00:00:00 → 00:00:02 This Is tha PBS podcast View the
00:00:02 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:07 Voice การจะเริ่มอะไรก็ตามนเหมือนการ
00:00:07 → 00:00:10 สร้างบ้านน่ะถ้าเรามัวแต่สร้างบ้านที่คน
00:00:10 → 00:00:12 อื่นอยากอยู่แต่เราไม่ได้อยากอยู่หรือเรา
00:00:12 → 00:00:14 อยากสร้างบ้านให้คนอื่นมองเข้ามาแล้วรู้
00:00:14 → 00:00:16 สึกบ้านนี้ดีแต่เราอยู่เองเราไม่รู้สึกดี
00:00:16 → 00:00:17 สิ่งเนี้ยมันจะกลายเป็นว่าการสร้างมันก็
00:00:17 → 00:00:19 ไม่มีความหมายกับตัวเราครับการตั้งเป้า
00:00:19 → 00:00:21 หมายมันสำคัญเนาะเพราะจะทำให้เรามีทิศทาง
00:00:21 → 00:00:23 ว่าในปีนั้นเราอยากใช้ชีวิตแบบไหนและเป้า
00:00:23 → 00:00:26 หมายครับที่ดีควรจะเซตขึ้นมาจากตัวเรา
00:00:26 → 00:00:28 เป็นเป้าหมายที่มีความหมายกับตัวเราแล้ว
00:00:28 → 00:00:31 เราเห็นว่าถ้าเราไปถึงเป้าหมายนั้นเราจะ
00:00:31 → 00:00:33 รู้สึกชอบบชีวิตตัวเรามากขึ้นเป้าหมายใน
00:00:33 → 00:00:35 อนาคตเป็นอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและมองไม่
00:00:35 → 00:00:38 เห็นแต่เราสามารถเสกได้สร้างได้ทีหลังแต่
00:00:38 → 00:00:40 อดีตของเราคือเมมรี่หรือประสบการณ์หรือ
00:00:40 → 00:00:42 ความทรงจำหรืออาจจะเป็นการเรียนรู้บาง
00:00:42 → 00:00:44 อย่างที่เกิดขึ้นไปแล้วถ้าเราไม่ได้ถอดบท
00:00:44 → 00:00:46 เรียนจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนะครับเราจะ
00:00:46 → 00:00:49 ขาดวัตถุดิบสำคัญในการเซต
00:00:49 → 00:00:53 อนาคตฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:53 → 00:00:56 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:56 → 00:01:00 ค่ะ This Is Toy PBS podcast มาติด
00:01:00 → 00:01:03 ตามกันค่ะคุณผู้ฟังในวันนี้นะคะก็อยากจะ
00:01:03 → 00:01:06 เป็นการพูดคุยกันสำหรับใครที่กำลังจะอยาก
00:01:06 → 00:01:10 เริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่ๆนะคะก็เป็นไปตาม
00:01:10 → 00:01:13 จังหวะชีวิตของแต่ละคนนะเพราะว่าบางคนอาจ
00:01:13 → 00:01:16 จะยึดเอาช่วงเทศกาลปีใหม่เริ่มต้นศักราช
00:01:16 → 00:01:19 ใหม่ของทุกปีในการที่จะได้เริ่มต้นกับตัว
00:01:19 → 00:01:22 เองนะคะแล้วก็บางคนอาจจะใช้วันเกิดหรือ
00:01:22 → 00:01:25 วันสำคัญอะไรต่างๆก็ว่ากันไปเนาะแต่ว่า
00:01:25 → 00:01:29 อืมเราจะเริ่มยังไงดีถ้าเกิดสมมุติว่าเรา
00:01:29 → 00:01:32 ใช้เป็นศักราชใหม่เลยอย่างเงี้ยเออมันก็
00:01:32 → 00:01:34 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะเดี๋ยวคุยกับดร
00:01:34 → 00:01:37 สุววุฒิวงทางสวัสดิ์นักจิตวิทยาการปรึกษา
00:01:37 → 00:01:39 ค่ะสวัสดีค่ะคุณเอินครับสวัสดีครับคุรดี
00:01:39 → 00:01:42 สวัสดีครับคุณผู้ฟังเริ่มต้นใหม่ยังไงดี
00:01:42 → 00:01:46 ครับเออมันก็มีหลายพารที่อ่ะเอาจริงๆหลาย
00:01:46 → 00:01:50 คนก็แบอยากจะเริ่มต้นใหม่ในปีใหม่ๆขึ้น
00:01:50 → 00:01:53 ต้นปีใหม่ปึ๊บวันที่ 1 เราก็อยากจะได้
00:01:54 → 00:01:57 เอ่อรีเฟรชตัวเองเนาะจากปีที่ผ่านมาเรา
00:01:57 → 00:02:00 เจออะไรมาบ้างบางคนนี่เขียนเป็นไดอารี่
00:02:00 → 00:02:03 เลยก็มีนะว่าหรือเขียนว่าปีนี้ฉันจะทำ
00:02:03 → 00:02:07 อะไรเอ้ยมันมีแนวทางนะมันมีสิ่งที่เราอ่ะ
00:02:07 → 00:02:10 โฟกัสมากขึ้นหรืออะไรก็แล้วแต่แนวทางของ
00:02:10 → 00:02:13 แต่ละคนแต่เราได้คิดแล้วอ่ะว่าเราจะเริ่ม
00:02:13 → 00:02:15 แต่มันเริ่มยังไงดี
00:02:15 → 00:02:19 อ่ะครับก่อนก่อนจะเริ่มเหรอผมว่าจริงๆ
00:02:19 → 00:02:21 แล้วเรื่องเรื่องการรู้จักตัวเองสำคัญมาก
00:02:22 → 00:02:24 ๆเลยนะครับคือคือผมกำลังคิดว่าการการจะ
00:02:24 → 00:02:26 เริ่มอะไรก็ตามนะเหมือนการสร้างบ้านน่ะ
00:02:26 → 00:02:29 ถ้าเรามาแต่สร้างบ้านที่คนอื่นอยากอยู่
00:02:29 → 00:02:31 แต่เราไม่ได้อยากอยู่ค่ะหรือเราอยากสร้าง
00:02:31 → 00:02:34 บ้านให้คนอื่นมองเข้ามาแล้วรู้สึกบ้านนี้
00:02:34 → 00:02:37 ดีแต่เราอยู่เองแล้วไม่รู้สึกดีสิ่งเนี้ย
00:02:37 → 00:02:38 มันจะกลายเป็นว่าการสร้างมันก็ไม่มีความ
00:02:38 → 00:02:40 หมายกับตัวเราอ่ะครับค่ะเพราะงั้นเรื่อง
00:02:40 → 00:02:42 เรื่องการตั้งเป้าหมายต้องพูดคำนี้ก่อน
00:02:42 → 00:02:44 ว่าการตั้งเป้าหมายมันสำคัญเนาะเพราะจะทำ
00:02:44 → 00:02:46 ให้เรามีทิศทางว่าในปีนั้นเราอยากใช้
00:02:46 → 00:02:49 ชีวิตแบบไหนและเป้าหมายครับที่ดีควรจะเซต
00:02:49 → 00:02:52 ขึ้นมาจากตัวเราเป็นเป้าหมายที่มีความ
00:02:52 → 00:02:54 หมายกับตัวเราและเราเห็นว่าถ้าเราไปถึง
00:02:54 → 00:02:57 เป้าหมายนั้นเราจะรู้สึกชอบชีวิตตัวเรา
00:02:57 → 00:03:00 มากขึ้นเหมือนกับว่ามานั่งทบทวนตัวเองจม
00:03:00 → 00:03:03 ว่า่ที่ผ่านมาเราเพื่อตัวเองหรือเพื่อคน
00:03:03 → 00:03:05 อื่นใช่ๆเพั้นกันเนาะั้นก่อนก่อนที่จะ
00:03:05 → 00:03:08 เริ่มตั้งเป้าหมายใหม่ของปีหน้าสิ่งที่ผม
00:03:08 → 00:03:11 อยากแนะนำทุกๆคนมากๆให้ย้อนไปดูจากสิ่ง
00:03:11 → 00:03:14 ที่เราเคยผ่านมาในมาในชีวิตก่อนค่ะสิ่ง
00:03:14 → 00:03:16 ที่เรียกว่าสิ่งที่มีในมือและเกิดขึ้น
00:03:16 → 00:03:18 แล้วเพราะว่าเป้าหมายในอนาคตเป็นอนาคตที่
00:03:18 → 00:03:20 ยังมาไม่ถึงและมองไม่เห็นใช่แต่เราสามารถ
00:03:20 → 00:03:23 เสกได้สร้างได้ทีหลังแต่อดีตของเราคือ
00:03:24 → 00:03:26 เมมรี่หรือประสบการณ์หรือความทรงจำหรือ
00:03:26 → 00:03:28 อาจจะเป็นการการเรียนรู้บางอย่างที่เกิด
00:03:28 → 00:03:31 ขึ้นไปแล้วผมว่าถ้าเราไม่ได้ถอดบทเรียน
00:03:31 → 00:03:33 จากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนะครับเราจะขาด
00:03:33 → 00:03:36 วัตถุดิบสำคัญในการเซ็ตอนาคตอือืเพราะ
00:03:36 → 00:03:39 ฉะนั้นนะครับตอนนี้ที่เราอัดเทปกันก็ปลาย
00:03:39 → 00:03:42 ปีเนาะแล้วกำลังจะขึ้นปีใหม่คอออ่าผมว่า
00:03:42 → 00:03:45 มันมีหลายสิ่งเกิดขึ้นใน 1 ปีที่ผ่านมานะ
00:03:45 → 00:03:48 ครับตั้งแต่มกราคมถึงธันวาคมเลยมันต้องมี
00:03:48 → 00:03:51 เหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์แหละที่สะท้อนให้
00:03:51 → 00:03:53 เราเข้าใจตัวเองหรือเข้าใจชีวิตบางอย่าง
00:03:53 → 00:03:57 มากขึ้นเช่นเราอาจจะเคยเป็นคนที่ไม่กล้า
00:03:57 → 00:03:59 พูดความรู้สึกหรือเราอาจจะเคยเป็นคนไม่
00:03:59 → 00:04:03 กล้าปฏิเสธคนหรือเราอาจจะเป็นคนใจป๋าเกิน
00:04:03 → 00:04:07 ขายเปใครขออะไรก็ให้หมดอืหรือเราเป็นคน
00:04:07 → 00:04:11 ที่เอ่อบางทีชอบปล่อยชีวิตแบบล้อฟรีค่ะ
00:04:11 → 00:04:14 คือแล้วแต่ธรรมชาติจัดฝันอ่าถ้ามีคนเรียก
00:04:14 → 00:04:18 ทำงานกทำไม่มีงานก็อยู่เฉยๆอาจจะเรารู้
00:04:18 → 00:04:21 สึกว่าชีวิตมันน่าเบื่อจังเออแต่ว่าอิจฉา
00:04:21 → 00:04:25 ชีวิตแบบนี้นะนะครับไม่มีอะไรก็อยู่เฉยๆ
00:04:25 → 00:04:27 อันนี้ต้องบอกแล้วแต่คนแล้วแต่คนเพราะว่า
00:04:27 → 00:04:30 บางคนชีวิตแบบว่างจริงล่องลอยจริงมันก็
00:04:30 → 00:04:32 ยิ่งเคว้งอ่ะครับแต่สำหรับบางคนชีวิตมัน
00:04:32 → 00:04:35 แน่นมาทั้งปีโอหเขาจะรู้สึกว่าฉันอยากได้
00:04:35 → 00:04:38 ปีหน้าที่แบบลอยๆบ้างได้ป่ะอย่างเงี้ยเออ
00:04:38 → 00:04:41 เบาๆอ่าอันนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่คนเออๆอ่า
00:04:41 → 00:04:43 เพราะว่าแต่ละคนมันมีเค้าเรียกว่า
00:04:43 → 00:04:44 ประสบการณ์ชีวิตไม่เหมือนกันหรือจุดที่
00:04:44 → 00:04:47 อยู่ในชีวิตไม่เหมือนกันค่ะแต่แต่ทุกคนนะ
00:04:47 → 00:04:49 ครับมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากพอใจกับ
00:04:49 → 00:04:51 ชีวิตมากขึ้นน่ะอืจริงไม่ว่าจะเป็นคนที่
00:04:51 → 00:04:54 ล่องลอยบางทีความล่องลอยไปก็รู้สึกไม่น่า
00:04:54 → 00:04:56 พอใจอยากมีเป้าหมายอยากแบบมีแพชชั่นบาง
00:04:57 → 00:04:59 อย่างค่ะคนที่แน่นไปก็อยากพอใจด้วยการทำ
00:04:59 → 00:05:01 ทำอะไรบางอย่างให้เบาลงถูกเพราะฉะนั้นทุก
00:05:01 → 00:05:03 คนอยากพอใจกับชีวิตนะครับแต่เพียงแค่ว่า
00:05:03 → 00:05:06 รูปแบบมันอาจจะไม่ต้องเหมือนกันอทีนี้ก็
00:05:06 → 00:05:09 ต้องลองถามตัวเองว่าเอ๊ะในช่วง 1 ปีที่
00:05:09 → 00:05:13 ผ่านมาใช่ชีวิตที่เราพอใจหรือยังนะอืหรือ
00:05:13 → 00:05:16 มันมีอะไรที่เราใช้แล้วแบบรู้สึกชีวิตแบบ
00:05:16 → 00:05:19 นี้ไม่น่าพอใจเลยค่ะเออเพราะงั้นเรื่อง
00:05:19 → 00:05:21 นี้ต้องต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเราทำอะไรไป
00:05:21 → 00:05:24 บ้างใน 1 ปีที่ผ่านมาอ๋อทบทวนตัวเองซะ
00:05:24 → 00:05:27 หน่อยเอ้าในพาร์ทของความเป็นจริงนะไม่ใช่
00:05:27 → 00:05:30 ว่าเราไปแบบเข้าข้างตัวเองมากหรืออะไรมาก
00:05:30 → 00:05:33 หรือแบบแต่จริงๆมันน่าจะมีความเป็นน้ำ
00:05:33 → 00:05:37 หนักที่มันอาจจะพอๆกันใกล้เคียงกันในแง่
00:05:37 → 00:05:42 ของว่าไม่ไม่ไม่ดีบ้างหรือพอใจบ้างไม่พอ
00:05:42 → 00:05:45 ใจบ้างมันคงไม่มีไม่พอใจตลอดทั้งปีที่
00:05:45 → 00:05:49 ผ่านมาหรอกเนาะผมว่าบางคนมันมีนะเฮ้ยคือ
00:05:49 → 00:05:51 คือต้องบอกอย่างี้ครับบางทีบางทีมี 2 แบบ
00:05:51 → 00:05:54 แบบแรกคือสถานการณ์มันบีบคั้นเค้าจริงๆอ
00:05:54 → 00:05:56 เช่นสมมุติลองนึกภาพนะว่าเค้าเกิดแล้วโต
00:05:56 → 00:05:58 มาในครอบครัวที่พ่อแม่เล่นการพนันค่ะแล้ว
00:05:58 → 00:06:01 เคต้องอยู่กับกับสิ่งนี้ไปตลอดออบ้านที่
00:06:01 → 00:06:04 พ่อแม่ทะเลาะตบตีกันแล้วเต้องรับรู้สิ่ง
00:06:04 → 00:06:06 นี้ตลอดเงี้ยครับหรือเจอเจ้านายไม่ดีหรือ
00:06:06 → 00:06:09 เศรษฐกิจไม่ดีแล้วเาต้องเกาะขาเก้าอี้ไว้
00:06:09 → 00:06:11 ไม่ให้เขาโดนไล่ออกคือนี้ต้องบอกว่าบางคน
00:06:11 → 00:06:13 เจอสถานการณ์แบบนี้จริงๆมันทำให้ทั้งปี
00:06:13 → 00:06:15 เนี่ยมันเป็นยุคมืดของเขาเลยโอ้โหแต่
00:06:15 → 00:06:17 สำหรับบางคนจริงๆชีวิตไม่ได้มืดนะแต่จิต
00:06:17 → 00:06:19 ใจเขาไปจดเจ่อกับสิ่งที่เขายังไม่มีสิ่ง
00:06:19 → 00:06:21 ที่เขาขาดหรือสิ่งที่เขาเปรียบเทียบกับคน
00:06:21 → 00:06:23 อื่นอค่ะก็เลยทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันไม่
00:06:24 → 00:06:26 มีความสุขออเรื่องนี้มันเลยมีมิติที่หลาก
00:06:26 → 00:06:29 หลายอย่างเงี้ยครับอืราหูเข้าราหูเข้าผม
00:06:29 → 00:06:31 ก็ว่างั้นแหละผมก็โดนเหมือนกันทำไมเข้า
00:06:31 → 00:06:34 สายหมูไปแล้วเออเข้าสายหมูไม่แต่คือบางคน
00:06:34 → 00:06:37 ก็จะมองไปในในเรื่องแบบนี้ว่าเออมันเป็น
00:06:37 → 00:06:39 เรื่องเวรกรรมบ้างมันเป็นเรื่องของลาหู
00:06:39 → 00:06:41 เข้าบ้างหรืออะไรอย่างเงี้ยนะคะแต่จริงๆ
00:06:41 → 00:06:44 แล้วมันอาจจะต้องเราคงต้องมามองตัวเองใน
00:06:44 → 00:06:46 อีกมิติหนึที่มันเป็นพารทของความจริงที่
00:06:46 → 00:06:49 บอกไปเมื่อกี้ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของเอ้ย
00:06:49 → 00:06:53 ก็เบอกว่าราหูเข้าอ่ะก็หมอดูก็บอกอย่าง
00:06:53 → 00:06:55 เงี้ยหาหูนี่เป็นเรื่องของคล้ายๆว่าเรา
00:06:55 → 00:06:57 เชื่อว่ามีสิ่งเหนือธรรมชาติควบคุมชีวิต
00:06:57 → 00:06:59 เราอยู่อแต่ถ้าเป็นถ้าถ้าเราเชื่อเชื่อใน
00:06:59 → 00:07:01 จิตวิทยาครับคือเราเชื่อว่าเราเป็นส่วน
00:07:01 → 00:07:04 หนึ่งในกลไกของสิ่งนี้ของธรรมชาติใช่ครับ
00:07:04 → 00:07:06 ต่อให้มีธรรมชาติที่ควบคุมเราอยู่แต่สุด
