00:00:07 → 00:00:08 คุณผู้ชมคะ
00:00:08 → 00:00:10 ตอนนี้จิ๊กอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพค่ะ
00:00:10 → 00:00:12 วันนี้ขอเอาใจสาวๆ ที่กำลังไดเอท
00:00:12 → 00:00:15 หรือว่าลดความอ้วนด้วยการทานผลไม้ค่ะ
00:00:15 → 00:00:17 และตอนนี้เราอยู่กับคุณหมอแอมป์ค่ะ
00:00:17 → 00:00:18 คุณหมอ สวัสดีค่ะ
00:00:18 → 00:00:20 สวัสดีครับ
00:00:20 → 00:00:21 หมอแอมป์คะ ถ้าอย่างนั้น
00:00:21 → 00:00:23 แนะนำจิ๊กกับคุณผู้ชมได้ไหมคะว่า
00:00:23 → 00:00:26 ผลไม้อะไรที่ทานแล้วอ้วนบ้างคะ
00:00:26 → 00:00:29 อันนี้นอกเหนือทฤษฎีแล้ว เอาปากกาจดเลยดีกว่า
00:00:29 → 00:00:31 อะไรที่กินแล้วอ้วน
00:00:31 → 00:00:32 คือส่วนใหญ่ที่กินแล้วนิ่มๆ
00:00:32 → 00:00:35 ส่วนใหญ่นิ่มๆ และหวานๆ
00:00:35 → 00:00:40 เช่น ลิ้นจี่ ลำไย ลางสาด ลองกอง
00:00:40 → 00:00:45 ทุเรียน สับปะรด แตงโม มะม่วงสุก
00:00:45 → 00:00:48 แตงโมนี่คือตัวอย่างที่ผมบอก
00:00:48 → 00:00:49 แตงโมนี่หวานน้อยกว่ามะม่วง
00:00:49 → 00:00:52 หวานน้อยกว่าสับปะรด แต่น้ำตาลสูงกว่า
00:00:52 → 00:00:53 เพราะฉะนั้นแล้วนี่
00:00:53 → 00:00:55 น้ำตาลไม่ได้วัดที่ความหวานอย่างเดียว
00:00:55 → 00:00:57 วัดที่การดูดซึม วัดที่หลายๆ ส่วน
00:00:57 → 00:00:59 กลุ่มที่พูดมาส่วนใหญ่นี่
00:00:59 → 00:01:01 ผมเล่าไม่จบเพราะกลุ่มที่กินแล้วอ้วนนี่เยอะ
00:01:01 → 00:01:03 เอาอันไหนไม่อ้วนดีกว่า
00:01:03 → 00:01:05 เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า
00:01:05 → 00:01:07 สาวๆ หลายๆ คน อ้วนแล้วหรือยัง
00:01:07 → 00:01:08 โดยวัดจากดัชนีมวลกาย
00:01:08 → 00:01:11 หรือ Body Mass Index หรือ BMI
00:01:11 → 00:01:13 คือค่าที่ได้จากการนำน้ำหนักตัว
00:01:13 → 00:01:14 และส่วนสูงมาคำนวณ
00:01:14 → 00:01:17 เพื่อประเมินหาส่วนไขมันในร่างกาย
00:01:17 → 00:01:19 ดัชนีมวลกายเท่ากับน้ำหนักตัว
00:01:19 → 00:01:20 หารด้วยความสูง
00:01:20 → 00:01:21 เมื่อคำนวณแล้ว
00:01:21 → 00:01:25 ถ้ามีค่า BMI 18.5-24.9
00:01:25 → 00:01:27 ถือว่ามีน้ำหนักตัวปกติ
00:01:27 → 00:01:29 แต่ถ้า BMI มากกว่า 25
00:01:29 → 00:01:31 ถือว่ามีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติ
00:01:31 → 00:01:34 และถ้ามีค่า BMI มากกว่า 30
00:01:34 → 00:01:35 ถือว่าอ้วน
00:01:35 → 00:01:37 ลองนำไปทำตามนะคะสาวๆ
00:01:37 → 00:01:38 แล้วเราจะได้ดูแลน้ำหนักตัวเรา
00:01:38 → 00:01:40 ให้ถูกต้องยิ่งขึ้นค่ะ
00:01:40 → 00:01:42 อันไหนกินได้ กินแล้วไม่อ้วนคือ
00:01:42 → 00:01:45 กินแล้วแข็งๆ ส่วนใหญ่จะปลอดภัย
00:01:45 → 00:01:47 กินแอปเปิ้ลไม่อ้วน
00:01:47 → 00:01:48 กินฝรั่งไม่อ้วน
00:01:48 → 00:01:50 มะม่วงดิบพอได้
00:01:50 → 00:01:52 และผลไม้พิเศษอีกกลุ่มหนึ่งคือ
00:01:52 → 00:01:53 น้ำตาลน้อยทั้งๆ ที่หวาน
00:01:53 → 00:01:55 คือพวกที่ลงท้ายด้วยเบอร์รี่
