00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีครับผมยมาเล่าว่าการจามของคนเรา
00:00:04 → 00:00:06 เนี่ยมันเกิดขึ้นได้อย่างไรนะครับแล้วมี
00:00:06 → 00:00:10 กลไกแบบไหนบ้างนะครับการกลั้นจามมี
00:00:10 → 00:00:12 อันตรายหรือเปล่านะครับก็เดี๋ยววันนี้จะ
00:00:12 → 00:00:14 เล่าให้ฟังเลยนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:14 → 00:00:16 แพทย์ธนีธนียวันนะครับเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:16 → 00:00:18 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะครับเชี่ยว
00:00:18 → 00:00:20 ชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะ
00:00:20 → 00:00:23 ครับสำหรับอาการจามของเรานะครับมันก็เกิด
00:00:23 → 00:00:27 จากการที่เรามีสิ่งแปลกปลอมไปกระตุ้นเส้น
00:00:28 → 00:00:30 ปสาทที่อยู่ในทางเดินหายใจของเราโดยเฉพาะ
00:00:30 → 00:00:33 บริเวณจมูกไซนัสนะครับตรงเนี้ยมันจะเป็น
00:00:33 → 00:00:36 จุดหลักเลยที่ทำให้เกิดอาการจามได้นะครับ
00:00:36 → 00:00:40 หรืออีกแบบนึงก็คือเรามีการอักเสบหรือมี
00:00:40 → 00:00:43 สารบางอย่างที่ไปกระตุ้นเส้นประสาทหรือ
00:00:43 → 00:00:45 เส้นประสาทของเราเนี่ยมันไวเกินนะครับ
00:00:45 → 00:00:47 หรือบางกรณีเส้นประสาทของเรามันไม่ได้ไว
00:00:47 → 00:00:50 เกินหรอกนะครับมันเป็นเส้นประสาทที่อยู่
00:00:50 → 00:00:54 ใต้ตัวเยื่อบุต่างๆแล้วถ้าเกิดว่าเยื่อบุ
00:00:54 → 00:00:56 ของเราเนี่ยมันเสียไปนะครับเสียไปด้วย
00:00:56 → 00:00:59 สาเหตุต่างๆเช่นเราเป็นโควิดหรือเราเกิด
00:00:59 → 00:01:02 การโดนทำลายเยื่อบุเพราะว่าเราหายใจเอา
00:01:02 → 00:01:04 สารเคมีบางอย่างเข้าไปนะครับแล้วก็ทำให้
00:01:04 → 00:01:07 บริเวณเยื่อบุมันหายไปแล้วก็เส้นประสาท
00:01:07 → 00:01:11 เนี่ยก็จะมีการติดต่อกับสิ่งแวดล้อมโดย
00:01:11 → 00:01:13 ตรงนะครับกลุ่มพวกเนี้ยก็จะเกิดอาการจาม
00:01:13 → 00:01:17 ได้ง่ายขึ้นนะครับอ่ามันไม่ได้เป็นเพราะ
00:01:17 → 00:01:19 ว่ามีคนคิดถึงเรามีคนนินทาเรานะครับเรา
00:01:19 → 00:01:21 ถึงจามนะครับอันนี้อันนั้นอาจจะไม่เกี่ยว
00:01:21 → 00:01:23 อะไรกันนะครับอาจจะเป็นการบังเอิญซะมาก
00:01:23 → 00:01:26 กว่านะครับแล้วก็พอเราจามปุ๊บเนี่ยก็จะมี