00:07:06 → 00:07:09 ท้ายตัวเราครับมีสิทธิ์เลือกณวินาทีนั้น
00:07:09 → 00:07:11 เสมอเลยครับกำหนดเองได้ใช่ว่าว่าจะไปซ้าย
00:07:11 → 00:07:13 หรือไปขวาคเราเป็นผู้เลือกได้หมดเลยครับ
00:07:14 → 00:07:16 อืเพราะฉะนั้นก็เนี่ยแหละถึงต้องมาถามตัว
00:07:16 → 00:07:20 เองทบทวนตัวเองดูก่อนว่าจดไว้ก็ได้นะคะ
00:07:20 → 00:07:22 เขียนไว้ก็ได้ถ้าถ้านึกนึกไม่ออกเราก็
00:07:22 → 00:07:25 เขียนไว้เลยอ่ะแล้วพอเรามาได้เขียนแล้ว
00:07:25 → 00:07:28 แล้วมาอ่านดูอ่ะเราอาจจะเห็นอะไรบางอย่าง
00:07:28 → 00:07:29 ในสิ่งที่เราเขียนกันได้ว่า
00:07:29 → 00:07:34 โหนี่มันทำเพื่อคนอื่นมาโดยตลอดนี่นาก็มี
00:07:34 → 00:07:37 ก็มีหรือเราทำแบบไร้เป้าหมายมาตลอดเลยก็
00:07:37 → 00:07:39 มีครับของผมนี่ก็มีสิ่งที่ทบทวนตัวเอง
00:07:39 → 00:07:41 อยู่เหมือนกันนะว่าช่วงที่ผ่านมาแบบใน 1
00:07:41 → 00:07:43 ปีเป็นยังไงใชอือันนี้อันนี้ลองยกเป็น
00:07:43 → 00:07:45 ตุ๊กตาแล้วกันเผื่อแบบคุณผู้ฟังจะรู้สึก
00:07:45 → 00:07:48 ว่าแบบเออมันพอดูจับต้องได้มากขึ้นว่าอ๋อ
00:07:48 → 00:07:51 มันมันแบบมีวิธีการเอ่อทบทวนตัวเองแบบนี้
00:07:51 → 00:07:54 เอาเฉพาะตัวเรานะตัวเรานะตัวเราไม่ต้องไป
00:07:54 → 00:07:57 เผื่อแผ่ใครหรือว่าแบบว่าเอาดึงใครเข้ามา
00:07:57 → 00:08:00 เป็นครับสิ่งที่ทบทวนชิใช่ๆออย่างเช่นของ
00:08:00 → 00:08:03 ผมอืเอ่อจะเห็นว่าตัวเองเป็นคนชอบนอนดึก
00:08:03 → 00:08:05 ดึกคือดึกจริงนะ 2:00 อะไรเงี้ยก็มัวแต่
00:08:05 → 00:08:09 โซโลกรองอยู่ใช่มั้ยโซโลกล่องรอเล่นเกม
00:08:09 → 00:08:11 เล่นเกคือคือเมื่อก่อนเราจะรู้สึกว่า
00:08:11 → 00:08:14 เที่ยงคืนมันดึกแต่ตอนหลังอ่ะครับเรานอน
00:08:14 → 00:08:15 ดึกกว่าเที่ยงคืนจนกระทั่งรู้สึกว่า
00:08:15 → 00:08:18 เที่ยงคืนน่ะคือหัวค่ำเ้ยแล้ว 2:00 นคือ
00:08:18 → 00:08:22 เวลานอนโซึ่งซึแน่นอนครับมันไม่ดีต่อ
00:08:22 → 00:08:25 สุขภาพค่ะเออผมเลยรู้สึกว่าตรงนี้แหละคือ
00:08:25 → 00:08:27 จุดที่เราทบทนตัวเองแล้วรู้สึกว่าแบบเรา
00:08:27 → 00:08:29 ควรน่าจะต้องแก้ไขอืไม่งั้นพออายุมากขึ้น
00:08:29 → 00:08:31 ระยะยาวมันมันไม่ค่อยดีเนาะแต่ก็ยังดูสน
00:08:31 → 00:08:33 ใสัอยู่นะก็อาจจะเป็นเพราะว่าชีวิตไม่ได้
00:08:33 → 00:08:37 มีความเครียดมากนอน 2:00 ต่อไปไม่ใช่
00:08:37 → 00:08:40 สุขภาพจิตดีไม่ใช่สุขภาพกายจะไม่ดีก็ต้อง
00:08:40 → 00:08:42 ก็ออก็มาทบทวนตัวเองหรือแม้กระทั่งการ
00:08:42 → 00:08:45 เล่นดนตรีผมก็สังเกตตัวเองว่าเฮ้ยเราอยาก
00:08:45 → 00:08:47 มีเป้าหมายกับดนตรีมากขึ้นอเพราะที่ผ่าน
00:08:47 → 00:08:49 มาเนี่ยเหมือนกลายเป็นตลกอุปกรณ์ไปแล้วะ
00:08:49 → 00:08:52 คำว่าตลกอุปกรณ์คือเราชอบที่จะค้นหา
00:08:52 → 00:08:54 อุปกรณ์ใหม่ๆค่ะแล้วก็ลองแต่ฝีมือไม่
00:08:54 → 00:08:57 พัฒนาอ๋อลองไปเรื่อยๆใช่แล้วสุดท้ายเป็น
00:08:57 → 00:08:59 การเล่นซ้ำซากเดิมๆค่ะโดยที่ไม่ได้มีอะไร
00:09:00 → 00:09:02 ที่เป็นการพัฒนาด้านทักษะฝีมือเลยอชิ้น
00:09:02 → 00:09:05 งานก็ไม่ได้สร้างอุปกรณ์พร้อมพร้อมอัด
00:09:05 → 00:09:07 อุปกรณ์มีมากกว่ารายการตรงนี้อีกฮะแต่แต่
00:09:07 → 00:09:10 เราไม่ได้ใช้มันเลยอแค่ซื้อมาสะสมเอค่ะก็
00:09:10 → 00:09:12 เป็นปัญหาหรือแม้กระทั่งการที่ตัวเองไม่
00:09:12 → 00:09:15 ได้ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับงานอือเราเหมือน
00:09:15 → 00:09:17 กับว่าอ่ะเดี๋ยววันนี้พี่รีเรียกมาอัดราย
00:09:17 → 00:09:20 การอ่ะเรามาอ่าเดี๋ยววันนี้มีคนนัดขอนัด
00:09:20 → 00:09:23 ปรึกษาอ่ะเราไปอแต่แต่ตัวเราไม่ได้มีเป้า
00:09:23 → 00:09:25 หมายว่าเอ๊ะเราจะทำอะไรเพิ่มเพื่อให้รู้
00:09:25 → 00:09:27 สึกสนุกกับงานมากขึ้นกลายเป็นว่าเราก็
00:09:27 → 00:09:29 Passive ที่จะแบบรอให้คนเรียกทำงานแล้ว
00:09:29 → 00:09:31 มันก็เกิดความเบื่อหน่ายบางอย่างเหมือน
00:09:31 → 00:09:33 กันว่าเอ๊ะงานมันเหมือนกับมันก็วนๆเหมือน
00:09:33 → 00:09:35 เดิมเนาะแต่มันไม่ค่อยมีความอะไรแปลกใหม่
00:09:35 → 00:09:37 อย่าเงี้ยครับอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้
00:09:37 → 00:09:39 เรารู้สึกว่าเฮ้ยเราอยากจะเริ่มอะไรในปี
00:09:40 → 00:09:42 ใหม่ให้มันมีสิ่งแบกใหม่เกิดขึ้นเพราะเรา
00:09:42 → 00:09:45 อยู่กับวังวนเนี้ยมาสักระยะนึงและจนรู้
00:09:45 → 00:09:47 สึกว่าเออมันมีความจำเจเหมือนกันนะไม่ได้
00:09:47 → 00:09:49 บอกว่าคุณค่างานตกลงนะครับแต่แค่มันมี
00:09:49 → 00:09:53 ความเดิมก็เหมือนเดิมอ่าอันนี้เข้าใจใช่
00:09:53 → 00:09:55 เลยอยากเติมอะไรใหม่ๆเช่นเฮ้ยเราลองวาง
00:09:55 → 00:09:58 แผนเขียนหนังสือมั้ยเราจะเขียนเขียนจาก
00:09:58 → 00:10:01 เนื้อหาอะไรดีค่ะอย่างเงี้ยครับผมอาจจะ
00:10:01 → 00:10:03 เอาพวกเรคำถามที่อย่างเช่นอะไรนะตอนไป
00:10:03 → 00:10:05 บรรยายแล้วมีคนถามตอบแล้วตอบกันไม่ทัน
00:10:05 → 00:10:08 เนี่ยผมอาจจะมาเขียนหนังสือเออก็ได้หรือ
00:10:08 → 00:10:11 ผมอาจจะเริมเริ่มที่จะคล้ายๆหาเพื่อนร่วม
00:10:11 → 00:10:14 งานใหม่ที่จะช่วยมาวางแผนว่าเอ้ยอย่างผม
00:10:14 → 00:10:16 มีวัตถุดิบแบบนี้ที่เป็นความรู้แบบนี้
00:10:16 → 00:10:19 อย่างเงี้ยมันจะสามารถผันไปสู่ชิ้นงาน
00:10:19 → 00:10:21 อะไรที่เป็นสื่อได้มั้ยหรือว่ามันสามารถ
00:10:21 → 00:10:24 ช่วยคนมากกว่าทีละคนได้มั้ยอแต่สามารถ
00:10:24 → 00:10:26 ช่วยคนพร้อมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ก็ดี
00:10:26 → 00:10:30 นะใช่แล้วทำรู้สึกว่าเฮ้งานมันใหม่คุณค่า
00:10:30 → 00:10:32 งานอาจจะเหมือนเดิมอือฮึคุณค่าในการช่วย
00:10:32 → 00:10:34 คนเหมือนเดิมแต่มีความแปลกใหม่บางอย่าง
