00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับยินดีต้อนรับเข้าสู่
00:00:02 → 00:00:04 Channel เรื่องเล่าจากร่างกายนะครับผม
00:00:04 → 00:00:06 หมอเอวนายแพทย์ชัชพลเกียรติขจรธาดานะครับ
00:00:06 → 00:00:09 วันนี้ 6 ข้อที่ว่าจะคุยกันครับก็เป็น
00:00:09 → 00:00:11 เรื่องของพ.ร.บ.อบรมโครงกันนะครับสิ่งที่
00:00:11 → 00:00:13 ผมตั้งใจจะทำในส่วนนี้ก็คืออธิบายให้ฟัง
00:00:13 → 00:00:15 คร่าวๆนะครับว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณ
00:00:15 → 00:00:17 เนี่ยทำงานยังไงแต่ก่อนอื่นเลยเนี่ยผม
00:00:17 → 00:00:20 อยากจะขอเล่าสั้นๆนะครับว่าระบบภูมิคุ้ม
00:00:20 → 00:00:22 กันอย่างมันมีความสำคัญมากแค่ไหนนะครับ
00:00:22 → 00:00:24 เพราะว่าปกติเมื่อพูดถึงระบบภูมิคุ้มกัน
00:00:24 → 00:00:27 นะครับผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะรู้ดีนะครับ
00:00:27 → 00:00:29 แล้วก็คุณเคยว่าระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยคือ
00:00:29 → 00:00:33 ระบบที่ป้องกันไม่ให้เราปวดโรคติดเชื้อก็
00:00:33 → 00:00:34 คือแอมป์ต่อสู้กับเชื้อโรคกับตะนะครับ
00:00:34 → 00:00:37 ซึ่งเชื้อโรคที่ว่าในก็คือแบคทีเรียนะ
00:00:37 → 00:00:39 ครับ virus เธอราหรือว่าเชื้อที่ก่อโรค
00:00:39 → 00:00:43 ได้อื่นนะครับแต่จริงๆแล้วนะครับระบบภูมิ
00:00:43 → 00:00:44 คุ้มกันในยังมีความสำคัญมากกว่านั้นนะ
00:00:44 → 00:00:47 ครับเพราะว่าปัจจุบันเรารู้ว่าระบบภูมิ
00:00:47 → 00:00:49 คุ้มกันเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับโรคหลายโรค
00:00:49 → 00:00:51 นะครับที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อนะครับที่พบ
00:00:51 → 00:00:53 มักคะนี่ในปัจจุบันเนี่ยรู้ว่าจะเป็นโรค
00:00:53 → 00:00:55 เบาหวานนะครับรบกวนเดี๋ยวว่าโรคสมอง
00:00:55 → 00:00:59 เสื่อมหรือว่าพวกโรคภูมิแพ้นะครับโรค
00:00:59 → 00:01:01 มะเร็งหลายอยู่ในการเด่นมันเกี่ยวข้องกับ
00:01:01 → 00:01:04 ระบบภูมิคุ้มกันนะครับเกี่ยวข้องกับภาวะ
00:01:04 → 00:01:06 ที่เราเรียกว่าภาวะการอักเสบนะครับต้อง
00:01:06 → 00:01:08 เรียนจากนี้นะครับระบบภูมิคุ้มกันอย่างก็
00:01:08 → 00:01:11 ยังเกี่ยวข้องกับความแก่ด้วยนะครับคือการ
00:01:11 → 00:01:13 ที่คนบางคนเนี่ยแก่เร็วไปอีกคนเนี่ยก็
00:01:13 → 00:01:16 เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
00:01:16 → 00:01:18 หรือว่าเกี่ยวข้องกับภาวะที่หรือว่าภาวะ
00:01:18 → 00:01:20 การอักเสบเรื้อรังด้วยนะครับเพราะเห็นภาพ
00:01:20 → 00:01:21 กันแล้วใช่ไหมครับว่าระบบภูมิคุ้มกัน
00:01:21 → 00:01:24 เนี่ยมันสำคัญแค่ไหนนะครับจะต้องบอกกัน
00:01:24 → 00:01:26 ว่าระบบคุกอันนี้นะครับมันเป็นระบบที่มี
00:01:26 → 00:01:29 ความซับซ้อนในสุขมากนะครับแล้วก็มีราย
00:01:29 → 00:01:31 ละเอียดมีอวัยวะที่เข้าไปเกี่ยวข้องในมาก
00:01:31 → 00:01:35 มายแน่นอนว่าในพิโสดนี้นะครับหรือว่าที่
00:01:35 → 00:01:37 สนหน้านะครับเราคงไม่สามารถที่จะคุยวัย
00:01:37 → 00:01:40 เรียนทั้งหมดกันได้นะครับแต่ว่าที่ตั้งใจ
00:01:40 → 00:01:42 ให้คือผมอยากจะคุย Point เห็นว่าระบบนี้
00:01:42 → 00:01:45 ทำงานยังไงโดยเฉพาะสำหรับท่านที่ไม่เคย
00:01:45 → 00:01:47 รู้เกี่ยวกับโรคระบบผู้กันมาเกาะนะครับก็
00:01:47 → 00:01:50 คือแผนจะเลือกข้อมูลส่วนที่เล่าแล้วเนี่ย
00:01:50 → 00:01:52 เพราะเห็นภาพใหญ่ข้างแบบนี้มากขึ้นที่นี่
00:01:52 → 00:01:55 ผมขอเริ่มจากภาพใหญ่สุดก่อนเลยนะครับก็
00:01:55 → 00:01:57 คือว่าถ้าเรามองในโลกนี้นะครับซึ่งเต็มไป
00:01:57 → 00:02:00 ด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายเลยซึ่งมีใครต่างๆ
00:02:00 → 00:02:02 ที่มีรูปร่างหน้าตาแล้วก็มีขณะที่แตกต่าง
00:02:02 → 00:02:06 กันไปวิธีการหากินของซีมีชื่อต่างๆในก็จะ
00:02:06 → 00:02:08 ต่างกันไปด้วยตัวไหมครับที่นี่มันจะมี
00:02:08 → 00:02:10 สิ่งมีชีวิตบางพวกในที่สามารถสร้างอาหาร
00:02:10 → 00:02:12 ได้เองนะครับก็คือสิ่งที่เรียกว่าพวกพืช
00:02:12 → 00:02:15 นะครับหรือว่าต้นไม้ก็คือมันสามารถที่จะ
00:02:15 → 00:02:17 เปลี่ยนอากาศแล้วก็แสงแดดให้กลายเป็น
00:02:17 → 00:02:20 อาหารขึ้นมาได้ส่วนสิ่งมีชีวิตอื่นๆนะ
00:02:20 → 00:02:23 ครับก็มีล้มจะต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
00:02:23 → 00:02:25 เป็นอาหารนะครับเช่นสัตว์กินพืชเนี่ยก็
00:02:25 → 00:02:28 ต้องกินพืชเป็นอาหารสวนสัตว์ที่กินสัตว์
00:02:28 → 00:02:30 นะครับก็จะลักษณะของการที่สัตว์ใหญ่กิน
00:02:30 → 00:02:32 สัตว์เล็กนะครับหรือว่าสัตว์เล็กกลุ่มกิจ
00:02:32 → 00:02:35 สัตว์ใหญ่นะครับถ้ามันมีวิธีการหากินอีก
00:02:35 → 00:02:37 แบบหนึ่งซึ่งเป็นวิธีหากินของสิ่งมีชีวิต
00:02:37 → 00:02:40 ที่มีขนาดเล็กมากๆนะครับซึ่งวิธีหากินของ
00:02:40 → 00:02:42 สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมากๆนี้นะครับ
00:02:42 → 00:02:45 มันคือการเข้าไปอาศัยอยู่ในร่างกายของ
00:02:45 → 00:02:47 สิ่งมีชีวิตอื่นแล้วก็กินสิ่งมีชุดนั้น
00:02:47 → 00:02:50 เป็นอาหารที่นี่เมื่อเรากลับมามองที่ร่าง
00:02:50 → 00:02:52 กายของมนุษย์เองนะครับร่างกายของมนุษย์คะ
00:02:52 → 00:02:54 เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายที่เข้ามา
00:02:54 → 00:02:57 อาศัยอยู่อ่ะนะครับมากินร่างกายของเรานะ
00:02:57 → 00:02:59 ครับเพราะว่ามันรู้ได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งมี
00:02:59 → 00:03:01 ชีวิตที่ปตัวใหญ่นะครับและสิ่งมีชีวิตที่
00:03:01 → 00:03:04 มาใส่อยู่ในร่างกายเราและก็มีส่วนที่ทั้ง
00:03:04 → 00:03:06 อยู่แล้วก็ไม่ก่อให้เกิดโทษอะไรนะครับมี
00:03:06 → 00:03:08 เกิดโรคอะไรกับส่วนที่โจมตีเข้ามาและทำ
00:03:08 → 00:03:11 ให้เราไปได้นะครับที่นี่ในทุกวินาทีเนี่ย
00:03:11 → 00:03:15 พอเราโดนสิมีชุดเล็กๆโจมตีตลอดเวลาโดยที่
00:03:15 → 00:03:17 เราไม่รู้ตัวนะครับมัวจะเป็นการโจมตีจาก
00:03:17 → 00:03:20 ไวรัสก็ตามเขาจะไปเที่ยวเลียเฌอร่าหรือ
00:03:20 → 00:03:22 ว่าเชื้อโรคคนอื่นๆซึ่งไม่ได้ตอนที่เรา
00:03:22 → 00:03:24 กำลังคุยกันอยู่นี่นะครับที่ผมนั่งพูด
00:03:24 → 00:03:27 อยู่แล้วว่าคุณกำลังนั่งฟังผมพูดเนี้ยเรา
00:03:27 → 00:03:29 ก็กำลังโดนโจมตีตลอดเวลาด้วยเหมือนกันแต่
00:03:29 → 00:03:31 ที่เราไม่เป็นอะไรเพราะว่าร่างกายของเรา
00:03:31 → 00:03:33 เนี่ยมันมีคนไกลนะครับที่คอยที่จะต่อสู้
00:03:33 → 00:03:37 นักรับมือกันพยายามที่จะบุกรุกเข้ามาของ
00:03:37 → 00:03:39 สิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านี้นะครับซึ่งระบบ
00:03:39 → 00:03:41 นี้นะครับก็คือระบบที่เรารู้จักกันในชื่อ
00:03:41 → 00:03:43 ว่าระบบภูมิคุ้มกันนะครับที่นี่ประกบภูมิ
00:03:43 → 00:03:45 คุ้มกันอย่างที่คุยไปนะครับก็คือมีความ
00:03:45 → 00:03:48 ซับซ้อนสูงมากแต่มันก็มีวิธีการที่จะมอง
