00:00:00 → 00:00:02 การเกิดเก๊าทเนี่ยกลไกในการเกิดเก๊าท
00:00:02 → 00:00:05 เนี่ยมันมีอยู่ 2 กลไกหลักๆเลยนะอันที่ 1
00:00:05 → 00:00:07 ก็คือร่างกายเนี่ยสร้างออกมาเยอะเนื่อง
00:00:07 → 00:00:09 จากเรากินเยอะเพราะว่าร่างกายไม่มี
00:00:09 → 00:00:12 เอนไซม์ที่จะไปย่อยสลายตรงเนี้ยครับมัน
00:00:12 → 00:00:14 เลยทำให้เกิดมีกรดยูริกเนี่ยในกระแสเลือด
00:00:14 → 00:00:17 มากขึ้นอันนี้เรื่องที่ 1 อันที่ 2 คือ
00:00:17 → 00:00:20 มันปกติมันมีเอนไซม์เมีละแต่ว่าไตเอง
00:00:20 → 00:00:23 เนี่ยไม่สามารถที่จะขับเพิ่มการขับยูริก
00:00:23 → 00:00:26 ออกมาได้ครับมันเลยทำให้มีปัญหาคือกด
00:00:26 → 00:00:28 ยูริกค้างในร่างกายเยอะพอกดยูริกค้างใน
00:00:28 → 00:00:30 ร่างกายเยอะมันเลยทำให้เกิดตกตะกรตามข้อ
00:00:30 → 00:00:33 ก็มีการปวดบวมตามข้ออืเพราะฉะนั้นการ
00:00:33 → 00:00:35 เลือกใช้ยาในการลดยูริกเนี่ยมันจะมียา
00:00:35 → 00:00:37 อยู่ 2 กลุ่มด้วยกันกลุ่มหนึ่งเนี่ยก็คือ
00:00:37 → 00:00:41 ไปเพิ่มไปไปไปทำให้การสร้างเนี่ยน้อยลง
00:00:41 → 00:00:43 น้อยลงกับกลุ่มที่ 2 เนี่ยคือไปเพิ่มการ
00:00:43 → 00:00:46 ขับที่ไตฮะเพราะงั้นการจะเลือกใช้ยาตัว
00:00:46 → 00:00:49 ไหนเนี่ยก็คืออาจจะต้องไปตรวจในปัสสาวะ 24
00:00:49 → 00:00:51 ชั่วโมงก่อนว่าปัญหาหลักๆที่เราเป็นเนี่ย
00:00:51 → 00:00:55 มันเกิดจากการสร้างเยอะหรือเกิดจากการขับ
00:00:55 → 00:00:58 น้อยน้อยเพราะฉะนั้นการตรวจปัสสาวะ 24
00:00:58 → 00:01:00 ชั่วโมงเนี่ยเพื่อดูระดับยูริกเนี่ยว่า
00:01:00 → 00:01:02 ถ้าเกิดมันขับออกมามากกว่า 800 ถ้าเกิด
00:01:02 → 00:01:05 ไอ้ระดับยูริกในเลือดสูงแล้วไตเนี่ยออกมา
00:01:05 → 00:01:07 เนี่ยยูริกในปัสสวะเนี่ยมีมากกว่า 800
00:01:07 → 00:01:10 เนี่ยแสดงว่าไตมันดีเพราะั้นปัญหาที่เกิด
00:01:10 → 00:01:14 ขึ้นคือร่างกายไม่สามารถจะไอมันมันไม่
00:01:14 → 00:01:17 สามารถทำลายแล้วทำให้กดยูริสูงได้หรือว่า
00:01:17 → 00:01:19 เเรียกว่า Over Production หรือว่ากิน
00:01:19 → 00:01:22 มากเกินไปหรือว่าไอ้ตัวเไม่สามารถไปทำลาย
00:01:22 → 00:01:26 ตรงนี้ได้ไม่มีเอนไซม์เรียกออกซิอ่าเพราะ
00:01:26 → 00:01:28 ฉะนั้นไอตรงเถ้าเกิดไม่มีตัวไปยับยั้ง
