00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:08 → 00:00:12 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือสัยกรรม
00:00:12 → 00:00:15 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:15 → 00:00:18 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อย
00:00:18 → 00:00:22 ลงคุณผู้ฟังครับรายการสัตกรรมความสุขนี่
00:00:22 → 00:00:27 ผมพี่วีนะครับก็จัดคู่กับพี่อ้อยนะค่ะมา
00:00:27 → 00:00:31 กี่ปีแล้วเนี่ยพี่อ้อยหลายตอนนะเป็นปีนะ
00:00:31 → 00:00:34 ปีกว่าค่ะจะ 2 ปีแล้วค่ะ่อ๋อจะ 2 ปีแล้ว
00:00:34 → 00:00:37 ก็ต้องนับว่าเราเป็นทีมเป็นทีมมั้ยเนี่ย
00:00:37 → 00:00:40 เป็นสิพี่วีจะให้เป็นมั้ยคะเอาแล้วคุณผู้
00:00:40 → 00:00:45 ฟังเห็นมั้ยเห็นมั้ยเริ่มเริ่มมีอาการ
00:00:45 → 00:00:48 เกิดความร้าวฉานเกิดขึ้นหรือเปล่าอะไร
00:00:48 → 00:00:51 อย่างเงี้ยใช่มั้แต่ว่าคุณผู้ฟังครับก็พอ
00:00:51 → 00:00:54 เรามาจัดคู่กันความจริงก็สนุกมั้พี่ห้อย
00:00:54 → 00:00:56 ชอบค่ะสนุกมากเลยชอบสนุกมากเลยนะแต่ว่าผม
00:00:56 → 00:01:00 มีความรู้สึกว่าผมอยากจะสารภาพกับพวกผู้
00:01:00 → 00:01:03 ฟังนะแล้วก็สารภาพกับพี่อ้อยด้วยค่ะว่า
00:01:03 → 00:01:06 เราเป็นทีมเดียวกันก็จริงนะค่ะแต่ผมรู้
00:01:06 → 00:01:09 สึกว่าผมเนี่ยเป็นตัว
00:01:09 → 00:01:13 [เพลง]
00:01:14 → 00:01:16 ถ่วง
00:01:16 → 00:01:20 อุ้ยถ้าจะำเป็นต้องเป็นพี่อ้อยมั้งเออ
00:01:20 → 00:01:22 อ้าวๆเราจะมาแย่งกันเป็นตัวถ่วงไม่ได้นะ
00:01:22 → 00:01:25 พี่อ้อยเพราะว่าตัวถ่วงนี่มันมีดีกับไม่
00:01:25 → 00:01:28 ดีนะพี่วีอ่ะจริงึเ่ะเออนี่ไงนี่ไงนี่ไง
00:01:28 → 00:01:32 คำว่าตัวถ่วงเนี่ยน่าสนใจนะเพราะว่าพอผม
00:01:32 → 00:01:34 บอกว่าผมเป็นตัวถ่วงปุ๊บคุณผู้ฟังสังเกต
00:01:34 → 00:01:37 มั้ยพี่อ้อยบอกเอ้ยไม่ได้หรือหรือพี่อ้อย
00:01:37 → 00:01:39 นี่แหละเป็นตัวถ่วงอือไม่อยากจะพูดเลยว่า
00:01:39 → 00:01:42 จริงๆเราทั้งคู่เนี่ยตัวถ่วงทั้ง
00:01:42 → 00:01:46 คู่ใช่ๆๆใช่มั้ยแต่ว่าจะถ่วงอะไรถ่วงยัง
00:01:46 → 00:01:50 ไงเนี่ยเรามาเคลียร์กันดีกว่านะว่าตัว
00:01:50 → 00:01:52 ถ่วงนี่ความหมายมันหมายถึงอะไรพี่ห้อย
00:01:52 → 00:01:56 จริงๆถ้าเป็นความหมายของคนทั่วไปที่ฟังคำ
00:01:56 → 00:02:00 นี้ปุ๊บอือๆตัวถ่วงจะนึกถึงตัวถ่วงความ
00:02:00 → 00:02:05 เจริญอือืโอ้โหนี่อันเนี้ยอันเนี้ยเป็น
00:02:05 → 00:02:08 ตัวถ่วงด้านลบแน่ๆอ๋อใช่คนทั่วไปจะนึกถึง
00:02:08 → 00:02:10 อันนี้ก่อนเลยใช่มั้อันนี้ก่อนเลยแล้วตัว
00:02:10 → 00:02:13 ถ่วงมีด้านดีด้วยเหรอมีเอจริงึเป่าใช่
00:02:13 → 00:02:14 งั้นผมเป็นอันนี้แล้ว
00:02:14 → 00:02:19 กันเป็นยังไงตัวถ่วงด้านดีถ้าถ้าดูเอ่อ
00:02:19 → 00:02:22 จากในความหมายนะคะใน
00:02:22 → 00:02:26 ราชบัณฑิตยสถานมันก็มีแบบถ่วงน้ำหนักถ่วง
00:02:26 → 00:02:30 ดุลอือะไรอย่าเงี้ยแล้วถ้าถ่วงเวลานี้อาจ
00:02:30 → 00:02:33 จะดีหรือไม่ดีไม่รู้ก็แล้วแต่อ่าถ่วงความ
00:02:33 → 00:02:36 เจริญนี้ไม่ดีแน่เออย่างเงี้เป็นต้นอออือ
00:02:36 → 00:02:41 พี่อ้อยนึกถึงเวลาเราเปลี่ยนยางล้ออ่ะเออ
00:02:41 → 00:02:45 ๆๆเค้าต้องเค้าเรียกว่าถ่วงล้อใช่มเออ
00:02:45 → 00:02:48 ต้องมีตะกั่วเอาไว้ถ่วงเออมันแสดงว่าถ่วง
00:02:48 → 00:02:51 แบบนั้นน่ะตัวถ่วงแบบนั้นน่ะเอคือ
00:02:51 → 00:02:55 ประโยชน์ไงเออใช่อืคือดีคือดีเออมันก็เลย
00:02:56 → 00:02:59 มี 2 ด้านเลยมี 2 ด้านอ้าโอ้ค่อยยังช่วย
00:02:59 → 00:03:03 หน่อยรอดแล้วเราเพราะว่าตัวคำว่าตัวถ่วง
00:03:03 → 00:03:06 มันมีความหมาย 2 ด้านจริงๆแล้วก็เมื่อกี้
00:03:06 → 00:03:09 ที่พี่อ้อยพูดถึงเรื่องเรื่องอันนี้เขา
00:03:09 → 00:03:12 เรียกเป็นตั้งชื่อเลยนะเวลาที่เราเอารถไป
00:03:12 → 00:03:14 เข้าศูนย์บริการเรื่องไปดูแลเรื่องล้อ
