00:00:00 → 00:00:02 คุณกำลังเผชิญกับภาวะเสี่ยงลิ่มเลือด
00:00:02 → 00:00:06 อุดตันเช่นไขมันในเลือดสูงความดันโลหิต
00:00:06 → 00:00:09 สูงเบาหวานหรือกำลังทานยาละลายลิ่มเลือด
00:00:09 → 00:00:10 อยู่หรือเปล่าคะ
00:00:10 → 00:00:14 >> ถ้าใช่คลิปนี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้และ
00:00:14 → 00:00:18 ห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะวันนี้สุขภาพสนทนาจะ
00:00:18 → 00:00:21 พาคุณไปเจาะลึกสัญญาณเตือนอันตรายของลิ่ม
00:00:21 → 00:00:24 เลือดในส่วนต่างๆของร่างกายที่หลายคนอาจ
00:00:24 → 00:00:25 มองข้ามไป
00:00:25 → 00:00:29 >> ฟังจบแล้วคุณจะรู้ทันสังเกตได้และปกป้อม
00:00:29 → 00:00:33 ตัวเองและคนที่คุณรักให้ปลอดภัยจากภาวะ
00:00:33 → 00:00:35 คุกคามนี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ
00:00:35 → 00:00:38 >> สร้างสุขภาพดีเริ่มต้นจากความเข้าใจ
00:00:38 → 00:00:41 >> ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกสัญญาณเตือนต่างๆ
00:00:41 → 00:00:44 ถ้าคุณไม่อยากพลาดเรื่องสุขภาพดีๆที่จะ
00:00:44 → 00:00:47 ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นอย่าลืมกดติดตาม
00:00:47 → 00:00:49 ช่องสุขภาพสนทนาของเราไว้นะคะ
00:00:49 → 00:00:52 >> ในแต่ละวันร่างกายของเราทำงานหนักมากใน
00:00:52 → 00:00:55 การรักษาความสมดุลบางทีก็ดูเหมือนว่าทุก
00:00:55 → 00:00:58 อย่างปกติใช่ไหมครับคุณเกตแต่หารู้ไม่ว่า
00:00:58 → 00:01:00 ภัยเงียบอย่างลิ่มเลือดที่มีประโยชน์ต่อ
00:01:00 → 00:01:03 ร่างกายของเราเนี่ยก็อาจกลายมาคุกคามเรา
00:01:03 → 00:01:04 ได้เหมือนกันนะครับ
00:01:04 → 00:01:07 >> ใช่เลยค่ะคุณกันและหลายครั้งที่เราไม่รู้
00:01:07 → 00:01:10 ด้วยซ้ำว่ามันกำลังเกิดขึ้นจนกว่าจะมี
00:01:10 → 00:01:13 อาการที่ชัดเจนมากๆแล้ววันนี้ล่ะค่ะเราจะ
00:01:13 → 00:01:16 มาทำความเข้าใจมันแบบง่ายๆไม่ซับซ้อนแต่
00:01:16 → 00:01:19 ได้ประโยชน์เต็มๆกันค่ะว่าเจ้าลิ่มเลือด
00:01:19 → 00:01:22 คืออะไรและมีสัญญาณอะไรบ้างที่เราต้องรีบ
00:01:23 → 00:01:25 สังเกตเพื่อให้ก้าวทันภัยเงียบนี้ได้ทัน
00:01:25 → 00:01:28 ท่วงทีค่ะคุณกันคะหลายคนอาจจะเคยได้ยิน
00:01:28 → 00:01:32 ยินคำว่าลิ่มเลือดบ่อยๆนะคะแต่เกดสงสัย
00:01:32 → 00:01:35 ค่ะว่ามันคืออะไรกันแน่แล้วทำไมเราถึง
00:01:35 → 00:01:38 ต้องให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนี้คะ
00:01:38 → 00:01:40 >> เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับคุณเกตคือจริงๆ
00:01:40 → 00:01:43 แล้วเนี่ยเจ้าลิ่มเลือดหรือที่ภาษาบ้านๆ
00:01:43 → 00:01:46 เราก็เรียกว่าก้อนเลือดแข็งๆเนี่ยมันมี
00:01:46 → 00:01:48 ประโยชน์มากเลยนะครับลองนึกภาพเวลาเราหก
00:01:48 → 00:01:52 ล้มหัวเข่าถลอกเลือดไหลไม่หยุดสิครับถ้า
00:01:52 → 00:01:54 ไม่มีลิ่มเลือดมาช่วยอุดรอยแผลเราคงเสีย
00:01:54 → 00:01:55 เลือดแย่เลย
00:01:56 → 00:01:58 >> อ๋ออย่างนี้นี่เองที่เวลาเป็นแผลแล้ว
00:01:58 → 00:02:01 เลือดหยุดได้ก็เพราะมีลิ่มเลือดมาช่วยนี่
00:02:01 → 00:02:01 เอง
00:02:01 → 00:02:04 >> ใช่เลยครับหน้าที่หลักของมันก็คือการแข็ง
00:02:04 → 00:02:07 ตัวเพื่อไปอุดรอยรั่วของหลอดเลือดป้องกัน
00:02:07 → 00:02:10 ไม่ให้เลือดไหลออกมากเกินไปแต่ปัญหาจะ
00:02:10 → 00:02:12 เกิดก็ต่อเมื่อเจ้าลิ่มเลือดพวกนี้มันดัน
00:02:13 → 00:02:15 ไปก่อตัวในจุดที่ไม่ควรอย่างในหลอดเลือด
00:02:15 → 00:02:16 ของเราเองครับ
00:02:16 → 00:02:19 >> หมายความว่ามันไปอุดตันในเส้นเลือดข้างใน
00:02:19 → 00:02:22 ร่างกายแทนที่จะไปอุดแผลข้างนอกใช่มั้ยคะ
00:02:22 → 00:02:24 >> ถูกต้องครับคุณเกตมันก็เหมือนกับก้อน
00:02:24 → 00:02:27 อุดตันที่ไปขวางทางเดินของเลือดทำให้
00:02:27 → 00:02:29 เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะ
00:02:29 → 00:02:32 ต่างๆได้ตามปกติพออวัยวะส่วนนั้นขาด
00:02:32 → 00:02:35 ออกซิเจนและสารอาหารมันก็จะเริ่มเสียหาย
