00:00:01 → 00:00:04 คลิปวิดีโอให้ความรู้แนะนำผู้ป่วยเกี่ยว
00:00:04 → 00:00:08 กับการใช้ยาวาฟารินการใช้ยาวาฟารินรูปแบบ
00:00:08 → 00:00:11 และขนาดของยาวาฟารินที่มีในโรงพยาบาล
00:00:11 → 00:00:14 จุฬาลงกรณ์สภากาชาตไทยมีอยู่ด้วยกัน 4
00:00:14 → 00:00:18 ขนาดคือ 1 ขนาดความแรง 1 มิลกรัมเม็ดกลม
00:00:18 → 00:00:23 สีขาวยี่ห้อมาฟแรน 2 ขนาดความแรง 2 มกร
00:00:23 → 00:00:25 เม็ดกลมสีส้มยี่ห้อ
00:00:25 → 00:00:30 ฟรน 3 ขนาด 3 มิลกรัมเม็ดกลมสีฟ้ายี่ห้อ
00:00:30 → 00:00:34 ออฟฟินและ 4 ขนาด 5 มิลกรัมเม็ดกลมสีชมพู
00:00:34 → 00:00:37 ยี่ห้อมาฟแรนหรือ
00:00:37 → 00:00:40 ออฟิความสำคัญของการรับประทานยาวาฟาริน
00:00:40 → 00:00:44 วาฟารินเป็นยาที่ออกริต้านการแข็งตัวของ
00:00:44 → 00:00:47 เลือดใช้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดซึ่งอาจ
00:00:47 → 00:00:50 ไปอุดตันตามเส้นเลือดต่างๆในร่างกายดัง
00:00:50 → 00:00:53 นั้นแพทย์จึงสั่งจ่ายยาวาฟารินเมื่อร่าง
00:00:53 → 00:00:56 กายเสี่ยงต่อการสร้างลิ่มเลือดซึ่งลิ่ม
00:00:56 → 00:00:58 เลือดดังกล่าวอาจหลุดลอยไปอุดตันตามเส้น
00:00:59 → 00:01:02 เลือดที่อวัยยวะสำคัญต่างๆทำให้เกิดภาวะ
00:01:02 → 00:01:05 แทรกซ้อนที่รุนแรงเช่นการเกิดสกหรือ
00:01:05 → 00:01:09 อัมพฤกษ์อัมพาตเป็นต้นดังนั้นผู้ป่วยห้าม
00:01:09 → 00:01:13 เพิ่มหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเองโดยเด็ด
00:01:13 → 00:01:17 ขาดผู้ป่วยที่รับประทานยาวาฟารินต้องมี
00:01:17 → 00:01:20 การนัดติดตามผลการรักษาด้วยยาโดยติดตาม
00:01:20 → 00:01:22 จากค่า
00:01:22 → 00:01:25 irr inr เป็นค่าที่ใช้บอกถึง
00:01:25 → 00:01:28 ประสิทธิภาพของการรักษาด้วยยาวาฟารินมี
00:01:28 → 00:01:32 ความสำคัญคือแพทย์ใช้พิจารณาในการปรับ
00:01:32 → 00:01:35 ขนาดยาผู้ป่วยจำเป็นต้องมาเจาะเลือดติด
00:01:35 → 00:01:39 ตามค่า inr เป็นระยะตามที่แพทยสั่งโดยค่า
00:01:39 → 00:01:42 เป้าหมายของ irr นั้นปกติแล้วจะอยู่ใน
00:01:42 → 00:01:47 ช่วง 2-3 หรืออยู่ในช่วง 2.5 -3.5 ในผู้
00:01:47 → 00:01:51 ป่วยบางรายหากค่า inr ของผู้ป่วยต่ำกว่า
00:01:51 → 00:01:54 ค่าเป้าหมายอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิด
00:01:54 → 00:01:57 ลิ่มเลือดได้และถ้าหากผู้ป่วยมีค่า inr
00:01:57 → 00:02:00 สูงกว่าเป้าหมายอาจเสี่ยงต่อการเกิดเลือด
00:02:00 → 00:02:04 ออกได้ข้อปฏิบัติในผู้ป่วยที่รับประทานยา
00:02:04 → 00:02:08 วาฟาริน 1 การรับประทานยาวาฟารินผู้ป่วย
00:02:08 → 00:02:10 ต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่ง
00:02:10 → 00:02:14 ครัดรับประทานยาสม่ำเสมอและไม่หยุดยาเอง
00:02:14 → 00:02:17 รับประทานยาเวลาเดียวกันของทุกวันยกตัว
00:02:17 → 00:02:20 อย่างเช่นผู้ป่วยรับประทานยาวาฟารินเวลา
