00:00:00 → 00:00:02 [เพลง]

00:00:02 → 00:00:05 you Listening to พยาไทย Health facts

00:00:05 → 00:00:09 podcast สุขภาพจากโรงพยาบาลพญาไทยที่จะ

00:00:09 → 00:00:12 พาคุณไปรู้จักร่างกายตัวเองในแง่มุมที่

00:00:12 → 00:00:14 คุณอาจไม่เคยรู้เมื่อ

00:00:14 → 00:00:15 [เพลง]

00:00:15 → 00:00:17 [ปรบมือ]

00:00:17 → 00:00:18 [เพลง]

00:00:18 → 00:00:22 ก่อนเว่ากันว่าประจำเดือนคือเลือดเสีย

00:00:22 → 00:00:25 จริงหรือเปล่าสวัสดีค่ะแพทย์หญิงทิศรา

00:00:25 → 00:00:28 วีรสมัยค่ะหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน

00:00:28 → 00:00:30 วิทยาศาสตร์ทางเพศสูติรีแพทย์ประจำศูนย์

00:00:30 → 00:00:33 สุขภาพหญิงโรงพยาบาลพญาไทย 1 และหัวหน้า

00:00:33 → 00:00:35 ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย Smart Life Anti

00:00:35 → 00:00:38 aging Center ค่ะวันนี้เราจะมารู้จัก

00:00:38 → 00:00:40 เลือดประจำเดือนของผู้หญิงกันนะคะไม่น่า

00:00:40 → 00:00:42 เชื่อเลยนะคะพวกเราทุกคนก็เป็นผู้หญิงนะ

00:00:42 → 00:00:45 คะแต่เชื่อมว่าเรายังไม่ค่อยเข้าใจประจำ

00:00:45 → 00:00:47 เดือนของเรากันเลยนะคะวันนี้จะมาสอนเคล็ด

00:00:47 → 00:00:50 ลับการดูแลประจำเดือนของพวกเรากันว่า

00:00:50 → 00:00:52 อย่างไหนเรียกว่าปกติอย่างไหนเรียกว่าผิด

00:00:52 → 00:00:55 ปกติแล้วเมื่อไหร่ต้องมาพบหมอนะคะมาเริ่ม

00:00:55 → 00:00:58 ที่ปกติกันก่อนนะคะต้องบอกก่อนว่าน่าตกใจ

00:00:58 → 00:01:00 มากบางทีประจำเดือนแบบนี้เรายังงงเลยว่า

00:01:00 → 00:01:02 อย่างนี้เรียกว่าปกติหรือเปล่ามาทำความ

00:01:02 → 00:01:05 รู้จักก่อนว่าจริงๆเราทุกคนจะมีมดลูกเป็น

00:01:05 → 00:01:08 อวัยวะสำคัญที่อยู่ตรงกลางย้ำนะคะเรามีมด

00:01:08 → 00:01:11 ลูกกันคนละ 1 อันนะคะทุกคนนะคะแต่เชื่อ

00:01:11 → 00:01:12 มั้ยผู้หญิงหลายคนไม่เคยรู้เลยนะว่าเรามี

00:01:13 → 00:01:16 มดลูก 1 อันนะคะแล้วเราจะมีรังไข่อยู่ 2

00:01:16 → 00:01:19 ข้างซ้ายขวาคนละ 1 ข้างข้างซ้ายกับข้าง

00:01:19 → 00:01:21 ขวารังไข่นี่แหละมีหน้าที่ในการผลิต

00:01:21 → 00:01:24 ฮอร์โมนนั่นหมายความว่ามดลูกของเราสร้าง

00:01:24 → 00:01:26 ฮอร์โมนเองไม่ได้นะคะรังไขจะมีการผลิต

00:01:26 → 00:01:29 ฮอร์โมนเพศนั่นคือฮอร์โมนเอสโตรเจนและ

00:01:29 → 00:01:31 ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งมีผลต่อการมี

