00:00:00 → 00:00:02 This is Thai PBS Podcast. Viel
00:00:03 → 00:00:06 the world by the voice
00:00:06 → 00:00:08 >> ถ้ามันมีปัญหาหลอดเลือดแดงแตกอ
00:00:08 → 00:00:11 >> นั่นหมายถึงท่อน้ำปะปาใหญ่อ่ะค่ะที่ส่ง
00:00:11 → 00:00:13 ออกเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายเรา
00:00:13 → 00:00:14 มันแตก
00:00:14 → 00:00:16 >> ร่างกายต่างๆไม่ได้รับเลือดเลยอย่างเงี้ย
00:00:16 → 00:00:19 ค่ะเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอนสาเหตุ
00:00:19 → 00:00:22 อาจจะเกิดจากพฤติกรรมสุขภาพอย่างเช่นน่ะ
00:00:22 → 00:00:25 ผู้ชายที่มีประวัติสูบบุหรี่หรือว่าโรค
00:00:25 → 00:00:29 ความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้ควบคุมระดับความ
00:00:29 → 00:00:30 ดันให้อยู่ในเกมปกติ
00:00:30 → 00:00:32 >> เวลาเจ็บอ่ะ
00:00:32 → 00:00:35 แตกมัน
00:00:35 → 00:00:39 จะเจ็บค่อนข้างรุนแรงเจ็บแบบเปียดแทงหรือ
00:00:39 → 00:00:41 เหมือนมีอะไรไปฉีกขาดเนื้อเยื่อฉีกขาด
00:00:41 → 00:00:44 อย่างนั้นเลยค่ะ
00:00:44 → 00:00:48 >> ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:48 → 00:00:51 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:54 >> This is Thai PBS Podcast
00:00:54 → 00:00:57 >> วันนี้ค่ะคุณผู้ฟังคะเราจะมาติดตามกันกับ
00:00:57 → 00:01:00 เรื่องของหลอดเลือดแดงโป่งพองอ่ะเป็นอีก
00:01:00 → 00:01:04 หนึ่งไผเงียบที่อาจร้ายแรงถึงชีวิตได้นะ
00:01:04 → 00:01:08 คะซึ่งอาจจะเป็นคำที่เอ่อโรคที่หลายคนอาจ
00:01:08 → 00:01:10 จะไม่คุ้นหูเท่าไหร่แต่ว่าในทางการแพทย์
00:01:10 → 00:01:13 ก็ถือเป็นภาวะที่มีความรุนแรงแล้วก็อาจจะ
00:01:13 → 00:01:16 ทำให้เสียชีวิตได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
00:01:16 → 00:01:19 เลยทีเดียวนะคะวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ
00:01:19 → 00:01:21 เกี่ยวกับโรคนี้มากยิ่งขึ้นนะคะกับผู้
00:01:21 → 00:01:24 ช่วยศาสตราจารย์ดร.อรอุมานากรจากภาควิชาก
00:01:25 → 00:01:27 พยาบาลศาลยศาสตร์คณะพยาบาลศาสตร์
00:01:27 → 00:01:30 มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขา
00:01:30 → 00:01:31 >> สวัสดีค่ะ
00:01:31 → 00:01:35 >> ค่ะหลอดเลือดแดงโป่งพองอ่าทีนี้เบื้องต้น
00:01:35 → 00:01:37 เราก็คงต้องคุยกับอาจารย์หน้าที่ของหลอด
00:01:37 → 00:01:38 เลือดแดงค่ะ
00:01:38 → 00:01:42 >> อ่าหลอดเลือดแดงใหญ่นะคะก็ทำหน้าที่อ่านำ
00:01:42 → 00:01:45 เลือดนะคะที่ออกจากห้องหัวใจเนี่ยไป
00:01:45 → 00:01:46 เลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายค่ะ
00:01:47 → 00:01:49 >> ถ้าเกิดเขาไม่ทำงานหรือเขาไม่ไม่ไหลเวียน
00:01:49 → 00:01:52 ไปมันจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายคะอาจารย์
00:01:53 → 00:01:55 >> ถ้าไม่ไหลเรียนไปนะคะร่างกายก็ได้เริ่ม
00:01:55 → 00:01:58 เลือดลดลงอย่างที่เรียนตั้งต้นว่าถ้ามัน
00:01:58 → 00:01:59 มีปัญหาหลอดเลือดแดงแตก
00:01:59 → 00:02:00 >> อื
00:02:00 → 00:02:03 >> นั่นหมายถึงท่อน้ำประปาใหญ่อ่ะค่ะที่ส่ง
00:02:03 → 00:02:05 ออกเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายเรา
00:02:05 → 00:02:05 มันแตก
00:02:05 → 00:02:08 >> ร่างกายต่างๆไม่รับไม่ได้รับเลือดเลย
00:02:08 → 00:02:10 อย่างเงี้ยค่ะเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่าง
00:02:10 → 00:02:10 แน่นอน
00:02:10 → 00:02:12 >> ค่ะอาจารย์คะแล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไงอ่ะ
00:02:12 → 00:02:13 คะ
00:02:13 → 00:02:16 >> ขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงนะคะอย่างเช่นอ่า
00:02:16 → 00:02:19 ตอนนี้ที่เรารู้ก็คือว่าสาเหตุอาจจะเกิด
00:02:19 → 00:02:23 จากพฤติกรรมสุขภาพอย่างเช่นน่ะผู้ชายที่
00:02:23 → 00:02:26 มีประวัติสูบบุหรี่นะคะหรือว่าโรคความดัน
00:02:26 → 00:02:30 โลหิตสูงที่ไม่ได้ควบคุมระดับความดันให้
00:02:30 → 00:02:31 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
00:02:31 → 00:02:34 >> หรือแม้แต่พออายุที่เพิ่มมากขึ้นน่ะค่ะ
00:02:34 → 00:02:38 ผู้สูงอายุก็จะมีการเสื่อมตามวัยของหลอด
00:02:38 → 00:02:39 เลือดได้ค่ะ
00:02:39 → 00:02:42 >> แต่ถ้าเกิดว่าเรามีความเสี่ยงสูบบุหรี่มี
00:02:42 → 00:02:45 โรคความดันมันก็จะทำให้ไม่ต้องรออายุมาก
00:02:45 → 00:02:48 มันก็เสี่ยงที่จะเป็นได้กับหลอดเลือดแดง
00:02:48 → 00:02:49 ตรงนี้
00:02:49 → 00:02:52 >> ใช่ค่ะใช่อืแต่ว่าคนที่อายุมากขึ้นมัน
00:02:52 → 00:02:55 หลีกเลี่ยงไม่ได้ในความเสื่อมของร่างกาย
00:02:55 → 00:02:58 อุ๊ยคนเป็นกันเยอะมั้ยคะกับหลอดเลือดแดง
00:02:58 → 00:02:59 โป่งพองอ่ะค่ะอาจารย์
