00:00:00 → 00:00:05 The bests ThaiPBS คาสวีเวิลด์ my boy
00:00:05 → 00:00:09 ถ้าไม่ในคนเนี่ยเวลาเราจะเช็คดูว่าคนข้าง
00:00:09 → 00:00:11 ๆเราตัวร้อนหรือเปล่าค่ะนะเราจะสัมผัส
00:00:11 → 00:00:14 เปิดใช้หลังๆแบบภูมิปกติของอิ่มร่างกาย
00:00:14 → 00:00:17 ของคนเรากลับมา 37 องศาของสุนัขเน็ตจะ
00:00:17 → 00:00:20 ประมาณ 37.5 ถึง 38 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้า
00:00:20 → 00:00:23 38 ในคนเนี่ยโหว่ามีไข้และใช่ในสุนัขตัว
00:00:23 → 00:00:26 อุณหภูมิปกติวิธีการแตะเนี่ยอย่างเช่นการ
00:00:26 → 00:00:30 สัมผัสตรงท้องการสัมผัสตรงใบหูด้านในอัน
00:00:30 → 00:00:32 นั้นมันก็ตัวพอที่จะสัมผัสได้กับอีกอัน
00:00:32 → 00:00:35 หนึ่งคือลมหายใจถ้าจะบอกว่าวิธีการตรวจ
00:00:35 → 00:00:38 แบบนี้มันเป็นวิธีการตรวจที่อาจจะไม่ได้
00:00:38 → 00:00:41 ชัวร์ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
00:00:41 → 00:00:45 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคไทยฟังราย
00:00:45 → 00:00:51 การโรงหมอกับดิฉันสุรีย์พรวงศ์สถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:54 สวัสดีค่ะพี่ไม่ฟังค่ะขอต้อนรับสมุดราย
00:00:54 → 00:00:56 การโรงหมอทางไทยพี Bass pod ค่าวันนี้พบ
00:00:56 → 00:00:59 กันเช่นเคยนะคะกับเราวันนี้เราจะคุยกัน
00:00:59 → 00:01:02 ถึงเรื่องเจ้าของไข้และการลดไข้ของสัตว์
00:01:02 → 00:01:05 เลี้ยงนะคะเอคือเวลาที่เราเลี้ยงสัตว์
00:01:05 → 00:01:07 เลี้ยงก็ต้องดูแลเขานะเวลาที่เขาเจ็บไข้
00:01:07 → 00:01:10 ได้ป่วยอะไรขึ้นมาแต่ถ้าเกิดแบบเวลาเขา
00:01:10 → 00:01:13 ป่วยเนี่ยมีใครตัวร้อนหรือไรให้ตรงจะดู
00:01:13 → 00:01:15 ยังไงอ่ะอันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ
00:01:15 → 00:01:18 เดี๋ยวเราจะไปคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์
00:01:18 → 00:01:20 นายสัตวแพทย์ดร.เทรดิษรุ่งเรืองกิจไกร
00:01:20 → 00:01:22 ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์
00:01:22 → 00:01:26 องค์กรคณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาฯคะสวัสดีค่ะ
00:01:26 → 00:01:28 อาจารย์โอมค่าสวัสดีครับคุณสุรีพรครับ
00:01:28 → 00:01:32 สวัสดีครับหูฟังครับค่ะบางทีคือเลี้ยงเคย
00:01:32 → 00:01:35 เลี้ยงดูหนังนี่แหละหนูไม่รู้ว่าเขามีไข้
00:01:35 → 00:01:38 หรือเขาเป็นอะไรคือแบบรู้แต่ว่าบางทีซึม
00:01:38 → 00:01:42 อ่าเธอไม่ค่อยแบบเรียกมาก็ไม่มาไม่สนใจ
00:01:42 → 00:01:44 เลือกลาวมองเฉยก็มีเหลืออย่างเงี้ยดูปกติ
00:01:44 → 00:01:47 เอานี่ว่าดูผิดเป็นคนหญิงหรือเปล่า
00:01:47 → 00:01:50 ไม่น่าหญิงปกติไม่ได้ยิงหรือบางทีถ้ามี
00:01:50 → 00:01:53 ของกินมาล่อปุ๊บเนี่ยเรียกมายังไงก็ต้อง
00:01:53 → 00:01:57 มาแต่บางทีก็ดูแบบให้ดูซึมให้เป็นอะไรคือ
00:01:57 → 00:02:01 ไม่รู้อ่ะว่าเป็นไข้ตรวจจับและมันยังไง
00:02:01 → 00:02:04 อ่ะตัวร้อนนอนก็เป็นคนถ้าเป็นในคนเนี่ย
00:02:04 → 00:02:06 เวลาเราจะเช็คดูว่า
00:02:06 → 00:02:09 คนข้างๆเราตัวร้อนหรือเปล่านะเราจะสัมผัส
00:02:09 → 00:02:14 และใช้หลังๆแต่สมัยห่างอ่าคือปกติเนี่ยคน
00:02:14 → 00:02:16 เราอุณหภูมิจะใกล้เคียงการเพราะฉะนั้นถ้า
00:02:16 → 00:02:20 ตัวที่เราไปสําคนที่ไปสัมผัสเนี่ยอุ่น
00:02:20 → 00:02:22 กว่าปกติเราจะสัมผัสได้ว่าอุ่นปกติแต่
00:02:22 → 00:02:24 ต้องเรียนว่าสุนัขเนี่ยสุนัขกับแมวมี
00:02:24 → 00:02:28 อุณหภูมิร่างกายที่สูงกว่าของคนเพราะ
00:02:28 → 00:02:31 ฉะนั้นเนี่ยเวลาเราไปสัมผัสตรงท้องตรงตัว
00:02:31 → 00:02:33 ของสำนักนะประมาณจะเข้าใจว่าเอกเขาเป็น
00:02:33 → 00:02:36 ไข้หรือเปล่าเพราะตัวร้อนตัวจะอุ่นอุ่น
00:02:36 → 00:02:38 กว่าตัวเราเราจะสัมผัสได้ถึงความอุ่นได้
00:02:38 → 00:02:41 ตลอดเวลาเลยครั้งที่สัมผัสจนอาจทำให้เกิด
00:02:41 → 00:02:44 การสับสนกันได้ว่าเอ๊ะสุดท้ายแล้วของตัว
00:02:44 → 00:02:46 สุนัขเนี่ยส่วนของเราที่เราเลี้ยงเนี่ย
00:02:46 → 00:02:49 เป็นไข้หรือมันภูมิปกติถ้านะครับต้อง
00:02:49 → 00:02:52 เรียนว่าเอ่อการเป็นไข้เนี่ยะอุณหภูมิ
00:02:53 → 00:02:55 ปกติของเยี่ยมร่างกายของคนเรากลับมา 37
00:02:55 → 00:02:58 องศาเอาแบบตรงๆตัวเล็กลงง่ายๆแต่ของสุนัข
00:02:58 → 00:03:00 เน็ตจะประมาณ
00:03:00 → 00:03:03 มาถึง 38 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้า 38 ในคน
00:03:03 → 00:03:05 เนี่ยโหว่ามีไข้แล้วใช่มั้ยสุนัขตัว
00:03:05 → 00:03:09 อุณหภูมิปกติอ๋อเอามือไปแตะตรงท้องหรอคะ
00:03:09 → 00:03:11 เออวิธีการแตะเนี่ยอย่างเช่น with วิธี
00:03:11 → 00:03:15 การสัมผัสเนี่ยตรงหลังหลังตรงๆท้องอืด
00:03:15 → 00:03:17 ท้องเป็นตัวที่บอกได้เพราะว่าถ้าไม่จับ
00:03:17 → 00:03:20 ตัวโดนขน 5 คนนี้เป็นตัวที่การความร้อน
00:03:20 → 00:03:23 อยู่แล้วเพราะฉะนั้นจะไม่โดนพุทธภูมิที่
00:03:23 → 00:03:26 แท้จริงของตัวสัตว์ 5 นะการสัมผัสตรงท้อง
00:03:26 → 00:03:30 การสัมผัสตรงใบหูด้านในหรือจะไปถึงมีสอง
00:03:30 → 00:03:32 ด้านด้านที่มีขนกันได้ที่มีขนอ่ะอันนั้น
00:03:32 → 00:03:35 ก็เป็นตัวพอที่จะสัมผัสได้กับอีกอันหนึ่ง
00:03:35 → 00:03:38 คือลมหายใจไม่ได้เช็คว่าเขายังมีสิทธิ์
00:03:38 → 00:03:41 อยู่หรือเปล่านะครับให้อังดูว่าอ้ะกฎร้อน
00:03:41 → 00:03:43 ไหมก็ได้หายใจออกมาแล้วจะหมดจะสัมผัสได้
00:03:43 → 00:03:45 ว่ามีความอุ่นหรือเปล่าแต่จะบอกว่าวิธี
00:03:45 → 00:03:48 การตรวจแบบนี้มันเป็นวิธีการตัวที่อาจจะ
