00:00:00 → 00:00:03 เรายังอยู่ที่ว่าการมีเพศสัมพันธ์กับ
00:00:03 → 00:00:07 บุคคลที่เป็น HIV แต่กินยาต้านไวรัสนั้น
00:00:07 → 00:00:10 จะทำให้เรามีความเสี่ยงแค่ไหนอย่างไรบ้าง
00:00:10 → 00:00:13 และวันนี้ค่ะเราได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้
00:00:13 → 00:00:16 เชี่ยวชาญอาจารย์หมอจะมาตอบคำถามไขข้อ
00:00:16 → 00:00:18 ข้องใจตรงนี้กันสวัสดีค่ะ
00:00:18 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:32 อาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะอาจารย์
00:00:32 → 00:00:35 อุบัติการณ์ค่ะของการเกิดโรคเอดส์นั้น
00:00:35 → 00:00:38 ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกเป็นอย่างไรบ้าง
00:00:38 → 00:00:41 คะคือเอ่ออุบัติการ์นะครับก็จะต้องแยก
00:00:41 → 00:00:44 เป็นผู้ป่วยรายใหม่กับผู้ป่วยรายเก่านะ
00:00:44 → 00:00:47 ครับที่มีอยู่แล้วทั่วโลกเนี่ยนะครับก็
00:00:47 → 00:00:51 ยังมีมีปัญหาเรื่องของการระบาดของโรค HIV
00:00:51 → 00:00:55 ID อยู่นะครับปัจจุบันเนี่ยเรามีผู้ติด
00:00:55 → 00:00:58 เชื้อไร่ใหม่นะครับทั่วโลกอยู่นะครับแล้ว
00:00:58 → 00:01:00 ก็ในประเทศไทยเองเนี่ยก็ยังมีผู้ติดเชื้อ
00:01:00 → 00:01:03 รายใหม่สูงนะครับโดยปีที่แล้วเนี่ยเรามี
00:01:03 → 00:01:06 อยู่ประมาณ 9,000 คนเนะครับจากก่อนหน้า
00:01:06 → 00:01:08 นี้เรามีแค่ประมาณ 5,000 6,000 คนเท่า
00:01:08 → 00:01:10 นั้นเองปีที่แล้วก็กระโดดขึ้นไปเป็น 9,000
00:01:11 → 00:01:14 คนนะครับแล้วก็โดยรวมเนี่ยจำนวนผู้ป่วย
00:01:14 → 00:01:17 ทั้งหมดนะครับที่อยู่ในในประเทศเนี่ย
00:01:17 → 00:01:19 จำนวนจะเพิ่มขึ้นทุกปีนะครับเพราะว่ามัน
00:01:19 → 00:01:23 จะเป็นผู้ป่วยรายเก่าที่รักษานะครับแล้ว
00:01:23 → 00:01:26 ก็มีชีวิตอยู่ยืนยาวรวมกับรายใหม่ที่มา
00:01:26 → 00:01:29 เติมทุกปีนะครับเพราะฉะนั้นในในประเทศไทย
00:01:29 → 00:01:32 เนี่ยเ่อจำนวนผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV นะ
00:01:32 → 00:01:34 ครับหรือว่าผู้ติดเชื้อ hiv เนี่ยนะครับ
00:01:34 → 00:01:37 ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนะครับแล้วก็ส่วน
00:01:37 → 00:01:40 นึงเนี่ยก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นเพราะฉะนั้น
00:01:40 → 00:01:43 ก็เราก็จะอยู่กับผู้ติดเชื้อ hiv ที่อายุ
00:01:44 → 00:01:47 มากขึ้นด้วยครับอาจารย์คะแล้วสาเหตุที่ทำ
00:01:47 → 00:01:50 ให้คนเนี่ยติดเชื้อ hiv มากขึ้นเนี่ยมัน
00:01:50 → 00:01:53 เป็นเพราะอะไรคะแล้วก็ทราบข้อมูลมาด้วย
00:01:53 → 00:01:55 ค่ะอาจารย์ว่าคนที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นนั้น
