00:00:00 → 00:00:03 สำหรับเรื่องที่เป็นโรคติดต่อทาง
00:00:03 → 00:00:07 เพศสัมพันธ์เนี่ยค่ะคุณหมออ่ามีโรคอะไร
00:00:07 → 00:00:10 บ้างแล้วมีโรคอะไรที่มีคนไทยเป็นกันเยอะๆ
00:00:10 → 00:00:14 บ้างคะคุณหมอค่ะโรคติดต่อทางเพพศสัมพันธ์
00:00:14 → 00:00:17 มีหลายโรคนะคะอย่างเช่นโรค
00:00:17 → 00:00:22 ซิฟิลิสโรคเริมโรคเอดส์โรคหนองในนะคะโรค
00:00:22 → 00:00:26 ฝีโรคหุดหงอนไก่โรคไวรัสตับอักเสบค่ะีตับ
00:00:26 → 00:00:30 อักเสบ C นะคะแต่โรคติดต่อทางเพศสัมพที่
00:00:30 → 00:00:33 อยากจะหมออยากจะเน้นและให้ความสำคัญนะคะ
00:00:33 → 00:00:37 ค่ะซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย
00:00:37 → 00:00:42 ๆก็คือโรคซิฟิลิสและโรคหนองในนะคะค่ะ 2
00:00:42 → 00:00:45 โรคนี้แต่สำหรับโรคอื่นก็อย่างเช่นอีก 2
00:00:45 → 00:00:48 โรคที่ควรจะให้ความสำคัญก็คือโรคเและโรค
00:00:48 → 00:00:52 ไวรัสตับอักเสบ b และ c ค่ะซึ่งมันมีความ
00:00:52 → 00:00:55 รุนแรงก็อย่างเช่นเอ่ออย่างถ้าเป็นโรค
00:00:55 → 00:00:58 ซิฟิลิสโรคหนองในเนี่ยเรารักษาแล้วก็หาย
00:00:58 → 00:01:00 ได้ใช่มั้ยคะแต่สำหรับโรคเองเนี่ยเป็น
00:01:01 → 00:01:04 แล้วไม่มียารักษาหายนะคะแต่มียาต้านไวรัส
00:01:04 → 00:01:08 ที่จะต้องกินไปตลอดชีวิตนะคะแต่ไม่หายขาด
00:01:08 → 00:01:11 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยก็น่ากลัวที่จะไม่
00:01:12 → 00:01:15 อยากให้ป่วยนะคะส่วนโรคไวรัสตบอักเสบ b
00:01:15 → 00:01:17 และ c เนี่ยก็ติดทางเพศสัมพันธ์เหมือนกัน
00:01:17 → 00:01:21 นะคะสิ่งที่น่ากลัวก็คือเอ่อคนบางกลุ่ม
00:01:21 → 00:01:24 ที่ติดแล้วอ่ะเป็นระยะยาวอาจจะทำให้เกิด
00:01:24 → 00:01:28 ตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ค่ะค่ะอืไวรัสตับ
00:01:29 → 00:01:31 อักเสบ B และเนี่ยคือถ้าเอ่อไม่เกี่ยวกับ
00:01:31 → 00:01:33 เรื่องเพศสัมพันธ์เลยเนี่ยเอ่อมันเป็นได้
00:01:33 → 00:01:36 มั้ยคะคุณหมอเป็นได้ค่ะเหมือนโลคเอดส์เลย
00:01:36 → 00:01:40 ค่ะก็คือสัมผัสเลือดค่ะหรือสัมผัสเลือด
00:01:40 → 00:01:43 คือเหมือนกับว่าถ้าเราใช้เข็มฉิยาร่วมกัน
00:01:43 → 00:01:46 หรือว่าค่ะหรือว่าในกรณีที่ถ้าการถ่ายทอด
00:01:46 → 00:01:49 เชื้อจากแม่สู่ลูกคือแม่เป็นค่ะแม่เป็น
00:01:49 → 00:01:51 เอดส์หรือไวรัสตับบีเนี่ยก็มีโอกาสถ่าย
00:01:52 → 00:01:55 ทอดไปให้ลูกได้อืออดังนั้นถ้าเราป้องกัน
00:01:55 → 00:01:58 โรคเก็จะเรียกรวมกันว่าเป็นโรคติดต่อทาง
00:01:58 → 00:02:02 เพศสัมพันธ์นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราจะ
00:02:02 → 00:02:05 ป้องกันช่องทางหลักๆเลยเนี่ยจะติดจากการ
00:02:05 → 00:02:08 มีเพศสัมพันธ์นะคะไม่ว่าจะเป็นซิฟิลิส
00:02:08 → 00:02:12 หนองในหรือว่าเป็นเอดส์หรือว่าเป็นไวรัส
00:02:12 → 00:02:14 ดับ B ไวรัสดับ C เนี่ยก็ติดทาง
00:02:14 → 00:02:18 เพศสัมพันธ์เยอะขึ้นแต่ว่าในกลุ่มผู้ใช้
00:02:18 → 00:02:21 ยาเสพติดชนิดฉีดหรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกันเ
00:02:21 → 00:02:25 จะติดเยอะในไวรัสตับ 4 อืแต่เดี๋ยวนี้ก็
00:02:25 → 00:02:29 พบมากในการติดทางเพศสัมพันธ์เหมือนกันค่ะ
00:02:29 → 00:02:35 ค่ะอ่าก็ค่อนข้างที่จะจะมีความน่าห่วงใน
00:02:35 → 00:02:37 เรื่องเกี่ยวกับโรคจากเพศสัมพันธ์นี่ค่อน
00:02:37 → 00:02:40 ข้างเยอะทำมันต้องโยงไปที่คำถามว่าแล้ว
00:02:40 → 00:02:43 แล้วทำไมมันถึงสถานการณ์เกี่ยวกับโรค
00:02:43 → 00:02:47 สุขภาพทางเพศสัมพันธ์มันถึงดูแล้วมันมัน
00:02:47 → 00:02:52 หลากหลายแล้วมันมันมีมีตัวตัวโรคที่ค่อน
00:02:52 → 00:02:55 ข้างที่จะเยอะอย่างเงี้ยล่ะครับคุณหมอคือ
00:02:55 → 00:02:57 มันมันมันเพราะอะไรฮเอค่ะคือคำว่าโรคติด
00:02:57 → 00:03:00 ต่อทางเพศสัมพันธ์มันเหมือนกับ
00:03:00 → 00:03:03 กลุ่มโลกมากกว่านะคะเพราะว่าเมื่อกี้ที่
00:03:03 → 00:03:07 หมอพูดก็คือจะติดทางเพศสัมพันธ์เขาก็เลย
00:03:07 → 00:03:09 มาเรียกรวมกันว่าเป็นโรคติดต่อทาง
00:03:09 → 00:03:12 เพศสัมพันธ์ข้างในมันก็เลยมีหลายๆโรคมัน
00:03:12 → 00:03:17 เป็นการตั้งชื่อค่ะตามช่องทางการติดค่ะอื
00:03:17 → 00:03:19 แต่ทีนี้พอเรารู้ว่าช่องทางเดียวกันแล้ว
00:03:19 → 00:03:22 ก็เป็นช่องทางหลักเนี่ยวิธีป้องกันที่ดี
00:03:22 → 00:03:26 ที่สุดตอนนี้ก็คือต้องใช้ถุงยางอนามัยทุก
00:03:26 → 00:03:30 ครั้งที่เพศสัมพันธ์ก็จะสามารถป้องกันได้
00:03:30 → 00:03:33 ค่ะครับนะคะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแต่ถ้า
00:03:33 → 00:03:36 สำหรับโรคที่มีอย่างที่หมอบอกว่าโรคเอด
00:03:36 → 00:03:40 โรคไวรัสตับอักเสบซสามารถติดทางเลือดได้
00:03:40 → 00:03:43 อันนั้นก็คือเป็นช่องทางอื่นค่ะที่อาจจะ
00:03:43 → 00:03:46 ติดได้ด้วยแต่ว่าถ้าช่องทางหลักๆที่คนไทย
00:03:46 → 00:03:49 มักจะติดคือทางเพศสัมพันธ์เนี่ยถ้าเราใช้
00:03:49 → 00:03:51 ถุงยามก็จะป้องกันทางช่องทางนี้แต่ถ้ามัน
00:03:51 → 00:03:54 มีช่องทางอื่นเราก็ต้องไปป้องกันวิธีอื่น
00:03:54 → 00:03:58 ด้วยค่ะอืแสดงว่าถุงยางนี้เ่อป้องกันได้
00:03:58 → 00:04:00 ทุกโรคที่มาจากโรคเพศสัมพันธ์เลยใช่มั้ย
00:04:00 → 00:04:05 คะคุณหมอส่วนใหญ่ค่ะใช่นะคะคือเชื้อที่
00:04:05 → 00:04:08 มันมากับเค้าเรียกว่าน้ำอสุจิหรือน้ำใน
00:04:08 → 00:04:12 ช่องคลอดเนี่ยก็จะป้องกันได้ 100% แต่ที่
00:04:12 → 00:04:15 หมอบอกว่ายกเว้นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
00:04:15 → 00:04:19 บางโรคเช่นโรคที่มีแผลคือคือไม่ได้ไม่
00:04:19 → 00:04:22 เพราะว่าถุงยางอนามัยเนี่ยเอ่อขออนุญาตนะ
00:04:22 → 00:04:26 คะก็จะใส่ที่อวัยวะเพศใช่มั้ยคะทีนี้ถ้า
00:04:26 → 00:04:29 เรามีแผลที่ไม่ได้อยู่ตรงอวัยวะเพศอาจจะ
00:04:29 → 00:04:32 อยู่ด้านข้างอืค่ะนึกออกมั้ยคะที่ถุงยาง
00:04:32 → 00:04:36 อนามัยมันไม่ได้อปิดปิดิดไปถึงเนี่ยถ้า
00:04:36 → 00:04:39 เราไปสัมผัสกับแผลหรือพวกหูดอะไรเงี้ยมัน
00:04:39 → 00:04:43 ก็จะติดได้ค่ะอืค่ะอ้อเพราะฉะนั้นต้องบอก
00:04:43 → 00:04:46 ว่าส่วนใหญ่อ่ะป้องกันได้นะคะยกเว้นพวก
00:04:46 → 00:04:49 ที่มีแผลมีอะไรอย่างเงี้ยค่ะที่จะไม่ได้อ
00:04:49 → 00:04:52 นี้จะติดจากการสัมผัสเนาะค่ะอืซึ่งมันก็
00:04:52 → 00:04:55 ต้องเป็นการสัมผัสที่อืมแบคิดอยู่ดีก็คือ
00:04:55 → 00:05:00 การสัมผัสอ่าที่จะไปสัมผัสอืผิวหนังตรง