00:03:48 → 00:03:50 ไม่ได้ไม่ได้ชัวร์ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
00:03:50 → 00:03:52 การที่สุดคือการวัดอุณหภูมิ
00:03:52 → 00:03:56 วัดอุณหภูมิในคนเราเป็นยังไงคนเราก็ใช้
00:03:56 → 00:03:58 วิธีปลอดนะจะให้ทำให้ก่อนเราจะปลอดอมใต้
00:03:58 → 00:04:01 ลิ้นนะฮะซึ่งถ้าไม่สมัครไม่ได้แน่นอนอ้าว
00:04:01 → 00:04:03 ไม่ได้แล้วก็เดี๋ยวนี้ก็ใช้วิธีการใช้
00:04:04 → 00:04:07 เครื่องมือก็ยิงไปที่หน้าผากแล้วก็วัด
00:04:07 → 00:04:09 อุณหภูมิเปิดออกมาแต่ในสุนัขเนี่ยสิ่งที่
00:04:09 → 00:04:12 ทำได้ที่แนะนำให้ทำคืออ่าต้องวัดอุณหภูมิ
00:04:12 → 00:04:15 จากทวารหนักนะครับมันจะมีปลายของปรับเอา
00:04:15 → 00:04:18 ไปของปรอทแยกไอ้ตรงทวารหนักประมาณสักสอง
00:04:18 → 00:04:20 เซนอะไรเนี่ยประมาณเนี้ยตลอดของเราตลอด
00:04:20 → 00:04:23 ได้ไหมคะปรอทของเราที่เราไม่จะไม่เอากลับ
00:04:23 → 00:04:28 มาใช้อีกขนมใต้ลิ้นต้องเรียนย้ำนะครับมี
00:04:28 → 00:04:30 เงินแยกต่างหากนะ of ปรอทแบบเดียวกันได้
00:04:30 → 00:04:32 ใช่ไหมครับได้ครับที่อยู่ตลอดจะมี 2 แบบ
00:04:32 → 00:04:35 ปรอทที่ใช้วัดอุณหภูมิมี 2 แบบความหมาย
00:04:35 → 00:04:38 ถึงอันที่วัดเขาเพชรวัดร่างกายนะฮะอ่ะไม่
00:04:38 → 00:04:40 ได้หมายถึงตัวที่ที่ยิงแล้วว่าเป็นคลื่น
00:04:40 → 00:04:43 เรามาตรงนั้นนะครับเอ่อมันมีลักษะของเดท
00:04:43 → 00:04:46 กับของผู้ใหญ่เวลาเราไปโรงพยาบาลสมัยก่อน
00:04:46 → 00:04:48 จะเป็นป้ายร้านป้ายเร็วๆนิดนึงหรือเปล่า
00:04:48 → 00:04:51 ว่ายอมใต้ลิ้นอันนี้เป็นเป็นกันเป็น
00:04:51 → 00:04:54 กระเปาะเล็กๆเป็นเป็นแท่งๆแต่เป็นปลาจะ
00:04:54 → 00:04:56 เป็นกระปอบซึ่งต้องเห็นหน้าก็อาจจะเอาเอา
00:04:56 → 00:05:00 ไว้ซอบไปวัดที่อุณหภูมิที่ก้นของสุนัขได้
00:05:00 → 00:05:03 และก็จะบอกได้ระดับหนึ่งซึ่งการวันหน้าจะ
00:05:03 → 00:05:04 ค่อนข้างแน่นอนมากกว่าการที่เอามือไป
00:05:04 → 00:05:07 สัมผัสเราจะรู้นะผมแน่ๆเพราะว่าถ้าเกิด
00:05:07 → 00:05:09 ว่าวัดอุณหภูมิวัดที่ก้นเข้าไปแล้วเนี่ย
00:05:09 → 00:05:14 อุณหภูมิของเขาอยู่ที่ที่ 37.5 หรือ 102
00:05:14 → 00:05:18 องศาฟาเรนไฮด์ 5 ปกติมีปัญหาเลยแต่พอจับ
00:05:18 → 00:05:20 ตัวกูทำมันตัวรุมๆแล้วก็สามารถคอนเฟิร์ม
00:05:20 → 00:05:22 ได้ด้วยการใช้ปลอดวัดไข้เป็นตัววัด
00:05:22 → 00:05:25 อุณหภูมิเบื้องต้นก่อนเลยอยู่ที่บ้านก็
00:05:25 → 00:05:29 ได้ทำไมไม่วัดที่แบบใต้ลิ้นเหมือนของคนนะ
00:05:29 → 00:05:31 คะเราสั่งเขาไม่ได้เพราะว่าเขามีโอกาส
00:05:31 → 00:05:35 พิกัดแล้วก็ครับก็เอาไปพูดลำเค้าเรียก
00:05:35 → 00:05:38 ปรับปากไว้เลยได้ไหมฮะเคียวตัวฟันของ
00:05:38 → 00:05:41 สุนัขเนี่ยจะจะเกิดในช่องปากเนี่ยมันจะมี
00:05:41 → 00:05:44 ฟันที่เรียงตัวเป็นส่วนโค้งการแหย่เข้าไป
00:05:44 → 00:05:47 ตรงนั้นเนี่ยมันต้องผ่านตัวฟันเข้าไปถึง
00:05:47 → 00:05:50 ตัวนี้ก็กัดมีโอกาสที่จะแต่งอันตรายมาก
00:05:50 → 00:05:53 กว่าไม่ควรนะเลยต้องเอาเข้าที่วัดที่ก้น
00:05:53 → 00:05:56 พอดีควรจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดจะบอก
00:05:56 → 00:05:59 ว่าการใช้ปืนต้องใช้ข้อปืนไม่ค่อยว่าอะไร
00:05:59 → 00:06:01 ครับปืนที่วัดไข้ไว้อีมายิงตรงหน้าผาก
00:06:01 → 00:06:03 อะไรเงี้ยตรงนั้นเนี่ยคือถ้าเกิดว่า
00:06:03 → 00:06:06 สัมผัสกับตัวผิวหนังของสัตว์เลยเนี่ยค่อน
00:06:06 → 00:06:11 ข้างโอเคแต่ว่าโดยปกติแล้วในสุนัขเนี่ย
00:06:11 → 00:06:14 การใช้เครื่องมือเหล่านั้นมาวัดเนี่ยมัน
00:06:14 → 00:06:17 ยังไม่ผลยังไม่แน่นอนเป็นตลอดดีกว่าถ้าจะ
00:06:17 → 00:06:20 ทั้งหมดมีว่าอยู่ที่บ้านหาเบื้องต้นใช่
00:06:20 → 00:06:23 มั้ยมาเอาติดตัวไว้ที่บ้านเลยเวลาเรานึก
00:06:23 → 00:06:26 สงสัย S ตัวสัตว์เลี้ยงมีใครหรือเปล่าเรา
00:06:26 → 00:06:28 จะได้ว่าเป็นผู้ว่าอุณหภูมิวันนี้เท่า
00:06:28 → 00:06:30 ไหร่สูงกว่าปกติไหมแมวก็ใช้แบบเดียวกัน
00:06:30 → 00:06:32 เหมือนกันครับผมเหมือนกันนั่นแหละแต่อย่า
00:06:32 → 00:06:35 ลืมเลยว่าทั้งสุนัขและแมวอ่ะไม่ค่อยชอบ
00:06:35 → 00:06:38 ให้ใครไปยุ่งเรียนก้นแน่ๆจับหางก็ไม่เอา
00:06:38 → 00:06:41 ล่ะชายเหรออ่าต้องมีคนช่วยกันอีกคนนึง
00:06:41 → 00:06:44 ช่วยจับหรือประคองตัวเลยต้องส่วนของคุณจะ
00:06:44 → 00:06:46 อยู่ที่คลินิกเนี่ยเขาจะยอมเพราะว่าจะมี
00:06:46 → 00:06:50 ผู้ช่วยสัตวแพทย์คอยถอยแฮนเดอร์ตัวเอาบาง
00:06:50 → 00:06:53 คนอาจใช้วิธีเอาผ้าผ้าขนหนูพันตัวแล้วก็
00:06:53 → 00:06:56 เว้นตรงช่องตรงก้นนะฮะพันตัวเลยแล้วก็
00:06:56 → 00:06:59 แฮนเดอร์เขากอดเขาไว้แล้วก็เอาเอาปรอทวัด
00:06:59 → 00:07:02 ไข้โป้ฝรั่งแต่พอดีกระบวนการนั้นก็วุ่น
00:07:02 → 00:07:05 วายแต่ทำใจล่าสุดเขาดีกว่าแต่ไม่ได้เอาไป
00:07:05 → 00:07:08 คืนเขารู้เขารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องสงบเขา
00:07:08 → 00:07:12 ว่าจำยอมแค่จะร้องไห้ใส่เลยอะไรประมาณนี้
00:07:12 → 00:07:17 นะฮะอ่ะทีนี้วัดและปุ๋ยสุวรรณภูมิสูง
00:07:17 → 00:07:20 อาการเขามันจะมียังไงนอกจากตัวร้อนแล้ว
00:07:20 → 00:07:24 เนี่ยกันกำลังจะบอกเลยครับว่าว่าเอ่อการ
00:07:24 → 00:07:26 ที่เราจะรู้ว่าเขาเป็นไข้หรือเปล่าเนี่ย
00:07:26 → 00:07:29 นอกจากการที่ดูนะภูมิและอาจต้องอุปกรณ์
00:07:29 → 00:07:32 อื่นๆด้วยอย่างเช่นว่าเอ่อหลายๆตัวมักจะ
00:07:32 → 00:07:34 มีอาการอาการไข้มาในคนคือมันจะเป็นตัว