00:01:26 → 00:01:28 การขับเอาสิ่งแปลกปลอมต่างๆซึ่งติดอยู่ใน
00:01:28 → 00:01:31 โพงจมูกของเราเราหรือในไซนัสของเราเนี่ย
00:01:31 → 00:01:34 ออกไปข้างนอกนะครับอ่าหรือว่าออกไปทางปาก
00:01:34 → 00:01:36 ด้วยเป็นต้นนะครับเพราะว่ามันเป็นกลไกการ
00:01:36 → 00:01:38 ป้องกันของร่างกายอยู่แล้วไม่ให้สิ่งแปลก
00:01:38 → 00:01:41 ปลอมเหล่านั้นเข้าไปอยู่ในร่างกายนะครับ
00:01:41 → 00:01:45 เวลาที่เราจามเนี่ยนะครับมันจะมี
00:01:45 → 00:01:49 การปล่อยลมที่แรงและเร็วนะครับคล้ายๆกับ
00:01:49 → 00:01:52 การไอนั่นแหละครับแต่ว่ามันจะมีการปิดปาก
00:01:52 → 00:01:54 ก่อนแล้วก็พอจามเนี่ยจะเป็นการพ่นลมออกไป
00:01:54 → 00:01:58 แรงๆนะครับปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับถ้าเรา
00:01:58 → 00:02:02 กลั้นจากนะครับลมเหล่านั้นเนี่ยแทนที่มัน
00:02:02 → 00:02:04 จะออกไปข้างในเอ้ออกไปข้างนอกมันออกไปไม่
00:02:04 → 00:02:08 ได้นะครับมันก็เกิดอยู่ข้างในนะฮะพอมัน
00:02:08 → 00:02:11 อยู่ข้างในปุ๊บความดันจะเพิ่มขึ้นทันที
00:02:11 → 00:02:14 ความดันตรงไหนบ้างนะครับความดันในกะโหลก
00:02:14 → 00:02:16 ศีรษะเราทั้งหมดเนี่แหละครับเพิ่มนะครับ
00:02:16 → 00:02:19 ความดันในช่องอกในรงปอดตรงๆเพิ่มนะครับ
00:02:19 → 00:02:22 ถามว่ามันไม่ดียังไงนะครับถ้าจามรุนแรง
00:02:22 → 00:02:25 มากๆแล้วเรากลั้นเนี่ยนะฮะบางคนจะเกิด
00:02:25 → 00:02:29 ภาวะมีลมเข้าไปแทรกในเนื้อสมองเลยนะครับ
00:02:29 → 00:02:33 หรือที่เรียกว่านมันโมแปลว่าลมนะครับเิ
00:02:33 → 00:02:37 sepat แปลว่าหัวนะครับอ่าลมในหัวนะครับ
00:02:37 → 00:02:39 นมัสคือลมเข้าไปข้างในเลยนะครับอาจจะเกิด
00:02:39 → 00:02:42 อาการปวดหัวรุนแรงได้แล้วเวลาลมพวกนี้ถ้า
00:02:42 → 00:02:43 มันมีเยอะนะครับมันจะทำให้เกิดลิ่มเลือด
00:02:43 → 00:02:46 ไปอุดตันตามบริเวณต่างๆได้นะครับพอความ
00:02:46 → 00:02:49 ดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นบางคนก็จะมี
00:02:49 → 00:02:52 เลือดออกที่ตาขาวได้นะครับอ่าเลือดออกที่
00:02:52 → 00:02:54 ตาขาวเราจะเรียกว่าับ conjunctival hamor
00:02:55 → 00:02:58 AG นะครับสับก็ใต้นะครับ conjunctival
00:02:58 → 00:03:01 เป็นเยื่อหุ้มตานะครับ heme ก็คือเลือด
