00:00:00 → 00:00:01 ก็สวัสดีนะครับวันนี้เราจะมาเริ่มต้น
00:00:01 → 00:00:04 ชีวิตใหม่กันนะครับแล้วจะคุยเรื่องของไป
00:00:04 → 00:00:07 กับระบบทางในปัสสาวะแล้วก็เช่นเดิมนะครับ
00:00:07 → 00:00:09 ก็คือเนื้อหาในซีรีส์นี้จะแบ่งเป็น 2 0
00:00:09 → 00:00:12 ในการส่วนแรกเนี่ยเราจะคุยถึงภาวะปกติกัน
00:00:12 → 00:00:14 ก่อนนะครับก็จะมาดูว่าตายกับระบบทางเดิน
00:00:14 → 00:00:17 ปัสสาวะนะเพราะปกติเนี่ยมันทำงานยังไงนะ
00:00:17 → 00:00:20 ครับพอเข้าใจกันงานแบบปกติแล้วในส่วนที่ 2
00:00:20 → 00:00:22 เนี่ยเราก็จะนำความรู้จักตอนที่ 1 โดย
00:00:22 → 00:00:26 ส่วนแรกเนี่ยมาดูว่าในภาวะผิดปกตินะครับ
00:00:26 → 00:00:29 เพราะว่าที่เป็นโรคเนี่ยมันต่างไปจากภาวะ
00:00:29 → 00:00:31 ปกติอย่างไรโดยรถของไตช่วยจะคุยถึงกัน
00:00:31 → 00:00:34 ครับหลักๆก็จะมีอยู่ 2 โรงด้วยกันนะครับ
00:00:34 → 00:00:36 โรคและก็เป็นโรคภาวะไตบาดเจ็บแบบเฉียบ
00:00:36 → 00:00:38 พลันนะครับหรือที่สมัยก่อนเราเรียกว่าไต
00:00:38 → 00:00:41 วายเฉียบพลันเราที่สองคือโรคไตเรื้อรังนะ
00:00:41 → 00:00:44 ครับซึ่งทั้งโลกไปทั้ง 2 โรงเรียนนะครับ
00:00:44 → 00:00:45 เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยนะครับเพราะ
00:00:45 → 00:00:48 ว่าส่วนหนึ่งก็ก็เป็นผลข้างเคียงจากเกาะ
00:00:48 → 00:00:50 ลูกเป็นผลกระทบนะครับที่เกิดขึ้นจากโรค
00:00:50 → 00:00:53 ที่พบได้บ่อยอย่างฉันรู้ว่าพวกครบเบาหวาน
00:00:53 → 00:00:55 นะครับโรคความดันโลหิตสูงโอเคเรามาเริ่ม
00:00:55 → 00:00:59 เลื่อนในโซ่แรกเลยนะครับตอนแรกนะครับแล้ว
00:00:59 → 00:01:01 จากคำถามพื้นฐานมีคำถามที่ง่ายที่สุดและ
00:01:01 → 00:01:08 ก็คือว่ารู้ไหมคะว่าไตของคุณจะอยู่ที่ไหน
00:01:08 → 00:01:11 จะได้วิธีการนะครับสมมติว่าเราลองจึง
00:01:11 → 00:01:13 อาการว่าเราเป็นนักศึกษาแพทย์นะครับแล้ว
00:01:13 → 00:01:16 ก็มีศพของอาจารย์ใหญ่เนี่ยนอนอยู่ข้าง
00:01:16 → 00:01:19 หน้านะครับเมื่อเรากรีดมีลงไปนะครับแล้ว
00:01:19 → 00:01:21 ก็เปิดผนังหน้าท้องออกนะครับเราจะยังไม่
00:01:21 → 00:01:24 เห็นไปนะครับแต่ว่าเราจะเห็นอวัยวะอื่น
00:01:24 → 00:01:26 ก่อนเช่นพวกกระเพาะนะครับตับหรือว่าเรา
00:01:26 → 00:01:28 ใช้ต่างๆเพราะว่าอวัยวะเหล่านี้เนี่ยมัน
00:01:28 → 00:01:30 จะอยู่ข้างหน้าสุดแต่ถ้าเราต้องการจะเห็น
00:01:30 → 00:01:32 ไปนะครับสิ่งที่เราต้องทำก็คือเราต้อง
00:01:32 → 00:01:35 เหมือนกับว่ากลัวว่าโกยพวกคุยว่าพรุ่งนี้
00:01:35 → 00:01:36 ออกนะครับพวกกระเพาะหรือลำไส้อยู่ข้าง
00:01:37 → 00:01:39 หน้าก่อนมันก็จะไม่เห็นไปอยู่ดีนะครับ
00:01:39 → 00:01:41 เพราะว่าสิ่งจะเห็นมันจะเหมือนเป็นแผ่น
00:01:41 → 00:01:44 พื้นที่ปิดการอยู่เราจะต้องเอามีกรีดเรา
00:01:44 → 00:01:46 เปิดแผ่นบางคืนนั้นออกเราถึงจะเห็นไปไหน
00:01:46 → 00:01:49 อยู่ในครับปอททั้งสองข้างนะครับก็คือทาง
00:01:49 → 00:01:51 ด้านหลังของช่องท้องอันนี้เป็นการมองใน
00:01:51 → 00:01:53 แง่ของมองให้เห็นนะคะว่าตัวตายเนี่ยมัน
00:01:53 → 00:01:55 อยู่ลึกแค่ไหนนะครับอยู่ไปทางด้านหลังของ
00:01:55 → 00:01:58 ช่องท้องใหญ่มากแค่ไหนหรือถ้าในภาษาทาง
00:01:58 → 00:02:00 การแพทย์เนี่ยเราจะเรียกว่าตายจะเป็นมี
00:02:00 → 00:02:01 วัดที่อยู่ในตำหนักหรือว่า Retro
00:02:01 → 00:02:03 พลาสเตอร์เหนียวครับ Retro ในเป่าอยู่
00:02:03 → 00:02:05 ด้านหลังนะครับส่วนพระจะเนี่ยเราจะหมาย
00:02:05 → 00:02:08 ถึงตัวช่องท้องก็แปลตรงตัวก็คือว่าไตเป็น
00:02:08 → 00:02:11 อวัยวะที่อยู่ด้านหลังของช่องทองตอนนี้จะ
00:02:11 → 00:02:13 มาดูนะครับว่าตัวตำแหน่งของไตเนี่ยของ
00:02:13 → 00:02:16 ความสูงต่ำและไม่อยู่ที่ตรงไหนนะครับวิธี
00:02:16 → 00:02:18 การนะครับก็คือเราลองยืนนะครับแล้วก็เท้า
00:02:18 → 00:02:20 ไซส์เอวดูนะครับโดยถ้าฝามือเนี่ยค่อนข้าง
00:02:20 → 00:02:22 ด้านหลังนะครับแล้วก็พยายามดันมือเนี่ย
00:02:22 → 00:02:25 ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ระดับของตาย
00:02:25 → 00:02:27 เนี่ยจะอยู่แถวๆนั้นนะครับก็คือว่าแต่มัน
00:02:27 → 00:02:30 จะอยู่ภายใต้อุ้งมือของเราท่านี้นะครับจะ
00:02:30 → 00:02:32 ทำให้เห็นว่าไปของเราอยู่ค่อนข้างสูงไม่
00:02:32 → 00:02:35 ได้อยู่แถวบ้านเอวหรือว่าที่หลังด้านล่าง
00:02:35 → 00:02:37 มันที่หลายคนเข้าใจซึ่งการที่เรารู้
00:02:37 → 00:02:39 ตำแหน่งของไตนะครับก็จะช่วย 2 อย่างนะ
00:02:39 → 00:02:41 ครับอย่างแรกก็คือหลายคนเดียวเวลาปลดหลัง
00:02:41 → 00:02:44 นะครับปวดแถวๆบ้านเอวนะครับปวดหลังเนี่ย
00:02:44 → 00:02:46 แต่คนชอบสงสัยว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นมัน
00:02:46 → 00:02:48 จบไปหรือเปล่าหรือว่าเป็นโรคไตหรือเปล่า
00:02:48 → 00:02:51 แต่จากที่เรารู้ตำแหน่งนี้นะครับก็จะเห็น
00:02:51 → 00:02:53 ว่าซึ่งมันก็คือคนละตำแหน่งนะครับกับที่
00:02:53 → 00:02:56 ไต่อยู่เลยเพราะว่าไตในจะอยู่สูงกว่านั้น
00:02:56 → 00:02:58 อย่างที่ 2 นะครับก็คือเรื่องของเวลามี
00:02:58 → 00:03:01 เกิดอุบัติเหตุนะอยากโดนกระแทกโดนทำร้าย
00:03:01 → 00:03:04 ที่ด้านหลังเนี่ยถ้าเป็นการกระแทกหรือการ
00:03:04 → 00:03:05 รับบาดเจ็บจากทางด้านหน้าครับด้านหน้า
00:03:05 → 00:03:08 ท้องเนี่ยส่วนใหญ่มันจะไม่ค่อยอัตรายไป
00:03:08 → 00:03:11 ที่ไตหรือว่าไม่ๆโดนไปถึงตรงนั้นเพราะไต
00:03:11 → 00:03:14 ในอยู่ด้านหลังเลยแต่ถ้าเป็นกูบันเทที่
00:03:14 → 00:03:16 ได้รับการกระแทกนะครับหรือว่าโดนแทงจาก
00:03:16 → 00:03:18 ด้านหลังเนี่ยอันนี้มีโอกาสที่จะโดนไป
00:03:18 → 00:03:20 ค่อนข้างสูงนะครับและนั่นก็เป็นหนึ่งเหตุ
