00:00:00 → 00:00:03 การดูดไขมันคืออะไรใครที่ห้ามทำไม่เหมาะ
00:00:03 → 00:00:05 กับใคร 3 ใครที่ควรจะระวัง 4 ต้องเตรียม
00:00:05 → 00:00:08 ตัวอย่างไรเวลาทำเทำกันยังไงทำมีอะไรที่
00:00:08 → 00:00:11 เขาควรจะรู้หลังจากทำแล้วเนี่ยมันจะดีต่อ
00:00:11 → 00:00:13 เขาอย่างไรปึ๊บแล้วก็เปิดเครื่องตึ๊ดๆๆๆ 3
00:00:14 → 00:00:16 นาทีออกหมดแล้วไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ว่าดูไข
00:00:16 → 00:00:19 มันแล้วไขมันอุดตันในปอดส่วนตัวไม่เคยเจอ
00:00:19 → 00:00:21 ส่วนใหญ่อ่ะฉันอยากจะผอมทีเดียวแขนฉันก็
00:00:21 → 00:00:24 ใหญ่ขาฉันก็ใหญ่พุงฉันก็ใหญ่ฉันอยากจะดูด
00:00:24 → 00:00:26 ไปเลยทีเดียวที่มันจบเลยหมอตายนั่นน่ะจะ
00:00:26 → 00:00:29 เอาเหรอนึกออกมั้ยไม่ได้เราต้องแบ่งกัด
00:00:29 → 00:00:32 เกิดมันเยอะอะไรอย่างเงี้ยอือมันควรแบ่ง
00:00:32 → 00:00:35 ทำอืปัจจุบันการดูดไขมันเนี่ยเทคโนโลยี
00:00:35 → 00:00:37 มันเปลี่ยนไปมั้ยอันนี้ก็จะใช้เครื่องต้า
00:00:37 → 00:00:41 สาวไปสลายแฟชสลายเฉพาะไขมันให้มันแตก
00:00:41 → 00:00:44 เฉพาะไขมันทำไมถึงมาชอบด้านนี้สมัยก่อน
00:00:44 → 00:00:47 น่ะตอนวัยรุ่นน่ะตัวเอ้เองอ่ะใหญ่อวบเลย
00:00:47 → 00:00:49 อ่ะเราก็คิดว่าโอ๊ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉัน
00:00:49 → 00:00:50 เรียนจบเมื่อไหร่ฉันจะเก็บเงินนะฉันจะไป
00:00:50 → 00:00:53 ดูดไขมันเลยถ้าประเทศนี้ยังไม่มีใครทำ
00:00:53 → 00:00:55 เดี๋ยวฉันทำเองอะไรคือตอนว่าเกิดมานี่คือ
00:00:55 → 00:00:59 เพื่อที่จะมาดูดไขมันตั้งแต่เด็กละนเอว่า
00:00:59 → 00:01:01 น่าจะเป็นดิสนีย์ของเอ๊แหละวันนี้ทำยังมี
00:01:01 → 00:01:03 ความสุขเหมือนเดิมให้คนอื่นให้ไปทำอย่าง
00:01:03 → 00:01:05 อื่นไม่ไปเลยฉันจะทำแต่สิ่งนี้สิ่งเดียว
00:01:05 → 00:01:08 ไปตลอดชีวิตมีหลายคนที่ทำศัลยกรรมความงาม
00:01:08 → 00:01:12 ไปแล้วชีวิตดีขึ้นมากๆงานรุ่งรักปังคิด
00:01:12 → 00:01:15 ว่ามันไม่ใช่เกี่ยวกับดวงนะโหงเฮ้งแล้ว
00:01:15 → 00:01:16 แบบว่าเฮ้ยเงินเข้าเอ๊ะไม่คิดอย่างงั้น
00:01:16 → 00:01:19 เตะเมีความมั่นใจมากขึ้นเขาสามารถก้าวออก
00:01:19 → 00:01:22 จากบ้านเสามารถตื่นมามองกระจกแล้วยิ้มให้
00:01:22 → 00:01:24 กับตัวเองแล้วสามารถเชิดหน้าออกจากบ้านไป
00:01:24 → 00:01:27 สู่สังคมได้อย่างมั่นใจมากขึ้นน่ะอะไรดีๆ
00:01:27 → 00:01:29 มันก็เข้ามาหาเขาเองจ้ะ
00:01:29 → 00:01:33 แพทย์ที่จะออกมาทำเรื่องตลกๆอาจจะมองว่า
00:01:33 → 00:01:37 ขอโทษนะหมอเนี่ยไม่มีงานมีการทำลดคุณค่า
00:01:37 → 00:01:40 ตัวเองขัดความน่าเชื่อถือกระแสหรือคนที่
00:01:40 → 00:01:43 เขามองเข้าใจอย่างี้หมอเอ้อยากจะตอบเขา
00:01:43 → 00:01:45 ว่าอย่างไรถ้าเราไม่ได้แบกแพทย์สตบัณฑิต
00:01:45 → 00:01:47 อยู่บนหน้าเราว่ามันเป็นหมอก็คงไม่มี
00:01:47 → 00:01:49 ดราม่านะเทรนด์มันต้องเปลี่ยนะหมออ่ะ
00:01:49 → 00:01:53 พัฒนาตัวเองขึ้นมาให้แบบเข้าถึงอืแบบ
00:01:53 → 00:01:56 ประชาชนมากขึ้นสมัยเนี้ยทั้งหมอนะหมอฟัน
00:01:56 → 00:01:58 หรือหมออะไรก็ตามเอกมาทำคเทนกันเยอะแนว
00:01:58 → 00:02:00 โน้มพร้อมคนก็เปิดรับมากขึ้นเรื่อยๆคงไม่
00:02:00 → 00:02:02 จำเป็นต้องไปตะโกนบอกกับเว่าเฮ้ยเธอต้อง
00:02:02 → 00:02:05 เปิดใจคงไม่เอ๊ะว่าปล่อยให้มันเป็นไปตาม
00:02:05 → 00:02:08 เวลาดีกว่าความรู้ของเราคือโปรักถ้าไม่มี
00:02:08 → 00:02:10 Marketing คนก็ไม่รู้จักโปรดักของเราและ
00:02:10 → 00:02:15 humor คือ marketing ของเรา
00:02:15 → 00:02:18 และรู้สึกว่า content ที่หมอเอ้ทำเนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 จริงๆแล้วไม่ได้ทำขำๆ content ของคุณหมอ
00:02:21 → 00:02:24 เนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยมันสะท้อนถึงปัญหา
00:02:24 → 00:02:26 สังคมนะโซเชียลมันพัฒนาขึ้นแต่คนดังไป
00:02:26 → 00:02:29 เลือกเชื่อคนที่มีข้อมูลจริงน้อยลงเรื่อย
00:02:29 → 00:02:31 ๆเพื่อบุคลิกของคนๆนั้นน่ะมันน่าเชื่อ
00:02:31 → 00:02:34 เท่านั้นเองระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยซึ่ง
00:02:34 → 00:02:37 หลายเรื่องเนี่ยไม่มีใครพูดหลายคนพูดไม่
00:02:37 → 00:02:39 ได้ไม่อยากพูดไม่อยากให้เกิดดราม่าใน
00:02:39 → 00:02:42 สังคมไปก็เท่านั้นแหละมันเปลี่ยนอะไรไม่
00:02:42 → 00:02:45 ได้เคยทำสาระคุณไม่ดูคนสมัยนี้ชอบอะไรที่
00:02:45 → 00:02:48 มันแบบมีความบันเทิงด้วยสาระมากๆเข้มข้น
00:02:48 → 00:02:50 intens มากๆอย่างเงี้ยสื่อที่ไปไม่ถึง
00:02:50 → 00:02:53 แคติ้งหน่อยสิครับไปเรียนมาหรืออะไรมัน
00:02:53 → 00:02:56 ได้อารมณ์ขนาดนั้นหน้าตามันจะลงตัวได้
00:02:56 → 00:02:59 ขนาดนี้สมัยนั้นฉันเคยเจอคนไข้แบบนี้แล้ว
00:02:59 → 00:03:01 ฉันอยากจะเอามาเล่าให้สังคมในตอนเนี้ยเรา
00:03:01 → 00:03:04 จะทวิสไปให้มันตลกจบเดินข้างนอกมีคนเคย
00:03:04 → 00:03:08 ทักมั้ยคนจำฉันได้แล้วอะไรอย่างเงี้ยฉัน
00:03:08 → 00:03:10 จะทำตัวแบบกิเลกราชเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว
00:03:10 → 00:03:12 นะอะไรเงี้ยจะมีคลินิกความงามเป็นของตัว
00:03:12 → 00:03:16 เองหลายคนก็ลงทุนกับ
00:03:16 → 00:03:19 เพื่อนบอกให้อยากจะฝากให้เค้าระวังอะไร
00:03:19 → 00:03:21 คุณจะสนิทกับหุ้นส่วนมากแค่ไหนอ่ะคุณต้อง
00:03:21 → 00:03:24 เผื่อใจไว้ระดับนึงไปด้วยกันต่อไม่ได้คน
00:03:24 → 00:03:26 เดียวเถอะเราเหมือนเรือแล้วเราก็แบก
00:03:26 → 00:03:29 พนักงานมาเต็มลำเงี้ยความรับผิดชอบจนถึง
00:03:29 → 00:03:31 ทุกวันเนี้ยมัน 10 กว่าปีแล้วอ่ะค่ะเชื่อ
00:03:31 → 00:03:33 ว่าในฐานะหมอเนี่ยมันไม่ง่ายเพราะว่าเรา
00:03:33 → 00:03:36 ไม่ได้ถูกปั้นมาให้บริหารคนเราถูกปั้นมา
00:03:36 → 00:03:40 ให้บริหารคนไข้มันอีกมิตินึงนะมันทำให้
00:03:40 → 00:03:43 เราทุกข์ง่ายหมอส่วนใหญ่ทุกข์ง่ายหมอให้
00:03:43 → 00:03:45 บริหารความสุขยังไงบางคนก็คิดว่าความสุข
00:03:45 → 00:03:48 คือเราต้อง success ใช่มยเราต้องได้ยอด
00:03:48 → 00:03:51 นึงเป็นหลายล้านปีนึงกี่แบบเป็น 10 ล้าน
00:03:51 → 00:03:53 เราต้องไปเที่ยวต่างประเทศเราต้องไป
00:03:53 → 00:03:56 เที่ยวรอบโลกเราต้องได้นั่งเครื่องบิน
00:03:56 → 00:03:58 Business ค first class เราต้องมี
00:03:58 → 00:04:01 แบรนด์เนมอยู่แต่มันไม่ใช่ตรงนั้นหรอกค่ะ
00:04:01 → 00:04:05 ถูกดีนอนหลับสบายกินอิ่มไม่อดอยากมีเงิน
00:04:05 → 00:04:08 พอที่จะซื้อข้าวกินมีปัจจัยพอที่จะใช้
00:04:08 → 00:04:11 ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างโดยที่ไม่ต้อง
00:04:11 → 00:04:13 ดิ้นรนอือเอ๊ว่านั่นคือความสุขหรอคะ
00:04:13 → 00:04:17 อาจารย์อืทุกคนมีความสุขได้ถ้าทุกอย่าง
00:04:17 → 00:04:19 มันมันมองว่ามันสุขแล้วอ่ะ
00:04:19 → 00:04:29 [เพลง]
00:04:29 → 00:04:35 การใช้ความตลกความอารมณ์ขันเนี่ยสามารถ
00:04:35 → 00:04:39 สื่อสารไปถึงระดับรากญาติได้อย่างไรหมอ
00:04:39 → 00:04:43 เอ้พยายามจะแก้ความเชื่อผิดๆหรือมุมมอง
00:04:43 → 00:04:48 ที่มองว่าหมอว่างหมอไม่ทำงานหมอมาทำคเทน
00:04:48 → 00:04:53 ตลตลกๆนั้นอาจจะทำให้หลายๆคนไม่เข้าใจ
00:04:53 → 00:04:57 เจตนาของหมอที่ออกมาทำคเทนวันนี้ผมได้รับ
00:04:57 → 00:05:00 เกียรติจากแขกเชิญท่านนึงที่ผมเองก็ติด
00:05:00 → 00:05:04 ตามแล้วก็เป็นแหล่งความบันเทิงของผมแล้ว
00:05:04 → 00:05:06 ก็หลายคนในวงการแพทย์นะครับเพราะว่าหมอ
00:05:06 → 00:05:10 ท่านนี้เนี่ยทำคเทนที่ไม่ใช่แค่ตลกนะแต่
00:05:10 → 00:05:15 ตลกแบบเนี้ี้ยบมากแล้วก็แทรกสาระสำคัญที่
00:05:15 → 00:05:18 เป็นปัญหาของสังคมในวงการแพทย์ในเฉพาะ
00:05:18 → 00:05:22 แพทย์กับผู้ป่วยสวัสดีค่ะหมอเอ้นะคะแพทย์
00:05:22 → 00:05:25 หญิงรัฐการวชิรพสกุลนะคะจากช่องติtอกดร.
