00:00:01 → 00:00:04 สวัสดีครับยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งกับ
00:00:04 → 00:00:08 พcสที่จะมอบดีๆและแรงบันดาลใจเชิงบวก
00:00:08 → 00:00:11 เพื่อการพัฒนาตัวเองในแบบที่เข้าใจง่าย
00:00:11 → 00:00:14 สามารถรับฟังจนจบได้ภายในเวลาเพียง 5-10
00:00:14 → 00:00:18 นาทีสำหรับเนื้อหาใน EP นี้เราจะพูดถึง
00:00:18 → 00:00:21 เรื่องของปัญหาสุขภาพและการดูแลตัวเอง
00:00:21 → 00:00:23 ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เหมาะกับทุกช่วง
00:00:23 → 00:00:26 วัยโดยเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงวัย
00:00:26 → 00:00:30 ครับหลายท่านคงทราบดีว่าผักเป็นแหล่งรวม
00:00:30 → 00:00:33 วิตามินแร่ธาตุและใยอาหารที่สำคัญต่อร่าง
00:00:33 → 00:00:37 กายแต่ในโลกของผักใบเขียวและพืชพันธุ์
00:00:37 → 00:00:40 ธรรมชาติยังมีบางชนิดที่ซ่อนพิษหรือสาร
00:00:40 → 00:00:42 ที่ไม่พึงประสงค์ไว้หากไม่ได้รับการ
00:00:42 → 00:00:45 เตรียมที่ถูกต้องโดยเฉพาะผู้สูงวัยที่
00:00:45 → 00:00:48 ระบบย่อยอาหารอาจไม่แข็งแรงเหมือนเดิม
00:00:48 → 00:00:50 หรือมีโรคประจำตัวบางอย่างการรับประทาน
00:00:50 → 00:00:53 ผักบางชนิดแบบดิบๆอาจเป็นอันตรายกว่าที่
00:00:53 → 00:00:57 คิดวันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง 5 ผักยอดนิยม
00:00:57 → 00:01:00 ที่คุณต้องระวังเมื่อรับประทานแบบดิบดิบ
00:01:00 → 00:01:02 พร้อมเหตุผลและข้อควรปฏิบัติเพื่อให้คุณ
00:01:02 → 00:01:05 ได้เลือกกินผักได้อย่างปลอดภัยและได้รับ
00:01:05 → 00:01:07 ประโยชน์สูงสุด
00:01:07 → 00:01:11 ครับ 1 ถั่วงอกพืชต้นอ่อนที่ซ่อนภัยเงียบ
00:01:11 → 00:01:14 ถั่วงอกดิบดูเหมือนจะเป็นส่วนประกอบที่
00:01:14 → 00:01:17 ขาดไม่ได้ในอาหารหลายเมนูไม่ว่าจะเป็น
00:01:17 → 00:01:20 ก๋วยเตี๋ยวยำหรือผัดไทยแต่สำหรับผู้ใหญ่
00:01:20 → 00:01:24 และผู้สูงวัยการกินถั่วงอกดิบนั้นมีความ
00:01:24 → 00:01:27 เสี่ยงสูงกว่าวัยหนุ่มสาวมากครับถั่วงอก
00:01:27 → 00:01:29 เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมพร้อมที่ชื้นและ
00:01:29 → 00:01:32 อบอุ่นซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมกับการ
00:01:32 → 00:01:36 เจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคเช่นอีโคไล
00:01:36 → 00:01:39 และซันโมเนล่าแบคทีเรียเหล่านี้อาจปน
00:01:39 → 00:01:41 เปื้อนมาตั้งแต่เมล็ดหรือจากการปนเปื้อน
00:01:42 → 00:01:45 ในระหว่างกระบวนการผลิตและการขนส่งเมื่อ
00:01:45 → 00:01:48 เราอายุเพิ่มขึ้นระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงาน
00:01:48 → 00:01:50 ได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิมทำให้ร่างกายไม่
00:01:51 → 00:01:53 สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมี
00:01:53 → 00:01:55 ประสิทธิภาพเมื่อได้รับเชื้อแบคทีเรียจาก
00:01:55 → 00:01:58 การกินถั่วงอกดิบอาจส่งผลให้เกิดอาการ
00:01:58 → 00:02:01 ท้องเสียรุนแรงคลื่นไส้อาเจียนปวดท้องมี
00:02:02 → 00:02:06 ไข้สูงซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำรุนแรงและ
00:02:06 → 00:02:09 ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้บาง
00:02:09 → 00:02:12 ครั้งถั่วงอกยังถูกฟอกขาวด้วยสารโซเดียม
00:02:12 → 00:02:16 ซันลฟเพื่อความสวยงามและคงความสดสารนี้
00:02:16 → 00:02:19 อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางรายโดยเฉพาะ
00:02:19 → 00:02:22 ผู้ที่มีอาการหอบหืดอาจมีอาการหายใจลำบาก
00:02:23 → 00:02:26 ได้ข้อแนะนำที่ดีที่สุดคือต้มหรือลวกถั่ว
00:02:26 → 00:02:29 งอกให้สุกทุกครั้งก่อนรับประทานความร้อน
00:02:29 → 00:02:32 จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสลายสารเคมี
00:02:32 → 00:02:35 ที่อาจตกค้างอยู่และควรล้างถั่วงอกให้
00:02:35 → 00:02:37 สะอาดหลายๆครั้งก่อนนำไปปรุงอาหารเพื่อลด
00:02:38 → 00:02:39 การปนเปื้อนให้น้อยที่
00:02:39 → 00:02:44 สุด 2 กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกความอร่อยที่
00:02:44 → 00:02:47 มาพร้อมกับสารยับยั้งกะหล่ำปลีและกะหล่ำ
00:02:47 → 00:02:50 ดอกเป็นผักที่นิยมนำมาทำอาหารหลากหลาย
00:02:50 → 00:02:54 เมนูทั้งต้มผัดแกงหรือแม้แต่กินสดเป็น
00:02:54 → 00:02:57 เครื่องเคียงแต่สำหรับผู้สูงวัยที่มีภาวะ
00:02:57 → 00:02:59 บางอย่างการรับประทานดิบอาจต้องระมัด
00:02:59 → 00:03:03 ระวังเป็นพิเศษครับในผักตระกูลกะหล่ำมี
00:03:03 → 00:03:06 สารที่เรียกว่ากอยโตรเจนสารนี้มีฤทธิ์ยับ
00:03:06 → 00:03:09 ยั้งการดูดซึมไอโอดีนเข้าสู่ต่อมไทรอยด์
00:03:09 → 00:03:11 ซึ่งไอโอดีนเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้าง
00:03:11 → 00:03:15 ฮอร์โมนไทรรอยด์สำหรับผู้สูงวัยที่มีภาวะ
00:03:15 → 00:03:17 ไทรรอยด์ทำงานต่ำหรือไฮโปรไทรอยด์อยู่
00:03:18 → 00:03:20 แล้วการรับประทานกะหล่ำปลีหรือกะหล่ำดอก
00:03:20 → 00:03:23 ดิบในปริมาณมากเป็นประจำอาจทำให้อาการแย่
00:03:23 → 00:03:26 ลงได้เพราะร่างกายจะได้รับไอโอดีนไปใช้
00:03:26 → 00:03:29 ที่ต่อมไทรอยด์น้อยลงส่งผลให้ต่อมไทรอยด์
00:03:29 → 00:03:33 ทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดภาวะคอพอกได้อีก
00:03:33 → 00:03:36 อย่างที่ต้องระวังคือผักเหล่านี้มักมีการ
00:03:36 → 00:03:39 ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีในกระบวนการเพาะ
00:03:39 → 00:03:42 ปลูกสูงการรับประทานดิบโดยไม่ได้ล้างทำ
00:03:42 → 00:03:45 ความสะอาดอย่างถูกวิธีอาจได้รับสารเคมีตก
00:03:45 → 00:03:48 ค้างเข้าสู่ร่างกายข้อแนะนำคือหากคุณมี
