ไมโทคอนเดรียทำหน้าที่อะไรในเซลล์

เซลล์ปะทะไวรัส: สงครามเพื่อสุขภาพ - Shannon Stiles

จากช่อง : จงใฝ่รู้อยู่เสมอ — TED-Ed


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0600:00:09 คุณกำลังเข้าคิวอยู่ในร้านขายของชำ ที่ซึ่ง โอ๊ะโอ

00:00:0900:00:11 ใครบางคนจามใส่คุณ

00:00:1100:00:13 ไวรัสโรคหวัดถูกสูดเข้าไปในปอดของคุณ

00:00:1300:00:16 และลงจอดบนเซลล์บนเยื่อบุทางเดินอากาศของคุณ

00:00:1600:00:19 สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกประกอบขึ้นด้วยเซลล์

00:00:1900:00:21 จากสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดอย่าง แบคทีเรีย

00:00:2100:00:23 ไปจนถึงวาฬสีน้ำเงิน และตัวคุณ

00:00:2300:00:27 แต่ละเซลล์ในร่างกายถูกล้อมรอบไปด้วยเยื่อหุ้มเซลล์

00:00:2700:00:30 ชั้นหนาที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งประกอบขึ้นจากไขมันและโปรตีน

00:00:3000:00:33 ซึ่งล้อมรอบและป้องกันส่วนประกอบภายใน

00:00:3300:00:34 มันเป็นเยื่อเลือกผ่าน (semipermeable)

00:00:3400:00:37 ซึ่งหมายความว่ามันให้บางอย่างผ่านเข้าออก

00:00:3700:00:38 แต่ขัดขวางสิ่งที่เหลือ

00:00:3800:00:41 เยื่อหุ้มเซลล์ปกคลุมไปด้วยส่วนเล็กๆ ที่ยื่นออกมา

00:00:4100:00:42 พวกมันมีหน้าที่

00:00:4200:00:44 เช่นช่วยเซลล์ยึดเกาะกับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมัน

00:00:4400:00:47 หรือยึดจับสารอาหารที่เซลล์ต้องการ

00:00:4700:00:50 สัตว์และพืชมีเยื่อหุ้มเซลล์

00:00:5000:00:52 เซลล์พืชเท่านั้นที่มีผนังเซลล์

00:00:5200:00:56 ซึ่งประกอบด้วยเซลลูโลส (cellulose) แข็งๆ ที่เป็นโครงสร้างให้กับพืช

00:00:5600:00:59 ไวรัสที่เข้าไปในปอดของคุณนั้นร้ายกาจ

00:00:5900:01:00 มันแสร้งทำว่าเป็นเพื่อน

00:01:0000:01:03 เข้ายึดเกาะกับส่วนที่ยื่นออกมาจากเยื่อหุ้มเซลล์

00:01:0300:01:06 และเซลล์ก็นำมันผ่านเข้าเยื่อหุ้มเซลล์สู่ภายใน

00:01:0600:01:08 เมื่อไวรัสผ่านเข้าไปแล้ว

00:01:0800:01:10 เซลล์ก็รู้ว่ามันทำพลาด

00:01:1000:01:12 ศัตรูบุกเข้ามาซะแล้ว

00:01:1200:01:14 เอ็นไซม์ชนิดพิเศษมาถึงที่เกิดเหตุ

00:01:1400:01:16 และสับไวรัสออกเป็นชิ้นๆ

00:01:1600:01:18 จากนั้นพวกมันก็ส่งชิ้นหนึ่งกลับไป

00:01:1800:01:19 ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์

00:01:1900:01:22 ซึ่งเป็นที่ที่เซลล์แสดงมันเพื่อเตือนเซลล์ใกล้เคียง

00:01:2200:01:23 ถึงผู้บุกรุก

00:01:2300:01:25 เซลล์ที่อยู่ใกล้ๆ เห็นถึงสัญญาณเตือน

00:01:2500:01:27 และก็ตอบสนองในทันที

00:01:2700:01:29 มันต้องสร้างแอนติบอดี

00:01:2900:01:31 ซึ่งก็คือ โปรตีนที่จะโจมตีและฆ่า

00:01:3100:01:33 ไวรัสผู้บุกรุก

00:01:3300:01:35 กระบวนการนี้เริ่มขึ้นในนิวเคลียส

00:01:3500:01:37 นิวเคลียสถูกบรรจุด้วยดีเอ็นเอ

00:01:3700:01:40 พิมพ์เขียวที่บอกเซลล์ของเราถึงวิธีการสร้างทุกอย่าง

00:01:4000:01:43 ที่ร่างกายของเราต้องการใช้งาน

00:01:4300:01:46 ณ ส่วนเฉพาะของดีเอ็นเอ มีคู่มือ

00:01:4600:01:49 ที่บอกเซลล์ของคุณว่าสร้างแอนติบอดีได้อย่างไร

00:01:4900:01:52 เอ็นไซม์ในนิวเคลียส พบส่วนเฉพาะดังกล่าว

00:01:5200:01:54 จากนั้นก็สร้างสำเนาของคู่มือ

00:01:5400:01:56 ซึ่งเรียกว่า แมสเซ็นเจอร์ อาร์เอ็นเอ (messenger RNA)