00:02:59 → 00:03:02 >> ต้องบอกว่าสมัยก่อนเนี่ยเนื่องจากเราไม่
00:03:03 → 00:03:05 ตัวการตรวจคัดกรองอ่ะค่ะ
00:03:05 → 00:03:07 >> ยังยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ราย
00:03:07 → 00:03:11 งานสมัยก่อนอาจจะไม่เยอะมากแต่ปัจจุบันพบ
00:03:11 → 00:03:14 คนไข้ที่เป็นหลอดเลือดแดงโป่งพองและเข้า
00:03:14 → 00:03:16 มารับการผ่าตัดนี่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนะ
00:03:17 → 00:03:19 คะอาจจะด้วยการตรวจคัดกรองที่มี
00:03:19 → 00:03:21 ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
00:03:21 → 00:03:24 >> คนที่จะไปคัดกรองได้ต้องเป็นแบบอายุมาก
00:03:24 → 00:03:26 ไม่ไม่ต้องมากขนาดนั้นก็ได้สักแบบ
00:03:27 → 00:03:29 >> ไม่ต้องมากก็ได้ค่ะบางทีผู้ชายพิสูจ
00:03:29 → 00:03:32 บุหรี่เนี่ยก็เจอในอายุน้อยนะคะที่มาและ
00:03:32 → 00:03:35 ด้วยความผกของหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองอ่ะ
00:03:35 → 00:03:38 ค่ะโดยส่วนใหญ่บางทีคนไข้ไม่ได้มีอาการ
00:03:38 → 00:03:41 เลยค่ะแต่มาตรวจพบโดยบังเอิญ
00:03:41 → 00:03:43 >> จากการตรวจเชรยปอด
00:03:43 → 00:03:46 >> ไม่ได้มีอาการโอ๊ยอันนี้แหละน่ากลัวทุก
00:03:46 → 00:03:48 ครั้งเลยที่ฟังแล้วแบบว่าบางอย่างเนี่ย
00:03:48 → 00:03:50 มันไม่ได้มีอาการบอกอะไรเลยมาดูอีกทีนึง
00:03:50 → 00:03:52 นึงคือแบบจากการตรวจอย่างอื่นแล้วมาเห็น
00:03:52 → 00:03:54 ว่าเป็นหรือแบบ
00:03:54 → 00:03:55 >> ใช่ค่ะ
00:03:55 → 00:03:57 >> เป็นเยอะแล้วเอาอาการออกถึงมารู้ทีหลัง
00:03:57 → 00:04:00 อะไรอย่างงี้ใช่มั้คะเrayปอดปึ๊บเจอเลย
00:04:00 → 00:04:03 >> ใช่ค่ะคุณหมอก็จะเห็นว่าเอ๊ะทำไมเงาของ
00:04:03 → 00:04:06 หลอดเลือดแดงมันมันโตขึ้นอย่างเงี้ย
00:04:06 → 00:04:09 >> อ่าก็จะสงสัยละว่าน่าจะมีปัญหาหลอดเลือด
00:04:09 → 00:04:13 แดงโป่งครองหรือถ้าคนมีอาการน่ะค่ะบางที
00:04:13 → 00:04:16 อาการเริ่มแรกเนี่ยอาจจะมาเกิดจากที่หลอด
00:04:16 → 00:04:20 เลือดนะคะมันไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง
00:04:20 → 00:04:23 เช่นคนไข้มาหาหมอด้วยภาวะเสียงแหบแต่
00:04:23 → 00:04:25 ปรากฏตรวจไปแล้วเพราะว่าหลอดเลือดนะคะแดง
00:04:25 → 00:04:29 อ่ะมันไปกดเบียดไอ้ตรงกล่องเสียงอ่ะค่ะ
00:04:29 → 00:04:32 หรือบางมาด้วยภาวะกลืนลำบากปรากฏหลอด
00:04:32 → 00:04:35 เลือดมันไปกดตรงบริเวณหลอดอาหารอย่าง
00:04:35 → 00:04:37 เงี้ยค่ะก็เป็นไปได้
00:04:37 → 00:04:39 >> มันสามารถเป็นได้ตรงไหนของร่างกายก็ได้
00:04:39 → 00:04:41 หรือเปล่าคะหรือว่าจะแบบเอ๊ะที่คออะไร
00:04:41 → 00:04:42 อย่างเงี้ยค่ะ
00:04:42 → 00:04:45 >> เป็นได้หมดเลยค่ะขึ้นอยู่กับว่าไปโปร่ง
00:04:45 → 00:04:48 พองตรงตำแหน่งไหนของหลอดเลือดแดงใหญ่
00:04:48 → 00:04:50 >> แต่ว่าถ้ามันเป็นตรงจุดอื่นโอโหแล้วจะไป
00:04:50 → 00:04:53 ตรวจยังไงคะทางร่างกายขนาดนั้นค่ะอาจารย์
00:04:53 → 00:04:57 >> คุณหมอจะต้องอ่ะอ่า CT ค่ะ CT
00:04:57 → 00:05:00 >> สแกนคอมพิวเตอร์ดูหลอดเลือดใช่ค่ะ CT
00:05:00 → 00:05:01 สแกน
00:05:01 → 00:05:04 >> สำหรับกลุ่มที่อาการอาการไม่ชัดเจนคลุม
00:05:04 → 00:05:05 เครือ
00:05:05 → 00:05:07 >> แต่บางกลุ่มอ่ะค่ะ
00:05:07 → 00:05:09 >> มาด้วยภาวะที่แบบเฉียบพัน
00:05:10 → 00:05:12 >> เฉียบพันก็คือมีโอกาสที่หลอดเลือดแดงจะ
00:05:12 → 00:05:13 แตก
00:05:13 → 00:05:16 >> กลุ่มเนี้ยอาจารย์ก็จะเฉพาะก็คืออ่ามา
00:05:16 → 00:05:18 ด้วยอาการเจ็บหน้าอกอย่างเงี้ยค่ะเจ็บ
00:05:18 → 00:05:21 หน้าอกรุนแรงมากบางรายก็อาจจะมีร้าวทะลุ
00:05:21 → 00:05:22 ไปหลังได้
00:05:22 → 00:05:23 >> ออ
00:05:23 → 00:05:26 >> อันนี้ก็คือหลอดเลือดบริเวณทรงอกที่โป่ง
00:05:26 → 00:05:26 พอง
00:05:26 → 00:05:30 >> หรือบางรายหลอดเลือดอ่าแดงโป่งพองในช่วง
00:05:30 → 00:05:32 ช่องท้อง
00:05:32 → 00:05:35 >> ก็อาจจะมาด้วยอาการปวดท้องมากแล้วก็ที่
00:05:35 → 00:05:38 สำคัญตรวจร่างกายก็จะคือมันจะเห็นอ่าเส้น
00:05:39 → 00:05:41 เลือดน่ะค่ะมันมันเต้นได้เลยค่ะเราเรียก
00:05:41 → 00:05:43 ว่าคำได้ก้อนเต้นตามจังหวะหัวใจอ่ะค่ะ
00:05:43 → 00:05:44 >> ออ
00:05:44 → 00:05:46 >> ถ้าถ้าบอกว่าเป็นในส่วนช่องท้องอ่ะค่ะ
00:05:46 → 00:05:50 แล้วโตมากๆบางทีแค่แค่มองอ่ะค่ะก็สามารถ
00:05:50 → 00:05:53 เห็นได้ละหรือคำมันก็จะสมมุติคุณหมอตรวจ
00:05:53 → 00:05:55 ร่างกายโดยการคลำตรวจท้องอย่างเงี้ยคะก็
00:05:55 → 00:05:57 จะคลำได้ก้อนเต้นได้
00:05:58 → 00:06:01 >> อแสดงว่ามันเต้นแรงมากจนแบบจับปึ๊บรู้สึก
00:06:01 → 00:06:01 ได้เลย
00:06:01 → 00:06:02 >> ใช่ค่ะ
00:06:02 → 00:06:06 >> โหแต่อย่างน้อยนะที่ข้อสังเกตนะคะคือ
00:06:06 → 00:06:09 สูบบุหรี่จัดๆหนักๆอแล้วอย่างคนที่ไม่ได้
