00:00:00 → 00:00:02 ไขมันพอกตับ หายไวมากนะครับ
00:00:02 → 00:00:04 แค่ทำ 5 สิ่ง นี้ทุกวันนะครับ
00:00:04 → 00:00:06 สวัสดีครับผม หมอหนึ่ง Healthy Hero นะครับ
00:00:06 → 00:00:09 ลดน้ำหนัก ครั้งสุดท้ายในชีวิต คิดถึง หมอหนึ่ง Healthy Hero นะครับ
00:00:09 → 00:00:12 แต่สำหรับสิ่งที่เราจะคุยกันวันนี้ คือ เรื่องของ ไขมันพอกตับ นะครับ
00:00:12 → 00:00:16 หมอหนึ่งต้องบอกเลยนะครับว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นคนอ้วน หรือว่าเป็นคนที่ผอมนะครับ
00:00:16 → 00:00:19 คุณก็มีโอกาสเป็นไขมันพอกตับได้นะครับ
00:00:19 → 00:00:22 เพราะฉะนั้นฟังให้ดี ๆ นะครับ เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่า
00:00:22 → 00:00:23 มันมีอาการยังไงนะครับ
00:00:23 → 00:00:24 ปรับอาหารยังไง
00:00:24 → 00:00:26 รักษายังไง แล้วหายได้ไหมนะครับ
00:00:26 → 00:00:29 แล้วถ้าคุณปล่อยไว้เนี่ย โดยที่คุณไม่รู้ว่ามีไขมันพอกตับ
00:00:29 → 00:00:31 มันจะอันตรายกับคุณยังไงบ้างนะครับ
00:00:31 → 00:00:34 ฟังคลิปนี้ให้จบนะครับ มีครบทุกอย่างเลยนะครับ
00:00:34 → 00:00:37 แต่ก่อนอื่นนะครับ อย่าลืมกดติดตาม หมอหนึ่ง Healthy Hero ไว้นะครับ
00:00:37 → 00:00:39 คุณจะได้ไม่พลาดคลิปความรู้ดี ๆ แบบนี้นะครับ
00:00:39 → 00:00:42 คราวนี้ย้อนกลับมาในสิ่งที่เราจะคุยกันครับว่า
00:00:42 → 00:00:44 ไขมันพอกตับ มันคืออะไรหรอ
00:00:44 → 00:00:46 เราจะรู้ได้ยังไงว่า เรามีไขมันพอกตับหรือเปล่า
00:00:46 → 00:00:49 เพราะเมื่อกี้ หมอหนึ่งบอกว่า คนที่อ้วนมีโอกาสเป็นไขมันพอกตับ
00:00:49 → 00:00:53 แต่คนที่ผอมก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่มีนะ ถูกมั้ยนะครับ
00:00:53 → 00:00:55 เพราะฉะนั้น เจ้าไขมันพอกตับเนี่ย
00:00:55 → 00:00:59 ตามชื่อมันคือ การที่มีไขมันไปเกาะอยู่ที่ตับเยอะ
00:00:59 → 00:01:01 แต่หลายคนจะเข้าใจผิดมาก ๆ ว่า
00:01:01 → 00:01:04 ไขมันพอกตับ มันเกิดจากการที่เรากินของมันของทอด
00:01:04 → 00:01:06 ซึ่งจริง ๆ นั้น มันไม่ใช่นะครับ
00:01:06 → 00:01:10 การที่คนเราจะมีการสะสมไขมันเนี่ย มันเกิดจากแบบนี้ครับ
00:01:10 → 00:01:14 ระบบพลังงานในร่างกายของคนเรา จะมีอยู่ 2 อย่าง ที่ร่างกายใช้เป็นพลังงานหลัก ๆ
00:01:14 → 00:01:16 อันที่ 1 คือ น้ำตาลกับแป้ง
00:01:16 → 00:01:17 อันที่ 2 คือไขมัน
00:01:17 → 00:01:22 ส่วนโปรตีนที่คุณทานเข้าไปเนี่ย ถ้าไม่จำเป็น มันจะยังไม่เอาออกมาใช้เป็นพลังงาน
