00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:35 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังทุก
00:00:41 → 00:00:43 ท่านคะเรื่องที่จะมาพูดคุยกันเป็นเรื่อง
00:00:44 → 00:00:46 เกี่ยวกับโรคต้อหินค่ะเราจะมาทำความรู้
00:00:46 → 00:00:50 จักค่ะว่าโรคต้อหินเกิดจากอะไรใครบ้างที่
00:00:50 → 00:00:53 เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้นะคะแล้วสาเหตุ
00:00:53 → 00:00:55 ปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดโรคนี้เกิดขึ้น
00:00:55 → 00:00:58 ได้ยังไงเราสามารถป้องกันให้เราและคนที่
00:00:59 → 00:01:01 เรารักเนี่ยห่างไกไจากโลคนี้ได้อย่างไร
00:01:01 → 00:01:03 บ้างผู้ที่จะมาให้ข้อมูลกับเราท่านคือ
00:01:04 → 00:01:06 อาจารย์แพทย์หญิงพิชญาบุณนิวัฒเจริญ
00:01:07 → 00:01:09 อาจารย์ประจำภาควิชาจักสุวิทยาคณะ
00:01:09 → 00:01:12 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะสวัสดี
00:01:12 → 00:01:16 ค่ะอาจารย์หมอสวัสดีค่ะเรื่องที่จะมาพูด
00:01:16 → 00:01:17 คุยกันวันนี้นะคะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรค
00:01:18 → 00:01:20 ต้อหินค่ะหลายคนอาจจะเคยอ่านบทความบ้าง
00:01:20 → 00:01:23 แล้วเลยอยากจะมาทำความรู้จักเรื่องนี้มาก
00:01:23 → 00:01:25 ขึ้นค่ะเพื่อให้ผู้ฟังเนี่ยได้ให้ความ
00:01:25 → 00:01:28 สำคัญกับเรื่องโรคต้อหินกันมากขึ้นนะคะ
00:01:28 → 00:01:31 ค่ะยินดีมากๆเลยค่ะเพราะว่าโรคต้อหิน
00:01:31 → 00:01:33 เนี่ยจริงๆเป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อย
00:01:33 → 00:01:36 แล้วก็เป็นโรคที่ทำให้เกิดตาบอดถาวรได้
00:01:36 → 00:01:39 ค่อนข้างเยอะค่ะแล้วก็เนื่องจากจะมี
00:01:39 → 00:01:42 สัปดาห์เต้อหินด้วยก็คิดว่าจะเป็นโอกาส
00:01:42 → 00:01:44 ที่ดีเลยค่ะที่จะมาประชาสัมพันธ์เรื่อง
00:01:44 → 00:01:47 ของต้อหินค่ะงั้นก่อนอื่นเรามาทำความรู้
00:01:47 → 00:01:49 จักกันนิดนึงนะคะว่าโรคต้อหินเนี่ยมัน
00:01:49 → 00:01:52 เกิดจากอะไรคะค่ะโรคต้อหินเนี่ยเป็นการ
00:01:52 → 00:01:55 เสื่อมของตัวคั่วประสาทตาค่ะโรคต้อหิน
00:01:55 → 00:01:58 เนี่ยเกิดจากในลูกตาของเราจะมีการสร้าง
00:01:58 → 00:02:01 น้ำเพื่อในการหล่อเลี้ยงลูกตาแต่การระบาย
00:02:01 → 00:02:04 น้ำเนี่ยเกิดไม่ดีทำให้เกิดความดันตาที่
00:02:04 → 00:02:07 สูงขึ้นแล้วไปกดเปลี่ยนทำให้เส้นประสาทตา
00:02:07 → 00:02:11 ถูกทำลายพอถูกทำลายไปการมองเห็นก็จะลดลง
00:02:11 → 00:02:16 ค่ะโดยเฉพาะลานสายตาจะแคบลงค่ะค่ะแล้วแบบ
00:02:16 → 00:02:20 นี้เราสามารถหาสาเหตุหรือปัจจัยมันได้ไหม