00:05:25 → 00:05:29 เอ้นะคะปัจจุบันหมอเอ้ทำงานอยู่ที่เดยัง
00:05:29 → 00:05:33 คลินิกซึ่งเราเป็นผู้ก่อตั้งใช่ค่ะผมเส้น
00:05:33 → 00:05:36 ทางของหมอเอ้เป็นยังไงฮะมาถึงจุดนี้ได้
00:05:36 → 00:05:39 อย่างไรครับบทเรียนที่อยากจะฝากรุ่นหลัง
00:05:39 → 00:05:43 รุ่นน้องที่หลายคนเดี๋ยวนี้ก็อยากจะมี
00:05:43 → 00:05:46 แบรนด์เป็นของตัวเองออยากจะมีคลินิกความ
00:05:46 → 00:05:51 งามเป็นของตัวเองหลายคนก็ลงทุนกับเพื่อน
00:05:51 → 00:05:56 หมอเอ้อยากจะฝากให้เค้าระวังอะไรก็เอ่อ
00:05:56 → 00:06:00 จริงๆนะคะเราทำงานในรัฐบาลมาก่อนนะคะแล้ว
00:06:00 → 00:06:05 ก็เราก็มีเพื่อนมีเพื่อนเขาแบบว่าทำงาน
00:06:05 → 00:06:07 เป็นพวกเป็นคลินิกพวกศัลยกรรมแล้วก็ความ
00:06:07 → 00:06:11 งามอ่ะค่ะเค้าอยากได้คนไปช่วยทำงานค่ะที
00:06:11 → 00:06:16 เนี้ยเราก็เลยออกมาจากราชการแล้วก็ไปร่วม
00:06:16 → 00:06:21 งานกับเค้าค่ะตอนแรกก็ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำ
00:06:21 → 00:06:24 นานเหมือนกันค่ะไม่ได้คิดว่าจะทำแบบไปจน
00:06:24 → 00:06:27 ถึงทุกวันเนี้ยมัน 10 กว่าปีแล้วอ่ะค่ะอ
00:06:27 → 00:06:29 แต่ว่าพอมันได้ไปอยู่ตรงนั้นแล้วอ่ะแล้ว
00:06:29 → 00:06:32 แล้วเราไม่ได้ไปในฐานะของการที่เป็น
00:06:32 → 00:06:34 พนักงานอีกต่อไปอ่ะค่ะมันปล่อยไม่ได้
00:06:34 → 00:06:38 อาจารย์มันแบบเราต้องทำไปเรื่อยๆอ่าเรา
00:06:38 → 00:06:42 เราทิ้งคนไข้ของเราเองนะไม่ได้แล้วก็เรา
00:06:42 → 00:06:46 ก็ทิ้งพนักงานของเราไม่ได้นะคะเราก็เลยมา
00:06:46 → 00:06:49 ก็เลยทำมาเรื่อยก็กลายเป็นผู้บริหารเลย
00:06:49 → 00:06:52 ตอนนี้ใช่ซึ่งก็มีทีมหมอศัลยกรรมแต่งใต้
00:06:53 → 00:06:56 จริงๆจริงๆแล้วอ่ะค่ะคือโอหถ้าถ้าย้อนถ้า
00:06:56 → 00:07:00 ย้อนไปแบบมันจะดราม่านิดนึงคือเป็นหุ้น
00:07:00 → 00:07:03 ส่วนซึ่งตอนนี้ไม่คุยกันแล้วนะ
00:07:03 → 00:07:05 ภาษานะคะคนที่แบบเป็นพาร์ทเนอร์กันมาก่อน
00:07:05 → 00:07:10 แล้วพอมันมีคอนฟลิกมันมีความแบบขัดแย้ง
00:07:10 → 00:07:13 กันในในความเห็นการทำงานอย่างเงี้ยมันทำ
00:07:13 → 00:07:18 ให้โอเคทะเลาะกันแยกแยกทางกันไปอมาถึงบอก
00:07:18 → 00:07:21 ว่าจริงๆแล้วอ่ะอ่าเราทำมา 16 ปีแต่ว่า
00:07:21 → 00:07:22 เราเพิ่งมาแบรนด์
00:07:22 → 00:07:26 ing ของตัวเองแบบ 100% เนี่ย 13 ปีก็ไม่
00:07:26 → 00:07:28 น้อยนะ 13 ปีก็ไม่น้อยใช่เพราะช่วง 3 ปี
00:07:28 → 00:07:32 แรกนี่ก็คืออยู่กับตัวแบรนด์กับผู้กับเ
00:07:32 → 00:07:35 ตัวหุ้นส่วนเขามาตลอดนะฮะก่อนที่จะแยกแยก
00:07:35 → 00:07:39 ออกมาก็คือทางใครทางมันไปนะครับซึ่งตอน
00:07:39 → 00:07:42 นั้นน่ะก็พูดได้ว่าก็ก็เจ็บปวดนะมันเจ็บ
00:07:42 → 00:07:44 ปวดเพราะว่าเ้าเป็นเพื่อนที่เราเคยสนิท
00:07:44 → 00:07:46 อ่ะอะไรอย่างเงี้ยแต่ตอนเก็คือยังกลับมา
00:07:46 → 00:07:48 คุยกันได้แล้วนะฮะแต่ตอนนั้นน่ะมันแบบ
00:07:48 → 00:07:52 โอ๊ยมันมันเศร้าอะไรเงี้ยอพูดจริงๆเลยนะ
00:07:52 → 00:07:55 จากประสบการณ์เลยอยากจะบอกว่าอย่าอืทำคน
00:07:55 → 00:08:01 เดียวเถอะอืเพราะว่าเห็นมาค่ะ 100 100%
00:08:01 → 00:08:04 เลยค่ะสุดท้ายเราก็ต้องต้องมีปัญหาอยู่ดี
00:08:05 → 00:08:08 อืแต่เข้าใจว่าบางทีแบบณตอนนั้นน่ะเราก็
00:08:08 → 00:08:12 ไม่คิดเหมือนกันเพราะฉะนั้นก็อยากจะให้ทำ
00:08:12 → 00:08:15 เต็มที่ดีกว่าเต็มที่ในสถานการณ์ตรงตอน
00:08:15 → 00:08:17 นั้นน่ะแต่ว่าต้องเผื่อใจไว้บ้างว่าเอ้ย
00:08:18 → 00:08:20 สุดท้ายแล้วอ่ะมันอาจจะต้องไปคนเดียวนะอื
00:08:20 → 00:08:22 คือธุรกิจทุกประเภทค่ะอาจารย์อาจารย์ไม่
00:08:22 → 00:08:25 ว่าไม่ได้เป็นแค่คลินิกความงามต่อให้ไปทำ
00:08:25 → 00:08:28 ร้านอาหารหรือว่าไปเปิดร้านเสื้อผ้าอะไร
00:08:28 → 00:08:31 เงี้ยอถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีหุ้นส่วน่ะต่อ
00:08:31 → 00:08:35 ให้อ่าคุณจะสนิทกับหุ้นส่วนมากแค่ไหนอ่ะ
00:08:35 → 00:08:39 คุณต้องเผื่อใจไว้ระดับนึงเสมอว่ามันต้อง
00:08:39 → 00:08:42 อาจจะมีสักวันนึงอ่ะที่คุณไปด้วยกันต่อ
00:08:42 → 00:08:46 ไม่ได้อืแล้วคุณต้องเตรียมพร้อมที่จะแบก
00:08:46 → 00:08:48 ทุกอย่างไว้ที่ตัวคุณเองทั้งความรับผิด
00:08:48 → 00:08:52 ชอบต่อลูกค้าของคุณของเราคือคนไข้นะทั้ง
00:08:52 → 00:08:55 ความรับผิดชอบต่อพนักงานสำคัญนะคะเรา
00:08:55 → 00:08:58 เหมือนเรือลำเบอเร่อเลยอ่ะแล้วเราก็แบก
00:08:58 → 00:09:01 พนักงานมาเต็มลำเงี้ยเราสละไม่ได้อ่ะมัน
00:09:01 → 00:09:05 เป็นความรับผิดชอบเนาะก็ถ้ารุ่นน้องคนไหน
00:09:05 → 00:09:09 เนี่ยหรือเอ่อคุณหมอท่านไหนอยากจะออกมาทำ
00:09:09 → 00:09:12 อะไรของตัวเองทำธุรกิจของตัวเองเงี้ยค่ะ
00:09:12 → 00:09:14 แล้วคิดว่าอยากจะมีพาร์ทเนอร์มีหุ้นส่วน
00:09:14 → 00:09:18 แบบเนี้ยก็อยากจะให้รู้สติไว้เสมอว่า
00:09:18 → 00:09:22 เตรียมพร้อมไว้เสมอเพราะว่าเราเป็นคนที่
00:09:22 → 00:09:26 ล้มไม่ได้นะเราเป็นในองค์กรเนี้ยใครจะล้ม
00:09:26 → 00:09:30 ก็ล้มไปแต่คุณที่เป็นหัวเรือคุณล้มไม่ได้
00:09:30 → 00:09:35 ค่ะอืมแล้วหมอเอ้ยต้องจากหมอผันตัวมาเป็น
00:09:35 → 00:09:38 ผู้บริหารด้วยอือต้องเรียนต้องฝึกอะไร
00:09:38 → 00:09:42 ต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาอะไรบ้างอืม
00:09:42 → 00:09:44 จริงๆแล้วเราไม่ได้เรียนแบบบริหารอะไรมา
00:09:44 → 00:09:47 เลยนะทุกอย่างมันมาจากอประสบการณ์ใช่มั้
00:09:47 → 00:09:49 คะทุกอย่างมันมาจากเอ่อสิ่งที่เราเคยเจอ
00:09:49 → 00:09:52 มามาตลอดตลอดนะฮะเอ่อเอ๊ว่ามันเป็นการ
00:09:52 → 00:09:55 เรียนรู้มากกว่าคือถ้าเอ๊เรียนบริหารมา
00:09:55 → 00:09:58 เอ๊อาจจะโตกว่านี้ไปแล้วก็ได้นะแต่ว่าตอน
00:09:58 → 00:10:02 เนี้ยเราเราเดินทางมาเราจะเดินทางจากตอน
00:10:02 → 00:10:04 ที่โดนพนักงานกงเงินเรานั่งร้องไห้ว่า
00:10:05 → 00:10:07 ทำไมเค้าถึงทรยศเราอย่างเงี้ยจนตอนเเรา
00:10:07 → 00:10:10 แบบเฉยๆแล้วอ่ะมันเป็นเรื่องปกติเอ๊ว่า
00:10:10 → 00:10:13 มันเป็นประสบการณ์มากกว่าที่มันสะสมมา
00:10:13 → 00:10:15 ตลอดทำให้เราเรียนรู้เรื่องของการบริหาร
00:10:15 → 00:10:18 ด้วยตัวของเราเองอ่ะค่ะ
00:10:18 → 00:10:23 อืแล้วหาความสุขอย่างไรเป็นผู้หญิงที่
00:10:23 → 00:10:26 ต้องบริหารองค์กรมีพนักงานไหนจะดันแบรนด์
00:10:26 → 00:10:30 ตัวเองผมเชื่อว่ามันไม่ง่ายผมเชื่อว่าใน
00:10:30 → 00:10:32 ฐานะหมอเนี่ยมันไม่ง่ายเพราะว่าเราไม่ได้
00:10:32 → 00:10:35 ถูกปั้นมาให้บริหารคนเราถูกปั้นมาให้
00:10:35 → 00:10:38 บริหารคนไข้มันอีกมิตินึงนะมันทำให้เรา
00:10:38 → 00:10:41 ทุกข์ง่ายหมอส่วนใหญ่ทุกข์ง่ายหมอให้
00:10:41 → 00:10:44 บริหารความสุขยังไงเออว่ะฉันมีความสุขมั้
00:10:44 → 00:10:48 เนี่ยวันๆเออมีมั้ยบริหารความสุขยังไงหรอ
00:10:48 → 00:10:51 คะพาร์ทของหมอหมออ่ะถ้าทำอ่าทำงานหมอที่
00:10:51 → 00:10:54 เป็นหมอเลยอ่ะมันก็เครียดจะมันไม่ใช่คือ
00:10:54 → 00:10:56 มันอาจจะไม่ยากเพราะเราเรียนมาแต่มันก็
00:10:56 → 00:10:59 เครียดมันก็เครียดจะแย่อยู่แล้วนะฮะมัน
00:10:59 → 00:11:01 ไม่ใช่เครียดแค่ตัวคนไข้ด้วยนะมันเครียด
00:11:01 → 00:11:05 แบบผู้ร่วมงานเพื่อนร่วมงานอืออะไรอย่าง
00:11:05 → 00:11:07 เงี้ยค่ะคือจากที่เราแบบประสบการณ์เราอ่ะ
00:11:07 → 00:11:09 เคยทำทั้งเป็นหมอที่เป็นหมอเลยด้วยแล้วก็
00:11:09 → 00:11:11 ทำงานบริหารด้วยอ่ะเรารู้ว่ามันมีความ
00:11:11 → 00:11:15 เครียดที่แตกต่างกันอืนะคะเอ่อถ้าเป็นหมอ
00:11:15 → 00:11:17 ที่เป็นหมอเลยเนี่ยมันก็บางทีเราก็เครียด
00:11:17 → 00:11:20 เรื่องของคนไข้อะไรอย่างเงี้ยบางทีรักษา
00:11:20 → 00:11:22 คนไข้ไม่หายเราก็เฟลอะไรอย่างเงี้ยใช่มั้
00:11:22 → 00:11:25 คะหรือบางทีแบบเพื่อนเข้าใจเราผิดหรือว่า
00:11:25 → 00:11:27 อะไรอย่างเงี้ยมันมันก็มีปัญหากันได้
00:11:27 → 00:11:29 เหมือนกันในเรื่องของการแบ่งงานแบ่งเวร
00:11:29 → 00:11:31 อะไรอย่างเงี้ยนะมันก็เครียดอีกแบบนึง
00:11:31 → 00:11:33 ส่วนการบริหารน่ะมันก็เครียดเครียดอีกแบบ
00:11:33 → 00:11:37 นึงการบริหารน่ะมันเป็นความรับผิดชอบแบบ
00:11:37 → 00:11:41 ที่มันรับผิดชอบต่อคนหมู่มากใช่มั้ยคะ
00:11:41 → 00:11:44 อย่างที่บอกว่าเราเราไม่สามารถล้มได้อะไร
00:11:44 → 00:11:46 เงี้ยมันก็เป็นความเครียดถ้าทุกคนมีความ
00:11:46 → 00:11:50 สุขได้ถ้าถ้าทุกทุกอย่างมันมองว่ามันสุข
00:11:50 → 00:11:55 แล้วอ่ะเออมันมันพอสมมุติว่าเอ๊คิดว่า
00:11:55 → 00:11:58 ความเครียดตอนเนี้ยมันเกิดจากอะไร
00:11:58 → 00:12:01 แล้วความสุขอ่ะมันคืออะไรบางคนก็คิดว่า
00:12:01 → 00:12:03 ความสุขคือเราต้อง success ใช่มยเราต้อง
00:12:03 → 00:12:07 ได้ยอดนึงเป็นหลายล้านปีนึงกี่แบบเป็น 10
00:12:07 → 00:12:10 ล้านเราต้องไปเที่ยวต่างประเทศเราต้องไป
00:12:10 → 00:12:12 เที่ยวรอบโลกเราต้องได้นั่งเครื่องบิน
00:12:12 → 00:12:14 Business Class First Class เราต้อง
00:12:14 → 00:12:18 มีแบรนด์เนมอยู่แต่มันไม่ใช่ตรงนั้นหรอก
00:12:18 → 00:12:21 จริงๆแล้วถ้าเรามองไปรอบตัวแล้วเราโอเค
00:12:21 → 00:12:25 อ่ะกับชีวิตเราอ่ะอืเราอ่ะมันก็คือความ
00:12:25 → 00:12:28 สุขแล้วอาจารย์อือเรามองไปโอเคคลินิกเรา
00:12:28 → 00:12:31 ไม่ได้ใหญ่พนักงานเราไม่ได้เป็นร้อยนะ
00:12:31 → 00:12:34 เอ่อบ้านเราไม่ได้โอ้โหเป็นไร่ใช่มั้ยคะ
00:12:34 → 00:12:37 รถเราไม่ใช่แบบเบลเลซเปอร์คารอะไรเลยแต่
00:12:37 → 00:12:38 เราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ป่า
00:12:38 → 00:12:43 อาจารย์เออเราเราก็มีความสุขดีนอนหลับ
00:12:43 → 00:12:46 สบายกินอิ่มไม่อดหยาบมีเงินพอที่จะซื้อ
00:12:46 → 00:12:50 ข้าวกินอืออ่ามีปัจจัยพอที่จะใช้ชีวิต
00:12:50 → 00:12:54 อยู่บนโลกนี้ได้อย่างโดยที่ไม่ต้อง
00:12:54 → 00:12:57 struggle ไม่ต้องดิ้นรนน่ะอือเอ๊ว่านั่น
00:12:57 → 00:13:00 คือความสุขแล้วค่ะอาจารย์อือืขอบคุณครับ
00:13:00 → 00:13:03 ขอบคุณเหตุผลที่ถามเพราะว่าหมอเอ้ไม่รู้
00:13:03 → 00:13:07 ตัวว่าหมอเอ้เนี่ยจริงๆนำความสุขมาให้กับ
00:13:07 → 00:13:11 บุคลากรทางการแพทย์หลายคนหนึ่งในนั้นคือ
00:13:11 → 00:13:14 ผมขอบคุณค่ะต้องขอยอมรับว่าผมเองไม่รู้
00:13:14 → 00:13:17 จักหมอเอ้มาตราไม่เคยรู้จัก
00:13:17 → 00:13:20 แต่ไปเห็นในฟีด TikTok แล้วรู้สึกว่า
00:13:20 → 00:13:23 content ที่หมอเอ้ทำเนี่ยจริงๆแล้วไม่
00:13:23 → 00:13:28 ได้ทำขำๆอืหมอกำลังจะสะท้อนปัญหาสังคมแต่
00:13:28 → 00:13:31 หลายๆอย่างเราก็รู้กันในวงการเราพูดตรงๆ
00:13:31 → 00:13:34 ไม่ได้หมอเอ้เลยเลือกที่จะทำเป็น content
