00:00:00 → 00:00:00 วัน
00:00:00 → 00:00:01 [เพลง]
00:00:01 → 00:00:05 เสาร์ม่อน port Cash Money สดอร่อยร่วม
00:00:05 → 00:00:11 สร้างสรรค์โดยคือภาพดีทวีสุข
00:00:11 → 00:00:14 นี่ก็พอดแคสต์เจาะลึกเรื่องราวของโรคภัย
00:00:14 → 00:00:17 ที่ใครๆก็อาจไม่เคยรู้กับ
00:00:17 → 00:00:21 โรคภัยใครรู้สวัสดีครับผมกับเราสองคนอีก
00:00:21 → 00:00:24 เช่นเคยนะครับผมเอกพรศรีสุขทวีรัตน์แล้ว
00:00:24 → 00:00:26 ก็พี่หมอเล็กครับผู้ช่วยศาสตราจารย์
00:00:26 → 00:00:28 ดอกเตอร์นายแพทย์กิตติพงษ์สุนทราภา
00:00:28 → 00:00:31 อาจารย์ภาควิชาเภสัชวิทยาคณะแพทยศาสตร์
00:00:31 → 00:00:34 ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดลนะครับ
00:00:34 → 00:00:36 สวัสดีครับพี่เล็กครับสวัสดีครับคุณเก่ง
00:00:36 → 00:00:38 แล้วสวัสดีคุณผู้ฟังทุกๆท่านนะครับครับผม
00:00:38 → 00:00:42 วันนี้ฮะในเทปนี้เราจะมาพูดคุยกันถึง
00:00:42 → 00:00:44 เรื่องโรคเบาหวาน
00:00:44 → 00:00:47 ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยอาจจะไม่เข้าใจ
00:00:47 → 00:00:49 มันอย่างถ่องแท้นะเราก็จะรู้สึกว่ามัน
00:00:49 → 00:00:52 เป็นโรคที่ใจตัวโดยเฉพาะถ้าเกิดคนที่อายุ
00:00:52 → 00:00:55 น้อยๆคนสุขภาพแข็งแรงคนที่ผอมเนี่ยก็จะ
00:00:55 → 00:00:58 รู้สึกว่าโอ้โหมันนี่มันโรคคนแก่นี่มันก็
00:00:58 → 00:01:00 คนอ้วนแต่จริงๆแล้วมันดีกว่าที่เราคิด
00:01:00 → 00:01:03 แล้วก็วันนี้จะพูดถึงในอดีตเยอะเลยเขารัก
00:01:03 → 00:01:06 ทรงรักษาเบาหวานก็ยังไงนะครับถ้าถามพี่
00:01:06 → 00:01:09 เล็กก่อนเบาหวานด้วยหลักการของมันเนี่ย
00:01:09 → 00:01:12 มันเป็นโรคที่เกิดอะไรในตัวเราแล้วมันจะ
00:01:12 → 00:01:15 ส่งผลยังไงจริงๆโรคเบาหวานไม่โรคที่ค่อน
00:01:15 → 00:01:18 ข้างจะซับซ้อนนะครับครับดูจากชื่อก่อนละ
00:01:18 → 00:01:20 กันเบาหวานคุณเอกใช่มันมาจากไหนที่เรา
00:01:20 → 00:01:25 หวานถ้าผิดแบบรั่วๆเลยนะเฮ้ยเบาหน่อยว่า
00:01:25 → 00:01:29 น่ะเอาเบาๆหน่อยกินหวานอ่ะเบาๆหน่อยอย่าง
00:01:29 → 00:01:31 นี้ว่าเค้าจริงรากศัพท์นั้นเป็นภาษาไทย
00:01:31 → 00:01:33 เบาไม่น่าจะถ่ายเบาคือปัสสาวะนะครับแล้ว
00:01:33 → 00:01:37 ก็จะหวานก็คือหวานอ่ะก็คือตัวโรคอ่ะไม่
00:01:37 → 00:01:40 เห็นชัดที่สุดนะครับก็คือขับปัสสาวะมา
00:01:40 → 00:01:42 แล้วมันหวานนะช่างมันหวานอ่ะเพราะหวัง
00:01:42 → 00:01:45 เหมือนกับฉี่แล้วเหมือนกับชีหวานแต่คงไม่
00:01:45 → 00:01:47 มีใครไปชิมหรอกน่าจะหมายถึงฉี่แล้วเป็น
00:01:47 → 00:01:50 น้ำตาลออกมาอะไรอย่างนี้จะมาชายก็คือยิง
00:01:50 → 00:01:52 อ่ะจะว่ามีคนพิมพ์ก็ไม่เจอนะเพราะในอดีต
00:01:52 → 00:01:55 ที่ผ่านมาได้วินิจฉัยด้วยการชิมประสาว่า
00:01:55 → 00:01:58 จริงๆที่หมอเป็นหมอเบาหวานต้องฉีดทุกวัน
00:01:58 → 00:02:01 นี้ร้อนมีนะครับอ่าและเมื่อหลายร้อยปีที่
00:02:01 → 00:02:03 แล้วเนี่ยเขาเชียงใหม่หัวจริงคะเดี๋ยวเรา
00:02:03 → 00:02:05 พูดกันตอนให้ทีนึงแต่ว่าเดี๋ยวเขาพูดเธอ
00:02:05 → 00:02:09 ลงนิดนึงเนอะคือตัวโต้งมันก็คือการที่
00:02:09 → 00:02:11 ร่างกายไม่สามารถคุมระดับน้ำตาลในเลือด
00:02:11 → 00:02:13 ได้ต้องรู้ผลการนิดหนึ่งก่อนแล้วข้าวก็
00:02:13 → 00:02:17 คือเวลาเราทานอาหารเข้าไปนั่งกายนะครับก็
00:02:17 → 00:02:19 จะผลิตอินซูลินขึ้นมาคือลิงคือของมวลที่
00:02:19 → 00:02:22 ทำให้เนื้อเย็นในร่างกายอ่อนน้ำตาลไปใช้
00:02:22 → 00:02:25 ได้ซึ่งตามปกติก็คือกินปุ๊บน้ำตาลขึ้น
00:02:25 → 00:02:28 อินซูลินผลิตออกมานั่งกายอ่อนน้ำตาลไปใช้
00:02:28 → 00:02:31 ก็จบก็เท่ากับว่าจะมาร้านก็ล้านกันแต่ว่า
00:02:31 → 00:02:34 ตัวโรคเบาหวานคือตรงนี้มันเสียสมดุลอย่าง
00:02:34 → 00:02:36 นี้ไปนะครับบ่วันที่ 2 ประเภทประเภทแรกก็
00:02:36 → 00:02:39 คือร่างกายผลิตอินซูลินไม่ได้เลยนะครับ
00:02:39 → 00:02:42 ไม่ใช่เลยใช่ส่วนใหญ่ผลิตน้อยจนไม่ได้เลย
00:02:42 → 00:02:45 ซึ่งตรงนี้เสียชีวิตได้เลยนะครับใจแคบไม่
00:02:45 → 00:02:47 ถึงปีนะครับก็เลยไม่ใช่โลกเลยนะครับ
00:02:47 → 00:02:49 ประเภทที่ 1 ถ้าไม่รักษานะครับแต่ว่าคน
00:02:49 → 00:02:52 พรุ่งนี้ต้องเป็นแต่กำเนิดเลยฮะก็คือจะ