00:02:35 → 00:02:38 หรือหยุดทำงานได้เลยครับซึ่งนี่แหละครับ
00:02:38 → 00:02:40 คืออันตรายถึงชีวิตได้
00:02:40 → 00:02:42 >> ฟังแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ยแสดง
00:02:42 → 00:02:45 ว่าการรู้เท่าทันสัญญาณเตือนของลิ่มเลือด
00:02:45 → 00:02:48 เป็นยังไงจึงสำคัญมากๆเลยใช่มั้ยคะเพราะ
00:02:48 → 00:02:50 มันอาจช่วยชีวิตเราได้เลยนะ
00:02:50 → 00:02:53 >> สำคัญมากครับคุณเกตวันนี้เราจะพาไปเจาะ
00:02:53 → 00:02:56 ลึกอาการเตือนในแต่ละส่วนที่สำคัญกันครับ
00:02:56 → 00:02:58 ว่าถ้ามันไปอุดตันที่อวัยอวะไหนจะมี
00:02:58 → 00:03:01 สัญญาณอะไรที่เราต้องสังเกตเป็นพิเศษบ้าง
00:03:01 → 00:03:03 เพื่อที่เราจะได้รีบไปหาคุณหมอได้ทันท่วง
00:03:04 → 00:03:04 ทีครับ
00:03:04 → 00:03:07 >> เอาล่ะค่ะคุณกันมาเริ่มกันที่จุดแรกที่
00:03:07 → 00:03:10 หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีก่อนเลยนะคะนั่น
00:03:10 → 00:03:14 ก็คือลิ่มเลือดในขาหรือแขนค่ะหรือที่ภาษา
00:03:14 → 00:03:17 ทางการแพทย์เรียกว่า Deep Win Trombosis
00:03:17 → 00:03:19 หรือ DVT นั่นเองค่ะ
00:03:19 → 00:03:22 >> ครับคุณเกตภาวะ DVT นี่เป็นอะไรที่พบได้
00:03:22 → 00:03:24 บ่อยเลยนะครับโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้อง
00:03:24 → 00:03:27 นั่งนิ่งๆนานๆอย่างเช่นเดินทางไกล
00:03:27 → 00:03:30 หรือคนที่เพิ่งผ่าตัดมาอาการที่สังเกตได้
00:03:30 → 00:03:32 ง่ายๆเลยคืออะไรบ้างครับคุณเกด
00:03:32 → 00:03:35 >> อาการที่ชัดเจนเลยนะคะคุณกันอันดับแรกเลย
00:03:36 → 00:03:39 คืออาการปวดขาหรือน่องข้างใดข้างหนึ่งค่ะ
00:03:39 → 00:03:44 ที่สำคัญคือมันมักจะปวดตึงปวดหน่วงเหมือน
00:03:44 → 00:03:47 มีอะไรมาบีบหรือปวดแบบตื้อๆค่ะ
00:03:47 → 00:03:49 >> คือปวดขาข้างเดียวใช่ไหมั้ครับไม่ใช่ปวด
00:03:49 → 00:03:51 ทั้ง 2 ข้างเหมือนเวลาเราเดินเยอะๆ
00:03:51 → 00:03:55 >> ใช่ค่ะส่วนใหญ่จะเป็นข้างใดข้างหนึ่งนะคะ
00:03:55 → 00:03:58 และจะตามมาด้วยอาการบวมค่ะขาข้างนั้นจะ
00:03:58 → 00:04:02 บวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดบางคนอาจจะบวมจน
00:04:02 → 00:04:04 เห็นความแตกต่างกับขาอีกข้างหนึ่งเลยค่ะ
00:04:04 → 00:04:08 แล้วก็อาจจะมีอาการแดงๆร้อนๆบริเวณที่บวม
00:04:08 → 00:04:09 ด้วยนะคะ
00:04:09 → 00:04:11 >> เหมือนเวลาอักเสบเลยสิครับ
00:04:11 → 00:04:14 >> คล้ายๆกันค่ะบางคนอาจจะรู้สึกว่าผิว
00:04:14 → 00:04:17 บริเวณนั้นอุ่นกว่าปกติด้วยแล้วก็อาจจะ
00:04:17 → 00:04:21 เห็นว่าผิวหนังเปลี่ยนสีออกคล้ำๆหรือเป็น
00:04:21 → 00:04:25 จ้ำๆนะคะที่สำคัญคือถ้าลองกดลงไปตรง
00:04:25 → 00:04:28 บริเวณที่ปวดหรือบวมจะรู้สึกเจ็บมากเป็น
00:04:28 → 00:04:31 พิเศษค่ะบางทีอาจจะเห็นเส้นเลือดปูดขึ้น
00:04:31 → 00:04:32 ด้วยได้นะคะ
00:04:32 → 00:04:35 >> ฟังดูแล้วก็น่ากลัวนะครับถ้าใครมีอาการ
00:04:35 → 00:04:37 แบบนี้เนี่ยต้องรีบสังเกตตัวเองแล้วนะ
00:04:37 → 00:04:37 ครับ
00:04:37 → 00:04:40 >> ใช่ค่ะอย่าปล่อยทิ้งไว้นะคะเพราะถ้าลิ่ม
00:04:40 → 00:04:43 เลือดที่ขาหลุดขึ้นไปอุดที่ปอดนี่อันตราย
00:04:43 → 00:04:46 มากเลยค่ะซึ่งเป็นประเด็นถัดไปที่เราจะ
00:04:46 → 00:04:47 คุยกันเลยค่ะ
00:04:47 → 00:04:49 >> คุณเกดครับเมื่อกี้เราพูดถึงลิ่มเลือดที่
00:04:49 → 00:04:52 ขาไปแล้วทีนี้ถ้าเจ้าลิ่มเลือดที่ว่า
00:04:52 → 00:04:55 เนี่ยมันเกิดหลุดลอยตามกระแสเลือดขึ้นไป
00:04:55 → 00:04:58 ที่ปอดปอดล่ะครับจะมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอก
00:04:58 → 00:05:00 ได้บ้างครับเพราะดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องคอ
00:05:00 → 00:05:02 ขาดบาดตายเลยนะเนี่ย
00:05:02 → 00:05:05 >> ใช่เลยค่ะคุณกันภาวะลิ่มเลือดในปอดหรือ
00:05:05 → 00:05:08 pulmonaryึเนี่ยถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการ
00:05:08 → 00:05:11 แพทย์เลยนะคะเพราะอันตรายถึงชีวิตได้เลย
