00:00:00 → 00:00:06 ขอ
00:00:06 → 00:00:08 จบ
00:00:08 → 00:00:17 [เพลง]
00:00:17 → 00:00:22 สนับสนุนโดยทรู 5 จีจีดียิ่งกว่าอยู่กับ
00:00:22 → 00:00:25 ทรู 5 จีก้าวสู่ยุคใหม่ไปด้วยกันรู้จัก
00:00:25 → 00:00:28 ภาวะสมองเสื่อมและรอบอัลไซเมอร์มีสาเหตุ
00:00:28 → 00:00:31 อาการอย่างไรรวมถึงสัญญาณเตือนว่าเราป่วย
00:00:31 → 00:00:33 อัลไซเมอร์แล้วหรือยัง
00:00:33 → 00:00:43 [เพลง]
00:00:43 → 00:00:46 สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ K N
00:00:46 → 00:00:49 Health พบกันเป็นประจำทุกวันเสาร์เวลา
00:00:49 → 00:00:53 15:00 นถึง 15:30 นทางเทียน n ช่อง 16
00:00:53 → 00:00:57 กับหมอดาวแพทย์นี้ฉันดาวจังวังกรค่ะวัน
00:00:57 → 00:01:00 นี้ค่ะเทียน n-health เราจะมาเจาะลึก
00:01:00 → 00:01:02 โทรหาหนึ่งของผู้สูงอายุนั่นคือโรค
00:01:02 → 00:01:04 อัลไซเมอร์อัลไซเมอร์เป็นโรคกลุ่มหนึ่ง
00:01:04 → 00:01:07 ของภาวะสมองเสื่อมซึ่งมีผลอย่างมากนะคะใน
00:01:07 → 00:01:10 การดูแลผู้สูงอายุจะเป็นอย่างไรนั้นติด
00:01:10 → 00:01:12 ตามกันค่ะ
00:01:12 → 00:01:15 ม.ค
00:01:15 → 00:01:19 อ่ะ
00:01:19 → 00:01:23 ค่ะก่อนที่จะรู้จักอัลไซเมอร์เรามารู้จัก
00:01:23 → 00:01:26 นะคะก้อนใหญ่ของภาวะสมองเสื่อมก่อนภาวะ
00:01:26 → 00:01:28 สมองเสื่อมภาษาอังกฤษค่ะเขาเรียกว่า
00:01:28 → 00:01:30 ดีเมนเทียเนอะซึ่งอัลไซเมอร์เนี่ยจะเป็น
00:01:30 → 00:01:34 โรคนะคะที่อยู่ในกลุ่มของดีเมนเทียคราว
00:01:34 → 00:01:36 นี้ภาวะสมองเสื่อมหรือว่าดีเป็นเชียร์ตรง
00:01:36 → 00:01:39 จุดนี้นะคะจะเกิดอะไรขึ้นก็คือทำให้
00:01:39 → 00:01:43 สมรรถภาพของสมองนะคะถดถอยลงค่ะไม่ว่าจะ
00:01:43 → 00:01:46 เป็นเรื่องของความจำนะคะจำอะไรไม่ได้งง
00:01:46 → 00:01:48 ไม่ใช่แค่น่ารักๆแค่นั้นนะคะที่จำอะไรไม่
00:01:48 → 00:01:52 ได้นะคะการตัดสินใจลดน้อยถอยลงค่ะการตัด
00:01:52 → 00:01:54 สินใจเรื่องเล็กๆน้อยๆนะคะยกตัวอย่างเช่น
00:01:54 → 00:01:57 บางท่านตัดสินใจไม่ได้ว่าเราเนี่ยจะใส่
00:01:57 → 00:02:01 เสื้อผ้าอะไรมีนะคะนอกจากนี้แล้วค่ะการ
00:02:01 → 00:02:04 วางแผนการบริหารจัดการอาจจะเป็นนะคะจาก
00:02:04 → 00:02:07 ที่เคยเป็นคนเก่งนะคะจัดการเรื่องราวต่าง
00:02:07 → 00:02:10 ๆในบ้านได้เรื่องราวคนอื่นได้กลายเป็นว่า
00:02:10 → 00:02:14 วางแผนบริหารจัดการอะไรไม่ได้เลยนอกจาก
00:02:14 → 00:02:16 นี้นะคะภาวะถดถอยของมือสองและยังหมายถึง
00:02:16 → 00:02:20 การรับรู้รูปทรงการจะระยะปัญหานี้จะเกิด
00:02:20 → 00:02:24 เห็นใจชัดเจนค่ะหลายครั้งที่เราเห็นนะคะ
00:02:24 → 00:02:27 ว่ามีข่าวผู้สูงอายุขับรถแล้วก็ชนการเพาะ
00:02:27 → 00:02:30 ชนกันแล้วก็ลงมาเถียงว่าตัวเองเบรคแล้วนะ
00:02:30 → 00:02:33 นะคะทำให้เราเกิดความสงสัยว่าเอ๊ะมันเป็น
00:02:33 → 00:02:35 ไปได้ยังไงทำไมเป็นผู้สูงอายุแล้วขับรถ
00:02:35 → 00:02:38 ประมาทจริงๆแล้วถ้าเรานี้นะคะก็คือมี
00:02:38 → 00:02:41 เรื่องของการถดถอยในเรื่องการกะระยะนะคะ
00:02:41 → 00:02:44 ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้นค่ะความสามารถใน
00:02:44 → 00:02:47 การใช้ภาษาในการสื่อสารผู้สูงอายุหลาย
00:02:47 → 00:02:49 ท่านค่ะจะกลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิดง่าย
00:02:49 → 00:02:52 และไม่อยากคุยกับใครเพราะอะไรคะเพราะว่า
00:02:52 → 00:02:55 นึกคำไม่ออกค่ะเขาอยากจะสื่อสารแต่นึกคำ
00:02:55 → 00:02:57 ไม่ออกก็เลยถอยดีกว่าประมาณว่าไม่เอาดี
00:02:58 → 00:03:00 กว่าขออยู่คนเดียวไม่คุยกับใครดีกว่าก็มี
00:03:00 → 00:03:03 ยังไม่จบเพียงแค่นี้นะคะเรื่องของสมาธิ
00:03:03 → 00:03:07 การใส่ใจหมายความอย่างไรนะคะลองดูคนใกล้
00:03:07 → 00:03:09 ตัวนะคะคุณย่าคุณยายที่บ้านก็ได้วาง
00:03:09 → 00:03:13 กระเป๋าตังค์ทิ้งไว้แว่นตาทิ้งไว้ที่นะ
00:03:13 → 00:03:15 กว่านั้นก็คือบางท่านหาแว่นตาไม่เจออยู่
00:03:15 → 00:03:20 ไหนคะขาดอยู่บนศีรษะก็มีนี่แหละค่ะการใส่
00:03:20 → 00:03:24 ใจสมาธิต่างๆถอยลงค่ะและสุดท้ายนะคะการ
00:03:24 → 00:03:26 รับรู้เรื่องราวรอบตัวสิ่งแวดล้อมที่