00:01:22 → 00:01:24 เพราะว่ามันมีหน้าที่ในการซ่อมแซมร่างกาย
00:01:24 → 00:01:27 ซึ่งแป้งกับไขมันมันไม่สามารถทำแทนได้นะครับ
00:01:27 → 00:01:31 เพราะฉะนั้นร่างกายของคุณเลยใช้พลังงานจากน้ำตาลกับแป้งและไขมันเป็นหลัก
00:01:31 → 00:01:34 คราวนี้คุณอ้วนขึ้น คุณสะสมไขมันในช่องท้อง จากอะไร
00:01:34 → 00:01:38 มันเกิดจากการที่คุณทานอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณสูง
00:01:38 → 00:01:40 พอน้ำตาลในเลือดของคุณเริ่มสูง
00:01:40 → 00:01:44 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ถ้าร่างกายปล่อยไว้แบบนั้น คุณจะเป็นเบาหวาน
00:01:44 → 00:01:46 เพราะฉะนั้น ร่างกายก็เลยบอกว่า เห้ย ไม่ได้นะ
00:01:46 → 00:01:49 เพราะถ้าสมมุติว่า ปล่อยน้ำตาลในเลือดสูงมาก ๆ เป็นเบาหวานเนี่ย
00:01:49 → 00:01:50 น้ำตาลวิ่งไปที่ตา ตาก็เสื่อม
00:01:50 → 00:01:52 วิ่งไปที่ไต ไตก็เสื่อม
00:01:52 → 00:01:53 วิ่งไปที่สมอง สมองคุณก็เสื่อม
00:01:53 → 00:01:56 เพราะฉะนั้นร่างกายเลยหลั่งฮอร์โมนออกมา 1 ตัว
00:01:56 → 00:01:58 เพื่อเอาน้ำตาลเหล่านั้นไปเก็บ
00:01:58 → 00:02:00 เบื้องต้นก็เอาไปเก็บเป็นแป้งก่อน ที่ตับกับกล้ามเนื้อ
00:02:00 → 00:02:02 แต่ที่มันน้อยมากนะครับ
00:02:02 → 00:02:06 ส่วนที่มันเกินมาก ๆ เนี่ย ก็เลยจำเป็นที่จะต้องเอาไปเก็บในรูปของไขมัน
00:02:06 → 00:02:08 ถามว่าไขมันเก็บในที่ไหนได้บ้าง
00:02:08 → 00:02:10 นอกจากตามไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังของคุณแล้วเนี่ย
00:02:10 → 00:02:15 ที่ที่คุณมองไม่เห็นเลย มันคือไขมันที่อยู่ในช่องท้องหรืออวัยวะภายใน
00:02:15 → 00:02:18 ไม่ว่าจะเป็นในเนื้อเยื่อลำไส้ในช่องท้องเอย
00:02:18 → 00:02:20 และที่สำคัญคือในตับของคุณนั่นเอง
00:02:20 → 00:02:24 ดังนั้นไขมันพอกตับมันไม่ได้เกิดจากการกินไขมัน แล้วไปเกาะเป็นไขมันที่ตับ
00:02:24 → 00:02:27 แต่ส่วนใหญ่มันเกิดจากอาหารที่เป็นน้ำตาลกับแป้งต่างหากนะครับ
00:02:27 → 00:02:30 เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องเข้าใจแล้วนะว่า สาเหตุมันเกิดจากอะไรนะครับ
00:02:30 → 00:02:33 ซึ่งอาหารที่เป็นน้ำตาลกับแป้งบางชนิดเนี่ย
00:02:33 → 00:02:36 ถ้ากินแล้ว นอกจากไขมันเกาะตับแล้ว ยังทำให้คุณอ้วนด้วย
00:02:36 → 00:02:39 แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่คุณกินเข้าไปอาจจะไม่ได้ทำให้คุณอ้วน