00:05:00 → 00:05:05 นั้นค่ะที่มีแผลค่ะออืซึ่งซึมันมันเหมือน
00:05:05 → 00:05:09 กับว่าถ้าคือคือโอกาสที่มันมันมันจะ
00:05:09 → 00:05:12 สัมผัสกันอย่างแผลต่อแผลมาเจอกันเนี่ย
00:05:12 → 00:05:15 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันจะทำให้เลือดหรือ
00:05:15 → 00:05:19 ว่าเอ่อของเหลวที่มันจะสัมผัสเข้าสู่ร่าง
00:05:19 → 00:05:21 กายได้อันนั้นคือโอกาสที่มันจะเกิดขึ้น
00:05:21 → 00:05:25 ค่อนข้างที่จะจะยากหน่อยใช่มั้ยคุณหมอใช่
00:05:25 → 00:05:28 ค่ะใช่ค่ะคือเราถึงบอกว่าถ้าสมมุติว่า
00:05:28 → 00:05:31 เอ่อคือคือเราถึงบอกว่าโรคเอดสเนี่ยหมอยก
00:05:31 → 00:05:34 ตัวอย่างนะคะเป็นโรคที่คนไม่ควรจะ
00:05:34 → 00:05:37 รังเกียจหรือโรคที่พูดมาเนี่ยนะคะอค่ะคือ
00:05:37 → 00:05:41 เพราะว่ามันรักษาหายได้มันมียากินแล้วถึง
00:05:41 → 00:05:44 จะไม่หายขาดก็เหมือนคนปกติเพราะงั้นเรา
00:05:44 → 00:05:46 อย่าไปตีตราและเลือกปฏิบัติเพราะว่าเขา
00:05:46 → 00:05:49 ไม่ได้ติดกันง่ายๆค่ะนั่นหมายความว่า
00:05:49 → 00:05:51 อย่างที่หมอบอกว่าเราพยายามรณรงว่าโลก
00:05:51 → 00:05:54 เอดส์เนี่ยคุณอย่าไปรังเกียจคนติดเอดส์
00:05:54 → 00:05:56 หรือที่เราเรียกอีกอย่างนึงว่าติดเชื้อ
00:05:56 → 00:05:58 hiv เนี่ยนะคะเพราะว่ามันไม่ได้ติดกัน
00:05:58 → 00:06:01 ง่ายๆถ้าคุณไม่ไม่ได้ไปมีเพศสัมพันธ์โดย
00:06:01 → 00:06:04 ไม่ใช้ถุงยางอนามัยหรือคุณไม่ได้ไปเอ่อ
00:06:04 → 00:06:07 สัมผัสของมีคมใช้เข็มหรือไปสัมผัสเลือด
00:06:07 → 00:06:10 เค้าเนี่ยค่ะการกินข้าวด้วยกันเรียน
00:06:10 → 00:06:13 หนังสือด้วยกันทำงานด้วยกันจับมือกันกอด
00:06:13 → 00:06:17 จูบไม่ติดนะคะเพราะฉะนั้นก็ไม่ต้อง
00:06:17 → 00:06:20 รังเกียจเพราะว่าเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลย
00:06:20 → 00:06:24 ว่าในสังคมเราเนี่ยใครบ้างที่ติดเอกอือ
00:06:24 → 00:06:26 ค่ะเพราะว่ามันมียาดีนะคะก็คือใครติด
00:06:26 → 00:06:31 เชื้อ hiv เนี่ยกินยาต้านไวรัสเแล้วจะทำ
00:06:31 → 00:06:34 ให้ชีวิตเหมือนคนปกติเลยค่ะคุณภาพชีวิต
00:06:34 → 00:06:38 เหมือนผิวพรรณดีสวยหล่อแล้วก็มีชีวิตยืน
00:06:38 → 00:06:43 ยาวเหมือนคนปกติดังนั้นเราถึงบอกว่าอย่า
00:06:43 → 00:06:48 ประเมินว่าคนนี้นะดูไม่ค่อยดีคนนี้ดูน่า
00:06:48 → 00:06:51 จะเป็นคนติดเชื้อคนนี้ดูสวยหล่อผิวพรรณดี
00:06:51 → 00:06:54 ไม่น่าจะมีเชื้อประเมินแบบนี้ไม่ได้นะคะ
00:06:54 → 00:06:57 ค่ะเพราะฉะนั้นเราเราไม่รู้หมอถึงบอกว่า
00:06:57 → 00:07:00 เราพยายามช่วยกันรณรงค์ว่าป้องกันไว้ก่อน
00:07:00 → 00:07:03 เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นพลาดครั้งเดียว
00:07:03 → 00:07:06 ก็ติดเอดส์ได้หรือติดโรคติดต่อทาง
00:07:06 → 00:07:09 เพศสัมพันธ์ได้ดังนั้นเนี่ยจึงแนะนำให้
00:07:09 → 00:07:12 ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งกับทุกคู่นอนค่ะ
00:07:12 → 00:07:15 ไม่ใช้การประเมินด้วยสายตาหรือความคิดว่า
00:07:15 → 00:07:19 ใครจะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยงแล้วก็หรือติด
00:07:19 → 00:07:21 หรือไม่ติดแล้วก็ไม่อยากให้ประเมินตัวเอง
00:07:21 → 00:07:25 ด้วยว่าตัวเองอันนี้สมมติเราพลาดโยมี
00:07:25 → 00:07:27 เพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางครั้งนี้คงไม่
00:07:27 → 00:07:29 ติดหรอกอะไรอย่างเงี้ยนะคะค่ะคือเราก็ไม่
00:07:29 → 00:07:33 รู้เลยคือถ้าเราคิดว่าเรามีพฤติกรรมที่มี
00:07:34 → 00:07:36 โอกาสที่จะเสี่ยงไปติดก็ไปตรวจเลือดหาการ
00:07:36 → 00:07:39 ติดเชื้อซะดีกว่าในกรณีเอดนะคะเพราะว่าก็
00:07:39 → 00:07:43 ตรวจฟรีด้วยค่ะค่ะออืค่ะคุณหมอขะขอความ
00:07:43 → 00:07:46 รู้หน่อยค่ะยาเพบกับยาเปบเนี่ยใช้เหมือน
00:07:46 → 00:07:49 หรือแตกต่างกันอย่างไรคะสำหรับคนที่เอ่อ
00:07:49 → 00:07:52 เป็นผู้ป่วยโรคเอส์อ่ะค่ะใชต่างกันค่ะ
00:07:52 → 00:07:56 เพราะว่ายาเพลบเนี่ยจริงๆเเพลบหรือเปบ
00:07:56 → 00:08:00 เนี่ยเป็นเรียกทับศัพท์จากคำสกดของภาษา
00:08:00 → 00:08:03 อังกฤษนะคะต้องบอกว่ายาเพ็บที่มีลอเรือ
00:08:03 → 00:08:08 เนี่ยก็คือการกินยาป้องกันก่อนสัมผัส
00:08:08 → 00:08:11 เชื้อก่อนสัมผัสเชื้อนั่นหมายความว่าไป
00:08:11 → 00:08:15 กินก่อนกินทุกวันวันละเม็ดก่อนที่จะไปมี
00:08:15 → 00:08:18 เพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันโดยไม่ใช้ถุงยาง
00:08:18 → 00:08:21 อนามัยแบบนี้ยกตัวอย่างนะคะก็คือกินไป
00:08:21 → 00:08:25 ก่อนแล้วป้องกันเพื่อให้มีระดับยาในเลือด
00:08:25 → 00:08:29 ที่สูงพอที่พอเวลาไปมีพฤติกรรมเสียงพ H
00:08:29 → 00:08:33 มาก็จะสู้กันได้แต่ถ้าเป็นเป๊บเปบเปบ
00:08:33 → 00:08:36 เนี่ยมันเป็นชื่อทัพศัพท์ภาษาอังกฤษทก็
00:08:36 → 00:08:40 คือโพสตโพสก็คือหลังไปสัมผัสเชื้อมานั่น
00:08:40 → 00:08:44 หมายความว่าถ้าสมมุติว่าเราโอกาสเช่นเข็ม
00:08:44 → 00:08:48 ตำหรือว่าถุงยางอนามัยแตกหรือว่าไม่ได้
00:08:48 → 00:08:51 ใช้ถุงยางอนามัยคือคือไปสัมผัสมาแล้วแล้ว
00:08:51 → 00:08:54 เราไม่มั่นใจว่าสัมผัสครั้งนั้นเนี่ยไป
00:08:54 → 00:08:57 สัมผัสโดนเชื้อหรือไม่มีเชื้อเนี่ยเค้าก็
00:08:57 → 00:09:01 จะคุณหมอเคก็จะให้ยาเป๊บก็คือกินหลัง
00:09:01 → 00:09:04 สัมผัสเชื้ออันเนี้ยจะประมาณเดือนนึงแล้ว
00:09:04 → 00:09:07 ก็ไปตรวจเลือดขาว่าติดไม่ติดถ้าไม่ติดก็
00:09:07 → 00:09:11 ไม่ต้องกินต่อค่ะอืคือก่อนและหลังแค่นั้น
00:09:11 → 00:09:15 เองต่ากันตรงนี้ค่ะออครับคุณหมอครับเอ่อ
00:09:16 → 00:09:19 ปัจจุบันเองเนี่ยเอ่อที่หลายๆคนกังวลกัน
00:09:19 → 00:09:21 แล้วก็มีหน้าข่าวออกมาเนี่ยเรื่องของ
00:09:21 → 00:09:24 กลุ่มวัยรุ่นนะครับวัยรุ่นในปัจจุบันเอง
00:09:24 → 00:09:28 ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเป้าต้นๆของ
00:09:28 → 00:09:31 กระทรวงสานุกหรือว่ากรมควบคุมโรคเลยมั้ย
00:09:31 → 00:09:33 ครับว่าปัจจุบันตัวเลขของกลุ่มวัยรุ่นมัน
00:09:33 → 00:09:34 น่ามันน่าห่วงในเรื่องของโรคกับ
00:09:34 → 00:09:38 เพศสัมพันธ์น่ะครับใช่ค่ะอืต้องบอกว่า
00:09:38 → 00:09:42 เอ่อจากสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
00:09:42 → 00:09:44 หรือโรคเอดส์เี่นะคะถ้าพูดถึงโรคติดต่อส
00:09:44 → 00:09:46 เพศสัมพันธ์หลักๆที่เมื่อกี้หมอพูดถึง
