00:00:00 → 00:00:02 โรคลมชักภัยเงียบที่รักษาได้ตระหนักรู้
00:00:02 → 00:00:05 ก่อนสายซึ่งในตอนนี้นะคะเราจะพาคุณผู้ชม
00:00:05 → 00:00:08 มาคุยกับอาจารย์หมอจากแอปพลิเคชันหมอดี
00:00:08 → 00:00:09 กัน
00:00:09 → 00:00:24 [เพลง]
00:00:24 → 00:00:27 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:27 → 00:00:30 เลยนะคะคนกลุ่มใดคะอาจารย์ที่มีความ
00:00:30 → 00:00:33 เสี่ยงในการเป็นโรคลมชักโรคลมชักนะครับ
00:00:33 → 00:00:36 เป็นโรคที่เกิดจากการผิดปกติของกระแสปา
00:00:36 → 00:00:39 ฟ้าในสมองนะครับในแต่ละจุดของสมองที่มี
00:00:39 → 00:00:42 ความผิดปกตินะครับซึ่งเอ่อความผิดปกติก็
00:00:42 → 00:00:44 จะเกิดความแตกต่างในแต่ละตำแหน่งเช่นถ้า
00:00:44 → 00:00:47 มีความผิดปกติในตำแหน่งของควบคุมการ
00:00:47 → 00:00:49 เคลื่อนไหวนะครับอาการแสดงก็ออกจะเกิดจะ
00:00:50 → 00:00:52 เกิดมาเป็นเรื่องของการชักเกรงกระตุกตาม
00:00:52 → 00:00:55 แขนขาได้แต่ว่าถ้ามีความผิดปกติในตำแหน่ง
00:00:55 → 00:00:57 ของการมองเห็นนะครับก็จะมีการมองเห็นที่
00:00:57 → 00:01:00 ผิดปกติไปอาจจะมีเห็นแสงวูบแสงวาภพได้นะ
00:01:00 → 00:01:02 ครับเอ่อสาเหตุในปัจจุบันนะครับเพะว่า
00:01:02 → 00:01:05 ประมาณ 60-70 per เรายังไม่ทราบสาเหตุนะ
00:01:05 → 00:01:08 ครับส่วนที่ทราบสาเหตุอีกประมาณ 1 ใน 3
00:01:08 → 00:01:10 เนี่ยพบว่ามาจากพันธุกรรมนะครับถ้าเราพบ
00:01:11 → 00:01:13 ว่านะครับในครอบครัวเรามีคนเป็นโรคลมชัก
00:01:13 → 00:01:15 มาก่อนอย่าเช่นคุณพ่อคุณแม่นะครับเอ่อลูก
00:01:15 → 00:01:17 หลานนะครับอาจจะมีโอกาสเกิดเป็นโรครมชัก
00:01:17 → 00:01:21 ได้ต่อมานะครับส่วนในอีกสาเหตุที่เหลือนะ
00:01:21 → 00:01:23 ครับก็จะแบ่งตามช่วงอายุนะครับถ้าเป็นใน
00:01:23 → 00:01:26 วัยเด็กนะครับสาเหตุความเสี่ยงเนี่ยมักจะ
00:01:26 → 00:01:28 เกิดจากอาจจะมีการติดเชื้อระหว่างการคลอด
00:01:28 → 00:01:30 นะครับหรือมีการพัฒนาของสมองที่มีความผิด
00:01:30 → 00:01:33 ปกตินะครับมีการติดเชื้อระหว่างคอดอย่าง
00:01:33 → 00:01:35 นี้เป็นต้นถ้าโตขึ้นมาหน่อยนะครับเป็นใน
00:01:35 → 00:01:37 ช่วงของวัยรุ่นนะครับหรือผู้ใหญ่ความ
00:01:37 → 00:01:39 เสี่ยงเนี่ยมักจะเกิดขึ้นนะครับถ้าหากเคย
00:01:39 → 00:01:41 มีเอ่ออุบัติเหตุทางสมองมาก่อนนะครับหรือ
00:01:41 → 00:01:44 มีก้อนในง่องในสมองส่วนถ้าโตขึ้นมาอีกนะ
00:01:44 → 00:01:46 ครับเป็นผู้สูงอายุเนี่ยความเสี่ยงของโรค
00:01:46 → 00:01:49 ลมชักจะมากขึ้นนะครับในกลุ่มที่มีเอ่อโรค