00:02:20 → 00:02:23 คะอาจารย์ค่ะสำหรับโรคโตหินเนี่ยจึงจะ
00:02:23 → 00:02:25 แบ่งเป็น 2 อันหลักๆค่ะก็คือไม่มีสาเหตุ
00:02:25 → 00:02:27 ที่แน่ชัดมักจะเป็นเกี่ยวข้องกับการ
00:02:27 → 00:02:31 พันธุกรรมหรือว่าสิ่งแวอื่นๆค่ะอที่ 2
00:02:31 → 00:02:34 คือมีสาเหตุอย่างเช่นการใช้ยาบางอย่าง
00:02:34 → 00:02:37 อย่างเช่นพวกสเตอรอยด์ค่ะอค่ะแล้วก็
00:02:37 → 00:02:40 สำหรับการแยกย่อยออกไปตต้าหินก็จะมีชนิด
00:02:40 → 00:02:43 มุมเปิดกับชนิดมุมปิดอย่างที่เรียนไปแล้ว
00:02:43 → 00:02:47 ว่าการระบายน้ำจะระบายที่มุมตาค่ะพอมุมตา
00:02:47 → 00:02:50 เปิดแปลว่ามันจะมีการอุดตันเล็กๆน้อยๆทำ
00:02:50 → 00:02:53 ให้คางระบายมันไม่ดีแต่มุมตาปิดตรงเนี้ย
00:02:53 → 00:02:57 มันจะทำให้เกิดการปิดเฉียบพันธุ์ค่ะคนไข้
00:02:57 → 00:03:01 ก็จะมีอาการปวดตาตามัวเฉียบพานได้ค่ะคน
00:03:01 → 00:03:03 ไข้กลุ่มนี้ก็จะมาโรงพยาบาลได้ค่อนข้าง
00:03:03 → 00:03:05 เร็วค่ะแต่ในกลุ่มแรกก็จะอาการค่อนข้าง
00:03:06 → 00:03:08 เยอะแล้วถึงจะมาค่ะข้อแรกในเรื่องของ
00:03:08 → 00:03:11 พันธุกรรมเองเนี่ยเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
00:03:11 → 00:03:14 ใช่มยคะอาจจะเป็นด้วยพันธุกรรมหรืออายุ
00:03:14 → 00:03:16 ที่มากขึ้นแต่ว่าอีกข้อนึงเนี่ยที่มัน
00:03:16 → 00:03:19 เกิดจากการใช้ยาเนี่ยมันต้องสะสมนานแค่
00:03:19 → 00:03:22 ไหนคะอาจารย์หรือว่าบางคนเหมือนเรามียคะ
00:03:22 → 00:03:25 ว่าเจอใช้ยาบางอย่างแค่แป๊บๆก็มีอาการ
00:03:25 → 00:03:28 เกิดขึ้นได้อย่างเงี้ยค่ะค่ะสำหรับยาบาง
00:03:28 → 00:03:32 ชนิดอย่างเช่นยาใหญ่มั่นตาถ้าคนไข้มีมุม
00:03:32 → 00:03:34 ตาที่แคบอยู่แล้วก็จะเสี่ยงต่อการเกิด
00:03:34 → 00:03:36 ต้อยหิมุมปิดเฉียบพันธุ์ค่ะอันนี้ก็จะ
00:03:36 → 00:03:39 เกิดอาการทันดีทันใดได้ค่ะแต่ในอีกกลุ่ม
00:03:39 → 00:03:41 นึงที่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของทาง
00:03:41 → 00:03:44 ระบายอย่างเช่นการใช้ยาสเตอรอยด์พวกนี้
00:03:44 → 00:03:46 มักค่อยเป็นค่อยไปค่ะมักจะอ่าเป็นหลัก
00:03:47 → 00:03:50 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะแล้วก็สเตอรอยด์จริงๆไม่
00:03:50 → 00:03:53 จำเป็นต้องเป็นยาหยอนนะคะยาทานก็ได้ยาพ่น
00:03:53 → 00:03:58 ก็ได้ยาทาก็มีผลใช่ค่ะแบบนี้ใครบ้างล่ะคะ
00:03:58 → 00:04:00 ที่จะเสี่ยงเป็นโรคตต้อหินค่ะวัยรุ่นมี
00:04:01 → 00:04:04 โอกาสเกิดขึ้นได้ยคะจริงๆต้อหินพบได้ทุก
00:04:04 → 00:04:07 อายุตั้งแต่เด็กเลยค่ะแต่ต้อหินที่อ่า