00:02:39 → 00:02:42 แต่ไขมันไปเกาะที่ตับโดยตรงเลยก็มี
00:02:42 → 00:02:44 หมอหนึ่งเลยบอกว่า คนที่ผอมก็มีไขมันพอกตับได้นะครับ
00:02:44 → 00:02:45 คราวนี้มันอันตรายยังไงนะครับ
00:02:45 → 00:02:47 คุณลองเอามือขวาของคุณขึ้นมา
00:02:47 → 00:02:49 แล้วเอามือขวาจับไปที่ชายโครงด้านขวา
00:02:49 → 00:02:52 ตำแหน่งที่เห็นอยู่นี้ คือตำแหน่งของตับนะครับ
00:02:52 → 00:02:53 ตรงชายโครงขวานะ
00:02:53 → 00:02:55 คุณจับแล้วคุณรู้มั้ยว่า มันมีไขมันพอกตับอยู่มั้ย
00:02:55 → 00:02:57 ไม่มีทางรู้เลย
00:02:57 → 00:03:00 เพราะฉะนั้นวิธีเดียวที่จะรู้ก็คือ คุณต้องอัลตราซาวน์ดูนะครับ
00:03:00 → 00:03:05 คนที่เป็นไขมันพอกตับ อัลตร้าซาวด์ไปลักษณะของตับเนี่ย มันก็จะไม่เหมือนของคนปกติ
00:03:05 → 00:03:07 มันจะเป็นลักษณะที่มีไขมันพอกอยู่
00:03:07 → 00:03:08 คราวนี้อันตรายยังไง หมายความว่า
00:03:08 → 00:03:11 คุณมองเห็นด้วยตาเปล่าไหมว่าไขมันคุณพอกตับ
00:03:11 → 00:03:12 ไม่มีทางรู้เลย
00:03:12 → 00:03:14 แล้วถ้าเป็นไม่ได้เยอะนะครับ หมอหนึ่งบอกเลยว่า
00:03:14 → 00:03:17 ตรวจเลือดนะครับ ค่าตับคุณก็จะไม่ได้ขึ้น
00:03:17 → 00:03:20 เพราะว่าไขมันพอกตับ มันจะแบ่งเป็นระยะแบบนี้นะครับ
00:03:20 → 00:03:23 ระยะแรก คือ ตับของคุณปกตินะ ไม่เป็นไร
00:03:23 → 00:03:26 แต่พอคุณเริ่มมีไขมันพอกตับมากขึ้นเรื่อย ๆ เนี่ย
00:03:26 → 00:03:29 ตับของคุณมันจะต้องเริ่มทำงานหนักขึ้น จนเกิดการอักเสบ
00:03:29 → 00:03:32 เพราะฉะนั้นในคนที่มีไขมันพอกตับ
00:03:32 → 00:03:35 เจาะเลือดออกมา ค่าไขมันที่ชื่อว่า ไตรกลีเซอไรด์ สูง ๆ
00:03:35 → 00:03:37 แล้วเริ่มมีค่าตับสูงเล็กน้อย
00:03:37 → 00:03:41 อันนี้เริ่มเป็นสัญญาณบ่งบอกแล้วว่า ไขมันที่พอกตับเนี่ย
00:03:41 → 00:03:42 มันกำลังทำให้ตับคุณอักเสบแล้วนะ
00:03:42 → 00:03:46 ถ้าคุณไม่รู้ตัว แล้วก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
00:03:46 → 00:03:47 ตับของคุณจะอักเสบเรื้อรัง
00:03:47 → 00:03:50 พอมันอักเสบเรื้อรัง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
00:03:50 → 00:03:51 คุณจะเป็นตับแข็ง
00:03:51 → 00:03:53 โดยที่คุณไม่ได้กินแอลกอฮอล์เลยนะครับ
00:03:53 → 00:03:57 แต่คุณตับแข็งได้ เพราะฉะนั้นตับแข็งจริง ๆ ไม่ได้เกิดจากการกินแอลกอฮอล์อย่างเดียว
