกเมื่อไหร่ก็มีลูกได้ตามปกติ
00:19:23 → 00:19:25 คือผู้หญิงบางคนเนี่ยมองเห็นเรื่องเซ็ก์
00:19:25 → 00:19:28 เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วคุณก็สัเถอะ
00:19:28 → 00:19:29 >> อื
00:19:29 → 00:19:32 >> นะฮะไม่ต้องมานั่งนับวันไม่ต้องมานั่งผล
00:19:32 → 00:19:35 ข้างเคียงของการกินยาฉีดยานะฮะยาฝังเนี่ย
00:19:35 → 00:19:38 จะวิภาเหมาะนะคะสำหรับการระยะยาว
00:19:38 → 00:19:41 >> นะฮะเช่นบางคนเนี่ยกะแล้วว่ายังไม่มีลูก
00:19:41 → 00:19:45 แน่นะฮะในปี 2 ปี 4 ปีข้างหน้าฝังมันไป
00:19:45 → 00:19:49 เลยค่ะมันมียาให้เลือกหลายเอ่อระยะเวลา
00:19:49 → 00:19:52 สั้นระยะเวลายาวเมีหมดนะคะเดี๋ยวนี้เออก
00:19:52 → 00:19:54 อะไรมาดีๆเยอะค่ะอ
00:19:54 → 00:19:55 >> นะคะครับ
00:19:55 → 00:19:58 >> บางคนก็ใช้เป็นแผ่นแปะเป็นคล้ายใช้เหมือน
00:19:58 → 00:19:59 มื
00:19:59 → 00:19:59 >> เหมือนกอเอี๊ย
00:19:59 → 00:20:02 >> แททูอ่ะคล้ายๆกอเอี๊ยะหรือแททูอ่ะแต่ก็
00:20:02 → 00:20:03 ราคาสูง
00:20:03 → 00:20:04 >> แปะข้างนอกเนี่ยนะ
00:20:04 → 00:20:05 >> แปะผิวหนังเราเนี่ยค่ะ
00:20:05 → 00:20:05 >> มันช่วย
00:20:05 → 00:20:08 >> แล้วยามันจะซึมเข้าไปในตัวไงคะ
00:20:08 → 00:20:10 >> ทำไมไม่แปะตรงท้องอ่ะ
00:20:10 → 00:20:12 >> ไม่เกี่ยวค่ะให้มันเข้ากระแสเลือดตรงไหน
00:20:12 → 00:20:15 ก็ได้อันต่อไปนะคะในเรื่องของอalxต้อง
00:20:15 → 00:20:19 ระวังถ้ามีแผลในปากก็จะยิ่งเสี่ยงมาก
00:20:19 → 00:20:21 >> นะเพราะฉะนั้นต้องใช้ถุงยางอนามัยดีที่
00:20:21 → 00:20:24 สุดหรือบางคนก็ไปซื้อแผ่นยางอนามัยเลย
00:20:24 → 00:20:27 สำหรับคนที่ชอบอoseซกเนี่ยเขาจะมีหลายนะ
00:20:27 → 00:20:31 คะลองไปเปิดดูแล้วกันล้างมือก่อนที่จะมี
00:20:31 → 00:20:33 เพศสัมพันธ์ทุกครั้งเพราะว่าอย่างที่
00:20:33 → 00:20:35 เรียนแล้วนะคะว่าสัมผัสบางจุดเนี่ยมันใช้
00:20:35 → 00:20:38 มือตลอดไม่ว่าจะเป็นในช่องปากในอวัยวเพศ
00:20:38 → 00:20:39 ในอะไรต่ออะไรอย่างเงี้ยนะคะ
00:20:39 → 00:20:41 >> อใช้นงใช้นิ้วอะไรว่าไป
00:20:41 → 00:20:44 >> เพราะฉะนั้นก็ต้องรักษาความสะอาดของช่อง
00:20:44 → 00:20:46 ปากโดยการแปรงฟัน
00:20:46 → 00:20:49 >> นะฮะก่อนการมีเพศสัมพันธ์เเพราะวิธีเราก็
00:20:49 → 00:20:53 มีการกอดจูบกันนะคะหรือการชำอซอะไรก็แล้ว
00:20:53 → 00:20:56 แต่ก็จะช่วยลดเพราะว่าในปากเราเนี่ยมี
00:20:56 → 00:20:59 แบคทีเรียมากกว่า 500 ชนิดอีกนะคะอยู่ใน
00:20:59 → 00:21:00 ปากเราเนี่ย
00:21:00 → 00:21:03 >> ค่ะนอกนั้นนะคะก็ในเรื่องของความสะอาด