00:01:5600:02:00 แมสเซ็นเจอร์ อาร์เอ็นเอ ออกจากนิวเคลียส เพื่อปฏิบัติหน้าที่

00:02:0000:02:03 มันเดินทางไปยังไรโบโซม (ribosome)

00:02:0300:02:05 ซึ่งเราสามารถมีไรโบโซมได้มากเป็น 10 ล้านอัน

00:02:0500:02:07 ในเซลล์มนุษย์

00:02:0700:02:09 ทั้งหมดฝังอยู่กับโครงสร้างที่เหมือนกับริบบิ้น

00:02:0900:02:11 เรียกว่า เอ็นโอพลาสมิก เรติคูลัม (endoplasmic reticulum)

00:02:1100:02:14 ไรโบโซมอ่านคู่มือจากนิวเคลียส

00:02:1400:02:18 มันนำกรดอะมิโนเข้ามาและเชื่อมพวกมันเข้าด้วยกัน

00:02:1800:02:22 สร้างเป็นโปรตีนแอนติบอดีที่ใช้สู้กับไวรัส

00:02:2200:02:23 แต่ก่อนที่มันจะทำอย่างนั้นได้

00:02:2300:02:25 แอนติบอดีต้องถูกปล่อยจากเซลล์

00:02:2500:02:28 แอนติบอดีมุ่งหน้าไปยังกอจิ แอพพาราตัส (golgi apparatus)

00:02:2800:02:31 ที่นี่ มันถูกบรรจุสำหรับการขนส่งออกนอกเซลล์

00:02:3100:02:35 เมื่อถูกบรรจุในหีบห่อปิดคล้ายฟองสบู่ ที่ทำมาจากวัสดุเดียวกับเยื่อหุ้มเซลล์

00:02:3500:02:38 กอจิ แอพพาราตัส ยังให้ทิศทางกับแอนติบอดี

00:02:3800:02:41 บอกว่าจะไปถึงขอบเซลล์ได้อย่างไร

00:02:4100:02:42 เมื่อมันไปถึงตรงนั้น

00:02:4200:02:45 โครงสร้างฟองสบู่ที่หุ้มแอนติบอดีไว้ ก็หลอมรวมกับเยื่อหุ้มเซลล์

00:02:4500:02:47 เซลล์ปล่อยแอนติบอดีออกมา

00:02:4700:02:50 และมันก็มุ่งหน้าออกไปเพื่อล่าไวรัส

00:02:5000:02:52 โครงสร้างฟองสบู่ที่เหลืออยู่จะถูกย่อยสลาย

00:02:5200:02:53 โดยไลโซโซมของเซลล์

00:02:5300:02:56 และชิ้นส่วนของมันก็จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่เรื่อยๆ

00:02:5600:03:00 เซลล์เอาพลังงานมาจากไหน เพื่อใช้ทำกิจกรรมทั้งหมดนี้

00:03:0000:03:02 นั่นเป็นหน้าที่ของไมโทคอนเดรีย

00:03:0200:03:04 เพื่อที่จะสร้างพลังงาน ไมโทคอนเดรียใช้ออกซิเจน

00:03:0400:03:07 นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ว่าทำไมเราจึงหายใจ

00:03:0700:03:09 และเติมอิเล็กตรอนจากอาหารที่เรากิน

00:03:0900:03:11 เพื่อสร้างโมเลกุลน้ำ

00:03:1100:03:13 กระบวนการนั้นยังสร้างโมเลกุลพลังงานสูง

00:03:1300:03:18 ที่เรียกว่า เอทีพี (ATP) ซึ่งเซลล์ใช้ ในการให้พลังงานกับทุกๆ ส่วน

00:03:1800:03:20 เซลล์พืชสร้างพลังงานด้วยวิธีที่ต่างไป

00:03:2000:03:22 พวกมันใช้ คลอโรพลาส (chloroplast)

00:03:2200:03:24 ที่ประกอบคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ

00:03:2400:03:26 ด้วยพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์

00:03:2600:03:27 เพื่อสร้างออกซิเจนและน้ำตาล

00:03:2700:03:30 ซึ่งเป็นพลังงานเคมีรูปแบบหนึ่ง

00:03:3000:03:32 ทุกส่วนของเซลล์ทำงานด้วยกัน

00:03:3200:03:34 เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น

00:03:3400:03:36 และเซลล์ทั้งหมดของร่างกายคุณต้องทำงานด้วยกัน

00:03:3600:03:38 เพื่อทำให้ชีวิตคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

00:03:3800:03:40 นั่นเป็นเซลล์จำนวนมากเลยทีเดียว

00:03:4000:03:44 นักวิทยาศาสตร์คิดว่า เรามีเซลล์ประมาณ 3 หมื่น 7 พันล้านเซลล์