00:03:48 → 00:03:50 ระบบที่ซับซ้อนนี้นะครับให้เข้าใจได้ง่าย
00:03:50 → 00:03:54 ขึ้นก็คือมองว่าระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยมัน
00:03:54 → 00:03:56 เป็นเหมือนด่าเนี่ยที่ป้องกันร่างกายเรา
00:03:56 → 00:04:00 ที่มี 3 ด้านใหญ่ด้วยกันดันแร่นะครับจะทำ
00:04:00 → 00:04:02 หน้าที่เหมือนเป็นกำแพงนะครับที่คอยกั้น
00:04:02 → 00:04:05 ไม่ให้สิ่งมีชุดภายนอกเนี่ยสามารถที่จะ
00:04:05 → 00:04:07 รุกรานเข้าในร่างกายของเราได้นะครับก็คือ
00:04:07 → 00:04:10 ทำหน้าที่เหมือนเป็นเพราะแบริเออร์นะครับ
00:04:10 → 00:04:13 ซึ่งแบบนี้ที่ว่าเนี่ยมันก็มีทางที่เป็น
00:04:13 → 00:04:15 ลักษณะมันเป็นกายภาพจริงๆนะครับเหมือน
00:04:15 → 00:04:18 เป็นกำแพงจริงๆเช่นผิวอย่างนะครับหรือว่า
00:04:18 → 00:04:20 เป็นแบริเออร์นะครับที่เป็นสารเคมีนะครับ
00:04:20 → 00:04:23 แล้วจะรู้ว่าเป็นอาวุธเคมีก็ได้นะครับที่
00:04:23 → 00:04:25 ป้องกันร่างกายของเราแล้วก็มีส่วนที่และ
00:04:25 → 00:04:28 มีลักษณะคล้ายๆกับทหารรับจ้างนะครับซึ่ง
00:04:28 → 00:04:30 เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับว่าไอ้อาวุธ
00:04:30 → 00:04:33 เคมีวัดหารรับจ้างที่ว่าในมันคืออะไรที่
00:04:33 → 00:04:35 นี่ด่านที่ 2 ละด่านที่ 3 เนี่ยมันจะเป็น
00:04:35 → 00:04:38 กลไกภายในร่างกายนะครับก็คือถ้าสมุดผ่าน
00:04:38 → 00:04:39 ด่านที่ 1 เข้ามาได้เนี่ยก็จะไปกระตุ้น
00:04:39 → 00:04:42 ระบบนี้ให้ทำงานนะครับซึ่งอย่างที่สองได้
00:04:42 → 00:04:44 ตอนที่ 3 ในก็คือสิ่งที่เราเรียกกันว่า
00:04:44 → 00:04:46 ภูมิคุ้มกันนะครับสำหรับชื่ออย่างเป็นทาง
00:04:46 → 00:04:48 การของงานที่ 2 ในมีชื่อว่าอินเน็ตอิม
00:04:48 → 00:04:51 มูนิตี้นะครับมิเนตที่แปลว่าแต่กำเนิดนะ
00:04:51 → 00:04:54 ครับส่วนดันที่ 3 เนี่ยมันมีชื่อเรียก 2
00:04:54 → 00:04:55 ชื่อนะครับที่นิยมเรียกกันนะครับก็คือ
00:04:55 → 00:04:58 ชื่อแรกเรียกว่าไอ้ควายมูนิตี้นะครับหรือ
00:04:58 → 00:05:01 ว่าเป็นด่านที่ไหมครับก็ต่อการรับเชื้อมา
00:05:01 → 00:05:03 ก่อนนะครับถึงจะทำงานได้อีกชื่อหนึ่งก็
00:05:03 → 00:05:06 คือมีชื่อว่าดับตีบนะครับที่มูนิตี้นะ
00:05:06 → 00:05:09 ครับที่ว่าปรับตัวที่นี่คำอธิบายนะครับ
00:05:09 → 00:05:12 ว่าแอคควายังเรียกว่าไอ้ควายถึงเลขไอดับ
00:05:12 → 00:05:14 ถีบนะครับแล้วทำไมถึงเรียกว่าเป็น or in
00:05:14 → 00:05:17 Age นะครับเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ
00:05:17 → 00:05:19 แต่สำหรับในที่สดนี่เราจะโฟกัสไปที่ด่าน
00:05:19 → 00:05:21 แรกก่อนนะครับก็คือเด็กที่ไหนจะมีนิตี้นะ
00:05:21 → 00:05:24 ครับส่วนด่านที่ 2 และอย่างที่สามเนี่ย
00:05:24 → 00:05:26 เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังในคลิปหน้านะครับ
00:05:26 → 00:05:28 เพราะว่า 2 เรื่องเนี้ยการที่ 2 ด้วยกัน
00:05:28 → 00:05:30 ที่สาวเนี่ยมันเป็นระบบเดียวกันนะครับก็
00:05:30 → 00:05:32 อยากจะรวมไว้ด้วยกันซึ่งเนื้อหามันค่อน
00:05:32 → 00:05:34 ข้างเยอะนะครับก็ไม่อยากจะให้เนื้อหา
00:05:34 → 00:05:36 เนี่ยในส่วนนี้มันเยอะเกินไปที่พอเห็นภาพ
00:05:36 → 00:05:38 เข้าไปแล้วนะครับเรามาเริ่มกันเลยนะครับ
00:05:38 → 00:05:41 แล้วจากด่านที่ 1 ก่อนนะครับที่นี่วิธี
00:05:41 → 00:05:42 การนึงนะครับในการจะเข้าใจการทำงานของ
00:05:43 → 00:05:45 ด่านที่ 1 นะครับคือเราต้องเปลี่ยนมุมมอง
00:05:45 → 00:05:47 ในการมองร่างกายของมนุษย์สักเล็กน้อยนะ
00:05:47 → 00:05:50 ครับก็คือว่าให้มองหรือให้จินตนาการนะ
00:05:50 → 00:05:52 ครับว่าร่างกายของเราเนี่ยมีลักษณะเหมือน
00:05:52 → 00:05:54 ท่อนะครับเป็นท่อน้ำนะครับที่นี่เวลาพูด
00:05:55 → 00:05:57 ถึงท่อน้ำนะครับสังเกตดูนะครับจะมีผิว
00:05:57 → 00:06:00 อยู่ 2 ฝั่งนะครับผิวฟังแรกในเคืองผิวและ
00:06:00 → 00:06:02 ภายนอกของท่อถูกไหมครับกับผิวที่อยู่ด้าน
00:06:02 → 00:06:05 ในของท่อก็คือส่วนที่สัมผัสกับน้ำนะครับ
00:06:05 → 00:06:07 ร่างกายของมนุษย์เดียวจริงๆแล้วก็มี
00:06:07 → 00:06:09 ลักษณะแบบนั้นนะครับก็คือผิวด้านนอกนะ
00:06:09 → 00:06:12 ครับที่เรียกว่าผิวของท่อและก็คือผิวหนัง
00:06:12 → 00:06:14 ของเรานะครับพิมพ์ที่อยู่ด้านนอกที่เรา
00:06:14 → 00:06:16 คุ้นเคยกันดีคือพิมพ์ที่สัมผัสกับโลกภาย
00:06:16 → 00:06:20 นอกอยู่นะครับซึ่งก็จะมีผิวหนังมีผมมีขน
00:06:20 → 00:06:23 อยู่นะครับจะได้ผิวด้านในของท่อเนี่ยของ
00:06:23 → 00:06:26 ร่างกายเรานี่คืออะไรมันก็คือส่วนที่อยู่
00:06:26 → 00:06:29 ภายในร่างกายเรานะครับแต่จริงๆสัมผัสกับ
00:06:29 → 00:06:31 โลกภายนอกเพราะว่าเหมือนกับในท่อน้ำครับ
00:06:31 → 00:06:33 มันซ่อนอยู่ข้างในก็จริงแต่มันสัมผัสกับ
00:06:33 → 00:06:35 น้ำท่วมไม่ให้ร่างกายของมนุษย์ก็เหมือน
00:06:35 → 00:06:37 กันนะครับก็คือมันมีส่วนที่อยู่ภายในนะ
00:06:37 → 00:06:40 ครับแต่จริงและสัมผัสโลกภายนอกพรุ่งนี้ก็
00:06:40 → 00:06:43 คือพวกรู้เปิดต่างๆนะครับที่จะรับสิ่งภาย
00:06:43 → 00:06:44 นอกเข้าในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
00:06:44 → 00:06:48 ระบบทางเดินหายใจนะครับเช่นรู้จมูกทาง
00:06:48 → 00:06:50 ด้านหายใจนะครับลงไปถึงได้เท่าไหร่จะเล็ก
00:06:50 → 00:06:52 ๆปอดนะครับเพราะว่ามันอยู่ข้างในลึกก็
00:06:52 → 00:06:54 จริงตากอากาศที่อยู่ภายนอกซึ่งก็จะรวม
00:06:54 → 00:06:57 ฝุ่นรวมเชื้อแบคทีเรียเชื้อเวลาเตะสามารถ
00:06:57 → 00:07:00 ที่จะผ่านเข้าไปสัมผัสกับภายในกไก่เราได้
00:07:00 → 00:07:02 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางเดินอาหารนะครับ
00:07:02 → 00:07:04 ก็คืออาหารภายนอกเที่ยวกินเข้าไปเนี่ยมัน
00:07:04 → 00:07:07 ก็จะสัมผัสกับในปากเราสัมผัสกับหลอดอาหาร
00:07:07 → 00:07:10 สัมผัสกับผิวด้านในของกระเพาะและลำไส้
00:07:10 → 00:07:13 ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจทั่วไปก็มีโอกาสที่จะ
00:07:13 → 00:07:15 ปนเปื้อนสิ่งที่เรียกว่าเป็นเชื้อโรคก็
00:07:15 → 00:07:17 ได้นะครับต้องเดี๋ยวจากนี้นะครับก็เป็น
00:07:17 → 00:07:19 รูปเอ่อสื่อนะครับซึ่งอาจจะมีขนาดเล็ก
00:07:19 → 00:07:22 แล้วเราจะไม่คุ้นเคยนะครับเช่นรูปัสสาวะ
00:07:22 → 00:07:24 นะครับท่อปัสสาวะเนี่ยมันก็สามารถที่จะมี
00:07:24 → 00:07:26 พวกเชื้อแบคทีเรีย Smart คืบคลานเข้าไป
00:07:26 → 00:07:29 ได้หรือว่ารูทวารหนักนะครับก็สามารถที่จะ
00:07:29 → 00:07:32 มีสิ่งจะภายนอกเดี๋ยวเข้าไปทางนั้นได้
00:07:32 → 00:07:34 หรือว่าช่องข้อในผู้หญิงนะครับก็เป็นถือ
00:07:34 → 00:07:36 ว่าเป็นรูเปิดอันนึงนะครับที่สัมผัสกับ
00:07:36 → 00:07:38 โลกภายนอกเช่นกันนะครับซึ่งแน่นอนว่าช่อง
00:07:38 → 00:07:40 ที่เปิดสู่โลกภายนอกเหล่านี้นะครับมันก็
00:07:40 → 00:07:43 ต้องมีสิ่งที่สามารถป้องกันไม่ให้เชื้อ
00:07:43 → 00:07:45 เข้าไปได้เหมือนกันแต่มันไม่มีติดนางแบบ