00:09:46 → 00:09:50 เนี่ยเราจะเห็นได้ว่าสูงขึ้นแนวโน้มเนี่ย
00:09:50 → 00:09:55 อย่างซิฟิลิสหนองในนะคะสูงขึ้นในในภาพรวม
00:09:55 → 00:09:59 ของทุกกลุ่มอายุนะคะแต่ถ้าเราไปดูในกลุ่ม
00:09:59 → 00:10:03 เฉพาะเยาวชนที่อายุ 15-24 ปีจะสูงกว่ายก
00:10:04 → 00:10:07 ตัวอย่างเช่นนะคะเอ่ออย่างซิฟิลิตเนี่ยนะ
00:10:07 → 00:10:10 คะถ้าเราบอกว่าถ้าดูทุกกลุ่มอายุเนี่ยจาก
00:10:10 → 00:10:12 ปีจากปี
00:10:12 → 00:10:17 2559 เพิ่มขึ้นจาก 5.9 คนต่อแสนประชากร
00:10:17 → 00:10:21 ไปจนถึงปี 65 เนี่ยนะคะเป็น 27.8 ต่อแสน
00:10:21 → 00:10:24 ประชากรอแต่ถ้าเราไปดูเฉพาะกลุ่มอายุ
00:10:25 → 00:10:30 15-24 ปีในปี 65 ค่ะมีมี 59 คนต่อแสน
00:10:30 → 00:10:34 ประชากรเยอะกว่าเห็นมั้ยคะใช่ค่ะหรือหนอง
00:10:34 → 00:10:37 ในเนี่ยนะคะหนองในเราบอกว่าสูงขึ้นทุก
00:10:37 → 00:10:40 กลุ่มอายุแต่ปี 65 เนี่ยถ้าถ้าถ้าทุก
00:10:40 → 00:10:44 กลุ่มอายุจะอัตราป่วยหมายถึงว่าป่วยเนี่ย
00:10:44 → 00:10:48 17.2 ต่อแสนประชากรแต่ถ้าเป็นอายุ 15-24
00:10:49 → 00:10:54 ปีจะเป็น 42 เนี่ยค่ะ 42 ต่อแสน 42 กับ 17
00:10:54 → 00:10:58 ก็ต่างกันเยอะมากนะคะเราถึงบอกว่าในถ้า
00:10:58 → 00:11:01 เป็นถ้ารวมโลคหลักๆเช่นซิฟิริสและหนองใน
00:11:01 → 00:11:05 ในเยาวชนเนี่ย 15-24 เนี่ยมีถึง 14,000
00:11:05 → 00:11:09 คนคือแนวโน้มมันเพิ่มแล้วก็ขึ้นทุก
00:11:09 → 00:11:11 จังหวัดนะคะต้องบอกแบบนี้แล้วก็ขึ้นมา
00:11:11 → 00:11:15 อย่างต่อเนื่อง 7 ปีแล้วเพราะฉะนั้นก็น่า
00:11:15 → 00:11:19 เป็นห่วงค่ะแล้วเรามีการเฝ้าระวังเอ่อการ
00:11:19 → 00:11:22 ติดเชื้อเอดส์เนาะหรือติดเชื้อ hiv เราก็
00:11:22 → 00:11:25 พบว่าในเยาวชนเนี่ยบางจังหวัดที่เขาออก
00:11:25 → 00:11:29 ข่าวเนี่ยเพราะว่าเเจาะเลือดตรวจดูหรือจะ
00:11:29 → 00:11:32 ที่เราเฝ้าระวังเราก็พบว่าเพิ่มสูงขึ้นนะ
00:11:32 → 00:11:36 คะค่ะในกลุ่มเยาวชนก็เลยค่อนข้างน่าเป็น
00:11:37 → 00:11:39 ห่วงเพราะว่าปิดช่องทางเดียวกันคือการมี
00:11:39 → 00:11:42 เพศสัมพันธ์หลักๆเลยก็คือที่ไม่ป้องกัน
00:11:42 → 00:11:46 คือไม่ใช้ถุงยางอนามัยอทำไมถึงเป็นก็สอด
00:11:46 → 00:11:50 คล้องไปด้วยกันเลยนะคะครับทำไมมันถึงผล
00:11:50 → 00:11:54 ออกมาถึงทั้งที่ปัจจุบันเอ่อเราเชื่อว่า
00:11:54 → 00:11:57 เ่อการรณณรงค์หรือความเข้าใจในเรื่องของ
00:11:57 → 00:11:59 ความปลอดภัยเกี่ยวกับเรื่องเรื่องของพ
00:11:59 → 00:12:01 สัมพันธ์มันน่าจะมันน่าจะเข้าถึงมากขึ้น
00:12:01 → 00:12:05 มันน่าจะเข้าใจมากขึ้นแต่แต่ตัวเลขกับอืม
00:12:06 → 00:12:09 สิ่งที่คุณหมอบอกอัตราส่วนมามันมันกลับ
00:12:09 → 00:12:11 ไม่เป็นอย่างนั้นมันมันเป็นเพราะอะไรอคุณ
00:12:11 → 00:12:16 หมอคค่ะอืค่ะคือจากที่เราทราบจากข้อมูล
00:12:16 → 00:12:19 ที่ทั้งทางภาคเอกชนสำรวจนะคะแล้วก็จากข้อ
00:12:19 → 00:12:22 มูลที่เราเคยมีนะนแต่ว่าทั้งนี้อาจจะต้อง
00:12:22 → 00:12:25 มีการสำรวจเก็บข้อมูลในเยาวชนใหม่อีก
00:12:25 → 00:12:27 ครั้งนึงนะคะแต่จากข้อมูลที่ผ่านมาเนี่ย
00:12:27 → 00:12:31 เราจะพบว่าส่วนนึงเนี่ยคือบางคนเนี่ยยัง
00:12:32 → 00:12:35 ที่สำคัญเลยคือไม่ตระหนักแบบที่หมอบอกคือ
00:12:35 → 00:12:38 ไม่ตระหนักว่าอตัวเองจะเสี่ยงหรือไม่
00:12:38 → 00:12:41 ตระหนักว่าคนที่เราไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย
00:12:41 → 00:12:46 เนี่ยอืเป็นคนติดเชื้อเอสนะคะอ่าแล้วก็
00:12:46 → 00:12:48 ไม่คิดว่าตัวเองจะประเมินแล้วว่าตัวเอง
00:12:48 → 00:12:52 ไม่เสี่ยงอาจจะเชื่อใจคู่หรือคนที่เราเจอ
00:12:52 → 00:12:56 ด้วยหรือบางคนเนี่ยยังถามหมออยู่เลยว่า
00:12:56 → 00:13:01 เอดสยังมีอยู่ในออรึว่าหมดไปแล้วอ่าส่วน
00:13:01 → 00:13:04 นึงก็คือเพราะฉนั้นส่วนนึงก็คืออาจจะยัง
00:13:04 → 00:13:08 ไม่รู้ว่ามีโรกนี้อยู่นะยังเป็นปัญหาอยู่
00:13:08 → 00:13:11 หรือบางคนอาจจะไม่มีความรู้นะคะแต่ถ้าใน
00:13:11 → 00:13:16 กลุ่มวัยรุ่นบางคนอาจจะหาถุงยางอนามัยไม่
00:13:16 → 00:13:20 ได้ในช่วงเวลานั้นอาจจะไม่ได้เตรียมมาอื
00:13:20 → 00:13:24 หรือหรือบางคนเนี่ยไม่ชอบใช้เพราะว่ามี
00:13:24 → 00:13:29 การเก็บข้อมูลโดยบริษัทขายถุงยางเค้าก็
00:13:29 → 00:13:32 มีไปถามเหมือนกันค่ะเด็กและเยาวชนบางที
00:13:32 → 00:13:35 บางคนผู้ใหญ่บางคนก็ไม่ชอบบอกว่าสัมผัส
00:13:35 → 00:13:39 ไม่ดีอือะไรอย่างเงี้ยค่ะไม่ชอบใช้ถุงยาง
00:13:39 → 00:13:42 ชอบมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใช้มากกว่าอันนี้
00:13:42 → 00:13:46 ก็เป็นความชอบของส่วนเอ่อความคิดว่าใช้
00:13:46 → 00:13:50 แล้วจะรู้สึกไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยอ่า
00:13:50 → 00:13:53 ประมาณนั้นเพราะฉะนั้นมันมีมันมีหลายหลาย
00:13:53 → 00:13:55 ประเด็นนะคะแต่หลักๆก็คือหมอคิดว่าส่วน
00:13:55 → 00:13:59 สำคัญเลยก็คือ 1 ถ้าเราไม่ตระหนักเนี่ย
00:13:59 → 00:14:01 เราก็จะไม่เตรียมถุงยางถูกมคะเราก็จะไม่
00:14:01 → 00:14:03 ได้ป้องกันตัวเราเองเหมือนเราพกหน้ากาก
00:14:03 → 00:14:06 อนามัยเวลามีโควิดอ่ะค่ะถ้าเราไม่คิดถึง
00:14:06 → 00:14:09 มันว่า 1 มันยังมีปัญหาอยู่นะแล้วเราเี่
00:14:09 → 00:14:12 มีโอกาสที่จะเสี่งถ้าเราไม่ตระหนักตรง
00:14:12 → 00:14:16 เนี้ยอาจจะขาดความรู้หรือถ้ามีความรู้
00:14:16 → 00:14:18 แล้วถ้าไม่ตระหนักเขาก็ไม่พกถุงยางไม่พก
00:14:19 → 00:14:21 ถุงยางหรือไม่ไปสันไม่ไปรับถุงยางมาเวลา
00:14:21 → 00:14:24 มีโอกาสเสียงก็จะไม่ได้ใช้อ่ะค่ะส่วน
00:14:24 → 00:14:27 พฤติกรรมที่ไม่ชอบใช้อันนี้ก็อีกเฉพาะ
00:14:28 → 00:14:31 กลุ่มนะคค่ะที่อาจจะเข้าถึงแต่ไม่ชอบอือื
00:14:32 → 00:14:37 ค่ะค่ะพอเจอก็หลายๆเหตุผลค่ะค่ะอืออันนี้
00:14:37 → 00:14:39 ล่าสุดนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขนี้มี
00:14:39 → 00:14:42 มาตรการเชิงรุกเอ่อมีเป็นแนวทางอะไร
00:14:42 → 00:14:44 เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเป็นพิเศษมั้ยคะ
00:14:44 → 00:14:47 หลังจากที่เจออัตราการเพิ่มของตัวเลขที่
00:14:47 → 00:14:51 น่าห่วงกังวลน่ะค่ะค่ะคือทางทางกระทรวง
00:14:51 → 00:14:54 สาธารณสุขนะคะเราทำงานร่วมกับภาคีเครือ
00:14:54 → 00:14:58 ข่ายทั้งภาครัฐภาคเอกชนชุมชนภาคประชา
00:14:58 → 00:15:02 สังคมนะคะและแลตอนเนี้ยกตอนเนี้ยเริ่มทำ
00:15:02 → 00:15:06 งานร่วมกับแกนนำเยาวชนสภาเด็กและเยาวชน