00:03:20 → 00:03:22 ผลว่าทำไมในการต่อสู้กันหรือยังนักมวย
00:03:22 → 00:03:25 เนี่ยเขาพยามจะเลี้ยงหรือว่าว่าห้ามไม่
00:03:25 → 00:03:27 ให้ชอบไปที่ด้านหลังเพราะว่าแรงกระแทกที่
00:03:27 → 00:03:29 เกิดขึ้นที่ด้านหลังนี่มันอาจจะกระเทือน
00:03:29 → 00:03:32 ไปที่ไตได้นั้นก็เป็นตำแหน่งของไตนะครับ
00:03:32 → 00:03:35 คราวนี้เราจะมาดูกันต่อนะคะวะที่เรียกว่า
00:03:35 → 00:03:37 อยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะและทำงานร่วมกับ
00:03:37 → 00:03:40 ตายอย่างใกล้ชิดเนี่ยมันมีอะไรบ้างแล้วก็
00:03:40 → 00:03:45 อยู่ตรงไหนบ้าง
00:03:45 → 00:03:48 ชั่วว่าทุกคนก็คงรู้อยู่แล้วนะคะว่าตอน
00:03:48 → 00:03:50 นี้ไปโดยว่าที่ใช้สร้างปัสสาวะนะครับซึ่ง
00:03:50 → 00:03:53 ในการสร้างภาษาของตายเนี่ยมันจะเหมือนกับ
00:03:53 → 00:03:56 เป็นการค่อยๆผลิตน้ำปัสสาวะออกมาช้าๆนะ
00:03:56 → 00:03:58 ครับคือค่อยๆซึมออกมาก็ค่อยๆวินออกมาจาก
00:03:58 → 00:04:01 ไปที่นี่แต่ตอนนี้มันไหลรินออกมาเนี่ยมัน
00:04:01 → 00:04:03 ก็ต้องโทรไปเก็บไว้สักทีหนึ่งเกาะเธอไหม
00:04:03 → 00:04:06 ครับเอาไว้ว่า Chic คอยเก็บปัสสาวะนะครับ
00:04:06 → 00:04:08 ก็คือตัวกระเพาะปัสสาวะซึ่งก็จะเหมือนกับ
00:04:08 → 00:04:10 เป็นทั้งน้ำนะครับจะเป็นเหมือนลูกสาม
00:04:10 → 00:04:12 เหลี่ยมความใหม่ที่บริเวณโคนเน่าของเรา
00:04:12 → 00:04:16 ส่วนชื่อของกระเพาะปัสสาวะนะครับในทาง
00:04:16 → 00:04:18 ภาษาการแพทย์ในใช้ว่ายูรินารี่บราเดอร์นะ
00:04:18 → 00:04:21 ครับนี่คำถามก็คือว่าปัสสาวะที่มาจากไป
00:04:21 → 00:04:23 เดี๋ยวซื้ออยู่ทางด้านหลังแล้วก็อยู่สูง
00:04:23 → 00:04:25 ขึ้นไปเลยนะครับมันจะไหลลงมาที่กระเพาะ
00:04:25 → 00:04:28 ปัสสาวะที่อยู่ตรงด้านล่างนะครับระบบอยู่
00:04:28 → 00:04:30 ตรงบนหัวหนาวแล้วอยู่ข้างหน้าเนี่ยได้ยัง
00:04:30 → 00:04:33 ไงคำตอบก็คือมันจะไหลผ่านทอหนึ่งลงมานะ
00:04:33 → 00:04:35 ครับซึ่งท่านี้ในธรรมสารทางการแพทย์นะ
00:04:35 → 00:04:38 ครับจะเรียกว่า Unit เอ้อนะครับภาษาไทย
00:04:38 → 00:04:40 เนี่ยมันจะมีปัญหานิดนึงก็คือปกติเราจะ
00:04:40 → 00:04:43 รู้ว่าเป็นท่อปัสสาวะแต่ว่าท่อปัสสาวะ
00:04:43 → 00:04:46 เนี่ยมันจะไปสับสนใจอีกคำหนึ่งได้ซึ่ง
00:04:46 → 00:04:48 เดี๋ยวจะพูดให้ฟังนะครับดังนั้นส่วนใหญ่
00:04:48 → 00:04:50 ก็คือเวลาเราใช้กันเพื่อให้เข้าใจเนี่ย
00:04:50 → 00:04:53 เราหรือว่าในการคลิปที่คุยกันนี้ผมขอใช้
00:04:53 → 00:04:55 ทับศัพท์เป็นยูนิตเอ้อไปเลยนะครับซึ่งมัน
00:04:55 → 00:04:57 ก็คือท่อที่ต่อจากไปเนี่ยลงไปที่กระเพาะ
00:04:57 → 00:05:01 ปัสสาวะที่นี่อยู่ในเต้ยมีอยู่สองข้างถูก
00:05:01 → 00:05:03 ไหมครับก็มาจากข้างซ้ายข้างนึงจากไปข้าง
00:05:03 → 00:05:05 ขวาข้างนึงใช่แล้วก็จะไหลไปรวมกันที่
00:05:05 → 00:05:08 กระเพาะปัสสาวะพอปัสสาวะลงมาที่กระเพาะ
00:05:08 → 00:05:10 มากถึงจุดหนึ่งเหยียบตัวกระเพาะปัสสาวะ
00:05:10 → 00:05:12 เนี่ยหรือว่าตัวแบนเด้อไม่ค่อยๆขยายขึ้น
00:05:12 → 00:05:15 เรื่อยๆนะครับค่อยโตขึ้นเมื่อมันโตมากถึง
00:05:15 → 00:05:17 จุดหนึ่งเดียวแรงดันภายในกระเพาะปัสสาวะ
00:05:17 → 00:05:20 มันก็จะมากแล้วมันก็จะมีการส่งสัญญาณผ่าน
00:05:20 → 00:05:22 ทางเส้นประสาทขึ้นไปที่สมองเพื่อสมองรับ
00:05:22 → 00:05:25 รู้ว่าตอนนี้ปัสสาวะแล้วนะแล้วสมองเนี่ย
00:05:25 → 00:05:27 ก็จะเหมือนกับสั่งงานลงมาแล้วทำให้เรารู้
00:05:27 → 00:05:29 สึกปวดปัสสาวะแล้วก็อยากจะปัสสาวะขึ้นมา
00:05:29 → 00:05:31 คราวนี้เมื่อเราปัสสาวะนะครับในปัสสาวะ
00:05:31 → 00:05:34 นี้ก็จะไหลออกจากตัวกระเพาะปัสสาวะเนี่ย
00:05:34 → 00:05:36 ผ่านทางท่อไอท่อนึงนะครับซึ่งภาษาไทย
00:05:36 → 00:05:38 เนี่ยอย่างที่บอกก็คือเรามาครั้ง Rolex
00:05:38 → 00:05:40 ใช่ว่าท่อปัสสาวะเหมือนกันแต่ภาษาในการ
00:05:40 → 00:05:43 แพทย์ในชวา UV คร่านะครับแต่นั้นบุคลากร
00:05:43 → 00:05:45 ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ก็นิยมใช้ทับศัพท์เลย
00:05:45 → 00:05:48 นะครับว่ายูริถ้านะครับเพราะว่าใช้คำว่า
00:05:48 → 00:05:50 ท่อปัสสาวะเนี่ยมาจะทำให้สับสนได้ว่ามัน
00:05:50 → 00:05:53 คืออยู่ในเตอร์หรือว่าอยู่ในค่ากันแน่จะ
00:05:53 → 00:05:55 ได้หลังจากที่เราเห็นแล้วนะคะวะที่เกี่ยว
00:05:55 → 00:05:57 ข้องมีอะไรบ้างครั้งที่เราจะโฟกัสคิดไร
00:05:57 → 00:06:00 กันบ้างนะครับเราจะมาดูกันวัดไปอย่าทำ
00:06:00 → 00:06:05 หน้าที่อะไรบ้าง
00:06:05 → 00:06:08 แน่นอนนะครับว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่าไตทำหน้า
00:06:08 → 00:06:11 ที่กับข้องกับการกรองของเสียออกจากเลือด
00:06:11 → 00:06:13 นะครับหรือว่ากรองของเซลล์ทั่วร่างกาย
00:06:13 → 00:06:16 แล้วก็ขับออกไปทางปัสสาวะแต่ผมเชื่อว่า
00:06:16 → 00:06:18 หลายคนนะครับยังไม่รู้ว่าตายเนี่ยทำหน้า
00:06:18 → 00:06:20 ที่เยอะกว่านั้นมากนะครับการกรองของเสีย
00:06:20 → 00:06:22 ออกจากร่างกายเป็นแค่ 1 ในงานของไตเท่า
00:06:22 → 00:06:25 นั้นที่นี่ในแง่ของหน้าที่ของไตนะครับพระ
00:06:25 → 00:06:28 อาจารย์สรุปแบบกว้างนะครับเป็นค่อยๆด้วย
00:06:28 → 00:06:30 กันเนี่ยอาจจะสูบได้ว่าไตมีหน้าที่หลักๆ
00:06:30 → 00:06:33 อยู่ประมาณ 8 ข้อด้วยกันนะครับเดี๋ยวผมจะ
00:06:33 → 00:06:35 พูดหน้าที่ทั้ง 8 ข้อนี้ฟังกับเร็วๆก่อน
00:06:35 → 00:06:37 นะครับแล้วก็เราค่อยมาดูรายละเอียดที่ละ
00:06:37 → 00:06:39 ข้อกันว่าแต่ละข้อเนี่ยมันมีรายละเอียด
00:06:39 → 00:06:42 อะไรบ้างหน้าที่แรกสุดนะครับของไตในก็จะ
00:06:42 → 00:06:44 ทำหน้าที่เรื่องของการควบคุมปริมาณน้ำที่
