00:00:00 → 00:00:02 เอาล่ะค่ะเข้าสู่รายการวันนี้อย่างที่บอก
00:00:02 → 00:00:05 เลยหัวข้อเรารักในวัยเรียนคุณพ่อคุณแม่
00:00:05 → 00:00:08 ควรทำอย่างไรเดี๋ยววันนี้มารับฟังอาจารย์
00:00:08 → 00:00:11 หมอกันว่าเอรในวัยเรียนมันจำเป็นมยมัน
00:00:11 → 00:00:15 สำคัญมยแล้วพอลูกเราเนี่ยอยู่ดีๆมีรักใน
00:00:15 → 00:00:18 วัยเรียนขึ้นมาเนี่ยเราจะรับมือยังไงบ้าง
00:00:18 → 00:00:20 เราควรจะรับฟังหรือว่าเราควรจะพูดคุยกับ
00:00:20 → 00:00:22 ลูกยังไงบ้างเพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อ
00:00:22 → 00:00:25 คุณแม่ด้วยนะคะต้อนรับอาจารย์หมอของเรานะ
00:00:25 → 00:00:28 คะ 1 ท่านที่จะมาพูดคุยในรายการวันนี้ค่ะ
00:00:28 → 00:00:30 ผู้เชื่อศาสตราจารย์นายแพทย์อัอัศวิน
00:00:30 → 00:00:32 นาคพงษ์พันท่านเป็นอาจารย์ประจำหน่วย
00:00:32 → 00:00:35 จิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่นภาควิชา
00:00:35 → 00:00:37 จิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:00:38 → 00:00:40 เชียงใหม่อาจารย์หมอสวัสดีค่ะ
00:00:40 → 00:00:41 >> สวัสดีครับสวัสดีครับ
00:00:41 → 00:00:43 >> ต้อนรับอาจารย์หมอเข้าสู่รายการของเรา
00:00:43 → 00:00:46 ด้วยจริงๆเราก็เคยเจออาจารย์หมออยู่บ้าง
00:00:46 → 00:00:48 แล้วนะคะเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตเวทต่างๆ
00:00:48 → 00:00:49 นะคะ
00:00:49 → 00:00:51 >> ต้องบอกว่าถ้าพูดถึงรักในวัยเรียนอาจารย์
00:00:51 → 00:00:52 คะ
00:00:52 → 00:00:55 >> เราก็น่าจะเคยผ่านช่วงนั้นมานะคะอาจารย์
00:00:55 → 00:00:55 >> เออ
00:00:55 → 00:00:59 >> อครับก็อ่าคือมันก็มีได้ครับใน
00:00:59 → 00:01:01 ในวัยเเรียกอะไรนะวัยที่เริ่มเป็นวัยรุ่น
00:01:01 → 00:01:03 เนาะพอเป็นวัยรุ่นแล้ว
00:01:03 → 00:01:06 >> เอ่ออะไรฮะมันก็ร่างกายเราก็มีฮอร์โมนเพศ
00:01:06 → 00:01:08 ใช่มั้ครับฮอร์โมนเพศก็จะไปปรับสมองเรา
00:01:08 → 00:01:09 อ่า
00:01:09 → 00:01:12 >> มันก็ทำให้นอกจากอวัยวะอะไรในร่างกายมัน
00:01:12 → 00:01:14 เปลี่ยนแล้วใช่มั้ยครับมันก็มีผลกับความ
00:01:14 → 00:01:17 สนใจด้วยเนาะเราก็จะเริ่มสนใจเรื่องเพศ
00:01:17 → 00:01:20 ตรงข้ามเอ่อมันก็มีอารมณ์รักขึ้นมาอยากมี
00:01:20 → 00:01:22 คู่อะไรเงี้ยมันก็มีคือด้วยอด้วยฮอร์โมน
00:01:22 → 00:01:26 อย่างเดียวมันก็เริ่มแล้วมันก็มีผลอ่า
00:01:26 → 00:01:29 >> รวมอาจจะรวมไปถึงเรื่องว่าอะไรนะครับใน
00:01:29 → 00:01:31 สังคมด้วยเนาะเพราะมันมีเรื่องค่านิยมใช่
00:01:31 → 00:01:31 มั้เห็นคนอื่น
00:01:31 → 00:01:33 >> การใช้ชีวิตต่างๆ
00:01:33 → 00:01:35 >> อ่าเห็นคนอื่นเ้ามีกันในหนังในซีรีย์มัน
00:01:35 → 00:01:36 ก็อะไรอย่างเงี้ยมันก็
00:01:36 → 00:01:39 >> เวลาเราไปดูมันก็ฟินนะคะอาจารย์อ่ามันก็
00:01:39 → 00:01:41 เราก็เอออยากจะฟินบ้างมันก็บวกเข้าไปอีกอ
00:01:41 → 00:01:44 เพราะฉะนั้นร่างกายก็ร่างกายก็เปลี่ยนใช่
00:01:44 → 00:01:46 มั้ยครับสมองก็เปลี่ยน
00:01:46 → 00:01:50 >> เอ่อแล้วก็สังคมก็โน้มน้าวด้วยอ่ะเพราะ
00:01:50 → 00:01:52 ฉะนั้นจะจะเริ่มสนใจเรื่องนี้อยากลองมี
00:01:52 → 00:01:54 บ้างอะไรเงี้ยมันก็มันก็เป็นไปได้
00:01:54 → 00:01:57 >> อ่ามันก็เลยเป็นรักในเวเรียน
00:01:57 → 00:02:00 >> อ่าครับทำไมถ้าย้อนไปตอนที่เราเป็นวัย
00:02:00 → 00:02:03 รุ่นค่ะอาจารย์ตอนที่อยู่ในช่วงวัยเรียน
00:02:03 → 00:02:06 ทำไมเรารู้สึกว่าความรักช่วงนั้นมันปี้เล
00:02:06 → 00:02:08 มันรู้สึกว่ามันแบบว่ากระชุ่มกระชวยหัวใจ
00:02:08 → 00:02:09 จังเลยคะอาจารย์
00:02:09 → 00:02:12 >> อต้องบอกว่าไงครับคือคือความรักเี่มัน
00:02:12 → 00:02:14 เป็นอารมณ์เนาะหรือเป็นความรู้สึกนะครับ
00:02:14 → 00:02:17 อ่าจริงๆมันเป็นความสุขเนาะมันเป็นความ
00:02:17 → 00:02:18 สุขชนิดนึงแต่ว่าอ
00:02:18 → 00:02:21 >> อ่ามันเป็นความสุขที่ค่อนข้างเข้มข้นอ่า
00:02:21 → 00:02:24 เข้มข้นครับเข้มข้นสุขมากอ่ะถ้าถ้าใครเคย
00:02:24 → 00:02:27 มีความรักก็จะพบจะจำได้ว่าโอ้มันสุขมากที
00:02:27 → 00:02:31 เอ่อมันเหมือนอย่างงี้ครับมันเหมือนวัย
00:02:31 → 00:02:34 รุ่นที่เห็นรถไฟหอบตีลังกาอื
00:02:34 → 00:02:35 >> นะเนาะ
00:02:35 → 00:02:37 >> คือสุขก็สุขมากใช่มั้ยแต่พอ
00:02:37 → 00:02:41 >> พอเอ่อมันมีความผิดหวังเอ่อทะเลาะกันคับ
00:02:41 → 00:02:44 ข้องใจไม่สมหวังเนี่ยมันมันดิ่งมันก็ดิ่ง
00:02:44 → 00:02:46 มากแต่เพราะฉะนั้นมันเหมือนรถไฟหอบตี
00:02:46 → 00:02:47 ลังกา
00:02:47 → 00:02:48 >> อคือมันขึ้นสูงมันก็ขึ้นลง
00:02:48 → 00:02:52 >> อ่าขึ้นสุดลงสุดใช่เพราะฉะนั้นเอ่อแต่แต่
00:02:52 → 00:02:55 ว่าวัยรุ่นก็ยังรู้สึกว่ามันก็คุ้มกับ
00:02:55 → 00:02:59 >> การจะมีความสุขระดับอว
00:02:59 → 00:03:02 ตังกาประหนก็ชอบความรักก็ประมาณนั้นมัน
00:03:02 → 00:03:04 ตื่นเต้นเร้าใจอะไร
00:03:04 → 00:03:06 >> คือมันก็จะมีจังหวะขึ้นลงเพราะมันนะคะ
00:03:06 → 00:03:06 อาจารย์
00:03:06 → 00:03:08 >> อ่าใช่ถึงจะแบบ
00:03:09 → 00:03:13 >> หวาดเสียวน่ากลัวแต่ก็มันก็มีช็อตที่แบบ
00:03:13 → 00:03:16 โอ้สนุกจังเลยอะไรเงี้ยเออวัยรุ่นก็เลยสน
00:03:16 → 00:03:16 ใจครับ
00:03:16 → 00:03:18 >> เพราะฉะนั้นเป็นทั้งเรื่องของฮอร์โมนเป็น
00:03:18 → 00:03:22 ทั้งเรื่องของความสุขหรือว่าผลที่มันแบบ
00:03:22 → 00:03:24 อ่าพอมันแลกแล้วมันคุ้มเงี้ยนะคะอาจารย์
00:03:24 → 00:03:26 >> อ่าหรือถ้าจะมองในเรื่องพัฒนาการด้วยก็
00:03:26 → 00:03:29 ได้ครับเพราะว่าวัยวัยรุ่นเนี่ยจริงๆอัน
00:03:29 → 00:03:32 นึงที่สำคัญกับเขามากเลยคือเรื่องของคือ
00:03:32 → 00:03:34 คือวัยรุ่นเนี่ยจะมีอันนึงที่เราเรียกว่า
00:03:34 → 00:03:36 มีเรื่องของเอ่อเค้าเรียกอัตลักษณ์เนาะ
00:03:36 → 00:03:38 >> อัตลักษณ์หมายถึงว่าเอ่อเค้าเรียก Self
00:03:38 → 00:03:41 identity คือเขาจะต้องเริ่มมีภาพว่าตัว
00:03:41 → 00:03:42 เองเนี่ยเป็นคนยังไงอ่า
00:03:43 → 00:03:43 >> อ่า
00:03:43 → 00:03:46 >> เอ่อในสังคมเนี่ยตัวเองเนี่ยเป็นคนที่
00:03:46 → 00:03:49 โอเคมั้ยเป็นที่ต้องการมั้ยเ่อเป็นคนที่
00:03:49 → 00:03:51 สังคมถือว่ายูแบบ
00:03:51 → 00:03:54 >> อ่าเค้าเรียกอะไรฮะได้รับการยอมรับอะไร
00:03:54 → 00:03:56 งี้หรือเปล่าทีนี้เอ่อการมีความรักเนี่ย
00:03:56 → 00:03:58 มันเอื้อมันเอื้อในเรื่องของภาพลักษณ์
00:03:59 → 00:04:01 นั้นด้วยเช่น
00:04:01 → 00:04:03 >> เอ่อถ้าเค้ามีความรักใช่มั้ยครับแปลว่ามี
00:04:03 → 00:04:05 คนต้องการเค้าอ่า
00:04:05 → 00:04:07 >> หรือถ้ามีคนมารุมรักเค้ามาแย่งเค้าอะไร
00:04:07 → 00:04:09 เงี้ยอันอันนี้มันยิ่งอ่าอันนี้มันยิ่ง
00:04:10 → 00:04:12 พิสูจน์ว่าเค้าเนี่ยเป็นที่รักที่ต้องการ
00:04:12 → 00:04:15 อันนี้มันยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ตัวตนเขามัน
00:04:15 → 00:04:18 เด่นชัดขึ้นอ่าใช่ครับโดยเฉพาะ
00:04:18 → 00:04:20 >> ถ้าต้องการการยอมรับเนี่ยการมีความรัก
00:04:20 → 00:04:24 หรือการมีคนมารักเนี่ยมันมันยิ่งมันยิ่งใ
00:04:24 → 00:04:26 มันยิ่งยืนยันนะว่าเออเค้าเป็นที่รักที่
00:04:26 → 00:04:29 ต้องการวุ่นก็อยากรู้อยากรู้อยากลองแล้ว
00:04:29 → 00:04:31 ตัวเเนี่ยเป็นที่รักที่ต้องการเพราะ
00:04:31 → 00:04:33 ฉะนั้นมันก็ยิ่งตอบสนองไอ้ไอการสร้าง
00:04:33 → 00:04:36 อัตลักษณ์เนี่ยเข้าไปใหญ่เลยอ่า
00:04:36 → 00:04:39 >> ก็เลยมีความรู้สึกว่าอ่าฉันฉันก็มีจุด
00:04:39 → 00:04:40 เด่นเงี้ยนะคะอาจารย์
00:04:40 → 00:04:42 >> ใช่แล้วก็แล้วก็มันเป็นเค้าเรียกมันเป็น
00:04:42 → 00:04:46 เตรมด้วยเนาะถ้าถ้ามีคนที่รักเราเอมีคน
00:04:46 → 00:04:48 ที่อ๋อมีคนที่รักเราดูแลเราเป็นห่วงเรา
00:04:48 → 00:04:50 แคร์เรานะแปลว่าเออเราก็น่าจะเป็นที่รัก
00:04:50 → 00:04:51 มันมันก็ดีกับ
00:04:51 → 00:04:53 >> ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองขึ้นไปอีกอซึ่ง
00:04:53 → 00:04:55 วัยรุ่นเนี่ยต้องการมากเลยครับเรื่อง Sell
00:04:55 → 00:04:57 Estem แบบเออก็
00:04:57 → 00:04:58 >> ก็เพราะว่าถ้าเรารู้สึกว่าเออเราก็เป็น
00:04:58 → 00:05:01 ที่รักเนาะเราก็เป็นที่ต้องการเราก็เป็น
00:05:01 → 00:05:03 ของมีค่าอะไรเงี้ยอ่า
00:05:03 → 00:05:06 >> ก็มันก็สัมพันธ์กับความสุขในระยะยาวๆ
00:05:06 → 00:05:09 เหมือนกันคือไม่ใช่แค่ว่าเป็นความวูบวาบ
00:05:09 → 00:05:10 เท่านั้นแต่ว่ามันก็เป็นความรู้สึกดีกับ
00:05:10 → 00:05:13 ตัวเองด้วยอะไรเงี้ยก็ยิ่งก็ยิ่งเสริม
00:05:13 → 00:05:13 เข้าไปอีก
00:05:13 → 00:05:15 >> อก็หัวใจพองโตเลยนะคะอาจารย์
00:05:15 → 00:05:16 >> ประมาณนั้นประมาณนั้น
00:05:16 → 00:05:20 >> ค่ะเออจริงๆต้องบอกว่าในช่วงของวัยเรียน
00:05:20 → 00:05:22 คะอาจารย์นอกจากเราอย่างคนเป็นพ่อเป็นแม่
00:05:22 → 00:05:25 เองเรามักจะบอกลูกเสมอว่าให้ตั้งใจเรียน
00:05:25 → 00:05:27 นะเออเรื่องอื่นอย่าไปสนใจเงี้ยค่ะ
00:05:27 → 00:05:30 >> แต่พอวันนึงพอลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่
00:05:30 → 00:05:32 >> ที่เขาจะต้องมีความรักเงี้ยค่ะ
00:05:32 → 00:05:33 >> อ่า
00:05:33 → 00:05:35 >> ทำไมเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงวัยเรียนนะ
00:05:35 → 00:05:38 คะอาจารย์เ้าถึงให้ความสำคัญกับความรัก
00:05:38 → 00:05:40 เยอะบางคนเนี่ยเยอะกว่าการเรียนอีกเงี้ย
00:05:40 → 00:05:41 ค่ะอาจารย์
00:05:41 → 00:05:44 >> เอิ่มอย่างที่บอกครับคือคือบางทีมันอาจจะ