00:05:11 → 00:05:14 อาการที่สำคัญและต้องรีบสังเกตคืออาการ
00:05:14 → 00:05:17 หายใจหอบเหนื่อยเฉียบพลันค่ะคืออยู่ดีๆก็
00:05:17 → 00:05:20 เหนื่อยขึ้นมาทันทีไม่ว่าจะตอนทำกิจกรรม
00:05:20 → 00:05:23 เบาๆหรือแม้กระทั่งตอนพักอยู่เฉยๆก็ตาม
00:05:23 → 00:05:26 >> อืมคือไม่ได้ออกกำลังกายไม่ได้ทำอะไรหนัก
00:05:26 → 00:05:29 เลยแต่อยู่ๆก็เหนื่อยหอบขึ้นมา
00:05:29 → 00:05:31 >> ถูกต้องเลยค่ะคุณกันและอีกอาการที่สำคัญ
00:05:32 → 00:05:34 คืออาการเจ็บหน้าอกค่ะซึ่งมักจะเจ็บมาก
00:05:34 → 00:05:38 ขึ้นเวลาที่เราหายใจเข้าลึกๆหรือเวลาไอ
00:05:38 → 00:05:41 บางคนอาจจะเจ็บแปลบๆหรือเจ็บแบบตื้อๆก็
00:05:41 → 00:05:41 ได้ค่ะ
00:05:41 → 00:05:43 >> แล้วมีอาการอื่นร่วมด้วยมั้ครับ
00:05:43 → 00:05:47 >> มีค่ะบางคนอาจจะมีอาการไอด้วยนะคะอาจจะ
00:05:47 → 00:05:50 เป็นไอแห้งหรือบางครั้งอาจมีเสมหะป่น
00:05:50 → 00:05:53 เลือดเล็กน้อยนอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการหัว
00:05:53 → 00:05:56 ใจเต้นเร็วผิ่นปกติหรือรู้สึกใจสั่นได้
00:05:56 → 00:05:59 ด้วยค่ะบางรายอาจจะมีอาการวิงเวียนคล้าย
00:05:59 → 00:06:01 จะเป็นลมหรือหน้ามืดได้ด้วยนะคะถ้ามี
00:06:01 → 00:06:04 อาการเหล่านี้เนี่ยไม่ต้องลังเลเลยค่ะรีบ
00:06:04 → 00:06:06 ไปโรงพยาบาลทันทีเลยนะคะ
00:06:06 → 00:06:08 >> สัญญาณนี้ต้องจำให้ขึ้นใจเลยนะครับคุณผู้
00:06:08 → 00:06:11 ฟังเพราะมันคือเรื่องความเป็นความตายได้
00:06:11 → 00:06:11 เลย
00:06:11 → 00:06:14 >> ถัดมาที่อวัยวะสำคัญอีกส่วนนะคะคุณกัน
00:06:14 → 00:06:17 นั่นก็คือสมองค่ะถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันที่
00:06:17 → 00:06:20 สมองนี่ก็อันตรายถึงขั้นพิการหรือเสีย
00:06:20 → 00:06:22 ชีวิตได้เลยนะคะโดยเฉพาะถ้าเราไปถึงโรง
00:06:23 → 00:06:26 พยาบาลช้าค่ะสัญญาณเตือนของลิ่มเลือดใน
00:06:26 → 00:06:30 สมองเนี่ยเรามีหลักการง่ายๆที่เรียกว่า f
00:06:30 → 00:06:33 ค่ะเป็นตัวย่อที่เราควรจำให้ขึ้นใจเลยค่ะ
00:06:33 → 00:06:37 >> F นี่คืออะไรครับคุณเกดฟังดูน่าสนใจนะ
00:06:37 → 00:06:39 ครับเหมือนเป็นโค้ดลับช่วยชีวิตเลยนะ
00:06:39 → 00:06:39 เนี่ย
00:06:39 → 00:06:42 >> ใช่แล้วค่ะคุณกันตัวแรกคือ F มาจาก Face
00:06:42 → 00:06:46 drooping ค่ะหมายถึงใบหน้าอ่อนแรงลงหรือ
00:06:46 → 00:06:49 มีอาการปากเบี้ยวสังเกตได้จากการพยายาม
00:06:49 → 00:06:52 ยิ้มหรือพยายามพูดแล้วมุมปากข้างนึงตก
00:06:52 → 00:06:55 หรือยิ้มได้ไม่เท่ากันค่ะลองให้ผู้ป่วย
00:06:55 → 00:06:56 ยิ้มดูนะคะ
00:06:56 → 00:06:59 >> อ๋อเหมือนที่เราเคยเห็นในข่าวเลยนะครับ
00:06:59 → 00:07:01 ที่อยู่ดีๆมุมปากก็ตกลงไปข้างนึงใช่เลย
00:07:01 → 00:07:05 ค่ะส่วน A มาจากอารm weakness คือแขนหรือ
00:07:05 → 00:07:08 ขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงเฉียบพลันอยู่ดี
00:07:08 → 00:07:11 ๆก็ยกไม่ขึ้นไม่มีแรงหรือรู้สึกฉ่าครึ่ง
00:07:11 → 00:07:14 ซีกหรือไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้
00:07:14 → 00:07:17 ง่ายๆเช่นยกของขึ้นสูงๆค่ะ
00:07:17 → 00:07:18 >> แล้ว S ล่ะครับ
00:07:18 → 00:07:21 >> S คือ Speech difficulty ค่ะคือมีปัญหา
00:07:21 → 00:07:25 ด้านการพูดพูดลำบากพูดไม่ชัดพูดแล้วลิ้น
00:07:25 → 00:07:28 แข็งหรือไม่สามารถพูดตามที่เราสั่งได้เลย
00:07:28 → 00:07:31 บางคนอาจจะสับสนไม่เข้าใจคำพูดที่เราถาม
00:07:31 → 00:07:34 ด้วยนะคะลองให้ผู้ป่วยพูดประโยคง่ายๆเช่น
00:07:34 → 00:07:36 วันนี้อากาศดีดูค่ะ
00:07:36 → 00:07:39 >> ฟังดูแล้วอาการค่อนข้างชัดเจนและน่าตกใจ
00:07:39 → 00:07:41 เลยนะครับถ้าเจอแบบนี้
00:07:41 → 00:07:44 >> ใช่ค่ะและตัวสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ T
00:07:44 → 00:07:47 ค่ะ T มาจาก Time to Call emergency
00:07:47 → 00:07:50 คือเวลาสำคัญที่สุดค่ะถ้าคุณสังเกตเห็น
00:07:50 → 00:07:54 อาการใดๆที่กล่าวมาให้รีบโถแจ้ง 1669