00:06:44 → 00:06:47 อยู่ในเลือดนะครับก็คือควบคุมว่าเหลือเรา
00:06:47 → 00:06:49 จะมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหนหรือวี่ปริม
00:06:49 → 00:06:52 ปริมาตรของเลือดเนี่ยบางน้อยแค่ไหนที่ไหล
00:06:52 → 00:06:54 เวียนอยู่ในร่างกายอย่างที่สองนะครับไปใน
00:06:54 → 00:06:56 เจ้าช่วยควบคุมเรื่องของความดันเลือด
00:06:56 → 00:06:59 อย่างที่สามเนี่ยหน้าที่ที่ 3 เนี่ยไตก็
00:06:59 → 00:07:01 จะเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการควบคุมระดับของ
00:07:01 → 00:07:04 เกลือแร่ต่างๆในเลือดของเรานะครับอย่าง
00:07:04 → 00:07:07 ที่สี่ก็คือไตยควบคุมความเป็นกรดด่างของ
00:07:07 → 00:07:10 เลือดนะครับหน้าที่ 5 เนี่ยไปก็ยังทำงาน
00:07:10 → 00:07:12 เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญในร่างกายหรือ
00:07:12 → 00:07:15 ว่าระบบเมตาบอลิซึมของเราด้วยหน้าที่ 6
00:07:15 → 00:07:17 นะครับไปเนี่ยก็เป็นอวัยวะที่ทีนะว่าเป็น
00:07:17 → 00:07:21 อวัยวะในระบบต่อมไร้ท่อมาถึงว่าตายเนี่ย
00:07:21 → 00:07:23 มันสามารถจะสร้างพวกข้อมูลต่างๆได้ด้วย
00:07:23 → 00:07:26 หน้าที่ที่ 7 นะครับก็คือไปมีส่วนร่วมใน
00:07:26 → 00:07:28 การช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงด้วยแล้วหน้าที่
00:07:28 → 00:07:32 8 นะครับก็คือไปเนี่ยทำหน้าที่ในการขับ
00:07:32 → 00:07:33 ถ่ายของเสียออกจากร่างกายซึ่งเป็นหน้าที่
00:07:33 → 00:07:36 ที่ทุกคนรู้กันอยู่นะครับที่นี่นะครับที่
00:07:36 → 00:07:39 ผมไล่หน้าที่ต่างๆของตายออกมาอย่างรวด
00:07:39 → 00:07:41 เร็วเนี่ยนะครับคือแค่อยากเห็นเฉยว่าหน้า
00:07:41 → 00:07:44 ที่เรามีความหลากหลายมากนะครับเราตายใน
00:07:44 → 00:07:46 มันทำงานเยอะมากแล้วก็เกี่ยวข้องกับระบบ
00:07:46 → 00:07:48 ต่างๆมากมายนะครับมีทั้งเรื่องของความดัน
00:07:48 → 00:07:50 เรื่องของการสร้างเม็ดเลือดนะครับเรื่อง
00:07:50 → 00:07:52 ของข้อมูลต่างๆคราวนี้นะครับเราจะมาลองดู
00:07:52 → 00:07:55 รายละเอียดกันนะครับว่า 8 นาทีที่เราคุย
00:07:55 → 00:07:57 ไปเมื่อกี้นะครับวันมีรายละเอียดอย่างไร
00:07:57 → 00:08:00 บ้างทำไมไตถึงได้ทำงานได้เยอะอีกมากมาย
00:08:00 → 00:08:03 ขนาดนี้นะครับเริ่มจากหน้าที่แรกนะครับก็
00:08:03 → 00:08:06 คือหน้าที่เรื่องของการควบคุมปริมาตรนะ
00:08:06 → 00:08:08 ครับของเลือดครับลึกพบความเข้มข้นของ
00:08:08 → 00:08:11 เลือดเราซึ่งหน้าที่นี่นะจริงๆมันค่อน
00:08:11 → 00:08:14 ข้างตรงไปตรงมามากๆนะครับเพราะว่าเราทุก
00:08:14 → 00:08:16 คนรู้ดีว่าตายเนี่ยทำหน้าที่สร้างปัสสาวะ
00:08:16 → 00:08:19 ที่นี่ในการสร้างปัสสาวะออกมาเนี่ยถ้าไต
00:08:19 → 00:08:22 สร้างปัสสะวะเยอะๆก็คือเราฉี่เยอะไหมครับ
00:08:22 → 00:08:26 ชีก็จะใสๆนะครับมันก็คือภาวะที่ร่างกายใน
00:08:26 → 00:08:29 เสียน้ำออกไปหน้าที่ออกมาจากไหนก็มาจากใน
00:08:29 → 00:08:31 เลือดถูกไหมครับดังนั้นถ้าเกิดไปเนี่ย
00:08:31 → 00:08:34 สร้างปัสสาวะออกมามากๆเนี่ยเลือดของเราใน
00:08:34 → 00:08:37 ก็จะมีความเข้มข้นจะสูงขึ้นและปริมาตรของ
00:08:37 → 00:08:40 เลือดจะลดลงแต่ใน 5 นะครับไทยไปผิด
00:08:40 → 00:08:43 ปัสสาวะไม่ได้นะครับเช่นคนที่ไตมีปัญหานะ
00:08:43 → 00:08:45 ครับเหลือแต่ละบาดเจ็บเนี่ยก็คือปัสสาวะ
00:08:45 → 00:08:48 มันก็จะไม่ค่อยออกนะครับปัสสวะเข้มมันก็
00:08:48 → 00:08:51 จะทำให้น้ำในข้างอยู่ในเส้นเลือดเยอะก็ทำ
00:08:51 → 00:08:53 ให้เลือกเนี่ยมันเจอจางลงหรือปริมาตรของ
00:08:53 → 00:08:56 เลือดเพิ่มขึ้นอันนี้ตรงไปตรงมานะครับก็
00:08:56 → 00:08:59 คือว่าไปเนี่ยเกี่ยวข้องกับความเข้มข้น
00:08:59 → 00:09:02 ของเลือดถ้านักเลงเกี่ยวข้องกับปริมาตร
00:09:02 → 00:09:05 ของเลือดซึ่งตรงนี้นะครับมันก็นำไปถึง
00:09:05 → 00:09:07 หน้าที่ที่ 2 ของไตก็คือที่เราคุยกันไป
00:09:07 → 00:09:09 ว่าอะไรเนี่ยสามารถควบคุมความดันเลือดของ
00:09:09 → 00:09:12 เราได้ด้วยถ้าจำกันได้นะครับตอนที่เราคุย
00:09:12 → 00:09:15 เรื่องหัวใจนะครับเราบอกว่าหนึ่งในปัจจัย
00:09:15 → 00:09:17 นะครับที่ควบคุมความดันเลือดเนี่ยก็คือ
00:09:17 → 00:09:19 ปริมาตรของเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในเส้น
00:09:19 → 00:09:22 เลือดนะครับว่าถ้ามันมีปริมาตรของเลือด
00:09:22 → 00:09:24 เยอะเนี่ยความจะเลือกจะสูงถ้าปริมาณของ
00:09:24 → 00:09:26 เลื่อนมันลดลงนะครับความจะเลือกเนี่ยก็จะ
00:09:26 → 00:09:29 ตกลงได้ดังนั้นความดันเลือดกับกันวันของ
00:09:29 → 00:09:31 ไตเมื่อก็เลยสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดถูกไหม
00:09:31 → 00:09:33 ครับเพราะว่าแต่มันจะคอยควบคุมปริมาตรของ
00:09:33 → 00:09:36 น้ำในร่างกายว่าจะให้ออกไปมากน้อยแค่ไหน
00:09:36 → 00:09:38 ซึ่งตรงนี้มันก็จะเกี่ยวข้องกับในมาดของ
00:09:38 → 00:09:41 เลือดแต่ไม่เป็นแค่คนใจได้นะครับว่าไปควบ
00:09:41 → 00:09:44 คุมความดันเลือดได้อย่างไรมันมีกลไกคนไก่
00:09:44 → 00:09:46 อยู่นะครับซึ่งก็เป็นคนใดที่เราคุยไปแล้ว
00:09:46 → 00:09:48 เหมือนกันนะครับถ้าจำกันได้นะครับตอนที่
00:09:48 → 00:09:51 เราคุยเรื่องของหัวใจนะครับเราพูดถึงสาร
00:09:51 → 00:09:53 เคมีตัวหนึ่งที่ไตสร้างออกมาก็คือสารที่
00:09:53 → 00:09:56 ชื่อว่ารนด์นะครับซึ่งรานิลนะครับก็อยู่
00:09:56 → 00:10:00 ในระบบ renin ซินโดนะครับซึ่งเราก็คุยกัน
00:10:00 → 00:10:02 สิ่งที่เราคุยเรื่องหัวใจนะครับเอาทุกคำ
00:10:02 → 00:10:04 จันทร์นิดนึงนะครับก็คือตายในสามารถสร้าง
00:10:04 → 00:10:06 สารชื่อเลนินได้นะครับเสร็จแล้วก็จะทำให้
00:10:06 → 00:10:09 เกิดสารที่ว่าไอ้จูนเทนซินวันนะครับไอ้โอ