00:03:26 → 00:03:30 เปลี่ยนไปผู้สูงอายุเหล่านี้นะคะก็จะมี
00:03:30 → 00:03:32 โอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ปรับตัวได้ลำบากมาก
00:03:32 → 00:03:35 เพราะท่านไม่สามารถที่จะรับรู้เรื่องราว
00:03:35 → 00:03:38 ต่างๆที่เปลี่ยนไปได้ค่ะในเรื่องของการ
00:03:38 → 00:03:41 วินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมนั้นทางแพทย์เรานะ
00:03:41 → 00:03:43 คะก็จะต้องเล่นยามเขาว่าเราจะต้องมีการ
00:03:43 → 00:03:46 ถามประวัตินะคะหรือว่าซักประวัติแล้วก็มี
00:03:46 → 00:03:48 การตรวจร่างกายซึ่งการตรวจร่างกายเนี่ย
00:03:48 → 00:03:51 เราไม่เพียงแค่ตรวจร่างกายเรื่องของตัว
00:03:51 → 00:03:54 ร่างกายระบบประสาทเท่านั้นนะคะแต่เรายัง
00:03:54 → 00:03:56 หมายถึงการตรวจร่างกายระบบอื่นๆด้วยนะคะ
00:03:56 → 00:03:59 เพราะว่าระบบคนอื่นๆนั้นนะคะก็จะมีผล
00:03:59 → 00:04:01 อย่างยิ่งเลยค่ะต่อภาวะสมองเสื่อมและที่
00:04:01 → 00:04:04 สำคัญจะต้องแยกโรคนะคะคำว่าแยกโรคนี้คือ
00:04:04 → 00:04:07 อะไรก็คือว่าให้ชัดเจนนะคะว่าไม่ใช่
00:04:07 → 00:04:11 เรื่องของภาวะยกตัวอย่างคะภาวะทางจิตเวช
00:04:11 → 00:04:15 อ่ะภาวะซึมเศร้าเหงาหงอยวิตกกังวลซึ่ง
00:04:15 → 00:04:17 ต้องบอกว่าถ้าและบางขั้นนะคะผู้สูงอายุ
00:04:17 → 00:04:19 บางท่านมีภาวะซึมเศร้าอยู่เนี่ยท่านก็อาจ
00:04:19 → 00:04:23 จะทำให้ลงๆลืมได้ง่ายแต่อย่างไรก็ตามนะคะ
00:04:23 → 00:04:27 บางท่านค่ะมีภาวะสมองเสื่อมก็มีภาวะซึม
00:04:27 → 00:04:30 เศร้าร่วมด้วยกระได้เช่นเดียวกันนะคะดัง
00:04:30 → 00:04:32 นั้นขาดจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสาเหตุของ
00:04:32 → 00:04:35 ภาวะสมองเสื่อมนี้นะคะเราอาจจะแยกคะว่า
00:04:36 → 00:04:39 เป็นสาเหตุที่ยังดูแลรักษากันได้นะคะกับ
00:04:39 → 00:04:42 สาเหตุที่โอยากเหลือเกินที่จะดูแลรักษา
00:04:42 → 00:04:45 หมายความว่ายังไงคะอ่ะเรามาดูสาเหตุที่
00:04:45 → 00:04:48 สามารถดูแลรักษากันได้ยกตัวอย่างเช่นภาวะ
00:04:48 → 00:04:52 ไทรอยด์ต่ำนะคะภาวะไทรอยด์ต่ำนะคะก็จะทำ
00:04:52 → 00:04:55 ให้มีผลต่อเรื่องของสมองทำให้การทำงานของ
00:04:55 → 00:04:58 สมองลดถอยลงซึ่งถ้าจัดการดูแลแก้ไขปัญหา
00:04:59 → 00:05:01 ของเรื่องฮอร์โมนไทรอยด์ก็ทำให้ฟื้นกลับ
00:05:01 → 00:05:04 ขึ้นมาได้คราวนี้นะคะมาถึงเรื่องของว่า
00:05:04 → 00:05:07 ภาวะไหนบ้างนะคะที่ยากเหลือเกินที่จะดูแล
00:05:07 → 00:05:10 รักษาในเรื่องของภาวะสมองเสื่อมคืออัน
00:05:10 → 00:05:12 ต้องบอกก่อนถามว่าถ้าเกิดขึ้นมาแล้วเนี่ย
00:05:12 → 00:05:15 ดูแลรักษายากหน่อยยกตัวอย่างเช่นภาวะอ่า
00:05:15 → 00:05:19 ใส่เมอร์นะคะซึ่งเป็นการที่เนื้อเยื่อของ
00:05:19 → 00:05:22 สมองเนี่ยมีความผิดปกติมีความเสื่อมนะคะ
00:05:22 → 00:05:25 การดูแลระยะแรกๆอาจจะมีผลช่วยที่ทำให้
00:05:25 → 00:05:29 ชะลอทำให้ช้าเสื่อมช้าลงแต่ไม่ได้หมาย
00:05:29 → 00:05:31 ความว่าจะหายขาดได้อย่างนี้เป็นต้นนะคะ
00:05:31 → 00:05:34 หรือภาวะบางอย่างนะคะเช่นภาวะเส้นเลือดใน
00:05:34 → 00:05:38 สมองตีบแตกตันอันนี้ขึ้นอยู่กับความรุน
00:05:38 → 00:05:41 แรงคะบางคนติดกันรุนแรงเหลือเกินพ่อรุน
00:05:41 → 00:05:44 แรงมากๆเนื้อเยื่อสมองเสียหายก็ทำให้สุด
00:05:44 → 00:05:47 ท้ายเนี่ยเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ไม่เพียง
00:05:47 → 00:05:50 แต่เท่านี้นะคะภาวะบางอย่างค่ะมาเบาหวาน
00:05:50 → 00:05:54 ไขมันความดันนะคะสิ่งเหล่านี้ค่ะจะมีผลนะ
00:05:54 → 00:05:57 คะผลกระทบต่อเส้นเลือดเล็กๆในสมองโดยที่
00:05:57 → 00:05:59 เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดภาวะสมอง
00:05:59 → 00:06:03 เสื่อมได้และแน่นอนค่ะเมื่อเราพูดถึงภาวะ
00:06:03 → 00:06:06 สมองเสื่อมภาวะโรคที่เป็นโรคโคตรติดเลย
00:06:06 → 00:06:09 ของภาวะสมองเสื่อมเครืออัลไซเมอร์ถามว่า
00:06:09 → 00:06:12 ทำไมเพราะว่าในเรื่องของการศึกษาวิจัยเรา
00:06:12 → 00:06:15 พบว่าความชุกของโรคหรือหมายรวมเขื่อนนี้
00:06:15 → 00:06:18 ค่ะถ้า 100 คนเนี่ยจะมีคนที่เป็นโรคนี้