00:04:08 → 00:04:11 เป็นปัจจัยเสี่ยงมักจะเป็นอายุ 40 ปีขึ้น
00:04:11 → 00:04:14 ไปค่ะแล้วก็ในกลุ่มคนที่มีประวัติคนใน
00:04:14 → 00:04:17 ครอบครัวที่เป็นต้อหินก็จะมีปัจจัยเสิง
00:04:17 → 00:04:20 ที่เพิ่มมากขึ้นก็จริงๆเป็นได้หลากหลาย
00:04:20 → 00:04:23 อายุค่ะแต่ว่าต้อหินในเด็กก็มักจะมีอาการ
00:04:23 → 00:04:27 แสดงที่ค่อนข้างชัดเจนค่ะค่ะอย่างเช่นอ่า
00:04:27 → 00:04:30 มีลูกตาที่ค่อนข้างใหญ่หรือว่ากระจกตาที่
00:04:30 → 00:04:33 ขุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะสังเกตเห็นค่ะใน
00:04:33 → 00:04:36 กลุ่มที่อายุอ่าโตขึ้นมาก็จะมีโอกาส
00:04:37 → 00:04:39 เหมือนกันค่ะแต่ว่าคนไข้ก็จะมักจะมีอาการ
00:04:39 → 00:04:43 ตามัวปวดตาค่ะแต่ว่าคนที่ไม่ค่อยมีอาการ
00:04:44 → 00:04:46 เลยจะเป็นกลุ่มที่กลุ่มหลังค่ะอย่างที่
00:04:46 → 00:04:48 บอกว่าปัจจัยเสี่ยงที่อายุมากกว่า 40 ปี
00:04:48 → 00:04:50 ขึ้นไปเพราะว่าโรคพวกนี้มันค่อยๆเป็นค่อย
00:04:50 → 00:04:54 ๆไปค่ะแล้วมักจะมีผลกับการมองเห็นขอบๆ
00:04:54 → 00:04:57 ก่อนค่ะกว่าจะรู้ตัวก็คือเข้ามาตรงกลาง
00:04:57 → 00:05:00 ที่ค่อนข้างเยอะแล้วค่ะค่ะขอให้อาจารย์ลง
00:05:00 → 00:05:03 ในเรื่องของรายละเอียดอีกนิดนึงนะคะว่า
00:05:03 → 00:05:06 อาการนำอะไรจะเป็นสัญญาณบอกให้เรารู้ว่า
00:05:06 → 00:05:09 อาจจะเป็นโรคต้อหินอย่างเงี้ยค่ะค่ะ
00:05:09 → 00:05:11 สำหรับกลุ่มที่บอกว่าเป็นต้อหินมมปิด
00:05:11 → 00:05:15 เฉียบพันอันเนี้ยจะมีอาการปวดตาค่ะตามัว
00:05:15 → 00:05:19 เห็นแสงรุ้งรอบดวงไฟเวลาเรามองไฟนะคะแต่
00:05:19 → 00:05:23 ว่าถ้าในอีกกลุ่มนึงที่อ่าอาการจะเป็นดาน
00:05:23 → 00:05:27 การมองเห็นจะลดลงด้านขอบๆก่อนอันนี้เริ่ม
00:05:27 → 00:05:30 จขอบๆมาก่อนเริ่มมองขอบไม่ชัดอย่างนี้หรอ
00:05:30 → 00:05:34 คะหรือว่าอ่าแคบลงใช่ค่ะการมองเห็นค่อยๆ
00:05:34 → 00:05:38 แคบลงค่ะซึ่งกลุ่มเนี้ยมักจะมาหาหมองค่อน
00:05:38 → 00:05:40 ข้างช้าค่ะเพราะว่าการใช้ชีวิตประจำวัน
00:05:40 → 00:05:43 ของเราเนี่ยจะมองตรงกลางเป็นหลักค่ะแต่คน
00:05:43 → 00:05:46 ไข้เนี่ยมักจะะมันเป็นค่อยๆเป็นค่อยๆไป
00:05:46 → 00:05:49 ค่ะค่อยๆเล็กลงเล็กลงเล็กลงทำให้คนไข้บาง
00:05:49 → 00:05:51 กลุ่มไม่ได้สังเกตค่ะจริงๆแล้วจะบอกเลย
00:05:51 → 00:05:54 ว่าต้อหินเนี่ยเป็นภัยเงียบในเฉพาะกลุ่ม
00:05:54 → 00:05:58 นี้ค่ะแนะนำว่าควรจะมาตรวจตามากกว่าค่ะใน
00:05:58 → 00:06:00 กลุ่มที่มีอายุมากกกว่า 40 ปีขึ้นไปก็จะ
00:06:00 → 00:06:03 เริ่มมีความเสี่ยงหรือกลุมที่เป็นโรคบาง
