00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีครับยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งกับ
00:00:04 → 00:00:08 ช่องพcสเพื่อการพัฒนาตัวเองด้านสุขภาพ
00:00:08 → 00:00:10 พื้นที่เล็กๆที่เราตั้งใจสร้างสรรค์เนื้อ
00:00:10 → 00:00:13 หาดีๆเพื่อคนวัยทำงานผู้ที่กำลังจะก้าว
00:00:13 → 00:00:16 เข้าสู่วัยเกษียณและผู้สูงวัยทุกท่านใน
00:00:16 → 00:00:20 ตอนนี้เราจะพูดถึงปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย
00:00:20 → 00:00:23 และแนวทางดูแลตัวเองแบบเข้าใจง่ายใช้เวลา
00:00:23 → 00:00:26 เพียง 5-10 นาทีเท่านั้นสั้นกระชับแต่
00:00:26 → 00:00:29 เต็มไปด้วยสาระที่คุณไม่ควรพลาดครับหัว
00:00:30 → 00:00:33 ข้อพcส.ในวันนี้คือหยุดกินเดี๋ยวนี้ 5
00:00:33 → 00:00:35 ผักที่ผู้สูงอายุต้องเลี่ยงถ้าไม่อยากให้
00:00:35 → 00:00:39 หัวใจพังใช่แล้วครับคุณฟังไม่ผิดผักที่
00:00:39 → 00:00:42 เราคิดว่าดีต่อสุขภาพอาจกำลังสร้างปัญหา
00:00:42 → 00:00:46 ให้กับหัวใจของคุณอยู่เงียบๆโดยไม่รู้ตัว
00:00:46 → 00:00:48 และผมจะมาไขข้อกระจ่างในเรื่องนี้พร้อม
00:00:48 → 00:00:51 กับแนะนำแนวทางที่ปลอดภัยเพื่อให้หัวใจ
00:00:51 → 00:00:55 ของคุณแข็งแรงไปกับเราในทุกๆวันท่านผู้
00:00:55 → 00:00:57 ฟังครับเมื่อเราก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 60 ปี
00:00:57 → 00:01:00 ขึ้นไปทุกสิ่งที่เราบริโภคเข้าไปทั้ง
00:01:00 → 00:01:04 อาหารที่เลือกสรรพฤติกรรมการกินหรือแม้
00:01:04 → 00:01:05 แต่ความเชื่อเรื่องอาหารที่ว่าดีต่อ
00:01:05 → 00:01:09 สุขภาพล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อหัวใจของเรา
00:01:09 → 00:01:12 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ผมได้พบเห็นกรณี
00:01:12 → 00:01:15 ศึกษามากมายที่ผู้สูงอายุหลายท่านพยายาม
00:01:15 → 00:01:18 ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีกินผักเยอะๆลดน้ำ
00:01:18 → 00:01:21 ตาลหลีกเลี่ยงของทอดแต่กลับมีปัญหาเกี่ยว
00:01:21 → 00:01:24 กับหัวใจตามมาซึ่งเป็นเพราะว่าผักบางชนิด
00:01:24 → 00:01:27 เมื่อรับประทานในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือ
00:01:27 → 00:01:30 กินร่วมกับยาบางชนิดมันอาจกลายเป็นดาบ 2
00:01:30 → 00:01:34 คมที่ย้อนกลับมาทำร้ายหัวใจได้สำหรับผู้
00:01:34 → 00:01:36 สูงอายุหลอดเลือดแดงของเราจะเริ่มมีความ
00:01:36 → 00:01:39 ยืดหยุ่นน้อยลงแต่ก็อาจทำงานไม่เต็มที่
00:01:39 → 00:01:43 เท่าเดิมและระบบภูมิคุ้มกันก็อาจอ่อนแอลง
00:01:43 → 00:01:46 ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออาหารและยาแตกต่าง
00:01:46 → 00:01:49 ไปจากช่วงวัยหนุ่มสาวนี่คือเหตุผลที่เรา
00:01:49 → 00:01:52 ต้องใส่ใจเป็นพิเศษครับวันนี้ผมจะพาไป