00:03:57 → 00:03:59 แต่ตับแข็งเกิดจากไขมันพอกตับ แล้วทำให้ตับแข็งได้
00:03:59 → 00:04:02 และความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตับแข็งนะ
00:04:02 → 00:04:05 คุณมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับนะครับ
00:04:05 → 00:04:08 เพราะฉะนั้นถามว่าอาหารการกินทำให้คุณเป็นมะเร็งได้ไหม
00:04:08 → 00:04:09 เป็นได้นะครับ
00:04:09 → 00:04:13 และจุดที่อันตรายที่สุดคือ จุดที่ตับของคุณอักเสบฉับพลัน
00:04:13 → 00:04:15 แล้วกลายเป็นอักเสบเรื้อรัง
00:04:15 → 00:04:16 และสุดท้ายกลายเป็นตับแข็ง
00:04:16 → 00:04:18 เมื่อไหร่ก็ตามที่มันกลายเป็นตับแข็งไปแล้ว
00:04:18 → 00:04:20 นั่นคือมันเป็นพังผืดไปแล้ว
00:04:20 → 00:04:22 มันจะไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นตับที่ปกติได้
00:04:22 → 00:04:27 เพราะฉะนั้น ณ วันนี้ ควรจะต้องรีบปรับทันที โดยเฉพาะคนที่อ้วนนะครับ
00:04:27 → 00:04:30 ใครอ้วนควรจะต้องรีบปรับเลย เพราะว่าคุณมีโอกาสที่ตับจะแข็งมาก ๆ
00:04:30 → 00:04:34 เพราะฉะนั้น 5 ข้อนะครับ ที่หมอหนึ่งอยากให้คุณเอาไปทำนะ
00:04:34 → 00:04:37 คุณจะได้หายจากการเป็นไขมันพอกตับ หายไวมาก ๆ เลย
00:04:37 → 00:04:40 ข้อที่ 1 ทุกอย่างต้องแก้ที่สาเหตุ
00:04:40 → 00:04:43 หมอหนึ่งบอกไปแล้วว่า สาเหตุของไขมันพอกตับ ไม่ได้เกิดจากของมันของทอด
00:04:43 → 00:04:45 แต่มันเกิดจากแป้งและน้ำตาล
00:04:45 → 00:04:49 ดังนั้น ข้อที่ 1 นะครับ พยายามงดน้ำตาลจากเครื่องดื่มและขนมออกก่อนเลย
00:04:49 → 00:04:51 แล้วก็พวกเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์
00:04:51 → 00:04:55 ถ้าคุณกินเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง น้ำตาลพวกนี้มันดูดซึมเข้ากระแสเลือดทันที
00:04:55 → 00:04:58 พอน้ำตาลของคุณสูงปั๊บ มันก็ถูกเอาไปเก็บเป็นไขมัน
00:04:58 → 00:05:00 เปลี่ยนรูปไปเก็บเป็นไขมัน โดยเฉพาะในช่องท้องและที่ตับ
00:05:00 → 00:05:03 เพราะฉะนั้นคุณก็จะไม่มีทางหายจากไขมันพอกตับได้
00:05:03 → 00:05:06 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลออกไป
00:05:06 → 00:05:08 เอาน้ำอัดลมออกไปนะครับ
00:05:08 → 00:05:10 เอาน้ำผลไม้กล่องออกไป
00:05:10 → 00:05:12 เอาขนมหวาน ๆ ออกไป
00:05:12 → 00:05:15 แล้วก็งดพวกแอลกอฮอล์พวกนี้ จะทำให้ตับของคุณทำงานน้อยลง
00:05:15 → 00:05:17 ไม่มีไขมันใหม่ไปพอกตับ
