00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:08 → 00:00:12 ดิฉันสุธิพรปรีเปรมและนี่คือศัลยกรรมความ
00:00:12 → 00:00:16 สุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมาก
00:00:16 → 00:00:21 ขึ้นมีความทุกข์น้อยลงพี่น้อยครับช่วงที่
00:00:21 → 00:00:26 ผ่านมาเนี้ยในช่วงระยะเนะฮะเราก็จะดูติด
00:00:26 → 00:00:31 ตามข่าวสารในเอ่อทีวีบ้างโชดียบ้างอะไร
00:00:31 → 00:00:36 เนี่ยผมก็จะพบว่ามันมีข่าวอยู่ประมาณ
00:00:36 → 00:00:40 ประเภทนึงนะแต่ว่ามันอาจจะเป็นเปลี่ยน
00:00:40 → 00:00:44 เปลี่ยนคู่กรณีไปเรื่อยๆอือแต่ว่ามันน่า
00:00:44 → 00:00:47 แปลกมากเลยช่วงเนี้ยประมาณอย่างเงี้ยมัน
00:00:47 → 00:00:50 เยอะมากอืเรื่องประมาณอย่างเงี้เยอะมาก
00:00:50 → 00:00:53 เพียงแต่ว่าเปลี่ยนคู่กรณีไปเรื่อยๆอืผม
00:00:53 → 00:00:56 ก็เลยอยากจะตั้งข้อสังเกตว่ามันเป็นช่วง
00:00:56 → 00:01:01 ของอยากจะสรุปไอ้สถานการณ์เนี้ยค่ะด้วยคำ
00:01:01 → 00:01:05 ประมาณ 4 คำครับพี่อ้อยอืดูซิว่าถ้าผมพูด
00:01:05 → 00:01:08 คำ 4 คำนี้แล้วพี่อ้อยจะนึกถึงข่าวออกมั้
00:01:09 → 00:01:12 เออเออค่ะมาลองดูนะครับคุณผู้ฟังลองดู
00:01:12 → 00:01:15 ด้วยนะว่าจะนึกถึงข่าวออกมั้ยนะครับผม
00:01:15 → 00:01:17 อยากจะสรุปสถานการณ์ช่วงนี้ว่ามันเป็น
00:01:17 → 00:01:22 ช่วงของผัวเมียละเหี่ย
00:01:22 → 00:01:25 ใจใช่
00:01:25 → 00:01:30 เลยเยอะมากค่ะเยอะมากจนงงเหมือนกันเออใช่
00:01:30 → 00:01:33 มั้ยมันผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเยอะผิดปกติ
00:01:33 → 00:01:36 หรือว่าสมัยนี้มันอาจจะเป็นแบบมันก็ไม่
00:01:36 → 00:01:40 ได้เยอะกว่าปกติหรอกอือเพียงแต่ว่าสมัย
00:01:40 → 00:01:44 นี้เนี่ยมันมันมีเรื่องของโซเชียลมีเดีย
00:01:44 → 00:01:48 นะค่ะแล้วก็เอาเรื่องไม่ดีไม่ดีมาให้คน
00:01:48 → 00:01:52 ติดตามเอใช่ๆแล้วก็ไปเอาเรื่องของนั่นน่ะ
00:01:52 → 00:01:57 คือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คน
00:01:57 → 00:02:00 ค่ะจะผัวเมียหรือไม่ผัวเมียหรือว่าจะเป็น
00:02:00 → 00:02:04 เพื่อนหรือว่าจะเป็นเอ่ออะไรก็ตามทีใน
00:02:04 → 00:02:06 สังคมในองค์กรอะไรอย่างเงี้มันก็จะมีอยู่
00:02:06 → 00:02:11 เสมอๆนะฮะอืเพียงแต่ว่าเอ่อเรื่องของสามี
00:02:11 → 00:02:15 ภรรยาเนี่ยอมันก็จะถูกเอาไปทำละครเยอะ
00:02:15 → 00:02:20 นะละครก็เยอะข่าวก็เยอะเออๆค่ะมันเป็น
00:02:20 → 00:02:24 เรื่องคลาสสิคที่ไม่เคยตกเทรนด์เลยนะคะ
00:02:24 → 00:02:28 เออๆใช่แล้วก็มีเยอะมากเลยค่ะแต่บางอัน
00:02:28 → 00:02:32 เนี่ยข่าวบางข่าวพอเราบางกรณีบางคู่อย่าง
00:02:32 → 00:02:35 งี้ดีกว่านะฮะอเราฟังดูแล้วเราก็เหมือนจะ
00:02:35 → 00:02:39 แปลกๆอือหรือบางทีเฮ้ยมันเป็นอย่างงี้ได้
00:02:39 → 00:02:41 ยังไงหรืออะไรอย่างเงี้ยนะอือมันมีอะไร
00:02:41 → 00:02:43 บ้างที่พี่อ้อยฟังแล้วแบบข่าวช่วงเนี้ย
00:02:43 → 00:02:46 มันมีอะไรที่แบบเหมือนอยากจะเอามาตั้งข้อ
00:02:46 → 00:02:49 สังเกตมพี่อ้อยคือเราจะได้เอางี้ประมาณ
00:02:49 → 00:02:51 ว่าพอมันเกิดข่าวอย่างงี้เยอะๆผมเกิดคำ
00:02:51 → 00:02:54 ถามแล้วว่าเอ๊ะเราจะได้ประโยชน์อะไรจาก
00:02:54 → 00:02:59 พวกนี้บ้างมั้ยอืเออค่ะคือจริงๆแล้วมัน
00:02:59 → 00:03:04 เป็นปัญหาที่เอ่อระดับครอบครัวเนาะอือๆ
00:03:04 → 00:03:08 คือถ้าสมมุติว่า 2 คนที่เป็นหัวหน้า
00:03:08 → 00:03:13 ครอบครัวแล้วละเหียใจอือๆคิดดูว่าคุณภาพ
00:03:13 → 00:03:17 สังคมหน่วยย่อยที่สุดอ่ะลูกอที่อยู่ภาย
00:03:17 → 00:03:21 ใต้ครอบครัวแบบเนี้ยอือจะเป็นยังไงเพราะ
00:03:21 → 00:03:24 ฉะนั้นเนี่ยมันเป็นปัญหาเล็กๆที่มีผลยิ่ง
00:03:24 → 00:03:28 ใหญ่นะพี่วีอืๆๆใช่เลยค่ะแล้วมันก็มีความ
00:03:28 → 00:03:33 รู้สึกว่าคนยุคสมัยเนี้ยคือเอ่อในมุมของ
00:03:33 → 00:03:37 ศีลธรรมอ่ะว่าไอ้ถูกผิดออะไรอย่างเงี้ย
00:03:37 → 00:03:42 การเอ่ออะไรผัวเมียที่ไม่ได้เอ่อเคารพ
00:03:42 → 00:03:48 แล้วก็อให้เค้าเรียกว่าอะไรคะคืออยู่กับ