00:07:54 → 00:07:56 หรือพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
00:07:56 → 00:08:00 ทันทีเพราะทุกนาทีมีค่าในการรักษาโรคหลอด
00:08:00 → 00:08:03 เลือดสมองยิ่งส่งถึงมือแพทย์เร็วเท่าไหร่
00:08:03 → 00:08:06 ยิ่งลดความเสียหายและเพิ่มโอกาสในการฟื้น
00:08:06 → 00:08:09 ตัวได้มากเท่านั้นค่ะอย่ารอให้ช้าอย่ารอ
00:08:09 → 00:08:12 ให้ใครมารับรีบไปทันทีเลยนะคะคุณผู้ฟัง
00:08:12 → 00:08:15 >> โอ้โห FAS นี่ทำง่ายแล้วเป็นประโยชน์มากๆ
00:08:15 → 00:08:18 เลยนะครับคุณเกดคุณผู้ฟังต้องจำไว้ให้
00:08:18 → 00:08:20 แม่นเลยนะครับเพื่อช่วยชีวิตทั้งตัวเอง
00:08:20 → 00:08:21 และคนที่คุณรับได้เลย
00:08:21 → 00:08:24 >> เราพูดถึงสมองของไปแล้วนะคะคุณกันทีนี้มา
00:08:24 → 00:08:27 ที่หัวใจซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้กัน
00:08:27 → 00:08:30 เลยค่ะถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือด
00:08:30 → 00:08:33 หัวใจหรือที่เรารู้จักกันในชื่อกลมเหนือ
00:08:33 → 00:08:36 หัวใจตายเฉียบพลันหรือแทคจะมีสัญญาณอะไร
00:08:36 → 00:08:40 บ้างคะที่สำคัญคืออาการบางทีก็ไม่ชัดเจน
00:08:40 → 00:08:41 อย่างที่เราคิดนะคะ
00:08:41 → 00:08:44 >> ครับคุณเกดภาวะนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบ
00:08:44 → 00:08:47 ที่น่ากลัวมากนะครับอาการที่เด่นชัดที่
00:08:47 → 00:08:50 สุดเลยคืออาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงครับ
00:08:50 → 00:08:53 ซึ่งมักจะรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดอึดอัด
00:08:53 → 00:08:56 เหมือนมีของหนักมาทับหรือเหมือนมีอะไรมา
00:08:56 → 00:08:59 บีบแน่นๆกลางหน้าอกเลยครับบางคนบอกว่า
00:08:59 → 00:09:01 เหมือนมีช้างมาเหยียบหน้าอก
00:09:01 → 00:09:03 >> เจ็บตรงกลางหน้าอกเลยใช่มั้ยคะ
00:09:03 → 00:09:06 >> ใช่ครับแล้วความเจ็บปวดนี้มันมักจะเจ็บ
00:09:06 → 00:09:09 ร้าวไปที่แขนซ้ายบางคนก็ร้าวไปที่คอขา
00:09:10 → 00:09:12 กรรไกรหลังหรือแม้กระทั่งท้องได้ด้วยนะ
00:09:13 → 00:09:15 ครับมันจะไม่ได้เจ็บแค่จุดเดียวแต่แผ่
00:09:15 → 00:09:16 ขยายออกไป
00:09:16 → 00:09:18 >> ไม่ใช่แค่หน้าอกอย่างเดียวใช่ไหมคะ
00:09:18 → 00:09:22 >> ไม่ใช่ครับแล้วก็จะมีอาการอื่นๆร่วมด้วย
00:09:22 → 00:09:25 เช่นเหงื่อออกตัวเย็นใจสั่นคลื่นไส้
00:09:26 → 00:09:29 อาเจียนหายใจหอบเหนื่อยวิงเวียนหน้ามืด
00:09:29 → 00:09:32 หรือบางคนก็ถึงขั้นเป็นลมหมดสติไปเลยก็มี
00:09:32 → 00:09:35 ครับที่สำคัญคืออาการเหล่านี้มักจะเป็น
00:09:35 → 00:09:38 แบบเฉียบพลันนะครับอยู่ดีๆก็เป็นขึ้นมา
00:09:38 → 00:09:39 ไม่มีปี่มิขุ่ย
00:09:39 → 00:09:42 >> เกดเคยได้ยินมาว่าอาการฮาร์ทแอทackในผู้
00:09:42 → 00:09:45 หญิงกับผู้สูงอายุบางทีก็ไม่ชัดเจนเท่า
00:09:45 → 00:09:46 ผู้ชายจริงมั้คะ
00:09:46 → 00:09:49 >> จริงครับคุณเกดตรงนี้สำคัญมากนะครับคุณ
00:09:49 → 00:09:53 ผู้ฟังในผู้หญิงผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเบา
00:09:53 → 00:09:56 หวานบางรายอาการอาจจะไม่รุนแรงเท่าหรือมา
00:09:56 → 00:09:59 ในรูปที่ต่างออกไปเช่นแครู้สึกเหนื่อย
00:09:59 → 00:10:03 ง่ายผิดปกติเจ็บท้องคลื่นไส้หรือปวดคอปวด
00:10:03 → 00:10:06 หลังเล็กน้อยซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่า
00:10:06 → 00:10:09 เป็นอาการอื่นได้ดังนั้นหากคุณมีความ
00:10:09 → 00:10:12 เสี่ยงและมีอาการเหล่านี้ถึงแม้จะไม่ชัด
00:10:12 → 00:10:15 เจนเหมือนในหนังก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
00:10:15 → 00:10:17 ครับอย่าชะล่าใจเด็ดขาด
00:10:17 → 00:10:19 >> นี่ล่ะค่ะคุณผู้ฟังต้องสังเกตให้ดีเลยนะ
00:10:19 → 00:10:22 คะยิ่งเรามีภาวะเสี่ยงหรือทานยาละลายลิ่ง
00:10:22 → 00:10:25 เลือดอยู่แล้วก็ต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ
00:10:25 → 00:10:27 >> คุณเกดครับนอกจากอวัยวะที่เราคุ้นเคยกัน