00:06:18 → 00:06:22 กี่คนนะคะโดยที่ความชุกของโรคนะคะอาเซม
00:06:22 → 00:06:26 เอ้อนะคะเราพบว่าผู้สูงอายุอายุตั้งแต่ 65
00:06:26 → 00:06:29 ปีขึ้นไป 100 คนเนี่ยจะพบความชุกของโรค
00:06:29 → 00:06:32 10-15 ก็คือ 10-15 คนนั้นเองในขณะที่
00:06:32 → 00:06:35 เมื่อผู้สูงอายุอายุมากขึ้นนะคะอย่างเช่น
00:06:35 → 00:06:39 ว่ามากขึ้นไปเป็น 80 ปีขึ้นไปเนี่ยความ
00:06:39 → 00:06:43 ชุกของโรคก็จะเป็น 20-30 ค่ะโอ้โหฟังดู
00:06:43 → 00:06:45 แล้วเนี่ยอาจจะเป็นเราก็ได้จริงไหมคะคราว
00:06:45 → 00:06:48 นี้ถ้าเราไม่อยากเป็นเราจะต้องยังไงบ้าง
00:06:48 → 00:06:51 นี่แหละค่ะเราถึงต้องมาเรียนรู้ร่วมกัน
00:06:51 → 00:06:53 เพื่อที่จะได้วางแผนว่าจะทำยังไงที่จะ
00:06:53 → 00:06:55 ป้องกันไม่ให้เป็นอัลไซเมอร์และถ้าเกิด
00:06:56 → 00:06:58 โชคร้ายเนี่ยเป็นแล้วเนี่ยจะดูแลระยะยาว
00:06:58 → 00:07:01 กันยังไงดังนั้นเรามารู้กันกว่าเขาว่า
00:07:01 → 00:07:04 สัญญาณเตือนอะไรนะคะที่เป็นสิ่งที่ย้ำ
00:07:04 → 00:07:07 เตือนนะคะว่านี่แหละมาและเป็นระยะเริ่ม
00:07:07 → 00:07:11 แรกนะคะของภาวะสมองเสื่อมภาวะตรงจุดนี้
00:07:11 → 00:07:14 สัญญาณเตือนนี้เขาเรียกว่าเอ็มซีไอหรือ
00:07:14 → 00:07:18 ว่าย่อมาจากร้านขายคอกมิติกิมแพเม้นนะคะ
00:07:18 → 00:07:21 เป็นภาวะที่อยู่กึ่งกลางค่ะระหว่างคนปกติ
00:07:21 → 00:07:25 ที่สูงอายุก็คือ Normal aging กับคนที่
00:07:25 → 00:07:27 มีภาวะสมองเสื่อม dementia ซึ่งหนึ่งใน
00:07:27 → 00:07:29 นั้นอาจจะเป็นอัลไซเมอร์ก็ได้ภาวะ
00:07:29 → 00:07:32 Minecraft native อิมแพเม้นนะคะก็คือ
00:07:32 → 00:07:34 สัญญาณที่เตือนเนี่ยจะมี 6 สัญญานะคะ
00:07:34 → 00:07:38 สัญญาณแรกก็คือว่าเป็นเรื่องของการบก
00:07:38 → 00:07:41 พร่องในเรื่องของการมีสมาธิจดจ่อค่ะการมี
00:07:41 → 00:07:44 สมาธิจดจ่อหมายความว่ายังไงคะหมายความว่า
00:07:44 → 00:07:48 เขาเนี่ยจะไม่สามารถที่จะจะทำอะไรนานๆ
00:07:48 → 00:07:51 เป็นระยะเวลาหนึ่งได้อย่างเช่นว่าจากที่
00:07:51 → 00:07:55 เคยเป็นคนที่นั่งอ่านหนังสือได้นะคะนั่ง
00:07:55 → 00:07:59 ซักผ้าได้ทำกับข้าวได้เขาอาจจะเหมือนอ่ะ
00:07:59 → 00:08:01 ฉันอยากจะอ่านหนังสือแต่พอไปจับหนังสือ
00:08:01 → 00:08:03 สักพักนึงไม่เอาดีกว่าไปทำอย่างอื่น
00:08:03 → 00:08:06 เรื่องที่ 2 ค่ะก็คือเรื่องของความคิดนะ
00:08:06 → 00:08:10 คะความคิดการบริหารจัดการต่างๆสำหรับผู้
00:08:10 → 00:08:12 สูงอายุบางท่านนะคะที่มีภาวะสมองเสื่อม
00:08:12 → 00:08:15 เนี่ยจากที่เคยคิดง่ายเลยค่ะทิศเลขไปตลาด
00:08:15 → 00:08:17 ตัวเลขได้เนี่ยจะเริ่มราคาว่าเอ๊ะทำไม
00:08:18 → 00:08:20 ตังทอนเนี่ยส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดหรอกค่ะขาด
00:08:20 → 00:08:24 หายนะคะโดนโกงเงินกันบ้างนะครับเพราะว่า
00:08:24 → 00:08:27 ผู้สูงอายุเหล่านี้นะคะท่านนะคะเพราะเกิด
00:08:27 → 00:08:29 ภาวะเริ่มสมองเสื่อมแล้วก็จะคิดเลขผิดๆ
00:08:29 → 00:08:32 ถูกๆนะคะอย่างที่สามค่ะก็คือเรื่องของ
00:08:32 → 00:08:36 ความจำค่ะความจำนะคะมันจะมีการเริ่มค่ะ
00:08:36 → 00:08:39 ความจำเนี่ยที่เริ่มต้นก่อนเลยก็คือความ
00:08:39 → 00:08:42 จำระยะสั้นมาเพราะว่ายังไงหมายความว่าถ้า
00:08:42 → 00:08:44 เราลองถามถ้า know นี่ว่าเนี่ยรับประทาน
00:08:44 → 00:08:47 อาหารมื้อเช้าคืออะไรถ้าตัวท่านเองยังตอบ
00:08:47 → 00:08:49 ไม่ได้นี่แย่แล้วนะคะเพราะว่านี่คือคำถาม
00:08:49 → 00:08:52 ที่หมอดาวจะใช้ถามคนไข้เมื่อหมอดาวเนี่ย
00:08:52 → 00:08:56 สงสัยว่าท่านเหล่านี้เนี่ยมีเรื่องของการ
00:08:56 → 00:08:59 บกพร่องในเรื่องของสมองข้อ 4 นะคะจะเป็น
00:08:59 → 00:09:02 เรื่องของการใช้ภาษาในการสื่อสารค่ะผู้
00:09:02 → 00:09:05 ป่วยเรื่องของสมองเสื่อมนะคะตัวเค้าเอง
00:09:05 → 00:09:08 อยากจะพูดอยากจะคุยแต่นึกคำพูดไม่ออกค่ะ
00:09:08 → 00:09:10 สิ่งที่สังเกตได้อย่างหนึ่งคือจะเรียก
00:09:10 → 00:09:13 สิ่งของหรือเรียกอะไรก็ตามไอ้นั่นไอ้โน่น
00:09:13 → 00:09:16 ไอ้นี่แพทย์เราค่ะก็จะมาเธอเป็นคนไข้ที่