00:03:14 → 00:03:17 เนี่ยเคเรียกว่าตั้งศูนย์ถ่วงล้ออืตั้ง
00:03:17 → 00:03:20 สูนถ่วงล้อคือรถถ้ามันไม่ได้ศูนย์ไม่
00:03:20 → 00:03:24 สมดุลเงี้ยมันจะกินยางอ๋อคือยางมันจะสึก
00:03:24 → 00:03:27 ไม่เท่ากันถ้าเกิดว่าเดูแล้วมันสึกเอง
00:03:27 → 00:03:30 แสดงว่าต้องตั้งศูนย์ใหม่ละออออให้มัน
00:03:30 → 00:03:33 สมดุลแล้ววิธีการก็คือเขาจะมีตะกั่วเล็กๆ
00:03:33 → 00:03:37 เอาไปเคาะเข้าไปติดอยู่ในที่ล้อเนี่ยอ้า
00:03:37 → 00:03:39 เหรอค่ะก็มันจะเป็นตัวถ่วงพอมันถ่วงปุ๊บ
00:03:39 → 00:03:42 มันจะทำให้ล้อมมันสมดุลมากขึ้นอ๋อไม่ใมัน
00:03:42 → 00:03:46 ได้สูยมากขึ้นนะครับอันนี้ผมก็ความรู้จาก
00:03:46 → 00:03:49 การสังเกตนิดหน่อยนะอือันนี้คือตัวถ่วง
00:03:50 → 00:03:53 ใช่เลยคคุณผู้ฟังวันครั้งแรกที่ผมได้ยิน
00:03:53 → 00:03:56 คำว่าตัวถ่วงเนี่ยผมก็นึกว่าเออเคนส่วน
00:03:56 → 00:03:59 ใหญ่เนี่ยเค้าจะนึกถึงปุ๊บตัวถ่วงเขาจะ
00:03:59 → 00:04:03 นึกถึงคำว่าตัวถ่วงความเจริญค่ะแต่ในใน
00:04:03 → 00:04:05 ความรู้สึกของผมเนี่ยผมผมก็จะนึกถึงเฮ้ย
00:04:05 → 00:04:09 จริงๆแล้วเนี่ยผมนึกถึงคว่าตัวถ่วงที่ทำ
00:04:09 → 00:04:14 ให้เกิดความเจริญอืตรงกันข้ามก็แบบนี้เอง
00:04:14 → 00:04:17 เลยแต่ว่าผมไม่ได้นึกถึงตั้งสูงห่วงร้อนะ
00:04:17 → 00:04:20 พี่อ้อยผมนึกถึงอะไรรู้มั้ยผมนึกถึงที่
00:04:20 → 00:04:24 สมัยก่อนเนี่ยในสมัยรัชกาลที่ 3 รัชกาล
00:04:24 → 00:04:26 ที่ 4 เนี่ยนะค่ะประเทศไทยเราเนี่ยเริ่ม
00:04:26 → 00:04:31 มีการทำการค้ากับประเทศจีนอืออืก็เอา
00:04:31 → 00:04:35 สินค้าเนี่ยใส่เรือสำเภาไปไปไปค้าขายกับ
00:04:35 → 00:04:38 เมืองจีนเา้าบอกว่ารัชกาลที่ 3 รัชกาลยุค
00:04:38 → 00:04:41 รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 เนี่ยไปทำการค้า
00:04:41 → 00:04:43 เงี้แล้วได้เงินเยอะมากแล้วเก็บเงินไว้
00:04:43 → 00:04:46 ที่เบอกเป็นเงินถุงแดงอือแล้วเอามาเอามา
00:04:46 → 00:04:48 ช่วยประเทศชาติตอนที่เราโดนฝรั่งเศสอะไร
00:04:48 → 00:04:49 อย่าเงี้ยอันนั้นก็เป็นเรื่อง
00:04:49 → 00:04:52 ประวัติศาสตร์ไปนะแต่เขบอกว่าเงินเหล่า
00:04:52 → 00:04:54 นั้นเนี่ยมันได้มาจากการทำการค้าสมัย
00:04:54 → 00:04:58 รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 อ๋อก็คือทำการ
00:04:58 → 00:05:01 ค้าเนี่ยวิธีการก็เอาเรือสำเภามาอือฮึ
00:05:01 → 00:05:04 แล้วก็เอาสินค้าใส่เรือสำเภาเต็มรำเลยนะ
00:05:04 → 00:05:07 อืคนจีนอยากซื้อสินค้าไทยขนาดนั้นเลยโอ้
00:05:07 → 00:05:10 ก็เป็นพวกเครื่องเทศน์พวกผ้าพวกอะไรอย่าง
00:05:10 → 00:05:15 งี้มงนะอือแล้วก็พอขนไปเนี่ยพอขายของหมด
00:05:15 → 00:05:17 เรือเนี่ยเวลาที่ลั่นกลับมาเรือเปล่า
00:05:17 → 00:05:21 เนี่ยค่ะมันจะโคลงอืใช่พอเจอพายุนี่เรือ
00:05:21 → 00:05:25 โคลงนี่ไม่รอดเอออับปางได้เลยเนี่ยวิธี
00:05:25 → 00:05:28 การที่จะทำให้เรือขากลับเนี่ยค่ะเอ่อกลับ
00:05:28 → 00:05:32 มานี่นะบางทีวิธีนึงที่เขาใช้คือเขาคก็จะ
00:05:32 → 00:05:35 ซื้อสินค้ากลับมาด้วยอือเออแล้วเอามาขาย
00:05:35 → 00:05:39 ที่นี่อแต่ถ้ามันยังไม่พอเนี่ยพี่อ้อยเคย
00:05:39 → 00:05:43 เห็นอันนี่มั้ยเอ่อที่วัดวัดวัดโพธิ์วัด
00:05:43 → 00:05:47 แจ้งวัดโพธิ์อะไรเวัดโพธิ์ที่มีตุ๊กตาจีน
00:05:47 → 00:05:51 อืหินๆตุ๊กตาหินน่ะที่เป็นใหญ่ๆนะอ่าๆห
00:05:51 → 00:05:55 นั่นน่ะคือตัวถ่วงโอหตัวถ่วงจะแบบเค้า
00:05:55 → 00:06:00 เรียกว่าอะไรนะทำแบบปราณีตมากเลยเป็น
00:06:00 → 00:06:03 เป็นคนจีนเลยอ่ะใช่เคซื้อตุ๊กตาเหล่านั้น
00:06:03 → 00:06:06 มาเนี่ยเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวถ่วงก็คือ
00:06:06 → 00:06:09 ให้เรือมีน้ำหนักอืเออแล้วเวลาเราแล่น
00:06:09 → 00:06:13 กลับมาจะได้ไม่โคลงเครงอ๋อกลับมาแล้วก็
00:06:13 → 00:06:15 เนี่ยแล้วก็เลยมาทำหน้าที่เอามาพอมาถึง