00:07:45 → 00:07:47 ที่เป็นผิวหนังโปัที่เราคุ้นเคยนะครับแต่
00:07:47 → 00:07:50 สิ่งที่ป้องกันเนี่ยมันจะเป็นผิวที่เรา
00:07:50 → 00:07:52 เรียกว่ายูโคซ่านะครับที่ไม่โคซ่าไหนจริง
00:07:52 → 00:07:54 มันก็เหมือนกับในช่องปากของเราก็คือเป็น
00:07:54 → 00:07:57 ผิวชินแล้วแต่เหมือนกับสีแดงแดงลื่นๆนะ
00:07:57 → 00:07:59 ครับมันจะมีของเหลวอย่างเช่นเป็นเมือก
00:07:59 → 00:08:01 เนี่ยเอ่อที่อยู่นะครับไม่ว่าจะไม่รู้
00:08:01 → 00:08:04 จมูกของเรานะครับขอหลังโพรงจมูกทางเดิน
00:08:04 → 00:08:07 หายใจทางเดินอาหารในภายในช่องคลอดหรือว่า
00:08:07 → 00:08:09 ภายในรูทวารเนี่ยก็จะมีลักษณะแบบผิวหนัง
00:08:09 → 00:08:12 ที่เป็นมีโควตาที่นี่นะครับนอกเหนือไปจาก
00:08:12 → 00:08:14 การ pitch ที่พวกนี้มันจะมีลักษณะมันๆ
00:08:14 → 00:08:16 ลื่นนะครับเพราะบางครั้งบางส่วนก็คือ
00:08:16 → 00:08:18 รักษามันเป็นคนเล็กๆนะครับเล็กมากๆนะครับ
00:08:18 → 00:08:20 จนตาเปล่ามองไม่เห็นเกาะอยู่ด้วยนะครับ
00:08:20 → 00:08:23 ซึ่งคนเหล่านี้ก็จะทำหน้าที่ในการช่วยพัด
00:08:23 → 00:08:26 โบกนะครับพวกสิ่งแปลกปลอมให้สามารถหลุด
00:08:26 → 00:08:28 ออกมาได้นะครับที่นี่ผิวเหล่านี้นะครับ
00:08:28 → 00:08:30 ต้องผิวหนังและผิวมีโคซ่าเนี่ยมันก็จะทำ
00:08:30 → 00:08:32 หน้าที่มันเป็นด่านป้องกันนะครับไม่ให้
00:08:32 → 00:08:34 เชื้อโรคในสามารถทะลุผ่านเข้าไปได้แล้วก็
00:08:34 → 00:08:36 พวกน้ำต่างๆที่เคลือบอยู่นะครับส่วนใหญ่
00:08:36 → 00:08:39 ก็จะมีการบนสารเคมีนะครับที่สามารถฆ่า
00:08:39 → 00:08:42 เชื้อโรคเนี่ยผสมอยู่ด้วยหรือตัวอย่างยัง
00:08:42 → 00:08:44 ผิวหนังของเราเนี่ยก็จะมีพวกซ้อมใครมัน
00:08:44 → 00:08:46 ต่อเมื่อถูกไหมครับซึ่งต่อมไขมันต่อม
00:08:46 → 00:08:49 เหงื่อเราเนี่ยมันก็จะมีสารเคมีที่สามารถ
00:08:49 → 00:08:51 ที่จะฆ่าเชื้อโรคบางอย่างได้นะครับไม่
00:08:51 → 00:08:53 เชื่อ Bag เคมีบางอย่างนะครับหรือว่า
00:08:53 → 00:08:55 เชื้อไวรัสบางชนิดและผิวหนังของคนทั่วไป
00:08:55 → 00:08:57 นะครับก็จะมีลักษณะที่เป็นกฎท่านอ่อนนะ
00:08:57 → 00:09:00 ครับซึ่งคะว่ากฎจะนอนแล้วนี้นะครับก็จะทำ
00:09:00 → 00:09:02 อยู่ในรัฐหรือว่าเชื้อก่อโรคหลายชนิดนะ
00:09:02 → 00:09:04 ครับไม่สามารถที่จะมาก่อนถิ่นได้เพราะมัน
00:09:04 → 00:09:06 ไม่ชอบความเป็นคนอ่อนหรืออย่างในกระเพาะ
00:09:06 → 00:09:08 ของเรานั้นก็จะมีความเป็นกรดเข้มข้นสูง
00:09:08 → 00:09:10 มากตัวนะครับซึ่งมันก็สามารถฆ่าเชื้อได้
00:09:10 → 00:09:13 หลายชนิดและทั้งหมดนี้ก็คือด่านที่ 1 นะ
00:09:13 → 00:09:15 ครับเค้าจะเห็นว่าหน้าที่หลักคือป้องกัน
00:09:15 → 00:09:17 ไม่ให้เชื้อในลูกหลานเข้ามาในร่างกายของ
00:09:17 → 00:09:20 เราได้ที่ได้ถ้าเรามองในแง่ของวิธีการทำ
00:09:20 → 00:09:23 งานนะครับแล้วก็จะพออย่างเดียวมันไปเป็น 3
00:09:23 → 00:09:25 วิธีด้วยกันนะครับซึ่งวิธีแรกก็อย่างที่
00:09:25 → 00:09:28 เราคุยกันไปก็คือมันทำหน้าที่มันเป็นสิ่ง
00:09:28 → 00:09:30 ที่จะต้องได้รับก็เป็นกำแพงนะครับเป็น
00:09:30 → 00:09:32 คริสต์เข้าเบเยอร์ที่ป้องกันไม่ให้ชนก
00:09:32 → 00:09:35 เข้ามาได้อันที่สองก็คือลักษณะเป็นการใช้
00:09:35 → 00:09:37 สารเคมีนะครับก็คือเราจะเป็นเรื่องของ
00:09:37 → 00:09:40 ป๊อปเนื้อต่อมไขมันและสารเคมีต่างๆนะครับ
00:09:40 → 00:09:43 ที่เคลือบอยู่บนผิวในโคซ่าซึ่งมันมีฤทธิ์
00:09:43 → 00:09:46 ที่จะฆ่าเชื้อโรคบางอย่างได้นะครับก็คือ
00:09:46 → 00:09:49 มันก็เป็นการใช้โอเคในการต่อสู้ที่นี่
00:09:49 → 00:09:51 เนี่ยยังอีกวิธีนะครับที่ร่างกายเราใช้
00:09:51 → 00:09:53 ป้องกันไม่ให้เชื้ออื่นเข้ามาได้นะครับจะ
00:09:53 → 00:09:56 เรียกว่าเป็นการใช้วิตถารรับจ้างเนี่ยมา
00:09:56 → 00:09:58 ช่วยป้องกันก็ได้นะครับวิธีการนี้ก็คือ
00:09:58 → 00:10:00 มันใช้เชื้อจุลินทรีย์อื่นนะครับติดตาม
00:10:00 → 00:10:02 อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์แบบใน
00:10:02 → 00:10:06 การป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาได้ก็
00:10:06 → 00:10:08 อย่างนี้ครับร่างกายของมนุษย์เราเนี่ย
00:10:08 → 00:10:10 จริงๆเต็มไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆมาก
00:10:10 → 00:10:12 มายนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเชื้อ
00:10:12 → 00:10:15 แบคทีเรียเชื้อไวรัสเชื้อรานะครับซึ่งพวก
00:10:15 → 00:10:17 นี้จะแทรกอยู่ไหมครับในทุกอณูของร่างกาย
00:10:17 → 00:10:20 นะครับไม่ว่าจะเป็นบนผิวหนังนะครับคนใน
00:10:20 → 00:10:22 ป่านะครับทางเดินอาหารไทยจะต่างๆดิเชื้อ
00:10:22 → 00:10:24 จุลินทรีย์อาศัยอยู่แต่งจะหมดนะครับปกติ
00:10:24 → 00:10:26 เราจะเล่นชู้จุลินทรีย์เหล่านี้นะครับว่า
00:10:26 → 00:10:28 เป็นเชื่อประจำทิศนะครับก็คือเป็นเชื่อ
00:10:28 → 00:10:30 ที่มาอาศัยอยู่ในร่างกายเราแบบที่ปักหลัก
00:10:30 → 00:10:33 ถาวรเลยที่เชื้อประจำถิ่นแล้วนี้นะครับก็
00:10:33 → 00:10:35 จะปรับตัวนะครับจนกระทั่งมันสามารถที่จะ
00:10:35 → 00:10:37 อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมส่วนของร่างกาย
00:10:37 → 00:10:40 เนี่ยได้อย่างดีนะครับขึ้นนะครับต้องมา
00:10:40 → 00:10:42 ว่าร่างกายของมนุษย์เดี๋ยวเต็มไปด้วยส่วน
00:10:42 → 00:10:45 ต่างๆมากมายตัวไหมครับและส่วนต่างๆมันก็
00:10:45 → 00:10:47 มีสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันไปตัวอย่างเช่น
00:10:47 → 00:10:49 สิ่งแวดล้อมในปากนะครับก็จะต่างไปจากสิ่ง
00:10:49 → 00:10:52 แวดล้อมที่อยู่บนผิวหนังก็ไม่ให้พูดภูมิ
00:10:52 → 00:10:54 ต่างกันมีความชื้นต่างกันนะครับโดนแสงแดด
00:10:54 → 00:10:57 ไม่เท่ากันหรือแม้แต่บนผิวหนังแต่ละส่วน
00:10:57 → 00:10:59 ของร่างกายในก็ยังถือว่าเป็นสิ่งแวดล้อม
00:10:59 → 00:11:02 ที่ต่างกันเอาไว้เช่นผิวหนังของแขนก็มี
00:11:02 → 00:11:04 สิ่งแวดล้อมแบบนึงนะครับซึ่งก็จะเหมาะกับ
00:11:04 → 00:11:06 เชื้อจุลินทรีย์แบบหนึ่งผิวหนังที่อยู่ใน
00:11:06 → 00:11:08 ลำตัวนะครับที่พักอยู่ใต้รวมพาเนี่ยก็จะ
00:11:08 → 00:11:11 เป็นสิ่งแวดล้อมอีกแบบหนึ่งผิวหนังที่
00:11:11 → 00:11:13 อยู่รอบบริเวณอร์ดรูทวารหนักเนี่ยก็จะมี
00:11:13 → 00:11:16 ลักษณะที่ต่างไปนะครับหรือแม้แต่อย่าง
00:11:16 → 00:11:18 เช่นในปากนะครับสมมตินะครับก็คือในปาก
00:11:18 → 00:11:20 เนี่ยอ่อในช่องปากเหมือนกันก็จะตามและ
00:11:20 → 00:11:22 บริเวณในก็จะมีเชื้อจุลินทรีย์เนี่ยต่าง
00:11:22 → 00:11:24 กันไปเช่นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ที่บน
00:11:24 → 00:11:27 เนื้อฟันนะครับเกาะคนฟันก็จะเป็นแบบนึง
00:11:27 → 00:11:30 ชุณห์ศรีที่อาศัยอยู่ตามร่องเลือกเนี่ยก็
00:11:30 → 00:11:32 จะไปอีกแบบหนึ่งก็เชื้อจุลินทรีย์แต่ละ
00:11:32 → 00:11:34 ชนิดเนี่ยก็ต้องปรับตัวนะครับให้หมออยู่