00:03:01 → 00:03:03 ออกนั่นเองนะครับ sub conal hem ก็คือ
00:03:03 → 00:03:07 เป็นเยื่อออกเอ่อเลือดออกที่ใต้เยื่อบุตา
00:03:07 → 00:03:10 สีขาวนะครับพวกเนี้ยจะเกิดง่ายโดยเฉพาะคน
00:03:10 → 00:03:13 ที่ทานยาต้านเกล็ดเลือดอยู่หรือว่าทานยา
00:03:13 → 00:03:15 ที่ละลายเลิ่มเลือดป้องกันการเกิดการแข็ง
00:03:15 → 00:03:18 ตัวของเลืเลือดพวกเนี้ยมันก็จะทำให้เลือด
00:03:18 → 00:03:20 ออกใต้ใต้ตาตรงนั้นง่ายขึ้นนะครับหรือคน
00:03:20 → 00:03:24 ที่อายุเยอะๆพวกเก็จะเป็นง่ายขึ้นนะอีก
00:03:24 → 00:03:27 อย่างนึงถ้าไอถ้าจามรุนแรงเนี่ยบางคนแล้ว
00:03:27 → 00:03:31 เรากลั้นไว้นะครับปอดแตกได้นะฮะโดยเฉพาะ
00:03:31 → 00:03:34 คนที่มีโรคปอดอยู่เก่าเช่นเป็นถุงลมโปร่ง
00:03:34 → 00:03:36 พองนะครับหรือมีซีสอยู่ในปอดอะไรอย่าง
00:03:36 → 00:03:38 เงี้ยนะครับคนที่เคยปอดแตกมาแล้วนะครับ
00:03:38 → 00:03:41 หรือปอดรั่วมาแล้วมันก็จะเป็นได้ง่ายขึ้น
00:03:41 → 00:03:44 นะครับบางคนจามปุ๊บหรือไอปุ๊บเนี่ยมันรู้
00:03:44 → 00:03:47 สึกมันมีเสียงแป๊ะอยู่ข้างในเยเราก็เจ็บ
00:03:47 → 00:03:49 หน้าอกขึ้นมาแล้วก็เหนื่อยมากๆนะพวกเนี้ย
00:03:49 → 00:03:52 สงสัยไว้ก่อนต้องรีบไปหาหมอเลยนะครับนอก
00:03:52 → 00:03:55 เหนือจากนี้ถ้าจามรุนแรงแล้วเรากลั้นไว้
00:03:55 → 00:03:58 บางครั้งมันเกิดการที่มันมีลมแทรกเข้าไป
00:03:58 → 00:04:01 ในบริเวณเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายนะครับ
00:04:01 → 00:04:03 ทำให้เกิดการปวดการเจ็บบริเวณเนื้อเยื่อ
00:04:04 → 00:04:06 ต่างๆโดยเฉพาะตรงบริเวณคอตรงบริเวณหน้า
00:04:06 → 00:04:08 พวกเนี้ยได้นะครับมันเกิดขึ้นได้ยากแต่
00:04:08 → 00:04:10 มันก็เกิดขึ้นได้นะครับตรงเนี้ยก็เป็น
00:04:10 → 00:04:14 อันตรายของการที่เรากั้นจามนะครับอ่าที
00:04:14 → 00:04:17 นี้ในเมื่อผมบอกว่าการจามันเกิดจากการที่
00:04:17 → 00:04:19 เราได้รับสิ่งต่างๆที่กระตุ้นเข้าไปใน
00:04:20 → 00:04:22 ร่างกายนะครับสิ่งต่างๆที่กระตุ้นในแต่ละ
00:04:22 → 00:04:24 คนจะไม่เหมือนกันนะครับเราจะสังเกตว่าบาง
00:04:24 → 00:04:28 คนแพ้เกสรบางคนแพ้ไรฝุ่นบางคนไม่แพ้อะไร
00:04:28 → 00:04:30 เลยบางคนรู้สึกว่าเวลาที่อากาศมันเปลี่ยน