00:01:31 → 00:01:33 ประจำเดือนเพราะว่าฮอร์โมนเหล่านี้แหละจะ

00:01:33 → 00:01:37 ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีการหนาตัวนะคะหนา

00:01:37 → 00:01:40 ตัวและมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์รองรับเพื่อ

00:01:40 → 00:01:42 ให้มีการฝังตัวของตัวอ่อนในทุกๆเดือนและ

00:01:43 → 00:01:45 มีการฝังตัวของตัวอ่อนสำเร็จเมื่อไหร่แปล

00:01:45 → 00:01:47 ว่ามีการตั้งครรภ์ค่ะแต่ถ้าเกิดว่าใน

00:01:47 → 00:01:49 เดือนนั้นเนี่ยนะคะไม่มีการปฏิสนธิคือเรา

00:01:49 → 00:01:51 ไม่มีกิจกรรมกุ๊กกิ๊กกันนั่นคือไม่มีตัว

00:01:51 → 00:01:55 อ่อนนะคะเยื่อบุที่เตรียมหนาตัวรองรับใน

00:01:55 → 00:01:57 เดือนนั้นก็จะถูกลอกออกมาเป็นประจำเดือน

00:01:57 → 00:01:59 นะคะนั่นคือไม่ได้เป็นเลือดเสียหรือขับ

00:01:59 → 00:02:02 ของเสียแต่อย่างใดนะคะเป็นเยอบุตรที่

00:02:02 → 00:02:04 เตรียมพร้อมสำหรับการมีบุตรนั่นเองค่ะเรา

00:02:04 → 00:02:06 มาดูว่าประจำเดือนแบบไหนที่เรียกว่าปกติ

00:02:06 → 00:02:10 นะคะประจำเดือนปกติมีวิธีการดู 4 แบบค่ะ

00:02:10 → 00:02:12 แบบแรกก็คือรอบประจำเดือนรอบอย่างนี้

00:02:12 → 00:02:15 เรียกว่าปกติหรือเปล่า 2 ปริมาณเลือด

00:02:15 → 00:02:17 ประจำเดือนแบบนี้เรียกว่าปกติหรือเปล่า 3

00:02:17 → 00:02:20 จำนวนวันของการมีประจำเดือนและสำคัญสุด

00:02:20 → 00:02:23 ท้ายก็คือสีของประจำเดือนค่ะเรามาดู

00:02:23 → 00:02:25 เรื่องของรอบประจำเดือนก่อนนะคะนั่นคือ

00:02:25 → 00:02:28 ระยะห่างของประจำเดือนในแต่ละรอบมีความ

00:02:28 → 00:02:31 สำคัญนะคะเรานับยังไงเรานับจากประจำเดือน

00:02:31 → 00:02:34 มาวันแรกของเดือนนี้ไปจนถึงประจำเดือนมา

00:02:34 → 00:02:36 วันแรกของเดือนถัดไปอันนี้แหละเรียกว่า

00:02:36 → 00:02:39 ระยะห่างระยะห่างที่ปกติคืออยู่ในช่วง 24

00:02:39 → 00:02:42 -38 วันค่ะเพราะฉะนั้นถ้าห่างมากกว่า 38

00:02:42 → 00:02:45 วันแสดงว่านานเกินไปละนะคะข้อที่ 2 ก็คือ

00:02:46 → 00:02:48 จำนวนวันของประจำเดือนค่ะจำนวนวันที่ปกติ

00:02:48 → 00:02:51 ก็คือมาอยู่ในช่วง 4-8 วันค่ะเพราะฉะนั้น

00:02:51 → 00:02:54 ถ้ามากกว่า 8 วันแปลว่ามานานเกินไปนะคะ

00:02:54 → 00:02:56 ต่อมาข้อที่ 3 ก็คือปริมาณเลือดประจำ