00:15:06 → 00:15:09 ค่ะทั่วประเทศด้วยนะคะและกลุ่มประชากร
00:15:09 → 00:15:13 ต่างๆที่อยู่ในชุมชนนะคะ 1 ก็คือให้ช่วย
00:15:13 → 00:15:16 กันให้ความรู้กับประชาชนให้ตระหนักใน
00:15:16 → 00:15:19 สถานการณ์โลกมีความรู้ว่าจะป้องกันตัวเอง
00:15:19 → 00:15:23 ยังไงนะคะแลส่วนที่ 2 ก็คือตอนนี้เนี่ย
00:15:23 → 00:15:26 สปสชสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
00:15:26 → 00:15:29 เนี่ยช่วยเราคือที่เราขับเคลื่อนมีการ
00:15:29 → 00:15:32 สนับสนุนถุมยางงอนามัยฟรีกับประชาชนทุก
00:15:32 → 00:15:35 ศิทธิ์นะคะซึ่งก็สามารถรับได้ที่สถาน
00:15:35 → 00:15:39 พยาบาลหรือผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังจะเลือก
00:15:39 → 00:15:42 กดไปรับถุงยางได้ที่ไหนก็ได้ฟรีนะคะ
00:15:42 → 00:15:45 สำหรับประชาชนไม่ต้องซื้ออค่ะเข้าถึงได้
00:15:45 → 00:15:49 นะคะแล้วส่วนนึงเราก็มีการอบรมอบรมเ้า
00:15:49 → 00:15:52 เรียกว่าให้ความรู้กับชุมชนที่ถูกต้องนะ
00:15:52 → 00:15:55 คะแลส่วนนึงก็คือเราจัดส่งเสริมให้มีการ
00:15:55 → 00:15:58 จัดบริการสุขภาพที่เป็นมิตรสำหรับเยาวชน
00:15:58 → 00:16:02 เช่นเราจะส่งเสริมให้อย่างน้อย 1 จังหวัด
00:16:02 → 00:16:06 จะต้องมีจุดคลินิกเฉพาะหรือไม่ใช่คลินิก
00:16:06 → 00:16:08 เฉพาะแต่จะต้องมีจุดตรวจโรคติดต่อทาง
00:16:08 → 00:16:12 เพศสัมพันธ์ในโรงพยาบาลอย่างน้อยัก 1
00:16:12 → 00:16:14 แห่งที่เป็นคลินิกเฉพาะทางนะคะหรือตรวจ
00:16:14 → 00:16:17 ได้แล้วก็เราสนับสนุนส่งเสริมให้พยายาม
00:16:17 → 00:16:20 ที่จะมีช่องทางรัดเเรียกว่าเด็กเยาวชน
00:16:20 → 00:16:23 ส่วนใหญ่ไม่อยากรอคิวตรวจนานน่ะค่ะอยากจะ
00:16:23 → 00:16:26 มีช่องทางส่วนเดินไปที่คลินิกเองอะไรแบบ
00:16:26 → 00:16:29 เนี้ยค่ะโดยตรงเลยอย่างเงี้ยค่ะแล้วเราก็
00:16:29 → 00:16:33 มีการพัฒนาคุณภาพการจัดบริการดูแลรักษา
00:16:33 → 00:16:36 ที่หน่วยพยาบาลหรือโรงพยาบาลให้ได้ตาม
00:16:36 → 00:16:39 มาตรฐานด้วยค่ะอืตรงนี้ก็เป็นการส่งเสริม
00:16:39 → 00:16:43 แล้วก็มีสื่อออนไลน์มีเว็บไซต์นะคะหรือ
00:16:43 → 00:16:45 สื่อผ่านโซเชียลมีเดียหรือมีเว็บไซต์ที่
00:16:45 → 00:16:48 ร่วมทำกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยด้วยที่
00:16:48 → 00:16:51 เยาวชนเข้าไปรับรู้ข้อมูลข่าวสารหรือเป็น
00:16:51 → 00:16:54 อ Learning หรือเข้าไปรับถุงยางหรือชุด
00:16:54 → 00:16:57 ตรวจ H ด้วยตัวเองอย่างเงี้ยค่ะค่ะผ่าน
00:16:57 → 00:17:01 เว็บไซต์ก็ได้ค่ะอคุณหมอขอชื่อเว็บไซต์
00:17:01 → 00:17:04 หน่อยได้มยคะคุณหมอพอมีอยู่ตอนนี้ป่ะคะ
00:17:04 → 00:17:07 ค่ะก็ถ้าเว็บไซต์ของตัวภุมโลกก็จะเป็น
00:17:07 → 00:17:10 Buddy Station นะคะ
00:17:10 → 00:17:14 www.b buu ddy แล้วก็ Station นะค่ะ s
00:17:15 → 00:17:18 a t i o n แต่ถ้าเป็นของศิริราชที่
00:17:18 → 00:17:21 ร่วมกับเราก็ใช้คำว่า standby you ได้
00:17:21 → 00:17:26 ค่ะ ST a n d ค่ะ B เป็นรัก by แล้วก็
00:17:26 → 00:17:29 Y อ่ะค่ะหรืออาจจะมีเวบไซต์ของหน่วยงาน
00:17:29 → 00:17:32 ภาคีเครือข่ายภาครัฐภาคประชาสังคมชุมชน
00:17:32 → 00:17:35 อื่นๆอีกนะคะหมอคิดว่าเข้าไปเราอาจจะเข้า
00:17:35 → 00:17:39 ไปพิมพ์ดูแล้วก็พิมพ์ว่าอาจจะพิมพ์คำ
00:17:39 → 00:17:44 เสิร์ชค้นหาค่ะว่าถุงยางอนามัยหรือว่าอ่า
00:17:44 → 00:17:47 ตรวจเอด์ฟรีหรือความรู้ด้านเอดส์หรือ
00:17:47 → 00:17:49 เว็บไซต์บางทีมันอาจจะขึ้นมาเยอะกว่าที่
00:17:49 → 00:17:53 หมอบอกนะคะค่ะครับคุณหมอครับไม่ถามคงไม่
00:17:53 → 00:17:57 ได้อันนี้เป็นคำถามที่แบบเ่าอมตะตลอดกาล
00:17:57 → 00:18:00 ที่เราเริ่มรู้จัก HIV หรือว่าโรคเอดกัน
00:18:00 → 00:18:04 มามาพอสมควรมันจะมีมั้ยครับในอนาคตที่แบบ
00:18:04 → 00:18:08 ว่าพอมันจะรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้เลยมัน
00:18:08 → 00:18:13 จะมียาที่โอ้มาแล้วเปลี่ยนโฉมของการติด
00:18:13 → 00:18:16 HIV ไปเลยค่ะของเอดสเนี่ยแบบที่หมอบอก
00:18:16 → 00:18:20 ตอนแรกณปัจจุบันยาดีมากๆแล้วกินวันละเม็ด
00:18:20 → 00:18:23 สำหรับผู้ติดเชื้อก่อนก็เป็นกำๆเลยใช่
00:18:23 → 00:18:27 มั้ยคุณหมอแต่ไม่หายขาดค่ะยังต้องกินไป
00:18:27 → 00:18:31 ตลอดชีวิตอค่ะถึงแม้ยาจะดีผลข้างเคียง
00:18:31 → 00:18:34 น้อยกินเมื่อก่อนกินหลายเม็ดเนาะเดี๋ยว
00:18:34 → 00:18:36 นี้เหลือเม็ดเดียวแต่ก็ยังต้องกินตลอด
00:18:36 → 00:18:40 ชีวิตอยากให้น้องๆคิดถึงว่าถ้าตัวเองเป็น
00:18:40 → 00:18:42 วัยรุ่นเยาวชนสมมุติว่าเราอายุสัก 18
00:18:42 → 00:18:46 แล้วถ้าเราติดเอดส์เรามียาก้านไวรัสเอดส์
00:18:46 → 00:18:49 ที่ดีกินไปแล้วมีอายุยืนยาวเหมือนคนปกติ
00:18:49 → 00:18:52 เลยสมมุติอายุยืนยาวสัก 88 นั่นหมายความ
00:18:52 → 00:18:56 ว่าน้องจะต้องกินยา 70 ปีอือืยานี่มีผล
00:18:56 → 00:18:59 ข้างเคียงทำให้เอ่อร่างกายอ่อนแอลงมั้ยคะ
00:18:59 → 00:19:01 กเหมือนเหมือนเรากินสเตียรอยด์แล้วกระดูก
00:19:01 → 00:19:04 บางลงอันนี้มีผลข้างเคียงแบบนั้นมั้ยคะ
00:19:04 → 00:19:07 เป็นเป็นมันไม่ถึงขั้นนั้นนะคะจะมีแลแล้ว
00:19:07 → 00:19:10 แต่ยานะคะอย่างที่หมอบอกว่ายาปัจจุบัน
00:19:10 → 00:19:13 เนี่ยดีมากๆแล้วแต่อาจจะมีผลทำให้ไขมัน
00:19:13 → 00:19:16 สูงอาจจะทำให้อ้วนค่ะหรือยาบางตัวอาจจะทำ
00:19:16 → 00:19:20 ให้กระดูกพรนหรือเป็นโรคไตถ้ากินไปนานๆ
00:19:20 → 00:19:24 มันก็ถ้ากินไปนานๆมันก็จะมีผลข้างเคียง
00:19:24 → 00:19:28 ถึงแม้โอกาสจะน้อยก็ตามค่ะมันก็จะต้องออ
00:19:28 → 00:19:33 ไปรักษาแบบผู้ป่วยโรคเรียกว่าโรคไม่ติด
00:19:33 → 00:19:37 ต่อเช่นไขมันสูงอะไรอย่างเงี้ยค่ะเหมือน
00:19:37 → 00:19:39 เหมือนคนที่เป็นโรคเรื้อรังไขมันสูงแบบ
00:19:40 → 00:19:42 นั้นนะคะโรคอ้วนอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันแล้ว
00:19:42 → 00:19:46 แต่ตัวอย่างค่ะอืค่ะเพราะงั้นอย่ากินเลย
00:19:46 → 00:19:51 ดีกว่าค่ะอย่าติดเลยนะคะแต่ถ้าเราไปไปคิด
00:19:51 → 00:19:54 ว่าเรามีพฤติกรรมที่มีโอกาสติดเนี่ยไม่
00:19:54 → 00:19:56 ต้องประเมินไปตรวจเลยค่ะแล้วถ้ารู้เร็ว
00:19:56 → 00:20:00 รักษาเร็วเป็นผลดีค่ะถ้าเรารักษาเร็วดี
00:20:00 → 00:20:03 กับตัวเราแน่นอนอวัยวะหรือร่างกายเราก็จะ
00:20:03 → 00:20:06 แข็งแรงไม่ได้ถูกทำลายไปมากแต่ถ้าเรา