00:11:34 → 00:11:36 กับสิ่งแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่เรือจะพูด
00:11:36 → 00:11:38 ว่า shirt จุลินทรีย์ต่างชนิดเดียวมันมี
00:11:38 → 00:11:40 ความเชี่ยวชาญที่จะใส่อยู่ในแต่ละถิ่น
00:11:40 → 00:11:42 ต่างกันไปทีนี่สมมุตินะครับมีเชื้อ
00:11:42 → 00:11:45 จุลินทรีย์ที่ก่อโรคได้ในรถเข้าในร่างกาย
00:11:45 → 00:11:48 ของเรานะครับปกติการที่เชื้อก่อโรคในมัน
00:11:48 → 00:11:50 จะทำให้เราป่วยได้นะครับคันแรกสุดขึ้นจะ
00:11:50 → 00:11:53 ต้องหาวิธีนะครับที่จะปักหลักลองฐานใน
00:11:53 → 00:11:56 ร่างกายของเราได้เกาะนก็คือมันต้องหาวิธี
00:11:56 → 00:11:58 ที่จะเกาะยึดกับผิวสัมผัสสักทีให้ได้ก่อน
00:11:58 → 00:12:01 แต่ถ้าเรามีเชื้อตัวจะมีประจำทีมที่แข็ง
00:12:01 → 00:12:03 แรงนะครับซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่น
00:12:03 → 00:12:05 แล้วเนี่ยมันจะก็จะได้เปรียบในถิ่นของมัน
00:12:05 → 00:12:07 อยู่แล้วก็คือมันปรับตัวทางมันเก่งเชื้อ
00:12:07 → 00:12:10 ที่ก่อโรคเนี่ยก็จะไม่สามารถจะไปแย่งที่
00:12:10 → 00:12:12 หากินได้แล้วถ้ามันปักหลักไม่ได้นะครับ
00:12:12 → 00:12:14 มันก็ไม่สามารถที่จะทะลุเข้ามาแล้วก็เกาะ
00:12:14 → 00:12:16 โลกนะครับหรือว่าสร้างความเจ็บปวดให้กับ
00:12:16 → 00:12:19 ร่างกายของเราได้เราก็อาจจะมองได้นะคะว่า
00:12:19 → 00:12:21 เชื่อประจำถิ่นเหล่านี้นะครับทำหน้าที่
00:12:21 → 00:12:24 เหมือนเป็นทหารรับจ้างนะครับที่มาสายอยู่
00:12:24 → 00:12:25 ในร่างกายของมนุษย์หรืออาจจะพูดได้ว่า
00:12:25 → 00:12:27 เชื้อประจำถิ่นแล้วนี้นะครับพวกเชื้อ
00:12:27 → 00:12:29 แบคทีเรียไวรัสเหล่านี้เนี่ยทำหน้าที่
00:12:29 → 00:12:32 เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบหนึ่งแต่ก็
00:12:32 → 00:12:33 ต้องขออธิบายนิดนึงนะครับว่าเราจะไม่
00:12:33 → 00:12:35 เรียกเชื้อเหล่านี้ว่าเป็นเชื้อดีนะครับ
00:12:35 → 00:12:37 เพราะว่าอะไรเพราะว่าจริงเราเชื่อเหล่า
00:12:37 → 00:12:40 นี้ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่สามารถก่อโรคหรือ
00:12:40 → 00:12:42 ว่าสร้างอันตรายให้กับเรานะครับเพราะถ้า
00:12:42 → 00:12:43 เชื้อเหล่านี้นะครับมันอยู่ผิดที่ผิดเวลา
00:12:43 → 00:12:45 นะครับก็จะสามารถทำให้เราป่วยได้เหมือน
00:12:45 → 00:12:48 กันนะครับยกตัวอย่างนะครับสมุดในหลังโพรง
00:12:48 → 00:12:51 จมูกเราแล้วก็จะมีชื่อไวทยาใส่อยู่นะครับ
00:12:51 → 00:12:53 แต่ถ้าเกิดมีเหตุอะไรคะตามนะครับให้เชื่อ
00:12:53 → 00:12:55 ที่อยู่หลังโพรงจมูกเดี๋ยวมันเกิดหลุดลง
00:12:55 → 00:12:57 ไปนะครับอยู่ในทางเดินหายใจส่วนล่างๆนะ
00:12:57 → 00:13:00 ครับก็คือเช่นไปอยู่ในหลอดลมเล็กนี้นะ
00:13:00 → 00:13:02 ครับในปอดนะครับมันก็สามารถทำให้เกิดภาวะ
00:13:02 → 00:13:04 ปอดอักเสบนะครับหรือว่าปอดบวมได้เหมือน
00:13:04 → 00:13:07 กันหรือว่าเชื้อแบคทีเรียนะครับที่อาศัย
00:13:07 → 00:13:09 อยู่ในลำไส้นะครับซึ่งปกติมันไม่ก่อนโลก
00:13:09 → 00:13:11 นะครับแล้วก็ช่วยร่างกายเราเนี่ยมันเกิด
00:13:11 → 00:13:13 จากภาพกับชมพู่นะครับหรือเข้าไปในกระแส
00:13:13 → 00:13:16 เลือดแล้วก็ไปไหลเวียนในกระแสเลือดจะเป็น
00:13:16 → 00:13:18 เพราะที่เราเรียกว่าเชื้อในกระแสเลือดนะ
00:13:18 → 00:13:20 ครับหรือว่าดูดเข้าไปในท่อปัสสาวะนะครับ
00:13:20 → 00:13:22 มันก็จะมาทำให้เกิดภาวะท่อปัสสาวะติด
00:13:22 → 00:13:25 เชื้อนะครับหรือท่อปัสสาวะอักเสบได้ดัง
00:13:25 → 00:13:27 นั้นโดยธรรมชาติเชื้อเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่า
00:13:27 → 00:13:29 เป็นเชื้อที่ดีนะครับแต่ต้องเรียกว่าเป็น
00:13:29 → 00:13:30 เชื่อที่ถ้ามันอยู่ทุกที่มันก็มีประโยชน์
00:13:30 → 00:13:33 กับเราแต่ถ้ามันไปอยู่ที่อื่นนะครับมันก็
00:13:33 → 00:13:35 ก่อให้เกิดอันตรายได้เหมือนกันหรือบาง
00:13:35 → 00:13:38 ครั้งนะครับถ้ากรณีที่ร่างกายนะครับผมการ
00:13:38 → 00:13:40 ของเราเกิดอ่อนแอลงนะครับไม่ว่าจะจาก
00:13:40 → 00:13:42 สาเหตุใดก็ตามนะครับตัวอย่างเช่นคนติด
00:13:42 → 00:13:44 เชื้อ hiv นะครับแล้วก็ป่วยเป็นโรค S
00:13:44 → 00:13:47 เนี่ยก็จะมีภูมิคุ้มกันอย่าที่อ่อนแอลงนะ
00:13:47 → 00:13:49 ครับชื่อหลายๆเชื้อนะครับหรือจุลินทรีย์
00:13:49 → 00:13:52 ในที่ปกติอยู่ในร่างกายเราแบบที่ไม่ก่อน
00:13:52 → 00:13:54 โลกเนี่ยมันก็สามารถที่ทำให้เราป่วยแล้ว
00:13:54 → 00:13:57 ก็เสียชีวิตได้เหมือนกันแล้วนี้ก็เป็นอีก
00:13:57 → 00:13:59 เหตุผลนึงนะครับว่าทำไมหมอนะครับส่วนใหญ่
00:13:59 → 00:14:02 จะถ้าถามว่าสมมติว่าเราป่วยเป็นโรคหวัดนะ
00:14:02 → 00:14:04 ครับซึ่งกว่าเนี่ยเราก็รู้ว่าเป็นจาก
00:14:04 → 00:14:06 เชื้อไวรัสตัวไหมครับเพราะยาปฏิชีวนะ
00:14:06 → 00:14:08 เนี่ยมันไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัสการกินเนี่ย
00:14:08 → 00:14:11 เขาได้ช่วยอะไรขึ้นมาแต่มันก็จะมีผลเสีย
00:14:11 → 00:14:13 ตรงนี้ได้นะครับเขตผลหนึ่งก็คือว่ายา
00:14:13 → 00:14:15 ปฏิชีวนะเหล่านี้นะครับมันจะไปทำลายเชื้อ
00:14:15 → 00:14:18 จุลินทรีย์ที่ช่วยป้องกันหรือว่าทำหน้า
00:14:18 → 00:14:20 ที่เป็นภูมิโครงการให้กับเรานะครับทำให้
00:14:20 → 00:14:22 เหมือนกับพวกผมกันในหลายวันของเราเนี่ย
00:14:22 → 00:14:25 อ่อนแอลงซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผมพบกันของเรา
00:14:25 → 00:14:27 อ่อนแอลงนะครับเราก็จะมีความเสี่ยงที่จะ
00:14:27 → 00:14:29 ป่วยเป็นโรคติดเชื้อในมากขึ้นและทั้งหมด
00:14:29 → 00:14:32 ที่เราคุยกันมานี้นะครับก็คือการทำงานแบบ
00:14:32 → 00:14:34 คร่าวๆนะครับของภูมิคุ้มกันการที่ 1 นะ
00:14:34 → 00:14:37 ครับซึ่งแน่นอนว่าถ้ากับโฉลกนะครับสามารถ
00:14:37 → 00:14:39 ที่จะผ่านด่านที่ 1 เข้ามาได้มันก็ต้อง
00:14:39 → 00:14:42 ทะลุเนี่ยเข้าไปเจอด่านที่ 2 ในวันที่ 3
00:14:42 → 00:14:44 ซึ่งจะเป็นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
00:14:44 → 00:14:46 ระดับพวกเซลล์นะครับซึ่งเราจะคุยกันต่อใน
00:14:46 → 00:14:49 เอกสอนหน้านะครับฉันเป็นส่วนนี้ผมขอจบไว้
00:14:49 → 00:14:51 สั้นๆเท่านี้นะครับแต่ก็คิดว่าเป็นการปู
00:14:51 → 00:14:53 พื้นนะครับเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ
00:14:53 → 00:14:55 ว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานอย่างไร
00:14:55 → 00:14:58 แล้วในที่สอนหน้านะครับว่าจะมาคุยกันถึง
00:14:58 → 00:15:00 ได้ที่ 2 ด่านที่ 3 นะครับน่ารักสุดท้าย
00:15:00 → 00:15:02 นะครับก็ก่อนที่จะจากกันไปนะครับอย่าลืม
00:15:02 → 00:15:04 นะครับใครยังได้กด Subscribe นะครับแล้ว
00:15:04 → 00:15:07 ก็กดกันอีกก็กดไว้นะครับเวลามีคลิปใหม่จะ
00:15:07 → 00:15:09 ได้มีการแจ้งเตือนให้ทราบนะครับฉบับวัน
00:15:09 → 00:15:11 นี้ผมขอลาไปก่อนนะครับแล้วมันเจอกันใหม่
00:15:11 → 00:15:18 ในคลิปหน้านะครับสวัสดีครับ