00:01:55 → 00:01:57 จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นด้วยมันเพราะอะไรอ่ะคะ
00:01:57 → 00:02:00 อาจารย์ก็สัดส่วนของผู้ติดเชเชื้อรายใหม่
00:02:00 → 00:02:03 เนี่ยนะครับก็มีการเปลี่ยนแปลงก็คือเอ่อ
00:02:03 → 00:02:06 อายุเนี่ยลดลงนะครับแล้วก็ส่วนใหญ่ก็จะ
00:02:06 → 00:02:09 เป็นชายรักชายนะครับแต่ว่าปัจจัยที่ทำให้
00:02:09 → 00:02:12 มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเนี่ยก็คงเกิดได้
00:02:12 → 00:02:15 หลายปัจจัยนะครับเป็นปัจจัยหลายๆอย่าง
00:02:15 → 00:02:18 ร่วมกันนะครับอันแรกก็คือเรื่องของลักษณะ
00:02:18 → 00:02:20 ของการมีเพศสัมพันธ์ในปัจจุบันเนี่ยนะ
00:02:20 → 00:02:23 ครับเราอยู่ในยุคที่มีเพศสัมพันธ์นะครับ
00:02:23 → 00:02:26 เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นการใช้แอปพลิเคชันหา
00:02:26 → 00:02:30 คู่ต่างๆนะครับหรือว่าการใช้สารเสพติดที่
00:02:30 → 00:02:34 ทำให้เอ่อมีสติลดลงนะครับแล้วก็มีความรู้
00:02:34 → 00:02:37 สึกทางเพศอยู่ยาวขึ้นเช่นยาไอซ์นะครับ
00:02:37 → 00:02:39 หรือว่ายาอื่นๆที่ใช้กระตุ้นความรู้สึก
00:02:39 → 00:02:42 ทางเพศพวกเนี้ยนะครับก็จะจะทำให้มีความ
00:02:42 → 00:02:44 เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน
00:02:44 → 00:02:47 นะครับเพิ่มเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ติด HIV นะ
00:02:47 → 00:02:49 ครับแล้วก็ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
00:02:49 → 00:02:52 อื่นๆเพิ่มขึ้นด้วยนะครับแล้วก็จะเป็น
00:02:52 → 00:02:55 ปัจจัยเรื่องของโควิดที่ผ่านมา 2-3 ปีนะ
00:02:55 → 00:02:58 ครับอาจจะมีประเด็นเรื่องของการเอ่อเดิน
00:02:58 → 00:03:01 ทางเข้ามารับการดูแลป้องกันรักษาเนี่ย
00:03:01 → 00:03:04 น้อยลงเลยทำให้เป็นปัจจัยโดยรวมทั้งหมด
00:03:04 → 00:03:07 เนี่ยนะครับทำให้จำนวนเคสรายใหม่ในประเทศ
00:03:07 → 00:03:10 ไทยเพิ่มขึ้นแล้วคนที่มีเพศสัมพันธ์ค่ะ
00:03:10 → 00:03:13 อาจารย์กับผู้ที่ติดเชื้อ hiv แล้วก็กิน
00:03:13 → 00:03:15 ยาต้านอยู่เนี่ยจะมีโอกาสติดเชื้อมากน้อย
00:03:15 → 00:03:19 แค่ไหนคะก็ก็ต้องดูข้อมูลก่อนนนะครับว่า
00:03:19 → 00:03:22 ผู้ที่ติดเชื้อ hiv เนะครับหรือว่าผู้
00:03:22 → 00:03:24 อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV เนี่ยในขณะที่ทานยา
00:03:24 → 00:03:27 ต้านเพื่อรักษาเนี่ยนะครับต้องดูว่าเาทาน
00:03:27 → 00:03:30 ยาสม่ำเสมอหรือไม่นะครับแล้วก็ว่าผลการ
00:03:30 → 00:03:33 ตรวจหาไวรัสครั้งสุดท้ายเนี่ยต่ำหรือยัง
00:03:33 → 00:03:36 นะครับถ้าไวรัสต่ำจนกระทั่งตรวจได้ตรวจ