00:09:16 → 00:09:19 เริ่มเข้าสู่วัยสูงอายุนะคะว่าพยายามค่ะ
00:09:19 → 00:09:22 ดินสอคือดินสอปากกาคือปากกาแต่ถ้าสมมติ
00:09:23 → 00:09:26 ว่าตั้งใจจะจำแต่จำไม่ได้เอาล่ะอันนี้ก็
00:09:26 → 00:09:29 น่าห่วงนะคะรวมไปถึงการใช้ภาษาต่างๆจะ
00:09:29 → 00:09:31 เห็นได้ว่าเขาไม่สามารถใช้ภาษาเชิงซ้อน
00:09:31 → 00:09:35 ภาษาสละสลวยการพูดจาอาจจะห้วนๆขึ้นเราอาจ
00:09:35 → 00:09:38 จะแปลกใจว่าทำไมคำพูดจาดูแล้วแบบเหมือน
00:09:38 → 00:09:40 ไม่เป็นเหตุเป็นผลอะไรเลยจริงๆอาจจะมี
00:09:40 → 00:09:42 เรื่องของการบกพร่องทางภาษาก็ได้ข้อที่
00:09:42 → 00:09:45 ห้านะคะก็จะเป็นเรื่องของการบกพร่องใน
00:09:45 → 00:09:48 เรื่องการจำทิศทางการลงทิศเราเคยเห็น
00:09:48 → 00:09:51 ภาพยนตร์หลายเรื่องใช่ไหมคะที่ผู้ที่มี
00:09:51 → 00:09:54 ภาวะสมองเสื่อมเนี่ยหลงทางนี่ไม่ใช่
00:09:54 → 00:09:56 เรื่องเล่นนะคะนี่เป็นเรื่องจริงจังมาก
00:09:56 → 00:09:58 เพราะเขาไม่สามารถจำได้ว่าเลี้ยวซ้าย
00:09:58 → 00:10:03 เลี้ยวขวาไปทางไหนถ้าสมมติว่าเอาคนไข้นะ
00:10:03 → 00:10:05 คะไปไว้ในที่ที่เขาไม่คุ้นเคยเนี่ยบางคน
00:10:05 → 00:10:08 กลับบ้านกันไม่ถูกนะคะและข้อสุดท้ายข้อถก
00:10:08 → 00:10:12 พฤติกรรมอารมณ์หลายๆท่านค่ะอารมณ์เปลี่ยน
00:10:12 → 00:10:15 ไปเลยค่ะอันนี้น่าห่วงมากค่ะคือต้องบอก
00:10:15 → 00:10:15 ว่า
00:10:15 → 00:10:19 ก็ไม่ได้ที่จะต้องต้องใช้คำว่าไม่ได้ที่
00:10:19 → 00:10:21 ต้องการจะล่วงเกินผู้สูงอายุท่านที่เป็น
00:10:21 → 00:10:24 นะคะแต่บางท่านเนี่ยอ่ะจากที่นิสัยนะคะ
00:10:24 → 00:10:28 เอาน่ารักนะคะเรียบร้อยพูดจาสุภาพกลาย
00:10:28 → 00:10:31 เป็นผู้ชายหยาบคายแต่ที่น่าห่วงกว่าคือ
00:10:31 → 00:10:33 อะไรรู้ไหมคะคือผู้สูงอายุที่เขามีนิสัย
00:10:33 → 00:10:38 ที่ค่อนข้างจะกุดง่ายโมโหฉุนเฉียวๆแต่พอณ
00:10:38 → 00:10:40 จุดที่เค้าเริ่มมีภาวะสมองเสื่อมเนี่ย
00:10:40 → 00:10:43 นิสัยเขาแย่ลงแต่ลูกหลานเนี่ยจะมองเป็น
00:10:43 → 00:10:46 ว่าอุ้ยเขาอย่างนี้อยู่แล้วคือกลายเป็น
00:10:46 → 00:10:48 ว่าน่าเห็นใจมากๆค่ะเพราะว่าด้วยพื้น
00:10:48 → 00:10:51 นิสัยที่เป็นคนหงุดหงิดฉุนเฉียวๆหรือบาง
00:10:51 → 00:10:53 คนเป็นคนซึมเศร้าเหงาหงอยคือเป็นอะไรที่
00:10:53 → 00:10:56 เป็น mood & Tone ที่ไม่น่ารักอยู่แล้ว
00:10:56 → 00:10:58 เนี่ยกลายเป็นคนกลุ่มนี้น่าเป็นห่วงมาก
00:10:58 → 00:11:00 เมื่อเขามีภาวะสมองเสื่อมเพราะไม่มีใคร
00:11:00 → 00:11:02 จับสังเกตได้ว่านี่คือภาวะทางอารมณ์
00:11:03 → 00:11:05 พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะในช่วงนี้นะ
00:11:06 → 00:11:09 คะเราได้เรียนรู้ร่วมกันเรื่องของผู้ป่วย
00:11:09 → 00:11:11 อัลไซเมอร์แล้วแต่ยังไม่จบแต่เพียงเท่า
00:11:11 → 00:11:14 นี้ค่ะทางเทียน n-health นะคะเราได้เชิญ
00:11:14 → 00:11:18 นะคะกรณีศึกษาตัวแทนผู้ที่จะต้องดูแลผู้
00:11:18 → 00:11:21 ป่วยอาศัยเมอร์มาให้พวกเราได้เรียนรู้ว่า
00:11:21 → 00:11:24 ประสบการณ์จริงเนี่ยมันเป็นขนาดไหนนะคะ
00:11:24 → 00:11:27 อย่าลืมติดตามชมค่ะอ่า
00:11:27 → 00:11:35 [เพลง]
00:11:35 → 00:11:37 ขอ
00:11:37 → 00:11:44 จบอ่า
00:11:44 → 00:11:47 [เพลง]
00:11:47 → 00:11:48 จะ
00:11:48 → 00:11:51 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของ T N Health
00:11:51 → 00:11:54 ค่ะเราจะมาทำความเข้าใจเรื่องราวของอาการ
00:11:55 → 00:11:58 อัลไซเมอร์นะคะว่าอัลไซเมอร์เนี่ยมีอาการ
00:11:58 → 00:12:01 อะไรยังไงบ้างนะคะต้องบอกเลยเขาว่าคนที่
00:12:01 → 00:12:04 เป็นอาเซมเอ้อเนี่ยภายนอกนะค่ะเราดูไม่
00:12:04 → 00:12:06 รู้ล่ะต้องอยู่กับเขาสักระยะนึงนะคะใช้
00:12:06 → 00:12:10 เวลาร่วมกันศักยะถึงจะเห็นได้ว่าอ๋ออาการ
00:12:10 → 00:12:12 หรือว่าพฤติกรรมเนี่ยแสดงออกมาเนี่ยใช่
00:12:12 → 00:12:15 เลยนะคะแล้วอาการที่บอกว่าใช่เลยนี่คือ
00:12:15 → 00:12:17 อัลไซเมอร์คืออะไรบ้างนะคะอ่ะมาเริ่มกัน
00:12:17 → 00:12:20 ที่ความจำนะคะความจำเนี่ยต้องบอกเขาว่า
00:12:20 → 00:12:23 ผู้ป่วยอัลไซเมอร์อ่ะค่ะเขาไม่สามารถที่