00:03:48 → 00:03:51 ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำควรหลีกเลี่ยงการรับ
00:03:51 → 00:03:54 ประทานกล่ำปลีและกะหล่ำดอกดิบหรือรับ
00:03:54 → 00:03:57 ประทานในปริมาณที่น้อยมากๆและควรทำให้สุข
00:03:57 → 00:04:00 ก่อนเสมอส่วนคนทั่วไปที่ไม่มีปัญหาเรื่อง
00:04:00 → 00:04:03 ไทรอยด์ก็ควรล้างทำความสะอาดให้ดีที่สุด
00:04:03 → 00:04:06 แช่ในน้ำสะอาดผสมเบกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสาย
00:04:06 → 00:04:09 ชูเพื่อช่วยลดสารเคมีตกค้างและควรเลือก
00:04:09 → 00:04:11 ซื้อผักจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือผัก
00:04:11 → 00:04:12 ออร์แกนิค
00:04:12 → 00:04:17 ครับ 3 หน่อไม้และมันสำปะหลังพืชรากเหง้า
00:04:17 → 00:04:18 ที่ซ่อน
00:04:18 → 00:04:21 ไซยานายหน่อไม้และมันสำปะหลังเป็นพืชที่
00:04:21 → 00:04:24 นิยมนำมาปรุงอาหารในหลายพื้นที่แต่ทราบ
00:04:24 → 00:04:27 หรือไม่ว่าในสภาพดิบพืชเหล่านี้มีสารพิษ
00:04:27 → 00:04:30 ร้ายแรงซ่อนอยู่หน่อไม้และมันสัปะหลังดิบ
00:04:31 → 00:04:33 มีสารประกอบไกลโคไซที่สามารถเปลี่ยนเป็น
00:04:33 → 00:04:36 ไซยานายซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรงเมื่อเข้า
00:04:36 → 00:04:39 สู่ร่างกายสารไซยานายจะเข้าไปขัดขวางการ
00:04:39 → 00:04:42 ทำงานของเซลล์ทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้
00:04:42 → 00:04:46 ออกซิเจนได้ส่งผลให้อวัยวะต่างๆโดยเฉพาะ
00:04:46 → 00:04:50 สมองและหัวใจขาดออกซิเจนการได้รับสาร
00:04:50 → 00:04:52 ไซยานายในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการ
00:04:52 → 00:04:56 คลื่นไส้อาเจียนเวียนศีรษะปวดท้องรุนแรง
00:04:56 → 00:04:59 แรงหายใจติดขัดหัวใจเต้นผิดจังหวะและใน
00:04:59 → 00:05:03 กรณีที่รุนแรงอาจทำให้หมดสติชักและเสีย
00:05:03 → 00:05:07 ชีวิตได้ผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัวเกี่ยว
00:05:07 → 00:05:10 กับหัวใจหรือระบบประสาทจะมีความเสี่ยงสูง
00:05:10 → 00:05:13 เป็นพิเศษทั้งหน่อไม้และมันสำปะหลังต้อง
00:05:13 → 00:05:16 ผ่านความร้อนอย่างเพียงพอก่อนนำมารับ
00:05:16 → 00:05:20 ประทานเสมอสำหรับหน่อไม้ควรต้มในน้ำเดือด
00:05:20 → 00:05:22 นานกว่า 10 นาทีและเปลี่ยนน้ำทิ้งหลายๆ
00:05:22 → 00:05:25 ครั้งเพื่อให้สารไซยานายระเหยออกไปให้มาก
00:05:25 → 00:05:28 ที่สุดมันสำปะหลังก็เช่นกันควรปอกเปลือก
00:05:28 → 00:05:31 ให้หมดและต้มให้สุกหากไม่มั่นใจในวิธีการ
00:05:31 → 00:05:34 เตรียมควรเลือกซื้อหน่อไม้ที่ผ่านการต้ม
00:05:34 → 00:05:37 สุกหรือมันสำปะหลังนึ่งสุกแล้วจะปลอดภัย
00:05:37 → 00:05:38 ที่สุด
00:05:38 → 00:05:42 ครับ 4 ถั่วฝักยาวผักกรอบอร่อยที่อาจทำ