00:06:03 → 00:06:07 อย่างค่ะอย่างเช่นพวกเบาหวานความดันโลหิต
00:06:07 → 00:06:10 สูงหรือว่าเส้นเลือดบางอย่างเงค่ะมันพ่วง
00:06:10 → 00:06:14 มาถึงกันได้ใช่มคะใช่ค่ะเพราะว่าเอ่อโรค
00:06:14 → 00:06:18 ตตหินจริงๆเป็นโรคที่มีปัจจัยในการส่งผล
00:06:18 → 00:06:21 กับโรคหลายหลายอย่างนะคะนอกจากพันธุกรรม
00:06:21 → 00:06:24 ก็จะเป็นโรคของเส้นเลือดได้ด้วยค่ะใช่ค่ะ
00:06:25 → 00:06:27 ค่ะก็ต้องนำไปสู่ในเรื่องของการคัดกรอง
00:06:27 → 00:06:30 ยิ่งอายุถึงเกณฑ์ที่ต้องคัดกรองค่ะเค้ามี
00:06:30 → 00:06:32 การคัดกรองยังไงบ้างคะอาจารย์หมอคั้อย่าง
00:06:32 → 00:06:36 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ค่ะเราจะมีวันเต้าหิน
00:06:36 → 00:06:39 โลกเกิดขึ้นประชาชนที่ให้ความสนใจสามารถ
00:06:39 → 00:06:42 ดูข้อมูลได้ทาง Facebook ของคณะแพทย์นะคะ
00:06:42 → 00:06:45 ว่าเขาจะจัดกิจกรรมอะไรบ้างแต่ในงานเมี
00:06:45 → 00:06:47 อะไรอยากให้อาจารย์ลงเนื้อหานิดนึงค่ะค่ะ
00:06:47 → 00:06:52 ในงานจริงๆจะมีบริการตรวจตาด้วยนะคะก็คือ
00:06:52 → 00:06:54 จะตรวจเรื่องของความดันตาค่ะความดันตา
00:06:54 → 00:06:58 เนี่ยถ้ามีความดันตาสูงก็จะเป็น 1 สิ่ง
00:06:58 → 00:07:00 ที่เป็นความเเสี่ยงหลักของการเกิดต้อหิน
00:07:01 → 00:07:04 เลยค่ะความดันตานะคะอันดับแรกค่ะค่ะอัน
00:07:04 → 00:07:08 ที่ 2 ก็จะมีดูของขั้วประสาทตาค่ะว่าขั้ว
00:07:08 → 00:07:11 ประสาทตามีความผิดปกติหรือเปล่าค่ะเพราะ
00:07:11 → 00:07:14 ว่าเรื่องของต้หินก็คือเป็นขั้วประสาทตา
00:07:14 → 00:07:17 ที่เสียไปถ้ามีความเสียของขั้วประสาทตาก็
00:07:17 → 00:07:19 จะบ่งบอกว่าเป็นโรคต่อหินค่ะนอกจากนี้ก็
00:07:19 → 00:07:22 จะมีการสกินเบื้องต้นในเรื่องของระดับการ
00:07:22 → 00:07:26 มองหินค่ะค่ะนอกจากนี้ก็จะมีกิจกรรมเป็น
00:07:26 → 00:07:29 การเสวนาด้านของต้อหินค่ะแล้วก็มีอ่า
00:07:29 → 00:07:33 บอร์ดให้ความรู้ต่างๆค่ะสำหรับในงานนี้นะ
00:07:33 → 00:07:36 คะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยสำหรับผู้ฟังที่
00:07:36 → 00:07:39 กำลังฟังอยู่แถวเชียงใหม่นะคะแล้วก็อยู่
00:07:39 → 00:07:41 ใกล้ๆกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เรา
00:07:41 → 00:07:44 ก็อยากจะเชิญชวนท่านมาร่วมงานในวันที่ 14
00:07:44 → 00:07:47 มีนาคมตั้งแต่เวลา 8:00 นเป็นต้นไปนะคะ
00:07:47 → 00:07:49 แล้วก็สามารถดูรายละเอียดต่างๆได้ที่เพจ
00:07:49 → 00:07:52 ของทางคณะแพทย์มชด้วยค่ะงั้นเรากลับมาใน
00:07:52 → 00:07:55 ส่วนเนื้อหากันอีกนิดนึงค่ะอาจารย์หมอคะ
