00:00:04 → 00:00:08 med cmu podcast fung for

00:00:08 → 00:00:11 Hell ัง for Health

00:00:11 → 00:00:14 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว

00:00:14 → 00:00:17 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์

00:00:17 → 00:00:21 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์

00:00:21 → 00:00:23 มหาวิทยาลัย

00:00:23 → 00:00:27 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว

00:00:27 → 00:00:30 เรา

00:00:30 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับคุณผู้ฟังทุกท่านนะคะ

00:00:33 → 00:00:36 เข้าสู่ฟัง for Health podcast ค่ะอีก

00:00:36 → 00:00:38 หนึ่งรายการดีๆจากคณะแพทยทยาศาสตร์

00:00:38 → 00:00:41 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เราพบกันเป็นประจำ

00:00:41 → 00:00:44 ทุกสัปดาห์นะคะก็จะได้มาพูดคุยเรื่องราว

00:00:44 → 00:00:46 เกี่ยวกับสุขภาพรวมไปถึงแบ่งปัน

00:00:46 → 00:00:48 ประสบการณ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะจาก

00:00:48 → 00:00:51 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ล่ะค่ะ

00:00:51 → 00:00:54 วันนี้คุณผู้ฟังอยู่กับทิปสมัชญาหนอล่า

00:00:54 → 00:00:56 นักประชาสัมพันธ์จากงานประชาสัมพันธ์คณะ

00:00:56 → 00:00:59 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะ

00:00:59 → 00:01:02 สำหรับสาวๆหรือว่าใครที่บอกว่าลดน้ำหนัก

00:01:02 → 00:01:06 มาทุกวิธีแล้วยังไม่ผอมมีความคิดอยากจะ

00:01:06 → 00:01:08 ผ่าตัดกระเพาะอาหารซะเลยนะคะเผื่อจะได้

00:01:09 → 00:01:11 ผอมทางลัดใครที่มีความคิดแบบนี้หรือใคร

00:01:11 → 00:01:14 ที่กำลังสนใจเรื่องนี้ฟังให้ดีค่ะเพราะ

00:01:14 → 00:01:17 วันนี้เราจะมาพูดคุยกันกับอาจารย์หมอว่า

00:01:17 → 00:01:20 การผ่าตัดกระเพาะอาหารสามารถทำได้ทุกคน

00:01:20 → 00:01:22 หรือเปล่านะคะแล้วทำแล้วมันจะมีผลดีผล

00:01:22 → 00:01:25 เสียต่อร่างกายเราอย่างไรบ้างและที่สำคัญ

00:01:25 → 00:01:29 สามารถลดน้ำหนักได้จริงไหมนะคะเดี๋ยววัน

00:01:29 → 00:01:31 นี้พูดคุยกันกับอาจารย์หมอค่ะขอต้อนรับ

00:01:31 → 00:01:34 ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงกนกการเทพ

00:01:34 → 00:01:37 มาลัยท่านเป็นอาจารย์หน่วยกุมารสารยศภาค

00:01:37 → 00:01:40 วิชาสารยศคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย

00:01:40 → 00:01:43 เชียงใหม่อาจารย์สวัสดีค่ะค่ะสวัสดีทุกคน

00:01:43 → 00:01:47 ค่ะโอ้โหวันนี้พอเห็นหน้าอาจารย์ปุ๊บผอม

00:01:47 → 00:01:48 ขึ้นมาเลยค่ะ

00:01:48 → 00:01:51 อาจารย์วันนี้อย่างที่บอกว่าเราจะคุยกัน

00:01:51 → 00:01:54 เรื่องของการผ่าตัดกระเพาะอาหารค่ะหลายคน

00:01:54 → 00:01:58 อาจจะสนสนใจประเด็นนี้ค่ะอาจารย์ว่าผ่า

00:01:58 → 00:02:00 แล้วมันผอมจริงมั้คะ

00:02:00 → 00:02:03 ผาแล้วก็ต้องผอมจริงสิคะเพราะว่าเราเรา

00:02:03 → 00:02:06 เหมือนกับเป็นการลงทุนที่สูงเนาะเพราะว่า

00:02:07 → 00:02:11 เราจะต้องทำการอ่าตัดกระเพาะของเราออกไป

00:02:11 → 00:02:14 เพื่อที่จะทำให้เราลดน้ำหนักได้เนาะค่ะอื

00:02:14 → 00:02:18 พูดถึงการผ่าตัดกระเพาะอาหารค่ะอาจารย์ใน

00:02:18 → 00:02:22 ทางการแพทย์เราสามารถทำให้กับทุกคนได้

00:02:22 → 00:02:25 มั้ยคะหรือว่าเราทำให้คนกลุ่มไหนบ้างคะ

00:02:25 → 00:02:28 ค่ะก็คือจริงๆแล้วเราต้องปูพื้นก่อนว่าคน

00:02:28 → 00:02:31 ที่เขามีความอ้วนเนี้ยมันก็จะปัจจุบัน

00:02:31 → 00:02:35 เนี่ยในทั่วโลกเนี่ยเขาบรรจุโรคอ้วนเป็น

00:02:35 → 00:02:38 โรคเนาะไม่มันไม่ใช่ว่าแบบเป็นภาวะอ้วน

00:02:38 → 00:02:41 แบบว่าเห็นคนอ้วนอย่างงั้นไม่ใช่เนาะคะ

00:02:41 → 00:02:43 เขาถือว่ามันเป็นโรคเนื่องจากว่าถ้าเรามี

00:02:43 → 00:02:46 ภาวะอ้วนนานๆเนี่ยมันก็จะส่งผลทำให้เรา

00:02:46 → 00:02:49 กลายเป็นมีภาวะเบาหวานมีภาวะความดันสูงมี

00:02:49 → 00:02:52 ภาวะอ่าไขมันในเลือดสูงหรือบางคนก็เป็น

00:02:52 → 00:02:55 เส้นเลือดในสมองตีบแตกตันได้ถูกมั้ยเพราะ

00:02:55 → 00:02:59 ฉะนั้นเนี่ยค่ะมันก็เลยทำให้การที่เป็น

00:02:59 → 00:03:02 โรคอ้วอ้วนเนี่ยก็เลยทำให้สามารถที่เราทำ

00:03:02 → 00:03:06 การรักษาดได้นะคะแต่การที่จะรักษาโรคอ้วน

00:03:06 → 00:03:08 เนี่ยมันก็มีหลายประเด็นก็คือว่าอาจจะ

00:03:08 → 00:03:12 รักษาด้วยการอ่ารับประทานอาหารให้น้อยลง

00:03:12 → 00:03:15 ออกกำลังกายให้มากขึ้นหรือใช้ยาบางตัวแต่

00:03:15 → 00:03:18 ว่าคนที่เขาเหมาะสมสำหรับการที่จะมาทำการ

00:03:18 → 00:03:22 ผ่าตัดนั้นก็คือคนไข้จะต้องมีภาวะโรคอ้วน

00:03:22 → 00:03:26 ที่มีดัชนีมวลกายที่มากกว่า 37.5 ขึ้นไป

00:03:27 → 00:03:31 37.5 ก็คือเอาน้ำหนักเป็นกิโลกรัมหาร

00:03:31 → 00:03:34 ด้วยส่วนสูงยกกำลัง 2 ค่ะเขาเรียกว่า

00:03:34 → 00:03:37 ดัชนีมวลกายนะคะอค่ะเอาง่ายๆก็คือคนไข้

00:03:37 → 00:03:40 หนักราวๆ 100 กลนี่คือเข้าเกฑ์แน่ๆอยู่

00:03:40 → 00:03:43 แล้วโอหค่ะแต่ว่าคนที่น้ำหนักน้อยกว่า

00:03:43 → 00:03:46 นั้นก็ต้องคำนวณออกมาเป็นดัชนีมนตกายนะคะ

00:03:46 → 00:03:48 แต่ถ้าคนไข้เป็นเบาหวานหรือมีโรคร่วม

00:03:48 → 00:03:53 อย่างเช่นความดันการนอนหลับพวกอ่าไขมันใน

00:03:53 → 00:03:55 เลือดสูงหรือว่าเป็นโรคหัวใจอันนี้ก็คือ

00:03:55 → 00:03:59 ดัชีมนกายแค่ 32.5 ก็เข้าได้แล้วค่ะค่ะ

00:03:59 → 00:04:03 อ่ะก็ต้องดูเรื่องของน้ำหนักแล้วก็ปัจจัย

00:04:03 → 00:04:06 เสี่ยงอื่นๆก็คือโรคร่วมอื่นๆที่อาจจะมี

00:04:06 → 00:04:10 นะคะในคนๆนั้นแพทย์ก็จะเป็นผู้พิจารณาว่า

00:04:10 → 00:04:13 ควรที่จะทำการผ่าตัดหรือเปล่าอาจารย์เล่า

00:04:13 → 00:04:16 ให้ฟังักนิดนึงได้มั้ยคะว่าการผ่าตัด

00:04:16 → 00:04:19 กระเพาะอาหารมันจะต้องผ่าออกมากน้อยขนาด

00:04:19 → 00:04:22 ไหนแล้วมันจะต้องยังไงอ่ะค่ะจริงๆการผ่า

00:04:22 → 00:04:24 ตัดกระเพาะอาหารเนี่ยค่ะมันมีหลายแบบเนา

00:04:24 → 00:04:28 ค่ะแต่ว่าแบบที่คนรู้จักกันแล้วก็เป็นที่

00:04:28 → 00:04:31 นิยมมากก็คือการตัดเอากระเพาะออกไปราวๆ

00:04:31 → 00:04:34 75-80 per ของกระเพาะเนาะคะก็คือเราตัด

00:04:34 → 00:04:38 กระเพาะส่วนที่ยืดขยายได้ออกไปเหลือเป็น

00:04:38 → 00:04:40 ท่อเล็กๆที่สามารถรับประทานอาหารได้อยู่

00:04:40 → 00:04:44 ราวๆประมาณ 5-10 คำอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าก็