00:10:34 → 00:10:37 ให้รู้สึกว่าชีวิตมันน่าสนใจอเหมือนกับ
00:10:37 → 00:10:40 ว่าการทบทวนตรงเนี้ยมันก็เป็นการทบทวนใน
00:10:40 → 00:10:42 สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็สิ่งที่เราจะต้องเรา
00:10:42 → 00:10:46 คิดว่าเราควรน่าจะทำอะไรกันต่อไปใช่ๆครับ
00:10:46 → 00:10:49 เออไม่ใช่ว่าคิดทบทวนแล้วก็ห่อเหี่ยวใช่
00:10:49 → 00:10:51 ซึ่งซึ่งการคิดทบทวนต้องบอกว่าอย่างงี้
00:10:51 → 00:10:53 ครับต้องต้องกำกับอีกด้านนึงด้วยมันจะมี
00:10:53 → 00:10:55 ด้านที่เรารู้สึกว่าเอ๊ะเรายังไม่ค่อยพอ
00:10:55 → 00:10:58 ใจเหมือนตกที่ผมเล่าผมนอนดึกผมไม่ค่อยมี
00:10:58 → 00:11:01 เป้าหมายผมผมทำอะไรซ้ำซากจำเจเป็นต้น
00:11:01 → 00:11:03 อย่างเงี้ยฮะแต่มันจะมีพารทที่เราควร
00:11:03 → 00:11:05 ขอบคุณตัวเองเหมือนกันเพราะเพราะสิ่งพวก
00:11:05 → 00:11:08 นี้มันขึ้นมาคุขนานในทุกๆปีทุกๆจังหวะ
00:11:08 → 00:11:10 ชีวิตอยู่แล้วครับไม่ไม่มีใครที่ทำทุก
00:11:10 → 00:11:13 อย่างเพอร์เฟคสมบูรณ์ถูกใจไปตลอดทั้งปีผม
00:11:13 → 00:11:16 ว่าต่อให้ 365 วันมันต้องมีบ้างแหละค่ะ
00:11:16 → 00:11:18 ที่ที่แบบออย่างน้อยถ้าคุณชีวิตดีมากมัน
00:11:18 → 00:11:21 ต้องมีสัก 10 วันแหละที่คุณต้องโดนบ้าง
00:11:21 → 00:11:23 อะไรสักอย่างที่คุณไม่ชอบใจในวันนั้นอาจ
00:11:23 → 00:11:25 จะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยไม่ใช่คอนเซป
00:11:25 → 00:11:27 หลักของชีวิตแต่อาจจะเป็นการตัดสินใจณแต่
00:11:27 → 00:11:29 ละวินาทีที่เกิดขึ้นในแต่ละวันก็ได้ที่
00:11:29 → 00:11:32 รู้สึกว่าเออเรื่องนี้มันสะท้อนความโมโห
00:11:32 → 00:11:35 ร้ายของเราก็มีนะเช่นขับรถค่ะบางทีทุกคน
00:11:35 → 00:11:38 ชีวิตดีนะแต่พออยู่บนรถปั๊บเฮ้ยเรากลาย
00:11:38 → 00:11:40 เป็นคนแบบเกี้ยวกราดเออเราอาจจะรู้สึกว่า
00:11:40 → 00:11:43 พอขับแบบเนี้ยมันดูอันตรายอือเอออาจจะ
00:11:43 → 00:11:45 อายุไม่ยืนหรืออาจจะพาคนที่เรารักไป
00:11:45 → 00:11:48 เสี่ยงด้วยเราอาจจะอยากลองปรับให้เป็นคน
00:11:48 → 00:11:50 ที่ใจเย็นมากขึ้นลองปรับวิธีคิดเกี่ยวกับ
00:11:50 → 00:11:52 การขับรถหรือว่าเพื่อนที่เขาใช้ทองถนน
00:11:52 → 00:11:54 ร่วมกับเราค่ะเพื่อให้เรารู้สึกว่าเออมัน
00:11:54 → 00:11:57 มีความเย็นมากขึ้นอืเพราะงั้นแต่ละคนจะมี
00:11:57 → 00:11:59 จุดที่แบบไม่พอใจสัดส่วนไม่เท่ากันอยู่
00:11:59 → 00:12:02 แล้วครับบางคนไม่พอใจในชีวิต 80% อพอใจ
00:12:03 → 00:12:06 อยู่ 20 บางคนชีวิตผมพอใจ 95 อีก 5 มัน
00:12:06 → 00:12:08 อาจจะเป็นจุดเล็กๆน้อยๆที่ยังจัดการได้
00:12:08 → 00:12:10 ไม่ดีเพราะฉะนั้นต้องมองให้ครบ 2 ด้าน
00:12:10 → 00:12:12 ครับไม่งั้นจะเหมือนที่พี่รีบอกว่าพอทบ
00:12:12 → 00:12:16 ทวนปั๊บโอ้มีแต่สิ่งแย่ๆชีวิตฉันมันมืดมน
00:12:16 → 00:12:19 กลายเป็นแบบท้อแท้จริงไปต่อไม่ได้เลย
00:12:19 → 00:12:22 เพราะว่าไม่รู้จะไปยังไงก็มันมันเป็น
00:12:22 → 00:12:24 อย่างงี้มาแล้วจะให้ไปเป็นยังไงไปกว่านี้
00:12:24 → 00:12:28 ได้อีกบางคนอาจจะมองแบบเอ่อไม่ได้ประเมิน
00:12:28 → 00:12:31 ตัวเองด้วยว่าจริงๆเรามีศักยภาพอะไรที่
00:12:31 → 00:12:33 มันมากกว่านั้นได้นะที่เราจะคิดหรือมี
00:12:33 → 00:12:37 เปลี่ยนมุมมองไปในทางที่มันแบบใชอดีขึ้น
00:12:37 → 00:12:40 กว่าเดิมได้แล้วเราทำมันได้ด้วยนะแต่แค่
00:12:40 → 00:12:44 ว่าอาจจะคิดว่าเ้ยโอกาสก็ไม่มีจังหวะก็
00:12:44 → 00:12:48 ไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยก็ทำให้หลายคนอก็ยัง
00:12:48 → 00:12:52 เดินตามชีวิตที่ผ่านมาเหมือนเดิมใช่มัน
00:12:52 → 00:12:54 กลายเป็นความท้อแท้ชิ้นหวังเนาะแต่จริงๆ
00:12:54 → 00:12:56 ถ้าเราย้อนกลับมาตระหนักว่าเรามีต้นทุน
00:12:56 → 00:12:58 อะไรบ้างเรามีอะไรที่เรามีอยู่แล้วบ้าง
00:12:58 → 00:13:00 เงี้ยฮะบางทีมันเหมือนกับเราจะเห็นฐานของ
00:13:00 → 00:13:03 เราอ่ะเหมือนเหมบ้านที่ตอกเสาเข็มแล้วอ่ะ
00:13:03 → 00:13:05 เราจะรู้ว่าเอาวะอย่างน้อยบ้านนี้ยังไม่
00:13:05 → 00:13:07 เป็นหลังแต่มีเสาเข็มแล้วอ่าแข็งแรงหน่อย
00:13:07 → 00:13:09 เออ่าใช่ครับเช่นบางคนอาจจะบอกว่าอย่าง
00:13:09 → 00:13:12 น้อยฉันยังมีข้าวกินค่ะฉันยังมีบ้านอยู่
00:13:12 → 00:13:15 ฉันยังมีครอบครัวอันนี้ไม่ได้ปอบใจตัวเอง
00:13:15 → 00:13:17 ใช่ป่ะไม่ไม่ได้ปลอบใจครับคือการตระหนัก
00:13:17 → 00:13:19 ให้เห็นว่าจริงๆแล้วตัวเรายังมีสิ่งที่
00:13:19 → 00:13:21 เป็นต้นทุนที่ดีอยู่อๆคือคือเป็นการรับ
00:13:21 → 00:13:24 รู้แต่ไม่ใช่ปลอบใจตัวเองนะค่ะแต่แต่ต้อง
00:13:24 → 00:13:26 บอกอย่างงี้ครับการกลับมารับรู้ว่าเรามี
00:13:26 → 00:13:29 อะไรดีบ้างมันจะช่วยบ
00:13:29 → 00:13:31 ไม่ให้เราเห็นแต่ความมืดมนรู้สึกสิ้นหวัง
00:13:31 → 00:13:35 นะครับเออซึ่งแน่นอนมันมีผลมันมีผลทางใจ
00:13:35 → 00:13:37 จริงๆในการรับรู้ว่าเรามีอะไรอยู่บ้างแต่
00:13:37 → 00:13:39 แน่นอนมันไม่ได้หมายความว่าพอเราบอกว่า
00:13:39 → 00:13:41 เอ้ยฉันมีแค่นี้งั้นฉันพอแล้วแล้วกันอัน
00:13:41 → 00:13:44 นี้มันก็กลายเป็นแบบเหมือนทิ้งตัวไม่ได้
00:13:44 → 00:13:46 พัฒนาอะไรต่อแต่ต้องบอกอย่างงี้ครับผมก็
00:13:46 → 00:13:48 ไม่ได้ไปกะเกณฑ์ว่าทุกคนจะต้องใช้ชีวิต
00:13:48 → 00:13:50 ก้าวหน้าขึ้นนะเพราะแต่ละคนนะครับจะมี
00:13:50 → 00:13:52 ฤดูกาลชีวิตหรือมีรูปแบบชีวิตในแบบจังหวะ
00:13:52 → 00:13:56 ที่ตัวเองต้องการถ้าปีหน้ารู้สึกว่าเอ้ย
00:13:56 → 00:13:59 อยากเบากว่านี้ตัดสินสินใจได้เลยครับปี
00:13:59 → 00:14:01 หน้าเราอาจจะคิดว่าเป็นปีที่เบาทั้งปีเลย
00:14:01 → 00:14:04 ก็ได้แต่แน่นอนผมจะมีความเชื่อเสมอว่า