00:06:09 → 00:06:11 สูบบุหรี่ค่ะแต่ได้ควันบุหรี่มือสองอ่ะ
00:06:11 → 00:06:13 อย่างเงี้ยค่ะอยู่ใกล้กับคนสูบบุหรี่มี
00:06:13 → 00:06:14 โอกาสเสี่ยงมั้ยคะ
00:06:14 → 00:06:16 >> เสี่ยงเหมือนกันค่ะถึงบอกควันบุหรี่นี่
00:06:16 → 00:06:18 เป็นอันตรายมากนะคะ
00:06:18 → 00:06:20 >> อาจารย์คะนอกเหนือจากสูบบุหรี่แล้วความ
00:06:20 → 00:06:24 ดันโลหิตสูงๆแล้วเนี่ยนะคะมันจะมาด้วย
00:06:24 → 00:06:27 อาการที่เป็นลักษณะแบบเจ็บแน่นท้องหรือ
00:06:27 → 00:06:29 อะไรอย่างงี้อ่ะมันน่าจะไปคิดเป็นอย่าง
00:06:29 → 00:06:30 อื่นมากกว่า
00:06:30 → 00:06:32 >> คนไข้กลุ่มเนี้ยเวลาเจ็บอ่ะค่ะถ้ามันใกล้
00:06:32 → 00:06:35 จะปริแตกเนี่ยหรือมันโตมากๆเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 >> คนไข้จะเจ็บค่อนข้างรุนแรง
00:06:37 → 00:06:38 >> ออ
00:06:38 → 00:06:40 >> พอเจ็บรุนแรงมากพยาบาลก็จะซักประวัติ
00:06:41 → 00:06:44 เพื่อที่จะแยกโลกว่าไอ้อ่าเจ็บหน้าอกแน่น
00:06:44 → 00:06:45 หน้าอกแบบเนี้ย
00:06:45 → 00:06:48 >> ลักษณะมันเป็นยังไงมันต่างจากหลอดเลือด
00:06:48 → 00:06:51 หัวใจมยเพราะอาการลักษณะความเจ็บก็จะต่าง
00:06:51 → 00:06:53 กันค่ะอย่างบอกเราบอกว่าหลอดเลือดหัวใจ
00:06:53 → 00:06:56 เนี่ยเวลาตีบมันจะเจ็บแบบแน่นๆเหมือนมี
00:06:56 → 00:06:57 อะไรกด
00:06:57 → 00:07:00 >> แต่ในขณะที่หลอดเลือดแดงโป่งพองอ่ะค่ะ
00:07:00 → 00:07:02 อาการเจ็บมันจะจำเพาะก็คือ
00:07:02 → 00:07:06 >> เจ็บแบบเ้าเรียกว่าชาปิ้งเจ็บแบบเสียดแทง
00:07:06 → 00:07:09 หรือเหมือนมีอะไรไปฉีดขาดเนื้อเยื่อฉีด
00:07:09 → 00:07:11 ขาดอย่างนั้นเลยค่ะเพราะไต้มักจะทนไม่ไหว
00:07:11 → 00:07:13 แล้วก็จะมาโรงพยาบาล
00:07:13 → 00:07:13 >> ออ
00:07:13 → 00:07:16 >> พอพอมาโรงพยาบาลเนี่ยสิ่งสำคัญที่เรามัก
00:07:16 → 00:07:19 จะตรวจเจอก็คือว่าในขณะที่เขาเจ็บความดัน
00:07:19 → 00:07:22 จะสูงมากดังนั้นพอสงสัยตรงสิ่งเนี้ยอ่า
00:07:22 → 00:07:25 คุณหมอก็ทักประวัติอะไหลตรวจร่างกายแล้ว
00:07:25 → 00:07:29 ก็แยกโรคในการคัดกรองตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
00:07:29 → 00:07:32 ถ้าคลื่นไฟฟ้าไม่ได้มีความผกที่บ่งชี้ว่า
00:07:32 → 00:07:35 มีหลอดเลือดหัวใจนะคะโดยส่วนใหญ่เราก็จะ
00:07:35 → 00:07:37 สงสัยหลอดเลือดแดงที่มันโป่งพองนั่นแหละ
00:07:37 → 00:07:38 >> อื
00:07:38 → 00:07:41 >> ก็เอาคนไข้เข้าตรวจ CT ได้เลย
00:07:41 → 00:07:41 >> ค่ะ
00:07:41 → 00:07:45 >> พอตรวจ CT เพราะว่ามันโตผิดปกติแบบเนี้ย
00:07:45 → 00:07:49 นะคะก็อาจจะต้องพิจารณาละว่าอยู่ในตรง
00:07:49 → 00:07:52 ส่วนที่จำเป็นต้องผ่าตัดเลยมยเพราะโดย
00:07:52 → 00:07:54 ส่วนใหญ่บางทีคนไข้ก็จะมาด้วยภาวะอมเจนซy
00:07:54 → 00:07:55 อ่ะค่ะ
00:07:55 → 00:07:55 >> ค่ะครับแบบ
00:07:55 → 00:07:57 >> ต้องได้รับการผ่าตัดแบ่งเร่งด่วน
00:07:57 → 00:08:01 >> อาจารย์หมายความว่าถ้ามันไปโป่งพองตรงไหน
00:08:01 → 00:08:03 ปึ๊บตรงนั้นปวด
00:08:03 → 00:08:04 >> ค่ะ
00:08:04 → 00:08:06 >> แบบทนไม่ไหวค่ะ
00:08:06 → 00:08:09 >> แล้วส่วนใหญ่เราเจอตรงไหนกันเยอะๆมากๆอ่ะ
00:08:09 → 00:08:10 คะอาจารย์
00:08:10 → 00:08:13 >> โดยส่วนใหญ่จะเจอในหลอดเลือดแดงโป่งพองใน
00:08:13 → 00:08:15 ช่องอกอ่ะค่ะ
00:08:15 → 00:08:16 >> เอ่อออ
00:08:16 → 00:08:20 >> ช่องอกก็คือตั้งแต่ตั้งแต่ทางออกของหัวใจ
00:08:20 → 00:08:22 ห้องล่างที่เราเรียกว่าอ่าหลอดเลือดแดงขา
00:08:23 → 00:08:26 ขึ้นนะคะเรียกว่าในส่วนของ Ascending aa
00:08:26 → 00:08:29 >> นะคะแล้วก็มันก็จะมีโค้งลงมาแล้วก็ข้าง
00:08:29 → 00:08:32 ล่างข้างล่างก็คือไล่ลงมาในส่วนของ
00:08:32 → 00:08:35 desending ที่อันตรายก็คือในส่วนของขา
00:08:35 → 00:08:36 ขึ้น
00:08:36 → 00:08:39 >> ที่อาจจะจำเป็นต้องผ่าตัดถ้าใต้ลงมาต่ำลง
00:08:39 → 00:08:41 มาหน่อยๆลงมาด้านข้างล่างแล้วตรงเนี้ยค่ะ
00:08:41 → 00:08:44 ถ้าคุณหมอพิจารณาแล้วหลอดเลือดไม่ได้โต
00:08:44 → 00:08:45 มากนะคะแล้ว
00:08:45 → 00:08:48 ที่ควบคุมความดันโลหิตได้ก็อาจไม่จำเป็น
00:08:48 → 00:08:51 ต้องผ่าตัดได้ขึ้นอยู่กับขนาดที่มันมี
00:08:51 → 00:08:54 โอกาสจะแตกอีกที่เจอบ่อยก็คือในส่วนของ
00:08:54 → 00:08:56 ช่องท้องเนี่แหละค่ะ
00:08:56 → 00:08:56 >> อ
00:08:56 → 00:08:59 >> ที่เราเรียกที่รู้จักกันเรียกว่าตองเอ
00:08:59 → 00:09:03 >> ตองก็คือ abdominal aiculis ก็จะเจอบ่อย
00:09:03 → 00:09:03 ค่ะ
00:09:03 → 00:09:06 >> แสดงว่ามันต้องมีระยะเวลาที่มันสามารถที่
00:09:06 → 00:09:09 แบบโป่งพองจนแบบเอ้จะไม่ไหวแล้วอะไรอย่าง
00:09:10 → 00:09:11 เงี้ยค่ะพร้อมจะแตกอย่างเงี้ย
00:09:11 → 00:09:15 >> ต้องไปหาหมอภายในกี่ชั่วโมงค่ะ
00:09:15 → 00:09:16 >> เร็วที่สุดเลยค่ะ