00:05:17 → 00:05:19 คุณก็จะสามารถเอาไขมันเก่าออกมาใช้ได้
00:05:19 → 00:05:21 เห็นภาพไหม ข้อ 1 สำคัญที่สุดเลยนะครับ
00:05:21 → 00:05:24 ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่มจากอะไร เริ่มจากข้อ 1 ก่อนนะครับ
00:05:24 → 00:05:26 เพราะว่า มันสำคัญกับชีวิตของคุณมากนะครับ
00:05:26 → 00:05:28 ปล่อยไว้เป็นมะเร็งตับนะครับ
00:05:28 → 00:05:30 ถัดมาข้อที่ 2 เมื่อกี้เราพูดถึงน้ำตาล
00:05:30 → 00:05:33 ข้อที่ 2 ให้คุณลดการทานแป้งลง
00:05:33 → 00:05:35 เพราะหมอหนึ่งบอกแล้วมันไม่ได้เกิดจากของมันของทอดนะ
00:05:35 → 00:05:37 มันเกิดจากแป้งที่มากเกินไป
00:05:37 → 00:05:39 เพราะฉะนั้น คุณควรจะต้องลดแป้งลง
00:05:39 → 00:05:42 เคยกินแป้งปริมาณเท่าไหร่ ลดแป้งลงให้เหลือครึ่งนึงก่อนนะครับ
00:05:42 → 00:05:44 และเลือกชนิดของแป้ง
00:05:44 → 00:05:48 พยายามเลือกแป้งที่ไม่ใช่แป้งที่ผ่านกระบวนการขัดสีมา
00:05:48 → 00:05:50 เช่น อะไรบ้าง ที่ผ่านการขัดสีมา
00:05:50 → 00:05:53 พวกข้าวขาว ขนมปังขาว ๆ พวกนี้
00:05:53 → 00:05:55 ทำไมหมอหนึ่งถึงบอกว่าควรจะเลี่ยงเพราะว่า
00:05:55 → 00:05:59 พวกข้าวสีขาว หรือว่าขนมปังสีขาวพวกนี้ จะไม่มีใยอาหารอยู่ในนั้น
00:05:59 → 00:06:04 เวลาที่มันย่อยเป็นน้ำตาลปั๊บ มันจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงขึ้นเลยทันที
00:06:04 → 00:06:06 เพราะมันไม่มีอะไรมาชะลอการดูดซึม
00:06:06 → 00:06:09 ถ้าคุณอยากให้มันมีการชะลอการดูดซึม คุณจะต้องมีใยอาหารอยู่ในนั้น
00:06:09 → 00:06:13 เพราะฉะนั้นคุณอาจจะเพิ่มใยอาหารด้วยการทานผักเพิ่มก็ได้นะครับ
00:06:13 → 00:06:16 เพราะฉะนั้น ลดแป้ง เลือกชนิดของแป้งให้ดี และเพิ่มใยอาหารเข้าไปนะครับ
00:06:16 → 00:06:21 ถัดมาข้อที่ 3 นะครับ ข้อที่ 3 เนี่ย ให้คุณเลี่ยงกลุ่มพวกผลไม้ไปก่อน
00:06:21 → 00:06:27 บางคนเนี่ย ไม่ได้อ้วนนะ แต่กินผลไม้เยอะมาก ๆ จนไขมันพอกตับไม่รู้ตัว
00:06:27 → 00:06:30 เพราะอะไร เพราะว่า เราไม่ได้อ้วนไง เราก็เลยงงว่า ไขมันพอกตับเราได้ยังไงนะครับ
00:06:30 → 00:06:35 กลุ่มผลไม้ที่หวาน ๆ มาก ๆ เนี่ย จะมีน้ำตาลอยู่ชนิดนึงที่เรียกว่า น้ำตาลฟรุกโตส
00:06:35 → 00:06:39 มันจะคนละชนิดกับน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดคุณที่คุณเจาะนะครับ
00:06:39 → 00:06:42 การที่คุณเจาะน้ำตาลปลายนิ้วเนี่ย เราเรียกมันว่า น้ำตาลกลูโคส นะครับ