00:20:06 → 00:20:10 ปล่อยให้เชื้อไวรัสมันทำลายอ่าอวัยวะต่าง
00:20:10 → 00:20:12 ๆของเราถึงแม้เราจะมียาดีมันก็ไม่เหมือน
00:20:12 → 00:20:16 ปกติเต็มร้อยอ่ะนะคะเอเปรียบเทียบแบบนี้
00:20:16 → 00:20:19 งั้นรู้เร็วรักษาเร็วก็จะมีชีวิตเหมือนคน
00:20:19 → 00:20:25 ปกติเลยอือค่ะมันจะมีอาการที่บ่งบอกใน
00:20:25 → 00:20:28 ระยะคนที่แบบเอ้ยเป็นหรือเปล่าน้อบ่งบอก
00:20:28 → 00:20:31 ได้สัญญาแจ้งเตือนอะไรเงี้เหรอว่าให้เรา
00:20:31 → 00:20:33 ไปตรวจร่างกายตัวเองซะมันจะเป็นยังไงคุณ
00:20:33 → 00:20:38 หมอมันแยกยากค่ะคือถ้าคนติดเชื้อ hiv
00:20:38 → 00:20:40 ระยะแรกเนี่ยอาทิตย์ 2 อาทิตย์แรกเนี่ยจะ
00:20:40 → 00:20:43 มีอาการเหมือนเหมือนไข้หวาดบางทีอาจจะมี
00:20:43 → 00:20:47 ไข้ปวดเมื่อยตามตัวซึ่งมันแยกไม่ได้หรอก
00:20:47 → 00:20:50 ค่ะบางทีเราอาจจะรู้สึกว่าเราเออเหมือน
00:20:51 → 00:20:53 นอนดึกทำงานหนักหรือเหมือนเป็นหวัดเหมือน
00:20:53 → 00:20:56 อะไรแล้วเดี๋ยวมันหายเองค่ะแล้วก็จะไม่มี
00:20:56 → 00:21:00 อาการไป 7 ถึง 10 ปีแล้วนะคะแล้วค่อยไปพ
00:21:00 → 00:21:04 ภูมิคุ้มกันต่ำมากๆเนี่ยถึงจะไปติดโรคสวย
00:21:04 → 00:21:07 โอกาสอื่นๆตอนเนี้ยถึงจะเห็นชัดอือแต่ใน
00:21:07 → 00:21:10 ระหว่างนี้ตั้งแต่ติดเชื้อมาในช่วงที่ไม่
00:21:10 → 00:21:13 มีอาการ 7-10 ปีนี้ก็แพร่เชื้อไปคนอื่น
00:21:13 → 00:21:17 ได้นะคะค่ะส่วนใหญ่ตัวเราจะไม่รู้ตัวเลย
00:21:17 → 00:21:19 เพราะภูมิคุ้มกันเรายังดีอยู่เราก็จะ
00:21:19 → 00:21:22 เหมือนคนปกติตราบใดที่เชื้อเอดส์ติดไปนาน
00:21:22 → 00:21:25 ๆเชื้อไวรัสมันทำลายเม็ดเลือดขาวทำลาย
00:21:25 → 00:21:28 ภูมิคุ้มกันเราตามจนระดับที่เราจะติดโรค
00:21:28 → 00:21:32 อื่นๆที่คนปกติจะไม่ติดอืค่ะที่หมอบอกว่า
00:21:32 → 00:21:35 ประมาณ 7 ปีเนี่ยนะคะตอนนั้นแหละเราจะ
00:21:35 → 00:21:39 แสดงอาการของโรคต่างๆออกมาไม่ว่าจะเป็น
00:21:39 → 00:21:44 ปอดบวมลิ้นเป็นฝ้าผิวหนังเชื้อราในสมอง
00:21:44 → 00:21:47 เยอะไปหมดเลยค่ะค่ะแต่ตอนนั้นก็ถือว่าช้า
00:21:47 → 00:21:50 ไปแล้วนะคะถึงแม้จะมียาต้านไวรัสเอดบางที
00:21:50 → 00:21:54 ก็ถ้าต่ำมากๆก็เสียชีวิตนะคะอืค่ะเอคุณ
00:21:54 → 00:21:58 หมอคะแล้วสำหรับเอ่อลูกที่รับชืเชื้อ
00:21:58 → 00:22:01 เอดส์มาจากเอ่อ HIV เนี่ยค่ะมาจากแม่
00:22:01 → 00:22:04 เนี่ยเอ่อเขาคมีวิธีในการดูแลตัวเองยังไง
00:22:04 → 00:22:08 สำหรับเด็กเกิดใหม่อ่ะค่ะคือตอนนี้ต้อง
00:22:08 → 00:22:12 อยากจะรณรงคมากเลยว่าให้คุณแม่ไปฝากคัน
00:22:12 → 00:22:16 เพราะว่าถ้าเวลาฝากคันเราจะรณรงคให้ฝาก
00:22:16 → 00:22:19 คันเร็วนะคะตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้องนะคะ
00:22:19 → 00:22:23 ตั้งแต่ 2-3 เดือนแรกเลยจะดีที่สุดแล้วก็
00:22:23 → 00:22:26 จะได้โรงพยาบาลเนี่ยเขาจะคัดกรองโรค
00:22:26 → 00:22:30 ซิฟิลิสโรคเอโรคไวรัสตับอักเสบ B ถ้า
00:22:30 → 00:22:34 สมมุติว่ารู้ว่าแม่ติดเชื้อค่ะก็จะมีวิธี
00:22:34 → 00:22:38 รักษานะคะเพื่อไม่ให้เพื่อนลดให้แม่กินยา
00:22:38 → 00:22:41 ให้แม่เนี่ยมีปริมาณไวรัสในหายหายขาด
00:22:41 → 00:22:44 อย่างซิฟิเนี่ยแม่หายขาดก็จะไม่ไปติดลูก
00:22:44 → 00:22:47 แต่ถ้าเอดกับไวรัสตับบีเนี่ยก็จะกินยา
00:22:47 → 00:22:51 ต้านไวรัสจนระดับไวรัสในแม่ในตับตก็จะไม่
00:22:51 → 00:22:55 ถ่ายทอดเชื้อไปสู่ลูกทารกในท้อง้าโอกาส
00:22:55 → 00:22:58 ที่ลูกจะคลอดออกมาแล้วไม่ติดเชื้อเนี่ย
00:22:58 → 00:23:00 แต่เด็กก็ต้องมีกินยาต้านไวรัสนะคะถ้า
00:23:00 → 00:23:04 เป็นแต่ถ้าเป็นถ้าแม่เป็นไวรัสดับบเด็กก็
00:23:04 → 00:23:07 จะต้องมีวัคซีนมีภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปให้
00:23:07 → 00:23:10 เด็กอะไรอย่างเงี้ยนะคะมันจะมีอยู่แล้ว
00:23:10 → 00:23:14 โอกาสติดเชื้อจะน้อยมากๆค่ะเกือบจะเป็น 0
00:23:14 → 00:23:18 หรือ 1% นะคะอืค่ะพอพูดแต่ถ้าเด็กติดเด็ก
00:23:18 → 00:23:20 ติดเด็กก็ต้องกินยาต้านไวรัสเอดสเหมือน
00:23:20 → 00:23:23 ผู้ใหญ่ค่ะแต่ยาอาจะปริมาณต่างกันอ๋อต้อง
00:23:23 → 00:23:25 กินตั้งแต่กำเนิดเลยป่ะคะหรือว่าต้อง
00:23:25 → 00:23:30 จำนวนกี่ขวบใชใชอืใช่ค่ะออค่ะตั้งแต่
00:23:30 → 00:23:33 กำเนิดเลยใช่มั้คะคุณหมอขาค่ะทีนี้อยากจะ
00:23:33 → 00:23:35 ฝากที่หมอบอกว่าอยากให้ฝากคันเพราะว่าที่
00:23:35 → 00:23:38 เราเจอปัญหาเรื่องซิฟิริสในหญิงตั้งคำภ
00:23:38 → 00:23:41 แล้วส่งให้ลูกเกิดมาเป็นซิฟิริสแล้วเสีย
00:23:41 → 00:23:45 ชีวิตเนี่ยนะคะก็ส่วนใหญ่แล้วมาฝักคันช้า
00:23:45 → 00:23:48 ค่ะค่ะแล้วก็ส่วนนึงก็จะเป็นแม่วัยรุ่น
00:23:48 → 00:23:53 ค่ะที่มาฝักคันช้าหรือบางคนไม่ใช่แม่วัย
00:23:53 → 00:23:56 รุ่นแต่เป็นคนมาฝากคันช้าหรือไปไปฝากคัน
00:23:57 → 00:24:00 ที่รวยบริการภาคเอกชนแล้วพอรู้ว่าเป็น
00:24:00 → 00:24:04 ซิฟิลิสแม่นะคะแล้วก็ได้รับการรักษาไม่
00:24:04 → 00:24:07 ครบถ้วนแล้วก็ไม่ได้มีระบบส่งต่อมาที่โรง
00:24:07 → 00:24:10 พยาบาลรัฐก็คือหายไปจากระบบเลยไปอีกทีลูก
00:24:11 → 00:24:15 ก็คลอดออกมาเป็นเด็กที่ติดซิฟิริสก็เสีย
00:24:15 → 00:24:18 ชีวิตนะคะอันเนี้ยที่เราเจอปัญหาจึงอยาก
00:24:18 → 00:24:21 รณรงให้ทุกคนเลยนะคะผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
00:24:21 → 00:24:25 ไปฝากคันให้เร็วที่สุดค่ะออค่ะซึ่งซึอะไร
00:24:25 → 00:24:28 ก็แล้วแต่ถ้ากับแบบสำหรับกับเด็กนะคุณหมอ
00:24:28 → 00:24:32 นะฮเอเราควรจะรู้เขาก่อนรู้โรคเกี่ยวกับ
00:24:32 → 00:24:37 ใช่คป้องกันก่อนเนาอค่ะนะครับคุณหมอคะเ่อ
00:24:37 → 00:24:40 อันนี้สำหรับเอ่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
00:24:40 → 00:24:44 เนี่ยอ่ามีวัคซีนที่จะช่วยยับยั้งป้องกัน
00:24:44 → 00:24:47 ได้ั้ยคะหรือว่าเอ่อถ้ามีแล้วมีโรคอะไร
00:24:47 → 00:24:50 บ้างคะที่มีวัคซีนดูแลค่ะค่ะคือตอนนี้ที่
00:24:50 → 00:24:53 มีวัคซีนมีแค่ 2 โรคนะคะคือโรคไวรัสตับ
00:24:53 → 00:24:56 อักเสบ B ที่เมื่อกี้หมอพูดถึงเพราะติด
00:24:56 → 00:24:59 ทางเพศสัมพันธ์ได้นะคะอันมีวัคซีนซึ่ง
00:25:00 → 00:25:03 วัคซีนเให้ในเด็กค่ะอยู่ในเด็กอยู่ใน
00:25:03 → 00:25:06 โปรแกรมการให้วัคซีนของเด็กไทยอยู่แล้วนะ
00:25:06 → 00:25:10 คะออค่ะอีกตัวนึงก็คือวัคซีนป้องกัน
00:25:10 → 00:25:14 มะเร็งปากมดลูกอันนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะมี
00:25:14 → 00:25:17 2 ตัวค่ะอืของเอดสยังไม่มีวัคซีนนะคะ
00:25:17 → 00:25:21 เพราะวัคซีนยังไม่ได้ประสิทธิผลดียังไม่
00:25:21 → 00:25:26 มีนะค่ะค่ะออเรื่องนี้ก็คือถ้าจริงๆแล้ว
00:25:26 → 00:25:29 วัคซีนเนี่ยมันก็ยังไม่ครอบคลุมเกี่ยวกับ
00:25:29 → 00:25:33 เรื่องโรคอ่าติดต่อทางเพศสัมพันธ์เนาะใช่
00:25:33 → 00:25:35 ค่ะเพราะว่ามันวัคซีนโรคไหนโรคนั้นมัน
00:25:35 → 00:25:39 ป้องกันได้เฉพาะโรคของตัวเองค่ะค่ะอืเอ่อ
00:25:39 → 00:25:42 คุณหมอคะอันนี้เอ่อมีข้อสงสัยนิดนึงว่า
00:25:42 → 00:25:44 ถ้าผู้ป่วย HIV มีความสัมพันธ์กับผู้ป่วย
00:25:44 → 00:25:48 HIV เอ่อความสัมพันธ์ทางเพศอ่ะนะคะว่า
00:25:48 → 00:25:50 จำเป็นต้องยังต้องใช้ถุงยางมั้ยเพราะก็
00:25:50 → 00:25:53 ติดเชื้อกันทั้งคู่และแต่แต่ว่าคือหรือ
00:25:53 → 00:25:55 ว่าควรจะต้องใช้อยู่เพราะว่าร่างกายของ
00:25:55 → 00:25:58 ทั้งคู่เนี่ก็คือถือว่าเป็นผู้ป่วยที่
00:25:58 → 00:26:01 อ่อนแออยู่มันอาจจะติดเชื้อง่ายจำเป็นค่ะ
00:26:01 → 00:26:05 จำเป็นด้วยเหตุผลอย่างนี้ค่ะเหตุผลแรกก็
00:26:05 → 00:26:09 คือถุงยางอนามัยแบบที่หมอบอกคือสามารถ
00:26:09 → 00:26:12 ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น
00:26:12 → 00:26:15 ได้ค่ะสมมุติว่าเราติดเอดสแต่มันสามารถ
00:26:15 → 00:26:17 ป้องกันโรคไวรัสตาบอักเสบสามารถป้องกัน
00:26:17 → 00:26:21 ซิฟิลิสหนองในหูดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
00:26:21 → 00:26:24 ชนิดอื่นอันนี้คือประโยชน์ที่ยังจะต้อง
00:26:24 → 00:26:28 ใช้อยู่นะคะอันที่ 2 ก็คือสามาป้องกันการ
00:26:28 → 00:26:31 ท้องไม่พร้อมอือือ่าป้องกันการตั้งครรภ์
00:26:31 → 00:26:34 เราไม่จำเป็นจะต้องไปคุมกำเนิดด้วยวิธี
00:26:34 → 00:26:37 อื่นคินยาคุมก็ต้องมีผลข้างเคียงจากยาฉีด
00:26:37 → 00:26:40 ยาคุมอะไรอย่างเงี้ถูกมั้ยคะแต่อันนี้ข้อ
00:26:40 → 00:26:45 ดีนะคะข้อที่ 3 ของเอดเลยก็คือว่าเราคนส
00:26:45 → 00:26:48 เอ่อเชื้อไวรัสเอดสเนี่ยติดเชื้อคนละสาย
00:26:48 → 00:26:51 พันธุ์กันได้ถ้าเราติดเชื้อมาคนละสาย
00:26:51 → 00:26:54 พันธุ์เนี่ยเราไม่รู้หรอกว่าถ้าเราไม่ใช้
00:26:54 → 00:26:56 ถุงยางอนามัยเราจะไปติดเชื้อสายพันธุ์
00:26:56 → 00:26:58 อื่นหรือไปติดเชื้ออคู่ของเราที่เป็น
00:26:58 → 00:27:01 เชื้อดื้อยาถ้าเราไปติดเชื้อดื้อยามาเรา
00:27:01 → 00:27:04 กินยาต้านไวรัสอยู่ดีๆเนี่ยเราก็จะดื้อยา
00:27:04 → 00:27:07 ที่เรากินออถ้าเราดื้อยาจนไม่มียารักษา
00:27:07 → 00:27:10 เราก็จะเสียชีวิตอืค่ะค่ะและอันอัน
00:27:10 → 00:27:12 ประโยชน์อีกอันนึงคือมันเป็นสุขอนามัยทาง
00:27:12 → 00:27:15 เพศค่ะที่เราพูดถึงเรื่องของความสะอาด
00:27:15 → 00:27:19 ด้วยเนาะค่ะต่างๆเหล่านี้นะคะแต่ทีนี้ใน
00:27:19 → 00:27:23 กรณีที่อาจจะมีคนพูดว่าถ้ากินยาต้านไวรัส
00:27:23 → 00:27:27 เอดสดีๆเลยนะคะคือกินอย่างต่อเนื่องลง
00:27:27 → 00:27:31 เวลาทุกวันเนี่ยจะสามารถกดปริมาณไวรัสใน
00:27:31 → 00:27:34 ร่างกายให้ต่ำค่ะต่ำมากๆแบบที่หมอบอกว่า
00:27:34 → 00:27:38 ต่ำจนไม่สามารถที่จะแพร่เชื้อไปสู่คู่นอน
00:27:38 → 00:27:42 อได้ครับแต่นั่นคือเราต้องมั่นใจว่าเากิน
00:27:42 → 00:27:45 ยาต้านไวรัสต่อเนื่องจริงๆจนระดับยาใน
00:27:45 → 00:27:50 ร่างกายเต่ำอืค่ะอ่าแต่คำถามคือเราจะมั่น
00:27:50 → 00:27:54 ใจได้ยังไงนั่นน่ะสิครับอ่าว่าคนๆนั้นที่
00:27:54 → 00:27:57 เรายกตัวอย่างถ้าเราไปมีพฤติกรรมทางเพศ
00:27:57 → 00:28:00 โดยไม่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยอเค้ามีระดับ
00:28:00 → 00:28:04 ไวรัสในร่างกายต่ำจริงๆค่ะที่เราจะไม่ไป
00:28:04 → 00:28:07 ติดเอดสจากเค้าหรือไปแลกสายพันธุ์ดื้อยา
00:28:07 → 00:28:10 กันแต่ที่แน่ๆคือมันไม่ป้องกันโรคติดต่อ
00:28:10 → 00:28:12 ทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นดังนั้นจะต้องใช้
00:28:12 → 00:28:15 ถุงยางอนามัยอยู่ดีค่ะอด้วยประโยชน์ที่
00:28:15 → 00:28:17 เมื่อกี้ที่หมอบอกคือคุณอาจจะไปติดโรค
00:28:17 → 00:28:21 อื่นมาไงออใช่ค่ะอครับมันยังเพราะว่า
00:28:21 → 00:28:24 อย่างที่คุณบอบอกมันมีโรคเดียวกับ
00:28:24 → 00:28:27 เพศสัมพันธ์มันมีค่อนข้างเยอะมากเยอะใช่
00:28:27 → 00:28:31 ค่ะอืมันก็ไม่ควรเอาจริงๆคือไม่ควรจะเป็น
00:28:31 → 00:28:36 หรอกค่ะใช่ค่ะไม่ควรจะเป็นค่ะอือครับผม
00:28:36 → 00:28:40 นอกนอกจากในเรื่องของการป้องกันการดูแล
00:28:40 → 00:28:43 ตัวเองแล้วครับคุณหมอเอ่อโรคเกี่ยวกับ
00:28:44 → 00:28:47 เพศสัมพันธ์หรือว่าแต่ละคนเองเนี่ยเอ่อ
00:28:47 → 00:28:52 จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับอ่าโรคเหล่า
00:28:52 → 00:28:56 นี้มากหน่อยแค่ไหนหรือว่าเอ่ออาจจะเอ้ยก็
00:28:56 → 00:28:59 เป็นแล้วเดี๋ยวเดี๋ยวก็ไปรักษาได้เป็น
00:28:59 → 00:29:02 เป็นแล้วเดี๋ยวก็ดูแลตัวเองเอานะอะไรอย่า
00:29:02 → 00:29:05 เงี้ยเอ่อแต่ความจริงแล้วอย่างที่บอกไป
00:29:05 → 00:29:07 มันมันไม่ควรจะเป็นเลยใช่มั้ยครับเพราะ
00:29:07 → 00:29:10 ว่าอนาคตมันอาจจะส่งผลในระยะยาวหรือเปล่า
00:29:10 → 00:29:13 คุณหมอค่ะมันไม่มีใครอยากเป็นโรกใดโรค
00:29:13 → 00:29:16 หนึ่งนะคะไม่ว่าจะเป็นโรคใดๆก็ตามไม่ใช่
00:29:16 → 00:29:18 แค่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรอกค่ะแล้ว
00:29:18 → 00:29:21 อย่างที่หมอบอกว่าถ้าเราไปติดมาแล้วเรา
00:29:21 → 00:29:25 รู้ช้าเนี่ยมันไปทำลายอวัยวะหรือภายใน
00:29:25 → 00:29:28 หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเราแล้ว
00:29:28 → 00:29:32 เนี่ยบางทีถึงจะมียามันก็ไม่ได้กลับคืนมา
00:29:32 → 00:29:36 เป็นปกติค่ะอืใช่มั้ยคะออ่าแบบนให้คิด
00:29:36 → 00:29:39 อย่างนี้ดีกว่าคือถ้ายิ่งถ้าเรารู้ช้ามัน
00:29:39 → 00:29:42 อาจจะมีผลคือมันอวัยวะบางส่วนถ้าขึ้นสมอง
00:29:42 → 00:29:46 ไปแล้วอ่ะจะไม่ปกติหรือปอดเสียไปแล้วหรือ
00:29:47 → 00:29:50 อวยวะตรงไหนมันถ้ารู้ช้ามันไม่ดีเพราะ
00:29:50 → 00:29:53 งั้นอย่าไปติดมาจะดีกว่าและที่สำคัญที่
00:29:53 → 00:29:56 อยากฝากอีกเรื่องนึงคือคู่ค่ะคู่ของเรา
00:29:56 → 00:30:00 ถ้าวิธีการไม่ว่าจะเป็นคู่ประจำคู่นอนฉา
00:30:00 → 00:30:03 ฉวยหรือใครที่เราไปเจอเพื่อนหรือใครที่
00:30:03 → 00:30:05 เราไปมีพฤติกรรมเสี่ยงกับเขาเนี่ยค่ะสิ่ง
00:30:06 → 00:30:08 ที่อยากฝากก็คือถ้าเราไม่ว่าจะติดเชื้อ
