00:00:01 → 00:00:04 แขนขาอ่อนแรงยกไม่ขึ้นอาจเสี่ยงรบกล้าม
00:00:04 → 00:00:06 เนื้ออ่อนแรง
00:00:06 → 00:00:10 als โรคกล้ามเหนืออ่อนแรง als อันตราย
00:00:10 → 00:00:14 เสี่ยงเสียชีวิตใน 2
00:00:14 → 00:00:18 ปีรู้จัก 5 อาหารบำรุงสุขภาพเสริมกล้าม
00:00:18 → 00:00:21 เนื้อติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ
00:00:21 → 00:00:24 TNN Health วัน
00:00:24 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:31 นี้สวัสดีค่ะค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ
00:00:31 → 00:00:35 TNN Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริม
00:00:35 → 00:00:37 ภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ TNN Health
00:00:38 → 00:00:40 นะคะและดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงชัดดาวจัง
00:00:40 → 00:00:44 วังกรแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัว
00:00:44 → 00:00:46 พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
00:00:46 → 00:00:50 พาคุณผู้ชมไปเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:50 → 00:01:04 [เพลง]
00:01:04 → 00:01:08 และสำหรับวันนี้นะคะเราจะพาคุณผู้ชมมารู้
00:01:08 → 00:01:10 จักโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงกันกล้ามเนื้อ
00:01:10 → 00:01:13 อ่อนแรงนะคะคุณผู้ชมอาจจะคาดไม่ถึงว่า
00:01:13 → 00:01:15 เป็นภัยใกล้ตัวค่ะถ้าหากคุณผู้ชมรู้สึก
00:01:15 → 00:01:18 อ่อนแรงแคนขาไม่ทราบสาเหตุนะคะคุณอาจจะ
00:01:18 → 00:01:21 เข้าข่ายเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ซึ่ง
00:01:21 → 00:01:23 โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นแท้จริงมีอยู่
00:01:23 → 00:01:26 หลายกลุ่มค่ะและวันนี้ที่เราจะพาคุณผู้ชม
00:01:26 → 00:01:29 ไปรู้จักนั่นก็คือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง al
00:01:29 → 00:01:32 S ซึ่งเป็นเรื่องของโรคของเส้นประสาท
00:01:32 → 00:01:36 นั่นเองค่ะแต่ก่อนจะไปทำความรู้จักโรค
00:01:36 → 00:01:39 กล้ามเนื้ออ่อนแรง als หรือ
00:01:39 → 00:01:42 amyotrophic lateral sclerosis นั้นมา
00:01:42 → 00:01:45 ทำความรู้จักกลุ่มโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:01:45 → 00:01:48 ที่พบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้โรคกล้ามเนื้อ
00:01:48 → 00:01:52 อ่อนแรง mg หรือ My astin gravis
00:01:52 → 00:01:55 สาเหตุของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง mg ที่มัก
00:01:55 → 00:01:58 พบบ่อยมากที่สุดเกิดมาจากความผิดปกติของ
00:01:58 → 00:02:01 ต่อมไท mas ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้ม
00:02:01 → 00:02:04 กันทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาทำ
00:02:04 → 00:02:07 ร้ายตัวเองโดยสร้างแอนติบอดี้ให้ทำลายและ
00:02:07 → 00:02:10 ยับยั้งการส่งสัญญาณของสารสื่อประสาทที่
00:02:10 → 00:02:13 อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างปลายประสาทกับ
00:02:13 → 00:02:16 กล้ามเนื้อซึ่งทำให้เส้นประสาทไม่สามารถ
00:02:16 → 00:02:19 ส่งสัญญาณให้กับกล้ามเนื้อได้จึงทำให้
00:02:19 → 00:02:22 กล้ามเนื้ออ่อนแรงลักษณะอาการโรคกล้าม
00:02:22 → 00:02:25 เนื้ออ่อนแรง mg มักจะเกิดขึ้นกับกล้าม
00:02:25 → 00:02:28 เนื้อมัดที่ใช้เป็นประจำโดยมักมีอาการ
00:02:28 → 00:02:32 เปลือกตาตกมเห็นภาพซ้อนโฟกัสภาพไม่ได้พูด