00:05:44 → 00:05:46 ไม่ใช่ว่าคิดจะให้ความสำคัญนะมันเป็นความ
00:05:46 → 00:05:49 รู้สึกอ่ะก็ก็รักอ่ะอะไรเงี้ยเอาแต่อย่าง
00:05:49 → 00:05:52 งี้ผมผมชวนอย่างงี้ดีกว่าคือ
00:05:52 → 00:05:56 >> อ่าวัยรุ่นเนี่ยจริงๆเป้าหมายเป้าหมาย
00:05:56 → 00:05:59 สำคัญที่ผมคิดว่าพ่อแม่ก็อยากจะพาวัยรุ่น
00:05:59 → 00:06:00 ไปให้ถึงคือสุดท้ายสุดท้ายวัยรุ่นจะต้อง
00:06:00 → 00:06:02 เป็นผู้ใหญ่ถูกมั้ครับเพราะฉะนั้นเป้า
00:06:02 → 00:06:05 หมายหลังจากผ่านวัยรุ่นไปแล้วเนี่ย
00:06:05 → 00:06:07 >> เอ่อสังคมเนาะ
00:06:07 → 00:06:09 >> ก็อยากเห็นวัยรุ่นที่สามารถเ้าเรียกว่า
00:06:09 → 00:06:12 independent คือดูแลตัวเองได้อ่าเพราะ
00:06:12 → 00:06:12 ฉะนั้น
00:06:13 → 00:06:13 >> อ
00:06:13 → 00:06:17 >> เอ่อการศึกษาการศึกษามันเลยมักจะเป็น
00:06:17 → 00:06:19 เครื่องการันตีว่าถ้าอยู่เรียนดีเรียนจบ
00:06:19 → 00:06:22 มีงานเอ่ออะไรนะเรียนคณะดีๆมลัยดีๆเนี่ย
00:06:22 → 00:06:25 มันมันจะมันมันจะค่อนข้างการันตีว่าอนาคต
00:06:25 → 00:06:27 เขาจะ independent คือเขาจะอยู่ได้ด้วย
00:06:27 → 00:06:31 ตัวเองอ่าหารายได้เองเลี้ยงตัวเองอ่าไม่
00:06:31 → 00:06:33 ต้องเพิ่งพาอันเนี้ยผมคิดว่าเป็นเป้าหมาย
00:06:33 → 00:06:35 ที่ผู้ปกครองหรือสังคมก็อยากเห็นหรือผู้
00:06:35 → 00:06:37 ปกครองก็อยากจะพาลูกไปให้ถึง
00:06:37 → 00:06:38 >> ค่ะ
00:06:38 → 00:06:41 >> ทีนี้เ่อแต่ความรักมันก็เป็นความสุขอ่ะ
00:06:41 → 00:06:41 ครับ
00:06:41 → 00:06:42 >> เออ
00:06:42 → 00:06:46 >> เอ่อทีนี้ถ้าคือคนเราเวลามีความสุขเนเรา
00:06:46 → 00:06:47 ก็จะอยากอยู่ความสุขนานๆถูกมั้ยเหมือนเรา
00:06:48 → 00:06:48 ไป
00:06:48 → 00:06:49 >> อยู่กับตรงนั้นไง
00:06:49 → 00:06:50 >> อ่าเหมือนเราไปเที่ยวญี่ปุ่นเราก็ไม่อยาก
00:06:50 → 00:06:53 กลับมาทำงานอะไรเงี้ยหรือว่าถ้าเรากินบุฟ
00:06:53 → 00:06:56 เฟ่อยู่อยากจะแบบโอเ
00:06:56 → 00:06:57 จำกัดให้นะ
00:06:57 → 00:06:59 >> อ่าเพราะฉะนั้นปัญหาคือบางทีพอมันเป็น
00:06:59 → 00:07:02 ความสุขใช่มั้ครับมันมันก็ดึงวัยรุ่นไป
00:07:02 → 00:07:04 จากเส้นทางที่จะ independent
00:07:04 → 00:07:06 >> อ่าพ่อแม่ก็เลยจะ
00:07:06 → 00:07:08 >> เป็นห่วงโอ๊ยตายแล้วถ้าหมกมุ่นเรื่องนี้
00:07:09 → 00:07:12 เกินไปแล้วแล้วสุดท้ายลูกจะอยู่ด้วยตัว
00:07:12 → 00:07:15 เองได้หรือเปล่าจะเรียนได้มั้ยจะมีมหาลัย
00:07:15 → 00:07:18 ที่ดีมั้ยจะมีงานที่มั่นคงมั้ยอะไรพ่อแม่
00:07:18 → 00:07:19 ก็จะกังวลเพราะฉะนั้น
00:07:19 → 00:07:21 >> มันก็จะเป็นคอนฟลิกว่าเอ้ยๆ
00:07:21 → 00:07:25 >> แล้วๆไอ้เรื่องรักนี่มันจะขัดขวางการที่
00:07:25 → 00:07:28 เป้าหมายที่เ้าเจะไปเจะไปสู่เป้าหมายคือ
00:07:29 → 00:07:31 เขาจะดูแลตัวเองได้ในอนาคตเมื่อเป็นผู้
00:07:31 → 00:07:32 ใหญ่หรือเปล่าอันเนี้ยอันเนี้เป็นประเด็น
00:07:32 → 00:07:35 ที่มักจะตีกันเรื่อยๆระหว่างผู้ปกครองกับ
00:07:35 → 00:07:36 เด็กเนาะ
00:07:36 → 00:07:36 >> อื
00:07:36 → 00:07:37 >> ครับ
00:07:37 → 00:07:39 >> นั้นจริงๆแล้วต้องบอกว่ามันเป็นความห่วง
00:07:39 → 00:07:40 ใยของพ่อแม่แหละ
00:07:40 → 00:07:43 >> อ่ากลัวกลัวว่าลูกจะไม่ประสบความสำเร็จ
00:07:43 → 00:07:45 หรือหรือกลัวว่าเรื่องความรักเนี่ยมันจะ
00:07:45 → 00:07:49 ขวางมันจะมันจะมันจะพาเ้าออกจากเส้นทาง
00:07:49 → 00:07:51 ที่จะทำให้เขาสำเร็จนะฮะจะพูดอย่างงั้น
00:07:51 → 00:07:54 เหมือนเราได้ยินบ่อยๆก็คือออกนอกลูนอกทาง
00:07:54 → 00:07:56 >> อ่านั่นแหละครับประมาณนั้นเลยออกนอกรูนอก
00:07:56 → 00:07:56 ทาง
00:07:56 → 00:07:59 >> อแต่พ่อแม่ก็อาจจะมีความคาดหวังว่าเออ
00:07:59 → 00:08:01 อยากให้ลูกไปถึงฝั่งอะไรอย่างเงี้ยนะคะ
00:08:01 → 00:08:02 อาจารย์เออ
00:08:02 → 00:08:06 >> ถ้าถามว่าในช่วงที่ลูกมีความรักในวัย
00:08:06 → 00:08:08 เรียนพ่อแม่สำคัญขนาดไหนคะอาจารย์
00:08:08 → 00:08:11 >> อ๋อสำคัญมากเลยครับเพราะว่าพ่อแม่ก็ต้อง
00:08:11 → 00:08:13 เคยมีความรักมาก่อนถูกมั้ย
00:08:13 → 00:08:16 >> แล้วพ่อแม่เนี่ยเอ่อเค้าเรียก
00:08:16 → 00:08:19 >> เอ่อก็ผมคิดว่าพ่อแม่ก็น่าจะปรารถนาดีกับ
00:08:19 → 00:08:22 ลูกแหละอ่าเพราะฉะนั้นพ่อแม่เนี่ยควรจะ
00:08:22 → 00:08:28 เป็นโค้ชนะอ่าควรจะเป็นโค้ชให้ลูกว่าเอ่อ
00:08:28 → 00:08:30 ต้องต้องเรียนอย่างี้ครับว่าความรักเอ่อ
00:08:30 → 00:08:33 คือเราจะรักคนเนี่ยมันก็ไม่แปลกแต่ว่า
00:08:33 → 00:08:37 เอ่อต้องรักแค่ไหนอ่าคอนเซปตสำคัญก็คือก็
00:08:37 → 00:08:39 ต้องบาลานซจริงๆจริงๆมนุษย์เราควรจะใช้
00:08:39 → 00:08:41 ชีวิตให้มันสมดุลสมดุลระหว่างสิ่งที่ต้อง
00:08:41 → 00:08:44 ทำการงานที่ต้องทำเอ่อหน้าที่ความรับผิด
00:08:44 → 00:08:47 ชอบที่ต้องมีกับสิ่งที่ไม่รู้ว่าใช้คำว่า
00:08:47 → 00:08:50 อะไรหล่อเลี้ยงเยียวยาจิตใจความสุขเล็กๆ
00:08:50 → 00:08:51 น้อย
00:08:51 → 00:08:52 มันมีพลัง
00:08:52 → 00:08:54 >> เอออะไรอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นผมคิดว่าพ่อ
00:08:54 → 00:08:59 แม่น่าจะคุยกับลูกว่าเอ่อคือถ้าไม่มีอ่า
00:08:59 → 00:09:02 ถ้าไม่มีแล้วมุ่งมั่นจะเรียนพ่อแม่ทุกคน
00:09:02 → 00:09:04 ก็คงชอบแหละแต่ถ้ามันจะมีอ่าอ
00:09:04 → 00:09:06 >> เอ่อต้องต้องเรียนทุกท่านอย่างี้นะครับ
00:09:06 → 00:09:08 เอ่ออารมณ์มันเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้นะ
00:09:08 → 00:09:09 >> ค่ะ
00:09:09 → 00:09:12 >> เออห้ามไม่ให้รักก็ไม่ได้
00:09:12 → 00:09:14 >> ห้ามให้เกลียดก็ไม่ได้นะลองๆองลองสมมุติ
00:09:14 → 00:09:16 ลองเกลียดใครอยู่เราต้องพยายามไม่เกลียด
00:09:16 → 00:09:18 อะไรเงี้ยมันมันไม่ได้ครับเพราะแต่ว่าที่
00:09:18 → 00:09:20 เราคุมได้นี่คือพฤติกรรมเนาะ
00:09:20 → 00:09:24 >> อือกระเพราะฉะม่ก็น่าจะคุยกันว่าจะชอบคน
00:09:24 → 00:09:27 นั่นคนนี้คนนู้นอะไรมันมันมันไม่เป็นไร
00:09:27 → 00:09:28 หรอกแต่ว่า
00:09:28 → 00:09:31 >> จะเอาเวลาหรือจะทำอะไรจะไปทำอะไรเนี่ย
00:09:31 → 00:09:34 ต้องคุยกันเพราะฉะนั้นเราจะคุยกันว่า
00:09:34 → 00:09:37 >> อ๋อแล้วก็เอ่อความรักในวัยเรียนสมมุตินะ
00:09:37 → 00:09:40 อายุ 15 25 35 อย่างเงี้ยครับสิ่งที่ทำ
00:09:40 → 00:09:42 มันก็ไม่น่าจะเหมือนกันเหมือนกันถูก
00:09:42 → 00:09:43 อาจารย์
00:09:43 → 00:09:45 >> เอ่อเราจะเห็นบางทีเราจะเห็นข่าวโอ๊ยบาง
00:09:45 → 00:09:48 ทีเอ่ออะไรฮะตามอินเทอร์เน็ตเราเห็นข่าว
00:09:48 → 00:09:51 เอ่อดาราหรือไม่รู้อ่ะinfluenซerอะไรเค้า
00:09:51 → 00:09:53 >> เยังไม่แต่งงานแต่เค้าก็พาแฟนเ้าไปเที่ยว
00:09:53 → 00:09:56 ทะเลเที่ยวต่างประเทศเที่ยวอะไรเงี้ยเอ่อ
00:09:56 → 00:09:59 ซึ่งเอ่อผมคิดว่าเนี่ยพ่อแม่ก็ต้องคุยกับ
00:09:59 → 00:10:02 ลูกว่าเอ่อมันขึ้นอยู่กับว่าเค้ารับผิด
00:10:02 → 00:10:03 ชอบ
00:10:03 → 00:10:06 >> เนาะความเสี่ยงหรือผลที่จะตามมาหรืออะไร
00:10:06 → 00:10:09 ที่เกิดขึ้นจากการกระทำนั้นได้มากน้อยแค่
00:10:09 → 00:10:09 ไหน
00:10:09 → 00:10:10 >> อ่า
00:10:10 → 00:10:12 >> เอ่อ 15 เนี่ย
00:10:12 → 00:10:14 >> ก็อาจจะยังรับผิดชอบความเสี่ยงนั้นได้ไม่
00:10:14 → 00:10:16 มากนะเพราะฉะนั้น
00:10:16 → 00:10:20 >> เอ่อ 15 25 35 เนี่ยจะไปไหนทำอะไรกับ
00:10:20 → 00:10:23 ความรักมีแฟนอะไรรำลึกแค่ไหนทำอะไรได้ไม่
00:10:23 → 00:10:25 ได้มันมันก็ไม่น่าจะเท่ากันถูกมั้ก็ต้อง
00:10:25 → 00:10:26 คุยกันว่า
00:10:26 → 00:10:28 >> เอ่อแต่ละวัยเนี่ยเนาะแต่ละวัยอะไรทำได้
00:10:28 → 00:10:31 ไม่ได้ซึ่งอันนี้อันนี้ก็จะเป็นเอ่อเค้า
00:10:31 → 00:10:34 เรียกสแตนดารดของแต่ละครอบครัวเอ้ยเอ่อ
00:10:34 → 00:10:37 ถ้าแล้วแต่ละแต่ละแต่ละชุมชนแต่ละสังคม
00:10:37 → 00:10:40 แต่ละวัฒนธรรมใช่บางคนจะบอกว่าเนี่ยเด็ก
00:10:40 → 00:10:43 อเมริกานะ 15 เค้าอะไรเงี้ยจะมาเทียบกับ
00:10:43 → 00:10:46 ใครอะไรเงี้ยก็ต้องคุยกันว่าเออแล้วอัน
00:10:46 → 00:10:48 ไหนที่มันแต่ผมว่าเป้าหมายเดียวคืออะไร
00:10:48 → 00:10:50 ที่มันดีกับชีวิตเค้าอ่ะครับแล้วมันสมดุล
00:10:50 → 00:10:52 เนาะไม่มากไม่น้อยเกินไปก็อาจจะต้องต่อ
00:10:52 → 00:10:56 รองกันว่าเออถ้าจะมีแฟนก็ก็คงจะได้ประมาณ
00:10:56 → 00:10:59 นี้นะเออจะไปจะไปอะไรกลางคืนได้มั้ยจะไป
00:10:59 → 00:11:02 อันนู้นได้มั้ยจะไปค้างอะไรเงี้ยมันมันก็
00:11:02 → 00:11:04 ต้องคุยกันว่าอะไรได้ไม่ได้ครับแล้วสำคัญ
00:11:04 → 00:11:06 คืออย่าลืมว่า
00:11:06 → 00:11:08 >> วัยรุ่นมีทางมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง
00:11:08 → 00:11:10 แล้วควรจะไปถึงนะก็คือสุดท้ายเราก็อยาก
00:11:11 → 00:11:13 เห็นวัยรุ่นทุกคนดูแลตัวเองได้เมื่อเป็น
00:11:13 → 00:11:13 ผู้ใหญ่
00:11:14 → 00:11:16 >> นี่อันนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
00:11:16 → 00:11:19 >> ใช่เพราะนั้นอะไรจะมาขวางเส้นทางเนี้ย
00:11:19 → 00:11:19 ต้องพิจารณาจะ
00:11:19 → 00:11:21 >> ต้องต้องคิดเยอะๆใช่
00:11:21 → 00:11:24 >> ค่ะอาจจะต้องอาจจะต้องมีกรอบสักนิดนึงแต่
00:11:24 → 00:11:27 ก็ไม่ใช่ว่าจะจะตีกรอบแบบต้องเป็นแบบนี้
00:11:27 → 00:11:28 ไปเลยอย่างงี้ก็ไม่ได้
00:11:28 → 00:11:31 >> ต้องต่อรองกันครับเพราะว่าเพราะว่าเอ่อผม
00:11:31 → 00:11:32 ผมจะเรียนอย่างงี้ว่า
00:11:32 → 00:11:36 >> คืออันนี้ย้ำอีกทีนะเอ่ออารมณ์มันห้ามไม่
00:11:36 → 00:11:39 ค่อยได้แต่ที่ห้ามได้เนี่ยคือการกระทำ
00:11:39 → 00:11:40 เอ่อเพราะฉะนั้น