00:02:21 → 00:02:25 20:00 นหรือ 20:00 นของทุกวันเป็นต้นข้อ
00:02:25 → 00:02:28 2 ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยากรณีที่
00:02:28 → 00:02:31 ลืมรับประทานยาไม่เกิน 12 ช่วโมงให้รับ
00:02:31 → 00:02:34 ประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ในขนาดยาเท่า
00:02:34 → 00:02:38 เดิมเช่นผู้ป่วยรับประทานยาเวลา 20 นหรือ
00:02:38 → 00:02:41 20:00 นของทุกวันหากลืมรับประทานยาและ
00:02:41 → 00:02:44 นึกขึ้นได้ก่อน 8:00 นหรือ 8:00 นในวัน
00:02:44 → 00:02:47 ถัดมาให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ใน
00:02:47 → 00:02:52 ขนาดยาเท่าเดิมกรณีที่ลืมรับประทานยาเกิน
00:02:52 → 00:02:55 12 ชั่วโมงให้ข้ามมื้อนั้นไปและรับ
00:02:55 → 00:02:58 ประทานมื้อถัดไปในขนาดเท่าเดิมเช่นผู้
00:02:58 → 00:03:01 ป่วยรับประทานยาเวลา 20:00 นหรือ 20:00 น
00:03:01 → 00:03:04 ของทุกวันหากลืมรับประทานยาและลึกขึ้นได้
00:03:04 → 00:03:08 หลัง 8:00 นหรือ 8:00 นในวันถัดมาให้ข้าม
00:03:08 → 00:03:11 มื้อนั้นไปและรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ
00:03:11 → 00:03:15 ในขนาดยาเท่าเดิมโดยไม่เพิ่มขนาดยาเป็น 2
00:03:15 → 00:03:19 เท่าหากผู้ป่วยลืมรับประทานยาให้จดบันทึก
00:03:19 → 00:03:22 ทุกครั้งเมื่อลืมรับประทานยาและนำข้อมูล
00:03:22 → 00:03:26 ดังกล่าวมาแจ้งให้แพทย์ทราบข้อที่ 3 ต้อง
00:03:26 → 00:03:28 แจ้งแพทย์ทันตแพทย์ให้ทราบว่ารับประทาน
00:03:28 → 00:03:31 ยาวาฟารินอยู่ผู้ป่วยที่รับประทานยา
00:03:31 → 00:03:34 วาฟารินต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบว่ารับประทาน
00:03:34 → 00:03:37 ยาวาฟารินอยู่โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วย
00:03:37 → 00:03:40 ต้องเข้ารับการทำหัตถการเช่นการ่าตัดหรือ
00:03:40 → 00:03:43 ถอนฟันเนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิด
00:03:43 → 00:03:47 เลือดออกได้ข้อที่ 4 ต้องแจ้งแพทย์พสกร
00:03:47 → 00:03:50 ให้ทราบก่อนการซื้อยาสมุนไพรหรืออาหาร
00:03:50 → 00:03:53 เสริมมารับประทานผู้ป่วยที่รับประทานยา
00:03:53 → 00:03:56 วาฟารินต้องแจ้งแพทย์และพระสาชกรให้ทราบ
00:03:56 → 00:03:59 ทุกครั้งว่ารับประทานยาวาฟารินอยู่ก่อน
00:03:59 → 00:04:02 การซื้อยาสมุนไพรหรืออาหารเสริมมารับ
00:04:02 → 00:04:05 ประทานเนื่องจากอาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของ
00:04:05 → 00:04:09 ยาวาฟารินได้ข้อที่ 5 การปฏิบัติตัวเมื่อ
00:04:09 → 00:04:12 เกิดอุบัติเหตุหากเกิดอุบัติเหตุมีบาดแผล
00:04:12 → 00:04:15 ที่มีเลือดออกให้รีบห้ามเลือดโดยใช้ผ้า
00:04:15 → 00:04:18 สะอาดกดตรงบาดแผลให้แน่นหากเลือดไหลไม่