00:03:48 → 00:03:53 เฉพาะคู่ตัวเองอะไรอย่างเงี้ยเออมันมัน
00:03:53 → 00:03:57 มันมีความสิ่งเนี้ยในใจน้อยอืน้อยลง
00:03:57 → 00:04:00 เรื่อยๆอือถ้าพี่หวีถามเรื่องข่าวเนี่ย
00:04:00 → 00:04:04 พี่อ้อยมองว่าข่าวอาจจะเบาๆไปเลยกับเคส
00:04:04 → 00:04:07 ที่พี่อ้อยจะเล่าให้ฟังนี้นะคะมันเป็นเคส
00:04:07 → 00:04:11 ที่ที่พี่อ้อยประสบกับตัวเองเลยอือๆนะคะ
00:04:12 → 00:04:16 ก็คือตอนสมัยเรียนขับรถอ่าอ่านะคะก็อยู่
00:04:16 → 00:04:20 บนตึกกลางกรุงเทพฯนี่แหละแล้วก็มีมีเป็น
00:04:20 → 00:04:25 ห้องเล็กๆเข้ามาเช่าสอนขับรถอือ่าเราก็
00:04:25 → 00:04:28 เอ๊เราไม่มีเวลาจะไปเรียนขับรถเลยแหละก็
00:04:28 → 00:04:32 เลยทำไงดีเนาะเอาอย่างงี้ดีกว่าตอนเที่ยน
00:04:32 → 00:04:34 ไม่กินข้าวอืนะคะพอเที่ยนก็ลงมาเรียนขับ
00:04:34 → 00:04:40 รถชั่วโมงนึงฮะอ่าก็เจอเ่อสามีภรรยาเรา
00:04:40 → 00:04:45 เรียกว่าเฮียและเจ๊เออเจ๊นี่จะเป็นเอ่อคน
00:04:45 → 00:04:49 ที่เปรี้ยวๆผมสีทองๆใส่ทองเยอะเลยเออแล้ว
00:04:49 → 00:04:53 เฮียก็จะเป็นแบบดูภูมิฐานนะคะก็ใส่ทอง
00:04:53 → 00:04:57 ใหญ่เหมือนกันเออนะคะเน้นทองเราก็ลงมา
00:04:57 → 00:05:00 แล้วเราก็ได้เรียนเอ่อวันละชั่วโมง
00:05:00 → 00:05:02 ชั่วโมงจำไม่ได้แล้วว่ากี่ชั่วโมงนานนาน
00:05:02 → 00:05:06 จัดก็เอ่อก็เลยเริ่มสนิทกับเฮียเพราะเฮีย
00:05:06 → 00:05:09 เป็นคนไปสอนอ๋อหมายถึงว่าเราไปเรียนเค้า
00:05:09 → 00:05:13 เป็นเปิดโรงเรียนสอนขับรถใช่อ๋อแล้วเราก็
00:05:13 → 00:05:16 ลงมาตอนเที่ยนเฮียก็พาไปขับไปแล้วแต่ถนน
00:05:16 → 00:05:19 นู่นนี่ชั่วโมงนึงกลับมาแล้วก็ขึ้นไปทำ
00:05:19 → 00:05:23 งานนะคะก็เริ่มสนิทกับเฮียก็คุยกันนู่น
00:05:23 → 00:05:26 นี่อะไรอย่าเงี้ยเราแล้วเราก็เห็นเฮีย
00:05:26 → 00:05:28 เฮียก็บอกว่าเนี่ยผมอยู่กับเมียผมทุกวัน
00:05:28 → 00:05:32 แหละก็คือมาทำงานด้วยกันกลับด้วยกันเออ
00:05:32 → 00:05:36 แล้วก็เนี่ยพอไม่อยู่ด้วยกันก็มาสอนนัก
00:05:36 → 00:05:39 เรียนขับรถนี่แหละอ๋อเออก็คุยกันไปบอกโอ
00:05:39 → 00:05:42 ดีนะแบบดูน่ารักจังเลยอะไรอย่างเงี้ยๆพอ
00:05:43 → 00:05:46 เริ่มสนิทกันเฮียวันนึงเฮียถามเฮียถามบอก
00:05:46 → 00:05:52 ว่าพี่ว่าผมจะมีเมียน้อยได้มั้ยเออโอ้คำ
00:05:52 → 00:05:56 ถามนี้แบบโอ้อะไรอย่างเงี้ยอเราก็บอกว่า
00:05:56 → 00:05:59 อะไรตัวติดกันขนาดเนี้ยจะไปมีตอนไหนละไม่
00:05:59 → 00:06:02 มีหรอกเออๆๆๆอะไรอย่างเงี้ยอยากมีหรออะไร
00:06:02 → 00:06:07 อย่างเงี้ยเบอกว่าผมมีแล้วเออเราก็ฮะเออๆ
00:06:07 → 00:06:10 นะคะแล้วเฮียก็เฉลยอเฮียก็เฉลยบอกว่า
00:06:10 → 00:06:13 เนี่ยแม้แต่ว่ากินเหล้าอ่ะเฮียชอบกิน
00:06:13 → 00:06:16 เหล้าออืออือเมียยังไปซื้อเหล้ามาให้กิน
00:06:16 → 00:06:19 ที่บ้านเลยทำกับแก้มให้กินที่บ้านเลยเช้า
00:06:19 → 00:06:22 มาทำงานด้วยกันเย็นกลับด้วยกันออืแล้วจะ
00:06:22 → 00:06:27 ไปมีตอนไหนสุดท้ายเฮียเฉลยว่าก็คือในนัก
00:06:27 → 00:06:29 เรียนมาเรียนคนละชั่วโมงเออๆเสร็จแล้ว
00:06:29 → 00:06:32 เนี่ยก็จะมีนักเรียนจำนวนนึงอ่ะต้องการ
00:06:32 → 00:06:37 ให้พาไปสอบใบขับขี่ออพอวันที่ไปสอบใบขับ
00:06:37 → 00:06:41 ขี่นักเรียนมันก็ไปสอบเออเฮียก็ไปจีบคน
00:06:41 → 00:06:45 ที่ที่เ่อหน่วยงานนั้นอ๋ออ่าก็จีบจน
00:06:45 → 00:06:48 สำเร็จแล้วก็มาอยู่ด้วยกันแล้วก็วันนึง
00:06:48 → 00:06:52 เนี่ยเอ่ออยู่ด้วยกันเป็นปีเลยนะคะอือๆ
00:06:52 → 00:06:55 เออแล้วมีวันนึงเฮียเกิดสงสารผู้หญิงคน
00:06:55 → 00:06:59 นี้บอกว่าอยากเอาทองให้อือๆๆเอาทองเหล็ก
00:06:59 → 00:07:02 ทองอให้ผู้หญิงคนนี้เพราะว่าไม่ได้ไม่เคย
00:07:02 → 00:07:05 ได้อะไรจากเฮียเลยอือๆเอาทองเอาทองไปให้
00:07:05 → 00:07:09 ผู้หญิงเสร็จอ่ากลับมาบ้านบอกเมียว่าทอง
00:07:09 → 00:07:14 หายอืเรทหล่นหายอือๆแต่ความมาแตกตรงที่
00:07:14 → 00:07:18 ว่าตอนผู้หญิงจะเอาทองไปขายเฮียบอกอุ๊ยไป
00:07:18 → 00:07:21 ขายร้านอื่นเดี๋ยวได้ราคาตกไปขายร้านที่