00:01:52 → 00:01:55 เจาะลึกผัก 5 ชนิดที่ผู้สูงอายุควรระมัด
00:01:55 → 00:01:58 ระวังหรืออาจต้องพิจารณาหลีกเลี่ยงเพื่อ
00:01:58 → 00:02:01 สุขภาพหัวใจที่ดีของคุณครับ
00:02:01 → 00:02:06 1 ผักโขมวิตามิน K กับยาละลายลิ่มเลือด
00:02:06 → 00:02:08 ผักโขมเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสุดยอด
00:02:08 → 00:02:12 ผักใบเขียวอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุและ
00:02:12 → 00:02:15 โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน K ซึ่งมีความ
00:02:15 → 00:02:17 สำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการแข็งตัวของ
00:02:17 → 00:02:20 เลือดวิตามิน K นั้นจำเป็นต่อร่างกายเรา
00:02:20 → 00:02:24 ครับในคนทั่วไปการได้รับวิตามิน K อย่าง
00:02:24 → 00:02:27 เพียงพอเป็นสิ่งที่ดีแต่สำหรับผู้สูงอายุ
00:02:27 → 00:02:28 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
00:02:29 → 00:02:31 ผู้ที่กำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
00:02:31 → 00:02:34 เช่นยาวาฟารินซึ่งมักจะถูกสั่งจ่ายเพื่อ
00:02:34 → 00:02:37 ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในผู้ป่วย
00:02:37 → 00:02:40 ที่มีภาวะหัวใจวายเส้นเลือดในสมองตีบหรือ
00:02:40 → 00:02:43 ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วการได้รับ
00:02:43 → 00:02:46 วิตามิน K ในปริมาณที่มากเกินไปหรือการ
00:02:46 → 00:02:49 ได้รับวิตามิน K ในปริมาณที่ไม่คงที่ใน
00:02:49 → 00:02:52 แต่ละวันสามารถเข้าไปรบกวนการทำงานของยา
00:02:52 → 00:02:55 วาฟารินได้อย่างมากทำให้ประสิทธิภาพของยา
00:02:55 → 00:02:58 ที่ควรจะช่วยให้เลือดเจือจางลงลดลงไป
00:02:58 → 00:03:01 เลือดอาจจะข้นขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของ
00:03:01 → 00:03:04 การเกิดลิ่มเลือดที่อันตรายได้อีกครั้ง
00:03:04 → 00:03:07 สิ่งสำคัญที่นี่คือความสม่ำเสมอครับหาก
00:03:07 → 00:03:09 คุณต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือดการ
00:03:09 → 00:03:12 รักษาระดับวิตามิน K ที่ได้รับในแต่ละวัน
00:03:12 → 00:03:15 ให้คงที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การงด
00:03:15 → 00:03:18 ผักโขมไปเลยแต่เป็นการกินในปริมาณที่สม่ำ
00:03:18 → 00:03:21 เสมอในแต่ละวันเพื่อให้แพทย์สามารถปรับยา
00:03:21 → 00:03:23 ให้เข้ากับระดับวิตามิน K ในร่างกายของ
00:03:23 → 00:03:26 คุณได้อย่างแม่นยำและที่สำคัญที่สุดคือ
00:03:26 → 00:03:29 ต้องปรึกษาแพทย์แพทย์หรือเภสัชกรของคุณ
00:03:29 → 00:03:31 เสมอหากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการ
00:03:31 → 00:03:35 กินหรือสงสัยว่าอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อ
00:03:35 → 00:03:37 ยาที่คุณรับประทานอยู่
00:03:37 → 00:03:42 2 แตงกวาดไผ่เงียบจากโซเดียมหลายคนอาจจะ
00:03:42 → 00:03:45 แปลกใจว่าแตงกวาดมาอยู่ในฤทธิ์นี้ได้
00:03:45 → 00:03:48 อย่างไรแตงกวาดหรือผักดองหลายชนิดคือตัว
00:03:48 → 00:03:50 อย่างของอาหารที่อุดมไปด้วยโซเดียมใน
00:03:50 → 00:03:53 ปริมาณสูงมากครับบางครั้งในแตงกวาดเพียง 1
00:03:53 → 00:03:56 หน่วยบริโภคอาจมีโซเดียมมากกว่า 1,000
00:03:56 → 00:03:57 มิลลกรั
00:03:57 → 00:03:59 ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงเกินความจำเป็นของ
00:03:59 → 00:04:02 ร่างกายในแต่ละมื้อไปมากเมื่อร่างกายได้
00:04:02 → 00:04:06 รับโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไปมันจะทำ
00:04:06 → 00:04:08 ให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ในกระแสเลือดมาก
00:04:08 → 00:04:11 ขึ้นสิ่งนี้จะเพิ่มปริมาตรเลือดในหลอด
00:04:11 → 00:04:14 เลือดและสร้างแรงดันมหาศาลต่อหัวใจและ
00:04:14 → 00:04:17 หลอดเลือดทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น
00:04:17 → 00:04:20 อย่างมากเพื่อสูบฉีดเลือดส่งผลให้ความดัน
00:04:20 → 00:04:23 โลหิตสูงขึ้นหลอดเลือดแดงแข็งตัวและใน
00:04:23 → 00:04:27 ระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้
00:04:27 → 00:04:30 สำหรับผู้สูงอายุไตของเรามีความสามารถใน
00:04:30 → 00:04:33 การกรองเกลือออกจากร่างกายลดลงและหลอด
00:04:33 → 00:04:35 เลือดแดงก็มีความเปราะบางมากขึ้นอยู่แล้ว
00:04:35 → 00:04:38 การบริโภคโซเดียมสูงจึงยิ่งเป็นอันตราย
00:04:38 → 00:04:41 มากขึ้นครับไม่ใช่แค่แตงกวาดองนะครับแต่
00:04:41 → 00:04:45 รวมถึงอาหารแปรรูปอาหารสำเร็จรูปซุปก้อน
00:04:45 → 00:04:48 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือแม้แต่ขนมขบ
00:04:48 → 00:04:50 เคี้ยวหลายชนิดที่ซ่อนโซเดียมไว้ในปริมาณ
00:04:50 → 00:04:54 มากทางออกคือลองปรุงอาหารเองที่บ้านให้
00:04:54 → 00:04:57 มากขึ้นอ่านฉลากโภชนะอย่างละเอียดก่อน
00:04:57 → 00:05:00 ซื้อเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำและลอง
00:05:00 → 00:05:03 ใช้สมุนไพรเครื่องเทศหรือน้ำมะนาวในการ
00:05:03 → 00:05:06 ปรุงรสอาหารแทนเกลือเพื่อลดปริมาณโซเดียม
00:05:06 → 00:05:08 ที่คุณจะได้รับครับ
00:05:08 → 00:05:12 3 พริกแดงความร้อนแรงที่หัวใจอาจรับไม่
00:05:12 → 00:05:16 ไหวพริกแดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพริกแดงที่มี
00:05:16 → 00:05:20 ความเผ็ดร้อนสูงมีสารที่ชื่อว่าแคปไซซิน
00:05:20 → 00:05:22 ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความรู้สึกเผ็ด
00:05:22 → 00:05:25 ร้อนและกระตุ้นระบบประสาทของเราได้การ
00:05:25 → 00:05:28 บริโภคพริกในปริมาณมากหรือพริกที่เผ็ดจัด
00:05:28 → 00:05:31 ๆอาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอดีนออกมา
00:05:31 → 00:05:35 มากขึ้นซึ่งส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจ
00:05:35 → 00:05:38 เพิ่มสูงขึ้นและอาจทำให้เกิดภาวะใจสั่น
00:05:38 → 00:05:42 ได้สำหรับคนหนุ่มสาวทั่วไปการกระตุ้นเช่น
00:05:42 → 00:05:45 นี้อาจไม่เป็นปัญหาแต่สำหรับผู้ที่มีอายุ
00:05:45 → 00:05:49 60 ปีขึ้นไปหลอดเลือดแดงอาจมีความยืด
00:05:49 → 00:05:51 หยุ่นน้อยลงและหัวใจก็มีความไวต่อการ
00:05:52 → 00:05:54 กระตุ้นที่เพิ่มขึ้นการกระตุ้นที่มากเกิน
00:05:54 → 00:05:57 ไปจากความเผ็ดร้อนของพริกอาจเป็นอันตราย
00:05:57 → 00:06:00 ต่อหัวใจที่ต้องทำงานหนักอยู่แล้วการ
00:06:00 → 00:06:03 บริโภคพริกเผ็ดร้อนเป็นประจำอาจนำไปสู่
00:06:03 → 00:06:05 การอักเสบเรื้อรังในระบบหลอดเลือดซึ่งไม่
00:06:05 → 00:06:09 เป็นผลดีต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาวแต่ไม่
00:06:09 → 00:06:11 ได้หมายความว่าเราต้องงดความเผ็ดไปเสีย
00:06:11 → 00:06:14 ทั้งหมดครับเราสามารถเลือกใช้สมุนไพรอ่อน
00:06:14 → 00:06:18 ๆเช่นกระเทียมขิงข่าตะไคร้หรือแม้แต่
00:06:18 → 00:06:21 มะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติและความหอมให้กับ
00:06:21 → 00:06:23 อาหารโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาความเผ็ดร้อนจัด
00:06:23 → 00:06:26 จนเกินไปื่อเพื่อลดภาระให้กับหัวใจของเรา
00:06:26 → 00:06:28 ครับ
00:06:28 → 00:06:31 4. กระเทียมดิบสมุนไพรคู่ครัวที่ต้อง
00:06:31 → 00:06:35 ระวังเมื่อมีโรคประจำตัวกระเทียมดิบถูกยก
00:06:35 → 00:06:37 ย่องว่าเป็นสุดยอดสมุนไพรที่มีสรรพคุณมาก
00:06:37 → 00:06:40 มายและเป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติใน
00:06:40 → 00:06:43 การช่วยลดความดันโลหิตและมีฤทธิ์คล้ายยา
00:06:43 → 00:06:46 ละลายลิ่มเลือดตามธรรมชาติเนื่องจากมีสาร
00:06:46 → 00:06:49 ที่ช่วยยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดได้
00:06:49 → 00:06:52 อย่างไรก็ตามสำหรับผู้สูงอายุที่กำลังรับ
00:06:52 → 00:06:56 ประทานยาบำรุงหัวใจโดยเฉพาะยาต้านการแข็ง
00:06:56 → 00:06:59 ตัวของเลือดเช่นวาฟารินหรือยาแก้ปวดลดไข้
00:06:59 → 00:07:02 ในกลุ่มแอสไพรินการบริโภคกระเทียมดิบใน
00:07:02 → 00:07:05 ปริมาณมากเป็นประจำอาจไปเสริมฤทธิ์ของยา
00:07:05 → 00:07:08 เหล่านี้ให้มีความรุนแรงเกินไปทำให้เลือด
00:07:08 → 00:07:10 เหลวเกินไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ
00:07:10 → 00:07:14 ตกเลือดภายในร่างกายเลือดออกง่ายหรือแม้
00:07:14 → 00:07:17 แต่ภาวะตกเลือดที่คุกคามถึงชีวิตได้นอก
00:07:17 → 00:07:20 จากนี้กระเทียมดิบในปริมาณมากยังสามารถทำ
00:07:20 → 00:07:23 ให้ความดันโลหิตลดลงอย่างกะทันหันซึ่งอาจ
00:07:23 → 00:07:26 ทำให้ผู้ที่รับประทานยาลดความดันโลหิตสูง
00:07:26 → 00:07:29 อยู่แล้วมีอาการวิงเวียนศีรษะเหนื่อยล้า
00:07:29 → 00:07:32 หรือถึงขั้นเป็นลมได้หากคุณต้องการได้รับ
00:07:32 → 00:07:35 ประโยชน์จากกระเทียมควรนำไปปรุงให้สุข
00:07:35 → 00:07:37 ก่อนครับการปรุงให้สุขจะช่วยลดฤทธิ์ของ
00:07:37 → 00:07:41 สารที่อาจรบกวนยาได้และทำให้ร่างกายย่อย
00:07:41 → 00:07:44 และดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้นและที่สำคัญ
00:07:44 → 00:07:47 ที่สุดควรปรึกษาแพทย์ของคุณเสมอหากคุณมี
00:07:47 → 00:07:50 ข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริโภคกระเทียมหรือ
00:07:50 → 00:07:53 สมุนไพรอื่นๆร่วมกับยาที่คุณรับประทาน
00:07:53 → 00:07:55 อยู่ครับ
00:07:55 → 00:07:59 5 ถั่วงอกดิบแบคทีเรียที่มองไม่เห็นถั่ว
00:07:59 → 00:08:02 งอกดิบไม่ว่าจะเป็นถั่วงอกอันฟันฟาถั่ว
00:08:02 → 00:08:05 งอกถั่วต่างๆหรือถั่วงอกถั่วเขียวเป็น
00:08:05 → 00:08:08 อาหารที่หลายคนชื่นชอบเพราะความกรอบและสด
00:08:08 → 00:08:11 ชื่นแต่สิ่งที่เราต้องระวังคือสภาพแวด
00:08:11 → 00:08:14 ล้อมที่ใช้ในการเพาะถั่วงอกนั้นมักจะอบ
00:08:14 → 00:08:17 อุ่นและชื้นซึ่งเป็นสภาวะที่เอื้อต่อการ
00:08:17 → 00:08:19 เจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
00:08:19 → 00:08:22 ได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้สูงอายุระบบภูมิ
00:08:23 → 00:08:25 คุ้มกันของเราจะทำงานได้ไม่เต็มที่เท่าคน
00:08:25 → 00:08:28 หนุ่มสาวทำให้ร่างกายต่อสู้กับการติด
00:08:28 → 00:08:31 เชื้อได้ช้าลงและมีประสิทธิภาพน้อยลงการ
00:08:32 → 00:08:34 ติดเชื้อที่เกิดจากอาหารในผู้สูงอายุอาจ
00:08:34 → 00:08:37 ลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าปกติอาจ
00:08:37 → 00:08:40 นำไปสู่ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดภาวะขาด
00:08:40 → 00:08:43 น้ำอย่างรุนแรงหรือแม้กระทั่งการติดเชื้อ
00:08:43 → 00:08:46 ที่เป็นอันตรายต่อเยื่อบู่หัวใจซึ่งเป็น
00:08:46 → 00:08:49 ภาวะที่ร้ายแรงมากดังนั้นเพื่อความปลอด
00:08:49 → 00:08:53 ภัยอย่างสูงสุดหากคุณชื่นชอบถั่วงอกควรนำ
00:08:53 → 00:08:56 ไปปรุงให้สุขก่อนบริโภคเสมอครับไม่ว่าจะ
00:08:56 → 00:08:59 เป็นการผัดการลวกหรือการนึ่งการปรุงให้
00:08:59 → 00:09:02 สุกด้วยความร้อนที่เหมาะสมจะช่วยฆ่าเชื้อ
00:09:02 → 00:09:04 แบคทีเรียที่เป็นอันตรายเหล่านี้ได้อย่าง
00:09:04 → 00:09:07 มีประสิทธิภาพและทำให้คุณสามารถอร่อยกับ
00:09:07 → 00:09:10 ถั่วงอกได้อย่างสบายใจครับ
00:09:10 → 00:09:13 ท่านผู้ฟังทุกท่านครับหลังจากที่เราได้
00:09:13 → 00:09:16 สำรวจผัก 5 ชนิดที่ต้องระวังกันไปแล้วผม