00:07:34 → 00:07:39 สั้นๆห้ากันเอาสั้นๆบางรายจะมีตาแดงอาการ
00:07:39 → 00:07:42 ที่พบส่วนใหญ่คือซึมเริ่มเนาะนอนซมแล้วก็
00:07:42 → 00:07:47 ซึมอาจจะเคยกินอาหารอยู่ในประจำก็ไม่กิน
00:07:47 → 00:07:49 เบื่ออาหารขึ้นมากินอาหารไม่ได้ไม่มี
00:07:49 → 00:07:52 เรื่องไม่แรงไม่ลุกมาเล่นเคยเรียกมาเพราะ
00:07:52 → 00:07:55 เรียกมาเพิ่มโหกระโดดวิ่งเข้ามานั่งตัก
00:07:55 → 00:07:58 เลยแต่เนี่ยแค่เหลือบตามองแล้วก็เฉยอย่าง
00:07:58 → 00:08:00 ที่บอกว่าไอ้เขาหญิงหรือเปล่าทั้งที่ไม่
00:08:00 → 00:08:03 ใช่ยิงแต่ว่าพอพอเริ่มมีค่ายผู้ร่างกายก็
00:08:03 → 00:08:05 ไม่ค่อยแข็งแรงไม่ค่อยมีแรงและก็อยากจะ
00:08:05 → 00:08:08 นอนซึ่งอย่างนั้นต้องต้องอาศัยการสังเกต
00:08:08 → 00:08:11 ของเจ้าของด้วยก็เหมือนคนเลยนะว่าการนั้น
00:08:11 → 00:08:14 การแจ้งอันเราเราจะรู้ได้ไงว่าเขาเป็น
00:08:14 → 00:08:17 ขึ้นเป็นเวอร์คือเข้าไปโดนอะไรมาทำไมแบบ
00:08:17 → 00:08:21 เขาถึงเป็นไข้ได้ต้องบอกว่าสาเหตุของการ
00:08:21 → 00:08:23 เป็นไข้มีหลายอย่างภาวะเป็นไข้ในต้องบอก
00:08:23 → 00:08:26 ว่ามันเป็นภาวะการตอบสนองของร่างกายปกติ
00:08:26 → 00:08:30 เมื่อร่างกายได้รับสิ่งอันตรายได้รับ
00:08:30 → 00:08:33 เชื้อโรคเข้าไปหามันกับเกาะกรณีที่เอา
00:08:33 → 00:08:35 เคนะร่างกายมีเชื้อเข้าไปในร่างกายร่าง
00:08:35 → 00:08:38 กายจะพยายามคำอุณหภูมิให้สูงขึ้นเพื่อต่อ
00:08:38 → 00:08:41 สู้กับเชื้อเชื้อโรคไม่ว่าจะแบคทีเรียเรา
00:08:41 → 00:08:45 หรือไวรัสเหล่านั้นการมีไข้จึงบอกว่ามัน
00:08:45 → 00:08:47 เป็นมันเป็นเรื่องที่ดีในการที่จะต่อสู้
00:08:47 → 00:08:50 แต่ว่าถ้าเกิดมีใครแล้วไม่สามารถสู้นั้น
00:08:50 → 00:08:54 ได้มันก็จะมีสภาวะอื่นๆตามมาเพราะฉะนั้น
00:08:54 → 00:08:58 สาเหตุของการมีค่ายเนี่ยนอกจากจะเป็นการ
00:08:58 → 00:09:00 ต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกายแล้วก็อาจจะมี
00:09:00 → 00:09:05 การอักเสบมีการติดเชื้อต่างๆซึ่งซึ่งบาง
00:09:05 → 00:09:07 ทีเนี่ยเราไม่รู้เลยมองภายนอกเราไม่เห็น
00:09:07 → 00:09:10 แต่ว่าเขามีปัญหาเรื่องการกระเพาะปัสสาวะ
00:09:10 → 00:09:14 อักเสบช่องหูอักเสบหรือมีบาดแผลมีการบวม
00:09:14 → 00:09:16 มีการอักเสบเลยต่างๆคุณภูมิของร่างกายก็
00:09:16 → 00:09:19 สูงขึ้นก็ทำให้เกิดอาการมีไข้ตรงนี้ได้
00:09:19 → 00:09:22 บางรายอาจจะเกิดจากการแพ้เพื่อโดนแมลงมี
00:09:22 → 00:09:26 พิษกัดต่อยหรือว่าได้รับสารเคมีอะไรต่าง
00:09:26 → 00:09:29 ที่เป็นอันตรายเช่นตัวน้ำตาลเทียมไซลิทอล
00:09:29 → 00:09:32 ไฟที่เข้าคือที่เรามีในหมากฝรั่งเรื่อง
00:09:32 → 00:09:34 เขียวอ่ะหน้าที่คนไทยชอบกินอ่ะไอ้ตัวนี้
00:09:34 → 00:09:39 ทำให้เกิดปัญหาในเน็ตสุนัขได้นะครับค่า
00:09:39 → 00:09:42 เฮ้ยนี่ก็จากหลายสาเหตุแล้วก็มีหลายส่วน
00:09:42 → 00:09:48 เหตุมากมันเป็นไข้แต่และอีกแหละมึงคือลบ
00:09:48 → 00:09:52 ไม่หนึ่งเอาวัดอุณหภูมิไปละคือการดูแล
00:09:52 → 00:09:55 หรือเงี้ยการดูแลจะยุ่งยากไหมขึ้นและมี
00:09:55 → 00:09:59 ความสุขนะว่าเขาก็เป็นไข้ไม่สบายการดูแล
00:09:59 → 00:10:01 อาจจะไม่ได้ยากเหมือนกับเขาเป็นโรคนั้น
00:10:01 → 00:10:04 โรคนี้ชัดเจนเลยนะคะคือต้องบอกเนี่ยเขา
00:10:04 → 00:10:07 ว่าเวลาที่คือบางรายเนี่ยพอสุนัขมีไข้
00:10:07 → 00:10:11 ขึ้นมาหรือแมวมีค่ายเจ้าของบางคนก็จะหูไป
00:10:11 → 00:10:14 ก่อนมี 2 กรณีไปก่อนเดี๋ยวคงจะดีขึ้นเอง
00:10:14 → 00:10:19 อีก 2-3 วันก็คงหายจะปิดบังอีกรายนึงก็พอ
00:10:19 → 00:10:22 เห็นว่าเริ่มตัวซึมๆตัวตัวรุมๆมีให้ผู้พา
00:10:22 → 00:10:24 ทบสุดว่าเลยค่ะแบบหลังนี้ก็ดีแต่บางครั้ง
00:10:24 → 00:10:27 ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนั้นสิ่งที่
00:10:27 → 00:10:31 เราสามารถดูแลเบื้องต้นได้กรณีที่สุนัข
00:10:31 → 00:10:35 หรือแมวตัวรุมๆเด็กมีไข้เราใช้วิธีการอาจ
00:10:35 → 00:10:38 จะแปะแผ่นเจลหรืออาจจะใช้ตัวสุนัข 7 ตัว
00:10:38 → 00:10:41 ถูกต้องครับเป็นวิธีการที่ดีที่ที่เหมาะ
00:10:41 → 00:10:43 สมที่แนะนำว่าควรต้องมาใช้เบื้องต้นกับ
00:10:43 → 00:10:46 รอยคือการเช็ดตัวให้ตัวเนี่ยอ่ะก็จะใช้
00:10:46 → 00:10:50 ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติไม่จำเป็นต้องไปเอา
00:10:50 → 00:10:52 น้ำอุ่นหรืออาจจะไม่ต้องถึงขนาดนั้นเรียน
00:10:52 → 00:10:55 แต่ใช้น้ำอุณหภูมิปกติหรือเย็นนิดหน่อย
00:10:55 → 00:10:58 ได้บีบให้แห้งหมาดหมาด B ให้มันหมาดแล้ว
00:10:58 → 00:11:03 เช็ดตามท้องตามขาหนีบข้อพับต่างๆรวมถึงลำ
00:11:03 → 00:11:06 ตัวเช็ดย้อนขนทัพไปลำตัวขึ้นดิเช็ดย้อนขน
00:11:06 → 00:11:09 เพราะว่าขนของสุนัขเนี่ยจะไล่ไปจัดหัวไป
00:11:09 → 00:11:12 ท้ายจากขบวนลงข้างล่างอะเช็ดให้เช็ดย้อน
00:11:12 → 00:11:17 นะครับเพราะว่าเวลาที่น้ำเนี่ยสัมผัสกับ
00:11:17 → 00:11:19 ผิวหนังและโดนอุณหภูมิความร้อนเวลาน้ำมัน
00:11:19 → 00:11:21 อ่ะเคยออกไปมันจะเป็นการดึงความร้อนออก
00:11:21 → 00:11:24 จากร่างกายไปด้วยให้เช็ดตัวนะคะตัวให้ถึง
00:11:24 → 00:11:27 ขนาดว่าไปโดนน้ำไปอาบน้ำเลยยังไม่ได้นะ
00:11:27 → 00:11:29 เดี๋ยวเอาที่สุดดีบอกให้อาบน้ำแต่ว่าใน
00:11:29 → 00:11:32 ทางปฏิบัติจริงๆผมก็ยังไม่แนะนำให้ทำแบบ
00:11:32 → 00:11:35 นั้นกลัวจะช็อคกับราศีเกิดอะไรตัวเป็น
00:11:35 → 00:11:37 นั้นภาคอุณหภูมิลดลงเร็วเกินไปถ้ารถเร็ว
00:11:37 → 00:11:40 เกินไปไม่ดีเพราะฉะนั้นคือบอกว่าเช็ดตัว
00:11:40 → 00:11:42 เอาผ้าชุบน้ำเย็นธรรมดาเช็ดตัวแล้วก็ให้