00:15:18 → 00:15:22 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับยินดีต้อนรับเข้าสู่
00:00:02 → 00:00:04 Channel เรื่องเล่าจากร่างกายนะครับผม
00:00:04 → 00:00:06 หมอเอวนายแพทย์ชัชพลเกียรติขจรธาดานะครับ
00:00:06 → 00:00:09 วันนี้ 6 ข้อที่ว่าจะคุยกันครับก็เป็น
00:00:09 → 00:00:11 เรื่องของพ.ร.บ.อบรมโครงกันนะครับสิ่งที่
00:00:11 → 00:00:13 ผมตั้งใจจะทำในส่วนนี้ก็คืออธิบายให้ฟัง
00:00:13 → 00:00:15 คร่าวๆนะครับว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณ
00:00:15 → 00:00:17 เนี่ยทำงานยังไงแต่ก่อนอื่นเลยเนี่ยผม
00:00:17 → 00:00:20 อยากจะขอเล่าสั้นๆนะครับว่าระบบภูมิคุ้ม
00:00:20 → 00:00:22 กันอย่างมันมีความสำคัญมากแค่ไหนนะครับ
00:00:22 → 00:00:24 เพราะว่าปกติเมื่อพูดถึงระบบภูมิคุ้มกัน
00:00:24 → 00:00:27 นะครับผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะรู้ดีนะครับ
00:00:27 → 00:00:29 แล้วก็คุณเคยว่าระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยคือ
00:00:29 → 00:00:33 ระบบที่ป้องกันไม่ให้เราปวดโรคติดเชื้อก็
00:00:33 → 00:00:34 คือแอมป์ต่อสู้กับเชื้อโรคกับตะนะครับ
00:00:34 → 00:00:37 ซึ่งเชื้อโรคที่ว่าในก็คือแบคทีเรียนะ
00:00:37 → 00:00:39 ครับ virus เธอราหรือว่าเชื้อที่ก่อโรค
00:00:39 → 00:00:43 ได้อื่นนะครับแต่จริงๆแล้วนะครับระบบภูมิ
00:00:43 → 00:00:44 คุ้มกันในยังมีความสำคัญมากกว่านั้นนะ
00:00:44 → 00:00:47 ครับเพราะว่าปัจจุบันเรารู้ว่าระบบภูมิ
00:00:47 → 00:00:49 คุ้มกันเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับโรคหลายโรค
00:00:49 → 00:00:51 นะครับที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อนะครับที่พบ
00:00:51 → 00:00:53 มักคะนี่ในปัจจุบันเนี่ยรู้ว่าจะเป็นโรค
00:00:53 → 00:00:55 เบาหวานนะครับรบกวนเดี๋ยวว่าโรคสมอง
00:00:55 → 00:00:59 เสื่อมหรือว่าพวกโรคภูมิแพ้นะครับโรค
00:00:59 → 00:01:01 มะเร็งหลายอยู่ในการเด่นมันเกี่ยวข้องกับ
00:01:01 → 00:01:04 ระบบภูมิคุ้มกันนะครับเกี่ยวข้องกับภาวะ
00:01:04 → 00:01:06 ที่เราเรียกว่าภาวะการอักเสบนะครับต้อง
00:01:06 → 00:01:08 เรียนจากนี้นะครับระบบภูมิคุ้มกันอย่างก็
00:01:08 → 00:01:11 ยังเกี่ยวข้องกับความแก่ด้วยนะครับคือการ
00:01:11 → 00:01:13 ที่คนบางคนเนี่ยแก่เร็วไปอีกคนเนี่ยก็
00:01:13 → 00:01:16 เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
00:01:16 → 00:01:18 หรือว่าเกี่ยวข้องกับภาวะที่หรือว่าภาวะ
00:01:18 → 00:01:20 การอักเสบเรื้อรังด้วยนะครับเพราะเห็นภาพ
00:01:20 → 00:01:21 กันแล้วใช่ไหมครับว่าระบบภูมิคุ้มกัน
00:01:21 → 00:01:24 เนี่ยมันสำคัญแค่ไหนนะครับจะต้องบอกกัน
00:01:24 → 00:01:26 ว่าระบบคุกอันนี้นะครับมันเป็นระบบที่มี
00:01:26 → 00:01:29 ความซับซ้อนในสุขมากนะครับแล้วก็มีราย
00:01:29 → 00:01:31 ละเอียดมีอวัยวะที่เข้าไปเกี่ยวข้องในมาก
00:01:31 → 00:01:35 มายแน่นอนว่าในพิโสดนี้นะครับหรือว่าที่
00:01:35 → 00:01:37 สนหน้านะครับเราคงไม่สามารถที่จะคุยวัย
00:01:37 → 00:01:40 เรียนทั้งหมดกันได้นะครับแต่ว่าที่ตั้งใจ
00:01:40 → 00:01:42 ให้คือผมอยากจะคุย Point เห็นว่าระบบนี้
00:01:42 → 00:01:45 ทำงานยังไงโดยเฉพาะสำหรับท่านที่ไม่เคย
00:01:45 → 00:01:47 รู้เกี่ยวกับโรคระบบผู้กันมาเกาะนะครับก็
00:01:47 → 00:01:50 คือแผนจะเลือกข้อมูลส่วนที่เล่าแล้วเนี่ย
00:01:50 → 00:01:52 เพราะเห็นภาพใหญ่ข้างแบบนี้มากขึ้นที่นี่
00:01:52 → 00:01:55 ผมขอเริ่มจากภาพใหญ่สุดก่อนเลยนะครับก็
00:01:55 → 00:01:57 คือว่าถ้าเรามองในโลกนี้นะครับซึ่งเต็มไป
00:01:57 → 00:02:00 ด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายเลยซึ่งมีใครต่างๆ
00:02:00 → 00:02:02 ที่มีรูปร่างหน้าตาแล้วก็มีขณะที่แตกต่าง
00:02:02 → 00:02:06 กันไปวิธีการหากินของซีมีชื่อต่างๆในก็จะ
00:02:06 → 00:02:08 ต่างกันไปด้วยตัวไหมครับที่นี่มันจะมี
00:02:08 → 00:02:10 สิ่งมีชีวิตบางพวกในที่สามารถสร้างอาหาร
00:02:10 → 00:02:12 ได้เองนะครับก็คือสิ่งที่เรียกว่าพวกพืช
00:02:12 → 00:02:15 นะครับหรือว่าต้นไม้ก็คือมันสามารถที่จะ
00:02:15 → 00:02:17 เปลี่ยนอากาศแล้วก็แสงแดดให้กลายเป็น
00:02:17 → 00:02:20 อาหารขึ้นมาได้ส่วนสิ่งมีชีวิตอื่นๆนะ
00:02:20 → 00:02:23 ครับก็มีล้มจะต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
00:02:23 → 00:02:25 เป็นอาหารนะครับเช่นสัตว์กินพืชเนี่ยก็
00:02:25 → 00:02:28 ต้องกินพืชเป็นอาหารสวนสัตว์ที่กินสัตว์
00:02:28 → 00:02:30 นะครับก็จะลักษณะของการที่สัตว์ใหญ่กิน
00:02:30 → 00:02:32 สัตว์เล็กนะครับหรือว่าสัตว์เล็กกลุ่มกิจ
00:02:32 → 00:02:35 สัตว์ใหญ่นะครับถ้ามันมีวิธีการหากินอีก
00:02:35 → 00:02:37 แบบหนึ่งซึ่งเป็นวิธีหากินของสิ่งมีชีวิต
00:02:37 → 00:02:40 ที่มีขนาดเล็กมากๆนะครับซึ่งวิธีหากินของ
00:02:40 → 00:02:42 สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมากๆนี้นะครับ
00:02:42 → 00:02:45 มันคือการเข้าไปอาศัยอยู่ในร่างกายของ
00:02:45 → 00:02:47 สิ่งมีชีวิตอื่นแล้วก็กินสิ่งมีชุดนั้น
00:02:47 → 00:02:50 เป็นอาหารที่นี่เมื่อเรากลับมามองที่ร่าง
00:02:50 → 00:02:52 กายของมนุษย์เองนะครับร่างกายของมนุษย์คะ
00:02:52 → 00:02:54 เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายที่เข้ามา
00:02:54 → 00:02:57 อาศัยอยู่อ่ะนะครับมากินร่างกายของเรานะ
00:02:57 → 00:02:59 ครับเพราะว่ามันรู้ได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งมี
00:02:59 → 00:03:01 ชีวิตที่ปตัวใหญ่นะครับและสิ่งมีชีวิตที่
00:03:01 → 00:03:04 มาใส่อยู่ในร่างกายเราและก็มีส่วนที่ทั้ง
00:03:04 → 00:03:06 อยู่แล้วก็ไม่ก่อให้เกิดโทษอะไรนะครับมี
00:03:06 → 00:03:08 เกิดโรคอะไรกับส่วนที่โจมตีเข้ามาและทำ
00:03:08 → 00:03:11 ให้เราไปได้นะครับที่นี่ในทุกวินาทีเนี่ย
00:03:11 → 00:03:15 พอเราโดนสิมีชุดเล็กๆโจมตีตลอดเวลาโดยที่
00:03:15 → 00:03:17 เราไม่รู้ตัวนะครับมัวจะเป็นการโจมตีจาก
00:03:17 → 00:03:20 ไวรัสก็ตามเขาจะไปเที่ยวเลียเฌอร่าหรือ
00:03:20 → 00:03:22 ว่าเชื้อโรคคนอื่นๆซึ่งไม่ได้ตอนที่เรา
00:03:22 → 00:03:24 กำลังคุยกันอยู่นี่นะครับที่ผมนั่งพูด
00:03:24 → 00:03:27 อยู่แล้วว่าคุณกำลังนั่งฟังผมพูดเนี้ยเรา
00:03:27 → 00:03:29 ก็กำลังโดนโจมตีตลอดเวลาด้วยเหมือนกันแต่
00:03:29 → 00:03:31 ที่เราไม่เป็นอะไรเพราะว่าร่างกายของเรา
00:03:31 → 00:03:33 เนี่ยมันมีคนไกลนะครับที่คอยที่จะต่อสู้
00:03:33 → 00:03:37 นักรับมือกันพยายามที่จะบุกรุกเข้ามาของ
00:03:37 → 00:03:39 สิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านี้นะครับซึ่งระบบ
00:03:39 → 00:03:41 นี้นะครับก็คือระบบที่เรารู้จักกันในชื่อ
00:03:41 → 00:03:43 ว่าระบบภูมิคุ้มกันนะครับที่นี่ประกบภูมิ
00:03:43 → 00:03:45 คุ้มกันอย่างที่คุยไปนะครับก็คือมีความ
00:03:45 → 00:03:48 ซับซ้อนสูงมากแต่มันก็มีวิธีการที่จะมอง