00:01:49 → 00:01:51 ประจำตัวเป็นโรคเลือดสมองตีบใสเลือหัวใจ
00:01:51 → 00:01:54 ตีบครับอาจารย์ขาแล้วการตรวจวินิจฉัยโรค
00:01:54 → 00:01:57 ลมชักนั้นมีอะไรบ้างคะจริงๆการวินิจฉัย
00:01:57 → 00:01:58 โรคนะครับที่ง่ายที่สุดแล้วก็ไม่เสียค่า
00:01:59 → 00:02:00 ใช้จ่ายใดๆเลยเลยนะครับก็คือเรื่องของการ
00:02:00 → 00:02:02 ให้ประวัตินะครับการซับประวัตินะครับ
00:02:02 → 00:02:05 เรื่องของโรคลมชักมีความสำคัญมากๆนะครับ
00:02:05 → 00:02:08 ในเรื่องของทั้งการก่อนชักนะครับระหว่าง
00:02:08 → 00:02:10 ที่ชักอยู่แล้วก็อาการหลังจากที่มีอาการ
00:02:10 → 00:02:13 ชักเสร็จแล้วนะครับประวัติต่างๆเหล่านี้
00:02:13 → 00:02:15 นะครับจะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้คุณหมอเนี่ย
00:02:15 → 00:02:16 สามารถที่จะวินิฉัยแล้วว่าอาการที่เกิด
00:02:17 → 00:02:19 ขึ้นนะครับเกิดจากโรคลมชักนะครับจริงหรือ
00:02:19 → 00:02:22 ไม่ดังนั้นถ้าจะมาพบแพทย์ทุกครั้งก็แนะนำ
00:02:22 → 00:02:24 ว่าให้นำญาตินะครับหรือผู้เหตุการเนี่ยมา
00:02:24 → 00:02:27 ด้วยเสมอครับส่วนการตรวจละอดที่เพิ่มเติม
00:02:27 → 00:02:30 ลงไปนะครับก็จะเป็นในเรื่องของการสแกน
00:02:30 → 00:02:33 สมองนะครับไม่ว่าจะเป็นการีสแกนการทำ MRI
00:02:33 → 00:02:36 สมองนะครับอาจารย์คะสำหรับผู้ที่เป็นโรค
00:02:36 → 00:02:39 ลมชักแล้วเนี่ยสามารถรุนแรงได้จนถึงขั้น
00:02:39 → 00:02:41 เสียชีวิตไหมคะต้องบอกก่อนนะครับว่าโรคลม
00:02:41 → 00:02:44 ชั้นนะครับส่วนใหญ่ของผู้ป่วยเนี่ยมักจะ
00:02:44 → 00:02:46 ไม่มีการรุนแรงถึงขั้นเอเสียชีวิตนะครับ
00:02:46 → 00:02:49 ตัวนี้ก็คลายกังวลไปได้ในส่วนหนึ่งนะครับ
00:02:49 → 00:02:50 แต่ว่าก็จะมีอีกส่วนนึงนะครับที่มีความ
00:02:50 → 00:02:53 รุนแรงที่ค่อนข้างมากนะครับอันนี้สังเกต
00:02:53 → 00:02:55 ได้จากเช่นเขาเรียกว่าเอ่อมีภาวะเสี่ยง
00:02:55 → 00:02:57 กับการชักต่อเนื่องนะครับภาวะชักต่อ
00:02:58 → 00:03:00 เนื่องเนี่ยความเสี่ยงจะเกิดขึ้นก็ก็ต่อ
00:03:00 → 00:03:02 เมื่อผู้ป่วยนะครับมีอาการชักเกิน 5 นาที
00:03:02 → 00:03:05 นะครับหรือไม่ว่าภาวะชักเสร็จแล้วสลบไป
00:03:05 → 00:03:07 ไม่ฟื้นคืนขึ้นมานะครับเกิน 30 นาทีนะ
00:03:08 → 00:03:10 ครับถ้ามี 2 ข้อนี้นะครับข้อใดข้อหนึ่งจะ
00:03:10 → 00:03:13 สงสัยภาวะชักต่อเนื่องได้ซึ่งความรุงแรง
00:03:13 → 00:03:15 ของโรคเนี่ยก็จะมากหรืออาจจะมีภาวะชักที่
00:03:15 → 00:03:18 อาเดือนนึงชักบ่อยเกิน 4 ครั้งต่อเดือนนะ
00:03:18 → 00:03:20 ครับถ้ามีในส่วนเนี้ยความเสี่ยงสูงนี้จะ