00:02:56 → 00:02:58 เดือนค่ะโออันนี้ยากที่สุดในความเห็นของ

00:02:58 → 00:03:01 หมอเลยนะคะเราจะบอกว่าประจำเดือนมามากดู

00:03:01 → 00:03:04 จากอะไรถ้าดูจากข้อมูลนะคะที่มีการวิจัย

00:03:04 → 00:03:06 ต่างๆนานาข้อมูลทางการแพทย์เราจะบอกว่า

00:03:06 → 00:03:09 เลือดประจำเดือนที่มามากกว่า 80 ซีซต่อ 1

00:03:09 → 00:03:12 รอบถือว่าผิดปกติหมอคงไม่มานั่งซัก

00:03:12 → 00:03:14 ประวัติทุกคนว่าตกลงเดือนนี้มากี่ซีซีนะ

00:03:14 → 00:03:16 คะเพราะก็คงไม่มีใครมานั่งช่างตวงวัดให้

00:03:16 → 00:03:19 หมอเหมือนกันนะคะเอ้อเราจะดูยังไงหลายคน

00:03:19 → 00:03:21 คงสงสัยว่าเวลามาเจอหมอสูหมอสูจะถามตลอด

00:03:21 → 00:03:24 เลยว่าข้อที่ 1 นะคะปริมาณเลือดประจำ

00:03:24 → 00:03:26 เดือนใช้ผ้าอนามัยวันละกี่แผ่นเชื่อมั้คะ

00:03:26 → 00:03:29 ว่าขนาดพวกเราจำได้แล้วตอบหมอหมอก็งง

00:03:29 → 00:03:31 เหมือนกันนะคะคะเพราะมันต้องถามต่อไปว่า

00:03:31 → 00:03:33 จำนวนแผ่นนั้นคือเป็นแผ่นกลางวันหรือแผ่น

00:03:33 → 00:03:36 กลางคืน 2 คือเปลี่ยนบ่อยหรือเปล่านะคะ

00:03:36 → 00:03:38 เช่นยังไม่ทันจะชุ่มหนูเปลี่ยนแล้วค่ะคุณ

00:03:38 → 00:03:40 หมอหนูไม่ชอบให้อัซึ่งดีนะคะแต่มันจะงง

00:03:40 → 00:03:43 ว่าตกลงปริมาณประจำเดือนเป็นยังไงนะฮะ

00:03:43 → 00:03:45 หรือรอจนชุ่มแล้วค่อยเปลี่ยนใช่มั้ยคะ

00:03:45 → 00:03:47 เพราะฉะนั้นในความเป็นจริงหมอจะประมวลทุก

00:03:47 → 00:03:49 ข้อมูลนี้มาไว้ด้วยกันถ้าจะสงสัยว่ามา

00:03:49 → 00:03:52 เยอะคือน1ึนะคะปริมาณออกมาเยอะมากจน

00:03:52 → 00:03:54 กระทั่งเลือดออกมาเป็นลิ่มเป็นก้อนอันนี้

00:03:54 → 00:03:57 เรียกว่ามาเยอะ 2 ในขณะที่มาเนี่ยถึงขนาด

00:03:57 → 00:04:00 วู่เป็นลมเลยก็แสดงว่าเยอะๆจริงล่ะนะคะ

00:04:00 → 00:04:02 ข้อที่ 3 ก็คือมีภาวะโลหิตจางเวลาตรวจ

00:04:02 → 00:04:04 สุขภาพเพราะว่ามีภาวะซีดอันนี้แหละเรียก

00:04:05 → 00:04:07 ว่าเยอะจริงข้อที่ 4 สุดท้ายเลยที่เราจะ

00:04:07 → 00:04:09 มักมีคำถามว่าอย่างนี้เรียกว่าผิดปกติ

00:04:09 → 00:04:12 หรือเปล่าก็คือสีของเลือดประจำเดือนสีแดง

00:04:12 → 00:04:15 สดสีน้ำตาลหรือสีดำหลายคนมักจะบอกว่าถ้า

00:04:15 → 00:04:16 เลือดประจำเดือนเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลแปล

00:04:17 → 00:04:18 ว่าเลือดเสียใช่มั้ยคะคุณหมออันนี้เป็น

00:04:18 → 00:04:21 อะไรที่ทุกๆคนในชาวเอเชียของผู้หญิงจะถาม

00:04:21 → 00:04:25 คำถามนี้นะคะอ่ะหมอสอนเลยนะคะปกติเลือด

00:04:25 → 00:04:27 ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนของร่างกายเป็นสีแดงนะ

00:04:27 → 00:04:30 คะเลือดประจำเดือนก็เหมือนกันก็เป็นสีแดง

00:04:30 → 00:04:32 ค่ะแต่ทีนี้ถ้าเดือนนั้นมีประจำเดือนมา

00:04:32 → 00:04:35 เยอะมากๆเลือดก็จะออกมาเยอะจนทนออกไม่ทัน

00:04:35 → 00:04:38 ไหลออกมาไม่ทันจะมีเลือดบางส่วนที่คั่ง

00:04:38 → 00:04:40 อยู่ในช่องคลอดแล้วออกมาไม่ทันมันก็จับ

00:04:40 → 00:04:42 กลุ่มแข็งตัวเป็นก้อนเลือดพอสุดท้ายมัน

00:04:43 → 00:04:45 ออกมาได้ก็จะเห็นมาเป็นก้อนเป็นลิ่มอัน

00:04:45 → 00:04:47 นั้นน่ะแสดงว่าประจำเดือนมาเยอะมากเป็นสี

00:04:47 → 00:04:50 แดงสดและออกมาเป็นก้อนแต่ทีนี้เวลาเลือด

00:04:50 → 00:04:52 เป็นสีดำหรือเป็นสีน้ำตาลมักจะหมายถึง

00:04:52 → 00:04:55 เลือดประจำเดือนออกน้อยมากค่ะเวลาที่มี

00:04:55 → 00:04:57 เลือดประจำเดือนออกมาแรกๆเป็นสีแดงนั่น

00:04:57 → 00:04:59 แหละแต่ว่าเป็นไงคะปริมาณน้อยไม่ถูกขับ

00:04:59 → 00:05:01 ออกมาเขก็จะคาอยู่ในช่องคลอดค่ะทีนี้

00:05:01 → 00:05:03 สัมผัสกับออกซิเจนอยู่ในอากาศก็จะทำ

00:05:03 → 00:05:06 ปฏิกิริยาเปลี่ยนสีเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล

00:05:06 → 00:05:08 พอถึงเวลาที่เรามีการเบ่งเช่นยกของหนัก

00:05:09 → 00:05:11 ออกกำลังกายเบ่งถ่ายพอเราซับเจอเราเห็นสี

00:05:11 → 00:05:14 ดำหรือสีน้ำตาลเราก็ตกใจจริงๆก็คือปริมาณ

00:05:14 → 00:05:16 เลือดประจำเดือนที่น้อยกว่าปกตินั่นเองก็

00:05:16 → 00:05:18 จะเห็นเป็นสีอย่างนี้ได้นะคะเวลาเรามี

00:05:18 → 00:05:20 เลือดออกเหล่าเนี้ยแล้วเรารู้แล้วว่าผิด

00:05:20 → 00:05:23 ปกติเราต้องทำยังไงนะคะฟังอย่างนี้ทุกคน

00:05:23 → 00:05:25 จะบอกว่าโอเคค่ะคุณหมอเข้าใจละต้องไปหา

00:05:25 → 00:05:27 หมอเท่านั้นค่ะนะคะเพราะบางอย่างเราต้อง

00:05:27 → 00:05:30 อาศัยการตรวจเพิ่มเติมถึงจะรู้ว่ามีความ

00:05:30 → 00:05:32 ผิดปกติที่ไหนนะคะหมอจะมาสอนวิธีการ

00:05:32 → 00:05:35 เตรียมตัวก่อนจะมาหาหมอค่ะอันดับแรกคือ

00:05:35 → 00:05:37 ต้องเตรียมประวัติตัวเองให้พร้อมเพราะไป

00:05:38 → 00:05:40 ถึงจะถูกคุณหมอซักแน่ๆประวัติเหล่าเนี้ย

00:05:40 → 00:05:43 จะช่วยในการวินิจฉัยค่ะเช่นตอนนี้คุม

00:05:43 → 00:05:45 กำเนิดวิธีไหนอยู่เห็นมั้ยคะเราต้องแยก

00:05:45 → 00:05:47 เรื่องการตั้งคันก่อนเนาะ 2 ประวัติประจำ

00:05:47 → 00:05:50 เดือนไล่ย้อนหลังไปอย่างน้อย 2-3 เดือนมา

00:05:50 → 00:05:53 วันแรกวันที่เท่าไหร่ของแต่ละเดือนแต่ละ

00:05:53 → 00:05:55 เดือนมากี่วันวันนึงใช้ผ้าอนามัยประมาณ

00:05:55 → 00:05:58 กี่แผ่นมีอาการร่วมหรือเปล่าเช่นหน้ามืด

00:05:58 → 00:06:00 เป็นลมบวดท้องมากๆมากตรวจสุขภาพแล้วมี

00:06:00 → 00:06:03 ภาวะโลหิตจางอยู่มย 3 เรามีโรคประจำตัว

00:06:03 → 00:06:06 อะไรบ้างกินยาอะไรอยู่บ้างเพราะเหล่านี้

00:06:06 → 00:06:09 มีผลต่อการตรวจแน่ๆหลังจากนั้นพอตรวจพบ

00:06:09 → 00:06:11 ปัญหาที่เราสงสัยหมอจะบอกเลยว่าสิ่งเดียว

00:06:12 → 00:06:14 และสิ่งที่สำคัญมากที่ทำให้พวกเราทุกคน

00:06:14 → 00:06:17 กล้ามาเจอหมอสูคืออะไรคะกลัวเป็นมะเร็ง

00:06:17 → 00:06:19 ค่ะรับประกันเลยนะคะเวลามีเลือดออกเราจะ