00:02:52 → 00:02:56 เริ่มเจอในคนอายุน้อยๆคือกลไกมันจริงๆมัน
00:02:56 → 00:02:59 ก็คล้ายๆกับโรคภูมิต้านทานออกถ้าตัวเอง
00:02:59 → 00:03:03 แหละจ้ะหมอเขาจำตัวสปอร์ตไม่ได้ส่วนที่
00:03:03 → 00:03:06 สร้างไอ้ Inn สุรินทร์นะครับจากซึ่งไม่
00:03:06 → 00:03:09 ได้เข้าไปจัดการก็ค่อยจัดการชนิดเซลล์
00:03:09 → 00:03:11 สร้างอินซูลินก็จะตายลงเรื่อยๆสุดท้ายก็
00:03:11 → 00:03:14 ไม่มีอ๋อก็เลยไม่มีสุรินทร์หอมไม่ใช่ว่า
00:03:14 → 00:03:17 เกิดมาปุ๊บดีดไม่มีแต่แค่ว่าร่างกายกิน
00:03:17 → 00:03:19 ปกติแล้วค่อยๆทำลายมันไปเรื่อยๆเจอในคน
00:03:19 → 00:03:22 อายุน้อยจะช่วงวัยรุ่นเริ่มเจอนะครับจะรอ
00:03:22 → 00:03:24 อยากที่เราเห็นตามหนังว่าเด็กเป็นเบาหวาน
00:03:24 → 00:03:26 ส่วนใหญ่ก็ลักษณะนี้ถูกต้องครับพี่กบ
00:03:26 → 00:03:29 ประเภทที่ 1 นะครับครับส่วนประเภทที่สอง
00:03:29 → 00:03:31 จะเจอได้มากที่สุดนะครับและแบบที่สอง
00:03:31 → 00:03:34 เนี่ยมันต้องน้ำหนักเยอะหรือสุขภาพไม่ดี
00:03:34 → 00:03:36 ขนาดไหนมันจะเป็นเบาหวานนี้มาครับมันมี
00:03:36 → 00:03:39 ปัจจัยหลายอย่างกับว่าเอาแน่ๆนะครับเอา
00:03:39 → 00:03:42 ตัวนี้ก่อนก็คือกลไกที่จะทราบกันนะครับ
00:03:42 → 00:03:45 ของการเกิดเบาหวานประเภทที่ 2 เนี้ยก็คือ
00:03:45 → 00:03:48 ร่างกายเนี่ยที่สุรินทร์จะต้องไปจับกับ
00:03:48 → 00:03:51 ตัวเนื้อเยื่อก็คือเซลล์นะครับมันถึงเอา
00:03:51 → 00:03:53 น้ำตาลไปใช้ได้จับแต่ประเด็นอยู่ที่ว่าพอ
00:03:53 → 00:03:57 ฉันจะปุ๊บมันไม่ทำงานนะครับคือเซลล์ไม่
00:03:57 → 00:03:59 ตอบตอนที่สุรินทร์นะครับก็คือสร้างไม่
00:03:59 → 00:04:02 เท่าโอ้โหทราบ 100 อาจจะทำงานได้สัก 50
00:04:02 → 00:04:05 ก็คือไม่ต่อสองสุรินทร์เท่าไหร่จากที่คือ
00:04:05 → 00:04:09 คนไก่เล็กๆจนถ้าเป็นเป็นนานๆเข้าไอ้เซลล์
00:04:09 → 00:04:11 สร้างอินซูลินก็จะสร้างในลดลงเรื่อยๆตรง
00:04:11 → 00:04:14 นี้เราไม่ใช่ว่ากลไกที่แท้จริงนะครับที่
00:04:14 → 00:04:16 ยังเสียวไม่ต่อสองทฤษฎีไม่เคยแน่แต่ที่
00:04:16 → 00:04:19 ที่มีหลักฐานทางงานวิจัยต่างๆพวกว่าตัว
00:04:19 → 00:04:23 การสำคัญตัวอย่างเงื่อนไขมันกลับเลยพวก
00:04:23 → 00:04:26 มันคนที่ตัวอ้วนๆอาจจะพบคนไก่ตรงนี้นะ
00:04:26 → 00:04:29 ครับก็คือทำให้อินซูลินทำงานได้แย่ลงนั่น
00:04:29 → 00:04:32 เองนะครับก็เลยเป็นที่มาของการที่อาจจะ
00:04:32 → 00:04:35 เลิกผลิตอินซูลินไปหรือผลิตน้อยก็คือแรกๆ
00:04:35 → 00:04:37 อาจจะตอบสังกัดจะเรียนน้อยแต่ว่า in จีน
00:04:37 → 00:04:40 ก็ต้องถูกช่างเยอะๆฉันทำงานหนักแต่มันก็
00:04:40 → 00:04:42 เหนื่อยง่ายจะก็จะสร้างหรือลดลงเรื่อยๆนะ
00:04:42 → 00:04:44 ครับท้ายที่สุดก็จะคล้ายๆบอกว่าพี่ที่
00:04:44 → 00:04:46 หนึ่งอ้ะที่สุดนะครับแล้ววิธีการรักษา
00:04:46 → 00:04:49 เนี่ยคือเราจะเห็นตำหนักนะว่าอะไรนะฉีด
00:04:49 → 00:04:52 อินซูลินเข้าร่างกายครับอันนั้นมันสำหรับ
00:04:52 → 00:04:55 ผมนะไม่เห็นเหมือนเป็นการรักษาเลยเหมือน
00:04:55 → 00:05:00 เป็นการประคองให้มันอยู่รอดไปได้วันๆแล้ว
00:05:00 → 00:05:03 มาแล้วเนี่ยนะมันมีวิธีรักษาจริงๆหรือ
00:05:03 → 00:05:06 เปล่าหรือเราก็อินซูลินมันมีหลักการทำงาน
00:05:06 → 00:05:08 อย่างที่มันฉีกเข้าไปเนี่ยครับเดี๋ยวผมขอ
00:05:08 → 00:05:11 พูดถึงเบาหวานประเภทที่ 1 ก็ละกันไว้ที่ 1
00:05:11 → 00:05:13 ก็คือครับร่างกายสร้างอินซูลินไม่ได้แน่
00:05:13 → 00:05:16 นอนก็ต้องเติมเข้าไปต้นฉีดเท่านั้นนะครับ
00:05:16 → 00:05:17 ไม่เห็นในสุรินทร์เท่านั้นเพราะร่างกาย
00:05:17 → 00:05:20 ขาดนะครับในการรักษาหลักของบอกว่าเป็นที่
00:05:20 → 00:05:22 หนึ่งคือการฉีดอินซูลินส่วนประวัติประเภท
00:05:22 → 00:05:25 ที่สอนที่เจอกันมากๆจะให้ข้อที่ 1 แบบที่
00:05:25 → 00:05:28 1 เนี่ยก็แปลว่ามีแค่นี้เหรอคือสำหรับผม
00:05:28 → 00:05:30 คือประคองถูกมั้ยผมใช้คำนี้ถูกมันต้อง
00:05:30 → 00:05:33 ครับก็นั้นประคองแต่ว่าการชีวิตสุรินทร์
00:05:33 → 00:05:36 ก็คือการมันก็เติมสิ่งที่เราขาดเข้าไปก็
00:05:36 → 00:05:38 เขาก็มีชุดได้แบบปกติแต่เพียงแต่เขาต้อง
00:05:38 → 00:05:41 ฉีดอินซูลินเท่านั้นเองแค่ว่าก็อยู่อยู่
00:05:41 → 00:05:43 ไม่ได้ถ้าขาดที่สุรินทร์ต้องขี่ได้ต้อง
