00:00:00 → 00:00:05 โรคเอชไอวีเอดส์ ก็จะเป็นโรคเกี่ยวกับ การติดเชื้อไวรัสเรื้อรังชนิดหนึ่ง
00:00:05 → 00:00:07 ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษา
00:00:07 → 00:00:10 ในแต่ละปีก็จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่
00:00:10 → 00:00:12 ประมาณ 9,000 – 100,000 คนครับ
00:00:19 → 00:00:25 การติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ หลัก ๆ เชื้อก็จะมีในสารคัดหลั่งต่าง ๆ
00:00:25 → 00:00:26 ในปริมาณแตกต่างกัน
00:00:26 → 00:00:29 อย่างเช่น น้ำลายก็จะมีค่อนข้างน้อย
00:00:29 → 00:00:33 ในเลือด ในน้ำอสุจิ จะมีปริมาณเชื้อค่อนข้างสูง
00:00:33 → 00:00:35 ก็จะเป็นสองเส้นทางหลักใหญ่ ๆ
00:00:35 → 00:00:38 ก็คือเรื่องของการได้เลือดและก็ทางเพศสัมพันธ์
00:00:38 → 00:00:42 ในปัจจุบันเรื่องของการรับบริจาคเลือดน้อยลงมาก
00:00:43 → 00:00:47 เนื่องจากว่ามีมาตรการในการตรวจเช็ก ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
00:00:47 → 00:00:53 แต่ก็จะมีกลุ่มที่ใช้เข็มฉีดยา ใช้ยาเสพติดโดยผ่านการฉีด
00:00:53 → 00:00:56 พวกนี้ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงอยู่
00:00:56 → 00:00:58 (หมอ) สวัสดีครับ (คนไข้) สวัสดีครับ
00:00:58 → 00:01:01 (หมอ) สำหรับเรื่องผลเลือด คุณไก่ทราบแล้วใช่ไหมครับ
00:01:01 → 00:01:02 (คนไข้) ครับ
00:01:02 → 00:01:04 (หมอ) การตรวจหลัก ๆ ปัจจุบันเป็นการตรวจเลือด
00:01:04 → 00:01:08 ดูเรื่องของภูมิคุ้มกัน และก็ดูเรื่องของการติดเชื้อ
00:01:08 → 00:01:11 ในทางการแพทย์ระยะแรกของการติดเชื้อ
00:01:11 → 00:01:13 เราจะเรียกว่า HIV Infection
00:01:13 → 00:01:17 แต่ถ้าเกิดว่ามีการติดเชื้อแทรกซ้อน เราจะเรียกว่าเป็นโรคเอดส์
00:01:17 → 00:01:21 แบ่งออกเป็น ระยะแรก ระยะ A ระยะ B และก็ระยะ C
00:01:21 → 00:01:25 สำหรับกลุ่ม A จะเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อช่วงแรก
00:01:25 → 00:01:27 ได้รับเชื้อเข้ามาในร่างกาย
00:01:27 → 00:01:29 ก็จะมีอาการคล้าย ๆ กับไข้หวัดทั่วไป
00:01:29 → 00:01:32 ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย แต่ว่าก็สามารถแพร่เชื้อได้
00:01:32 → 00:01:36 ระยะ B เป็นระยะที่เริ่มมีอาการ
00:01:36 → 00:01:40 เนื่องจากว่าเชื้อเอชไอวี มันจะไป ทำลายการทำงานของเม็ดเลือดขาว
00:01:40 → 00:01:42 ร่างกายก็จะมีความอ่อนแอลง
00:01:42 → 00:01:45 และก็ระยะ C พอเม็ดเลือดขาวลดลงเรื่อย ๆ
00:01:45 → 00:01:49 มีการติดเชื้อฉวยโอกาสเข้ามา ก็จะเข้าสู่ระยะเอดส์
00:01:49 → 00:01:52 ก็คือระยะที่ภูมิคุ้มกันต่ำลงมาก ๆ
00:01:52 → 00:01:55 ถ้าไม่ได้รับการรักษา ก็จะทำให้คนไข้เสียชีวิตได้ครับ
00:01:55 → 00:01:57 (คนไข้) อย่างนี้มันจะรักษาหายไหมครับหมอ
00:01:57 → 00:01:59 หรือว่าแค่ช่วยบรรเทาครับ
00:01:59 → 00:02:02 (หมอ) จริง ๆ โรคนี้ยังไม่มี วิธีการรักษาที่ทำให้หายขาด
00:02:02 → 00:02:06 แต่ว่าในปัจจุบันสามารถควบคุมอาการได้
00:02:06 → 00:02:11 ปัจจุบันมีการพัฒนาในแง่ของยา มีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างดี
00:02:11 → 00:02:15 สามารถควบคุมอาการได้ คล้ายกับเป็นโรคเรื้อรังแบบหนึ่ง
00:02:15 → 00:02:17 นอกจากยาต้านไวรัส
00:02:17 → 00:02:20 ก็จะเป็นการให้ยาป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
00:02:20 → 00:02:22 พวกเชื้อฉวยโอกาสต่าง ๆ
00:02:22 → 00:02:25 อันนี้ขึ้นอยู่กับระดับของเม็ดเลือดขาว ที่เรียกว่า CD4
00:02:26 → 00:02:30 ถ้าเกิดว่า CD4 ต่ำ ๆ โอกาสติดเชื้อฉวยโอกาสเพิ่มขึ้น