00:04:30 → 00:04:33 หรือความชื้นมันเปลี่ยนเราก็จะมีการจามละ
00:04:33 → 00:04:35 นะครับนะครับพวกเนี้ยสาเหตุมันแตกต่างกัน
00:04:35 → 00:04:39 ไปเลยนะครับเช่นถ้าเราเกิดแพ้อะไรสัก
00:04:39 → 00:04:40 อย่างแล้วเราหายใจเอาสิ่งนั้นเข้าไปเราก็
00:04:40 → 00:04:43 จะจามขึ้นมานะครับมีน้ำมูมีน้ำหูน้ำตา
00:04:43 → 00:04:45 เยอะนะครับการภูมิแพ้เนี่จะมีอาการคัน
00:04:45 → 00:04:48 ด้วยเป็นหลักนะครับมักจะเป็นน้ำมูกใสๆมี
00:04:48 → 00:04:50 อาการจามบ่อยๆจามเป็นชุดเลยนะครับแล้วก็
00:04:50 → 00:04:53 คันตาได้นะครับคันบริเวณจมูกคันบริเวณ
00:04:53 → 00:04:55 หน้านะครับเราจะเห็นบางคนเนี่ยคือเอามือ
00:04:55 → 00:04:58 ไถๆๆๆอย่างเงี้ยตลอดเพราะว่ามันคันนะครับ
00:04:58 → 00:05:00 บางคนในเด็กนะฮะโดยเฉพาะในเด็กเนี่ยจะ
00:05:00 → 00:05:03 เห็นตรงเนี้ยจมูกเป็นร่องร่องเป็นเส้น
00:05:03 → 00:05:07 เส้นตรงๆนะครับอ่าหรือที่ทางภาษาทางการ
00:05:07 → 00:05:08 แพทย์เราก็จะเรียกท้างๆบว่า nasal ครีส
00:05:08 → 00:05:12 หรือว่าบางคนทำ nasal สูดสูดก็เขาจะทำแบบ
00:05:12 → 00:05:15 นี้นะครับไถจมูกขึ้นไปด้านบนนะฮะมันจะทำ
00:05:15 → 00:05:17 ให้มันเป็นเรอยอยู่ตรงเนี้ยทำบ่อยๆเพราะ
00:05:17 → 00:05:19 ว่ามันคันนะฮะก็จะมีอาการพวกนั้นได้นะ
00:05:19 → 00:05:22 ครับบางคนแพ้เยอะๆก็จะมีอาการตาบวมตรง
00:05:22 → 00:05:25 เนี้ยก็จะบวมดำเลยนะครับในเด็กเนี่ยจะไม่
00:05:25 → 00:05:27 ใช่เด็กเอดนอนนะครับเด็กเ้าเป็นภูมิแพ้นะ
00:05:27 → 00:05:30 ฮะก็จะมีอาการพวกนั้นขึ้นมาได้นะครับอ่า
00:05:30 → 00:05:32 ตาเหมือนแพนด้านะครับดำๆคล้ำๆน่ะนะเก็
00:05:32 → 00:05:34 ต้องสงสัยว่าเอ้มีภูมิแพ้อะไรร่มด้วยมยนะ
00:05:35 → 00:05:37 ครับคันหน้าคันตาอยู่บ่อยๆบางคนเไม่ไม่
00:05:37 → 00:05:39 เกาไม่อะไรอย่างเงี้ยนะครับเ้าก็จะใช้
00:05:39 → 00:05:40 วิธีอย่าง
00:05:40 → 00:05:44 เงี้ยเหมือนพวกหนูเวลาที่ที่มันมันกิน
00:05:44 → 00:05:47 อะไรสักอย่างนะครับหนูมันชอบงี้ฮะคือมัน
00:05:47 → 00:05:49 คันนะครับเราทำอย่างเงี้ยมันจะมันอาจจะ
00:05:49 → 00:05:51 ช่วยทำให้เค้าหายคันได้มากขึ้นแต่ถ้าคน
00:05:51 → 00:05:53 ไหนที่เราเห็นเค้าทำบ่อยๆเนี่ยก็ไปดูก่อน