00:11:40 → 00:11:43 >> เอ่อถ้าห้ามมีความรักไปเลยเนี่ยเอ่อบางที
00:11:43 → 00:11:46 เราก็พบว่าเค้าก็ยังคงมีอยู่เค้าแค่ไม่
00:11:46 → 00:11:48 บอกเราอันนั้นอันนั้นก็จะหนักขึ้นไปอีก
00:11:48 → 00:11:49 >> อ่า
00:11:49 → 00:11:52 >> อ่าเพราะฉะนั้นน่าก็น่าจะคุยกันเปิดอกว่า
00:11:52 → 00:11:55 ก็ถ้าชอบใครก็ตามชอบมันห้ามไม่ได้ครับแต่
00:11:55 → 00:11:56 ว่า
00:11:56 → 00:11:58 >> มันห้ามที่จะไม่ส่งข้อความไปอะไรเงี้ย
00:11:58 → 00:12:00 หรือห้ามที่จะไม่ไปกับเค้าอะไรเงี้ยอัน
00:12:00 → 00:12:01 นั้นอันนั้นห้ามได้เพราะฉะนั้นเราจะคุย
00:12:01 → 00:12:05 กันว่าอะไรควรอะไรทำได้ไม่ได้ในวัยนั้นๆอ
00:12:05 → 00:12:06 ผมผมพูดอย่างงั้นดีกว่า
00:12:07 → 00:12:09 >> อืบางทีนี้ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้
00:12:09 → 00:12:11 จริงๆนะคะอาจารย์แต่
00:12:11 → 00:12:14 >> อผมยกตัวอย่างอย่างเช่นเด็กอายุ 15 จะบอก
00:12:14 → 00:12:17 คุณพ่อคุณแม่ว่าหนูไปค้างไปเที่ยวทะเล
00:12:17 → 00:12:19 ทะเลกับเค้าได้มั้ยอะไรเงี้ย
00:12:19 → 00:12:20 >> เออ
00:12:20 → 00:12:23 >> แนะนำคุณพ่อคุณแม่ให้ตอบไปเลยครับว่าได้
00:12:23 → 00:12:23 >> ได้เลย
00:12:24 → 00:12:25 >> แต่รอให้อายุสัก
00:12:25 → 00:12:26 >> 25
00:12:26 → 00:12:28 >> อ๋อแต่ได้คือ
00:12:28 → 00:12:31 >> ได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้เออก็คือถ้าน้องถ้าหนู
00:12:31 → 00:12:34 เรียนจบนะมีงานทำที่ดีนะหนูจะไปทะเลไปภู
00:12:34 → 00:12:37 เขาไปน้ำตกอะไรหนูก็ไปอะไรเงี้ยเออขอให้
00:12:37 → 00:12:39 ดูแลเเออเพราะฉะนั้น
00:12:39 → 00:12:41 >> มันบางทีมันอยู่ที่เวลาครับแต่ถ้า 35
00:12:41 → 00:12:43 เนี่ยพ่อแม่จะบอกเออรีบไปเลยเออพ่อแม่ออก
00:12:43 → 00:12:45 เงินให้อะไรเงี้ย
00:12:45 → 00:12:47 >> เออะไรเงี้ยเออจะไปก็ไปสิเอออะไรเงี้
00:12:47 → 00:12:50 เพราะว่ามันอยู่ที่อายุนะอยู่ที่ว่าเ
00:12:50 → 00:12:53 บรรลุเดูแลตัวเองได้หรือยังเอออะไรอย่าง
00:12:53 → 00:12:53 งี้
00:12:53 → 00:12:54 >> อค่ะอ
00:12:54 → 00:12:56 >> อ่าพอฟังอาจารย์พูดแบบนี้แล้วต้องบอกว่า
00:12:56 → 00:12:59 คุณพ่อคุณแม่นี่มีส่วนสำคัญต้องเป็นเซฟ
00:12:59 → 00:13:01 โซนหรือว่าเป็นพูดผู้ฟังที่ดีให้ลูกมั้คะ
00:13:01 → 00:13:04 >> เป็นโค้ชเป็นโค้ชถ้าแม่ต้องเป็นโค้ชอ่า
00:13:04 → 00:13:06 แล้วเรื่องจริงๆเรื่องความรักต้องคุยกัน
00:13:06 → 00:13:07 เยอะนะครับเช่น
00:13:07 → 00:13:09 >> เอ่อ
00:13:09 → 00:13:12 ลูกจะมีแฟนเนี่ยก็ต้องก็ต้องคุยกับลูกนะ
00:13:12 → 00:13:15 ว่าเอ่อคนที่ควรจะมาเป็นแฟนเนี่ยดู
00:13:15 → 00:13:18 >> มันอออย่างงี้เหมือนเวลาเราพาลูกไปตลาด
00:13:18 → 00:13:20 ครั้งแรกเนาะเราสอนลูกว่าเนี่ยเลือกปลา
00:13:20 → 00:13:24 เป็นมั้ยเออตัวไหนสดไม่สดเออ
00:13:24 → 00:13:26 >> สอนเรื่องเลือกคู่เนี่ยอย่างงั้นเลยครับ
00:13:26 → 00:13:28 พ่อแม่ก็ต้องคุยกับลูกว่าถ้าจะเอาใครมา
00:13:28 → 00:13:30 เป็นแฟนสักคนเนี่ย
00:13:30 → 00:13:33 >> มันต้องดูอะไรบ้างนะอ่าอันนี้ก็สำคัญเนาะ
00:13:33 → 00:13:36 เพราะฉะนั้นพ่อแม่อาจจะต้องเริ่มนึกๆเออ
00:13:36 → 00:13:38 เวลาเราเลือกแฟนนี้เราดูอะไรบ้างวะ
00:13:38 → 00:13:39 >> เอเราต้องนึกย้อนไป
00:13:39 → 00:13:41 >> คือถ้าจะเอามาทั้งทีก็ต้องเอามาให้ดีนึก
00:13:41 → 00:13:44 ออกมเออก็ถ้าเลือกแฟนก็ต้องเลือกให้ดีเออ
00:13:44 → 00:13:46 เพราะว่าเราคงไม่ได้อยากมีหลายคนอะไร
00:13:46 → 00:13:48 เงี้ยเออก็ถ้าเลือกทงทีก็ต้องเลือกให้ดี
00:13:48 → 00:13:51 ดีของ
00:13:51 → 00:13:54 ตระกูลเราเออบ้านเราเออเราดูจากอะไรอัน
00:13:54 → 00:13:55 นี้ก็ต้องนั่งคุยกัน
00:13:55 → 00:13:55 >> ค่ะ
00:13:55 → 00:13:58 >> เออถ้ามีก็เอาดีๆอ่ะลูกเออดีๆอ๋อดีในที่
00:13:58 → 00:14:01 นี้ก็อาจจะเช่นอย่างเงี้ครับมันก็มีเก
00:14:01 → 00:14:03 ทฤษฎีอยู่บ้างเช่นเอ่อถ้าจะมีความ
00:14:03 → 00:14:06 สัมพันธ์ทั้งทีควรจะมีแล้วมันมันเอื้อให้
00:14:06 → 00:14:10 ชีวิตของแต่ละคนเนี่ยดีขึ้น
00:14:10 → 00:14:12 >> เพราะฉะนั้นเรามักจะคุยกันว่าดีขึ้น
00:14:12 → 00:14:15 >> เอ่อบางทีคุณพ่อคุณแม่จะพบว่ามีมีผมมีคน
00:14:15 → 00:14:16 ไข้เหมือนกัน
00:14:16 → 00:14:19 กับแฟนแล้วแฟนพาไปในทางที่ดีขึ้นเรกยาเสพ
00:14:19 → 00:14:21 ติดได้กลับมาียนหนังสือ
00:14:21 → 00:14:24 >> พ่อแม่เนี่ยแทบจะเอากระเช้าไปให้เออฝากดู
00:14:24 → 00:14:27 แลลูกพ่อแม่ด้วยนะเออเงี้แต่ชีวิตเต้องเอ
00:14:27 → 00:14:30 ทั้งคู่ก็ต้องดีนะครับเอ่อเพราะฉะนั้นก็
00:14:30 → 00:14:32 >> ถ้ามีแล้วชีวิตควรจะดีขึ้นทีนี้จะดีขึ้น
00:14:32 → 00:14:35 เนี่ยเราดูจากอะไรบ้างก็นั่งคุยกัน
00:14:35 → 00:14:36 >> เนาอ
00:14:36 → 00:14:38 >> เออถ้าจะมีแฟนทั้งทีอันนี้ก็ฝากถึงน้องๆ
00:14:38 → 00:14:40 ถ้าจะมีแฟนทั้งทีต้องมีแล้วชีวิตดีขึ้นนะ
00:14:40 → 00:14:41 ครับถ้าแย่ลงอาจจะต้อง
00:14:42 → 00:14:45 >> ต้องคิดเยอะๆใช่ว่าว่าเอ๊ะมีเอ๊ะดีมั้นะ
00:14:45 → 00:14:45 อะไรเงี้ย
00:14:45 → 00:14:49 >> เออเนี่ยรักในวัยเรียนมีได้แต่ก็ต้องดี
00:14:49 → 00:14:49 ขึ้น
00:14:49 → 00:14:51 >> ชีวิตต้องดีขึ้นถ้าชีวิตมันแย่ลงหรือมัน
00:14:52 → 00:14:53 เศร้ากว่าเดิมหรือมันเท่าเดิมงี้ล่ะคะ
00:14:53 → 00:14:54 อาจารย์
00:14:54 → 00:14:55 >> เท่าเดิม
00:14:55 → 00:14:57 >> เท่าเดิมก็ไม่ต้องมีก็ได้มั้คะ
00:14:57 → 00:15:01 >> ก็ต้องดูว่าอย่างงี้ครับทุกสิ่งที่เราให้
00:15:01 → 00:15:03 ความสนใจกับมันจริงๆมีราคาที่ต้องจ่าย
00:15:03 → 00:15:07 เสมอนะอันดับ 1 เลยคือเวลาบางคนเปยด้วยมี
00:15:07 → 00:15:10 เงินด้วยบางคนแรงกายแรงใจคุยกับแฟนไม่ได้
00:15:10 → 00:15:12 นอนอะไรเงี้ยเออนอน
00:15:12 → 00:15:13 >> เพราะฉะนั้น
00:15:13 → 00:15:16 >> เอ่อมันก็ได้ความสุขแหละแต่ต้องดูว่าแล้ว
00:15:16 → 00:15:18 มันต้องเสียอะไรไปบ้างแล้วสำคัญคือคุ้ม
00:15:18 → 00:15:20 มั้ยอันนี้พ่อแม่ก็ต้องคุยกับลูกมันคุ้ม
00:15:20 → 00:15:22 มั้ยเออถ้าไม่คุ้มเอ่อถ้าไม่คุ้มแปลว่า
00:15:22 → 00:15:25 ขาดทุนอยู่ก็หลักเศรษฐศาสตร์ก็ไม่ก็ไม่
00:15:25 → 00:15:28 ควรลงทุนเออเนาะเพราะฉะนั้นเต้องคุยกัน
00:15:29 → 00:15:31 เยอะครับว่าคุ้มมั้ยอ่ะลูกเออต้องเสีย
00:15:31 → 00:15:33 อะไรไปบ้างเพราะบางทีวัยรุ่นก็จะไม่รู้
00:15:33 → 00:15:35 ว่าต้องเสียอะไรไปบ้างรู้ว่าแค่ว่ามันมี
00:15:35 → 00:15:38 ความสุขเป็นเตื้อ
00:15:38 → 00:15:40 เป็นครั้งคร้าวเออแต่ว่า
00:15:40 → 00:15:44 >> อดนอนอะไรเงี้ยเออการงานรับผิดชอบน้อยลง
00:15:44 → 00:15:46 เออเออหรือมันก็มีเรื่องทุกข์ใจต้องคอย
00:15:46 → 00:15:49 ระแวงว่าเจะไปคุยกับใครมั้ยเห็นเยิ้มให้
00:15:49 → 00:15:50 คนอื่นแล้วก็อะไรเงี้ยบางทีมันไม่ค่อย
00:15:51 → 00:15:53 คุ้มก็อาจจะต้องคิดเยอะๆว่าเอ๊ะ
00:15:53 → 00:15:55 >> ก็ไม่ต้องเสี่ยงลงทุนไปเงี้ยอาจารย์
00:15:55 → 00:15:57 >> อ่าการลงทุนมีความเสี่ยงใช่นี้ก็อาจจะไม่
00:15:57 → 00:15:58 ค่อยคุ้ม
00:15:58 → 00:16:00 >> อค่ะแต่ว่าต้องบอกว่าความรักของแต่ละคนก็
00:16:00 → 00:16:03 ไม่เหมือนกันเค้าเรียกว่ารสนิยมแต่ละคนก็
00:16:03 → 00:16:05 ไม่เหมือนกันบางคนอาจจะชอบแบบว่าอยู่กับ
00:16:05 → 00:16:07 ความสุขบางคนอาจจะชอบแบบเศร้าเยอะๆกว่า
00:16:08 → 00:16:10 สุขสุสุขน้อยๆอะไรเงี้ยคะอาจารย์
00:16:10 → 00:16:13 >> อ่าก็ก็เป็นไปได้ครับแต่อย่างงี้ยังไงยัง
00:16:13 → 00:16:18 ไงก็ชวนทุกคนว่าย้ำอีกทีเอ่อหลังจากเป็น
00:16:18 → 00:16:20 วัยรุ่นแล้วสุดท้ายเราอยากเห็นวัยรุ่นทุก
00:16:20 → 00:16:24 คนอยู่ได้ด้วยตนเองเอ่อดูแลตนเองได้ร่าง
00:16:24 → 00:16:28 กายจิตใจมีความสุขด้วยตนเองได้อ่าแล้วก็
00:16:28 → 00:16:31 พึ่งพาตัวเองได้โดยเฉพาะเรื่องด้านของการ
00:16:31 → 00:16:34 เงินการอะไรเงี้ยเนาะเพราะฉะนั้นเอ่อไม่
00:16:34 → 00:16:36 ว่าชอบสไตล์ไหนนะครับถ้าถ้ามันทำให้ชีวิต
00:16:36 → 00:16:39 เนี่ยดีขึ้นไปทางนั้นแล้วสุดท้ายสุดท้าย
00:16:39 → 00:16:42 สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ก็คงไม่เป็นไร
00:16:42 → 00:16:44 หรอกแต่ว่าถ้าถ้ามันเริ่มไม่ใช่ใช่อ่ะ
00:16:44 → 00:16:44 >> อื
00:16:44 → 00:16:47 >> อาจจะต้องคิดดีๆว่าเอ๊ะเรากำลังทำอะไร
00:16:47 → 00:16:48 อยู่
00:16:48 → 00:16:50 >> แล้วแล้วสุดท้ายสุดท้าย
00:16:50 → 00:16:52 >> สุดท้ายเอเพราะอย่างงี้ครับเอ่ออันนี้อัน
00:16:52 → 00:16:54 นี้ก็เป็นอีกทฤษฎีนึงนะคือเวลาเรามีแฟน
00:16:54 → 00:16:57 เนี่ยจุดจบมีแค่ 2 อย่างเท่านั้นนะครับ
00:16:57 → 00:16:58 >> ค่ะ
00:16:58 → 00:17:00 >> ก็คือถ้าไม่เลิกกันก็แต่งกันมีแค่นั้น
00:17:00 → 00:17:02 >> อืออันนี้เรียกจุดจุดจบเหรอคะอาจารย์
00:17:02 → 00:17:05 >> จุดจบปลายทางปลายทางปลายทางมีแค่ 2 อัน
00:17:05 → 00:17:06 เท่านั้นเพราะฉะนั้น
00:17:06 → 00:17:10 >> เอ่อถ้าเราไม่ได้มีแฟนจะแต่งกับไอ้คนนี้
00:17:10 → 00:17:12 นึกออกมั้ยมันก็เหลืออีกขานึงคือมันอาจจะ
00:17:12 → 00:17:14 เลิกนะเพราะฉะนั้นนั้นเราต้องดูด้วยว่า
00:17:14 → 00:17:15 สมมติเลิกกับคนนี้ไปเนี่ยเราเหลืออะไร
00:17:16 → 00:17:16 บ้าง
00:17:16 → 00:17:16 >> อ
00:17:16 → 00:17:19 >> บางคนทุ่มเทมากเลยครับทิ้งนู่นทิ้งนี่มา
00:17:19 → 00:17:22 เกาะเอาฝากชีวิตไว้กับคนนี้อะไรเงี้ยแล้ว
00:17:22 → 00:17:23 พอคนนี้มันไปปุ๊บ
00:17:23 → 00:17:26 >> อมไม่เหลืออะไรเงี้ยอันนี้ก็มันมันก็จะ
00:17:26 → 00:17:27 ขัดกับเรื่องของ Independent ที่บอกไป