00:11:42 → 00:11:44 ลูกภูมิตามลงเรื่อยๆจะดีกว่าเช็ดตามค่ะ
00:11:44 → 00:11:47 ต้องหูใบหูด้านเต็มไปด้วยตามคอตามหน้าตา
00:11:47 → 00:11:50 อะไรประมาณนั้นนะครับก็จะไม่เขาค่อยๆดี
00:11:50 → 00:11:53 ขึ้นแต่ที่สำคัญคือต้องมันวัดอุณหภูมิเรา
00:11:53 → 00:11:56 จะได้รู้ว่าอุณหภูมิเขาลดลงหรือเปล่าลดลง
00:11:56 → 00:11:58 แล้วรึยังมันน่าสิ่งเจ้าทำมันเพียงพอแล้ว
00:11:58 → 00:12:01 รึยังอ๋ออ๋อก็แต่ถ้าเกิดว่าในระหว่างนี้
00:12:01 → 00:12:04 ที่ทำไปแล้วครับอาการความร้อนของลดลง
00:12:04 → 00:12:07 อุณหภูมิลดลงป่ะจนปกตินี้จะได้ว่ากล้อง
00:12:07 → 00:12:11 เบาใจได้บางทีอาจจะบอกว่ามีน้ำตั้งทิ้ง
00:12:11 → 00:12:14 ไว้เขาให้กินนิดนึงถ้าเขากินน้ำนิดๆหน่อย
00:12:14 → 00:12:16 ๆก็จะช่วยทำให้ลดปัญหาเรื่องการเสียน้ำ
00:12:16 → 00:12:20 กันการมีจัดการมีไข้ได้ควรเค้าควรเอาเขา
00:12:20 → 00:12:25 ไปแบบว่าอยู่กับพัดลมแบบเป่าหรือว่าอยู่
00:12:25 → 00:12:27 ในห้องแอร์อย่างนี้ไหมคะจริงๆแล้วการใช้
00:12:27 → 00:12:29 พัดลมก็ช่วยได้นะครับคือจะจะบอกว่าเวลา
00:12:29 → 00:12:33 ที่เราเช็ดตัวเนี้ยเราต้องการให้น้ำที่
00:12:33 → 00:12:36 อยู่ในผ้าเช็ดตัวผ้าเช็ดเนี่ยสัมผัสกับ
00:12:36 → 00:12:38 ตัวผิวหนังแล้วก็ให้มันระเหยน้ำมันระเหย
00:12:38 → 00:12:41 ดังนั้นหลายๆคนก็ใช้วิธีการเช็ดตัวไปแล้ว
00:12:41 → 00:12:44 ก็เปิดพัดลมเบาๆเพื่อให้น้ำเลยเร็วขึ้นก็
00:12:44 → 00:12:46 จะเป็นการพาความร้อนที่ไหนได้เร็วขึ้นใคร
00:12:46 → 00:12:50 เบาๆก็พอนะไม่ต้องเบอร์ 3 5 ๆใช้เบาๆ
00:12:50 → 00:12:53 เพราะอาจจะไม่ใช่เอาไดร์เป่าผมที่ที่เปิด
00:12:53 → 00:12:55 อุณหภูมิสูงเข้าอีกยิ่งไปกันใหญ่น้อยไม่
00:12:55 → 00:12:57 ชนะสะอาดให้ใช้อุณหภูมิร้อนไม่ได้ใช่มั้ย
00:12:57 → 00:13:00 ใช่เค้าแต่ถ้าได้ตอบผมที่เป็นแบบรวมปัก
00:13:00 → 00:13:04 รวมปกติได้ได้เลยครับบางเจ้าของหัวหน้าจะ
00:13:04 → 00:13:07 บอกว่าเราก็ใช้ช็อตคัตสิไม่ต้องเช็ดตัว
00:13:07 → 00:13:11 เพราะมีไข้ก็ให้ยากินตรงนี้เราอยากจะย้ำ
00:13:11 → 00:13:13 เลยว่าค่อนข้างอันตรายเพราะว่ายาลดไข้
00:13:13 → 00:13:17 สำหรับสัตว์เลี้ยงกับสำหรับคน
00:13:17 → 00:13:22 มันมีความต้องใช้ว่ามีความทนมีความต้าน
00:13:22 → 00:13:25 ทานแล้วก็เหมาะสมแตกต่างกัน 5 ยาลดไข้ใน
00:13:25 → 00:13:28 คนหลายๆตัวที่หลายๆคนชอบเอาไปให้สัตว์
00:13:28 → 00:13:32 เลี้ยงกินไม่ใช่เรื่องดีพาราเซตามอลว8
00:13:32 → 00:13:35 ไพลินไอบูโปรเฟนและลำต่างๆเหล่านั้นคือ
00:13:35 → 00:13:38 ถามว่าว่าเขารับไม่ได้เลยหรอไม่ใช่ของเรา
00:13:38 → 00:13:41 ไม่ได้เลยรับได้แต่ว่ามันมีปริมาณที่น้อย
00:13:41 → 00:13:45 มากๆคือโดนของคนกับรถสงสัยเล่นมันต่ำดี
00:13:45 → 00:13:47 มากแล้วหลายๆตัวมันไม่มีเอนไซม์ที่สำหรับ
00:13:47 → 00:13:51 ย่อยถ้าเพราะฉะนั้นไม่ๆๆไม่ทำโดยเฉพาะ
00:13:51 → 00:13:56 พารากับแมวนะครับแมวเนี่ยจะไม่มีตัว
00:13:56 → 00:13:58 เอนไซม์ที่จะขับยาตัวนั้นออกเพราะฉะนั้น
00:13:58 → 00:14:01 มันจะเป็นพิษต่อตับหลายๆหลายๆไลน์เนี่ย
00:14:01 → 00:14:06 ถ้าเล่มเจอบ่อยเลยว่าเด็กยังกินพาราได้
00:14:06 → 00:14:09 แมวป่วยก็เลยเอาพาราให้กินคิดแบบนั้นก็
00:14:09 → 00:14:12 ป้อนเข้าไปก็ให้โดดของเด็กแต่โดย 2 เด็ก
00:14:12 → 00:14:17 ที่พูดถึงเนี่ยแมวหน้าบวมตัวลิ้นสีม่วง 5
00:14:17 → 00:14:20 แล้วก็ตับวายเป็นแถวลงครับเพราะฉันต้อง
00:14:20 → 00:14:24 ระวังจะบอกว่าคือแนะนำว่าพาราเนี่ยห้าม
00:14:24 → 00:14:27 ให้ในมาในมานี่แมวถ้าไม่แนวเลยใช้คำว่า
00:14:27 → 00:14:30 ห้ามจะดีกว่าไม่ได้หมายความว่าไม่ได้เลย
00:14:30 → 00:14:32 แต่ว่าอย่าเสี่ยงดีกว่าเพราะปริมาณที่
00:14:32 → 00:14:34 เดียวก็ทำให้เกิดปัญหาได้แล้วอะไรอย่าง
00:14:34 → 00:14:37 นี้มียาลดไข้สำหรับสัตว์เลี้ยงนี้ไหมคะ
00:14:37 → 00:14:40 จริงๆแล้วมียาลดไข้เฉพาะของสัตว์เลี้ยง
00:14:40 → 00:14:44 แต่ว่าอยากจะแนะนำว่าปรึกษาคุณหมอดีกว่า
00:14:44 → 00:14:47 เพราะว่ายาร้านขายของสัตว์เลี้ยงของสุนัข
00:14:47 → 00:14:50 แมวนะมันอยู่ในรูปรูปที่ที่ทำและสามารถ
00:14:50 → 00:14:53 เค้ากินได้ไม่ง่ายถ้ามันไม่ใช่ภาระจะมอง
00:14:53 → 00:14:56 ไม่ใช่ไอไอบูโปรเฟนไม่ใช่แอสไพรินซึ่งตรง
00:14:56 → 00:15:00 กลุ่มแล้วนะอยากจะไม่อยากจะให้ยกเลิกให้
00:15:00 → 00:15:02 ยกเลิกสำหรับสัตว์เลี้ยงนะเจ้าของนี่คือ
00:15:02 → 00:15:05 ตัดไปเลยว่าอย่าไปเอายาเหล่านั้นให้กิน
00:15:05 → 00:15:08 เช็ดตัวไว้ก่อนแล้วแล้วล่ะค่อยว่ากันหรือ
00:15:08 → 00:15:12 อาจจะไปปรึกษาคุณหมออาจจะขอขอยาสำหรับ
00:15:12 → 00:15:15 สัตว์เลี้ยงมาทิ้งไว้ที่บ้านแต่ว่าก็ไม่
00:15:15 → 00:15:18 บอกว่าการกินยาลดไข้แล้วมันจะหายเพราะว่า
00:15:18 → 00:15:22 กรณีที่สัตว์ป่วยการมีค่ายเป็นการแสดง
00:15:22 → 00:15:26 ภาวะของการป่วยเป็นผลที่เกิดจากการติด
00:15:26 → 00:15:28 เชื้อจัดการป่วยดังนั้นเราต้องหาสาเหตุ
00:15:28 → 00:15:31 ให้เจอว่าสาเหตุของการมีไข้จริงมันคือ
00:15:31 → 00:15:35 อะไรนะครับถ้าได้มีไข้เกิดจากการติดเชื้อ
00:15:35 → 00:15:39 แบคทีเรียหรือไวรัสคุณหมอคงต้องพิจารณา
00:15:39 → 00:15:41 ว่าจะต้องให้ยาค่าควบคุมการติดเชื้อ
00:15:41 → 00:15:44 แบคทีเรียยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าไวรัสเอดส์
00:15:44 → 00:15:47 ต่างร่วมกันด้วยค่ะก็จะเริ่มลดลงซึ่งให้
00:15:47 → 00:15:49 ตอนแรกอาจจะไข้สูงอยู่คุณหมอใช้ทั้งยา