00:01:55 → 00:01:57 บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่
00:01:57 → 00:01:59 เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่
00:01:59 → 00:02:00 พวกนี้ไม่เยอะ
00:02:00 → 00:02:02 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ เต็มที่เท่านี้
00:02:02 → 00:02:04 ตบะแตกจริงๆ เท่านี้
00:02:04 → 00:02:08 ห้ามขนาดนี้ สองตะกร้าก็ไม่ได้
00:02:08 → 00:02:11 พวกนี้คือน้ำตาลในผลไม้ ก็เป็นตัวสำคัญว่า
00:02:11 → 00:02:12 ถ้าเรากินผลไม้
00:02:12 → 00:02:15 ผมบอกว่าผลไม้ดีกับร่างกาย
00:02:15 → 00:02:18 แต่จะดีกว่าคือถ้าเรากินมื้อเช้า
00:02:18 → 00:02:19 เรากินมื้อกลางวัน
00:02:19 → 00:02:21 มื้อเย็นเราก็อย่าไปกินเยอะ
00:02:21 → 00:02:23 เพราะมื้อเย็นผมเคยบอกแล้วว่า
00:02:23 → 00:02:25 น้ำตาลเยอะไม่ดี
00:02:25 → 00:02:26 เราไม่ใส่เข้าไปเลย
00:02:26 → 00:02:28 เราก็จะช่วยตัวเองได้มากขึ้นกว่าเดิม
00:02:28 → 00:02:31 หรือถ้าจะกินจริงๆ ก็กินแอปเปิ้ล กินฝรั่ง
00:02:31 → 00:02:33 แต่กลับกันคืออาหารที่น้ำตาลน้อย
00:02:33 → 00:02:35 มักจะไม่ค่อยมีคนชอบกิน
00:02:35 → 00:02:37 จะชอบกินอะไรที่มันนิ่มๆ หวานๆ
00:02:37 → 00:02:39 กินแล้วอารมณ์ดี กินแล้วเพลินดี
00:02:39 → 00:02:41 พวกนี้ก็อ้วนเสียเยอะ
00:02:41 → 00:02:43 หลักการกินผลไม้ให้ถูก
00:02:43 → 00:02:45 จริงๆ แล้วควรทานหลังอาหารไหมคะ
00:02:45 → 00:02:47 อย่างที่เขาบอกว่าทานผลไม้ล้างปาก
00:02:47 → 00:02:49 หลังจากมื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น
00:02:49 → 00:02:51 หรือว่าเราควรทานเป็นมื้อว่างดีคะ
00:02:51 → 00:02:53 ไม่มีปัญหา
00:02:53 → 00:02:54 บางคนในเมืองนอกนี่
00:02:54 → 00:02:56 ฝรั่งเขากินก่อนอาหาร
00:02:56 → 00:02:57 เพราะเขากระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่ง
00:02:57 → 00:03:00 ช่วงกินอาหารจะได้มีน้ำย่อยมาย่อยเยอะ
00:03:00 → 00:03:02 บางคนก็ไปกินหลังอาหาร
00:03:02 → 00:03:04 เพราะแทนที่จะกินกล้วยบวดชี
00:03:04 → 00:03:05 กินทองหยิบทองหยอด
00:03:05 → 00:03:07 กินไอศกรีม 4-5 ลูก
00:03:07 → 00:03:09 กินผลไม้ก็ยังดีนะ น้ำตาลจะได้ไม่ขึ้น
00:03:09 → 00:03:12 อันนี้ก็แล้วแต่ตัวเรา ได้หมดล่ะครับ
00:03:12 → 00:03:14 ถ้าเรากินในปริมาณที่เหมาะสม
00:03:14 → 00:03:16 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เน้นย้ำ
00:03:16 → 00:03:18 ห้ามกินผลไม้แทนมื้ออาหาร
00:03:18 → 00:03:21 ไม่รอด อันนี้ไม่แนะนำ
00:03:21 → 00:03:22 อ้วนแน่นอน
00:03:22 → 00:03:24 สำหรับสาวๆ ท่านไหนนะคะ
00:03:24 → 00:03:26 ที่เลือกทานผลไม้เป็นมื้อเย็น
00:03:26 → 00:03:28 ตอนนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วนะคะ
00:03:28 → 00:03:30 วันนี้ทางรายการต้องขอขอบคุณ
00:03:30 → 00:03:32 คุณหมอแอมป์มากนะคะ ขอบคุณค่ะ
00:03:32 → 00:03:32 สวัสดีครับ