00:09:16 → 00:09:17 >> อ๋อ
00:09:17 → 00:09:20 >> เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเจ็บแนะนำให้มาหาคุณ
00:09:20 → 00:09:23 หมอเราเราคาดการณ์ไม่ได้ว่าเจ็บตอนนั้น
00:09:23 → 00:09:26 แล้วขนาดของหลอดเลือดของเรามันโป่งพองมาก
00:09:26 → 00:09:29 น้อยแค่ไหนมันมีโอกาสแตกมากหรือเปล่า
00:09:29 → 00:09:30 อย่างเงี้ยค่ะ
00:09:30 → 00:09:31 >> อ๋อ
00:09:31 → 00:09:34 >> ก็คือถ้าถ้าเจ็บแล้วนั่งพักไม่ดีขึ้นนะคะ
00:09:34 → 00:09:38 แนะนำให้มาโรงพยาบาลค่ะเรียก 1669 ก็ได้
00:09:38 → 00:09:38 ค่ะ
00:09:38 → 00:09:41 >> แล้วเวลาที่ไปโรงพยาบาลเนี่ยกรณีแบบนี้ดู
00:09:41 → 00:09:43 แบบมันพร้อมจะแตกเมื่อไหร่ก็ได้อ่ะ
00:09:43 → 00:09:47 อาจารย์น้องนอนไปหรือนั่งไปก็ได้หรือแบบ
00:09:47 → 00:09:49 โอ๊ยไม่มีคนที่บ้านฉันขับรถไปเองอะไร
00:09:49 → 00:09:51 อย่างเงี้ยยังพอไหวมั้ยคะ
00:09:51 → 00:09:56 >> จริงๆเราแนะนำให้ 1669 ค่ะเพราะว่าในรถ
00:09:56 → 00:09:58 มันมีอุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรต่างๆ
00:09:58 → 00:10:00 >> อาจารย์แล้วมันจะมีเคสแบบนี้มั้ยคะว่า
00:10:00 → 00:10:03 เอ้ยคนไข้อ่ะบอกเจ็บเจ็บแบบคือฉันทนไม่
00:10:03 → 00:10:05 ไหวอ่ะความเจ็บของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน
00:10:05 → 00:10:08 ค่ะอาจารย์รถที่จะมารับรถพยาบาลที่จะมา
00:10:08 → 00:10:09 รับเนี่ยเค้าประเมินเนี่ยเค้ามีหลักเกณฑ์
00:10:09 → 00:10:13 อะไรมั้ยคะว่าแบบเอ้ยสันนิษฐานว่าอาจจะ
00:10:13 → 00:10:16 เส้นเลือดแดงแงโป่งพองพร้อมแตกเราต้องรีบ
00:10:16 → 00:10:18 เข้าไปนะหรืออะไรเงี้ยค่ะมีค่ะ
00:10:18 → 00:10:21 >> จริงๆเมีมีเกณฑ์ในการวินิจฉัยอยู่แล้ว
00:10:21 → 00:10:23 เพราะว่าถือเป็นโรคเร่งด่วนที่ต้องให้การ
00:10:23 → 00:10:25 รักษาดังนั้นเจ้าหน้าที่เขาก็จะได้รับการ
00:10:25 → 00:10:28 อบรมในการที่จะประเมินคัดกรองตรงส่วนนี้
00:10:28 → 00:10:32 ต้องแยกให้ได้ว่าเป็นหลอดเลือดหัวใจที่ทำ
00:10:32 → 00:10:34 ให้กล้ามเนื้อหัวใจตายหรือตีบรุนแรงหรือ
00:10:34 → 00:10:37 ว่าหลอดเลือดแดงโป่งพองเพราะการรักษามัน
00:10:37 → 00:10:40 ก็จะต่างกันะดังนั้นอ่าพอคัดกรองเสร็จเรา
00:10:40 → 00:10:42 ก็จะมีฟackอ่ะค่ะ
00:10:42 → 00:10:42 >> ค่ะ
00:10:42 → 00:10:44 >> ช่องทางพิเศษสำหรับคนไข้ที่มาด้วยอาการ
00:10:44 → 00:10:47 แบบเนี้ยต้องทำอะไรเลยคนไข้แบบเนี้ยต้อง
00:10:47 → 00:10:50 ทำอะไรอย่างanulิึมหรือหลอดเลือดแดงใหญ่
00:10:50 → 00:10:54 โป่งพองของเราก็มีฟาแพคถ้าอาการเขาชัดเจน
00:10:54 → 00:10:57 นะคะแล้วก็วัดความดันสูงแล้วเขาก็อาจจะ
00:10:57 → 00:11:00 ตรวจร่างกายโดยการคำชีพจรน่ะค่ะ
00:11:00 → 00:11:03 >> ชีพจร 4 ระยางค์ว่ามันมีปัญหามั้ยชีพจร
00:11:03 → 00:11:05 มันเบาลงหรือเปล่า
00:11:05 → 00:11:08 >> วัดความดัน 4 ระยางเพื่อเปรียบเทียบนะคะ
00:11:08 → 00:11:12 ถ้าสงสัยเข้าได้กับโรคเนี้ยก็ CT ด่วนเลย
00:11:12 → 00:11:14 ค่ะ CT Emergency ก็จะเห็นชัดว่ามีความ
00:11:14 → 00:11:16 ปกติของหลอดเลือดหรือเปล่า
00:11:16 → 00:11:19 >> ก็ไป CT ะพบความผิดปกติ
00:11:19 → 00:11:21 >> จับเข้าห้องผ่าตัดเลยแบบนั้นมั้คะ
00:11:21 → 00:11:24 >> อ่าขึ้นอยู่กับตำแหน่งค่ะแต่ก่อนที่จะทำ
00:11:24 → 00:11:27 CT เราก็จะมีการรักษาที่บรรเทาอาการเนาะ
00:11:27 → 00:11:29 ก็ปวดมากๆ
00:11:29 → 00:11:31 >> ถ้าให้คนไข้ปวดก็ยิ่งมีโอกาสแตกเพราะว่า
00:11:31 → 00:11:34 มันก็ยิ่งไปกระตุ้นระบบประสาทใช่มั้ยคะ
00:11:34 → 00:11:36 ถ้าปวดมากๆโดยส่วนใหญ่คุณหมอก็จะต้องให้
00:11:36 → 00:11:37 ยาแก้ปวด
00:11:37 → 00:11:39 >> ที่เป็นยาฉีด
00:11:39 → 00:11:39 >> อ
00:11:39 → 00:11:42 >> ถ้าความดันโลหิตสูงมากๆนะคะก็พยายามให้ยา
00:11:43 → 00:11:45 เพื่อที่จะไปควบคุมระดับความดันโลหิตให้
00:11:45 → 00:11:49 ต่ำลงมาควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้า
00:11:49 → 00:11:49 ลงมาหน่อย
00:11:50 → 00:11:50 >> อื
00:11:50 → 00:11:53 >> เพื่อที่จะลดอ่าอ่าการกระตุ้นระบบประสาท
00:11:53 → 00:11:56 อัตโนมัติที่จะไปกระตุ้นให้โอกาสหลอด
00:11:56 → 00:11:58 เลือดมันมีความเสี่ยงแตกแล้วจะควบคุมตรง
00:11:59 → 00:12:00 เนี้ยให้ได้
00:12:00 → 00:12:00 >> อื
00:12:00 → 00:12:03 >> พอทำ CT เสร็จคุณหมอก็ต้องพิจารณาว่าขนาด
00:12:03 → 00:12:07 ของหลอดเลือดน่ะค่ะมันอยู่ในขนาดที่มันโต
00:12:07 → 00:12:10 แล้วมีความเสี่ยงจะแตกมยถ้าเป็นในส่วนต้น
00:12:10 → 00:12:13 ของหลอดเลือดเลยอ่ะค่ะที่ออกมาจากหัวใจ
00:12:13 → 00:12:16 ห้องห้องล่างซ้ายถ้าเป็นส่วนต้นอย่าง
00:12:16 → 00:12:18 เงี้ยถ้ามันมีโป่งผองในส่วนนั้นแล้วขนาด
00:12:18 → 00:12:23 โตมากๆอย่างเช่นโตเกินประมาณ 5.5 ซม.