00:05:43 → 00:05:45 ฉีดครับก็สางหนี้เสียชีวิตได้เลยครับอ่า
00:05:45 → 00:05:47 แบบที่ 2 ขออภัยเขาต่อเลยเหรอที่ทรัพย์
00:05:47 → 00:05:51 ที่ 2 เนี่ยก็มันจะต้องดูความหนักเบาของ
00:05:51 → 00:05:53 โลกด้วยครับจำระยะแรกๆน้ำตาลอาจจะสูงนิด
00:05:53 → 00:05:56 หน่อยอาจจะไม่ต้องผ่านยาละลายเลยก็คือให้
00:05:56 → 00:05:59 ปรับเปลี่ยนชื่อประจำวันออกกำลังกายนะ
00:05:59 → 00:06:00 ครับ
00:06:00 → 00:06:03 ตัวแป้งรสน้ำตาลนะครับต้นของหวานนะครับ
00:06:03 → 00:06:06 ตรงเนี้ยก็จะทำให้น้ำตาลลดลงได้ก็อาจจะ
00:06:06 → 00:06:08 ปกติได้เลยโดยที่ไม่ต้องกินยาก็คือถ้า
00:06:08 → 00:06:11 กำจัดไม่ค่อยดีก็เติมมันให้น้อยหน่อยก็ก็
00:06:11 → 00:06:14 มาหาหน่อยๆๆทันว่าเยอะไปนะครับแล้วก็ออก
00:06:14 → 00:06:17 กำลังกายเพราะผาลงไปนะครับจ้ำแล้วณ
00:06:17 → 00:06:21 ปัจจุบันนี้มันมีวิธีการรักษาแบบป้าบที
00:06:21 → 00:06:23 เดียวขายขาดเลยนะฮะคือแบบไม่ต้องไม่ต้อง
00:06:24 → 00:06:26 ไม่ต้องปรับเปลี่ยนด้วยการฉีดอินซูลิน
00:06:26 → 00:06:29 หรือว่าอะไรไงการรักษาเนี่ยเอ่อถ้าต่ำ
00:06:29 → 00:06:31 ท่านตอนนั้นก็คือหนึ่งถ้าเกิดปรับเป็นที่
00:06:31 → 00:06:34 ประจำวันแล้วน้ำตาลยังสูงอยู่ก็จะลำดับ
00:06:34 → 00:06:36 ถัดไปที่การกินยานะครับก็อยากกินนะครับ
00:06:36 → 00:06:39 ซึ่งจะมียาอะไรแบบคงไม่พูดถึงในกลไกแล้ว
00:06:39 → 00:06:41 กันนะครับแต่ตัวเนี้ยให้กินยาก็เป็นอีก
00:06:41 → 00:06:44 Step 1 ถ้าจะกินยาหรือยังไม่ดีสเต็ปถัด
00:06:44 → 00:06:47 ไปการฉีดอินซูลินหอกินยาที่ก็เพราะยาลด
00:06:47 → 00:06:50 น้ำตาลในเลือดนี่นี่คือลักษณะนี้นะใช่ถูก
00:06:50 → 00:06:53 ต้องมียาอะไรตัวนะครับที่ช่วยในเรื่องเบา
00:06:53 → 00:06:56 หวานนะครับก็ตรงนี้เป็น state ที่สองถ้า
00:06:56 → 00:06:58 จะปรับเปลี่ยนชีวิตจะวันนะครับจ้ายาไม่
00:06:58 → 00:07:01 ได้ผลปุ๊บจะต้องเติมเสน่ห์ก็นั่นแหละคืน
00:07:01 → 00:07:03 ประชิดในคนที่เป็นหนักแล้วนั่นแหละครับ
00:07:03 → 00:07:06 อ่ะแล้วตอนนี้เนี่ยผลก็อาจจะงงว่าเอาแล้ว
00:07:06 → 00:07:09 เป็นเบาหวานแล้วมันจะไม่ดียังไงมาจะเลว
00:07:09 → 00:07:12 ร้ายยังไงก็ไม่เคยมีคำนึงบอกว่าอะไรนะ
00:07:12 → 00:07:15 เป็นเบาหวานแล้วจะเป็นแผลและเท้าเน่าใช่
00:07:15 → 00:07:18 ไหมเออเหมือนก็ได้ยินทำนะฮะคือสรุปสุด
00:07:18 → 00:07:21 ท้ายเนี่ยถ้าเป็นเบาหวานหนักๆเนี่ยมัน
00:07:21 → 00:07:24 ด้วยระบบร่างกายมันจะทำจัดการยังไงมึงตรง
00:07:24 → 00:07:28 นี้น่าสนใจก็คือเบาหวานจริงถ้าบอกให้ชัด
00:07:28 → 00:07:31 แบบคำเดียวเป็นโรคประเภทไหนนะครับจริงเบา
00:07:31 → 00:07:33 หวานเนี่ยที่จะเจอได้แน่นอนก็คือเส้น
00:07:33 → 00:07:36 เลือดในร่างกายนั้นเสียนะครับเป็นโรคที่
00:07:36 → 00:07:39 ทำลายเส้นเลือดที่เจอได้ชัดเรื่องเพราะ
00:07:39 → 00:07:41 ฉะนั้นเช่นไปทุกที่จะมหากาพย์ยังจะเห็น
00:07:41 → 00:07:43 ว่าจะเลือกไปที่ตาไปที่ตายไปที่สมองครับ
00:07:43 → 00:07:45 ฉะนั้นจะเห็นว่าคนที่เป็นเบาหวานคุมไม่
00:07:45 → 00:07:49 ได้ก็จะเป็นโรคไตอาจจะเชื่อสมองมีปัญหานำ
00:07:49 → 00:07:51 โรคหัวใจนั่นแหละเป็นเพราะเส้นเลือดที่ไป
00:07:51 → 00:07:54 เลี้ยงเอาไว้ต่างๆมันเสียแล้วก็เราจะเสีย
00:07:54 → 00:07:57 เลือดเสียเนี่ยเส้นเลือดอย่าลืมไปเลี้ยง
00:07:57 → 00:08:00 เส้นประสาทด้วยจากนั้นกำลังทำการทำงาน 5
00:08:00 → 00:08:03 สถานก็จะมีปัญหาได้จะไปจะพบอาการชาไม่รู้
00:08:03 → 00:08:07 สึกไปปลายเท้านั้นที่มีคุณเอกบอกว่าตัด
00:08:07 → 00:08:09 เท้าเป็นเพราะอะไรทำไมก็คือมันไข้เป็น
00:08:09 → 00:08:12 หนักๆเหยียบโดนตะปูดูอะไรก็ไม่รู้ไม่รู้
00:08:13 → 00:08:15 สึกหอมเป็นแพ้ไม่รู้เรื่องรถใครจะไปดู
00:08:15 → 00:08:18 เท้าทุกวันจริงนะครับเพราะว่าเลือดไม่ไป
00:08:18 → 00:08:22 เลี้ยงเส้นประสาทก็เลยไม่มีความรู้สึกก็
00:08:22 → 00:08:25 เลยเกิดแผลครับก็เลยทำให้ตัวเองไม่รู้สึก
00:08:25 → 00:08:28 ไม่ดูแลมันก็เลยนั่งก็ต้องตัดครับไม่ใช่
00:08:28 → 00:08:30 เพราะว่าเบาหวานทำให้เท้าเน่าไม่ใช่อย่าง
00:08:30 → 00:08:33 นั้นก็ได้มันจะเป็นคนกันจริงๆจะมีกดซับ