00:10:28 → 00:10:31 ดีแล้วยังมีอวัยวะสำคัญอื่นๆอีกนะครับที่
00:10:31 → 00:10:33 ลิ่มเลือดสามารถไปอุดตันได้และมักจะถูก
00:10:33 → 00:10:37 มองข้ามไปอย่างเช่นลำไส้ครับหลายคนอาจจะ
00:10:37 → 00:10:40 คิดไม่ถึงว่าลิ่มเลือดก็อุดที่ลำไส้ได้
00:10:40 → 00:10:40 ด้วย
00:10:40 → 00:10:43 >> ใช่ค่ะคุณกันแล้วถ้าลิ่มเลือดไปอุดที่ลำ
00:10:43 → 00:10:45 ไส้จะมีสัญญาณอะไรที่เราต้องสังเกตเป็น
00:10:45 → 00:10:48 พิเศษบ้างคะเพราะปกติเราก็ปวดท้องบ่อยๆ
00:10:48 → 00:10:50 อยู่แล้วจะแยกได้ยังไงคะ
00:10:50 → 00:10:52 >> อาการที่เด่นชัดเลยนะครับคุณเกดคืออาการ
00:10:53 → 00:10:56 ปวดท้องอย่างรุนแรงครับที่สำคัญคือมักจะ
00:10:56 → 00:10:59 ปวดบาปเฉียบพลันปวดบิดๆปวดมากจนทนไม่ไหว
00:10:59 → 00:11:02 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรับประทานอาหารจะ
00:11:02 → 00:11:04 ยิ่งปวดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
00:11:04 → 00:11:07 >> ทำไมถึงปวดหลังกินอาหารคะปกติก็ปวดท้อง
00:11:07 → 00:11:09 หลังกินข้าวได้นี่ค่ะ
00:11:09 → 00:11:11 >> เพราะว่าเวลาเรากินอาหารเลือดจะถูกส่งไป
00:11:11 → 00:11:14 เลี้ยงลำไส้มากขึ้นเพื่อช่วยย่อยอาหาร
00:11:14 → 00:11:17 ครับทีนี้ถ้ามีลิ่มเลือดไปอุดเลือดก็ไป
00:11:17 → 00:11:19 เลี้ยงไม่คอทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงขึ้น
00:11:19 → 00:11:23 มาได้ครับซึ่งมันจะปวดผิดปกติจากอาการปวด
00:11:23 → 00:11:25 ท้องทั่วไปที่เราเคยเจอครับนอกจากอาการ
00:11:25 → 00:11:29 ปวดแล้วก็อาจจะมีอาการเคลื่อนไส้อาเจียน
00:11:29 → 00:11:33 ท้องอืดท้องเสียร่วมด้วยได้ครับบางรายอาจ
00:11:33 → 00:11:35 มีเลือดปนในอุจจาระหรือถ่ายอุจจาระเป็นสี
00:11:35 → 00:11:38 คล้ำผิดปกติด้วยนะครับถ้ามีอาการปวดท้อง
00:11:38 → 00:11:41 รุนแรงแบบไม่เคยเป็นมาก่อนโดยเฉพาะหลัง
00:11:41 → 00:11:43 กินอาหารอย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ทันทีนะ
00:11:43 → 00:11:45 ครับนี่เป็นภาวะฉุกเฉินครับ
00:11:45 → 00:11:48 >> เป็นอาการปวดท้องที่ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ย
00:11:48 → 00:11:50 คะฟังดูน่ากลัวตัวมากๆเลยค่ะ
00:11:50 → 00:11:53 >> ถัดมาที่อวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของ
00:11:53 → 00:11:57 เสียในร่างกายอย่างไตครับหลายคนอาจคิดว่า
00:11:57 → 00:12:00 โรคไตมักจะมากับอาการบวมหรือปัสสาวะพิษ
00:12:00 → 00:12:04 ปกติแต่จริงๆแล้วลิ่มเลือดก็สามารถไปอุด
00:12:04 → 00:12:06 ตันที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงไตได้นะ
00:12:06 → 00:12:06 ครับ
00:12:06 → 00:12:08 >> แล้วถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันที่ไตเนี่ย
00:12:08 → 00:12:11 สัญญาณเตือนมันเป็นยังไงคะคุณกันเพราะเกต
00:12:11 → 00:12:14 ว่าคนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบเลยว่าอาการปวด
00:12:14 → 00:12:16 หลังก็อาจจะเกี่ยวกับไตได้
00:12:16 → 00:12:19 >> ครับคุณเกดบางครั้งอาจจะไม่มีอาการชัดเจน
00:12:19 → 00:12:21 ในระยะแรกเลยนะครับแต่ถ้ามีการอุดตัน
00:12:22 → 00:12:25 รุนแรงหรือเป็นมากขึ้นอาการที่อาจพบได้
00:12:25 → 00:12:28 คืออาการปวดหลังบริเวณบ้านเอวครับมักจะ
00:12:28 → 00:12:31 เป็นข้างใดข้างหนึ่งหรือถ้าเป็น 2 ข้างก็
00:12:31 → 00:12:34 อาจจะปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆซึ่งต่างจาก
00:12:34 → 00:12:35 อาการปวดเมื่อยทั่วไปครับ
00:12:35 → 00:12:37 >> คือปวดหลังคล้ายๆปวดเมื่อยทั่วไปหรือ
00:12:38 → 00:12:38 เปล่าคะ
00:12:38 → 00:12:41 >> อาจจะไม่เหมือนปวดเมื่อยทั่วไปครับมันจะ
00:12:41 → 00:12:44 เป็นการปวดแบบผิดปกติหรือปวดรุนแรงขึ้น
00:12:44 → 00:12:46 เรื่อยๆและอาจไม่ได้ดีขึ้นด้วยการพักผ่อน
00:12:46 → 00:12:49 ครับที่สำคัญคือถ้าลิ่มลืมเลือดไปอุดตั่น
00:12:49 → 00:12:52 ที่ไตอาจจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงขึ้น