00:07:21 → 00:07:27 ทำออปรากฏว่าเมียก็ใจดีไปทำบอกว่าสามี
00:07:27 → 00:07:31 เฮียเนี่ยเลทหายหายเพราะฉะนั้นมาทำเรท
00:07:31 → 00:07:35 ใหม่ก็ไปร้านนั้นอ๋อความแตกเออๆอ่ะที่
00:07:35 → 00:07:38 ร้านทองก็บอกเอ้าเฮียเค้าทองหายตรงไหนอ่ะ
00:07:38 → 00:07:42 วันนั้นเเอามาขายนั่นล่ะค่ะก็เลยบอกว่า
00:07:42 → 00:07:46 เฮ้ยเรื่องนี้ใครต้องละเหียใจเนี่ยเออๆๆ
00:07:46 → 00:07:51 ขนาดแบบอยู่ด้วยกัน 24 ชมอืก็ยังไปจนได้
00:07:51 → 00:07:52 อือๆ
00:07:52 → 00:07:56 อืนี่นี่ไงคือพอพอเป็นอย่างนี้ปุ๊บเนี่ย
00:07:56 → 00:08:00 พี่อ้อยค่ะเวลาที่ผมเห็นข่าวแบบนี้ค่ะผม
00:08:00 → 00:08:03 จะผมจะไม่ค่อยสนใจอย่างกรณีอย่างเงี้ยที่
00:08:04 → 00:08:06 พี่พี่อ้อยเล่าเนี่ยค่ะพี่อ้อยก็จะเล่า
00:08:06 → 00:08:09 ว่าเอ่อเกิดอะไรขึ้นจุดเริ่มต้นเป็นยังไง
00:08:09 → 00:08:13 แล้วเขาก็เล่าให้ฟังแล้วรุ่นนี้นพุบผม
00:08:13 → 00:08:17 เกิดคำถามอยู่แค่คำถามเดียวว่าอ้อค่ะว่า
00:08:17 → 00:08:20 เหตุการณ์นี้เนี่ยจุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้น
00:08:20 → 00:08:23 ได้ยังไงสาเหตุเบื้องหลังเลยอ่ะสาเหตุ
00:08:23 → 00:08:26 เบื้องหลังเบื้องหลังของทั้งหมดนี้เลย
00:08:26 → 00:08:30 เนี่ยค่ะพี่อ้อยคิดว่ามันน่าจะมาจากอะไร
00:08:30 → 00:08:31 ได้
00:08:31 → 00:08:35 บ้างคืออันนี้ก็เป็นการคาดเดานะที่ค่ะอ
00:08:35 → 00:08:37 เอาแบบที่เราเห็นในสังคมทั่วๆไปเลยเนี่ย
00:08:37 → 00:08:41 ค่ะคือคน 2 คนน่ะอือเหตุการเหตุสาเหตุมัน
00:08:42 → 00:08:45 ก็ต้องมาจากไม่คนใดคนหนึ่งหรือ 2 คนอือ
00:08:45 → 00:08:47 ใช่มั้ยคะไม่เกินกว่านี้หรอกเพราะฉะนั้น
00:08:47 → 00:08:52 เนี่ยก็คือเอ่อไม่อยู่กันแล้วไม่มีความ
00:08:52 → 00:08:56 สุขอือ่าเช่นโอโหมีคุมตลอดเวลาอะไรอย่าง
00:08:56 → 00:08:59 เงี้ยกับกับอันที่ 2 ก็คือตัวผู้ชายอือก็
00:08:59 → 00:09:02 เป็นคนเจ้าู้อ่าอย่างงี้อ่าอะไรอย่างงี้
00:09:02 → 00:09:05 เป็นต้นค่ะแสดงว่ามันมีความเป็นไปได้หลาก
00:09:05 → 00:09:10 หลายมากค่ะคือเค้าอาจจะเป็นคนเจ้าชู้ใช่
00:09:10 → 00:09:14 เราก็เห็นว่าคนเจ้าชู้เนี่ยยกตัวอย่าง
00:09:14 → 00:09:17 เช่นนะที่เราเห็นแบบเป็นคนบุคคลสาธารณะ
00:09:17 → 00:09:21 อ่ะค่ะดาราอย่างเงี้ยอืใช่มั้ยคดาราบางคน
00:09:21 → 00:09:24 เงี้ยเราก็เห็นเขาออกข่าวเลยว่าโอ้โหเจ้า
00:09:24 → 00:09:27 ชู้แบบสุดๆน่ะอืแล้วแล้วมันเป็นข่าวแล้ว
00:09:27 → 00:09:31 ก็ทุกคนก็รู้ในกันทั่วประเทศว่าคนนี้เจ้า
00:09:31 → 00:09:34 ชู้ค่ะจีบคนนี้แล้วก็เลิกคือมันรู้กัน
00:09:34 → 00:09:37 ทั่วไปในสังคมอ่ะก็เลยรู้ว่าคนนี้เจ้าชู้
00:09:37 → 00:09:40 แบบอย่างเป็นเอกฉันอย่าเงี้ยแล้วอันนี้
00:09:40 → 00:09:44 คือคนเจ้าชู้โดนตีตราเอ่าใช่แล้วอยู่มา
00:09:44 → 00:09:48 วันนึงในที่สุดแล้วเนี่ยเค้าก็ลงเอยกับคน
00:09:48 → 00:09:52 คนนึงแล้วก็เลิกเจ้าชู้เลยแล้วก็เลิกเจ้า
00:09:52 → 00:09:55 ชู้เลยมีมั้ยก็มีมีแล้วก็ยังไม่เลือกเจ้า
00:09:55 → 00:10:00 ชู้ก็มีก็มีค่ะพี่อ้อยเห็นบว่ามัน
00:10:00 → 00:10:04 ผมกำลังให้เห็นว่ามันมีความเป็นไปได้หลาก
00:10:04 → 00:10:07 หลายมากใช่แล้วผมก็เลยมีความรสึกว่าทุก
00:10:07 → 00:10:09 ครั้งเวลาที่ผมเห็นข่าวแบบนี้นะผมก็จะบอก
00:10:09 → 00:10:13 ตัวเองว่าค่ะจะไม่มีความโดยส่วนตัวจะไม่
00:10:13 → 00:10:18 มีความรู้สึกที่แบบตำหนิใครเลยอืเพราะ
00:10:18 → 00:10:21 อะไรรู้มั้ยเพราะผมบอกตัวเองว่าเราไม่รู้
00:10:21 → 00:10:25 รายละเอียดเลยใช่ว่าทำไมค่ะพอเราไม่รู้
00:10:25 → 00:10:27 รายละเอียดปุ๊บที่ผมพูดอย่างนี้เพราะอะไร
00:10:28 → 00:10:30 มั้เพราะว่าตอนนี้เลยเลยเนี่ยกำลังมีข่าว
00:10:30 → 00:10:32 อีกข่าวนึงระหว่างความสัมพันธ์
00:10:33 → 00:10:36 ระหว่างดารา 2 คนซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งคู่
00:10:36 → 00:10:40 นะฮะอค่ะค่ะที่สำคือรายละเอียดเรื่องข่าว
00:10:40 → 00:10:44 นะผมก็ไม่ผมจะไม่พูดถึงนะแต่ผมจะเห็นว่า
00:10:44 → 00:10:48 เค้ามีในในโซเชียล Media เค้าก็เอามาลง