00:12:23 → 00:12:26 จะจำอะไรได้นะคะแม้ว่าเรื่องเหล่านั้น
00:12:26 → 00:12:28 เนี่ยจะเป็นเรื่องที่คุณเคยก็ตามโดยเฉพาะ
00:12:28 → 00:12:31 อย่างยิ่งค่ะความจำในเรื่องของการเรียน
00:12:31 → 00:12:33 รู้สิ่งใหม่ๆยกตัวอย่างคำว่าถ้าเรา
00:12:33 → 00:12:36 ต้องการจะฝึกให้เขาทำอะไรบางอย่างที่แปลก
00:12:36 → 00:12:40 ใหม่ไปจากเดิมเนี้ยเจ้าตัวนะคะจะปฏิเสธนะ
00:12:40 → 00:12:42 คะจะไม่ยอมที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆหรือทำ
00:12:42 → 00:12:45 ท่าเหมือนเรียนรู้แต่จำไม่ได้จริงๆนะคะก็
00:12:45 → 00:12:47 ไม่ได้แกล้งกันนะคะว่าจะไม่ได้ค่ะเธอจะ
00:12:47 → 00:12:50 รู้ไม่ได้จริงๆนอกจากนี้แล้วนะคะอาการอีก
00:12:50 → 00:12:54 อันนึงเลยค่ะที่ทำให้คนดูแลก็รำคาญคนรอบ
00:12:54 → 00:12:58 ข้างก็รำคาญคือการถามซ้ำๆทำไมจะต้องถาม
00:12:58 → 00:13:01 ซ้ำๆที่มาที่ไปก็คืออย่างนี้ค่ะผู้ป่วย
00:13:01 → 00:13:03 อัลไซเมอร์เนี่ยมักจะลืมไปแล้วเขาว่าตัว
00:13:03 → 00:13:07 เองพูดอะไรไว้ไม่มีสมาธิในการจดจำได้ดัง
00:13:07 → 00:13:09 นั้นค่ะเขาเลยมักจะถามสั้นๆ
00:13:09 → 00:13:13 นะคะและเมื่อเจ้าตัวได้รับคำต่อไปก็ลืม
00:13:13 → 00:13:16 ค่ะสุดท้ายก็กลับมาถามอีกค่ะนอกจากนี้นะ
00:13:16 → 00:13:20 คะอาการของผู้ป่วยอัลไซเมอร์นะคะสิ่งที่
00:13:20 → 00:13:22 เราจะเห็นชัดเจนก็คือการใช้ชีวิตด้วยตัว
00:13:22 → 00:13:25 เองด้วยตามลำพังเนี่ยจะไม่สามารถทำได้
00:13:25 → 00:13:27 แล้วค่ะเพราะอะไรคะเพราะไม่ว่าจะเป็น
00:13:27 → 00:13:29 เรื่องของความจำนะคะเรื่องของการคิดการ
00:13:29 → 00:13:33 ตัดสินใจทำให้ภาวะที่จะใช้ชีวิตด้วยตัว
00:13:33 → 00:13:36 เองนะคะมันลดน้อยถอยลงค่ะก็เลยต้องพึ่งพา
00:13:36 → 00:13:40 คนอื่นมากขึ้นสำหรับในเรื่องของการรักษา
00:13:40 → 00:13:44 นะคะก็มีคำถามนะคะว่าอ้าวแล้วถ้าคนในบ้าน
00:13:44 → 00:13:46 เราเนี่ยเราสงสัยเหลือเกินว่าเป็น
00:13:46 → 00:13:49 อัลไซเมอร์ขั้วและมาพบแพทย์กันตอนไหนดีคำ
00:13:49 → 00:13:55 ตอบคือเราจะต้องพามาให้เร็วที่สุดแต่การ
00:13:55 → 00:13:57 ที่จะพามาให้เร็วที่สุดนั่นหมายถึงเราจะ
00:13:57 → 00:14:01 ต้องสังเกต S ใช่หรือเปล่านึกออกมั้ยคะ
00:14:01 → 00:14:04 ซึ่งส่วนใหญ่ค่ะที่เราจะเจอกันนะคะที่
00:14:04 → 00:14:07 ญาติจะพาผู้ป่วยอัลไซเมอร์มาพบแพทย์เนี่ย
00:14:07 → 00:14:09 มักจะมีอาการหนักแล้วค่ะถึงจะพามาเพราะ
00:14:09 → 00:14:12 ว่าด้วยอาการที่หนักเนี่ยก็เลยทำให้
00:14:12 → 00:14:14 พฤติกรรมของเขาเนี่ยชัดเจนค่ะไม่ว่าจะ
00:14:14 → 00:14:16 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:14:16 → 00:14:20 การถามซ้ำๆการใช้ชีวิตตามลำพังไม่ได้นะคะ
00:14:20 → 00:14:24 คราวนี้เมื่อเราได้ทราบนะคะว่าเมื่อไหร่
00:14:24 → 00:14:28 ที่จะต้องมาพบแพทย์ก็คือ asap as soon
00:14:28 → 00:14:31 as Possible เนี่ยมันก็มีคำถามที่ถาม
00:14:31 → 00:14:34 กันต่ออีกตาว่าอ่ะงั้นถ้ามาพบแฮ่แล้ว
00:14:34 → 00:14:37 เนี่ยนะจะรักษากันเนี่ยจะต้องรักษากันยาว
00:14:37 → 00:14:41 นานแค่ไหนหรือถึงจะหายคำตอบก็คือว่าการ
00:14:41 → 00:14:44 รักษาถ้าผู้ป่วยเป็นอัลไซเมอร์นะคะไม่มี
00:14:44 → 00:14:47 คำว่าหายค่ะถ้าเป็นอาเซมเอ้อแล้วจริงคะ
00:14:47 → 00:14:50 และในส่วนของการรักษาอาเส่เมอร์นะคะเขาก็
00:14:50 → 00:14:54 จะมีแยกออกเป็น 2 แนวทางค่ะแนวทางแรกก็
00:14:54 → 00:14:57 คือเรื่องของการไม่ใช้ยาการไม่ใช้ยายกตัว
00:14:57 → 00:15:00 อย่างเช่นการใช้กิจกรรมบำบัดนะคะกิจกรรม
00:15:00 → 00:15:03 บำบัดในที่นี้ก็คือว่าเช่นว่าให้ผู้ป่วย
00:15:03 → 00:15:06 เนี่ยออกกำลังกายเล่นเกมนะคะในส่วนที่
00:15:06 → 00:15:10 เป็นการใช้ยานั้นนะคะก็จะเป็นยาที่เป็น
00:15:10 → 00:15:14 กลุ่มชะลอค่ะเน้นย้ำเลยค่ะเป็นการชะลอ
00:15:14 → 00:15:16 ความเสื่อมของสมองยาเหล่านี้นะคะจะไม่
00:15:16 → 00:15:20 สามารถนำมากินป้องกันได้นะคะมีหลายรายค่ะ
00:15:20 → 00:15:23 ที่พยายามที่จะถามว่าดาวหรือแอบไปทำก่อน
00:15:23 → 00:15:26 ก็มีนะคะว่ากลัวจะเป็นภาวะอัลไซเมอร์เลย
00:15:26 → 00:15:29 ไปซื้อยาที่เอาไว้รักษาอัลไซเมอร์มากิน