00:13:34 → 00:13:37 ตลกแล้วไม่ใช่เป็น content ธรรมดาเป็น
00:13:37 → 00:13:41 content ที่ดูเหมือนว่าหมอตั้งใจเขียน
00:13:41 → 00:13:45 ตั้งใจถ่ายตั้งใจตัดต่อเพราะมันหลายๆคลิป
00:13:45 → 00:13:49 นะมันค่อนข้างข้างเป๊ะเป็นsequนมากก่อน
00:13:49 → 00:13:52 ที่จะไปถามว่าใครเป็นคนตัดต่อใครเป็นคน
00:13:52 → 00:13:57 เขียนผมอยากรู้ก่อนว่าแพทย์ที่จะออกมาทำ
00:13:57 → 00:14:01 เรื่องตลกๆผมเห็นบางท่านอาจจะมองว่าขอโทษ
00:14:01 → 00:14:05 นะหมอเนี่ยไม่มีงานมีการทำนะฮะผมก็เข้าใจ
00:14:05 → 00:14:09 เจตนาเค้าดีนะฮะผมเอาจหรือบางทีสังคมอาจ
00:14:09 → 00:14:13 จะมองว่าเอ๊ะหมอทำตัวตลกลดคุณค่าตัวเอง
00:14:13 → 00:14:17 ขาดความน่าเชื่อถือซึ่งจริงๆผมคิดว่ามัน
00:14:17 → 00:14:21 ไม่ใช่อ่ะแต่ก่อนอื่นถามมุมมองของหมอเอ้
00:14:21 → 00:14:22 ก่อน
00:14:22 → 00:14:26 ว่ากระแสหรือคนที่เค้ามองเข้าใจอย่างี้
00:14:26 → 00:14:28 หมอเอ้อยากจะตอบเค้าว่าอย่างไรเอ้มองว่า
00:14:28 → 00:14:33 มันมันโบราณไปแล้วแหละอือืคือแน่นอนน่ะคง
00:14:33 → 00:14:36 ยังมีคนคิดแบบนั้นอยู่อ่ะแต่การที่เอ้เอง
00:14:36 → 00:14:39 นะออกมาทำอะไรแบบเนี้ยแสดงว่าเราไม่ได้
00:14:39 → 00:14:42 คิดแบบนั้นน่ะมันก็มันก็น่าจะแล้วแต่มุม
00:14:42 → 00:14:46 มองของคนน่ะค่ะถ้าเกิดว่าเราทำคเทนไปแล้ว
00:14:46 → 00:14:49 จะมีคนมองเราแบบนั้นน่ะเราก็คงไปห้ามอะไร
00:14:49 → 00:14:54 เค้าไม่ได้อ่ะค่ะใช่เราทำสิ่งที่เราคิด
00:14:54 → 00:14:57 ว่าเออเราอยากทำมากกว่าเราก็ไม่ได้ไป
00:14:57 → 00:15:01 เบียดเบียนหรือว่าเดือดร้อนใครมากกว่า
00:15:01 → 00:15:03 เอ่อดราม่ามันมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออยู่
00:15:03 → 00:15:07 แล้วอาจารย์คือบางทีเราแบบอาจจะทำคเทนที่
00:15:07 → 00:15:10 เราไม่ได้ตั้งใจจะไปทำให้มันดูเป็นภาพคด
00:15:10 → 00:15:14 แย่เลยนะไม่ได้ตั้งใจจะแบบหมิ่นเม์หรือ
00:15:14 → 00:15:16 อะไรกับเรื่องของภาพพจน์ของแพทย์เลยนะแต่
00:15:17 → 00:15:20 ก็มีคนที่มาติงก็ก็ไม่ใช่หมอด้วยนะอือ
00:15:20 → 00:15:23 เป็นใครก็ไม่รู้อือนะคะใช้แบบแอคหลุมอะไร
00:15:23 → 00:15:26 เงี้ยมาบอกเป็นหมอทำอย่างี้ได้ด้วยเหรอ
00:15:26 → 00:15:28 อะไรอย่างเงี้ยอเราก็เลือกจะอินoreมาก
00:15:28 → 00:15:31 กว่าเราไม่ตอบด้วยอืแล้วหมอให้มองว่าไง
00:15:31 → 00:15:33 เข้าใจว่ายังไงเค้าทำไมเค้ามองเราอย่าง
00:15:33 → 00:15:37 งี้นะเค้ามองแคบไปมั้ยหรือหมอหมออยากจะ
00:15:37 → 00:15:39 เปิดให้เค้ามองกว้างหน่อยว่าจริงๆหมอมัน
00:15:39 → 00:15:44 ก็มีหลายแผนกอืมหมอคืออยากให้เค้ามองว่า
00:15:44 → 00:15:47 อยากให้ข้ามเพราะว่าหมอไปก่อนดีกว่าอคือ
00:15:47 → 00:15:49 สิ่งที่ทำอยู่ตอนเนี้ยถ้าเราไม่ได้แบก
00:15:49 → 00:15:52 แพทย์สตบัณฑิตอยู่บนอยู่บนหน้าหรือว่า
00:15:52 → 00:15:56 เป็นหมอเงี้ยก็คงไม่มีดราม่านะฮะอืออ่ะ
00:15:56 → 00:16:00 คเทนแบบคนที่ไม่ได้เป็นหมออาชีพอื่นเทำ
00:16:00 → 00:16:02 ตลกแบบหยาบคายหยาบโลนโป๊อย่างเงี้ยมันไม่
00:16:02 → 00:16:06 มีใครว่าอะไรแต่หมอทแล้วไม่ได้นะคะคือ
00:16:06 → 00:16:09 เหมือนถูกสติ๊กว่าเฮ้ยคุณเป็นหมอคุณทำแบบ
00:16:09 → 00:16:11 นี้มันไม่เหมาะสมอะไรอย่างเงี้ยออือซึ่ง
00:16:12 → 00:16:14 ตรงเนี้ยเรียกว่าต่อให้เอ้ไม่ทำอะไรเลย
00:16:14 → 00:16:17 ค่ะเทรนด์โลกมันก็จะเปลี่ยนละเทรนด์มัน
00:16:17 → 00:16:20 ต้องเปลี่ยนละคือสมัยเนี้ยทั้งหมอนะหมอ
00:16:20 → 00:16:23 ฟันหรือหมออะไรก็ตามเอกมาทำคเทนกันเยอะ
00:16:23 → 00:16:25 เยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วแนวโน้มคนก็เปิดรับ
00:16:26 → 00:16:28 มากขึ้นเรื่อยๆอ่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ้ย
00:16:28 → 00:16:31 ว่าในส่วนของเราเองอ่ะเราคงไม่จำเป็นต้อง
00:16:31 → 00:16:34 ไปตะโกนบอกอว่าเฮ้ยเธอต้องเปิดใจคงไม่เอ๊
00:16:34 → 00:16:37 ว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามเวลาดีกว่าอืม
00:16:37 → 00:16:40 เดี๋มันก็ถึงเวลาอีกทุกอย่างมันต้องมี
00:16:40 → 00:16:43 revolu อืทุกอย่างมันต้องมีแบบพัฒนาไป
00:16:43 → 00:16:47 ตามครับเทรนตามสมัยนิยมอืใช่ขอบคุณครับ
00:16:47 → 00:16:48 เดี๋ยวเดี๋คนที่เขา้าแบบออกมาบอกว่าเฮ้ย
00:16:49 → 00:16:50 มันไม่ดีเดี๋เค้าก็เงียบไปเองแหละเพราะ
00:16:50 → 00:16:54 ว่าเทรนด์มันเปลี่ยนไปแล้วอืค่ะครับรอรอ
00:16:54 → 00:16:56 แค่เวลาค่ะอาจารย์
00:16:56 → 00:16:59 ผมขออนุญาตเสริมค่ะผมก็คิดว่าผมก็เห็น
00:16:59 → 00:17:01 ด้วยกับหมอเองนะแล้วผมก็มองว่าจริงๆแล้ว
00:17:01 → 00:17:06 เนี่ยหมอที่ออกมาทำคเทนตลกผมอยากจะสะท้อน
00:17:06 → 00:17:09 ให้ประชาชนตั้งคำถามก่อนว่าจริงๆหมอเนี่ย
00:17:09 → 00:17:13 เค้าก็เป็นคนคนหนึ่งอือ 2 จริงๆแล้วหมอ
00:17:13 → 00:17:17 เองมันมีหลากหลายสาขามากสาขาตั้งแต่พวก
00:17:17 → 00:17:22 เครียดเยอะๆกับสาขาที่ไม่ได้เครียดมาก
00:17:22 → 00:17:24 เครียดเยอะๆหมายถึงว่าเช่นหมอผ่าตัดหัวใจ
00:17:24 → 00:17:27 อย่างเงี้ยอืจริตเค้าบุคลิกเค้าเไม่ทำ
00:17:27 → 00:17:30 อยู่แล้วเพราะว่าจริงมั้ยเพราะว่าเเจอร์
00:17:30 → 00:17:34 การเทนนingการทำงานเ้ามัน intense มันทำ
00:17:34 → 00:17:36 ให้บุคลิกเขาเป็นอย่างงั้นหมอปอดอย่าง
00:17:36 → 00:17:40 เงี้ยหมอผ่าตัดอย่างเงี้ยถึงแม้อยากทำแต่
00:17:40 → 00:17:42 ก็ทำไม่ได้เพราะจริตติดมันไม่ได้ไม่ใช่
00:17:42 → 00:17:44 ว่าเราไม่อยากทำหรือเราแอคไม่ทำแต่เราทำ
00:17:44 → 00:17:47 ไม่ได้เพราะว่าเราเราถูกปั้นมาอย่างี้มัน
00:17:47 → 00:17:50 มีความเป็นมีกรอบอยู่มันไม่ใช่กรอบมันมัน
00:17:50 → 00:17:55 tนอาชีพการงานเหมือนหมอ ICU หมอ ER อย่าง
00:17:55 → 00:17:58 เงี้ยบางทีเเครียดเเร่งรีบเนี่ยเขาอาจจะ
00:17:58 → 00:18:00 ไม่ได้มีมุมโมเมนตรงนั้นแต่ในตรงกันข้าม
00:18:00 → 00:18:03 หมอผิวหนังหมอเอสติกหมอของว่างเ้าไม่ใช่
00:18:03 → 00:18:07 หมอว่างนะผมผมหมอหมอว่างแบบที่อาจารย์
00:18:07 → 00:18:10 เบียร์คนอื่นทำแจวมีพวกหมอว่างทั้งหลายผม
00:18:10 → 00:18:13 ว่าไม่ไม่ใช่ว่างนะแต่ผมรู้สึกว่าลักษณะ
00:18:13 → 00:18:16 งานเขามันไม่ได้เร่งด่วนมากมันเป็นงานที่
00:18:16 → 00:18:20 เขายังมีเวลายังคุยยังใจเย็นๆได้นะผมว่า
00:18:20 → 00:18:24 มันต่างกันครับแล้วหมอแบบนี้เวลาออกมาทำ
00:18:24 → 00:18:27 มันดูดีมันดูน่ารักมันดูเข้าถึงด้วยนะ
00:18:27 → 00:18:29 ครับผมก็อยากจะแค่ฝากไม่มีอะไรหรอกครับ
00:18:30 → 00:18:32 ฝากให้เรามองว่าเอ้ยจริงๆเนี่ยหมอจริงๆ
00:18:32 → 00:18:36 มันมีหลายบุคลิกนะมันไม่เหมือนกันนะดัง
00:18:36 → 00:18:39 นั้นเอ่อเวลาเราจะวิเคราะห์ว่าหมอคนไหนทำ
00:18:39 → 00:18:41 ออกมาไม่หมาเหมาะสมอะไรอย่างเงี้ยอย่า
00:18:41 → 00:18:44 เพิ่งใช้คำว่าหมอเราอาจจะลงลึกไปนิดนึง
00:18:44 → 00:18:47 เค้าเป็นหมอแผนกไหนอาชีพเค้าหรือสายเค้า
00:18:47 → 00:18:51 มันมีความเครียดมากน้อยแค่ไหนนะครับแล้ว
00:18:51 → 00:18:53 ก็สุดท้ายอ่าอันนี้ย้ำอีกที content ที่
00:18:53 → 00:18:57 เขาทำที่มันดูตลกๆบางทีลองแอบดูสาระใน
00:18:57 → 00:18:59 นั้นหน่อยเราอาจจะได้เรียนรู้อะไรเหมือน
00:18:59 → 00:19:03 คทentของหมอเอ้นำไปสู่หัวข้อต่อไปผม
00:19:03 → 00:19:06 สังเกต content ของคุณหมอเนี่ยจริงๆแล้ว
00:19:06 → 00:19:10 เนี่ยมันสะท้อนถึงปัญหาสังคมระหว่างแพทย์
00:19:10 → 00:19:13 กับผู้ป่วยอืซึ่งหลายเรื่องเนี่ยไม่มีใคร
00:19:13 → 00:19:19 พูดหรือหลายคนพูดไม่ได้ไม่อยากพูดไม่อยาก
00:19:19 → 00:19:22 ให้เกิดดราม่าในสังคมหรือ 3 เขาไม่อยาก
00:19:22 → 00:19:24 พูดเพราะว่าพูดไปก็เท่านั้นแหละมัน
00:19:24 → 00:19:27 เปลี่ยนอะไรไม่ได้ยกตัวอย่างง่ายๆของผม
00:19:27 → 00:19:30 เลยก็แล้วกันอย่างคนไข้อย่างเงี้ยยกตัว
00:19:30 → 00:19:35 อย่างไอมา 2 เดือนแต่จะมาหาหมอตอนวัน
00:19:35 → 00:19:38 อาทิตย์ตอน 16:00 น.ซึ่งหมอจะลงตรวจ
00:19:38 → 00:19:41 ประมาณ 17:00 น.เงี้ยสมมุตินะสมมุติสมมติ
00:19:41 → 00:19:44 หรือสมัยก่อนอย่างเงี้ยผมอยู่เวรอย่าง
00:19:44 → 00:19:48 เงี้ยบอกจะมารับยาประกันสังคมยาหอบตอน
00:19:48 → 00:19:50 3:00 น.อ่า
00:19:50 → 00:19:55 ก็จริงๆอ่ะเหมือนเวลาหมอทำคเวลาเอ๊ทำคเทน
00:19:55 → 00:19:58 นะค่ะเอ้ก็จะส่วนใหญ่นะจะพยายามให้มันตลก
00:19:58 → 00:20:03 ก่อนอือืเพราะว่าถ้ามันสื่อแต่อะไรที่มัน
00:20:03 → 00:20:07 เครียดอ่ะคนไม่ดูอาจารย์ตอนเมื่อกี้ตอน
00:20:07 → 00:20:10 ก่อนที่จะเข้ามาในห้องศัตรูอ่ะอาจารย์ก็
00:20:10 → 00:20:13 บอกเออส่วนใหญ่ก็จะเป็นคอนเทนตลกนะที่มัน
00:20:13 → 00:20:17 มีอะไรแบบแทรกสอดอยู่ข้างในสาระไม่ค่อยมี
00:20:17 → 00:20:20 ใช่เพราะทำสาระแล้วคนไม่ดูอาจารย์อืเคยทำ
00:20:20 → 00:20:23 เคยทำสาระคนไม่ดูจริงคนสมัยนี้ชอบอะไรที่
00:20:23 → 00:20:26 มันแบบมีความบันเทิงด้วยนะคะถ้าเราทำแบบ
00:20:27 → 00:20:29 อะไรที่มันเป็นสาระมากๆเข้มข้น intens
00:20:29 → 00:20:32 มากๆอย่างเงี้ยมันคงเป็นสื่อที่ไปไม่ถึง
00:20:32 → 00:20:35 ไปไม่ถึงกับวงกว้างแน่ๆนะฮอเพราะฉะนั้น
00:20:35 → 00:20:41 น่ะเอ่อคเทนที่เอ้ทำอ่ะบางทีเอ้ก็จะนั่ง
00:20:41 → 00:20:43 แล้วนึกขึ้นมาด้วยเออสมัยนั้นฉันฉันเคย
00:20:43 → 00:20:47 เจอคนไข้แบบนี้แล้วฉันอยากจะเอามาเล่าให้
00:20:47 → 00:20:50 ให้ให้สังคมในตอนเนี้ยฟังว่าเออมันเป็น
00:20:50 → 00:20:53 ยังไงแต่เราจะทวิตสให้มันตลกยกตัวอย่าง
00:20:53 → 00:20:59 อ่าอย่างคนไข้ที่ทะเลาะกับแฟนนอนไม่หลับ
00:20:59 → 00:21:01 มาหาหมอตอน 3:00 น.
00:21:01 → 00:21:06 เนี่ยตอนนั้นโอดราม่าหนักเลยคือพยคุณพี่
00:21:06 → 00:21:10 พยาบาลหน้าโออีไงต้องเป็นอีอาเขาก็บอก
00:21:10 → 00:21:12 ทำไมมาตอนนี้อะไรอย่างเงี้ยโอก็ด่าว่า
00:21:12 → 00:21:15 ทำไมจะไม่มีสิทธิ์มาทำไมล่ะก็อาการมัน
00:21:15 → 00:21:17 เป็นตอนนี้ก็นอนไม่หลับก็ต้องไปกลางคืนสิ
00:21:17 → 00:21:19 อะไรอย่างเงี้ยทะเลาะกันดราม่าเลยถ้าเรา
00:21:19 → 00:21:21 เอาอย่างงั้นน่ะมาแสดงเป็นไงมันก็ต้องมี
00:21:21 → 00:21:24 การดราม่าทั้ง 2 ฝ่ายเราก็เลยเอามาทวิต
00:21:24 → 00:21:26 เป็นแบบ You go home อะไรเงี้ยเหมือน
00:21:26 → 00:21:29 คุณติช่าอย่างเงี้ยนะเอามาทวิสให้มันตลก
00:21:29 → 00:21:32 มันจะได้แบบมีความรีแลกมากขึ้นเวลาคนดูก็
00:21:32 → 00:21:35 เออขำแล้วก็เอาไปคิดด้วยว่าอจริงๆแล้วอ่ะ
00:21:35 → 00:21:37 ในหัวหมอมึงไล่มันกลับบ้านอยู่นะเออที่
00:21:37 → 00:21:39 หมอแบบยิ้มตรวจเนี่ยจริงๆแล้ว You go
00:21:39 → 00:21:43 home อยู่นะอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันก็เกิด
00:21:43 → 00:21:46 ฟีดแบคที่มันดีขึ้นมาใช่เราไม่สามารถเอา