00:10:48 → 00:10:50 เนี่ยแล้วก็เราก็ตามดูคือบางทีผมก็ต้อง
00:10:50 → 00:10:53 ตามเคสเหล่านี้นิดหน่อยเพราะว่าค่ะเวลา
00:10:53 → 00:10:56 ที่เราไปบรรยายเรื่องสื่อคุยกับเ้ารู้
00:10:56 → 00:10:59 เรื่องเราจะได้เราจะได้มีเคสไปค่ะไปพูด
00:10:59 → 00:11:03 คุยกันค่ะที่ผมขำก็คือว่าดารา 2 คนเนี่ยย
00:11:03 → 00:11:06 ก็มีประเด็นกันดาราผู้หญิงทั้งคู่อันนี้
00:11:06 → 00:11:09 ไม่ใช่เรื่องผัวเมียแล้วนะค่ะๆคือเราตอน
00:11:09 → 00:11:11 เนี้ยเป็นเรื่องของเราขึ้นชื่อว่าผัวเมีย
00:11:11 → 00:11:14 ใช่แต่ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องของ
00:11:14 → 00:11:17 ความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คนซึ่งอาจจะมาก
00:11:17 → 00:11:21 กว่าสามีภรรยาก็ได้นะทีเนี้ยดารา 2 คน
00:11:21 → 00:11:24 เนี้ยที่ผมอยากจะให้ตั้งข้อสังเกตก็คือ
00:11:24 → 00:11:27 ค่ะพอเ้ามีปัญหากันเนี่ยคดารา 2 คนนี้
00:11:27 → 00:11:33 ต่างคนต่างมี FC อ่าต FC ตีกันใช่ด้วยใช่
00:11:33 → 00:11:39 FC ก็มาคนนี้คือ FC คือใคร FC ของคนนี้
00:11:39 → 00:11:42 ก็จะเข้าข้างคนนี้ใช่ FC ของ A ก็จะเข้า
00:11:42 → 00:11:46 ข้างแต่ a ใช่ FC ของ B ก็จะเข้าข้างแต่ B
00:11:46 → 00:11:49 ค่ะแล้วผมก็ตามข่านี้ผมก็เห็นแล้วก็เข้า
00:11:49 → 00:11:52 มาเขียนเลย FC ก็เข้ามาคอมเมนต์นะว่าแล้ว
00:11:52 → 00:11:57 เใช้คำว่าเป็นทีมทีม a ทีม B ค่ะนั่นหมาย
00:11:57 → 00:11:59 ความว่าอะไรหมายความว่า
00:11:59 → 00:12:01 ความ
00:12:01 → 00:12:05 สัมพันธ์ของคน 2 คนที่มีปัญหาเนี่ย
00:12:05 → 00:12:09 อืบางทีเนี่ยคนแวดล้อม
00:12:09 → 00:12:13 อ่ะนั่นแหละเป็นตัวทำให้บางทีสถานการณ์
00:12:13 → 00:12:18 แย่ลงใช่ใช่เพราะว่าหลับหูหลับตาแบบ
00:12:18 → 00:12:21 เชียร์กันไปโดยที่ไม่ได้ไม่ได้ดูความเป็น
00:12:21 → 00:12:23 กลางหรือไม่ไม่มีความเป็นกลางเลยแหละใช่
00:12:23 → 00:12:26 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะเออค่ะใช่มั้ยฮะ
00:12:26 → 00:12:29 ใช่งั้นผมก็เลยมีความรู้สึกว่ากรณีอย่าง
00:12:29 → 00:12:31 เงี้ยเวลาที่เราดูข่าวแล้วมันเห็นอย่าง
00:12:31 → 00:12:34 เงี้ปุ๊บเนี่ยผมว่ามันจะเราจะได้ประโยชน์
00:12:34 → 00:12:38 มากเลยถ้าข้อแรกนะอค่ะเราไม่โดนเหวี่ยงไป
00:12:38 → 00:12:43 ตามกระแสอืแล้วก็ไหลไปกับเค้าว่าเราเป็น
00:12:43 → 00:12:48 ทีม a หรือ B อย่างเงี้ยอืคนคนสมัยนี้
00:12:48 → 00:12:52 หลวมตัวง่ายอืนะคะเข้าไปสู่เหตุการณ์ที่
00:12:52 → 00:12:55 ไม่ใช่เกี่ยวกับตัวเองเลยอ่ะอืง่ายมากอื
00:12:55 → 00:12:59 นะคะซึ่งจริงๆอย่างที่เราตั้งต้นว่าจริงๆ
00:12:59 → 00:13:02 มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคน 2 คนอ
00:13:02 → 00:13:05 แต่ปรากฏว่าคุณน่ะเอาตัวเข้าไปแล้วก็ไป
00:13:05 → 00:13:08 ด่าไปนู่นไปนี่แล้วมันพัวพันมาถึงตัวเอง
00:13:08 → 00:13:13 โดนฟ้องโดนอะไรซึ่งเกเห็นเยอะมากอทีนี้
00:13:13 → 00:13:17 ถ้าเรามีสติอ่ะเราบอกว่าเนี่ยคือ 2 คนมี
00:13:17 → 00:13:21 ปัญหาแล้วเราไม่รู้เลยว่าอคือเราไม่มีวัน
00:13:21 → 00:13:25 รู้ครบทุกเรื่องอว่าอะไรรายละเอียดของ
00:13:25 → 00:13:28 ปัญหานั้นใช่มันต้องเป็นเรื่องของคน 2 คน
00:13:28 → 00:13:32 ใช่เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ของคน 2 2 คน
00:13:32 → 00:13:35 น่ะมันคือตัวตั้งต้นอืถ้าคุณเริ่มความ
00:13:35 → 00:13:38 สัมพันธ์ของคุณ
00:13:38 → 00:13:41 ดีมันก็จะไม่เกิดปัญหาฮะแล้วก็มันก็จะไม่
00:13:41 → 00:13:45 ต้องคนอื่นน่ะถ้ามีสติไม่ไปยุ่งกับปัญหา
00:13:45 → 00:13:48 ชาวบ้านคุณก็ไม่ต้องเกิดปัญหากลับมาที่
00:13:48 → 00:13:51 ตัวของคุณ่ใช่เออแล้วบังเอิญอีกเหมือนกัน
00:13:51 → 00:13:55 พี่อ้อยเมื่อค่ะไม่นานมานี้เองผมเพิ่งไป
00:13:55 → 00:13:59 ทำเป็นทำคอร์สสัมมนาให้กับ
00:13:59 → 00:14:02 กลุ่มๆ่นึงนะค่ะหัวข้อสัมมนาก็เป็นเรื่อง
00:14:02 → 00:14:05 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในกลุ่มนี้แหละอื