00:02:32 → 00:02:36 ไม่ชัดกลื่นลำบากสำลักง่ายเสียงเปลี่ยน
00:02:36 → 00:02:39 ขึ้นจมูกแขนขาอ่อนแรงกล้ามเนื้อกระตุกรวม
00:02:39 → 00:02:42 ถึงเคลื่อนไหวและหายใจไม่สะดวกโรคกล้าม
00:02:42 → 00:02:47 เนื้ออ่อนแรง sma หรือ spal muscular
00:02:47 → 00:02:50 atrophy สาเหตุของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:02:50 → 00:02:53 sma นั้นเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เป็น
00:02:53 → 00:02:56 สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กในช่วง 2 ขวบปี
00:02:56 → 00:02:59 แรกมากที่สุดเป็นโรคที่สามารถพบได้ตั้ง
00:02:59 → 00:03:01 แต่เป็นเด็กเด็กทารกตลอดจนเข้าสู่วัยย
00:03:01 → 00:03:05 รุ่นซึ่งมีต้นตอเกิดจากความผิดปกติของ
00:03:05 → 00:03:09 พันธุกรรมที่ไม่มียีน smn One ยีนที่คอย
00:03:09 → 00:03:12 ทำหน้าที่ผลิตโปรตีนเพื่อควบคุมระบบ
00:03:12 → 00:03:14 ประสาทควบคุมกล้ามเนื้อซึ่งทำให้กล้าม
00:03:14 → 00:03:17 เนื้ออ่อนแรงไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อ
00:03:17 → 00:03:21 ได้ลักษณะอาการโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง SM
00:03:21 → 00:03:25 เซลล์เส้นประสาทที่เสื่อมสภาพเพราะไม่มี
00:03:25 → 00:03:28 โปรตีนในการควบคุมประสาทนี้จากพันธุกรรม
00:03:28 → 00:03:31 มักเป็นเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อที่
00:03:31 → 00:03:34 ใช้ในการหายใจการกลื่นและการเคลื่อนไหว
00:03:34 → 00:03:38 ของแขนขาจึงทำให้ผู้ป่วยโรคนี้จะเริ่มไม่
00:03:38 → 00:03:41 สามารถควบคุมกล้ามเนื้อส่วนต่างๆในร่าง
00:03:41 → 00:03:45 กายได้ทั้งการเคลื่อนไหวแขนขาชาไม่มีแรง
00:03:45 → 00:03:49 มีปัญหาในการกลืนอาหารหรือการหายใจจนไม่
00:03:49 → 00:03:53 สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้และโรคกล้าม
00:03:53 → 00:03:57 เนื้ออ่อนแรง al นั้นเป็นความผิดปกติของ
00:03:57 → 00:04:00 เซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่นำคำสั่ง
00:04:00 → 00:04:03 โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง als ไม่ใช่โรคของ
00:04:03 → 00:04:06 กล้ามเนื้อโดยตรงแต่เป็นโรคที่เกิดจาก
00:04:06 → 00:04:09 ความผิดปกติของเซลล์ประสาทนำคำสั่งแล้ว
00:04:10 → 00:04:13 ส่งผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยที่เซลล์
00:04:13 → 00:04:15 ประสาทนำคำสั่งเหล่านี้ค่อยๆเกิดการ
00:04:15 → 00:04:18 เสื่อมและตายไปในที่สุดทั้งนี้เมื่อได้
00:04:18 → 00:04:20 รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อน
00:04:20 → 00:04:24 แรง als แล้วมักจะเสียชีวิตภายใน 2 ปี
00:04:25 → 00:04:27 หลายคนอาจจะรู้จักโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:04:27 → 00:04:32 als จากสเฟนฮินักฟิสิกส์ระดับโลกที่ได้
00:04:32 → 00:04:35 รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะสตีเฟนเกิดใน
00:04:35 → 00:04:38 ปีคริสตศักราช
00:04:38 → 00:04:41 1942 และถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเซลล์
00:04:41 → 00:04:44 ประสาทสังกเสื่อมหรือ M neuron disease
00:04:44 → 00:04:48 โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง als ในวัย 22 ปีและ
00:04:48 → 00:04:52 ต่อสู้กับโรคนี้มานานถึง 50 ปีก่อนจะเสีย
00:04:52 → 00:04:55 ชีวิตลงตอนอายุ 76 ปีเมื่อวันที่ 14
00:04:55 → 00:04:58 มีนาคมคริตศักราช
00:04:58 → 00:05:01 2018 โรคกลามเหนืออ่อนแรงง als เป็นโรค