00:21:46 → 00:21:49 อีเวentจริงๆแบบ 100% อ่ะมาเสนอได้หรอก
00:21:49 → 00:21:53 มันดราม่าเราต้องเอาความตลกเอาพวกอ่าถ้า
00:21:53 → 00:21:55 เป็นtiิTokเนี่ยอะไรที่มันinทรนอะไรอย่าง
00:21:55 → 00:21:58 เงี้ยแล้วมันสามารถเอามา merch กับอื
00:21:58 → 00:22:01 ประสบการณ์เราได้เนี่ยเราจะเอาไปพิมพอว่า
00:22:01 → 00:22:05 อันนี้ในวงการฉันก็มีมันเป็นอย่างงี้อพวก
00:22:05 → 00:22:10 เธอมาดูดิอืเออแล้วสิ่งที่เราคาดหวังนะคะ
00:22:10 → 00:22:15 คือการที่ในครอบครัวครอบครัวนึงอ่ะมีสัก
00:22:15 → 00:22:18 คนนึงตามเราอยู่แล้วเราเห็นคอนเทนเราคุณ
00:22:18 → 00:22:19 คุณพ่อคุณแม่เ้าอาจจะไม่จำเป็นต้องดูก็
00:22:19 → 00:22:22 ได้อาจจะลูกเ้าดูว่าเฮ้ยหมอคนนี้ทำคอนเทน
00:22:22 → 00:22:26 ตลกดีฮะติดตามแล้วพอคเทนของเราขึ้นมา
00:22:26 → 00:22:29 เนี่ยน้องคนนั้นน่ะอาจจะเอาไปให้พ่อแม่
00:22:29 → 00:22:33 เค้าดูอลุงป้าเดูว่าแม่นี่ไงใครบอกมะเซดา
00:22:33 → 00:22:37 รักษามะเร็งอะไรได้เพูดได้มั้ยคะเนี่ยได้
00:22:37 → 00:22:39 เนี่ยคุณหมอเ้าแซวเลยใครบอกมะนาวโซดา
00:22:39 → 00:22:41 รักษามะเร็งอย่างเงี้ยคืออย่างน้อยมัน
00:22:41 → 00:22:44 เป็น educate ที่มันจะไปถึงหน่วยเล็กๆที่
00:22:44 → 00:22:46 เรียกว่าครอบครัวได้หรือเปล่าอืออันเนี้ย
00:22:46 → 00:22:48 คือสิ่งที่คาดหวังว่าเฮ้ยถ้าถ้าcontทent
00:22:48 → 00:22:52 เราจะช่วยให้แบบ educate คนได้อ่ะเราอยาก
00:22:52 → 00:22:56 จะเข้าทางเนี้ยเข้าทางให้มันมีhูอรมีความ
00:22:57 → 00:23:00 ขับเ่อขบขันดึงattensชให้คนสนใจแล้วก็ให้
00:23:00 → 00:23:04 เค้าไปคุยกันในครอบครัวของเขาอือเราคงไม่
00:23:04 → 00:23:06 สามารถดึงทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งคุณยายอะไรมา
00:23:06 → 00:23:08 มาติดตามเราได้มั้คะแต่ถ้าอย่างน้อยมีสัก
00:23:08 → 00:23:12 คนนึงอ่ะในครอบครัวติดตามเราอยู่อ่ะเนี้ย
00:23:12 → 00:23:15 จะไปถึงเขาทั้งครอบครัวได้อืค่ะแล้วใคร
00:23:15 → 00:23:18 เป็นคนเขียนสิปตใครเป็นคนใครเป็นคนตัดต่อ
00:23:18 → 00:23:21 ใครเป็นคนถ่ายเขียนเองเอาจริงๆคือไอเดีย
00:23:21 → 00:23:24 เนี่ยส่วนใหญ่ก็คิดเองแต่ว่าบางทีก็จะมี
00:23:24 → 00:23:27 น้องๆเขาช่วยช่วยออกไอเดียบ้างเฮ้ยหมอตอน
00:23:27 → 00:23:29 นี้มีแผ่นเสียงเนี้ยคิดนะหมอเอาไปเล่น
00:23:29 → 00:23:31 อะไรหน่อยมั้ยอะไรอย่างเงี้ยค่ะอืออ่าแต่
00:23:31 → 00:23:35 ว่าพวกสิปtเนี่ยค่ะก็ส่วนใหญ่ก็คิดเองอ
00:23:35 → 00:23:38 คิดเองตัดต่อเองถึงบอกไงว่าเออมันดูว่าง
00:23:38 → 00:23:41 เนาะอะไรอย่างเงี้ยแต่เราก็ใช้เวลาที่มัน
00:23:41 → 00:23:44 ที่เรามีให้เกิดประโยชน์ใช่มันไม่นานค่ะ
00:23:44 → 00:23:47 อาจารย์จริงๆแล้วสมัยเนี้ยวิธีการตัดต่อ
00:23:47 → 00:23:49 คลิปในใช้แอปง่ายๆใน TikTok เองก็ตัดเอง
00:23:49 → 00:23:52 คือทั้งหมดoverอคลิปนึงประมาณ 2-3
00:23:52 → 00:23:55 ชั่วโมงบางทีก็เสร็จะอืเออไอ้ตัดต่อผมไม่
00:23:55 → 00:23:59 ซีเรียสไอ้แคติ้งนี่สิครับเก่งมากอันเออ
00:23:59 → 00:24:02 ไปเรียนมาหรืออะไรทำไมมันได้อารมณ์ขนาด
00:24:02 → 00:24:05 นั้นหน้าตาแบบโอโหมันอะไรมันจะลงตัวได้
00:24:05 → 00:24:10 ขนาดนี้มันเหมือนอินเนอร์มันออกมากเลยอ่ะ
00:24:10 → 00:24:12 เอ๊ะว่าเรื่องนี้มันแบบมันเป็นเหมือนคน
00:24:12 → 00:24:13 ร้องเพลงเพี้ยนกับร้องเพลงเพราะอ่ะ
00:24:13 → 00:24:15 อาจารย์อ่าฮะคือคนที่ร้องเพี้ยนมันก็ร้อง
00:24:15 → 00:24:18 เพี้ยนน่ะคนที่มันร้องถูกคีย์มันก็ถูกคี
00:24:18 → 00:24:20 มันเหมือนมันเป็นเซ้นน่ะค่ะออเออเหมือน
00:24:20 → 00:24:23 เอ๊ะก็เคยเอาน้องๆหรือเอาเพื่อนๆด้วยกัน
00:24:23 → 00:24:25 เองอ่ะมาช่วยเล่นคอนเทนอ่ะบางคนมันก็แบบ
00:24:25 → 00:24:28 แคติ้งได้บางคนมันก็ไม่ได้เลยไม่ได้เออ
00:24:28 → 00:24:29 มันเหมือนมันเป็นเซ้นของคนมากกว่าบางคน
00:24:29 → 00:24:32 แบบไม่ใช่ทางเนี้ยมันก็จะไม่ได้แต่คนที่
00:24:32 → 00:24:36 มันได้อ่ะค่ะบางทีมันแบบมันก็ทำได้ของเขา
00:24:36 → 00:24:38 เองแต่หมอเอ้มันไม่ใช่ได้ธรรมดาหมอเอ้นี่
00:24:38 → 00:24:41 คือแบบเก่งมากหลายเทกนะอาจารย์เหรอฮะแต่
00:24:41 → 00:24:44 เก่งมากผมดูสีหน้าตาใครยังไม่ดูลองแนะนำ
00:24:44 → 00:24:46 ไปดูนะครับถ้าเค้าต้องเสิร์ช TikTok เ
00:24:46 → 00:24:49 ต้องเสิร์ชว่าอะไรนะฮะดร. A ใช่มั้ยอ่าด
00:24:49 → 00:24:52 ก็ได้ DR จุดแล้ว AY มันน่าจะขึ้นมันขึ้น
00:24:52 → 00:24:55 เลยใช่ผมจำได้มีแต่คเทนตลกแล้วทำทุกวัน
00:24:55 → 00:24:59 มั้ฮะอื 2 หรือ 2-3 วันทีแล้วแต่ว่างใช่
00:24:59 → 00:25:01 มันส่วนใหญ่แล้วแล้วแต่แล้วแต่เวลามีเวลา
00:25:01 → 00:25:03 ว่างหรือว่าถ้ามีประเด็นอะไรที่แบบน่าสน
00:25:03 → 00:25:06 ใจขึ้นมาเนี่ยก็เราก็จะเอามาทำได้แต่ถ้า
00:25:06 → 00:25:08 ช่วงไหนแบบเออบ้านเมืองเงียบๆดูไม่ค่อยมี
00:25:08 → 00:25:11 อะไรให้เล่นเลยก็อาจจะเงียบไปอะไรอย่าง
00:25:11 → 00:25:14 เงี้ยค่ะส่วนใหญ่ก็จะประมาณสักอาทิตย์ละ 3
00:25:14 → 00:25:17 คลิปประมาณนี้ที่ที่ที่จะลงเยอะก็จะลง
00:25:17 → 00:25:20 เรื่อยแล้วเดินข้างนอกมีคนเคยทักมั้ยเอ้
00:25:20 → 00:25:24 แล้วรู้สึกไงวางตัวยังไงมีค่ะก็รู้สึก
00:25:24 → 00:25:28 เอ่อก็ยิ้มแล้วก็แบบประมาณว่าเราจะพูดคำ
00:25:28 → 00:25:31 หยาบแล้วแบบแย่แล้วมีคนจำฉันได้แล้วอะไร
00:25:31 → 00:25:34 อย่างเงี้ยฉันจะทำตัวแบบกิกิเลกราชเหมือน
00:25:34 → 00:25:36 เดิมมาได้แล้วนะอะไรอย่างเงี้ยจะไปแบบเออ
00:25:36 → 00:25:39 แต่งตัวแบบขาก๊วยออกจากบ้านต่อไปได้อีก
00:25:39 → 00:25:40 หรือเปล่าเนี่ยอะไรอย่างเงี้ยก็เริ่มมีคน
00:25:40 → 00:25:42 จำได้มีคนทัก inbox เข้ามาว่าคุณพอวันนี้
00:25:42 → 00:25:45 ไปเซ็นทรัลมาใช่มั้ยอะไรเงี้ยบอกอเออว่ะ
00:25:45 → 00:25:47 ใช่แล้วอะไรอย่างเงี้ยก็เริ่มมีคนรู้จัก
00:25:47 → 00:25:50 แต่จริงๆคือเอ๊ยังไม่ได้แบบfollower์เยอะ
00:25:50 → 00:25:53 ขนาดนั้นคือเอ๊คิดว่าคนที่โหแบบบางบางคน
00:25:53 → 00:25:55 400,000 500,000 หรือเป็นล้านน่ะเค้าก็
00:25:55 → 00:25:57 เค้าก็ยังอยู่มาได้เลยอาจารย์ก็ก็คงจะไม่
00:25:57 → 00:26:00 มีปัญหาอะไรหรอกค่ะเรื่องคนจำได้สังคมไทย
00:26:00 → 00:26:03 มันไม่ได้ทรอน่าเกลียดเค้าให้เกียรตินะ
00:26:03 → 00:26:05 เค้าให้สเปaceนะอย่างมากเค้าก็ยิ้มให้เรา
00:26:05 → 00:26:10 อะไรเงี้ยใช่ค่ะดีฮะอือุปสรรคทำติTokเคย
00:26:10 → 00:26:13 เจอปัญหาอะไรมั้ยหรือว่าทำคเทนหรือเคยมี
00:26:13 → 00:26:15 ผู้หลักผู้ใหญ่ทักมาเอ้ยเอออันนี้ยังไม่
00:26:15 → 00:26:20 เคยแต่นี้พูดได้ใช่มั้เออพูดได้คือเคย
00:26:20 → 00:26:24 เอ่อหมออ่ะคือมีหมอหลายคนนะที่ทำติกTok
00:26:24 → 00:26:27 แล้วก็ดังด้วยบางคนก็ดังกว่าเอ้แบบเรียก
00:26:27 → 00:26:30 ว่ามีคน Follow เยอะคน Follow เยอะกว่าอ
00:26:30 → 00:26:34 อ่าแล้วก็คทentบางทีก็แรงแรงแบบมีความ
00:26:34 → 00:26:36 หยาบคายอะไรอย่างเงี้ยมากหรือว่าบางที
00:26:36 → 00:26:40 เต้นแบบออือๆหรือหมอบางคนแบบอาจจะมีติด
00:26:40 → 00:26:43 พวกแอลกอฮอล์เข้ามาในซีนอะไรเงี้ยเออเค้า
00:26:43 → 00:26:46 ก็โดนกันออนี้ผมไม่รู้มีค่ะมีก็คือบางคน
00:26:46 → 00:26:49 แบบอาจจะแค่ทำคเทนเฉยๆไม่ได้ตั้งใจจะอะไร
00:26:49 → 00:26:52 นะแต่มันบางทีมันติดแบบฉากของพวกแบรนด์
00:26:52 → 00:26:55 แอลกอฮอล์แบรนด์สุราขึ้นมาก็เขาก็มีผู้
00:26:55 → 00:26:58 ใหญ่เ้าเรียกแต่ด้วยความที่เราอ่ะเป็น
00:26:58 → 00:27:00 คลินิกของตัวเองมันไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนมา
00:27:00 → 00:27:03 ทำอะไรเราออือเอออันนั้นน่ะเขาจะโดนพวก
00:27:03 → 00:27:05 ผอ.พอโรงพยาบาลเรียกไปเตือนบ้างอะไรบ้าง
00:27:05 → 00:27:07 อย่างเงี้ยค่ะแต่ของเราอ่ะก็คือไม่ไม่มี
00:27:07 → 00:27:09 อะไรเราก็นอกจากเราจะเตือนตัวเองนี่แหละ
00:27:09 → 00:27:13 ว่าหยุดก่อนพอเถอะมันเริ่มจะล้ำเส้นไป
00:27:13 → 00:27:15 หน่อยแล้วนะเอ้อะไรอย่างเงี้ยเอ้ยมัน
00:27:15 → 00:27:18 เริ่มจะเข้าข่ายแบบว่าหยับคายแล้วนะอะไร
00:27:18 → 00:27:20 อย่างงี้รือเปล่าแต่ตลกนะคเทนบอกเอ้แต่ละ
00:27:20 → 00:27:24 อันนี่คือแบบขำตลอดนะเก่งนะฮะเก่งๆก็
00:27:24 → 00:27:27 ขอบคุณแทนบุคลากรหลายๆท่านนะที่ติดตาม
00:27:27 → 00:27:31 เนอะแล้วก็หมอเองก็ทำให้บรรยากาศการทำงาน
00:27:31 → 00:27:34 ของพวกเราก็รีแลกไปด้วยนะผมไม่รู้เรารู้
00:27:34 → 00:27:36 หรือเปล่าแต่ว่าบางทีเนี่ยเออเด้งขึ้นมา
00:27:36 → 00:27:41 เนี่ยเออก็เข้าไปดูก็ทำให้รีแลกดีนะครับ
00:27:41 → 00:27:44 ผมชอบฮะก็ว่างๆทำคเทนปอดด้วยก็ดีนะฮะอุย
00:27:44 → 00:27:47 ต้องต้องเออสังเกตดูคือสาระจะไม่ค่อยมี
00:27:48 → 00:27:49 เพราะว่าจริงๆแล้วเรากลัวที่เราจะเผยแพร่
00:27:49 → 00:27:52 อะไรที่มันผิดเอออ่าบางทีถ้าเราไม่ได้
00:27:52 → 00:27:53 เป็น expert ด้านนั้นจริงๆอ่ะเราไม่ได้
00:27:53 → 00:27:56 เป็น specialist ด้านนั้นจริงๆอ่ะเราเรา
00:27:56 → 00:27:57 อาจจะมีความรู้เท่าที่เราเคยเรียนมาแล้ว
00:27:58 → 00:27:59 สมัยนี้มันอาจจะอัปเดตไปไกลแล้วเพราะ
00:27:59 → 00:28:02 ฉะนั้นน่ะเอ๊จะไม่ค่อยกล้าทำอะไรที่ไม่
00:28:02 → 00:28:05 ได้เป็นฟิลของตัวเองอืออ่าถ้าเกิดว่ามีคน
00:28:05 → 00:28:07 ถามเข้ามาต้องไปถามก่อนพอดีเรามีหมอดมยา
00:28:07 → 00:28:10 ที่คลินิกอยู่แล้วมีคนถามมาว่าดมยายังไง 1
00:28:10 → 00:28:12 2 3 4 เรื่องของการดมยาเราก็จะเอาคำ
00:28:12 → 00:28:16 ถามเนี้ยไปถามคุณหมอดมยาก่อนให้เราได้
00:28:16 → 00:28:18 เอ่อข้อมูลที่มันแบบ accurate 100% ค่ะ
00:28:18 → 00:28:21 เพราะว่าเอ๊ว่าด้วยchชannelเราเป็น
00:28:21 → 00:28:23 chชannelของหมอเราเป็นหมอเลยคือดร.เอคือ
00:28:23 → 00:28:27 หมออีคนเนี้ยหมอแล้วเราดันไปให้ข้อมูล
00:28:27 → 00:28:29 เกี่ยวกับแพทย์อีกคนเขาจะเชื่อเรา 100%
00:28:29 → 00:28:32 อือถ้าเราให้ข้อมูลที่มันผิดอ่ะแม้แต่นิด
00:28:32 → 00:28:35 เดียวอ่ะแย่อืไม่ได้เลยก็แสดงความรับผิด
00:28:35 → 00:28:37 ชอบที่ดีมากใช่เพราะฉะนั้นน่ะค่ะสมมุติ
00:28:37 → 00:28:39 ว่าถ้ามีคนถามเรื่องโลกปลอดมาเดี๋ยวจะมา
00:28:39 → 00:28:42 ถามอาจารย์วินัยเดี๋จะแบบรีบเลยอาจารย์
00:28:42 → 00:28:44 วินัยขอคำตอบภายใน 1 ชั่วโมงด่วนตนี้ทำ
00:28:44 → 00:28:46 คอนเทนแล้วอะไรอย่างงี้ดีมั้คะเพราะว่าผม
00:28:46 → 00:28:48 ก็เรียนรู้ทุกวันเราเราไม่อยากจะไปเสิร์ช
00:28:48 → 00:28:50 Google แล้วไปตอบจาก Google แล้วอยากจะ
00:28:50 → 00:28:54 ถามคนที่อ่าเป็น Specialist ด้านนั้นจริง
00:28:54 → 00:28:57 ๆอ่ะค่ะอาจารย์ครับผมเชื่อว่าคทentที่หมอ
00:28:57 → 00:28:59 เอ้ทำเนี่ยมันก็ช่วย