00:12:23 → 00:12:26 อย่างเงี้ยร่วมกับคนไข้มีอาการเจ็บหน้าอก
00:12:26 → 00:12:29 มากความดันยังสูงอยู่คุณหมอก็อาจจำเป็น
00:12:29 → 00:12:31 ต้องผ่าตัดเร่งด่วนอื
00:12:31 → 00:12:35 >> แต่ในบางรายมันไม่ได้โตมากสามารถที่จะควบ
00:12:35 → 00:12:38 คุมด้วยยาได้อย่างเงี้ยก็อาจจะรอไปก่อน
00:12:38 → 00:12:39 แล้วก็
00:12:39 → 00:12:42 >> อ่าค่อยๆมาติดตามเป็นระยะเพื่อที่จะเฝ้า
00:12:42 → 00:12:44 ดูว่าหลอดเลือดมันโตเร็วขึ้นมั้ยอย่าง
00:12:44 → 00:12:45 เงี้ยค่ะ
00:12:45 → 00:12:50 >> ค่ะอ๋อแสดงว่ามันอาจจะกลับมาโตอีกก็ได้
00:12:50 → 00:12:54 ต่อให้เราได้ยาควบคุมไว้แล้วก็มีความ
00:12:54 → 00:12:56 เสี่ยงเกิดขึ้นได้อีกอื
00:12:56 → 00:12:58 >> ใช่ค่ะต่อให้คอนโทรลได้ยาวควบคุมความดัน
00:12:59 → 00:13:01 ก็เถอะแต่หลอดเลือดมันก็มีโอกาสโตได้ขึ้น
00:13:01 → 00:13:04 อยู่กับว่าโตเร็วโตช้าในแต่ละปี
00:13:04 → 00:13:06 >> อาจารย์คะแล้วที่เมื่อกี้คือคุยแบบว่า
00:13:06 → 00:13:09 ความดันสูงความดันสูงตรงนี้แสดงว่าเวลา
00:13:09 → 00:13:12 เลือดมันวิ่งไปอ่ะแรงดันมันสูงมันทำให้
00:13:12 → 00:13:14 ไอ้ตรงที่มันโป่งพอมันพร้อมที่จะแตกได้
00:13:14 → 00:13:17 เพราะความแรงดันมันอัดไปเยอะอย่างงั้นมั้
00:13:17 → 00:13:17 คะ
00:13:17 → 00:13:20 >> ใช่เพราะอย่าลืมว่าพอหลอดเลือดที่มันโป่ง
00:13:20 → 00:13:23 ผนังเรามันเริ่มบางอ่ะมันถูกยืดขยายใช่
00:13:23 → 00:13:25 มั้คะมันก็จะมีความอ่อนแอของผนังหลอด
00:13:25 → 00:13:26 เลือด
00:13:26 → 00:13:28 >> พอเจอแรงดันเยอะๆจากแรงดันเลือดที่มัน
00:13:28 → 00:13:30 กระแทกกระแทกอย่างเงี้ย
00:13:30 → 00:13:33 >> มันก็มีโอกาสที่จะแตกได้แน่นอนค่ะ
00:13:33 → 00:13:33 >> อื
00:13:33 → 00:13:37 >> ถึงต้องควบคุมแรงดันให้มันให้มันต่ำๆไม่
00:13:37 → 00:13:39 อย่าอย่าไปสูงมากให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอที่
00:13:40 → 00:13:42 จะอ่าเป็นแรงดันเลือดที่นำเลือดไปในส่วน
00:13:42 → 00:13:44 ต่างๆของร่างกายได้พอค่ะ
00:13:44 → 00:13:47 >> ค่ะโอ๊ยเหมือนลูกโป่งเลยค่ะอาจารย์
00:13:47 → 00:13:48 >> ใช่ค่ะ
00:13:48 → 00:13:52 >> เออแบบเราเราอัดลมเข้าไปปึ๊บปึ๊บๆอ่ะอ่ะ
00:13:52 → 00:13:54 ลูกโป่งมันก็มีความหนาประมาณนึงแหละไม่
00:13:54 → 00:13:57 กี่มิลว่าไปแล้วพออัดๆไป
00:13:57 → 00:13:59 >> มันเริ่มบางขึ้นเรื่อยๆเนาะอาจารย์เอออัน
00:13:59 → 00:14:02 นี้เห็นภาพชัดผู้ชายจะเป็นเยอะกว่าใช่
00:14:02 → 00:14:02 มั้ยคะ
00:14:02 → 00:14:03 >> เป็นเยอะกว่าค่ะ
00:14:03 → 00:14:06 >> อาจารย์คะแล้วอย่างเส้นเลือดฝอยถ้ามันแบบ
00:14:06 → 00:14:08 มันมีมั้คะอาการจากเส้นเลือดฝอยหรือต้อง
00:14:08 → 00:14:10 เป็นหลอดเลือดแดงใหญ่อย่างเดียว
00:14:10 → 00:14:12 >> หลอดเลือดแดงใหญ่ค่ะเส้นเลือดฝอยมัน
00:14:12 → 00:14:14 เหมือนปลายทางแล้วเนาะมันเหมือนเส้นเลือด
00:14:14 → 00:14:17 ที่มันแบบขนาดเล็กปลายทางละอะไรอย่าง
00:14:17 → 00:14:19 เงี้ยแต่ที่สำคัญคือหลอดเลือดแดงใหญ่อ่ะ
00:14:19 → 00:14:22 ค่ะเหมือนท่อปะปาหลักนำส่งอ่ะค่ะนั่นน่ะ
00:14:22 → 00:14:23 อันตราย
00:14:23 → 00:14:26 >> แล้วใน 1 คนนี่มันเป็นครั้งเดียวหรือว่า
00:14:26 → 00:14:28 มันอาจจะไปครั้งเนี้ยมันแตกตรงเนี้ยตรง
00:14:28 → 00:14:31 แถวบริเวณเอ่อหน้าอกตรงเค่ะอาจารย์ปวดมาก
00:14:31 → 00:14:33 เลยรอบหน้ามันมีอีกมั้คะมีโอกาสเสี่ยงมั้
00:14:34 → 00:14:36 คะถ้าเกิดเรายังแบบไม่ดูแลตัวเองอยู่
00:14:36 → 00:14:39 >> มีโอกาสนะคะเพราะว่าเคยเจอคนไข้ที่เคยผ่า
00:14:39 → 00:14:41 ตัดในตำแหน่งนี้ไปละ
00:14:41 → 00:14:44 >> ติดตามมาอย่างต่อเนื่องปรากฏว่าไปเจออีก
00:14:44 → 00:14:47 ตำแหน่งนึงก็จำเป็นต้องมาผ่าตัดอีกครั้ง
00:14:47 → 00:14:49 หรืออีกกลุ่มนึงอ่ะค่ะที่จะเจอความผิด
00:14:49 → 00:14:52 ปกติของหลอหลอดเลือดแดงโป่งพองก็คือเป็น
00:14:52 → 00:14:56 โรคของทางพันธุกรรมที่เรียกว่าอ่ามาแฟน
00:14:56 → 00:14:58 sydrมซึ่งกลุ่มเนี้ยค่ะมันก็จะมีความผิด
00:14:58 → 00:15:02 ปกติของผนังหลอดเลือดคนไข้ก็อาจจะอ่าเสีย
00:15:02 → 00:15:05 ชีวิตด้วยปัญหาของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่มัน
00:15:05 → 00:15:06 โป่งพองนี้ได้ค่ะ
00:15:07 → 00:15:07 >> อื
00:15:07 → 00:15:09 >> ตรงนั้นเขาก็จะมีปัญหาหลอดเลือดทั่วร่าง