00:05:53 → 00:05:55 ว่าเคมีภูมิแพ้อะไรหรือเปล่านะครับเพราะ
00:05:55 → 00:05:57 ว่าพวกนั้นเนี่ยจำเป็นจะต้องไปรักษานะ
00:05:57 → 00:05:58 ครับภูมิแพ้เนี่ยดีที่สุดคือหลีกเลี่ยง
00:05:59 → 00:06:01 สิ่งที่แพ้นะนะครับไม่ฉะนั้นเนี่ยก็จะ
00:06:01 → 00:06:03 เกิดการจามการอะไรอย่างเงี้ยออกมาบ่อยๆ
00:06:03 → 00:06:06 ได้นะครับแล้วก็น้ำมูกอะไรคันอะไรพวก
00:06:06 → 00:06:08 เนี้ยภูมิแพ้เวลามันเป็นเยอะเยอะเนี่ยมัน
00:06:08 → 00:06:09 บางคนมันจะเป็นเยอะแล้วเป็นเยอะขึ้น
00:06:09 → 00:06:11 เรื่อยๆนะครับมันจะไม่ได้เป็นแล้วก็หายไป
00:06:11 → 00:06:14 เลยนะครับยิ่งเรื้อรังเท่าไหร่มันยิ่งคง
00:06:14 → 00:06:16 ที่ยาวนานเท่านั้นนะครับดังนั้นควรจะไปหา
00:06:16 → 00:06:18 สาเหตุว่าแพ้อะไรแล้วก็หลีกเลี่ยงรวมทั้ง
00:06:18 → 00:06:21 รักษาด้วยตั้งแต่ต้นจะดีที่สุดนะครับบาง
00:06:21 → 00:06:24 คนผมเห็นเห็นกังวลว่าเอ๊ะเรากินยาไปนานๆ
00:06:24 → 00:06:27 พ่นยาไปนานๆพ่นยาเข้าจมูกนานๆเนี่ยจะเป็น
00:06:27 → 00:06:30 อันตรายหรือเปล่านะครับต้องต้องบอกอย่าง
00:06:30 → 00:06:32 นี้ครับการที่ท่านไม่รักษาเนี่ยอันตราย
00:06:32 → 00:06:35 กว่าการใช้ยานะครับเราจำเป็นจะต้องรักษา
00:06:35 → 00:06:37 นะครับพวกเนี้ยถ้าจำเป็นจะต้องใช้ยาก็
00:06:37 → 00:06:39 ต้องใช้ยาแล้วต้องใช้ให้สม่ำเสมอด้วยนะ
00:06:39 → 00:06:43 ครับคีย์เวิร์ดคือการใช้ให้สม่ำเสมอไม่
00:06:43 → 00:06:46 ใช่ว่าใช้ๆหยุดๆนะครับอ่าใช้ใช้หยุดๆ
00:06:46 → 00:06:48 เนี่ยมันจะทำให้โรคเนี่ยควบคุมได้ยากขึ้น
00:06:48 → 00:06:50 นะครับทั่วไปเราต้องใช้ต่อเนื่องก่อนแล้ว
00:06:50 → 00:06:52 พออาการเราเริ่มหายไปแล้วคุมได้ดีขึ้น
00:06:52 → 00:06:54 แล้วเราค่อยลดยาอันเนี้ยจึงเป็นวิธีการ
00:06:54 → 00:06:56 แก้ไขที่ถูกต้องไม่ใช่ว่าเดี๋ยวกินเดี๋ยว
00:06:56 → 00:06:59 หยุดเดี๋ยวกินเดี๋ยวหยุดนะครับอ่าทีนี้
00:06:59 → 00:07:01 นี้นอกเหนือจากนี้เนี่ยบางคนเกิดจากการ
00:07:01 → 00:07:03 ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้นะครับ
00:07:03 → 00:07:06 เช่นว่าเดี๋ยวร้อนไปเย็นก็มีอาการนะครับ
00:07:06 → 00:07:08 ส่วนมากพวกเนี้ยมักจะมาด้วยอาการคัดจมูก
00:07:09 → 00:07:11 ซะมากกว่าไม่ใช่อาการจามนะครับแต่บางคนก็