00:21:03 → 00:21:06 ทั่วไปในเรื่องของเอ่อน้ำยาบ้วนปากใน
00:21:06 → 00:21:09 เรื่องของน้ำหอมนะฮะในเรื่องของการ
00:21:09 → 00:21:12 เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเปลี่ยนชุดชั้นในการ
00:21:12 → 00:21:15 ดื่มน้ำนะคะเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำอะไร
00:21:15 → 00:21:17 อย่างงี้เป็นต้น
00:21:17 → 00:21:19 >> อาจารย์คะอันนี้นิดนึงเรื่องของการใช้
00:21:19 → 00:21:21 นิ้วเข้าไปในช่องคลอดผู้หญิง
00:21:21 → 00:21:23 >> อ้าผู้ชายก็ต้องทำความสะอาดเหมือนกันเล็บ
00:21:23 → 00:21:25 สั้นหรือแบบ
00:21:25 → 00:21:25 >> อะไรแบบ
00:21:25 → 00:21:28 >> ใช่ค่ะเดี๋ยวเนี้ยผู้ชายบางคนไว้เล็บยาว
00:21:28 → 00:21:31 มากเป็นอันตรายนะคะเพราะว่ามันข้างในช่อง
00:21:31 → 00:21:33 คลอดอ่ะมันนุ่มนิ่มมากแล้วมันก็เป็นเนื้อ
00:21:34 → 00:21:35 เยื่อที่บางมาก
00:21:35 → 00:21:36 >> อือ
00:21:36 → 00:21:39 >> ถ้าไปรุนแรงอ่ะค่ะมันก็จะเกิดบาดแผลได้
00:21:39 → 00:21:42 นิ้วเราเองเนี่ยอาจจะสกปรกแล้วก็เอาเชื้อ
00:21:42 → 00:21:43 เข้าไปติดผู้หญิงเลย
00:21:43 → 00:21:44 >> เอออันนี้ก็ต้องระวัง
00:21:44 → 00:21:47 >> นะฮะก็ต้องทุกอย่างเนี่ยอะไรก็ตามที่มัน
00:21:47 → 00:21:50 มีความสะอาดอ่ะค่ะก็ต้องรักษา
00:21:50 → 00:21:52 >> แต่อันนี้มันเหมือนฟังดูแล้วเหมือนว่า
00:21:52 → 00:21:54 เอ่อเป็นการมีสติก่อนมีเซ็ก์
00:21:54 → 00:21:55 >> ใช่ค่ะ
00:21:55 → 00:21:57 >> แต่ส่วนใหญ่บางทีเมา
00:21:57 → 00:22:00 >> เมาไม่มีสติไงก็บางคนเนี่ยเมาชนิดที่
00:22:00 → 00:22:03 เรียกว่านอนกับใครบ้างก็ยังไม่รู้เลยอะไร
00:22:03 → 00:22:03 อย่างเงี้ยค่ะ
00:22:03 → 00:22:05 >> อพับตาตื่นมาอีกทีแบบอ้า
00:22:05 → 00:22:06 >> เออ
00:22:06 → 00:22:07 >> ใครอยู่ข้างๆก็มีเออ
00:22:07 → 00:22:09 >> ใช่ค่ะนะคะเพราะฉะนั้น
00:22:09 → 00:22:12 >> ถึงได้มีข้อนึงที่เราบอกว่าไม่ควรจะดื่ม
00:22:12 → 00:22:13 แอลกอฮอล์
00:22:13 → 00:22:14 >> นำพาซึ่งทุกอย่าง
00:22:14 → 00:22:19 >> ใช่ค่ะทีนี้มีคนถามเรื่องอalxมาว่าอosex
00:22:19 → 00:22:21 เนี่ยใช้ได้ตลอดมั้ยแล้วมันดีจริงมั้ยนะ
00:22:21 → 00:22:24 คะบางคนเนี่ยเค้าก็ชอบอซ็กซมากนะคะต้องมี
00:22:24 → 00:22:26 ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์อ
00:22:26 → 00:22:30 >> แต่บางคนก็ไม่ชอบเลยแล้วรังเกียจด้วย
00:22:30 → 00:22:31 เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องพูดคุยกัน