00:04:44 → 00:04:47 คือคนไข้จะไม่ค่อยรู้สึกหิวหรือไม่ค่อย

00:04:47 → 00:04:51 รู้สึกอ่าเค้าเรียกอะไรกินแค่ 5-10 คำก็

00:04:51 → 00:04:54 อิ่มละเนื่องจากว่าเราตัดต่อมหิวออกไป

00:04:54 → 00:04:57 ด้วยเนาะค่ะแต่มันจะมีการผ่าตัดอีกอีก

00:04:57 → 00:05:01 หลายๆแบบที่เเรียกเรียกว่าบพเนาะคะก็คือ

00:05:01 → 00:05:04 เราทำให้กระเพาะมีขนาดเล็กลงแยกกระเพาะ

00:05:05 → 00:05:07 ส่วนเล็กออกมาก็รับอาหารได้ราวๆ 5-10 ั้

00:05:07 → 00:05:10 เหมือนกันเนี่ยค่ะแต่ว่าเราเปลี่ยนแปลง

00:05:10 → 00:05:13 ทางเดินอาหารด้วยก็คือทำให้อาหารน่ะไหลลง

00:05:13 → 00:05:16 ไปในลำไส้เล็กได้อย่างรวดเร็วทำให้การดูด

00:05:16 → 00:05:20 ซึมน้อยลงมันก็จะมีการทำให้เราสามารถที่

00:05:20 → 00:05:23 จะอิ่มได้เร็วขึ้นแล้วก็อ่าดูดซึมได้น้อย

00:05:23 → 00:05:27 ลงก็ทำให้เราดูดซึมอ่าพวกพลังงานจากอาหาร

00:05:27 → 00:05:31 ได้น้อยลงด้วยค่ะอก็มี 2 แบบเนาก็คือ

00:05:31 → 00:05:35 ประมาณนี้คโอ้อาจารย์คะเอากระพอออกเยอะ

00:05:35 → 00:05:38 เหมือนกันนะคะถ้าพูดถึงประมาณ 70 กว่า

00:05:38 → 00:05:41 เปอร์เซ็นตแบบนี้สมมุติว่าเราผ่าตัดเสร็จ

00:05:41 → 00:05:44 แล้วกินข้าวจากเดิมเนี่ยกินประมาณซัก 40

00:05:44 → 00:05:48 คำแล้วกันค่ะเหลือเพียงแค่ 5-10 คำสาร

00:05:48 → 00:05:52 อาหารมันจะครบอยู่มคะอาจารย์อ่าก็คือว่า

00:05:52 → 00:05:55 ก็หลังจากที่เราทานได้น้อยลงแล้วก็จะแนะ

00:05:55 → 00:05:57 นำคนไข้เลยว่าหลังจากที่คุณผ่าตัดไปคุณก็

00:05:57 → 00:06:00 รับประทานอาหารเน้นพวกโปรตีน

00:06:00 → 00:06:02 ไม่ใช่ว่ากินแต่คาร์โบไฮเดรตเน้นข้าวหรือ

00:06:02 → 00:06:05 น้ำตาลหรือว่ามัวแต่ไปกินพวกน้ำหวานอย่าง

00:06:05 → 00:06:08 เงี้ยมันก็จะทำให้เราขาดสารอาหารเนคะค่ะ

00:06:08 → 00:06:11 เราก็จะเน้นโปรตีนให้กับคนไข้แล้วก็หลัง

00:06:11 → 00:06:13 ผ่าตัดเราก็จะแนะนำคนไข้ให้รับประทาน

00:06:13 → 00:06:16 โปรตีนเสริมกับรับประทานวิตมินเสริมที่

00:06:16 → 00:06:19 หมอจะจัดให้เนาะคะอ่าก็ต้องอยู่ในการดูแล

00:06:19 → 00:06:21 ของแพทย์เหมือนกันใช่ค่ะแล้วก็ไม่ต้องตก

00:06:21 → 00:06:23 ใจว่าเอ้ยเราจะมีพลังงานพอมเดี๋ยวเราจะ

00:06:23 → 00:06:25 เป็นลมหรือเราจะเป็นอะไรรือเปล่าคนไข้

00:06:25 → 00:06:28 ส่วนใหญ่ก็ชอบคิดแบบนี้เนาคะจริงๆก็คือ

00:06:28 → 00:06:30 มันเป็นการที่

00:06:30 → 00:06:33 บังคับให้ร่างกายของเราเนี่ยสลายไขมันใน

00:06:34 → 00:06:36 ร่างกายนั่นเองก็คือเอาพลังงานที่เราเก็บ

00:06:36 → 00:06:39 สะสมตลอดไว้ชั่วชีวิตนี่แหละไขมันในใต้

00:06:39 → 00:06:42 ผิวหนังของเราไขมันในตับออกไปใช้เป็นพลัง

00:06:42 → 00:06:45 งานเพราะฉะนั้นไม่มีทางที่คนไข้จะขาดสาร

00:06:45 → 00:06:48 อาหารหรือขาดพลังงานเลยก็เราก็จะเน้นให้

00:06:48 → 00:06:50 คนไข้รับประทานน้ำเนาะคะส่วนใหญ่จะขาดน้ำ

00:06:50 → 00:06:53 ก็รับประทานน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวันนี่ก็

00:06:53 → 00:06:56 คือดีมากค่ะอือารมณ์เหมือนการทำ Water

00:06:56 → 00:06:59 fasting อ่าประมาณนั้นค่ะก็คือน้ำก็จะไป

00:06:59 → 00:07:02 ช่วยในทำให้เราสดชื่นแล้วก็สลายไขมันออก

00:07:02 → 00:07:06 มาได้ดีขึ้นค่ะอ่าก็คือการอ่าใช้ไขมัน

00:07:06 → 00:07:09 เดิมพลังงานเดิมที่มีอยู่ในร่างกายนะคะใน

00:07:09 → 00:07:13 ช่วงที่มีการผ่าตัดกระเพาะนะคะอาจารย์คะ

00:07:13 → 00:07:16 การที่คนๆนึงอยู่ดีๆจะมาผ่าตัดกระเพาะ

00:07:16 → 00:07:20 อาหารเชื่อว่ามันน่าจะมีผลกระทบที่มัน

00:07:20 → 00:07:23 เกิดขึ้นพูดถึงข้อดีแล้วก็ข้อเสียให้ฟัง

00:07:23 → 00:07:25 สักนิดนึงได้มั้คะอาจารย์ก็คือคนที่มาทำ

00:07:26 → 00:07:28 การผ่าตัดไม่ใช่ว่ามาถึงวันนี้แล้วจะผ่า

00:07:28 → 00:07:31 พรุ่งนี้คือไม่ใช่เคเพราะว่าเนื่องจากว่า

00:07:31 → 00:07:33 เราก็ทราบอยู่แล้วว่าการผ่าตัดมันก็ต้อง

00:07:33 → 00:07:36 ดมยาสลบเนาะแล้วก็ต้องขึ้นเตียงผ่าตัด

00:07:36 → 00:07:38 เนาะแล้วก็มีแผลผ่าตัดแล้วก็ต้องตัด

00:07:38 → 00:07:41 กระเพาะออกอีกเพราะฉะนั้นน่ะมันก็เลยต้อง

00:07:41 → 00:07:44 ควบคุมให้คนไข้เนี้ยมีความปลอดภัยมากที่

00:07:44 → 00:07:47 สุดในการผ่าตัดแน่นอนมันมีความเสี่ยงอ่า

00:07:47 → 00:07:50 ทั้งในเรื่องของการดมยาสลบคนไข้ก็กังวล

00:07:50 → 00:07:52 ว่าเอ๊ะเราจะเสียชีวิตจากการผ่าตัดหรือ

00:07:52 → 00:07:54 เปล่าใช่มมคะเพราะฉะนั้นเราก็ต้องควบคุม

00:07:54 → 00:07:56 ว่าอย่างคนไข้เคยเป็นเบาหวานมาก่อนก็ต้อง

00:07:56 → 00:07:59 ควบคุมน้ำตาลให้ดีคนไข้เคยเป็นโรคหัวใจ

00:07:59 → 00:08:02 เป็นหัวใจวายเราก็ต้องควบคุมภาวะนั้นให้

00:08:02 → 00:08:04 ปลอดภัยก่อนเพราะฉะนั้นคนไข้ที่มาทำการ

00:08:04 → 00:08:07 ผักตัดกับหมอต้องใช้เวลาเตรียมตัวอย่าง

00:08:07 → 00:08:10 น้อยนะคะอย่างน้อยประมาณอยู่ที่ประมาณ 1-3

00:08:10 → 00:08:12 เดือนขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีโรคอะไรบ้าง