00:14:05 → 00:14:07 หมายถึงเค้าจะต้องอยู่ร่วมกันเป็นเป็น
00:14:07 → 00:14:10 หมู่คณะเนี่ยพี่อ้อยเป็นอาจจะเป็นบริษัท
00:14:11 → 00:14:13 ก็ได้เนี่ยนะค่ะแล้วเค้าก็ประมาณอย่างนี้
00:14:13 → 00:14:16 เลยว่าเวลาที่คนหมู่หมู่มากรวมกันเนี่ย
00:14:16 → 00:14:19 พี่อ้อยอยู่ร่วมกันปุ๊บมันก็ต้องมีปัญหา
00:14:19 → 00:14:23 แบบเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเห็นตางชอบไม่
00:14:23 → 00:14:26 เหมือนกันเอ่อหรือไม่ก็หมั่นไส้กันหรือ
00:14:26 → 00:14:29 ไม่ก็มีการกระทบกระทั่งกันออะไรอย่าง
00:14:29 → 00:14:32 เงี้ยเก็เลยจัดคอร์สอบรมเนี้ยเรื่อง
00:14:32 → 00:14:35 เกี่ยวกับการมีเคใช่คำว่าเป็นการมีชีวิต
00:14:35 → 00:14:39 อยู่ในสังคมรวมกันค่ะอย่างมีความสุขเออ
00:14:39 → 00:14:43 อย่างงี้ดีกว่าแล้วเก็มีคำถามว่าแล้วเวลา
00:14:43 → 00:14:47 ที่เรามีคนบางคนเเนี่ยที่ที่ทำตัวไม่ถูก
00:14:47 → 00:14:50 ต้องแล้วมามากระทบกระทั่งเราอ่ะอือหรือ
00:14:50 → 00:14:53 เรามีคนบางคนน่ะเป็นถ้าเป็นภาษาแบบนัก
00:14:53 → 00:14:55 วิชาการหน่อยเเรียกว่าเป็น difficult
00:14:55 → 00:14:59 People นะอเป็นตัวตัวป่วนน่ะใน
00:14:59 → 00:15:02 บางคนใช้คำว่าทิอะไรงเออคนที่เป็นแบบเป็น
00:15:02 → 00:15:06 พิษอ่ะนะเออในในสังคมในหมู่บ้านเราในใน
00:15:06 → 00:15:09 ชุมชนชุมชนของเราหรือในบริษัของเราเนี่ย
00:15:09 → 00:15:13 ทำยังไงอือเราจะจัดการกับคนแบบนี้ยังไงนะ
00:15:13 → 00:15:16 ฮะตอนนี้เนี่ยกรณีอย่างนี้นะพี่อ้อยถ้า
00:15:16 → 00:15:20 พูดถึงผัวเมียรเหียดใจเนี่ยนะก็คืออะไร
00:15:20 → 00:15:24 ต่างคนต่างเป็นพิษต่อกันน่ะอ่าแล้วจะแก้
00:15:24 → 00:15:28 ปัญหายังไงเออค่ะผมก็เข้าไปทำเนี่ยผมก็
00:15:28 → 00:15:31 บอกว่าอย่างงี้ค่ะผมก็บอกเบอก
00:15:31 → 00:15:35 ว่าผมตั้งคำถามว่าตอนนี้นะให้แต่ละคนลอง
00:15:35 → 00:15:39 นึกถึงคนๆนั้นในอือในชีวิตเราเลยค่ะยกมา 1
00:15:40 → 00:15:43 คนเลยค่ะเค้าก็นึกผมถามว่านึกออกมั้ยมี
00:15:43 → 00:15:47 อยู่คนนึงเบอกหัวเราะบอกนึกออกเยอะเลยผม
00:15:47 → 00:15:49 บอกงั้นเลือกมาแค่คนเดียวอือคนเดียวเสร็จ
00:15:49 → 00:15:54 ปุ๊บผมก็ถามคำถามต่อว่าอืออ้าวลองนึกดูซิ
00:15:54 → 00:15:58 ว่าคนๆนั้นเนี่ยที่เค้าเป็นพิษต่อเรา
00:15:58 → 00:16:03 เนี่ยอืพฤติกรรมเาเคทำอะไรออเออเค้าเพูด
00:16:03 → 00:16:05 อะไรเคทำอะไรหรือว่าเคมีพฤติกรรมยังไงกับ
00:16:05 → 00:16:08 เราเคทำเหตุการอะไรกับเราก็ให้นึกๆๆขึ้น
00:16:08 → 00:16:11 มาเลยค่ะทุกคนก็นึกๆๆๆเสร็จปึ๊บคผมก็ถาม
00:16:11 → 00:16:15 คำถามอีกคำถามนึงบอกว่าไหนเราลองนึกดูสิ
00:16:15 → 00:16:19 ว่าการที่เขาพูดแบบนั้นเคแสดงออกแบบนั้น
00:16:19 → 00:16:23 หรือเขามีพฤติกรรมแบบนั้นเนี่ยอค่ะเรา
00:16:23 → 00:16:24 เนี่ยมี
00:16:24 → 00:16:29 ส่วนต้องรับผิดชอบหรือเราเป็นต้น
00:16:29 → 00:16:33 เหตุในประในประเด็นไหนหรือไม่ที่ทำให้เขา
00:16:33 → 00:16:36 แสดงออกแบบนั้นอือฮึพูดง่ายๆ
00:16:36 → 00:16:40 ว่าผมจะไม่ได้บอกว่าเค้าเป็นอย่างงั้น
00:16:40 → 00:16:44 เนี่ยเราจะไปเปลี่ยนเค้ายังไงไม่อืผมถาม
00:16:44 → 00:16:47 ว่าให้เา้าเป็นแบบนั้นเลยค่ะเราเนี่ยมี
00:16:48 → 00:16:52 ส่วนต้องรับผิดชอบใดๆหรือไม่อ่าฮะกับ
00:16:52 → 00:16:55 พฤติกรรมของเาค่ะเนี่ยถ้าพูดถึงอย่างนี้
00:16:55 → 00:16:57 ปุ๊บพี่ว่าคิดว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ
00:16:57 → 00:17:01 คือคนส่วนใหญ่เนี่ยจะมองจออกไปจากตัวอ
00:17:02 → 00:17:05 เค้าไม่ดีเค้าผิดเค้ามาทำผมก่อนเค้ากลั่น
00:17:05 → 00:17:09 แกล้งเค้าเอาหน้าอะไรก็ตามเนี่ยแต่ว่าไม่
00:17:09 → 00:17:11 เคยมองกลับมาอย่างที่พี่หวีถามเมื่อกี้
00:17:11 → 00:17:15 ว่าอเรามีส่วนหรือเป็นต้นเหตุในประเด็นใด
00:17:15 → 00:17:19 บ้างหรือเปล่าอืแล้วก็เลยไม่ได้แก้ไขที่
00:17:19 → 00:17:21 ตัวเองไม่ได้คิดว่าจะแก้ไขตัวเองเพราะ
00:17:21 → 00:17:24 ฉะนั้นเนี่ยตราบใดที่เราชี้ออกไปที่คน