00:17:27 → 00:17:28 เพราะฉะนั้น
00:17:28 → 00:17:31 >> เอ่อต้องต้องเค้าเรียกอะไรจะมีความ
00:17:31 → 00:17:33 สัมพันธ์อะไรก็ตามก็ต้องดูแลชีวิตตัวเอง
00:17:34 → 00:17:37 ให้ได้ให้ได้ด้วยเออเพราะว่าวันนึงสมมุติ
00:17:37 → 00:17:40 เขาไปด้วยเหตุอะไรก็ตามเนาเราก็จะยังมี
00:17:40 → 00:17:43 ชีวิตของเราต่อได้เหลืออยู่ได้เอออะไร
00:17:43 → 00:17:45 อย่างเงี้ยก็ต้องก็ต้องบาanceซจริงๆต้อง
00:17:45 → 00:17:47 ใช้คำว่าบาanceซครับเอ่อ
00:17:47 → 00:17:48 >> แต่พอมันเป็นความสุขใช่มั้
00:17:48 → 00:17:50 >> วัยรุ่นเราชอบใส่สุดอ่ะเราก็จะ
00:17:50 → 00:17:55 >> เออเต็มที่เออมันในสายตามีแต่ไอ้เงี้ยเออ
00:17:55 → 00:17:56 อะไรเงี้ยแล้วแล้วมันอย่างอื่นมันหายไป
00:17:56 → 00:17:58 เลยเพราะแม่กวักมือก็ไม่เห็นอะไรเงี้ยมัน
00:17:58 → 00:18:00 ก็อาจจะต้องมองให้ทั่วๆว่าเออชีวิตมันก็
00:18:00 → 00:18:03 มีหลายด้านเนาะแล้ว
00:18:03 → 00:18:05 >> เอ่อความสัมพันธ์เนี่ยมันก็อย่างที่บอก
00:18:05 → 00:18:07 ครับไม่แต่งก็เลิกมีแค่นั้นเพราะฉะนั้นออ
00:18:07 → 00:18:09 ผมชอบถามเด็กอายุ 14-15 เวลามีแฟน
00:18:09 → 00:18:10 >> ค่ะอาจารย์
00:18:10 → 00:18:13 >> เอ่อมีแพนจะแต่งงานกับคนนี้มั้ยโอ 44 15
00:18:13 → 00:18:15 เลยนะคะ
00:18:15 → 00:18:17 >> ร้อยละ100รก็จะตอบว่าไม่ๆๆยังไม่ได้คิด
00:18:17 → 00:18:19 ขนาดนั้นเออเพราะฉะนั้นผมก็จะบอกว่าเพราะ
00:18:19 → 00:18:20 ฉะนั้น
00:18:20 → 00:18:23 >> ถ้าจะทำอะไรกับคนนี้อาจจะต้องคิดถึงคู่ใน
00:18:23 → 00:18:26 อนาคตถ้ามีถ้ามีวันนึงที่เราแต่งกับใคร
00:18:26 → 00:18:28 สักคนแล้วไอ้ที่เราทำวันเนี้ยมันจะมีผล
00:18:28 → 00:18:30 กับความรู้สึกไอ้คนในอนาคตไงเพราะว่าเออ
00:18:30 → 00:18:31 เพราะฉะนั้นก็ต้อง
00:18:32 → 00:18:33 >> นึกๆถูกๆมั้ยถ้าไม่ได้คิดจะแต่งกับคนนี้
00:18:33 → 00:18:36 นะก็ก็ดูไปก่อนเจอเย็นๆจะตัดสินใจทำอะไร
00:18:36 → 00:18:39 ก็คิดก่อนว่ามันจะมีผลกับ
00:18:39 → 00:18:41 >> ตัวจริงตัวจริงอ่ะอาจจะมีตัวจริงอยู่
00:18:41 → 00:18:43 เงี้ยเออหรือเด็กบางคนก็บอกเลยไม่ๆคบขำๆ
00:18:44 → 00:18:44 >> โอ้โห
00:18:44 → 00:18:47 >> เออก็ถ้าขำๆก็แปลว่าต้องคิดถึงคนในอนาคต
00:18:47 → 00:18:51 ด้วยนะทำอะไรต้องอะไรเกินขำก็ต้องอย่าทำ
00:18:51 → 00:18:53 อะไรเงี้ยเพราะว่ามันจะมีผลกับตัวจริง
00:18:53 → 00:18:55 >> แต่มันจะคิดได้มั้คะอาจารย์หมายถึงว่าคิด
00:18:55 → 00:18:57 ถึงคนในอนาคตเผื่อคนในอนาคตเราไม่มีอย่าง
00:18:57 → 00:18:58 งี้เหรอคะ
00:18:58 → 00:19:01 >> เอ่อไม่มีใครรู้ครับแต่ว่าถ้ามีไงอ่าอ๋อ
00:19:01 → 00:19:04 เนี่ยๆพ่อแม่ก็ต้องชวนลูกคิดเนาะเออก็ถ้า
00:19:04 → 00:19:08 มีตัวจริงในอนาคตก็อะไรทำในวันนี้ต้องนึก
00:19:08 → 00:19:09 ถึงคนนั้นด้วยนะ
00:19:09 → 00:19:10 >> อ่า
00:19:10 → 00:19:13 >> อ๋อหรือถ้าเช่นประคองตนให้ดีใช่มั้แล้วพอ
00:19:13 → 00:19:16 เจอคนจริงในอนาคตวันแต่งงานก็บอกเธอรู้
00:19:16 → 00:19:18 มั้ยฉันดูแลตัวเองมาอย่างดีมากเพราะเธอ
00:19:19 → 00:19:21 เลยนะอะไรเงี้ยเออใช่ป่ะมันจะทำได้คือเรา
00:19:21 → 00:19:23 ต้องประคองตนไว้ให้ดีไงเพราะฉะนั้น
00:19:23 → 00:19:24 >> อ
00:19:24 → 00:19:26 >> มันมีแค่แต่งกับฤกษ์นะครับก็ก็ถ้าไม่ได้
00:19:26 → 00:19:27 คิดจะแต่งกับคนนี้ก็
00:19:27 → 00:19:30 >> จะทำอะไรกับคนปัจจุบันก็ต้อง
00:19:30 → 00:19:33 >> ก็ต้องคิดเยอะๆค่ะโอ้โหฟังอาจารย์พูดแบบ
00:19:33 → 00:19:36 นี้แล้วอยากย้อนไปตอนอายุ 14-15
00:19:36 → 00:19:37 >> เออ
00:19:37 → 00:19:40 >> อ่ะนอกจากน้องๆวัยรุ่นแล้วที่จะต้องจะ
00:19:40 → 00:19:43 ต้องคิดเยอะๆหรือว่าจะต้องอ่าพิจารณาต่าง
00:19:44 → 00:19:46 ๆคุณพ่อคุณแม่เงี้นะคะอาจารย์คือถ้าลูกมี
00:19:46 → 00:19:49 ความสุขมีความรักและมีความสุขไปตามลู่ทาง
00:19:49 → 00:19:51 ที่เราวางไว้เนี่ยเราไม่เป็นห่วงแต่พอวัน
00:19:51 → 00:19:55 นึงลูกเกิดผิดหวังขึ้นมาเงี้ล่ะคะพ่อแม่
00:19:55 → 00:19:58 จะต้องรับมือยังไงคะอาจารย์
00:19:58 → 00:20:01 >> เอ่ออย่างงี้ครับคือดีที่สุดเนี่ยคือการ
00:20:02 → 00:20:03 ป้องกันเนาะแต่ป้องกันไม่ใช่ป้องกันคือ
00:20:03 → 00:20:06 ห้ามมีแฟนนะป้องกันคือสอนตั้งแต่ต้นว่า
00:20:06 → 00:20:08 เช่น
00:20:08 → 00:20:09 >> เอ่อ
00:20:09 → 00:20:12 อ๋ออย่างที่บอกเมื่อสักครู่อ่ะลูกอย่าลืม
00:20:12 → 00:20:14 นะคบกันมันมีแค่เลิกกับแต่งเพราะฉะนั้น
00:20:14 → 00:20:16 ถ้าไม่คิดจะแต่งเนี่ยสุดท้ายมันจะมีวัน
00:20:16 → 00:20:18 ที่เลิกอ่าเพราะฉะนั้นถ้าเลิกเนี่ยไม่
00:20:18 → 00:20:18 ต้องตกใจ
00:20:19 → 00:20:22 >> เอ้ยทำไมถึงเลิกให้บอกเลยอ๋อกะแล้วก็ก็
00:20:22 → 00:20:24 มันก็มีแค่นั้นน่ะนึกออกมั้ยแล้วก็
00:20:24 → 00:20:27 >> เอ่อจริงๆจริงก็ต้องคุยกันเยอะว่าเช่นบาง
00:20:28 → 00:20:30 ทีเลิกกันเนี่ยมันไม่ได้แปลว่าเราหรือเขา
00:20:30 → 00:20:34 ไม่ดีเราเป็นคนไม่ดีไม่มีค่าอะไรหลายคนจะ
00:20:34 → 00:20:34 รู้สึกอย่างงั้น
00:20:35 → 00:20:36 >> เราเข้ากันไม่ได้เงี้ยค่ะอาจารย์
00:20:36 → 00:20:40 >> เออเอ่อผมจะชอบเปรียบว่าบางทีปลามาคบกับ
00:20:40 → 00:20:40 นกนกอ่ะ
00:20:40 → 00:20:41 >> อื
00:20:41 → 00:20:44 >> แล้ววันนึงเราก็พบว่าไอ้นี่มันเป็นปลาเรา
00:20:44 → 00:20:46 เป็นนกเออคือมันไม่ใช่มีใครไม่ดีนะแต่ว่า
00:20:46 → 00:20:48 มันอยู่กันยากมากเลยมันเป็นความไม่แมตชก็
00:20:48 → 00:20:51 ได้เพราะฉะนั้นก็ก็อย่าไปถล่มตัวเอง
00:20:51 → 00:20:54 >> อ่าแล้วก็อ๋ออย่างงี้ด้วยครับ
00:20:54 → 00:20:57 >> เอ่อผู้ใหญ่ผู้ใหญ่หลายคนจะรู้ว่าบางคนมี
00:20:57 → 00:21:00 แฟนมาหลายๆคนจะพบว่าบางที
00:21:00 → 00:21:02 พอเรามีแฟนคนแรกเนี่ยบางทีเราก็ยังไม่
00:21:02 → 00:21:04 ค่อยมีความชำนาญ
00:21:04 → 00:21:04 >> อ่า
00:21:05 → 00:21:07 >> หมายถึงว่าประสบการณ์ยังน้อยอะไร
00:21:07 → 00:21:09 >> อ่าทะเลาะกันทีก็อื้อหืออย่างกับพม่าไทย
00:21:09 → 00:21:13 รบแบบอะไรเงี้ยเออเพราะฉะนั้นพอแต่พอมี
00:21:13 → 00:21:15 แฟนแล้วเนี่ยบางคนก็จะรู้ว่าอ๋อเรารู้
00:21:15 → 00:21:18 แล้วความสัมพันธ์มันน่าจะประมาณนี้โตขึ้น
00:21:18 → 00:21:18 >> อ
00:21:18 → 00:21:21 >> เพราะฉะนั้นหลายๆคนจะบอกเลยพอมีแฟนมา 2-3
00:21:21 → 00:21:24 คนเนี่ยเอ่อจะจะเป็นแฟนที่ดีขึ้นน่ะ
00:21:24 → 00:21:26 >> เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ได้แปลว่าเราหรือเขา
00:21:26 → 00:21:28 เป็นคนไม่ดีแต่ว่าประสบการณ์ชีวิตอาจจะ
00:21:28 → 00:21:31 ยังน้อยทักษะสกิลในการเจรจาต่อรองจัดการ
00:21:31 → 00:21:33 ความขัดแย้ง
00:21:33 → 00:21:36 >> เอ่อในการสาธารุสุขดิบกันอะไรเงี้ยเออมัน
00:21:36 → 00:21:39 ก็ยังน้อยเพราะฉะนั้นบางบางคนบางคนบอกเลย
00:21:39 → 00:21:41 ว่าพอ
00:21:41 → 00:21:44 เสียดายถ้าเกิดเจอไอ้คนแรกนะเป็นคนที่ 3
00:21:44 → 00:21:46 เนี่ยนะมันจะเป็นอีกแบบเงี้ยเอออันเนี้ย
00:21:46 → 00:21:48 อันเนี้ผมว่าอาจจะต้องคุยกับลูกไว้ก่อน
00:21:48 → 00:21:51 ว่าว่าถ้าจะมีแฟนก็คือต้องคือ
00:21:51 → 00:21:54 >> คือถ้ามีความรักก็ต้องเตรียมใจที่จะผิด
00:21:54 → 00:21:55 หวังอื
00:21:55 → 00:21:58 >> เอ่อจะหมดรักด้วยเหมือนกันนะเพราะว่า
00:21:58 → 00:22:01 >> เอ่อมันมีแค่ 2 ทางอย่างที่บอกครับ
00:22:01 → 00:22:02 >> ค่ะ
00:22:02 → 00:22:04 >> เตรียมใจไว้ก็บอกลูกให้เตรียมใจไว้ก่อนนะ
00:22:04 → 00:22:06 ถ้ามีถ้ามีรักก็ต้องเตรียมใจว่าถ้าจะหมด
00:22:06 → 00:22:08 รักหมดรักไม่ต้องตื่นเต้นมันก็จะเป็น
00:22:08 → 00:22:08 อย่างงั้นแหละ
00:22:08 → 00:22:10 >> มันก็เป็นตามตามที่เราคาดไว้แล้วเงี้ย
00:22:10 → 00:22:13 >> อ๋อแต่ว่าที่ต้องย้ำคือว่าไม่ว่าจะไปจุด
00:22:13 → 00:22:15 ไหนพ่อแม่จะยังคงอยู่ตรงนั้นนี่
00:22:15 → 00:22:16 >> นี่
00:22:16 → 00:22:19 >> จริงๆพ่อแม่ก็มีส่วนสำคัญมากๆเลยนะคะ
00:22:19 → 00:22:21 อาจารย์ก็ต้องก็ต้องคุยกับลูกแล้วก็
00:22:21 → 00:22:23 เหมือนกับเป็นเซฟโซนให้ลูกด้วย
00:22:23 → 00:22:24 >> ใช่อ๋ออันนี้สำคัญมากครับเพราะว่าอย่าง
00:22:24 → 00:22:28 งี้เอ่อมีมีเด็กจำนวนมากเลยที่รีบจะมีแฟน
00:22:28 → 00:22:30 เพราะว่า
00:22:30 → 00:22:33 >> เอ่อเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยได้
00:22:33 → 00:22:35 >> ความสัมพันธ์กับคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยดี
00:22:35 → 00:22:38 >> หมายถึงว่าเด็กกับคุณพ่อคุณก่อนหน้านี้
00:22:38 → 00:22:41 อ่าเพราะฉะนั้นเอ่อเอ่อเค้าเรียกว่าอะไร
00:22:41 → 00:22:43 ฮะพอพอรู้สึกว่าเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ไม่
00:22:43 → 00:22:45 ได้ความสัมพันธไม่ค่อยดีใช่มั้ยก็เด็กก็
00:22:45 → 00:22:47 จะโหยหาหวยหาอะไรล่ะ
00:22:47 → 00:22:51 >> ความรักความอบอุ่นกำลังใจการยอมรับอ่าวัน
00:22:51 → 00:22:53 ดีคืนดีมาเจอ
00:22:53 → 00:22:54 >> คนนึง
00:22:54 → 00:22:56 >> เ้าให้อันนั้นได้
00:22:56 → 00:22:57 >> ก็ไปเลย
00:22:57 → 00:23:02 >> แต่จะไปเพราะว่ามันโหยหาอ่าขอคว้าไว้ก่อน
00:23:02 → 00:23:02 น่ะ
00:23:02 → 00:23:02 >> ค่ะ
00:23:02 → 00:23:04 >> ซึ่งอันนั้นเนี่ยอันนั้นเนี่ยก็อันนั้นจะ
00:23:04 → 00:23:06 เรียกกลับมายากเพราะว่า
00:23:06 → 00:23:09 >> ต่อเบาะต่อให้บอกลูกว่าอย่าไปให้กลับมา
00:23:09 → 00:23:11 แต่พอกลับมาแล้วเขาก็ไม่ได้จากเรานึกออก
00:23:11 → 00:23:13 มั้ก็ไม่กลับ
00:23:13 → 00:23:14 >> อ่าเพราะฉะนั้น
00:23:14 → 00:23:18 >> อีกอันนึงถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากจะทำให้ลูก