00:06:16 → 00:06:19 ปึ๊บก็กลายมาเป็นเค้าเรียกอะไรเป็นที่
00:06:19 → 00:06:23 ประดับตามวัดวาอารามต่างๆค่ะในยุคนั้น
00:06:23 → 00:06:28 อ๋อนึกว่าเค้าจะมีในเรือสำเภาอ่ะมันจะมี
00:06:28 → 00:06:31 เค้าเรียกว่าไม่รู้เรียกถูกป่ะที่บอกว่า
00:06:31 → 00:06:35 ห้องอาบเฉาแล้วเอาน้ำเอาน้ำใส่ไว้ในห้อง
00:06:35 → 00:06:39 นั้นน่ะก็คือเพื่อให้เรือมีน้ำหนักอ่ะอ่า
00:06:39 → 00:06:43 ใช่อับเฉาเรือเเรียอับเฉาเรือก็ก็มีอัน
00:06:43 → 00:06:46 นั้นผมเชื่อว่ามีหลายวิธีอ๋อใส่น้ำเข้าไป
00:06:46 → 00:06:49 ก็ได้หรือแต่ว่าอันเนี้ยเท่าที่ผมรู้มา
00:06:49 → 00:06:51 เนี่ยก็คือว่าตุ๊กตาเหล่านั้นนี่แหละทำ
00:06:51 → 00:06:54 หน้าที่นี้แหละออือคือเ้าเรียกว่าอับเฉา
00:06:54 → 00:06:57 เรือเป็นตัวถ่วงนั่นเองคอันนี้ถ่วงดีอัน
00:06:57 → 00:07:00 นี้ถ่วงดีใช่นี่ไงผมก็เลยมีความรู้สึกว่า
00:07:00 → 00:07:03 พอพอเห็นว่าเอ้ยตัวถ่วงเนี่ยมันมันมีทั้ง
00:07:03 → 00:07:07 ดีและไม่ดีนะค่ะปึ๊บมันก็เลยเกิดความคิด
00:07:07 → 00:07:11 ตามแบบแนวทางของสันติกรความสุขเลยค่ะเรา
00:07:11 → 00:07:14 มีความรู้สึกว่าถ้าเราทำงานพัฒนาคนน่ะพี่
00:07:14 → 00:07:17 อ้อยอเราอยากจะพัฒนาชีวิตเราเนี่ยเรา
00:07:17 → 00:07:21 สามารถหาได้มเราสามารถแยกแยะได้มว่าใน
00:07:21 → 00:07:26 ชีวิตเราเนี่ยมันมีมีตัวถ่วงมั้ยมีสิคะ
00:07:26 → 00:07:29 ทั้ง 2 แง่ด้วยนะใช่ค่ะเออตัวถ่วงถ่วงที่
00:07:29 → 00:07:32 ทำให้ตัวถ่วงความเจริญน่ะคือถ้าไม่มี
00:07:32 → 00:07:35 เหล่านี้เนี่ยชีวิตเราเนี่ยจะเจริญไปกว่า
00:07:35 → 00:07:38 นี้มากเลยนะสมมุติงี้นะกลับอีกอันนึงถ้า
00:07:38 → 00:07:41 เรามีตัวถ่วงนี้แล้วเนี่ยชีวิตเราจะดี
00:07:41 → 00:07:45 ขึ้นกว่านี้อีกค่ะเอออมีอะไรบ้างอพี่อ้อย
00:07:45 → 00:07:49 ลองนึกดูคือในเมื่อเราเป็นรายการที่ว่า
00:07:50 → 00:07:52 ด้วยเรื่อง mind เซตเนาะเราก็เอาด้านความ
00:07:52 → 00:07:57 คิดอความคิดอ้าความคิดที่ไม่ดีอ่ะก็คือ
00:07:57 → 00:08:00 เช่นกลัวอ่าอ่า
00:08:00 → 00:08:05 เอ่อแล้วก็อะไรนะเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบเออ
00:08:05 → 00:08:09 อ่าแบบว่าทำอะไรต้องต้องสมบูรณ์แบบอือ
00:08:09 → 00:08:13 หรือว่าขี้กังวลอือหรือว่าคิดมากเกินไปอื
00:08:13 → 00:08:17 อ่าหรือว่าไม่มั่นใจในตัวเองอือะไรพวก
00:08:17 → 00:08:21 เนี้ยก็คือหรือว่าแม้แต่คนที่ติดคมฟโซน
00:08:21 → 00:08:26 น่ะอืก็ก็อาจจะทำให้รักษาตัวเองออกอยู่ใน
00:08:26 → 00:08:28 พื้นที่นั้นน่ะแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรให้เกิด
00:08:28 → 00:08:32 ความจเอออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยใช่ค่ะอัน
00:08:32 → 00:08:35 นี้ก็คือตัวถ่วงความเจริญเหล่านี้นี่คือ
00:08:35 → 00:08:39 ตัวถ่วงทั้งสิ้นเลยใช่ทำให้คือถ้าเราขจัด
00:08:39 → 00:08:42 ตัวถ่วงเหล่านี้ได้เนี่ยเราจะพุ่งฉิวเลย
00:08:42 → 00:08:44 ใช่มั้ยชีวิตเราจะดีกว่านี้เยอะเลยใช่ที
00:08:45 → 00:08:46 นี้ผมก็เลยพอพี่อ้อยพูดมาแต่ละอย่างเนี่
00:08:46 → 00:08:50 ผมมีความรู้สึกว่าเราลองมาดูว่าในแต่ละ
00:08:50 → 00:08:54 อย่างเนี่ยเราจะสลัดมันทิ้งได้ยังไงอืเออ
00:08:54 → 00:08:57 เอาแบบที่เป็นในภาคปฏิบัติเลยอย่างเมื่อ
00:08:57 → 00:08:58 กี้นี่พี่อ้อยพูดถึงตัวถ่วงอันแรกกันนะ
00:08:58 → 00:09:03 คือพูดคำว่ากลัวความกลัวเนี่ยยคือคนสมัย
00:09:03 → 00:09:07 นี้เวลาที่จริๆคนทุกยุคทุกสมัยนะถ้ามี
00:09:07 → 00:09:09 ความกลัวคนที่มีความกลัวเนี่ยเค้าก็จะแบบ
00:09:09 → 00:09:14 ว่าไม่จะทำอะไรเค้าก็ไม่กล้านะอืกลัวนี่เ
00:09:14 → 00:09:18 กลัวอะไรอ่ะกลัวสิ่งที่ที่ยังมองไม่เห็น
00:09:18 → 00:09:21 ไม่รู้อ่าอะไรอย่างเงี้ยพี่ว่านึกถึงอัน
00:09:21 → 00:09:25 นี้เลยพี่วีเออๆเร็วเร็วๆนี้แหละมีคลิป
00:09:25 → 00:09:29 อันนึงที่ที่เขาบอกว่าเป็นประเทศจีนค้น