00:15:49 → 00:15:53 ปฏิชีวนะยาฆ่าเชื้อและยาลดไข้สำหรับสุนัข
00:15:53 → 00:15:57 สะสมสำหรับแมวแต่ถ้าอุณหภูมิลดลงแล้วค่ะ
00:15:57 → 00:15:59 อาจจะไม่จำเป็นแต่ยาควบคุมการติดเชื้อก็
00:15:59 → 00:16:02 ยังต้องกินต่อเนื่องตามข้อสงฆ์เขาอ๋อแล้ว
00:16:02 → 00:16:06 อย่างที่เคยเห็นคือสุนัขกับจามเหมือนเป็น
00:16:06 → 00:16:09 หวัดหาวิจามะเร็งเงี้ยอันนี้ถือว่าเขาเขา
00:16:09 → 00:16:13 เป็นไข้ได้ไหมจริงๆภาวะการจามเนี่ยอาจจะ
00:16:13 → 00:16:16 เกิดจากหลายสาเหตุการเป็นหวัดก็ทำให้เกิด
00:16:16 → 00:16:20 การรักษาการจำได้ค่ะเกิดการข้างของน้ำมูก
00:16:20 → 00:16:25 เกิดภาวะของการแพ้แพ้ฝุ่นแพ้สารเคมีอะไร
00:16:25 → 00:16:27 อีกอะไรบางอย่างก็ทำให้เกิดการจามได้
00:16:27 → 00:16:30 เพราะว่าการจามันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองการ
00:16:30 → 00:16:33 รีเซ็ตของร่างกายในการที่จะดันเอาสิ่งที่
00:16:33 → 00:16:36 มันแปลกปลอมที่ที่มันเป็นชิ้นหรือเป็นผง
00:16:36 → 00:16:38 หรือเป็นหรืออะไรอีกอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่
00:16:38 → 00:16:41 ในทางเดินหายใจเพื่อขับออกมาฆ่านะคะอัน
00:16:41 → 00:16:43 นี้เป็นเป็นสภาพสภาพปกถึงเขาแต่ว่าการจา
00:16:43 → 00:16:46 ไม่ได้เป็นการบ่งว่าเขาจะจะไปหรือเปล่า
00:16:46 → 00:16:50 แต่ว่าการทำอาจจะเป็นอาการหนึ่งที่เกิด
00:16:50 → 00:16:53 ร่วมกันในกรณีที่ที่เริ่มเป็นหวัดแล้วมี
00:16:53 → 00:16:55 อาการไข้ถ้าก็ได้
00:16:55 → 00:16:58 แต่ถ้าเกิดทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยทำอย่างที่
00:16:58 → 00:17:02 อาจารย์ว่ามาเช็ดตัวก่อนแล้วนะคะวัด
00:17:02 → 00:17:06 อุณหภูมิอะไรทำหมดแล้วแต่ว่าเอ้ยไม่ดีก็
00:17:06 → 00:17:08 ยืมเงินอุณหภูมิก็ยังแบบสูงอยู่ข้างไร
00:17:08 → 00:17:12 เงี้ยเราก็ต้องรีบพาไปหาสะสมแทนทหารใช่
00:17:12 → 00:17:14 หรือจะบอกว่าอุณหภูมิของสุนัขปกติคือ 102
00:17:14 → 00:17:16 องศาฟาเรนไฮด์นะครับถ้าวัดไข้แล้ว
00:17:16 → 00:17:19 อุณหภูมิสูงกว่า
00:17:19 → 00:17:22 0 100 3 อันนี้ล่ะซุป 103 2 3
00:17:22 → 00:17:25 Fahrenheit จนถึงร้อย 405 ถ้าเป็นไร 6
00:17:25 → 00:17:28 นิ้วโหรแย่แล้วโอกาสที่เอาไว้ว่าในร่าง
00:17:28 → 00:17:31 กายมันมีโอกาสถูกถูกความร้อนทำลายมันมี
00:17:31 → 00:17:34 สูงนะครับอ่ะเบื้องต้นเท่ากับกูอุณหภูมิ
00:17:34 → 00:17:37 สูงขึ้นมาถึงร้อยสามองศาฟาเรนไฮด์เช็ดตัว
00:17:37 → 00:17:39 ดูก่อนแล้วลองดูว่าเป็นไงบ้างตอบสนองดี
00:17:39 → 00:17:42 ไม้ถ้าเช็ดไปแล้วอุณหภูมิลดลงมาเป็นเหลือ
00:17:42 → 00:17:45 2 และ 2.5 อะไรนะก็อุ่นใจแล้วก็ดวงเหตุ
00:17:45 → 00:17:47 ทำให้อาการข้อสังเกตสักกี่วันทำไมถึงเช็ด
00:17:47 → 00:17:50 ตัวแบบจริงๆแล้วเพราะถ้าเกิดว่าเช็ดตัว
00:17:50 → 00:17:53 แล้วอุณหภูมิไม่ลดคงต้องคิดต่อหรือว่า
00:17:53 → 00:17:55 ต้องทำยังไงต่อเพราะปกติแล้วการเช็ดตัว
00:17:55 → 00:17:58 มันก็ช่วยได้ระดับนึงแต่ถ้ารถมานิดนึง
00:17:58 → 00:18:00 แล้วสักแป๊บก็จะกลับขึ้นมาอีกอย่างนะอาจ
00:18:00 → 00:18:02 ต้องต้องต้องที่จะนานแล้วว่ามีปัญหาหรือ
00:18:02 → 00:18:04 เปล่าเพราะว่าต้องหาสาเหตุให้เจอว่าเกิด
00:18:04 → 00:18:08 จากอะไร 5 นะครับการการที่ที่อุ่นหภูมิใน
00:18:08 → 00:18:11 ร่างกายสูงขึ้นมาถึง 104 องศาฟาเรนไฮด์
00:18:11 → 00:18:15 อันนั้นไปรักษาที่ค่อนข้างอันตรายและมี
00:18:15 → 00:18:18 โอกาสที่ทำให้เกิดภาวะอื่นๆถามว่าการไม่
00:18:18 → 00:18:21 ทำงานของอวัยวะภายในได้ถ้าเกิดว่าปล่อย
00:18:21 → 00:18:24 ทิ้งไว้ระยะนานๆถ้าแนะนำว่าพาไปทุกสพท
00:18:24 → 00:18:28 ก่อนดีกว่าก็จะหาสาเหตุไปไปแบบปกติและไม่
00:18:28 → 00:18:30 ต้องหอหรือว่าต้องทำอะไรไม่เท่าไหร่ครับ
00:18:30 → 00:18:33 คือถ้าเกิดอุณหภูมิถ้าเกิดสูงมากๆต้องบอก
00:18:33 → 00:18:37 ว่าเราหลายๆท่านอาจจะมีมีข้อมูลมี
00:18:37 → 00:18:39 ประสบการณ์เรื่องว่ากรณีหน้าร้อนแล้ว
00:18:39 → 00:18:43 สุนัขเป็นฮีทสโตรคพิโซคือการการที่ภาวะ
00:18:43 → 00:18:46 ที่อุณหภูมิของร่างกายมที่สูงขึ้นอาจจะ
00:18:46 → 00:18:49 เกิดจากสภาพแวดล้อมอาจจะตากแดดฮะอาจจะ
00:18:49 → 00:18:53 เกิดจากอุณหภูมิแดดจัดดูว่าอยู่นี่อบอ้าว
00:18:53 → 00:18:56 ๆขังไว้ในรถ - ปิดประตูลืมเปิดอะไรอย่าง
00:18:56 → 00:18:58 เงี้ยถ้ารักษาแบบนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นเร็ว
00:18:58 → 00:19:01 แล้วมันจะทำลายทำให้มีผลต่อการทำงานของไต
00:19:01 → 00:19:04 ของตับและสมองซึ่งอาจจะโอกาสมีความใน
00:19:04 → 00:19:07 โอกาสที่ 4 ที่สูงมากสิ่งที่ต้องทำที่ที่
00:19:07 → 00:19:10 หลายคนทราบหรือเท็จตัวในตัวแล้วก็วัด
00:19:10 → 00:19:13 อุณหภูมิตลอดถ้าอุณหภูมิลดลงมาหมดหัวแต่
00:19:13 → 00:19:17 ถ้าอุณหภูมิลดเนี่ยคงต้องต้องรีบพาทุก
00:19:17 → 00:19:20 สโตร์แพทย์และการรักษาแบบนั้นปัดประเด็น
00:19:20 → 00:19:23 คืออยากให้ดูว่าหลังจากที่เราเช็ดตัวให้
00:19:23 → 00:19:25 เขาและอุณหภูมิเขาลดลงไปตอบสนองดีขนาดไหน
00:19:25 → 00:19:29 ถ้าตอบสนองดีอุณหภูมิลดก็ไม่เป็นไรดู
00:19:29 → 00:19:32 อาการต่ออีกสักวันหนึ่งได้เพราะดูว่ามัน
00:19:32 → 00:19:35 มีจับมาเป็นอาการไข้ขึ้นอีกหรือเปล่าถ้า
00:19:35 → 00:19:37 เกิดมีใครทำอีกทีนี้เรามาดูและหาสาเหตุ
00:19:37 → 00:19:40 ได้ว่าใครที่เกิดขึ้นจากที่เมื่อวานเป็น
00:19:40 → 00:19:42 วันนี้ก็ยังเป็นอยู่เนี่ยเกิดจากสาเหตุ
00:19:42 → 00:19:44 ของการติดเชื้อที่ยังมีอยู่ในร่างกายหรือ