00:08:33 → 00:08:34 ซ้อนกว่านั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องไม่เป็นใน
00:08:35 → 00:08:37 สะอาดนะครับแต่ว่าโอเคใช่ประสาทเนี่ยมี
00:08:37 → 00:08:39 ปัญหาเพราะว่าการทำงานตรงเนี้ยงานใช่
00:08:39 → 00:08:41 เลือดไปเลี้ยงไม่ไม่ไม่ค่อยดีนั่นเองนะ
00:08:41 → 00:08:43 ครับสุดท้ายเสื้อเลื่อนไอ้ใช่ประสาททำงาน
00:08:43 → 00:08:46 ไม่ค่อยได้นะครับหรือชาแล้วพอเหยียบไม่
00:08:46 → 00:08:50 รู้สึกใช่ไหมครับโอเคถ้าทำแผลก็โอเคพายดี
00:08:50 → 00:08:52 ขึ้นใช่มันจะพอไม่ทำพูดอะไรเกิดขึ้นติด
00:08:52 → 00:08:56 เชื้อเชื้อสุดท้ายโอเคไม่มีอีกกลไกหนึ่ง
00:08:56 → 00:08:58 ที่ช่วยคือแม่นขาวจะไปจัดการเชื้อโรคนะ
00:08:58 → 00:09:02 ครับกับถ้าคนทั่วมีสุขภาพดีๆบางทีแผลจะ
00:09:02 → 00:09:05 หายโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้นะครับคน
00:09:05 → 00:09:07 สุขภาพดีนะครับถ้าอาจารย์แผลไม่ลึกมากเลย
00:09:07 → 00:09:09 แบบนี้นะครับเพียงแต่ว่านะครับคุณเป็นบอก
00:09:09 → 00:09:12 ว่าจะไม่กี่อันหนึ่งที่จะแย่ลงก็คือภูมิ
00:09:12 → 00:09:15 คุ้มกันก็จะต่ำด้วยการทำงานไม่ได้เขาแย่
00:09:15 → 00:09:18 ลงเลยถ้าน้ำตาลสูงนะครับโหก็ไปว่าครบเซต
00:09:18 → 00:09:21 ใช่ครับไม่รู้สึกตัวอีกแล้วระบบป้องกันก็
00:09:21 → 00:09:25 ตามเองใช่ครับสุดท้ายได้ทำให้แผลเน่าสุด
00:09:25 → 00:09:26 ท้ายก็ต้องตัดเท้าเป็นเพราะเหตุผลเหล่า
00:09:26 → 00:09:29 นี้แหละครับที่บอกว่าถึงตายในก็อาจจะ
00:09:29 → 00:09:31 เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันตกด้วยทุกทีแล้วที่
00:09:31 → 00:09:34 พี่หมอได้บอกไปใช่ไหมทำงานก็คือภูมิกันตก
00:09:34 → 00:09:36 ไม่เลือดขาวทำงานแย่ลงครับติดเชื้อง่าย
00:09:36 → 00:09:38 ขึ้นจะคือมันมีติดเชื้ออย่างอื่นด้วยแยะ
00:09:39 → 00:09:41 ไปหมดเลยเป็นเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้นะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับจะโอเคน่าจะพอเข้าใจนะเรื่องเบาหวาน
00:09:44 → 00:09:46 เข้าๆเรามาคุยเรื่องประวัติศาสตร์โรคเบา
00:09:46 → 00:09:50 หวานดีกว่าเราเป็นค้นพบได้ไงคะว่าเบาหวาน
00:09:50 → 00:09:54 นี่มันเป็นโรคแล้วก็เหมือนกับเธอมันมีการ
00:09:54 → 00:09:55 พิสูจน์ทราบยังไงคะเพราะมันเป็นสิ่งที่
00:09:55 → 00:09:58 อยู่ในร่างกายบังเอิญว่ะบังเอิญไปชิม
00:09:58 → 00:10:03 เลือดๆผมไม่รู้ผมตั้งข้อสังเกตขึ้นมาหาก
00:10:03 → 00:10:08 ต้องถ้าพูดถึงอดีตแบบใกล้ๆเลยสำหรับหินคน
00:10:08 → 00:10:11 เป็นเบาหวานอ่ะน้อยมากมีอาจจะพบได้คือเบา
00:10:11 → 00:10:14 หวานประเภทที่ 1 ก็เป็นแบบอาจจะเด็กๆน่ะ
00:10:14 → 00:10:16 จะพบจะพอจะมีส่วนของพันธุกรรมด้วยนะครับ
00:10:16 → 00:10:19 แต่ว่าบอกว่าพี่ศ.จะไม่ค่อยพบในอดีตกาล
00:10:19 → 00:10:22 เท่าไหร่นะครับเหตุผลเป็นเพราะว่าในยุค
00:10:22 → 00:10:25 หินยกรู้แหละคนออกขยับต้องไปล่าสัตว์ลงใน
00:10:25 → 00:10:28 ออกแรงเรากินอะไรไม่ได้เหมือนปัจจุบันนี้
00:10:28 → 00:10:31 อย่าลืมนะคนอายุอดีตกาลอ่ะกูก็จะหาได้กิน
00:10:31 → 00:10:34 ทีนึงอ้ะอย่างง่ายต้องลาเองฉะนั้นการจะ
00:10:34 → 00:10:37 ได้น้ำตาลเยอะๆหัวจะน้อยมากมิฉะนั้นก็
00:10:37 → 00:10:40 กลับไปบอกว่าที่สองอาจจะต่ำลงนะครับในคน
00:10:40 → 00:10:43 อดีตกาลแต่ว่าพอที่ตั้งดีๆขึ้นเรื่อยๆนะ
00:10:43 → 00:10:45 ครับอาจจะยุคเมื่อ 100 200 ปีแล้วก็จะ
00:10:45 → 00:10:48 เริ่มพกมาขึ้นขอพูดถึงบอก Twin 2 รายการ
00:10:48 → 00:10:51 ครับก็คือคนนั้นเริ่มขาอะไรกินง่ายขึ้นจะ
00:10:51 → 00:10:55 พบในคนแบบไอ้พวกไฮโซในอดีตจะเจอได้บ้าง
00:10:55 → 00:10:57 อย่างยินมากแล้วก็ไม่ทันรอท่านเขาอะไร
00:10:57 → 00:11:00 อย่างนี้ฮ่าๆที่อยู่สุขสบายนะหมอเขาชาติ
00:11:00 → 00:11:04 ได้ยังไงกับคือปัสสาวะบ่อยอาการเราต้อง
00:11:04 → 00:11:07 พึ่งอาการที่พบอยู่ทำงานที่พบนะฮะอาจจะ
00:11:07 → 00:11:10 ไม่เหมือนโลกความดำสวยเท่าเคยพูดกันไปนะ
00:11:10 → 00:11:12 ครับคนโดยจะไม่ค่อยมีอาการให้เห็นจะเบา
00:11:12 → 00:11:15 หวานอ่ะปัสสาวะบ่อยครับปัสสาวะบ่อยเพราะ
00:11:15 → 00:11:18 เรากำจัดน้ำตาลไม่ได้มาแล้วก็เลยอยากจะ
00:11:18 → 00:11:22 กำจัดไงตาลสูงน้ำก็ถูกขับมาเยอะออกอ่า