00:05:02 → 00:05:04 ที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาทนำคำ
00:05:04 → 00:05:07 สั่งจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรค
00:05:07 → 00:05:11 ของเซลล์ประสาทนำคำสั่งหรือ M neuron
00:05:11 → 00:05:12 disease
00:05:13 → 00:05:17 mnb หรือโรคเซลล์ประสาทนำคำสั่งเสื่อม
00:05:17 → 00:05:20 โรคกล้ามเหนื้ออ่อนแรง a เป็นโรคที่พบได้
00:05:20 → 00:05:24 น้อยประมาณปีละ 1.25 ถึง 2.5 รายต่อ
00:05:24 → 00:05:27 ประชากรแสนคนซึ่งโรคนี้จะพบในเพศชายมาก
00:05:27 → 00:05:30 กว่าเพศหญิงเล็กน้อยและจะเริ่มแสดงอาการ
00:05:30 → 00:05:34 เมื่ออายุเฉลี่ย 60 ปีสาเหตุส่วนใหญ่ยัง
00:05:34 → 00:05:36 ไม่ทราบแน่ชัดผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มี
00:05:36 → 00:05:39 ประวัติครอบกลัวเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:05:39 → 00:05:42 และที่น่าตกใจก็คือร้อยละ 50 ของผู้ป่วย
00:05:42 → 00:05:45 โดยเฉลี่ยจะเสียชีวิตหลังจากมีอาการใน
00:05:46 → 00:05:50 ระยะเวลาประมาณ 2 ปีการวินิจฉัยโรคกล้าม
00:05:50 → 00:05:53 เนื้ออ่อนแรงสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
00:05:53 → 00:05:56 เนื่องจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง als เป็น
00:05:56 → 00:06:00 โรคที่รักษาไม่หายการวินิจฉัยโรคจึงมี
00:06:00 → 00:06:03 ความสำคัญและจะต้องทำโดยแพทย์อายุรกรรม
00:06:03 → 00:06:06 สาขาประสาทวิทยาที่มีประสบการณ์โดยอาศัย
00:06:06 → 00:06:09 การซักประวัติการตรวจร่างกายแพทย์จำเป็น
00:06:09 → 00:06:12 ต้องจำแนกโรคอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายกันออก
00:06:12 → 00:06:16 ไปก่อนเช่นภาวะพร่องวิตามิน B12 โรคที่ไข
00:06:16 → 00:06:19 สันหลังระดับคอโดยการตรวจภาพ MRI และการ
00:06:19 → 00:06:22 สืบค้นทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมซึ่งการ
00:06:22 → 00:06:25 ตรวจทางห้องปฏิบัติการจะช่วยสนับสนุนการ
00:06:25 → 00:06:28 วินิจฉัยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง als คือการ
00:06:28 → 00:06:32 ตรวจเส้นประสาทและกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟ
00:06:32 → 00:06:32 ฟ้า
00:06:32 → 00:06:36 emg เมื่อวินิจฉัยแน่ชัดแล้วก็จะนำผู้
00:06:36 → 00:06:39 ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไปอาการของ
00:06:39 → 00:06:43 โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง al มีดังต่อไป
00:06:43 → 00:06:46 นี้อาการเริ่มต้นผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อ
00:06:46 → 00:06:49 อ่อนแรง als จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:06:49 → 00:06:52 ของมือแขนขาหรือเท้าข้างใดข้างหนึ่งก่อน
00:06:52 → 00:06:55 เช่นยกแขนไม่ขึ้นเหนือศีรษะกำมือถือของ
00:06:55 → 00:06:59 ไม่ได้ข้อมือหรือข้อเท้าตกเดินแล้วหกล้ม
00:06:59 → 00:07:02 บ่อยหรือสะดุดบ่อยขึ้นบันไดลำบากนั่งยองๆ
00:07:02 → 00:07:05 ลุกขึ้นลำบากเป็นต้นอาการกล้ามเนื้ออ่อน
00:07:05 → 00:07:08 แรงจะค่อยๆเป็นมากขึ้นจนลามไปทั้ง 2 ข้าง
00:07:08 → 00:07:11 แต่ในบางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:07:11 → 00:07:14 ของแขนหรือขาทั้ง 2 ข้างตั้งแต่ต้นนอกจาก
00:07:14 → 00:07:17 อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงแล้วยังพบว่ามี
00:07:17 → 00:07:20 กล้ามเนื้อลีบร่วมกับกล้ามเนื้อเต้นที่
00:07:20 → 00:07:23 เรียกว่าฟ circulation ร่วมด้วยผู้ป่วย
00:07:23 → 00:07:26 บางรายอาจมาพบแพทย์ครั้งแรกด้วยมือลีบ