00:03:48 → 00:03:50 ระบบที่ซับซ้อนนี้นะครับให้เข้าใจได้ง่าย
00:03:50 → 00:03:54 ขึ้นก็คือมองว่าระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยมัน
00:03:54 → 00:03:56 เป็นเหมือนด่าเนี่ยที่ป้องกันร่างกายเรา
00:03:56 → 00:04:00 ที่มี 3 ด้านใหญ่ด้วยกันดันแร่นะครับจะทำ
00:04:00 → 00:04:02 หน้าที่เหมือนเป็นกำแพงนะครับที่คอยกั้น
00:04:02 → 00:04:05 ไม่ให้สิ่งมีชุดภายนอกเนี่ยสามารถที่จะ
00:04:05 → 00:04:07 รุกรานเข้าในร่างกายของเราได้นะครับก็คือ
00:04:07 → 00:04:10 ทำหน้าที่เหมือนเป็นเพราะแบริเออร์นะครับ
00:04:10 → 00:04:13 ซึ่งแบบนี้ที่ว่าเนี่ยมันก็มีทางที่เป็น
00:04:13 → 00:04:15 ลักษณะมันเป็นกายภาพจริงๆนะครับเหมือน
00:04:15 → 00:04:18 เป็นกำแพงจริงๆเช่นผิวอย่างนะครับหรือว่า
00:04:18 → 00:04:20 เป็นแบริเออร์นะครับที่เป็นสารเคมีนะครับ
00:04:20 → 00:04:23 แล้วจะรู้ว่าเป็นอาวุธเคมีก็ได้นะครับที่
00:04:23 → 00:04:25 ป้องกันร่างกายของเราแล้วก็มีส่วนที่และ
00:04:25 → 00:04:28 มีลักษณะคล้ายๆกับทหารรับจ้างนะครับซึ่ง
00:04:28 → 00:04:30 เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับว่าไอ้อาวุธ
00:04:30 → 00:04:33 เคมีวัดหารรับจ้างที่ว่าในมันคืออะไรที่
00:04:33 → 00:04:35 นี่ด่านที่ 2 ละด่านที่ 3 เนี่ยมันจะเป็น
00:04:35 → 00:04:38 กลไกภายในร่างกายนะครับก็คือถ้าสมุดผ่าน
00:04:38 → 00:04:39 ด่านที่ 1 เข้ามาได้เนี่ยก็จะไปกระตุ้น
00:04:39 → 00:04:42 ระบบนี้ให้ทำงานนะครับซึ่งอย่างที่สองได้
00:04:42 → 00:04:44 ตอนที่ 3 ในก็คือสิ่งที่เราเรียกกันว่า
00:04:44 → 00:04:46 ภูมิคุ้มกันนะครับสำหรับชื่ออย่างเป็นทาง
00:04:46 → 00:04:48 การของงานที่ 2 ในมีชื่อว่าอินเน็ตอิม
00:04:48 → 00:04:51 มูนิตี้นะครับมิเนตที่แปลว่าแต่กำเนิดนะ
00:04:51 → 00:04:54 ครับส่วนดันที่ 3 เนี่ยมันมีชื่อเรียก 2
00:04:54 → 00:04:55 ชื่อนะครับที่นิยมเรียกกันนะครับก็คือ
00:04:55 → 00:04:58 ชื่อแรกเรียกว่าไอ้ควายมูนิตี้นะครับหรือ
00:04:58 → 00:05:01 ว่าเป็นด่านที่ไหมครับก็ต่อการรับเชื้อมา
00:05:01 → 00:05:03 ก่อนนะครับถึงจะทำงานได้อีกชื่อหนึ่งก็
00:05:03 → 00:05:06 คือมีชื่อว่าดับตีบนะครับที่มูนิตี้นะ
00:05:06 → 00:05:09 ครับที่ว่าปรับตัวที่นี่คำอธิบายนะครับ
00:05:09 → 00:05:12 ว่าแอคควายังเรียกว่าไอ้ควายถึงเลขไอดับ
00:05:12 → 00:05:14 ถีบนะครับแล้วทำไมถึงเรียกว่าเป็น or in
00:05:14 → 00:05:17 Age นะครับเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ
00:05:17 → 00:05:19 แต่สำหรับในที่สดนี่เราจะโฟกัสไปที่ด่าน
00:05:19 → 00:05:21 แรกก่อนนะครับก็คือเด็กที่ไหนจะมีนิตี้นะ
00:05:21 → 00:05:24 ครับส่วนด่านที่ 2 และอย่างที่สามเนี่ย
00:05:24 → 00:05:26 เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังในคลิปหน้านะครับ
00:05:26 → 00:05:28 เพราะว่า 2 เรื่องเนี้ยการที่ 2 ด้วยกัน
00:05:28 → 00:05:30 ที่สาวเนี่ยมันเป็นระบบเดียวกันนะครับก็
00:05:30 → 00:05:32 อยากจะรวมไว้ด้วยกันซึ่งเนื้อหามันค่อน
00:05:32 → 00:05:34 ข้างเยอะนะครับก็ไม่อยากจะให้เนื้อหา
00:05:34 → 00:05:36 เนี่ยในส่วนนี้มันเยอะเกินไปที่พอเห็นภาพ
00:05:36 → 00:05:38 เข้าไปแล้วนะครับเรามาเริ่มกันเลยนะครับ
00:05:38 → 00:05:41 แล้วจากด่านที่ 1 ก่อนนะครับที่นี่วิธี
00:05:41 → 00:05:42 การนึงนะครับในการจะเข้าใจการทำงานของ
00:05:43 → 00:05:45 ด่านที่ 1 นะครับคือเราต้องเปลี่ยนมุมมอง
00:05:45 → 00:05:47 ในการมองร่างกายของมนุษย์สักเล็กน้อยนะ
00:05:47 → 00:05:50 ครับก็คือว่าให้มองหรือให้จินตนาการนะ
00:05:50 → 00:05:52 ครับว่าร่างกายของเราเนี่ยมีลักษณะเหมือน
00:05:52 → 00:05:54 ท่อนะครับเป็นท่อน้ำนะครับที่นี่เวลาพูด
00:05:55 → 00:05:57 ถึงท่อน้ำนะครับสังเกตดูนะครับจะมีผิว
00:05:57 → 00:06:00 อยู่ 2 ฝั่งนะครับผิวฟังแรกในเคืองผิวและ
00:06:00 → 00:06:02 ภายนอกของท่อถูกไหมครับกับผิวที่อยู่ด้าน
00:06:02 → 00:06:05 ในของท่อก็คือส่วนที่สัมผัสกับน้ำนะครับ
00:06:05 → 00:06:07 ร่างกายของมนุษย์เดียวจริงๆแล้วก็มี
00:06:07 → 00:06:09 ลักษณะแบบนั้นนะครับก็คือผิวด้านนอกนะ
00:06:09 → 00:06:12 ครับที่เรียกว่าผิวของท่อและก็คือผิวหนัง
00:06:12 → 00:06:14 ของเรานะครับพิมพ์ที่อยู่ด้านนอกที่เรา
00:06:14 → 00:06:16 คุ้นเคยกันดีคือพิมพ์ที่สัมผัสกับโลกภาย
00:06:16 → 00:06:20 นอกอยู่นะครับซึ่งก็จะมีผิวหนังมีผมมีขน
00:06:20 → 00:06:23 อยู่นะครับจะได้ผิวด้านในของท่อเนี่ยของ
00:06:23 → 00:06:26 ร่างกายเรานี่คืออะไรมันก็คือส่วนที่อยู่
00:06:26 → 00:06:29 ภายในร่างกายเรานะครับแต่จริงๆสัมผัสกับ
00:06:29 → 00:06:31 โลกภายนอกเพราะว่าเหมือนกับในท่อน้ำครับ
00:06:31 → 00:06:33 มันซ่อนอยู่ข้างในก็จริงแต่มันสัมผัสกับ
00:06:33 → 00:06:35 น้ำท่วมไม่ให้ร่างกายของมนุษย์ก็เหมือน
00:06:35 → 00:06:37 กันนะครับก็คือมันมีส่วนที่อยู่ภายในนะ
00:06:37 → 00:06:40 ครับแต่จริงและสัมผัสโลกภายนอกพรุ่งนี้ก็
00:06:40 → 00:06:43 คือพวกรู้เปิดต่างๆนะครับที่จะรับสิ่งภาย
00:06:43 → 00:06:44 นอกเข้าในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
00:06:44 → 00:06:48 ระบบทางเดินหายใจนะครับเช่นรู้จมูกทาง
00:06:48 → 00:06:50 ด้านหายใจนะครับลงไปถึงได้เท่าไหร่จะเล็ก
00:06:50 → 00:06:52 ๆปอดนะครับเพราะว่ามันอยู่ข้างในลึกก็
00:06:52 → 00:06:54 จริงตากอากาศที่อยู่ภายนอกซึ่งก็จะรวม
00:06:54 → 00:06:57 ฝุ่นรวมเชื้อแบคทีเรียเชื้อเวลาเตะสามารถ
00:06:57 → 00:07:00 ที่จะผ่านเข้าไปสัมผัสกับภายในกไก่เราได้
00:07:00 → 00:07:02 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางเดินอาหารนะครับ
00:07:02 → 00:07:04 ก็คืออาหารภายนอกเที่ยวกินเข้าไปเนี่ยมัน
00:07:04 → 00:07:07 ก็จะสัมผัสกับในปากเราสัมผัสกับหลอดอาหาร
00:07:07 → 00:07:10 สัมผัสกับผิวด้านในของกระเพาะและลำไส้
00:07:10 → 00:07:13 ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจทั่วไปก็มีโอกาสที่จะ
00:07:13 → 00:07:15 ปนเปื้อนสิ่งที่เรียกว่าเป็นเชื้อโรคก็
00:07:15 → 00:07:17 ได้นะครับต้องเดี๋ยวจากนี้นะครับก็เป็น
00:07:17 → 00:07:19 รูปเอ่อสื่อนะครับซึ่งอาจจะมีขนาดเล็ก
00:07:19 → 00:07:22 แล้วเราจะไม่คุ้นเคยนะครับเช่นรูปัสสาวะ
00:07:22 → 00:07:24 นะครับท่อปัสสาวะเนี่ยมันก็สามารถที่จะมี
00:07:24 → 00:07:26 พวกเชื้อแบคทีเรีย Smart คืบคลานเข้าไป
00:07:26 → 00:07:29 ได้หรือว่ารูทวารหนักนะครับก็สามารถที่จะ
00:07:29 → 00:07:32 มีสิ่งจะภายนอกเดี๋ยวเข้าไปทางนั้นได้
00:07:32 → 00:07:34 หรือว่าช่องข้อในผู้หญิงนะครับก็เป็นถือ
00:07:34 → 00:07:36 ว่าเป็นรูเปิดอันนึงนะครับที่สัมผัสกับ
00:07:36 → 00:07:38 โลกภายนอกเช่นกันนะครับซึ่งแน่นอนว่าช่อง
00:07:38 → 00:07:40 ที่เปิดสู่โลกภายนอกเหล่านี้นะครับมันก็
00:07:40 → 00:07:43 ต้องมีสิ่งที่สามารถป้องกันไม่ให้เชื้อ
00:07:43 → 00:07:45 เข้าไปได้เหมือนกันแต่มันไม่มีติดนางแบบ