00:03:36 → 00:03:39 ไม่เจอนะครับหรือว่าค่าไวรัสน้อยมากเนี่ย
00:03:39 → 00:03:42 โอกาสที่จะมีการแพร่กระจายทางเพศสัมพันธ์
00:03:42 → 00:03:45 เนี่ยน้อยนะครับแต่แต่เนื่องจากประวัติ
00:03:45 → 00:03:48 รู้แค่ว่าทานยาแต่ก็ไม่รู้จริงๆว่าทานยา
00:03:48 → 00:03:50 สม่ำเสมอหรือเปล่าแล้วก็ผลการตรวจไวรัส
00:03:50 → 00:03:53 ครั้งสุดท้ายเนี่ยเป็นยังไงก็คงยังอาจจะ
00:03:53 → 00:03:56 ยืนยันไม่ได้นะครับถ้าสมมุติว่ากินยาได้
00:03:56 → 00:03:59 สม่ำเสมอผลการตรวจหาไวรัสไม่เจออันนี้ก็
00:03:59 → 00:04:02 ก็ความเสี่ยงก็จะลดลงหรือว่าอาจจะไม่ติด
00:04:02 → 00:04:05 เลยนะครับแต่อีกมีอีกประเด็นนึงนะครับก็
00:04:05 → 00:04:07 คือในการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันเนี่ย
00:04:07 → 00:04:10 แม้ว่าผู้ที่ติดเชื้อ hiv เนี่ยทานยาต้าน
00:04:10 → 00:04:14 อยู่จนกระทั่งไวรัสต่ำมากเนี่ยนะครับถ้า
00:04:14 → 00:04:17 มีเพศสัมพันธ์แม้ว่าไม่ป้องกันนะครับคือ
00:04:17 → 00:04:20 เอ่อมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันเนี่ยนะ
00:04:20 → 00:04:24 ครับก็มีโอกาสไม่ติดเชื้อโรคอื่นๆนะครับ
00:04:24 → 00:04:26 ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสพันได้ด้วยนะครับ
00:04:26 → 00:04:30 เช่นฟิลิสหนองในนะครับนอกเหนือจาก HIV นะ
00:04:30 → 00:04:34 ครับก็ควรจะต้องระวังเรื่องโรคอื่นๆด้วย
00:04:34 → 00:04:38 ครับอาจารย์คะและในภาวะที่ผู้ป่วยค่ะกิน
00:04:38 → 00:04:42 ยาต้านไวรัสแล้วแล้วก็มีภาวะที่เรียกว่า u
00:04:42 → 00:04:46 = u ก็คือไม่สามารถที่จะพบเชื้อไวรัส
00:04:46 → 00:04:48 แล้วก็ไม่สามารถที่จะถ่ายทอดไปสู่ผู้อื่น
00:04:48 → 00:04:51 ได้ตรงจุดนี้ค่ะอยากให้อาจารย์ขยายความ
00:04:51 → 00:04:54 ให้ฟังหน่อยว่าคือภาวะอย่างไรคะ
00:04:54 → 00:04:56 undetectable เท่ากับ untransmittable
00:04:56 → 00:04:59 เนี่ยนะครับโดยความหมายของมันก็คือถ้าเรา
00:04:59 → 00:05:02 เอาผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV เนี่ยมา
00:05:02 → 00:05:05 ทานยาต้านนะครับรักษาจนไวรัสต่ำจนตรวจไม่
00:05:05 → 00:05:08 เจอเนี่ยนะครับโอกาสที่เขาจะแพร่กระจายนะ
00:05:08 → 00:05:11 ครับเชื้อในตัวเขาเนี่ยให้คนอื่นนะครับ
00:05:11 → 00:05:13 ผ่านทางกันมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน
00:05:13 → 00:05:16 เนี่ยนะครับเป็นศูนนะครับอันนี้ก็จะเป็น
00:05:16 → 00:05:19 คำว่า undetectable นะครับเท่ากับ
00:05:19 → 00:05:22 untransmittable แล้วตอนนี้การรักษา HIV
00:05:22 → 00:05:25 ค่ะอาจารย์พัฒนาไปถึงไหนแล้วคะตอนนี้ก็
00:05:25 → 00:05:29 ยังยังใช้ยารักษาอยู่นะครับแล้วก็เอ่อโดย