00:28:59 → 00:29:03 ช่วยคนหลายๆคนนะให้ฟังคเทนจากแพทย์เพราะ
00:29:03 → 00:29:06 ว่าปัจจุบันก็ยังมีปัญหาอเรื่องโทษทีบาง
00:29:06 → 00:29:10 คเทนเนี่ยคนที่ออกมาพูดก็ไม่ใช่เป็นหมอ
00:29:10 → 00:29:14 หรืออ้างว่าตัวเองเป็นหมอหรือจริงๆก็อคน
00:29:14 → 00:29:17 ละฟิลเลยอะไรอย่างเงี้ยแต่พูดนอกขอบเขต
00:29:17 → 00:29:20 อือมันก็เลยทำให้เกิดปรากฏการณ์มันสับสด
00:29:20 → 00:29:23 ไงอือเพราะว่าคนแต่ละคนพูดข้อมูลไม่
00:29:23 → 00:29:27 เหมือนกันอ่านมาคนละตำราออาจารย์คือ
00:29:27 → 00:29:29 เรื่องเนี้ยเอ๊แบบคิดว่ามันเป็นปัญหาเร่ง
00:29:29 → 00:29:32 ด่วนนะส่วนใหญ่อ่ะค่ะคนสมัยเนี้ยเลือกที่
00:29:32 → 00:29:35 จะเสพสื่ออ่ะเลือกที่จะฟังเลือกที่จะ
00:29:35 → 00:29:39 เชื่อคนที่เขาอยากจะเชื่อไม่ว่าที่พูดออก
00:29:39 → 00:29:42 มามันจะถูกหรือผิดเขาก็พร้อมที่จะเชื่ออื
00:29:42 → 00:29:46 เขาเชื่อในตัวตนของคนๆนั้นต่อให้คนๆนั้น
00:29:46 → 00:29:48 ไม่ได้จบหมอมาไม่ได้จบแค่ศาสตร์บัณฑิตมา
00:29:48 → 00:29:51 แต่มาบอกว่าวิธีการดูแลโรคนี้คุณต้องไปทำ
00:29:51 → 00:29:54 อย่างี้คุณต้องมาทำอย่างงั้นอืเค้าก็
00:29:54 → 00:29:56 พร้อมที่จะเชื่อเขาเชื่อที่ตัวบุคคลมาก
00:29:56 → 00:29:59 กว่าเชื่อเรียกว่าอะไรอาจารย์เชื่อข้อ
00:29:59 → 00:30:02 เท็จจริงอ่ะอือ่าเค้าเชื่อคนที่พูดอยู่
00:30:02 → 00:30:05 เพราะเค้าแบบรู้สึกว่าคนเนี้ยเค้าพูดแล้ว
00:30:05 → 00:30:08 ฟังเค้าหูอือเค้าเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่
00:30:08 → 00:30:10 เค้าอยากจะเชื่ออือต่อให้หมอจริงๆอ่ะมา
00:30:10 → 00:30:13 นั่งใส่แบบหมอนแต่งตัวเป็นแบบเหมือนราย
00:30:13 → 00:30:15 การพบหมอศรีราชสมัยก่อนที่แบบใส่เสื้อขาว
00:30:15 → 00:30:21 มานั่งพูดออันนี้นะคะเราจำเป็นต้องทานยา
00:30:21 → 00:30:24 ตัวนี้อย่างสม่ำเสมอไม่อย่างงั้นจะเกิด
00:30:24 → 00:30:28 นู่นนี่นั่นแต่กับหมอที่อยู่ในโซเชียล
00:30:28 → 00:30:30 หรือไม่ใช่หมอก็ตามนะอาจารย์อคนนั้นน่ะ
00:30:30 → 00:30:32 แต่แบบว่าอาจจะเป็นคนที่เ้าแบบศรัทธาอะไร
00:30:32 → 00:30:35 เงี้ยโอ๊ยไม่ต้องไปกินหรอกยาน่ะกินไปมัน
00:30:35 → 00:30:38 ก็ค้างในไตในตับนู่นใช้ตัวอันนี้ดีกว่าไป
00:30:38 → 00:30:40 กินมะนาวโซดาอะไรอย่างี้ดีกว่าเค้าไป
00:30:40 → 00:30:43 เชื่อคนนี้เพราะเาอยากที่จะเชื่อคนๆนี้เ
00:30:43 → 00:30:47 ไม่เชื่อหมอเพราะอะไรเพราะหมอก็เป็นหมอ
00:30:47 → 00:30:49 อ่ะพูด
00:30:49 → 00:30:51 แบบวิชาการ
00:30:51 → 00:30:54 ซึ่งมันเข้าไม่ถึงมันเข้าไม่ถึงคนสมัยนี้
00:30:54 → 00:30:58 แล้วอ่ะค่ะอือ่าเค้าเลือกที่จะเชื่อคนที่
00:30:58 → 00:31:01 เารู้สึกว่าเออเขาอยากจะเชื่อมากกว่าอื
00:31:01 → 00:31:05 เพราะฉะนั้นน่ะค่ะเอว่าการที่หมอเนี่ยออก
00:31:05 → 00:31:10 มาทำคเทนให้มันเข้าถึงง่ายนะคะมีความตลก
00:31:10 → 00:31:15 มีความแบบ Grab attention จากเอ่อสังคม
00:31:15 → 00:31:17 ได้มากขึ้นเนี่ยเอ๊ว่ามันเป็นเรื่องดี
00:31:17 → 00:31:20 ด้วยซ้ำดีกว่าที่เอ่อเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ
00:31:20 → 00:31:22 มากกว่าที่จะมาติงกันว่าเฮ้ยหมอทำอย่าง
00:31:22 → 00:31:25 เงี้ไม่ถูกต้องทำไมหมอไม่ไปทำงานทำไมหมอ
00:31:25 → 00:31:29 มีเวลาว่างมากเหรออะไรอย่างเงี้ยค่ะเออเอ
00:31:29 → 00:31:31 ว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าด้วยซ้ำ
00:31:31 → 00:31:34 เพราะอย่างน้อยสังคมอ่ะผู้เสพสื่ออ่ะเค้า
00:31:35 → 00:31:39 ยังได้ฟังเจะจริงจากคนที่เรียนมาจริงๆอื
00:31:39 → 00:31:42 ค่ะคือที่แบบไอ้หัวข้อของอาจารย์ที่บอก
00:31:42 → 00:31:44 ว่า
00:31:44 → 00:31:48 เอ่อหมอกับอารมณ์ขันธ์เอ๊ว่าสมัยเนี้ยมัน
00:31:48 → 00:31:52 จำเป็นต้องมีหมอแบบเนี้ยสักจำนวนนึงอ่ะ
00:31:52 → 00:31:57 เพื่อที่จะleดเพื่อที่จะleดอ่าคนในสังคม
00:31:57 → 00:32:01 อ่ะผู้เสพเสื่อให้เค้ามาฟังอืมากขึ้นมัน
00:32:01 → 00:32:03 พูดอธิบายเรียบเรียนไม่ค่อยถูกกันมันเป็น
00:32:04 → 00:32:07 ก็เป็นประตูที่ทำให้เค้าเปิดโอกาสที่เ
00:32:07 → 00:32:09 อยากฟังมากขึ้นมันเข้าถึงง่ายขึ้นแบบมา
00:32:09 → 00:32:12 นั่งแบบพูดว่าอธิบายแล้วเแบบโอเบลอๆจะไม่
00:32:12 → 00:32:15 รับรู้อะไรแล้วกับอีกฝั่งนึงที่อาจจะไม่
00:32:15 → 00:32:18 ใช่หมอนะใครไม่รู้มาอยากจะขายอะไรสัก
00:32:18 → 00:32:20 อย่างรักษารักษาเงี้ยเขาก็พูดว่าอย่าง
00:32:20 → 00:32:22 งั้นดีอย่างงี้เค้าก็พร้อมจะเชื่อพร้อมจะ
00:32:22 → 00:32:25 ไปซื้ออย่างเงี้ยค่ะแล้วสุดท้ายก็ไตวายมา
00:32:25 → 00:32:27 ให้หมอจริงรักษาอย่างเงี้ยออ่ามันก็เป็น
00:32:27 → 00:32:29 ปัญหาเรื้อรังนะมันเป็นปัญหาเรื้อรังมา
00:32:29 → 00:32:31 นานแล้วแล้วยิ่งสมัยเนี้ยมันยิ่งชัดเจน
00:32:31 → 00:32:33 ขึ้นนะเพราะเอ๊เห็นสังเกตเห็นชัดมากเลย
00:32:33 → 00:32:37 อ่ะว่าเฮ้ยคือคนเราอ่ะมันพัฒนาขึ้นนะ
00:32:37 → 00:32:40 โซเชียลมันพัฒนาขึ้นแต่คนดันไปเลือก
00:32:40 → 00:32:44 เชื่อคนที่มีข้อมูลจริงน้อยลงเรื่อยๆอือๆ
00:32:44 → 00:32:46 ด้วยบุคลิกของคนๆนั้นน่ะมันน่าเชื่อเท่า
00:32:47 → 00:32:50 นั้นเองอืค่ะเพราะฉะนั้นไว่ามันเป็นสิ่ง
00:32:50 → 00:32:56 ที่ควรจะเกิดขึ้นนะคะการที่หมออ่ะไตัวเอง
00:32:56 → 00:33:00 พัฒนาตัวเองขึ้นมาให้แบบเข้าถึงอืกับ
00:33:00 → 00:33:03 ประชาชนมากขึ้นเออถ้าถ้าจะพูด
00:33:03 → 00:33:06 เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะเก่าไปมั้ยอ่ะ
00:33:06 → 00:33:08 อาจารย์เรื่องหมอเจ็บอาจารย์เคยดูมั้ย
00:33:08 → 00:33:11 หนังอ่ะอาจารย์อาจารย์รู้มั้ยทำไมนะเรา
00:33:11 → 00:33:14 เรื่องเรๆ่เรเรื่องหมอเจ็บหมอเจ็บนานแล้ว
00:33:14 → 00:33:18 อ่ะค่ะสมัยนั้นน่ะอ่าสมัยนั้นน่ะค่ะที่จะ
00:33:18 → 00:33:22 เอาจะ educate อ่าประชาชนในสังคมเรื่อง
00:33:22 → 00:33:24 โรคฉี่หนูอ่ะอ่าแล้วว่าอีกกลุ่มกลุ่ม
00:33:24 → 00:33:28 หนึ่งก็แบบแปะโปสเตอร์ใหญ่เลยแปะมันแปะๆ
00:33:28 → 00:33:32 ประชาชนไม่อ่านไม่ดูเดินผ่านตลาดซื้อหมู
00:33:32 → 00:33:35 เดินมันไม่สนใจแต่กลุ่มพระเอกอ่ะไปเต้น
00:33:35 → 00:33:38 อือแต่งตัวเป็นมาสคอตหนูไปเต้นเรปโตเรปโต
00:33:38 → 00:33:42 เล็บโตไปเต้นประชาชนมุงดูจำได้จำได้แล้วเ
00:33:42 → 00:33:47 จำเนื้อเพลงได้เออเออทำให้เค้ามีawวessใน
00:33:47 → 00:33:50 โลกนี้จากเนื้อเพลงเนี่ยมันคือหมอเจ็บ
00:33:50 → 00:33:53 โมเดลเลยนะอืจนถึงทุกวันเนี้ยยังใช้ได้
00:33:53 → 00:33:57 อยู่เลยคือถ้าคุณทำอะไรที่ Grab
00:33:57 → 00:34:01 Attention ของอ่าประชาชนได้เค้าพร้อมจะ
00:34:01 → 00:34:05 เชื่อคุณแล้วคุณเป็นหมอไงคุณมีความรู้ไง
00:34:05 → 00:34:09 อ่าถ้าคุณมีตรงนี้ได้เนี่ยมันจะดีต่อต่อ
00:34:09 → 00:34:12 ประเทศเรามากเลยเรามันจะดีต่อระบบของ
00:34:12 → 00:34:16 สาธารณสุขดีต่อแบบไงอ่ะสังคมดีต่อสังคม
00:34:16 → 00:34:20 เรามากเลยอืเหตุผลที่ผมตั้งใจหรืออยากให้
00:34:20 → 00:34:23 หมอเอ้มาบนรายการเนี่ยเพราะว่า Medical
00:34:23 → 00:34:27 Humer เนี่ยหรือความตลกในวงการแพทย์
00:34:27 → 00:34:30 เนี่ยมันน้อยอาจจะเป็นเพราะว่าหลักการ
00:34:30 → 00:34:34 เรียนการสอนของเราเนอะการที่เราต้องดูแล
00:34:34 → 00:34:37 มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่งก็คือแพ้
00:34:37 → 00:34:43 ชดำถ้าหมอเอ้เคยดูนะแพ้ชดำก็เป็นหนัง
00:34:43 → 00:34:46 ที่หมอคนเนี้ยเป็นเรื่องจริงแล้วเค้าเอา
00:34:46 → 00:34:53 ิอรมาเค้าเอาความตลกมารักษาผู้ป่วยอืครับ
00:34:53 → 00:34:55 ก็อันนี้ก็เป็นอีกหัวข้อนึงซึ่งก็ต้อง
00:34:55 → 00:34:59 bบanceกันนะคะอย่างที่หมอให้บอกว่าจริงๆ
00:34:59 → 00:35:01 ผมว่าแพทย์ยุคใหม่ควรจะเริ่มมี medical
00:35:01 → 00:35:05 humor มากขึ้นเอาเอาความตลกเอาความเข้า
00:35:05 → 00:35:08 มาเพื่อที่จะทำให้คนเนี่ยเข้าถึงและสร้าง
00:35:08 → 00:35:11 การเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้นการที่เราทำแบบ
00:35:11 → 00:35:15 เดิมๆพูดช้าๆอธิบายเป็นสเต็ปมันไม่มีคน
00:35:15 → 00:35:16 ฟัง
00:35:16 → 00:35:19 มันน่าเบื่อมันก็เลยทำให้เราลงแรงแต่มัน
00:35:19 → 00:35:21 ไม่เห็นผลลัพธ์มันไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
00:35:21 → 00:35:26 นะครับขอบคุณหมอเอ้เรื่องค่ะหมอเจ็บโมเดล
00:35:27 → 00:35:29 หมอเจ็บโมเดลอันนี้หมอเอ้คิดขึ้นเองเลย
00:35:29 → 00:35:32 ป่ะคำนี้คือจริงๆอ่ะเอ๊มันคือมันเป็นสิ่ง
00:35:32 → 00:35:35 ที่เรานึกถึงเฉยเลยอยู่ก็นึกถึงคือหนัง
00:35:35 → 00:35:36 มันนานมากแล้วอาจารย์มันโหตั้งแต่สมัยเอ๊
00:35:37 → 00:35:41 อยู่ปี 2 ปี 3 เนี้ยครับแล้วอยู่ๆอ่ะพอ
00:35:41 → 00:35:43 ยุคสมัยติTokเงี้ยค่ะยุคสมัยโซเชียล
00:35:43 → 00:35:45 มีเดียเยอะๆแล้วมีคเทนมากมายไก่กองเลย
00:35:45 → 00:35:48 เนี่ยมันทำให้เรารู้สึกได้จริงๆว่าเอ้ย
00:35:48 → 00:35:51 chชannลหมอที่แบบหม้อๆchชannลความรู้สุดๆ
00:35:51 → 00:35:53 เรานั่งฟังเอออาจารย์แต่อาจารย์ก็คน
00:35:53 → 00:35:57 follow เยอะไงมันจะมีแบบของผมเออมันจะมี
00:35:57 → 00:35:59 แบบโหหลายท่านที่แบบทำไมคน Follow แค่ 500
00:35:59 → 00:36:02 วะอะไรอย่างเงี้ยทั้งๆที่อาจารย์เ้าพูดดี
00:36:02 → 00:36:06 พูดแบบสาระล้วนๆไปเทียบกับไอ้ช่องป้าบอ
00:36:06 → 00:36:11 อะไรที่มันแบบเฮ้ยคือจะขายสมุนไพรอย่าง
00:36:11 → 00:36:14 เงี้ยโอโหคนฟังจังไลฟ์เอฟกันจังคอนเฟิร์ม
00:36:14 → 00:36:19 กันจังเราว่าเฮ้ยไม่ได้ละเราเมื่อไหร่ที่
00:36:19 → 00:36:22 เรามีความรู้เมื่อไหร่ที่เรามีของดีความ
00:36:22 → 00:36:26 รู้ของเราคือของดีพูดเหมือนกับธุรกิจเลย
00:36:26 → 00:36:30 นะถ้าอ่าความรู้ของเราคือโปรดักถ้าไม่มี
00:36:30 → 00:36:33 Marketing คนก็ไม่รู้จักโปรดักของเราอื
00:36:33 → 00:36:36 และ Humer คือ Marketing ของเราถ้าเมื่อ
00:36:36 → 00:36:39 ไหร่ที่เราสามารถพัฒนาตรงนี้ได้อ่ะค่ะ
00:36:39 → 00:36:43 เชื่อว่ายังไงเนี่ยเราก็นำโปรดักของเรา
00:36:43 → 00:36:46 อ่ะไปสู่สังคมได้อื
00:36:46 → 00:36:51 อือคมกฤขายของต่อแล้วใครจะรู้ว่าเบื้อง
00:36:51 → 00:36:55 หลังเนี่ยที่เราเห็นหมอเอ้ตลกเผมว่าผมก็
00:36:56 → 00:37:00 มองคนไม่ผิดนะหมอเอ้มีของแล้วหมอเอ้ก็รู้
00:37:00 → 00:37:03 ว่าตัวเองทำอะไรอยู่แล้วก็เคลียร์มากนะ
00:37:03 → 00:37:07 ครับก็สนุกครับสนุกขอบคุณมากขอบคุณค่ะตอน
00:37:07 → 00:37:09 นี้เราจะนำไปสู่หัวข้อต่อไปที่เป็น
00:37:09 → 00:37:14 วิชาการนิดนึงอ่าก็คือไซสการดูดไขมันซึ่ง
00:37:14 → 00:37:17 อันนี้เป็นอะไรที่หมอเอ้ถนัดแล้วทำมานาน