00:04:18 → 00:04:22 หยุดให้รีบมาพบแพทย์ข้อที่ 6 พกสมุดประจำ
00:04:22 → 00:04:25 ตัวผู้ป่วยที่ใช้ยาวาฟารินทุกครั้งผู้
00:04:25 → 00:04:28 ป่วยที่รับประทานยาวาฟารินต้องนำสมุด
00:04:28 → 00:04:30 ประจำตัวผู้ป่วยที่ที่รับประทานยาวาฟาริน
00:04:30 → 00:04:33 มาด้วยทุกครั้งที่พบแพทย์เพื่อให้แพทย์
00:04:33 → 00:04:36 หรือพัชกรบันทึกผลเลือดและวิธีการรับ
00:04:36 → 00:04:40 ประทานยา 7 ตัวอย่างรายการยาที่อาจมีผล
00:04:40 → 00:04:43 ต่อการออกฤทธิ์ของยาวาฟารินยาที่เพิ่ม
00:04:43 → 00:04:46 ฤทธิ์ของวาฟารินอาจเพิ่มความเสี่ยงในการ
00:04:46 → 00:04:50 เกิดเลือดออกได้เช่นยาปฏิชีวนะบางตัวยา
00:04:50 → 00:04:52 รักษาชราบางตัวหรือยาแก้ปวดในกลุ่ม
00:04:52 → 00:04:57 เอ็นเสดเป็นต้นยาที่ลดฤทธิ์ของวาฟารินอาจ
00:04:57 → 00:05:00 เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดเช่นยา
00:05:00 → 00:05:03 ในกลุ่มยากัญชักยาปฏิชีวนะบางตัวหรือยา
00:05:03 → 00:05:08 รักษาไทรรอยด์เป็นต้น 8 ตัวอย่างสมุนไพร
00:05:08 → 00:05:10 ที่อาจมีผลเพิ่มการออกฤทธิ์ของยาวาฟาริน
00:05:10 → 00:05:14 ได้แก่สารสกัดจากใบแปะ
00:05:14 → 00:05:19 ก๊วยสารสกัดจากฟ้าทลายโจรสารสกัดจาก
00:05:19 → 00:05:23 กระเทียมชะเอมเทศและยาแผนโบราณที่มีส่วน
00:05:24 → 00:05:26 ประกอบของชะเอมเทศ
00:05:26 → 00:05:29 ตัวอย่างสมุนไพรที่อาจมีผลลดการออกฤทธของ
00:05:29 → 00:05:31 ยาวาฟารินได้
00:05:31 → 00:05:35 แก่โสมจีนโสม
00:05:35 → 00:05:39 เกาหลีชา
00:05:39 → 00:05:42 เขียวตัวอย่างอาหารเสริมที่อาจมีผลลดการ
00:05:42 → 00:05:46 ออกฤทธิ์ของยาวาฟารินเช่นโคเอนไซม์คิวเทน
00:05:46 → 00:05:49 ผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยาวาฟารินและมี
00:05:49 → 00:05:51 การทานอาหารเสริมหรือใช้สมุนไพรดังข้าง
00:05:51 → 00:05:55 ต้นควรมีการแจ้งให้แพร่ทราบทุกครั้งและ
00:05:55 → 00:05:58 ไม่ควรมีการปรับเพิ่มลดหรือหยุดการรับ
00:05:58 → 00:06:01 ประทานสมุนไพรและอาหารเสริมทันทีเนื่อง
00:06:01 → 00:06:04 จากอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนระดับของ irr
00:06:04 → 00:06:06 ได้และผู้ป่วยที่ต้องการจะรับประทานอาหาร
00:06:06 → 00:06:09 เสริมหรือสมุนไพรเพิ่มเติมควรมีการปรึกษา
00:06:09 → 00:06:12 แพทย์ก่อนเพื่อป้องกันการเกิดอันตรกิริยา
00:06:12 → 00:06:15 ที่อาจจะเกิดขึ้น 9 ระวังการรับประทาน
00:06:15 → 00:06:17 อาหารบางชนิดแต่ไม่ต้องงดหรือเลงการรับ
00:06:17 → 00:06:19 ประทานแต่ให้รับประทานในปริมาณใกล้เคียง
00:06:19 → 00:06:23 กันในทุกวันตัวอย่างของอาหารเช่นอาหารที่
00:06:23 → 00:06:26 มีวิตามิน K สูงซึ่งอาหารที่มีวิตามิน K
00:06:26 → 00:06:29 สูงอาจลดิของยาวาฟารินตัวอย่างเช่นถักใบ
00:06:29 → 00:06:30 เขียว
00:06:30 → 00:06:31 [เพลง]