00:05:29 → 00:05:31 โดยส่วนใหญ่เนี่ยนะครับหลักการในการรักษา
00:05:31 → 00:05:34 ก็คงยังเป็นการใช้ยาต้านนะครับที่จะกด
00:05:34 → 00:05:37 ไวรัสไว้นะครับเพื่อไม่ให้ไวรัสมันแบ่ง
00:05:37 → 00:05:39 ตัวแล้วก็หลังจากนั้นภูมของร่างกายเนี่ย
00:05:39 → 00:05:43 ก็จะทำงานสูงขึ้นเป็นปกติคนไข้ก็จะกินยา
00:05:43 → 00:05:47 ไปตลอดแล้วก็มีระดับของภูมิพุมกันสูงขึ้น
00:05:47 → 00:05:50 นะครับพอที่จะป้องกันโรคติดเชื้อฉวยอากาศ
00:05:50 → 00:05:52 ต่างๆนะครับแล้วก็ป้องกันการเกิดโรค
00:05:52 → 00:05:57 มะเร็งบางอย่างด้วยนะครับแล้วก็มีชีวิต
00:05:57 → 00:06:00 ที่ยืนยาวมากขึ้นนะครับมีคุณคุณภาพชีวิต
00:06:00 → 00:06:03 ที่ดีขึ้นนะครับแต่ก็ตามนะครับก็ใน
00:06:03 → 00:06:06 ปัจจุบันเนี่ยนะครับมีวิวัฒนาการในการ
00:06:06 → 00:06:10 พัฒนาเรื่องของการรักษาที่ดีขึ้นก็คือใน
00:06:10 → 00:06:12 ในอนาคตนะครับจริงๆภายในปีหน้าเนี่ยนะ
00:06:12 → 00:06:15 ครับเราอาจจะเห็นเรื่องของรูปแบบของยา
00:06:15 → 00:06:18 ต้านไวรัส HIV สำหรับรักษาเนี่ยเป็นยาฉีด
00:06:18 → 00:06:22 นะครับซึ่งอาจจะเป็นฉีดอ่าทุก 2 เดือนนะ
00:06:22 → 00:06:25 ครับแล้วก็ในอนาคตเนี่ยนะครับในอีกไม่ไม่
00:06:25 → 00:06:28 กี่ปีข้างหน้าเนี่ยอาจจะเป็นยาฉีดซึ่งออก
00:06:28 → 00:06:31 ิบยาวขึ้นนะครับเอ่ออาจจะฉีดทุก 6 เดือน
00:06:31 → 00:06:34 นะครับอันนี้ก็จะเป็นในเรื่องของการรักษา
00:06:34 → 00:06:36 ที่ดีขึ้นแล้วก็อาจจะทำให้คนไข้เนี่ย
00:06:36 → 00:06:39 สะดวกสบายมากขึ้นที่จะไม่ต้องมานั่งจำว่า
00:06:39 → 00:06:41 วันนี้กินยาไปหรือยังส่วนตัวค่ะอาจารย์
00:06:42 → 00:06:45 อาจารย์คิดว่าปัจจุบันนี้โรคดสแล้วก็ HIV
00:06:45 → 00:06:48 ยังน่ากลัวอีกหรือไม่คะจริงๆก็เป็นโรคที่
00:06:48 → 00:06:50 น่ากลัวน้อยลงนะครับเมื่อเทียบกับในอดีต
00:06:50 → 00:06:53 นะครับเพราะว่าในปัจจุบันเนี่ยรู้เร็ว
00:06:53 → 00:06:57 รักษาเร็วแล้วก็อ่าทานยาที่เหมาะสมนะครับ
00:06:57 → 00:07:00 ก็สามารถที่จะทำให้คนไข้มีชีวิตอยู่ยาว
00:07:00 → 00:07:04 เหมือนใกล้เคียงคนปกตินะครับแล้วก็สามารถ
00:07:04 → 00:07:06 ใช้ชีวิตโดยมีคุณภาพคุณภาพชีวิตเหมือนคน
00:07:06 → 00:07:10 ปกติทุกอย่างนะครับแต่ก็ตามนะครับไม่ติด
00:07:10 → 00:07:12 จะดีกว่านะครับเพราะว่าถ้าติดเนี่ยนะครับ
00:07:12 → 00:07:15 ก็จะต้องนั่งกินยาในระยะยาวไปตลอดชีวิตนะ
00:07:15 → 00:07:18 ครับแล้วก็ในปัจจุบันเนี่ยนะครับเ่อเราก็
00:07:18 → 00:07:21 ยังกังวลนะครับในการที่จะป้องกันไม่ให้มี
00:07:21 → 00:07:25 เคสรายใหม่นะครับก็มีวิวัฒนาการในการป้อง
00:07:25 → 00:07:27 กันนะครับที่ดีขึ้นด้วยนะครับในปัจจุบัน