00:22:31 → 00:22:35 ก่อนนะฮะแล้วก็อะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง
00:22:35 → 00:22:39 มี oral sex นะฮะเช่น 1 สถานะของร่างกาย
00:22:39 → 00:22:41 เราหรือสภาพร่างกายของเราเนี่ยถ้าเราเป็น
00:22:41 → 00:22:45 คนที่มีเชื้อ HIV นะฮะไม่ควรทำอกเป็นอัน
00:22:46 → 00:22:48 ขาดคนทำหรือคนรับก็ตามเนี่ยความเสี่ยงมัน
00:22:48 → 00:22:51 ก็สูงแล้วก็อาจจะเพิ่มเชื้อให้กับตัวเอง
00:22:51 → 00:22:54 ด้วยเราทราบอยู่แล้วว่าปริมาณ HIV เนี่ย
00:22:54 → 00:22:56 ยิ่งสูงก็จะยิ่งทำให้เราเสี่ยงสูงต่อการ
00:22:56 → 00:22:59 กลายเป็นไม่ใช่ว่าป้องกันแพร่คนอื่นอย่าง
00:22:59 → 00:23:02 เดียวป้องกันการรับเชื้อเข้ามาในตัวด้วย
00:23:02 → 00:23:05 การหลั่งอสุจิในปากแบบอกเนี่ยก็ทำให้มี
00:23:05 → 00:23:08 ความเสี่ยงสูงมากเพราะมันจะทำให้ไวรัส
00:23:08 → 00:23:10 เนี่ยกระจายออกไปได้เร็วมากขึ้น
00:23:10 → 00:23:13 >> อเขาบอกว่ากลืนแล้วจะทำให้ดูผิวพรรณดี
00:23:13 → 00:23:16 >> ผิวพรรณดีเป็นความเชื่อถามว่าในในน้ำ
00:23:16 → 00:23:19 อสุจิที่ให้ผู้หญิงกลืนกินเข้าไปเนี่ยบาง
00:23:20 → 00:23:22 ทีมันน่าคลื่นไส้นะตรงที่ว่าอสุจิเนี่ย
00:23:22 → 00:23:26 ผู้ชายกินอะไรกลิ่นรสมันจะออกมาอย่างนั้น
00:23:26 → 00:23:28 นึกออกมั้คะอย่างเช่นผู้ชายบางคนติด
00:23:28 → 00:23:29 บุหรี่มากเนี่ยอ
00:23:29 → 00:23:30 >> ค่ะ
00:23:30 → 00:23:34 >> น้ำอซูจิออกมามันก็จะไม่ไม่
00:23:34 → 00:23:37 ชวนให้ดื่มกินเข้าไปอ่ะนะคะมันก็จะมี
00:23:37 → 00:23:40 กลิ่นฉุนแบบบุหรี่หรือกลิ่นอะไรเข้าไป
00:23:40 → 00:23:42 กลิ่นแอลกอฮอล์มันก็ออกมาอย่างนั้นนะฮะ
00:23:43 → 00:23:43 เพราะฉะนั้น
00:23:44 → 00:23:46 >> เอ่อถ้าเขาเทียบกันโปรตีนที่ออกมาจากน้ำ
00:23:46 → 00:23:49 อสุจิเนี่ย่ะสู้ก๋วยเตี๋ยวชามนึงยังไม่
00:23:49 → 00:23:49 ได้เลย
00:23:49 → 00:23:50 >> กิน
00:23:50 → 00:23:52 >> มันได้จี๊ดนึงกินก๋วยเตี๋ยวชามนึงยังเข้า
00:23:52 → 00:23:55 ท่ากว่าเลยนะฮะเพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อว่า
00:23:55 → 00:23:57 การกลืนกินน้ำพวกนี้เข้าไปแล้วจะทำให้
00:23:57 → 00:24:00 สุขภาพดีผิวพรรณดีเป็นความเชื่อทั้งนั้น
00:24:00 → 00:24:03 น่ะค่ะหรือเป็นความหลอกล่อของผู้ชายก็ได้
00:24:03 → 00:24:06 เนาะที่อยากจะให้ผู้หญิงทำอรสเซ็กให้หรือ
00:24:06 → 00:24:09 อะไรอย่างเงี้ยแล้วก็ถ้ามีบาดแผลค่ะการมี
00:24:09 → 00:24:12 บาดแผลไม่ว่าจะในปากหรืออะไรก็ตามเนี่ย
00:24:12 → 00:24:14 มันก็จะทำให้เราเกิดความเสี่ยงได้มากขึ้น