00:02:30 → 00:02:34 คุณหมอก็จะให้ยาที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ
00:02:34 → 00:02:36 (หมอ) การรักษาในปัจจุบัน
00:02:36 → 00:02:39 ถ้าเกิดว่ารักษาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
00:02:39 → 00:02:42 ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อยู่ในสังคมได้
00:02:42 → 00:02:45 จะคล้ายกับการรักษาโรคเรื้อรังต่าง ๆ
00:02:45 → 00:02:49 อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน ซึ่งโรคนี้ไม่หายเหมือนกัน
00:02:49 → 00:02:51 ต้องทานยาควบคุมไปตลอด
00:02:51 → 00:02:54 นอกจากยาต้านไวรัสก็จะเป็นการให้ยาป้องกัน
00:02:54 → 00:02:57 ก่อนสัมผัสโรคและหลังสัมผัสโรค
00:02:57 → 00:02:59 มันจะมีคำว่า PrEP และก็คำว่า PEP
00:02:59 → 00:03:02 ทั้งสองกลุ่มเป็นยาต้านไวรัสเหมือนกัน
00:03:02 → 00:03:04 แต่ว่าสูตรที่ใช้ไม่เหมือนกัน
00:03:04 → 00:03:07 PrEP คือการป้องกันก่อนที่จะสัมผัสเชื้อ
00:03:07 → 00:03:11 แนะนำสำหรับกลุ่มที่มีโอกาสสัมผัสโรค
00:03:11 → 00:03:13 อย่างเช่น ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
00:03:13 → 00:03:15 ท่านต้องทานยาต่อเนื่องสม่ำเสมอ
00:03:15 → 00:03:17 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในอนาคต
00:03:17 → 00:03:22 ในขณะที่ PEP เป็นการป้องกัน หลังจากที่สัมผัสโรคมาแล้ว
00:03:22 → 00:03:26 ไม่ว่าจะเป็นจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ไม่ได้รับการป้องกัน
00:03:26 → 00:03:28 ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย
00:03:28 → 00:03:32 ซึ่งท่านสามารถลดโอกาส ที่จะติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ได้
00:03:32 → 00:03:33 (คนไข้) แล้วอย่างการติดเชื้อ
00:03:33 → 00:03:36 ถ้าเรากินข้าวร่วมกัน สามารถแพร่เชื้อได้ไหมครับ
00:03:36 → 00:03:40 (หมอ) เอชไอวีจะติดต่อผ่านทางเลือด
00:03:40 → 00:03:41 และก็ทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก
00:03:41 → 00:03:46 สำหรับกิจกรรมที่ทำร่วมกัน กับผู้ป่วยเอชไอวีเอดส์ได้
00:03:46 → 00:03:49 โดยที่ไม่มีการติดหรือว่าไม่ได้มีความเสี่ยง
00:03:49 → 00:03:54 ไม่ว่าจะเป็นการกอด การสัมผัสบริเวณผิวหนัง การจูบ
00:03:54 → 00:03:55 อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ
00:03:55 → 00:04:00 การมีความสัมพันธ์ทางด้านร่างกาย ที่ไม่ได้สอดใส่
00:04:00 → 00:04:04 ในแง่ของออรัสเซ็กส์ หรือว่าเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก
00:04:04 → 00:04:06 โอกาสที่จะติดเชื้อค่อนข้างต่ำมาก
00:04:06 → 00:04:10 ถ้าไม่ได้มีแผล หรือว่าไม่ได้มีโรคภายในช่องปาก
00:04:10 → 00:04:14 วิธีป้องกันหลัก ๆ เลย ก็เรื่องของเพศสัมพันธ์
00:04:14 → 00:04:17 ซึ่งเป็นช่องทางการติดเชื้อที่เจอบ่อยที่สุด
00:04:17 → 00:04:20 ต้องมีการป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
00:04:20 → 00:04:23 ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันเรื่องของเอชไอวีแล้ว
00:04:23 → 00:04:27 ก็ช่วยป้องกันโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ด้วย
00:04:27 → 00:04:29 สำหรับเรื่องของการแจ้งคู่นอน
00:04:29 → 00:04:33 อันนี้ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ
00:04:33 → 00:04:36 ในแง่ของการรักษาและการควบคุมโรค
00:04:36 → 00:04:41 ถ้าเกิดพบการติดเชื้อก็ให้การรักษา พร้อม ๆ กับตัวผู้ป่วย
00:04:41 → 00:04:43 ซึ่งก็จะทำให้ผลการรักษาดีกว่า
00:04:51 → 00:04:54 ถ้ามีปัญหาทางสุขภาพ อย่าลืมมาพบหมอนะครับ