00:12:52 → 00:12:55 อย่างเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุได้ด้วยนะ
00:12:55 → 00:12:58 ครับอยู่ดีๆความดันก็พุ่งสูงปรี๊ดขึ้นมา
00:12:58 → 00:13:00 ถังๆที่ปกติไม่ได้เป็นอะไร
00:13:00 → 00:13:03 >> โอ้ความดันขึ้นสูงแบบกระทันหันเนี่ยนะ
00:13:03 → 00:13:06 >> ใช่ครับและถ้าปล่อยไว้จนไต่เริ่มทำงานผิด
00:13:06 → 00:13:10 ปกติก็อาจจะมีอาการอื่นๆตามมาเช่นบวมตาม
00:13:10 → 00:13:14 เนื้อตัวโดยเฉพาะที่หน้าแขนขาเพราะไตขับ
00:13:14 → 00:13:16 น้ำและเกลือส่วนเกินไม่ได้หรือมีปัสสาวะ
00:13:16 → 00:13:20 ผิดปกติเช่นปัสสาวะน้อยลงปัสสาวะเป็นฟอง
00:13:20 → 00:13:23 มากๆหรือสีเปลี่ยนไปร่วมกับอาการอ่อน
00:13:23 → 00:13:25 เพลียวิงเวียนครับถ้าคุณมีอาการปวดหลัง
00:13:25 → 00:13:28 ผิดปกติร่วมกับความดันขึ้นสูงเฉียบพลัน
00:13:28 → 00:13:31 หรืออาการไตผิดปกติอื่นๆควรรีบไปตรวจกับ
00:13:31 → 00:13:32 แพทย์นะครับ
00:13:32 → 00:13:35 >> ฟังดูแล้วโรคไตก็มีอาการที่ซับซ้อนเหมือน
00:13:35 → 00:13:37 กันนะคะการสังเกตอาการที่แตกต่างไปจาก
00:13:37 → 00:13:39 เดิมจึงสำคัญมากๆเลยค่ะ
00:13:39 → 00:13:42 >> มาถึงอวัยวะสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันนะ
00:13:42 → 00:13:46 ครับคุณเกตนั่นก็คือตับครับหลายคนอาจไม่
00:13:46 → 00:13:49 รู้ว่าลิ่มเลือดก็สามารถไปอุดตันที่หลอด
00:13:49 → 00:13:52 เลือดดำที่นำเลือดออกจากตับได้ด้วยซึ่ง
00:13:52 → 00:13:56 ภาวะนี้เรียกว่าบัชารีsyนrมครับแล้ว
00:13:56 → 00:13:58 สัญญาณเตือนที่ตับมันจะเป็นยังไงคะคุณกัน
00:13:59 → 00:14:01 เพราะตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมากๆเลยนะคะ
00:14:01 → 00:14:04 >> อาการที่พบบ่อยเลยนะครับคุณเกดคืออาการ
00:14:04 → 00:14:07 ปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวาครับซึ่งเป็น
00:14:07 → 00:14:11 ตำแหน่งของตับบางคนอาจจะปวดตื้อๆปวดหน่วง
00:14:11 → 00:14:15 ตลอดเวลานอกจากนี้ตับอาจจะโตขึ้นหรือมี
00:14:15 → 00:14:18 อาการท้องมารคือมีน้ำในช่องท้องทำให้ท้อง
00:14:18 → 00:14:21 บวมเป่งขึ้นมาอย่างผิดสังเกตครับ
00:14:21 → 00:14:23 >> แสดงว่าถ้าปวดท้องด้านขวาและท้องบวมผิด
00:14:23 → 00:14:25 ปกติอาจจะต้องระวังใช่มั้ยคะ
00:14:26 → 00:14:29 >> ใช่เลยครับและอีกอาการที่สังเกตได้ชัดคือ
00:14:29 → 00:14:32 ตัวเหลืองตาเหลืองหรือที่เรียกว่าดีซ่าน
00:14:32 → 00:14:35 ครับเพราะตับทำงานผิดปกติทำให้ไม่สามารถ
00:14:35 → 00:14:38 ขับของเสียออกจากร่างกายได้ตามปกติจึงมี
00:14:39 → 00:14:41 สารสีเหลืองคั่งอยู่ในร่างกายครับผิวจะ
00:14:41 → 00:14:44 ออกเหลืองๆตาขาวก็จะเหลืองด้วยครับ
00:14:44 → 00:14:47 >> อืมเหมือนคนที่เป็นโรคตับอื่นๆเลยนะคะถูก
00:14:47 → 00:14:51 ต้องครับนอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการคลื่นไส้
00:14:51 → 00:14:53 อาเจียนอ่อนเพลียหรือรู้สึกไม่สบายตัว
00:14:53 → 00:14:57 ทั่วไปได้ด้วยครับภาวะนี้ก็ถือว่ารุนแรง
00:14:57 → 00:15:00 และต้องการรักษาที่รวดเร็วเช่นกันครับหาก
00:15:00 → 00:15:03 มีอาการปวดท้องร่วมกับตัวเหลืองตาเหลือง
00:15:03 → 00:15:07 หรือท้องบวมผิดปกติไม่ควรรอนะครับควรพบ
00:15:07 → 00:15:08 แพทย์ด่วน
00:15:08 → 00:15:10 >> ฟังมาถึงตรงนี้คุณผู้ฟังคงพอจะเห็นแล้วนะ
00:15:10 → 00:15:13 คะว่าลิ่มเลือดนี้เป็นไผ่เงียบที่ไปได้
00:15:13 → 00:15:16 ทั่วร่างกายจริงๆและมีอาการที่หลากหลาย
00:15:16 → 00:15:19 มากๆเลยค่ะการใส่ใจสังเกตตัวเองจึงสำคัญ
00:15:19 → 00:15:20 ที่สุดค่ะ
00:15:20 → 00:15:23 >> คุณเกตครับเมื่อเราทราบสัญญาณเตือนไปแล้ว
00:15:23 → 00:15:26 ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าครับว่าใครบ้างที่
00:15:26 → 00:15:28 จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลิ่ม
00:15:28 → 00:15:30 เลือดได้ง่ายกว่าคนอื่นบ้างครับเพื่อให้
00:15:30 → 00:15:33 เราได้ระมัดระวังตัวเองและคนใกล้ชิดได้ดี