00:03:20 → 00:03:22 ทำให้เกิดอาการสมองขัดเลือดนะครับสมองขาด
00:03:22 → 00:03:24 ออกซิเจนเกิดขึ้นได้ทำไปสู่ภาวะที่เสีย
00:03:24 → 00:03:28 ชีวิตได้ครับอาจารย์คะในการรักษาโรคลมชัก
00:03:28 → 00:03:30 นั้นมีกี่วิธีคะแล้วการรับประทานยาจะต้อง
00:03:30 → 00:03:33 รับประทานยาไปตลอดชีวิตหรือไม่คะอาจารย์
00:03:33 → 00:03:36 ปัจจุบันวิวัฒนาการนะครับเรื่องของการ
00:03:36 → 00:03:38 รักษาเนี่ยก้าวหน้าไปอย่างมากนะครับซึ่ง
00:03:38 → 00:03:40 ปัจจุบันเราก็จะมี 4 รูปแบบหลักๆของการ
00:03:40 → 00:03:43 รักษานะครับคืออย่างแรกก็คือเรื่องของการ
00:03:43 → 00:03:45 รับประทาากัญชักนะครับเพื่อควบคุมโรครม
00:03:45 → 00:03:48 ชักอย่างที่ 2 เรื่องของการผ่าตัดสมองนะ
00:03:48 → 00:03:50 ครับในจุดกำเนิดที่มีการนำกระแสไฟฟ้าที่
00:03:50 → 00:03:53 มีความผิดปกติอย่างที่ 3 นะครับคือเรื่อง
00:03:53 → 00:03:56 ของการใส่เครื่องนะครับควบคุมกระแสไฟฟ้า
00:03:56 → 00:03:58 ในสมองนะครับอย่างที่ 4 คือเรื่องของการ
00:03:58 → 00:04:00 รับประทานอาหารบางชนชนิดนะครับที่เรียก
00:04:00 → 00:04:03 ว่าคิจิ Diet ที่จะมีการรับประทานจำเพาะ
00:04:03 → 00:04:06 นะครับในกลุ่มของโรครมชักครับส่วนคำถาม
00:04:06 → 00:04:08 ที่ว่าเรื่องของรับประทานยานะครับลมชัก
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยต้องทานยาตลอดชีวิตหรือไม่ผู้ปวส่วน
00:04:11 → 00:04:13 ใหญ่อย่างจำเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อ
00:04:13 → 00:04:15 เนื่องนะครับเพื่อคคุมอาการชักได้แต่ก็จะ
00:04:15 → 00:04:17 มีส่วนหนึ่งนะครับที่เราพบว่าสามารถที่จะ
00:04:17 → 00:04:20 หยุดยากันชักได้ส่วนนี้เราพบว่าส่วนใหญ่
00:04:20 → 00:04:22 ก็จะเป็นในกลุ่มที่เด็กมีโรมช้ามาตั้งแต่
00:04:22 → 00:04:24 เด็กนะครับเนื่องจากส่วนนี้เราพบว่าถ้า
00:04:24 → 00:04:27 เราเอ่อเด็กเนี่ยโตขึ้นนะครับเอ่อภาวะ
00:04:27 → 00:04:30 สมองก็จะมีการพัฒนาขึ้นนะครับทำให้คุมโรค
00:04:30 → 00:04:32 ลมชักได้้าหากจะมีการหยุดยากันชักก็ควร
00:04:32 → 00:04:34 ที่จะปรึกษาแพทย์นะครับที่เราดูแลอยู่
00:04:34 → 00:04:36 ด้วยทุกครั้งนะครับตัดสินใจร่วมกันครับ
00:04:36 → 00:04:40 อาจารย์คะโรคลมชักเนี่ยมีวิธีในการรักษา
00:04:40 → 00:04:42 หายขาดได้ไคะในปัจจุบันนะครับการรักษาให้
00:04:42 → 00:04:44 หายขาดเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการ
00:04:44 → 00:04:47 ควบคุมอาการชักไม่ให้มีอาการชักเกิดขึ้น
00:04:47 → 00:04:49 มาใหม่ก็คือการเป็นการรับประทานยาอย่าง