00:14:04 → 00:14:06 ความรู้สึกเอ้ยการตัดสินใจของเราครับจะ
00:14:06 → 00:14:09 อ้างอิงกับความรู้สึกในปัจจุบันเสมออค่ะ
00:14:10 → 00:14:12 อย่างเช่นถ้าตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้านะ
00:14:12 → 00:14:15 ครับเราอาจจะคิดว่างั้นปีหน้าทั้งปีจะ
00:14:15 → 00:14:18 เป็นปีที่เบาทั้งปีเลยอืแต่การคิดว่าเบา
00:14:18 → 00:14:20 ทั้งปีมันเกิดขึ้นจากความเหนื่อยล้าตอน
00:14:20 → 00:14:23 นี้สมมุติผ่านไป 1 เดือน 3 เดือนก็ได้พัก
00:14:23 → 00:14:27 ไป 3 เดือนรู้สึกว่าอิ่มแล้วค่ะเบาจนอิ่ม
00:14:27 → 00:14:30 แล้วอือฮความรู้สึกจะเปลี่ยนใหม่และการ
00:14:30 → 00:14:32 ตัดสินใจตั้งเป้าหมายจะเปลี่ยนไปด้วยครับ
00:14:32 → 00:14:35 อ๋อมันอารมณ์เหมือนคนสั่งข้าวตอนหิวอ่ะ
00:14:35 → 00:14:39 ค่ะหิวจังสั่งมาเพียบเต็มสูบเต็มเลยจัด
00:14:39 → 00:14:41 เต็มสูบแต่พอกินไปแล้วซักประมาณจานกว่า
00:14:41 → 00:14:43 หรืออาจจะประมาณเกือบหมดจานแรกเงี้ยจะรู้
00:14:43 → 00:14:46 สึกว่าอจริงๆแค่นี้ก็พอแล้วนะมันหายหิว
00:14:46 → 00:14:48 แล้วอ่ะเออมันเริ่มอิ่มแล้วอ่ะแล้วจานที่
00:14:48 → 00:14:51 เหลือมันก็จะแบบสั่งมาทำไมเนี่ยใชอือ
00:14:51 → 00:14:53 เหมือนกันผมเวลา burn Out อ่ะครับผมจะ
00:14:53 → 00:14:55 รู้สึกว่าเดือนหน้าจะไม่รับงานทั้งเดือน
00:14:55 → 00:14:58 โอ้โหใครจะมาขอก็จะไม่ให้คิวไม่อันนี้คือ
00:14:58 → 00:15:01 เลือกได้ไงมันอมันใช่ครับแต่นี้กำลังจะ
00:15:01 → 00:15:03 ให้ดูว่าพอพออารมณ์เราเหนื่อยล้าจัดอย่าง
00:15:03 → 00:15:06 เงี้ยครับเราจะแบบอพยายามพยายามคิดหาการ
00:15:06 → 00:15:09 พักที่มันใหญ่โตเพื่อตอบสนองกับความรู้
00:15:09 → 00:15:11 สึกเหนื่อยล้าตอนนั้นเหมือนที่หิวอ่ะครับ
00:15:11 → 00:15:13 พอหิวใหญ่โตปั๊บเราจะสั่งอาหารใหญ่โตไป
00:15:13 → 00:15:16 ด้วยอ่าใช่อ่าแต่ถ้าหิวน้อยมันจะสั่งน้อย
00:15:16 → 00:15:18 ใช่เพราะฉะนั้นอันนี้มันเลยเป็นการตั้ง
00:15:18 → 00:15:21 เป้าหมายลวมๆอ่ะครับเราอาจจะเซตเป้าหมาย
00:15:21 → 00:15:23 ของปีหน้าว่าอยากจะเป็นอย่างงี้แต่สุด
00:15:23 → 00:15:26 ท้ายอ่ะครับเป้าหมายมันจะถูกปรับเสมอไป
00:15:26 → 00:15:27 พร้อมกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปในแต่ละ
00:15:27 → 00:15:30 แต่ละจังหวะของชีวิตในปีหน้าอืเพราะงั้น
00:15:30 → 00:15:33 อย่าคาดคั้นว่าตั้งเป้าหมายแล้วฉันจะต้อง
00:15:33 → 00:15:36 ให้มันเป็นอย่างนั้นตามที่ตั้งการตั้ง
00:15:36 → 00:15:38 เป้าหมายตรงนี้ถามคุณเอิ้นแล้วคุณผู้ฟัง
00:15:38 → 00:15:41 ลองคิดตามไปด้วยก็ได้นะคะว่าเป้าหมายที่
00:15:41 → 00:15:44 เราจะตั้งเนี่ยมันต้องเป็นระยะยาวมหรือ
00:15:44 → 00:15:48 ว่าแบบอ่ะแค่ระยะสั้นๆก่อนอืแบบไหนมันดี
00:15:48 → 00:15:51 กว่ากันครับจริงๆจริงๆสั้นกับยาวอาจจะ
00:15:51 → 00:15:53 เป็นเรื่องของกระบวนการก็ได้นะแต่ผมว่า
00:15:53 → 00:15:55 มันน่าจะเป็นเรื่องงี้ครับว่าเราอยากให้
00:15:55 → 00:15:58 ภาวะอะไรปรากฏขึ้นในชีวิตเราอย่างเช่นอ่ะ
00:15:58 → 00:16:00 สมมุติเราอยากจะวิ่งมาราธอนสมมุติเอาเลข
00:16:00 → 00:16:02 ง่ายๆเลยครับเราอยากจะวิ่งสัก 100 กลอย
00:16:02 → 00:16:07 เยอะไปมยเยอะไปเอาเอาซักอ่ะ 20 กล 10 ได้
00:16:07 → 00:16:09 มั้ย 10 ก็ได้ครับ 10 กลเอาแบบเบื้องต้น
00:16:09 → 00:16:12 เบืต้นเนาะทีเนี้ยการการจะวิ่ง 10 กลมัน
00:16:12 → 00:16:14 คือเป้าหมายถูกมั้ยครับทีนี้มันจะมีวิ่ง
00:16:14 → 00:16:18 วิ่งแบบ 10 กแบบเกือบตายอืกับวิ่งแบบชิลๆ
00:16:18 → 00:16:20 เออถูกมั้ยฮะใช่ๆมันก็จะเป็นเรื่องของการ
00:16:21 → 00:16:23 เซตเป้าหมายว่าเอ๊ะแล้วระหว่างทางเนี้ย
00:16:23 → 00:16:26 ครับเพื่อให้เราสามารถวิ่ง 10 กได้เราจะ
00:16:26 → 00:16:29 เราจะเซตเค้าเรียกว่ากระบวนการเพื่อให้
00:16:29 → 00:16:31 เราสามารถทำเป้าหมายนั้นจริงได้ยังไง
00:16:31 → 00:16:34 สมมุติถ้าบางคนบอกว่าจนกว่าเราจะเห็น 10
00:16:34 → 00:16:37 กเราคงแบบไม่มีทางพอใจกับตัวเองได้มันจะ
00:16:37 → 00:16:40 เกิดความท้อแท้ว่า 10 กลมันไกลจังอือทุก
00:16:40 → 00:16:43 วันนี้วิ่ง 2 กลก็รู้สึกหอบไม่ไหวแล้ว
00:16:43 → 00:16:45 แล้วมันเห็นเลข 8 กลที่มันยังห่างอยู่อ่ะ
00:16:45 → 00:16:47 ครับมันจะรู้สึกท้อใช่นั่นคือการวางเป้า
00:16:47 → 00:16:50 หมายที่ไกลเกินไปแต่จริงๆแล้วในเป้าหมาย
00:16:50 → 00:16:52 ที่ไกลเราสามารถเซตให้มันซอยเป็นเป้าหมาย
00:16:52 → 00:16:54 ย่อยลงมาได้อีกอ่ะทีละ 2 ทีละ 2 ก็ได้เช
00:16:54 → 00:16:57 เช่นวันนี้อยากวิ่ง 1 กด้วยความรู้สึกไม่
00:16:57 → 00:16:59 เหนื่อยเกินไปอ่าที่ไม่ใช่กระหืดกระหอบ
00:16:59 → 00:17:02 แล้วเราอาจจะเริ่มว่างั้นพรุ่งนี้หรือลืน
00:17:02 → 00:17:04 นี้หรืออาจจะเป็นสัปดาห์หน้าฉันอยากเห็น
00:17:04 → 00:17:07 ตัวเวกวิ่งได้กลครึ่งแบบที่รู้สึกเหมือน
00:17:07 → 00:17:09 วิ่ง 1 กลที่มันดีอแล้วก็ค่อยขยับเป็น 3
00:17:10 → 00:17:13 ก 5 ก 7 ก 10 กอันนี้คือการซอยเป้าหมาย
00:17:13 → 00:17:15 ให้มันเล็กลงแต่มันยังเป็นเป้าหมายที่
00:17:15 → 00:17:18 อยู่ในเซตของเป้าหมายใหญ่อค่ะเพราะงั้น
00:17:18 → 00:17:21 ค่อยๆทำได้ครับเหมือนกับว่าบางทีเราลืม
00:17:21 → 00:17:24 มองเรื่องของการที่เราจะค่อยๆขใช่แล้วมี
00:17:24 → 00:17:26 ความสุขหรือมีความรู้สึกสำเร็จระหว่างทาง
00:17:26 → 00:17:30 เราก็เป็นเอ่อเรืองที่ออกจากฝั่งนะคะแล้ว
00:17:30 → 00:17:33 ก็บางทีเราพุ่งตรงมากเกินไปจนลืมไปว่าใน
00:17:33 → 00:17:36 ระหว่างที่พุ่งตรงออกไปเาออกทะเลไปเนี่ย
00:17:36 → 00:17:40 มันมีคลื่นกระแสคลื่นนู่นนี่นั่นใช่ๆก็
00:17:40 → 00:17:42 คือเพราะฉะนั้นก็บางทีกว่าจะไปถึงตรงนั้น
00:17:42 → 00:17:45 น่ะมันเหนื่อยไปแล้วอ่ะถึงแม้จะแค่แบบ 10
00:17:45 → 00:17:47 กลอ่ะ 10 กลแค่นั้นเองแต่แบบโหทำไมมัน
00:17:47 → 00:17:50 เหนื่อยจังเลยอ่ะเหนื่อยๆแล้วจะ 25 ก 45
00:17:50 → 00:17:53 กลโอหไปยัน 100 กนี่มันยากมากเลยใช่ครับ
00:17:53 → 00:17:56 ก็ค่อยๆก็ค่อยๆครับเพราะว่าทุกอย่างทุก
00:17:56 → 00:17:58 อย่างเกิดขึ้นทีละน้อยเสมอครับแต่มันทำ
00:17:58 → 00:18:01 ให้รู้สึกว่าอย่ามันจะไม่ทำให้เราผิดหวัง
00:18:01 → 00:18:04 มากเกินไปนะพอในระหว่างทางที่แบบเราพุ่ง
00:18:04 → 00:18:06 อย่างเดียวอ่ะแล้วถ้าเกิดสมมุติแบบมันไม่
00:18:06 → 00:18:09 ถึงซะทีอ่ะฉันก็จะรู้สึกผิดหวังแบบเออ
00:18:09 → 00:18:11 เหนื่อยอะไรอย่างเงี้ยใช่มั้ยผมผมผมจะนึก
00:18:11 → 00:18:13 ถึงประสบการณ์สมัยเรียนเสมอเลยครับตอน
00:18:13 → 00:18:15 สมัยเรียนเนี่ยผมตอนนั้นอายุ 20 กว่าๆต้น
00:18:15 → 00:18:17 ๆอะไรเงี้ยแล้วก็จะเปรียบเทียบกับอาจารย์
00:18:17 → 00:18:20 ที่ท่านอายุ 59 ออืแล้วพอเราเห็นอาจารย์
00:18:20 → 00:18:22 เป็นต้นแบบปั๊บเราจะรู้สึกว่าเราอยากทำ
00:18:22 → 00:18:23 ให้ได้เหมือนอาจารย์หมายถึงอายุ 59
00:18:23 → 00:18:25 เหมือนอาจารย์เอ่อเก่งเหมือนอาจารย์แที่
00:18:25 → 00:18:26 อายุ
00:18:26 → 00:18:30 59 ซึ่งซึ่งพอเราเห็นอาจารย์ทำได้สมมุติ
00:18:30 → 00:18:32 ผมเปรียบเทียบอาจารย์เป็นเหมือน 100 บาท
00:18:32 → 00:18:35 อือตัวเราเหมือนมีแค่ 1 บาทอ่ะครับอ่ะก็
00:18:35 → 00:18:37 ยังเด็กอยู่แล้วผมก็คือตอนนั้นไม่ได้ไม่
00:18:37 → 00:18:39 ได้เห็นว่าตัวเองเด็กเราแค่รู้สึกว่าอยาก
00:18:39 → 00:18:41 ทำให้ได้เลยอ๋ออยากให้อาจารย์ยอมรับเรา
00:18:41 → 00:18:43 หรือเราอยากรู้สึกภูมิใจกับตัวเองอือฮึพอ
00:18:43 → 00:18:46 เห็นว่าตัวเองทำไม่ได้ครับพอเห็น 99 บาท
00:18:46 → 00:18:49 ที่ห่างกันมากๆก็เลยรู้สึกท้อแล้วก็เกิด
00:18:49 → 00:18:51 ความคิดอยากจะเลิกล้มอยากจะลาออกขึ้นมาซะ
00:18:51 → 00:18:54 อย่างงั้นนะครับอ๋อเออเพราะมันเห็นความ
00:18:54 → 00:18:57 ห่างกันเกินไปแล้วเราไม่รู้ว่าจะจะเอา 99
00:18:57 → 00:18:59 บาทที่มันหายที่มันยังไม่ถึงเนี่ยจากไหน
00:18:59 → 00:19:02 อืมันใจร้อนนะครับพอใจร้อนมันก็เลยเกิด
00:19:02 → 00:19:04 ความรู้สึกท้อผมว่าหลายๆคนตั้งเป้าหมาย
00:19:04 → 00:19:06 แล้วสำเร็จไม่ได้จริงเพราะบางทีเป้าหมาย
00:19:06 → 00:19:09 มันแบบอย่างแรกอาจจะห่างด้วยอย่างที่ 2
00:19:09 → 00:19:12 คือเรามัวแต่โฟกัสจุดที่ไม่มีอ่ะครับค่ะ
00:19:13 → 00:19:16 แล้วมันใหญ่มากจนเราแบบคล้ายๆรู้สึกท้อไป
00:19:16 → 00:19:19 เลยตอนนั้นตอนนั้นผมรอดมาได้ด้วยการเตือน
00:19:19 → 00:19:22 ตัวเองว่าจริงๆก่อนอาจารย์จะมี 100 บาท
00:19:22 → 00:19:24 อ่ะแกอาจจะเคยมี 1 บาทเหมือนเรานี่แหละ
00:19:24 → 00:19:26 เออส่วนเราส่วนใหญ่เราจะมาวองปลายทางของ
00:19:27 → 00:19:29 เขาตัดเสมออ่ะใช่ใช่มผลลัพธ์แต่เราไม่ได้
00:19:29 → 00:19:32 เห็นกระบวนการว่าอาจารย์ผ่านอะไรมาบ้างอื
00:19:32 → 00:19:35 พอพอนึกขึ้นได้ว่าเออพอเราคิดในมุมอีกทาง
00:19:35 → 00:19:38 นึงว่าแทนที่เราจะมองในส่วนที่ขาดงั้นเรา
00:19:38 → 00:19:40 มามองส่วนที่เรามีก่อนอือฮึแล้วเราพยายาม
00:19:40 → 00:19:43 รักษาส่วนที่เรามีให้เสถียรไว้ค่ะเพื่อ
00:19:43 → 00:19:46 ที่จะต่อยอดขึ้น 2 บาทเพราะถ้าเกิดถ้า
00:19:46 → 00:19:48 รักษา 1 บาทไม่ได้มันก็ติดลบอฮะ 1 บาทที่
00:19:48 → 00:19:50 สร้างใหม่มันก็กลับไป 1 บาทเท่าเดิมเออ
00:19:50 → 00:19:52 ใช่มันจะไม่ใช่ 2 บาทถูกมั้ยครับเพราะมัน
00:19:52 → 00:19:54 ล 1 แล้วก็บวก 1 มันก็กลายเป็น 1 อย่าง
00:19:54 → 00:19:57 เงี้ยฮะเอ๊ะถูกมั้ใช่มันมี 1 แล้วมัน - 1
00:19:57 → 00:19:59 แล้วก็บวก 1 มัน 1 ก็อยู่ที่เดิมใช่ครับ
00:19:59 → 00:20:01 แต่ถ้ามันเป็น 1 แล้วเราบวกอีก 1 จะกลาย
00:20:01 → 00:20:04 เป็น 2 อ่าใช่อ่าใช่เพราะงั้นผมก็เลยจะ
00:20:04 → 00:20:07 บอกตัวเองว่าวันนี้ให้เราระลึกเสมอว่าวัน
00:20:07 → 00:20:09 นี้เราทำอะไรได้เราเรียนรู้อะไรจากมันและ
00:20:09 → 00:20:11 เราจะไม่ถอยหลังกลับมาละแล้วให้เราตั้งคำ
00:20:11 → 00:20:13 ถามกับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะเรียนรู้อะไร
00:20:13 → 00:20:15 เพิ่มอืเหมือนกันครับกับการวิ่งอย่าง
00:20:15 → 00:20:17 เงี้ยวันนี้ฉันทำได้พรุ่งนี้ฉันจะทำอะไร
00:20:17 → 00:20:19 ได้มากกว่านี้บ้างแต่รักษาต้นทุนเดิมที่
00:20:20 → 00:20:21 เรามีไม่ให้มันพร่องไกว่านั้นค่ะแล้ว
00:20:22 → 00:20:24 เดี๋ยววันนึงมันจะกลายเป็น 10 บาท 20 บาท
00:20:24 → 00:20:27 30 บาทแค่ต้องให้เวลาอืและมากกว่านั้น
00:20:27 → 00:20:31 คือการใช้เวลาถ้าเราใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ
00:20:31 → 00:20:34 การสะสมตรงเนี้ยก็จะยิ่งเร็วขึ้นค่ะอื
00:20:34 → 00:20:36 อย่างเช่นอ่ะสมมุติผมพูดถึงซ้อมดนตรีอย่า
00:20:36 → 00:20:39 เงี้ยถ้าผมจับเล่น 4-5 ช่วโมงแต่เล่นแบบ
00:20:39 → 00:20:42 ไม่มีเป้าหมายแล้วก็เล่นทุกสิ่งซ้ำซากไม่
00:20:42 → 00:20:44 ได้พัฒนาอะไรเพิ่มมันก็จะกลายเป็นการ
00:20:44 → 00:20:47 พัฒนาที่ช้ามากอืแต่ถ้าเกิดวันนั้นเราเซต
00:20:47 → 00:20:49 ว่าอเราจะซ้อมสิ่งนี้นะเราอยากเห็นภาพของ
00:20:49 → 00:20:52 ความคล่องหรือความเข้าใจในบดเพลงอะไรก็
00:20:52 → 00:20:54 ตามพวกเนี้ยครับเมื่อมีเป้าหมายแล้วเรา
00:20:54 → 00:20:56 ใช้เวลาการฝึกซ้อมที่มีคุณภาพมันก็จะบวก
00:20:56 → 00:20:59 เร็วขึ้นอืทีทีนี้หลายคนหลายคนมักจะเซต
00:20:59 → 00:21:01 เป้าหมายแต่ว่าระหว่างทางที่ใช้อ่ะเวลา
00:21:01 → 00:21:03 ไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่มันเลยต้องต้อง