00:05:42 → 00:05:46 ให้ท้องอืดถั่วฝักยาวดิบเป็นผักที่หลายคน
00:05:46 → 00:05:49 นิยมกินคู่กับน้ำพริกส้มตำหรือเป็น
00:05:49 → 00:05:51 เครื่องเคียงแต่สำหรับผู้ใหญ่และผู้สูง
00:05:52 → 00:05:55 วัยการกินถั่วฝักยาวดิบในปริมาณมากอาจส่ง
00:05:55 → 00:05:59 ผลต่อระบบย่อยอาหารได้ถั่วฝักยาวดิบมี
00:05:59 → 00:06:02 คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนบางชนิดที่ร่างกาย
00:06:02 → 00:06:05 ย่อยได้ยากเมื่อถูกย่อยโดยแบคทีเรียในลำ
00:06:05 → 00:06:08 ไส้ใหญ่จะเกิดการสร้างแก๊สในปริมาณมากส่ง
00:06:08 → 00:06:11 ผลให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อแน่นท้อง
00:06:11 → 00:06:15 ไม่สบายตัวและอาจทำให้รู้สึกปวดท้องได้
00:06:15 → 00:06:18 เมื่อเราอายุเพิ่มขึ้นระบบย่อยอาหารทำงาน
00:06:18 → 00:06:21 ช้าลงการผลิตน้ำย่อยและเอนไซม์ต่างๆก็อาจ
00:06:21 → 00:06:25 ลดลงทำให้การย่อยอาหารประเภทนี้เป็นไปได้
00:06:25 → 00:06:28 ยากขึ้นสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
00:06:28 → 00:06:31 คือถั่วฝักยาวเป็นพืชที่มักมีการใช้ยาฆ่า
00:06:31 → 00:06:34 แมลงค่อนข้างสูงการรับประทานดิบโดยไม่ได้
00:06:34 → 00:06:36 ล้างทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันอาจทำให้
00:06:36 → 00:06:39 ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายซึ่งจะส่งผล
00:06:39 → 00:06:43 เสียต่อสุขภาพในระยะยาวเพื่อลดปัญหาท้อง
00:06:43 → 00:06:46 อืดและลดความเสี่ยงจากสารเคมีตกค้างควร
00:06:46 → 00:06:49 ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาดและนำไปต้มหรือลวก
00:06:49 → 00:06:52 ให้สุกก่อนนำมารับประทานการทำให้สุกจะ
00:06:52 → 00:06:55 ช่วยให้ย่อยง่ายขึ้นและลดโอกาสเกิดแก๊สใน
00:06:55 → 00:06:58 กระเพาะอาหารหากต้องการรับประทานแบบกรอบๆ
00:06:58 → 00:07:00 สามารถลวกในน้ำเดือดเพียงไม่กี่วินาทีก็
00:07:00 → 00:07:02 เพียงพอแล้ว
00:07:02 → 00:07:06 ครับ 5 ผักขมผักใบเขียวมากประโยชน์ที่ควร
00:07:06 → 00:07:09 ปรุงสุกผักขมเป็นผักใบเขียวที่มีประโยชน์
00:07:09 → 00:07:13 ต่อสุขภาพสูงทั้งวิตามินแร่ธาตุและสาร
00:07:13 → 00:07:17 ต้านอนุมูลอิสระแต่การรับประทานผักขมดิบ
00:07:17 → 00:07:19 อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหาร
00:07:19 → 00:07:23 สำคัญบางชนิดได้อย่างเต็มที่ในผักขมดิบมี
00:07:24 → 00:07:27 สารออกซิเลตในปริมาณสูงสารนี้มีฤทธิ์ใน
00:07:27 → 00:07:30 การจับกับแร่ธาตุสำคัญเช่นแคลเซียมและ
00:07:30 → 00:07:32 เหล็กทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุ
00:07:32 → 00:07:36 เหล่านี้ไปใช้ได้ผู้สูงวัยมีความเสี่ยง
00:07:36 → 00:07:39 ต่อภาวะขาดแคลเซียมและเหล็กอยู่แล้ว
00:07:39 → 00:07:41 เนื่องจากกระบวนการดูดซึมสารอาหารที่ลดลง
