00:00:00 → 00:00:04 น้ำผึ้ง 1 ในอาหารโปรดของหลายท่านแต่ใน

00:00:04 → 00:00:06 ศาสตร์แพทย์แผนจีนน้ำผึ้งจะมีบทบาทอย่าง

00:00:06 → 00:00:09 ไรสรรพคุณและข้อห้ามของน้ำผึ้งเป็นอย่าง

00:00:09 → 00:00:11 ไรต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและคำแนะนำจาก

00:00:12 → 00:00:15 ผู้เชี่ยวชาญ

00:00:15 → 00:00:19 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทยอสมทสอบ

00:00:19 → 00:00:20 ถามกับหัวหน้าหลักสูตรแพทย์แผนจีน

00:00:21 → 00:00:23 วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกมหาวิทยาลัย

00:00:23 → 00:00:26 รังสิตน้ำผึ้งเนี่ยมันเป็นของที่มีรสหวาน

00:00:26 → 00:00:29 ในทางที่มีแพทย์จีนของที่มันเป็นรสหวาน

00:00:29 → 00:00:31 เนี่ยมันจะบำรุงม้าม้านี่คือระบบย่อย

00:00:31 → 00:00:34 อาหารแล้วก็มันยังมีฤทธิ์ในการบำรุงปอด

00:00:34 → 00:00:36 มันมีคุณสมบัติออกไปทางร้อนเทียบน้ำผึ้ง

00:00:36 → 00:00:39 กับผลไม้ในยาจีนพุทราจีนก็มีส่วนคล้ายๆ

00:00:39 → 00:00:41 กันแต่ว่าในการใช้จริงๆเนี่ยส่วนมากไม่

00:00:41 → 00:00:43 ได้ใช้เดี่ยวๆชาวจีนมักจะใช้เป็นตำรับ

00:00:43 → 00:00:45 เพื่อเพิ่มฤทธิ์ของการรักษาขณะเดียวกันก็

00:00:45 → 00:00:48 จะลดผลข้างเคียงของการรักษาด้วยในทาง

00:00:48 → 00:00:50 แพทย์จีนก็จะเอามาใช้ในลักษณะประมาณนี้

00:00:50 → 00:00:53 สรรพคุณน้ำผึ้งในระบบทางเดินหายใจเรื่อง

00:00:53 → 00:00:55 ทางเดินหายใจกินแล้วเนี่ยมันก็จะทำให้

00:00:55 → 00:00:57 เกิดความชุ่มชื้นขับเสมหะทำให้เกิดความ

00:00:57 → 00:01:00 ชุ่มคอปอดเนี่ยถ้ามันมีความชุ่มชื้นเนี่ย

00:01:00 → 00:01:03 จะไม่ระคายเคืองและถ้าเราผสมมะนาวหรือผสม

00:01:03 → 00:01:05 บ๊วยเข้าไปความเปรี้ยวเนี่ยมันมีลักษณะ

00:01:05 → 00:01:08 ดึงรั้งก็จะขโมยเสมหะอะไรต่างๆขับออกมา

00:01:08 → 00:01:10 ได้สรรพคุณน้ำผึ้งในระบบทางเดินอาหารขณะ

00:01:10 → 00:01:13 เดียวกันมันก็เกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่