00:21:04 → 00:21:06 ย้อนกลับมาดูเหมือนกันว่าใช่แหละเราอยาก
00:21:06 → 00:21:09 ไปแต่ถ้าเราเซตเป้าหมายเอ้ยเซตวิธีการฝึก
00:21:09 → 00:21:11 ซ้อมหรือวิธีการที่จะจัดการตัวเองไม่ดี
00:21:11 → 00:21:14 มันก็จะช้าลงอืแล้วความช้านี่แหละจะทำให้
00:21:14 → 00:21:17 เราท้อด้วยค่ะเพราะงั้นการการมาละเอียด
00:21:17 → 00:21:19 รอบคอบกับการวางแผนหรือแม้กระทั่งการ
00:21:19 → 00:21:21 เลือกกระบวนการที่มีเป้าหมายชัดเจนวัดผล
00:21:21 → 00:21:23 ได้อย่างเงี้ยครับอืตรงเนี้ยมันก็จะเป็น
00:21:23 → 00:21:25 ตรงนึงที่ช่วยให้เราสามารถไปถึงผลลัพธ์
00:21:25 → 00:21:27 ได้ดีขึ้นอือมันกลายเป็นว่าพอเราทบทวน
00:21:27 → 00:21:30 ระวังเป้าหมายเราวางแผนอือๆใช่มั้ยคะมัน
00:21:30 → 00:21:32 ก็ทำให้เราเดินไปถึงใช่แล้วอย่าวางเป้า
00:21:32 → 00:21:36 หมายให้เราท้อเพราะว่าระหว่างทางครับเรา
00:21:36 → 00:21:38 เรามีสิ่งที่ต้องทำให้ท้ออยู่แล้วแต่เรา
00:21:38 → 00:21:40 อย่าตัดกำลังใจตัวเองด้วยการบอกว่าแบบโอ้
00:21:40 → 00:21:44 เราไม่ไหววะอะไรเงี้ยฮะอือืแล้วก็มีอะไร
00:21:44 → 00:21:48 อีกที่เราจะแบบว่าสามารถที่จะแบบ
00:21:48 → 00:21:51 อ่ะดีๆได้สำรที่สำคัญที่สำคัญต้องบอก
00:21:51 → 00:21:54 อย่างงี้ครับอย่าเปรียบเทียบกับคนอื่นอ๋อ
00:21:54 → 00:21:56 เวลาเวลาจะตั้งปีใหม่เนี่ยครับหลายๆคนจะ
00:21:56 → 00:22:00 ชอบโพสต์ Facebook ว่าปีที่แล้วฉันทำอะไร
00:22:00 → 00:22:03 มาบ้างเออแล้วปีหน้าฉันจะทำอะไรอเสร็จ
00:22:03 → 00:22:06 ปึ๊บคนเราครับโดยธรรมชาติจะมีความบ้าจี้
00:22:06 → 00:22:09 บ้าจี้เห็นคนอื่นปั๊บเอ๊ะเขาคเขียนแบบนี้
00:22:09 → 00:22:12 แล้วฉันล่ะเออแล้วพอเราตั้งเป้าหมายบาง
00:22:12 → 00:22:14 อย่างครับบางทีมันจะมีเหมือนกันนะที่เรา
00:22:14 → 00:22:17 เผลอตั้งเป้าหมายโดยลอกชาวบ้านไม่รู้ตัว
00:22:17 → 00:22:20 อือเคอยากมีอันนั้นอันนี้อันโน้นแล้วเรา
00:22:20 → 00:22:23 ก็แบบอยากมีแบบเค้าบ้างจังอือเราก็เลยไป
00:22:23 → 00:22:25 เซ็ตบ้างแต่แท้จริงแล้วหากตัวเราอาจจะไม่
00:22:26 → 00:22:28 ได้ต้องการสิ่งนั้นก็ได้ค่ะตัวเราอาจจะ
00:22:28 → 00:22:30 แบบอยากได้ชีวิตที่เป็นอีกแบบนึงก็ได้
00:22:30 → 00:22:32 เพราะงั้นเรืื่องนี้สำคัญมากเหมือนที่ผม
00:22:32 → 00:22:35 ย้ำตั้งแต่ต้นรายการเลยครับว่าการรู้จัก
00:22:35 → 00:22:38 ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรเราสุขหรือเรา
00:22:38 → 00:22:41 ทุกข์จากอะไรเรารู้สึกชีวิตมันน่าสนุก
00:22:41 → 00:22:43 หรือชีวิตไม่น่าสนุกจากอะไรอันเนี้ยสำคัญ
00:22:43 → 00:22:45 มากเพราะแต่ละคนจะมีความเป็นตัวเองไม่
00:22:45 → 00:22:48 เหมือนกันถ้าเรายิ่งลอกคนอื่นมากเท่าไหร่
00:22:48 → 00:22:50 อ่ะครับเรายิ่งห่างจากตัวเองมากเท่านั้น
00:22:50 → 00:22:52 คืออย่างนี้แสดงว่าก็ยังไม่รู้จักตัวเอง
00:22:52 → 00:22:55 อยู่ดีอ่ะใช่มั้ยถึงการลอกคนอื่นใช่มั้ย
00:22:55 → 00:22:58 ครับจริงๆผมว่าการการลอกคนอื่น
00:22:58 → 00:23:02 อาจจะมีทั้งคนที่รู้จักตัวเองอยู่บ้างอื
00:23:02 → 00:23:06 แต่แต่คล้ายๆว่าจิตไม่นิ่งพอก็จะตามเไป
00:23:06 → 00:23:08 เพราะเพราะกระแสสังคมมีผลต่อจิตเราเสมอ
00:23:08 → 00:23:10 ครับอืสิ่งแวดล้อมมีผลต่อเราเสมอเพราะ
00:23:10 → 00:23:12 งั้นมันถึงมีเรื่องของการพูดว่าเราควร
00:23:12 → 00:23:15 เลือกคบกัลยาณมิตรเออตัดคนไม่ดีออกจาก
00:23:15 → 00:23:17 ชีวิตบ้างใช่ครับเพราะถ้าเราอยู่กับรอบ
00:23:17 → 00:23:19 อยู่ห้อมล้อมด้วยผู้คนไม่ดีอย่างเงี้ย
00:23:19 → 00:23:21 ครับบางครั้งกระแสคนไม่ดีก็จะพาให้เราไหล
00:23:21 → 00:23:23 ไปกับกระแสนั้นเหมือนกันเราต้านไม่ได้นะ
00:23:24 → 00:23:26 เอาจริงๆตได้เพราะจิตเราก็จะผันไปตามสภาพ
00:23:26 → 00:23:29 แวดล้อมเพราะฉนั้นเลือกสภาพแวดล้อมการ
00:23:29 → 00:23:32 เลือกรับรู้บางสิ่งก็สำคัญค่ะเพราะบางที
00:23:32 → 00:23:33 พอเราเลือกรับรู้สิ่งที่แบบมันปั่นแล้ว
00:23:33 → 00:23:35 ทุกคนลองนึกภาพว่าถ้าสมมุติ 10 คนที่เป็น
00:23:36 → 00:23:38 เพื่อนเราอ่ะตั้งเป้าหมายแบบเดียวกันคือ
00:23:38 → 00:23:41 แบบรวยรวยจัด 100 ล้านอย่างเงี้ยฮะเออตัว
00:23:41 → 00:23:43 เราอาจจะถูกเร่งให้ทำอย่างนั้นบ้างก็ได้
00:23:43 → 00:23:46 เหมือนกันอืเออจะได้เหมือนเพื่อนค่ะแต่ผม
00:23:46 → 00:23:49 ก็ไม่ได้ว่านะถ้ามี 100 ล้านก็ดีครับแต่
00:23:49 → 00:23:51 เพียงแค่ว่าแต่ละคนในการไปถึง 100 ล้าน
00:23:51 → 00:23:53 เนี่ยเอ่อเค้าเรียกว่าศักยภาพในการไปถึง
00:23:53 → 00:23:55 ไม่เท่ากันหรือสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน
00:23:55 → 00:23:58 เพื่อมี100รล้านก็ไม่เท่ากันค่ะคนบางคน
00:23:58 → 00:24:00 ไม่ต้องแลกเปลี่ยนเลยเอาจจะแบบโดย
00:24:00 → 00:24:02 ธรรมชาติเขสามารถทำได้อืแต่คนบางคนต้อง
00:24:02 → 00:24:05 ขายวิญญาณเพื่อได้สิ่งนั้นเอ่าก็ก็มีหลาย
00:24:05 → 00:24:07 คนเหมือนกันใช่ครับทีนี้ประเด็นคือตัวเรา
00:24:07 → 00:24:11 จะขายวิญญาณมั้ยอืไม่ไม่สิเพราเพราะการ
00:24:11 → 00:24:13 ขายวิญญาณสุดท้ายจะพบกับความว่างเปล่าบาง
00:24:13 → 00:24:16 อย่างเสมอได้สิ่งนึงแต่เสียสิ่งนึงครับก็
00:24:16 → 00:24:18 ไม่ได้อยากจะเสียอะไรไปอ่าใช่สุดท้ายเรา
00:24:19 → 00:24:21 เลยต้องรอบคอบว่าในการจะไปถึงปลายทางมัน
00:24:21 → 00:24:23 ต้องมีสิ่งที่มีความหมายกับตัวเองแท้จริง
00:24:23 → 00:24:26 อยู่ค่ะเพราะงั้นการหยุดคุยกับตัวเองคือ
00:24:26 → 00:24:28 สิ่งที่อยากผมอยากให้ทุกคนได้ทำในช่วง
00:24:28 → 00:24:31 ช่วงปีใหม่ช่วงก่อนจะปีใหม่แล้วแต่ก่อน
00:24:31 → 00:24:34 ที่เราจะตั้งเป้าหมายใดๆก็ตามคุยกับตัว