00:07:11 → 00:07:14 มีอาการจามได้นะครับอ่าอาการจามพวกเนี้ย
00:07:14 → 00:07:18 มันเป็นเพราะว่าหลอดเลือดที่ควบคุมบริเวณ
00:07:18 → 00:07:20 ในโปรงจมูกของเราเนี่ยมีการผิดปกตินะครับ
00:07:21 → 00:07:23 มันขยายตัวในเวลาที่มันไม่ควรจะขยายมันหด
00:07:23 → 00:07:25 ตัวในเวลาที่มันไม่ควรจะหดเวลามันขยายตัว
00:07:26 → 00:07:28 เนี่ยเอาละน้ำมูกจะมาะจมูกข้างนั้นจะตัน
00:07:28 → 00:07:32 นะครับอ่าพวกนี้เป็นต้นนะถ้าคนที่มาต่าง
00:07:32 → 00:07:34 ประเทศที่หนาวๆเนี่ยจะเห็นตรงนี้ได้บ่อย
00:07:34 → 00:07:36 นะครับคนที่จมูกปกติก็จะมีอาการพวกนี้
00:07:36 → 00:07:39 เหมือนกันนะฮะเราจะสังเกตได้โดยที่ว่าเรา
00:07:39 → 00:07:41 ออกไปข้างนอกหนาวๆนะครับหนาวมากๆเลยพอ
00:07:41 → 00:07:44 เข้ามาในห้องที่มันอุ่นๆปุ๊บเนี่ยน้ำมูก
00:07:44 → 00:07:47 มาเลยนะครับนมันเกิดอะไรขึ้นเวลาที่เราไป
00:07:47 → 00:07:49 ที่หนาวๆเนี่ยพวกเส้นเลือดพวกนี้มันจะหด
00:07:49 → 00:07:51 ตัวนะครับเข้ามาในที่อุ่นๆเส้นเลือดมันจะ
00:07:51 → 00:07:54 ขยายตัวออกมาพอมันขยายตัวเสร็จปุ๊บเอาละ
00:07:54 → 00:07:55 นะครับเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นได้ดีขึ้น
00:07:55 → 00:07:58 น้ำมูกน้ำหูน้ำตาอะไรทุกี้มาหมดเลยนะครับ
00:07:58 → 00:08:00 บางคนก็จะมีจามพ่วงขึ้นมาด้วยนะครับอ่า
00:08:01 → 00:08:03 ตัวเนี้ยถ้ามันเป็นแบบเฉพาะตอนเป็นหน้า
00:08:03 → 00:08:05 หนาวว่าไม่ต้องทำอะไรนะครับไม่ต้องยุ่ง
00:08:05 → 00:08:07 อะไรกับมันมันจะดีขึ้นมันเองนะครับแต่ถ้า
00:08:07 → 00:08:11 เกิดว่าเอ่อไปอยู่ที่ประเทศไทยอากาศ
00:08:11 → 00:08:14 เปลี่ยนนิดๆหน่อยๆเอาลคัดจมูกมากเลยจาม
00:08:14 → 00:08:16 พวกนี้อาจจะต้องไปใช้ยากลุ่มยาพ่นจมูกบาง
00:08:16 → 00:08:19 ชนิดนะครับที่สามารถช่วยพวกนี้ได้นะฮะอ่า
00:08:20 → 00:08:23 บางคนถามว่าเอ๊ะทำไมกินเผ็ดกินรสเปรี้ยว
00:08:23 → 00:08:25 แล้วบางมีเกิดจามขึ้นมาได้มันมันรู้สึก
00:08:25 → 00:08:28 เหมือนคันคอบางคนก็จะไอแทนบางคนก็จะจาม
00:08:28 → 00:08:30 แทนนะครับบางคนก็จะรู้สึกว่าน้ำตาไหลได้
00:08:30 → 00:08:32 น้ำมูกไหลนี่ก็เป็นเหตุเดียวกันเหมือนกัน
00:08:32 → 00:08:34 นะครับมันไปยุ่งเกี่ยวข้องกับเส้นประสาท
00:08:34 → 00:08:36 พวกเแหละครับแล้วก็เส้นประสาทบางคนมันมี
00:08:36 → 00:08:39 การเชื่อมตัวที่ผิดปกติกับต่อมน้ำตาต่อม
00:08:39 → 00:08:41 น้ำลายอะไรอย่างเงี้ยนะครับก็จะทำให้เรา
00:08:41 → 00:08:44 มีอาการน้ำหูน้ำตาไหลได้นะครับอจริงๆน้ำ
00:08:44 → 00:08:46 หูไม่ไม่ควรจะไหลนำเราไม่มีน้ำหูนะครับมี
00:08:46 → 00:08:48 แต่น้ำตาอย่างเดียวนะครับน้ำหูนี่ถ้ามัน
00:08:48 → 00:08:50 ออกถ้ามีน้ำออกมาจากหูเนี่ยอันนี้ถือว่า
00:08:50 → 00:08:54 ผิดปกติที่ตัวหูด้านอ่าหูข้างในแล้วนะ
00:08:54 → 00:08:56 ครับตรงนั้นคงต้องไปตรวจแล้วนะครับเราไม่
00:08:56 → 00:08:58 ควรจะมีน้ำอะไรออกมาจากหูเลยนะครับขี้หู
00:08:58 → 00:09:00 ก็มีขี้หูนั่นแหละครับครับแต่มันไม่ควรจะ
00:09:00 → 00:09:04 มีออกมาได้นะฮะอ่าทีนี้เรื่องของการจามก็
00:09:04 → 00:09:06 จะมีหลายๆประเภทอย่างที่ผมบอกไปเมื่อ
00:09:06 → 00:09:09 ตะกี้นี้นะครับไม่ควรจะกลั้นการจามนะครับ
00:09:09 → 00:09:12 แต่ว่าควรจะปิดปากนิดนึงเวลาถ้าท่านจะจาม
00:09:12 → 00:09:14 เนี่ยท่านจามใส่ข้อศอกตรงนี้ได้หรือว่าหา
00:09:14 → 00:09:18 ทิชชู่หาอะไรมาจามเข้าไปข้างในนะครับอย่า
00:09:18 → 00:09:21 ไปจามอย่างเงี้นะครับถ้าแน่นอนว่าถ้าเกิด
00:09:21 → 00:09:23 ในช่วงยุคโควิดใครจามแล้วก็ฟุ้งออกมา
00:09:23 → 00:09:25 อย่างเงี้ยนะครับแน่นอนว่าทุกๆคนจะต้อง
00:09:25 → 00:09:26 หนีท่านแน่ๆนะครับเพราะว่าเค้าก็คิดว่า
00:09:27 → 00:09:28 ท่านเป็นโควิดอยู่หรือเปล่านะครับคนที่
00:09:28 → 00:09:31 ไม่สบายเป็นหวัดอยู่เเนาก็จะจามได้เพราะ
00:09:31 → 00:09:33 ว่าพวกเชื้อไวรัสเชื้ออะไรพวกเมันจะไป
00:09:33 → 00:09:35 ยุ่งเกี่ยวข้องกับเส้นประสาทบริเวณที่
00:09:35 → 00:09:38 อยู่ในจมูกมันจะเกิดแผลเล็กๆเล็กๆขึ้นมา
00:09:38 → 00:09:39 ที่เรามองไม่เห็นทำให้เส้นประสาทพวกนี้
00:09:39 → 00:09:42 มันไวมากขึ้นนะครับมันก็พยายามจะจามออกมา
00:09:42 → 00:09:43 นะครับอย่าไปกลั้นมันทีเดียวเลยนะครับถ้า
00:09:43 → 00:09:45 กลั้นแล้วมันระเบิดอยู่ในหัวของท่านเนี่ย
00:09:45 → 00:09:48 อาจจะเป็นปัญหาต่างๆที่ผมเคยเล่าไปเมื่อ
00:09:48 → 00:09:50 ตะกี้ได้นะครับโอเควันนี้ก็เล่าให้ฟัง
00:09:51 → 00:09:55 เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