00:07:27 → 00:07:30 เนี่ยการป้องกัน HIV Age เนี่ยนะครับเรา
00:07:30 → 00:07:33 สามารถใช้ยาที่เรียกว่าเป็นยาเพบนะครับ
00:07:33 → 00:07:36 ซึ่งซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพที่ดีใน
00:07:36 → 00:07:38 การป้องกันเลยนะครับแล้วก็ยาเพบใน
00:07:38 → 00:07:41 ปัจจุบันเนี่ยก็จะเป็นยากินนะครับแล้วก็
00:07:41 → 00:07:44 คล้ายๆกับการรักษานะครับยาเพลบในในปีหน้า
00:07:44 → 00:07:47 นะครับประเทศไทยก็จะเป็นประเทศที่มีโอกาส
00:07:47 → 00:07:50 ใช้ยาฉีดแบบป้องกันนำร่องนะครับที่ศูนย์
00:07:50 → 00:07:53 วิจัยลเอสภากาชาติไทยเนี่ยก็จะมีโครงการ
00:07:53 → 00:07:56 นะครับนำร่องนะครับสำหรับการใช้ยาฉีด
00:07:56 → 00:07:59 เพื่อป้องกันนะครับในประชากรคลุมเสียง
00:07:59 → 00:08:03 อาจารย์คะแม้ว่าเราจะรณรงคว่าถ้ามีความ
00:08:03 → 00:08:06 เสี่ยงนะคะว่าเราไปมีเพศสัมพันธ์แล้วก็
00:08:06 → 00:08:09 อาจจะติดเชื้อ hiv ก็ต้องรีบไปตรวจคัด
00:08:09 → 00:08:12 กรองโดยเร็วที่สุดอยากให้อาจารย์ขยายความ
00:08:12 → 00:08:14 เรื่องนี้ค่ะว่าเป็นอย่างไรคะครับตอนนี้
00:08:14 → 00:08:18 ความสำคัญของการรักษา HIV Age นะครับที่
00:08:18 → 00:08:21 ดีที่สุดคือรู้เร็วนะครับในปัจจุบันเนี่ย
00:08:21 → 00:08:23 ใครก็ตามนะครับที่มีความเสี่ยงเนี่ยแนะนำ
00:08:23 → 00:08:26 ให้ตรวจนะครับเพื่อวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว
00:08:26 → 00:08:29 นะครับแล้วก็ตอนนี้เรามีวิวัฒนาการในการ
00:08:29 → 00:08:32 การวินิจฉัยที่ดีขึ้นนะครับในอดีตเนี่ย
00:08:32 → 00:08:34 การวินิจฉัย H นะครับต้องใช้การตรวจเลือด
00:08:34 → 00:08:37 อยู่ที่โรงพยาบาลหรือตามคลินิกนะครับแต่
00:08:37 → 00:08:39 ปัจจุบันเนี่ยมีการตรวจแบบตรวจด้วยตัวเอง
00:08:40 → 00:08:42 นะครับเหมือนการตรวจหาโควิดนะครับซึ่ง
00:08:42 → 00:08:44 เป็นการตรวจเบื้องต้นที่จะทำให้รู้นะครับ
00:08:44 → 00:08:47 ว่าติดเชื้อ hiv หรือเปล่าพอรู้ปุ๊บก็จะ
00:08:47 → 00:08:50 มาเข้าสู่การรักษาที่คลินิกหรือว่าโรง
00:08:50 → 00:08:54 พยาบาลนะครับอันนี้ก็เป็นเป็นสิ่งที่ควร
00:08:54 → 00:08:57 จะต้องทำนะครับแล้วก็ในคนที่ยังสงสัยว่า
00:08:57 → 00:09:00 ตัวเองอาจจะมีความเสี่ยงหรือเปล่าเนี่ยนะ
00:09:00 → 00:09:03 ครับบางทีแนะนำให้ตรวจไปตั้งแต่เนิ่นๆก็
00:09:03 → 00:09:06 จะดีนะครับเพราะว่าโรคนี้ถ้ารักษาเร็ว
00:09:06 → 00:09:08 เนี่ยนะครับการตอบสนองต่อการรักษาเนี่ย
00:09:08 → 00:09:11 มันจะดีกว่าการที่เราปล่อยนะครับจน
00:09:11 → 00:09:14 กระทั่งเป็นระยะท้ายๆแล้วก็มารักษาซึ่ง
00:09:14 → 00:09:16 การตอบสนองเนี่ยก็อาจจะไม่ค่อยดีแล้วก็
00:09:17 → 00:09:20 ยังมีโรคติดเชื้อฉวยกาศเกิดขึ้นครับแล้ว