00:07:55 → 00:07:58 ว่าสำหรับปัจจุบันนี้วิวัฒนาการเทคโนโลยี
00:07:58 → 00:08:01 ทางการแพทย์ในสมัยใหม่มากขึ้นการรักษาโรค
00:08:01 → 00:08:04 ต้หินเนี่ยมีโอกาสหายขาดมั้ยคะสำหรับโรค
00:08:04 → 00:08:07 ต้หินเนี่ยต้องบอกไว้เลยว่าโคบประสาทตา
00:08:07 → 00:08:10 ที่ถูกทำลายไปแล้วเนี่ยเราไม่สามารถจะเอา
00:08:10 → 00:08:13 เขาคกลับขึ้นมาทำงานได้ใหม่นะคะโรคตตหิน
00:08:13 → 00:08:15 เนี่ยถ้าอย่างที่กล่าวไปแล้วว่ามันจะมี
00:08:15 → 00:08:18 ชนิดที่มีสาเหตุกับชนิดที่หาสาเหตุไม่ได้
00:08:18 → 00:08:21 ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมถ้ามีสาเหตุเรา
00:08:21 → 00:08:24 ก็ต้องรักษาตัวสาเหตุนั้นค่ะแล้วก็สิ่ง
00:08:24 → 00:08:26 ที่เราควบคุมได้เนี่ยจะเป็นเรื่องของความ
00:08:26 → 00:08:30 ดันตาเราก็จะควบคุมความดันตาไม่ให้มันสูง
00:08:30 → 00:08:33 ที่จะไปทำลายขั้วประสาทตาต่อไปค่ะแต่ว่า
00:08:33 → 00:08:36 ถ้าหายมเรียนตามตรงว่าขั้วประสาทตาที่ถูก
00:08:37 → 00:08:38 ทำลายไปแล้วเนี่ยเราไม่สามารถจะนำกลับ
00:08:39 → 00:08:41 ขึ้นมาได้แล้วเซลล์ประสาทมันไม่สามารถจะ
00:08:41 → 00:08:44 ฟื้นกลับขึ้นมาเองค่ะแต่เราจะควบคุมไม่
00:08:44 → 00:08:47 ให้มันแย่ลงเหมือนให้ที่มีอยู่ไม่หายไป
00:08:47 → 00:08:50 มากกว่าเดิมใช่มคะใช่ค่ะถูกต้องเลยค่ะแต่
00:08:50 → 00:08:53 ถามว่ากลับมา 100% เหมือนเดิมอาจจะไม่ได้
00:08:53 → 00:08:56 แล้วแต่การที่เราเจอเร็วเนี่ยการรักษาก็
00:08:56 → 00:08:59 ทำให้เราไม่อันตรายรุนแรงถึงขั้นตาบดได้
00:08:59 → 00:09:02 ถูกเพราะว่าไปอ่านบทความมาเบอกว่าโรคเต้า
00:09:02 → 00:09:04 หินเนี่ยอันตรายถึงขั้นตาบอดได้อันนี้
00:09:04 → 00:09:07 จริงเลยใช่มั้ยคะจริงเลยค่ะก็จากงานวิจัย
00:09:07 → 00:09:12 นึงนะคะเขากล่าวว่าในปีค.ศ 2040 เนี่ยจะ
00:09:12 → 00:09:16 มีผู้ป่วยทั่วโลกของเต้าหินที่ตาบอดนะค่ะ
00:09:16 → 00:09:20 บถึง 22 ล้านคนเลยทีเดียวค่ะจริงๆก็คือ
00:09:20 → 00:09:24 คิดเป็น 10% ของคนไข้เต้าหินทั้งหมดค่ะก็
00:09:24 → 00:09:26 คือคาดการณ์ใน 20 ปีข้างหน้านะคะอีก 20
00:09:26 → 00:09:29 ปีข้างหน้าที่วิจัยตัวนึงเขาบอกว่าจะมีคน
00:09:29 → 00:09:32 ที่ป่วดเป็นโรคนี้รุนแรงึงขั้นตาหบอดได้
00:09:32 → 00:09:35 ถึง 22 ล้านคนเลยทีเดียวโถึง 22 ล้านคน
00:09:35 → 00:09:38 เลยทีเดียวนะคะเพราะฉะนั้นค่ะเราฟังถึง
00:09:38 → 00:09:40 เรื่องนี้แล้วเราต้องให้ความสำคัญเพราะ
00:09:40 → 00:09:42 ว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวแล้วก็เราอาจจะมอง
00:09:42 → 00:09:45 ข้ามในเรื่องของการดูแลสุขภาพตานะคะการ