00:24:14 → 00:24:19 นะคะในปากทวันหนักช่องคลอดเอาอวัยวเพศหมด
00:24:19 → 00:24:20 เลยนะคะ
00:24:20 → 00:24:21 >> การมีประจำเดือน
00:24:21 → 00:24:26 >> ออฝ่าหมาแดงอ่าอ่ะเชื้อ HIV โดยเฉพาะ HIV
00:24:26 → 00:24:30 เนี่ยนะคะมันจะหลั่งจากสารคัดหลั่งที่ปาก
00:24:30 → 00:24:32 มดลูกนึกออกมั้ยคะเพราะฉะนั้นถ้าเรา
00:24:32 → 00:24:34 สัมผัสกับเลือดประจำเดือนเนี่ยมันก็มี
00:24:34 → 00:24:37 สิทธิ์ที่จะต้องมีเชื้อ HIV ออกมาด้วย
00:24:37 → 00:24:37 อย่างเงี้ยค่ะ
00:24:37 → 00:24:38 >> อ
00:24:38 → 00:24:42 >> แล้วก็ท่อปัสสาวะอักเสบก็มีผลนะฮะที่จะทำ
00:24:42 → 00:24:45 ให้กระเทือนต่อท่อปัสสาวะแล้วก็เพิ่มความ
00:24:45 → 00:24:47 เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อด้วย
00:24:47 → 00:24:50 >> พอเราไปอซเข้าไปอะไรเข้ามันก็กระตุ้นให้
00:24:50 → 00:24:53 เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นจึงขอย้ำว่าอซเซ็ก์
00:24:53 → 00:24:55 ไม่ใช่สำหรับทุกคน
00:24:55 → 00:24:58 >> นะคะและก็ไม่ใช่สำหรับทุกคนในทุกโอกาส
00:24:58 → 00:25:01 เมื่อมีภาวะเสี่ยงแบบนี้เกิดขึ้นที่พูดมา
00:25:01 → 00:25:04 แล้วเนี่ยนะฮะก็ควรจะหลีกเลี่ยงกันมีอก
00:25:04 → 00:25:07 อาจจะชั่วคราวหรือถาวรก็แล้วแต่
00:25:07 → 00:25:11 >> อ่ะต้องก็ย้อนกลับไปข้อ 1 ปึ๊งคุยกันก่อน
00:25:11 → 00:25:14 >> อะไรได้มากน้อยลิมิตแค่ไหนยังไงนะคะร่าง
00:25:14 → 00:25:16 กายเราเราก็ต้องรู้ตัวเองด้วยนะคะเพื่อ
00:25:16 → 00:25:18 ความปลอดภัยเพราะงั้นเซ็กปลอดภัยแน่นอน
00:25:18 → 00:25:19 จ้านะคะ
00:25:19 → 00:25:22 >> ค่ะไม่จำเป็นนะคะที่ผู้หญิงต้องตามใจผู้
00:25:22 → 00:25:24 ชายทุกอย่างแล้วก็อย่าเชื่อสื่อประเภท
00:25:24 → 00:25:27 อโรติอ่ะมากมายนักว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็น
00:25:27 → 00:25:28 สิ่งที่
00:25:28 → 00:25:30 >> ต้องทำหรือเขาทำกันไม่ใช่ค่ะ
00:25:30 → 00:25:33 >> ไม่ใช่เรื่องปกติค่ะบางอย่างนะคะขอบคุณ
00:25:33 → 00:25:36 อาจารย์จันทวิภาค่ะสวัสดีค่ะ
00:25:36 → 00:25:38 >> อ้าหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่
00:25:38 → 00:25:40 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai PBS
00:25:40 → 00:25:43 Podcast นะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:25:43 → 00:25:46 >> This is Thai PBS Podcast
00:25:46 → 00:25:48 >> ทำไมเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไปกล้ามเนื้อของ
