00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับมีเรื่อง
00:00:02 → 00:00:06 เอ่อหน้าทึ่งที่เราไปเจอมาจากข้อมูลวัน
00:00:06 → 00:00:09 นี้เกี่ยวกับสมoี้ครับซึ่งอาจจะทำให้หลาย
00:00:09 → 00:00:13 ๆคนที่ชอบดื่มต้องอืมประหลาดใจนิดหน่อยนะ
00:00:13 → 00:00:16 เพราะมันเกี่ยวกับส่วนผสมยอดฮิตอย่าง
00:00:16 → 00:00:19 กล้วยนี่แหละครับที่ดูเหมือนว่า
00:00:19 → 00:00:24 เอ่ออาจจะไม่ได้ดีกับส่วนผสมอื่นเสมอไป
00:00:24 → 00:00:26 ใช่ค่ะเรื่องนี้มาจากงานวิจัยชิ้นนึงเลย
00:00:26 → 00:00:29 นะคะที่ฟังดูอาจจะขัดๆกับความรู้สึกเรา
00:00:29 → 00:00:32 นิดนึงเพราะปกติเราก็ใส่กล้วยกันเนาะให้
00:00:32 → 00:00:36 มันหวานๆข้นๆอร่อยๆแต่ข้อมูลนี้ดันบอกว่า
00:00:36 → 00:00:38 มันอาจจะมีผลกระทบกับคุณค่าทางอาหารบาง
00:00:38 → 00:00:41 อย่างได้ค่ะครับเป้าหมายที่เราจะมาคุยกัน
00:00:41 → 00:00:44 วันนี้ก็คือเจาะลึกกันหน่อยว่าทำไมถึง
00:00:44 → 00:00:47 เป็นแบบนั้นแล้วมันส่งผลยังไงกับการทำ
00:00:47 → 00:00:50 สมูทตี้เพื่อสุขภาพของเราจริงๆกันแน่
00:00:50 → 00:00:53 เพราะกล้วยนี่มันแบบแทบจะเป็นส่วนผสมพื้น
00:00:53 → 00:00:56 ถังของหลายๆสูตรเลยนะค่ะประเด็นหลักๆเลย
00:00:56 → 00:00:59 นะคะมันอยู่ที่เอนไซม์ตัวนึงในกล้วยค่ะ
00:00:59 → 00:01:03 คือจากข้อมูลที่เขาอ้างอิงงานวิจัยนะคะพบ
00:01:03 → 00:01:07 ว่ากล้วยมีเอนไซม์ชื่อpoโพนอลoอกซidหรือ
00:01:07 → 00:01:10 ที่เรียกสั้นๆว่า PPO เนี่ยในปริมาณที่
00:01:10 → 00:01:13 ค่อนข้างสูงเลยแล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับ
00:01:13 → 00:01:16 สมูตี้ของเราล่ะครับใช่เลยค่ะถูกต้องเลย
00:01:16 → 00:01:19 ตัวเดียวกันเป๊ะเลยค่ะที่ทำให้กล้วยหรือ
00:01:19 → 00:01:21 แอปเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเวลาเราหัน
00:01:21 → 00:01:25 ทิ้มไว้ทีนี้ปัญหามันก็คือเอนไซม์ตัวนี้
00:01:25 → 00:01:27 เนี่ยมันไม่ได้แค่ทำให้สีเปลี่ยนอย่าง
00:01:27 → 00:01:30 เดียวน่ะสิคะแต่มันยังเข้าไปทำปฏิกิริยา
00:01:30 → 00:01:33 กับสารประกอบฟีโนอยิกซึ่งรวมถึงสารต้าน
00:01:33 → 00:01:37 อนุมูลอิสระสำคัญๆคัญอย่างฟาวนอยที่มี
00:01:37 → 00:01:40 เยอะๆในพวกผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ไงคะ
00:01:40 → 00:01:43 บลูเบอร์รี่สตรอเบอร์รี่หรือแม้แต่
00:01:43 → 00:01:46 วิตามินซีเองก็ด้วยเดี๋ยวๆนะครับอ่าหมาย
00:01:46 → 00:01:49 ความว่าถ้าเราปั่นกล้วยรวมกับบลูเบอร์รี่
00:01:49 → 00:01:52 เนี่ยเอนไซม์ PPO จากกล้วยมันจะไปทำลาย
00:01:52 → 00:01:55 สารฟลานอยด์ดีๆในบลูเบอร์รี่อย่างนั้นเลย
00:01:55 → 00:01:58 เหรอครับโหฟังดูน่าเสียดายจังเลยอุตส่าห์
00:01:58 → 00:02:00 ใส่เบอร์รี่ไปตั้งเยอะหวังประโยชน์เต็ม
00:02:00 → 00:02:03 ที่เลยนะเนี่ยใช่ค่ะตามข้อมูลวิจัยเขา
00:02:03 → 00:02:07 ระบุเลยนะคะว่าเอนไซม์ PPO ในกล้วยเนี่ย
00:02:07 → 00:02:10 สามารถลดระดับฟลานอยในผลไม้อื่นที่เรา
00:02:10 → 00:02:12 ปั่นรวมกันได้อย่างมีนัยยะสำคัญเลยค่ะก็
00:02:12 → 00:02:15 เลยทำให้สมูทตี้แก้วนั้นๆอาจจะมีสารต้าน
00:02:15 → 00:02:18 อนุมูลอิสระน้อยกว่าที่เราคาดหวังไว้แต่
00:02:18 → 00:02:21 แรกโอ้โหเรื่องนี้แบบพลิกความเข้าใจเดิม
00:02:21 → 00:02:24 ไปเลยนะเนี่ยเพราะหลายของรวมถึงผมด้วยนะ
00:02:24 → 00:02:27 ก็ใส่กล้วยเพราะมันง่ายเหมือนอร่อยให้
00:02:27 → 00:02:30 ความข้นแต่กลายเป็นว่าอาจจะไปลดประโยชน์
00:02:30 → 00:02:33 จากส่วนผสมอื่นที่เราตั้งใจใส่เข้าไปซะ
00:02:33 → 00:02:36 งั้นอืมแต่ว่านะคะข้อมูลนี้ก็ไม่ได้บอก
00:02:36 → 00:02:39 ว่าเราต้องเลิกกินกล้วยไปเลยนะคะกล้วยเอง
00:02:39 → 00:02:41 เขาก็มีประโยชน์ของเขาอยู่แล้วทั้ง
00:02:41 → 00:02:45 โพแทสเซียมไฟเบอร์ให้พลังงานดีๆทั้งนั้น
00:02:45 → 00:02:47 เพียงแต่ว่าถ้าเป้าหมายหลักของการดื่ม
00:02:47 → 00:02:49 สมูทตี้แก้วนั้นคืออยากได้สารต้านอนุมูล
00:02:50 → 00:02:53 อิสระจากเบอร์รี่แบบเต็มๆจุกๆเนี่ยการใส่
00:02:53 → 00:02:55 กล้วยเข้าไปด้วยอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
00:02:55 → 00:02:59 ที่สุดแค่นั้นเองค่ะอ๋ออ้อเข้าใจแล้วครับ
00:02:59 → 00:03:01 คือมันเป็นเรื่องของการเลือกให้เหมาะกับ
00:03:01 → 00:03:05 เป้าหมายเรามากกว่าสินะงั้นถ้าอยากได้
00:03:05 → 00:03:07 ประโยชน์จากflาวนานอยด์เต็มๆแต่ก็ยังชอบ
00:03:07 → 00:03:10 สมูทตี้ข้นๆอยู่ควรจะทำยังไงดีล่ะครับแยก
00:03:10 → 00:03:13 กินกล้วยต่างหากไปเลยนั่นก็เป็นทางออกนึง
00:03:13 → 00:03:16 ที่ดีเลยค่ะเช่นกินกล้วยเป็นผลไม้เดี่ยวๆ
00:03:16 → 00:03:19 ไปเลยหรือกินคนละเวลากับสมูที้เบอร์รี่
00:03:19 → 00:03:22 หรือถ้าอยากได้เนื้อข้นๆในสมูทตี้จริงๆ
00:03:22 → 00:03:25 อาจจะลองใช้อย่างอื่นแทนกล้วยดูมยคะเช่น
00:03:26 → 00:03:29 เอ่อเอ่ออะโวคาโดหรือชิ้นสับปะรดแช่แข็ง
00:03:29 → 00:03:32 นิดหน่อยหรือโยเกิร์ตก็ได้ค่ะใส่คู่กับ
00:03:32 → 00:03:36 เบอร์รี่ผักใบเขียวหรือพวกเมล็ดเจียเมล็ด
00:03:36 → 00:03:38 แฟลกอันนี้ก็จะเน้นสารต้านอนุมูลอิสระได้
00:03:38 → 00:03:41 เต็มที่ตามที่เราต้องการเป็นทางเลือกที่
00:03:41 → 00:03:44 น่าสนใจเลยครับทำให้เราต้องใส่ใจกับการ
00:03:44 → 00:03:46 เลือกส่วนผสมมากขึ้นอีกนิดนึงจริงๆถ้า
00:03:46 → 00:03:50 อยากได้คุณค่าทางอาหารสูงสุดสรุปก็คือ
00:03:50 → 00:03:53 เอนไซม์ PPO ในกล้วยเนี่ยมันอาจจะเป็นลด
00:03:53 → 00:03:56 สารต้านอนุมูลอิสระดีๆจากผลไม้อื่นโดย
00:03:56 → 00:03:59 เฉพาะพวกเบอร์รี่ถ้าใครซีเรียสเรื่องนี้
00:03:59 → 00:04:02 มากๆก็อาจจะต้องลองปรับสูตรกันดูถูกต้อง
00:04:02 → 00:04:05 ค่ะเป็นการทำความเข้าใจกลไกเล็กๆน้อยๆที่
00:04:05 → 00:04:08 อาจจะส่งผลต่อคุณค่าทางโภชนาการโดยรวมของ
00:04:08 → 00:04:12 สิ่งที่เรากินเข้าไปนั่นเองค่ะอืสุดท้าย
00:04:12 → 00:04:16 นี้เรื่องนี้ก็ทำให้เกิดคำถามน่าคิดตามมา
00:04:16 → 00:04:18 เหมือนกันนะครับว่านอกเหนือจากแค่กล้วย
00:04:18 → 00:04:21 กับเบอร์รี่แล้วเนี่ยมันอาจจะมีปฏิกิริยา
00:04:21 → 00:04:24 ระหว่างเอนไซม์กับสารอาหารในอาหารอื่นๆ
00:04:24 → 00:04:27 ที่เราเอามาผสมผสมผสมกันในชีวิตประจำวัน
00:04:27 → 00:04:29 อีกหรือเปล่าโดยที่เราอาจจะไม่เคยรู้มา
00:04:29 → 00:04:32 ก่อนเลยก็ได้นะเรื่องนี้มันก็ชวนให้เรา
00:04:32 → 00:04:35 อาจจะต้องมองการจับคู่อาหารในมิติที่ซับ
00:04:35 → 00:04:37 ซ้อนกว่าแค่เรื่องรสชาติหรือความสะดวก
00:04:37 → 00:04:40 อย่างเดียวแล้วล่ะครับเนี่ยถ้าชอบเนื้อหา
00:04:40 → 00:04:43 แบบนี้ฝากกดติดตามกดไลก์กดแชร์ให้คนที่
00:04:43 → 00:04:45 คุณห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กับช่องสุขภาพ
00:04:45 → 00:04:48 สนทนาได้มีแรงสร้างสรรค์เรื่องราวดีต่อไป
00:04:48 → 00:04:51 นะครับ