00:01:13 → 00:01:15 เพราะฉะนั้นการกินน้ำผึ้งก็ช่วยทำให้เกิด

00:01:15 → 00:01:17 การระบายทำให้หล่อลื่นลำไส้ก็จะทำให้คน

00:01:18 → 00:01:20 ที่ท้องผูกสามารถจะถ่ายได้ดีขึ้นเพราะว่า

00:01:20 → 00:01:22 มันเกิดความชุ่มชื้นในลำไส้ไปด้วยสรรพคุณ

00:01:22 → 00:01:25 น้ำผึ้งลดอาการปวดเกร็งตัวน้ำผึ้งเอง

00:01:25 → 00:01:27 เนี่ยมันมีคุณสมบัติคล้ายๆชะเอมมันมีรส

00:01:27 → 00:01:30 หวานช่วยลดอาการปวดเกร็งเพราะเวลาคนที่

00:01:30 → 00:01:33 ปวดท้องเนื่องจากความเย็นในกระเพาะมากน้ำ

00:01:33 → 00:01:35 ผึ้งมันมีฤทธิ์ลดการบดเกร็งได้และทำให้

00:01:35 → 00:01:38 ระบบย่อยอาหารดีขึ้นได้เกิดพลังขึ้น

00:01:38 → 00:01:40 สรรพคุณน้ำผึ้งการทาภายนอกเพื่อฆ่าเชื้อ

00:01:40 → 00:01:43 การทาภายนอกเพราะว่าฤทธิ์ของน้ำผึ้งเนี่ย

00:01:43 → 00:01:45 ใช้ภายนอกแล้วฆ่าเชื้อแบคทีเรียฆ่าเชื้อ

00:01:45 → 00:01:48 ราฆ่าอะไรได้บางคนก็เอามาใช้ทำในแผลที่

00:01:48 → 00:01:50 มันอักเสบเรื้อรังได้คือทางโบราณก็มีการ

00:01:50 → 00:01:52 ใช้นะครับกรณีที่เกิดแผลแล้วก็ให้ความ

00:01:52 → 00:01:55 ชุ่มชื้นกับแผลแล้วก็เชื้อก็ไม่สามารถ

00:01:55 → 00:01:58 แบ่งตัวได้ดีแต่น้ำผึ้งก็มีข้อห้ามใช้น้ำ

00:01:58 → 00:02:00 ผึ้งเนี่ยเรามีข้อห้ามใช้ก็คือว่าคนที่

00:02:00 → 00:02:03 ท้องเสียถ้ามีอาการท้องเสียง่ายน้ำผึ้ง

00:02:03 → 00:02:06 เนี่ยห้ามใช้กับคนที่มีภาวะข้างในร้อน

00:02:06 → 00:02:08 เค้าเรียกร้อนชื้นคือร้อนชื้นนี่เป็นภาวะ

00:02:08 → 00:02:11 ที่ร่างกายเนี่ยเหมือนกับมีของเหลวในร่าง

00:02:11 → 00:02:13 กายพ่นเหนียวอ่ะเพราะพวกนี้มันเป็นตัวของ

00:02:13 → 00:02:15 ให้เกิดตัวคอเลสเตอรอลเองคนจีนเรียกว่า

00:02:15 → 00:02:16 เป็นเสมหะหรือความความชื้นเช่นเป็นคนอ้วน

00:02:16 → 00:02:20 ๆบวมๆจิ๋วเก่งและข้างในออกไปทางร้อนและ

00:02:20 → 00:02:23 ลิ้นมีฝ้าเหลืองอีกนะพวกนี้ห้ามกินกิน

00:02:23 → 00:02:25 เข้าไปแล้วมันยิ่งเสริมความชื้นความหมัก

00:02:25 → 00:02:27 หมมในร่างกายมากขึ้นสำหรับคนที่กินหวาน

00:02:27 → 00:02:29 หรือคนทั่วไปนี่ถ้าอยากจะใช้ก็ควรจะต้อง

00:02:29 → 00:02:31 จำกัดจำนวนนิดนึงหรือเด็กเล็กๆก็ไม่นิยม

00:02:31 → 00:02:34 ไม่ใช้ด้วยนะครับอายุน้อยๆ 3 ขวบเนี่ยเรา

00:02:34 → 00:02:36 พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ของหวานที่ออกไปใน

00:02:36 → 00:02:38 เชิงลักษณะอย่างนี้นะครับโดยเฉพาะคนที่

00:02:38 → 00:02:41 เป็นเบาหวานน้ำผึ้งอาจยิ่งซ้ำเติมอาการใน

00:02:41 → 00:02:43 ทางไปฉีดก็ไม่ค่อยแนะนำนะครับคนที่เป็น

00:02:43 → 00:02:45 เบาหวานที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

00:02:45 → 00:02:47 เนี่ยอย่าไปคิดว่าเฮ้ยกินน้ำผึ้งแทนน้ำ

00:02:47 → 00:02:49 ตาลได้เลยเพราะว่าน้ำผึ้งเนี่ยมีทั้ง

00:02:49 → 00:02:51 ฟรุกโตสประมาณทั้ง 38% แล้วก็กลูโคส

00:02:51 → 00:02:54 ประมาณ 30% ซึ่งกลูโคสเองเนี่ยทำให้น้ำ

00:02:54 → 00:02:56 ตาลดีเซลสูงไอ้ตัวฟรุกโตสเองเนี่ยมันก็

00:02:56 → 00:02:58 สามารถดูดซึมทีเดียวก็ไปที่ตับเลยนะซึ่ง

00:02:58 → 00:03:00 ถ้าปริมาณมากเกินไปมันก็จะทำให้เกิดไขมัน

00:03:00 → 00:03:03 พอกตับได้แล้วก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องไข