00:08:12 → 00:08:17 ค่ะถ้าคนไข้อ่าไม่ไม่มีโรคอะไรเลยก็คนไข้

00:08:17 → 00:08:19 ก็ได้รับการผ่าดตัดที่เร็วขึ้นแต่ถ้ามัน

00:08:19 → 00:08:21 มีโรคเราก็ต้องควบคุมเนาะใช้เวลาประมาณ

00:08:21 → 00:08:26 นั้นเสร็จแล้วในการผ่าตัดเราก็จะจะควบคุม

00:08:26 → 00:08:28 ให้ให้ปลอดภัยมากที่สุดอย่างเช่นคนไข้ก็

00:08:28 → 00:08:31 มีโอกาสอาจจะเกิดลิ่มเลือดอุตันได้เราก็

00:08:31 → 00:08:34 จะให้ยาป้องกันคนไข้ที่อ่าดมยาสลบแล้ว

00:08:34 → 00:08:38 กลัวจะมีภาวะหัวใจผิดปกติแล้วก็จะมีการ

00:08:38 → 00:08:42 อ่าอย่างเช่นใช้พวกอ่าเครื่องที่ที่

00:08:42 → 00:08:45 เกี่ยวกับการนอนหลับให้ให้ดีก่อนอย่าง

00:08:45 → 00:08:48 เงี้ยค่ะก็ทำให้ภาวะแทรกซ้อนมันน้อยลงมาก

00:08:48 → 00:08:50 ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โอกาสที่จะเสีย

00:08:50 → 00:08:53 ชีวิตจริงๆมันอยู่ที่ประมาณแค่ 1% เท่า

00:08:54 → 00:08:56 นั้นเองค่ะเพราะว่าเขาบอกว่าความเสี่ยง

00:08:56 → 00:08:58 ของการผ่าตัดอันเนี้ยมันเทียบเท่ากับการ

00:08:58 → 00:09:02 ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีเทียบเท่ากับการผัด

00:09:02 → 00:09:05 ตัดเอามดลูกออกประมาณนั้นค่ะค่ะก็คือน้อย

00:09:05 → 00:09:08 มากแค่ 1% อันนี้คือการเตรียมตัวก่อนที่

00:09:08 → 00:09:11 จะผ่าตัดก็ประมาณ 1-3 เดือนทีนี้หลังผ่า

00:09:11 → 00:09:14 ตัดแล้วคะอาจารย์ใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน

00:09:14 → 00:09:17 คะคือจริงๆต้องบอกว่าในต่างประเทศเองการ

00:09:17 → 00:09:21 ผ่าตัดอันเนี้ยทำเช้าเย็นกลับเนาะคะโอ้

00:09:21 → 00:09:24 อันนี้คือในในต่างประเทศเนาคะก็คือหมอ

00:09:24 → 00:09:27 เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเนาะก็คือในอเมริกา

00:09:27 → 00:09:30 คือผ่าเช้าเย็นกลับโอ้โหคนไข้ก็คือกลับ

00:09:30 → 00:09:33 บ้านเลยค่ะแต่ว่าหมอพยายามจะทำแบบนี้ในคน

00:09:34 → 00:09:37 ไทยแต่หมอคิดว่าอ่าตอนเนี้ยก็คือใช้เวลา

00:09:37 → 00:09:40 หลังจากผ่าตัดนอนโรงพยาบาลราวๆประมาณ 2

00:09:40 → 00:09:43 คืนค่ะคนไข้ก็อยู่ประมาณสัก 2 คืนแต่ว่า

00:09:43 → 00:09:46 โดยส่วนใหญ่ทั่วไปคนไข้ก็อยู่ประมาณ 3

00:09:46 → 00:09:49 คืนกันค่ะ 3-4 คืนกันก็คือถ้าคนไข้พร้อม

00:09:49 → 00:09:51 กลับเมื่อไหร่คือกลับได้เลยแต่ว่าหลังผ่า

00:09:51 → 00:09:56 ตัดปุ๊บคนไข้ลุกนั่งได้เลยในบางคนค่ะค่ะ

00:09:56 → 00:09:58 อีกวันก็คือเดินได้แล้วก็หมอให้รับประทาน

00:09:58 → 00:10:02 อาหารในในวันถัดไปได้เลยค่ะถ้าคนไข้พร้อม

00:10:02 → 00:10:04 ก็คือกลับบ้านได้แต่ถ้ายังไม่พร้อมก็คือ

00:10:04 → 00:10:07 อ่ารอสัก 2-3 วันค่อยกลับอย่างเงี้ยค่ะอ

00:10:07 → 00:10:09 ซึ่งร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันใช่