00:06:31 → 00:06:34 อาหารที่มีวิตามินอสูงอาหารที่มีวิตามิน E
00:06:34 → 00:06:37 สูงสามารถเพิ่มฤทธิ์ของยาวาฟารินตัวอย่าง
00:06:37 → 00:06:40 คือน้ำมันจากพืชบางชนิดเช่นน้ำมันมะกอก
00:06:40 → 00:06:43 น้ำมันแคโนหรือน้ำมันถุ่น
00:06:43 → 00:06:48 เหลืองอาหารเสริมบางชนิดเช่นน้ำมันปลาอาจ
00:06:48 → 00:06:51 เพิ่มฤทธิ์ของยา
00:06:51 → 00:06:54 ฟารินนอกจากนี้ยังมีอาหารอื่นๆอีกที่ควร
00:06:54 → 00:06:57 ระมัดระวังเช่นมะม่วงสุกซึ่งมีผลเพิ่ม irr
00:06:57 → 00:07:01 ในกรณีทานมากกว่า 1 ลูกต่อกัน 2 วันขึ้น
00:07:01 → 00:07:06 ไปหรือนมถั่วเหลืองและอะโวคาโดซึ่งทั้ง 2
00:07:06 → 00:07:09 มีผลในการลด inr หากรับประทานอย่างต่อ
00:07:09 → 00:07:12 เนื่อง 10 หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่ม
00:07:12 → 00:07:15 แอลกอฮอล์ทั้งนี้เนื่องจากการสูบบุหรี่
00:07:15 → 00:07:18 และดื่มแอลกอฮอล์จะสามารถส่งผลต่อระดับ
00:07:18 → 00:07:21 ของยาฟารินได้ดังนั้นผวป่วยที่มีการสูบ
00:07:21 → 00:07:24 บุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จึงควรมีการแจ้ง
00:07:24 → 00:07:26 ให้แพทย์ทราบทุก
00:07:26 → 00:07:30 ครั้ง 11 แจ้งให้แพทย์ทราบกรณีตั้งครรภ์
00:07:30 → 00:07:32 หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ทั้งนี้เนื่องจากยา
00:07:33 → 00:07:36 วาฟารินสามารถส่งผลให้เกิดพิษต่อทารกใน
00:07:36 → 00:07:38 ครรภ์
00:07:38 → 00:07:42 ได้อาการที่ต้องรีบมาพบแพทย์ผู้ป่วยควร
00:07:42 → 00:07:45 สังเกตอาการที่บ่งชี้ภาวะเกิดเลิศออกเช่น
00:07:45 → 00:07:48 การเกิดจ้ำเลือดที่หายช้าหรือเกิดโดยไม่
00:07:48 → 00:07:51 มีสาเหตุการบวดศีรษะรุนแรงเลือดไหลไม่
00:07:51 → 00:07:54 หยุดหรือไหลมากกว่าปกติรวมถึงมีอุจจาระ
00:07:54 → 00:07:57 หรือปัสสาวะปน
00:07:57 → 00:08:00 เลือดและสังเกตอารที่บ่งชี้การเกิดเลื่อง
00:08:00 → 00:08:04 ดอุดตันตัวอย่างเช่นอาการปากเบี้ยวแขน
00:08:04 → 00:08:07 หรือขาอ่อนแรงครื่งซีกชาพูดไม่ชัดพูด
00:08:07 → 00:08:10 ลำบากหรือได้ยินเสียงลิ้นหัวใจเบาลงใน
00:08:10 → 00:08:13 กรณีที่ใส่ลิ้นหัวใจเทียมร่วมกับมีอาการ
00:08:13 → 00:08:15 เจ็บแน่นหน้า
00:08:15 → 00:08:18 อกวิธีการเก็บรักษายาผู้ป่วยที่รับยา
00:08:18 → 00:08:22 วาฟารินควรมีการเก็บยาให้พ้นแสงและความ
00:08:22 → 00:08:25 ชื้นโดยใส่ในซองสีชาที่ทางโรงพยาบาลจัด
00:08:25 → 00:08:28 ให้หรือเก็บในขวดปิดมิดชิดตรวจสอบวันหมด
00:08:28 → 00:08:32 อายุทุกครั้งหลังจากรับยาเก็บยาให้พ้นมือ
00:08:32 → 00:08:34 เด็กและในกรณีที่ต้องรับประทานยาแบบหัก
00:08:34 → 00:08:37 แบ่งอย่าหักแบ่งเม็ดยาไว้ทั้งซองหรือทีละ
00:08:37 → 00:08:40 หลาย
00:08:40 → 00:08:58 [เพลง]
00:08:58 → 00:09:03 เม็ดแ
00:09:03 → 00:09:08 [เพลง]