00:10:09 → 00:10:11 เทนซินหนึ่งแล้วก็เกิดเป็นอันยนต์ Engine
00:10:11 → 00:10:13 2 ขึ้นมาจากนั้นก็เกิดเป็นสารที่ชื่อว่า
00:10:13 → 00:10:16 Are Not Alone นะครับที่เอารถโซโล
00:10:16 → 00:10:18 เนี่ยมันต้องพิเศษก็คือมันสามารถที่จะทำ
00:10:18 → 00:10:20 ให้อ่อนดูดเกลือและน้ำแล้วกลับเข้าสู่
00:10:20 → 00:10:22 ร่างกายได้ซึ่งก็จะมีผลให้ความดันเลือด
00:10:22 → 00:10:26 สูงขึ้นแล้วตัวเองเจลเทนซิน 2a เนี่ยก็ทำ
00:10:26 → 00:10:28 ให้เสื้อมันหดตัวได้ก็ทำให้คนเลือกเนี่ย
00:10:28 → 00:10:31 เพิ่มขึ้นเหมือนกันดังนั้นก็เป็นหน้าที่
00:10:31 → 00:10:33 หรือว่ากลไกแบบที่ 2 นะครับว่าไตในเกี่ยว
00:10:33 → 00:10:35 ข้องกับความเลือกยังไงมาดูหน้าที่ที่ 3
00:10:35 → 00:10:37 ของไตนะครับก็คือเรื่องของการควบคุมพวก
00:10:37 → 00:10:40 เกลือแร่ต่างๆในร่างกายที่นี่ปกติเวลาเรา
00:10:40 → 00:10:42 พูดถึงเกลือแร่นะครับเพราะว่าเกินแรก
00:10:42 → 00:10:45 เนี่ยเรานึกถึงสารตัวไหนบ้างนะครับมันคือ
00:10:45 → 00:10:47 ตัวไหนบ้างหลักๆนะครับเกลือแร่ที่สำคัญ
00:10:47 → 00:10:50 สำคัญร่างกายของคนเนี่ยจะหมายถึงสารที่
00:10:50 → 00:10:53 ชื่อว่าโซเดียมนะครับโพแทสเซียมคลอไรด์
00:10:53 → 00:10:56 และกะไบคาร์บอเนตนะครับต้องเหลืองอันนี้
00:10:56 → 00:10:59 ก็มีแมกนีเซียมแคลเซียมด้วยถ้าถามต่อนะคะ
00:10:59 → 00:11:01 ว่าการควบตั้งเตือนให้เหล่านี้มาสำคัญกับ
00:11:01 → 00:11:03 ร่างกายยังไงหรือว่าตัวแรกแต่ละตัวเนี่ย
00:11:03 → 00:11:06 มันนะทำหน้าที่อะไรบ้างนะครับคำถามนี้
00:11:06 → 00:11:08 เนี่ยผมจะยังขอไม่ตอบในวันนี้นะครับเพราะ
00:11:08 → 00:11:10 มันมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะแต่ในภาพ
00:11:10 → 00:11:12 กว้างกว้างเดี๋ยวก็เกิดแล้วต่างๆมันจะ
00:11:12 → 00:11:14 เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในร่างกายเพราะ
00:11:14 → 00:11:16 ว่าร่างกายของมนุษย์จริงๆก็คือทำงานด้วย
00:11:16 → 00:11:18 ระบบไฟฟ้าถูกไหมครับไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:11:18 → 00:11:20 ของเส้นประสาทนะครับการทำงานของเส้น
00:11:20 → 00:11:22 ประสาทของสมองเนี่ยมันก็เกี่ยวข้องกับไฟ
00:11:22 → 00:11:25 ฟ้าหรือในแง่ของตัวเซลล์เนี่ยมันก็จะมี
00:11:25 → 00:11:27 เรื่องของไฟฟ้าในเข้ามาเกี่ยวข้องที่นี่
00:11:28 → 00:11:30 ไฟฟ้าในร่างกายเดี๋ยวมันเกิดขึ้นจากพวก
00:11:30 → 00:11:32 เกลือแร่พรุ่งนี้ครับก็คือพวกเราน่าจะมี
00:11:32 → 00:11:34 พวกกระจุกต่างๆดังนั้นนะครับถ้ามีเหตุให้
00:11:34 → 00:11:36 มือได้ต่างๆร่างกายของเราผิดปกตินะครับ
00:11:36 → 00:11:39 มันจะมีผลกระทบกับทางร่างกายเลยนะครับทุก
00:11:39 → 00:11:42 ระบบเลยนะครับคือตั้งแต่ขวดถุงเท้าเลยก็
00:11:42 → 00:11:44 มาถึงคำถามถัดไปนะคะว่าตายเนี่ยควบคุม
00:11:44 → 00:11:46 ปริมาณเกลือแร่ในร่างกายเราได้ยังไงนะ
00:11:46 → 00:11:48 ครับคำตอบนะครับมันจะอยู่ตรงขั้นตอนขั้น
00:11:48 → 00:11:51 ตอนนึงนะครับก็คือต่อที่เมื่อตายเดี๋ยว
00:11:51 → 00:11:54 กลองสันเต่าไปจากร่างกายแล้วเนี่ยไปจะมี
00:11:54 → 00:11:56 การดึงกลับพวกสารแล้วนะเนี่ยกลับเข้าไปใน
00:11:56 → 00:11:59 เลือดซึ่งก็รวมไปถึงพวกเกลือแร่ต่างๆด้วย
00:11:59 → 00:12:01 ที่นิดอย่าเพิ่งกลับเดี๋ยวจะควบคุมนะครับ
00:12:01 → 00:12:03 หรือว่าดูแลว่าจะดึงพวกเกลือแร่เราเนี่ย
00:12:03 → 00:12:06 กลับมามากน้อยแค่ไหนซึ่งถ้าดึงพวกตัวแรก
00:12:06 → 00:12:08 กับเข้ามามากนะครับหรือว่าดึงตัวไหนกลับ
00:12:08 → 00:12:11 มามากเนี่ยในเลือดเราในร่างกายเราก็จะมี
00:12:11 → 00:12:14 พวกมีเกลือแร่ตัวนะเนี่ยเพิ่มขึ้นถ้ามัน
00:12:14 → 00:12:16 ดึงเกลือแร่ตัวไหนกับน้อยนะครับก็คือ
00:12:16 → 00:12:18 ปล่อยให้เกลือแร่ตัวนั้นเสี่ยไปคณะ
00:12:18 → 00:12:20 ปัสสาวะเราก็จะมีเกลือแร่ตัวนั้นในเลือด
00:12:20 → 00:12:23 น้อยลงนะครับนี่พอเข้าใจแล้วนะคะว่าไปใน
00:12:23 → 00:12:27 ควบคุมพวกสารต่างๆที่มีเลือดได้ยังไงผม
00:12:27 → 00:12:29 อยากจะชวนมาโฟกัสไปที่ 3 2 ตัวนะครับที่
00:12:29 → 00:12:32 ไปเนี่ยคอยควบคุมอยู่สองตัวนี้คืออะไรก็
00:12:32 → 00:12:35 คือสารที่มีชื่อว่าไบคาร์บอเนตนะครับกับ
00:12:35 → 00:12:38 ไฮโดรเจนจะนี้ถ้าใครคุ้นเคยทางเคมีนะครับ
00:12:38 → 00:12:40 ก็จะรู้ว่าใครโดเจนเวลาพูดอะไรแจ้งเนี่ย
00:12:40 → 00:12:43 มันจะเกี่ยวข้องกับความเป็นกรดคือถ้า
00:12:43 → 00:12:45 ไฮโดรเจนในเลือดมันมีมากนะครับเรือก็จะมี
00:12:45 → 00:12:47 ความเป็นกฎมากขึ้นถ้ามีไฮโดรเจนในเลือด
00:12:47 → 00:12:50 น้อยในเลือกเป็นความเป็นกฎน้อยลงในทางตรง
00:12:50 → 00:12:52 กันข้ามนะครับพูดถึงกับไบคาร์บอเนตเนี่ย
00:12:52 → 00:12:55 มันจะเป็นตัวที่เหมือนกับมีฤทธิ์เป็นด่าง
00:12:55 → 00:12:57 ดังนั้นแค่ในเลือดเรามีตัวไบขาบเร็วมาก
00:12:57 → 00:13:00 เลือกก็จะมีความเป็นด่ามากถ้ามีไม่ได้ขับ
00:13:00 → 00:13:03 น้อยเลือกก็จะความเป็นด่างเนี่ยน้อยลง
00:13:03 → 00:13:07 [เพลง]
00:13:07 → 00:13:10 แล้วก็เลยนำไปสู่หน้าที่อย่างที่ 4 ของไป
00:13:10 → 00:13:12 นะครับก็คือเรื่องที่มันควบคุมความเป็นก
00:13:12 → 00:13:15 รดด่างของเลือดซึ่งคะอย่างที่คุยไปนะครับ
00:13:15 → 00:13:17 ก็คือว่าตายในวันนี้คนไกลหรือวิธีการที่
00:13:17 → 00:13:20 จะหาสมดุลนะครับระหว่างให้รู้เช่นกับใบ
00:13:20 → 00:13:22 ค่ะ manage ที่มันในเลือดเราเพื่อให้
00:13:22 → 00:13:24 เลือกเราเนี่ยมีความเป็นกฎดักคงที่หรือ
00:13:24 → 00:13:28 อยู่ในค่าที่เหมาะสมถ้าตัวไหนมากไปมันก็
00:13:28 → 00:13:30 จะควบคุมด้วยกันค่ะพวกตัวให้ดูเช่นแล้ว
00:13:30 → 00:13:32 ไม่เข้าไปในเนี่ยออกจากร่างกายทางปัสสาวะ