00:00:07 → 00:00:08 คุณผู้ชมคะ
00:00:08 → 00:00:10 ตอนนี้จิ๊กอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพค่ะ
00:00:10 → 00:00:12 วันนี้ขอเอาใจสาวๆ ที่กำลังไดเอท
00:00:12 → 00:00:15 หรือว่าลดความอ้วนด้วยการทานผลไม้ค่ะ
00:00:15 → 00:00:17 และตอนนี้เราอยู่กับคุณหมอแอมป์ค่ะ
00:00:17 → 00:00:18 คุณหมอ สวัสดีค่ะ
00:00:18 → 00:00:20 สวัสดีครับ
00:00:20 → 00:00:21 หมอแอมป์คะ ถ้าอย่างนั้น
00:00:21 → 00:00:23 แนะนำจิ๊กกับคุณผู้ชมได้ไหมคะว่า
00:00:23 → 00:00:26 ผลไม้อะไรที่ทานแล้วอ้วนบ้างคะ
00:00:26 → 00:00:29 อันนี้นอกเหนือทฤษฎีแล้ว เอาปากกาจดเลยดีกว่า
00:00:29 → 00:00:31 อะไรที่กินแล้วอ้วน
00:00:31 → 00:00:32 คือส่วนใหญ่ที่กินแล้วนิ่มๆ
00:00:32 → 00:00:35 ส่วนใหญ่นิ่มๆ และหวานๆ
00:00:35 → 00:00:40 เช่น ลิ้นจี่ ลำไย ลางสาด ลองกอง
00:00:40 → 00:00:45 ทุเรียน สับปะรด แตงโม มะม่วงสุก
00:00:45 → 00:00:48 แตงโมนี่คือตัวอย่างที่ผมบอก
00:00:48 → 00:00:49 แตงโมนี่หวานน้อยกว่ามะม่วง
00:00:49 → 00:00:52 หวานน้อยกว่าสับปะรด แต่น้ำตาลสูงกว่า
00:00:52 → 00:00:53 เพราะฉะนั้นแล้วนี่
00:00:53 → 00:00:55 น้ำตาลไม่ได้วัดที่ความหวานอย่างเดียว
00:00:55 → 00:00:57 วัดที่การดูดซึม วัดที่หลายๆ ส่วน
00:00:57 → 00:00:59 กลุ่มที่พูดมาส่วนใหญ่นี่
00:00:59 → 00:01:01 ผมเล่าไม่จบเพราะกลุ่มที่กินแล้วอ้วนนี่เยอะ
00:01:01 → 00:01:03 เอาอันไหนไม่อ้วนดีกว่า
00:01:03 → 00:01:05 เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า
00:01:05 → 00:01:07 สาวๆ หลายๆ คน อ้วนแล้วหรือยัง
00:01:07 → 00:01:08 โดยวัดจากดัชนีมวลกาย
00:01:08 → 00:01:11 หรือ Body Mass Index หรือ BMI
00:01:11 → 00:01:13 คือค่าที่ได้จากการนำน้ำหนักตัว
00:01:13 → 00:01:14 และส่วนสูงมาคำนวณ
00:01:14 → 00:01:17 เพื่อประเมินหาส่วนไขมันในร่างกาย
00:01:17 → 00:01:19 ดัชนีมวลกายเท่ากับน้ำหนักตัว
00:01:19 → 00:01:20 หารด้วยความสูง
00:01:20 → 00:01:21 เมื่อคำนวณแล้ว
00:01:21 → 00:01:25 ถ้ามีค่า BMI 18.5-24.9
00:01:25 → 00:01:27 ถือว่ามีน้ำหนักตัวปกติ
00:01:27 → 00:01:29 แต่ถ้า BMI มากกว่า 25
00:01:29 → 00:01:31 ถือว่ามีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติ
00:01:31 → 00:01:34 และถ้ามีค่า BMI มากกว่า 30
00:01:34 → 00:01:35 ถือว่าอ้วน
00:01:35 → 00:01:37 ลองนำไปทำตามนะคะสาวๆ
00:01:37 → 00:01:38 แล้วเราจะได้ดูแลน้ำหนักตัวเรา
00:01:38 → 00:01:40 ให้ถูกต้องยิ่งขึ้นค่ะ
00:01:40 → 00:01:42 อันไหนกินได้ กินแล้วไม่อ้วนคือ
00:01:42 → 00:01:45 กินแล้วแข็งๆ ส่วนใหญ่จะปลอดภัย
00:01:45 → 00:01:47 กินแอปเปิ้ลไม่อ้วน
00:01:47 → 00:01:48 กินฝรั่งไม่อ้วน
00:01:48 → 00:01:50 มะม่วงดิบพอได้
00:01:50 → 00:01:52 และผลไม้พิเศษอีกกลุ่มหนึ่งคือ
00:01:52 → 00:01:53 น้ำตาลน้อยทั้งๆ ที่หวาน
00:01:53 → 00:01:55 คือพวกที่ลงท้ายด้วยเบอร์รี่