00:04:49 → 00:04:52 ต่อเนื่องให้ถูกขนาดถูกโดสนะครับตามที่
00:04:52 → 00:04:54 แพทย์ได้ได้สั่งมาแต่ว่าก็ยังจะมีใน
00:04:54 → 00:04:56 เรื่องของการรักษาอีกแบบนึงที่อาจจะหาย
00:04:56 → 00:04:59 ขาดได้ก็คือเรื่องของการผ่าตัดครับคือคือ
00:04:59 → 00:05:02 เป็นการผ่าตัดเการรักษาในส่วนของสมองที่
00:05:02 → 00:05:05 มีความผิดปกติแต่ว่าการรักษาด้วยการผ่า
00:05:05 → 00:05:07 ตัดนะครับของสมองเนี่ยเราจะไม่ได้ทำในทุก
00:05:07 → 00:05:09 รายนะครับแล้วก็จะเลือกเคสนะครับเช่นเอ่อ
00:05:09 → 00:05:12 ผู้เปิดรายนี้นะครับมีความดื้อยานะครับก็
00:05:12 → 00:05:15 คือทานยาไปแล้วขนาดที่สูงๆมีการเปลี่ยนยา
00:05:15 → 00:05:17 แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะควบคุมอาการ
00:05:17 → 00:05:20 ชักได้อาจารย์คะถ้าเกิดเราไปเจอคนนะคะ
00:05:20 → 00:05:23 กำลังลมชักอยู่ก็คือชักกันอยู่กับพื้น
00:05:23 → 00:05:25 เนี่ยค่ะเราจะมีวิธีในการปฐมพยาบาลอย่าง
00:05:25 → 00:05:27 ไรบ้างคะเพื่อที่จะป้องกันการเกิดการบาด
00:05:27 → 00:05:30 เจ็บให้กับคนไข้ถ้าเมื่อต้นเราเห็นนะครับ
00:05:30 → 00:05:32 ผู้ป่วยนะครับชักอยู่ตรงหน้าเราเลยนะครับ
00:05:32 → 00:05:34 อย่างแรกนะครับสมัยก่อนเรามีความเชื่อว่า
00:05:34 → 00:05:37 จะต้องนำช้อนนะครับหรือผ้าหรือเอามือนะ
00:05:37 → 00:05:39 ครับไปใส่ที่ปากของผู้ปวดเพื่อป้องกันการ
00:05:39 → 00:05:41 อุบัเกิดอุบัติเหตุนะครับจริงๆแล้วนี่
00:05:41 → 00:05:43 เป็นความเพื่อนที่ผิดมากๆเลยนะครับเพราะ
00:05:43 → 00:05:46 ว่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้นะ
00:05:46 → 00:05:48 ครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาจจะมีฟันที่
00:05:48 → 00:05:51 หักนะครับลงไปอุดกั้นบริเวณทางเดินหายใจ
00:05:51 → 00:05:53 ได้ทำให้ผู้ป่วยขาดการหายใจแล้วก็เสีย
00:05:53 → 00:05:55 ชีวิตได้เลยสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ห้ามทำเด็ด
00:05:55 → 00:05:58 ขาดนะครับอย่างแรกนะครับถ้าเราพบว่าผู้
00:05:58 → 00:06:00 ป่วยลมชันะนะครับเกิดอยู่ตรงหน้าเรานะ
00:06:00 → 00:06:02 ครับให้เราตะโกนนะครับขอความช่วยเหลือโดย
00:06:02 → 00:06:06 ทันทีนะครับแล้วโทรหา 1669 ต่อมาให้เรา
00:06:06 → 00:06:08 สังเกตว่าสภาวะแวดล้อมรอบข้างเนี่ยมีสิ่ง
00:06:08 → 00:06:11 ของหรืออะไรที่น่าอันตรายมที่จะตกลงมาทับ
00:06:11 → 00:06:14 ผู้ป่วยนะครับหลังจากนั้นให้นะครับให้เรา
00:06:14 → 00:06:16 นะครับประมาณปลดนะครับเสื้อผ้าออกอย่าง