00:13:32 → 00:13:35 สำหรับคนไกลนะครับหรือวิธีการวัดไรในวัน
00:13:35 → 00:13:38 ควบคุมกฎดังร่างกายเรายังไงนะครับมันก็จะ
00:13:38 → 00:13:41 มีวิธีการก็ใช้หลักการเหมือนกับเกลือแร่
00:13:41 → 00:13:42 มากินนะครับก็คือมันจะคอยดูแลเรื่องของ
00:13:43 → 00:13:45 การขับว่าจะขับทิ้งหรือว่าดึงกลับนะครับ
00:13:45 → 00:13:48 ก็คือถ้าใบคะแนนเยอะเกินไปเมื่อขับทิ้ง
00:13:48 → 00:13:50 ออกไปถ้ามันน้อยเกินไปนะครับเกิดปรากฎมัน
00:13:50 → 00:13:53 ก็จะดึงพวกใบขาดมันกลับเข้าไปในเลือดเรา
00:13:53 → 00:13:56 ก็จะสามารถที่จะขับพวกกดในรูปแบบต่างๆของ
00:13:56 → 00:13:58 ไปได้ด้วยก็เลยไปสู่คำถามถัดไปนะคะว่าการ
00:13:58 → 00:14:00 ควบคุมก็ได้เดี๋ยวมันสำคัญออกกำลังกายของ
00:14:00 → 00:14:03 เรายังไงนะครับมาถึงว่าถ้าภาวะกดดันมัน
00:14:03 → 00:14:05 เสียสมดุลไปนะครับก็มีความเป็นกฎมากเกิน
00:14:05 → 00:14:08 ไปและมีความด่างเป็นด่างมากเกินไปมันไม่
00:14:08 → 00:14:11 ดีกับร่างกายยังไงคำตอบนะครับแบบเห็นภาพ
00:14:11 → 00:14:14 ใหญ่นะครับอย่าย่อคือว่าเพราะว่ากลไกต่าง
00:14:14 → 00:14:17 ๆในร่างกายของเรานะครับเป็นกลไกที่เรียก
00:14:17 → 00:14:19 ว่าเป็นปฏิกิริยาเคมีนะครับคือเรียกว่า
00:14:19 → 00:14:21 ทุกอย่างร่างกายโรงเรียนมันเป็นปฏิกิริยา
00:14:21 → 00:14:24 เคมีแล้วคนที่เรียนเคมีจะรู้ว่าความเป็น
00:14:24 → 00:14:27 กรดด่างเนื้อมันจะสำคัญต่อปฏิกิริยาเคมี
00:14:27 → 00:14:29 ต่างๆได้เป็นอย่างมากนั้นความเป็นกรดด่าง
00:14:29 → 00:14:31 ของร่างกายเนี่ยมันก็จะกระทบกับพวก
00:14:31 → 00:14:33 ปฏิริยาเคมีต่างๆในร่างกายได้ทั้งหมดเลย
00:14:33 → 00:14:35 หรือถ้าพูดง่ายนะครับก็คือว่าทักภาวะกด
00:14:35 → 00:14:38 ดันมันเสียจากสมดุลไปนะครับคือมากเกินไป
00:14:38 → 00:14:40 หรือน้อยเกินไปเนี่ยกฎการตั้งแต่เรื่อง
00:14:40 → 00:14:43 การเนี่ยก็จะทำทำงานได้ไม่ดีแต่อวัยวะที่
00:14:43 → 00:14:45 ควบคุมเรื่องของกฎด่างเนี่ยก็ไม่ได้มีแค่
00:14:45 → 00:14:48 ตะวันเดียวนะครับที่อวัยวะหนึ่งที่ทำหน้า
00:14:48 → 00:14:50 ที่สำคัญในการควบคุมกฎใดของร่างกายเนี่ย
00:14:50 → 00:14:55 ก็คือปอดจะได้คำถามคือว่าแล้ว 200 วันนี้
00:14:55 → 00:14:58 ทำงานต่างกันยังไงหมายถึงว่าทั้งใจก็คงกด
00:14:58 → 00:15:00 จะทั้งบอร์ดก็ครูควบคุมกฎด่ามาแล้วมันทำ
00:15:00 → 00:15:03 งานเหมือนกันว่ามันทำงานฝากกันคำตอบก็คือ
00:15:03 → 00:15:05 ว่ามันทำงานต่างกันนะครับแล้วมันทำงานใน
00:15:05 → 00:15:08 ลักษณะที่เสริมกันเพราะมันต่างที่ความ
00:15:08 → 00:15:11 เร็วในการตอบสนองหมายความว่าสมมติถ้ามี
00:15:11 → 00:15:14 ภาวะโกดานั่งกายผิดปกติเกิดขึ้นนะครับ
00:15:14 → 00:15:16 อวัยวะที่จะเริ่มทำงานก่อนหรือเพียงเศษ
00:15:16 → 00:15:19 แก้ไขก่อนก็คือตัวปอดเพราะปอดเนี่ยสามารถ
00:15:19 → 00:15:21 ทำงานได้เร็วกว่าวิธีการท้องก่อนนะครับจะ
00:15:21 → 00:15:24 ใช้วิธีการปรับอัตราการหายใจของเรานะครับ
00:15:24 → 00:15:27 ก็คือปรับความเร็วในการหายใจของเราให้เรา
00:15:27 → 00:15:30 หายใจเร็วขึ้นหรือหายใจช้าลงก็ได้ซึ่งการ
00:15:30 → 00:15:32 หายใจเร็วขึ้นรถช้าลงเนี่ยมันจะเปลี่ยน
00:15:32 → 00:15:34 ความเป็นคนด่างในเลือดได้เพราะว่าอะไร
00:15:34 → 00:15:37 เพราะว่าตัวคำว่ารักทรายเนี่ยตอนที่มัน
00:15:37 → 00:15:39 อยู่ในอินในเลือดนะครับคนที่มันละลายอยู่
00:15:39 → 00:15:41 ในเลือดๆไม่ทำให้เลือดมีความเป็นกรดดัง
00:15:41 → 00:15:44 นั้นถ้าร่างกายต้องการที่จะขับกดออกจาก
00:15:44 → 00:15:46 ร่างกายนะครับวิธีหนึ่งที่ทำได้คือมันจะ
00:15:46 → 00:15:49 ทำให้เราหายใจเร็วขึ้นเพราะให้ใจเร็วขึ้น
00:15:49 → 00:15:51 แล้วก็จะขับเค้าไม่รับสายออกจากร่างกาย
00:15:51 → 00:15:54 มากขึ้นคำรักษาในเลือดก็จะลดลงทำให้เลือก
00:15:54 → 00:15:57 มีความเป็นกฎลดลงแต่การทำงานของปอดนะครับ
00:15:57 → 00:15:59 ไม่ว่าจะเริ่มทำงานเร็วนะครับจะมันจะทำ
00:15:59 → 00:16:01 งานแค่จะได้แค่สีขาวค่ะนั้นเพราะว่าอะไร
00:16:01 → 00:16:05 เพราะว่ามันคือการปรับเปลี่ยนการหายใจของ
00:16:05 → 00:16:07 เราถูกนะครับเราไม่สามารถที่จะหายใจเร็ว
00:16:07 → 00:16:09 เดี๋ยวไปได้เรื่อยๆเพราะว่ามันจะกระทบ
00:16:09 → 00:16:11 เรื่องของซิเจนและคนรักใส่ในร่างกายของ
00:16:11 → 00:16:13 เราด้วยการหายใจเร็วขึ้นลงช้าลงของเรา
00:16:13 → 00:16:15 เนี่ยมันทำงานได้เป็นหลักนาทีถูกไหมครับ
00:16:15 → 00:16:18 ดังนั้นก็คือว่าปล่อยมันจะทำงานตอบน้อง
00:16:18 → 00:16:20 เร็วก็จริงแต่มันทำงานชั่วคราวจากนั้น
00:16:20 → 00:16:23 เนี่ยไตก็จะมารับช่วงต่อเพราะว่าวิธีการ
00:16:23 → 00:16:25 ของไตเนี่ยมันจะต้องใช้เวลาในการเริ่มนะ
00:16:25 → 00:16:27 ครับกว่าจะเริ่มจะเริ่มช้านิดนึงแต่ว่า
00:16:27 → 00:16:29 มันจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของกฎ
00:16:29 → 00:16:32 ต่างเนี่ยในระยะอยากได้ดีกว่าเพราะว่า
00:16:32 → 00:16:34 วิธีการของไตเมื่อก็คือใช้วิธีการปรับ
00:16:34 → 00:16:37 ระดับของกฎต่างให้เลือกนะครับก็คือการขับ
00:16:37 → 00:16:40 ใบเข้าไปในหรือว่าดูซึมไบขาบเนี่ยกลับจาก
00:16:40 → 00:16:42 ปัสสาวะในเข้าในเลือดซึ่งกลไกนี่มัน
00:16:42 → 00:16:44 สามารถทำงานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆได้
00:16:44 → 00:16:46 คือมันถือว่าเป็นหลักหลายวันได้หรือว่า
00:16:46 → 00:16:49 เป็นเดือนได้โดยสรุปก็คือสองโอยวานนี้มัน
00:16:49 → 00:16:52 ทำงานเสริมกันปอดเนี่ยทำงานเร็วทำงานแป๊บ
00:16:52 → 00:16:55 เดียวแล้วก็ตายเนี่ยก็จะมารับช่วงต่อคือ
00:16:55 → 00:16:58 เริ่มงานช้าแต่ทำงานได้นานกว่าและก็คือ