00:01:55 → 00:01:57 บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่
00:01:57 → 00:01:59 เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่
00:01:59 → 00:02:00 พวกนี้ไม่เยอะ
00:02:00 → 00:02:02 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ เต็มที่เท่านี้
00:02:02 → 00:02:04 ตบะแตกจริงๆ เท่านี้
00:02:04 → 00:02:08 ห้ามขนาดนี้ สองตะกร้าก็ไม่ได้
00:02:08 → 00:02:11 พวกนี้คือน้ำตาลในผลไม้ ก็เป็นตัวสำคัญว่า
00:02:11 → 00:02:12 ถ้าเรากินผลไม้
00:02:12 → 00:02:15 ผมบอกว่าผลไม้ดีกับร่างกาย
00:02:15 → 00:02:18 แต่จะดีกว่าคือถ้าเรากินมื้อเช้า
00:02:18 → 00:02:19 เรากินมื้อกลางวัน
00:02:19 → 00:02:21 มื้อเย็นเราก็อย่าไปกินเยอะ
00:02:21 → 00:02:23 เพราะมื้อเย็นผมเคยบอกแล้วว่า
00:02:23 → 00:02:25 น้ำตาลเยอะไม่ดี
00:02:25 → 00:02:26 เราไม่ใส่เข้าไปเลย
00:02:26 → 00:02:28 เราก็จะช่วยตัวเองได้มากขึ้นกว่าเดิม
00:02:28 → 00:02:31 หรือถ้าจะกินจริงๆ ก็กินแอปเปิ้ล กินฝรั่ง
00:02:31 → 00:02:33 แต่กลับกันคืออาหารที่น้ำตาลน้อย
00:02:33 → 00:02:35 มักจะไม่ค่อยมีคนชอบกิน
00:02:35 → 00:02:37 จะชอบกินอะไรที่มันนิ่มๆ หวานๆ
00:02:37 → 00:02:39 กินแล้วอารมณ์ดี กินแล้วเพลินดี
00:02:39 → 00:02:41 พวกนี้ก็อ้วนเสียเยอะ
00:02:41 → 00:02:43 หลักการกินผลไม้ให้ถูก
00:02:43 → 00:02:45 จริงๆ แล้วควรทานหลังอาหารไหมคะ
00:02:45 → 00:02:47 อย่างที่เขาบอกว่าทานผลไม้ล้างปาก
00:02:47 → 00:02:49 หลังจากมื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น
00:02:49 → 00:02:51 หรือว่าเราควรทานเป็นมื้อว่างดีคะ
00:02:51 → 00:02:53 ไม่มีปัญหา
00:02:53 → 00:02:54 บางคนในเมืองนอกนี่
00:02:54 → 00:02:56 ฝรั่งเขากินก่อนอาหาร
00:02:56 → 00:02:57 เพราะเขากระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่ง
00:02:57 → 00:03:00 ช่วงกินอาหารจะได้มีน้ำย่อยมาย่อยเยอะ
00:03:00 → 00:03:02 บางคนก็ไปกินหลังอาหาร
00:03:02 → 00:03:04 เพราะแทนที่จะกินกล้วยบวดชี
00:03:04 → 00:03:05 กินทองหยิบทองหยอด
00:03:05 → 00:03:07 กินไอศกรีม 4-5 ลูก
00:03:07 → 00:03:09 กินผลไม้ก็ยังดีนะ น้ำตาลจะได้ไม่ขึ้น
00:03:09 → 00:03:12 อันนี้ก็แล้วแต่ตัวเรา ได้หมดล่ะครับ
00:03:12 → 00:03:14 ถ้าเรากินในปริมาณที่เหมาะสม
00:03:14 → 00:03:16 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เน้นย้ำ
00:03:16 → 00:03:18 ห้ามกินผลไม้แทนมื้ออาหาร
00:03:18 → 00:03:21 ไม่รอด อันนี้ไม่แนะนำ
00:03:21 → 00:03:22 อ้วนแน่นอน
00:03:22 → 00:03:24 สำหรับสาวๆ ท่านไหนนะคะ
00:03:24 → 00:03:26 ที่เลือกทานผลไม้เป็นมื้อเย็น
00:03:26 → 00:03:28 ตอนนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วนะคะ
00:03:28 → 00:03:30 วันนี้ทางรายการต้องขอขอบคุณ
00:03:30 → 00:03:32 คุณหมอแอมป์มากนะคะ ขอบคุณค่ะ
00:03:32 → 00:03:32 สวัสดีครับ