00:06:16 → 00:06:18 หลวมๆเพื่อให้ผู้ป่วยเนี่ยหายใจได้อย่าง
00:06:18 → 00:06:21 สะดวกและนำผู้ป่วยนะครับตะแคงไปทางด้าน
00:06:21 → 00:06:23 ซ้ายนะครับโดยหันหน้านะครับแล้วก็ลำตัวไป
00:06:23 → 00:06:26 ทางด้านซ้ายนะครับทำเพียงเท่านี้นะครับก็
00:06:26 → 00:06:28 เพียงพอแล้วนะครับไม่จำเป็นที่จะต้องไป
00:06:28 → 00:06:30 ล็อกแขกล็อคขานะครับขณะที่เขากำลังมี
00:06:30 → 00:06:33 อาการชักเกงอยู่เพิ่มเติมอีกอย่างนึงคือ
00:06:33 → 00:06:35 ถ้าเราสามารถมีอุปกรณ์นะครับเช่นโทรศัพท์
00:06:35 → 00:06:38 มือถือสามารถที่จะอัดวิดีโอนะครับภาพเหตุ
00:06:38 → 00:06:40 การณ์ระหว่างการชักได้เนี่ยก็จะสามารถดี
00:06:40 → 00:06:42 มากๆเป็นข้อมูลให้กับแพทย์พยาบาลที่จะมา
00:06:42 → 00:06:45 ถึงจุดเกิดเหตุเดี๋ยก็จะมีผู้ป่วยอีกส่วน
00:06:45 → 00:06:47 นึงที่มีความรงแรงของโรคที่มากนะครับก็
00:06:47 → 00:06:51 คือชักเกิน 5 นาทีนะครับหรือว่าสลบนะครับ
00:06:51 → 00:06:54 ไม่ฟื้นขึ้นมาภายใน 30 นาทีนะครับอันนี้
00:06:54 → 00:06:56 ถือว่ามีความรุนแรงที่เรียกว่าอาจจะชัก
00:06:56 → 00:06:58 ต่อเนื่องได้สังเกตว่าผู้ป่วยเยังมีภาวะ
00:06:58 → 00:07:01 หายใจอยู่หรือเปล่านะครับมีหัวใจหยุดเต้น
00:07:01 → 00:07:03 หรือไม่ครับถ้ามีนะครับก็จำเป็นที่จะต้อง
00:07:03 → 00:07:06 ปั๊มหัวใจนะครับทำการ cmr ผู้ป่วยโดยทัน
00:07:06 → 00:07:09 ทีหจากนั้นก็รอทีมแพทย์พยาบาลนะครับมาถึง
00:07:09 → 00:07:11 ที่จุดเกิดเหตุเราก็นำวีีดีโอที่เราถ่าย
00:07:11 → 00:07:13 ไว้นะครับให้กับทีมแพทย์พยาบาลนะครับแล้ว
00:07:13 → 00:07:16 ก็ทำการรักษาต่อไปเท่านี้ก็จะเป็นการผฐม
00:07:16 → 00:07:18 พยาบาลเบื้องต้นได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ
00:07:18 → 00:07:21 อาจารย์คะหากเราเป็นญาติของผู้ป่วยที่
00:07:21 → 00:07:24 เป็นโรคลมชักเนี่ยแล้วเราพบว่าเขามีภาวะ
00:07:24 → 00:07:27 โรคลมชักอยู่เราจะมีวิธีการปฏิบัติตัว
00:07:27 → 00:07:30 แล้วก็ดูแลเาอย่างไรได้บ้างค่ะค่ะญาติผู้
00:07:30 → 00:07:32 ป่วยเมีความสำคัญมากๆนะครับนจะช่วยคุณหมอ
00:07:32 → 00:07:35 ดูแลรักษาคนไข้นะครับอย่างแรกเลยครับอยาก
00:07:35 → 00:07:38 ให้ญาตินะครับหรือผู้ที่ดูแลนะครับสังเกต
00:07:38 → 00:07:41 และพยายามจดจำลักษณะการชักของผู้ป่วยนะ
00:07:41 → 00:07:43 ครับว่าการชักเป็นอย่างไรในแต่ละครั้ง
00:07:43 → 00:07:45 เนื่องจากผู้ป่วยโรคลมชักนะครับอาการชัก
00:07:45 → 00:07:48 เนี่ยเขามักจะมีลักษณะที่ซ้ำๆกันนะครับ
00:07:48 → 00:07:50 ถ้าหากบางครั้งที่มีลักษณะที่เปลี่ยนแปลง