00:06:42 → 00:06:45 แต่น้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ส่วนใหญ่ มันคือน้ำตาลฟรุกโตส
00:06:45 → 00:06:50 ซึ่งน้ำตาลฟรุกโตสเนี่ย มันจะไปเผาผลาญที่ตับโดยตรงนะครับ
00:06:50 → 00:06:53 เพราะฉะนั้นการที่คุณได้น้ำตาลตัวนี้เข้าไปเยอะ ๆ เยอะ ๆ เยอะ ๆ มาก ๆ เนี่ย
00:06:53 → 00:06:56 ก็มีโอกาสที่จะทำให้คุณมีไขมันพอกตับได้นะครับ
00:06:56 → 00:06:59 แล้วพวกฟรุกโตสเจอจากอะไรได้อีก ก็พวกน้ำผึ้งนะครับ
00:06:59 → 00:07:02 แล้วก็พวกที่เป็นน้ำอัดลมต่าง ๆ
00:07:02 → 00:07:04 พวกนี้มีส่วนประกอบของพวกน้ำตาลชนิดนี้อยู่
00:07:04 → 00:07:06 เพราะฉะนั้นก็ควรจะ เลี่ยงไปเลยนะครับ
00:07:06 → 00:07:09 เพราะฉะนั้นอย่าลืมนะครับ ผลไม้ถ้าจะทาน ให้จำกัดปริมาณ
00:07:09 → 00:07:11 แล้วก็เลี่ยงผลไม้รสหวาน ๆ
00:07:11 → 00:07:12 ถัดมานะครับ ข้อที่ 4 นะครับ
00:07:12 → 00:07:15 ทำแล้วไขมันคุณจะหายไวมาก โดยเฉพาะไขมันที่พอกตับ ก็คือ
00:07:15 → 00:07:18 คุณจะต้องมีช่วงเวลาของการหยุดทาน
00:07:18 → 00:07:19 การที่คุณลดแป้งลงได้
00:07:19 → 00:07:20 ลดน้ำตาลลงได้
00:07:20 → 00:07:23 ตอนนี้ตับคุณเริ่มทำงานน้อยลง
00:07:23 → 00:07:24 ตับคุณเริ่มแข็งแรงขึ้นละ
00:07:24 → 00:07:27 ไขมันที่อยู่ในตับ เริ่มถูกเอาออกมาใช้
00:07:27 → 00:07:32 แต่มันจะใช้ได้นานหรือไม่นาน ขึ้นอยู่กับว่า คุณมีการเติมอาหารใหม่เข้าไปบ่อยแค่ไหน
00:07:32 → 00:07:36 บางคนเนี่ย ตื่นมาตั้งแต่ 8:00 น ก็เริ่มกินตั้งแต่ 8:00 น
00:07:36 → 00:07:37 นอนเที่ยงคืน ก็กินยันเที่ยงคืน
00:07:37 → 00:07:39 ถามว่า ร่างกายจะได้ใช้ไขมันไหม
00:07:39 → 00:07:41 จะไม่ค่อยได้ใช้หรอกครับ
00:07:41 → 00:07:44 เพราะว่าอะไร เพราะว่า อาหารที่คุณกินส่วนใหญ่ ก็เป็นน้ำตาลกับแป้ง ถูกมั้ย
00:07:44 → 00:07:47 มันก็จะใช้น้ำตาลกับแป้งจากอาหารที่คุณกินเข้าไปก่อน
00:07:47 → 00:07:49 แต่ถ้าคุณอยากจะใช้ไขมันที่อยู่ในร่างกายของคุณ
00:07:49 → 00:07:53 คุณต้องลดช่วงระยะเวลาของการกินจากอาหารภายนอกลง
00:07:53 → 00:07:55 เช่น เคยกิน ตั้งแต่ 8:00 น ยันเที่ยงคืน
00:07:55 → 00:07:57 จำกัดเวลาหน่อยได้ไหม
00:07:57 → 00:07:59 เช่น 12 ชั่วโมง กิน 12 ชั่วโมง อด ได้ไหม
00:07:59 → 00:08:01 เริ่มอยู่ที่ 8 โมงเช้า หยุดกิน 2 ทุ่มได้ไหม
00:08:01 → 00:08:03 แต่ถ้าจะให้ดี ถ้าคุณมีไขมันพอกตับแล้ว
00:08:03 → 00:08:07 คุณควรจะต้องมีช่วงเวลาของการหยุดทานเนี่ย อย่างน้อยสัก 15-16 ชั่วโมงนะครับ