00:15:29 → 00:15:32 เพื่อป้องกันคำตอบคือไม่ใช่นะคะสำหรับยา
00:15:32 → 00:15:35 รักษาตาเสมอนะคะจะมีกลุ่มใหญ่ๆนะคะอย่าง
00:15:35 → 00:15:37 เช่นกลุ่มอาซิ่วโคลีนเอสเตอเรส
00:15:38 → 00:15:41 อินฮิบิเตอร์กลุ่มนี้ค่ะจะมีหน้าที่ในการ
00:15:41 → 00:15:45 ยับยั้งสารที่จะไปทำลายสารสื่อประสาทใน
00:15:45 → 00:15:48 สมองอีกทีนอกจากนี้แหละโป้ขายังมียากลุ่ม
00:15:48 → 00:15:50 ที่เรียกว่า
00:15:50 → 00:15:54 nmda receptor antagonists นะคะชื่อยา
00:15:54 → 00:15:57 เช่นมีแมนทีนซึ่งตรงจุดนี้นะคะจะเป็นการ
00:15:57 → 00:16:01 ทำงานของยาก็คือว่าไปยับยั้งการเกาะของ
00:16:01 → 00:16:04 สิ่งที่เรียกว่ากลูตาเมตนะคะซึ่งกูจะเมด
00:16:04 → 00:16:07 เนี่ยเขาจะไปเกาะรีเซ็ตเตอร์หรือว่าตัว
00:16:07 → 00:16:09 รับในส่วนของเนื้อเยื่อสมองแล้วก็มีผลทำ
00:16:09 → 00:16:12 ให้เกิด Top สิกหรือว่าเกิดพิษต่อสมอง
00:16:12 → 00:16:15 คราวนี้กลับมานิดนึงเขาว่าในส่วนของการ
00:16:15 → 00:16:19 รักษาที่ไม่ใช้ยานั้นเนี่ยก็เป็นการรักษา
00:16:19 → 00:16:24 โดยการดูแลเรื่องของสิ่งแวดล้อมนะคะทำให้
00:16:24 → 00:16:27 สิ่งแวดล้อมเนี่ยเมื่อต่อการอยู่อาศัยของ
00:16:27 → 00:16:31 คนที่เป็นอัลไซเมอร์และสิ่งที่สำคัญมากๆ
00:16:31 → 00:16:35 แทบจะกล่าวได้ว่าสำคัญที่สุดในการดูแลผู้
00:16:35 → 00:16:38 ป่วยอัลไซเมอร์เลยก็คือผู้ดูแลผู้ป่วย
00:16:38 → 00:16:41 หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าแคร์กิฟเวอร์นะคะ
00:16:41 → 00:16:45 ค่ะทางเทียน and Hell นะคะเราก็ได้มีการ
00:16:45 → 00:16:49 พูดคุยนะคะกับอย่าคิดเวอร์ค่ะในเรื่องของ
00:16:49 → 00:16:52 การดูแลผู้ป่วยและเรื่องของการจัดการความ
00:16:52 → 00:16:56 เครียดที่เกิดขึ้นในแคร์กิฟเวอร์
00:16:56 → 00:16:57 [เพลง]
00:16:57 → 00:17:00 ป้อนข้าวไปพร้อมกับการพูดคุยหยอกล้อคือ
00:17:00 → 00:17:03 ภารกิจหลักในทุกวันของจุฑารัตน์สาริกิจ
00:17:03 → 00:17:06 อดีตพนักงานบริษัทเอกชนที่ตัดสินใจลาออก
00:17:06 → 00:17:10 จากงานเพื่อกลับมาทำหน้าที่ดูแลคุณแม่ที่
00:17:10 → 00:17:12 ป่วยเป็นอัลไซเมอร์หลังเกษียณในวัยเพียง
00:17:12 → 00:17:16 แค่ 64 ปีเพื่อ 12 ปีที่เธอเรียนรู้และ
00:17:16 → 00:17:20 พยายามดูแลแม่ที่ไม่สามารถสื่อสารได้ซึ่ง
00:17:20 → 00:17:23 ในแต่ละวันพฤติกรรมจะแตกต่างกันไปเริ่ม
00:17:23 → 00:17:26 ตั้งแต่ลืมไปหน้าคนคุ้นเคยลืมสิ่งที่เคย
00:17:26 → 00:17:30 ทำในชีวิตประจำวันบางครั้งก้าวร้าวทำร้าย
00:17:30 → 00:17:35 ตัวเองทำลายสิ่งของขณะที่ในบางวันกลับเฉย
00:17:35 → 00:17:39 ชาไม่สื่อสารก็คือเริ่มแรกอ่ะเขาจะจำไม่
00:17:39 → 00:17:43 ได้นะคะจำชื่อคนไม่ได้เห็นนะจำหน้าได้แต่
00:17:43 → 00:17:46 จำชื่อไม่ได้แล้วต่อมาก็คือว่าทำกิจกรรม
00:17:46 → 00:17:50 ที่เคยทำได้พอดีไม่ได้อย่างเช่นกันการทำ
00:17:50 → 00:17:53 กระทงที่เล่าให้ฟังนะคะก็คือว่าแม่เกิด
00:17:53 → 00:17:56 เป็นครูดีเด่นเคยเป็นครูด้านการงานพื้น
00:17:56 → 00:17:59 ฐานอาชีพที่ดีเด่นมาตลอดแล้วก็พวกมากด
00:17:59 → 00:18:02 แล้วก็ทำไม่ได้ไงเขาก็สงสัยตัวเองและแล้ว
00:18:02 → 00:18:06 มาว่าแบบ a เริ่มแบบว่าสะพงสะพานอะไร
00:18:06 → 00:18:09 เงี้ยเริ่มแบบใส่กับด้านกับตะเข็บอะไร
00:18:09 → 00:18:12 อย่างเงี้ยเราก็เลยแล้วก็เลยไปปรึกษาคุณ
00:18:12 → 00:18:13 หมอ
00:18:13 → 00:18:17 จิตแพทย์นะคะที่จังหวัดที่สุพรรณเขาก็ให้
00:18:17 → 00:18:20 ยามาแล้วก็กดว่ามันไม่ถูกกันแม่เขาก็มึง
00:18:20 → 00:18:25 งงมึนงงบ้านหมุนล้มเลยเนี่ยเราก็เลยจะสอบ
00:18:25 → 00:18:29 ถามว่าจะถามเธอที่ไหนที่มันรักษาอาการทาง
00:18:29 → 00:18:31 สมองได้ดีๆบ้างแล้วก็เลยไปที่สถาบัน
00:18:31 → 00:18:36 ประสาทวิทยาที่กรุงเทพฯเน้อแล้วก็ไปเขาก็
00:18:36 → 00:18:40 ให้เราทำแบบสอบถามประมาณ 40 ว่าข้อมั้งทำ
00:18:40 → 00:18:42 เสร็จแล้วก็คุณหมอก็มา Mini วิเคราะห์
00:18:42 → 00:18:46 หรือชายจากการคำตอบนะคะถามตอบเนี่ยแล้ว
00:18:46 → 00:18:49 ที่นี่หมอก็นัดวันให้ไปสแกนสมองทีก็คือ