00:30:08 → 00:30:11 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หมออยากจะให้ชวน
00:30:11 → 00:30:15 คู่มาตรวจหรือบอกบอกคู่ให้มาตรวจเพราะว่า
00:30:15 → 00:30:18 ไม่อย่างงั้นเนี่ยเราไม่รู้เราติดจากเ
00:30:18 → 00:30:21 หรือเขาติดจากเราแล้วเเคู่ของเราอาจจะไป
00:30:21 → 00:30:26 แพร่กับคู่คนอื่นๆต่อไปได้อีกโลคมันก็จะ
00:30:26 → 00:30:29 ระบาดในสังคมไทยใช่มั้ยคะแต่ทีเนี้ยเราก็
00:30:29 → 00:30:34 อยากให้คู่หายด้วยเนาะแล้วก็ลดการที่โลก
00:30:34 → 00:30:37 จะไม่ไปติดคนอื่นอีกนะคะอันนี้สำคัญอยาก
00:30:37 → 00:30:39 จะฝากไว้จริงๆเพราะส่วนใหญ่เวลาคนมารักษา
00:30:40 → 00:30:43 จะไม่ค่อยบอกว่าหรือไม่ค่อยไปบอกคู่ไม่
00:30:43 → 00:30:46 กล้าบอกอยู่แล้วแต่ว่ามันบางคนักก็เป็น
00:30:46 → 00:30:49 อาจจะกล้าบอกหรือชวนคู่มาแล้วคุณหมอ
00:30:50 → 00:30:53 พยาบาลเมีวิธีการคุยให้คำปรึกษาที่จะชวน
00:30:53 → 00:30:56 คู่ตรวจอ่ะค่ะเขาคก็จะมีเทคนิคอยู่เพราะ
00:30:56 → 00:30:59 ว่ามันก็ช็อกช็อกโลกของคนๆหนึงที่ไม่เคย
00:30:59 → 00:31:01 รู้ว่าตัวเองจะมีความเสี่ยงเหมือนกันนะ
00:31:01 → 00:31:04 คุณหมอใช่มั้ยเท่าที่เราเคยค่ะแต่โลกติด
00:31:04 → 00:31:06 ต่อทั้งเพศสัมพันธ์ถ้าเป็นซิฟิลิสหนองใน
00:31:06 → 00:31:10 หูดแพ้ลิ่มอออะไรพวกนี้หายขาดได้นะคะยก
00:31:10 → 00:31:13 เว้นเอดสเท่านั้นเองกับไวรัสตับอักเสบ B
00:31:13 → 00:31:16 สำหรับบางคนที่ยังไม่หายขาดแต่บางคนก็หาย
00:31:16 → 00:31:20 เองค่ะค่ะครับอันนี้มีเสียงสะท้อนของคุณ
00:31:20 → 00:31:24 ผู้ฟังมาอ่าว่าเอ๊ะเวลาโครงการเอ่อตรวจ
00:31:24 → 00:31:26 HIV เนี่ยฟรีเนี่ยเป็นโครงการที่ดีนะคะ
00:31:26 → 00:31:30 แต่ว่าเวลาเดินเข้าไปขอตรวจเนี่ยมีแบบสอบ
00:31:30 → 00:31:34 ถามเยอะมากถามละเอียดมากเอ่อเป็นไปได้มย
00:31:34 → 00:31:38 ที่อาจจะเอ่อไม่มีการตอบแบบสอบถามหรือว่า
00:31:38 → 00:31:41 ตรวจแล้วเเอ่อค่อยแบบมาฟังผลทีหลังอะไร
00:31:42 → 00:31:45 เงี้ยค่ะเหตุผลของการต้องมีแบบสอบถามข้อ
00:31:45 → 00:31:47 คำถามเยอะๆเนี่ยเพราะอะไรคะคุณหมอ HIV
00:31:47 → 00:31:51 ใช่มั้ยคะใช่ค่ะคือส่วนนึงเนี่ยเป็นการ
00:31:51 → 00:31:54 ประเมินความเสี่ยงเนาะคือส่วนนึงก็เรียก
00:31:54 → 00:31:57 ว่าเป็นการให้คำปรึกษามากกว่านะคะคือส่วน
00:31:57 → 00:32:00 หนึงเขาจะประเมินความเสี่ยงว่าเราไปติด
00:32:00 → 00:32:03 ติดมาจากช่องทางไหนส่วนนึงเขาประเมิน
00:32:03 → 00:32:06 เพื่อที่จะดูว่าเรื่องคู่เมื่อกี้ที่หมอ
00:32:06 → 00:32:09 บอกนะคะแล้วส่วนนึงเนี่ยก็จะเป็นการ
00:32:09 → 00:32:11 เตรียมความพร้อมเเรียกว่าเป็นการให้คำแนะ
00:32:11 → 00:32:16 นำก่อนว่าถ้าผลบวกถ้าจะออกมาผลบวกหรือผล
00:32:16 → 00:32:19 ลบเนี่ยหมายถึงให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้
00:32:19 → 00:32:21 นิดนึงค่ะก่อนจะตรวจเอดส์เพราะว่าบางคน
00:32:21 → 00:32:25 เนี่ยถ้าบวกแล้วช็อกเลยอือือนะคะแต่หลัง
00:32:25 → 00:32:27 จากตรวจแล้วเนี่ยเาก็จะต้องมีการให้คำ
00:32:27 → 00:32:31 ปรึกษาซ้ำอีกนะคะกำนับเอดอันนี้คือวิธี
00:32:31 → 00:32:34 ที่ไปตรวจที่โรงพยาบาลที่มีคำถามคุณผู้
00:32:34 → 00:32:39 ฟังมานะคะแต่เดี๋ยวนี้ถ้าเราไม่อยากให้คำ
00:32:39 → 00:32:43 ถามเยอะหรือไปนั่งเอ่อพู้ให้คำปรึกษา
00:32:43 → 00:32:46 พยาบาลนั่งคุยเยอะเนี่ยเรามีชุดตรวจ HIV
00:32:46 → 00:32:49 ด้วยตัวเองเหมือน atk ที่ตรวจโควิดอ่ะค่ะ
00:32:49 → 00:32:53 มีแล้วนะคะอันนี้ก็คือจะไม่มีใครมาให้คำ
00:32:53 → 00:32:55 แนะนำนะคะเพราะเป็นชุดตรวจด้วยตัวเองเวลา
00:32:55 → 00:32:58 ไปรับมาไปรับฟรีมาตรวจเนี่ยเขาก็จะสอน
00:32:58 → 00:33:01 วิธีการใช้อาจจะหาดูได้จากแอปเป๋าตังค์
00:33:01 → 00:33:05 หรือคลิปวดีโอ YouTube ทั่วไปเลยนะคะหรือ
00:33:05 → 00:33:08 ในใช้เสร็จมันจะเป็นการให้ข้อมูลวิธีการ
00:33:08 → 00:33:11 ใช้ชุดตรวจแต่เขาก็จะบอกอ่ะค่ะว่าถ้าผล
00:33:11 → 00:33:14 บวกหรือผลลบจะต้องทำยังไงต่อถ้าเป็นผลบวก
00:33:15 → 00:33:17 ชุดตรวจด้วยตัวเองต้องบอกว่าเป็นการคัด
00:33:17 → 00:33:21 กรองเบื้องต้นต้องไปตรวจเอดสที่โรงพยาบาล
00:33:21 → 00:33:24 ซ้ำเพื่อตรวจยืนยันอีกครั้งหนึว่าเป็น
00:33:24 → 00:33:27 หรือไม่เป็นค่ะนะคะเพราะฉะนั้นนั้นเนี่ย
00:33:27 → 00:33:30 อันเนี้ยก็มีแล้วนะคะถ้าคนที่ไม่ชอบให้อ
00:33:30 → 00:33:35 มีการซักถามทำแบบสอบถามเยอะอ่ะค่ะค่ะค่ะ
00:33:35 → 00:33:38 มีคำถามอีกคำถามนึงค่ะว่าเอ่อคนเป็นโรค
00:33:38 → 00:33:43 เอดสทำไมเอ่อเป็นทำคนเป็นโรคเอดสทำไมดำๆ
00:33:43 → 00:33:47 เป็นผู้หญิงคือผิวดำผผิวเอ่อน่าจะเป็นสี
00:33:47 → 00:33:51 ผิวหรือเปล่าคะอาจจะเป็นแบบเอ่อสีผิวที่
00:33:51 → 00:33:54 ไม่เรียบสีเสมอกันหรืออันนี้ไม่แน่ใจว่า
00:33:54 → 00:33:58 อ่านถูกหรือเปล่าค่ะคุณมอมสีผิวคสมัยก่อน
00:33:58 → 00:34:01 ที่ที่หมอบอกว่าในอดีตที่ที่เมื่อกี้หมอ
00:34:01 → 00:34:03 เล่าว่าถ้ายังไม่ได้ติดเชื้อ H แล้วยัง
00:34:03 → 00:34:06 ไม่ได้รับประทานยาต้านไวรัสเอกเนี่ยพอ
00:34:06 → 00:34:10 ภูมิคุ้มกันต่ำมากๆก็จะติดเชื้อนะคะแล้ว
00:34:10 → 00:34:13 พอติดเชื้อมันก็จะมีทั้งโรคต่างๆที่ทำให้
00:34:13 → 00:34:17 สีผิวออกจะดูดำๆผอมๆได้ค่ะหรือเป็นผื่น
00:34:17 → 00:34:21 แผลที่ผิวหนังก็มีนะคะค่ะออันนั้นก็เกิด
00:34:21 → 00:34:24 จากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสแล้วแต่ชนิดนะคะ
00:34:24 → 00:34:27 แต่ณปัจจุบันอย่างที่หมอบอกว่าคนกินยา
00:34:27 → 00:34:30 ต้านไวรัสผู้ติดเชื้อ H ในประเทศไทยตอน
00:34:30 → 00:34:32 นี้มีอยู่ที่กินยาต้านไวรัสอยู่นะคะ
00:34:32 → 00:34:37 56,000 คนนะคะยืมนะคะซึ่งก็ใช้ชีวิตได้
00:34:37 → 00:34:40 เหมือนคนปกติเพราะฉะนั้นณตอนเนี้เราแทบจะ
00:34:40 → 00:34:43 มองไม่เห็นคนที่สีผิวเป็นแบบนั้นแล้วนะคะ
00:34:43 → 00:34:47 นอกจากคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองติดและภูมิ
00:34:47 → 00:34:51 คุ้มกันต่ำมากๆจริงๆค่ะอืค่ะอันนี้ถ้า
00:34:51 → 00:34:54 เกี่ยวกับโลคนะคะแต่ถ้าเรื่องสีผิวคนผิว
00:34:54 → 00:34:57 ค้ำผิวดำอันอันนี้อีกเรื่องนึงนะคะสำหรับ
00:34:57 → 00:35:01 คนหลายเชื้อชาติหลายหลายภูมิภาคนะคะค่ะ
00:35:01 → 00:35:05 ครับผมเอ่อมีคุณผู้ฟังสอบถามมาเพิ่มเติม
00:35:05 → 00:35:08 อีกสักเล็กน้อยเป็นข้อสงสัยครับคุณหมอว่า