00:19:44 → 00:19:46 เปล่าเพราะฉะนั้นเนื้อหาสาเหตุแล้วกำจัด
00:19:46 → 00:19:50 ที่สาเหตุไปได้ก็คือพาไปหาหมอเพื่อ
00:19:50 → 00:19:53 วินิจฉัยเลยดีกว่าครับเจนเพราะการมีไข้
00:19:53 → 00:19:57 เนี่ยถ้าเกิดจากการติดเชื้อหมออาจจะเก็บ
00:19:57 → 00:19:59 ตัวอย่างเอาน้ำมูกเราเลือกอันต่างๆเพื่อ
00:19:59 → 00:20:02 ไปตรวจไปเพาะเชื้อหรือว่ามีปัญหาอะไรหรือ
00:20:02 → 00:20:06 เปล่าแต่บางครั้งการมีไข้แล้วหาสาเหตุไม่
00:20:06 → 00:20:10 ได้ว่ามันเกิดจากอะไรก็มีนะครับก็มีดัง
00:20:10 → 00:20:14 นั้นดังนั้นเนี่ยคือถ้าถ้าเป็นไปได้
00:20:14 → 00:20:17 อาการเราพยายามลดไข้แล้วมันไม่ดีขึ้นมัน
00:20:17 → 00:20:19 ก็กลับมาตัวร้อนอีกเหมือนเดิมเนี่ยหาไป
00:20:19 → 00:20:21 เพื่อตัวดีกว่าหมอจะได้จะได้เช็คประวัติ
00:20:21 → 00:20:25 ว่าเคยทำอะไรมาบ้างได้มีการเก็บตัวอย่าง
00:20:25 → 00:20:28 บางอย่างเพื่อส่ง Lab เพื่อตัวจะเอามา
00:20:28 → 00:20:30 ประกอบการวินิจฉัยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
00:20:30 → 00:20:33 และจะได้สายตรงจุดนั้นแสดงว่าคือถ้าพาไป
00:20:33 → 00:20:37 หาหมอเนี่ยเราก็ต้องเก็บข้อมูลมาเอ้ยเขา
00:20:37 → 00:20:39 เริ่มมีอาการยังไงเมื่อไหร่อันนี้คือ
00:20:39 → 00:20:42 ดอนเมืองฝากถามที่เนี่ยสำคัญมากเลยข้อมูล
00:20:42 → 00:20:44 อย่างหนึ่งที่เราต้องเตรียมข้อมูลกลุ่ม
00:20:44 → 00:20:46 นึงกลุ่มกลุ่มข้อมูลกลุ่มที่เราต้อง
00:20:46 → 00:20:48 เตรียมไปเพราะว่าเวลาไปหาคุณหมอแล้วคุณ
00:20:48 → 00:20:51 หมอต้องต้องมีการคุยกันต้องถามแหละว่าอะ
00:20:51 → 00:20:54 เราเริ่มเห็นอาการสุนัขมีไข้เนี่ยะเริ่ม
00:20:54 → 00:20:56 เห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ผมเป็นมาอาทิตย์ที่
00:20:56 → 00:20:59 แล้วไอ้นี่ก็ไม่ไม่ค่อยดีแล้วก็ต้องระบุ
00:20:59 → 00:21:02 เลยนะคะว่าครับกี่วันอยู่ถ้าบอกได้อย่าง
00:21:02 → 00:21:03 เช่นว่าเนี่ยบนบังตัวใหญ่จะรู้สึกว่า
00:21:03 → 00:21:05 เนี่ยเขาเริ่มมีอาการซึมตั้งแต่เมื่อวาน
00:21:05 → 00:21:08 แต่ว่าอาจจะไม่ได้จับตัวดูก็เลยไม่รู้ว่า
00:21:08 → 00:21:10 มีใครหรือเปล่าแต่ว่าเริ่มซึมแต่เมื่อวาน
00:21:10 → 00:21:12 และฮะเพราะวันนี้มาจับดูแล้วรู้สึกตัวมัน
00:21:12 → 00:21:14 ร้อนลองวัดไข้ด้วยและอุณหภูมิเท่านี้เท่า
00:21:14 → 00:21:16 นี้หรือว่าลองเช็ดตัวแล้วมันก็ยังไม่ดี
00:21:16 → 00:21:18 ขึ้นอุณหภูมิร่างกายของเขาก็ไม่ได้ลดลง
00:21:18 → 00:21:20 ไอ้อย่างนี้ก็เป็นข้อมูลที่ดีที่หมอจะเอา
00:21:20 → 00:21:24 ไปประกอบการการตรวจได้การวินิจฉัยได้พอดี
00:21:24 → 00:21:26 อ่ะต้องดูอาการอื่นๆด้วยเช่นอาจจะมีปัญหา
00:21:26 → 00:21:29 เรื่องท้องเสียไหมมีปัญหาเรื่องการไอมี
00:21:29 → 00:21:31 ปัญหาเรื่องการอาเจียนร่วมด้วยหรือเปล่า
00:21:31 → 00:21:35 เพราะว่าเราจะได้มองให้ตรงจุดได้ว่ามัน
00:21:35 → 00:21:37 น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหนของร่างกาย
00:21:37 → 00:21:39 ระบบทางเดินหาระบบทางเดินหายใจระบบผิว
00:21:39 → 00:21:43 หนังจะต้องดูตัวด้วยมีแผลมีการกัดการมี
00:21:43 → 00:21:46 การโดนต่อยโดนแมลงที่อาต้อยหรือเปล่าหรือ
00:21:46 → 00:21:50 อาจจะกินอาหารบางอย่างของคนไปที่มันอย่าง
00:21:50 → 00:21:54 เช่นมีมีตัวอาหารหมากฝรั่งเรื่องแต่ที่มี
00:21:54 → 00:21:56 ส่วนถนนทรายรีเข้าซึ่งมีผลต่อตัวสุนัขนะ
00:21:56 → 00:21:59 ครับถ้ากินเข้าไปหรือเปล่ากินพืชบางอย่าง
00:21:59 → 00:22:03 ที่ทำให้เกิดภาวะคะอะมีสารพิษแรงต่างกิน
00:22:03 → 00:22:05 เข้าไปแล้วทำให้ร่างกายมีใครหรือเปล่า
00:22:05 → 00:22:08 อย่างเงี้ยซึ่งสิ่งเนี่ยต้องเก็บข้อมูล
00:22:08 → 00:22:10 แล้วก็เล่าให้หมอฟังซึ่งจริงๆแล้วคุณหมอ
00:22:10 → 00:22:12 จะพยายามถามแต่ว่าเราอาจต้องช่วยกันนึก
00:22:12 → 00:22:15 นิดนึงเพราะว่าบางทีการการตรวจอย่างเดียว
00:22:15 → 00:22:18 อาจจะไม่ได้บอกได้ผลของการวิชาจะไม่
00:22:18 → 00:22:20 สมบูรณ์เท่าไหร่ข้อมูลจากเจ้าของเป็นอีก
00:22:20 → 00:22:23 ส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้การวินิจฉัยประสบ
00:22:23 → 00:22:26 ความสวยสมบูรณ์ขึ้นฮะไม่ค่อยได้เข้าหูก็
00:22:26 → 00:22:29 ต้องละเอียดเก็บข้อมูลเพราะสมควรเหมือนดู
00:22:29 → 00:22:31 แลเด็กเลยน้อยที่เราก็ลาพาเด็กไปหาหมอก็
00:22:31 → 00:22:35 ต้องต่อๆไงนะก็ตอบไม่ได้เสร็จแล้วผู้ใหญ่
00:22:35 → 00:22:38 คุณพ่อคุณแม่แล้วก็เจ้าของจะเป็นคนให้ข้อ
00:22:38 → 00:22:41 มูลที่ดีที่สุดค่าเพราะไม่ใช่ว่าสุนัขตัว
00:22:41 → 00:22:45 สุนัขตัวรอนะมีค่ายแล้วก็ไปวางมีรู้แล้ว
00:22:45 → 00:22:47 มีมีอะไรเพิ่มเติมบ้างไหมไม่มีเลยนี้ก็
00:22:47 → 00:22:50 ไม่ไหวมันก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านแต่ตัว
00:22:50 → 00:22:52 อย่างเป็นแบบนั้นเมื่อกี้แต่ว่าอย่างน้อย
00:22:52 → 00:22:55 สุดคืออ้าโอเคพาพี่เลี้ยงที่เรียนเขาดู
00:22:55 → 00:22:58 ตลอดที่จะให้ข้อมูลได้คุณหมอจะค่อยๆทะยาม
00:22:58 → 00:23:01 ถามและพยายามถามว่า x เจอเมื่อไหร่จะจะ
00:23:01 → 00:23:06 พยายามให้คำถามที่ให้ตอบว่าสั้นๆน่ะจะไม่
00:23:06 → 00:23:10 ได้บอกว่ามีอาการยังไงคือจะไม่ได้อธิบาย
00:23:10 → 00:23:12 ยาวเพราะว่ามึงจะอธิบายยาวเราอาจจะได้ข้อ
00:23:12 → 00:23:15 มูลก็อาจจะไม่ได้ข้อมูลจากการเท่าไหร่ก็
00:23:15 → 00:23:18 จะยำอยู่ที่สกิลของหมอได้ว่าจะถามอย่างไร
00:23:18 → 00:23:21 เพื่อจะให้ให้ให้ให้คนเลี้ยงหรือคนที่