00:15:33 → 00:15:34 ยิ่งขึ้นครับ
00:15:34 → 00:15:37 >> เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะคุณกันกลุ่มแรก
00:15:37 → 00:15:40 เลยนะคะคือผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด
00:15:40 → 00:15:43 ใหญ่หรือผู้ที่นอนติดเตียงนานๆค่ะเพราะ
00:15:43 → 00:15:45 การไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายทำให้
00:15:45 → 00:15:47 เลือดไหลเวียนช้าลงเพิ่มความเสี่ยงการ
00:15:47 → 00:15:49 เกิดลิ่มเลือดได้ง่ายขึ้นค่ะ
00:15:49 → 00:15:52 >> อ๋อเหมือนเวลาเรานั่งเครื่องบินนานๆก็มี
00:15:52 → 00:15:54 ความเสี่ยงใช่ไหมครับหรืออย่างผู้สูงอายุ
00:15:54 → 00:15:56 ที่ต้องนอนโรงพยาบาลนานๆก็จะเสี่ยงเป็น
00:15:56 → 00:15:57 พิเศษใช่ไหมครับ
00:15:57 → 00:16:01 >> ใช่เลยค่ะคุณกันผู้ที่เดินทางไกลๆโดยยาน
00:16:01 → 00:16:04 พาหนะที่ต้องนั่งนิ่งๆเป็นเวลานานๆก็มี
00:16:04 → 00:16:06 ความเสี่ยงเช่นกันค่ะดังนั้นถ้าต้องเดิน
00:16:06 → 00:16:10 ทางไกลๆอย่าลืมขยับแข้งขยับขาบ่อยๆนะคะ
00:16:10 → 00:16:13 นอกจากนี้ผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดบาง
00:16:13 → 00:16:16 ชนิดก็เพิ่มความเสี่ยงได้นะคะหรือแม้แม้
00:16:16 → 00:16:18 แต่ผู้สูงอายุก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตาม
00:16:19 → 00:16:21 วัยเพราะหลอดเลือดก็เสื่อมสภาพลงตามกาล
00:16:21 → 00:16:22 เวลาค่ะ
00:16:22 → 00:16:24 >> แล้วคนที่มีโรคประจำตัวล่ะครับคุณเกดมี
00:16:24 → 00:16:26 ความเสี่ยงด้วยมั้ครับ
00:16:26 → 00:16:29 >> มีแน่นอนค่ะโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
00:16:29 → 00:16:32 เกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจเช่นโรคไขมัน
00:16:32 → 00:16:35 ในเลือดสูงโรคความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน
00:16:35 → 00:16:38 หรือโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะค่ะโรคเหล่านี้
00:16:39 → 00:16:41 ล้วนส่งผลต่อสภาพหลอดเลือดทำให้ง่ายต่อ
00:16:41 → 00:16:43 การเกิดลิ่มเลือดอุดตันมากกว่าคนทั่วไป
00:16:43 → 00:16:44 ค่ะ
00:16:44 → 00:16:46 >> แล้วพฤติกรรมในชีวิตประจำประจำวันอย่าง
00:16:46 → 00:16:47 การสูบบุหรี่ล่ะครับ
00:16:47 → 00:16:49 >> ผู้ที่สูบบุหรี่ก็จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
00:16:49 → 00:16:52 สูงเช่นกันค่ะเพราะสารเคมีในบุหรี่ทำลาย
00:16:52 → 00:16:55 ผนังหลอดเลือดทำให้ลิ่มเลือดก่อตัวได้
00:16:55 → 00:16:58 ง่ายขึ้นและสุดท้ายคือผู้ที่มีประวัติ
00:16:58 → 00:17:00 ครอบครัวที่เคยเป็นลิ่มเลือดอุดตันก็มี
00:17:01 → 00:17:03 ความเสี่ยงสูงขึ้นเช่นกันค่ะอาจจะมีความ
00:17:03 → 00:17:06 ผิดปกติทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดลิ่ม
00:17:06 → 00:17:07 เลือดได้ง่ายกว่าคนทั่วไปค่ะ
00:17:07 → 00:17:10 >> คุณผู้ฟังลองสำรวจตัวเองและคนใกล้ชิดดูนะ
00:17:10 → 00:17:12 ครับว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้บ้าง
00:17:12 → 00:17:15 หรือเปล่าเพื่อจะได้ระมัดระวังและดูแลตัว
00:17:15 → 00:17:17 เองได้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้นครับ
00:17:17 → 00:17:20 >> คุณกันคะหลังจากที่เราได้ทราบสัญญาณเตือน
00:17:20 → 00:17:23 และกลุ่มเสี่ยงไปแล้วคำถามสำคัญที่สุดที่
00:17:23 → 00:17:26 ผู้ฟังทุกคนคงอยากรู้คือแล้วถ้าเราหรือคน
00:17:27 → 00:17:29 ใกล้จัวสงสัยว่ามีอาการของลิ่มเลือด
00:17:29 → 00:17:32 อุดตันขึ้นมาจริงๆเนี่ยเราควรทำยังไงคะ
00:17:32 → 00:17:35 >> คำตอบเดียวเลยนะครับคุณเกตนั่นก็คือรีบไป
00:17:35 → 00:17:38 พบแพทย์ทันทีครับนี่คือสิ่งสำคัญที่สุด
00:17:38 → 00:17:40 ที่เราอยากเน้นย้ำในวันนี้เลยครับ
00:17:40 → 00:17:43 >> สำคัญมากๆเลยใช่มั้คะห้ามรอหรือรักษาตัว
00:17:43 → 00:17:44 เองเด็ดขาด
00:17:44 → 00:17:47 >> เด็ดขาดขาดเลยครับคุณเกตอย่ารอช้าแม้แต่
00:17:47 → 00:17:50 นาทีเดียวหรือพยายามวินิจฉัยและรักษาเอง