00:11:22 → 00:11:25 นั่นแหละครับแล้วก็สองถึงกินเยอะน่ากิน
00:11:25 → 00:11:27 เยอะแล้วก็ไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่ด้วยยังไม่
00:11:27 → 00:11:30 ใช่เรื่องดีนะครับเฮ้ยเธอผมรู้สึกว่าเบา
00:11:30 → 00:11:34 ว่ามันมากับคนอ้วนคือมะเขือขอบอ้วนน่ะก่อ
00:11:34 → 00:11:36 ให้เกิดเป็นตัวกระตุ้นให้เป็นโรคเบาหวาน
00:11:36 → 00:11:39 ก่อนหอมครับเพราะว่าเป็นมากๆก็ต้องอยากจะ
00:11:39 → 00:11:42 ผอมลงนะครับเพราะการแปลว่าอ้วนจะทำให้กับ
00:11:42 → 00:11:45 เบาหวานก็ไปบ่หนักๆร่างกายก็ผอมลงอย่าลืม
00:11:45 → 00:11:48 ว่าร่างกายน่ะนำน้ำตาลไปใช้ไม่ค่อยได้
00:11:48 → 00:11:51 เพราะอย่าลืมว่ากลไกของเบาหวานก็คือ
00:11:51 → 00:11:54 อินซูลินจ้างงานไม่ค่อยได้ต่อจะน้ำตาลถูก
00:11:54 → 00:11:56 เราใช้ไม่ค่อยได้น้ำตาเหลือเกินรถในเส้น
00:11:56 → 00:11:59 เลือดจ้าแต่ไม่หมดเลยนะครับสุดท้ายนั้น
00:11:59 → 00:12:02 แต่พอมามีแต่ถ้าเราไม่มีไม่คุ้มนะครับเรา
00:12:02 → 00:12:04 นี่แหละนะครับแล้วก็อีกอย่างหนึ่งที่พบ
00:12:04 → 00:12:08 กันที่ 3 ก็คือน้ำหนักก็ลงด้วยนะครับเป็น
00:12:08 → 00:12:10 เน่าเยอะนะครับรถลงเลยครับดื่มน้ำเยอะ
00:12:10 → 00:12:13 ด้วยเพราะว่าปัสสาวะบ่อยครับ 3 สีอาการ
00:12:13 → 00:12:15 ให้จะพบได้ในคนที่เป็นเบาหวานนะครับครับ
00:12:15 → 00:12:18 ผมก็คือแรกเริ่มมาจากอย่างนี้ก่อนใช่ครับ
00:12:18 → 00:12:19 และเห็นบอกว่าอะไรนั่นอ่ะดีก็วินิจฉัย
00:12:19 → 00:12:22 ด้วยการกินฉี่ที่พี่หมอบอกตั้งแต่ตอนต้น
00:12:22 → 00:12:26 รายการนี้ก็ยังไงก็แน่นอนว่าเอ่อคนแรกที่
00:12:26 → 00:12:28 จะทำวิธีนี้เราคงอาจจะไม่ทราบนะครับแต่
00:12:28 → 00:12:31 ว่าถ้าลองคิดดูดีๆเนี่ยคนไข้ที่บอกอาการ
00:12:31 → 00:12:34 ก็คือชัดปัสสาวะบ่อยใช่ไหมครับที่ชัดมาก
00:12:34 → 00:12:37 ฉะนั้นไม่ใช้ง่ายเขาต้องดูปัสสาวะนี่ดู
00:12:37 → 00:12:39 ยังไงก็จะไม่ฉี่บ่อยนักขี่ม้าตัวซิอาจจะ
00:12:39 → 00:12:42 มีใครก็คนไปชิมเข้าท้ายก็เลยพูดว่าเนี่ย
00:12:42 → 00:12:46 ปัสสาวะหวานกว่าคนทั่วไปที่สำคัญจะเห็น
00:12:46 → 00:12:48 ชัดอาจจะไม่ต้องชิมก็ได้เห็นด้วยตาเปล่า
00:12:48 → 00:12:52 คือมดขึ้นกูมันหวานฆ่ามดขึ้นเลยอ่ะต้อง
00:12:52 → 00:12:55 ครับโอ้โหแสดงว่ามันเหมือนกับน้ำเชื่อม
00:12:55 → 00:12:58 ลักษณะแบบนั้นเลยนะให้เจอสังเกตว่าโรคเบา
00:12:58 → 00:13:01 หวานอ่ะไม่ใช่ก็ได้นะครับที่เราสาวหวาน
00:13:01 → 00:13:04 ทั่วโลกเลยนะครับอย่างเช่นภาษาอังกฤษเอง
00:13:04 → 00:13:07 ใดบิสมี does เนี่ยนะครับแต่ตรงๆนะครับ
00:13:07 → 00:13:11 ที่ไม่พัดภาษาละตินโบราณแหละนะครับแปลว่า
00:13:11 → 00:13:15 เราถ่ายหวานออกไปนะครับก็คือครับว่าว่านะ
00:13:15 → 00:13:18 เองอย่างภาษาจีนภาษาญี่ปุ่นก็แปลว่าเรียบ
00:13:18 → 00:13:20 ตัวเครื่องเบาหวานปัสสาวะหวานมากเลยนะ
00:13:20 → 00:13:24 ครับโซโลเลยตัวรูปมาคือปัสสาวะขวานของแต่
00:13:24 → 00:13:26 พอเป็นภาษาไทยมันเบาหวานนะมันก็เลยกำกวม
00:13:26 → 00:13:29 ใช่ครับก็ได้ว่าให้เขาเบาความหวานหน่อย
00:13:29 → 00:13:31 สะหวานั่นแหละ
00:13:31 → 00:13:35 ก็พอจะเข้าใจและอ่านแล้วเราไปค้นพบวิธี
00:13:35 → 00:13:38 การรักษามันแน่ไงเพราะว่าอย่างอย่างที่
00:13:38 → 00:13:41 พี่หมออธิบายตั้งแต่ตอนต้นมะเราผลิต
00:13:41 → 00:13:45 อินซูลินไม่ได้เลยว่าผลิตมาแล้วไม่ค่อยมี
00:13:45 → 00:13:49 ประสิทธิภาพมากนักแล้วเราจะไปค้นพบอะไรนะ
00:13:49 → 00:13:51 อินซูลินแบบฉีดหรือว่าแบบอะไรทั้งหลาย
00:13:51 → 00:13:55 แหล่เนี่ยมันไปมันไปสามารถคิดค้นได้ด้วย
00:13:55 → 00:13:56 แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นสารที่อยู่ในร่าง
00:13:56 → 00:14:00 กายตรงนี้น่าสนใจมากนะครับเอาถ้ามึงต้น
00:14:00 → 00:14:03 ก่อนก็คือในอดีตก็จะมีสุรินทร์นะครับกับ
00:14:03 → 00:14:04 ยาตัวแรกก็กินสุรินทร์นะต้องบอกก่อนนะ
00:14:04 → 00:14:07 ครับก็จะมีสุรินทร์เนี่ยเดี๋ยวจะการชาติ
00:14:07 → 00:14:11 ไม่คุณเองก็เท่าสารกันยังไงมีหลายวิธีมาก
00:14:11 → 00:14:14 นะครับคือเอาคนยกมาให้ดูเป็นบางอันละกัน
00:14:14 → 00:14:17 นะครับหน้าในอีกในยุค 100 ปี 200 ปีก่อน
00:14:17 → 00:14:20 จะมีสุรินทร์น่ะบางคนใช้วิธีให้ออกแรง