00:07:26 → 00:07:29 หรือขาลีบพูดไม่ชัดพูดเหมือนลิ้นแข็งเวลา
00:07:29 → 00:07:33 กลืนน้ำหรืออาหารแล้วจะสำลักผู้ป่วยบาง
00:07:33 → 00:07:35 รายมาพบแพทย์ครั้งแรกด้วยกล้ามเนื้อ
00:07:35 → 00:07:37 กระบังลมอ่อนแรงทำให้เหนื่อยง่ายโดยเฉพาะ
00:07:37 → 00:07:40 เวลานอนราบหรือมีอาการต้องตื่นกลางดึก
00:07:40 → 00:07:43 เพราะมีอาการเหนื่อยหายใจไม่อิ่มเนื่อง
00:07:43 → 00:07:45 จากอาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง al
00:07:45 → 00:07:48 คล้ายกับโรคอื่นทำให้ผู้ป่วยโรคกล้าม
00:07:48 → 00:07:51 เนื้ออ่อนแรง als ในช่วงต้นได้รับการ
00:07:51 → 00:07:54 วินิจฉัยว่าเป็นโรคอื่นเช่นมีผู้ป่วยบาง
00:07:54 → 00:07:57 รายที่มาด้วยมือรีบอาจได้รับการวินิจฉัย
00:07:57 → 00:08:00 ไม่ถูกต้องเช่นเป็นผืดรัดเส้นประสาทที่
00:08:01 → 00:08:04 ข้อมือหรือ cal Channel Syndrome และ
00:08:04 → 00:08:07 ได้รับการผ่าตัดแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือ
00:08:07 → 00:08:09 อาจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นม้อนรอง
00:08:09 → 00:08:12 กระดูกทับเส้นประสาทที่คอหรือที่หลังและ
00:08:12 → 00:08:14 ได้รับการผ่าตัดไปแล้วพบว่าอาการไม่ดี
00:08:14 → 00:08:18 ขึ้นและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้าม
00:08:18 → 00:08:21 เนื้ออ่อนแรง als ในภายหลังโดยทั่วไป
00:08:21 → 00:08:23 เมื่ออาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง alos
00:08:23 → 00:08:26 เป็นมากขึ้นผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้อ
00:08:26 → 00:08:30 ของแขนขาอ่อนแรงและลีบที่แย่ลร่วมกับการ
00:08:30 → 00:08:33 กล้ามเนื้อที่ใช้ในการพูดการกลืนอ่อนแรง
00:08:33 → 00:08:35 จนต้องใช้ท่อให้อาหารทางสายยางผ่านทาง
00:08:35 → 00:08:38 จมูกหรือทางหน้าท้องและกล้ามเนื้อหายใจ
00:08:38 → 00:08:41 อ่อนแรงจนกระทั่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
00:08:41 → 00:08:44 ในระยะสุดท้ายผู้ป่วยจะไม่สามารถช่วย
00:08:44 → 00:08:47 เหลือตัวเองได้ต้องให้อาหารและน้ำทางสาย
00:08:47 → 00:08:50 น้ำเกลือและอาจเสียชีวิตเนื่องจากระบบหาย
00:08:50 → 00:08:54 ใจล้มเหลวได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับโรค
00:08:54 → 00:08:57 กล้ามเนื้ออ่อนแรง als กันไปบ้างแล้วนะคะ
00:08:57 → 00:08:59 และในช่วงนี้นะคะเรายังอยู่กันที่ที่โรค
00:08:59 → 00:09:03 กล้ามเนื้ออ่อนแรง als ค่ะเราจะไปพูดคุย
00:09:03 → 00:09:05 กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะรับมือโรค
00:09:05 → 00:09:07 นี้
00:09:07 → 00:09:10 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:09:10 → 00:09:11 เลยนะ
00:09:11 → 00:09:17 [เพลง]
00:09:17 → 00:09:21 คะอุบัติการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง als
00:09:22 → 00:09:24 ค่ะเป็นอย่างไรคะสำหรับโรคกล้ามเนื้ออ่อน
00:09:24 → 00:09:26 แรงนะครับที่เราเรียกว่า als เป็นโรคที่
00:09:26 → 00:09:29 พบได้ไม่บ่อยครับแล้วก็สำคัญเลยคือไม่
00:09:29 → 00:09:31 สามารถวินิจฉัยได้ในคราวแรกที่ผู้ป่วย
00:09:31 → 00:09:33 เนี่ยมาพบแพทย์โอกาสการเกิดโรคหรือว่า
00:09:33 → 00:09:35 อุบัติการ์นะครับมีตัวเลขค่อนข้างจะหลาก
00:09:35 → 00:09:38 หลายโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1 - 2.6
00:09:38 → 00:09:41 คนต่อประชากร 100,000 คนครับต้องเล่าก่อน