00:07:45 → 00:07:47 ที่เป็นผิวหนังโปัที่เราคุ้นเคยนะครับแต่
00:07:47 → 00:07:50 สิ่งที่ป้องกันเนี่ยมันจะเป็นผิวที่เรา
00:07:50 → 00:07:52 เรียกว่ายูโคซ่านะครับที่ไม่โคซ่าไหนจริง
00:07:52 → 00:07:54 มันก็เหมือนกับในช่องปากของเราก็คือเป็น
00:07:54 → 00:07:57 ผิวชินแล้วแต่เหมือนกับสีแดงแดงลื่นๆนะ
00:07:57 → 00:07:59 ครับมันจะมีของเหลวอย่างเช่นเป็นเมือก
00:07:59 → 00:08:01 เนี่ยเอ่อที่อยู่นะครับไม่ว่าจะไม่รู้
00:08:01 → 00:08:04 จมูกของเรานะครับขอหลังโพรงจมูกทางเดิน
00:08:04 → 00:08:07 หายใจทางเดินอาหารในภายในช่องคลอดหรือว่า
00:08:07 → 00:08:09 ภายในรูทวารเนี่ยก็จะมีลักษณะแบบผิวหนัง
00:08:09 → 00:08:12 ที่เป็นมีโควตาที่นี่นะครับนอกเหนือไปจาก
00:08:12 → 00:08:14 การ pitch ที่พวกนี้มันจะมีลักษณะมันๆ
00:08:14 → 00:08:16 ลื่นนะครับเพราะบางครั้งบางส่วนก็คือ
00:08:16 → 00:08:18 รักษามันเป็นคนเล็กๆนะครับเล็กมากๆนะครับ
00:08:18 → 00:08:20 จนตาเปล่ามองไม่เห็นเกาะอยู่ด้วยนะครับ
00:08:20 → 00:08:23 ซึ่งคนเหล่านี้ก็จะทำหน้าที่ในการช่วยพัด
00:08:23 → 00:08:26 โบกนะครับพวกสิ่งแปลกปลอมให้สามารถหลุด
00:08:26 → 00:08:28 ออกมาได้นะครับที่นี่ผิวเหล่านี้นะครับ
00:08:28 → 00:08:30 ต้องผิวหนังและผิวมีโคซ่าเนี่ยมันก็จะทำ
00:08:30 → 00:08:32 หน้าที่มันเป็นด่านป้องกันนะครับไม่ให้
00:08:32 → 00:08:34 เชื้อโรคในสามารถทะลุผ่านเข้าไปได้แล้วก็
00:08:34 → 00:08:36 พวกน้ำต่างๆที่เคลือบอยู่นะครับส่วนใหญ่
00:08:36 → 00:08:39 ก็จะมีการบนสารเคมีนะครับที่สามารถฆ่า
00:08:39 → 00:08:42 เชื้อโรคเนี่ยผสมอยู่ด้วยหรือตัวอย่างยัง
00:08:42 → 00:08:44 ผิวหนังของเราเนี่ยก็จะมีพวกซ้อมใครมัน
00:08:44 → 00:08:46 ต่อเมื่อถูกไหมครับซึ่งต่อมไขมันต่อม
00:08:46 → 00:08:49 เหงื่อเราเนี่ยมันก็จะมีสารเคมีที่สามารถ
00:08:49 → 00:08:51 ที่จะฆ่าเชื้อโรคบางอย่างได้นะครับไม่
00:08:51 → 00:08:53 เชื่อ Bag เคมีบางอย่างนะครับหรือว่า
00:08:53 → 00:08:55 เชื้อไวรัสบางชนิดและผิวหนังของคนทั่วไป
00:08:55 → 00:08:57 นะครับก็จะมีลักษณะที่เป็นกฎท่านอ่อนนะ
00:08:57 → 00:09:00 ครับซึ่งคะว่ากฎจะนอนแล้วนี้นะครับก็จะทำ
00:09:00 → 00:09:02 อยู่ในรัฐหรือว่าเชื้อก่อโรคหลายชนิดนะ
00:09:02 → 00:09:04 ครับไม่สามารถที่จะมาก่อนถิ่นได้เพราะมัน
00:09:04 → 00:09:06 ไม่ชอบความเป็นคนอ่อนหรืออย่างในกระเพาะ
00:09:06 → 00:09:08 ของเรานั้นก็จะมีความเป็นกรดเข้มข้นสูง
00:09:08 → 00:09:10 มากตัวนะครับซึ่งมันก็สามารถฆ่าเชื้อได้
00:09:10 → 00:09:13 หลายชนิดและทั้งหมดนี้ก็คือด่านที่ 1 นะ
00:09:13 → 00:09:15 ครับเค้าจะเห็นว่าหน้าที่หลักคือป้องกัน
00:09:15 → 00:09:17 ไม่ให้เชื้อในลูกหลานเข้ามาในร่างกายของ
00:09:17 → 00:09:20 เราได้ที่ได้ถ้าเรามองในแง่ของวิธีการทำ
00:09:20 → 00:09:23 งานนะครับแล้วก็จะพออย่างเดียวมันไปเป็น 3
00:09:23 → 00:09:25 วิธีด้วยกันนะครับซึ่งวิธีแรกก็อย่างที่
00:09:25 → 00:09:28 เราคุยกันไปก็คือมันทำหน้าที่มันเป็นสิ่ง
00:09:28 → 00:09:30 ที่จะต้องได้รับก็เป็นกำแพงนะครับเป็น
00:09:30 → 00:09:32 คริสต์เข้าเบเยอร์ที่ป้องกันไม่ให้ชนก
00:09:32 → 00:09:35 เข้ามาได้อันที่สองก็คือลักษณะเป็นการใช้
00:09:35 → 00:09:37 สารเคมีนะครับก็คือเราจะเป็นเรื่องของ
00:09:37 → 00:09:40 ป๊อปเนื้อต่อมไขมันและสารเคมีต่างๆนะครับ
00:09:40 → 00:09:43 ที่เคลือบอยู่บนผิวในโคซ่าซึ่งมันมีฤทธิ์
00:09:43 → 00:09:46 ที่จะฆ่าเชื้อโรคบางอย่างได้นะครับก็คือ
00:09:46 → 00:09:49 มันก็เป็นการใช้โอเคในการต่อสู้ที่นี่
00:09:49 → 00:09:51 เนี่ยยังอีกวิธีนะครับที่ร่างกายเราใช้
00:09:51 → 00:09:53 ป้องกันไม่ให้เชื้ออื่นเข้ามาได้นะครับจะ
00:09:53 → 00:09:56 เรียกว่าเป็นการใช้วิตถารรับจ้างเนี่ยมา
00:09:56 → 00:09:58 ช่วยป้องกันก็ได้นะครับวิธีการนี้ก็คือ
00:09:58 → 00:10:00 มันใช้เชื้อจุลินทรีย์อื่นนะครับติดตาม
00:10:00 → 00:10:02 อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์แบบใน
00:10:02 → 00:10:06 การป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาได้ก็
00:10:06 → 00:10:08 อย่างนี้ครับร่างกายของมนุษย์เราเนี่ย
00:10:08 → 00:10:10 จริงๆเต็มไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆมาก
00:10:10 → 00:10:12 มายนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเชื้อ
00:10:12 → 00:10:15 แบคทีเรียเชื้อไวรัสเชื้อรานะครับซึ่งพวก
00:10:15 → 00:10:17 นี้จะแทรกอยู่ไหมครับในทุกอณูของร่างกาย
00:10:17 → 00:10:20 นะครับไม่ว่าจะเป็นบนผิวหนังนะครับคนใน
00:10:20 → 00:10:22 ป่านะครับทางเดินอาหารไทยจะต่างๆดิเชื้อ
00:10:22 → 00:10:24 จุลินทรีย์อาศัยอยู่แต่งจะหมดนะครับปกติ
00:10:24 → 00:10:26 เราจะเล่นชู้จุลินทรีย์เหล่านี้นะครับว่า
00:10:26 → 00:10:28 เป็นเชื่อประจำทิศนะครับก็คือเป็นเชื่อ
00:10:28 → 00:10:30 ที่มาอาศัยอยู่ในร่างกายเราแบบที่ปักหลัก
00:10:30 → 00:10:33 ถาวรเลยที่เชื้อประจำถิ่นแล้วนี้นะครับก็
00:10:33 → 00:10:35 จะปรับตัวนะครับจนกระทั่งมันสามารถที่จะ
00:10:35 → 00:10:37 อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมส่วนของร่างกาย
00:10:37 → 00:10:40 เนี่ยได้อย่างดีนะครับขึ้นนะครับต้องมา
00:10:40 → 00:10:42 ว่าร่างกายของมนุษย์เดี๋ยวเต็มไปด้วยส่วน
00:10:42 → 00:10:45 ต่างๆมากมายตัวไหมครับและส่วนต่างๆมันก็
00:10:45 → 00:10:47 มีสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันไปตัวอย่างเช่น
00:10:47 → 00:10:49 สิ่งแวดล้อมในปากนะครับก็จะต่างไปจากสิ่ง
00:10:49 → 00:10:52 แวดล้อมที่อยู่บนผิวหนังก็ไม่ให้พูดภูมิ
00:10:52 → 00:10:54 ต่างกันมีความชื้นต่างกันนะครับโดนแสงแดด
00:10:54 → 00:10:57 ไม่เท่ากันหรือแม้แต่บนผิวหนังแต่ละส่วน
00:10:57 → 00:10:59 ของร่างกายในก็ยังถือว่าเป็นสิ่งแวดล้อม
00:10:59 → 00:11:02 ที่ต่างกันเอาไว้เช่นผิวหนังของแขนก็มี
00:11:02 → 00:11:04 สิ่งแวดล้อมแบบนึงนะครับซึ่งก็จะเหมาะกับ
00:11:04 → 00:11:06 เชื้อจุลินทรีย์แบบหนึ่งผิวหนังที่อยู่ใน
00:11:06 → 00:11:08 ลำตัวนะครับที่พักอยู่ใต้รวมพาเนี่ยก็จะ
00:11:08 → 00:11:11 เป็นสิ่งแวดล้อมอีกแบบหนึ่งผิวหนังที่
00:11:11 → 00:11:13 อยู่รอบบริเวณอร์ดรูทวารหนักเนี่ยก็จะมี
00:11:13 → 00:11:16 ลักษณะที่ต่างไปนะครับหรือแม้แต่อย่าง
00:11:16 → 00:11:18 เช่นในปากนะครับสมมตินะครับก็คือในปาก
00:11:18 → 00:11:20 เนี่ยอ่อในช่องปากเหมือนกันก็จะตามและ
00:11:20 → 00:11:22 บริเวณในก็จะมีเชื้อจุลินทรีย์เนี่ยต่าง
00:11:22 → 00:11:24 กันไปเช่นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ที่บน
00:11:24 → 00:11:27 เนื้อฟันนะครับเกาะคนฟันก็จะเป็นแบบนึง
00:11:27 → 00:11:30 ชุณห์ศรีที่อาศัยอยู่ตามร่องเลือกเนี่ยก็
00:11:30 → 00:11:32 จะไปอีกแบบหนึ่งก็เชื้อจุลินทรีย์แต่ละ
00:11:32 → 00:11:34 ชนิดเนี่ยก็ต้องปรับตัวนะครับให้หมออยู่