00:23:21 → 00:23:24 สังเกตนึกออก 5 บอกว่า x ตอนนั้นมีอาการ
00:23:24 → 00:23:26 เดี๋ยวนี้เราจะได้เล่าให้หมอฟังได้จะได้
00:23:26 → 00:23:29 มาประกอบการวิจัยนี่แหละว่าทำไมจับตัว
00:23:29 → 00:23:33 สัตว์เลี้ยงขึ้นมานี้เราก็จะไม่รู้เลยว่า
00:23:33 → 00:23:35 เขากลับน้องที่อะไรที่ว่าเขาอาจจะขี้
00:23:35 → 00:23:38 เกียจเล่นนะอาจจะคิดอย่างนั้นนะการสังเกต
00:23:38 → 00:23:41 กับการสัมผัสตัวเขาก็จะช่วยทำให้เราทราบ
00:23:41 → 00:23:44 ได้ก็จะบอกว่าตอนแรกเนี่ยเอ่อถ้าเกิดเขา
00:23:44 → 00:23:45 เริ่มไม่กินอาหาร
00:23:45 → 00:23:49 และซึมเริ่มตาแดงๆเริ่มมีอาการแปลกๆและไป
00:23:49 → 00:23:53 จับตัวแล้วเหอะเริ่มเห็นว่าตัวเขาร้อน
00:23:53 → 00:23:54 กว่าปกติ
00:23:54 → 00:23:57 นอนปกติอุณหภูมิผกดีเค้าจับแล้วก็ถือว่า
00:23:57 → 00:24:00 อุ่นอยู่แล้วเหมือนกับว่าบางทีชอบท้องไม่
00:24:00 → 00:24:04 อยู่ตรงพื้นเย็นๆอันนั้นคือภาวะของการ
00:24:04 → 00:24:07 ระดับการลดความร้อนให้กับตัวเองเขาอย่าง
00:24:07 → 00:24:09 หนึ่งจะสังเกตว่าในสมัยก่อนชอบพูดว่า
00:24:09 → 00:24:12 เนี่ยมาไม่สบายมันชอบไปนอนในน้ำแช่ๆๆ
00:24:12 → 00:24:15 เพราะตอนนั้นอ่ะสภาพร่างกายของเขา
00:24:15 → 00:24:17 อุณหภูมิร่างกายเขาสูงเขาก็ต้องทำพยายาม
00:24:17 → 00:24:21 ที่จะลดไข้กับตัวเอง 5 ซึ่งบางทีพอไปนอน
00:24:21 → 00:24:23 แช่น้ำแบบนั้นมันกลายเป็นว่าเกิดปัญหามาก
00:24:23 → 00:24:24 ขึ้น
00:24:24 → 00:24:28 มันสามารถที่จะเหมือนคนนี้ว่าเป็นใครติด
00:24:28 → 00:24:32 ไปสู่ตัวอื่นได้ไหมถ้าถ้าเกิดว่าภาวะของ
00:24:32 → 00:24:35 การเป็นไข้นั้นอ่ะเกิดจากการติดเชื้อ
00:24:35 → 00:24:40 ซึ่งอย่างเช่นการเป็นหวัดหรือท้องเสีย
00:24:40 → 00:24:44 หรือการเป็นแผลถ้าเกิดทุกคนที่เป็นแผล
00:24:44 → 00:24:47 เนี่ยแล้วเกิดการถ้าใครที่เกิดขึ้นจากแผล
00:24:47 → 00:24:50 จากการอักเสบบวมมันไม่ติดตัวอื่นแต่ถ้า
00:24:50 → 00:24:53 ใครที่เกิดขึ้นเกิดจากการจากหวัดจากการ
00:24:53 → 00:24:58 ติดเชื้อของของบางอย่างบางระบบที่ถ่ายทอด
00:24:58 → 00:25:01 ให้ตัวอื่นๆได้ท้องเสียอาเจียนหนึ่งต่างๆ
00:25:01 → 00:25:03 แล้วและมีการรับเชื้อไปก็มีโอกาสไปยังตัว
00:25:03 → 00:25:06 อื่นได้แต่ภาวะไข้ไม่ได้ส่งให้ตัวอื่นได้
00:25:06 → 00:25:12 ครับอ๋ออะไรนี้คือถ้าไปสมมติเขาท้องเสีย
00:25:12 → 00:25:14 เนี้ยครับจานเราต้องเก็บ
00:25:14 → 00:25:18 เอ่ออุจจาระของเขาไปด้วยมั้ยยังอาจารย์
00:25:18 → 00:25:21 การเก็บอุจจาระไปท่านคนมีท้องเสียแล้วการ
00:25:21 → 00:25:23 เก็บอุจจาระไปให้คุณหมอดูเป็นเป็นเป็น
00:25:23 → 00:25:25 ช่องทางที่อีกหนึ่งที่ดีที่จะช่วยให้
00:25:25 → 00:25:28 วิสัยได้ดีขึ้นแต่แต่เบื้องต้นผมจะแนะนำ
00:25:28 → 00:25:31 ว่าถ้าเห็นท้องเสียถ่ายรูปถ่ายรูปของ
00:25:31 → 00:25:34 อุจจาระ 5 ถ่ายเป็นคลิปก็ได้เพราะเดี๋ยว
00:25:34 → 00:25:37 เนี้ยสื่อทั้งภาพเนี่ยช่วยได้เยอะพอสมควร
00:25:37 → 00:25:41 เก็บมาขนาดนั้นนะฮะออกเป็นคลิปอาจจะเก็บ
00:25:41 → 00:25:43 เป็นตัวอย่างเพราะว่าบางครั้งถ้าเกิดคุณ
00:25:43 → 00:25:47 หมอจะเอาไปตรวจว่ามีปัญหาเรื่องบางทีมัน
00:25:47 → 00:25:49 PT Test kit เดี๋ยวนี้จะมีเทปคิดในการ
00:25:49 → 00:25:51 ที่วัดเป็นลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัสหรือ
00:25:51 → 00:25:53 เปล่าจะพาเวลาหรือเปล่าค่ะกูจะลาตรงนั้น
00:25:53 → 00:25:55 เอาไปสามารถใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถตรวจ
00:25:55 → 00:25:58 แล้วก็ใช้ได้วินัยช่วยในการวินิจฉัยได้ก็
00:25:58 → 00:26:01 เหมือนเรานะเวลาไรก็จะเจาะเลือดค่ามึงเอา
00:26:01 → 00:26:04 ปลาสมาไปตรวจอย่างนี้ใช่เพราะฉะนั้นถ่าย
00:26:04 → 00:26:06 รูปแล้วว่าเก็บอุปกรณ์บางอย่างที่เรา
00:26:06 → 00:26:09 สงสัยว่าจะเป็นเช่นเจอแมลงตัวแถวๆนั้นก็
00:26:09 → 00:26:11 เอาใส่ถุงให้หน่อยหรือว่าถ่ายรูปไปจะได้
00:26:11 → 00:26:14 รู้เป็นแรงกลุ่มไหนน่าจะใช่สาเหตุหรือ
00:26:14 → 00:26:17 เปล่าและพืชหรืออาหารที่เขากินเข้าไปเพ้อ
00:26:17 → 00:26:20 ที่คิดว่าเขาเผลอกินเข้าไปก็ก็เอาให้หัว
00:26:20 → 00:26:22 ด้วยจะได้จะได้ดูแล้วไอ้มันน่าจะเกิดจาก
00:26:22 → 00:26:26 ตรงนี้ตรงนี้ได้ไหมเพราะคุณหมอจากดูแล้ว
00:26:26 → 00:26:29 รู้แหละว่าอันนี้เกิดจากอะไรได้เป็นไข้
00:26:29 → 00:26:32 อาจเกิดจากอะไรจะได้ไม่ต้องใช้จากการ
00:26:32 → 00:26:34 ชันสูตรซาก
00:26:34 → 00:26:37 ไม่ต้องเอามาขนาดนั้นก็จะไม่มีก็อาจจะไม่
00:26:37 → 00:26:41 ได้เก็บเหมือนกันสุดๆๆดูแล้วนะคะอ่ะเพราะ
00:26:41 → 00:26:43 ฉะนั้นคือหมายความว่าถ้าเป็นไข้อ่ะเช็ด
00:26:43 → 00:26:46 ตัวครับย้อนขนอะไรให้เรียบร้อยนะแล้ว
00:26:46 → 00:26:49 เดี๋ยววัดอุณหภูมิอีกทีหนึ่งเช็คอุณหภูมิ
00:26:49 → 00:26:53 ชายคะแล้วก็ถ้าอุณหภูมิลดก็ไม่ได้ว่าวาง
00:26:53 → 00:26:57 ใจได้รอดูอีกวันนึงใช่ครับเนี่ยถ้ามันไข้
00:26:57 → 00:27:00 ขึ้นมาอีกอันนี้ไม่ได้แล้วครับพาไปพบ
00:27:00 → 00:27:02 สัตวแพทย์คืออันที่สุดคือพาไปพบสัตวแพทย์
00:27:02 → 00:27:06 แต่ว่าจะบอกว่าทุกกรณีพาไปพบสัตวแพทย์เลย
00:27:06 → 00:27:09 เจ้าของอาจจะมองว่าทำไมถึงถึงขนาดนั้นบาง
00:27:09 → 00:27:12 อย่างถ้าเราพอทำได้ถ้าคุณคุณหมอส่วนใหญ่
00:27:12 → 00:27:14 จะพยายามนี้ว่าเบื้องต้นถ้าถ้าเจ้าของ
00:27:14 → 00:27:16 สามารถผู้ดูแลหรือว่าช่วยแก้ไขสถานการณ์
00:27:16 → 00:27:20 ได้บางทีก็ไม่จำเป็นต้องพาไปไปพบแพทย์