00:08:07 → 00:08:10 ถ้าคุณหยุดกินวันนี้ตอน 6 โมงเย็น
00:08:10 → 00:08:13 พรุ่งนี้คุณอาจจะไปเริ่ม 10 โมงเช้าเลย หรือ 9 โมงเช้า
00:08:13 → 00:08:15 เพื่อให้มีช่วงระยะเวลาสัก 15-16 ชั่วโมง
00:08:15 → 00:08:19 เพื่อให้ร่างกายของคุณได้ใช้ไขมันที่มันออกมารอจากตับคุณแล้วเนี่ยให้เต็มที่
00:08:19 → 00:08:20 เห็นภาพนะครับ
00:08:20 → 00:08:23 หรือบางคนหยุดกิน 5 โมงเย็น ก็อาจจะไปกิน 8 โมงหรือ 9 โมงเช้าอีกวันนึง
00:08:23 → 00:08:26 เพื่อให้ร่างกายของคุณมีช่วงเวลาในการใช้ไขมันได้เต็มที่
00:08:26 → 00:08:29 ช่วงที่คุณหยุดทาน ก็กินน้ำเปล่าเอาได้นะครับ
00:08:29 → 00:08:30 แล้วข้อสุดท้ายข้อที่ 5
00:08:30 → 00:08:33 พอคุณทำข้อที่ 1 2 3 4 ไปแล้วนะ
00:08:33 → 00:08:38 4 ข้อนี้จะทำให้ร่างกายเนี่ยปล่อยไขมันออกมา ตับคุณจะคายไขมันที่มันพอกออกมา
00:08:38 → 00:08:42 พอไขมันมารอปั๊บ คุณต้องเพิ่มเตาเผาพลังงานของคุณเข้าไป
00:08:42 → 00:08:44 เพื่อให้มันเผาไขมันได้เยอะ ๆ ถูกมั้ยครับ
00:08:44 → 00:08:47 การเพิ่มเตาเผาพลังงาน ก็คือ การออกกำลังกายนั่นเองครับ
00:08:47 → 00:08:51 การออกกำลังกายที่จะช่วยให้คุณเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ได้ ก็จะมีอยู่ 2 ประเภท
00:08:51 → 00:08:53 คือ 1 Cardio เช่น
00:08:53 → 00:08:56 วิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ ได้หมดเลยนะครับ
00:08:56 → 00:08:58 หรือบางคนวิ่งไม่ไหว เพราะว่าน้ำหนักตัวเยอะ
00:08:58 → 00:09:00 ให้เป็นเดินสลับเดินเร็วก็ได้
00:09:00 → 00:09:01 ได้เหมือนกันนะครับ
00:09:01 → 00:09:03 อย่างน้อยสัก 10-15 นาทีต่อวัน
00:09:03 → 00:09:07 อย่าไปเชื่อหลาย ๆ คน ที่บอกว่า ให้ออกวันนึง 30-45 นาที
00:09:07 → 00:09:08 จริง ๆ มันดีนะครับ ถ้าทำได้
00:09:08 → 00:09:11 แต่ในคนที่เริ่มต้น ที่ไม่เคยได้ออกกำลังกายมาก่อนเลยเนี่ย
00:09:11 → 00:09:13 การออกแค่ 10-15 นาที ก็มีประโยชน์นะครับ
00:09:13 → 00:09:15 เพราะฉะนั้น ดีที่สุด ในจุดที่ทำได้
00:09:15 → 00:09:18 ไหวเท่าไหร่ เท่านั้น วันรุ่งขึ้นเราค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด
00:09:18 → 00:09:21 ตามร่างกายของเรา อย่าไปเปรียบเทียบกับใครนะครับ
00:09:21 → 00:09:25 แล้วก็การออกกำลังกายอีกแบบนึง เราเรียกว่า การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
00:09:25 → 00:09:28 เช่น การแพลงกิ้ง วิดพื้น ซิทอัพ