00:14:20 → 00:14:23 เยอะๆกำลังเยอะครับพวกมาเยอะๆอย่างเงี้ย
00:14:23 → 00:14:26 ให้เหงื่อออกคือมันจะบอกว่าสมว่าบ่อยนะฮะ
00:14:26 → 00:14:28 ก็คือก็ไม่ต้องมาเพื่อเทพอัศวน้อยลองก็
00:14:28 → 00:14:32 เอาน้ำออกทางอื่นพรุ่งนี้กำลังกายเยอะๆ
00:14:32 → 00:14:35 เป็นวิธีการที่ดิบมากชีบ่อยใช่ไหมงั้น
00:14:35 → 00:14:38 เหงื่อออกเยอะจะได้ไม่ต้องฉี่ก็ยังมีบาง
00:14:38 → 00:14:41 วิธีอย่างเช่นแพทย์มางานในยุคก่อนนู้นนะ
00:14:41 → 00:14:43 ครับใจวิธีคุ้มอาหารซึ่งดูมันจะดีแต่
00:14:43 → 00:14:46 เพื่อมาหาแบบ x ดีไหมหน่อยคือเล่นคุมแบบ
00:14:46 → 00:14:48 ไม่ให้กินสุดท้ายเป็นคนทานอาหารตายก็มีนะ
00:14:48 → 00:14:51 ครับการกลุ่มมึงต้องรู้ว่าคุณยังไงจะให้
00:14:51 → 00:14:53 ดีน่าจะไม่มีความเข้าปัจจุบันคือกูมาสัก
00:14:53 → 00:14:55 ทุกอย่างถ่ายถ้าไม่ได้กินอะไรเลยเสีย
00:14:55 → 00:14:58 ชีวิตไปหาน่าจะสุดท้ายมามาเป็นอินซูลิน
00:14:58 → 00:15:01 ได้ไงเอากันรักษาเต็มที่เป็นการรักษาจริง
00:15:01 → 00:15:03 ๆนะครับก็คือการควบคุมสุรินทร์นั่นแหละ
00:15:03 → 00:15:08 เมื่อ 100 ปีที่แล้วนะครับมีแทบนะครับ
00:15:08 → 00:15:10 ท่านหนึ่งท่านที่แคนาดาเนี่ยเป็นคนค้นพบ
00:15:10 → 00:15:15 อินซูลินนะครับแพ่งเนี่ยนะครับเขาอาจจะดู
00:15:15 → 00:15:18 งานวิจัยจากคนสมัยก่อนอีกนะครับก่อนก่อน
00:15:18 → 00:15:21 เขาจะมีนักวิจัยพบว่าตับอ่อนเกี่ยวข้อง
00:15:21 → 00:15:24 กับไอ้โลกมาหวานนี้จับขึ้นมีคนเข้าใจก่อน
00:15:24 → 00:15:28 เค้านะครับก็พูดว่าสุนัขที่ถูกตัด Sport
00:15:28 → 00:15:32 ไปเนี่ยน้ำตาลขึ้นก็เลยคิดว่าน่าจะเกี่ยว
00:15:32 → 00:15:36 ข้องกันแต่ว่าตั้งแต่ตอนคนเพราะว่าแต่พอ
00:15:36 → 00:15:38 เกี่ยวข้องกับน้ำตาลเนี่ยก็ยังไม่มีใคร
00:15:38 → 00:15:41 สามารถสกัดสารตัวนี้ได้ตัวที่เราน้ำตาจาก
00:15:41 → 00:15:44 สปอร์นะครับกับตัวนี้คุณเอกสร้างไว้ว่า
00:15:44 → 00:15:46 เพราะอะไรนะครับตัวนี้ถ้าเอารูปปัจจุบัน
00:15:46 → 00:15:50 มาพูดกันทำไมยุคแรกก่อนจะในแผนท่านเนี่ย
00:15:50 → 00:15:54 อ่าที่พบอินซูลินอ่ะน่าจะพบมันน่าจะฆ่า
00:15:54 → 00:15:56 พิงสิบปีก่อนเขาด้วยนะครับเรื่องกลไก
00:15:56 → 00:16:01 เนี้ยแต่ว่าไม่สามารถสักจะเอาตัวที่ว่า
00:16:01 → 00:16:03 ไอ้ตัวนี้ได้ให้ผมก็ตับอ่อนเป็นตัวสร้าง
00:16:03 → 00:16:07 น้ำย่อยนะครับกับน้ำย่อยน้ำย่อยเยอะ
00:16:07 → 00:16:10 โปรตีนอินซูลินก็คือ Man ฉันตัวพิมพ์
00:16:10 → 00:16:13 ประเภทนี้แหละฉะนั้นถ้าเอามาปนกันก็จะพัง
00:16:13 → 00:16:16 หมดเพราะอันย่อยอันนึงอันนึงไปโปรตีน 5
00:16:16 → 00:16:19 แค่มาบทย่อเราทำมันไม่ง่ายอย่างนั้นครับ
00:16:19 → 00:16:23 ซึ่งในแพทย์ทางเนี่ยมีชื่อว่าอ่าซึ่งเด็ก
00:16:23 → 00:16:26 แบ่งติ้งนะครับถ้าเนี่ยสามารถสกัดค้นพบ
00:16:26 → 00:16:29 วิธีสกัดเอา into ดีอย่างเดียวนี้ยาวไป
00:16:29 → 00:16:32 พวกนายพวกมันจะออกไปได้ทำให้มันไม่ปนกัน
00:16:32 → 00:16:35 ได้เป็นเพียวอินซูลินมาได้ซึ่งค่ามากนะ
00:16:35 → 00:16:39 ครับก็จะได้ไม่โดนทำลายใช่เธอรักสกัดมาก็
00:16:39 → 00:16:41 ฉี่เข้าร่างกายมนุษย์เลยเนอะโอเคพี่หมอ
00:16:41 → 00:16:44 เนี่ยส่งรูปมาให้ผมดูนะบ่เป็นผู้ป่วย
00:16:44 → 00:16:47 กลุ่มเล็กๆของโลกที่รักษาได้ยินสุรินทร์
00:16:47 → 00:16:49 ครับอย่าให้พี่หมอช่วยอธิบายหน่อยคือ
00:16:49 → 00:16:53 เดี๋ยวให้ทีมงานเราขึ้นภาพแถวที่เพจของ
00:16:53 → 00:16:55 แซลมอนด้วยกันแล้วกันให้พี่หมออธิบายแล้ว
00:16:55 → 00:16:58 อ้างแต่ละรูปนี่มันหมายความว่าอะไรคือจะ
00:16:58 → 00:17:01 เห็นว่าพี่ผมบอกแล้วว่ามีคนไข้โรคเบาหวาน
00:17:01 → 00:17:04 ท้ายจะร่างกายผอมฉันมั่นพรแต่ว่าคนที่น่า
00:17:04 → 00:17:06 สงสารที่สุดก็คือเบาหวานประเภทที่ 1 นะฮะ
00:17:06 → 00:17:09 เพราะคนเหล่านี้เนี่ยจะเป็นรุนแรงมาก
00:17:09 → 00:17:11 เพราะว่าร่างกายทำงานกะช่างชุดนั้นไม่
00:17:11 → 00:17:14 ผลิตเลยชีวิตได้ส่วนใหญ่อายุไม่ถึงปีนึง
00:17:14 → 00:17:17 อ่ะตั้งแต่เริ่มมีนี้ชายก็คือชีวิตได้เลย
00:17:17 → 00:17:20 นั้นตรงนี้พอได้ยินสลิปปุ๊บจะเห็นว่าหลัง
00:17:20 → 00:17:22 ฉีดอ่ะให้มาอ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนเด็ก