00:16:58 → 00:17:02 หน้าที่คอดก็ต้องไปนะครับก็คือปรับสมดุล
00:17:02 → 00:17:04 ความเป็นกรดด่างของเลือดเรามาดูหน้าที่
00:17:04 → 00:17:07 เล็กสีหน้าที่กันนะครับหน้าที่ที่ 5 นะ
00:17:07 → 00:17:09 ครับมันเป็นเรื่องของระบบเผาผลาญหรือว่า
00:17:09 → 00:17:11 ระบบเมตาบอริซึ่มซึ่งชื่อว่าหน้าที่ของ
00:17:11 → 00:17:14 ตายเนี่ยหลายคนนะคะจะไม่เคยรู้มาก่อนนะ
00:17:14 → 00:17:16 ครับเพราะปกติเวลาเราพูดถึงระบบเผาผลาญนะ
00:17:16 → 00:17:19 ครับหรือว่าออกการเผาผลาญอาหารของร่างกาย
00:17:19 → 00:17:22 เนี่ยเราจะพูดถึงการเผาพวกน้ำตานะครับ
00:17:22 → 00:17:24 หรือว่าเรื่องของไขมันหรือว่าเรื่องของ
00:17:24 → 00:17:28 การนำน้ำตาลไปเก็บในรูปของแป้งแล้วใครวะ
00:17:28 → 00:17:30 หลักๆที่ดูแลเรื่องของน้ำตาเรื่องของแป้ง
00:17:30 → 00:17:33 เรื่องของใครมันก็คือตอบตรงไหมครับเพราะ
00:17:33 → 00:17:35 ฉะนั้นปกติเวลาเราพูดถึงระบบเผาผลาญนึก
00:17:35 → 00:17:37 ถึงไปตำบลเลเซอร์เนี่ยเราจะได้คือตับเป็น
00:17:37 → 00:17:39 หลักสิ่งที่ตับทำนะครับก็คืออย่างเช่น
00:17:39 → 00:17:41 สมุดน้ำตาลในเลือดแล้วสูงขึ้นเนี่ยต่ำก็
00:17:41 → 00:17:43 จะสามารถดึงน้ำตาลจากนั้นเลือกเนี่ยเราก็
00:17:43 → 00:17:46 เอามาเปลี่ยนเป็นรูปแป้งแล้วสะสมเก็บจัด
00:17:46 → 00:17:49 ส่งเอาไว้ในต่ำหรือว่าถ้าในเรือเรามีภาวะ
00:17:49 → 00:17:52 น้ำตาลต่ำลงนะครับตับก็สมาธิจะเหมือนกับ
00:17:52 → 00:17:54 สลายตัวแป้งออกมานะครับแล้วก็ปล่อยไปน้ำ
00:17:54 → 00:17:57 ตาลค่อยได้เลือดๆซึ่งกลไกเหล่านี้นะครับ
00:17:57 → 00:17:58 เรื่องของไม่เป็นเรื่องของการนึงน้ำตา
00:17:58 → 00:18:02 กลับเว็บไซต์มีแป้งว่าเป็นน้ำตาเนี่ยไปก็
00:18:02 → 00:18:04 สามารถทำได้เหมือนกันนะครับเพียงแต่ว่า
00:18:04 → 00:18:06 หน้าที่การรับผิดชอบของไตเนี่ยว่าฉันไม่
00:18:06 → 00:18:08 มากเท่ากับนะครับแต่ยังไงก็แล้วแต่นะครับ
00:18:08 → 00:18:11 ด้วยเหตุผลนี้ไปก็เลยถือว่ามีส่วนร่วมนะ
00:18:11 → 00:18:13 ครับในระบบเผาผลาญหรือว่าระบบในตำบลซึ่ม
00:18:13 → 00:18:15 ของร่างกายเราด้วยแล้วก็ไปสู่หน้าที่ของ
00:18:15 → 00:18:17 ไตนะครับก็คือเรื่องของระบบต่อมไร้ท่อ
00:18:17 → 00:18:20 หรือพูดง่ายก็คือไปเนี่ยสามารถที่จะสร้าง
00:18:20 → 00:18:23 ฮอร์โมนต่างๆก็ได้ที่นี่พอเหมาะหลักๆนะ
00:18:23 → 00:18:26 ครับของไตที่อยากจะพูดถึงเนี่ยจริงจะมี
00:18:26 → 00:18:28 อยู่ 3 ตัวที่จะพูดถึงนะครับแต่ว่าจะพูด
00:18:28 → 00:18:30 ถึงในข้อนี้นะ 2 ตัวด้วยกันตัวแรกก็คือ
00:18:30 → 00:18:32 ตัวที่เราคุยไปเมื่อกี้นะครับก็คือเรื่อง
00:18:32 → 00:18:34 ของเลนส์นิลนะครับอีกทีนะครับก็คือเรียน
00:18:34 → 00:18:36 ดีนั้นโยธิน sinestro ๆซึ่งเกี่ยวข้องกับ
00:18:36 → 00:18:39 การดูดเกลือและกะน้ำเหลืองกลับเข้าใน
00:18:39 → 00:18:41 เลือดแล้วก็มีผลกับความรู้หรือความดัน
00:18:41 → 00:18:43 เลือดด้วยสำหรับฮอร์โมนที่สอนนะครับก็คือ
00:18:43 → 00:18:46 วิตามินดีสำหรับใครที่สงสัยนะครับว่าทำไม
00:18:46 → 00:18:48 ถึงบอกว่าวิตามินนะครับวิตามินดีตัวนี้
00:18:48 → 00:18:51 ถือเป็นฮอร์โมนคำตอบตรงไปตรงมานะครับก็
00:18:51 → 00:18:53 คือว่าตอนแรกเนี่ยเราคิดว่าเป็นวิตามินนะ
00:18:53 → 00:18:56 ครับมันทำงานอยู่วิตามินแต่ต่อมาเราพบ
00:18:56 → 00:18:58 หน้าที่ต่างๆมากขึ้นแล้วก็พบว่ามันจะมาทำ
00:18:58 → 00:19:00 งานแบบข้อมูลได้ด้วย
00:19:00 → 00:19:01 แต่ถ้าใครยังไม่รู้ข้อมูลคืออะไรนะครับ
00:19:01 → 00:19:03 เดี๋ยววันหน้าตอนที่เราคุยเรื่องของระบบ
00:19:03 → 00:19:05 ต่อมไร้ท่อเราจะได้คุยเรื่องนี้กันนะครับ
00:19:05 → 00:19:08 ตอนนี้เป็นเข้าๆว่าข้อมูลมันคือสารเคมีใน
00:19:08 → 00:19:11 ร่างกายนะครับที่ร่างกายในแต่ละวันเดี๋ยว
00:19:11 → 00:19:13 ใช้สื่อสารระหว่างกันที่นี่มาดูกันนะครับ
00:19:13 → 00:19:15 ว่าไปมาเกี่ยวข้องกับวิตามินดีได้ยังไง
00:19:15 → 00:19:17 มันต้องเริ่มจากทำความเข้าใจก่อนว่า
00:19:17 → 00:19:19 วิตามินดีในร่างกายของเราเนี่ยมาจากที่
00:19:19 → 00:19:21 ไหนบ้างนะครับปกติเราจะได้วิตามินดีเข้า
00:19:21 → 00:19:24 ไปในร่างกายเราได้จาก 2 แหล่งด้วยกันวิธี
00:19:24 → 00:19:27 แรกคือการกินเข้าไปนะครับก็กินในรูปของ
00:19:27 → 00:19:29 อาหารวิธีที่ 2 ก็คือร่างกายเราในสามารถ
00:19:29 → 00:19:33 ที่จะสร้างได้เองนะครับก็คืออวัยวะหลักๆ
00:19:33 → 00:19:35 ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างวิตามินดีเนี่ย
00:19:35 → 00:19:38 มันจะมีอยู่ 3 คะว่าด้วยกันเอาไว้ว่าแรก
00:19:38 → 00:19:40 สุดก็คือผิวหนังก็คือเมื่อคืนหนังได้รับ
00:19:40 → 00:19:42 แสง UV จากแสงแดดเนี่ยมันก็จะสามารถ
00:19:42 → 00:19:45 เปลี่ยนคลาสเอาที่อื่นต่อแถวผิวหนังใต้ดู
00:19:45 → 00:19:48 หนังเนี่ยให้กลายเป็นวิตามินดีได้แต่ว่า
00:19:48 → 00:19:49 จะเป็นดีที่สร้างขึ้นที่อยู่หนังด้วยนะ
00:19:49 → 00:19:52 ครับมันจะยังอยู่ในรูปที่ยังไม่พร้อมจะทำ
00:19:52 → 00:19:54 งานให้วิตามิน it ดีตัวนี้นะคะมันก็จะไหล
00:19:54 → 00:19:57 วินอยู่ในกระแสเลือดแล้วก็ไปที่ต่ำจาก
00:19:57 → 00:19:59 นั้นที่ต่ำเนี่ยมันจะมีเอนไซม์ที่จะ
00:19:59 → 00:20:01 เปลี่ยนโครงค่าของวิตามินดีแบบแรกเนี่ย
00:20:01 → 00:20:04 ให้การเป็นวิตามินดีตัวที่ 2 นะครับก็คือ
00:20:04 → 00:20:06 เหมือนกับมีการแปลงร่างนะครับจากจะ mindy
00:20:06 → 00:20:08 หน้าตาแบบหนึ่งเป็นโมเลกุลที่มีหน้าตาอีก
00:20:08 → 00:20:11 แบบหนึ่งแต่ว่าไม่เป็นดีแบบที่ 2 เนี่ย
00:20:11 → 00:20:13 มันก็ยังทำงานไม่ได้เหมือนกันนะครับมันจะ
00:20:13 → 00:20:15 ไม่ดีตัวที่สุดแบบที่ 2 เริ่มก็จะไหล