00:09:29 → 00:09:32 ครบถ้ำใหม่อ่ะที่ไม่ทราบพี่หวีเห็นมั้ย
00:09:32 → 00:09:35 เห็นแวบๆในขาวมันมันเป็นเหมือนแบบอยู่ใน
00:09:36 → 00:09:39 ภูเขาใช่มั้ยคะแล้วมันมีรูแบบเล็กนิด
00:09:39 → 00:09:42 เดียวอ่ะเออเออแล้วรูนั้นก็มืดๆเออแล้ว
00:09:42 → 00:09:45 เขาคก็แบบเหมือนเหมือนทำให้รูนั้นกว้าง
00:09:45 → 00:09:50 กว้างขึ้นอืแล้วรูพอกว้างขึ้นเนี่ยมันก็
00:09:50 → 00:09:52 เค้าเรียกว่าอะไรช่องที่ทำให้กว้างแล้ว
00:09:52 → 00:09:55 เนี่ยอือมันไม่ได้เปิดออกไปเป็นพื้นที่
00:09:55 → 00:09:59 สวยงามเลยอ่ะเออมันต้องลงไปอีกลึกมากซึ่ง
00:09:59 → 00:10:02 ซึ่งมืดตืๆอ่ะเออแล้วก็ต้องเอาบันได
00:10:02 → 00:10:04 เหมือนบันไดลิงอ่ะเออค่อยๆลงไปหย่อนลงไป
00:10:04 → 00:10:08 หย่อนลงไปซึ่งตรงนั้นนะพว่าเวลาคุณหย่อน
00:10:08 → 00:10:11 ตัวเองลงไปลงไปเนี่ยมันอยู่บนความมืดแล้ว
00:10:11 → 00:10:14 ไม่รู้ว่าข้างหน้ามีอะไรอ่ะอือๆแต่คุณก็
00:10:14 → 00:10:19 ลงไปเออลงไปจนถึงถึงพื้นน่ะข้างล่างเลย
00:10:19 → 00:10:25 โอ้โหมีทะเลสาบน้ำสวยงามในถ้ำผนังถ้ำสวย
00:10:25 → 00:10:29 งามแบบมีแสงรอดมาจากหินแบบโอ้โหสะท้อนเลย
00:10:29 → 00:10:32 สวยงามมากเลยแต่ก่อนที่จะตรงนั้นน่ะมัน
00:10:32 → 00:10:35 ไม่รู้ว่าลงลงไปจะเจออะไรอะไรเออเออก็เรา
00:10:36 → 00:10:40 ก็คิดเลยว่าเฮ้ยมนุษย์นี่แบบคือมันมีคน
00:10:40 → 00:10:43 กลุ่มนึงอ่ะอือที่แบบเอาชนะความกลัวได้
00:10:43 → 00:10:46 อ่ะอืเป็นเราเราอ่ะมืดๆอย่างงั้นแล้วก็
00:10:46 → 00:10:49 ไม่รู้จะลงไปจะเจออะไรอ่ะเราจะไม่กล้าลง
00:10:49 → 00:10:52 เด็ดขาดเลยเออนี่ไงความกลัวใช่มั้ยเพราะ
00:10:52 → 00:10:55 ฉะนั้นความกลัวนี้เป็นตัวถ่วงใช่แล้ว
00:10:55 → 00:10:57 อย่างงี้ถ้าเกิดว่ากรณีอย่างเงี้ยที่พี่
00:10:57 → 00:11:00 อ้อยเล่าอย่างเงี้ยค่ะบอกว่าเออมันเจอไป
00:11:00 → 00:11:03 เจออะไรบางอย่างปึ๊บเจอปุ๊บนั้นค่อยๆลงไป
00:11:03 → 00:11:05 มืดด้วยน่ากลัวด้วยถามว่าถ้าใครสักคนนึง
00:11:06 → 00:11:08 จะกลัวอะไรแบบนี้เนี่ยมันก็มีเหตุผลมั้ย
00:11:09 → 00:11:11 มีเหตุผลนะก็มีก็ไม่รู้ว่าไปแล้วมันจะเจอ
00:11:12 → 00:11:14 อะไรมันจะอันตรายมั้ยอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:11:14 → 00:11:17 หรือหรือเต็มไปหมดเลยปึ๊บพอกลัวปุ๊บคนที่
00:11:18 → 00:11:22 ไม่กล้าก็คือก็ไม่ไปค่ะแต่ว่าแล้วคนที่ไป
00:11:22 → 00:11:26 อ่ะเค้าคิดอะไรนั่นสิเออเค้าคงคิดในใจว่า
00:11:26 → 00:11:30 ก็ลองดูอืถ้าไปแล้วเออเอในที่สุดถ้าเกิด
00:11:30 → 00:11:35 ว่ากลัวอันตรายมันก็มีวิธีในการที่จะค่อย
00:11:35 → 00:11:39 ๆไม่ใช่ผลีผลามกระโดดอไว้ไม่ใช่ก็ค่อยๆ
00:11:39 → 00:11:43 สมมุติมันมันจะมีขั้นตอนคือคนที่เาอยากจะ
00:11:43 → 00:11:46 ลองอ่ะถึงแม้ว่าก็ไม่ใช่เ้าไม่กลัวแต่ว่า
00:11:46 → 00:11:49 ก้าๆกลัวๆนี่แหละแต่เขาก็จะลองลองเสร็จ
00:11:49 → 00:11:53 ปุ๊บเขาก็จะมีขั้นตอนมีวิธีว่าอใช้บันได
00:11:53 → 00:11:56 ใช้เชือกค่อยๆหย่อนลงไปอือๆแล้วยิ่งสมัย
00:11:56 → 00:12:01 นี้เนี่ยก็มีไฟหย่อนไฟลงไปออ่ะถ้ายังไม่
00:12:01 → 00:12:05 ยังไม่กล้าก็หยอนก้องลงไปสมมุติอือคือใน
00:12:05 → 00:12:08 ความเป็นจริงแล้วถ้าเกิดใครสักคนนึงกลัว
00:12:08 → 00:12:10 อะไรบางอย่างมันก็มีเหตุผลที่จะกลัวก็ไม่
00:12:10 → 00:12:13 แปลกนะอเพียงแต่ว่าตอนนี้เราอยู่ในยุค
00:12:13 → 00:12:18 สมัยที่มันมีอุปกรณ์มีเครื่องช่วยมีอะไร
00:12:18 → 00:12:21 หลายอย่างที่ทำให้เราผ่อนคลายจากความกลัว
00:12:21 → 00:12:24 นั้นก็ค่อยๆใช้อันนั้นเพียงแต่ว่าถ้าเรา
00:12:24 → 00:12:28 บอกว่าเฮ้ยไม่เอาดีกว่าก็ไม่เป็นไรนะแต่
00:12:28 → 00:12:32 เราก็พลาดอะไรเราก็ไม่รู้อืแต่สมมุติผมก็
00:12:32 → 00:12:34 นึกถึงเมื่อกี้พี่อเล่าให้ฟังผมนึกถึงถ้า
00:12:34 → 00:12:37 เกิดคนบอกว่าไม่เอาดีกว่าไม่กล้าดีกว่าก็