00:09:20 → 00:09:23 ถ้าเรารู้เร็วเราสามารถกินยาต้านไวรัสได้
00:09:23 → 00:09:26 ภายใน 72 ช่วโมงจริงหรือไม่คะอาจารย์ใน
00:09:26 → 00:09:29 ปัจจุบันนะครับถ้าเรารู้ว่าติดเชื้อเนี่ย
00:09:29 → 00:09:32 เรามีโครงการพิเศษนะครับแล้วก็จริงๆมัน
00:09:32 → 00:09:34 เป็นคำแนะนำโดยทั่วไปก็คือพยายามเริ่มยา
00:09:34 → 00:09:36 ให้เร็วที่สุดนะครับสำหรับศูนน์วิจัยลูก
00:09:36 → 00:09:39 เอสภากาชาติไทยเนี่ยเรามีโครงการเริ่มยา
00:09:39 → 00:09:41 ภายในวันเดียวกันเลยนะครับซึ่งจะทำให้คน
00:09:41 → 00:09:43 ไข้เข้าถึงยาได้ภายในวันเดียวหลังจากที่
00:09:43 → 00:09:47 รู้ว่าเป็นอ่ามีการติดเชื้อ hvv ครับสุด
00:09:47 → 00:09:51 ท้ายค่ะอยากให้อาจารย์ฝากถึงคนทางบ้านค่ะ
00:09:51 → 00:09:54 ว่าทำอย่างไรให้ห่างไกลจาก HIV ค่ะจริงๆ
00:09:54 → 00:09:59 ทั้ง 2 โรคนะครับโรค HIV กับฝีดาดลิงหรือ
00:09:59 → 00:10:02 ว่าว่า MX เนี่ยมันมันเป็นไวรัสที่ติดต่อ
00:10:02 → 00:10:05 ช่องทางเดียวกันนะครับคือไปสัมผัสเลือด
00:10:05 → 00:10:08 สารคัดหลังของผู้ที่มีเชื้อนี่อยู่นะครับ
00:10:09 → 00:10:11 เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ
00:10:11 → 00:10:14 การเลี่ยงนะครับการสัมผัสเลือดหรือสารคัด
00:10:14 → 00:10:18 หลังที่ที่เอ่อมีโอกาสปนเปื้อนไวรัสทั้ง 2
00:10:18 → 00:10:21 ตัวนะครับเช่นการใช้ถุงยางอนามัยนะครับ
00:10:21 → 00:10:25 แล้วก็การลดการการมีความเสี่ยงแบบมี
00:10:25 → 00:10:28 เพศสัมพันธ์กับคนที่อาจจะเป็นโรคนี้นะ
00:10:28 → 00:10:31 ครับซึ่งจะช่วยป้องกันทั้ง HIV แล้วก็ ede
00:10:31 → 00:10:36 นะครับแล้วก็ empo ได้ไหนก็ตามนะครับในใน
00:10:36 → 00:10:38 เรื่องของ hvv เนี่ยเรามียาที่ป้องกันที่
00:10:38 → 00:10:41 ดีนะครับแต่ว่า MX ในปัจจุบันเนี่ยนะครับ
00:10:41 → 00:10:43 การป้องกันเนี่ยเนื่องจากยังไม่มีวัคซีน
00:10:43 → 00:10:45 ใช้เพราะฉะนั้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงก็จะ
00:10:46 → 00:10:48 เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับแล้วก็ในอนาคต
00:10:48 → 00:10:51 ถ้าเรามีวัคซีนใช้เนี่ยนะครับก็อาจจะอาจ
00:10:51 → 00:10:54 จะดีขึ้นในแง่ของการป้องกันขอบคุณนะคะ
00:10:54 → 00:10:58 สำหรับการรับชมรายการ TNN Health ค่ะและ
00:10:58 → 00:11:01 อย่าลืมค่ะกด Subscribe กดไลค์กดแชร์ใน
00:11:01 → 00:11:04 ทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะ
00:11:04 → 00:11:07 เพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิป
00:11:08 → 00:11:11 วีีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:11:11 → 00:11:14 คะ