00:15:09 → 00:15:10 กายด้วยเหมือนกัน
00:15:10 → 00:15:13 >> ซึ่งมันอาจจะทำอะไรไม่ได้มากนอกจากการดู
00:15:13 → 00:15:14 แลตัวเอง
00:15:14 → 00:15:17 >> ใช่ค่ะการดูแลตัวเองแล้วก็ต้องมาตรวจกับ
00:15:17 → 00:15:20 คุณหมอโรคหัวใจอย่างต่อเนื่องเพราะช่วง
00:15:20 → 00:15:22 แรกของโลกเนี้ยบางทีมันยังไม่ได้มีความผก
00:15:22 → 00:15:25 ของวัยเด็กแต่พอโตขึ้นหลอดเลือดเขาก็จะ
00:15:25 → 00:15:26 อ่อนแอ
00:15:26 → 00:15:27 >> เขาก็จะ
00:15:27 → 00:15:29 >> มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นค่ะ
00:15:29 → 00:15:32 >> ค่ะเพราะฉะนั้นก็อาจจะไม่ได้สามารถทำ
00:15:32 → 00:15:35 กิจกรรมใดๆเหมือนกับคนอื่นได้เลยได้ได้
00:15:35 → 00:15:36 มากเท่า
00:15:36 → 00:15:37 >> ใช่ใช่ค่ะ
00:15:37 → 00:15:40 >> ออแล้วอย่างถ้าเกิดอายุมากๆแล้วเงี้ยค่ะ
00:15:40 → 00:15:43 อ่ะโอเคอวัยวะร่างกายของเรามันเสื่อมลงไป
00:15:43 → 00:15:46 หลายๆหลายๆอย่างแหละทั่วๆร่างกายแหละหลอด
00:15:46 → 00:15:48 เลือดเราก็มีโอกาสเสื่อมไปตามสภาพอายุของ
00:15:48 → 00:15:50 เราที่เพิ่มขึ้นด้วยมั้คะ
00:15:50 → 00:15:53 >> แน่นอนค่ะเพราะว่าพออายุเพิ่มมากขึ้น
00:15:53 → 00:15:55 ปัญหาที่ตามมานะคะก็อย่างเช่นหลอดเลือด
00:15:55 → 00:15:59 มันจะเริ่มแข็งตัวความยืดหยุ่นมันจะน้อย
00:15:59 → 00:16:02 ลงอย่างเงี้ยอิลักยศโยงนะคะคอลเจนเพิ่ม
00:16:02 → 00:16:05 ขึ้นมันก็หลอดเลือดมันก็จะแข็งพอหลอด
00:16:05 → 00:16:07 เลือดแข็งอย่างเงี้ยก็มีโอกาสที่จะเกิด
00:16:07 → 00:16:11 อันตรายตามมาหรือบางทีภาวะโรคร่วมต่างๆก็
00:16:11 → 00:16:13 จะส่งผลทำอันตรายต่อผนังหลอดเลือดอย่าง
00:16:13 → 00:16:15 เงี้ยค่ะการเสื่อมตามวัยอย่างเงี้ยอืมัน
00:16:16 → 00:16:20 ก็มีปัญหาตามมาได้เลยไม่อยากอายุเพิ่ม
00:16:20 → 00:16:22 ขึ้นเลยค่ะ
00:16:22 → 00:16:23 ฟังแล้วแบบ
00:16:23 → 00:16:25 >> อยากสตาร์ทไว้เหมือนกันค่ะ
00:16:25 → 00:16:27 >> ฟังแล้วรู้สึกแบบไม่สะดวกแก่ขึ้นมาเฉยเลย
00:16:27 → 00:16:30 ทั่วร่างกายเลยนะฮะแต่ว่าถ้าเกิดเราดูแล
00:16:30 → 00:16:33 ดีตั้งแต่ตอนที่เรายังมีแรงที่จะดูแล
00:16:33 → 00:16:35 สุขภาพเพราะว่าเดี๋ยวนี้คนใส่ใจในการดูแล
00:16:35 → 00:16:38 สุขภาพมากขึ้นแต่มันก็มีข้อนึงค่ะอาจารย์
00:16:38 → 00:16:40 อันนี้ก็ไม่รู้ว่ายังไงเค้าบอกว่าดูแลตัว
00:16:40 → 00:16:43 เองมากไปก็ป่วยเยอะเหมือนกันนะคะส่วนใหญ่
00:16:43 → 00:16:46 ที่เราจะเห็นบางคนแบบเอ๊ะเค้าก็เป็นคนออก
00:16:46 → 00:16:48 กำลังกายนะเออเค้าก็เป็นคนดูแลสุขภาพดีนะ
00:16:48 → 00:16:50 ทำไมเค้าแบบ
00:16:50 → 00:16:51 >> เสียชีวิตหรือเค้าอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:16:51 → 00:16:54 อาจารย์เลยหลายคนเลยบอกว่าเอองั้นฉันก็
00:16:54 → 00:16:56 ใช้ชีวิตแบบนี้ไปแหละดีแล้ว
00:16:56 → 00:16:59 >> ในเรื่องของการออกกำลังกายค่ะมันก็จะมีบท
00:16:59 → 00:17:02 ความบางอย่างที่บอกว่าออกกำลังกายหนักจน
00:17:02 → 00:17:05 เกินไปก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อหัวใจนะคะ
00:17:05 → 00:17:05 >> อ
00:17:05 → 00:17:08 >> มันต้องออกกำลังกายในระดับที่พอเหมาะของ
00:17:08 → 00:17:10 แต่ละบุคคลเหมือนกัน
00:17:10 → 00:17:10 >> อ๋อ
00:17:11 → 00:17:13 >> เพราะมีคนไข้บางคนเคยให้ประวัติว่าเป็น
00:17:13 → 00:17:14 นักวิ่งมาราธอนเลยค่ะ
00:17:14 → 00:17:15 >> ออฮะ
00:17:15 → 00:17:17 >> แต่ปรากฏมีโรคหัวใจ
00:17:17 → 00:17:18 >> อ้า
00:17:18 → 00:17:20 >> ซึ่งตามที่เราเข้าใจเราบอกว่าเอนักวิ่ง
00:17:20 → 00:17:23 เนาะมันก็น่าจะผลดีกับหัวใจทำให้หัวใจบีบ
00:17:23 → 00:17:25 และอ่าคลายตัวอย่างมีประสิทธิภาพกล้าม
00:17:25 → 00:17:28 เนื้อหัวใจเค้าก็น่าจะดีอะไรเงี้ยปรากฏ
00:17:28 → 00:17:28 ให้
00:17:28 → 00:17:30 >> เป็นโรคหัวใจอ
00:17:30 → 00:17:33 >> ดังนั้นระดับของการออกกำลังกายก็อาจจะ
00:17:33 → 00:17:35 ต้องพิจารณาเหมือนกันนะคะว่าถ้าออกหนักจน
00:17:35 → 00:17:37 เกินไปก็จะไม่ดี
00:17:37 → 00:17:40 >> ค่ะอืบางคนอาจจะมีการซุ่มซ้อมคือบางคนคือ
00:17:40 → 00:17:44 เ้าบอกว่ามันเป็นการถ้าไม่ออกกำลังกายมัน
00:17:44 → 00:17:47 รู้สึกไม่โอเคต้องออกกำลังกายเลยเราไม่
00:17:47 → 00:17:51 แนะนำอยู่แล้วใช่มั้คะอย่างน้อยก็คือให้