00:24:34 → 00:24:37 เองก่อนว่าเราอยากได้อะไรกันแน่เราอยาก
00:24:37 → 00:24:40 เห็นชีวิตเราหน้าตายังไงและรู้สึกยังไง
00:24:40 → 00:24:42 กันแน่เงี้ยครับอค่ะแล้วก็ค่อยๆเดินนะคะ
00:24:42 → 00:24:45 ใช่ครับค่อยๆเดินอย่าให้ตัวเองหมดกำลังใจ
00:24:45 → 00:24:47 มันมันมีสะดุดบ้างอะไรบ้างก็บางอย่างเป็น
00:24:47 → 00:24:50 ประสบการณ์ที่ดีเราก็จะได้เดินก้าวข้ามไป
00:24:50 → 00:24:53 ไม่สะดุดหินก้อนเดิมอีกก็ได้นะคะมันมันมี
00:24:53 → 00:24:55 บทเรียนอยู่ในสิ่งที่เราเดินอยู่เสมอ
00:24:55 → 00:24:57 เพียงแต่ว่าเราจะเห็นว่ามันเป็นบทเรียน
00:24:57 → 00:24:59 มั้ยหรือว่ามันเป็นอุปสรรคหรือมันเป็น
00:24:59 → 00:25:03 อะไรนะคะแล้วก็ค่อยๆเติบโตไปค่ะทุกคนก็มี
00:25:03 → 00:25:05 ศักยภาพในตัวเองอยู่แล้วเชื่อว่าทำได้เรา
00:25:05 → 00:25:08 เป็นกำลังใจให้เนาะเอากำลังเป็นกำลังใจ
00:25:08 → 00:25:11 ช่วยลิ้นพันกันเอาใจช่วยครับผมโอเคค่ะก็
00:25:11 → 00:25:13 ยังไงน่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีของ
00:25:13 → 00:25:17 ใครหลายๆคนนะคะรวมทั้งเราด้วยด้วยเราด้วย
00:25:17 → 00:25:19 ค่ะอขอบคุณคุณเอิ้นค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลา
00:25:20 → 00:25:21 แล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ
00:25:21 → 00:25:24 รายการโรงหมอทางไย PB podcast วันนี้ลา
00:25:24 → 00:25:26 ไปก่อนนะคะสวัสดี
00:25:26 → 00:25:28 ค่ะ
00:25:28 → 00:25:31 เทรนเฝ้าฟันให้เขาวกำลังได้รับความนิยม
00:25:31 → 00:25:33 แต่การทำต้องระวังเรื่องอะไรโดยเฉพาะหาก
00:25:33 → 00:25:36 ทำด้วยตัวเองทันตแพทยศุภกิจนิยมรัตนกิจ
00:25:36 → 00:25:40 จากคณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลมา
00:25:40 → 00:25:43 เล่าให้ฟังครับในยุคสมัยปัจจุบันนะครับ
00:25:43 → 00:25:46 การที่แต่ละคนมันมีรอยยิ้มที่นอกจากการ
00:25:46 → 00:25:49 เรียงตัวของฟันที่ดีการที่มีสีที่ขาว
00:25:49 → 00:25:52 สะอาดเนี่ยมันจะช่วยทำให้เจ้าของของรอย
00:25:52 → 00:25:54 ยิ้มเนี่ยมันมีความมั่นใจมากขึ้นครับมัน
00:25:54 → 00:25:57 ทำให้คนหลายคนการหาวิธีอะไรก็ตามที่ที่
00:25:57 → 00:26:01 สามารถทำให้ฟันของเราอ่ะดูขาวดูเรียงตัว
00:26:01 → 00:26:03 ที่ดีขึ้นการฟอกสีฟันเนี่ยก็เป็น Option
00:26:03 → 00:26:07 นึงในการช่วยทำให้ฟันของเราอ่ะมีสีที่
00:26:07 → 00:26:11 สะอาดตาการที่มีฟันที่ขาวสะอาดเนี่ยมัน
00:26:11 → 00:26:14 ส่งผลให้รอยยิ้มของเราอ่ะมันมันเฉิดฉาย
00:26:14 → 00:26:17 มากขึ้นครับถ้าเราจะฟอกสีปกติธานแพทย์อาจ
00:26:17 → 00:26:20 จะแบ่งเป็น 3 หมวดหมู่คือ 1 ฟอกสีฟันโดย
00:26:20 → 00:26:23 ธานแพทย์ที่คลินิกเลยการที่เราใช้น้ำยา
00:26:23 → 00:26:25 สารตระกูลเปอร์ออกไซด์ครับมันจะเป็น
00:26:25 → 00:26:28 ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ถ้าใช้ที่ที่คลินิค
00:26:28 → 00:26:30 เนี่ยมันจะมีความเข้มข้นค่อนข้างสูงอย่าง
00:26:30 → 00:26:34 ที่ 2 การทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลก็คือมา
00:26:34 → 00:26:36 พบธานแพทย์เหมือนกันมาพิมพ์ปากเพื่อทำตัว
00:26:37 → 00:26:40 ถาดฟอกสีฟันเพื่อนำน้ำยากลับไปบ้านไปฟอก
00:26:40 → 00:26:43 เองตอนกลางคืนอย่างที่ 3 ตาม tiktok หรือ
00:26:43 → 00:26:46 ว่าตาม Facebook Instagram อะไรต่างๆที่
00:26:46 → 00:26:48 เขาโปรโมทกันว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ฟันขาว
00:26:48 → 00:26:52 เนี่ยความจริงมันมันก็มีหลายรูปแบบมาก
00:26:52 → 00:26:55 ตั้งแต่ยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวสูตรต่างๆ
00:26:55 → 00:26:59 ที่ขายตามท้องตลาดค่ะแต่ว่ากรมอนามัยหรือ
00:26:59 → 00:27:02 ว่ากระทรวงที่คุมเรื่องอยเนี่ยจะไม่
00:27:02 → 00:27:04 สามารถให้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่เป็น
00:27:04 → 00:27:07 ไฮโดรเจนบอกซ์เกินกว่าประมาณ 1-5 per
00:27:07 → 00:27:09 เนี่ยไม่สามารถที่มันจะขาย Over the
00:27:09 → 00:27:11 Counter ได้ครับการที่เราใช้น้ำยากลุ่ม
00:27:11 → 00:27:14 เดียวกับที่ธานแพทย์จ่ายเนี่ยมันอาจจะมี
00:27:14 → 00:27:18 ช่องที่มันมีจุดที่มันสามารถรั่วซึมของ
00:27:18 → 00:27:21 สารตัวเปอร์ออกไซด์ที่ใส่ไว้ในถาดฟอกตอน
00:27:21 → 00:27:25 เข้าไปในปากเนี่ยมันมีโอกาสที่ตัวสารฟอก
00:27:25 → 00:27:28 สีฟันน่ะจะซึมลงไปโดนบริวณเหงือกหรือว่า
00:27:28 → 00:27:31 เข้าไปในช่องปากได้เพราะว่าถ้าเหงือกโดน
00:27:31 → 00:27:34 น้ำยาตัวเนี้ยมันก็จะทำให้เกิดการเบิรน
00:27:34 → 00:27:37 หรือว่าเกิดการระคายเคืองตรงบริเวณเหงือก
00:27:37 → 00:27:40 นั้นได้ถ้าสังเกตว่าการระคายเคืองที่มัน
00:27:40 → 00:27:42 เกิดขึ้นเนี่ยส่วนใหญ่มันจะเป็นอาการแสบ
00:27:42 → 00:27:46 ปวดบริเวณเหงือกครับซึ่งการที่ทำอยู่ใน
00:27:46 → 00:27:48 บริเวณที่ธานแพทย์สามารถดูแลได้เนี่ยธาน
00:27:48 → 00:27:50 แพทย์ก็สามารถถามคนไข้ได้ตลอดเวลา Follow
00:27:50 → 00:27:53 ได้ตลอดเวลาว่ามันแสบมันหรือระคายเครื่อง
00:27:53 → 00:27:56 เนี่ยเราสามารถแก้ปัญหาได้ทันที
00:27:56 → 00:27:58 ครับ
00:27:58 → 00:28:02 This Is Toy PBS
00:28:02 → 00:28:05 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:05 → 00:28:08 Application ของ Thai PBS podcast
00:28:08 → 00:28:11 spotify soundcloud Google podcast
00:28:11 → 00:28:13 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:13 → 00:28:18 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:28:18 → 00:28:20 View the world via The
00:28:20 → 00:28:26 [เพลง]
00:28:26 → 00:28:30 Voice
00:28:30 → 00:28:33 อ