00:10:09 → 00:10:11 ค่ะต่างกันค่ะบางคนผ่าตัดเสร็จปุ๊บอาจจะ

00:10:11 → 00:10:14 กลับบ้านได้เลยแต่บางคนอาจจะมีอ่าภาวะ

00:10:14 → 00:10:17 แทรกซ้อนเล็กน้อยก็ก็ส่วนใหญ่ก็คืออืด

00:10:17 → 00:10:20 แน่นท้องปวดแผลแต่จริงๆแผลเราเล็กมาก

00:10:20 → 00:10:22 เพราะว่าเราใช้กล้องส่องนะคะก็จะมีแผล

00:10:22 → 00:10:26 ใหญ่สุดราวๆสัก 2 ซมอค่ะแผลอื่นก็อยู่ที่

00:10:26 → 00:10:29 ราวๆประมาณ 1 ซมเท่านั้นเองถือว่าเล็กมาก

00:10:29 → 00:10:32 ใช่ค่ะคนไข้ก็คือเจ็บน้อยพูดจริงๆแต่มัน

00:10:32 → 00:10:34 จะมีภาวะที่เป็นเราอัดแก๊สเข้าไปในช่อง

00:10:34 → 00:10:37 ท้องในช่วง 8 ชมถึง 12 ชั่วโมงแรกอาจจะ

00:10:38 → 00:10:40 อึดอัดหน่อยเนี่ยงค่ะแต่วันถัดไปก็จะ

00:10:40 → 00:10:43 เริ่มแบบสบายตัวขึ้นค่ะอ่าหลังจากที่เรา

00:10:43 → 00:10:46 ผ่าตัดเสร็จอาจารย์คะเราจะสามารถกลับมา

00:10:46 → 00:10:48 กินอาหารได้เหมือนเดิมมั้ยคะหรือว่าอาหาร

00:10:48 → 00:10:51 ที่จะต้องกินมันจะต้องเป็นแบบไหนคะคือ

00:10:51 → 00:10:54 อย่างที่บอกก็คือว่าเราตั้งใจจะลดน้ำหนัก

00:10:54 → 00:10:56 แล้วเราก็คงไม่ไม่กลับไปกินบุฟเฟ่ต์หรือ

00:10:57 → 00:11:00 ไม่กลับไปกินอ่าหมูกระทะชาบูซึ่งซึ่งเรา

00:11:00 → 00:11:02 ก็คือเวลาที่เราจะมาทำการผ่าตัดเราต้อง

00:11:02 → 00:11:05 คิดว่าเราจะเปลี่ยนแปลงจากคนอ้วนกลายเป็น

00:11:05 → 00:11:08 คนผอมออ่าเราเราต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตัว

00:11:08 → 00:11:10 เองไม่ใช่ว่าหวังว่าเราจะกลับกินข้าว 3

00:11:10 → 00:11:12 ชาเหมือนเดิมแล้วเราจะกลับมาผอมมันคงเป็น

00:11:13 → 00:11:17 ไปไม่ได้การผ่าตัดเนี่ยมันช่วยทำให้เราเา

00:11:17 → 00:11:19 เรียกว่าปรับตัวเองได้ง่ายขึ้นเพราะอะไร

00:11:19 → 00:11:22 เพราะว่าเราจะต้องกลายเป็นคนกินน้อยเพราะ

00:11:22 → 00:11:24 ว่าถ้าเรากินเกินกว่านั้นเราจะเริ่มอึด

00:11:24 → 00:11:27 อัดแน่นท้องอือ่าเราจะรู้สึกอึดๆแน่นๆ

00:11:27 → 00:11:30 แล้วก็บางคนก็ก็แบบไม่ไหวแล้วหมอต้อง

00:11:30 → 00:11:34 อาเจียนออกมาซึ่งอันเนี้ยก็คือมันมันมัน

00:11:34 → 00:11:36 เป็นการบอกว่าเฮ้ยอันเนี้ยคือเรากินเกิน

00:11:36 → 00:11:39 เงค่ะเพราะฉะนั้นหลังจากผ่าตัดคนไข้หมอก็

00:11:39 → 00:11:42 จะแนะนำเลยว่ากินให้ช้าๆลงค่ะเคี้ยวให้

00:11:42 → 00:11:45 ละเอียดขึ้น 20-30 ครั้งก่อนมันก็จะทำให้

00:11:45 → 00:11:49 เรากลายเป็นคนกินช้าลงอ่าทำให้เรากลาย

00:11:49 → 00:11:51 เป็นคนกินน้อยลงทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัว

00:11:51 → 00:11:54 เองจากการกินเยอะกลายเป็นคนกินน้อยอ่า

00:11:54 → 00:11:56 แล้วก็ทำให้เราเลือกกินค่ะเราก็จะเลือก

00:11:56 → 00:11:58 กินแต่ของที่มีประโยชน์กับชีวิตเราเท่า

00:11:58 → 00:12:00 นั้นเพราะว่าถ้าเรากินโปรตีนไม่พอเดี๋ยว

00:12:00 → 00:12:03 ผมเราจะร่วงเนาเค่ะเราเราก็จะเป็นคนที่

00:12:03 → 00:12:06 กินน้ำมากขึ้นแล้วก็บางคนน่ะเนื่องจากว่า

00:12:06 → 00:12:08 การผ่าตัดพวกนี้ค่ะมันเป็นการเปลี่ยนแปลง

00:12:08 → 00:12:11 ฮอร์โมนในร่างกายคนไข้บางคนที่เป็นเบา

00:12:11 → 00:12:15 หวานคือดีขึ้นถึงกับหายไปได้เลยออบางคน

00:12:15 → 00:12:18 บอกบอกหมอเลยว่ากลับไปลองกินน้ำหวานค่ะ

00:12:18 → 00:12:22 รู้สึกแบบขึ้นไส้อาเจียนรู้สึกแบบไม่ค่อย

00:12:22 → 00:12:24 อยากกินเออเพราะว่ามันเป็นร่างกายที่

00:12:24 → 00:12:28 ฮอร์โมนมันปรับตัวคนไข้ก็จะรู้สึกแบบไม่

00:12:28 → 00:12:30 อยากกินอะไรวหวานซึ่งซึมันเป็นเรื่องที่

00:12:30 → 00:12:33 ดีเนาคะแล้วก็ในอนาคตก็คือสักประมาณ 6

00:12:33 → 00:12:35 เดือนคนไข้จะเริ่มกินได้เยอะขึ้นอย่าง

00:12:35 → 00:12:38 เช่นอ่าได้ซักประมาณจาก 10 คำอาจจะเป็น

00:12:38 → 00:12:43 ครึ่งถ้วยของหวานอ่าอในปีนึงอาจจะได้สัก

00:12:43 → 00:12:46 ครึ่งจานค่ะอ่ะใน 2 ปีอาจจะได้สัก 1 จาน

00:12:47 → 00:12:49 แต่ถามว่าคนไข้ส่วนใหญ่ไม่อยากจะกลับไป

00:12:49 → 00:12:51 กินเยอะเหมือนเดิมค่ะเพราะไม่อยากจะอ้วน

00:12:51 → 00:12:53 อ่าเพราะฉะนั้นก็คือหมายความว่าเราก็จะ

00:12:53 → 00:12:55 ใช้ชีวิตเป็นคนผอมเราก็จะกินข้าวไม่เกิน

00:12:55 → 00:12:59 จานอเราก็จะเริ่มออกกำลังกายเพราะว่าน้ำ

00:12:59 → 00:13:01 หนักในช่วงแรกมันจะลดลงได้เยอะในช่วง 6

00:13:01 → 00:13:05 เดือนแรกค่ะ 6 เดือนแรกเนี่ย 10-20 กลคือ

00:13:05 → 00:13:09 สบายๆโอ้โหบางคนอาจจะได้ถึง 30 กกสบายๆ

00:13:09 → 00:13:13 ค่ะแต่ว่าหลังจาก 1 ปีผ่านไปเนื่องจากว่า

00:13:13 → 00:13:16 ปริมาณการกินเราเยอะขึ้นใช่มั้ยคะค่ะคน

00:13:16 → 00:13:19 ไข้ก็จะเริ่มน้ำหนักไม่ค่อยลงละออย่าง

00:13:19 → 00:13:22 เงี้ยค่ะก็จะลงอยู่แต่ลงน้อยหน่อยอาจจะลง

00:13:22 → 00:13:25 แค่เดือนละกิโล 2 กกจากที่เคยลงเดือนละ 5

00:13:25 → 00:13:30 ก 6 กกค่ะแต่ว่าถ้าคนไข้ยังยังกินน้อยๆ

00:13:30 → 00:13:32 อยู่ออกกำลังกายด้วยคนไข้ก็ยังน้ำหนักลง

00:13:32 → 00:13:35 ไปได้เรื่อยๆจนถึง 2 ปีหลังจากนั้นคนไข้

00:13:35 → 00:13:38 ก็จะเริ่มเป็นตัวเองละก็คือถ้าเรายังควบ

00:13:38 → 00:13:40 คุมตัวเองให้กินได้น้อยอยู่น้ำหนักเราก็

00:13:40 → 00:13:44 จะไม่ค่อยลดละแต่ก็จะไม่เพิ่มอย่างเงี้ย

00:13:44 → 00:13:47 ค่ะแต่ว่านานๆไปก็อาจจะเพิ่มได้นิดหน่อยๆ

00:13:47 → 00:13:51 อาจจะแบบกิล 2 กลกได้แต่ไม่ใช่ว่าปีละ 10

00:13:51 → 00:13:54 กลนี่คือไม่ใช่แล้วค่ะไม่ไหวแล้วใช่ค่ะ

00:13:54 → 00:13:56 เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่ปากเราละห้ามตามใจ