00:07:50 → 00:07:52 ไปนะครับอันนี้อาจจะสงสัยว่ามีภาวะแทรก
00:07:52 → 00:07:54 ซ้อนอื่นๆเพิ่มเติมด้วยหรือเปล่านะครับ
00:07:55 → 00:07:57 ต้องนำข้อมูลเนี้ไปแจ้งกับเอ่อแพทย์
00:07:57 → 00:07:59 พยาบาลที่ทำการรักษานะครับลรวมถึงเรื่อง
00:07:59 → 00:08:02 ของการเอ่อดูแลนะครับรับประทานยานะครับ
00:08:02 → 00:08:05 กำชับผู้ป่วยให้ทานยาอย่างสม่ำเสมอทานยา
00:08:05 → 00:08:08 อย่างถูกต้องนะครับแล้วก็เข้าใจในการไม่
00:08:08 → 00:08:10 สร้างความเครียดนะครับให้กับผู้ป่วยอาจจะ
00:08:10 → 00:08:13 เป็นทำให้เป็นปัจจัยกระตุ้นอย่างหนึ่งนะ
00:08:13 → 00:08:15 ให้อาการเช้าเนี่ยนกำเริบได้อาจารย์คะสุด
00:08:15 → 00:08:18 ท้ายค่ะอยากให้อาจารย์ให้คำแนะนำในเรื่อง
00:08:18 → 00:08:20 ของการดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคลมชัก
00:08:21 → 00:08:23 อาจารย์จะมีคำแนะนำอย่างไรรบ้างคะสำหรับ
00:08:23 → 00:08:25 ผู้ป่วยที่ดูแลโรคลมชักด้วยตนเองนะครับ
00:08:25 → 00:08:28 สำคัญมากๆนะครับที่จะเพราะว่าการชักบ่อยๆ
00:08:28 → 00:08:30 เนี่ยไม่ใช่เรื่องที่ดีแแน่นะครับอย่าง
00:08:30 → 00:08:32 แรกคือเรื่องของการรับประทานยาอย่างถูก
00:08:32 → 00:08:35 ต้องนะครับทานยาอย่างสม่ำเสมอไม่ลืมนะ
00:08:35 → 00:08:37 ครับในส่วนของยาที่เราต้องทานในแต่ละวัน
00:08:37 → 00:08:40 านากถุงโดสแล้วก็ถูกต้องนะครับอย่างที่ 2
00:08:40 → 00:08:42 คือเรื่องของการหลีกเลี่ยงนะครับการทำ
00:08:42 → 00:08:44 กิจกรรมที่เป็นอันตรายไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:08:44 → 00:08:47 ของการขับขี่ยันยนต์นะครับการปีนป่ายหรือ
00:08:47 → 00:08:49 ว่าการออกกำลังกายเช่นการว่ายน้ำนะครับ
00:08:49 → 00:08:51 ที่มีความเสี่ยงหากมีโรคซักกำเริบขึ้้นมา
00:08:51 → 00:08:53 อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่น่ากลัวได้นะ
00:08:54 → 00:08:56 ครับสำหรับในเรื่องของการขับรถของผู้ป่วย
00:08:56 → 00:08:58 ที่เป็นโรคลมชักนะครับสมมุติถ้าเราควบคุม
00:08:58 → 00:09:00 อาการการได้ดีจริงๆนะครับทรยาอย่างต่อ
00:09:01 → 00:09:03 เนื่องอันนี้ก็ยังสามารถที่จะขับรถได้แต่
00:09:03 → 00:09:05 ว่าหมอก็ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่นะครับถ้า
00:09:05 → 00:09:07 เป็นทางที่ดีเนี่ยควรจะให้ญาติหรือผู้ดู
00:09:07 → 00:09:10 แลเนี่ยเป็นคนขับรถให้เท่านั้นเพราะว่า
00:09:10 → 00:09:12 อาการกำเริบเนี่ยเราไม่ทราบได้เลยว่าจะ
00:09:12 → 00:09:14 เกิดขึ้นเมื่อไหร่ถ้าหากเกิดขึ้นมานะครับ
00:09:14 → 00:09:16 มีอันตรายนะครับอุบัติเหตุทางรถยนต์เนี่ย
00:09:16 → 00:09:18 ผมว่าเป็นอะไรที่อันตรายกว่าดังนั้นถ้า
00:09:18 → 00:09:20 หลีกเลี่ยงได้จริงๆหมอก็นำว่ายังไม่ควร
00:09:20 → 00:09:22 ที่จะขับขี่ยานยนต์นะครับอันที่ 3 คือ
00:09:22 → 00:09:25 เรื่องของการนอนหลับอย่างเพียงพอนะครับ
00:09:25 → 00:09:27 ถ้าหากเรานอนหลับอย่างไม่เพียงพอเนี่ยพบ
00:09:27 → 00:09:29 ว่าจะทำให้เกิดภาวะรงเท้าเนี่ยเริ่มได้
00:09:29 → 00:09:32 ง่ายขึ้นนะครับความเครียดก็เช่นกันนะครับ
00:09:32 → 00:09:34 แต่ว่าก็เข้าใจว่าอาจจะควบคุมได้ยากเนาะ
00:09:34 → 00:09:36 หมาะก็นเรื่องของการออกกำลังกายเพื่อลด
00:09:36 → 00:09:39 ความเครียดนะครับทั้งจะทำให้เราเนี่ยมี
00:09:39 → 00:09:41 ร่างกายที่แข็งแรงนะครับร่างกายแล้วก็
00:09:41 → 00:09:44 หลั่งสารความสุขขึ้นมานะครับแนะนำว่าออก
00:09:44 → 00:09:46 กำลังกายอย่างน้อย 1550 นาทีต่อสัปดาห์นะ
00:09:46 → 00:09:48 ครับก็ช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรงแลห่างไกล
00:09:48 → 00:09:51 จากการลมชักได้ครับคุณผู้ชมทราบมยคะว่า
00:09:51 → 00:09:54 โรคลมชักหรือว่าลมบ้าหมูนั้นสามารถเกิด
00:09:54 → 00:09:57 ขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยและเป็นภัยเงียบ
00:09:57 → 00:09:59 ที่หลายคนค่ะไม่ทราบกันนอกจากนี้การ
00:09:59 → 00:10:02 ปฐมพยาบาลที่ถูกต้องยังมีความสำคัญอย่าง
00:10:02 → 00:10:06 ยิ่งยวดในผู้ป่วยที่เป็นโรคลมบ้าหมูทั้ง
00:10:06 → 00:10:09 นี้การป้องกันโรคลมชักที่ดีที่สุดคือการ
00:10:09 → 00:10:12 ตรวจหาโรคตั้งแต่เนิ่นๆหากมีอาการที่อาจ
00:10:12 → 00:10:16 เป็นสาเหตุมาจากโรคลมชักเช่นความจำไม่ดี
00:10:16 → 00:10:20 หรือสูญเสียความจำเมอลอยวูบเบลอเคี้ยวปาก
00:10:20 → 00:10:23 มือเกร็งผู้ติดขัดควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง
00:10:23 → 00:10:25 ด้านสมองและระบบประสาทเพื่อทำการตรวจ
00:10:25 → 00:10:28 วินิจฉัยช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคลม
00:10:28 → 00:10:33 ชักและทำการรักษาแต่เนิ่นๆได้ค่ะขอบคุณนะ
00:10:33 → 00:10:36 คะสำหรับการรับชมรายการ TNN Health ค่ะ
00:10:36 → 00:10:39 และอย่าลืมค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ใน
00:10:40 → 00:10:43 ทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะ
00:10:43 → 00:10:46 เพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิป
00:10:46 → 00:10:49 วีีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:10:49 → 00:10:52 คะ