00:20:15 → 00:20:18 เวียนต่อแล้วก็มาธิไตยเพื่อที่จะแปลงร่าง
00:20:18 → 00:20:21 อีกครั้งหนึ่งจนมาเป็นรูปแบบที่สามารถที่
00:20:21 → 00:20:24 จะเริ่มทำงานได้ก็คือพูดง่ายว่าวิตามินดี
00:20:24 → 00:20:26 มันเริ่มสร้างที่ผิวหนังเสร็จแล้วต้องมา
00:20:26 → 00:20:29 ที่ตับแล้วค่อยมาที่ไตมันถึงจะเริ่มทำงาน
00:20:29 → 00:20:32 ได้ดังนั้นนะครับถ้ามีเหตุอะไรก็ตามที่ไป
00:20:32 → 00:20:34 ยังมีปัญหานะครับเราไม่สามารถที่จะที่จะ
00:20:34 → 00:20:36 ทำงานหรือว่าทำหน้าที่นี่เขามาได้เนี่ย
00:20:36 → 00:20:39 และอาเราร่างกายเราเนี่ยก็จะขาดวิตามินดี
00:20:39 → 00:20:42 คำถามต่อไปก็คือว่าเราก็จะเป็นดีนี่มัน
00:20:42 → 00:20:45 สำคัญอะไรกับร่างกายของเรานะครับคำตอบก็
00:20:45 → 00:20:48 คือว่าวิตามินดีเนี่ยมันทำงานเยอะมากๆนะ
00:20:48 → 00:20:49 ครับซึ่งวันหลังเนี่ยเราคงจะหาโอกาสคุย
00:20:50 → 00:20:52 เรื่องนี้กันแต่หน้าที่หลักๆที่อยากจะพูด
00:20:52 → 00:20:54 ถึงในวันนี้นะครับถือว่าเป็นหน้าที่ที่
00:20:54 → 00:20:56 เรียกว่าเอ่อจะรู้ว่าเด่นที่สุดก็ได้นะ
00:20:56 → 00:20:59 ครับหน้าที่ 1 ก็คือตัวมาในสำคัญนะครับรถ
00:20:59 → 00:21:02 มีตัวช่วยในการดูดซึมแคลเซียมจากทางเดิน
00:21:02 → 00:21:05 อาหารก็คือหมายถึงตัวแถวเที่ยวกินเข้าไป
00:21:05 → 00:21:07 นะครับพร้อมเข้าไปที่ลำไส้เสร็จเนี่ยเวลา
00:21:07 → 00:21:09 ที่เราจะดูดซึมมันเข้ามาในเลือดได้เนี่ย
00:21:09 → 00:21:12 เราต้องใช้วิตามินดีเนี่ยเข้าไปช่วยดัง
00:21:12 → 00:21:14 นั้นคนที่เป็นโรคไตนะครับหรือว่าไตมี
00:21:14 → 00:21:16 ปัญหาเนี่ยเราไม่สามารถที่จะสร้างวิตามิน
00:21:16 → 00:21:18 ดีและทำให้วิตามินดีมันแอคทีฟขึ้นมาได้
00:21:18 → 00:21:20 เนี่ยก็ให้เรากินแคลเซียมเข้าไปมากแค่ไหน
00:21:20 → 00:21:22 เนี่ยเราก็ไม่สามารถนำแคลเซียมเนี้ยมาใช้
00:21:22 → 00:21:24 ในร่างกายเราได้แน่นอนว่าเมื่อเราขาด
00:21:24 → 00:21:27 แคลเซียมเนี่ยอวัยวะที่จะโดนกระทบอย่าง
00:21:27 → 00:21:29 มากเลยก็คือตัวกระดูกซึ่งมันก็จะอธิบาย
00:21:29 → 00:21:32 ว่าทำไมคนที่เป็นโรคไตเรื้อรังเนี่ยนะ
00:21:32 → 00:21:34 ครับถึงได้มีปัญหาเรื่องของกระดูกบางและ
00:21:34 → 00:21:37 เกิดภาวะกระดูกหักได้ง่ายแล้วก็มาถึงหน้า
00:21:37 → 00:21:39 ที่ที่ 7 ของไตนะครับก็คือเรื่องของการ
00:21:39 → 00:21:42 สร้างเม็ดเลือดแดงปกติเวลาเราพูดถึงเขามี
00:21:42 → 00:21:43 วัดที่สร้างเม็ดเลือดแดงเนี่ยผมเชื่อว่า
00:21:43 → 00:21:46 หลายคนก็จะพอคุ้นเคยนะครับว่าอวัยวะที่
00:21:46 → 00:21:48 สร้างเม็ดเลือดแดงอยู่มันคือตัวใครคือดูด
00:21:48 → 00:21:51 ซึ่งก็คือส่วนที่อยู่ตรงกลางนะครับอยู่
00:21:51 → 00:21:53 พาณิชย์ลงของกระดูกสันหลังของเรา
00:21:53 → 00:21:55 แม้แต่การที่กับไขกระดูกแล้วมันจะสร้าง
00:21:55 → 00:21:57 ไม่เลิกใดได้เนี่ยมันจะต้องได้รับพอมวล
00:21:57 → 00:22:00 ตัวนึงนะครับที่ชื่อว่าอีโป้นะครับเป็น
00:22:00 → 00:22:02 ชื่อย่อนะครับชุดจริงของมันช่วยชีวิตโชว์
00:22:02 → 00:22:06 ตินเขาให้ Witch โอนแต่ว่าแดงด้วยเธอๆ
00:22:06 → 00:22:08 ตีนหมายถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงชนิดพอ
00:22:08 → 00:22:11 Moto นี่มาจากไหนคำตอบคือมันมาจากไปนะ
00:22:11 → 00:22:15 ครับซึ่งก็คือคาโมที่สามที่ของไตที่พ่อ
00:22:15 → 00:22:17 เมื่อกี้ผมพูดถึงไปนะครับดังนั้นจะเห็น
00:22:17 → 00:22:19 ว่าไปเนี่ยจะเกี่ยวข้องกับการสร้างได้แดง
00:22:19 → 00:22:22 ได้แล้วคนที่มีปัญหาเรื่องของโรคไตนะครับ
00:22:22 → 00:22:25 คือเป็นภาวะมีโรคไตวายเรื้อรังเนี่ยออก
00:22:25 → 00:22:28 ผู้ป่วยก็มักจะมีภาวะซี่ร่วมด้วยก็คือขาด
00:22:28 → 00:22:30 ไม่ลดแดงเพราะว่าใครกระดูกไม่สามารถสร้าง
00:22:30 → 00:22:36 เม็ดเลือดแดงได้ปกติ
00:22:36 → 00:22:39 แล้วมาถึงหน้าที่สุดท้ายของใครนะครับก็
00:22:39 → 00:22:41 คือหน้าที่ที่ 8 นะครับซึ่งเป็นหน้าที่คน
00:22:41 → 00:22:42 ส่วนใหญ่ข้ารู้จักกันดีก็คือเรื่องของการ
00:22:42 → 00:22:45 ขับถ่ายของเสียออกกำลังกายคำถามก็คือว่า
00:22:45 → 00:22:48 ให้ของเสียที่ร่างกายอยากขับผ่านไปเนี่ย
00:22:48 → 00:22:51 มันคืออะไรหลักๆนะครับที่สำคัญก็น่าจะ
00:22:51 → 00:22:55 เด่นที่สุดนะครับที่ก็ต้องใช้ตายขับก็คือ
00:22:55 → 00:22:58 สารที่มีชื่อเรียกว่ายูเรียนะครับยูเรีย
00:22:58 → 00:23:00 นำมันมาจากไหนเอาปกติเนี่ยเมื่อเรากิน
00:23:00 → 00:23:03 โปรตีนเข้าไปนะครับแล้วมีการสลายโปรตีนใน
00:23:03 → 00:23:05 ร่างกายเนี่ยมันจะเกิดของเสียขึ้นมาของ
00:23:05 → 00:23:06 เซลล์ที่เกิดขึ้นมาเนี่ยเรียกว่า
00:23:06 → 00:23:09 แอมโมเนียที่นี่ค่ะมาเนี่ยมันจะเป็นสาร
00:23:09 → 00:23:12 ที่มีพิษได้ออกค่อนข้างมากนะครับโดยเฉพาะ
00:23:12 → 00:23:14 คิดต่อสมองร่างกายก็เลยจะต้องหาทาง
00:23:14 → 00:23:17 เปลี่ยนแอมโมเนียเนี่ยไปเป็นรูปแบบที่มี
00:23:17 → 00:23:20 พิษน้อยลงซึ่งก็คือเป็นในรูปดูเรียนะครับ
00:23:20 → 00:23:22 เอาไว้ว่าที่ทำหน้าที่เปลี่ยนในบอดี้ให้
00:23:22 → 00:23:25 เป็นยูเรียเนี่ยก็คือตับแล้วจากนั้นนะ
00:23:25 → 00:23:27 ครับตับก็จะส่งยูเรียนะเข้าไปในกระแส
00:23:27 → 00:23:29 เลือดแล้วก็ไหลเวียนไปที่ไปแล้วตายในก็จะ
00:23:29 → 00:23:32 ขับยูเรียออกจากร่างกายไปพร้อมกับปัสสาวะ
00:23:32 → 00:23:34 สำหรับของเสียอย่างที่สองนะครับที่ร่าง
00:23:34 → 00:23:37 กายต้องการขับผ่านทางใต้เนี่ยก็จะเป็นสาร
00:23:37 → 00:23:40 ที่มีชื่อว่าเคลียร์ทีนี้นะครับ 3 ตัวนี้
00:23:40 → 00:23:42 นะครับเป็นสารที่ค่อนข้างสำคัญนะครับแล้ว
00:23:42 → 00:23:44 ก็น่าน่าจำชื่อนะครับอย่างน้อยก็คือฟัง
00:23:44 → 00:23:47 ให้คุณหูเพราะว่าตอนที่เราคุยเรื่องของ