00:17:51 → 00:17:53 ร่างกายได้แบบเออเคลื่อนไหวบ้างอะไรอย่าง
00:17:53 → 00:17:56 เงี้ยซึ่งตอนนี้เขาก็อย่างไกด์ไลน์ต่าง
00:17:56 → 00:17:58 ประเทศก็จริงๆแนะนำให้เราออกกำลังกาย
00:17:58 → 00:18:00 อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์นะคะวันละ
00:18:00 → 00:18:04 ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชมงก็ได้แต่เป็นใน
00:18:04 → 00:18:07 ระดับการออกกำลังกายในระดับปานกลางเบาๆก็
00:18:07 → 00:18:08 ได้
00:18:08 → 00:18:10 >> อืแต่มันต้องมีความต่อเนื่องใช่มั้ยคะ
00:18:10 → 00:18:11 อาจารย์แบบเออ
00:18:11 → 00:18:15 >> ใช่ต้องต่อเนื่องค่ะถึงจะเห็นผลเพราะถ้า
00:18:15 → 00:18:17 อยากออกเนื่องเนี่ยสิ่งที่วิจัยออกมาแล้ว
00:18:17 → 00:18:21 ว่าอย่างน้อยคือทำให้ความดันโลหิตเราลดลง
00:18:21 → 00:18:21 ค่ะ
00:18:21 → 00:18:22 >> อือ
00:18:22 → 00:18:25 >> ก็ลดการสะสมของโอเลสเตอรอลในผนังหลอด
00:18:25 → 00:18:26 เลือดด้วย
00:18:26 → 00:18:30 >> ค่ะเนี่ยละค่ะก็แบบว่าคืออ่ะรู้แหละแต่
00:18:30 → 00:18:32 แบบมันยังก็เออเดี๋พรุ่งนี้แล้วกัน
00:18:32 → 00:18:35 >> รู้แหละแต่ว่าเดี๋ยวเดี๋ยวก่อน
00:18:35 → 00:18:39 เราตอนนี้ยังไม่พร้อมยังไม่มีแรงบันดาลใจ
00:18:39 → 00:18:40 อันนี้อันนี้ก็เป็นไปได้
00:18:40 → 00:18:43 >> เออตัวเองก็เป็นเหมือนกันนะคะก็อาศัยว่า
00:18:43 → 00:18:45 เออบางวันเดินหลายเยอะก้าวหน่อยใส่หลาย
00:18:45 → 00:18:48 พันก้าวแบบเกือบหมื่นๆเออมันคงออกกำลัง
00:18:48 → 00:18:50 กายแล้วแหละหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:18:50 → 00:18:51 >> ค่ะ
00:18:51 → 00:18:52 >> เออ
00:18:52 → 00:18:55 >> ไม่แล้วด้วยสภาพปัจจุบันว่าว่านักนะคะคือ
00:18:55 → 00:18:58 แบบชีวิตมันบางทีมันก็เร่งรีบเนาะไม่ว่า
00:18:58 → 00:19:00 จะเป็นความเครียดในเรื่องเศรษฐกิจอะไร
00:19:00 → 00:19:01 อย่างเงี้ย
00:19:01 → 00:19:03 >> อะไรหลายๆอย่างมันก็
00:19:03 → 00:19:04 >> ส่งผลน่ะค่ะ
00:19:04 → 00:19:07 >> อ่าใช่ภาวะความเครียดค่ะอาจารย์บางทีแบบ
00:19:07 → 00:19:09 อืมเราไม่ได้อยากจะเครียดเลยแต่มันเครียด
00:19:09 → 00:19:10 โดยอัตโนมัติ
00:19:10 → 00:19:13 >> นอนพักผ่อนน้อยไหนจะอาจจะต้องบางคนอาจจะ
00:19:13 → 00:19:17 ต้องทำงานเพิ่มเวลาหรือบางคนต้องหอบงาน
00:19:17 → 00:19:19 กลับมาทำที่บ้านพักผ่อนน้อยลงไปอีกหรือ
00:19:19 → 00:19:22 อะไรอย่างเงี้ยมันก็มีหลายปัจจัยแต่ว่าก็
00:19:22 → 00:19:26 เอ่อถ้ามีเวลาใช่มั้ยคะอาจารย์แบบหาเวลา
00:19:26 → 00:19:27 ให้ตัวเองบ้างดีกว่าเนาะแบบ
00:19:28 → 00:19:30 >> สัปดาห์ละอ่ะเสาร์อาทิตย์ก็ได้นะคะหรือ
00:19:30 → 00:19:33 อย่างน้อยวันอาทิตย์สักวันนึงมีเวลาให้
00:19:33 → 00:19:37 กับตัวเองได้มาดูร่างกายตัวเองได้มาสำรวจ
00:19:37 → 00:19:39 ตัวเองหรือว่าเอ่อรักตัวเองมากขึ้นก็ไป
00:19:39 → 00:19:42 ตรวจสุขภาพเนาะอาจารย์เนาะแบบอันนี้ก็
00:19:42 → 00:19:45 สำคัญอืจะได้ดูระบบเพราะว่าตรวจสุขภาพ
00:19:45 → 00:19:47 อย่างเบื้องต้นอย่างน้อยๆเราก็ตรวจเลือด
00:19:47 → 00:19:50 เอาผลเลือดไปมีคอเลสเตอรอลมั้ยมี
00:19:50 → 00:19:53 ไตรีเซอไรตมั้ยนะคะหรือแบบความดันเป็นไง
00:19:53 → 00:19:55 อะไรอย่างเงี้ยเบื้องต้นอย่างน้อยให้มัน
00:19:55 → 00:19:59 รู้ว่าเผื่อมันจะมีร่องรอยอะไรบางอย่าง
00:19:59 → 00:20:03 ที่เป็นสัญญาณที่บอกว่าแอ๊ะจะแล้วนะเรา
00:20:03 → 00:20:05 รู้ก่อนดีกว่าจะมานั่งรักษาหนูอ่าวันนี้
00:20:05 → 00:20:08 ต้องขอขอบคุณอาจารย์อรุมานะคะที่มาร่วม
00:20:08 → 00:20:10 พูดคุยในรายการกับโรงหมอของเราในวันนี้
00:20:10 → 00:20:12 ด้วยนะคะขอบคุณค่ะอาจารย์ขา
00:20:12 → 00:20:16 >> ค่ะยินดีค่ะสวัสดีสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้ว
00:20:16 → 00:20:18 ค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการ
00:20:18 → 00:20:20 โรงหมอทาง Thai PBS Podcast นะคะวันนี้
00:20:20 → 00:20:23 ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:20:23 → 00:20:25 >> This is Thai PBS Podcast
00:20:25 → 00:20:27 >> หากจะเปลี่ยนจากคนธรรมดาให้เป็นคนมี
00:20:27 → 00:20:29 เสน่ห์โดยไม่หลุดจากความเป็นตัวเองสามารถ
00:20:29 → 00:20:32 พัฒนาอะไรได้บ้างผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.