00:13:56 → 00:13:59 ปากเหมือนเดิมเราจะเปลี่ยนเป็นคนนผอไงคะ

00:13:59 → 00:14:01 เราก็เลยต้องกินแบบสวยยๆเราต้องมีร่าง

00:14:01 → 00:14:04 ใหม่คใช่ค่ะเราต้องไอเดียใหม่ด้วยค่ะร่าง

00:14:04 → 00:14:06 ใหม่ยังไม่พอต้องไอเดียใหม่ด้วยว่าเราจะ

00:14:06 → 00:14:08 ไม่กลับไปเป็นคนอ้วนแล้วเราก็จะกินแต่

00:14:08 → 00:14:12 น้อยอ่ากินแบบคนผอมเขากินกันอย่างเงี้ย

00:14:12 → 00:14:14 ค่ะแต่ก็ไม่ใช่ว่าพอผ่าตัดกระเพาะอาหาร

00:14:14 → 00:14:18 แล้วกินได้น้อยแล้วคือจะเอาแค่เรื่องกิน

00:14:18 → 00:14:20 อย่างเดียวเหมือนที่อาจารย์บอกว่าบางที

00:14:20 → 00:14:22 เราก็ต้องออกกำลังกายแล้วก็ต้องดูแล

00:14:22 → 00:14:25 สุขภาพตัวเองด้วยใช่ค่ะก็ต้องดูว่าอย่าง

00:14:25 → 00:14:28 คนผอมเขาไปไหนกันเขาก็กินน้อยไปฟิตเนส

00:14:28 → 00:14:31 เงี้ใช่มั้ยคะแล้วก็ต้องเป็นคนอย่างงั้น

00:14:31 → 00:14:33 ก็คือเปลี่ยนแปลงตัวเองนั่นเองเพราะว่า

00:14:33 → 00:14:35 ลองนึกภาพว่าตอนที่ตัวเองเป็นคนอ้วนตอน

00:14:35 → 00:14:38 เราลดน้ำหนักไม่ได้แล้วไปฟิตเนสมันมันมัน

00:14:38 → 00:14:41 ยากไงคะเพราะว่ามันลำบากใช่วิ่งก็ไม่ได้

00:14:41 → 00:14:45 เดินก็ไม่ได้มันก็ปวดเข่าแต่พอเราช่วยคน

00:14:45 → 00:14:48 ไข้ลดน้ำหนักลงมาได้ส่วนนึงแล้วคนไข้ก็จะ

00:14:48 → 00:14:50 เริ่มบางคนกลับไปวิ่งมาราธอนนะคะมีคนไข้

00:14:51 → 00:14:54 หมอคนนึงน้ำหนัก 150 โอ้โหพอหลังจากผ่าไป

00:14:54 → 00:14:57 แล้วน้ำหนักเขาลดลงเหลือประมาณัก 90 เา

00:14:57 → 00:14:59 เริ่มไปวิ่งค่ะ

00:14:59 → 00:15:04 วมานตนนี้มีคประมานั้นคือเอาคมาอดหมอบอก

00:15:04 → 00:15:09 ว่าหมอผมมีแคอืแล้วก็วิ่งมาราธอนมาจบ 3-4

00:15:09 → 00:15:12 5 มาราธอนละโอซึ่งคนไข้เขาเปลี่ยนตัวเอง

00:15:12 → 00:15:15 ได้จริงๆค่ะคือบางทีตอนอ้วนอาจจะคิดว่า

00:15:15 → 00:15:17 อยากจะไปวิ่งมาราธรแต่ไม่ไหวนะคะอาจารย์

00:15:17 → 00:15:20 แต่เขอผอมปุ๊บอาจารย์ช่วยให้ผอมเสร็จไป

00:15:20 → 00:15:23 วิ่งได้ไปทำกิจกรรมอื่นๆได้แต่ก็อย่างที่

00:15:23 → 00:15:26 บอกว่าก็อยู่ที่ตัวเราด้วยใช่ก็ต้องมี

00:15:26 → 00:15:28 วินัยด้วยกินน้อยไม่พอก็ต้องเลือกกิน

00:15:29 → 00:15:31 อาหารที่มีประโยชน์แล้วก็ออกกำลังกายดูแล

00:15:31 → 00:15:34 ตัวเองเพื่อไม่ให้กลับไปร่างเดิมคนที่ผ่า

00:15:34 → 00:15:36 ตัดกระเพาะอาหารสามารถกลับไปอ้วนเหมือน

00:15:36 → 00:15:38 เดิมได้มั้ยคะอาจารย์จริงๆต้องบอกว่าได้

00:15:38 → 00:15:41 ค่ะเพราะว่าการผ่าตัดเนี่ยมันเหมือนเป็น

00:15:41 → 00:15:44 เครื่องมือการลดน้ำหนักที่แบบแบบใช้ยาแรง

00:15:44 → 00:15:49 อ่ะค่ะทงอ่าใช้ทางรัดใช้ยาแรงแต่ว่ายาแรง

00:15:49 → 00:15:52 เนี่ยมันก็ส่งผลอยู่ที่ดีที่สุดอยู่ที่

00:15:52 → 00:15:55 ประมาณ 2 ปีค่ะแต่ว่าถามว่าหลังจากนั้น

00:15:55 → 00:15:58 เนี่ยมันก็จะเริ่มเริ่มแบบน้ำหนักไม่ค่อย

00:15:58 → 00:16:01 ลดลอาจจะแบบเพิ่มสูงขึ้นได้แต่อันเนี้ย

00:16:01 → 00:16:04 มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเองละแต่ไอ้คั้นว่า