00:23:18 → 00:23:20 รู้สึกว่าไม่ได้ขาดนะครับอ
00:23:20 → 00:23:25 >> อ่าก็อะไรล่ะความรักการยอมรับเอ่อการปลอบ
00:23:25 → 00:23:28 ประโลมให้กำลังใจเออก็คือเขาเรียกชิงให้
00:23:28 → 00:23:30 ก่อนน่ะลูกไม่ขาดถูกมั้ยเพราะฉะนั้นเวลา
00:23:30 → 00:23:33 ลูกไปมีความรักเนี่ยลูกก็จะมีสติ
00:23:33 → 00:23:36 >> มากกว่าคนที่ขาดอ่ะโหยหามานานมีคนหยอดให้
00:23:36 → 00:23:39 ปุ๊บความหมับเลยเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:23:39 → 00:23:41 >> เออๆถ้าถ้าเอิ่มอยู่แล้วเมีอยู่แล้วเจะ
00:23:41 → 00:23:44 ไม่ตื่นเต้นมากเพราะว่าที่บ้านฉันก็ให้
00:23:44 → 00:23:45 ได้
00:23:45 → 00:23:49 >> เออเพราะฉะนั้นก็สำคัญที่สุดคือครอบครัว
00:23:49 → 00:23:53 >> ป้องกันไว้ก่อนหมายถึงให้ชิงให้ก่อนอ่า
00:23:53 → 00:23:55 เ้าจะได้ไม่ขาดเอออย่างงั้นน่ะครับก็ได้
00:23:55 → 00:23:56 ก็ช่วยได้
00:23:56 → 00:23:59 >> ค่ะพ่อแม่ก็ต้องให้ความสำคัญกับลูกด้วยนะ
00:23:59 → 00:24:03 คะเราอาจจะต้องใส่ใจกันเพิ่มขึ้นนะคะจาก
00:24:03 → 00:24:05 เดิมที่อาจจะไม่เคยใส่ใจเลยหลายครอบครัว
00:24:05 → 00:24:08 อาจจะอพอพ่อก็ไปทำงานแม่ก็ไปทำงานกลับ
00:24:08 → 00:24:11 บ้านมาอีกทีคือมืดแล้วคือไม่ได้ถามไถ่
00:24:11 → 00:24:13 อะไรกันเงี้ยนะคะอาจจะต้องมีเวลาให้ลูก
00:24:13 → 00:24:16 บ้างอ่ะคุณผู้ชมที่รับชมอยู่ตอนนี้ทาง
00:24:16 → 00:24:18 YouTube ถ้าเกิดว่ามีคำถามนะคะไม่ว่าจะ
00:24:18 → 00:24:21 เป็นน้องๆนักเรียนวัยรุ่นหรือว่าคุณพ่อ
00:24:21 → 00:24:24 คุณแม่ที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่หรือว่า
00:24:24 → 00:24:27 เอ๊ะตอนนี้ลูกกำลังเล็กอยู่ยังไม่เจอถาม
00:24:27 → 00:24:29 เผื่อไว้ก็ได้นะคะอาจารย์ถามเผื่อไว้ใน
00:24:29 → 00:24:32 อนาคตเผื่อลูกโตมานะคะว่าเราจะมีแนวทางใน
00:24:32 → 00:24:35 การรับมือยังไงบ้างตอนนี้เราไลฟ์กันผ่าน
00:24:35 → 00:24:38 ทาง YouTube อ่าของสวนดอก Channel นะคะก็
00:24:38 → 00:24:42 สามารถสอบถามกันเข้ามาได้นะคะอ่ะพูดถึง
00:24:42 → 00:24:45 เรื่องของความรักอาจารย์คะผิดหวังสมหวัง
00:24:45 → 00:24:48 ไปแล้วถ้าเกิดว่าวันนึงลูกเราผิดหวังแล้ว
00:24:48 → 00:24:52 มีพฤติกรรมแบบว่าปิดประตูอยู่ในห้องเก็บ
00:24:52 → 00:24:55 ตัวเงียบเลยพ่อแม่ไปเรียกกินข้าวกินน้ำ
00:24:55 → 00:24:58 ไม่ยอมกินคือเสียใจมากเงี้ยคะอาจารย์
00:24:58 → 00:24:58 >> ครับ
00:24:58 → 00:25:00 >> เราจะต้องทำยังไงดีคะ
00:25:00 → 00:25:04 >> ก็เรียกต่อไปเพราะอย่างงี้อ่า
00:25:04 → 00:25:07 คือผมจะบอกว่างี้ครับเอ่อความผิดหวัง
00:25:07 → 00:25:10 เรื่องความรักมันก็เหมือนผิดหวังเรื่อง
00:25:10 → 00:25:12 อื่นๆเนาะเหมือนสอบตกทะเลาะกับเพื่อนแต่
00:25:12 → 00:25:14 ว่ามันอาจจะแรงกว่าเพราะอารมณ์มันเข้มข้น
00:25:14 → 00:25:16 กว่าแต่ว่าอ
00:25:16 → 00:25:19 >> เอ่อเหมือนเด็กตกมาจากที่สูงอ่ะครับเอ่อ
00:25:19 → 00:25:23 ทีนี้จะเจ็บหนักไม่หนักมันขึ้นอยู่กับ
00:25:23 → 00:25:24 ก่อนหน้าเนี้ยลงทุนการลงทุนของเค้าเหรอ
00:25:25 → 00:25:28 >> เอ่อด้วยลงทุนไปเยอะก็เจ็บหนักแต่ 2 ก็
00:25:28 → 00:25:29 คือว่า
00:25:29 → 00:25:31 >> ฐานที่มั่นเดิมความสัมพันธ์เดิมกับเรา
00:25:31 → 00:25:32 เนี่ยดีมั้ย
00:25:32 → 00:25:32 >> ค่ะ
00:25:32 → 00:25:36 >> เอ่อถ้าถ้าลูกไม่ค่อยเล่าอะไรหรือไม่ค่อย
00:25:36 → 00:25:39 พูดอะไรนะครับมันมันก็จะมาจาก 2 อย่าง
00:25:39 → 00:25:41 เนาะ 1 คือความสัมพันธเรากับเค้าเดิมไม่
00:25:41 → 00:25:44 ค่อยดีลูกไม่อยากคุยอ่ะเพราะว่ารู้ว่าพูด
00:25:44 → 00:25:47 ไปแล้วเดี๋ยวจะแย่กว่าเดิมพ่อแม่อาจจะว่า
00:25:47 → 00:25:49 เค้าอะไรเงี้ยอันอันนั้นก็เลยไม่พูดเนาะ
00:25:49 → 00:25:54 หรือ 2 ลูกพบว่าจริงๆพ่อแม่เนี่ยก็มีความ
00:25:54 → 00:25:56 เครียดของตัวเองสูงอยู่แล้วอ่าอันนี้เรา
00:25:57 → 00:25:58 จะเจอในบ้านที่คุณพ่อคุณแม่มีเรื่องคิด
00:25:58 → 00:26:00 เยอะๆเช่นเศรษฐกิจหรือความสัมพันธ์
00:26:00 → 00:26:02 ระหว่างกันเองหรืออะไรที่ลูกไม่อยากจะ
00:26:02 → 00:26:03 เพิ่ม
00:26:03 → 00:26:03 >> ค่ะ
00:26:03 → 00:26:06 >> เรื่องตัวเองเข้าไปอีกเก็จะไม่เล่า
00:26:06 → 00:26:08 >> เพราะฉะนั้นอันนี้อันนี้จะช่วยได้ก็คือ
00:26:08 → 00:26:10 ถ้าพ่อแม่เตรียม
00:26:10 → 00:26:15 >> เตรียมตัวให้เป็นเบาะกันกระแทกอ่าพร้อม
00:26:15 → 00:26:15 เสมอ
00:26:15 → 00:26:17 >> ก็คือพ่อแม่ต้องเคลียร์ทุกอย่างของตัวเอง
00:26:17 → 00:26:17 ก่อน
00:26:18 → 00:26:19 >> เอ่อ 1 พ่อแม่จัดการชีวิตตัวเองให้ดีครับ
00:26:19 → 00:26:23 ซึ่งซึก็ก็เข้าใจว่าก็ไม่ง่ายเนาแต่ว่าก็
00:26:23 → 00:26:25 อาจจะคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะต้องปรึกษา
00:26:25 → 00:26:27 ผู้เชี่ยวชาญเพื่อจะจัดการตัวเองให้ดี
00:26:27 → 00:26:29 หรือ 2 ก็คือสร้างสัมพันธ์กับลูกให้ดีมี
00:26:29 → 00:26:30 อะไร
00:26:30 → 00:26:34 >> พ่อแม่แข็งแกร่งพอที่ลูกจะร้องไห้มาซบอก
00:26:34 → 00:26:37 เราได้อ่ะเออเพราะฉะนั้นต้องแสดงให้ลูก
00:26:37 → 00:26:40 >> รู้สึกว่าคุยกับเราได้ปลอดภัยพร้อมรับฟัง
00:26:40 → 00:26:41 เรา
00:26:41 → 00:26:44 >> เราก็เจ็บเจ็บแหละนะถ้ามีลูกจะรู้ว่าโอ
00:26:44 → 00:26:47 มันลูกมันร้องไห้กับพ่อแม่พ่อแม่เจ็บกว่า
00:26:47 → 00:26:47 แต่ว่า
00:26:48 → 00:26:51 >> พ่อแม่แข็งแรงพอทนได้แล้วแล้วพ่อแม่
00:26:51 → 00:26:54 >> จะสามารถปอบประโลมเยียวยากันเองได้ไม่
00:26:55 → 00:26:57 ต้องคือบางทีคุณพ่อคุณแม่มีความขัดแย้ง
00:26:57 → 00:26:59 กันเองลูกก็จะไม่อยากเล่าให้ใครฟังเพราะ
00:26:59 → 00:27:02 ว่ารู้ว่าถ้าแม่เครียดหรือพ่อเครียดเนี่ย
00:27:02 → 00:27:02 >> อ
00:27:02 → 00:27:04 >> พ่อแม่จะไม่มีคนช่วย
00:27:04 → 00:27:04 >> ค่ะ
00:27:04 → 00:27:06 >> เพราะฉะนั้นพ่อแม่พ่อแม่อาจจะบอกแม่อาจจะ
00:27:06 → 00:27:09 บอกลูกว่าแม่ลูกไม่ต้องกลัวถ้าแม่เครียด
00:27:09 → 00:27:12 พ่อปอบแม่ได้เออหรือพ่อถ้าพ่อเครียดแม่
00:27:12 → 00:27:14 ปอบพ่อได้หนูไม่ต้องห่วงพ่อแม่
00:27:14 → 00:27:15 >> ใช่มั้เรื่องของลูกคือมาได้
00:27:15 → 00:27:18 >> เออมาเลยเออพ่อแม่มีคนช่วยแล้วเออเงี้ย
00:27:18 → 00:27:20 ลูกก็จะสบายใจแต่ถ้าลูกรู้สึกว่าเออพ่อ
00:27:20 → 00:27:23 แม่ฉันหนักกว่าฉันอีกเงี้ยเค้าก็ไม่เล่า
00:27:23 → 00:27:23 >> อื
00:27:23 → 00:27:25 >> เนาะพ่อแม่ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
00:27:25 → 00:27:28 >> ค่ะมีคุณผู้ชมที่รับชมอยู่ค่ะอาจารย์คุณ
00:27:28 → 00:27:32 ประ่อคุณประไพศีนะคะถามว่าลูกอยู่ม. 6
00:27:32 → 00:27:35 แล้วค่ะติดแฟนสุดๆทำไงดีคะอาจารย์
00:27:35 → 00:27:37 >> อ้าก็อย่างที่บอกครับเป้าหมายคือ
00:27:37 → 00:27:40 independent เนาะเพราะฉะนั้นก็ชวนเ้าว่า
00:27:40 → 00:27:43 มีแฟนถ้าจะมีก็อ๋อ 1 มีแฟนเนี่ยทำอะไรได้
00:27:43 → 00:27:45 บ้างไม่ได้บ้างในวัยนี้อะไรเป็นความ
00:27:45 → 00:27:47 เสี่ยงเอ่อจริงๆเรื่อง
00:27:47 → 00:27:50 >> เพศสัมพันธ์ HIV เรื่องโลกอะไรเงี้ยก็ก็
00:27:50 → 00:27:50 ต้องบอก
00:27:50 → 00:27:52 >> แล้วต้องให้ข้อมูลมั้ยคะอาจารย์
00:27:52 → 00:27:55 >> ต้องถามถามว่ารู้จักมั้ยเพราะว่าเอ่ออ๋อ
00:27:55 → 00:27:57 ผมผมจวนอย่างงี้อันนี้เหมือนโลกยุคใหม่
00:27:57 → 00:27:59 ข่าวสารเยอะแต่ผมเคยถามเด็กม.ต้นรู้จัก
00:27:59 → 00:28:02 HIV มั้ยรู้จักชื่อแต่ไม่รู้มันอะไร
00:28:02 → 00:28:04 เงี้ยเออเพราะฉะนั้น
00:28:04 → 00:28:06 >> บางบางทีไอ้ปัญหาพวกนี้มันไม่ได้อยู่ใน
00:28:06 → 00:28:09 โลกของเค้าอ่ะมันต้องอาจจะต้องคุยรู้จัก
00:28:09 → 00:28:12 มั้ยเอออะไรเงี้ยเอ่อการคุมกำเนิดอะไรก็
00:28:12 → 00:28:14 ก็แล้วแล้ว 2 สำคัญมากคืออย่างี้ครับคือ
00:28:14 → 00:28:18 เขาต้องรู้ว่าเอ่อเเอ่อเราอยากให้วัยรุ่น
00:28:18 → 00:28:20 ทุกคนมีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง
00:28:20 → 00:28:21 >> ค่ะ
00:28:21 → 00:28:23 >> แล้วต้องระวังว่าความรักเนี้ยถ้าถ้า
00:28:23 → 00:28:26 บาลานซได้เลี้ยงเลี้ยงมันไว้ได้แล้วยัง
00:28:27 → 00:28:30 สามารถไปถึงเป้านั้นได้อ่ะมันก็แต่ถ้า
00:28:30 → 00:28:34 เกิดมันเริ่มขัดขวางเชว่าจะสอบเข้าน่แล้ว
00:28:34 → 00:28:36 เสังเกตเเริ่มไม่ได้เตรียมตัว
00:28:37 → 00:28:37 >> อื
00:28:37 → 00:28:38 >> เออ
00:28:38 → 00:28:40 >> เอ่อเพราะฉะนั้นแล้วแล้วถ้าจะปรับคือปรับ
00:28:40 → 00:28:43 พฤติกรรมปรับวิธีใช้ชีวิตเอองั้นอาจจะ
00:28:43 → 00:28:45 ต้องคุยกับแฟนให้น้อยลงหน่อยเพื่อเวลา
00:28:45 → 00:28:46 อ่านหนังสือหน่อยมั้ยหรือช่วงเนี้ยช่วง
00:28:46 → 00:28:48 เดือนก่อนสอบอาจจะบอกแฟนว่าเบาๆหน่อยขอไป
00:28:48 → 00:28:50 เตรียมตัวอะไรเงี้ยมันมันคือจะต้องคุยกัน
00:28:50 → 00:28:53 ว่าแต่ต้องมีเป้าก่อนว่าจะไปไหนครับใช่
00:28:53 → 00:28:54 มั้
00:28:54 → 00:28:56 >> เพราะถ้าไม่มีเป้าวัยรุ่นก็จะอยู่แถวนี้
00:28:56 → 00:28:57 แหละก็ไม่ไปไหน
00:28:57 → 00:28:59 >> ก็จะวนเวียนอยู่แถวต้องชวนต้องชวนว่าเป้า
00:28:59 → 00:29:01 หมายจริงๆคือแล้วแล้วผมคิดว่าวัยรุ่นก็
00:29:01 → 00:29:03 อยาก independent นะเค้าคงไม่อยากพึ่งเรา
00:29:03 → 00:29:05 ไปตลอดเพราะนั้นก็คือเอาร
00:29:05 → 00:29:08 >> ชวนเ้าว่าไปนู่นไปด้วยกันแล้วแล้วเรื่อง
00:29:08 → 00:29:12 แฟนก็จัดการให้พออยู่ได้อ่ะเราก็ไปถึง
00:29:12 → 00:29:14 เป้าได้สำคัญคือเป้าหรือหรือจะชวนแฟนไป
00:29:14 → 00:29:16 ด้วยก็ได้