00:01:28 → 00:01:30 เงี้ยมันก็ทำให้เกิดการสร้างขึ้เยอะอัน
00:01:30 → 00:01:32 นี้อันนี้คือเรื่องที่ 1 นะเพราะฉะนั้น
00:01:32 → 00:01:35 การตรวจปสวะก็จะเลือกยาได้แล้วพอเลือกยา
00:01:35 → 00:01:37 ได้เสร็จมันก็ต้องไปเช็คค่าไตว่าไตเนี่ย
00:01:37 → 00:01:40 สภาพเป็นไงบ้างถ้าเกิดไตเนี่ยค่า GFR
00:01:40 → 00:01:43 น้อยกว่า 30 ฉว่าไตไม่ค่อยดีแต่ถ้าเกิดจะ
00:01:43 → 00:01:46 GFR อยู่ระหว่าง 30 ถ 60 80 ก็โอเคใช้
00:01:47 → 00:01:49 ได้ก็เราก็สามารถจะใช้ยาต่างๆนี้ได้แต่
00:01:49 → 00:01:51 ถ้าเกิดไตน้อยกว่า 30 อันนี้ต้องคุยกับ
00:01:51 → 00:01:53 หมอไตละไม่จะต้องปาปรับโดสยาปรับอะไรต่าง
00:01:53 → 00:01:58 ๆยังไงบ้างอือันนี้คือเพราะฉนั้นการรักษา
00:01:58 → 00:02:01 คนไข้เนี่ยที่เป็นโรคเกาเนี่ยหลักๆเลยนะ
00:02:01 → 00:02:04 อันที่ 1 เนี่ยก็คือในระยะเฉียบพันธุ์เรา
00:02:04 → 00:02:08 ก็ฉีดยาแก้ปวดให้ยาอะไรไปกินรปวดได้ใช่ขน
00:02:08 → 00:02:10 ไขก็จะหายแต่อันที่ 2 ก็เหมือนกันก็คือ
00:02:10 → 00:02:13 ต้องไปลดระดับกดยูริกเนี่ยลงมาซึ่งระดับ
00:02:13 → 00:02:15 กดยูริกที่ต้องลดลงมาเนี่ยคือถ้าเกิดปกติ
00:02:15 → 00:02:18 เนี่ยคือมันควรจะน้อยกว่า 5 นะฮะหรือว่า
00:02:18 → 00:02:20 คือค่าปกติสมมติว่าผู้ชายมากกว่า 7.5
00:02:20 → 00:02:22 งั้นถ้าเกิดสมมติว่ามันมีแปตรงนี้เยอะ
00:02:22 → 00:02:25 เนี่ยเวลาเกิดเรากินอะไรเข้าไปปุ๊บเนี่ย
00:02:25 → 00:02:27 มันก็ไม่ได้ตกตะกอนได้ง่ายเพรางั้นเพมัน
00:02:27 → 00:02:29 มีแปอยู่เยอะแต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าเกิด
00:02:29 → 00:02:30 สมมตว่าเรา
00:02:30 → 00:02:34 ป่อยระสประเรากินรๆหน่อๆมันตกตะกรตกตกเส
00:02:34 → 00:02:37 มันปวดบ่อยเพราะั้นการรักษาเยเฉียบพันก็
00:02:38 → 00:02:40 คือกินยาฉีดยารอักเสบรปวดอันที่ 2 ก็คือ
00:02:41 → 00:02:43 ต้องควบคุมกดยูริกให้น้อยกว่า 5 เพื่อไม่
00:02:43 → 00:02:46 ให้มันตกเกิดการตกตะกอได้ง่ายแลการเลือก
00:02:46 → 00:02:48 ใช้ยาก็อย่างที่ผมอธิบายไปก็คือว่าต้อง
00:02:48 → 00:02:50 เลือก 2 อย่างนะก็คือ 1 ก็คือดูว่ามัน
00:02:50 → 00:02:53 สร้างเยอะหรือว่าไขับออกน้อยแล้วก็ดูค่า
00:02:53 → 00:02:58 การทำงไครับ