00:16:04 → 00:16:07 อยู่ๆปีเดียวจะกลับขึ้นไปเท่าเดิมโอกาส

00:16:07 → 00:16:09 มันค่อนข้างน้อยเนื่องจากว่ากระเพาะเรา

00:16:09 → 00:16:12 เราเราตัดออกไปส่วนนึงใช่มยคะค่ะมันก็ถ้า

00:16:13 → 00:16:15 เรายิ่งยัดเข้าไปกินเยอะเหมือนเดิมมันก็

00:16:15 → 00:16:18 จะขยายตัวได้อ่าทุกอย่างมันก็ร่างกายมัน

00:16:18 → 00:16:21 ก็ปรับตัวได้มันก็เริ่มขยายตัวได้พอเริ่ม

00:16:21 → 00:16:25 ขยายตัวขยายจนใหญ่เท่าเดิมเราก็อาจจะกลับ

00:16:25 → 00:16:27 ไปอ้วนได้เหมือนเดิมเหมือนกันเพราะฉะนั้น

00:16:27 → 00:16:30 เนี่ยไม่ว่าเราจะใช้ยาไหนยาแรงขนาดไหนมัน

00:16:30 → 00:16:32 ขึ้นอยู่กับตัวเราถ้าเราปรับตัวไม่ได้ใน

00:16:32 → 00:16:35 อนาคตก็จะเป็นคนอ้วนกลับมาอ้วนได้แต่แค่

00:16:35 → 00:16:38 ว่ามันใช้เวลานานกว่าปกติที่มันโยโยเนาะ

00:16:38 → 00:16:41 ปกติโยโยเนี่ยปีเดียวนี้เท่าเดิมหรือมาก

00:16:41 → 00:16:44 กว่าเดิมละแต่ว่าหลังการผ่าตัดเนี่ยจะให้

00:16:44 → 00:16:46 มันไปเท่าเดิมเนี่ยใช้เวลานานประมาณ 4-5

00:16:46 → 00:16:49 ปีนู่นแต่เราคงไม่อยากกลับไปเป็นคนอ้วน

00:16:49 → 00:16:51 อย่างงั้นมั้งคะอาจารยใช่มั้ยคะเพราะเรา

00:16:51 → 00:16:54 อุตส่าห์ลงทุนถึงขั้นจะสวยแล้วเราก็ต้อง

00:16:54 → 00:16:57 คงภาวะนั้นให้อยู่ให้ได้คืออย่างที่หมอ

00:16:57 → 00:17:00 บอกคือการลดน้ำหนักมันมันด้วยการผ่าตัด

00:17:00 → 00:17:02 มันไม่ได้ยากค่ะแต่การคงไว้มันยากกว่าค่ะ

00:17:02 → 00:17:05 อืเพราะฉะนั้นถ้าเราเปลี่ยนตัวเองได้ส่วน

00:17:05 → 00:17:08 ใหญ่มักจะมักมักจะโอเคแต่ถ้ามาเปลี่ยนไม่

00:17:09 → 00:17:11 ได้เนี่ยเดี๋ยวก็จะกลับไปเป็นคนอ้วนได้

00:17:11 → 00:17:13 เหมือนเดิมเหมือนกันเพราะฉะนั้นนี่เป็น

00:17:13 → 00:17:15 เป็นเป็นจุดสำคัญที่หมอมักจะบอกคนไข้เสมอ

00:17:15 → 00:17:18 ว่าเราต้องต้องช่วยกันค่ะเราต้องช่วยกัน

00:17:18 → 00:17:21 พอเราฟังแบบนี้มันก็ไม่ได้ง่ายนะคะ

00:17:21 → 00:17:23 อาจารย์กับการที่ตัดกระเพาะเสร็จไปแล้ว

00:17:23 → 00:17:26 ไม่ใช่ว่าจะได้ผอมเลยมันก็ต้องมีการใช่

00:17:26 → 00:17:28 ค่ะไม่ใช่ว่าออกจากโรงพยาบาลไปแล้วผอมงี้

00:17:28 → 00:17:31 ไม่ใช่นะอมันก็จะค่อยๆผอมไปเรื่อยๆเป็น

00:17:31 → 00:17:35 ระยะยาวค่ะแต่คนที่ผอมอยู่แล้วหรือว่าน้ำ

00:17:35 → 00:17:38 หนักไม่ได้เกินฟังอยู่อาจจะแบบว่าเอ๊ะ

00:17:38 → 00:17:41 อยากไปผ่าให้มันผอมลงกว่านี้อีกนิดนึงได้

00:17:41 → 00:17:43 มอันนี้อาจจะไม่แนะนำออันนี้อาจจะไม่แนะ

00:17:43 → 00:17:46 นำอค่ะเพราะว่าก็คนที่ไม่เข้าเกณฑ์ก็ใช้

00:17:46 → 00:17:49 วิธีอื่นไปก่อนค่ะใช้วิธีอื่นมันเดี๋ยว

00:17:49 → 00:17:51 นี้วิวัฒนาการมันดีขึ้นมียาบางตัวที่ช่วย

00:17:51 → 00:17:54 เราได้คนไข้อาจจะไม่ต้องเสี่ยงกับการเจ็บ

00:17:54 → 00:17:57 ตัวค่ะอ่าก็อย่างที่อาจารย์หมอบอกว่าเป็น

00:17:57 → 00:18:00 ผอมทางลัดจจริงๆแต่ก็สำหรับคนที่น้ำหนัก

00:18:00 → 00:18:02 ตัวเกินนะคะสำหรับคนที่มีความเสี่ยงที่จะ

00:18:02 → 00:18:06 เป็นโรคต่างๆตามมาส่วนใครที่น้ำหนักยัง

00:18:06 → 00:18:09 ควบคุมได้ยังเพาะควบคุมได้ก็ลองวิธีต่างๆ

00:18:09 → 00:18:11 ไปก่อนนะคะท้ายสุดค่ะอาจารย์ทิ้งท้าย

00:18:11 → 00:18:13 สำหรับคุณผู้ฟังสักนิดนึงเกี่ยวกับการผ่า

00:18:13 → 00:18:16 ตัดกระเพาะอาหารค่ะค่ะก็อย่างที่หมอบอก

00:18:16 → 00:18:19 ว่าการผัดตัดกระเพาะอาหารก็เหมาะสำหรับ

00:18:19 → 00:18:22 ผู้ป่วยกลุ่มที่เข้าเกณฑ์นะคะคนที่รู้ตัว

00:18:22 → 00:18:25 ว่าเข้าเกณฑ์ต้องการต้องการให้หมอช่วย

00:18:25 → 00:18:28 หรือว่าอยากจะเข้ามารับการรักษาก็สามารถ

00:18:28 → 00:18:30 ที่จะเข้ามามารับการรักษาได้เลยเนื่องจาก

00:18:30 → 00:18:33 ว่าณปัจจุบันก็คือรัฐบาลเนี่ยเขาพบว่าถ้า

00:18:33 → 00:18:37 เกิดเรายิ่งช่วยคนไข้โลกอ้วนให้ผอมได้

00:18:38 → 00:18:42 เร็วมากขึ้นก็จะทำให้ลดโอกาสการเกิดภาวะ

00:18:42 → 00:18:45 เบาหวานความดันไขมันที่รัฐบาลจะต้องจ่าย

00:18:45 → 00:18:48 เงินในการรักษาเราเยอะขึ้นแล้วก็โลกเนี้ย

00:18:48 → 00:18:51 ก็คือการผ่าตัดอันเนี้ยก็คือสปสชแล้วก็

00:18:51 → 00:18:54 ประกันสังคมแล้วก็ข้าราชการนี่คือสามารถ

00:18:54 → 00:18:57 ที่จะเบิกจ่ายได้ค่ะแล้วก็อาจจะเสียเงิน

00:18:57 → 00:19:00 ส่วนเกินบ้างบางส่วนเนื่องจากว่าเราใช้

00:19:00 → 00:19:02 อุปกรณ์พิเศษในการผ่าตัดค่อนข้างเยอะมัน

00:19:02 → 00:19:04 คงไม่ใช่ว่าฟรีอย่างเงี้ค่ะแต่ว่าเราอาจ

00:19:04 → 00:19:07 จะต้องเสียเงินบางส่วนแต่มันไม่ได้สูงมาก

00:19:07 → 00:19:10 เพราะว่าการผ่าตัดอันเนี้ยถ้าไปทำในใน

00:19:10 → 00:19:14 เอกชนน่ะมีต้องมีเงินเป็นหลักแสนถึงจะได้

00:19:14 → 00:19:17 รับการผ่าตัดเนาะแต่ว่าอ่าณปัจจุบันคือ

00:19:17 → 00:19:20 เราสามารถที่จะปรึกษาโรงพยาบาลใกล้บ้าน

00:19:20 → 00:19:22 เพื่อที่จะให้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาล

00:19:22 → 00:19:26 สวนดอกได้ค่ะอืก็เรามองว่าเป็นการผ่าตัด

00:19:26 → 00:19:29 เพื่อการรักษาใช่คเป็นการรักษาค่ะอ่ะ

00:19:29 → 00:19:33 สำหรับใครที่สนใจก็ลองหาข้อมูลดูหรือว่า

00:19:33 → 00:19:36 มาขอคำแนะนำจากอาจารย์หมอก่อนได้นะคะวัน

00:19:36 → 00:19:38 นี้ขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆเลยนะคะวันนี้

00:19:38 → 00:19:40 ต้องบอกว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากๆ

00:19:40 → 00:19:43 ขอบคุณค่ะค่ะสวัสดีค่ะ

00:19:43 → 00:19:48 ขอบคุ podcast for เพราะสุขภาพที่ดี

00:19:48 → 00:19:53 เริ่มได้จากตัวเรา