00:09:16 → 00:09:18 อยากจะเน้นย้ำอีกครั้งว่าเป้าหมายของเรา
00:09:18 → 00:09:21 ไม่ใช่การทำให้คุณกลัวการกินผักหรือการงด
00:09:21 → 00:09:24 ผักเหล่านี้ไปเสียทั้งหมดแต่เป็นการสร้าง
00:09:24 → 00:09:27 ความเข้าใจเพื่อให้คุณสามารถเลือกและ
00:09:27 → 00:09:30 เตรียมอาหารได้อย่างชานฉลาดและปลอดภัยที่
00:09:30 → 00:09:34 สุดสำหรับหัวใจของคุณผมได้เห็นมาแล้วหลาย
00:09:34 → 00:09:37 ต่อหลายคนผู้สูงอายุที่เคยรู้สึกเหนื่อย
00:09:37 → 00:09:40 ง่ายหายใจไม่เต็มอิ่มหรือรู้สึกท้อแท้
00:09:40 → 00:09:44 กลับมามีชีวิตชีวามีชีพจรที่แข็งแรงขึ้น
00:09:44 → 00:09:47 มีความคิดที่แจ่มใสขึ้นและก้าวเดินได้
00:09:47 → 00:09:49 อย่างคล่องแคล่อีกครั้งไม่ใช่เพราะพวกเขา
00:09:49 → 00:09:52 ทำอะไรที่รุนแรงหรือสุดโต่งแต่เป็นเพราะ
00:09:52 → 00:09:55 พวกเขาใส่ใจพวกเขาฟังเสียงร่างกายของตัว
00:09:55 → 00:09:59 เองและเลือกทำสิ่งที่ดีขึ้นในแต่ละวันคุณ
00:09:59 → 00:10:01 ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบครับเพียงแค่มี
00:10:01 → 00:10:05 ความสม่ำเสมอหัวใจของคุณยังคงมีเวลายังคง
00:10:05 → 00:10:08 มีพละกำลังและยังคงมีความรักที่จะมอบให้
00:10:08 → 00:10:11 กับคุณครอบครัวของคุณและชีวิตที่คุณสร้าง
00:10:11 → 00:10:14 สรรค์มาอย่างยากลำบากดังนั้นมาเริ่มต้น
00:10:14 → 00:10:17 กันตั้งแต่วันนี้ทบทวนสิ่งที่อยู่ในจาน
00:10:17 → 00:10:21 อาหารของคุณทบทวนนิสัยการกินของคุณและทวง
00:10:21 → 00:10:24 คืนพลังงานชีวิตของคุณกลับคืนมาเพราะทุก
00:10:24 → 00:10:27 จังหวะการเต้นของหัวใจครั้งต่อไปคือของ
00:10:27 → 00:10:29 ขวัญอันล้ำค่าและมันคือหน้าที่ของคุณที่
00:10:29 → 00:10:33 จะปกป้องมันไว้ให้ดีที่สุดครับก่อนจากกัน
00:10:33 → 00:10:36 ในวันนี้ผมอยากชี้แจงให้ทราบว่าเนื้อหาใน
00:10:36 → 00:10:39 พดcสของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูล
00:10:39 → 00:10:42 และความรู้ทั่วไปเท่านั้นไม่สามารถใช้
00:10:42 → 00:10:45 อ้างอิงหรือทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ได้คุณ
00:10:45 → 00:10:48 ผู้ฟังควรพิจารณาและใช้วิจารณญาณในการตัด
00:10:48 → 00:10:51 สินใจด้วยตนเองและหากมีข้อสงสัยเรื่อง
00:10:51 → 00:10:54 สุขภาพควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทาง
00:10:54 → 00:10:58 การแพทย์เสมอนะครับหากคุณชื่นชอบพcส.ของ
00:10:58 → 00:11:01 เราอย่าลืมกดติดตามและแชร์ให้เพื่อนๆหรือ
00:11:01 → 00:11:04 คนในครอบครัวที่คุณรักนะครับเพราะการแบ่ง
00:11:04 → 00:11:07 ปันความรู้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
00:11:07 → 00:11:10 ขอบคุณที่รับฟังแล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า
00:11:10 → 00:11:14 สวัสดีครับ