00:09:41 → 00:09:43 ว่าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นคำภาษาไทยนะ
00:09:43 → 00:09:45 ครับเพราะฉะนั้นคำภาษาไทยเนี่ยอาจจะครอบ
00:09:45 → 00:09:48 คลุมความอ่อนแรงของคนไข้แต่ว่าไม่สามารถ
00:09:48 → 00:09:51 ลงรายละเอียดในของโรคทางการแพทย์ได้แต่
00:09:51 → 00:09:53 ว่าคำนี้จะนิยมใช้ในไทยก็จะมีหลักๆอยู่ 2
00:09:53 → 00:09:56 โรคครับอันแรกก็คือโรค als นะครับที่ย่อ
00:09:56 → 00:09:58 มาจาก amyotrophic lal sclerosis กับ
00:09:58 → 00:10:01 อันที่ 2 ก็คือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแบบ mg
00:10:01 → 00:10:04 หรือว่า myin gravis ภาษาไทยใช้คำว่า
00:10:04 → 00:10:06 กล้ามเนื้ออ่อนแรงเหมือนกันแต่ในแง่ของ
00:10:06 → 00:10:09 โรครายละเอียดการรักษาการวินิจฉัยแตกต่าง
00:10:09 → 00:10:12 กันอย่างโดยสิ้นเชิงครับและโรคกล้ามเนื้อ
00:10:12 → 00:10:15 อ่อนแรง als ไม่ใช่โรคของกล้ามเนื้อโดย
00:10:15 → 00:10:19 ตรงแต่ว่ามีสาเหตุเกิดจากอะไรคะอาจารย์คำ
00:10:19 → 00:10:20 ว่าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนะครับที่เรียก
00:10:21 → 00:10:23 ว่า als ชื่อเต็มก็คือ amyotrophic
00:10:23 → 00:10:26 lateral sclerosis ครับซึ่งแท้จริงแล้ว
00:10:26 → 00:10:27 ปัญหาเนี่ยไม่ได้อยู่ที่กล้ามเนื้อครับ
00:10:27 → 00:10:30 แต่อยู่ที่ระบบประสาทสั่งอารที่ไปสั่งการ
00:10:30 → 00:10:32 ทำงานของกล้ามเนื้อเกิดความผิดปกติหรือ
00:10:32 → 00:10:35 ว่าความเสื่อมซึ่งผลหรือว่าอาการของโรค
00:10:35 → 00:10:37 ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงรีบแล้วก็เล็ก
00:10:37 → 00:10:40 ลงจึงเป็นที่มาของโรคในชื่อภาษาไทยนะครับ
00:10:40 → 00:10:43 ว่าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแบบ als นั่นเอง
00:10:43 → 00:10:45 ครับใครคือกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคกล้าม
00:10:45 → 00:10:49 เนื้ออ่อนแรง als ได้คะประชากรอย่างเรามี
00:10:49 → 00:10:52 ความเสี่ยงเท่ากันนะครับโดยอ้างอิงจากงาน
00:10:52 → 00:10:54 วิจัยของต่างประเทศนะครับพบว่าส่วนใหญ่
00:10:54 → 00:10:56 ของคนไข้ที่เป็น als เนี่ยจะเกิดขึ้นมา
00:10:56 → 00:10:58 เองโดยไม่มีประวัติครอบครัวหรือว่า
00:10:58 → 00:11:00 พันธุกรรมมาเกี่ยวข้องครับมีเพียงแค่
00:11:00 → 00:11:03 ประมาณ 10% เท่านั้นของผู้ป่วย als ที่มี
00:11:03 → 00:11:06 สาเหตุมาจากพันธุกรรมครับสัญญาณของโรค
00:11:07 → 00:11:09 กล้ามเนื้ออ่อนแรง als นั้นเป็นอย่างไร
00:11:09 → 00:11:12 บ้างคะสัญญาณแรกๆของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:11:12 → 00:11:15 แบบ als นะครับจะมีอาการกล้ามเนื้อสั่น
00:11:15 → 00:11:17 หรือว่ากล้ามเนื้อเต้นครับสามารถสังเกต
00:11:17 → 00:11:20 ได้ตามแขนขาหรือว่าหลังนะครับแล้วก็มี
00:11:20 → 00:11:23 อาการอ่อนแรงของแขนขาตามมาด้วยแล้วก็
00:11:23 → 00:11:26 กล้ามเนื้อจะค่อยๆเล็กรีบแล้วก็ฝอลงครับ
00:11:26 → 00:11:29 แล้วอาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง als
00:11:29 → 00:11:32 เป็นอย่างไรคะอาจารย์และการดำเนินโรคนั้น
00:11:32 → 00:11:36 ใช้ระยะเวลานานเท่าใดคะอาการหลักของคนไข้
00:11:36 → 00:11:38 จะมีปัญหาที่ระบบประสาทสั่งการนะครับโดย
00:11:38 → 00:11:40 เฉพาะกล้ามเนื้อจะเต้นมีอาการสั่นพริ้ว
00:11:40 → 00:11:43 แล้วก็มีอาการอ่อนแรงจากการขาดการสั่งการ
00:11:43 → 00:11:45 ของระบบประสาทซึ่งเป็นไปได้ตั้งแต่ใน
00:11:45 → 00:11:48 บริเวณของแขนขาใบหน้าลิ้นหรือว่ากล้าม
00:11:48 → 00:11:51 เนื้อลำคอนะครับซึ่งส่งผลต่อการกลืนอาหาร
00:11:51 → 00:11:53 ไปจนถึงสิ่งที่น่ากลัวหรือว่าอันตรายที่
00:11:54 → 00:11:56 สุดคือกล้ามเนื้อกระบังลมที่เราเอาไว้ใช้
00:11:56 → 00:11:59 ในการหายใจก็จะอ่อนแรงไปด้วยแต่ระบบ
00:11:59 → 00:12:01 ประสาทรับสัมผัสนะครับเช่นความเจ็บความ
00:12:01 → 00:12:05 ปวดความร้อนเย็นหนาวการมองเห็นการได้ยิน
00:12:05 → 00:12:08 การรับรู้การได้กลิ่นต่างๆยังคงเป็นปกติ
00:12:08 → 00:12:10 ทั้งหมดครับขณะที่อาการอ่อนแรงก็จะมีระยะ
00:12:10 → 00:12:13 เวลาดำเนินของโรคต่อไปนะครับในหลากหลาย
00:12:13 → 00:12:16 เดือนหรือว่าหลากหลายปีครับโรคกล้ามเนื้อ
00:12:16 → 00:12:20 อ่อนแรง als มีวิธีการวินิจฉัยอย่างไรคะ
00:12:20 → 00:12:23 โรค als นะครับจะไม่สามารถวินิจฉัยได้ใน
00:12:23 → 00:12:25 ครั้งแรกที่ไปพบแพทย์นะครับเนื่องจาก
00:12:25 → 00:12:27 อาการของโรคมีความหลากหลายมากแล้วก็ต้อง
00:12:27 → 00:12:30 อาศัยระยะเวลาที่จะให้ให้โรคเนี่ยค่อยๆ
00:12:30 → 00:12:33 แสดงอาการออกมาจนชัดเจนต้องผ่านการซัก
00:12:33 → 00:12:35 ประวัติการตรวจร่างกายตรวจวินิจฉัยเพิ่ม
00:12:35 → 00:12:37 เติมนะครับการตรวจนะครับในบางโรงพยาบาล
00:12:37 → 00:12:39 ต้องใช้คุณหมอเฉพาะทางมากกว่า 1 คนนะครับ
00:12:39 → 00:12:42 เป็นการลงความเห็นร่วมกันที่ต้องใช้หมอ
00:12:42 → 00:12:44 มากกว่า 1 คนเพราะว่าในโรคเหล่านี้ครับพอ
00:12:44 → 00:12:47 เราทราบว่าเป็นโรคที่เป็นแล้วมันไม่หาย
00:12:47 → 00:12:49 เป็นโรคที่ต้องรอวันเสียชีวิตอย่างเดียว
00:12:49 → 00:12:51 ว่าง่ายๆนะครับเพราะฉะนั้นต้องอาศัยความ
00:12:51 → 00:12:54 แม่นยำหรืออาศัยความเชี่ยวชาญของคุณหมอมา
00:12:54 → 00:12:56 ร่วมกันตรวจวินิจฉัยครับไม่ว่าจะเป็นทั้ง
00:12:56 → 00:13:00 MRI สแกนสมองนะครับสแกนไขสั่นหลังอาจจะ
00:13:00 → 00:13:02 ต้องเข้าเครื่องสแกนหลายรอบแล้วก็มีการ
00:13:02 → 00:13:04 ตรวจกระตุ้นของกระแสไฟฟ้าที่ดูแลเรื่อง
00:13:04 → 00:13:06 ของเส้นประสาทแล้วก็กล้ามเนื้ออาจจะต้อง
00:13:06 → 00:13:08 ทำมากกว่า 1 รอบอาจจะต้องเจ็บตัวหลาย
00:13:08 → 00:13:11 ครั้งอยู่เหมือนกันครับแล้วเมื่อเป็นโรค
00:13:11 → 00:13:13 นี้แล้วรักษาไม่ได้ค่ะอาจารย์จะต้องมี
00:13:13 → 00:13:16 วิธีการรักษาแบบประคับประคองอย่างไรเพื่อ
00:13:16 → 00:13:19 ไม่ให้อาการดำเนินไปเร็วขึ้นคะปัจจุบัน
00:13:19 → 00:13:22 โรค aos นะครับทั้งในประเทศไทยแลก็ทั่ว
00:13:22 → 00:13:24 โลกยังไม่สามารถรักษาได้ครับเน้นการ
00:13:24 → 00:13:27 ประคับประคองอาการป้องกันภาวะแทรกซ้อนนะ
00:13:27 → 00:13:29 ครับเช่นปัญหาเรื่องของการกลืนจะมีการ
00:13:29 → 00:13:32 เจาะท้องนะครับใส่สายยางเข้าไปที่ท้องให้
00:13:32 → 00:13:34 อาหารทางหน้าท้องให้ผู้ป่วยนั้นสามารถได้
00:13:34 → 00:13:37 รับสารอาหารที่เพียงพอลดโอกาสการสำลัก
00:13:37 → 00:13:40 อาหารลงปอดครับมีการทำกายภาพบำบัดนะครับ
00:13:40 → 00:13:43 เพื่อคงรักษามวลกล้ามเนื้อเอาไว้ในกรณี
00:13:43 → 00:13:45 ที่ผู้ป่วยนั้นมีภาวะติดเตียงต้องระวัง
00:13:45 → 00:13:47 เรื่องของแผลกดทับการติดเชื้อทางเดิน
00:13:47 → 00:13:50 ปัสสาวะแล้วก็หากผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงจน
00:13:50 → 00:13:53 ถึงกระบังลมส่งผลต่อระบบหายใจที่ล้มเหลว
00:13:53 → 00:13:55 นะครับจำเป็นต้องมีการเจาะคอแล้วก็ใช้
00:13:55 → 00:13:59 เครื่องช่วยหายใจไปตลอดชีวิตครับเราจะมีิ
00:13:59 → 00:14:01 ิธีป้องกันตัวเองอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็น