00:11:34 → 00:11:36 กับสิ่งแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่เรือจะพูด
00:11:36 → 00:11:38 ว่า shirt จุลินทรีย์ต่างชนิดเดียวมันมี
00:11:38 → 00:11:40 ความเชี่ยวชาญที่จะใส่อยู่ในแต่ละถิ่น
00:11:40 → 00:11:42 ต่างกันไปทีนี่สมมุตินะครับมีเชื้อ
00:11:42 → 00:11:45 จุลินทรีย์ที่ก่อโรคได้ในรถเข้าในร่างกาย
00:11:45 → 00:11:48 ของเรานะครับปกติการที่เชื้อก่อโรคในมัน
00:11:48 → 00:11:50 จะทำให้เราป่วยได้นะครับคันแรกสุดขึ้นจะ
00:11:50 → 00:11:53 ต้องหาวิธีนะครับที่จะปักหลักลองฐานใน
00:11:53 → 00:11:56 ร่างกายของเราได้เกาะนก็คือมันต้องหาวิธี
00:11:56 → 00:11:58 ที่จะเกาะยึดกับผิวสัมผัสสักทีให้ได้ก่อน
00:11:58 → 00:12:01 แต่ถ้าเรามีเชื้อตัวจะมีประจำทีมที่แข็ง
00:12:01 → 00:12:03 แรงนะครับซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่น
00:12:03 → 00:12:05 แล้วเนี่ยมันจะก็จะได้เปรียบในถิ่นของมัน
00:12:05 → 00:12:07 อยู่แล้วก็คือมันปรับตัวทางมันเก่งเชื้อ
00:12:07 → 00:12:10 ที่ก่อโรคเนี่ยก็จะไม่สามารถจะไปแย่งที่
00:12:10 → 00:12:12 หากินได้แล้วถ้ามันปักหลักไม่ได้นะครับ
00:12:12 → 00:12:14 มันก็ไม่สามารถที่จะทะลุเข้ามาแล้วก็เกาะ
00:12:14 → 00:12:16 โลกนะครับหรือว่าสร้างความเจ็บปวดให้กับ
00:12:16 → 00:12:19 ร่างกายของเราได้เราก็อาจจะมองได้นะคะว่า
00:12:19 → 00:12:21 เชื่อประจำถิ่นเหล่านี้นะครับทำหน้าที่
00:12:21 → 00:12:24 เหมือนเป็นทหารรับจ้างนะครับที่มาสายอยู่
00:12:24 → 00:12:25 ในร่างกายของมนุษย์หรืออาจจะพูดได้ว่า
00:12:25 → 00:12:27 เชื้อประจำถิ่นแล้วนี้นะครับพวกเชื้อ
00:12:27 → 00:12:29 แบคทีเรียไวรัสเหล่านี้เนี่ยทำหน้าที่
00:12:29 → 00:12:32 เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบหนึ่งแต่ก็
00:12:32 → 00:12:33 ต้องขออธิบายนิดนึงนะครับว่าเราจะไม่
00:12:33 → 00:12:35 เรียกเชื้อเหล่านี้ว่าเป็นเชื้อดีนะครับ
00:12:35 → 00:12:37 เพราะว่าอะไรเพราะว่าจริงเราเชื่อเหล่า
00:12:37 → 00:12:40 นี้ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่สามารถก่อโรคหรือ
00:12:40 → 00:12:42 ว่าสร้างอันตรายให้กับเรานะครับเพราะถ้า
00:12:42 → 00:12:43 เชื้อเหล่านี้นะครับมันอยู่ผิดที่ผิดเวลา
00:12:43 → 00:12:45 นะครับก็จะสามารถทำให้เราป่วยได้เหมือน
00:12:45 → 00:12:48 กันนะครับยกตัวอย่างนะครับสมุดในหลังโพรง
00:12:48 → 00:12:51 จมูกเราแล้วก็จะมีชื่อไวทยาใส่อยู่นะครับ
00:12:51 → 00:12:53 แต่ถ้าเกิดมีเหตุอะไรคะตามนะครับให้เชื่อ
00:12:53 → 00:12:55 ที่อยู่หลังโพรงจมูกเดี๋ยวมันเกิดหลุดลง
00:12:55 → 00:12:57 ไปนะครับอยู่ในทางเดินหายใจส่วนล่างๆนะ
00:12:57 → 00:13:00 ครับก็คือเช่นไปอยู่ในหลอดลมเล็กนี้นะ
00:13:00 → 00:13:02 ครับในปอดนะครับมันก็สามารถทำให้เกิดภาวะ
00:13:02 → 00:13:04 ปอดอักเสบนะครับหรือว่าปอดบวมได้เหมือน
00:13:04 → 00:13:07 กันหรือว่าเชื้อแบคทีเรียนะครับที่อาศัย
00:13:07 → 00:13:09 อยู่ในลำไส้นะครับซึ่งปกติมันไม่ก่อนโลก
00:13:09 → 00:13:11 นะครับแล้วก็ช่วยร่างกายเราเนี่ยมันเกิด
00:13:11 → 00:13:13 จากภาพกับชมพู่นะครับหรือเข้าไปในกระแส
00:13:13 → 00:13:16 เลือดแล้วก็ไปไหลเวียนในกระแสเลือดจะเป็น
00:13:16 → 00:13:18 เพราะที่เราเรียกว่าเชื้อในกระแสเลือดนะ
00:13:18 → 00:13:20 ครับหรือว่าดูดเข้าไปในท่อปัสสาวะนะครับ
00:13:20 → 00:13:22 มันก็จะมาทำให้เกิดภาวะท่อปัสสาวะติด
00:13:22 → 00:13:25 เชื้อนะครับหรือท่อปัสสาวะอักเสบได้ดัง
00:13:25 → 00:13:27 นั้นโดยธรรมชาติเชื้อเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่า
00:13:27 → 00:13:29 เป็นเชื้อที่ดีนะครับแต่ต้องเรียกว่าเป็น
00:13:29 → 00:13:30 เชื่อที่ถ้ามันอยู่ทุกที่มันก็มีประโยชน์
00:13:30 → 00:13:33 กับเราแต่ถ้ามันไปอยู่ที่อื่นนะครับมันก็
00:13:33 → 00:13:35 ก่อให้เกิดอันตรายได้เหมือนกันหรือบาง
00:13:35 → 00:13:38 ครั้งนะครับถ้ากรณีที่ร่างกายนะครับผมการ
00:13:38 → 00:13:40 ของเราเกิดอ่อนแอลงนะครับไม่ว่าจะจาก
00:13:40 → 00:13:42 สาเหตุใดก็ตามนะครับตัวอย่างเช่นคนติด
00:13:42 → 00:13:44 เชื้อ hiv นะครับแล้วก็ป่วยเป็นโรค S
00:13:44 → 00:13:47 เนี่ยก็จะมีภูมิคุ้มกันอย่าที่อ่อนแอลงนะ
00:13:47 → 00:13:49 ครับชื่อหลายๆเชื้อนะครับหรือจุลินทรีย์
00:13:49 → 00:13:52 ในที่ปกติอยู่ในร่างกายเราแบบที่ไม่ก่อน
00:13:52 → 00:13:54 โลกเนี่ยมันก็สามารถที่ทำให้เราป่วยแล้ว
00:13:54 → 00:13:57 ก็เสียชีวิตได้เหมือนกันแล้วนี้ก็เป็นอีก
00:13:57 → 00:13:59 เหตุผลนึงนะครับว่าทำไมหมอนะครับส่วนใหญ่
00:13:59 → 00:14:02 จะถ้าถามว่าสมมติว่าเราป่วยเป็นโรคหวัดนะ
00:14:02 → 00:14:04 ครับซึ่งกว่าเนี่ยเราก็รู้ว่าเป็นจาก
00:14:04 → 00:14:06 เชื้อไวรัสตัวไหมครับเพราะยาปฏิชีวนะ
00:14:06 → 00:14:08 เนี่ยมันไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัสการกินเนี่ย
00:14:08 → 00:14:11 เขาได้ช่วยอะไรขึ้นมาแต่มันก็จะมีผลเสีย
00:14:11 → 00:14:13 ตรงนี้ได้นะครับเขตผลหนึ่งก็คือว่ายา
00:14:13 → 00:14:15 ปฏิชีวนะเหล่านี้นะครับมันจะไปทำลายเชื้อ
00:14:15 → 00:14:18 จุลินทรีย์ที่ช่วยป้องกันหรือว่าทำหน้า
00:14:18 → 00:14:20 ที่เป็นภูมิโครงการให้กับเรานะครับทำให้
00:14:20 → 00:14:22 เหมือนกับพวกผมกันในหลายวันของเราเนี่ย
00:14:22 → 00:14:25 อ่อนแอลงซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผมพบกันของเรา
00:14:25 → 00:14:27 อ่อนแอลงนะครับเราก็จะมีความเสี่ยงที่จะ
00:14:27 → 00:14:29 ป่วยเป็นโรคติดเชื้อในมากขึ้นและทั้งหมด
00:14:29 → 00:14:32 ที่เราคุยกันมานี้นะครับก็คือการทำงานแบบ
00:14:32 → 00:14:34 คร่าวๆนะครับของภูมิคุ้มกันการที่ 1 นะ
00:14:34 → 00:14:37 ครับซึ่งแน่นอนว่าถ้ากับโฉลกนะครับสามารถ
00:14:37 → 00:14:39 ที่จะผ่านด่านที่ 1 เข้ามาได้มันก็ต้อง
00:14:39 → 00:14:42 ทะลุเนี่ยเข้าไปเจอด่านที่ 2 ในวันที่ 3
00:14:42 → 00:14:44 ซึ่งจะเป็นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
00:14:44 → 00:14:46 ระดับพวกเซลล์นะครับซึ่งเราจะคุยกันต่อใน
00:14:46 → 00:14:49 เอกสอนหน้านะครับฉันเป็นส่วนนี้ผมขอจบไว้
00:14:49 → 00:14:51 สั้นๆเท่านี้นะครับแต่ก็คิดว่าเป็นการปู
00:14:51 → 00:14:53 พื้นนะครับเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ
00:14:53 → 00:14:55 ว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานอย่างไร
00:14:55 → 00:14:58 แล้วในที่สอนหน้านะครับว่าจะมาคุยกันถึง
00:14:58 → 00:15:00 ได้ที่ 2 ด่านที่ 3 นะครับน่ารักสุดท้าย
00:15:00 → 00:15:02 นะครับก็ก่อนที่จะจากกันไปนะครับอย่าลืม
00:15:02 → 00:15:04 นะครับใครยังได้กด Subscribe นะครับแล้ว
00:15:04 → 00:15:07 ก็กดกันอีกก็กดไว้นะครับเวลามีคลิปใหม่จะ
00:15:07 → 00:15:09 ได้มีการแจ้งเตือนให้ทราบนะครับฉบับวัน
00:15:09 → 00:15:11 นี้ผมขอลาไปก่อนนะครับแล้วมันเจอกันใหม่
00:15:11 → 00:15:18 ในคลิปหน้านะครับสวัสดีครับ
00:15:18 → 00:15:22 [เพลง]