00:23:47 → 00:23:49 การปวดเหลือนะครับไปดูการทำงานของไตเนี่ย
00:23:49 → 00:23:51 เราจะพูดถึงสารตัวนี้กันอีกทีเดี๋ยวจะ
00:23:51 → 00:23:54 อธิบายว่ามันคืออะไรนะครับก็จะสั้นๆมัน
00:23:54 → 00:23:56 คือของเสียที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกาย
00:23:56 → 00:23:59 ของเรานี้สลายโปรตีนหรือว่าขึ้นนะโปรตีน
00:23:59 → 00:24:01 นำไปใช้นะครับจะเกิดสารตัวนี้ขึ้นมา 3
00:24:01 → 00:24:04 เครื่องตินีนและนั่นก็เป็นของเสียงรักๆนะ
00:24:04 → 00:24:06 ครับที่ไปในต้องการที่จะขับก็คือยูเรีย
00:24:06 → 00:24:08 แล้วก็เคลียร์สินีต่อเนื่องจากนี้ก็จะมี
00:24:08 → 00:24:10 ของเสียอื่นๆครับที่สามารถอ่ะที่ร่างกาย
00:24:10 → 00:24:13 สามารถขับออกทางไตได้นะครับก็เช่นพวกสาร
00:24:13 → 00:24:15 เคมีต่างๆที่เรากินเข้าไปนะครับโดยเฉพาะ
00:24:15 → 00:24:18 พวกยาต่างๆและทั้งหมดนี้นะครับก็คือหน้า
00:24:18 → 00:24:20 ที่หลักๆของไตนะครับที่อยากจะเล่าให้ฟัง
00:24:20 → 00:24:22 แต่ก่อนที่เราจะจบพิสณฑ์นี้นะครับผมมี
00:24:23 → 00:24:25 ประเด็นหนึ่งนะครับที่อยากจะชี้ให้เห็นนะ
00:24:25 → 00:24:26 ครับก็คืออาจจะที่เราคุยเรื่องของหน้าที่
00:24:26 → 00:24:29 ของไตเดี๋ยวมาเยอะแยะมากมายนะครับ 8 นาที
00:24:29 → 00:24:31 ด้วยกันสิ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นก็คือ
00:24:31 → 00:24:33 ว่าปกติเวลาเราพูดถึงการทำงานของร่างกาย
00:24:33 → 00:24:36 เนี่ยชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินหนูเคย
00:24:36 → 00:24:39 ชินนะครับกับการที่จะแยกวัดในร่างกายของ
00:24:39 → 00:24:42 เราในเป็นชนส่วนแล้วก็มองว่าแต่ละวะเนี่ย
00:24:42 → 00:24:46 ทำงานป่าแตกต่างกันไปแล้วก็คนยูเครนระบบ
00:24:46 → 00:24:48 ตัวอย่างเช่นหัวใจเนี่ยก็ทำหน้าที่เหมือน
00:24:48 → 00:24:50 เป็นปั๊มคอยปั้มเลือดนะครับอยู่ในระบบที่
00:24:50 → 00:24:53 ว่าหัวใจและหลอดเลือดส่วนปอดนี้ก็อยู่
00:24:53 → 00:24:55 ห้องกับการเห็นใจนะครับเกี่ยวข้องกับการ
00:24:55 → 00:24:58 เพิ่มออกซิเจนในเลือดแล้วตายแล้วก็บอกว่า
00:24:58 → 00:25:00 เป็นระบบขับถ่ายทำนะครับไว้ว่ากันขับถ่าย
00:25:00 → 00:25:03 ปัสสาวะหรือว่ากรองของเสียออกจากเลือดแต่
00:25:03 → 00:25:05 จากที่เราคุยกันมาในซีรีส์สอนหน้านะครับ
00:25:05 → 00:25:08 รวมถึงที่คุยนี้พี่ส่วนนี้เนี่ยชื่อว่าทำ
00:25:08 → 00:25:10 ให้เราเห็นมากขึ้นนะคะว่าจริงๆว่าต่างๆ
00:25:10 → 00:25:12 เนี่ยมันไม่เชิงเป็นแค่อวัยวะที่ทำหน้า
00:25:12 → 00:25:15 ที่ได้นักหน้าที่ 1 นะครับแต่ว่าคนการการ
00:25:15 → 00:25:17 ทำงานของร่างกายเราในวันมีความซับซ้อนนะ
00:25:17 → 00:25:21 ครับแล้วก็ทำหน้าที่ขอร่วมกันอย่างไทยที่
00:25:21 → 00:25:23 เราคุยกันในวันนี้นะครับใจว่าตายในเกี่ยว
00:25:23 → 00:25:25 ข้องกับระบบขับถ่ายปัสสาวะกันจริงนะครับ
00:25:25 → 00:25:27 แต่มันก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นๆอีก
00:25:27 → 00:25:28 มากมายนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความ
00:25:28 → 00:25:30 ดันเลือดนะครับเรื่องของฮอร์โมนต่างๆ
00:25:30 → 00:25:33 เรื่องของการควบคุมระดับของเกลือแร่ใน
00:25:33 → 00:25:36 ร่างกายเรื่องของระบบเผาผลาญนะครับแล้วก็
00:25:36 → 00:25:38 จะมีเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดแดงด้วยก็
00:25:38 → 00:25:40 คือเท่ากับไตมีปัญหานะก็สามารถทำให้เกิด
00:25:40 → 00:25:43 ภาวะ 4 ได้ดังนั้นนะครับเวลาเราจะเข้าใจ
00:25:43 → 00:25:45 การทำงานของร่างกายเนี่ยเราจะต้องมองร่าง
00:25:45 → 00:25:47 กายในลักษะขององค์รวมนะครับคือบอกว่าแต่
00:25:47 → 00:25:50 ละวะเนี่ยทำงานบ่แยกหน้าที่กันไปหรือว่า
00:25:50 → 00:25:53 เป็นเอกเทศเงินไปจะมาว่าระบบต่างๆในมันๆ
00:25:53 → 00:25:55 ทำงานร่วมกันนะครับเหมือนเป็นระบบ network
00:25:55 → 00:25:58 ที่มีการทำงานประสานกันเพื่อให้คนก็ต่างๆ
00:25:58 → 00:26:01 ของร่างกายสามารถทำงานไปได้อย่างราบรื่น
00:26:01 → 00:26:03 และเมื่อเรามีกรอบความคิดในการมองกันของ
00:26:03 → 00:26:06 ร่างกายแบบนี้นะครับเรามาพูดถึงเรื่องของ
00:26:06 → 00:26:08 การดูแลร่างกายนะครับหรือว่าการเข้าใจการ
00:26:08 → 00:26:11 เกิดโรคต่างๆเนี่ยเราจะเห็นภาพที่ต่างไป
00:26:11 → 00:26:13 นะครับคือข้อความที่เราจะเปลี่ยนไปมันจะ
00:26:13 → 00:26:15 ไม่เหมือนมองร่างกายกับแยกส่วนว่าทำยังไง
00:26:15 → 00:26:19 ถึงจะดีกตปทำยังไงถึงจะดีกว่าใจแต่เราจะ
00:26:19 → 00:26:21 เห็นว่าทำอะไรก็ตามที่ดีกับหัวใจมันจะดี
00:26:21 → 00:26:23 กับเส้นเลือดด้วยดีกับสมองดีกว่าตับด้วย
00:26:23 → 00:26:25 ดีกับไปไปด้วยซึ่งมันก็จะเป็นเรื่องของ
00:26:25 → 00:26:27 การปรับเปลี่ยนรักทรายนะครับที่ชื่อว่า
00:26:27 → 00:26:30 ทุกคนก็พอรู้อยู่แล้วสำหรับวันนี้นะครับ
00:26:30 → 00:26:33 บอกว่าผมจะขอจบที่ส่วนนี้ไว้ตรงนี้นะครับ
00:26:33 → 00:26:35 สำหรับพี่สนนะนะครับแล้วก็จะคุยเรื่องของ
00:26:35 → 00:26:38 ไตกันอยู่นะครับก็จะโฟกัสไปที่หน้าที่เขา
00:26:38 → 00:26:40 ตายเนี่ยของการที่เป็นเครื่องกรองนะครับ
00:26:40 → 00:26:42 หรือว่าทำให้เลือดของเราเนี่ยก็มีของเสีย
00:26:42 → 00:26:45 น้อยลงได้ยังไงนะครับแล้วก็จะจากกันไปนะ
00:26:45 → 00:26:47 ครับก็เช่นเคยนะครับถ้าใครชอบเรื่องที่ผม
00:26:47 → 00:26:49 เล่าให้ฟังนะครับและอยากสนับสนุนนะครับรถ
00:26:49 → 00:26:52 เป็นกำลังใจให้ง่ายๆนะครับก็ฝากกด
00:26:52 → 00:26:54 Subscribe นะครับกดไลค์กดแชร์นะครับกัน
00:26:54 → 00:26:56 Comment ให้หน่อยนะครับเราจะขนาดนี้เป็น
00:26:56 → 00:27:01 โซนหน้านะครับสวัสดีครับอ่า