00:29:16 → 00:29:18 >> เนี่ยเราจะไปเข้ามหาลัยที่ดีๆกันนะไปด้วย
00:29:18 → 00:29:21 กันไปติวกันเออเงี้พ่อแม่คงจะสบายใจว่า
00:29:21 → 00:29:22 เออก็ไปด้วยกันก็ได้
00:29:22 → 00:29:26 >> อ่ายังบางคนลูกโตแล้วเป็นเข้าสู่วัยวัย
00:29:26 → 00:29:28 รุ่นแล้วเงี้ยคะอาจารย์ครับ
00:29:28 → 00:29:32 >> หน้าตาหน้าตาดีมากแต่ลูกไม่เคยพูดเรื่อง
00:29:32 → 00:29:34 แฟนให้เราฟังเลยซึ่งเราสงสัยว่าเอ๊ะลูก
00:29:34 → 00:29:36 เราต้องมีแฟนแน่ๆจะมีวิธีคุยกับลูกยังไง
00:29:36 → 00:29:38 คะอาจารย์จะไปเปิดประเด็นยังไงดีคะ
00:29:38 → 00:29:41 >> อ่าอย่างงี้จะต้องวิเคราะห์ว่าลูกไม่คุย
00:29:41 → 00:29:43 เพราะว่าอะไรเพราะ 1 ลูกอาจจะรู้ว่าพูดไป
00:29:43 → 00:29:45 ก็รับไม่ได้อ่า
00:29:45 → 00:29:47 >> เพราะฉะนั้นก็ต้องไปทำใจก่อน
00:29:47 → 00:29:49 >> แม่กับพ่อต้องทำใจก่อนนะคะ
00:29:49 → 00:29:53 >> อ่าแล้วก็ 2 ก็คือจริงๆก็พูดตรงๆครับว่า
00:29:53 → 00:29:57 เออจริงๆถ้ามีก็บอกได้นะเออถึงพ่อแม่จะ
00:29:57 → 00:30:00 ไม่อยากให้มีแต่พ่อแม่ฟังได้แต่ต้องฟัง
00:30:00 → 00:30:02 ได้จริงๆนะไม่งั้นลูกจะบอกไม่ไม่เชื่อ
00:30:02 → 00:30:05 >> พอลูกพูดมาปุ๊บแล้วด่ากเงี้ย
00:30:05 → 00:30:07 >> ใช่ลูกก็จะบอกว่าไม่น่าโดนหลอกเลยเออ
00:30:07 → 00:30:09 เพราะฉะนั้นเพราะฉะนั้นก็อาจจะต้อง
00:30:09 → 00:30:12 >> อาจต้องไปทำใจก่อนประมาณอ๋อต้องบอกอย่าง
00:30:12 → 00:30:14 งี้ครับคนเป็นพ่อแม่เนี่ยโดยเฉพาะพ่อแม่
00:30:14 → 00:30:15 วัยรุ่นนะ
00:30:15 → 00:30:15 >> ค่ะ
00:30:15 → 00:30:17 >> ถ้าอยากให้ลูกพูดความจริงก็ต้องพร้อมที่
00:30:17 → 00:30:18 จะฟังความจริง
00:30:18 → 00:30:19 >> อื
00:30:19 → 00:30:21 >> อ่าแม้ความจริงนั้นจะไม่น่าฟัง
00:30:21 → 00:30:21 >> ค่ะ
00:30:21 → 00:30:22 >> เอ่อลูกถึงจะบอก
00:30:22 → 00:30:23 >> อ่า
00:30:23 → 00:30:26 >> เป็นพ่อแม่คนต้องทำใจตั้งแต่วันที่ลูก
00:30:26 → 00:30:29 เกิดเดี๋มันจะต้องมีอ
00:30:29 → 00:30:31 >> อะไรที่ลูกมาบอกแล้วออกะแล้ว
00:30:31 → 00:30:33 >> อะไรที่เหนือความคูกะแล้วเอออะไรอย่าง
00:30:33 → 00:30:36 เงี้ยเต็มใจว่าถ้าถ้ามีก็ไม่ต้องประหลาด
00:30:36 → 00:30:37 ใจเออ
00:30:37 → 00:30:38 >> แต่ถ้าไม่มีก็ดีนึกออกมั้
00:30:38 → 00:30:41 >> อ่าต้องพร้อมจะฟังเรื่องที่ไม่น่าฟังครับ
00:30:41 → 00:30:43 >> ออย่างยุคนี้ค่ะอาจารย์ต้องบอกว่าเป็นยุค
00:30:43 → 00:30:46 ของเทคโนโลยีโซเชียลต่างๆมันเยอะมากช่อง
00:30:46 → 00:30:49 ทางในการติดต่อข้อมูลข่าวสารหรือแม้แต่
00:30:49 → 00:30:52 การดูหนังดูซีรีส์อะไรต่างๆครับ
00:30:52 → 00:30:54 >> คือบางคนอาจจะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างเงี้ย
00:30:54 → 00:30:58 ค่ะอาจารย์ในทางที่ไม่ไม่โอเคสักเท่าไหร่
00:30:58 → 00:30:59 เราจะต้องยังไงดีคะ
00:30:59 → 00:31:02 >> เอ่ออย่างงี้ครับก็พ่อแม่ต้องคุยกับลูก
00:31:02 → 00:31:05 อ่ะออเพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเลี้ยงลูกยุค
00:31:05 → 00:31:06 นี้ต้องมีเวลาเหมือนกันค่ะ
00:31:06 → 00:31:07 >> เออ
00:31:07 → 00:31:10 >> ปล่อยไปเลยก็คือแปลว่าให้คนให้ให้คนใน
00:31:10 → 00:31:11 เน็ตเลี้ยง
00:31:11 → 00:31:12 >> ให้คนอื่นดูแลลูกเราแทน
00:31:12 → 00:31:14 >> ใช่ก็จะพาไปไหนก็ไม่รู้เพราะฉะนั้นพ่อแม่
00:31:14 → 00:31:17 ต้องคุยว่าเออๆเห็นช่วงนี้ที่มันมีดราม่า
00:31:17 → 00:31:20 อันนี้มั้ยเออๆลูกคิดว่ายังไงเออหรือเห็น
00:31:20 → 00:31:22 ที่มันมีข่าวอันนู้นมั้ย
00:31:22 → 00:31:25 >> เออเอออันนั้นเนี่ยจะบอกว่าอย่างงู้น
00:31:25 → 00:31:27 อย่างงี้เราก็ต้องสอนน่ะคือคือถ้าเป็น
00:31:27 → 00:31:29 สมัยก่อนนะครับถ้าเป็นสมัยโบราณนะเอ่อ
00:31:29 → 00:31:32 >> พ่อสอนลูกชายเนี่ยตอนตกปลาไปตกปลากันแล้ว
00:31:33 → 00:31:35 ก็คุยเออแล้วก็คุยกับชีวิตคนเราใช่มั้ย
00:31:35 → 00:31:39 เอ่อถ้าเป็นผู้หญิงทำอะไรครับไม่รู้อ่ะ
00:31:39 → 00:31:41 >> พับผ้ากันมั้งอาจจะนั่งคุยกัน
00:31:41 → 00:31:43 >> เออลูกรู้มั้ยคนเราอย่างงี้งานงนคือมัน
00:31:43 → 00:31:45 ต้องมีเวลานั่งคุยกันแต่ปัจจุบันเราจะพบ
00:31:45 → 00:31:47 ว่าน้อย
00:31:47 → 00:31:49 >> พอพ่อแม่ไม่ได้คุยกับลูกพ่อแม่ก็จะขาดอัน
00:31:49 → 00:31:52 นึงคือไม่ได้ถ่ายทอดวิชาชีวิต
00:31:52 → 00:31:53 >> เจริงๆ
00:31:53 → 00:31:55 >> วิชาชีวิตคือวิชาที่สอนว่าคนเราควรใช้
00:31:56 → 00:31:58 ชีวิตยังไงเนาะอันเนี้ยคนสอนจริงๆควรจะ
00:31:58 → 00:32:00 เป็นพ่อแม่เพราะว่าโรงเรียนไม่ได้สอนถูก
00:32:00 → 00:32:01 มั้ครับ
00:32:01 → 00:32:02 >> หรือโรงเรียนบอกว่าสอน live skิลก็ไม่ใช่
00:32:03 → 00:32:06 อ่ะเออพ่อแม่ต้องสอนว่าจำไว้นะลูกคนเรา
00:32:06 → 00:32:09 ต้องใช้ชีวิตให้ปึ๊บๆๆๆเพราะฉะนั้น
00:32:09 → 00:32:11 >> เพราะฉะนั้นพ่อแม่เองก็ต้องมีวิธีใช้
00:32:11 → 00:32:12 ชีวิตที่ดีด้วยนะครับ
00:32:12 → 00:32:12 >> ค่ะ
00:32:13 → 00:32:15 >> ใช้ที่ดีหมายถึงว่าก็ดูแลตัวเองได้มีความ
00:32:15 → 00:32:18 สุขดีเอ่อจัดการความทุกข์ได้ความสัมพันธ์
00:32:18 → 00:32:20 คนอื่นก็ดีแล้วพ่อแม่พบว่าวิธีนี้มัน
00:32:20 → 00:32:22 เวิร์คก็บอกลูกอ
00:32:22 → 00:32:22 >> เนาะอ
00:32:22 → 00:32:24 >> แต่อย่างไรก็ตามอันนี้ก็เตือนนะครับเอ่อ
00:32:24 → 00:32:27 เอ่อบอกลูกไป 100 ไม่ได้แปลว่าลูกจะเอาไป
00:32:27 → 00:32:27 100 นะ
00:32:27 → 00:32:28 >> นี่ไง
00:32:28 → 00:32:31 >> เออเพราะฉะนั้นลูกไม่ทำตามเราทั้งหมดก็
00:32:31 → 00:32:32 มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ
00:32:32 → 00:32:35 >> เออแต่แต่หน้าที่พ่อแม่คือให้ให้ของดีให้
00:32:35 → 00:32:38 100 อ่ะแต่ลูกลูกจะเอา 50 30 มันก็
00:32:38 → 00:32:40 เรื่องของเขาเพราะฉะนั้น
00:32:40 → 00:32:43 >> แต่หน้าที่เราต้องถ่ายทอดว่าวิธีใช้ชีวิต
00:32:43 → 00:32:46 เนี่ยที่โรงเรียนไม่สอนน่ะที่ในเน็ตไม่มี
00:32:46 → 00:32:49 เออมันคืออะไรก็ต้องมีเวลาคุยกัน
00:32:49 → 00:32:50 >> อย่าอย่าว่าแค่เรื่องความรักทุกเรื่องก็
00:32:50 → 00:32:51 ต้องสอน
00:32:51 → 00:32:51 >> ค่ะ
00:32:51 → 00:32:52 >> ครับ
00:32:52 → 00:32:53 >> จริงๆสถาบันครอบครัวนี่ต้องบอกว่าเราต้อง
00:32:53 → 00:32:57 มีเวลาคุยกับคนในครอบครัวบ้างนะคะอาจารย์
00:32:57 → 00:32:59 >> อืถึงจะรู้ว่าเอ่อวันนี้เป็นอะไรบ้างต้อง
00:32:59 → 00:33:01 เจอกับอะไรมาจะได้รู้ว่าวิธีรับมือเป็น
00:33:02 → 00:33:03 ยังไงนะคะ
00:33:03 → 00:33:07 >> อ่าพูดถึงอ่าอาการหรือว่าปัญหากันบ้างค่ะ
00:33:07 → 00:33:10 อาจารย์ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อกี้เราพูดไป
00:33:10 → 00:33:12 แล้วว่าเอ่ออย่างเช่นยกตัวอย่างว่าออกนอก
00:33:12 → 00:33:15 ลูกนอกทางบ้างเรียนไม่ดีเกดตกบ้างอะไร
00:33:15 → 00:33:19 ต่างๆทีนี้ปัญหาหลักๆที่พบบ่อยนะคะและที่
00:33:19 → 00:33:21 อาจารย์เป็นจิตเวทเด็กค่ะ
00:33:21 → 00:33:23 >> ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับเด็กในวัยเรียนนะ
00:33:23 → 00:33:26 ค่ะอาจารย์มีอะไรบ้างอาจารย์
00:33:26 → 00:33:28 >> เอออย่างงี้นะครับก็ถ้าทางสุขภาพจิตเรา
00:33:28 → 00:33:30 ต้องแยกว่าเป็นปัญหาหรือเป็นโรคเนาะก็ถ้า
00:33:30 → 00:33:33 เป็นแค่ปัญหาเช่นเออเรียนตกลงคุยโทรศัพท์
00:33:33 → 00:33:35 นานไปอะไรเงี้ย
00:33:35 → 00:33:38 >> เออส่วนใหญ่แค่แค่พูดคุยก็พอเอ่อก็ถ้าคุณ
00:33:38 → 00:33:41 พ่อคุณแม่พูดคุยเองได้ก็ไม่ต้องมาเจอหมอ
00:33:41 → 00:33:43 เจอนักจิตวิทยาอะไรก็ได้แต่ถ้าเกิดเอ๊ะ
00:33:43 → 00:33:45 ไม่รู้จะพูดยังไงปกติก็พูดกับลูกไม่ค่อย
00:33:45 → 00:33:46 เก่งอะไรเงี้ย
00:33:46 → 00:33:47 >> อื
00:33:47 → 00:33:50 >> ก็ก็มาหามาหาผู้เชี่ยวชาญผู้เชี่ยวชาญอาจ
00:33:50 → 00:33:53 จะคุยให้ในระดับนึงแต่ก็จะจะต้องสอนพ่อ
00:33:53 → 00:33:55 แม่ว่าถ้าจะคุยกับลูกเรื่องนี้นะคุยกัน
00:33:55 → 00:33:57 เรื่องเทศน์เรื่องอะไรเงี้ยเออก็ก็อาจจะ
00:33:57 → 00:34:00 คุยกันเรื่องวิธีพูดอ่ะ
00:34:00 → 00:34:03 >> แต่ถ้าเกิดเป็นโรคเช่นโอ้เค้าเลิกกับแฟน
00:34:03 → 00:34:04 หรือเค้ามีปัญหากับแฟนมากแล้วเค้าซึม
00:34:04 → 00:34:06 เศร้านึกออกมั้ฮะเอ่อไปเรียนหนังสือไม่
00:34:06 → 00:34:09 ได้เป็นอาทิตย์อะไรเงี้ยกีดข้อมืออะไรแบบ
00:34:09 → 00:34:11 ทำร้ายตัวเองอะไรเงี้ยอันเนี้ยอันนี้ก็พบ
00:34:11 → 00:34:13 แพทย์ก็อาจจะต้องมาประเมินว่าเอ๊ะเป็นโรค
00:34:13 → 00:34:16 อะไรมั้ยต้องใช้ยาด้วยหรือเปล่าอะไรเงี้ย
00:34:16 → 00:34:16 >> ค่ะ
00:34:16 → 00:34:19 >> เออก็ต้องแยกกันว่าเป็นรุนแรงมากมั้ย
00:34:19 → 00:34:24 >> อืก็ต้องดูด้วยนะคะสังเกตอาการด้วยนะคะ
00:34:24 → 00:34:26 อ่าจริงๆต้องบอกว่าหลายคนอาจจะมีความคิด
00:34:26 → 00:34:28 แบบนี้ค่ะอาจารย์พอเราพูดกับลูกที่บ้าน
00:34:28 → 00:34:31 ไม่ได้แล้วเราไม่กล้าที่จะพามาหาผู้
00:34:31 → 00:34:32 เชี่ยวชาญ
00:34:32 → 00:34:33 >> อื
00:34:33 → 00:34:33 >> เพราะว่า
00:34:33 → 00:34:36 >> พอเราจะพามาปุ๊บอาจจะมีความคิดว่านั่น
00:34:36 → 00:34:39 แสดงว่าลูกเป็นโรคหรือลูกป่วยอย่างเงี้ย
00:34:39 → 00:34:39 ค่ะ
00:34:39 → 00:34:42 >> เอิ่มไม่จำเป็นครับจริงๆเราเราคุยเรื่อง
00:34:42 → 00:34:45 ปัญหาด้วยนะเป็นเป็นแค่ปัญหาซึ่งปัญหาบาง
00:34:45 → 00:34:46 ทีถ้าปล่อยไว้สุดท้ายมันก็เป็นโรคทีหลัง
00:34:46 → 00:34:48 ก็ได้นะเพราะฉะนั้นถ้าถ้ารู้สึกว่ามี
00:34:48 → 00:34:50 ปัญหาในการเลี้ยงดูบุตรอ่าอย่างเงี้ยนะ