00:35:08 → 00:35:11 เ่อปัจจุบันเองเนี่ยเรื่องของการตรวจเอ่อ
00:35:11 → 00:35:15 ตรวจหาเชื้อดส์ HIV เองเนี่ยครับปัจจุบัน
00:35:15 → 00:35:18 ต้องไปแค่เฉพาะหรือว่าการรักษาเต้องไป
00:35:18 → 00:35:21 เฉพาะที่เราจะได้ยินบ่อยๆคลินิกนิรนาม
00:35:21 → 00:35:23 เท่านั้นหรือเปล่าหรือว่าโรงพยาบาลทั่วไป
00:35:23 → 00:35:27 ปัจจุบันมีครบวงจรแล้วหรือยังไงครับคุณ
00:35:27 → 00:35:30 หมอครับการตรวจใช่มั้ยคะทุกวันนี้เนี่ย
00:35:30 → 00:35:33 การตรวจและรักษามีมานานแล้วนะคะที่โรง
00:35:33 → 00:35:37 พยาบาลครบวงจรนะคะคค่ะไปตรวจแล้วก็รักษา
00:35:37 → 00:35:40 ได้เลยนะคะอืแล้วก็ณตอนนี้เนี่ยเอ่อ
00:35:40 → 00:35:44 เยาวชนวัยรุ่นเด็กๆสามารถตรวจเอดส์ได้โดย
00:35:44 → 00:35:47 ไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองนะคะอืเพราะว่า
00:35:47 → 00:35:50 บางทีเด็กไม่กล้าไงคะเวลาไปขอไม่กล้าไป
00:35:50 → 00:35:54 บอกผู้ปกครองก็ทำให้เด็กไม่ได้ตรวจออเด็ก
00:35:54 → 00:35:56 กับเยาวชนตอนนี้ที่เราบอกว่าก็มีโอกาสติด
00:35:56 → 00:36:00 เชื้อดังนั้นเนี่ยสามารถไปที่สถานบริการ
00:36:00 → 00:36:04 ทางทางสาธารณสุขได้เลยนะคะครับหรือจะจะไป
00:36:04 → 00:36:07 ขอรับทุกตรวจด้วยตัวเองก็ได้นะคะอืแต่ถ้า
00:36:07 → 00:36:10 เด็กมากๆหมอแนะนำให้ไปรับการตรวจที่โรง
00:36:11 → 00:36:14 พยาบาลจะดีกว่าก็จะมีคนให้คำแนะนำวิธีการ
00:36:14 → 00:36:16 ตรวจการให้คำปรึกษาเหล่านี้ค่ะซึ่ง
00:36:16 → 00:36:20 ปัจจุบันเองเอ่อเรื่องของผลตรวจเองก็ยัง
00:36:20 → 00:36:24 ปกปิดเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ใช่ค่ะ
00:36:24 → 00:36:27 อยู่ใช่ค่ะอืใช่ค่ะเพราะว่า
00:36:27 → 00:36:30 อะไอ๋อเรื่องเรื่องนี้เป็นสิทเป็นเรื่อง
00:36:30 → 00:36:32 ของข้อมูลการรักษานะคะไม่ใช่แค่โรคเอดนะ
00:36:32 → 00:36:36 คะทุกโรกเป็นความลับของผู้ป่วยนะคะโรง
00:36:36 → 00:36:40 พยาบาลจะไม่เปิดเผยให้เป็นจาบันไปไปทุก
00:36:40 → 00:36:43 โรคทุกโรอยู่แล้วเใช่แล้วยิ่งถ้าเป็นโรคไ
00:36:43 → 00:36:46 HIV เนี่ยซึ่งเป็นโรคที่อันเนี้ยจะยิ่ง
00:36:46 → 00:36:50 ป้องกันมากอืมระดับั้นความรับสุดเลยใช่
00:36:50 → 00:36:53 มั้ใช่แต่ทุกโรคนะคะเป็นความรับของผู้
00:36:53 → 00:36:56 ป่วยไม่เปิดเผยอยู่แล้วค่ะอันนั้นไว้ใจ
00:36:56 → 00:37:01 ได้ค่ะค่ะออืค่ะเอ่ออีกสักคำถามครับคุณ
00:37:01 → 00:37:04 หมอครับทิ้งท้ายซะหน่อยฮะเอ่อขบวนการที่
00:37:04 → 00:37:08 ยาต้านไวรัสเทำให้มีไขมันสูงเอ่อกินยา
00:37:08 → 00:37:11 ต้านไวรัสเทำให้มีไขมันสูงหรือเปล่าหรือ
00:37:11 → 00:37:15 เปล่าครับคุณหมอครับค่ะแล้วแต่ยาที่ทานนะ
00:37:15 → 00:37:18 คะแต่ยาสูตรพื้นฐานณปัจจุบันเนี่ยจะทำให้
00:37:18 → 00:37:22 มีไขมันสูงแล้วก็อ้วนได้ถ้ากินไปนานๆนะคะ
00:37:22 → 00:37:25 ค่ะอืเพราะฉะนั้นคุณหมอเนี่ยเคก็จะนัด
00:37:25 → 00:37:28 ตรวจค่ะทุกคนที่กินยาต้านไวรัสเอดส์เนี่ย
00:37:28 → 00:37:30 เอ่อหมอเค้าก็จะนัดอ่ะค่ะแล้วแต่โรง
00:37:30 → 00:37:33 พยาบาลจะนัด 3 เดือน 4 เดือนหรือ 6 เดือน
00:37:33 → 00:37:37 เวลานัดไปตรวจอืคุณหมอเก็จะมีตรวจไขมัน
00:37:37 → 00:37:41 ตรวจไตตรวจตับตรวจอะไรแล้วแต่ยาที่กินคือ
00:37:41 → 00:37:44 เหมือนเช็คสุขภาพด้วยอ่ะนะคะก็อยากแนะนำ
00:37:44 → 00:37:47 ให้ไปตามนัดเพราะยังไงก็ต้องไปรับยาอยู่
00:37:47 → 00:37:50 แล้วนะคะอืออือค่ะแล้วบางทีเราพอเราโต
00:37:50 → 00:37:54 ขึ้นเหมือนเหมเราสูงอายุขึ้นเนาะเราก็จะ
00:37:54 → 00:37:56 เหมือนคนอื่นน่ะแเราก็กินขนมหวานอันนี้
00:37:56 → 00:37:59 อาจจะไม่เกี่ยวกับยาก็ได้เราก็อาจจะเป็น
00:37:59 → 00:38:02 น้ำตาลสูงค่ะอ่าเป็นเบาหวานอะไรอย่าง
00:38:02 → 00:38:06 เงี้ยค่ะเป็นไขมันสูงเป็นความดันอันนี้
00:38:06 → 00:38:08 อันนี้ยังไงก็ต้องไปอยู่แล้วนะคะต้องแต่
00:38:08 → 00:38:12 ต้องดูว่าเกิดจากยาหรือว่าเกิดจาก
00:38:12 → 00:38:16 พฤติกรรมการกินอาหารของเราค่ะแบบเนี้ยค่ะ
00:38:16 → 00:38:19 ค่ะครับคุณหมอค่ะค่ะคุณหมอคะเ่าคุณหมอ
00:38:19 → 00:38:21 อยากฝากหรือทิ้งท้ายอะไรถึงคุณผู้ฟังที่
00:38:21 → 00:38:23 ฟังอยู่ตอนนี้บ้างเกี่ยวกับเรื่องเอ่อ
00:38:23 → 00:38:27 สุขภาพทางเพศเอ่อให้คุณผู้ฟัง
00:38:27 → 00:38:31 เอ่อได้ตระหนักมากยิ่งขึ้นน่ะค่ะค่ะหมอ
00:38:31 → 00:38:35 อยากให้ทุกคนมองเรื่องของโรคเอดสเนี่ย
00:38:35 → 00:38:38 เป็นเค้าเรียกว่าอย่าตีตาและเลือกปฏิบัติ
00:38:38 → 00:38:41 นะคะอคอือเพราะว่าไม่ได้ติดต่อกันง่ายๆ
00:38:41 → 00:38:44 ใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้ถ้าเราไม่
00:38:44 → 00:38:49 รังเกียจไม่ตีตาเราก็จะไม่รู้สึกว่าโลก
00:38:49 → 00:38:52 เนี้ยเราจะไม่กล้าเข้าไปตรวจเพราะฉะนั้น
00:38:52 → 00:38:53 เนี่ยอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าโลกนี้เหมือน
00:38:54 → 00:38:56 โลกทั่วๆไปไม่ได้ผิดอย่าง่ายๆแล้วก็ถ้า
00:38:56 → 00:39:00 คิดว่าตัวเองไปมีพฤติกรรมที่อาจจะติดได้
00:39:00 → 00:39:02 ครับไม่ต้องประเมินความเสี่ยงนะคะเพราะ
00:39:02 → 00:39:05 ทุกคนเนี่ยมีโอกาสที่เราไม่รู้เลยว่าใคร
00:39:05 → 00:39:08 ที่จะเป็นโอกาสแพทยเสื้อมาให้เราไปตรวจ
00:39:08 → 00:39:11 เลยค่ะเพราะทุกวันนี้มีชุดตรวจฟรีตรวจ
00:39:11 → 00:39:15 เร็วรักษาเร็วดีกับตัวเองนะคะและแนะนำให้
00:39:15 → 00:39:17 ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
00:39:17 → 00:39:22 กับทุกคู่นอนค่ะนะคะเพราะจะป้องกันได้ทุก
00:39:22 → 00:39:25 โรคของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถ่ายทอด
00:39:25 → 00:39:29 มาทางเพศสัมพันธ์นี้นะคะอืค่ะครับขอบคุณ
00:39:29 → 00:39:31 ครับคุณหมอครับที่มาให้ความรู้ในวันนี้
00:39:31 → 00:39:34 แล้วก็น่าจะเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนเ่อหลายๆ
00:39:34 → 00:39:36 คนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นนะครับให้รู้จัก
00:39:36 → 00:39:39 เท่าทันเกี่ยวกับโรคเอดส์นะครับใน
00:39:39 → 00:39:41 ปัจจุบันนี้ด้วยวันนี้ขอบคุณมากครับคุณ
00:39:41 → 00:39:46 หมอครับค่ะขอบคุณค่ะสวัสดีสวัสดีค่ะแพทย์
00:39:46 → 00:39:49 หญิงชีวนันท์เลิศพิริยสุวัฒน์นะคะผู้
00:39:49 → 00:39:51 อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทาง
00:39:51 → 00:39:56 เพศสัมพันธ์กรมควบคุมโรคค่ะ