00:00:00 → 00:00:07 [เพลง]
00:00:12 → 00:00:16 สัปดาห์นี้นะคะเราจะมารู้จักกับโรคลมหลับ
00:00:16 → 00:00:19 อันตรายหลับเฉียบพลัไม่รู้ตัวค่ะโรคนี้นะ
00:00:19 → 00:00:22 คะหลายคนค่ะอาจจะนึกไม่ถึงว่ามีอยู่จริง
00:00:22 → 00:00:25 หรือจริงๆแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างไปรับชม
00:00:25 → 00:00:29 พร้อมๆกันค่ะโรคลมหลับเป็นโรคที่เกิดจาก
00:00:29 → 00:00:33 สารไินซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญใน
00:00:33 → 00:00:36 การควบคุมการตื่นต่ำกว่าปกติทำให้เกิด
00:00:36 → 00:00:39 ความผิดปกติของสมองในการควบคุมวงจรการ
00:00:39 → 00:00:42 หลับและตื่นส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการง่วง
00:00:42 → 00:00:45 นอนตอนกลางวันมากผิดปกติเผลอหลับได้ง่าย
00:00:45 → 00:00:48 และอาจหลับแม้ในสถานการณ์หรือสถานที่ที่
00:00:48 → 00:00:52 ไม่ควรหลับผู้ป่วยบางรายอาจมีคาเพลกคือ
00:00:52 → 00:00:55 การที่กล้ามเนื้ออ่อนแรงล้มพับลงกับพื้น
00:00:55 → 00:00:59 เวลาที่มีอารม์เปลี่ยนแปลงนอกจากนี้อาจมี
00:00:59 → 00:01:02 อาการไม่สามารถขยับตัวได้ขณะจะตื่นคล้าย
00:01:02 → 00:01:05 ผีอำหรือเห็นภาพหลอนช่วงครึ่งหลับครึ่ง
00:01:05 → 00:01:09 ตื่นปกติเราจะเข้าสู่การนอนหลับผ่านช่วง
00:01:09 → 00:01:12 การนอนหลับตื้นหรือ non rapid Eye
00:01:12 → 00:01:16 movement หรือนน R Stage N1 ซึ่งความ
00:01:16 → 00:01:19 ถี่คลื่นสมองเริ่มช้าลงตามด้วยการนอนหลับ
00:01:19 → 00:01:24 ที่ระดับลึกขึ้นหรือ Stage n2 และ n
00:01:24 → 00:01:28 แล้วจึงค่อยย้อนทางกลับตื้นขึ้นจนเข้าสู่
00:01:28 → 00:01:32 การหลับแบบ rid E movement หรือ remem
00:01:32 → 00:01:36 ซึ่งเราจะฝันในช่วงนี้ผู้ป่วยโรคลมหลับจะ
00:01:36 → 00:01:39 เข้าสู่การหลับในระดับเลมทันทีโดยไม่ผ่าน
00:01:39 → 00:01:42 ช่วงนอนหลับแบบนอนเร็มไม่ว่าจะเป็นการนอน
00:01:42 → 00:01:47 ตอนกลางวันหรือกลางคืนประเภทของโรคลมหลับ
00:01:47 → 00:01:50 แบ่งออกได้ดังต่อไปนี้โรคลมหลับประเภทที่
00:01:50 → 00:01:53 1 เป็นโรคลมหลับพร้อมกับมีอาการกล้าม
00:01:53 → 00:01:57 เนื้ออ่อนแรงชนิดคาาแกซี่โรคลมหลับประเภท
00:01:57 → 00:02:00 ที่ 2 เป็นโรคลมหลับที่ไม่มีอาการกล้าม
00:02:00 → 00:02:04 เนื้ออ่อนแรงสาเหตุของโรคลมหลับนั้นยัง
00:02:04 → 00:02:07 ไม่ทราบสาเหตุแต่พบว่าผู้ป่วยโรคลมหลับ
00:02:07 → 00:02:09 แบบที่ 1 และผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:02:09 → 00:02:17 แบบคาราแกซี่มีระดับของ
00:02:17 → 00:02:20 ไฮโปคลอรัส
00:02:20 → 00:02:29 เสียเซลล์ผลิตไฮโปคลอรัส
00:02:29 → 00:02:33 การติดเชื้อหรือสัมผัสสารพิษปัจจัยเสี่ยง
00:02:33 → 00:02:36 ที่ทำให้เกิดโรคลมหลับเท่าที่ทราบนั้นมี
00:02:36 → 00:02:40 ไม่มากนักเช่นอายุผู้ป่วยโรคลมหลับมัก
00:02:40 → 00:02:44 เริ่มมีอาการเมื่ออายุ 10-30 ปีประวัติ
00:02:44 → 00:02:48 ครอบครัวผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวสายตรง
00:02:48 → 00:02:50 เป็นโรคลมหลับมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคลม
00:02:51 → 00:02:55 หลับสูงถึง 20-40 เท่าอาการของโรคลมหลับ
00:02:55 → 00:02:59 มีดังต่อไปนี้อาการง่วงนอนมากผิดปกติทำ
00:02:59 → 00:03:02 ให้ผู้ป่วยหลับได้ทุกที่ทุกเวลาโดยอาจ
00:03:02 → 00:03:05 พลอยหลับไปในขณะที่ทำงานหรือคุยอยู่โดย
00:03:05 → 00:03:08 ไม่มีอาการเตือนล่วงหน้าหลังจากตื่นนอน
00:03:08 → 00:03:11 ผู้ป่วยจะรู้สึกสดชื่นแต่ในมิชาก็จะพลอย