00:34:50 → 00:34:55 ครับก็ปรึกษาจิตแพทย์เนาะจิตแพทย์เด็ก
00:34:55 → 00:34:55 เอ่อ
00:34:55 → 00:34:56 >> ค่ะ
00:34:56 → 00:34:58 >> กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเอ่อหรือ
00:34:58 → 00:35:00 กุมารแพทย์ที่เขาชำนาญเรื่องวัยรุ่นเดี๋ย
00:35:00 → 00:35:03 ก็มีหลายสาขาก็ลองปรึกษานะครับดูได้
00:35:03 → 00:35:04 >> อื
00:35:04 → 00:35:07 >> เอ่อวิธีเลี้ยงลูกก็จริงๆมันไม่มีที่สอน
00:35:07 → 00:35:09 เนาะก็
00:35:09 → 00:35:11 >> ก็จริงๆก็มาปรึกษาอ๋อหรือถ้าจะพาลูกมาก็
00:35:11 → 00:35:13 อาจจะคุยกับลูกว่า
00:35:13 → 00:35:17 >> เอ่อพ่อแม่อยากจะเข้าใจเค้าแล้วอยากจะรู้
00:35:17 → 00:35:19 วิธีที่จะดูแลเค้าพ่อแม่เลยอยากจะมาคุย
00:35:19 → 00:35:22 กับหมอก็ก็ชวนชวนลูกมาด้วยเผื่อลูกมีอะไร
00:35:22 → 00:35:24 จะฟ้องหมอเออ
00:35:24 → 00:35:26 >> เพอเพราะว่าเวลาเราฟังข้อมูลเราต้องฟัง
00:35:26 → 00:35:29 ทั้งคู่เนาะเออบางทีพ่อแม่มองกับลูกมองก็
00:35:29 → 00:35:31 จะไม่เหมือนกันหรือที่พ่อแม่คิดกับลูกคิด
00:35:31 → 00:35:32 ก็ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นถ้าได้ยินจาก
00:35:32 → 00:35:34 ทั้งคู่ก็จะแฟร์ดี
00:35:34 → 00:35:37 >> อ่าเพราะฉะนั้นการที่จะพาลูกหรือว่าพา
00:35:37 → 00:35:40 ครอบครัวมาปรึกษากับจิตแพทย์เนี่ยไม่ใช่
00:35:40 → 00:35:41 เรื่องแปลกนะคะอาจารย์เดี๋ยวนี้
00:35:41 → 00:35:45 >> อ๋อยิ่งยิ่งยุคนี้นี่ปกติมากเลยเออเนาะ
00:35:45 → 00:35:46 เพราะว่าก็
00:35:46 → 00:35:49 >> อ่าสังคมเดี๋ยวนี้มันซับซ้อนนะครับนะสิ่ง
00:35:49 → 00:35:52 เร้าอะไรก็เยอะเอ่อเอ่อการแข่งขันก็สูง
00:35:52 → 00:35:55 ความเครียดก็เยอะเอ่อเพราะฉะนั้นถ้าจะมี
00:35:55 → 00:35:57 เครื่องมือเนาะเครื่องมือที่จะไว้จัดการ
00:35:57 → 00:35:59 อารมณ์เครื่องมือที่จะไว้สร้างความ
00:35:59 → 00:36:01 สัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นเ่อจิตแพทย์เนี่ย
00:36:01 → 00:36:02 จะ
00:36:02 → 00:36:04 >> เ่อใช้คำว่าเครื่องมือที่ดีเลยใช่มั้คะ
00:36:04 → 00:36:04 อาจารย์
00:36:04 → 00:36:06 >> จะมีเครื่องมือนั้นอยู่เอ่อก็มาเรียนเอ่อ
00:36:06 → 00:36:09 ถ้าถ้านอกจากฟังอันนี้เราก็มาเรียนนะครับ
00:36:09 → 00:36:11 ที่ห้องตรวจก็ได้เราก็เทรนให้
00:36:11 → 00:36:14 >> อเพราะการเลี้ยงลูกโดยเฉพาะคนที่มีลูกแค่
00:36:14 → 00:36:16 คนเดียวเงี้ยนะคะอาจารย์การเลี้ยงลูกนี่
00:36:16 → 00:36:18 ไม่มีสูตรสำเร็จนะคะ
00:36:18 → 00:36:20 >> แล้วการเลี้ยงลูกแต่ละครอบครัวแต่ละบ้าน
00:36:20 → 00:36:22 แต่ละเจนอย่างเราถูกพ่อแม่เราเลี้ยงมา
00:36:22 → 00:36:24 แล้วเราจะเอาแบบนั้นมาเลี้ยงลูกมันก็ไม่
00:36:24 → 00:36:25 ได้อีกนะคะอาจารย์
00:36:25 → 00:36:27 >> อ่าใช่ครับเพราะฉะนั้นเอ่อการเลี้ยงลูก
00:36:27 → 00:36:29 มันก็มีอัพเค้าเรียกอัพ patch เหมือนกัน
00:36:29 → 00:36:32 นะเออบางทีวิธีที่เราเลี้ยงเหมือนที่พ่อ
00:36:32 → 00:36:34 เลี้ยงเรามาพ่อเอามาจากปู่อีกทีปู่เอามา
00:36:34 → 00:36:37 จากทวดอีกทีอะไรเงี้ยเพราะฉะนั้นเอ่อ
00:36:37 → 00:36:39 สังคมยุคนี้มันไม่เหมือนที่ทวดเราอยู่มัน
00:36:39 → 00:36:40 อาจจะต้อง
00:36:40 → 00:36:42 >> อาจจะต้องเปลี่ยนเหมือนกันเช่นแต่ก่อนเรา
00:36:42 → 00:36:44 อาจจะพูดไม่เยอะเอ่อตอนนี้อาจจะต้องคุย
00:36:44 → 00:36:46 กันเยอะขึ้นเออเวลาอะไรครับแต่ก่อนไม่
00:36:46 → 00:36:48 ต้องมีก็ได้ตอนนี้อาจจะต้องเยอะขึ้นเพราะ
00:36:48 → 00:36:51 ว่าเพราะว่าสังคมมันเปลี่ยนอะไรเงี้ยก็
00:36:51 → 00:36:53 >> ก็การติดตามข่าวสารอะไรเงี้ยครับอ่าน
00:36:53 → 00:36:56 หนังสือคู่มือต่างๆแล้วก็ลองดูว่ามีอะไร
00:36:56 → 00:36:58 ที่ถ้าปรับแล้วความสัมพันธกับลูกอาจจะดี
00:36:58 → 00:37:01 ขึ้นเอ่อเทคนิคในการสอนอะไรเงี้ย
00:37:01 → 00:37:02 >> ก็จริงๆก็ก็
00:37:02 → 00:37:05 >> ก็ช่วยได้ก็ช่วยได้อาจจะศึกษาด้วยตัวเอง
00:37:05 → 00:37:07 เดี๋ยวนี้คลิปของคุณหมอด้านนี้นู่นอะไรก็
00:37:07 → 00:37:08 เป็น
00:37:08 → 00:37:10 >> มีเยอะนะคะอาจารย์เข้าถึงได้ง่ายนะคะก็
00:37:10 → 00:37:11 เราศึกษาด้วยตัวเองดูก่อนก็ได้
00:37:11 → 00:37:14 >> อนอกจากปัญหาที่อาจารย์บอกมาอีกหนึ่ง
00:37:14 → 00:37:16 เรื่องที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องหนักอก
00:37:16 → 00:37:18 หนักใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกัน
00:37:18 → 00:37:21 เรื่องของความรักกับการมีเพศสัมพันธ์
00:37:21 → 00:37:23 อาจารย์บางทีเราไม่กล้าที่จะ
00:37:23 → 00:37:26 >> ไปล้วงลึกความลับลูกบางทีเราไม่กล้าที่จะ
00:37:26 → 00:37:28 ไปเปิดประเด็นคุยก่อนว่าเอ๊ลูกจะต้องป้อง
00:37:28 → 00:37:30 กันแบบนี้นะอะไรยังไงเงี้ยค่ะอาจารย์
00:37:30 → 00:37:32 >> อืครับ
00:37:32 → 00:37:35 >> เอ่อก็อย่างงี้ฮะก็ถามจริงๆถามเค้าได้นะ
00:37:35 → 00:37:35 ว่า
00:37:36 → 00:37:37 >> เอาแต่วิธีถามเราจะถามงี้ครับเราจะเริ่ม
00:37:37 → 00:37:39 จากว่าเออเนี่ย
00:37:39 → 00:37:42 >> เอ่อยุคนี้เนี่ยพ่อแม่เห็นว่าเอ่อวัยรุ่น
00:37:42 → 00:37:44 หลายๆคนเนี่ยเค้าก็จะมีอย่างงี้อย่างงั้น
00:37:45 → 00:37:46 อย่างโงนอะไรเงี้ยอ
00:37:46 → 00:37:48 >> เอ่อลูกคิดยังไง
00:37:48 → 00:37:48 >> อือื
00:37:48 → 00:37:52 >> เบอกโอ๊ยหนูไม่มีหรอกเออหรืออ๋อเรื่อง
00:37:52 → 00:37:55 ปกติแม่อ่าใช่มั้ยเราก็จะพอเข้าใจวิธีคิด
00:37:55 → 00:37:57 >> ต้องฟังคำถามเออฟังคำตอบเค้าก่อน
00:37:57 → 00:37:59 >> อ้าต้องฟังต้องฟังก่อนครับแล้วก็อ๋ออย่าง
00:37:59 → 00:38:02 งี้ครับเอ่อจริงๆไม่ว่าเค้าคิดยังไงเก็
00:38:02 → 00:38:04 ไม่เป็นไรแต่ผมคิดว่าเราก็เสนอได้เออยัง
00:38:04 → 00:38:07 ไงเค้าก็เป็นวัยรุ่นน่ะเราก็เป็นห่วงอ๋อ
00:38:07 → 00:38:09 ผมผมคิดว่าพ่อแม่ไม่มีอะไรนอกจากเป็นห่วง
00:38:09 → 00:38:11 นะเพราะฉะนั้นแต่เป็นห่วงแล้วไม่ค่อยพูด
00:38:11 → 00:38:11 >> อค่ะ
00:38:11 → 00:38:13 >> ก็ต้องบอกว่าเป็นห่วงเราก็เป็นห่วงเรา
00:38:13 → 00:38:16 กลัวเพราะฉะนั้นเราก็เลยอยากแนะนำว่าแล้ว
00:38:16 → 00:38:20 ก็ถ้าจะสอนอะไรก็สอนเออไม่มีได้ก็ดีเอ่อ
00:38:20 → 00:38:22 สมมุติมันจะพลาดขึ้นมามันมีอย่างี้อย่าง
00:38:23 → 00:38:24 งั้นอย่างโง้นหรืออย่างน้อยก็ต้องรีบมา
00:38:24 → 00:38:26 บอกพ่อแม่นะเออรู้จักมั้ยยาคุมฉุกฉง
00:38:26 → 00:38:29 ฉุกเฉินที่โรงเรียนสอนมั้ยอะไรเงี้ย
00:38:29 → 00:38:31 >> HIV รู้จักมั้ย
00:38:31 → 00:38:34 >> HIV HPV เยอะเลยนะคะอาจารย์
00:38:34 → 00:38:36 >> เอออะไรอย่างเงี้ยครับเอ่อแต่พ่อแม่ต้อง
00:38:36 → 00:38:38 รู้จักก่อนนะเพราะฉะนั้น
00:38:38 → 00:38:42 >> เอ่อพ่อแม่ก็ต้องมีความรู้เอ่อประมาณนึง
00:38:42 → 00:38:43 ที่จะไปคุยกับลูกเหมือนกันเออพ่อแม่ก็
00:38:43 → 00:38:48 ต้องรู้ว่ายาคุมฉุกเฉินนี่มัน 70% นะรู้ม
00:38:48 → 00:38:51 กันได้นะเออแล้วต้องกินภายในเท่าไหร่อะไร
00:38:51 → 00:38:53 เงี้พ่อแม่ก็ต้องรู้ก่อนนะ
00:38:53 → 00:38:56 >> เออแต่แต่ผมคิดว่าก็ก็คือคุยกันได้ว่าเรา
00:38:56 → 00:38:57 เป็นห่วงอะไรเขาแล้วสำคัญคืออย่างงี้ครับ
00:38:57 → 00:39:00 ถ้าถ้าวัยรุ่นมีเป้าที่ชัดเจนที่อยากไป
00:39:00 → 00:39:02 ให้ถึงเนาะไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเรียน
00:39:02 → 00:39:05 นะครับบางคนเรียนไม่เก่งเแต่ว่าจะไปเป็น
00:39:05 → 00:39:09 โทษนะวงโยธวาทิศมีวงดนตรีเล่นกีฬาเป็นนัก
00:39:09 → 00:39:11 นู่นนี่นั่นอะไรที่มันมีเป้าที่เขาอยากไป
00:39:11 → 00:39:14 ให้ถึงอยู่อ่ะเอ่อ
00:39:14 → 00:39:16 >> อะไรที่มันมากวนใจเค้าหรือมันจะมาขวาง
00:39:16 → 00:39:18 เค้าเนี่ยบางทีเค้าก็รู้เองว่าอันเนี้มัน
00:39:18 → 00:39:21 ขามาขวางชีวิตที่ดีเใช่ก็จะง่ายขึ้นแล้ว
00:39:21 → 00:39:24 แล้วถ้าเค้า self esteem
00:39:24 → 00:39:29 >> ความมั่นใจการยอมรับเอ่อเค้าได้จากแหล่ง
00:39:29 → 00:39:32 อื่นอยู่แล้วอ่าเค้าก็จะพึ่งเรื่องรัก
00:39:32 → 00:39:33 เนี่ยน้อยลง
00:39:33 → 00:39:33 >> อ่า
00:39:33 → 00:39:35 >> คือไม่มีไอ้คนนั้นเขาก็มีความรักกับที่
00:39:35 → 00:39:37 อื่นเก็เก็รู้สึกว่าตัวเองได้เรื่องอยู่
00:39:37 → 00:39:39 แล้วไงเค้าไม่ต้องพึ่งพาจากความรักเงี้ย
00:39:40 → 00:39:42 เค้าก็จะไม่ไปติดอะไรความรักคนเราถ้าต้อง
00:39:43 → 00:39:44 ระวังคือบางทีเราไม่มีอย่างอื่นน่ะแล้ว
00:39:44 → 00:39:47 แล้วพอมันมีคนรักเราแค่ตัวเลือกอ่าเราก็
00:39:47 → 00:39:49 เอ่อมีเงินอยู่ก้อนเราก็เทหมดหน้าตัก
00:39:49 → 00:39:51 เงี้ยแล้วแล้วพอเราเสียอันนั้นไปเราก็ไม่
00:39:51 → 00:39:53 เหลืออะไรเอต้องต้องระวังความรักแบบนั้น
00:39:53 → 00:39:55 น่ะเค้าเรียกความรักแบบซื้อหุ้นตัวเดียว
00:39:56 → 00:39:58 อ่ะก็คือเออชีวิตกูฝากไว้อันเนี้ยเออแล้ว
00:39:58 → 00:40:00 พอมันเจ๊งปุ๊บก็ไปเลยเงี้ยอันอันนั้นต้อง
00:40:00 → 00:40:02 ระวังเพราะว่า
00:40:02 → 00:40:04 >> เอ่อในในในเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนี้ยุคนี้เค้า
00:40:04 → 00:40:06 เรียกdisrupัเนาะอะไรก็เปลี่ยนไม่แน่ไม่
00:40:06 → 00:40:08 นอนอยู่ดีๆรักกันก็บกเบื่ออะไรเงี้ยเออ
00:40:08 → 00:40:10 เพราะฉะนั้น
00:40:10 → 00:40:12 >> อ้าอย่าซื้อหุ้นตัวเดียวนะครับเออ
00:40:12 → 00:40:14 >> เราต้องมีต้องมีตัวเลือกใช่มั้
00:40:14 → 00:40:16 >> เราต้องมีตัวเราต้องมีทางเอ่อไม่ไม่ได้
00:40:16 → 00:40:19 ให้มีหลายคนนะแต่หมายถึงว่าเอ่อความมั่น
00:40:19 → 00:40:21 ใจในตัวเองการยอมรับความ self esteem
00:40:21 → 00:40:23 อะไรเงี้ยมันต้องมาจากหลายๆทางทางนี้ไม่
00:40:23 → 00:40:24 มีเอาทางนู้นก็ได้
00:40:25 → 00:40:25 >> อื
00:40:25 → 00:40:26 >> อ่าๆเนาะ
00:40:26 → 00:40:28 >> อย่างบางคนเป็นเด็กเรียนดีกิจกรรมไม่ได้
00:40:28 → 00:40:30 แต่บางคนเรียนไม่เก่งแต่
00:40:30 → 00:40:33 >> กิจกรรมก็ได้เป็นนักกีฬาก็ได้อะไรอย่าง
00:40:33 → 00:40:35 เงี้ยครับแล้วแล้วพ่อแม่พ่อแม่ต้องเป็น
00:40:35 → 00:40:39 แหล่งของความรักการให้ความมั่นใจอ่าการ
00:40:39 → 00:40:41 ให้การยอมรับอ่า
00:40:41 → 00:40:43 >> ก็เป็นแหล่งสำคัญน่ะลูกจะได้ไม่ต้องไป
00:40:43 → 00:40:44 พึ่งคนอื่น
00:40:44 → 00:40:44 >> อื
00:40:44 → 00:40:47 >> อือืสำคัญที่สุดคือต้องปรับที่พ่อแม่ก่อน
00:40:47 → 00:40:48 มั้คะอาจารย์
00:40:48 → 00:40:52 >> เอ่อก็
00:40:52 → 00:40:55 ได้ก็ดีถ้าพ่อแม่ถ้าพ่อแม่ถ้าพ่อแม่อย่าง
00:40:56 → 00:40:59 ที่บอกพ่อแม่พร้อมที่จะเป็นไลฟโค้ชเนาะ
00:40:59 → 00:41:02 ไลฟโค้ชให้ลูกมีโค้ชเนี่ยลูกก็จะ
00:41:02 → 00:41:05 >> ค่อยๆประคับประคองชีวิตเอ่อไปจนถึงฝั่ง
00:41:05 → 00:41:07 ที่เป็นเ้าเรียก independent
00:41:07 → 00:41:09 >> ปล่อยได้อ่าในที่สุด
00:41:09 → 00:41:10 >> เวลาเราไปออกกำลังกายมันก็ต้องมี
00:41:10 → 00:41:13 เทรนเนอร์นะคะถึงจะรู้ว่าจะต้องเล่นจุด
00:41:13 → 00:41:16 ไหนยังไงนะคะอ่าอ่าใช่ครับต้องมีเป้าไง
00:41:16 → 00:41:19 เป้าคือมีซิแพคอะไรเงี้ยร่อง 11 อะไรสม
00:41:20 → 00:41:21 เออก็ต้องมีเป้าอ่ะแล้วแล้วอะไรมาขัดขวาง
00:41:21 → 00:41:24 เป้านั้นเช่นพิซซ่าใช่มั้ย
00:41:24 → 00:41:28 >> เออชาบูอะไรเงี้ยเงี้ยก็
00:41:28 → 00:41:30 >> ก็ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ต้องบาลานซอ่าแต่ถ้า
00:41:30 → 00:41:32 ไม่กินได้ก็ดีอ่ะเหมือนกันเหมือนกันเลย
00:41:32 → 00:41:35 ใช่มเหมือนกันเลยครับก็ก็เออถ้ามีเป้า
00:41:35 → 00:41:37 อยู่อะไรมาขวางไว้ก็ต้อง
00:41:37 → 00:41:39 >> ถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงเลี่ยงไม่ได้ก็ประคับ
00:41:39 → 00:41:43 ประคองให้อยู่ในเกณฑ์ที่มันปลอดภัยอ่า
00:41:43 → 00:41:45 >> ไม่รบกวนเป้าหมายชีวิตอ่าประมาณนั้น
00:41:45 → 00:41:48 >> อ่ะลองกลับไปถามตัวเองก่อนว่าตอนนี้เรา
00:41:48 → 00:41:49 ตั้งเป้าไว้หรือยัง
00:41:49 → 00:41:50 >> อ่า
00:41:50 → 00:41:53 >> เออถ้าเกิดมีเป้าแล้วก็พยายามไปให้ถึง
00:41:53 → 00:41:56 เป้านะคะอ่ะสุดท้ายค่ะอาจารย์อยากจะให้
00:41:56 → 00:42:00 อาจารย์ฝากถึงทั้งวัยรุ่นที่ชมรายการวัน
00:42:00 → 00:42:03 นี้หรือว่าจะย้อนมาชมนะคะรวมไปถึงคุณพ่อ
00:42:03 → 00:42:07 คุณแม่เราจะต้องรับมือกันยังไงเราจะต้อง
00:42:07 → 00:42:09 วางแผนกันยังไงคะกับเรื่องนี้
00:42:09 → 00:42:11 >> เอ่อถ้าสำหรับวัยรุ่นก็อย่างี้นะครับ
00:42:11 → 00:42:13 อย่างที่บอกครับเอ่อ
00:42:13 → 00:42:15 ความรักมันเป็นความรู้สึกนะความรู้สึกมัน
00:42:15 → 00:42:18 เปลี่ยนแปลงได้เพราะฉะนั้นถ้ามีคนรักเรา
00:42:18 → 00:42:20 วันนึงเขาบอกเขาไม่รักแล้วไม่ต้องตกใจมัน
00:42:20 → 00:42:23 ขึ้นลงๆหรือว่าจะกลับมารักอีกไปเงี้ย
00:42:23 → 00:42:27 เพราะฉะนั้นเอ่ออย่าเอาทั้งหมดของชีวิตไป
00:42:27 → 00:42:29 ฝากไว้กับอะไรที่มันไม่มั่นคง
00:42:29 → 00:42:30 >> อื
00:42:30 → 00:42:35 >> อ่าเนาะก็เอ่อรักได้แต่ต้องมีสติมีสติอ่ะ
00:42:35 → 00:42:38 ว่าเอเราทุ่มเทมากไปหรือเปล่าเอ่อเรา
00:42:38 → 00:42:40 กำลังเสียอะไรไปบ้างมั้ยมันขัดขวางเป้า
00:42:40 → 00:42:41 หมายในชีวิตเราอยู่หรือเปล่าก็ต้องถามตัว
00:42:41 → 00:42:44 เองเหมือนกันเนาะแล้วแล้วเราก็เอ่อใช้
00:42:44 → 00:42:47 ชีวิตพยายามทำให้มันสมดุลระหว่างอะไรนะ
00:42:47 → 00:42:48 ความสุขกับเป้าหมายอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:42:49 → 00:42:52 เนาะส่วนสำหรับคุณพ่อคุณแม่ผมคิดว่าเอ่อ
00:42:52 → 00:42:55 การถ่ายทอดวิชาชีวิตเนี่ยสำคัญมากเออรู้
00:42:55 → 00:42:58 มั้ยลูกเลือกแฟนยังไงเอ่อแฟนที่ดีน่าจะ
00:42:58 → 00:43:00 ยังไงและไอ้นี่มันใช่มั้ยอะไรเงี้ยเออ
00:43:00 → 00:43:03 แล้วก็ลักษณะของความรักว่าเออมันอาจจะมี
00:43:03 → 00:43:05 วันสิ้นสุดต้องเผื่อใจไว้เหมือนกันนะสุข
00:43:05 → 00:43:07 มากทุกข์มากอันนี้ต้อง
00:43:07 → 00:43:09 >> จริงๆเพราะแม่จะมีประสบการณ์อยู่แล้วแค่
00:43:09 → 00:43:11 ว่าต้องคุยกับลูกว่าเออถ้าจะรักเนี่ยมัน
00:43:11 → 00:43:14 จะเป็นยังไงนะแล้วต้องระวังอะไรนะเออแต่
00:43:14 → 00:43:16 ถ้าให้ดีถ้าไม่มีได้ก็ดีเออพ่อแม่ก็สบาย
00:43:16 → 00:43:18 ใจถ้าจะมีต้องต้องยังไงคือ
00:43:19 → 00:43:22 >> เอ่อเหมือนๆถ้าลูกจะไปปีนเขาเราก็ไม่อยาก
00:43:22 → 00:43:24 ให้ไปปีนถูกมั้ยครับเพราะว่ามันอันตราย
00:43:24 → 00:43:26 เนาะแต่ถ้าเลี่ยงถ้าจะไปปีนน่ะเออพ่อแม่
00:43:26 → 00:43:27 ต้องช่วยแพ็คของอ่ะ
00:43:27 → 00:43:27 >> อ
00:43:27 → 00:43:29 >> อะไรจำเป็นเพราะพ่อเพราะจริงๆความรักนี่
00:43:29 → 00:43:31 เป็นสิ่งที่พ่อแม่เคยผ่านมาก่อน
00:43:31 → 00:43:32 >> อื
00:43:32 → 00:43:34 >> พ่อแม่รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้างนึกออกมั้ยจะ
00:43:34 → 00:43:37 เจออะไรบ้างก็น่าจะช่วยลูกเตรียมตัวอ
00:43:37 → 00:43:37 >> ครับ
00:43:37 → 00:43:40 >> พ่อแม่ก็ต้องเป็นโค้ชให้กับลูกส่วนลูกก็
00:43:40 → 00:43:42 ต้องเรียนรู้แบบว่า
00:43:42 → 00:43:43 >> รักอย่างมีสติ
00:43:43 → 00:43:45 >> แล้วอย่างมีสติแล้วก็อย่าไปเสียสตางค์
00:43:45 → 00:43:47 เยอะเหมือนที่อาจารย์บอกอย่าทุ่มอย่าซื้อ
00:43:47 → 00:43:48 หุ้นตัวเดียวนะคะ
00:43:48 → 00:43:50 >> อย่าซื้อไม่ได้แปลว่าให้มีพร้อมกันหลายคน
00:43:50 → 00:43:55 ทำไมถึงว่าเอ่ออย่าเอาชีวิตไปผูกกับเอ่อ
00:43:55 → 00:43:58 อย่าเอาชีวิตไปผูกกับเรื่องความรักทุ่ม
00:43:58 → 00:43:59 กับเรื่องความรักชีวิตมีหลายเรื่องครับ
00:43:59 → 00:44:04 การเรียนเพื่อนฝูงการพัฒนาตัวเองเออการดู
00:44:04 → 00:44:07 แลตัวเองอะไรเงี้ยเออก็ใส่ใจกับหลายๆ
00:44:07 → 00:44:09 เรื่องอ่อนแต่ท้ายที่สุดแล้วก่อนที่เราจะ
00:44:09 → 00:44:11 รักคนอื่นนะเราต้องรักตัวเองก่อนนะนะคะ
00:44:11 → 00:44:12 อาจารย์
00:44:12 → 00:44:16 >> อ่ะก็ดูนี้สำคัญที่สุดนะคะอ่ะวันนี้นะคะ
00:44:16 → 00:44:19 มีคุณผู้ชมคุณผู้ฟังหลายท่านก็มีคำถาม
00:44:19 → 00:44:22 แล้วก็บอกว่าติดตามรับชมนะคะขอบพระคุณมาก
00:44:22 → 00:44:25 ๆเลยนะคะถ้าเกิดว่าท่านไหนที่มีคำถามก็
00:44:25 → 00:44:27 คอมเมนต์กันเข้ามาได้ทิ้งคำถามเอาไว้ก็
00:44:27 → 00:44:30 ได้นะคะแต่ว่าบางท่านอาจจะอ่าสงสัยว่า
00:44:30 → 00:44:32 เอ๊ะถ้าเกิดว่ามีปัญหาจริงๆจะไปเจอ
00:44:32 → 00:44:34 อาจารย์ได้ที่ไหนคะ
00:44:34 → 00:44:37 >> เอ่อก็ติดต่อที่หน่วยจิตเวทเด็กครับและ
00:44:37 → 00:44:38 วัยรุ่น
00:44:38 → 00:44:41 >> เนาะของคณะแพทย์มหาวิทยาลัยไปเชียงใหม่
00:44:41 → 00:44:43 ส่วนโรงพยาบาลสวนดอกนั่นแหละค่ะ
00:44:43 → 00:44:46 >> ก็จะอยู่ติดกับอาคารเวชสัต์ฟื้นฟูนะคะ
00:44:46 → 00:44:46 อาจารย์
00:44:46 → 00:44:47 >> ใช่ๆ
00:44:47 → 00:44:50 >> อ่ะก็ลองมาปรึกษาจิตแพทย์ลองมาปรึกษาผู้
00:44:50 → 00:44:52 เชี่ยวชาญถึงแนวทางต่างๆว่าเราจะละมือกับ
00:44:53 → 00:44:55 ลูกยังไงได้บ้างนะคะแล้วก็อ่าเราจะต้อง
00:44:56 → 00:44:58 แก้ไขปัญหาที่มันเกิดขึ้นยังไงได้บ้างนะ
00:44:58 → 00:45:00 คะให้ลูกมีความสุขแล้วพอลูกมีความสุขแล้ว
00:45:00 → 00:45:03 พ่อแม่ก็จะมีความสุขนะคะวันนี้ขอบพระคุณ
00:45:03 → 00:45:05 อาจารย์มากๆเลยนะคะผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:45:05 → 00:45:08 แพทย์อัศวินนาคพงษ์พัน์อาจารย์ประจำหน่วย
00:45:08 → 00:45:10 จิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่นภาควิชา
00:45:10 → 00:45:13 จิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:45:13 → 00:45:15 เชียงใหม่ที่ได้มาให้ความรู้แล้วก็พูดคุย
00:45:15 → 00:45:17 กับเราในรายการขอบพระคุณค่ะอาจารย์ขา
00:45:17 → 00:45:19 >> ขอบคุครับ
00:45:19 → 00:45:21 >> สัปดาห์หน้านะคะสุขภาพดีกับหมอสวนดอกจะ
00:45:21 → 00:45:24 เป็นเรื่องอะไรต้องติดตามผ่านทางหน้าเพจ
00:45:24 → 00:45:26 ของเรานะคะเพจสุขภาพดีกับหมอสวนดอกยังมี
00:45:26 → 00:45:29 ข้อมูลข่าวสารต่างๆอัปเดตอยู่นะคะก็อย่า
00:45:29 → 00:45:31 ลืมติดตามรับชมกันด้วยส่วนท่านไหนที่บอก
00:45:31 → 00:45:34 ว่ารับชมวันนี้สดๆไม่ทันนะคะท่านก็สามารถ
00:45:34 → 00:45:37 รับชมย้อนหลังได้เช่นเดียวกันรวมไปถึงราย
00:45:37 → 00:45:40 การของเรานะคะจะไปออกอากาศย้อนหลังผ่าน
00:45:40 → 00:45:43 ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัด
00:45:43 → 00:45:45 เชียงใหม่หรือว่า NBT นอตช่อง 11 นะคะ
00:45:46 → 00:45:48 แล้วก็ออกอากาศเสียงนะคะผ่านทางเสียงสื่อ
00:45:49 → 00:45:53 สารมวลชนมช. FM 100 สวท.ฝางแล้วก็สวท.
00:45:53 → 00:45:55 พะเยาด้วยนะคะก็ฝากติดตามรายการของเรา
00:45:55 → 00:45:58 ด้วยนะคะเป็นรายการสุขภาพจากคณะแพทย์
00:45:58 → 00:46:01 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่วันนี้หมดเวลาลงแล้ว
00:46:01 → 00:46:02 นะคะทริปพร้อมกับอาจารย์หมอแล้วก็ทีมงาน
00:46:03 → 00:46:04 ต้องลาทุกท่านไปก่อนกลับมาพบกันใหม่
00:46:04 → 00:46:06 สัปดาห์หน้าสำหรับวันนี้ขอบพระคุณและ
00:46:06 → 00:46:08 สวัสดีค่ะ
00:46:08 → 00:46:10 >> สวัสดีครับ
00:46:10 → 00:46:21 [เพลง]
00:46:21 → 00:46:24