00:12:37 → 00:12:40 เลยไม่ทำเนี่ยแต่ถ้าเกิดใครบอกว่าทำแล้ว
00:12:40 → 00:12:43 ค่อยๆลงไปแล้วในที่สุดไปแล้วไม่เจออะไรก็
00:12:43 → 00:12:46 รู้ว่าไม่มีอะไรไม่มีอะไรก็ออกมาก็จบคือ
00:12:46 → 00:12:51 คือพี่อ้อยนึกนึกถึงว่าอย่างตัวเองกลัวอื
00:12:51 → 00:12:55 ว่าช่องอ่ะก็แคบแคบอืแล้วเราก็เห็นข่าว
00:12:55 → 00:13:01 บ่อยๆอืว่าเวลาลงไปในอะไรที่มันแคบๆอ่ะอื
00:13:01 → 00:13:04 สุดท้ายมันจะไม่มีอากาศหายใจเอออย่าง
00:13:04 → 00:13:06 เงี้ยเนี่ยเราก็เลยมีความรู้สึกว่าถ้า
00:13:06 → 00:13:09 เป็นตัวเองก็คืออาจจะหยุดไม่ทำสิ่งนั้น
00:13:09 → 00:13:14 เออๆเออนี่แหละเห็นป่ะแล้วแค่เรารู้ว่า
00:13:14 → 00:13:17 เรากลัวเพราะอะไรอซึ่งอันนี้เป็นเรื่องดี
00:13:17 → 00:13:20 ที่เราระมัดระวังนะค่ะถ้าเราบอกเรากลัว
00:13:20 → 00:13:23 ว่าไม่มีอากาศหายใจเียมใช่มั้ยคะมันก็มี
00:13:23 → 00:13:27 วิธีช่วยอใช่มั้ยส่งท่อสงท่อมาอะไรอย่าง
00:13:27 → 00:13:30 เงี้ยเพียงแต่ว่าคนที่เกิดมาเพื่อสำรวจ
00:13:30 → 00:13:33 น่ะอือหือถามว่าเค้ากลัวมั้ยเกลัวนะค่ะ
00:13:33 → 00:13:36 แต่ความกลัวแล้วเค้าระมัดระวังความกลัว
00:13:36 → 00:13:39 นี่ทำให้เค้าระมัดระวังอแต่ว่าความกลัว
00:13:39 → 00:13:42 มันหยุดเข้าไม่ได้ออเออความกลัวหยุดเข้า
00:13:42 → 00:13:45 ไม่ได้แล้วผลที่ได้คืออะไรทำให้เ้าไปเจอ
00:13:45 → 00:13:50 โลกใหม่ที่แบบโหยใช่่ๆเนี่ยมันก็คุ้มค่า
00:13:50 → 00:13:54 ค่ะคุ้มค่าแต่ว่าประเด็นที่สำคัญที่ผมเอา
00:13:54 → 00:13:56 เรื่องความกลัวนี้ก่อนเลยค่ะเนี่ยความ
00:13:56 → 00:14:00 กลัวเป็นตัวถ่วงเนี่ยอืความกลัวเนี่ยส่วน
00:14:00 → 00:14:02 ใหญ่เวลาที่ใครสักคนกลัวอะไรแล้วตัดสินใจ
00:14:02 → 00:14:06 ไม่ทำอะไรบางอย่างเนี่ยเค้าไม่ได้ตัดสิน
00:14:06 → 00:14:09 ใจจากความกลัวอย่างเดียวนะสิ่งที่มาช่วย
00:14:09 → 00:14:11 ย้ำที่ทำให้เค้าตัดสินใจไม่ทำคืออะไรถูก
00:14:11 → 00:14:14 มั้ยพี่อ้อยอคืออะไคือจินตนาการเขานี่
00:14:14 → 00:14:18 แหละอ๋อเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะแบบคิดไปเอง
00:14:18 → 00:14:21 ใช่มั้ยแล้วยิ่งทำให้ตอกย้ำความกลัวใช่
00:14:22 → 00:14:23 แล้วทำให้สิ่งนั้นมันใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น
00:14:23 → 00:14:27 ใหญ่ขึ้นอค่ะแล้วเมได้ผมนึกถึงไปนึกไปถึง
00:14:27 → 00:14:31 เรื่องจินตนาการเนี่ยพี่อเอมันทำให้สิ่ง
00:14:31 → 00:14:34 นั้นมันใหญ่เกินจริงอ่ะเออใช่ๆใช่มั้ย
00:14:34 → 00:14:37 เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะขจัดความ
00:14:37 → 00:14:41 กลัวได้เนี่ยเราต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือ
00:14:41 → 00:14:44 จินตนาการอะไรคือเรื่องจริง
00:14:44 → 00:14:47 ออซึ่งไอ้ความกลัวนี่มันเป็นเรื่องดีนะ
00:14:47 → 00:14:50 ค่ะที่จะทำให้เราเตรียมพร้อมออแต่เราก็
00:14:50 → 00:14:53 ต้องแยกให้ออกว่าอันไหนคือสิ่งที่เกิด
00:14:53 → 00:14:57 ขึ้นจริงกับอันไหนคือจินตนาการอืค่ะแล้ว
00:14:57 → 00:15:00 มันทำให้ผมนึกถึงอีกอันนึงก็คือนึกไปถึง
00:15:00 → 00:15:03 พแสตอนนึงเลยเนี่ยสานิงาความสึกตอนนึงเลย
00:15:03 → 00:15:06 ที่ผมเคยจัดเมื่อนนานมาแล้วอือผมใช้ชื่อ
00:15:06 → 00:15:11 ตอนนั้นว่าจินตนาการที่มืดมิดเนี่ยอือคือ
00:15:11 → 00:15:14 คือมันไม่น่ากลัวเท่ากับความมืดมิดเนี่ย
00:15:14 → 00:15:16 ถนนที่มืดมิดเนี่ยไม่น่ากลัวเท่า
00:15:16 → 00:15:21 จินตนาการที่ชัดเจนอออือคือเราขับรถไปใน
00:15:21 → 00:15:24 ถนนเี่เรากลัวมันมืดตึ๊ๆเลยนะค่ะแต่ว่า
00:15:24 → 00:15:27 สิ่งที่ทำให้เรากลัวกว่าก็คือจินตนาการ
00:15:27 → 00:15:32 เราเองใช่ๆเรากลัวจะมีตัวสีขาวๆชุดขาว
00:15:32 → 00:15:35 โผล่มาเออใช่ๆๆเห็นป่ะมันก็เลยทำให้เรา
00:15:35 → 00:15:39 แบบเนี่ยเพราะฉะนั้นความกลัวเนี่ยเราว่า
00:15:39 → 00:15:40 มัน
00:15:40 → 00:15:44 จุดถ่วงเราแล้วนะอืสิ่งที่ถ่วงกว่านั้นก็
00:15:44 → 00:15:48 คือจินตนาการจินตนาการของเราเองออย่าง
00:15:48 → 00:15:50 เงี้ยอันนี้เรื่องความกลัวเมื่อกี้มีความ
00:15:50 → 00:15:54 โอมีมีตัวถ่วงอะไอีกในชีวิตคือที่ว่าพูด
00:15:54 → 00:15:59 ถึงก็ก็คือเอ่อความเป็นคนสมบูรณ์แบบความ
00:15:59 → 00:16:01 ความไม่มั่นใจในตัวเองอ่าอย่างเงี้ยอ่ะผม
00:16:01 → 00:16:04 ขอเอาความไม่มั่นใจในตัวเองแล้วกันค่ะคน
00:16:04 → 00:16:08 ที่มั่นใจคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองค่ะแล้ว
00:16:08 → 00:16:11 สิ่งนี้มันเป็นตัวถ่วงค่ะทำให้ชีวิตเ้า
00:16:11 → 00:16:15 ไม่พัฒนาไปเต็มที่อย่างเงี้ยค่ะเราจะถ้า
00:16:15 → 00:16:18 เราเจอคนอย่างนี้เราจะทำยังไงเออเก็กลับ
00:16:18 → 00:16:21 มาอยู่ที่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยความไม่มั่นใจ
00:16:21 → 00:16:25 ในตัวเองก็คือความคิดเอออ่าใช่ป่ะคิดไป
00:16:25 → 00:16:30 เองจริงๆแล้วอาจจะมีคนที่ที่ศักยภาพหรือ
00:16:31 → 00:16:34 ความรู้อือะไรต่ออะไรเนี่ยที่ด้อยกว่าอ
00:16:34 → 00:16:37 เราคนๆนั้นด้วยซ้ำที่ไม่มั่นใจในตัวเอง
00:16:37 → 00:16:42 อ่ะอือแต่ว่าเค้าเคลงมือทำอะไรบางอย่าง
00:16:42 → 00:16:46 อ่าแล้วเขาก็ก็เลยเหมือนข้ามความคิดว่า
00:16:46 → 00:16:50 ไม่มั่นใจในตัวเองไปแต่คนที่อาจจะมีพร้อม
00:16:50 → 00:16:54 สมบูรณ์ทุกอย่างเลยแต่แค่คุณคิดว่าไม่คุณ
00:16:54 → 00:16:56 ไม่มั่นใจในตัวเองคุณจะก็จะไม่ได้ทำอะไร
00:16:56 → 00:17:00 ต่ออะไรแล้วสุดท้ายคุณก็ขข้ามความไม่มั่น
00:17:00 → 00:17:04 ใจในตัวเองไม่ได้อือเนี่ยพอผมฟังยอไป
00:17:04 → 00:17:06 เรื่อยๆปุ๊บผมก็ตามไปเรื่อยๆว่าเกิดอะไร
00:17:06 → 00:17:09 ขึ้นกับคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองค่ะผมก็พบ
00:17:09 → 00:17:13 ว่าคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองเนี่ยเค้าก็มี
00:17:13 → 00:17:16 ความกลัวอะไรบางอย่างอืแต่ว่าเ้ากลัวกลัว
00:17:16 → 00:17:20 ล้มเหลวเงี้ยออค่ะกลัวล้มเหลวค่ะแสดงว่า
00:17:20 → 00:17:22 เบื้องหลังของความไม่มั่นใจในตัวเองก็
00:17:22 → 00:17:25 กลัวความเหวกลัวอยู่ดีก็คือกลัวความล้ม
00:17:25 → 00:17:28 เหลวอนั่นหมายความว่าเมี mind เซตต่อความ
00:17:28 → 00:17:31 ล้มเหลวว่าว่าความล้มเหลวเป็นของไม่ดีอื
00:17:31 → 00:17:34 เอๆๆอย่างเงี้ยถ้าเกิดว่าสิ่งนี้ถ่วงเค้า
00:17:34 → 00:17:37 นะผมก็จะบอกว่ากลัวว่าจะล้มเหลวอะไรนะทำ
00:17:37 → 00:17:43 เลยอือๆๆล้มดูจะรู้ว่ามันแล้วเจะรู้ว่า
00:17:43 → 00:17:45 ไอ้สิ่งที่เล้มเหลวเนี่ยความล้มเหลวไม่
00:17:45 → 00:17:49 น่ากลัวแต่ความล้มเหลวมันมีประโยชน์อือๆ
00:17:49 → 00:17:52 เพราะว่าถ้าเราล้มเหลวแต่เราเรียนรู้จาก
00:17:52 → 00:17:55 มันเงี้ค่ะเราก็เก่งขึ้นอยู่ดีอ่ะใช่แล้ว
00:17:55 → 00:17:59 เคก็จะรู้ว่าอ้าวความล้มเหลวินักกลัวนี่
00:17:59 → 00:18:03 หว่าอืใช่อุยพูดมาถึงตอนเยพี่วีที่พี่
00:18:03 → 00:18:07 อ้อยพูดไปทั้งหมดที่บอกว่าเอ่อเรื่องตัว
00:18:07 → 00:18:10 ถ่วงด้านไม่ดีอ่ะอือๆตั้งแต่อันแรกที่บอก
00:18:10 → 00:18:13 ความกลัวเนาะอือแล้วก็มีติดความสมบูรณ์
00:18:13 → 00:18:16 แบบที่ perfectionist เนะแล้วก็อยู่ใน
00:18:16 → 00:18:19 คอมฟอร์ตโซนเนาะแล้วก็กังวลเกินไปคิดมาก
00:18:19 → 00:18:23 เกินไปหรือว่าขาดความมั่นใจในตัวเองอือพอ
00:18:23 → 00:18:26 พี่วีพูดว่าเบื้องหลังคือความกลัวพี่อ้อย
00:18:26 → 00:18:30 กลับมานึกเฮ้ยทั้งหมดที่พูดมาน่ะอือ
00:18:30 → 00:18:33 เบื้องหลังคือความกลัวหมดเลยอือยู่ในคมฟ
00:18:33 → 00:18:36 โซนก็คือฉันสบายละถ้าฉันออกไปเอ้ยเดี๋ยว
00:18:36 → 00:18:40 เกิดอะไรยังไงก็คือความกลัวอีกเอเออใช่
00:18:40 → 00:18:42 คือความกลัวหมดเลยอุตัวความกลัวตัวใหญ่
00:18:42 → 00:18:47 จังเออแล้วพอเราคุยกับเค้าสมมุติว่าเรา
00:18:47 → 00:18:50 สังเกตเค้าเราจะพบว่าแท้ที่จริงแล้วมัน
00:18:50 → 00:18:52 คืออะไรแล้วพอเราเจอสิ่งนั้นปุ๊บเนี่ยตัว
00:18:52 → 00:18:55 นั้นก็ยังไม่ใช่ตัวการจริงนะอืเหรอค่ะ
00:18:55 → 00:18:58 เพราะเบื้องหลังมันก็คือความกลัวอะไรบาง
00:18:58 → 00:19:01 อย่างเนี่ยอือแล้วเราก็จะขจัดตัวถ่วงที
00:19:01 → 00:19:04 แรกเราตั้งใจเราจะขจัดตัวถ่วงใช่มั้ยฮะ
00:19:04 → 00:19:07 ใช่แต่เราพบว่าความกลัวคือคือตัวถ่วงเรา
00:19:07 → 00:19:10 ก็ขจัดความกลัวเค้ากลัวอะไรก็ให้เค้าลอง
00:19:10 → 00:19:14 เลยเออๆอย่างเงี้ยค่ะแล้วเขาก็จะรู้ว่าใน
00:19:14 → 00:19:16 ที่สุดปุ๊บอันนี้มันจะไม่ถ่วงเขาอีกต่อไป
00:19:16 → 00:19:19 ความกลัวจะไม่ถ่วงจะไม่ฉุดเขาอีกต่อไปค่ะ
00:19:19 → 00:19:21 ใช่มั้ยฮะก็คือมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
00:19:21 → 00:19:24 ความคิดทั้งนั้นเลยอแล้วก็ mindset ที่
00:19:24 → 00:19:27 เขามีต่อความล้มเหลวเงี้ยว่าล้มเหลวไม่ดี
00:19:27 → 00:19:30 อือเเปลี่ยนใหม่ว่าเฮ้ยความล้มเหลวมันดี
00:19:30 → 00:19:33 นี่อือล้มเหลวไ่อบ่อยขึ้นก็ได้เรียนรู้
00:19:33 → 00:19:36 มากขึ้นสมมุติอย่างเงี้ยนะฮะอันนี้เราว่า
00:19:36 → 00:19:39 ด้วยตัวถ่วงที่เป็นในแง่ฉุดนะอือๆแล้วตัว
00:19:39 → 00:19:43 ถ่วงอะไรที่ถ้าเรามีสิ่งนี้แล้วชีวิตเรา
00:19:43 → 00:19:47 จะดีขึ้นอือเออมาถ่วงความถ่วงที่ทำให้เรา
00:19:47 → 00:19:51 เกิดความเจริญน่ะอือฮึในชีวิตนี่ผมนึกถึง
00:19:51 → 00:19:54 นะค่ะยกตัวอย่างเช่นนะเอาง่ายๆเลยเนี่ย
00:19:54 → 00:19:56 พี่อ้อยตั้งแต่คุณผู้ฟังครับที่ผมพูดตั้ง
00:19:56 → 00:19:59 แต่ต้นรายการว่าผมเป็นตัวถ่วงเนี่ยค่ะ
00:19:59 → 00:20:02 แล้วจริงๆพี่อ้อยก็เป็นตัวถ่วงด้วยนะค่ะ
00:20:02 → 00:20:04 แต่ว่าพี่อ้อยเนี่ยเป็นตัวถ่วงที่ทำให้
00:20:04 → 00:20:07 เกิดความเจริญเอาจริงๆรายการนี้ดีขึ้น
00:20:07 → 00:20:10 เรื่อยๆนะเพราะว่าพี่อ้อยเป็นตัวถ่วงอุย
00:20:10 → 00:20:13 ขอบพระคุณค่ะถ่วงว่าอะไรหรือมั้ยอย่าง
00:20:13 → 00:20:16 เช่นถ้าเกิดว่าปล่อยให้ผมทำในแบบวิถีผมนะ
00:20:16 → 00:20:19 มันก็จะไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกแต่ว่าพี่อ้อย
00:20:19 → 00:20:23 มาถ่วงด้วยกันบอกไหนลองทำแบบนี้สิเอเนี่ย
00:20:23 → 00:20:26 คุณผู้ฟังเชื่อมยครับว่าเนี่ยกระดาษแผ่น
00:20:26 → 00:20:29 นึงที่อยู่ตรงหน้าผมเนี่ยเป็นสิ่งที่พี่
00:20:29 → 00:20:33 อ้อยทำขึ้นมาปกติผมไม่ทำนะพี่อ้อยมาถ่วง
00:20:33 → 00:20:37 ผมบอกทำแบบนี้ดูซิอะไรเงี้ยเดี๋ยวคุณผู้
00:20:37 → 00:20:40 ฟังสงสัยกระดาษอะไรกระดาษแผ่นนี้ก็คือ
00:20:40 → 00:20:42 เป็นกระดาษที่พี่อ้อยเขียนเป็นขั้นตอนว่า
00:20:42 → 00:20:46 เวลาที่เราบันทึกรายการเนี่ยไอ้แผงควบคุม
00:20:46 → 00:20:48 ที่อยู่ข้างหน้าเราเนี่ยถ้าเราจำไม่ได้
00:20:48 → 00:20:52 เราก็ทำมาเป็นกระดาษสิมาเป็นไกด์ไลน์มา
00:20:52 → 00:20:56 เป็นตัวเป็นเครื่องมือในการช่วยเรา
00:20:56 → 00:20:58 เครื่องมือช่วยค่ะว่าทำแบบนี้แบบนี้ไอ้
00:20:58 → 00:21:02 เนี่ยพี่อ้อยเป็นเป็นคนถ่วงนะออพอค่ะทำ
00:21:02 → 00:21:05 สิ่งนี้มาปุ๊บถ่วงแล้วทำให้สิ่งที่เราทำ
00:21:05 → 00:21:09 เนี่ยมันดีขึ้นอออย่างเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:21:09 → 00:21:11 เนี่ยคุณผู้ฟังครับในชีวิตเราเนี่ยถ้าเรา
00:21:11 → 00:21:15 หาเจอว่าอะไรคือสิ่งที่ถ่วงเราแล้วทำให้
00:21:15 → 00:21:20 เราไม่เจริญออืถ้าเราหาเจอเราจะมีวิธี
00:21:20 → 00:21:23 อย่างเช่นผมไปคุยกับน้อง 23 คนเมื่อเร็วๆ
00:21:23 → 00:21:26 นี้เนี่ยค่ะเค้ามีปัญหาเรื่องการที่เค
00:21:26 → 00:21:30 ตื่นเช้าไม่ไหวอืทำให้เเป็นคนที่แบบไม่
00:21:30 → 00:21:33 เจริญักทีอย่าเงี้ยอืเนี่ยเราก็ต้องหา
00:21:33 → 00:21:35 วิธีเคลียร์เราก็ต้องหาเหตุว่าไอ้ที่เขา
00:21:35 → 00:21:38 ตื่นเช้าไม่ไหวเพราะอะไรอือๆเป็นเพราะว่า
00:21:38 → 00:21:40 เค้านอนดึกหรือเปล่าอือนอนดึกเพราะอะไร
00:21:40 → 00:21:42 เป็นเพราะเล่นเกมหรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ย
00:21:42 → 00:21:47 ใช่มือถือมันค่อยๆหาจนเจอค่ะถ้าเกิดว่าเ
00:21:47 → 00:21:49 เจอแล้วแล้วเยังอยากจะเป็นอย่างงั้นต่อย
00:21:49 → 00:21:53 ก็เรียนเชิญก็ต้องปล่อยไปตามนั้นใช่แต่
00:21:53 → 00:21:56 แล้วเราช่วยให้เค้าหาเจอว่าอะไรที่มัน
00:21:56 → 00:21:59 ถ่วงเขาอยู่ที่ทำให้เขาไม่เจริญ
00:21:59 → 00:22:02 พอเจอปุ๊บหน้าที่ที่จะลุกขึ้นมาแล้วก็ลง
00:22:02 → 00:22:07 มือทำอือก็เป็นของเาเอือส่วนอีกอย่างนึง
00:22:07 → 00:22:10 ในชีวิตเนี่ยผมสังเกตเห็นหลายอย่างเนี่ย
00:22:10 → 00:22:14 คนเราก็จะมีอะไรบางอย่างที่ถ้ามีใครสักคน
00:22:14 → 00:22:18 มาถ่วงเราอย่างเช่นสมมุติว่าเราเป็นคนที่
00:22:18 → 00:22:21 ชอบแบบผลัดวันประกันพุ่งสมมุติเี้ยใช่ๆ
00:22:21 → 00:22:25 แล้วมีคนมาถ่วงเราอือันเนี้ยก็คือเป็น
00:22:25 → 00:22:28 ถ่วงที่ทำให้เราเกิดความเจริญค่ะหรือคน
00:22:28 → 00:22:31 บางคนที่แบบว่าไม่แน่ใจนะบางคนอาจจะมีแบบ
00:22:31 → 00:22:35 ประเภทแบบเอ่อพูดแล้วไม่ให้ความสำคัญกับ
00:22:35 → 00:22:38 คำพูดตัวเองอ่าไม่รักษาคำพูดไม่รักษาคำ
00:22:38 → 00:22:42 พูดอย่างเงี้ยแล้วถ้าเกิดว่ามีใครมาทำ
00:22:42 → 00:22:45 อะไรบางอย่างที่ถ่วงที่ทำให้เขาคดีขึ้นใน
00:22:45 → 00:22:48 อาการเหล่านั้นอย่างเงี้ยอือก็ชีวิตเค้า
00:22:48 → 00:22:51 ก็จะดีขึ้นเพราะตัวถ่วงใช่มั้ยฮะอก็
00:22:51 → 00:22:55 เหมือนกับนึกถึงตุ๊กตาหินนะครับเรือที่
00:22:55 → 00:22:57 มันวิ่งแล้วมันโครงเครงเนี่ยมันอันตรายอ
00:22:58 → 00:23:00 แต่บางอย่างที่มาถ่วงและทำให้เรือไม่
00:23:00 → 00:23:01 โคครง
00:23:01 → 00:23:05 เครงชีวิตเราอ่ะหรือว่าที่พี่อ้อยพูดถึง
00:23:05 → 00:23:08 ตั้งแต่แรกตัวอย่างก็คืออะไรนะถ่วงถ่วง
00:23:08 → 00:23:12 ล้ออย่างเงี้ยถ่วงล้อรถตะกั่วที่มาใส่
00:23:12 → 00:23:15 แล้วทำให้ล้อมันหนักขึ้นแล้วทำให้มันสูญ
00:23:15 → 00:23:19 มันตรงขึ้นค่ะยางมันก็จะไม่สึกอย่างเงี้ย
00:23:19 → 00:23:22 แต่จริงๆชีวิตของใครก็ไม่ไม่เหมือนใครนะ
00:23:22 → 00:23:26 ใช่ผมเชื่อว่าคุณผู้ฟังลองสังเกตดูว่า
00:23:26 → 00:23:30 ชีวิตเรามีอะไรบ้างที่ห่วงฉุดล้างเราหา
00:23:30 → 00:23:34 เจอแล้วก็เคลียร์อันนี้การเจอหาเจอการจะ
00:23:34 → 00:23:38 บอกตัวเองมันต้องมันต้องบอกอย่างตรงไปตรง
00:23:38 → 00:23:42 มาอ่าใช่ถ้าแบบว่ายังอยากที่จะแบบไม่
00:23:42 → 00:23:46 เปลี่ยนแปลงอยากจะอยู่ตรงแบบสบายแบบเดิม
00:23:46 → 00:23:49 หรืออะไรเี้คุงก็อาจจะคิดไม่ออกใช่ก็บาง
00:23:49 → 00:23:51 ทีก็หลอกตัวเองเจอได้ก็ยังหลอกตัวเองอย่า
00:23:51 → 00:23:54 เงี้นะใช่ใช่เอ่อพี่อ้อยจะใช้คำว่าฮ้วกับ
00:23:54 → 00:23:57 ตัวเองเออๆฮัวกับตัวเองใช่ๆซูเอียกับตัว
00:23:57 → 00:24:00 เองใช่มั้ยค่ะั้นถ้าเราหาเจอทั้ง 2 ฟากนะ
00:24:00 → 00:24:04 ถ้าเราหาเจอปุ๊บผมเชื่อว่าชีวิตเราจะดี
00:24:04 → 00:24:08 ขึ้นนะฮะอืไม่ว่าจะหาเจอตัวถ่วงความเจริญ
00:24:08 → 00:24:11 หรือตัวถ่วงที่ทำให้เกิดความเจริญซึ่งเรา
00:24:11 → 00:24:15 ก็ต้องหานะครับวันนี้สัญกรรมความสุขผมพี่
00:24:15 → 00:24:18 วีและพี่อ้อยก็ต้องลาไปก่อนครับสวัสดี
00:24:18 → 00:24:20 ครับสวัสดี
00:24:20 → 00:24:24 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:24:24 → 00:24:28 แอปพลิเคชันของไย PBS podcast spotify
00:24:29 → 00:24:31 Google podcast Apple podcast และ
00:24:31 → 00:24:34 YouTube Channel Thai PBS podcast
00:24:34 → 00:24:38 Thai PBS podcast View the world
00:24:38 → 00:24:39 via The Voice
00:24:39 → 00:24:45 [เพลง]