00:17:50 → 00:17:53 เด็ดขาดนะครับเพราะภาวะลิ่มเลือดอุตตัน
00:17:53 → 00:17:55 เป็นเรื่องร้ายแรงที่ต้องได้รับการ
00:17:55 → 00:17:57 วินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและได้รับ
00:17:57 → 00:18:00 การรักษาอย่างทันท่วงทีครับการล่าช้าแม้
00:18:00 → 00:18:03 เพียงไม่กี่นาทีก็อาจสร้างความเสียหาย
00:18:03 → 00:18:06 ร้ายแรงต่ออวัยวะหรือถึงขั้นคุกคามชีวิต
00:18:06 → 00:18:07 ได้เลยครับ
00:18:07 → 00:18:09 >> ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสรักษาได้มาก
00:18:09 → 00:18:10 เท่านั้นใช่มั้คะ
00:18:10 → 00:18:13 >> ใช่เลยครับเมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์จะทำ
00:18:13 → 00:18:16 การตรวจวินิจฉัยอย่าอย่างละเอียดเช่นตรวจ
00:18:16 → 00:18:19 เลือดตรวจอัลตราasซoundหรือเซrเยเพื่อยืน
00:18:19 → 00:18:21 ยันว่าเป็นลิ่มเลือดจริงหรือไม่และอยู่
00:18:21 → 00:18:24 ที่ไหนจากนั้นจะวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
00:18:24 → 00:18:27 ที่สุดให้ครับบางกรณีอาจต้องให้ยาละลาย
00:18:27 → 00:18:30 ลิ่มเลือดหรือทำหัถการอื่นๆซึ่งต้องอยู่
00:18:30 → 00:18:32 ในความดูแลของแพทย์เท่านั้นครับ
00:18:32 → 00:18:35 >> ดังนั้นถ้ามีสัญญาณเตือนที่น่าสงสัยตาม
00:18:35 → 00:18:39 ที่เราคุยกันไปให้จำไว้เสมอว่าอย่ารอช้า
00:18:39 → 00:18:42 รีบไปหาหมอให้เร็วที่สุดนะคะคุณผู้ฟัง
00:18:42 → 00:18:45 เพราะการรู้ทันและรีบไปหาหมอคือการตัดสิน
00:18:45 → 00:18:47 ใจที่ถูกต้องที่สุดค่ะ
00:18:47 → 00:18:51 >> วันนี้สุขภาพสนทนาของเราได้พาคุณผู้ฟังมา
00:18:51 → 00:18:54 ทำความรู้จักกับภัยเงียบที่ชื่อว่าลิ่ม
00:18:54 → 00:18:57 เลือดและสัญญาณเตือนที่สำคัญในอวัยวะต่าง
00:18:57 → 00:18:59 ๆของร่างกายอย่างละเอียดเลยนะครับไม่ว่า
00:19:00 → 00:19:05 จะเป็นที่ขาปอดสมองหัวใจลำไส้ไต่หรือแม้
00:19:05 → 00:19:06 กระทั่งตับ
00:19:06 → 00:19:08 >> ใช่ค่ะและเรายังได้คุยกันถึงกลุ่มเสี่ยง
00:19:08 → 00:19:11 ต่างๆด้วยนะคะการรู้ทันสัญญาณเหล่านี้รวม
00:19:11 → 00:19:13 ถึงการทราบว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือ
00:19:13 → 00:19:16 ไม่เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถ
00:19:16 → 00:19:20 ป้องกันดูแลตัวเองและคนที่เรารักให้พ้น
00:19:20 → 00:19:22 จากอันตรายของภาวะลิ่มเลือดอุดตันได้
00:19:22 → 00:19:25 เพราะการสังเกตเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวัน
00:19:25 → 00:19:27 ของเรานี่แหละค่ะที่ช่วยชีวิตได้
00:19:27 → 00:19:30 >> อย่ารอให้สายเกินไปนะครับถ้าคุณหรือคน
00:19:30 → 00:19:33 ใกล้ตัวมีอาการที่น่าสงสัยหรืออยู่ใน
00:19:33 → 00:19:36 กลุ่มเสี่ยงหรือไม่ก็ควรหมั่นสังเกตอาการ
00:19:36 → 00:19:39 ตัวเองอยู่เสมอและที่สำคัญที่สุดคือเมื่อ
00:19:39 → 00:19:42 มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นอย่าลังเลที่จะ
00:19:42 → 00:19:45 ปรึกษาแพทย์ทันทีครับเพราะสุขภาพของคุณ
00:19:45 → 00:19:46 สำคัญที่สุดนะครับ
00:19:47 → 00:19:49 >> สร้างสุขภาพดีเริ่มต้นจากความเข้าใจ
00:19:49 → 00:19:53 >> หากคุณผู้ฟังมีคำถามข้อสงสัยหรืออยากให้
00:19:53 → 00:19:55 เราพูดคุยกันในประเด็นสุขภาพไหนเป็นพิเศษ
00:19:55 → 00:19:58 อย่าลืมคอมเมนต์บอกเราได้ที่ใต้คลิปนี้
00:19:58 → 00:20:00 หรือแชร์ประสบการณ์ของคุณกับเราได้เลยนะ
00:20:00 → 00:20:03 ครับพวกเราอ่านทุกคอมเมนต์ครับ
00:20:03 → 00:20:05 >> และถ้าคิดว่าคลิปนี้มีประโยชน์อย่าลืมกด
00:20:05 → 00:20:08 ไลค์กดแชร์เพื่อให้ข้อมูลดีๆนี้ไปถึงคน
00:20:08 → 00:20:11 ที่คุณรักและคนอื่นๆที่ต้องการความรู้นี้
00:20:11 → 00:20:12 ด้วยนะคะ
00:20:12 → 00:20:15 >> สำหรับวันนี้ผมและคุณเกตต้องขอลาคุณผู้
00:20:15 → 00:20:16 ฟันไปก่อนนะครับ
00:20:16 → 00:20:20 >> พบกันใหม่ในสุขภาพสนทนาตอนหน้าค่ะสวัสดี
00:20:20 → 00:20:21 ค่ะ
00:20:21 → 00:20:23 >> สวัสดี