00:25:48 → 00:25:51 คนเราจึงลดลงปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิด
00:25:51 → 00:25:52 ภาวะกล้ามเนื้อหายจะป้องกันอย่างไรได้
00:25:52 → 00:25:55 บ้างแพทย์หญิงกิตติยาศรีเลิศฟ้าแพทย์
00:25:55 → 00:25:57 อยุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA มาเล่าให้ฟัง
00:25:57 → 00:25:59 ครับ
00:25:59 → 00:26:01 >> กล้ามเนื้อหายไม่รู้ตัวเนี่ยอาจจะพูดอีก
00:26:01 → 00:26:05 อย่างนึงภาวะกล้ามเนื้อพร่องเป็นภาวะที่
00:26:05 → 00:26:08 มีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
00:26:08 → 00:26:09 >> อ่าฮะ
00:26:09 → 00:26:12 >> ความแข็งแรงแล้วก็การทำงานของกล้ามเนื้อ
00:26:12 → 00:26:15 ไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้มี
00:26:15 → 00:26:19 อาการอ่อนแรงไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้อง
00:26:19 → 00:26:22 เคลื่อนไหวร่างกายหรือไม่สามารถออกแรงได้
00:26:22 → 00:26:26 ตามปกติทุกคนสุดท้ายทุกคนจะเป็นโรคนี้
00:26:26 → 00:26:30 ซาโคพีเนียหรือเปล่าตอบว่าไม่เพราะว่า
00:26:30 → 00:26:33 ซาโคพีเนียเนี่ยพบได้ 5-13%
00:26:33 → 00:26:37 ในคนอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 60 ปีพออายุ
00:26:37 → 00:26:42 มากกว่าหรือเท่ากับ 80 ปีพบได้ถึง 11-50%
00:26:42 → 00:26:45 แล้วแหละโดยทั่วไปเนี่ยคนเราเนี่ยนะจะมี
00:26:45 → 00:26:47 มวลกล้ามเนื้อสูงสุดเ้าเรียก Peak Muscle
00:26:47 → 00:26:51 Mass ที่ช่วงอายุ 30-40 ปีหลังจากอายุ
00:26:51 → 00:26:55 ายุ 40 ปีก็จะเริ่มมีการสูญเสียมวลกล้าม
00:26:55 → 00:26:59 เนื้อไป 8% ในทุก 10 ปีเนื่องจากการทำงาน
00:26:59 → 00:27:02 ของฮอร์โมนที่ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล
00:27:02 → 00:27:04 ในเลือดเนี่ยไม่ดีเท่าเดิมทำให้กล้าม
00:27:04 → 00:27:07 เนื้อเนี่ยได้รับโปรตีนหรือสารอาหารที่มี
00:27:07 → 00:27:10 ส่วนช่วยเสริมการสร้างกล้ามเนื้อได้ลดลง
00:27:10 → 00:27:10 >> ค่ะ
00:27:11 → 00:27:14 >> พอหลังอายุ 50-60 ปีเนี่ยความแข็งแรงของ
00:27:14 → 00:27:17 กล้ามเนื้อเนี่ยก็จะลดลงประมาณ 1.5% 5%
00:27:17 → 00:27:18 ต่อปี
00:27:18 → 00:27:19 >> อื
00:27:19 → 00:27:22 >> แล้วก็ลดลงเร็วขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นจน
00:27:22 → 00:27:25 เริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
00:27:25 → 00:27:28 หลังอายุ 65 ปีโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่