00:03:11 → 00:03:14 หลับไปอีกผู้ป่วยจึงมีปัญหาในการจดจ่อกับ
00:03:14 → 00:03:17 การทำงานการเรียนหนังสือหรือการทำกิจกรรม
00:03:18 → 00:03:21 ประจำวันอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดคัา
00:03:21 → 00:03:24 เพลกเป็นอาการที่บังคับกล้ามเนื้อไม่ได้
00:03:24 → 00:03:27 เกิดขึ้นเมื่อมีอารมณ์รุนแรงเช่นความรู้
00:03:27 → 00:03:30 สึกกลัวโกรธตื่นเต้นเป็นต้นเมื่อผู้ป่วย
00:03:30 → 00:03:33 หัวเราะอาจเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:03:33 → 00:03:37 เช่นคอตกเข่าอ่อนผู้ป่วยโรคลมหลับบางราย
00:03:37 → 00:03:40 เท่านั้นที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:03:40 → 00:03:44 การเป็นอัมพาตขณะหลับหรือผีอำเป็นอาการ
00:03:44 → 00:03:47 ที่ขยับเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้เมื่อผลอย
00:03:47 → 00:03:50 หลับหรือกำลังตื่นนอนมักเกิดขึ้นเพียง 2-3
00:03:50 → 00:03:54 วินาทีหรือ 2-3 นาทีแต่อาจทำให้ผู้ป่วย
00:03:54 → 00:03:57 กลัวการเป็นอัมพาตตอนนอนคล้ายกับกลไกของ
00:03:57 → 00:04:00 ร่างกายตอนหลับลึกซึ่งจะป้องกันร่างกาย
00:04:00 → 00:04:03 ไม่ให้ขยับไปมาขณะฝันผู้ที่มีอาการอัมพาต
00:04:03 → 00:04:07 ตอนนอนอาจไม่ได้เป็นโรคลมหลับการเห็นภาพ
00:04:07 → 00:04:11 หลอนสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทเห็นภาพ
00:04:11 → 00:04:14 หลอนตอนลอยหลับเห็นภาพหลอนตอนเริ่มรู้สึก
00:04:14 → 00:04:18 ตัวขณะตื่นนอนการเห็นภาพหลอนอาจรู้สึกสม
00:04:19 → 00:04:22 จริงและน่ากลัวสำหรับผู้ป่วยโรคลมหลับ
00:04:22 → 00:04:25 เพราะผู้ป่วยยังหลับไม่สนิทและคิดว่าความ
00:04:25 → 00:04:29 ฝันคือความจริงสำหรับการวินิจฉัยค่ะสามา
00:04:29 → 00:04:32 ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของระบบ
00:04:32 → 00:04:35 ประสาทหรือว่าโรคของการนอนนั้นวินิจฉัย
00:04:35 → 00:04:38 โดยการตรวจดังต่อไปนี้ค่ะการซักถาม
00:04:38 → 00:04:41 ประวัติการนอนหลับรวมถึงการพูดคุยถึง
00:04:41 → 00:04:45 นิสัยการนอนหลับในแต่ละวันและการทำ fw
00:04:45 → 00:04:48 sleepiness scale ซึ่งเป็นการสอบถาม
00:04:48 → 00:04:51 เพื่อวัดระดับความง่วงนอนการบันทึกการนอน
00:04:52 → 00:04:54 หลับทำได้โดยการเขียนไดอารี่การนอนหลับ
00:04:54 → 00:04:57 เพื่อบันทึกตารางการตื่นนอนและการนอนหลับ
00:04:57 → 00:05:01 โดยแพทย์อาจให้ผู้ป่วยใส่กราฟซึ่งคล้าย
00:05:01 → 00:05:04 กับนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะเพื่อประเมินการ
00:05:04 → 00:05:07 ทำกิจกรรมระหว่างวันรูปแบบการนอนหลับและ
00:05:07 → 00:05:11 ตื่นนอนและนาฬิกาชีวิตการตรวจการนอนหลับ
00:05:11 → 00:05:14 คือการสังเกตการหายใจและวัดคลื่นไฟฟ้าของ
00:05:14 → 00:05:17 สมองและหัวใจและการเคลื่อนไหวของดวงตาและ
00:05:17 → 00:05:20 กล้ามเนื้อผู้ป่วยอาจต้องนอนที่โรงพยาบาล
00:05:20 → 00:05:23 เพื่อทำการตรวจการตรวจความง่วงนอนเป็นการ
00:05:23 → 00:05:26 ตรวจเวลาที่เริ่มง่วงนอนผู้ที่เป็นโรคลม
00:05:26 → 00:05:29 หลับจะหลับง่ายและมักเริ่มหลับลึกภายใน 15
00:05:29 → 00:05:30
00:05:30 → 00:05:34 นาทีขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:05:34 → 00:05:37 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:05:37 → 00:05:41 ไลค์กดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:05:41 → 00:05:44 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:05:44 → 00:05:51 การสดคลิปวดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะคะ