00:00:00 → 00:00:02 เรื่องของยาเป็นเรื่องที่น่าสนใจเสมอนะคะ
00:00:02 → 00:00:05 อย่างที่บอกกับอาจารย์ไว้ค่ะใช่
00:00:05 → 00:00:09 ตอนนี้ยาปฏิชีวนะมันมีเอ่อข้อมูลยังไง
00:00:09 → 00:00:12 สถิติอย่างไรว่าเราใช้กันมากน้อยแค่ไหน
00:00:12 → 00:00:16 หรือว่าเราลดลงบ้างไหมคะอาจารย์คะไม่ลด
00:00:16 → 00:00:19 เลยเพราะความเป็นจริงอ่ะเราควรจะใช้ยา
00:00:19 → 00:00:23 ปฏิชีวนะน้อยลงในช่วงของโควิดเพราะทุกคน
00:00:23 → 00:00:27 ก็รู้ว่าโควิดเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่
00:00:27 → 00:00:30 ชื่อว่าโอโรโนน่าไวรัสแล้วเราก็น่าจะมี
00:00:30 → 00:00:33 ความรู้ที่บอกเราพูดกันครั้งสองครั้งเรา
00:00:33 → 00:00:37 ก็พูดกันอยู่เรื่อยๆว่ายาปฏิชีวนะนั้นใช้
00:00:37 → 00:00:39 กับโรคติดเชื้อ
00:00:39 → 00:00:44 แบคทีเรียเอาไว้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตคนละ
00:00:44 → 00:00:47 ชนิดกันเลยใช้ข้ามกันไปข้ามกันมาไม่
00:00:48 → 00:00:51 สำเร็จตอนนี้น่าจะอธิบายง่ายขึ้นนะถ้า
00:00:51 → 00:00:56 สมมุติขึ้น 2 ขีดอ่ะคุณนั้นตอนไปมชกลับมา
00:00:56 → 00:01:02 หาอะไรล่ะวิ่งหามอญหนูพี่เราเสีย
00:01:02 → 00:01:05 มาลงท้ายด้วยคำว่า v ir เนี่ยนะก็แปลว่า
00:01:05 → 00:01:09 เป็นยาต้านไวรัสและไม่มีใครหรอกที่ขึ้น 2
00:01:09 → 00:01:11 ขีดแล้วบอกไปเอายาปฏิชีวนะมากินหน่อยมัน
00:01:11 → 00:01:16 ไม่น่าจะมีนะแต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่เลยที่
00:01:16 → 00:01:19 ผ่านๆมาเนี่ยก็มีการใช้ยาปฏิชีวนะในกรณี
00:01:19 → 00:01:22 ของโรคติดเชื้อไวรัสเนี่ยอย่างต่อเนื่อง
00:01:22 → 00:01:25 มาแล้วขึ้นเรื่อยๆด้วยตรงเนี้ยเป็นปัญหา
00:01:25 → 00:01:29 ใหญ่มากเพราะทุกครั้งที่เราใช้ยาต้านนะ
00:01:29 → 00:01:33 สตาร์ทไวรัสยาต้านแบคทีเรียเนี่ยเราจะก่อ
00:01:33 → 00:01:37 ปัญหาเชื้อหรือยาขึ้นเสมอยิ่งใช้มากยิ่ง
00:01:37 → 00:01:38 ดื้อมากครับ
00:01:38 → 00:01:42 ดื้อยังไงให้หมายถึงตัวคนที่นึ่งขึ้นหรือ
00:01:42 → 00:01:44 ว่าดูกับครอบครัวลูกกับคุณพ่อคุณแม่อย่าง
00:01:44 → 00:01:50 นี้ไม่ใช่อย่างงั้นใช่ไหม
00:01:50 → 00:01:53 ดื้อยังไงแบบนี้
00:01:53 → 00:01:56 คือแบคทีเรียดื้อยา
00:01:56 → 00:02:00 หมายความว่าเมื่อเราใช้ยาปฏิชีวนะไปเมื่อ
00:02:00 → 00:02:03 ยาปฏิชีวนะสัมผัสโดนแบคทีเรียมันก็จะไป
00:02:03 → 00:02:06 ยับยั้งการเจริญเติบโตหรือไม่ก็ฆ่าเสี่ย
00:02:06 → 00:02:09 นั้นให้ตายถ้าแบคทีเรียมันอยู่ที่ปอดเรา
00:02:09 → 00:02:12 เราข้ามแบคทีเรียตายเราก็หายสิแต่ปรากฏ
00:02:12 → 00:02:16 ว่าเมื่อเชื้อแบคทีเรียดื้อยากินยาก็ดี
00:02:16 → 00:02:19 ฉีดยาก็ดีหมายถึงยาปฏิชีวนะสัมผัสโดน
00:02:19 → 00:02:22 แบคทีเรียแบคทีเรียมันหัวเราะเลยบอกไม่
00:02:22 → 00:02:26 เดือดร้อนอะไรเลยไม่ตายนี่เรียกว่าเชื้อ
00:02:26 → 00:02:30 ดื้อยาก็คือเคยใช้ยาได้สำเร็จต่อมาใช้ไม่
00:02:30 → 00:02:31 ได้แล้ว
00:02:31 → 00:02:34 แล้วยาปฏิชีวนะที่เรามีอยู่ในโลกเนี่ยนะ
00:02:34 → 00:02:38 มีน้อยชนิดเมื่อมันหดลงเรื่อยๆเรื่อยๆ
00:02:38 → 00:02:41 ชนิดนั้นก็ไม่ได้ที่นี่ก็ไม่ได้เราก็เลย
00:02:41 → 00:02:44 มีคำว่าซุปเปอร์บั๊ก superbike
00:02:44 → 00:02:48 ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายขนานมากเลยและ
00:02:48 → 00:02:52 ซุปเปอร์บั๊กบางชนิดมันดื้อหมดทุกชนิดที่
00:02:52 → 00:02:54 เรามีอยู่เลย
00:02:54 → 00:02:57 ถ้าเราติดแบคทีเรียเราหมอมาบอกว่าไม่มียา
00:02:57 → 00:02:59 ให้ใช้สักตัวนึงนะ
00:02:59 → 00:03:03 สิโอกาสเสียชีวิตสูงมากเลยแล้วตอนนี้ใน
00:03:03 → 00:03:05 โรงพยาบาลเราก็เจอแบบนี้เป็นประจำครับอัน
00:03:05 → 00:03:07 นี้คือปัญหาเชื้อดื้อยา
00:03:07 → 00:03:10 ปฏิชีวนะที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
00:03:10 → 00:03:14 พร่ำเพรื่อเกิดครับมาถึงหัวข้อของเราวัน
00:03:14 → 00:03:16 นี้เนี่ยมันค่อนข้างจะน่ากลัวที่เคยหา
00:03:16 → 00:03:20 เรืออาจารย์ว่าเชื้อดื้อยาฆ่าชีวิตโอ้โห
00:03:20 → 00:03:25 เราเราน่ากลัวไปมากไหมคะมันคร่าชีวิตได้
00:03:25 → 00:03:27 เลยเหรอคะอาจารย์คะ
00:03:27 → 00:03:32 แบคทีเรียธรรมดา
00:03:32 → 00:03:36 แต่ถ้าเป็นเชื้อดื้อยาแล้วก็แม้เรารักษา
00:03:36 → 00:03:40 ทันท่วงทีอย่างที่บอกเมื่อกี้เราใส่ยา
00:03:40 → 00:03:42 ปฏิชีวนะไปก็ไม่หายไม่หายไม่หายสุดท้ายก็
00:03:42 → 00:03:45 เสียชีวิตได้เลยเพราะฉะนั้นเรื่องของ
00:03:45 → 00:03:48 เชื้อดื้อยาฆ่าชีวิตเนี้ยไม่ได้มาทำให้ตก
00:03:48 → 00:03:51 ใจนะมันเป็นข้อเท็จจริง
00:03:51 → 00:03:56 นะครับอ่ะแล้วลองมาดูว่าปัญหาของเชื้อ
00:03:56 → 00:03:59 ดื้อยาเนี่ยมันก่อให้เกิดอะไรบ้างกับคน
00:03:59 → 00:04:02 ไทยนะคนไทยเนี่ยติดเชื้อดื้อยานะครับมาก
00:04:02 → 00:04:06 กว่า 1 แสนคนต่อปีเยอะมากอันนี้คือเพิ่ม
00:04:06 → 00:04:08 สะสมอะไรเลยใช่ไหมคะ
00:04:08 → 00:04:13 [เพลง]
00:04:13 → 00:04:17 แล้วก็การที่มีการติดเชื้อดื้อยานี้ทำให้
00:04:17 → 00:04:19 เหมาะใส่ยาไปมันก็ไม่ดีขึ้นต้องเปลี่ยน
00:04:19 → 00:04:22 ยางถ้าใครโชคดีกว่ากลับบ้านได้ก็อยู่โรง
00:04:22 → 00:04:25 พยาบาลนานขึ้นไปกินเตียงของคนอื่นเขา
00:04:25 → 00:04:28 เนี่ยตั้ง 3.2 ล้านวันต่อปีหมายถึงคนที่
00:04:28 → 00:04:30 ติดเชื้อดื้อยาเนี่ยแทนที่จะอยู่โรง
00:04:30 → 00:04:33 พยาบาล 3-4 วันแล้วกลับบางคนอยู่ 7 วัน 10
00:04:33 → 00:04:36 วันมันก็นับไปนับมาไปใช้เตียงในโรงพยาบาล
00:04:36 → 00:04:41 นี้คิดเป็นจำนวนวันทั้ง 3.2 ล้านวันก็คือ
00:04:41 → 00:04:44 จะเข้าไม่ได้พอเจอดุอย่าคนนี้เขายังนอน
00:04:44 → 00:04:47 อยู่ในโรงพยาบาลนะครับแล้วก็เราสูญเสีย
00:04:47 → 00:04:49 เศรษฐกิจในการแก้ปัญหาจิตประธานพวกเนี้ย
00:04:49 → 00:04:54 มากกว่า 40,000 บาทต่อปีทีเดียวนะครับที่
00:04:54 → 00:04:57 สำคัญไปกว่านั้นนะสุดท้ายเลยเนี่ยคนที่
00:04:57 → 00:05:00 บอกไปนอนโรงพยาบาลแสนคนต่อปีเนี่ยนะเสีย
00:05:00 → 00:05:04 ชีวิตไปตั้ง 38,000 คนถ้าฟังดูว่า 38,000
00:05:04 → 00:05:07 คนนี่ไม่รู้เยอะหรือน้อยเนี่ยนะเราเสีย
00:05:07 → 00:05:10 ชีวิตจากอุบัติเหตุเนี่ยปีนึงประมาณ
00:05:10 → 00:05:15 19,000 คนแปลว่านะ
00:05:15 → 00:05:19 อุบัติเหตุทางถนนนะครับแล้วถ้าฟังดูเอ๊ะ
00:05:19 → 00:05:22 ยังนึกไม่ออกอีกมากหรือน้อยนะครับ 15
00:05:22 → 00:05:27 นาทีสาย 1 คนชั่วโมงนึง 4 คนเนี่ยใน
00:05:27 → 00:05:29 ประเทศไทยเป็นแบบนี้เลยครับอันนี้เป็นตัว
00:05:29 → 00:05:32 เลขที่ไม่เคยได้ไม่ค่อยได้รับการเผยออกมา
00:05:32 → 00:05:39 ให้สาธารณชนได้รับรู้เลยนะคะอาจารย์
00:05:39 → 00:05:48 มาวันนี้เพราะว่าอะไรรู้ไหม
00:05:48 → 00:05:51 องค์การอนามัยโลกเขาประกาศให้เป็นวันใน
00:05:51 → 00:05:55 การรณรงค์เรื่องของเชื้อดื้อยานี้แหละเขา
00:05:55 → 00:05:57 เรียกว่าแอนตี้ไมโครเวฟ
00:05:57 → 00:06:00 ทั้งสัปดาห์เลยตั้งแต่ 18-24 ทำพร้อมกัน
00:06:00 → 00:06:03 ทั้งโลกนี้เลยนะครับก็เลยเป็นโอกาสดีที่
00:06:03 → 00:06:05 เราจะมาเอาข้อมูลเหล่านี้มาบอกประชาชน
00:06:05 → 00:06:08 ครับอาจารย์พูดถึงพร้อมกันทั้งโลกเนี่ยใน
00:06:08 → 00:06:13 สถิติการดื้อยาของทั่วโลกไทยเราติดอันดับ
00:06:13 → 00:06:18 โลกไหมคะ
00:06:18 → 00:06:25 [เพลง]
00:06:25 → 00:06:28 เพิ่งลงในวันละแสนเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง
00:06:28 → 00:06:31 แล้วหนังสือพิมพ์เขาก็ไปลงนะเขาเก่งมาก
00:06:31 → 00:06:35 เขาบอกว่าการเสียชีวิตจากเชื้อโรค
00:06:35 → 00:06:38 แบคทีเรียต่างๆที่เรากำลังพูดอยู่ตอนนี้
00:06:38 → 00:06:42 การเสียชีวิตจากแบคทีเรียคือเป็นการตาย
00:06:42 → 00:06:45 อันดับ 2 ดูแบคทีเรียติดเชื้อเนี่ยเป็น
00:06:45 → 00:06:48 สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลกมนุษย์
00:06:48 → 00:06:50 ตอนนี้เลยแสดงว่าเราต้องกลัวโลกนี้ให้มาก
00:06:51 → 00:06:56 ๆกลัวแปลว่าอะไรกลัวเพื่อนเราจะไม่ใช้ยา
00:06:56 → 00:06:59 ปฏิชีวนะให้พร่ำเพรื่อเพราะถ้าใช้
00:06:59 → 00:07:01 พร่ำเพรื่อเมื่อเราติดแบคทีเรียเราจะไม่
00:07:01 → 00:07:07 มียาใช้แล้วก็มีคนไปทำนายไว้นะเขาตีพิมพ์
00:07:07 → 00:07:10 ไว้ตั้งแต่ปี 2014 ทำนายไปจนถึงปี 2050
00:07:10 → 00:07:14 ในอนาคตนะเขาบอกว่าในถึงตอนนั้นเนี่ยทั่ว
00:07:14 → 00:07:17 โลกเลยจะมีผลเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยา
00:07:17 → 00:07:20 เนี่ย 10 ล้านคน 10 ล้านล้านคนเนี่ยนะ
00:07:20 → 00:07:24 ท่านนึกไม่ออกว่าเยอะหรือน้อยนะทั้งสอง
00:07:24 → 00:07:27 ท่านทั้งคุณนฤมลและแบบชุดหัวหน้าแต่ข้าว
00:07:27 → 00:07:32 ออกคือคนเราเนี่ยหายใจเข้าออก 1 ครั้ง
00:07:32 → 00:07:36 เนี่ยประมาณ 3 วินาทีนะครับวินาทีข้าวออก
00:07:36 → 00:07:39 ประมาณ 3 มิตินั่นแหละครับเสียชีวิต 1 คน
00:07:39 → 00:07:58 ครับ
00:07:58 → 00:08:02 อาจารย์มีตัวอย่างของผู้ที่เชื้อดื้อยา
00:08:02 → 00:08:06 คร่าชีวิตที่ที่ตอนนี้เนี่ยใช่มีส่งกัน
00:08:06 → 00:08:09 อยู่ใน LINE หลายเรื่องเลยก็มีคำถามอยู่
00:08:09 → 00:08:20 ว่ามันจริงมันขนาดไหน
00:08:20 → 00:08:24 ซึ่งเป็นเพื่อนของหมอเองนะแล้วคุณหมอท่าน
00:08:24 → 00:08:26 นี้หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตจากเชื้อ
00:08:26 → 00:08:30 ดื้อยาเนี่ยก็เกิดความรู้สึกไม่สบายใจไม่
00:08:30 → 00:08:32 มีความสุขเลยที่โอ้โหทำไมปัญหาเชื้อดื้อ
00:08:32 → 00:08:35 ยานี้มันรุนแรงเขาก็อยากจะบอกไปให้คนทุก
00:08:35 → 00:08:38 คนได้ยินโดยการยอมให้มีการสัมภาษณ์ถ่าย
00:08:38 → 00:08:41 วีดีโอเป็นคลิปแล้วส่งออกนะใช้ชื่อนาม
00:08:41 → 00:08:44 สกุลเรียบร้อยเลยนะครับเหตุการณ์ก็คือว่า
00:08:44 → 00:08:47 คุณแม่ของเอ่อคุณหมอท่านเนี้ยเป็นเพื่อน
00:08:47 → 00:08:50 ของผมเนี่ยนะท่านก็มีปัญหาที่หัวเข่าคนมี
00:08:50 → 00:08:53 อายุจำนวนมากแหละพอเจ็บเข่าคุณมากกว่าอ๊ะ
00:08:53 → 00:08:57 ไปผ่าตัดเปลี่ยนข้อข่าวก็แล้วกันต่อไปตอน
00:08:57 → 00:09:00 ที่ไปก็แสดงว่าเป็นบุคคลแข็งแรงดีนะไม่
00:09:00 → 00:09:02 ได้ไม่ได้หามไปโรงพยาบาลแต่อย่างใดนะเดิน
00:09:02 → 00:09:06 เข้าไปสบายๆนี่แหละแต่บังเอิญขณะที่นอน
00:09:06 → 00:09:09 โรงพยาบาลก็มีการติดเชื้อเกิดขึ้นในโรง
00:09:09 → 00:09:14 พยาบาลและเชื้อในโรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่ทุก
00:09:14 → 00:09:17 แห่งเลยในประเทศเนี่ยมันจะเป็นเชื้อดื้อ
00:09:17 → 00:09:20 ยานะครับพอเชื้อได้ยาเข้าไปสู่ร่างกายของ
00:09:20 → 00:09:22 คุณแม่ของคุณหมอท่านนี้
00:09:22 → 00:09:26 สู้ไม่ไหวครับโรคพยาบาลสู้ไม่ไหวครับหมาย
00:09:26 → 00:09:30 ความว่าหายามาใส่ๆๆเข้าไปก็กระจัดเจ้า
00:09:30 → 00:09:33 เชื้อดื้อยานี้ออกไปไม่ได้สุดท้ายคุณแม่
00:09:33 → 00:09:36 ท่านก็เสียชีวิตไปนี่แหละครับพอฟังแล้ว
00:09:36 → 00:09:40 เราคิดอะไรตามไปได้บ้างครับบุคคลซึ่งเป็น
00:09:40 → 00:09:45 คุณแม่ของคุณหมอเข้าโรงพยาบาลโรงพยาบาลก็
00:09:45 → 00:09:47 ต้องพยายามดูแลเต็มที่อยู่แล้วใช่ไหมครับ
00:09:47 → 00:09:49 เพราะว่าเหมือนจะรู้จักกันอยู่แล้วคุณหมอ
00:09:49 → 00:09:53 ท่านก็มีฐานะนะมีเงินพอสมควรทีเดียวแปล
00:09:53 → 00:09:57 ว่าโอ๊ยยาจะแพงเท่าไหร่เขาไม่สนหรอกแต่
00:09:57 → 00:10:01 สำเร็จไหมล่ะคุณแม่เสียชีวิตอยู่ดี
00:10:01 → 00:10:04 คุณหมอคะทำไมเราอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่
00:10:04 → 00:10:08 เอ่อเพียบพร้อมอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วแล้ว
00:10:08 → 00:10:10 เราถึงติดเชื้อได้อย่างไรอ่ะคะอย่างนี้
00:10:10 → 00:10:12 เราจะทำยังไงดี
00:10:12 → 00:10:14 ครับว่า
00:10:14 → 00:10:17 บางคนเนี่ยจะรู้สึกว่าเข้าโรงพยาบาลก็ดี
00:10:17 → 00:10:20 นะโดยเฉพาะอย่างยิ่งบอกว่าประกันเขาบอก
00:10:20 → 00:10:22 ว่าถ้าไม่เข้าโรงพยาบาลเบิกไม่ได้นะ
00:10:22 → 00:10:24 ในโรงพยาบาลเนี่ยข้อแรกให้เข้าใจเสียก่อน
00:10:24 → 00:10:28 ว่าอุดมไปด้วยเชื้อดื้อยาเชื่อดื้อยา
00:10:28 → 00:10:31 เนี่ยมันอุดมเพราะว่าโรงพยาบาลโดย
00:10:31 → 00:10:34 ธรรมชาติก็ต้องใช้ยาปฏิชีวนะเยอะใช่ไหม
00:10:34 → 00:10:38 ครับมือถือตอนต้นชั่วโมงได้ยินไหมให้มาก
00:10:38 → 00:10:41 ดื้อมากจำได้ไหมเพราะฉะนั้นเมื่อใช้ๆๆๆ
00:10:41 → 00:10:43 ฝ่ายแบคทีเรียมันก็รู้จักรู้จักรู้จักรู้
00:10:43 → 00:10:46 จักปุ๊บมันก็สู้ๆสู้เสร็จนะครับกลายเป็น
00:10:46 → 00:10:49 เสี่ยเมื่อบุคคลหนึ่งติดเชื้อดื้อยาได้
00:10:49 → 00:10:52 เสียชีวิตไปแบคทีเรียที่เป็นเชื้อดื้อยา
00:10:52 → 00:10:56 ตัวนั้นมันยังอยู่ต่อไปดูต่อไปมันไม่ใช่
00:10:56 → 00:10:59 โหมดไปกับคนๆนั้นมันยังอยู่แล้วก็เมื่อ
00:10:59 → 00:11:01 มันอยู่ตรงนั้นเนี่ยโอกาสที่เราจะติด
00:11:01 → 00:11:04 เชื้อเนี่ยเกิดขึ้นตลอดเวลาเลยในโรง
00:11:04 → 00:11:06 พยาบาลนะครับเช่นเมื่อมีการผ่าตัดเกิด
00:11:06 → 00:11:09 ขึ้นนะในบางโอกาสเชื้อมันก็เลยรอดเข้าไป
00:11:09 → 00:11:11 ตรงแผลบางครั้งเราต้องใช้เครื่องช่วยหาย
00:11:11 → 00:11:14 ใจอย่างผมให้โควิดเนี่ยในที่สุดก็จะไป
00:11:14 → 00:11:17 เสียชีวิตจากเรื่องของแบคทีเรียดื้อยาที่
00:11:17 → 00:11:20 เข้าไปในช่องของไอ้อุปกรณ์ที่เราใส่เข้า
00:11:20 → 00:11:23 ไปเพื่อช่วยกันหายใจเป็นต้นเพราะฉะนั้น
00:11:23 → 00:11:26 การติดเชื้อเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในโรง
00:11:26 → 00:11:29 พยาบาลครับลองดูแล้วเรากลัวโรงพยาบาลแล้ว
00:11:29 → 00:11:32 นะคะคุณหมอ
00:11:32 → 00:11:36 แบบนั้นในลักษณะว่าถ้าเราไม่ได้เจ็บป่วย
00:11:36 → 00:11:39 อะไรนักหนาเนี่ยไม่ได้บอกว่าเออมันเหมือน
00:11:39 → 00:11:42 โรงแรมไปขอนอนเหมือนกันให้เข้าใจว่าเรา
00:11:42 → 00:11:44 ต้องป่วยหนักจริงๆเขาถึงจะรักไว้ในโรง
00:11:44 → 00:11:48 พยาบาลนะครับและไม่เข้าโรงพยาบาลให้จำไว้
00:11:48 → 00:11:50 ว่าเราเสี่ยงต่อการติดเชื้อในโรงพยาบาล
00:11:50 → 00:11:53 เสมอและถ้าเป็นเชื้อดื้อยาโอกาสเสียชีวิต
00:11:53 → 00:11:54 สูงมากครับ
00:11:54 → 00:11:58 แต่ก็มีใช่ไหมคะที่การติดเชื้อดื้อยา
00:11:58 → 00:12:02 เนี่ยยังมีนอกโรงพยาบาลเช่นกินเอง
00:12:02 → 00:12:08 นะครับในเวลาในอดีตสัก 20-30 ปีที่แล้ว
00:12:08 → 00:12:10 เนี่ยเวลาเราสอนหนังสือกันเนี่ยเราจะพูด
00:12:10 → 00:12:12 เฉพาะในโรงพยาบาลเป็นหลักเลยบอกว่านี่
00:12:12 → 00:12:14 ต้องทำอย่างนี้นะป้องกันเชื้อดื้อยาในโรง
00:12:14 → 00:12:17 พยาบาลให้ทำอย่างนี้นะแต่เดี๋ยวนี้เชื้อ
00:12:17 → 00:12:19 ดื้อยามันกระจายไปสู่ชุมชนทั่วไปหมดเลย
00:12:19 → 00:12:23 ครับเพราะอะไรเพราะลองนึกดูทั้งคุณนฤมล
00:12:23 → 00:12:28 แล้วก็คุณชุตนะใช่ไหมครับก็น่าจะเคยไป
00:12:28 → 00:12:31 ซื้อยาปฏิชีวนะใช้เองละมั้งนี่หมอเดาเอา
00:12:31 → 00:12:35 นะถ้าเกิดว่าประชาชนเนี่ยไปซื้อเองใช้เอง
00:12:35 → 00:12:38 เข้าใจวินิจฉัยโรคเองคิดว่าฉันเป็นโรคติด
00:12:38 → 00:12:41 เชื้อแบคทีเรียด้วยตนเองเพราะต่างคนต่าง
00:12:42 → 00:12:44 ซื้อต่างคนต่างใช้มันก็มีการใช้ยา
00:12:44 → 00:12:48 ปฏิชีวนะมากมายนอกโรงพยาบาลประโยชน์เดิม
00:12:48 → 00:12:51 ครับใช้มาหรือมาครับ
00:12:51 → 00:13:00 [เพลง]
00:13:00 → 00:13:04 ในเมื่อใช้แล้วมันเกิดปัญหาถ้าปัญหานี้
00:13:04 → 00:13:06 ไม่ได้ตกอยู่กับบุคคลที่ใช้เพียงคนเดียว
00:13:06 → 00:13:09 เพราะถ้าเราสร้างเชื้อดื้อยาในตัวของเรา
00:13:09 → 00:13:12 เชื้อได้ยังจะแพร่กระจายจากเราไปยังคน
00:13:12 → 00:13:16 ใกล้ชิดเสมอทั้งชุมชนทั้งสังคมทั้งหมู่
00:13:16 → 00:13:19 บ้านทั้งที่ทำงานทั้งครอบครัวก็ได้ไปได้
00:13:19 → 00:13:22 เสมอดังนั้นเนี่ยถ้าไม่ใช้เลยดีที่สุด
00:13:22 → 00:13:26 ครับเราก็ต้องกลับมาถึงจุดว่าแล้วเมื่อ
00:13:26 → 00:13:28 ไหร่ควรใช้ไม่ควรใช้ตรงนี้แหละเรื่อง
00:13:28 → 00:13:31 สำคัญมากเลยประชาชนต้องเปลี่ยนความเข้าใจ
00:13:31 → 00:13:35 บางอย่างเช่นหลายคนเชื่อเชื่อเชื่อผิดๆนะ
00:13:35 → 00:13:39 เชื่อว่าเจ็บคอต้องกินยาปฏิชีวนะท้องเสีย
00:13:39 → 00:13:41 ต้องกินยาปฏิชีวนะตัวร้อนไม่สบายต้องกิน
00:13:41 → 00:13:44 ยาปฏิชีวนะเนี่ยเชื่อผิดหมดเลยไม่ถูกต้อง
00:13:44 → 00:13:48 เลยถ้าความเชื่อนี้ยังคงอยู่เราก็จะไปหา
00:13:48 → 00:13:52 ยาปฏิชีวนะมาใช้ด้วยการไปซื้อที่ร้านขาย
00:13:52 → 00:13:55 ยาด้วยการไปเจอหน้าหมอแล้วก็บอกมาว่า
00:13:55 → 00:13:59 ต้องการยาปฏิชีวนะนะมันก็จะแก้ปัญหาไม่
00:13:59 → 00:14:01 สำเร็จแน่นอนครับ
00:14:01 → 00:14:03 มันเหมือนวนไปวนมา
00:14:03 → 00:14:07 ฟังดูแล้วนะคะอาจารย์คะก็คือเราไปหาซื้อ
00:14:07 → 00:14:09 ยาเราคิดว่ามันเป็นอย่างนี้
00:14:09 → 00:14:15 น่าจะใช่น่าจะรักษาตัวเองได้จริงๆแล้ว
00:14:15 → 00:14:23 ที่คนที่จ่ายยาระบุของการรักษาเราเลยครับ
00:14:23 → 00:14:27 ไม่ควรไปด้วยความปรารถนาว่าจะต้องการนั้น
00:14:27 → 00:14:31 เพราะว่าถ้าเกิดไปขอซื้อแล้วคุณเภสัชกร
00:14:31 → 00:14:35 เขาก็เริ่มถามนู่นถามนี่แล้วก็บอกว่าเออ
00:14:35 → 00:14:38 อันนี้มันไม่จำเป็นนะถ้าหากประชาชนฟังราย
00:14:38 → 00:14:40 การนี้อยู่แล้วเข้าใจตามนี้เขาอ้อดี
00:14:40 → 00:14:43 ขอบคุณมากเลยคุณเภสัชช่วยแนะนำให้เพราะ
00:14:43 → 00:14:45 ฉันก็ไม่อยากกินอยู่แล้วมันก่อปัญหาเชื้อ
00:14:45 → 00:14:48 ดื้อยาอันนี้ดีเลยเพราะเข้าใจตรงกันแต่
00:14:48 → 00:14:50 ถ้าเขาไม่ได้ฟังรายการนี้แล้วเขาเชื่อว่า
00:14:50 → 00:14:53 มันต้องใช้ก็จะเกิดการทะเลาะกันเลยที่จุด
00:14:53 → 00:14:56 นั้นใช่ไหม
00:14:56 → 00:14:59 ด้วยความเข้มแข็งของเขาเนี่ยเขาก็ไม่ขาย
00:14:59 → 00:15:04 อยู่ดีนะเกิดอะไรขึ้นไม่ซื้อก็ได้
00:15:04 → 00:15:08 ไปหาหมอนะอย่าใช้เลยนะครับหมอตรวจแล้วมัน
00:15:08 → 00:15:10 ไม่ใช่โรคติดเชื้อแบคทีเรียเลยครับวันนี้
00:15:10 → 00:15:12 เดี๋ยวหมอจะให้ยายอย่างนี้นะครับ
00:15:12 → 00:15:19 อย่าไปซื้อเอาก็ได้มันก็มันก็ไม่สำเร็จ
00:15:19 → 00:15:22 [เพลง]
00:15:22 → 00:15:28 [เสียงหัวเราะ]
00:15:28 → 00:15:34 [เพลง]
00:15:34 → 00:15:37 เป็นอย่างนี้ต้องกินยาเท่านั้นถึงจะหาย
00:15:37 → 00:15:44 ถ้าไม่กินแล้วมันรู้สึกมันไม่ดีพอกินแล้ว
00:15:44 → 00:15:47 นั่นน่ะสิแล้วเวลาพูดจากฆ่าเชื้อนี้ก็พูด
00:15:47 → 00:15:50 ผิดนะเมื่อกี้เราได้ยินคำว่าแบคทีเรียเรา
00:15:50 → 00:15:53 ไวรัสเพราะฉะนั้นสมมุติเป็นโควิดมาเจอ
00:15:53 → 00:16:03 หน้าหมอเพราะ 2 ขีด atk บอกว่า
00:16:03 → 00:16:07 ยุคโควิดเนี่ยประชาชนรู้จักคำว่าสร้าง
00:16:07 → 00:16:11 มันนั่นแหละพอจะรู้อันนี้เรียกว่ามีความ
00:16:11 → 00:16:15 รู้ก็เลยสามารถหลีกเลี่ยงยาปฏิชีวนะได้นะ
00:16:15 → 00:16:18 ครับ
00:16:18 → 00:16:24 ก็เป็นเป็นอีกหลายๆคนผมว่าตอนนี้มีคำถาม
00:16:24 → 00:16:26 จากคุณผู้ฟังมาพอสมควรเลยเรื่องของ
00:16:26 → 00:16:30 คำว่ายาปฏิชีวนะเนี่ยมีท่านนึงถามว่ายา
00:16:30 → 00:16:42 ปฏิชีวนะคือยาฆ่าเชื้อใช่หรือไม่ครับ
00:16:42 → 00:16:45 เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
00:16:45 → 00:16:49 เพราะว่าฝั่งแบคทีเรียเราต้องแยกก่อนเรา
00:16:49 → 00:16:52 ต้องแยกก่อนว่ามันเป็นไวรัสหรือแบคทีเรีย
00:16:52 → 00:16:57 และในชีวิตประจำวันของเราวัดไอเจ็บคอหลอด
00:16:57 → 00:16:59 ลมอักเสบ
00:16:59 → 00:17:04 100% เป็นไวรัส
00:17:04 → 00:17:14 ไข้หวัดแทบไม่ต้องการยา
00:17:14 → 00:17:19 ไข้เลือดออกก็เป็นเชื้อไวรัสนะครับหลอดลม
00:17:19 → 00:17:25 อักเสบ
00:17:25 → 00:17:34 [เพลง]
00:17:34 → 00:17:42 ทางการแพทย์คุณหมอจะใช้หลักเกณฑ์ 4 ข้อ
00:17:42 → 00:17:47 แรกวัดอุณหภูมิดูต้องเกิน 38 นะไม่ใช่
00:17:47 → 00:18:02 เป็นระบบ 37.5
00:18:02 → 00:18:05 คนที่เจ็บคออ่ะตอนนี้ลองนึกภาพไปสิคนที่
00:18:06 → 00:18:08 เป็นโควิดส่วนใหญ่อายไหมล่ะ
00:18:08 → 00:18:13 แล้วมันเป็นไวรัสไหมล่ะเป็นไวรัสแต่ถ้า
00:18:13 → 00:18:18 เป็นแบคทีเรียเนี่ยมันไม่ไปนะไม่ไป
00:18:18 → 00:18:23 ข้อที่ 3 นะครับอ้าปากคลองไฟตรงที่ก็ได้
00:18:23 → 00:18:39 จะเห็นจุดขาวๆ
00:18:39 → 00:19:07 [เพลง]
00:19:25 → 00:19:29 ได้นะครับเพราะฉะนั้นการเจ็บคอไม่ได้เป็น
00:19:29 → 00:19:32 ตัวบอกว่าเราต้องกินยาปฏิชีวนะแต่เราต้อง
00:19:32 → 00:19:37 หาหลักฐานมา 4 ข้อโดยหมอทบทวนสั้นๆนะ 4
00:19:37 → 00:19:40 ข้อใช่มากกว่าใคร
00:19:40 → 00:20:00 ไม่ไอ
00:20:00 → 00:20:16 [เพลง]
00:20:16 → 00:21:09 [เสียงหัวเราะ]
00:21:09 → 00:21:16 [เพลง]
00:21:54 → 00:21:57 คือคำว่ายาแก้อักเสบเนี่ยมันก็คือตัวแทน
00:21:57 → 00:21:59 ของคำว่ายาปฏิชีวนะที่เราพูดอย่างนี้แหละ
00:21:59 → 00:22:04 เวลาแคปซูลลอยมาเลยนะคะเออพูดชื่อนี้
00:22:04 → 00:22:07 หรือไม่ก็เป็นยาผงผงคุณแม่ต้องใส่น้ำ
00:22:07 → 00:22:10 เขย่าๆแล้วป้อนให้ลูกกินน่ะมันก็คือยา
00:22:10 → 00:22:14 ปฏิชีวนะตอนนี้เมื่อประชาชนค่อนประเทศเลย
00:22:14 → 00:22:19 ไปเรียกกันว่ายาแก้อักเสบดูพอเราเป็น
00:22:19 → 00:22:21 โควิดไปที่คอของเรา
00:22:21 → 00:22:27 คอแดงพอเราอักเสบไหมมันก็ต้องอักเสบไงตอน
00:22:27 → 00:22:31 นี้พอเราไปโยงระหว่างคำว่าคออักเสบกับยา
00:22:31 → 00:22:33 แก้อักเสบ
00:22:33 → 00:22:37 ได้มันก็ตรงกันเป๊ะเลยฉันก็ต้องไปหายา
00:22:37 → 00:22:39 ปฏิชีวนะมากินโดยที่ประชาชนไม่รู้หรอกว่า
00:22:39 → 00:22:41 ไอ้นั่นน่ะคือยาปฏิชีวนะมันอันเดียวกัน
00:22:42 → 00:22:46 เลยที่พูดอยู่ว่าขอหยุดตัวเดียวอย่าไปแตะ
00:22:46 → 00:22:50 เพราะฉะนั้นอ่าเราลองมาทำแบบในอดีตนะเขา
00:22:50 → 00:22:54 บอกเออไอ้ยาม้าเนี่ยมันฟังดูคลิปอยู่นะยา
00:22:54 → 00:22:55 บ้า
00:22:55 → 00:22:59 เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนชื่อ
00:22:59 → 00:23:03 เราก็ต้องหยุดพูดสำหรับยกตัวอย่าง
00:23:03 → 00:23:06 หรือไม่ก็อย่าต้านแบคทีเรียอย่าฆ่า
00:23:06 → 00:23:08 แบคทีเรีย
00:23:08 → 00:23:11 อันนี้ดีนะคะ
00:23:11 → 00:23:14 ยาต้านแบคทีเรีย
00:23:14 → 00:23:17 ความจริงดีนะเพราะว่าเวลาเราเปลี่ยนแล้ว
00:23:17 → 00:23:20 ล่ะเราก็เรียกว่ายาต้านไวรัสก็ได้เรา
00:23:20 → 00:23:25 เรียกว่ายาต้านมาลาเรียก็ได้ได้หมดเลย
00:23:25 → 00:23:29 เราใช้ยาต้านมันทั้งสิ้นทราบมาว่าตอนนี้
00:23:29 → 00:23:33 ร้านขายยาเนี่ยเขาก็ร่วมรณรงค์กันแล้วใน
00:23:33 → 00:23:35 ฐานะที่คุณหมอเนี่ยเป็นประธานเรื่องของ
00:23:35 → 00:23:38 การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลเนี่ยร้านขายยา
00:23:38 → 00:23:41 เขาจะไม่ขายเลยเหรอคะอ่ะเราพูดถึงนะเป็น
00:23:42 → 00:23:46 ร้านขายของอ่ะขายยาเนี่ยขายของกับขายยา
00:23:46 → 00:23:50 ต่างกัน
00:23:50 → 00:23:52 ได้ไหม
00:23:53 → 00:23:56 อันนี้ขอบคุณมากที่ถามเพราะว่าคุณเภสัชกร
00:23:56 → 00:23:59 และร้านขายยาทั่วประเทศเนี่ยนะรู้ไหมเขา
00:23:59 → 00:24:01 เขามีร้านเภสัชกรทั้งประเทศเนี่ยประมาณ
00:24:01 → 00:24:06 เท่าไหร่ครับ
00:24:06 → 00:24:08 18,000 กว่าล้านทั้งประเทศเหล่านี้นะ
00:24:08 → 00:24:11 ครับซึ่งอันนี้เนี่ยถ้าหากว่ามาร่วมมือ
00:24:11 → 00:24:14 กันนะครับก็จะเกิดประโยชน์มหาศาลเลยเพราะ
00:24:14 → 00:24:18 ว่าเพราะว่านะในชีวิตประจำวันเนี่ยเนื่อง
00:24:18 → 00:24:20 จากร้านขายยาเนี่ยมีเยอะมากใช่ไหมครับ
00:24:20 → 00:24:24 แล้วก็กระจัดกระจายไปทั่วเลยนะครับทำให้
00:24:24 → 00:24:27 เนี่ยนะประชาชนพอไม่สบายจะนึกถึงร้านขาย
00:24:27 → 00:24:30 ยาก่อนก่อนหมอได้ซ้ำไปเพราะไปหาหมอที่มัน
00:24:30 → 00:24:33 ดูวุ่นวายใช่ไหมต้องไปลงทะเบียนต้องนู่น
00:24:33 → 00:24:38 นี่นั่นแหละเวลาเออใช่แต่ถ้าเป็นร้านขาย
00:24:38 → 00:24:40 ยาเนี่ยเสร็จแล้วดังนั้นร้านขายยาจะเป็น
00:24:40 → 00:24:43 ด่านแรกเลยนะครับที่ประชาชนไม่สบายเล็ก
00:24:43 → 00:24:47 น้อยวัดอันเจ็บคอท้องเสียท้องร่วงเนี่ยก็
00:24:47 → 00:24:50 จะไปร้านขายยาตอนนี้ก็เลยดีใจมากๆเลยครับ
00:24:50 → 00:24:54 ก่อนนะครับอย่างเช่นสภาพเภสัชกรรมก็ดีนะ
00:24:54 → 00:24:57 ครับทางเรื่องของสมาคมนะครับเอ่อ
00:24:57 → 00:24:59 เภสัชกรรมชุมชนซึ่งเขามีสมาชิกอยู่ตั้ง
00:24:59 → 00:25:02 7,000 บาท 7,000 กว่าคนนะอยู่ในสมาคมนี้
00:25:03 → 00:25:06 เป็นต้นเขาร่วมรณรงค์ไปด้วยกันพร้อมๆกับ
00:25:06 → 00:25:10 เหล่านี้แหละในการที่จะให้ร้านขายยาเนี่ย
00:25:10 → 00:25:14 ละเว้นการจ่ายยาปฏิชีวนะที่เกิดจำเป็น
00:25:14 → 00:25:17 เหมือนเหมือนกับที่โรงพยาบาลธรรมะแล้วโรง
00:25:17 → 00:25:20 พยาบาลนี้ทำมารยาทหนึ่งแล้วเราลดการสั่ง
00:25:21 → 00:25:23 ยาปฏิชีวนะลงได้ตามสมควรแล้วแต่ก็ยังต้อง
00:25:23 → 00:25:26 ทำต่อนะเพราะว่าที่ทำอยู่ก็ยังไม่ได้ผล
00:25:26 → 00:25:29 100% หรอกแต่ว่าตอนนี้ได้รับความร่วมมือ
00:25:29 → 00:25:32 จากร้านค้ายาด้วยก็ดีเลยเพราะฉะนั้นประชา
00:25:32 → 00:25:37 ชนนะถ้าหากว่าไปที่ร้านขายยาบอกขอซื้ออัน
00:25:37 → 00:25:41 นี้หน่อยแล้วคุณเภสัชเขาก็เริ่มต้นทำเรา
00:25:41 → 00:25:46 อาการเจ็บคอนี้เป็นมากี่วันมีไข้จริงหรือ
00:25:46 → 00:25:55 เปล่าไม่ใช่สูงไหมเอออย่างนี้เป็นต้น
00:25:55 → 00:25:57 [เพลง]
00:25:57 → 00:26:00 บอกหน่อยว่ามีจุดขาวๆที่ในคอหรือเปล่าคะ
00:26:00 → 00:26:08 นี่ก็แปลว่าเขาใช้ไอ้สีครอบเมื่อกี้แหละ
00:26:08 → 00:26:13 มีกระจกให้ดู
00:26:13 → 00:26:16 ใช่เขาใช้สีครอบเหมือนหมอนี่แหละคือปัญหา
00:26:16 → 00:26:18 ของเภสัชกรเนี่ยเขายากกว่าหมอตรงที่ว่า
00:26:18 → 00:26:21 เขาจับตัวคนไข้ไม่ได้เขาตรวจคนไข้ไม่ได้
00:26:21 → 00:26:31 ใช่ไหมเคยเคยไปร้านขายยาแล้วเป็นเกษตรกร
00:26:31 → 00:26:35 เราก็ต้องตรวจเองแล้วจะวัดตลอดก็ยังไม่
00:26:35 → 00:26:37 รู้เลยว่าเขามีที่วัดตลอดให้เราไหมก็เลย
00:26:37 → 00:26:40 ไม่รู้ว่า 38 หรือเปล่าแต่ถ้าเรามีวัด
00:26:40 → 00:26:43 ตลอดที่บ้านแล้วก็บอกไปเลยอุณหภูมิ 37.6
00:26:43 → 00:26:45 คุณไม่ได้แล้วเนี่ย
00:26:45 → 00:26:49 เขาบอกว่าถ้าร้านขายยาแต่ละร้านงดขายยา
00:26:49 → 00:26:52 ปฏิชีวนะเกิดความจำเป็นเพียงให้กับประชา
00:26:52 → 00:26:55 ชนเพียง 1 คนในแต่ละวันภายใน 1 ปีลดการ
00:26:55 → 00:26:59 ใช้ยาลงได้ยาปฏิชีวนะนะคะโอ้โหเดี๋ยวนับ
00:26:59 → 00:27:02 นับไม่ถ้วน
00:27:02 → 00:27:03 กว่า
00:27:03 → 00:27:07 115 ครั้งโอ้โห
00:27:07 → 00:27:10 6 ล้านครั้งอ่ะเพราะอะไร
00:27:10 → 00:27:13 ร้านขายยาเนี่ยมีอยู่ทั้งสิ้น
00:27:14 → 00:27:16 18,000 กว่าล้านที่เหมา
00:27:16 → 00:27:21 อันนี้คิดเลขก็คูณไปสิ 18,500 บาท
00:27:21 → 00:27:26 1 วันไม่สั่งยา 1 คน 1 ปีเอา 365 วันไป
00:27:26 → 00:27:31 คูณมันก็ได้ตัวเลขมา
00:27:31 → 00:27:37 พูดผิด 67 ล้านนะครับและไอ้เจ้า 6 ล้าน
00:27:37 → 00:27:39 ครั้งที่ว่าเนี่ยนะ 6 ล้านครั้งที่ว่า
00:27:39 → 00:27:43 เนี่ยนะครับถ้าหากเอาน้ำหนักยาปฏิชีวนะ
00:27:43 → 00:27:47 ที่เรารู้จักกันอะม็อกซี่เม็ดนึง
00:27:47 → 00:27:50 โดยมากก็สั่งมา 20 เมตรเป็นจำเลยเลยนะ
00:27:50 → 00:27:51 เนี่ย
00:27:51 → 00:27:52 ใช่
00:27:53 → 00:27:58 น้ำหนักของมันเนี่ยจำนวน 20 เม็ดมาคำนวณ
00:27:58 → 00:28:05 น้ำหนักยาปฏิชีวนะที่เราไม่ได้สั่ง
00:28:05 → 00:28:09 เราก็จะสามารถลด
00:28:09 → 00:28:22 น้ำหนักปริมาณของยาปฏิชีวนะลงได้ปีละ 67
00:28:22 → 00:28:26 ถ้าไม่มีความร่วมมือกันระหว่างร้านขายยา
00:28:26 → 00:28:28 ทั้งหมดที่ผมพูดไป
00:28:28 → 00:28:32 และประชาชนยังคงได้รับยาปฏิชีวนะเกินอยู่
00:28:32 → 00:28:37 เพียง 1 คนใน 1 ล้านใน 1 วัน
00:28:37 → 00:28:41 1 ปีผ่านไปประชาชนจะได้รับยาปฏิเสธที่
00:28:41 → 00:28:43 ไม่จำเป็นต้องกิน 67 บาท
00:28:44 → 00:28:46 [เพลง]
00:28:46 → 00:28:49 นั่นหมายถึงว่าอัตราที่เราไม่อยากจะคิด
00:28:49 → 00:28:52 ถึงว่าการดื้อยาที่นำไปสู่การเสียชีวิต
00:28:52 → 00:28:55 ได้มันก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
00:28:55 → 00:28:59 แน่นอน
00:28:59 → 00:29:04 แล้วพอใช้ไปมันก็ไม่ดีขึ้นพอไปอ่ะเวลา
00:29:04 → 00:29:07 ฉายาไม่ดีขึ้นไปหาคุณหมอที่คลินิกคุณหมอ
00:29:07 → 00:29:09 ก็ต้องเปลี่ยนยาจากยาส่วนแรกเช่นบอกว่า
00:29:09 → 00:29:13 คุ้นเคยมากเลยคุณหมอก็เปลี่ยนเป็นอาชีพ
00:29:13 → 00:29:18 มากขึ้นไม่หายอีกก็ไปโรงพยาบาลก็ใช้ยาแรง
00:29:18 → 00:29:21 ขึ้นก็แปลว่าคนๆนึงอ่ะเจอยาปฏิชีวนะเนี่ย
00:29:21 → 00:29:24 โอ้โหบางทีหลายขนาดนะครับแล้วก็เนื่องจาก
00:29:24 → 00:29:27 ปัญหาเชิดดื้อยายิ่งใช้หลายขนาด
00:29:27 → 00:29:36 ซุปเปอร์บั๊กมันก็ชอบเลยแหละ
00:29:36 → 00:29:42 เหมือนนักมวยที่เก่งมากๆเลยนักกีฬา
00:29:42 → 00:29:46 ตอนนี้ในช่วงท้ายนี้ขอให้อาจารย์พิศลรบ
00:29:46 → 00:29:51 กวนสรุปเรื่องของยาปฏิชีวนะเรามีอาการ
00:29:51 → 00:29:53 อย่างไรเราต้องระมัดระวังตัวเองอย่างไร
00:29:53 → 00:29:57 เราอย่าไปใช้ยาต้านเขาเรียกว่าอะไรยา
00:29:57 → 00:30:01 อักเสบยาปฏิชีวนะอยากฆ่าเชื้อกันให้เกิน
00:30:01 → 00:30:04 ความจำเป็นเลยค่ะอาจารย์ค่ะหลักการขั้น
00:30:04 → 00:30:07 ต้นอันดับแรกก่อนเลยให้รู้ว่ายาปฏิชีวนะ
00:30:07 → 00:30:10 เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเราจะตั้งใจเสมอ
00:30:10 → 00:30:13 ว่าเราจะไม่ใช้มันในโลกที่เชื้อไวรัสและ
00:30:13 → 00:30:16 หลังจากเลิกเรียกกันว่าอยากแก้อักเสบจะ
00:30:16 → 00:30:18 ไม่เรียกอีกแล้วแล้วเราก็จะไม่เดาเอาเอง
00:30:18 → 00:30:21 ว่าเป็นไข้เมื่อไหร่ต้องไปหายาปฏิชีวนะ
00:30:21 → 00:30:24 เจ็บคอเมื่อไหร่ต้องไปหายาปฏิชีวนะเราจะ
00:30:24 → 00:30:26 เลิกความเชื่อผิดๆเหล่านี้แล้วเราก็จะ
00:30:27 → 00:30:31 ตั้งใจว่าเมื่อเราใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อเรา
00:30:31 → 00:30:33 ป่วยจริงๆด้วยแบคทีเรียเราก็จะกินให้ครบ
00:30:33 → 00:30:37 ตามที่คุณหมอสั่งเพื่อไม่ปล่อยเชื้อ
00:30:37 → 00:30:40 แบคทีเรียให้มันคงค้างอยู่ในร่างกายเรา
00:30:40 → 00:30:43 แล้วก็กลายเป็นเชื้อดื้อยาที่สะสมไว้ใน
00:30:43 → 00:30:45 ร่างกายของเราครับ
00:30:45 → 00:30:48 ต้องกินให้ครบด้วยนะอีกข้อนึงนะคะถ้าได้
00:30:48 → 00:30:51 มาแล้วจากเภสัชกรสั่งมา
00:30:51 → 00:30:54 คุณผู้ฟังบอกว่าเภสัชกรเก่งๆใจอยากได้ตรง
00:30:54 → 00:30:57 อาการกว่าหมอบางคนอีกค่ะ
00:30:57 → 00:31:01 มีการสืบเนาะ
00:31:01 → 00:31:04 มีคุณผู้ฟังถามมาเพิ่มเติมสักนิดหน่อย
00:31:04 → 00:31:06 ครับอาจารย์ฮะพาราเป็นยาแก้อักเสบใช่ไหม
00:31:06 → 00:31:07 ครับ
00:31:07 → 00:31:16 [เพลง]
00:31:16 → 00:31:21 โรงพยาบาลเนี่ยมีคนเข้าออกไม่รู้เท่าไหร่
00:31:21 → 00:31:23 มีจุดเสี่ยงมากอย่างที่อาจารย์พูดนะครับ
00:31:23 → 00:31:27 แล้วก็ขอบอกถามอีกว่าทำในโรงพยาบาลนะครับ
00:31:27 → 00:31:29 ติดเชื้อมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าคน
00:31:29 → 00:31:31 ทั่วไปไหม
00:31:31 → 00:31:34 ถ้าเราทำงานในโรงพยาบาลใช่เลยครับเรามี
00:31:34 → 00:31:37 โอกาสที่จะเสี่ยงการติดเชื้อมากกว่าบุคคล
00:31:37 → 00:31:40 ทั่วไปแล้วก็มีหลักฐานชัดเจนว่าบุคคลที่
00:31:40 → 00:31:43 ทำงานโรงพยาบาลเนี่ยนะครับจะนำเชื้อ
00:31:43 → 00:31:46 แบคทีเรียที่อยากกลับไปยังที่บ้านของเขา
00:31:46 → 00:31:48 ได้ด้วยนะครับ
00:31:48 → 00:31:51 ถ้าเราไม่ได้ทำอย่างถูกต้องหมายถึงว่า
00:31:51 → 00:31:54 เสื้อผ้าชุดไหนใส่อยู่แล้วแบคทีเรียมันก็
00:31:54 → 00:31:58 มาสะสมอยู่แล้วกลับไปทั้งชุดนั้น