00:17:22 → 00:17:25 ปกติเลยหือเป็นคนไข้กลุ่มแรกที่จะรับเป็น
00:17:25 → 00:17:27 ชุดยิงคือคนไข้กลุ่มเบาหวานประเภทที่ 1
00:17:27 → 00:17:31 แล้วมันใช้เวลานานไหมกว่าจะฟื้นฟูเป็นจะ
00:17:31 → 00:17:33 บอกว่าอินซูลินเนี่ยเป็นหนึ่งในการคบที่
00:17:33 → 00:17:35 สำคัญอันดับต้นของทางการแพทย์ของมนุษย์
00:17:35 → 00:17:38 เสียชาติเลยนะครับจะพูดว่าจะเห็นว่าก่อน
00:17:38 → 00:17:41 กำลังฉีดคนละเรื่องแค่ไม่กี่มันไม่กี่
00:17:41 → 00:17:43 สัปดาห์นี้กลายเป็นคนละคนเลยนะพ่อโหให้
00:17:43 → 00:17:45 องค์เปลี่ยนเลยนะครับอย่าให้คุณผู้ฟังลอง
00:17:45 → 00:17:49 ดูรูปที่เราแน่ไปด้วยนะเพราะว่าฝั่งซ้าย
00:17:49 → 00:17:52 เนี่ยขออภัยนะเหมือนแบบ
00:17:52 → 00:17:55 เด็กที่อยู่ในทวีปแอฟริกาที่เรามักจะเห็น
00:17:55 → 00:17:58 ตามสารคดีนะที่เห็นซี่โครงโหหน้าตานี่
00:17:58 → 00:18:02 ผ่ายผอมมากฮะแต่หลังจากฉีดได้ไม่กี่วัน
00:18:02 → 00:18:04 ด้านขวาที่เหมือนกับ
00:18:04 → 00:18:08 เหมือนคนมันจะกินน่ะเหมือนลูกลูกเจ้าสัว
00:18:08 → 00:18:12 ที่แบบนั่งๆนอนๆชับบี้แก้มยุ้ยเลยก็แสดง
00:18:12 → 00:18:15 ว่าอินดี้มันมีผลมากจริงๆใช่ครับถ้า
00:18:15 → 00:18:18 เปลี่ยนจากเพิ่งจะเสียชีวิตแน่นอนกลาย
00:18:18 → 00:18:21 เป็นคนที่มีชื่อเหมือนปกติทำให้คนไข้คน
00:18:21 → 00:18:24 แรกนะครับจะรักอินซูลินน่ะเขาชีวิตอาจจาก
00:18:24 → 00:18:26 นั้นไปอีกอะคือเขาต้องเสียชีวิตแล้วแหละ
00:18:26 → 00:18:28 ภายใน 6 7 เดือนตั้งแต่วินิจฉัยโลกนะคะ
00:18:28 → 00:18:30 เด็กคนนี้เนี่ยมีชีวิตได้เป็นสิบยี่สิบปี
00:18:30 → 00:18:32 หลังจากนั้นแต่เขาเสียชีวิตด้วยโรคอย่าง
00:18:32 → 00:18:34 อื่นแทนนะครับแต่เขาไม่คิดได้เหมือนคน
00:18:34 → 00:18:37 ปกติเลยอ่ะซึ่งเป็นการค้นพบสำคัญมากคือ
00:18:37 → 00:18:40 เป็นการคนเปลี่ยนโลกเลยนะครับแต่ว่าจะรู้
00:18:40 → 00:18:42 ว่าฟังง่ายจริงๆยากมากครับเพราะตั้งแต่
00:18:42 → 00:18:46 ตอนสกัดอินซูลินและยังไม่นับโดสขนาดที่
00:18:46 → 00:18:48 ให้กับคนไข้อีกที่พอปรับเปลี่ยนหลายอย่าง
00:18:48 → 00:18:51 มากจนได้เห็นผลอย่างที่เห็นน่ะครับหนูนาง
00:18:51 → 00:18:53 ก็ถือว่าหน้าเป็นอย่างที่พี่บอกเลยว่า
00:18:53 → 00:18:57 เป็นการค้นพบแห่งมวลมนุษยชาติหนึ่งในการ
00:18:57 → 00:19:00 ค้นทางการแพทย์เลยครับและเห็นบอกว่าใน
00:19:00 → 00:19:03 ว่ามันจะมีการรักษาอะไรที่มันสะดวกสบาย
00:19:03 → 00:19:06 มากยิ่งขึ้นใช่ไหมอย่างยินสุรินทร์อันนี้
00:19:06 → 00:19:08 พอจะเข้าใจและสาเหตุที่ต้องฉีดเพราะว่า
00:19:08 → 00:19:10 ถ้ากินมันจะเป็นน้ำย่อยถูกต้องใช่ไหมมัน
00:19:10 → 00:19:13 ก็จะผ่านกระเพาะย่อยอินซูลินแตกสลายหมด
00:19:13 → 00:19:16 แล้วนั้นก็เลยต้องฉีดตรงเค้าจะเลือดใช่ใน
00:19:16 → 00:19:18 อนาคตจะมีอะไรสะดวกกว่านี้นะครับเพราะว่า
00:19:18 → 00:19:21 เท่าที่ฟังเนี่ยโหบางคนกลัวเข็มฉีดยาและ
00:19:21 → 00:19:24 แม้ต้องเจาะขาตัวเองทุกวันทุกวันอะไร
00:19:24 → 00:19:27 อย่างเงี้ยน่าสนใจว่ามีงานวิจัยฉบับหนึ่ง
00:19:27 → 00:19:30 ครับไม่นานมานี้เลยนะครับออกมานะครับเป็น
00:19:30 → 00:19:34 การให้สลิลโดยไม่ต้องฉีดนะครับคือกินเข้า
00:19:34 → 00:19:37 ไปได้เห้ยเขาเอาแล้วมันไม่โดนย่อยมากนี่
00:19:37 → 00:19:39 ผมกลับไปเหมือนกับการคิดค้นที่ทุเรียนอัน
00:19:39 → 00:19:42 แรกเลยนะก็คือถ้ากินอ่ะตั้มแน่นมันถูก
00:19:42 → 00:19:44 ย่อยใช้ไม่ได้เลยแต่ว่าเขาเอากินสุรินทร์
00:19:44 → 00:19:48 นะมาใส่ไว้ในแคปซูล 100 แบบที่มันมีเข็ม
00:19:48 → 00:19:52 เด้งของมาตะโนมัติคือเข็มที่เล็กมากนั้น
00:19:52 → 00:19:54 คือกินเข้าไปปุ๊บพอลงกระเพาะเขียนถึงเด้ง
00:19:54 → 00:19:56 ออกมาแล้วจึงเข้าเป็นในเยอะกับเพราะที่จะ
00:19:56 → 00:19:59 1 ฉีดเข้าไปในไม่ออกเพราะครับไปเขียนได้
00:19:59 → 00:20:02 มากจะไม่ดีๆเห็นนะครับจะให้นอนว่าอีกถึง
00:20:02 → 00:20:04 จะเข้าไปได้แล้วทำงานได้ปกตินี่เป็นงาน
00:20:04 → 00:20:06 วิจัยที่เพิ่งออกมาไม่นานเพราะเหมือนกับ
00:20:06 → 00:20:10 กินแคปซูลนี้เข้าไปเนี่ยมันจะไปเกาะผนัง
00:20:10 → 00:20:13 คุณแล้วก็ฉีดอินซูลินเข้าไปในผนังกระเพาะ