00:17:24 → 00:17:27 อื่นเนี่ยเราก็จะไม่ได้แก้ไขอะไรมันก็จะ
00:17:27 → 00:17:30 มีแต่การทะเลาะเบาะแว้งบาดหมางเพิ่มขึ้น
00:17:30 → 00:17:34 ก็ักขึ้นเรื่อยๆค่ะแล้วมีผู้มีผู้เข้าอบ
00:17:34 → 00:17:37 รมคนนึงเยกมือถามบอกว่าค่ะอ้าวแล้วอย่าง
00:17:37 → 00:17:40 งี้มันเค้าไม่ต้องแก้เหรอบอกถ้าเค้าต้อง
00:17:40 → 00:17:43 แก้เค้าก็ต้องแก้แต่ตอนนี้วางอันนั้นไว้
00:17:43 → 00:17:47 ก่อนคำถามที่บอกว่าค่ะสิ่งที่เกิดขึ้น
00:17:47 → 00:17:51 เนี่ยเรามีส่วนให้เกิดอันนั้นหรือไม่
00:17:51 → 00:17:55 เนี่ยค่ะถ้าเราเจอนะพี่อ้อยผมบอกเว่าถ้า
00:17:55 → 00:17:59 เราเจอนะคค่ะเราก็จะจัดการในส่วนของของ
00:17:59 → 00:18:03 เราใช่แล้วสถานการณ์จะดีขึ้นค่ะแล้วผมก็
00:18:03 → 00:18:05 ยกตัวอย่างอันนึงให้เค้าเห็นนะพี่อ้อย
00:18:05 → 00:18:07 ซึ่งมันจะได้ชัดเจนก็คือเผอิญผมมีลูก
00:18:07 → 00:18:09 ศิษย์
00:18:09 → 00:18:12 เอ่ออยู่ในเรือนจำอืลูกศิษย์อยู่ในเรือน
00:18:12 → 00:18:15 จำเสร็จแล้วมีอยู่วันนึงลูกศิษย์กลุ่มนึง
00:18:15 → 00:18:20 ก็จะได้รับการปล่อยได้รับอิสรภาพละอืจะจะ
00:18:20 → 00:18:22 ถูกปล่อยตัวกลับบ้านละค่ะแล้ววันนั้น
00:18:22 → 00:18:25 เนี่ยผมก็เข้าไปบรรยายพอดีค่ะผู้บัญชาการ
00:18:25 → 00:18:30 เรือนจำก็บอกว่าอยากให้ผมอ่ะบรรยายให้กับ
00:18:30 → 00:18:32 ผู้ต้องขังกลุ่มเนี้ยเป็นครั้งสุดท้าย
00:18:32 → 00:18:35 ก่อนที่จะออกไปรับอิสรภาพกลับ
00:18:35 → 00:18:38 บ้านแล้ววันนั้นเป็นการบรรยายที่สำหรับผม
00:18:38 → 00:18:40 นี่เป็นการบรรยายที่มีความสุขมากเลยนะพี่
00:18:40 → 00:18:43 ออยเพราะว่าพอบรรยายจบนะก็จะกลับบ้านใช่
00:18:43 → 00:18:46 มั้ยฮะค่ะแล้วก็เดินออกมาจากเรินจำเนี่ย
00:18:46 → 00:18:48 ค่ะวันนั้นเนี่ยคือเดินออกมาพร้อมลูก
00:18:48 → 00:18:52 ศิษย์อ่ะอืค่ะเค้าได้รับอิรภาพตอนนั้นเลย
00:18:52 → 00:18:55 เลยเลยอู้ยมีความสุขอ่ะเนี่ยแต่ว่าวัน
00:18:55 → 00:18:57 นั้นนี่ผมบอกลูกศิษย์ว่าอะไรรู้มั้ยพี่
00:18:57 → 00:19:00 อ้อยบอกว่าพวพวกคุณลองนึกดูว่าวันนี้คุณ
00:19:00 → 00:19:02 จะได้รับอิสรภาพแล้วจะกลับบ้านแล้วอืแล้ว
00:19:03 → 00:19:05 เวลาที่คุณกลับบ้านไปออกไปจากสังคมออกไป
00:19:05 → 00:19:09 จากที่นี่เนี่ยไปสู่สังคมอ่ะค่ะคุณคิดว่า
00:19:09 → 00:19:12 คนข้างนอกเนี่ยเขาจะต้อนรับคุณเหมือนเดิม
00:19:12 → 00:19:17 แบบปกติมั้ยอืไม่เ้าบอกไม่อือทุกคนก็จะ
00:19:17 → 00:19:21 มองคุณแล้วก็จะมีแบบว่ามีอคติในใจว่าไอ้
00:19:21 → 00:19:26 เนี่ยขี้คุกอันนี้มาจากคุกอใช่แล้วเขาก็
00:19:26 → 00:19:29 จะไม่ปฏิบัติกับเราเหมือนปกติเหมือนเดิม
00:19:29 → 00:19:33 เขาจะไม่ไว้ใจเราเหมือนเดิมอค่ะพอผมบอก
00:19:33 → 00:19:36 งี้ปุ๊บเนี่ยผมก็ถามลูกศิษย์ผมว่าถ้าเขา
00:19:36 → 00:19:40 เป็นแบบนั้นเนี่ยเค้าผิดมั้ยออือคนข้าง
00:19:40 → 00:19:42 นอกอ่ะถ้าเกิดเขาไม่ไว้ใจเราอ่ะเหมือน
00:19:42 → 00:19:46 เดิมอ่ะเคผิดมั้ยอค่ะรู้สึกก็บอกก็ไม่ผิด
00:19:46 → 00:19:49 เพราะอะไรก็เพราะเราเป็นอย่างงั้นจริงๆไง
00:19:49 → 00:19:51 เอเราออกมาจากเรือนจำจริงๆเราออกมาจากคุก
00:19:51 → 00:19:55 จริงๆเราเคยทำความผิดจริงค่ะงั้นถ้าเขา
00:19:55 → 00:19:57 ไม่ไว้ใจเราเหมือนเดิมเคก็ไม่ผิดใช่มั้ย
00:19:57 → 00:19:59 อือ่าโอเค
00:19:59 → 00:20:02 แต่ว่าเราเนี่ยกำลังจะกลับตัวแล้วเราจะ
00:20:02 → 00:20:06 ตั้งใจใหม่ละออือเราผิดมั้ยอืไม่ผิดเรา
00:20:06 → 00:20:09 เคยพลาดแต่เราตั้งใจจะกลับตัวใหม่เราก็
00:20:09 → 00:20:11 ไม่ผิดอีกเพราะฉะนั้นผมก็เลยบอกลูกศิษย์
00:20:11 → 00:20:14 บอกว่าเราก็ออกไปเนี่ยเพราะฉะนั้นอะไรก็
00:20:14 → 00:20:17 ได้เราเจออะไรก็ได้ใครทำอะไรกันก็ได้
00:20:17 → 00:20:21 เนี่ยนะอือเราก็ไม่ต้องไปหาว่าใครผิดอื
00:20:21 → 00:20:23 แต่ถ้าเราตั้งใจจะกลับตัวเรามีหน้าที่
00:20:23 → 00:20:27 อย่างเดียวคือพิสูจน์ตัวอืผมบอกเค้าอย่าง
00:20:27 → 00:20:29 งี้นะพี่ห้อยครับค่ะเสร็จแล้วก็มีลูก
00:20:29 → 00:20:33 ศิษย์คนนึงครับพี่อ้อยเค้าก็บอกบอกว่า