00:06:19 → 00:06:21 กลัวมากทุกครั้งที่เห็นเลือดมันออกไม่

00:06:21 → 00:06:23 หยุดเราจะนึกถึงว่าเอ๊ะฉันเป็นมะเร็งหรือ

00:06:23 → 00:06:25 เปล่าหน้าที่หมอก็คือนอกจากต้องแยกโรค

00:06:25 → 00:06:27 แล้วต้องแยกด้วยว่าไม่ใช่มะเร็งถูกต้อง

00:06:27 → 00:06:29 มั้ยคะเพราะฉะนั้นเวลามาเจอกันน่ะค่ะแน่

00:06:29 → 00:06:31 นอนเราจะต้องถูกตรวจภายในแล้วล่ะเราจะดู

00:06:31 → 00:06:33 ว่าโอเคมีติ่งเนื้อมีก้อนมีแผลฉีขาดที่

00:06:33 → 00:06:36 ช่องคลอดไล่ไปจนถึงปากมลูกหรือเปล่าแต่

00:06:36 → 00:06:38 ถ้ามากกว่านั้นคือในมดลูกต้องอาศัยการ

00:06:38 → 00:06:41 ตรวจอัลตร้าซาวด์นะคะการตรวจอัลตร้าซาวด์

00:06:41 → 00:06:43 มีประโยชน์ในการแยกว่ามีก้อนมีเนื้องอกมี

00:06:43 → 00:06:46 ถุงน้ำรังไขมและที่สำคัญถ้าไม่เจออะไรเลย

00:06:46 → 00:06:49 นะจะต้องวัดความหนาเยื่อบุโพงมดลูกด้วย

00:06:49 → 00:06:51 ว่ามันหนาผิดปกติจนมีความเสี่ยงที่จะเป็น

00:06:51 → 00:06:54 มะเร็งหรือเปล่าเพราะถ้ามีข้อสงสัยเราจะ

00:06:54 → 00:06:56 ต้องเอาเนื้อที่เยื่อบุโงมดลูกมาตรวจไม่

00:06:56 → 00:06:59 ว่าจะเป็นการเก็บเซลล์มาตรวจหรือทำการขูด

00:06:59 → 00:07:01 มดลูกและแน่นอนที่ต้องไม่ลืมคือต้องเช็ค

00:07:01 → 00:07:04 มะเร็งปากหมลูกด้วยนะคะทีนี้หลายคนบอกว่า

00:07:04 → 00:07:07 คุณหมอคะถ้าตรวจมาแล้วไม่เจออะไรเลยล่ะคะ

00:07:07 → 00:07:09 หนูปากกติหมดเลยเนี่ยไม่มีก้อนเลยมันน่า

00:07:09 → 00:07:12 จะมีสาเหตุมาจากอะไรนะคะที่บ่อยมากและน่า

00:07:12 → 00:07:15 สงสัยและต้องจำเป็นที่จะต้องตรวจก็คือ

00:07:15 → 00:07:17 ความผิดปกติของฮอร์โมนค่ะในปัจจุบันเราจะ

00:07:17 → 00:07:20 มีการตรวจเลือดดูฮอร์โมนด้วยนะคะต้องบอก

00:07:20 → 00:07:22 ก่อนว่าฮอร์โมนคืออะไรฮอร์โมนคือสารที่

00:07:22 → 00:07:25 หลั่งออกมาจากร่างกายคนเราทุกอวัยวะทำงาน

00:07:25 → 00:07:27 อยู่ด้วยกันได้อย่างราบรื่นอย่างมี

00:07:27 → 00:07:30 ประสิทธิภาพด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนค่ะนะคะ