00:27:20 → 00:27:23 ตลอดว่าอยู่เนี่ยหลายคนไม่ออกข้างนอกบ้าน
00:27:23 → 00:27:25 แหละสถานการณ์โควิชก็ยังวิตกอยู่น้ำมัน
00:27:25 → 00:27:29 แพงน้ำมันก็แพงด้วยโอชายเลยไม่ได้เอาไป
00:27:29 → 00:27:31 ไหนไม่ใช่อะไรเลย
00:27:31 → 00:27:34 ค่าครองชีพมันสูง
00:27:34 → 00:27:38 ภาคเหนือดูแลได้ก็จะได้จะได้เบาลงไปหน่อย
00:27:38 → 00:27:41 นึงตัดปัญหาที่มันต้องใช้เพิ่มขึ้นไป
00:27:41 → 00:27:46 เราทั้งๆตัวจะเลี้ยงและตัวเราด้วยเราดูแล
00:27:46 → 00:27:49 สุขภาพกันไปนะคะจะเป็นคนเป็นไข้ทับธรรมดา
00:27:49 → 00:27:51 ก็โอเคแต่ถ้ามันมีอะไรมากกว่านั้นเดี๋ยว
00:27:51 → 00:27:54 คุณหมอก็จะวินิจฉัยแล้วก็ทำการภาษาอังกฤษ
00:27:54 → 00:27:57 อาจจะหมดตัวอย่างก็รักษาผมถามอันนี้ก็คุณ
00:27:57 → 00:28:00 อาจารย์โอมด้วยค่ะครับสวัสดีค่ะครับผมหมด
00:28:00 → 00:28:02 เวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังคะเราก็คุยกันมา
00:28:02 → 00:28:05 เนี่ยถึงตอนนี้แล้วนะคะขอบคุณที่ติดตาม
00:28:05 → 00:28:07 รับฟังนะคะแล้วพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะวัน
00:28:07 → 00:28:09 นี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:28:09 → 00:28:14 S Choice พีเรียสคาสซึ่งผมและเส้นขนของ
00:28:14 → 00:28:16 เราร่วมเป็นประชาคมมีอยู่แล้วแต่หากพรุ่ง
00:28:16 → 00:28:19 เยอะอาจเกิดปัญหาจากรับฟังอย่างได้ถ้ายิง
00:28:19 → 00:28:21 มานัดเลยเค้าวัดประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์
00:28:21 → 00:28:24 ผิวหนังแห่งประเทศไทยมาบอกให้รู้ครับ
00:28:24 → 00:28:27 ปลาเราฟ้าว่าผมโลกปกติเนี่ยเส้นผมเราจะ
00:28:27 → 00:28:30 ไม่ได้ร่วมพร้อมกันมันเหมือนมันจะทยอย
00:28:30 → 00:28:33 ผลัดกันร่วงอย่างนี้ค่ะเพราะว่าในแต่ละ
00:28:33 → 00:28:36 กลุ่มผมเนี่ยมันก็จะใช้เวลาสักประมาณ
00:28:36 → 00:28:42 3-5 ปีเวลาที่ยาวขึ้นมาแล้วก็หลุดง่วงนะ
00:28:42 → 00:28:45 คะฉะนั้นมันจะทยอยทยอยกันแต่ว่าราพอมี
00:28:45 → 00:28:48 ภาวะนี้เกิดขึ้นมือเนี่ยมันจะมีปุ่มกัน
00:28:48 → 00:28:51 ที่ไปต้านรักผมตัวเองทำให้มันเกิดการ
00:28:51 → 00:28:54 อักเสบบริเวณนั้นแล้วก็เลยทำให้เส้นผม
00:28:54 → 00:28:56 บริเวณนั้นเนี่ยมันเหมือนแทนที่มันจะใช้
00:28:56 → 00:28:59 ระยะเวลา 3 ปีในการหลุดร่วงเป็นอาจจะใช้
00:28:59 → 00:29:02 เวลาแค่แป๊บเดียวแล้วก็ล่วงไปเลยทำให้เรา
00:29:02 → 00:29:06 เห็นเป็นวงอ่ะค่ะเพราะว่าถ้ามันเลยเหมือน
00:29:06 → 00:29:10 มันโจมแค่ตรงนั้นสุดนั้นแต่ได้บางคนถ้า
00:29:10 → 00:29:13 สมมุติว่าเป็นเยอะๆหรือว่าเป็นภาวะของโรค
00:29:13 → 00:29:16 ที่มีความรุนแรงมากขึ้นนี้นะคะเธอก็จะ
00:29:16 → 00:29:19 ร่วงหมดศีรษะได้เช่นเดียวกันนะคะก็เลยอาจ
00:29:19 → 00:29:22 จะทั้งดอมก็ได้นะคะหรือว่าร่วมหมดศีรษะ
00:29:22 → 00:29:26 หรือบางที่อาจจะมีขนตามร่างกายร่วมด้วยก็
00:29:26 → 00:29:29 ได้ค่ะประกาศการที่จะเป็นโรคนะคะก็คือ
00:29:29 → 00:29:33 ประมาณสัก 0.2 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้ง
00:29:33 → 00:29:37 หมดนะคะจริงๆกัดไม่ได้เยอะเลยแต่ว่าก็อาจ
00:29:37 → 00:29:39 จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะเช่นอาจจะมี
00:29:39 → 00:29:42 ภาวะทั้งคำประพันธ์บ้างหรือในบางคนก็คือ
00:29:42 → 00:29:46 อาจจะมีภาวะคะอะไรกับต้นบางอย่างจะไม่
00:29:46 → 00:29:49 เป็นด้ายได้ง่ายมากขึ้นนะคะแต่มันก็ต้อง
00:29:49 → 00:29:52 รักษาสุขภาพไม่ดีค่ะแต่ไม่ควรของคนที่อาจ
00:29:52 → 00:29:56 จะมีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นในคนที่มีโรค
00:29:56 → 00:30:00 ภาวะภูมิต้านตัวเองอยู่แล้วเช่นกรณีเช่น
00:30:00 → 00:30:03 เอ่อโรค sle นะคะหรือในกรณีที่เป็นโรค
00:30:03 → 00:30:08 ไทรอยด์นะคะหรือในบางครั้งถ้ามีภาวะโรค
00:30:08 → 00:30:12 เลือดจางหรือขาดวิตามินดีหรือมีภาวะผิด
00:30:12 → 00:30:15 ปกติทางตาทางหูบางอย่างเนี่ยก็ก็จะมี
00:30:15 → 00:30:18 โอกาสเสี่ยงที่ทำให้เป็นภาวะนี้ได้ง่าย
00:30:18 → 00:30:21 ขึ้นนิดหน่อยค่ะจะไม่ได้บัตรต้องเป็น
00:30:21 → 00:30:23 ทุกข์ลายนะคะไม่ใช่ว่าไม่ตายแล้วฉันเป็น
00:30:23 → 00:30:26 โรคไทรอยด์เดี๋ยวฉันจะต้องร่วงแน่ๆก็ไม่
00:30:26 → 00:30:28 อยากให้คิดอย่างนั้นนะคะก็จะไม่ขนาดนั้น
00:30:28 → 00:30:30 ค่ะเพียงแต่ว่าคือท่านี้คนที่เป็นโรค
00:30:30 → 00:30:34 ไทรอยด์ก็อาจจะพบว่ามันมีความสัมพันธ์กัน
00:30:34 → 00:30:37 กับภาวะโรคผมร่วงเป็นหย่อมได้ค่ะเพราะคน
00:30:37 → 00:30:41 ตายแล้วทำไมแบบผมร่วงมาเยอะมากหรือว่าบาง
00:30:41 → 00:30:44 ทีจับที่ 1 ร้องออกมาเป็นกระจุกกระจุกเลย
00:30:44 → 00:30:47 อันนี้หมอว่าก็เป็นสัญญาณหมูชีวะเรียนเรา
00:30:47 → 00:30:50 อาจจะร่วงผิดปกติอาจจะต้องไปพบแพทย์นัก
00:30:50 → 00:30:54 อย่างค่ะถ้าในช่วงต้นๆก็อาจจะรักษาได้
00:30:54 → 00:30:57 ง่ายกว่าเวลาถ้าปล่อยให้ร่วงหมดศีรษะไป
00:30:57 → 00:30:59 แล้วเนี่ยเป็นเวลาระยะเวลาหลายเดือนหรือ
00:30:59 → 00:31:05 เป็นปีอันนั้นก็อาจจะรักษายากขึ้นค่ะ
00:31:05 → 00:31:09 wes ไทยพีบีเอสคาร์ส
00:31:09 → 00:31:13 ที่ตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
00:31:13 → 00:31:16 ของไทยที่บช.ปสค้าว่าซุปเปอร์ติฟายสาว
00:31:16 → 00:31:19 คราว Google bot Class Apple ชาร์จละ
00:31:19 → 00:31:22 YouTube Channel Thai PBS สด Task
00:31:22 → 00:31:26 ชายพีร์เบียร์ถาดขาด you the world's
00:31:26 → 00:31:29 เปียโบว์อีกอ่ะ
00:31:29 → 00:31:33 [เพลง]