00:03:03 → 00:03:05 มันในเลือดสูงได้อีกอย่าได้มองเห็นอะไร

00:03:05 → 00:03:07 เป็นเรื่องของประโยชน์อย่างเดียวมันมีโทษ

00:03:07 → 00:03:10 ได้ถ้าใช้ไม่ถูกและที่สำคัญตามหลักแพทย์

00:03:10 → 00:03:12 แผนจีนจะต้องดูเรื่องความร้อนหรือต้องดู

00:03:12 → 00:03:14 ตามสภาพร่างกายเลยนะสมมุติว่าในกรณีนี้

00:03:14 → 00:03:17 ชัดเจนพอมีความเย็นๆในท้องและระบบร่างกาย

00:03:17 → 00:03:19 เราไม่มีพลังเนาะแล้วถ้าเป็นเรื่องระบบ

00:03:19 → 00:03:21 นี้ล้วนๆนะพวกนี้สามารถกินได้มันจะเสริม

00:03:21 → 00:03:23 พลังเหมือนกับกินกลูโคสนั่นแหละนะแต่ว่า

00:03:23 → 00:03:25 มันจะมีลักษณะพิเศษคือมันมีวิตามินมีอะไร

00:03:25 → 00:03:27 อีกเยอะแยะเลยนั้นคุณค่ามันก็จะมากกว่า

00:03:27 → 00:03:29 กินน้ำตาลธรรมดาแน่นอนแล้วเราก็สามารถใช้

00:03:29 → 00:03:32 ขิงหรือใช้อบเชยอะไรก็ได้ในกรณีที่มัน

00:03:32 → 00:03:33 เย็นเนี่ยอันนี้ผมคิดว่ามันก็เสริมทำให้

00:03:33 → 00:03:36 กระเพาะเราอุ่นขึ้นการย่อยการดูดซึมก็จะ

00:03:36 → 00:03:38 ดีขึ้นส่วนคนที่ท้องผูกนี่ก็อาจจะเอามา

00:03:38 → 00:03:40 ใช้ได้เหมือนกันนะครับในกรณีที่เราไม่มี

00:03:40 → 00:03:42 หวานเลยแทนที่เรากินน้ำตาลเราก็มากินพวก

00:03:42 → 00:03:44 นี้แทนก็ช่วยกันระบายได้ด้วยดังนั้นแม้

00:03:44 → 00:03:47 น้ำผึ้งจะมีสรรพคุณที่ดีแต่ก็ไม่ใช่ว่า

00:03:47 → 00:03:49 เหมาะกับทุกคนทุกกรณีน้ำผึ้งมีประโยชน์

00:03:49 → 00:03:52 แต่ว่าในทางการใช้นะครับก็เรื่องนึงอยู่

00:03:52 → 00:03:54 ที่การใช้ให้ถูกกับคนถูกเวลาถูกสถานที่

00:03:54 → 00:03:57 ตามเงื่อนไขที่เป็นจริงนะใช้ให้เหมาะสมดู

00:03:57 → 00:03:59 สภาพร่างกายด้วยเนาะถ้าเห็นอะไรก็ตามว่า

00:03:59 → 00:04:01 ถ้าเป็นน้ำผึ้งแล้วเป็นของธรรมชาติมัน

00:04:01 → 00:04:04 เป็นของดีที่ไม่มีข้อเสียเลยผมคืออันนี้

00:04:04 → 00:04:06 ไม่จริงนะทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียทั้งนั้น

00:04:06 → 00:04:08 นะครับสุดท้ายก็คงสรุปว่าถ้าอะไรที่มัน

00:04:08 → 00:04:11 เป็นการใช้นานๆในเชิงการรักษาโรคนะครับผม

00:04:11 → 00:04:14 คิดว่าคงจะต้องหาข้อมูลแล้วก็หาผู้ที่รู้

00:04:14 → 00:04:17 แนะนำการไว้ให้ถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์

00:04:17 → 00:04:20 มากกว่าที่จะใช้ตามความรู้สึกและตามการ

00:04:20 → 00:04:23 ที่เขาแชร์ออกมาครับทำความเข้าใจและเลือก

00:04:23 → 00:04:25 ใช้ทุกอย่างตามข้อเท็จจริงนะครับเชิญทุก

00:04:25 → 00:04:27 ท่านสมัครรับฟรีช่วงก่อนแชร์ News

00:04:27 → 00:04:29 leather จดหมายข่าวรู้เท่าทันส่งถึง

00:04:29 → 00:04:31 กล่องอีเมลของท่านทุกสัปดาห์ติดตามได้ที่

00:04:31 → 00:04:34 YouTube โชว์ก่อนแชร์นะครับยังมีอีกหลาย

00:04:34 → 00:04:36 เรื่องน่าสงสัยเพื่อสังคมออนไลน์หากได้

00:04:36 → 00:04:38 รับอะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อร่วมตรวจสอบไป

00:04:38 → 00:04:40 ด้วยกันกับช่วงก่อนแชร์

00:04:40 → 00:04:42 [เพลง]

00:04:42 → 00:04:49 อยากรู้แน่ต้องสงสัยไม่มั่นใจไม่ต้องแชร์

00:04:49 → 00:04:53 สนับสนุนโดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและ

00:04:53 → 00:04:54 สร้างสรรค์

00:04:54 → 00:04:59 สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม