00:00:00 → 00:00:02 This Is tha PBS podcast View the
00:00:02 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:07 Voice งูมี 2 กลุ่มกลุ่มมีพิษกับกลุ่ม
00:00:07 → 00:00:10 ไม่มีพิษไงถ้ากลุ่มไม่มีพิษอ่ะโดนกัดไปก็
00:00:10 → 00:00:12 ก็เจ็บอ่ะถ้าถ้าเป็นงูมีพิษก็อาจจะต้อง
00:00:12 → 00:00:16 ระมัดระวังแต่ประเด็นคือถ้าผิวหนังเรียบๆ
00:00:16 → 00:00:20 ไม่มีขนบอกได้เลยเห็นรอยเขี้ยวพอจะเดาได้
00:00:20 → 00:00:22 แต่ของสำหรับของสุนัขกับแมวเป็นสัตว์ที่
00:00:22 → 00:00:28 มีขนโดนกัดที่ขาที่ตัวมันมองไม่เห็นแต่
00:00:28 → 00:00:31 ว่ากรณีพี่หาหมอแล้วคุณหมอต้องพยายามโกน
00:00:31 → 00:00:33 ขนบุเเรณนั้นคือถ้าเกิดว่าเห็นว่ามีรอย
00:00:33 → 00:00:35 เขี้ยวก็พอบอกได้ระดับหนึงว่าเอ๊ะอันนี้
00:00:36 → 00:00:38 งูไม่มีพิษนะหรืองูมีพิษก็จะระมัดระวัง
00:00:38 → 00:00:41 หรือว่าจะเร่งการพาไปหาหมอด่วนหรือไม่
00:00:41 → 00:00:43 ด่วนอะไรประมาณ
00:00:43 → 00:00:47 นี้ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:48 → 00:00:51 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:55 This Is Toy PBS podcast มาค่ะคุณ
00:00:55 → 00:00:58 ผู้ฟังคะติดตามรับฟังรายการของเราวันนี้
00:00:58 → 00:01:00 เป็นเรื่องใกล้ตัวนะคะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
00:01:00 → 00:01:02 ใครที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงนะคะบางทีอาจจะมี
00:01:02 → 00:01:05 พฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานะคะ
00:01:05 → 00:01:08 ความอยากจะอวดความอยากจะหาอะไรมาให้เล่น
00:01:08 → 00:01:11 หรือเปล่าก็ไม่รู้นะไปาบไปไปอะไรมาเยอะ
00:01:11 → 00:01:13 แยะมากมายไอ้ตรงนั้นเี่ไม่เท่าไหร่นะแต่
00:01:13 → 00:01:16 ถ้าเกิดว่าเค้าโดนกัดโดนสิ่งสัตว์มีชีวิต
00:01:16 → 00:01:18 เอ่อสัตว์มีพิษเนี่ยกัดเนี่ยมันเป็น
00:01:18 → 00:01:21 อันตรายจริงๆนะคะทีนี้ถ้าเกิดว่าสัตว์
00:01:21 → 00:01:23 เลี้ยงของเราถูกงูกัดขึ้นมาโอ้โหเดี๋ยว
00:01:23 → 00:01:27 นี้งูมันก็มาอยู่เห็นจากข่าวนะเห็นจาก
00:01:27 → 00:01:28 คลิปบ้างหรืออะไรบ้างเนี่ยก็ค่อนข้างจะ
00:01:29 → 00:01:31 บ่อยอยู่เหมือนกันทำยังไงล่ะทีนี้นะคะ
00:01:31 → 00:01:33 เดี๋ยวพูดคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:01:33 → 00:01:36 สัตวแพทย์ดรรดิ์รุ่งเรืองกิตไกรฝ่าย
00:01:36 → 00:01:39 ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
00:01:39 → 00:01:42 คณะศตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
00:01:42 → 00:01:44 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์โอมขาสวัสดีครับคุณ
00:01:44 → 00:01:46 สุรีพรครับสวัสดีครับคุณผู้ฟังด้วยครับ
00:01:46 → 00:01:51 ค่ะเคยเจอความความที่เขาก็อยากจะให้เรา
00:01:51 → 00:01:54 เหมือนจะอวดด้วยจะอะไรด้วยบางทีแหมอยโงู
00:01:54 → 00:01:57 น้อยๆงี้บ้างล่ะหรือแบบหนูบ้างล่ะหรืออ่ะ
00:01:58 → 00:02:01 หนูจิ้งจกอะไรงี้ใช่มั้ยฮะก็สรรหาเอามา
00:02:01 → 00:02:04 ให้เหลือเกินนะคะแต่บางทีมันก็ไม่ใช่
00:02:04 → 00:02:07 อย่างนั้นดิไอ้าบมาแล้วเนี่ยไอ้ก่อนาบ
00:02:07 → 00:02:10 เนี่ยไปโดนเคฉกมาหรือเปล่าหรืออะไรยังไง
00:02:10 → 00:02:12 หรือเปล่าหรือแม้กระทั่งบางทีเราเห็น
00:02:12 → 00:02:15 เดี๋ยวเนี้ยงูเข้าบ้านคนได้แบบเหมือนเป็น
00:02:15 → 00:02:18 เรื่องปกติเลยอ่ะมีเยอะด้วยโออันนี้ก็น่า
00:02:18 → 00:02:21 กลัวนะคะเพราะฉะนั้นคือในการที่เรามี
00:02:21 → 00:02:26 สัตว์เลี้ยงจะแมวหรือจะสุนัขเออหรืออะไร
00:02:26 → 00:02:28 อย่างเงี้ยหรือสัตว์อื่นๆประเภทอื่นๆ
00:02:28 → 00:02:31 เนี่ยโหเราต้องกังวลเหมือนครับเผื่อมันมี
00:02:31 → 00:02:34 สัตว์มีพิษเข้ามาเงี้เราไม่รู้ครับสัตว์
00:02:34 → 00:02:38 มีพิษต่างๆเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นงูตะขาบ
00:02:38 → 00:02:41 แมงป่องมดอะไรก็พยายามหนีฮะเก็เอาตัวรอด
00:02:41 → 00:02:44 แล้วก็หนีพอหนีมาเสร็จแล้วพอสุนัขแมวเรา
00:02:44 → 00:02:48 สัญชาตญาณผู้ล่าไม่ได้เลยเห็นแล้วต้อง
00:02:48 → 00:02:51 เข้าไปลุยเข้าไปไล่เข่าหรือกัดหรืองับ
00:02:52 → 00:02:54 ต่างๆซึ่งบางทีความเสี่ยงด้วยความที่จะ
00:02:55 → 00:02:57 อาจจะไปเล่นด้วยด้วยความเป็นผู้ล่าด้วย
00:02:57 → 00:03:02 อยากจะอ่าเอาอะไรอ่ะช่วยกันข่มหน่อยนึง
00:03:02 → 00:03:05 อะไรอย่างเงี้ยซึ่งซึไปเจอพลาดพลาดโดนกัด
00:03:05 → 00:03:08 โดนฉกโดนต่อยอะไรมามันก็มีปัญหาได้ค่อน
00:03:08 → 00:03:10 ข้างเยอะแต่อย่างที่คุณสุรีพรบอกอ่ะว่า
00:03:10 → 00:03:13 สไตล์ของเขาอ่ะนะชอบเอามาอวดต้องการจะจับ
00:03:13 → 00:03:16 และเอามาอวดซึ่งถ้าจับได้แล้วเอามาอวด
00:03:16 → 00:03:19 แล้วไม่โดนกัดไม่โดนโดนพิษก็ไม่น่าห่วงก็
00:03:19 → 00:03:22 ไปเนอะใช่แต่ทีนี้ถ้าโดนพิษขึ้นมาก็ลำบาก
00:03:22 → 00:03:25 แต่บางทีเราไม่รู้งูหรือสัตว์มีเ่ออย่าง
00:03:25 → 00:03:27 อย่างถ้าตะขาบหรืออะไรพวกเนี้ยเรารู้ว่า
00:03:27 → 00:03:29 มีพิษเนาะแต่งูบางชนิดก็ไม่ได้มีพิษนะใช่
00:03:30 → 00:03:33 ๆงูงูมีมีมี 2 กลุ่มหลักๆเอาแบบเบสิคเลย
00:03:33 → 00:03:35 คือกลุ่มมีพิษกับกลุ่มไม่มีพิษไงถ้ากลุ่ม
00:03:35 → 00:03:37 ไม่มีพิษอ่ะโดนกัดไปก็ก็เจ็บอ่ะแค่นั้น
00:03:37 → 00:03:40 เองหรือว่าถ้างูใหญ่ๆเป็นงูหลามก็ต้อง
00:03:40 → 00:03:42 ระวังนิดนึงเพราะไม่ได้กัดอย่างเดียวจะ
00:03:42 → 00:03:45 รัดแล้วก็กินเข้าไปเลยเป็นตัวเล็กๆอ่าถ้า
00:03:45 → 00:03:47 เกิดเขาคหิวมากๆอะไลลักษณะแบบเนี้ยทีนี้
00:03:47 → 00:03:49 ถ้าถ้าเป็นงูมีพิษก็อาจจะต้องระมัดระวัง
00:03:49 → 00:03:52 แต่จะบอกว่างูไม่มีพิษเนี่ยถึงแม้ว่าโดน
00:03:52 → 00:03:57 กัดก็มีความสกปรกในในตัวเขี้ยวแล้วก็
00:03:57 → 00:03:59 บริเวณที่อยู่มีความสกปรกก็อาจจะต้องต้อง
00:03:59 → 00:04:02 มีมีการทำความสะอาดแผลแล้วก็มีให้ยา
00:04:02 → 00:04:04 เหมือนกันนะครับไม่ใช่หมายว่างัวไม่พิษ
00:04:04 → 00:04:07 ไม่มีพิษกัดไม่เป็นไรโดนกัดแล้วก็ปล่อย
00:04:07 → 00:04:09 ไม่ไม่ไม่ใช่ถึงขนาดนั้นต้องดูเรื่องความ
00:04:09 → 00:04:12 สะอาดด้วยมันจะเป็นบัพยักฆ์ได้ใช่มั้มี
00:04:12 → 00:04:14 โอกาสคือต้องบอกว่าพื้นดินน่ะสุนัขเป็น
00:04:14 → 00:04:17 สัตว์สุนัขกำแมวเป็นสัตว์ที่คลุกคลีกับ
00:04:17 → 00:04:20 กับพื้นๆดินแล้วก็เป็นเป็นสัตว์ที่ตัวลำ
00:04:20 → 00:04:22 ตัวติดกับพื้นนะฮะเพราะฉะนั้นเวลาที่มี
00:04:22 → 00:04:25 แผลแล้วงูหรือว่าเขี้ยวของสัตว์เหล่านั้น
00:04:25 → 00:04:28 เวลาเวลาที่กัดเราน่ะมันก็กัดสัตว์เลี้ยง
00:04:28 → 00:04:30 ของเราอ่ะมันก็มีความสกปรกมีแบคทีเรียอาจ
00:04:30 → 00:04:33 จะให้เกิดติดเชื้อแบคทีเรียเกิดเป็นหนอง
00:04:33 → 00:04:35 เกิดการอักเสบอะไรต่างๆตามมาได้เพราะ
00:04:35 → 00:04:37 ฉะนั้นถึงได้บอกว่าต้องต้องทำความสะอาด
00:04:38 → 00:04:40 ต้องต้องอคอนเซิร์นเรื่องความสะอาดของแผล
00:04:40 → 00:04:42 ด้วยต้องระวังด้วยนะเพราะว่าคือสุนัขเค้า
00:04:42 → 00:04:46 ไม่รู้หรอกว่านี่คืองูไม่รรู้ว่าเสามีพิษ
00:04:46 → 00:04:48 นะหรืออะไรอย่างเงี้ยรู้แต่ว่าฉันอยากจะ
00:04:48 → 00:04:49 ล่าไอ้นี่มันตัวประหลาดไม่ใช่หน้าไม่
00:04:49 → 00:04:52 เหมือนฉันเพราะเห็นหลายๆคลิปเหมือนกันนะ
00:04:52 → 00:04:54 คะที่บางบ้านเมีกล้องวงจรปิดอย่างเงี้ยมี
00:04:54 → 00:04:57 งูเข้าบ้านอ่ะถ้ามีสุนัขหลายตัวก็ยังพอ
00:04:57 → 00:05:00 ที่จะแบบอ่ะช่วยๆกันได้เป็นสุนัขหมู่หรือ
00:05:00 → 00:05:03 บางทีสุนัขบางตัวก็เป็นนินจาสามารถที่จะ
00:05:03 → 00:05:07 กระโดดโยงหรือหลบหลีกอะไรได้ไม่รู้ว่าไป
00:05:07 → 00:05:10 ฝึกมาหรือเปล่าหรืออะไรแบบแต่บางตัวก็ไม่
00:05:10 → 00:05:12 หลบไม่ทันก็มีหรือแบบโดนสุนัขที่เฟรนลี่
00:05:12 → 00:05:16 อ่ะน่ากลัวเพราะของญาติผมก็มีตัวนึงเป็น
00:05:16 → 00:05:20 โกเด้นรีเวอร์โดนสุนัขโดนงูงูเห่าโหงู
00:05:20 → 00:05:24 เห่าเลยหรอที่ลิ้นเพราะว่าด้วยความที่จะ
00:05:24 → 00:05:27 เข้าไปกัดจะเข้าไปงับไงฮะแล้วก็ฉกแล้วบาง
00:05:27 → 00:05:29 ทีไม่ทันไม่ทันเจ้าของก็ไม่ทันได้ได้เห็น
00:05:29 → 00:05:32 นะครับครับเอาไปหาหมอก็ไม่ทันแล้วเสียชี
00:05:32 → 00:05:34 แล้วตอนก่อนไปก็ยังดีๆอยู่เพราะว่าต้อง
00:05:34 → 00:05:38 บอกว่ายิ่งถ้าเกิดว่างูที่มีพิษโฉกบริเวณ
00:05:38 → 00:05:40 หัวบริเวณหน้าหรือโดนเยื่อเมือกเนี่ยพิษ
00:05:41 → 00:05:44 มันสามารถเดินเข้าสู่ระหัวใจแล้วก็ออก
00:05:44 → 00:05:47 ฤทธิ์ได้ได้ค่อนข้างเร็วอืโอกาสสีชิดจะ
00:05:47 → 00:05:50 ค่อนข้างสูงมากอ่าถ้ากัดจุดอื่นยังพอยัง
00:05:50 → 00:05:54 มีเวลาอยู่บ้างอไกลๆถ้าเกิดกัดตรงขาก็ยัง
00:05:54 → 00:05:57 ยังมีระยะเวลาที่จะโอเคพาไปหาคุณหมอ
00:05:57 → 00:05:59 อันเนี้ยบางทีรู้ช้าด้วยถ้าเกิดรู้เร็วก็
00:05:59 → 00:06:03 เราก็จะแก้ไขได้ทันค่ะนะฮะโอ้โหอันตราย
00:06:03 → 00:06:05 คือแบบก็อย่างที่บอกเลยบางทีตัวเราเองยัง
00:06:05 → 00:06:09 ไม่รู้เลยว่างูอตัวไหนมีพิษอ่าตัวไหนไม่
00:06:09 → 00:06:12 มีพิษคือคือถ้าเป็นคนจริงๆแล้วจะบอกว่า
00:06:12 → 00:06:15 สังเกตเรื่องลักษณะรอยเขี้ยวของงูก็พอจะ
00:06:15 → 00:06:18 บอกได้ว่าเป็นงูมีพิษหรืองูไม่มีพิษเพราะ
00:06:18 → 00:06:22 ว่าถ้างูไม่มีพิษก็จะเป็นรอยฟันอเหมือน
00:06:22 → 00:06:25 กับรอยฟันรอบๆเป็นขอบของขากรรไกรทั้งหมด
00:06:25 → 00:06:29 เลยเป็นซี่ๆๆๆี้ไม่มีเี้ยวเหรอถ้างมูไม่
00:06:29 → 00:06:31 มีพิษจะไม่มีเขี้ยวแต่ถ้างมูที่มีพิษ
00:06:31 → 00:06:34 เนี่ยจะมีเขี้ยวและจะมีต่อมพิษที่อยู่
00:06:34 → 00:06:37 ข้างๆเขี้ยวเวลาที่ฉกมาก็จะปล่อยพิษลงมา
00:06:37 → 00:06:40 ตามรูของเขี้ยวอันนั้นอ๋อก็เลยจะเห็น 2
00:06:40 → 00:06:44 รูหลักๆ 2 ใช่ครับแต่ประเด็นคือถ้าผิว
00:06:44 → 00:06:49 หนังเรียบๆไม่มีขนบอกได้เลยเห็นรอยเขี้ยว
00:06:49 → 00:06:53 พอจะเดาได้แต่ของสำหรับของสุนัขอสุนัขกับ
00:06:53 → 00:06:59 แมวเป็นสัตว์ที่มีขนโดนกัดที่ขาที่ตัวมัน
00:06:59 → 00:07:02 มองไม่เห็นแต่ว่ากรณีไปหาหมอแล้วคุณหมอ
00:07:02 → 00:07:04 ต้องพยายามโกนขนบุเรนั้นเพื่อจะสังเกตดู
00:07:04 → 00:07:07 ว่าอไม่เจ็บหรออืมนั่นแหละฮะต้องต้องต้อง
00:07:07 → 00:07:09 ทำคือคือถ้าเกิดว่าเห็นว่ามีรอยเคี้ยวก็
00:07:09 → 00:07:12 พอบอกได้ระดับนึงว่าเอ๊ะอันนี้งูมีพิษ
00:07:12 → 00:07:15 เนี่ยลงูไม่มีพิษนะหรืองูมีพิษก็จะจะ
00:07:15 → 00:07:18 ระมัดระวังหรือว่าจะเร่งการพาไปหาหมอได้
00:07:18 → 00:07:21 ได้ได้ได้รักด่วนหรือไม่ด่วนอะไรประมาณ
00:07:21 → 00:07:25 นี้แต่ถ้าเกิดว่าอขนเยอะบางทีเราอาจจะไม่
00:07:25 → 00:07:30 เห็นเพราะสังเกตได้ว่าเวลาที่สุนัขและแมว
00:07:30 → 00:07:33 ถูกงูกัดถ้าเกิดว่าเราได้ยินเสียงปกติถ้า
00:07:34 → 00:07:36 เกิดว่าเขาคเห็นเสียงอะไรแปลกๆมาเก็จะเฮา
00:07:36 → 00:07:39 จะคำรามแล้วก็จะจะอถ้าอย่างงั้นน่ะเรา
00:07:39 → 00:07:41 สังเกตได้เราจะออกไปดูได้แต่บางครั้งถ้า
00:07:41 → 00:07:45 เกิดเราไม่เห็นอโดนกัดเข้าไปแล้วเนี่ย
00:07:45 → 00:07:48 สิ่งที่เราจะรู้ได้คือเขาวิ่งๆๆโวยวาย
00:07:48 → 00:07:50 ร้องเองๆวิ่งเข้ามาหาเราแต่ว่าเราก็ไม่
00:07:50 → 00:07:52 รู้ว่าไอ้การร้องของเขานั้นมันเกิดจาก
00:07:52 → 00:07:57 อะไรอืซึ่งซึถ้าเราเห็นสภาพของตัวของ
00:07:57 → 00:08:01 สัตว์ที่กำลังต่อสู้กับกับงูและเราเห็นงู
00:08:01 → 00:08:04 ตัวนั้นว่าเป็นงูอะไรเป็นงูไม่อาจจะไม่
00:08:04 → 00:08:06 ต้องบอกว่าเป็นงูอะไรถ้าเราเห็นตัวว่ามัน
00:08:06 → 00:08:08 เป็นงูแล้วกำลังต่อสู้กันอยู่เนี่ยเรายัง
00:08:08 → 00:08:11 ยังโอเคนะรีบถ่ายรูปหรือว่าแยกสุนัขออกมา
00:08:11 → 00:08:13 จากจากตัวงูเหล่านั้นก่อนแล้วก็ไล่งูไป
00:08:13 → 00:08:16 หรืออาจจะตีอันอันนั้นแล้วแต่แต่ว่าใน
00:08:16 → 00:08:19 กรณีที่ถ้าโดนกัดด้วยแล้วนะแล้วพอเห็นรูป
00:08:19 → 00:08:21 เนี่ยเราพอเห็นว่ามันเป็นเป็นงูเรายัง
00:08:22 → 00:08:25 ถ่ายรูปหรือเก็บซากงูในกรณีที่ทะเลาะกัน
00:08:25 → 00:08:28 ไปแล้วจัดการงูจนตายแต่เราไม่รู้มีบาดแผล
00:08:28 → 00:08:30 หรือเปล่าอหรือว่าโดนกัดหรือเปล่าเราอาจ
00:08:30 → 00:08:33 จะเอาพาสุนัขไปแล้วก็เอางูตานั้นน่ะไป
00:08:33 → 00:08:35 เพื่อให้คุณหมอดูว่ามันเป็นงูกลุ่มไหนมี
00:08:35 → 00:08:38 พิษหรือเปล่าเราจะได้ให้ยาให้ซีรั่มให้
00:08:38 → 00:08:42 เซรุ่มแก้พิษงูได้ตรงกับชชนิดของงูที่เรา
00:08:42 → 00:08:45 ที่ที่ที่กัดสุนัขครับอ๋อคือถ้ามีพิษก็จะ
00:08:45 → 00:08:48 มีเซรุ่มอยู่เซมอ่าเซรุ่มครับใช่แต่ถ้า
00:08:48 → 00:08:51 ไม่มีพิษก็ก็ก็รักษาก็รักษาทำความสะอาด
00:08:51 → 00:08:55 ปกติไปอ๋อไม่แต่ว่าก็อย่างที่อาจารย์บอก
00:08:55 → 00:08:57 ว่ามันมันมีสุนัขเรามีขนแมวมีขนอย่าง
00:08:57 → 00:09:00 เงี้ยรเราจะไปบางทีไม่เห็นเราอาจจะต้อง
00:09:00 → 00:09:04 ช่วยดูด้วยครับกรณีที่คือถ้าเกิดเห็นเค้า
00:09:04 → 00:09:06 กำลังสู้อยู่เนี่ยไม่ไม่ห่วงจะบอกไม่ห่วง
00:09:06 → 00:09:10 ก็ไม่ได้ก็ห่วงเนอะแต่ว่าก็ก็สบายใจระดับ
00:09:10 → 00:09:13 นึงว่าเราสามารถรู้ว่าเป็นเป็นงูและพอจะ
00:09:14 → 00:09:16 มีถ่ายมีการถ่ายรูปเพื่อจะให้คุณหมอดูได้
00:09:16 → 00:09:19 ว่าเป็นงูชนิดไหนแต่ในกรณีที่เขาวิ่งมาหา
00:09:19 → 00:09:23 เราวิ่งออกมาจากที่รกๆวิ่งออกมาจากในในใน
00:09:23 → 00:09:26 ในเอ่ออะไรอ่ะที่กองกองไม้กองอะไรต่างๆ
00:09:26 → 00:09:29 แล้วเข้ามาหาเราเราก็พอจะพอจะเดาได้ว่า
00:09:29 → 00:09:33 อ่ะน่าจะน่าจะมีสัตว์มีพิษหรือมีงูกัอ๋อ
00:09:33 → 00:09:35 เค้าอาจจะเลียตรงตรงจุดที่เขาได้รับบาด
00:09:35 → 00:09:38 เจ็บใช่การเลียของเขาคือการการเหมือนกับ
00:09:38 → 00:09:40 เวลาคนเจ็บอะไรจะพยายามเอามือไปจับไปบีบ
00:09:40 → 00:09:44 ไปคลำซึ่งสุนัขอ่ะก็ใช้วิธีการเลียบริเวณ
00:09:44 → 00:09:47 นั้นเราอาจจะพยายามไปดูพยายามเปิดรูบเลย
00:09:47 → 00:09:50 นะว่าเอ้มันมีรอยเป็นรูๆหรือมีรอยบวมมี
00:09:50 → 00:09:55 แดงของการแพ้สัตว์มีพิษหรือว่ามีรูเห็น
00:09:55 → 00:09:59 แผลอะไรต่างๆหลนี้ก็ก็พอจะจะจะบ่งเป็นไม่
00:09:59 → 00:10:01 ได้ว่าอโอเคเราต้องไปโฟกัสตรงตรงบริเวณ
00:10:01 → 00:10:04 ตรงนั้นนะก็พาไปหาหมอก่อนเลยใช่ครับแต่
00:10:04 → 00:10:06 แต่ที่สำคัญคือถ้าเกิดว่าพาไปหาหมอแล้ว
00:10:06 → 00:10:10 เนี่ยเราควรถ้าเรามีภาพหรือมีซากหรือว่า
00:10:10 → 00:10:12 ชนิดของสัตว์เหล่านั้นเราเอาไปให้หมอดู
00:10:12 → 00:10:14 ด้วยคุณหมอจะได้ช่วยดูว่าเออมันเป็นกลุ่ม
00:10:14 → 00:10:17 ไหนแล้วควรจะต้องให้ยาอะไรอค่ะอ้าแล้ว
00:10:17 → 00:10:20 อย่างงี้คือก่อนจะไปถึงมือหมอทำอะไรก่อน
00:10:20 → 00:10:23 ได้บ้างมั้ยคะสิ่งที่สำคัญทำความสะอาดแผล
00:10:23 → 00:10:26 ทำความสะอาดบริเวณนั้นล้างอาจจะใช้น้ำ
00:10:26 → 00:10:29 เกลือหรือน้ำน้ำถ้าน้ำเกลือเอาน้ำเปล่า
00:10:29 → 00:10:32 เนี่ยแล้วก็แล้วก็เอ่อใช้น้ำสบู่ฟอกตรง
00:10:32 → 00:10:34 นั้นหน่อยนึงค่ะแต่ที่สำคัญคือเมื่อก่อน
00:10:34 → 00:10:37 จะมองว่าทฤษฎีที่เขาคุยกันเมื่อก่อนว่า
00:10:37 → 00:10:41 เวลาที่งูกาดให้ขันชะน้อเอออันนั้นไม่ได้
00:10:41 → 00:10:43 แล้วใช่มั้ยไม่ควรไม่ควรเลยครับอันนั้น
00:10:43 → 00:10:45 เป็นความเชื่อที่ที่เป็นเป็นค่านิยมที่
00:10:45 → 00:10:49 ค่อนข้างผิดบางคนบอกว่าให้โดนงูกัดตรงตรง
00:10:49 → 00:10:52 ขาก็ให้รัดเหนือแผลอ่าใช่ๆมีคนแซวเล่น่ะ
00:10:52 → 00:10:56 ถ้าโดนกัดตรงแก้มให้รัดมัดจุกเฮ้อยัง
00:10:56 → 00:11:00 อุตส่าห์จะเล่นนะฟังเอาเรื่องน่ากลัวเร
00:11:00 → 00:11:03 เรื่อง่เรื่องตลกไปแต่แต่จะบอกว่าไม่
00:11:03 → 00:11:05 จำเป็นต้องอย่าไปขันเชนะเพราะขันเชนะ
00:11:05 → 00:11:07 เนี่ยมันอาจมันทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วน
00:11:07 → 00:11:09 ปลายอวัยวะเหล่านั้นได้ไม่ดีเท่าที่ควร
00:11:09 → 00:11:11 อาจจะทำให้เกิดเนื้อตายได้แต่สิ่งที่
00:11:11 → 00:11:14 สำคัญคือพาไปพบคุณหมออย่างเร็วลดกิจกรรม
00:11:14 → 00:11:17 คือคือต้องบอกว่าทำอะไไม่ไม่งั้นไม่ใช่
00:11:17 → 00:11:19 ว่าให้เขาวิ่งหรืออะไรต่างๆเหล่านั้น
00:11:19 → 00:11:21 เพราะว่ามันจะยิ่งทำให้หัวใจบีบตัวส่ง
00:11:21 → 00:11:24 เลือดไปทั่วร่างกายได้มากขึ้นอ๋อนะครับ
00:11:24 → 00:11:27 ถ้าเกิดเป็นกรณีที่มีพิษแล้วที่อาจารย์
00:11:27 → 00:11:30 บอกว่าล้างแผลด้วยน้ำเกลือเนี่ยเป็นน้ำ
00:11:30 → 00:11:32 เกลือที่เราใช้ในใน
00:11:32 → 00:11:35 พยาบาลครับแต่มันหาไม่ได้ก็น้ำก๊อกนี่
00:11:35 → 00:11:37 แหละครับแล้วก็สบู่ฟอกหน่อยเพื่อล้างสิ่ง
00:11:37 → 00:11:39 สกปรกไปไม่ได้หมายความว่าจะรักษาเรื่อง
00:11:39 → 00:11:42 พิษงูอะไรเลยนะแต่ว่าเอาสิ่งสกปรกที่มัน
00:11:42 → 00:11:44 อยู่รอบๆแผลออกไปก่อนเบื้องต้นนะครับแล้ว
00:11:44 → 00:11:47 รีบพาไปหาคุณหมอเลยอย่าลืมเรื่องรูปนะ
00:11:47 → 00:11:50 ครับภาพของงูภาพของสัตว์เหล่านั้นหรือถ้า
00:11:50 → 00:11:54 มีซากให้เอาซากใส่ไปด้วยเลยคุณหมอคุณหมอ
00:11:54 → 00:11:56 ก็คุณหมอทุกคนไม่ได้รู้เรื่องเรื่องงูแต่
00:11:56 → 00:12:00 คุณหมอทุกคนมีเครือข่ายที่จะตรวจสอบได้
00:12:00 → 00:12:03 ว่างูอันนี้เป็นงูอะไรอือนะครับคุณหมอจะ
00:12:03 → 00:12:07 บอกได้เพราะว่างูพิษมีหลายชนิดต้องเรียน
00:12:07 → 00:12:09 เลยว่างูพิษมีหลายชนิดแล้วแต่ละชนิดก็
00:12:09 → 00:12:13 รักษาไม่เหมือนกันค่ะมีพิษออกเอ่อที่ออก
00:12:13 → 00:12:15 ฤทธิ์ต่อระบบต่างๆของร่างกายที่มีความแตก
00:12:15 → 00:12:21 ต่างกันนะครับบางชนิดมีพิษต่อระบบเลือด
00:12:21 → 00:12:23 ระบบเลือดได้แก่พวกงูเขียวหางไหม้เห็นม
00:12:23 → 00:12:25 บางคนมองว่าไม่รู้ว่างูเขียวหางไหม้นิด
00:12:25 → 00:12:28 เดียวนิดเดียวไม่เป็นไรแต่จริงๆงูเขียว
00:12:28 → 00:12:31 หางไหม้เป็นงูพิษที่มีผลต่อระบบเลือดทำ
00:12:31 → 00:12:33 ให้เลือดไม่แข็งตัวตัวเขียวๆใช่มั้คะใช่
00:12:33 → 00:12:36 ครับเขียวๆแลหางตรงปลายหางเป็นสีเข้มๆน้ำ
00:12:36 → 00:12:39 ตาลเข้มๆตัวไม่ยาวมากเออไม่ใหญ่ไม่ได้ตัว
00:12:39 → 00:12:42 อ้วนแต่แบบยาวๆเล็กๆเรียวๆใหญ่มากใช่ครับ
00:12:42 → 00:12:45 งูกะปะงูแมวเซาไอ้พวกเยเป็นตัวที่มีขนาด
00:12:45 → 00:12:47 ใหญ่เพราะถ้ากัดไปแล้วเนี่ยพิษมันสูงคือ
00:12:47 → 00:12:51 ต้องบอกว่างูเขียวหางไหม้เนี่ยเป็นงูพิษ
00:12:51 → 00:12:54 แต่ว่าบางหลายๆลายเนี่ยโดนกัดแล้วไม่เป็น
00:12:54 → 00:12:57 ไรเพราะว่าพิษมันไม่มากออแต่ถ้าเจอตัว
00:12:57 → 00:13:00 ใหญ่ๆแล้วพิษมากๆก็มีโอกาสมีปัญหาได้แต่
00:13:00 → 00:13:02 ทั้งหมดเนี่ยทั้ง 3 ตัวเยเป็นสัตว์เป็น
00:13:02 → 00:13:06 เป็นงูที่มีพิษของงูเนี่ยมีผลต่อระบบ
00:13:06 → 00:13:10 เลือดนะครับอันที่ 1 อกลุ่มที่ 2 คือ
00:13:10 → 00:13:14 กลุ่มงูที่มีพิษต่อระบบประสาทระบบประสาท
00:13:14 → 00:13:18 ที่พูดถึงเช่นกลุ่มของงูเห่างูจงอางงูสาม
00:13:18 → 00:13:21 เหลี่ยมงูต่างๆเหล่าเนี้ยถึงบอกว่าจะเห็น
00:13:21 → 00:13:24 ในหนังในละครเวลาถูกงูกัดซึ่งส่วนใหญ่
00:13:24 → 00:13:26 แล้วเป็นงูเห่างูจงอาทั้งนั้นเลยในละคร
00:13:26 → 00:13:29 ที่เอามาโชว์ให้ดูค่ะแล้วพอถูกกัดเสร็จ
00:13:29 → 00:13:33 แล้วก็จะรู้สึกสลึมสะรือจะหลับอืจะนอน
00:13:33 → 00:13:35 อะไรอย่างเงี้ยดังนั้นเจะพยายามพยายาม
00:13:35 → 00:13:37 ปลุกว่าอย่าหลับนะอย่าหลับนะอันอันนี้ใน
00:13:37 → 00:13:39 หนังที่เที่ที่เคพูดสังเกตมั้ยสังเกตมั้
00:13:39 → 00:13:41 อย่าหลับนะอย่าเอ้ยตื่นก่อนนะอะไรอย่าง
00:13:41 → 00:13:43 เงี้ยก็คือพยายามให้รู้สติอยู่ตลอดเพราะ
00:13:43 → 00:13:46 มีผลต่อระบบประสาทโอ้โหแล้วจะฝืนยังไงไหว
00:13:46 → 00:13:49 อืไม่จะจะบอกว่าอันนั้นอันนั้นคือเป็น
00:13:49 → 00:13:51 เป็นในละครแต่จริงๆในในสภาพจริงๆแล้ว
00:13:51 → 00:13:54 เนี่ยถ้ารู้ว่าเป็นงูเห่าหรืองูจงอางหรือ
00:13:54 → 00:13:57 งูสามเหลี่ยมกัดเนี่ยรีบพาไปพบคุณหมอเลย
00:13:57 → 00:13:59 หลับอะไรคงไม่ไม่ไม่ไม่เป็นอะไรเพียงแต่
00:13:59 → 00:14:02 ว่าแค่ว่ามันจะมีผลต่อระบบประสาทมันจะ
00:14:02 → 00:14:05 กล่อมประสาททำกล่อมมีมีมีผลต่อระบบประสาท
00:14:05 → 00:14:07 แล้วก็ทำให้แบบว่าสะรึมสะรือแล้วก็จะสีย
00:14:07 → 00:14:10 ชื่อไปในที่สุดอนะครับต้องได้รับซีรุ่ม
00:14:10 → 00:14:12 อย่างทันท่วงทีเลยโอคำว่าทันท่วงทีไม่รู้
00:14:12 → 00:14:14 ว่าคือภายในกี่นาทีอีกต้องรู้ด้วยว่าเป็น
00:14:14 → 00:14:18 งูชนิดไหนคือบางทีตำแหน่งที่กัดแล้วก็
00:14:18 → 00:14:20 ปริมาณพิษที่อยู่ในร่างกายแล้วก็การ
00:14:20 → 00:14:23 กระจายไปยังสมองไปยังระไปยังหัวใจเนี่ย
00:14:23 → 00:14:26 มันมันมันอาจจะอาจจะมีความแตกต่างกันไง
00:14:26 → 00:14:29 อื้อหือนะครับกลุ่มที่ 3 มี 3 กลุ่มนะ
00:14:29 → 00:14:31 ครับ 3 ก็คือกลุ่มมีพิษที่ที่มีพิษต่อ
00:14:31 → 00:14:34 กล้ามเนื้อส่วนใหญ่เป็นงูทะเลจะสังเกตว่า
00:14:34 → 00:14:38 โดนงูทะเลเนี่ยพอโดนงูงูในทะเลกัดปุ๊บ
00:14:38 → 00:14:40 เนี่ยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตเนื่องจากมีพิษ
00:14:40 → 00:14:43 ต่อกล้ามเนื้อและว่ายน้ำไม่ได้แลจมน้ำอ๋อ
00:14:43 → 00:14:46 ก็จะมีอันนี้ก็จะมีสีสันสดใสเหลือเกินจะ
00:14:46 → 00:14:48 เห็นค่อนข้างชัดเลยแต่ว่าจะอยู่แตกต่าง
00:14:48 → 00:14:50 จากอันอื่นเพราะฉะนั้นเนี่ยตัวหลักๆที่
00:14:50 → 00:14:52 เจอคือกลุ่มที่มีผลต่อระบบเลือดกับระบบ
00:14:52 → 00:14:58 ประสาททีนี้เซรุ่มที่แก้พิษงูก็ต้องต้อง
00:14:58 → 00:15:01 เรียนว่าว่าพิษงูแต่ละชนิดก็ต้องใช้ซุ่ม
00:15:01 → 00:15:05 แต่ละกลุ่มอืนะครับไม่ไม่เหมือนกันแต่
00:15:05 → 00:15:08 ปัจจุบันเนี่ยมันมีพิษงูแบบชนิดรวมแต่ว่า
00:15:08 → 00:15:11 ราคาเค่อนข้างแพงแล้วก็อาจจะได้ผลได้ไม่
00:15:11 → 00:15:14 ไม่ไม่ไม่ค่อยสมบูรณ์เต็มที่เท่ากับกับ
00:15:14 → 00:15:17 ตัวที่เฉพาะเจาะโจงไปดังนั้นเนี่ยชนิดของ
00:15:17 → 00:15:23 งูที่เราเห็นที่สุนัขตัวนั้นถูกกัดนะครับ
00:15:23 → 00:15:26 มันจะเป็นตัวที่ทำให้เราทราบได้ว่าเราควร
00:15:26 → 00:15:29 จะใช้ซุ่มแบบไหนและต้องบอกว่าโรงพยาบาล
00:15:29 → 00:15:32 แต่ละชนิดแต่ละที่ก็มีสต๊อกที่ไม่เหมือน
00:15:32 → 00:15:35 กันไม่เทไม่เท่ากันถ้าเป็นคลินิกเล็กๆก็
00:15:35 → 00:15:38 อาจจะไม่มีอแล้วเพราะว่าเนื่องจากว่าเวลา
00:15:38 → 00:15:40 มันเก็บเนี่ยมันเก็บได้ไม่ได้นานอยู่แล้ว
00:15:40 → 00:15:43 ไงฮะเพราะว่าล็อตของการผลิตในแต่ละอันมัน
00:15:43 → 00:15:47 ไม่ได้เก็บได้แบบโอหแบบยาวนานเพราะฉะนั้น
00:15:47 → 00:15:51 เอ่อแต่ละคือคือประเด็นคือที่ที่สภากาชาต
00:15:51 → 00:15:54 อ่ะมีคือมีค่อนข้างโอเคอยู่แล้วแต่ว่า
00:15:54 → 00:15:56 คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้านอาจจะมี
00:15:56 → 00:15:59 ได้ไม่ไม่ได้ครบหรือว่าไม่ได้ได้ไม่ได้มี
00:15:59 → 00:16:01 ปริมาณเพียงพอเพราะว่าในเซรุ่มที่ให้ใน
00:16:01 → 00:16:04 แต่ละตัวเนี่ยไม่ใช่ว่าโอเคหมาตัวนึงให้
00:16:04 → 00:16:07 เท่านี้แล้วก็จบเลยขึ้นกับน้ำหนักตัวด้วย
00:16:07 → 00:16:10 สุนัขพันธุ์ใหญ่ก็ต้องใช้ปริมาณยามากขึ้น
00:16:10 → 00:16:12 อค่ะ
00:16:12 → 00:16:15 อืมแล้วสต๊อกของโรงพยาบาลเหล่านั้นอาจจะ
00:16:15 → 00:16:18 ไม่ได้มีเยอะแล้วถ้าเกิดว่าเรารอของสภา
00:16:18 → 00:16:21 กาชาตส่งมาโมโหมันจะทันหรอคอาจารยนัสิฮะ
00:16:21 → 00:16:23 ถึงต้องบอกว่าเธอพอพอมีปัญหาเรื่องงูปุ๊บ
00:16:24 → 00:16:26 เนี่ยพอรู้ว่างูกัดปุ๊บแล้วก็ทราบเป็นงู
00:16:26 → 00:16:28 ไหนเนี่ยรีบพาไปคลินิกไปโรงพยาบาลแล้วรง
00:16:28 → 00:16:31 พยาบาลก็อาจจะต้องประสานต่อแต่ว่าต้อง
00:16:31 → 00:16:34 ต้องต้องพยายามไปถึงมือหมอให้เร็วที่สุด
00:16:34 → 00:16:37 อืครับเาจะมีเครือขายกันนะครับว่าเอออาจ
00:16:37 → 00:16:39 จะโทรเช็คว่าโรงพิมาณนั้นมีมยหรือถ้าไม่
00:16:39 → 00:16:42 มีถ้าถ้ามีเนี่ยอาจจะส่งต่อไปที่นั่นหรือ
00:16:42 → 00:16:45 จะต้องให้คนไปไปมีการหยิบยืมกันมาก่อน
00:16:45 → 00:16:48 เพราะว่าอันนี้มันไม่ใช่ยาปฏิชนะที่มี
00:16:48 → 00:16:50 อยู่ทั่วไปแล้วมีปริมาณมากๆมีสต๊อกอยู่
00:16:50 → 00:16:54 ตามตามคลินิกต่างๆเยอะไงฮะมันเป็นเป็น
00:16:55 → 00:16:57 ส่วนที่แบบ exceptional Case ที่ว่าเออ
00:16:57 → 00:17:00 มี extra เอาไว้เพื่อบางกรณีแต่ว่าก็จะ
00:17:00 → 00:17:02 ไม่ไม่ได้มีเยอะอยู่แล้วอาจจะแบบว่าในบาง
00:17:02 → 00:17:06 พื้นที่มีงูชนิดนี้เยอะแล้วก็อาจจะสต๊อก
00:17:06 → 00:17:09 แบบเ่ออาจจะมีไว้เผื่อไว้แต่อาจจะไม่ได้
00:17:09 → 00:17:12 มากอะไรขนาดนั้นเอ้ยใช้ของคนได้มั้ยคะมัน
00:17:12 → 00:17:13 อันเดียวกันเป็นกลุ่มเดียวกันลครับเป็น
00:17:13 → 00:17:16 กลุ่มเดียวกันเพราะว่าในการรีดพิษงูนี่
00:17:16 → 00:17:20 โอหไม่ได้ออกมาเยอะๆเต็มกระปุกนะรีดทีนึง
00:17:20 → 00:17:24 นี่งยนิดเดียวเองอ่ะคือเซรุ่มเนี่ยมันคือ
00:17:24 → 00:17:27 การที่เอาพิษเอาพิษของสัตว์เหล่านั้นหรือ
00:17:27 → 00:17:30 เอาความเป็นอพิของเชื้อเหล่านั้นเนี่ยฉีด
00:17:30 → 00:17:33 เข้าไปในตัวสัตว์เอ้ยเคไม่ได้ไปทำอะไร
00:17:33 → 00:17:35 ก่อนหรอคะใช่ครับเขาจะฉีดเข้าไปในตัว
00:17:35 → 00:17:38 สัตว์อย่างเช่นบางทีการทำวัคซีนอะไรต่างๆ
00:17:38 → 00:17:40 ก็จะคล้ายๆกันคือเอาพิษเอาเชื้อเรานะฉีด
00:17:40 → 00:17:43 เข้าไปอย่างเช่นในม้าเชฉีดเข้าไปในม้านิด
00:17:43 → 00:17:46 ๆนึงคือไม่ได้ทำให้ม้าเสียชีวิตแล้วม้าก็
00:17:46 → 00:17:48 จะมีมีภูมิที่จะต่อต้านกับเชื้อเหล่านั้น
00:17:48 → 00:17:51 แล้วก็ต้องเก็บซีรั่มเหล่านั้นมาซีรั่ม
00:17:51 → 00:17:53 คือน้ำเลือดที่อยู่ในเลือดนั้นน่ะเก็บ
00:17:53 → 00:17:57 เลือดมาแล้วก็เอาซีรั่มที่มามีมีมีภูมิ
00:17:57 → 00:18:01 ควนเอ่อมีมีตัวที่ต่อต้านมีแอนติบอดี้ที่
00:18:01 → 00:18:05 ต่อต้านกับเชื้อของพิษเหล่านั้นแล้วก็เอา
00:18:05 → 00:18:08 มาผ่านขั้นตอนผ่านกระบวนการจนกระทั่งเก็บ
00:18:08 → 00:18:11 มาเป็นซีรั่มที่พูดเซรุ่มที่พูดถึงคือก็
00:18:11 → 00:18:14 คือน้ำเลือดของของของของม้าของสัตว์เหล่า
00:18:14 → 00:18:16 นั้นเพื่อเพื่อที่จะเอามาเอามาใช้เพื่อ
00:18:17 → 00:18:20 ต่อต้านกับไอ้พิษของงูหรือว่าพิษของโรค
00:18:20 → 00:18:24 ต่างๆอ๋อแสดงว่าม้าเนี่ยมีมีตัวอ่าที่
00:18:24 → 00:18:27 สามารถต่อต้านส่วนใหญ่จะใช้ม้าเพราะเป็น
00:18:27 → 00:18:30 สัตว์ที่มีขนาดใหญ่แล้วก็ชแต่ว่าไม่ได้
00:18:30 → 00:18:32 ใช้ให้พิษแบบไปเยอะนะให้เยอะไปม้าก็ตายนะ
00:18:32 → 00:18:36 ถ้าม้าโดนหุขัดก็ตายออไม่ใช้ช้างเลยคะ
00:18:36 → 00:18:40 อาจารย์เจาะยากแล้วหายากด้วยหาๆปริมาณของ
00:18:40 → 00:18:43 มีมีน้อยด้วยแต่ม้าเนี่มีค่อนข้างเยอะอ
00:18:43 → 00:18:45 เออแต่ม้าก็แข็งแรงนะกล้ามนงกล้ามเนื้อ
00:18:45 → 00:18:48 อะไรเาเจาะไปก็คือเจอเนื้อของเแล้วแหละอ
00:18:48 → 00:18:51 ไม่ได้แบบเจะฉีเข้าเข้าเข้าคือเขาต้อง
00:18:51 → 00:18:56 ต้องมีการเก็บเลือดอืเก็บเลือดจากจากจาก
00:18:56 → 00:18:58 สัตว์ที่หลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว
00:18:58 → 00:19:00 แล้วแล้วก็มีการสร้างภูมิคุ้มกันแล้วแล้ว
00:19:00 → 00:19:03 ก็เอาเลือดเหล่านั้นน่ะมาใช้ตัวน้ำเลือด
00:19:03 → 00:19:06 แต่ก็ต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการเยอะพอสม
00:19:06 → 00:19:10 ควรจะมีศูนย์วัคซีนศูนย์ซีรั่มที่ทำทำแอน
00:19:10 → 00:19:12 ไอ้ภูมิคุ้มกันอะไรต่างๆเหล่าเที่เขาเขา
00:19:12 → 00:19:16 จะทำเป็นเป็นรูทีนอยู่แล้วแต่ว่าปริมาณ
00:19:16 → 00:19:18 แล้วก็การกระจายไปในเชิงที่เอาไปใช้นี่
00:19:18 → 00:19:21 มันอาจจะต้องต้องคอยพิจารณาด้วยว่าเยอะ
00:19:21 → 00:19:24 ขนาดไหนแสดงว่าม้าตัวนั้นอาจจะได้รับพิษ
00:19:24 → 00:19:28 งูจะเป็นชนิดแบบเ่องูเขี่ยวหางไหม้งูเห่า
00:19:28 → 00:19:31 ก็ได้หมดเมีภูมิคุ้มกันงูทุกชนิดเลยเหรอ
00:19:31 → 00:19:34 คะอ่าใช่ครับคือคือจะบอกว่าสัตว์ทดลอง
00:19:34 → 00:19:36 เหล่านั้นน่ะเป็นสัตว์ที่เป็นเป็นต้อง
00:19:36 → 00:19:38 ต้องขอบคุณสัตว์ทดลองเหล่านั้นต้องคือ
00:19:38 → 00:19:40 เวลาสอนหนังสือก็จะพยายามเน้นให้เห็นนะ
00:19:40 → 00:19:43 ว่าสัตว์ทดลองทุกชนิดน่ะเป็นเหมือนครู
00:19:43 → 00:19:46 เป็นเหมือนสิ่งที่มาช่วยทำให้ทำให้การ
00:19:46 → 00:19:48 เรียนสัตวแพทย์การเรียนแพทย์เนี่ยประสบ
00:19:48 → 00:19:50 ความสำเร็จสัตว์ทดลองที่พูดถึงไม่ว่าไม่
00:19:50 → 00:19:55 ใช่แค่หนูไม่ใช่แค่สุนัขไม่ใช่แค่แมวแพะ
00:19:55 → 00:20:00 แกะม้าทุกอย่างที่ที่เอ่อเราไปฝึกเพื่อ
00:20:00 → 00:20:04 เพื่อการการการมีทักษะเพื่อให้มีทักษะใน
00:20:04 → 00:20:07 การเป็นคุณหมอไม่ว่าจะเป็นหมอคนหรือว่า
00:20:07 → 00:20:10 เป็นทเป็นสัตวแพทย์เนี่ยที่ดีเนี่ยเราก็
00:20:10 → 00:20:13 ต้องต้องอาศัยท่าคนอาศัยสัตว์เหล่านั้น
00:20:13 → 00:20:16 เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดว่าโอโหไปกราบ
00:20:16 → 00:20:19 เหมือนกับของคนของคนเนี่ยอาจารย์ใหญ่ที่
00:20:19 → 00:20:21 ต้องมีการทำพิธีไหว้อะไรอย่าเป็นเป็นจริง
00:20:21 → 00:20:22 เป็นจังเลยแต่ว่าของสัตว์เนี่ยเราอาจจะ
00:20:23 → 00:20:24 ไม่ต้องถึงขนาดนั้นเพียงแต่ว่าก็ต้องสอน
00:20:24 → 00:20:26 ให้เขาให้ให้ให้นิสิตสัตวแพทย์เนี่ย
00:20:26 → 00:20:30 คอนเซิร์นตลอดว่าสิ่งเหล่านี้แหละเป็นครู
00:20:30 → 00:20:33 เราอย่างนึงค่ะเพื่อที่ถ้าเราไม่มีเค้า
00:20:33 → 00:20:35 เราก็เรียนจบไม่ได้เราก็จะไม่มีสกิลไม่มี
00:20:35 → 00:20:39 ทักษะในการรักษาอะไรต่างๆแต่ว่าของของสา
00:20:39 → 00:20:41 แพทย์เนี่ยไม่ว่าจะเป็นเป็นสุนัขแมวที่มา
00:20:41 → 00:20:43 บริจาคร่างกายอันนี้โยงเข้าไปเรื่องนั้น
00:20:43 → 00:20:46 เลยว่าเราก็จะมีการทำบุญให้กษัตริ์ทดลอง
00:20:46 → 00:20:49 เป็นประจำทุกปีอ๋อทางพุทธศาสนาครับโอแล้ว
00:20:49 → 00:20:51 อย่างงี้คือม้าตัวนึงนี่โดนหลายพิษมากเลย
00:20:51 → 00:20:54 นะเาก็แล้วก็คือตัวนึงคือหมายความว่าได้
00:20:54 → 00:20:56 กี่ครั้งหรืออะไรงี้มั้ยคะหรือว่าเอออัน
00:20:56 → 00:20:58 นั้นเป็นขั้นตอนของของของของเาซึ่งซึ่ง
00:20:58 → 00:21:02 ปกติแล้วอ่ะเวลาทำนจะไม่เราจะไม่มาทำแต่
00:21:02 → 00:21:05 ละแต่ละพิษลงในในในในตัวตัวเดียวกันอยู่
00:21:05 → 00:21:09 แล้วอบเราก็ต้องทยอยทยอยเพราะว่าโหมันมัน
00:21:09 → 00:21:12 คือการใส่พิษเข้าไปในร่างกายอ่ะนะครับอัน
00:21:12 → 00:21:14 นี้อันนี้ทดลองนะคะคือไม่ได้มามาทรมาน
00:21:14 → 00:21:16 สัตว์หรืออะไรนะมันคือมันก็เพื่อประโยชน์
00:21:16 → 00:21:19 ในทางการแพทย์ในการผลิตเซรุ่มมาป้องกัน
00:21:20 → 00:21:23 พิษงูคืออยู่ๆจะเอาพิษงูเพราะตอนแรกเเข้า
00:21:23 → 00:21:26 ใจว่าเอาพิษงูแล้วก็อาจจะไปผ่านกระบวนการ
00:21:26 → 00:21:29 ที่ใส่สารเคมี
00:21:29 → 00:21:32 แล้วก็มาตมางพใช่มแต่ไม่ได้คิดว่าเออมัน
00:21:32 → 00:21:34 ขั้นตอนมีมีความยุ่งยากแล้วก็มีความซับ
00:21:34 → 00:21:37 ซ้อนแล้วก็ต้องอาศัยเรื่องเรื่องเรื่อง
00:21:37 → 00:21:42 เอ่อความสะอาดเรื่องอะไรต่างๆเยอะมากอโอ
00:21:42 → 00:21:45 รู้สึกรักม้าขึ้นมาเลยเคืออย่างๆอย่าง
00:21:45 → 00:21:48 วัคซีนป้องกันพิสุนัขบ้าเนี่ยอย่างในคน
00:21:48 → 00:21:52 ที่ใช้ในคนก็จะมีหลายแบบนะมีไอ้ตัวซุ่ม
00:21:52 → 00:21:55 เอ่อเซรั่มที่ที่รักษาแอนติแอนติบอดี้ที่
00:21:55 → 00:21:58 ที่ฉีดกรณีโดนโดนสุนัขบ้ากัดเนี่ยอืที่
00:21:58 → 00:22:03 ฉีดไปก็จะมีตัวที่ทำจากม้าทำจากเอ่อลิงอ
00:22:03 → 00:22:06 แล้วก็ทำจากคนโดยตรงซึ่งราคาก็จะมีความ
00:22:06 → 00:22:09 แตกต่างกันอันนี้จะึงบอกว่าคนที่มาเอ่อ
00:22:09 → 00:22:12 สิ่งที่มาเป็นสัตว์ทดลองที่ตัวผลิตวัคซีน
00:22:12 → 00:22:16 ผลิตเซรั่มผลิตต่างๆเหล่าเอิมูกิเนี่ยมี
00:22:16 → 00:22:19 มีความแตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องขั้นตอน
00:22:19 → 00:22:22 อะไรต่างๆซึ่งหัวละเอียดค่อนข้างมากเลย
00:22:22 → 00:22:25 อ๋อก็ไม่แปลกใจว่าทำไมมันมีจำนวนจำกัด
00:22:25 → 00:22:26 ครับผมไม่ใช่ว่าอยู่ๆฉันเห็นม้าตัวไหนฉัน
00:22:26 → 00:22:28 ก็ไปฉีดใส่
00:22:28 → 00:22:31 มันไม่ได้นะคือมาก็ต้องอยู่ในการดูแลเป็น
00:22:31 → 00:22:33 พิเศษอยู่ในอเรียคือไม่ใช่ว่าอยู่ทั่วไป
00:22:33 → 00:22:37 ใชครับต้องมีขั้นตอนทางจริยธรรมในการใน
00:22:37 → 00:22:41 การผลิตในการทำต่างๆนขสที่เดีเลยพใช่ๆอื
00:22:41 → 00:22:43 เพราะว่าบางทีบางสาตทดลองเนี่ยเกิดมันมี
00:22:43 → 00:22:47 อะไรที่มันผิดปกติไปหรือได้อะไรมันผิด
00:22:47 → 00:22:49 ปกติเหมือนแล้วก็เกิดโรคระบาดอะไรขึ้นมา
00:22:49 → 00:22:52 ก็อาจจะเป็นไปได้อีกเหมือนกันเพราะซึ่ง
00:22:52 → 00:22:54 กระบวนการใช่กระบวนการเหล่าเนี้ยทำมาใน
00:22:54 → 00:22:58 สัตว์ตั้งแต่สัตว์ขนาดเล็กๆอือๆตั้งแต่
00:22:58 → 00:23:01 หนูหนูเมาสหนูแลดมีการปรับคือกระต่ายอะไร
00:23:01 → 00:23:03 ต่างๆเหล่านี้มีมีมีค่อนข้างค่อนข้างเยอะ
00:23:03 → 00:23:06 เลยแหละสัทดลองถึงบอกว่าถึงจะพชบอกว่าสทด
00:23:06 → 00:23:10 ลองเนี่ยเป็นสิ่งที่ที่มีมีคุณูปการต่อวง
00:23:10 → 00:23:14 การการแพทย์มากเพต้องไม่ได้เคเหล่านั้นก็
00:23:14 → 00:23:16 ไม่ได้เราก็ทำอะไรไม่ได้แต่จะบอกว่าทุก
00:23:16 → 00:23:19 ขั้นตอนของการวิจัยการทำงานต่างๆมันต้อง
00:23:19 → 00:23:22 ผ่านขั้นตอนของจริยธรรมค่ะในการผลิตในการ
00:23:22 → 00:23:26 ทำโอไม่ง่ายเลยเนาะว่ากว่าจะได้มาแต่ละ
00:23:26 → 00:23:30 อ่ะอย่างวัคซีนเอยอย่างเซรุมเอยที่เรารู้
00:23:30 → 00:23:33 นะคะกับสัตว์มีพิษต่างๆเหล่านี้เนี่ยมัน
00:23:33 → 00:23:35 มันก็เลยไม่สามารถที่จะมีอยู่โดยทั่วไป
00:23:35 → 00:23:37 ยิ่งถ้าเกิดมีอะไรใหม่ๆโรคใหม่ๆเข้ามา
00:23:37 → 00:23:41 อย่างที่เราก็ผ่านมาเนี่ยนะก็ต้องเอามาทด
00:23:41 → 00:23:45 ลองใช่มยคะใช่มั้ยคะแบบเอาเชื้อมาฉีดใส่
00:23:45 → 00:23:48 เราเพื่อให้เราสร้างภูมิต้าทาร์เลยเอ้ย
00:23:48 → 00:23:50 มันเป็นกระบวนการที่แบบใชนี่แหละกลไกการ
00:23:50 → 00:23:53 การรักษาโรคการป้องกันตัวเองเลยครับแต่จะ
00:23:53 → 00:23:55 บอกเรื่องงูเนี่ยสุดท้ายเลยคืออยากจะฝาก
00:23:55 → 00:23:57 ไว้เลยว่าสิ่งที่สำคัญคืองูก็ชอบอยู่ใน
00:23:57 → 00:24:01 ที่นิ่งๆที่เงียบๆดังนั้นที่รกๆเนี่ยทั้ง
00:24:01 → 00:24:04 นั้นบริเวณบ้านน่ะรอบๆบ้านเราเนี่ยถ้าเรา
00:24:04 → 00:24:08 กำจัดให้มีความเรียบร้อยไม่เป็นเอ่อที่
00:24:08 → 00:24:11 ที่ที่ที่ชื้นๆมืดๆแล้วที่จะเป็นเป็นส่วน
00:24:11 → 00:24:14 ที่งูหรือว่าสัตว์มีพิษสามารถเข้าไปอยู่
00:24:14 → 00:24:16 ได้ถ้าเรากำจัดทำบริเวณนั้นให้สะอาดความ
00:24:16 → 00:24:20 เสี่ยงของการที่จะเจองูต่างๆมันก็จะจะจะ
00:24:20 → 00:24:22 ลดน้อยลงอืนะครับถ้าเราป้องกันตรงนี้ได้
00:24:23 → 00:24:25 เพราะบางทีเรากันสุนัขเราไม่ได้กันแมวเรา
00:24:25 → 00:24:28 ไม่ได้เพราะแมวเราเป็นคนขี้เล่นเป็นสเป็น
00:24:28 → 00:24:30 ตัวที่เห็นอะไรมีความเป็นผู้ล่าต้องไล่
00:24:30 → 00:24:33 อะไอยู่แล้วแต่ถ้าเรากำจัดเราป้องกันไม่
00:24:33 → 00:24:35 ให้สิ่งเหล่านั้นเข้ามาบริเวณบ้านเรามัน
00:24:35 → 00:24:37 ก็จะเป็นตัวที่ป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยง
00:24:37 → 00:24:41 ของเราได้รับการทำร้ายจากสัตว์มีพิษเหล่า
00:24:41 → 00:24:43 นั้นได้ครับค่ะมันมาได้ทุกทิศทุกทางนะคะ
00:24:43 → 00:24:47 ตามท่อโผล่มาบนชโลกก็ได้ตงด้วน่ากลัวจริง
00:24:47 → 00:24:50 ๆอ่ะวันนี้ได้ความรู้เยอะเลยนะคะคุณผู้
00:24:50 → 00:24:52 ฟังแล้วก็น่าสนใจมากเราก็จะได้ระมัดระวัง
00:24:52 → 00:24:54 สัตว์เลี้ยงของเรานะคะป้องกันการถูกงูกัด
00:24:54 → 00:24:56 ที่เดี๋ยวนี้ก็โอ้โหสรหามาบ้านคนเพราะว่า
00:24:56 → 00:24:59 เราก็ไปลุกที่เนั่นแหละนะคะมากขึ้นนั่น
00:24:59 → 00:25:01 เองขอบคุณอาจารย์โอมค่ะขอบคุณครับสวัสดี
00:25:01 → 00:25:03 ค่ะสวัสดีครับหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบ
00:25:03 → 00:25:06 กันใหม่ครั้งหน้านะคะกับรายการโรงหมอทาง
00:25:06 → 00:25:08 ไย PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:25:08 → 00:25:12 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:25:12 → 00:25:15 เมื่อเราเห็นคนเป็นลมชักหลายคนกลัวว่าผู้
00:25:15 → 00:25:17 ป่วยจะกัดลิ้งตนเองขาดนั่นคือความเชื่อ
00:25:17 → 00:25:20 ที่ผิดมาโดยตลอดนายแพทย์ชวัฒน์ชื่อลือชา
00:25:20 → 00:25:23 จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมาเล่าให้
00:25:23 → 00:25:26 ฟังครับจากข้อมูลที่ผ่านมาคนที่ชักเกง
00:25:26 → 00:25:28 กระตุกอ่ะครับน้อยมากที่จะเกิดการกัดตัว
00:25:28 → 00:25:31 ลิ้นขาดอย่างมากก็ถลอกหรือว่าคือตอนนี้
00:25:31 → 00:25:33 เขาไม่มีสติอ่ะครับตัวฟันมันจะไม่สบมาโดน
00:25:33 → 00:25:35 ลิ้นพอดีหรือแบบอะไรอย่างงั้นนะครับอัน
00:25:35 → 00:25:37 นี้คือบอกเลยว่าเป็นความเชื่อที่ผิดที่
00:25:37 → 00:25:41 บอกว่าคนชักแล้วจะกัดตัวลิ้นขาดเรากลับมา
00:25:41 → 00:25:43 ก่อนว่าชักปุ๊บไม่เท่ากับว่ากัดตัวลิ้น
00:25:43 → 00:25:45 ขาดเพราฉะนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องเอาเอา
00:25:45 → 00:25:47 อะไรใส่ปากเขาเพราะว่าส่วนตัวที่เคยเจอก็
00:25:47 → 00:25:51 คือเอาชอนพลาสติกใส่ปากไปแล้วก็กัดกกเป็น
00:25:51 → 00:25:53 ว่ากัดโดนฟันกับฟันมากัดไอ้ช้อนพลาสติก
00:25:53 → 00:25:56 เนี่ยยช้อนพลาสติกแตกแล้วไงเข้าหลอดลมว
00:25:56 → 00:25:58 เข้าไปก็ยิแย่กว่าเดิมต้องแบบต้องไปคีบ
00:25:58 → 00:26:00 ออกอะไรเงี้ยสิ่งที่เคยเจอแบบเคสที่แบบ
00:26:00 → 00:26:03 แย่ๆเลยนะครับผมเออก็ก็เลยกลับมาให้ให้
00:26:03 → 00:26:06 ข้อมูลท่านผู้ฟังว่าโอกาสเกิดน้อยมากห
00:26:06 → 00:26:08 หรือถ้าเกิดจริงก็ไม่ถึงขั้นขาดก็เป็นแค่
00:26:08 → 00:26:11 รอยถลอกรอยเอ่อของของตัวลิ้นไปซึ่งก็ไม่
00:26:11 → 00:26:13 ไม่ได้ร้ายแรงอะไรพูดง่ายๆคือถึงเขาจะกัด
00:26:13 → 00:26:15 ลิ้นจริงก็โอกาสลิ้นขาดไม่ตั้งแต่เป็นหมอ
00:26:15 → 00:26:17 มาก็ไม่เคยเจอครับอย่างมากก็คืออย่างที่
00:26:17 → 00:26:20 บอกเป็นแค่รอยรอยถลอดเลยซึ่งมันเราไม่ไม่
00:26:20 → 00:26:22 ไม่เราไม่ต้องโฟกัสตรงนี้ไม่ต้องโฟกัสว่า
00:26:23 → 00:26:24 จะลิ้นขาดหรืออะไรจากเรื่องชักเลยกว่า
00:26:24 → 00:26:27 อย่างที่บอกครับการที่ผู้ป่วยชักเนี่ยอือ
00:26:27 → 00:26:29 อย่างที่ตั้งก็ต้องตั้งสติก่อนเพราะเรา
00:26:29 → 00:26:31 เห็นอยู่อยู่ตรงหน้าเราเนี้ยถ้าเราเป็น
00:26:31 → 00:26:33 ประชาชนทั่วไปหรือว่าเป็นพลเมืองดีเข้าไป
00:26:33 → 00:26:35 เห็นนะครับเอาให้บริเวณตรงนั้นน่ะโล่งๆ
00:26:35 → 00:26:38 ก่อนไม่ใช่ให้เขาไปชักไปโดนขอบโต๊ะไปชัก
00:26:38 → 00:26:40 ไปโดนสิ่งแหลมคมแล้วเกิดบาดเจ็บเพิ่มเติม
00:26:40 → 00:26:42 นะครับแล้วก็อีกันนึงคือถ้าเขาอยู่ในท่า
00:26:42 → 00:26:44 ที่แบบมันไม่ค่อยเหมาะสมอะไรอย่างเงี้ย
00:26:44 → 00:26:47 เราจะจับเขาตะแคงตะแคงข้างเพื่ออะไรตะแคง
00:26:47 → 00:26:51 ข้างเพื่อให้ตัวพวกน้ำลายหรือสิ่งเอ่อเ่อ
00:26:51 → 00:26:53 พวกเสมหะที่มันอาจจะอุดกั้นได้มันก็จะไหล
00:26:53 → 00:26:55 ออกมาออใช่ครับอันนี้ก็จะเป็นการช่วย
00:26:55 → 00:26:58 เบื้องต้นแล้วสักพักนึงเขาอาจจะหยุดชักไป
00:26:58 → 00:26:59 เองอะไรอย่าเงี้ครับส่วนอย่างพวกนี้เจะ
00:26:59 → 00:27:02 อาจจะเป็นเป็นลมชักเดิมอยู่แล้วซึ่งมัน
00:27:02 → 00:27:04 ถ้าไม่โชคร้ายจริงๆนะครับก็จะประมาณ 1-2
00:27:04 → 00:27:06 นาทีก็จะหยุดไปเองอะไรประมาณเงี้ยใช่ๆแต่
00:27:06 → 00:27:09 ก็จะมีถ้าโชคร้ายโชคร้ายที่เขาเป็นโรคลม
00:27:09 → 00:27:11 ชักแบบควบคุมไม่อยู่ก็จะชักนานหน่อยใช่
00:27:11 → 00:27:14 พวกนี้อย่างที่บอกถึงถ้ามันชักนานแล้วก็
00:27:14 → 00:27:17 ก็ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วเค้ายังมีชีพจร
00:27:17 → 00:27:19 อยู่หรือเปล่าหรือว่ายังไงประมาณเครับแต่
00:27:19 → 00:27:21 ว่าที่บอกไปก็กลับมากลับมาเรื่องการผสม
00:27:21 → 00:27:24 พยาบาลก่อนก็คือก็คือรีบรีบขอความช่วย
00:27:24 → 00:27:26 เหลือ 16 เคลียร์เคลียร์พื้นที่บริเวณ
00:27:26 → 00:27:29 นั้นให้ให้ปลอดภัยให้เไม่ไม่ไปกระแทกอะไร
00:27:29 → 00:27:31 แล้วก็ไม่ให้ตกจากเตียงหรืออะไรเงี้ยครับ
00:27:31 → 00:27:33 แล้วก็อีกันนึงก็คือไม่ต้องเอาอะไรเข้า
00:27:33 → 00:27:36 ปากแล้วก็อาจจะจับตะแคงหน้าเฉยๆรอจนกว่า
00:27:36 → 00:27:38 ทีมช่วยเหลือจะมาหรือไม่ก็รอจนกว่าเขาจะ
00:27:38 → 00:27:40 หยึด
00:27:40 → 00:27:45 ฉัก This Is Toy PBS
00:27:45 → 00:27:48 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:27:48 → 00:27:51 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:27:51 → 00:27:54 spotify Sou Cloud Google podcast
00:27:54 → 00:27:57 Apple podcast และ YouTube Channel
00:27:57 → 00:28:01 Thai PBS podcast ท้า PBS podcast
00:28:01 → 00:28:03 View the world via The
00:28:03 → 00:28:13 [เพลง]
00:28:13 → 00:28:16 Voice