00:07:30 → 00:07:32 และเมื่อกี้เราทราบดีว่ารังไข่เป็นคนให้

00:07:32 → 00:07:35 ฮอร์โมนมาทำให้เยื่อบุพรงลูกหนาตัวและมี

00:07:35 → 00:07:37 ประจำเดือนแต่รังไข่สร้างฮอร์โมนเองไม่

00:07:37 → 00:07:40 ได้นะรางไขจะมีคำสั่งมาจากสมองมันมี

00:07:40 → 00:07:43 อวัยวะที่เรียกว่าต่อมใต้สมองนะคะซึ่ง

00:07:43 → 00:07:45 ต่อมใต้สมองเนี่ยจะหลั่งฮอร์โมนมาควบคุม

00:07:45 → 00:07:48 รังไข่อีกทีนึงนะคะในต่อมใต้สมองจะมี

00:07:48 → 00:07:51 บรรดาฮอร์โมนหลากหลายไปควบคุมแต่ละอวัยวะ

00:07:51 → 00:07:53 เหมือนกันเพราะฉะนั้นเวลามีประจำเดือนมา

00:07:53 → 00:07:56 ผิดปกติอาจจะไม่ได้มีความผิดปกติเฉพาะรัง

00:07:56 → 00:07:58 ไข่อาจจะมีความผิดปกติของฮอร์โมนในส่วน

00:07:58 → 00:08:00 อื่นๆด้วยเพราะฉะนั้นการเจาะเลือดดู

00:08:00 → 00:08:03 ฮอร์โมนก็จะช่วยวางแผนการดูแลรักษาได้ว่า

00:08:03 → 00:08:06 ความผิดปกติของเราอยู่ที่จุดไหนนะคะหลาย

00:08:06 → 00:08:09 คนบอกว่าถ้าตรวจแล้วยังไม่เจออะไรล่ะคะ

00:08:09 → 00:08:11 คุณหมอหมอก็จะมีเทคนิคบอกว่ามันอาจจะเกิด

00:08:11 → 00:08:15 จากเป็นโรคที่เราทำเองก็ได้นะคะเช่นไสตล์

00:08:15 → 00:08:18 ของเราหรือการใช้ชีวิตรวมถึงโรคประจำตัว

00:08:18 → 00:08:20 และยาที่เรารับประทานอยู่มีผลทำให้เลื่อน

00:08:20 → 00:08:23 ออกผิดปกติอ่ะเริ่มจากยาก่อนนะคะเราเลือก

00:08:23 → 00:08:26 วิธีการคุมกำเนิดวิธีไหนนะคะเช่นถ้าใช้ยา

00:08:26 → 00:08:30 คุมกำเนิดชนิดฉีดนะคะชนิดยาฝังกำเนิดที่

00:08:30 → 00:08:32 ท้องแขนนะคะหรือห่วงที่เป็นห่วงฮอร์โมน

00:08:32 → 00:08:35 ใส่พุมกำเนิดในมดลูกเหล่านี้ต้องยอมรับ

00:08:35 → 00:08:37 ตั้งแต่ก่อนที่จะเลือกวิธีนี้แล้วนะคะว่า

00:08:37 → 00:08:40 หลังจากใช้ปั๊บจะมีประจำเดือนไม่ปกติอีก

00:08:40 → 00:08:42 เลยนะคะใน 3-6 เดือนแรกเจะมีปัญหาเรื่อง

00:08:43 → 00:08:45 เลือดออกกระปิดกระปอยได้หลังจากพ้น 3-6

00:08:45 → 00:08:47 เดือนไปแล้วจะเป็นลักษณะคือไม่มีประจำ

00:08:47 → 00:08:50 เดือนค่ะอันที่ 2 ก็คือยาที่ใช้รักษาโรค

00:08:50 → 00:08:52 เช่นโรคเยี่ยบุโพงมลูกเจริญผิดที่หรือใน

00:08:52 → 00:08:55 กลุ่มช็อกโกแลตซิเหล่านี้ใช้นานๆจะมี

00:08:55 → 00:08:57 ปัญหาเรืื่องประจำเดือนไม่มาแต่ใน 3-6

00:08:57 → 00:08:59 เดือนแรกจะมีเลือดออกผิดปกติได้ค่ะค่ะข้อ

00:08:59 → 00:09:02 ที่ 3 ค่ะในกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว

00:09:02 → 00:09:04 เรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือดค่ะต้องใช้

00:09:04 → 00:09:06 ในกลุ่มของยาละลายลิ่มเลือดหรือที่เรารู้

00:09:06 → 00:09:08 จักกันดีเช่นแอสไพรินนะคะเหล่านี้มีผลทำ

00:09:09 → 00:09:11 ให้เลือดออกผิดปกติได้เหมือนกันค่ะทีนี้

00:09:11 → 00:09:13 รู้จักเรื่องยาแล้วนะต่อมาก็คือโรคประจำ

00:09:13 → 00:09:15 ตัวค่ะเช่นในกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องของ

00:09:15 → 00:09:19 โรคซึมเศร้านอนไม่หลับยาในกลุ่มเนะคะจะมี

00:09:19 → 00:09:21 ปัญหาเรื่องของการทำให้น้ำหนักตัวขึ้น

00:09:21 → 00:09:23 แล้วก็มีปัญหาเรื่องของฮอร์โมนที่ผิดปกติ

00:09:23 → 00:09:26 นะคะไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนักตัวที่ขึ้น

00:09:26 → 00:09:28 หรือฮอร์โมนที่ผิดปกติส่งผลต่อการทำงาน

00:09:28 → 00:09:30 ของประจำเดือนที่ผิดปกติเหมือนกันเพราะ

00:09:30 → 00:09:33 มันรบกวนฮอร์โมนของรังไขด้วยค่ะยังไม่นับ

00:09:33 → 00:09:35 เรื่องของการทานยาเม็ดคลุมกำเนิดกับการ

00:09:35 → 00:09:38 ทานยาในกลุ่มของโรคซึมเศร้าซึ่งยาทั้ง 2

00:09:38 → 00:09:40 ตัวนี้รบกวนประสิทธิภาพซึ่งกันและกันค่ะ

00:09:40 → 00:09:43 ก็มีปัญหาเรื่องเลือดออกผิดปกติได้นะคะ

00:09:43 → 00:09:46 ต่อมาโรคประจำตัวบางชนิดเช่นในกลุ่มของ

00:09:46 → 00:09:48 มะเร็งเต้านมคนไข้ที่รักษามะเร็งเต้านมไป

00:09:48 → 00:09:51 จนหายดีแล้วนะคะจะมีกลุ่มนึงที่ต้องทานยา

00:09:51 → 00:09:53 ต้านฮอร์โมนเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีนะ

00:09:53 → 00:09:56 คะแล้วเชื่อมว่ายาต้านฮอร์โมนเหล่าเนี้ย

00:09:56 → 00:09:58 ช่วยป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งเต้านมแต่

00:09:58 → 00:10:01 ในขณะเดียวกันกระตุ้นให้เยื่อบุพรงลูกหนา

00:10:01 → 00:10:03 ตัวผิดปกติแล้วก็มีเลือดออกผิดปกติได้นะ

00:10:03 → 00:10:06 คะเหล่านี้ก็มีผลด้วยนะคะหรือคนไข้ที่ได้

00:10:06 → 00:10:09 รับยาเคมีบำบัดหรือได้รับการฉายแสงบริเวณ

00:10:09 → 00:10:12 อุ้งเชิงกรานเหล่านี้ทำให้รังไขทำงานผิด

00:10:12 → 00:10:14 ปกติชั่วคราวนะคะแล้วก็มีเลือดออกผิดปกติ

00:10:15 → 00:10:18 ได้เหมือนกันสุดท้ายคือโรคที่เราทำเองค่ะ

00:10:18 → 00:10:20 นะคะหลายคนที่รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด

00:10:20 → 00:10:23 แล้วลืมทานบ่อยๆนะคะรับประทานยาเม็ดคุม

00:10:23 → 00:10:26 กำเนิดผิดวิธีก็ทำให้มีเลื่อดออกผิดปกติ

00:10:26 → 00:10:27 หรือแม้แต่กลุ่มที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด

00:10:28 → 00:10:30 ฉุกเฉินก็มีผลทำให้เลือดออกผิดปกติได้

00:10:30 → 00:10:32 ด้วยเหมือนกันนะคะวันเนี้รวบรวมมาทั้งหมด

00:10:32 → 00:10:35 เลยนะนี่เรื่องของปัญหาประจำเดือนนะคะ

00:10:35 → 00:10:37 แล้วก็หวังว่าหลังจากที่เราได้พบกันวัน

00:10:37 → 00:10:39 นี้แล้วทุกคนก็น่าจะมีความเข้าใจเรื่อง

00:10:39 → 00:10:42 ของประจำเดือนได้มากขึ้นทั้งในแง่ของปกติ

00:10:42 → 00:10:45 ผิดปกติแล้วเมื่อไหร่ต้องมาหาหมอและที่

00:10:45 → 00:10:47 สำคัญเค้าไม่ใช่แค่ความคิดที่เราคิดว่า

00:10:47 → 00:10:49 เป็นเลือดเสียนะเค้าดูแลฮอร์โมนของร่าง

00:10:50 → 00:10:52 กายเราด้วยนะคะทุกคนต้องไม่ลืมนะคะมีความ

00:10:52 → 00:10:55 ผิดปกติเมื่อไหร่มาพบหมอสูกันค่ะสำหรับ

00:10:55 → 00:10:58 ใครที่สนใจอัปเดตปัญหาสุขภาพนะคะสามารถ

00:10:58 → 00:11:01 ติดตามปัญหาสุขภาพกันได้ที่พญาไทย podcast

00:11:01 → 00:11:03 ค่ะอย่าลืมกดติดตามกันนะคะสำหรับวันนี้

00:11:03 → 00:11:06 คุณหมอขอลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ

00:11:06 → 00:11:08 [ปรบมือ]

00:11:08 → 00:11:09 [เพลง]

00:11:09 → 00:11:12 [ปรบมือ]