00:20:33 → 00:20:37 หลังจากนั้นเค้าก็โทรมาหาผมนะเบอกว่า
00:20:37 → 00:20:38 อาจารย์ครับผมมีความรู้สึกผมอยากจะกลับ
00:20:39 → 00:20:42 ตัวเป็นคนดีละอือย่างนึงที่ผมตั้งใจจะทำ
00:20:42 → 00:20:47 ก็คือคนดีต้องไม่โกหกอืค่ะเาตั้งใจว่าเข
00:20:47 → 00:20:50 จะไม่โกหกอือฮึแล้วเก็ไปแล้วเก็ไปสมัคร
00:20:50 → 00:20:54 งานพี่ย้อยเ้ามีความสามารถพิเศษก็คือเขาค
00:20:54 → 00:20:57 เป็นช่างซ่อมรถอืแล้วเคก็ไปสมัครงานที่
00:20:57 → 00:21:00 อู่แล้วอู่ปู่ก็สัมภาษณ์ว่าอ้าวมี
00:21:00 → 00:21:03 ประสบการณ์ทำอะไรมาบ้างมาจากที่ไหนก่อน
00:21:03 → 00:21:06 หน้าเมาจากไหนเนี่ยคราวนี้คนดีตัวไม่โกหก
00:21:06 → 00:21:10 ไงพี่อ้อยค่ะเค้าก็ตอบไปว่าผมเพิ่งมาจาก
00:21:10 → 00:21:14 คุกครับอืพี่อ้อยว่าอู่จะรับมั้ยไม่รับ
00:21:14 → 00:21:18 ไม่รับเพราะอะไรเพราะว่าเอ้ามาจากคุกใช่
00:21:18 → 00:21:20 เคก็ระแวงแล้วไงเค้าก็เลยไม่รับพอไม่รับ
00:21:20 → 00:21:21 เสร็จ
00:21:21 → 00:21:26 ปึ๊บเค้าก็ไปสมัครอู่ที่ 2 อืคนดีต้องไม่
00:21:26 → 00:21:30 โกหกครับอู่ก็ถามมาจากไหนมาจากคุกอืเนี่ย
00:21:30 → 00:21:34 อู่ที่ 1 ก็ไม่รับ 2 ไม่รับ 3 ไม่รับ 4
00:21:34 → 00:21:38 ไม่รับ 5 ไม่รับ 6 ไม่รับ 7 ไม่รับโอ 8
00:21:38 → 00:21:41 ไม่รับ 9 ไม่รับ 10 ไม่รับ
00:21:41 → 00:21:44 อ๋อผมเล่าเรื่องนี้ในที่สัมมนาเมื่อวัน
00:21:44 → 00:21:47 ก่อนนั้นน่ะแล้วผมก็บอกว่าพวกเราเห็นมั้ย
00:21:47 → 00:21:51 ครับว่าเวลาที่เราดูข่าวแล้วผู้ต้องขังคน
00:21:51 → 00:21:54 นึงทำความผิดอืแล้วเคก็ทำความผิดซ้ำแล้ว
00:21:54 → 00:21:57 กลับเข้ามาในคุกใหม่เราจะบอกว่าอะไรเห็น
00:21:57 → 00:22:01 ป่ะอือืใช่เราก็ไปตำหนิเค้าใช่มั้ยใช่ๆ
00:22:01 → 00:22:05 แล้วผมบอกว่าผมถามว่าการที่ผู้ต้องขังคน
00:22:05 → 00:22:08 นึงทำความผิดพ้นโทษแล้วเก็ทำความผิดซ้ำ
00:22:08 → 00:22:12 เนี่ยค่ะเรามีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการทำ
00:22:12 → 00:22:13 ความผิดซ้ำของเขา
00:22:14 → 00:22:18 มั้ยถ้าทั่วไปมองก็บอกไม่มีมันเลวเองไม่
00:22:18 → 00:22:21 เกี่ยวกับเรานี่ไงเห็นป่ะค่ะแต่เคสนี้อ่ะ
00:22:21 → 00:22:24 เรามีมั้ยมีส่วนรับผิดชอบมั้ยมีมีเพราะ
00:22:25 → 00:22:28 ว่าอะไรไม่ให้โอกาสเไม่ให้โอกาสเขไงอใช่
00:22:28 → 00:22:31 ป่ะแต่เผอิญโชคดีที่ลูกศิษย์ผมเนี่ยพี่
00:22:31 → 00:22:36 อ้อยอู่ที่ 11 รับโอหสาธุรับเพราะอะไรรู้
00:22:36 → 00:22:40 มั้ยรับเพราะว่าเถ้าแก่บอกว่าชอบที่คุณ
00:22:40 → 00:22:44 ซื่อสัตย์อนี่ไงก็เลยโชคดีไงแต่ว่าผมยก
00:22:44 → 00:22:46 ตัวอย่างนี้เนี่ยเพื่อให้เห็นว่ามัน
00:22:46 → 00:22:50 เกี่ยวอะไรกับผัวเมียอะไรเหใจค่ะก็คือ
00:22:50 → 00:22:52 เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคน 2
00:22:52 → 00:22:55 คนอถ้าใครสักคนนึงมีพฤติกรรมไม่พึง
00:22:56 → 00:22:59 ประสงค์กับเราอืก่อนที่จะที่ไปบอกว่าเรา
00:22:59 → 00:23:02 จะเปลี่ยนนเค้ายังไงนะอือคำถามนี้สำคัญ
00:23:02 → 00:23:05 มากก็คือคุณจะเปลี่ยนตัวเองยังไงเรามี
00:23:05 → 00:23:09 ส่วนรับผิดชอบยังไงที่เ้าทำแบบนั้นน่ะออื
00:23:10 → 00:23:16 อือซึ่งไม่มากก็น้อยเรามีส่วนอืค่ะถ้าเรา
00:23:16 → 00:23:19 หาเจอนะเราจะไม่อยู่ในอาการละเหียใจไม่
00:23:19 → 00:23:24 ว่าใครใช่มั้ยฮะเพราะเราจะแก้ไขใช่อื
00:23:24 → 00:23:26 อย่างพอพอเป็นอย่างงี้เนี่ยพี่อ้อยผมจะพา
00:23:26 → 00:23:32 ย้อนกลับไปที่เอ่อเฮียที่สอนขับรถน่ะอื
00:23:32 → 00:23:35 ถ้าคนได้ยินเรื่องนี้ก็จะบอกว่าโหเฮียมัน
00:23:35 → 00:23:40 เลวจริงๆอือใช่ป่ะค่ะแล้วเอ่อเค้าอะไรนะ
00:23:40 → 00:23:44 ภรรยาเค้าน่าสงสารจังเลยเงี้ยอืแต่คำถาม
00:23:44 → 00:23:49 ก่อนก็ไม่รู้เราไม่รู้อือแต่ว่าคำถามอีก
00:23:49 → 00:23:52 อันคำถามนึงก็คือออันนี้เราไม่ได้เข้า
00:23:52 → 00:23:55 ข้างใครค่ะแต่ทั้งสามีและภรรยาเราก็จะถาม
00:23:55 → 00:23:58 คำถามเดียวกันว่าก่อนจะมาจุดถึงจุดจุด