00:37:17 → 00:37:20 มากถนัดอันนี้ก็ถัดอยู่อันนี้อยากให้หมอ
00:37:20 → 00:37:24 เอ้เล่านิดนึงเพราะว่ามันก็มีข้อมูลที่
00:37:24 → 00:37:27 อยู่ในสังคมที่อาจจะไม่ถูกอืนะฮะอยากให้
00:37:27 → 00:37:31 หมอเอเล่าเรื่องการดูดไขมันคืออะไรอันดับ
00:37:31 → 00:37:35 แรกอันดับ 2 คือใครที่ห้ามทำไม่เหมาะกับ
00:37:35 → 00:37:39 ใคร 3 ใครที่ควรจะระวัง 4 ต้องเตรียมตัว
00:37:39 → 00:37:44 อย่างไร 5 เวลาทำเ้าทำกันยังไงอือื 6
00:37:44 → 00:37:47 หลังธรรมมีอะไรที่เขาควรจะรู้แผลเป็นการ
00:37:47 → 00:37:52 ดูแลแทรกซ้อนแล้วก็สุดท้ายคือผลลัพธ์ที่
00:37:52 → 00:37:55 คาดว่าหลังจากทำแล้วเนี่ยมันจะดีต่อเขา
00:37:55 → 00:38:00 อย่างไรการดูดไขมันนะคะมันเป็นหัตการชนิด
00:38:00 → 00:38:05 นึงที่กำจัดตัวเซลล์ไขมันออกจากร่างกาย
00:38:05 → 00:38:09 โดยเร็วที่สุดด้วยการผ่าตัดนะคะคือมัน
00:38:09 → 00:38:12 พัฒนาการมาตั้งแต่สมัยเอ่อเมื่อประมาณ 20
00:38:12 → 00:38:13 ปีที่แล้วเนี่ย
00:38:13 → 00:38:17 เนื่องด้วยไขมันน่ะค่ะลองจินตนาการว่าไข
00:38:17 → 00:38:20 มันน่ะมันเหมือนมันหมูที่มันอยู่ตามหมู
00:38:20 → 00:38:22 กระทะอาจารย์มันอยู่ใต้หนังเนาะมันก็จะมี
00:38:22 → 00:38:25 มันสมมุติเราไปซื้อเนื้อหมูจากตลาดมาเรา
00:38:25 → 00:38:26 ก็จะเห็นชั้นหนังหมู 3 ชั้นนจะมีชั้นไข
00:38:27 → 00:38:29 มันถูกมั้คะการที่เราจะเอาไอชั้นนั้นออก
00:38:29 → 00:38:32 จากร่างกายคนได้อ่ะค่ะเราจะทำต้องทำยังไง
00:38:32 → 00:38:36 อืมันเป็นของแข็งนะมันเป็นของแข็งปุ๊บเรา
00:38:36 → 00:38:38 ก็ต้องทำไงก็ได้ให้มันดูดออกได้เราไม่
00:38:38 → 00:38:41 สามารถดูดของแข็งได้ถูกมั้ฮะเราก็ต้องดูด
00:38:41 → 00:38:43 ของของเหลวเท่านั้นใช่มั้ฮะ
00:38:43 → 00:38:47 เราก็เลยต้องใส่พวกสารเค้าเรียกว่าซent
00:38:47 → 00:38:50 fluid นะเป็นพวกสารประกอบน้ำเกลือกับพวก
00:38:50 → 00:38:53 ยาต่างๆที่ช่วยบาลanceร่างกายรักษาความ
00:38:53 → 00:38:56 เป็นกรดด่าของร่างกายเข้าไปตีให้ไขมันน่ะ
00:38:56 → 00:38:59 มันแตกตัวกลายเป็นคล้ายๆว่าไขมันปั่นแล้ว
00:38:59 → 00:39:02 ถึงดูดออกมาได้ประมาณนั้นนี่คือคอนเซปของ
00:39:02 → 00:39:07 การทำชอือย่างแม่ผมเนี่ยมีไขมันหน้าท้อง
00:39:07 → 00:39:10 ไขมันที่สะโพกเยอะถ้าต้องการดูดไขมันเี่
00:39:10 → 00:39:13 เค้าทำกันยังไงเอ่อเอ่อเอาที่ proceedure
00:39:13 → 00:39:17 เลยเนาะ procceed เลยนะคะก็คือเราก็ต้อง
00:39:17 → 00:39:20 หา opening point ว่าจุดไหนที่เราจะทำ
00:39:20 → 00:39:23 การ insert canู่าเราเข้าไปก็คือตัวใส่
00:39:23 → 00:39:25 อุปกรณ์เข้าไปใช่ส่วนใหญ่มันก็เหมือนกัน
00:39:25 → 00:39:28 ทุกเคสค่ะคือจุดตรงบริเวณคล้ายๆตรงใกล้ๆ
00:39:28 → 00:39:30 ผ่าไส้ติ่งอะไรเงี้ยเล็กๆ 2 ข้างตรง
00:39:30 → 00:39:32 บิกินี่ลายอะไรอย่างเงี้ยถ้าเป็นตรงหน้า
00:39:32 → 00:39:36 ท้องนะฮะแล้วเราเปิดแผลปุ๊บเราก็ใส่มันจะ
00:39:36 → 00:39:39 คล้ายๆเข็มฉีดยาอันยาวๆนิดนึงเหมือนเข็ม
00:39:39 → 00:39:43 ฉีดยาวัวอือๆฉีดพวกสารลน้ำเกลือเข้าไป
00:39:43 → 00:39:46 เพื่อตีให้ไขมันมันแตกตัวอกลายเป็นของ
00:39:46 → 00:39:49 เหลวก่อนที่จะดูดออกมาประมาณนั้นใช่แล้ว
00:39:49 → 00:39:52 ก็ดูดแล้วก็ดูดใช่คือ process เนี่ย
00:39:52 → 00:39:54 เหมือนจะง่ายนะแต่มันนานนะคะเพราะว่ากว่า
00:39:54 → 00:39:56 ที่น้ำเกลือมันจะตีไขมันให้แตกทั่วร่าง
00:39:56 → 00:39:59 กายมันก็ใช้เวลาเป็นเป็นชั่วโมงเลยแหละอื
00:39:59 → 00:40:01 อ่ะแต่คือคอนเซปตหลักๆมีแค่นี้แล้วมันใช้
00:40:01 → 00:40:04 เวลานานมั้ฮะเวลาดูดไขมันพวกนี้อ่าไซซิ่ง
00:40:04 → 00:40:08 เป็นสำคัญถ้าไซิ่งแบบใหญ่ๆเลยน้ำหนักแบบ
00:40:08 → 00:40:11 80 ขึ้นไปอย่างเงี้ยมันก็นาน 3-4 ช่มง
00:40:11 → 00:40:13 ได้เหมือนกันอือืไขมันยิ่งเยอะมันก็ต้อง
00:40:13 → 00:40:16 ยิ่งใช้เวลานานในการดูดออกมาอืค่ะแล้วคน
00:40:16 → 00:40:19 ไข้ยังไงคนไข้ต้องสลบมั้ฮะอาจารย์สลบสลบ
00:40:19 → 00:40:24 เลยจริงๆแล้วอ่าในบริเวณที่มันไม่สลบได้
00:40:24 → 00:40:26 ก็มีอย่างเช่นบริเวณใบหน้าหรือเหนียงอะไร
00:40:26 → 00:40:29 เงี้ยค่ะหรือบริเวณต้นแขนนะแต่ถ้าเป็น
00:40:29 → 00:40:31 บริเวณที่มันต่ำกว่าต้นแขนไปหน้าท้องอะไร
00:40:31 → 00:40:33 อย่างเงี้ยต้นขาหรืออะไรที่ถ้าแบบคุณคุณ
00:40:33 → 00:40:37 แม่ของอาจารย์หมอว่าเอ่อแว่าสลบดมยาสลบ
00:40:37 → 00:40:40 under generalia ดีกว่าอเพราะอะไรฮะ
00:40:40 → 00:40:41 ทำไมต้องให้ดมยาสลบ
00:40:41 → 00:40:44 โอ้ยว่ามันมันเครียดนะถ้าคนไข้ต้องทนตลอด
00:40:44 → 00:40:47 อ่ะมันเจ็บมารัวเลยคือมันไม่ได้เหมือนการ
00:40:47 → 00:40:49 บล็อกหลังแบบบล็อกหลังคลอดแล้วผ่าแค่
00:40:49 → 00:40:51 ครึ่งชั่วโมงเสร็จใช่มั้คะคืออย่างที่บอก
00:40:51 → 00:40:54 ว่ามันใช้เวลาแบบโหบางทีมันนานนะ 3-4
00:40:54 → 00:40:56 ชั่วโมงอ่ะค่ะอือเพราะฉะนั้นน่ะคนไข้จะ
00:40:56 → 00:40:59 เกิดสตสมากคือตอนแรกๆอ่ะมันโอเคหรอกว่า
00:40:59 → 00:41:02 เออชิลๆช่วงชั่วโมงแรกแต่ถ้ามันไม่เสร็จ
00:41:02 → 00:41:07 ซักทีมันตึ๊ดๆมันมีไฟมีหมอทำนู่นทำนี่อื
00:41:07 → 00:41:10 จิตจิตคนไข้จะเริ่มเครียดนะฮะอ๋อโอเคเข้า
00:41:10 → 00:41:12 ใจคือเป็นสิ่งที่เราก็มีประสบการณ์เคยเจอ
00:41:12 → 00:41:16 มาแล้วคนไข้อ่ะเหมือนเป็น PTSD เลยนะถ้า
00:41:16 → 00:41:19 แบบอยู่ใน OR นานๆแล้วโดยที่ Awake ไว้
00:41:19 → 00:41:22 ตลอดอ่ะอ่าก็เคยมีประสบการณ์ว่าคนไข้มา
00:41:22 → 00:41:24 เล่าให้ฟังแล้วไม่ไหวคือแบบมันหลอนไปเลย
00:41:24 → 00:41:26 มันหลอนห้องผ่าตัดไปเลยอ่ะแบบนั้นนะคะ
00:41:26 → 00:41:29 เพราะฉะนั้นการดมยาสลบเนี่ยน่าจะตอบโจทย์
00:41:29 → 00:41:31 มากกว่าใน operation ไม่ใช่แค่ดูไขมันนะ
00:41:31 → 00:41:34 อาจารย์ในoperชัอะไรก็ตามที่มันเกิน 2
00:41:34 → 00:41:37 ชั่วโมงค่ะอือครับครับผมเข้าใจว่ามันก็
00:41:37 → 00:41:39 แค่เสียบสายแล้วก็ดูดแต่จริงๆไม่ใช่ใช่
00:41:39 → 00:41:41 ทุกคนจะคิดอย่างงี้อ่าเหมือนดูเหมือนดู
00:41:41 → 00:41:45 ซิคอมฝรั่งสมัยก่อนแบบว่าใส่ปึ๊บแล้วก็
00:41:45 → 00:41:48 เปิดเครื่องดึ๊ดๆๆ 3 นาทีออกหมดแล้วไม่
00:41:48 → 00:41:51 ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่โอเคคุณคนไข้ก็ก็คิดอย่าง
00:41:51 → 00:41:53 งั้นเยอะเหมือนกันแล้วทีนี้เวลาทำเสร็จ
00:41:53 → 00:41:56 มันจะแฟบเลยมั้ยมันจะแห้งให้เห็นเลยมั้ย
00:41:56 → 00:42:00 หลังทำเสร็จทันทีแฟบเลยอแฟบเลยเพราะว่าก็
00:42:00 → 00:42:04 มันเหมือนลูกโป่งที่แบบลมออกอ่ะอืมันเล็ก
00:42:04 → 00:42:07 เลยและนะคะแต่มันจะเหี่ยวก่อนมันจะมีความ
00:42:07 → 00:42:09 เหี่ยวของสกินก่อนอือต้องให้เวลาสกินนิด
00:42:09 → 00:42:12 นึงในการหดตัวอืค่ะ
00:42:12 → 00:42:16 ครับการเตรียมตัวสมมุติใครอ่ะที่อยากจะ
00:42:16 → 00:42:20 ดูดไขมันพวกนี้ข้อห้ามคืออะไรจริงๆแล้ว
00:42:20 → 00:42:22 การดูดไขมันน่ะค่ะมันก็คือถือว่าเป็น
00:42:22 → 00:42:25 เซอร์เจรี่อการผ่าตัดประเภทนึงแหละค่ะอือ
00:42:25 → 00:42:27 เพราะฉะนั้นข้อห้ามของการดูดไขมันน่ะมัน
00:42:27 → 00:42:30 ก็เหมือนข้อห้ามของการผ่าตัดทั่วไปอ่ะค่ะ
00:42:30 → 00:42:33 นะอย่างเช่นว่าเราควรงดวิตามินนะอย่าง
00:42:33 → 00:42:36 น้อย 1 อาทิตย์การผ่าตัดใหญ่หน่อยก็อาจจะ
00:42:36 → 00:42:38 งดมากกว่านั้นใช่มั้ยคะ 2 อาทิตย์อะไร
00:42:38 → 00:42:41 เงี้ยแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเราดูด
00:42:41 → 00:42:44 บริเวณไหนถ้าคนไข้ดูดแบบทั้งตัวเลยหมอว่า
00:42:45 → 00:42:47 ไม่ว่าก็สักัก 2 อาทิตย์ก็ดีงดวิตามินไป
00:42:47 → 00:42:50 ไม่งั้นน่ะช้ำช้ำบรีดกระจายช้ำไปเลยอย่าง
00:42:50 → 00:42:53 เงี้ก็ไม่โอเคทรมานคนไข้นะฮเพราะว่าช้ำ
00:42:53 → 00:42:57 นานยิ่งปวดนานอาจารย์อ่างดแอลกอฮอล์นะแน่
00:42:57 → 00:43:00 นอนอย่างน้อย 1 อาทิตย์นะคะบุหรี่อย่าง
00:43:00 → 00:43:02 เงี้ยอือาจารย์อาจารย์ว่ากี่อาทิตย์ดี
00:43:02 → 00:43:05 แล้วบุหรี่บุรีรั้ 2 อาทิตย์ใช่ใช่มั้ย
00:43:05 → 00:43:08 ฐานะของอาจารย์แบบตามโรคปอดอ่ะก็อย่าง
00:43:08 → 00:43:10 น้อย 2 อาทิตย์ซึ่งจริงๆแล้วยากมากนะถ้า
00:43:10 → 00:43:13 คนที่มันแบบใช่มั้ยคนที่เค้าติดอ่ะอือบาง
00:43:13 → 00:43:15 ทีเราก็แล้วเราก็จับเค้าเรียกว่าจับผิด
00:43:15 → 00:43:18 ไม่ได้ด้วยจับผิดยากอเพิ่งเลิกเมื่อวาน
00:43:18 → 00:43:21 แล้วกลิ่นก็ไม่มีแล้วไงแต่จริงๆแล้วแบบ
00:43:21 → 00:43:23 แกล้งว่าบอกเอ้ยเลิกมาแล้ว 2 อาทิตย์แต่
00:43:23 → 00:43:25 ว่าเพิ่งเลิกเมื่อวานเงี้ยโอ้โหปวดหัวเลย
00:43:25 → 00:43:28 ปวดหัวก็มีนะอันเนี้ยก็เป็น difficultan
00:43:28 → 00:43:33 ที่แบบต้องไปจับตีใช่ค่ะก็ตอนนั้นก็คือ
00:43:33 → 00:43:36 อ่าวิธีการเตรียมตัวก็เหมือนผ่าตัดทั่วไป
00:43:36 → 00:43:39 ล่ะค่ะก็งดเหล่างดวิตามินงดงดบุหรี่นอน
00:43:39 → 00:43:42 พักผ่อนได้เพียงพอถ้าดมยาสลบก็งดน้ำงด
00:43:42 → 00:43:46 อาหาร 8 ชมงครับค่ะหลังทำผลแทรกซ้อนมี
00:43:46 → 00:43:50 อะไรที่เขาต้องรู้บ้างผลแทรกซ้อนอ่าผล
00:43:50 → 00:43:52 แทรกซ้อนเอาหมดเลยมั้อาจารย์คือมันเยอะ
00:43:52 → 00:43:54 มากเลยนะคร่าวๆอะไรที่อาจารย์เจอไปก่อน
00:43:54 → 00:43:57 เออภาวะแทรกซ้อนอันดับแรกที่ที่มีทุกคนนะ
00:43:57 → 00:44:00 คะคือมันมีการเปิดมันมีการเปิดแผลเข้าไป
00:44:00 → 00:44:03 เพื่อใส่อุปกรณ์อ่ะมันต้องมีแผลอือมันมัน
00:44:03 → 00:44:05 ต้องมีแผลอย่างน้อยซักประมาณ 3-4 มม.อยู่
00:44:05 → 00:44:08 และนะคะในบริเวณที่เราดูดอันเนี้ยเกิด
00:44:08 → 00:44:11 ขึ้นได้แน่ๆแล้วก็อาจจะมีภาวะเลือดจางได้
00:44:11 → 00:44:13 ถ้าเกิดว่าเตรียมคนไข้ไม่ดีอ่ะเพราะ
00:44:13 → 00:44:15 ฉะนั้นน่ะมันควรจะต้องไปตรวจร่างกายก่อน
00:44:15 → 00:44:18 เอ้อลืมพูดเลยเมื่อกี้ก่อนก่อนผ่าตัดต้อง
00:44:18 → 00:44:20 ไปเจาะเลือดนะอาจารย์ต้องไปเจาะเลือด
00:44:20 → 00:44:22 เซเรย์ปอดอะไรให้เรียบร้อยว่าร่างกายคุณ
00:44:22 → 00:44:24 พร้อม 100% จริงๆที่จะรับการผ่าตัดใช่มั้
00:44:24 → 00:44:27 คะอาจจะมีเลือดจางได้นะคะถ้าเกิดว่าดูด
00:44:27 → 00:44:30 ปริมาณมากเกินไปในเessชันั้นๆอะไรเงี้ย
00:44:30 → 00:44:34 ค่ะที่เกิดขึ้นได้อ่าเรื่อยๆนะคะแล้วก็
00:44:34 → 00:44:37 อ่าอ่าอีกอย่างนึงที่ต้องบอกไว้เลยนะ
00:44:37 → 00:44:40 สำหรับคนที่สนใจที่จะทำหัตถการดูดไขมันนะ
00:44:40 → 00:44:46 คะเอ่อหลังทำอ่ะเลอะเทอะนะเลอะน้ำไหลงง
00:44:46 → 00:44:48 มั้ยคืออะไรคืออย่างที่เราบอกตอนแรกค่ะ
00:44:48 → 00:44:52 ว่าไขมันมันเป็นก้อนแข็งถ้าเราอยากจะดูด
00:44:52 → 00:44:54 เค้าออกมาเราต้องทำให้เค้ากลายเป็นน้ำเรา