00:20:13 → 00:20:16 โดยที่คุณไม่ต้องฉีดเองเหมือนกับมันกิน
00:20:16 → 00:20:19 แล้วก็ไปฉีดอัตโนมัติในกระต่ายท้องของเรา
00:20:19 → 00:20:21 จะเป็นยังไงซับซ้อนมากเลยครับส่วนเนี่ย
00:20:21 → 00:20:24 คือเข้าไปปุ๊บน้ำย่อยจะกระตุ้นให้เข็มมัน
00:20:24 → 00:20:26 ดีดออกมาพวกครับแล้วเดี๋ยวอ่าพูด
00:20:26 → 00:20:28 อินฟินิตี้อยู่เท่าไหร่ครับคืนถึงจะฉีด
00:20:28 → 00:20:32 เข้าไปนี่หรอกเพียงแต่ไม่โดนในตัวน้ำย่อย
00:20:32 → 00:20:34 เลยนะครับเหมือนหนังเลยมันรู้สึกเหมือน
00:20:34 → 00:20:36 เป็นหนังที่แบบใส่หุ่นยนต์เข้าไปในร่าง
00:20:36 → 00:20:38 กายเรามันก็รักษาสอบเพราะตอนนี้มันเป็น
00:20:38 → 00:20:41 แบบระบบ Auto ใช่ออกเต้ยเข็มดีดเด้งมา
00:20:41 → 00:20:43 แล้วของแท้ไม่เจ็บเลยนะไอ้เข็มที่ว่าจิ้ม
00:20:43 → 00:20:46 ก็ไม่มีรู้สึกเจ็บนะครับนอกจากไอ้แคปซูล
00:20:46 → 00:20:49 ที่ว่ายังมีงานวิจัยอีกแบบหนึ่งก็คือจะ
00:20:49 → 00:20:52 ตับอ่อนที่มันเป็นตับอ่อนอัตโนมัติอะอ่ะ
00:20:52 → 00:20:55 จะไม่ใช่ตอบเออจริงๆจะเป็นคล้ายๆกับตัว
00:20:55 → 00:20:59 เราถ่าเข้าไปอ่ะใส่มันกับอุปกรณ์ที่จะ
00:20:59 → 00:21:02 เสียบลงมานะเอาไว้ตรงคนขายนั้นสองได้ไม่
00:21:02 → 00:21:04 ได้ใส่ไว้ในร่างกายคนไทยหรอกก็คือก็จะมี
00:21:04 → 00:21:08 ตัววัดน้ำตาโตมัติแบบเรียลไทม์และเปิดตัว
00:21:08 → 00:21:10 นี้ก็จะฉีดเข้าไปอัตโนมัติเลยหอมเหมือน
00:21:11 → 00:21:13 กับไว้หน้าท้องคนไข้เนี่ยะท่านี้คนที่
00:21:13 → 00:21:16 เข้ามาซอยฉีดคอยอย่าลืมแค่ต้องดูน้ำตา
00:21:16 → 00:21:19 ด้วยค่ะความอินซูลินตามปริมาณน้ำตั้งแต่
00:21:19 → 00:21:21 ไม่นี่คือเครื่องมันวะต่อมาก็ฉีด
00:21:21 → 00:21:24 อัตโนมัติเทียบเท่ากับตับอ่อนจริงๆเลยหรอ
00:21:24 → 00:21:26 มันน้ำตาลสูงปุ๊บมันฉีดอินซูลินมากหน่อย
00:21:26 → 00:21:29 แล้วก็มากหน่อยมันก็ฉีดโดนได้ตามต่อมานี่
00:21:29 → 00:21:31 คือนั้นอ่ะคนนะครับเหมือนคล้ายๆกับเราใส่
00:21:32 → 00:21:35 คนทำนี้อยู่อ่ะเฮ้ยใส่ที่รัดพุงใช่มั้ย
00:21:35 → 00:21:38 แล้วมันก็ฝากไว้มันก็ดีเทคร่างกายเราก็
00:21:38 → 00:21:41 ขาดกูก็ฉีดอินซูลินในปริมาณที่เหมาะสมใช่
00:21:41 → 00:21:44 แล้วเพิ่งแบบที่เป็นความหวังที่สุดในการ
00:21:44 → 00:21:47 หายขาดเลยคือเต็มเซลล์นะครับเต็มเซลล์แบบ
00:21:47 → 00:21:50 นี้ก็คือเราเลี้ยงเซลล์ที่แปลงร่างได้คือ
00:21:50 → 00:21:53 สเต็มเซลล์ครับเซลล์ที่ว่านั่นก็คือฟังใน
00:21:53 → 00:21:56 ตับอ่อนคนไข้ที่มีปัญหาผลิตภิกษุณีไม่ได้
00:21:56 → 00:21:59 เซลล์สเต็มเซลล์ก็จะแปลงร่างเป็นเซลล์ที่
00:21:59 → 00:22:02 ผลิตอินซูลินและร่างกายคนไข้นี่คืองานอีก
00:22:02 → 00:22:04 งานวิจัยหนึ่งที่เป็นกล้าหวังนอนแต่สาม
00:22:04 → 00:22:06 อย่างนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงวิจัยทั้ง
00:22:06 → 00:22:08 หมดเลยครับแต่ว่าตอนนี้ต้องฉีดยาไปก่อน
00:22:08 → 00:22:12 ใช่ครับโหน่ะเอาหลับนะบอกว่านะคุณผู้ฟัง
00:22:12 → 00:22:14 น่าจะได้ประโยชน์เยอะและเรื่องของเบาหวาน
00:22:14 → 00:22:18 แล้วก็เห็นทั้งการรักษาในอดีตแล้วมองการ
00:22:18 → 00:22:21 รักษาที่ในอนาคตที่กำลังวิจัยอยู่ในหัว
00:22:21 → 00:22:23 ที่ต่างกันฟ้ากับเหวเราไม่ต้องไปกินฉี่
00:22:23 → 00:22:27 ใครอีกเเล้วฮ่าๆๆวันนี้ขอบคุณคุณหรือ
00:22:27 → 00:22:29 เปล่าคุณหมอเล็กด้วยนะครับแล้วถ้าคุณผู้
00:22:29 → 00:22:32 ฟังนะมีเรื่องโรคไหนหรือว่าเรื่องเกี่ยว
00:22:32 → 00:22:35 กับทางการแพทย์เรื่องไหนที่สนใจหรือว่า
00:22:35 → 00:22:37 อยากจะแนะนำเราก็ได้นะว่าให้มันมี
00:22:37 → 00:22:40 เทคโนโลยีแบบนี้มันมีการรักษาแบบนี้บนโลก
00:22:40 → 00:22:42 นี้ด้วยเนี่ยสามารถส่งกันมาได้นะครับ 2
00:22:42 → 00:22:45 ช่องทางคือเพจของแซลมอนทอด Cash แล้วก็
00:22:45 → 00:22:48 เพจของภาพดีทวีสุขนะครับส่ง inbox มาได้
00:22:48 → 00:22:51 เลยยังไงนะถ้าเกิดเป็นประโยชน์นะเราจะเอา
00:22:51 → 00:22:54 มาออกรายการของเราแน่นอนนะครับวันนี้เรา
00:22:54 → 00:23:00 ไปก่อนข้าวสวัสดีครับสวัสดีครับสวัสดี
00:23:00 → 00:23:00 มี
00:23:00 → 00:23:03 [ปรบมือ]
00:23:03 → 00:23:05 [เพลง]
00:23:05 → 00:23:10 โรคภัยไข้ลงให้ใครรู้เลย