00:18:49 → 00:18:52 ก่อนชายจนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาคุณแม่
00:18:52 → 00:18:55 ในวัย 76 ปีได้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
00:18:55 → 00:18:58 เธอจึงต้องปรับวิธีการดูแลเพื่อให้แม่มี
00:18:58 → 00:19:01 คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
00:19:01 → 00:19:04 ทั้งการกายภาพบำบัดการพลิกตัวป้องกันแผล
00:19:04 → 00:19:08 กดทับการบดอาหารให้ละเอียดป้องกันการ
00:19:08 → 00:19:11 สำลักซึ่งต้องใช้ทั้งความอดทนและความเข้า
00:19:11 → 00:19:15 ใจเพื่อก้าวผ่านปัญหาต่างๆไปให้ได้ความกด
00:19:15 → 00:19:18 ดันที่ต้องดูแลผู้ป่วยส่งผลกระทบทางใจให้
00:19:18 → 00:19:21 กับผู้ดูแลเป็นอย่างมากประกอบกับความไม่
00:19:21 → 00:19:24 เข้าใจของคนในสังคมเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิต
00:19:24 → 00:19:27 ใจทำให้รู้สึกท้อแต่เธอเลือกที่จะสร้าง
00:19:27 → 00:19:30 กำลังใจให้กับตัวเองด้วยการพูดคุยกับคนใน
00:19:30 → 00:19:34 ครอบครัวลดความเครียดและหวังเป้าหมายที่
00:19:34 → 00:19:38 ชัดเจนคือการดูแลแม่ให้ดีที่สุดก็ดูแลไง
00:19:38 → 00:19:41 บ้างก็คือว่าแบบอย่างแรกเลยเราต้องเข้าใจ
00:19:41 → 00:19:43 ก่อนนะคะว่าเขาคือคนป่วย
00:19:43 → 00:19:46 เขาคือคนป่วยเพราะฉะนั้นคนคนป่วยก็ยังไม่
00:19:47 → 00:19:50 เหมือนคนถ้าเราก็จะต้องดูแลเขาใส่ใจเขา
00:19:50 → 00:19:54 ให้ให้มากขึ้นอ่ะเออไม่ว่าเขาจะทำอะไรอ่ะ
00:19:54 → 00:19:56 ถึงเขาจะทำผิดทำพาดแค่ไหนก็คือเค้าเป็นคน
00:19:56 → 00:19:59 ป่วยไงที่เราคิดก็คือตอนแรกเราท้อเราไม่
00:19:59 → 00:20:03 คิดว่าจะดูแลก็ได้เนอะคือมันเป็นเวลาตอน
00:20:03 → 00:20:05 ที่คุณหมอหรือว่าอัลไซเมอร์อ่ะมันจะเป็น
00:20:05 → 00:20:09 โรคที่อยู่กับเรายาวนานมาก 10-20 ปีเราก็
00:20:09 → 00:20:12 เฮ้ยจะลืมได้ไงวะเนี่ยอะไรอย่างเงี้ยเออ
00:20:12 → 00:20:15 แต่ว่าอะไรอยู่กับเขาว่านานนะเราก็คิดนะ
00:20:15 → 00:20:18 เราก็เราก็ย้อนกลับไปอ่ะคืออาการเขาจะ
00:20:18 → 00:20:21 เหมือนแบบผู้ใหญ่มาเด็กไงก็คิดว่าไอ้ตอน
00:20:21 → 00:20:24 เด็กๆแม่เลี้ยงเลี้ยงเราจะมายังไงเนี้ยก็
00:20:24 → 00:20:26 อยากได้อะไรแม่ทำให้แล้วอยากกินอะไรแม่
00:20:26 → 00:20:29 บอกแม่ก่อนแม่ทุกอย่างนี้เนอะเราเรียนอ่ะ
00:20:29 → 00:20:30 อ่ะ
00:20:30 → 00:20:33 พ่อแม่หนูอยากได้นั่นอยากได้นี่แม่ไม่เคย
00:20:33 → 00:20:36 ขัดตอนนั้นน่ะเขาคือเทวดาของเราตอนนี้เรา
00:20:36 → 00:20:40 ขึ้นมาฟังเขาถามแม่ว่าโรคอัลไซเมอร์จะไม่
00:20:40 → 00:20:43 สามารถป้องกันหรือรักษาให้หายได้แต่
00:20:43 → 00:20:46 สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
00:20:46 → 00:20:49 ได้ด้วยการดูแลตามแนวทางที่ถูกต้องซึ่ง
00:20:49 → 00:20:53 นอกจากผู้ป่วยแล้วคนที่ทำหน้าที่ดูแลเป็น
00:20:53 → 00:20:55 บุคคลที่ต้องได้รับกำลังใจอย่างมากเพราะ
00:20:55 → 00:20:58 ต้องใช้ทั้งความอดทนความเข้าใจเพื่อเป็น
00:20:58 → 00:21:01 รังผลักดันให้กับตัวเองเดินหน้าดูแลผู้
00:21:01 → 00:21:05 ป่วยในทุกวันให้ดีที่สุดดังนั้นค่ะเรา
00:21:05 → 00:21:08 ต้องมาร่วมด้วยช่วยกันดูแลจิตใจของแท้
00:21:08 → 00:21:10 กี่เบอร์ด้วยเนาะค่ะสำหรับในช่วงหน้านะคะ
00:21:10 → 00:21:13 เราจะมาพูดถึงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิด
00:21:13 → 00:21:16 อัลไซเมอร์นะคะอ่ะ
00:21:16 → 00:21:30 [เพลง]
00:21:30 → 00:21:33 จะ
00:21:33 → 00:21:37 [เพลง]
00:21:37 → 00:21:40 กลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของทีเอ็นเอ็นเฮลธ
00:21:40 → 00:21:45 กันนะคะหลังจากที่เราได้ทราบอาการนะคะการ
00:21:45 → 00:21:47 รักษานะคะเรื่องของอัลไซเมอร์แล้วเชื่อ
00:21:47 → 00:21:50 เธอเขาว่าลายถ้าอยากรู้จังเลยว่า X ตัว
00:21:50 → 00:21:53 เราหรือว่าคนใกล้ตัวเนี่ยมีปัจจัยเสี่ยง
00:21:53 → 00:21:56 ของการเป็นอัลไซเมอร์ไหมแน่นอนค่ะการที่
00:21:56 → 00:22:00 รู้ตรงนี้นะคะเราจะได้มาดูแลนะคะเตรียม
00:22:00 → 00:22:03 พร้อมว่า F ถ้าเรามีเนี่ยจะดูแลตัวเองยัง
00:22:03 → 00:22:06 ไงเพื่อไม่ให้เป็นอัลไซเมอร์คราวนี้เรา