00:07:41 → 00:07:44 และการเปลี่ยนแปลงของร่างกายการได้รับสาร
00:07:44 → 00:07:47 ออกซิเลตจากการกินผักขมดิบเป็นประจำอาจ
00:07:47 → 00:07:50 ยิ่งซ้ำเติมภาวะขาดแคลเซียมและเหล็กทำให้
00:07:50 → 00:07:53 กระดูกพรุนง่ายขึ้นหรือเกิดภาวะโลหิต
00:07:53 → 00:07:56 อย่างได้การบริโภคออกซิเลตในปริมาณมาก
00:07:56 → 00:07:58 เป็นประจำยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการก่อ
00:07:59 → 00:08:01 ตัวของนิ่วในไตได้อีกด้วยโดยเฉพาะในผู้
00:08:01 → 00:08:05 ที่เคยมีประวัติเป็นนิ่วในไตควรนำผักขมไป
00:08:05 → 00:08:08 ปรุงให้สุกก่อนรับประทานเสมอการทำให้สุข
00:08:08 → 00:08:12 จะช่วยลดปริมาณสารออกซเลตลงทำให้ร่างกาย
00:08:12 → 00:08:14 สามารถดูดซึมแคลเซียมและเหล็กได้อย่างมี
00:08:14 → 00:08:17 ประสิทธิภาพมากขึ้นผักขมที่ผ่านการปรุง
00:08:17 → 00:08:20 สุกแล้วยังคงเป็นแหล่งสารอาหารที่ดี
00:08:20 → 00:08:24 เยี่ยมสำหรับผู้สูงวัยครับท่านผู้ฟังที่
00:08:24 → 00:08:26 รักสุขภาพทุกท่านครับการรับประทานผักเป็น
00:08:26 → 00:08:29 สิ่งที่ดีและจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพของ
00:08:29 → 00:08:32 เราทุกคนโดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่และผู้สูง
00:08:32 → 00:08:35 วัยแต่การกินอย่างรู้ทันและเข้าใจ
00:08:35 → 00:08:38 ธรรมชาติของผักแต่ละชนิดนั้นสำคัญไม่แพ้
00:08:38 → 00:08:42 กันครับผัก 5 ชนิดที่เราได้พูดถึงในวัน
00:08:42 → 00:08:45 นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นผักที่อันตราย
00:08:45 → 00:08:48 หรือห้ามกินโดยเด็ดขาดแต่เป็นผักที่เรา
00:08:48 → 00:08:51 ควรระมัดระวังในการรับประทานแบบดิบๆโดย
00:08:51 → 00:08:54 เฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัยที่มีความ
00:08:54 → 00:08:57 เปราะบางทางสุขภาพมากกว่าการดูแลสุขภาพใน
00:08:57 → 00:09:00 วัยนี้ไม่ใช่เรื่องยากครับเพียงแค่เราใส่
00:09:00 → 00:09:03 ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆและปรับเปลี่ยน
00:09:03 → 00:09:05 พฤติกรรมการกินให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
00:09:05 → 00:09:08 ของเราเองการกินผักให้สุกเป็นการกินที่
00:09:08 → 00:09:12 ปลอดภัยที่สุดซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง
00:09:12 → 00:09:16 ครับหากคุณชอบพcสนี้อย่าลืมกดติดตามและ
00:09:16 → 00:09:19 แชร์ให้เพื่อนๆหรือคนในครอบครัวที่คุณรัก
00:09:19 → 00:09:22 นะครับเพราะการแบ่งแบ่งปันความรู้เป็น
00:09:22 → 00:09:25 สิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีคุณค่ามากขึ้น
00:09:25 → 00:09:29 ขอบคุณที่รับฟังแล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า
00:09:29 → 00:09:33 สวัสดีครับ