00:44:54 → 00:44:58 ต้องใส่น้ำเกลือเข้าไปพ่นๆเพื่อให้ไขมัน
00:44:58 → 00:45:01 น่ะมันสลายกลายเป็นเม็ดเล็กๆผสมกับน้ำ
00:45:01 → 00:45:03 แล้วดูดออกมาเพราะแล้วเราไม่สามารถดูดน้ำ
00:45:04 → 00:45:06 ที่เราใส่เข้าไปออกออกมาให้หมดได้ภายใน
00:45:06 → 00:45:09 การผ่าตัดอยู่และอือน้ำก็จะค่อยๆเรียนออก
00:45:09 → 00:45:12 มาอีกเรื่อยๆในช่วง 1 อาทิตย์แรกนะคะ
00:45:12 → 00:45:15 เพราะฉะนั้นน่ะหลังทำเสร็จอ่ะมันจะมีน้ำ
00:45:15 → 00:45:18 ซึมออกจากแผลตลอดเลยประมาณไม่เกิน 1
00:45:18 → 00:45:21 อาทิตย์ส่วนใหญ่ 3 วันอือฮึประมาณนั้น
00:45:21 → 00:45:24 เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนที่ต้องต้อง
00:45:24 → 00:45:27 เตรียมใจเอาไว้ในทุกๆเคสนะครับอันนี้เจอ
00:45:27 → 00:45:30 บ่อยมั้อาจารย์ Fat Embolism หรือไขมัน
00:45:30 → 00:45:34 พุดอาจารย์ไม่เคยเจอส่วนตัวไม่เคยเจอนะคะ
00:45:34 → 00:45:39 แต่ต่างชาติอ่ะเยอะต่างชาติเยอะเออก็คือ
00:45:39 → 00:45:43 เป็นสิ่งที่คนไข้ถามมาตลอดอืนะคะว่าดุกไข
00:45:43 → 00:45:47 มันแล้วไขมันอุดตันในปอดอือแต่ไม่ใช่ว่า
00:45:47 → 00:45:49 จะตายทุกเคสนะอาจารย์อ่าถ้ามันอุดแล้วแบบ
00:45:49 → 00:45:52 ช่วยทันก็รอดอถ้ามันอุดแล้วช่วยไม่ทัน
00:45:52 → 00:45:56 detทคไม่ทันก็ไม่รอดนะคะคือเจอไม่บ่อย
00:45:56 → 00:46:00 ส่วนตัวไม่เคยเจอนะคะแต่ว่าอ่าต้องบอก
00:46:00 → 00:46:03 ก่อนว่าการผ่าตัดทุกประเภทอ่ะมันมีความ
00:46:03 → 00:46:05 เสี่ยงไม่ใช่เฉพาะดูดไขมันถ้าเป็นอย่าง
00:46:05 → 00:46:07 อื่นมันก็อาจจะเป็นอย่างอื่นเป็นเอมโบลก็
00:46:07 → 00:46:09 ได้อย่างเช่นอาจจะเป็นพวกเม็ดเกล็ดเลือด
00:46:09 → 00:46:11 อะไรอย่างเงี้ยเอ่ออะไรนะคลอตอ่ะค่ะบัตร
00:46:11 → 00:46:14 บัตรคอลิ่มเลือดอุดตันก็ได้แต่เนี้ยมัน
00:46:14 → 00:46:17 เป็นการดูไขมันไงมันก็ไขมันก็ไปอุดหรือ
00:46:17 → 00:46:19 เป็นการผ่าชั้นสับคิวเนียสทั่วไปอย่าง
00:46:19 → 00:46:22 เช่นผ่าตัดหนังหน้าท้องหรือทำหน้าอกมันก็
00:46:22 → 00:46:24 เกิดแฟเอineได้เพราะว่ามันเป็นการผ่าตัด
00:46:24 → 00:46:26 ที่มันไปออเฟียกับชั้นไขมันอยู่แล้วนะฮะ
00:46:27 → 00:46:30 ทีนี้เนี่ยอ่าเราต้องลดความเสี่ยงไม่ให้
00:46:30 → 00:46:32 มันเกิดทำยังไงให้มันโอกาสเกิดให้น้อยที่
00:46:32 → 00:46:36 สุดนะคือ 1 คนไข้นะเราต้องคัดกรองเลยอายุ
00:46:36 → 00:46:40 ห้ามเกินเท่าไหร่อ่ะ 60 ปีไม่ทำหรือถ้า
00:46:40 → 00:46:42 อย่างอุยอยากจะทำจริงๆเลยฉันจะทำไม่ได้
00:46:42 → 00:46:45 เลยไปโรงพยาบาลนะก็จะจะส่งไปทำที่โรง
00:46:45 → 00:46:48 พยาบาลให้อาจารย์แพทย์ที่คลินิกอ่ะเตามไป
00:46:48 → 00:46:50 ทำที่โรงพยาบาลแทนเข้า ICU ไปเลยหลังทำ
00:46:50 → 00:46:52 อะไรเงี้ยใช่มั้คะอ่ะ 1 คัดกรองเลยอายุ
00:46:52 → 00:46:55 ไม่เกินเท่าไหร่ไม่ให้ทำนะคะ 2 โรคประจำ
00:46:55 → 00:46:59 ตัวนะต้องคลีนเลยมาแบบมีความเสี่ยงเงี้ย
00:46:59 → 00:47:02 ไม่ให้ทำนะคะพวกความดันหรืออะไรมีประวัติ
00:47:02 → 00:47:04 มีประวัติเก่าว่าเคยมีพวกลิ่มเลือดอุดตัน
00:47:04 → 00:47:08 หรือว่าเป็นคนที่กินพวกยาอะไรอ่ะเพิ่ม
00:47:09 → 00:47:10 ความแข็งโตของเลือดอะไรเงี้ยค่ะอยู่อย่าง
00:47:10 → 00:47:14 เงี้ยก็ทำไม่ได้ไม่ให้ทำคือเราต้องคัด
00:47:14 → 00:47:17 กรองและที่สำคัญที่สุดก็คืออ่าพวกอาการ
00:47:17 → 00:47:20 อุดตันพวกเนี้ยพวกไขมันอุดตันในปอดพวก
00:47:20 → 00:47:23 เนี้ยยิ่งทำเยอะความเสี่ยงยิ่งเยอะยิ่งดม
00:47:23 → 00:47:26 ยานานความเสี่ยงยิ่งเยอะอืยิ่งทำบริเวณ
00:47:26 → 00:47:29 ใหญ่ความเสี่ยงก็ยิ่งเยอะอือเพราะฉะนั้น
00:47:29 → 00:47:31 ปลอดภัยเลยนะคะคืออย่างที่บอกไปว่าใน 1
00:47:31 → 00:47:35 เซัน่ะอย่าไปทำเยอะคนส่วนใหญ่อ่ะฉันอยาก
00:47:35 → 00:47:37 จะผอมทีเดียวแขนฉันก็ใหญ่ขาฉันก็ใหญ่พุง
00:47:37 → 00:47:39 ฉันก็ใหญ่ฉันอยากจะดูดไปเลยทีเดียวให้มัน
00:47:39 → 00:47:43 จบเลยหมออืตายนั่นน่ะจะเอาเหรอนึกออกมั้ย
00:47:43 → 00:47:47 ไม่ได้เราต้องแบ่งนะในบางเคสคือคนที่ทำ
00:47:47 → 00:47:49 ทั้งตัวได้มันก็มีค่ะแต่ในบางเคสที่มัน
00:47:49 → 00:47:51 เยอะจริงๆมันใหญ่จริงๆแล้วพีiมันจะนาน
00:47:52 → 00:47:53 เกินไปอย่างเงี้ยแฟชที่ออกมามันเยอะเกิน
00:47:53 → 00:47:56 ไปอย่างเงี้ยโอกาสเกิดมันเยอะอะไรอย่าง
00:47:56 → 00:47:59 เงี้ยอือมันควรแบ่งทำอือมันปัจจัยมันเยอะ
00:47:59 → 00:48:02 มากอาจารย์อือถ้าถ้าพูดรายละเอียดเปลี่ยน
00:48:02 → 00:48:04 อีกมันก็จะดีไปอีกครับอย่างเช่นว่าอีกที
00:48:04 → 00:48:07 นึงก็คือเคสเป็นเคสแก้ค่ะเคสเคสแก้นะที่
00:48:07 → 00:48:09 เคยทำมาแล้วแล้วมาทำใหม่อย่างเงี้ยค่ะ
00:48:09 → 00:48:10 เหมือนอ้วนใหม่แล้วทำใหม่อย่างเงี้ยค่ะ
00:48:10 → 00:48:14 อือมันจะมีผังผืดเกาะทีเนี้ยพอหมอเลาะผัง
00:48:14 → 00:48:17 ผืดอ่ะมันจะโดนเส้นเลือดยิ่งเส้นเลือดแตก
00:48:17 → 00:48:19 เยอะเท่าไหร่อ่ะการเกิดทรอม่าต่อเนื้อ
00:48:19 → 00:48:21 เยื่อมันมากเท่าไหร่โอกาสจะเกิดพวก
00:48:21 → 00:48:23 แอมโบไลนก็มากเท่านั้นเหมือนกันอืเพราะ
00:48:23 → 00:48:25 ฉะนั้นเราต้องประเมินความเสี่ยงทั้งหมด
00:48:25 → 00:48:28 เพื่อที่จะคิดเป็นสกอร์ออกมาว่าโอเคคน
00:48:28 → 00:48:30 เนี้ยความเสี่ยงต่ำแทบจะไม่มีเลยสามารถ
00:48:30 → 00:48:33 ที่จะทำได้อย่างสบายใจคนไหนแบบหมิ่นเมมา
00:48:33 → 00:48:37 เลยเนี่ยก็ไม่ทำต้องคซนเให้เข้าใจด้วยว่า
00:48:37 → 00:48:40 ไม่ทำไม่ใช่ว่าเราไม่ทำแล้วเไปสันหาทำที่
00:48:40 → 00:48:43 อื่นก็ซวยต้องอธิบายเลยว่าทำไมถึงไม่ทำอื
00:48:43 → 00:48:47 เห็นภาพค่ะเห็นภาพปัจจุบันการดูดไขมัน
00:48:47 → 00:48:49 เนี่ยเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปมั้ยอาจารย์ 10
00:48:49 → 00:48:51 ปีที่แล้วที่อาจารย์ทำกับวันนี้เปลี่ยน
00:48:51 → 00:48:56 ใช่คือเอาในหลัก 20 ปีแล้วอ 20 ปีที่แล้ว
00:48:56 → 00:48:59 นะค่ะไโปรสชัหรือการดื่มไหมันเนี่ยเริ่ม
00:48:59 → 00:49:02 เป็นที่แพร่หลายในโลกโดยการเวดไลโปธรรมดา
00:49:02 → 00:49:04 เว็ดไลโปคือการดูดไขมันแบบเปียกที่อธิบาย
00:49:04 → 00:49:07 ไปเมื่อสักครู่นี้ว่าเราก็แค่ใส่น้ำเกลือ
00:49:07 → 00:49:09 เข้าไปตีให้มันกลายเป็นไขมันปั่นแล้วเรา
00:49:10 → 00:49:12 ก็ดูดออกมาใช่มั้ยคะมันจะมีการบาดเจ็บต่อ
00:49:12 → 00:49:15 เนื้อเยื่อเยอะด้วยเพราะว่ามันไม่ได้ดูด
00:49:15 → 00:49:18 ออกมาเฉพาะไขมันน่ะมันไปกระทุ้งโดนพวก
00:49:18 → 00:49:20 เส้นเลือดเส้นประสาทอะไรด้วยแต่ก่อนน่ะ
00:49:20 → 00:49:22 ดูดไขมันแล้วตาเยอะมากอาจารยสมัยนี้ไม่
00:49:22 → 00:49:25 ค่อยมีสังเกตดูสมัยก่อนน่ะเพราะว่ามันมี
00:49:25 → 00:49:27 พรม่าเยอะมันมีการบาดเจ็บเยอะใช่มั้คะ
00:49:27 → 00:49:29 เส้นเลือดแตกปุ๊บไขมันวิ่งเข้าเส้นเลือด
00:49:29 → 00:49:32 ปุ๊บเข้าปอดตายเลยอย่างเงี้ยอือๆเยอะอ่ะ
00:49:32 → 00:49:36 แต่สมัยเนี้ยมันพัฒนาขึ้นตลอด 10 กว่าปี
00:49:36 → 00:49:40 ที่ผ่านมานะคะมันจะมีmaชineที่เป็นช่วย
00:49:40 → 00:49:44 ให้การดูดไขมันเนี่ยมันเร็วง่ายแล้วก็
00:49:44 → 00:49:46 ปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆค่ะอันนี้ก็จะใช้
00:49:46 → 00:49:50 เครื่องอัตต้าซาวไปสลายแฟชสลายเฉพาะไขมัน
00:49:50 → 00:49:54 ให้มันแตกเฉพาะไขมันก่อนที่จะดูดออกมาทำ
00:49:54 → 00:49:57 ให้พวกเนื้อเยื่ออื่นๆน่ะมันไม่โดนนะคะ
00:49:57 → 00:50:00 มันก็จะปลอดภัยมากขึ้นเนื้อเยื่อที่เรา
00:50:00 → 00:50:02 ไม่ได้อยากจะทำลายเค้าอ่ะเส้นเลือดเส้น
00:50:02 → 00:50:04 ประสาทมันก็ไม่โดนทำลายมันทำลายเฉพาะไข
00:50:04 → 00:50:06 มันอย่างเงี้ยค่ะอือๆพอไขมันละลายเป็นน้ำ
00:50:06 → 00:50:08 ปุ๊บเราค่อยดูดออกมาอย่างเงี้ยแล้วก็ที่
00:50:08 → 00:50:12 สำคัญคือลดลดพีiได้ดีด้วย time พีiก็คือ
00:50:12 → 00:50:15 การอ่าพักฟื้นอือนะในเมื่อเนื้อเยื่อปกติ
00:50:15 → 00:50:18 มันไม่โดนนี่อาการบอบชำมันก็น้อยลงค่ะมัน
00:50:18 → 00:50:23 ก็พัฒนามาเรื่อยๆมันเอว่าทุกๆเี่อ่ะมันมี
00:50:23 → 00:50:27 การพัฒนามาตลอดอยู่แล้วสมัยก่อนต่อให้
00:50:27 → 00:50:29 เสริมซิลิโคนหน้าอกสมัยก่อนก็แผลเบลอเลย
00:50:29 → 00:50:32 ใช่มั้อืทำได้แค่เหนือกล้ามเนื้อด้วย
00:50:32 → 00:50:35 บล็อกกลมมาเลยอย่างเงี้ยสมัยก่อนใช่มั้คะ
00:50:35 → 00:50:38 เออกลมบล็อกสมัยนี้นี่มีการใส่กล้ามเนื้อ
00:50:38 → 00:50:41 อ่ะมีการใส่ใต้กล้ามเนื้อครึ่งนึงใต้ผิว
00:50:41 → 00:50:44 หนังครึ่งนึงแม้กระทั่ง 2 กล้องทำหน้าอก
00:50:44 → 00:50:47 อือมันก็มีคือทุกการศัลยกรรมอ่ะค่ะมันมี
00:50:47 → 00:50:50 การ revolu ใช่เพื่อเพื่อที่จะเป็น
00:50:50 → 00:50:52 ประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆอยู่
00:50:52 → 00:50:55 แล้วค่ะอื
00:50:55 → 00:50:57 ครับได้ความรู้เยอะขอบคุณค่ะได้ความรู้
00:50:58 → 00:51:00 เยอะครับวันนี้สุดท้าย
00:51:00 → 00:51:06 ท้ายทำไมถึงมาชอบด้านนี้ฮะโอ๊ยชอบที่
00:51:06 → 00:51:09 อาจารย์ปิดได้คำถามนี้มากเลยสมัยก่อนน่ะ
00:51:09 → 00:51:14 ตอนวัยรุ่นน่ะคือแขนใหญ่ตัวเอ้เองอ่ะแขน
00:51:14 → 00:51:17 แขนใหญ่อวบเลยอ่ะแล้วก็คิดเลยว่าฉันอยาก
00:51:17 → 00:51:21 จะดูดไขมันตรงฉันอยากจะดูดไขมันอยากมาก
00:51:21 → 00:51:24 ที่บ้านไม่ให้เงินเราก็คิดว่าโอ๊ไม่เป็น
00:51:24 → 00:51:26 ไรเดี๋ฉันเรียนจบเมื่อไหร่ฉันจะเก็บเงิน
00:51:26 → 00:51:28 นะถ้าจะไปดูดไขมันเลยฉันจะไปดูไขมันเป็น
00:51:28 → 00:51:31 อันดับเลหน้าเนิไม่สนใจจมูกปากช่างมันแต่
00:51:31 → 00:51:34 แขนฉันต้องเล็กและเสร็จปุ๊บไปทำงานใช่มั้
00:51:34 → 00:51:36 ตอนไปใช้ทุนต่างจังหวัดก็เก็บเงินเก็บ
00:51:36 → 00:51:38 เงินไม่ได้ไม่ได้เยอะนะเงินเดือนราชการก็
00:51:39 → 00:51:41 ต้องเก็บหลายเดือนนึกออกมั้ฮะเก็บปุ๊บอ่ะ
00:51:41 → 00:51:43 มีก้อนนึงที่คิดว่ามันน่าจะพอแล้วแหละก็
00:51:43 → 00:51:46 ไปไปเสิร์ช Google ค่ะสมัยนั้นน่ะมันไม่
00:51:46 → 00:51:50 มีอาจารย์มันไม่มีที่ไหนทำ
00:51:50 → 00:51:55 เออคือสมัย 10 เกือบ 20 ปีที่แล้วอ่ะค่ะ
00:51:55 → 00:51:58 18- 20 ปีที่แล้วเราเสิร์ช Google น่ะ
00:51:58 → 00:52:00 ว่าดูดไขมันคลินิกไหนหรือดูดไขมันโรง
00:52:00 → 00:52:04 พยาบาลไหนไม่มีคือมันมีคนทำนะคะแต่ว่ามัน
00:52:04 → 00:52:06 ไม่ได้มีผลลัพธ์ให้เราเห็นว่ามัน
00:52:06 → 00:52:08 outstanding อ่ะคือมันก็แค่อ่ะตัวอย่าง
00:52:08 → 00:52:10 แล้วก็ไปขายอย่างอื่นแทนไปขายทำหน้าอก
00:52:10 → 00:52:13 เป็นจมูกเป็นอะไรอย่างเงี้ยมีแต่เอิ่เค้า
00:52:13 → 00:52:16 เรียกว่าฟielอะไรโปรชน่ะคนแทบจะไม่มี