00:22:06 → 00:22:09 รู้กันเขาว่าปัจจัยเสี่ยงของอัลไซเมอร์มี
00:22:09 → 00:22:13 อะไรบ้างข้อที่ 1 ค่ะเรื่องของอายุอายุ
00:22:13 → 00:22:16 ที่มากขึ้นนะคะนับเป็นปัจจัยเสี่ยงของ
00:22:16 → 00:22:19 ภาวะออกซิมส์เอ้ออย่างเสียไม่ได้ค่ะก็มี
00:22:19 → 00:22:23 การศึกษาวิจัยนะคะแล้วก็พบว่าผู้ที่อายุ
00:22:23 → 00:22:27 ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปเนี่ยจะมีความเสี่ยง
00:22:27 → 00:22:30 ของภาวะอัลไซเมอร์มากขึ้นและทุกๆ 5 ปีและ
00:22:30 → 00:22:34 ทุกๆ 5 ปีปัจจัยเสี่ยงของการไปอัลไซเมอร์
00:22:34 → 00:22:37 นี้จะยิ่งเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่ารู้แล้ว
00:22:37 → 00:22:40 ไม่อยากให้อายุเดินผ่านเลยใช่ไหมคะค่ะไม่
00:22:40 → 00:22:43 เพียงแค่อายุมากกว่า 65 นะคะยังมีข่าวว่า
00:22:43 → 00:22:46 รายงานนะคะว่าอายุน้อยกว่า 65 เนี่ยก็
00:22:46 → 00:22:50 เป็นได้ข้อที่สองนะคะก็คือเรื่องของนะคะ
00:22:50 → 00:22:54 ภาวะที่เรียกว่าเจเนติกส์จึงภาวะนี้ถ้า
00:22:54 → 00:22:56 แปลเป็นไทยก็คือพันธุกรรมนั่นเองค่ะอย่าง
00:22:56 → 00:22:58 ต่อมานะคะก็คือความผิดปกติทางพันธุกรรม
00:22:58 → 00:23:01 ที่เรียกว่าดาวน์ซินโดรม
00:23:01 → 00:23:04 ดาวน์ซินโดรมหรือว่ากลุ่มอาการดาวน์นะคะ
00:23:04 → 00:23:08 จะพบได้นะคะว่าคนไข้กลุ่มนี้ค่ะเค้าจะมี
00:23:08 → 00:23:11 ภาวะอัลไซเมอร์ที่เร็วมากกว่าคนปกติทั่ว
00:23:11 → 00:23:15 ไปข้อที่ 4 ค่ะคือภาวะบาดเจ็บที่ศีรษะมา
00:23:15 → 00:23:19 ก่อนภาวะบาดเจ็บที่ศีรษะมาก่อนนะคะก็มี
00:23:19 → 00:23:23 ทั้งงานวิจัยนะคะที่พบว่าว่าถ้าเกิดภาวะ
00:23:23 → 00:23:26 บาดเจ็บทางศีรษะมาแล้วโอกาสที่จะเป็น
00:23:26 → 00:23:29 อัลไซเมอร์สูงขึ้นแต่บางวิจัยบางการศึกษา
00:23:29 → 00:23:32 ก็บอกว่าไม่ได้เกี่ยวแต่อย่างไรก็ดีค่ะใน
00:23:32 → 00:23:35 เมื่อมันมีงานวิจัยที่บ่งบอกถึงว่าเฮ้ย
00:23:35 → 00:23:37 มันมีเรื่องของการบาดเจ็บที่ศีรษะนะและทำ
00:23:37 → 00:23:40 ให้เสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ดีที่สุดก็คือการ
00:23:40 → 00:23:43 ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางศรีษะรู้
00:23:43 → 00:23:45 อย่างนี้แล้วนะคะน้องๆที่ชอบบิด
00:23:45 → 00:23:47 มอเตอร์ไซค์ซิ่งนะคะก็ต้องระวังกันด้วย
00:23:47 → 00:23:50 ใช่ไหมคะและอย่างสุดท้ายค่ะก็คือเรื่อง
00:23:50 → 00:23:54 ของโรคทางเส้นเลือดโดยเฉพาะเสื้อสมองค่ะ
00:23:54 → 00:23:57 เสื้อสมองที่ว่านี้นะคะก็จะมีปัจจัย
00:23:57 → 00:23:59 เสี่ยงที่ทำให้เกิดเส้นเลือดสมองอีกอัน
00:23:59 → 00:24:03 ได้แก่เบาหวานน้ำตาลในเลือดสูงภาวะอ้วน
00:24:03 → 00:24:07 น้ำหนักเกินความดันโลหิตสูงนะคะการสูบ
00:24:07 → 00:24:10 บุหรี่ก็มีผลเช่นเดียวกันอยากเน้นย้ำถึง
00:24:10 → 00:24:12 ปัจจัยเสี่ยงทำไมถึงต้องผู้ที่เราเข้าใจ
00:24:12 → 00:24:15 เพราะสิ่งเหล่านี้ค่ะเราสามารถดูแลและ
00:24:15 → 00:24:18 ป้องกันได้ถึงแม้ว่าสาเหตุบางสาเหตุนะคะ
00:24:18 → 00:24:21 จะป้องกันเปลี่ยนแปลงลำบากเช่นเรื่องของ
00:24:21 → 00:24:24 กรรมพันธุ์ของเราเรื่องของอายุแต่สิ่งที่
00:24:24 → 00:24:26 เปลี่ยนแปลงได้ก็คือกรรมที่เราทำก็คือการ
00:24:26 → 00:24:29 กระทำของเรานั่นเองค่ะหมายความว่ายังไงคะ
00:24:29 → 00:24:32 ถ้าเราปรับนะคะสิ่งที่ตัวเองมีสุขภาพที่
00:24:32 → 00:24:34 แข็งแรงขึ้นนะคะลดเรื่องของน้ำตาลในเลือด
00:24:34 → 00:24:37 สูงความดันโลหิตสูงควบคุมน้ำหนักออกกำลัง
00:24:37 → 00:24:41 กายใส่ใจสุขภาพและในวันนี้นะคะเราก็ได้
00:24:41 → 00:24:44 รับรู้เรื่องราวของอาเซมเอ้อนะคะรวมไปถึง
00:24:44 → 00:24:47 การดูแลผู้ป่วยอาเซมเอ้อแล้วก็การดูแลผู้
00:24:47 → 00:24:50 ที่ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ด้วยนะคะสำหรับ
00:24:50 → 00:24:52 วันนี้หมอดาวแพทย์หญิงชั้นดาวจังวังกรข้อ
00:24:52 → 00:24:57 ต่อไปก่อนสวัสดีค่ะอ่ะ
00:24:57 → 00:25:01 ผู้สนับสนุนโดย True 5g ดียิ่งกว่าอยู่
00:25:01 → 00:25:05 กับทรู 5 จีก้าวสู่ยุคใหม่ไปด้วยกัน
00:25:05 → 00:25:31 [เพลง]