00:09:28 → 00:09:30 พวกนี้เป็นการใช้กล้ามเนื้อนะครับ
00:09:30 → 00:09:33 หรือว่าการทำ Squad ก็ได้ พวกนี้เป็นการใช้กล้ามเนื้อ
00:09:33 → 00:09:35 อะไรก็แล้วแต่ที่ได้ออกแรงกล้ามเนื้อ
00:09:35 → 00:09:36 บิดผ้านะครับ
00:09:36 → 00:09:39 พวกนี้จะช่วยให้ร่างกายของคุณ เผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นนะครับ
00:09:39 → 00:09:43 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่กล้ามเนื้อคุณได้ใช้เนี่ย มันเปรียบเสมือนเตาเผาพลังงานของคุณเนี่ย
00:09:43 → 00:09:44 ได้เปิดสวิตช์นะครับ
00:09:44 → 00:09:46 เพราะฉะนั้น 5 ข้อนี้นะครับ ลองเอาไปทำนะ
00:09:46 → 00:09:50 ไขมันที่พอกตับของคุณจะหายไวมาก ๆ เลยนะครับ
00:09:50 → 00:09:52 นอกจากไขมันพอกตับคุณจะหายแล้ว น้ำหนักคุณจะลดอีกด้วย
00:09:52 → 00:09:57 และสำหรับใครนะครับ ที่มีไขมันพอกตับแล้ว แล้วก็น้ำหนักตัวเยอะด้วยนะครับ
00:09:57 → 00:09:58 และอยากลดน้ำหนักจริง ๆ จัง ๆ
00:09:58 → 00:10:01 แล้วอยากลดไขมันพอกตับด้วย โดยไม่ใช้ยานะครับ
00:10:01 → 00:10:03 ตอนนี้หมอหนึ่งมีกลุ่มลดน้ำหนักนะครับ ชื่อกลุ่ม
00:10:03 → 00:10:06 ลดน้ำหนัก VIP คอร์ส ลดน้ำหนัก ครั้งสุดท้ายในชีวิต นะครับ
00:10:06 → 00:10:09 เพราะหมอหนึ่งพบว่า หลาย ๆ คนที่ฟังคลิปไปแล้วเนี่ย
00:10:09 → 00:10:11 แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้เริ่มต้นทำ
00:10:11 → 00:10:13 มันมักจะเกิดอยู่จากไม่กี่ข้อเท่านั้นเอง
00:10:13 → 00:10:14 ข้อนึงคือไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
00:10:14 → 00:10:17 ติดปัญหาไม่รู้จะปรึกษาอะไรยังไงนะครับ
00:10:17 → 00:10:20 เพราะฉะนั้นใครที่อยากจริงจังกับการดูแลสุขภาพตัวเอง
00:10:20 → 00:10:23 สามารถดูรายละเอียดวิธีการเข้ากลุ่มได้นะครับ
00:10:23 → 00:10:25 หมอหนึ่งจะคอยดูแลนักเรียนอยู่ในกลุ่มด้วยตนเองนะครับ
00:10:25 → 00:10:28 และบทเรียนทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มนั้น จะเป็นบทเรียนที่
00:10:28 → 00:10:30 ไม่ได้มีเผยแพร่สาธารณะนะครับ
00:10:30 → 00:10:34 เพราะว่าถูกเรียงมาแล้วว่า ตามน้ำหนักตัวของคุณ คุณควรจะต้องทำ อะไร ยังไง เท่าไหร่นะครับ
00:10:34 → 00:10:37 ก็สามารถดูรายละเอียดได้ที่ คลิปที่อยู่ต่อจากท้ายคลิปนี้
00:10:37 → 00:10:39 หรือกดที่ลิงก์ที่อยู่ในคอมเมนต์ก็ได้นะครับ
00:10:39 → 00:10:41 แล้วพบกันนะครับ