00:52:16 → 00:52:21 อาจารย์คนไหนทำเลยตอนนั้นน่ะเออก็เลยคิด
00:52:21 → 00:52:24 ว่างั้นเดี๋ยวทำเองจริงป่ะจริงนี่เรื่อง
00:52:24 → 00:52:29 จริงแสดงว่าจับหัวธุรกิจในสมัยนั้นที่
00:52:29 → 00:52:32 เป็นนสพ.ใช่ค่ะมีความอยากว่าเราจะอยากดู
00:52:32 → 00:52:36 ไหวมั่นแขนเราแขนแขนใหญ่ใช่ค่ะจนเราจบเรา
00:52:36 → 00:52:40 เก็บเงินเราไปหาที่ดูดไม่มีไม่มีใครทำจน
00:52:40 → 00:52:43 บอกตัวเองว่าเดี๋ยวฉันเริ่มเองทำเองอุย
00:52:43 → 00:52:46 เส้นทางอุ๊ยมันอะไรมันจะจดจ่อกับเรื่อง
00:52:46 → 00:52:48 เดิมได้นานขนาดนี้คือถ้าประเทศนี้ยังไม่
00:52:48 → 00:52:51 มีใครทำเดี๋ฉันทำเองอะไรอย่างเงี้ยประมาณ
00:52:51 → 00:52:54 นั้นค่ะอย่างงั้นเลยก็คิดว่างั้นฉันทำเอง
00:52:55 → 00:52:59 แล้วพอถึงโมเมนต์ที่แบบโอเคมีเพื่อนชวน
00:52:59 → 00:53:01 ออกมาเปิดเป็นคลินิกอย่างเงี้ยเราก็เลย
00:53:01 → 00:53:04 บอกเลยฉันจะทำไสเพราะประเทศนี้ยังไม่มี
00:53:04 → 00:53:10 ใครทำเลยอืมก็เลยไปเรียนใช่แล้วเ้าทำใช่
00:53:10 → 00:53:14 โอ้โหใช่พร้อมมากคือพร้อมมากแต่ว่าเกิดมา
00:53:14 → 00:53:17 นี่คือเพื่อที่จะมาดูดไขมันตั้งแต่เด็กะ
00:53:17 → 00:53:20 น่าจะเป็นดิ้นี่แล้วล่ะค่ะเอว่ามันน่าจะ
00:53:20 → 00:53:22 เป็นดิของเอ๊แหละว่าเกิดมาต้องทำเบื่อทุก
00:53:22 → 00:53:25 วันนี้ทำยังมีความสุขเหมือนเดิมให้คนอื่น
00:53:25 → 00:53:27 ให้ทำอย่างอื่นไม่ไปเลยบอกเฮ้ยนี่แกมาทำ
00:53:27 → 00:53:30 นี่สิคือถ้าตัวเองนะตัวตัวเองไม่รับเต็ม
00:53:30 → 00:53:33 แก้วมากคือฉันจะทำแต่สิ่งนี้สิ่งเดียวไป
00:53:33 → 00:53:38 ตลอดชีวิตอจะให้แบบไปฝึกเสริมหน้าอกหรือ
00:53:38 → 00:53:42 ว่าไปทำอย่างอื่นที่แบบไม่ได้อยากทำอ่ะ
00:53:42 → 00:53:44 ฉันเกิดมาพูดสิ่งใดฉันขอทำสิ่งเดียวให้
00:53:44 → 00:53:46 มันพิเศษไปเลยดี
00:53:46 → 00:53:49 กว่าประมาณนั้น
00:53:49 → 00:53:53 อัยะยินดีที่รู้จักหมอดูดไขมันแห่งประเทศ
00:53:53 → 00:53:56 ไทยขอบคุณค่ะมีคนมีหมออยู่เยอะมั้ครับที่
00:53:56 → 00:53:58 เล่นเฉพาะด้านนี้เลยไม่มีเยอะนะสมัยเเยอะ
00:53:58 → 00:54:01 มากค่ะแต่ว่าแต่ว่าสมัยที่เอ้เริ่มทำตอน
00:54:01 → 00:54:03 นั้นน่ะเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วที่เล่า
00:54:03 → 00:54:06 ให้ฟังอ่ะไม่มีเลยคนไข้เยอะมากอาจารย์อื
00:54:06 → 00:54:09 คนไข้ทำทำงานแบบ 9:00 น.เรียนเที่ยงคืน
00:54:09 → 00:54:11 น่ะอืเพราะคนเพราะว่าอย่างที่บอกอ่ะว่า
00:54:11 → 00:54:14 เค้าก็เป็นเหมือนเราอ่ะคือเค้าไม่รู้จะไป
00:54:14 → 00:54:18 ทำที่ไหนอ่ะอือเออแล้วพอเราเปิดปุ๊บปึ๊บ
00:54:18 → 00:54:22 เรามีเริ่มมีคนไข้เข้ามาซักแบบ 2-3 คน
00:54:22 → 00:54:25 แล้วอาทิตย์ถัดมาก็มาแบบ 20-30 เลยคือแบบ
00:54:25 → 00:54:30 มันวิ่งแพร่กระจายเร็วมากเลยอืเออ
00:54:30 → 00:54:32 นี้ต้องจัดตารางไม่น่าจะดูดทันมั้วันต่อ
00:54:32 → 00:54:35 วันตอนนั้นใช่ก็ก็ต้องจัดเป็นตารางไปคือ
00:54:35 → 00:54:39 แน่นมากคือคิวข้ามปีนี้อือืดีใจแต่ว่าตอน
00:54:40 → 00:54:42 เนี้ยอย่างที่บอกว่าตอนเนี้ยคือเยอะและก็
00:54:42 → 00:54:45 มีแบบมีคนมาทำฟิลเค่อนข้างเยอะขึ้นเงี้ย
00:54:45 → 00:54:49 ค่ะก็เลยมีเวลาว่างมาทำคเทนค่ะอาจารย์ไม่
00:54:50 → 00:54:54 ใช่ไม่ใช่ดีครับดีจริงๆใช่จริงๆแล้วเรา
00:54:54 → 00:54:57 เนื่องด้วยอย่างที่บอกค่ะว่าเราทำฟิลความ
00:54:57 → 00:54:59 งามเนี่ยเราก็ไม่อยากให้คนมองว่าเฮ้ยเรา
00:54:59 → 00:55:03 มาทำคทentขายของใช่มั้ยคะคือมันค่อนข้าง
00:55:03 → 00:55:05 sensitive มากเลยเรื่องเนี้ยบางทีพอเป็น
00:55:06 → 00:55:07 ความงามปุ๊บมันมันก็กลายเป็นเรื่องของ
00:55:08 → 00:55:11 ธุรกิจคือมันเป็นสิ่งที่คนอื่นมองว่ามัน
00:55:11 → 00:55:13 เป็นเรื่องฟุ้งเฟ้อมันเป็นเรื่องที่ไม่
00:55:13 → 00:55:16 จำเป็นต้องทำไม่ทำก็ไม่ตายนี่มันไม่
00:55:16 → 00:55:19 เหมือนกับโรคดีซีสอ่ะโรคแบบเป็นเบาหวาน
00:55:19 → 00:55:22 ความดันไม่รักษาตายนะเว้ยแต่ว่าดูไขมัน
00:55:22 → 00:55:24 อย่างเงี้ยทำนมทำจมูกทำหน้าอย่างเงี้ยไม่
00:55:24 → 00:55:27 ทำก็ไม่ตายนี่ทำไมเออมันกลายเป็นว่าอาจจะ
00:55:27 → 00:55:30 มองว่าเฮ้ยเราเราทำเนี่ยมันไม่ได้มีความ
00:55:31 → 00:55:34 จำเป็นหรือเปล่าแต่จริงๆแล้วอ่ะค่ะเอ๊ว่า
00:55:34 → 00:55:37 มันเป็นการรักษาจิตใจของ
00:55:37 → 00:55:40 พอเรามาได้ฟกับคนไข้จริงของเราคือการที่
00:55:40 → 00:55:43 คนนึงอ่ะจะตัดสินใจเจ็บตัวทั้งๆที่เขาไม่
00:55:43 → 00:55:46 จำเป็นต้องทำก็ได้อ่ะอะไรทำให้เขาคิดแบบ
00:55:46 → 00:55:50 นั้นอืบางทีอยากจะให้ลองเปิดใจคนที่คิด
00:55:50 → 00:55:53 ว่าการทำสถานไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอยากให้
00:55:53 → 00:55:56 ลองเปิดใจดูว่าถ้ามันไม่จำเป็นแล้วทำไมคน
00:55:56 → 00:55:58 นึงที่สุขภาพปกติแข็งแรงดีทุกอย่างถึง
00:55:59 → 00:56:02 ต้องยอมเสี่ยงต้องยอมเจ็บตัวต้องยอมเสีย
00:56:02 → 00:56:05 เวลาพักฟื้นปวดเมื่อยร่างปวดอ่าปวดแผลปวด
00:56:05 → 00:56:08 เปิดอะไรเป็นระยะเวลาหลายวันเพื่อที่จะมา
00:56:08 → 00:56:11 ทำสิ่งนี้ด้วยล่ะเพราะมันคือการเคียวของ
00:56:11 → 00:56:14 เขามันคือการเคียวความรู้สึกของเขามีหลาย
00:56:14 → 00:56:17 คนที่ทำศัลยกรรมความงามไปแล้วชีวิตดีขึ้น
00:56:17 → 00:56:21 มากๆงานรุ่งรักปังทุกอย่างดีหมดเลยซึ่ง
00:56:21 → 00:56:24 เอ้คิดว่ามันไม่ใช่เกี่ยวกับดวงนะมันไม่
00:56:24 → 00:56:26 ใช่ว่าทำแล้วเปลี่ยนโหงเฮ้งแล้วแบบว่า
00:56:26 → 00:56:28 เฮ้ยเงินเข้าเอ้ไม่คิดอย่างงั้นแต่เอ้คิด
00:56:28 → 00:56:31 ว่าเามั่นใจมากขึ้นพอเขาค้าเสริมความงาม
00:56:31 → 00:56:33 แล้วเค้าทำสศัลกรรมแล้วเมีความมั่นใจมาก
00:56:33 → 00:56:36 ขึ้นเสามารถก้าวออกจากบ้านเค้าสามารถตื่น
00:56:36 → 00:56:39 มามองกระจกแล้วยิ้มให้กับตัวเองแล้ว
00:56:39 → 00:56:41 สามารถเชิดหน้าออกจากบ้านไปสู่สังคมได้
00:56:41 → 00:56:44 อย่างมั่นใจมากขึ้นน่ะอะไรดีๆมันก็เข้ามา
00:56:44 → 00:56:47 หาเขาเองอาจารย์อ่ะตรงเนี้ยเอ้ยคิดว่า
00:56:47 → 00:56:49 เอ้ยจริงๆแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่แบบจะว่า
00:56:49 → 00:56:52 ไม่จำเป็นก็ไม่ใช่อืเอ่ามันอาจจะไม่ได้
00:56:52 → 00:56:55 จำเป็นถึงแบบขั้นว่าต้องทำแต่เอ๊คิดว่า
00:56:55 → 00:56:58 มันช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนนึงอ่ะดีขึ้น
00:56:58 → 00:57:01 ได้จริงๆนะคะอยากเห็นบ้านเมืองดีกว่านี้
00:57:01 → 00:57:04 หมอเอ๊มีอะไรจะแนะนำครับคือหมอจะมีคนไข้
00:57:04 → 00:57:08 ไพ่ที่มาจากต่างประเทศเยอะนะคะแล้วก็ถาม
00:57:08 → 00:57:11 เค้าว่าเฮ้ยทำไมเอ่อประเทศยูเค้าทำมั้ย
00:57:12 → 00:57:14 อะไรอย่างเงี้ยหรือว่าที่เราถูกกว่ายู
00:57:14 → 00:57:18 ยูบินมาทำอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ 100% เลย
00:57:18 → 00:57:21 อ่ะตอบว่าแบบโอเค 1 ที่ประเทศไทยอ่ะราคา
00:57:21 → 00:57:24 price มันค่อนข้างfaลี่ก็จริงก็คือราคา
00:57:24 → 00:57:26 มันเข้าถึงได้ก็จริงแต่มันได้หมายความว่า
00:57:26 → 00:57:29 ที่ประเทศเค้ามันจะแพงขนาดนั้นแต่ประเทศ
00:57:29 → 00:57:33 ไทยอ่ะดังจริงๆนะเรื่องการแพทย์นะคะไม่
00:57:33 → 00:57:35 ใช่แค่เรื่องความงามนะไม่ใช่แค่สถานกรรม
00:57:35 → 00:57:38 ความงามนะฮะดังเรื่องของพวกแพทย์เพื่อการ
00:57:38 → 00:57:42 รักษาโรคก็ดังนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อหม
00:57:42 → 00:57:47 คิดว่าหนึ่งในของดีเมืองไทยอ่ะคือระบบฝี
00:57:47 → 00:57:50 มือบุคลากรของเราดีกว่าอย่าพูดว่าระบบเลย
00:57:50 → 00:57:54 ระบบมันไม่ได้ดีขนาดนั้นอือระบบของเรายัง
00:57:54 → 00:57:56 ไม่ดีขนาดนั้นแต่ถ้าเป็นเอกชนแล้วก็
00:57:56 → 00:58:00 เรื่องของฝีมือบุคลากรของเราอ่ะค่ะ World
00:58:00 → 00:58:04 Class อืระดับโลกจริงๆนะทั้งแบบทั้งหมอ
00:58:04 → 00:58:08 ในทุกๆแผนกเลยค่ะหมอของเราอ่ะหมอไทยเก่ง
00:58:08 → 00:58:12 จริงๆนะคะอือเพราะฉะนั้นน่ะเอ๊คิดว่า
00:58:12 → 00:58:15 ประเทศไทยอ่ะสามารถผลักดันตรงเนี้ยให้
00:58:15 → 00:58:18 เป็นตัวชูโรงให้ประเทศเราอ่ะก้าวหน้าทาง
00:58:18 → 00:58:22 เศรษฐกิจได้อืนะคะอาจจะทำเป็นพวกแบบเอ่อ
00:58:22 → 00:58:26 อะไรอ่ะถ้าเป็นภาษาอังกฤษที่มารักษาควบ
00:58:26 → 00:58:28 คู่ไปกับการท่องเที่ยวอะไรอย่างเงี้ยทำ
00:58:28 → 00:58:30 เป็นแพ็คเกจอะไรเงี้ยค่ะจะประเทศไทยมีของ
00:58:31 → 00:58:33 อะไรดีล่ะมีของกินอร่อยมีสถานที่ท่อง
00:58:33 → 00:58:36 เที่ยวสวยงามและมีการแพทย์ที่ดีใช่มั้คะอ
00:58:36 → 00:58:40 ทำเป็นพวกแพ็คเกจอะไรเงี้ยขึ้นมาคืออะไร
00:58:40 → 00:58:42 วะ Travel and Travel Medical Travel
00:58:42 → 00:58:45 Medical Travel มันมีคนทำมันมีคนทำนะคะ
00:58:45 → 00:58:46 พวก Medical Travel อย่างเงี้ยก็เรียก
00:58:46 → 00:58:49 ว่ามันก็เป็นไอเดียที่ค่อนข้างดีเลยแหละ
00:58:50 → 00:58:54 นะฮะก็เอาอ่าคนจากต่างประเทศนะฮะลูกค้า
00:58:54 → 00:58:56 จากต่างชาติคนไข้ต่างชาติอย่างเงี้ยมา
00:58:56 → 00:58:59 รักษาหรือว่าศัลยกรรมความงามอะไรก็ตามแต่
00:58:59 → 00:59:04 ที่ประเทศไทยมันก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
00:59:04 → 00:59:07 ในฟieldของการท่องเที่ยวได้ด้วยอะไรแบบ
00:59:07 → 00:59:09 เนี้ยเรียกว่าอ่าฝั่งเนี้ยมันก็น่าจะเป็น
00:59:09 → 00:59:13 การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับฟiel
00:59:13 → 00:59:16 ของเราได้เหมือนกันเห็นด้วยครับอาจารย์
00:59:16 → 00:59:17 ขอบคุณ
00:59:17 → 00:59:20 มากหวังว่าเราทุกคนคงจะได้ประโยชน์หวัง
00:59:20 → 00:59:24 ว่าเราคงเห็นอีกมุมนึงของหมอเอ้นะครับผม
00:59:24 → 00:59:26 เองก็รู้สึกได้ประโยชน์แล้วก็ได้รู้จัก
00:59:26 → 00:59:31 หมอเอ้มากขึ้นนะครับสำหรับผมหมอชวนคุย
00:59:31 → 00:59:35 เวทีที่แลกเปลี่ยนปัญหาสังคมในภาษาบ้าน
00:59:35 → 00:59:39 กับแขกรับเชิญที่เก่งกว่าผมมานั่งมาแลก
00:59:39 → 00:59:42 เปลี่ยนมุมมองในภาษาบ้านเพื่อให้เราเข้า
00:59:42 → 00:59:45 ใจและเห็นภาพเพราะหน้าที่พัฒนาบ้านเมือง
00:59:45 → 00:59:48 เป็นหน้าที่ของเราทุกคนไม่ใช่หน่วยงานใด
00:59:48 → 00:59:50 หน่วยงานหนึ่งนะครับหวังว่าคงจะได้
00:59:50 → 00:59:54 ประโยชน์ฝากส่งให้กับคนที่กำลังมองหาคำ
00:59:54 → 00:59:58 ตอบนะครับแขกรับเชิญคนต่อไปจะเป็นใครรอ
00:59:58 → 01:00:03 ติดตามผมหวังว่าผมได้ทำหน้าที่ได้ดีะใน
01:00:03 → 01:00:06 การสัมภาษณ์หมอเอ้วันนี้นะครับแล้วลากัน
01:00:06 → 01:00:08 เจอกันใหม่อาทิตย์หน้าสวัสดีครับสวัสดี
01:00:08 → 01:00:13 ค่ะ
01:00:13 → 01:00:27 [เพลง]