00:09:46 → 00:09:47 เจอจากสุขแพทย์หรือว่าเราได้ยินเรื่อง
00:09:47 → 00:09:49 ความดันลูกตาเนี่ยอาจจะไกลตัวบางคนแค่
00:09:50 → 00:09:53 ความดันสุขภาพวัดความดันร่างกายเท่านั้น
00:09:53 → 00:09:56 ค่ะในงานก็จะสามารถได้ตรวจได้เช็คเลยนะคะ
00:09:56 → 00:09:59 ค่ะถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเนื่องจากไม่ค่อย
00:09:59 → 00:10:01 มีอาการค่ะถ้าคือมีอาการก็คือเป็นอาการ
00:10:02 → 00:10:04 ที่เยอะมากแล้วค่ะแล้วเราไม่สามารถจะกู้
00:10:04 → 00:10:06 สิ่งเหล่านี้กลับขึ้นมาได้คิดว่าการ
00:10:06 → 00:10:09 สกรีนนิ่งพบอ่าตั้งแต่เริ่มต้นก็จะเป็น
00:10:09 → 00:10:12 การรักษาที่ดีที่สุดค่ะเป็นโอกาสที่ดีมาก
00:10:12 → 00:10:15 ๆเลยนะคะที่ในแต่ละปีทางคณาแพทย์แล้วก็
00:10:16 → 00:10:18 กิจกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องของโรคต้อหิน
00:10:18 → 00:10:21 นี้ขึ้นนะคะค่ะเพื่อให้เราได้เห็นความ
00:10:21 → 00:10:24 สำคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพดวงตานั่นเอง
00:10:24 → 00:10:27 ค่ะทิ้งท้ายถึงผู้ฟังนิดนึงค่ะถ้าเกิด
00:10:27 → 00:10:30 อยากจะป้องกันดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรค
00:10:30 → 00:10:33 นี้ต้องทำได้ยังไงบ้างคะสามารถมีวิธีการ
00:10:33 → 00:10:36 นะคะอาจารย์จะมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างนะคะ
00:10:36 → 00:10:38 อย่างเช่นการใช้สเตอรอยด์ที่สามารถหลีก
00:10:38 → 00:10:41 เลี่ยงได้นะคะแต่ว่าในกรณีที่จำเป็นจริงๆ
00:10:41 → 00:10:44 แนะนำว่าให้มาพบจากสู่แพทย์สกรีนนิ่งก่อน
00:10:44 → 00:10:46 ว่าเรามีความเสี่ยงอย่างอื่นมค่ะแต่
00:10:46 → 00:10:48 เนื่องจากโรคนี้เนี่ยเป็นโรคที่ไม่มี
00:10:48 → 00:10:52 อาการแล้วก็เป็นโรคที่อ่าไม่ได้มีความ
00:10:52 → 00:10:55 เสียงได้ชัดในบางอย่างยังหาสาเหตุไม่ได้
00:10:55 → 00:10:58 คิดว่าการมาพบจากสูแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ
00:10:58 → 00:11:00 ตาอย่างน้อยละครั้งเนี่ยค่ะก็ถือว่าเป็น
00:11:00 → 00:11:03 ประโยชน์ในการที่จะสนิค่ะค่ะวันนี้เป็น
00:11:03 → 00:11:06 ช่วงเวลาที่ดีมากๆเลยค่ะที่ได้พูดคุยกัน
00:11:06 → 00:11:08 ต้องขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆเลยนะคะยินดี
00:11:08 → 00:11:12 มากๆเลยค่ะค่ะสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ cmu
00:11:12 → 00:11:15 podcast Fun for help เพราะสุขภาพที่
00:11:15 → 00:11:22 ดีเริ่มได้จากตัว
00:11:22 → 00:11:25 เรา