00:23:58 → 00:24:01 เนี้ยมันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอือแล้ว
00:24:01 → 00:24:04 แต่ละคนเนี่ยพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
00:24:04 → 00:24:07 เนี่ยเรามีส่วนรับผิดชอบอย่างไงหรือไม่
00:24:07 → 00:24:10 ค่ะคืออันนี้เราไม่ได้พูดเพื่อเข้าข้าง
00:24:10 → 00:24:13 ใครเลยนะค่ะแต่ว่าโดยธรรมชาติก็คือไอ้
00:24:13 → 00:24:16 ความละเหตใจมันเกิดจากความบาดหมางระหว่าง
00:24:16 → 00:24:20 คน 2 คนอืใช่ก่อนหน้านี้สิ่งที่เราทำก็จะ
00:24:20 → 00:24:24 มีแต่ว่าจะไปแก้ไขอีกฝ่ายอีกฝ่ายหนึ่งยัง
00:24:24 → 00:24:29 ไงออือลองถามคำถามใหม่อืว่าพฤติกรรมที่
00:24:29 → 00:24:32 ไม่พึงประสงของเเนี่ยอือเรามีส่วนต้องรับ
00:24:32 → 00:24:37 ผิดชอบหรือไม่ก็คือลดความเชื่อมั่นในตัว
00:24:37 → 00:24:42 เองยึดมั่นตัวเองอืลงอือแล้วก็ดูซิว่า
00:24:42 → 00:24:43 อะไรที่
00:24:44 → 00:24:48 อ่าเป็นสิ่งที่ดีในอีกฝ่ายหนึอ่ะค่ะเราก็
00:24:48 → 00:24:51 รู้จักให้คุณค่ากับสิ่งนั้นใช่แล้วก็พอ
00:24:51 → 00:24:54 ความสัมพันธ์มันดีอ่ะอปัญหามันก็จะลดน้อย
00:24:54 → 00:24:59 ลงนะคะไม่ไม่ไม่ก่อให้บานปลายใช่ๆเพราะ
00:24:59 → 00:25:01 ฉะนั้นความละเหียใจมันก็จะมันก็จะไม่เกิด
00:25:01 → 00:25:05 ขึ้นไม่เกิดขึ้นนะฮะใช่ก็จริงๆวันนี้อาจ
00:25:05 → 00:25:08 จะไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายของกรณีของความ
00:25:08 → 00:25:11 สัมพันธ์ระหว่างคน 2 คนนะครับเพราะว่าอีก
00:25:11 → 00:25:13 อย่างหนึที่ผมมีทัศนคติเรื่องเกี่ยวกับ
00:25:13 → 00:25:16 ความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คนก็คืออือต่าง
00:25:16 → 00:25:20 คนต่างจะมาโยนว่าฝ่ายนู้นน่ะผิดอือฝ่าย
00:25:20 → 00:25:23 นู้นน่ะเลวอือแต่ว่าผมมีความเชื่อว่าถูก
00:25:23 → 00:25:27 ผิดเลวดีอ่ะมีครบในทุกคนแหละอือฮึแม้
00:25:27 → 00:25:31 กระทั่งผมด้วยนะฮะใช่ค่ะคือทุกคนมีหมดแต่
00:25:31 → 00:25:33 ถ้าเกิดพอมีเรื่องปุ๊บก็ชี้อีกฝ่ายนึงอ่ะ
00:25:33 → 00:25:37 แกเลวแกผิดอย่างเงี้ยอือก็มีแต่จะหนัก
00:25:37 → 00:25:42 ขึ้นอือแล้วก็ก็เปลี่ยนก็สถานการณ์นี้ก็
00:25:42 → 00:25:44 จะแก้ได้ด้วยคำถามที่ผมบอก่ะอือถึงแม้ว่า
00:25:44 → 00:25:48 เค้าจะเลวก็ได้เาจะผิดก็ได้แต่ความผิด
00:25:48 → 00:25:52 ความเลวของเค้าเนี่ยเรามีส่วนเป็นต้นเหตุ
00:25:52 → 00:25:55 ทำให้เกิดหรือไม่อืคำถามเนี้ยมันทำให้ได้
00:25:55 → 00:25:59 กลับมาทบทวนตัวเองใช่ๆดีมากๆเลยนะคะแล้ว
00:25:59 → 00:26:03 สถานการณ์มันก็จะน่าจะดีขึ้นเรบรรเทาใช่
00:26:03 → 00:26:06 อย่างน้อยก็แก้ไม่ได้แต่ก็จะไม่หนักขึ้น
00:26:06 → 00:26:09 อืนะฮะเราไม่ได้บอกว่าอีกฝ่ายเค้าไม่ผิด
00:26:09 → 00:26:12 อย่าไปโทษเค้าอย่าไปว่าเค้าเราไม่รู้อ่า
00:26:12 → 00:26:15 เราไม่รู้แต่ว่าเรารู้ในส่วนที่ตัวเองทำ
00:26:15 → 00:26:19 ทำทำได้ในที่ตัวเองแก้ไขใช่ใช่ครับก็
00:26:19 → 00:26:22 สันกรรมความสุขวันนี้โอ้โหเวลาเหมือนเดิม
00:26:22 → 00:26:25 นะครับพี่อ้อยผ่านไปอย่างรวดเร็วนะครับ
00:26:25 → 00:26:27 เร็วมากเร็วมากแต่ต้องบอกก่อนนะครับคุณ
00:26:27 → 00:26:28 ผู้ฟังครับ
00:26:28 → 00:26:31 อันนี้ไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายอืเพราะไม่
00:26:31 → 00:26:34 มีของคู่ไหนเหมือนคู่ไหนใช่เราก็ค่อยๆ
00:26:35 → 00:26:37 เรียนรู้แล้วค่อยๆปรับตัวไปนะครับสัญกรรม
00:26:37 → 00:26:40 ความสุขในวันนี้ผมพี่วีและพี่อ้อยต้องลา
00:26:40 → 00:26:43 ไปก่อนนะครับสวัสดีครับสวัสดี
00:26:44 → 00:26:47 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:26:47 → 00:26:50 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:26:50 → 00:26:52 spotify Sou Cloud Google podcast
00:26:52 → 00:26:55 Apple podcast และ YouTube Channel
00:26:55 → 00:27:00 Thai PBS podcast tai PBS podcast
00:27:00 → 00:27:02 View the world via The
00:27:02 → 00:27:10 [เพลง]
00:27:10 → 00:27:13 Voice