00:27:28 → 00:27:31 ค่อยได้ทำกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวร่างกาย
00:27:31 → 00:27:34 เมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไปการสลายของมวลกล้าม
00:27:34 → 00:27:37 เนื้อเนี่ยจะมากถึง 15% ซึ่งหมายความว่า
00:27:37 → 00:27:40 ในช่วงอายุ 40-80 ปีเนี่ยมวลกล้ามเนื้อจะ
00:27:40 → 00:27:44 หายไปถึง 1 ใน 3 สาเหตุก็คือมันเรียกว่า
00:27:44 → 00:27:47 เป็น aging process เพศหญิงพบพอพอกับเพศ
00:27:47 → 00:27:49 ชายอะไรตอนเนี้ยเกิดเพราะว่าเซลล์ประสาท
00:27:49 → 00:27:51 ที่ส่งสัญญาณออกจากสมองเนี่ยเพื่อให้
00:27:51 → 00:27:53 กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวเนี่ยส่งสัญญาณน้อย
00:27:53 → 00:27:56 ลงฮอร์โมนบางชนิดต่ำเช่นฮอร์โมน
00:27:56 → 00:27:59 เทสโตสเตอโรนในผู้ชายหรือว่าโกสฮอร์โมน
00:28:00 → 00:28:03 >> หรือสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบ
00:28:03 → 00:28:05 โตร่างกายเปลี่ยนโปรตีนเป็นพลังงานได้
00:28:05 → 00:28:09 น้อยลงไม่สามารถผลิตโปรตีนได้เพียงพอต่อ
00:28:09 → 00:28:12 การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อผู้สูงอายุ
00:28:12 → 00:28:14 ไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อใหม่ทดแทนกล้าม
00:28:14 → 00:28:18 เนื้อที่สูญเสียไปได้เป็นผลจากภาวะไขมัน
00:28:18 → 00:28:20 แทรกเข้าไปในกล้ามเนื้อหรือภาวะเครียด
00:28:20 → 00:28:23 อย่างรุนแรงปัจจัยอื่นๆก็มีเช่นขาดการออก
00:28:23 → 00:28:26 กำลังกายภาวะติดเตียงนี่โอเร็วเลยนะฮะ
00:28:26 → 00:28:27 >> โอใช่
00:28:27 → 00:28:31 >> หรือมีอาการแทรกซ้อนจากโรคเช่นเบาหวานโรค
00:28:31 → 00:28:34 ปอดอุดกั้นเรื้อรังโรคไตเรื้อรังโรค
00:28:34 → 00:28:39 มะเร็งระยะแพร่กระจายโรค HIV รูมาตอยถือ
00:28:39 → 00:28:42 เป็นภาวะเสี่ยงสำหรับผู้สูงวัยมากเลย
00:28:42 → 00:28:45 ปัจจุบันเนี่ยยังไม่มีวิธีวินิจฉัยภาวะ
00:28:45 → 00:28:48 ซาโคปเนียโดยเฉพาะไม่สามารถรักษาได้ด้วย
00:28:48 → 00:28:52 การใช้ยามันต้องอาศัยหลายๆอย่างรวมกัน
00:28:52 → 00:28:54 [เพลง]
00:28:54 → 00:28:58 This is Thai PBS Podcast
00:28:58 → 00:29:01 ติดตามรายการของ Thai PBS Podcast ได้
00:29:01 → 00:29:03 ทางเว็บไซต์ www.thaipspodcast.com
00:29:03 → 00:29:05 thapodcast.com
00:29:05 → 00:29:09 แอปพลิเคช Thai PBBS Podcast รวมถึงฟัง
00:29:09 → 00:29:12 ผ่าน podcast ช่องทางอื่นๆ Spotify
00:29:12 → 00:29:15 YouTube Apple Podcast และ Soundcloud
00:29:15 → 00:29:17 เ้า
00:29:17 → 00:29:20 [เพลง]