00:20:32 → 00:20:34 จันทร์วิภาิสกสัมพันธ์ผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:20:34 → 00:20:38 ความสัมพันธ์และครอบครัวมาเล่าให้ฟังครับ
00:20:38 → 00:20:40 >> การที่จะมีเสน่ห์และเอาชนะใจคนได้เนี่ย
00:20:40 → 00:20:44 เราต้องสร้างความชื่นชมกับคนรอบข้างได้
00:20:44 → 00:20:47 อย่างมีความสุขแนวทางสร้างเสน่ห์อย่างแรก
00:20:47 → 00:20:50 เลยนะคะก็คือมีเสน่ห์จากภายในที่มันแผ่
00:20:50 → 00:20:53 ออกมาข้างนอกเริ่มจากที่เราเนี่ยเข้าใจ
00:20:53 → 00:20:56 ตัวเองก่อนรักและยอมรับตัวเองก่อนชื่นชม
00:20:56 → 00:20:59 ตัวเองก่อนคือบางคนเนี่ยที่เช้าขึ้นมาตอน
00:20:59 → 00:21:03 ที่เราเป็นวัยรุ่นส่องกระจกเราก็พบว่าโอ้
00:21:03 → 00:21:06 อีทุเรศอีทุเรศอีธุเรศทำไมเธอถึงได้น่า
00:21:06 → 00:21:08 เกลียดอย่างงี้ทำไมเธอถึงได้อะไรอย่าง
00:21:08 → 00:21:11 เงี้ยสะกดจิตตัวเองหน้ากระจกทุกวัน
00:21:11 → 00:21:12 >> เพราะฉะนั้นพอออกไปไหนเนี่ยมันก็จะเหมือน
00:21:12 → 00:21:15 กับอยากจะกลืนเข้าไปกับกำแพงไ่ะอย่าให้
00:21:15 → 00:21:17 ใครเห็นฉันนักเพราะฉะนั้นเอาใหม่ค่ะส่อง
00:21:17 → 00:21:21 กระจกปั๊บโอ้เธอสวยเพียบพูนด้วยเสน่ห์
00:21:21 → 00:21:24 ฉลาดและแสนดีไม่ได้โกหกตัวเองแต่เรามอง
00:21:24 → 00:21:27 ว่าสิ่งที่เรามีดีในตัวเราเนี่ยคืออะไร
00:21:27 → 00:21:31 เราไม่ใช่คนสวยงามแต่ตาฉันก็ไม่ได้เขนะ
00:21:31 → 00:21:34 จมูกฉันก็ไม่ได้บี้มากนะ
00:21:34 → 00:21:37 >> เออหน้าฉันกลมแต่ฉันก็พื้นที่ใช้สอยเยอะ
00:21:37 → 00:21:41 นะอ่าปากฉันก็ไม่ต้องสวยมากแต่ฉันก็ไม่
00:21:41 → 00:21:44 เบี้ยวนะมาอย่างที่ 2 ค่ะคือการสื่อสาร
00:21:44 → 00:21:47 และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
00:21:47 → 00:21:50 อย่างแรกเลยนะคะยิ้มค่ะยิ้มเไว้อย่าหน้า
00:21:50 → 00:21:53 งอเป็นตะวักอย่าหน้าหงิกใส่ใครนะฮะแต่
00:21:53 → 00:21:56 เป็นยิ้มแบบจริงใจนะฮะเพื่อจะเปิดฉาก
00:21:56 → 00:21:58 สร้างความสัมพันธ์ที่ดีเลิศแล้วก็สร้าง
00:21:58 → 00:22:02 ความประทับใจให้กับคนแรกเห็นยิ้มเสร็จ
00:22:02 → 00:22:05 >> ฟังค่ะเปิดโอกาสให้คนอื่นได้พูดนะคะไม่
00:22:05 → 00:22:09 ใช่แย่งเพูดหมดนะคะการเป็นผู้ฟังที่ดี
00:22:09 → 00:22:12 เนี่ยนะคะมันทำให้เราแสดงความรู้สึกว่า
00:22:12 → 00:22:15 เราสนใจคนอื่นแล้วก็ฟังอย่างตั้งใจฟัง
00:22:15 → 00:22:16 อย่างสนใจ
00:22:16 → 00:22:19 >> นะคะฟังอย่างจริงใจนะฮะอันนี้จะช่วยได้
00:22:20 → 00:22:22 มากการพูดสื่อสารที่ดีเนี่ยเราต้องเลือก
00:22:22 → 00:22:27 คำพูดที่เหมาะสมที่อบอุ่นอ่อนโยนมีน้ำใจ
00:22:27 → 00:22:30 สนุกสนานน่าติดตามมีอารมณ์ขันได้บ้างเป็น
00:22:30 → 00:22:33 การให้กำลังใจคนอื่นโดยเฉพาะในช่วงที่เขา
00:22:33 → 00:22:36 ยากลำบากอันต่อมาก็คือในเรื่องของการแสดง
00:22:36 → 00:22:39 ออกบางคนบอกฉันพูดไม่เป็นนะให้ปอบใครก็
00:22:39 → 00:22:42 ปอบไม่เป็นงั้นแสดงออกค่ะใส่ใจอย่างจริง
00:22:42 → 00:22:46 จังมีท่าทีที่อ่อนโยนเอื้อเฟื้อให้
00:22:46 → 00:22:49 เกียรติให้ความสำคัญกับคนอื่นมีท่าทีแสดง
00:22:49 → 00:22:51 ออกที่ว่าพยายามที่จะปรับตัวหรือสามารถ
00:22:51 → 00:22:55 ปรับตัวได้ยืดหยุ่นในทุกสถานการณ์สะท้อน
00:22:55 → 00:22:58 ถึงความเป็นตัวเองแล้วก็ไม่เสแสร้งการทำ
00:22:58 → 00:23:00 แบบเนี้ยการสื่อสารที่ดีเนี่ยจะทำให้เรา
00:23:00 → 00:23:03 ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างด้วยความ
00:23:03 → 00:23:05 เคารพมีเสน่ห์โดยการที่ไม่ต้องพยายามอะไร
00:23:05 → 00:23:06 เลย
00:23:06 → 00:23:08 >> แล้วก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแบบ
00:23:08 → 00:23:11 ยั่งยืนด้วยการคิดบวกเนี่ยมันคือเสน่ห์
00:23:11 → 00:23:12 อันมหาศาลเลย
00:23:12 → 00:23:15 >> ที่จะดึงดูดคนรอบข้างมาพัฒนาบุคลิกภาพภาย
00:23:15 → 00:23:19 นอกให้เป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆในสังคมแต่
00:23:19 → 00:23:21 ว่ายึดธรรมชาติของตัวเรานะคะไม่ใช่ว่า
00:23:21 → 00:23:24 ต้องบิดเบือนไปมากมายแบบที่ในสิ่งที่เรา
00:23:24 → 00:23:27 ไม่ได้เป็นโดยการเข้าใจในเรื่องของ
00:23:27 → 00:23:29 กาลเทศะแล้วก็อื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นเสื้อ
00:23:29 → 00:23:33 ผ้าหน้าผมสุขภาพ position
00:23:33 → 00:23:36 ท่าทีที่สง่างามหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:23:36 → 00:23:38 [เพลง]
00:23:38 → 00:23:43 This is Thai PBS Podcast
00:23:43 → 00:23:45 ติดตามรายการของ Thai PBS Podcast ได้
00:23:45 → 00:23:48 ทางเว็บไซต์ www.thaipspodcast.com
00:23:48 → 00:23:50 thapodcast.com
00:23:50 → 00:23:53 แอปพลิเคช Thai PBBS Podcast รวมถึงฟัง
00:23:53 → 00:23:57 ผ่าน podcast ช่องทางอื่นๆ Spotify
00:23:57 → 00:24:00 YouTube Apple Podcast และ Soundcloud
00:24:00 → 00:24:01 เ้า
00:24:01 → 00:24:04 [เพลง]