00:14:01 → 00:14:04 โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ค่ะอาจารย์และ
00:14:04 → 00:14:06 จริงๆแล้วมันมีวิธีการป้องกันได้หรือ
00:14:06 → 00:14:08 เปล่าคะณปัจจุบันนะครับเรายังไม่รู้
00:14:08 → 00:14:10 สาเหตุหรือว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
00:14:10 → 00:14:13 ของการเกิดโรค als ครับแต่ว่าในเรื่องของ
00:14:13 → 00:14:15 ระบบประสาทแล้วก็กล้ามเนื้อจะแข็งแรงได้
00:14:15 → 00:14:17 อยู่ที่การหมั่นดูแลตัวเองครับทั้งการรับ
00:14:17 → 00:14:20 ประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ออกกำลังกาย
00:14:20 → 00:14:22 อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำแล้วก็หากมีอาการ
00:14:22 → 00:14:25 ผิดปกตินะครับให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
00:14:25 → 00:14:27 เพื่อที่จะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนแล้วก็
00:14:27 → 00:14:29 จำเพาะเฉพาะกับตัวบุคคลครับและอย่างที่
00:14:29 → 00:14:32 ทราบกันดีว่าโรคนี้รักษาไม่หายมีแต่เสีย
00:14:32 → 00:14:34 ชีวิตอย่างเดียวแต่เพียงแค่ว่าเราต้อง
00:14:34 → 00:14:36 เน้นการประคับประคองนะครับแล้วก็ป้องกัน
00:14:36 → 00:14:39 ภาวะแทรกซ้อนทางเรื่องของทางทางเดินหายใจ
00:14:39 → 00:14:42 อาจจะต้องมีการเจาะคอใส่เครื่องโช่วยหาย
00:14:42 → 00:14:45 ใจครับการกินอาหารที่พูดไม่ได้กลืนไม่ได้
00:14:45 → 00:14:47 หรือมีโอกาสกลืนสำลักสูงมากก็จะต้องเป็น
00:14:47 → 00:14:49 การเจาะหน้าท้องใส่สายยางเข้าไปเพื่อให้
00:14:49 → 00:14:52 ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เพียงพอเน้นดูแล
00:14:52 → 00:14:54 เน้นเข้าใจโรคแล้วเราก็จะอยู่กับโรค als
00:14:54 → 00:14:57 ได้ครับขอบพระคุณอาจารย์ที่มาให้ความรู้
00:14:57 → 00:15:00 ความเข้าใจในเรื่องของโรคกล้ามเนื้ออ่อน
00:15:00 → 00:15:03 แรง als นะคะและในช่วงนี้นะคะหมอดาวจะพา
00:15:03 → 00:15:07 คุณผู้ชมมารู้จัก 5 อาหารบำรุงสุขภาพ
00:15:07 → 00:15:11 เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อค่ะอกไก่อกไก่
00:15:11 → 00:15:13 เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการ
00:15:13 → 00:15:16 ลดน้ำหนักหรือสร้างกล้ามเนื้อน้ำหนัก 100
00:15:16 → 00:15:19 กรัมให้โปรตีนถึง 31 กรัมโดยมีไขมันเพียง
00:15:19 → 00:15:23 1 กรัมปรุงอาหารได้หลากหลายวิธีเช่นย่าง
00:15:23 → 00:15:26 อบต้มและสามารถปรุงรสด้วยสมุนไพรกับ
00:15:26 → 00:15:29 เครื่องเทศเพื่อเพิ่มรสชาติอย่างไรก็ตาม
00:15:29 → 00:15:32 ในคนไข้ที่เป็นโรคเก๊าทหรือมีภาวะกรด
00:15:32 → 00:15:34 ยูริกในเลือดสูงอาจจำเป็นที่จะต้องระวัง
00:15:34 → 00:15:37 เป็นพิเศษในเรื่องของการรับประทานอกไก่
00:15:37 → 00:15:40 กรีกโยเกิร์ตกรีกโยเกิร์ตมีประโยชน์หลาย
00:15:40 → 00:15:43 ประการสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักเป็น
00:15:43 → 00:15:45 แหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยมโดยมีโปรตีน 11
00:15:45 → 00:15:48 กรัมต่อ 100 กรัมวิธีนี้สามารถช่วยลดความ
00:15:48 → 00:15:51 อยากอาหารทำให้รู้สึกอิ่มได้เป็นระยะเวลา
00:15:51 → 00:15:55 นานขึ้นนอกจากนี้กรีกโยเกิร์ตยังมีปริมาณ
00:15:55 → 00:15:57 ไขมันและคาร์โบไฮเดรตต่ำกว่าเมื่อเทียบ
00:15:57 → 00:16:00 กับผลิตภัณฑ์นมอื่นๆขนาดเท่ากันช่วยในการ
00:16:00 → 00:16:03 ย่อยอาหารและบรรเทาอาการท้องอืดสำหรับผู้
00:16:03 → 00:16:06 ที่แพ้นมและไม่สามารถย่อยโปรตีนในนมปกติ
00:16:06 → 00:16:09 ได้กีกโยเกิร์ตถือเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
00:16:09 → 00:16:13 เนื้อปลาทูน่ามีแคลอรี่ต่ำและเป็นแหล่ง
00:16:13 → 00:16:18 ของโอเมก้า 3 ทูน่า 100 กรัมให้โปรตีน 25
00:16:18 → 00:16:21 กรัมและมีแคลอรีต่ำช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน
00:16:21 → 00:16:24 ขึ้นเผาผลาญไขมันและลดความอยากอาหารเป็น
00:16:24 → 00:16:27 แหล่งที่ดีเยี่ยมของไขมันโอเมก้า 3 ซึ่ง
00:16:27 → 00:16:30 ส่งเสริมสุขภาพหัวใจใส่และลดการอักเสบหา
00:16:30 → 00:16:32 รับประทานได้ง่ายจึงเป็นตัวเลือกอันดับ
00:16:33 → 00:16:37 ต้นๆสำหรับอาหารที่มีโปรตีนสูงนมสด
00:16:37 → 00:16:41 แคลเซียมในนมวัวอาจมีบทบาทในการช่วยลดน้ำ
00:16:41 → 00:16:44 หนักและเพิ่มการใช้พลังงานอุดมไปด้วย
00:16:44 → 00:16:47 วิตามินดีช่วยในการควบคุมน้ำหนักลดการ
00:16:47 → 00:16:50 อักเสบและปรับปรุงสมดุลของอินซูลินการ
00:16:50 → 00:16:53 เลือกดื่มนมไขมันต่ำหรือไม่มีไขมันเป็น
00:16:53 → 00:16:55 ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังพยายามลด
00:16:56 → 00:16:59 น้ำหนักอย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่แพ้นมวัว
00:16:59 → 00:17:03 หรืออาจจะมีภาวะแพ้นมวัวแฝงสามารถใช้นม
00:17:03 → 00:17:06 ทางเลือกจากพืชที่มีโปรตีนสูงเช่นนม
00:17:06 → 00:17:07 อัลมอนแทน
00:17:07 → 00:17:10 ได้เนื้อปลาแซลมอนเป็นเนื้อปลาที่มี
00:17:10 → 00:17:14 โปรตีนสูงและยังมีโอเมก้า 3 นอกจากนี้นะ
00:17:14 → 00:17:17 คะยังช่วยในเรื่องของสมดุลของอินซูลินอีก
00:17:17 → 00:17:21 ด้วยเนื้อปลาแซลมอนปลาแซลมอนเป็นอาหารที่
00:17:21 → 00:17:25 มีโปรตีนสูงอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3
00:17:25 → 00:17:28 ช่วยรักษาสมดุลของอินซูลินลดการอักเสบ
00:17:28 → 00:17:31 ช่วยลดไขมันในช่องท้องและส่งเสริมสุขภาพ
00:17:31 → 00:17:34 สมองกับหัวใจโดยปลาแซลมอน 100 กรัมให้
00:17:34 → 00:17:37 โปรตีนถึง 22
00:17:37 → 00:17:40 กรัมเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดี
00:17:40 → 00:17:44 ๆที่ TNN He นำมาฝากคุณผู้ชมกันในวันนี้
00:17:44 → 00:17:46 หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำ
00:17:46 → 00:17:49 สาระสุขภาพดีๆที่ได้นะคะไปดูแลตัวเองและ
00:17:49 → 00:17:52 ครอบครัวให้แข็งแรงกันทั่วหน้าค่ะและ
00:17:52 → 00:17:55 ขอบคุณคุณผู้ชมนะคะที่ติดตามรับชมรายการ
00:17:55 → 00:17:58 TNN Health มาโดยตลอดค่ะคุณผู้ชมสามารถ
00:17:58 → 00:18:01 ติดตามตตามรับชมรายการ TNN Health ได้นะ
00:18:01 → 00:18:06 คะทุกวันเสาร์ค่ะเวลาดี 15 น- 15:30 นที่
00:18:06 → 00:18:09 นี่ TNN ช่อง 16 ค่ะและต้องไม่ลืมนะคะกด
00:18:09 → 00:18:12 ไลค์กดแชร์กด Subscribe กดติดตามกด
00:18:12 → 00:18:15 กระดิ่งกิ๊งๆเป็นกำลังใจให้หมอดาวและทีม
00:18:15 → 00:18:17 งาน TNN Health ในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์
00:18:17 → 00:18:19 ค่ะไม่ว่าจะเป็น YouTube tiktok
00:18:19 → 00:18:22 Facebook Instagram และ LINE official
00:18:22 → 00:18:25 เพื่อที่จะเข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:18:25 → 00:18:28 คุ้มกันรู้ทันโรคไปด้วยกันค่ะแล้ววันนี้
00:18:28 → 00:18:30 นะคะหมอดาวและทีมงาน TNN Health ต้องขอ
00:18:30 → 00:18:33 ตัวลาคุณผู้ชมไปก่อนสำหรับวันนี้สวัสดี
00:18:33 → 00:18:34 ค่ะ
00:18:34 → 00:18:58 [เพลง]
00:18:58 → 00:19:00 อ
00:19:00 → 00:19:03 [เพลง]