00:00:00 → 00:00:00 The
00:00:00 → 00:00:04 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:04 → 00:00:08 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือสัยกรรม
00:00:08 → 00:00:11 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:11 → 00:00:14 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อย
00:00:15 → 00:00:19 ลงพี่วีคะครับผมจากประสบการณ์อันยาวนาน
00:00:19 → 00:00:23 ของพี่วีของผมยาวของพี่อ้อยยาว
00:00:23 → 00:00:28 กว่าพี่วีน่าจะเคยเห็นคนที่ผีเข้านะเออ
00:00:28 → 00:00:31 เคยมั้ยเคยเคยเห็นแต่ไม่แน่ใจอ่ะอาการ
00:00:32 → 00:00:34 เหมือนผีเข้าอะไรเงี้ยอต้องเห็นในข่าวใน
00:00:34 → 00:00:36 หนังในอะไรเออแต่อย่างงั้นน่ะนั้นเคยเห็น
00:00:36 → 00:00:40 ใช่อืพี่อ้อยก็เห็นแนวๆนั้นน่ะเออๆเออแต่
00:00:40 → 00:00:43 ว่าเมื่อไม่กี่วันเนี้ยมีคนมาเล่าว่าเโดน
00:00:43 → 00:00:47 ขผีเข้าจริงึป่ะจริงแล้วก็แต่ว่าพี่อ้อย
00:00:47 → 00:00:49 ว่ามีแปลกกว่านั้นอีกพี่หวีมีแปลกกว่า
00:00:49 → 00:00:52 นั้นอีกคือผมว่าคนโดนผีเข้านี่ก็แปลกแล้ว
00:00:52 → 00:00:57 นะใช่ใช่่แบบที่แปลกที่ว่าเนี่ยคือคือผี
00:00:57 → 00:01:00 ก็ไม่ใช่แต่สิงเก่ง
00:01:00 → 00:01:05 [เพลง]
00:01:05 → 00:01:07 โอ้โหอันนี้แปลก
00:01:07 → 00:01:11 จริงคือคุณผู้ฟังครับคือถ้าเกิดว่าเรา
00:01:11 → 00:01:15 เห็นอาการแบบคือต้องบอกก่อนนะตอนนี้เลยนะ
00:01:15 → 00:01:18 ถ้าเกิดเป็นรายการทีวีนะพี่อ้อนต้องมีคำ
00:01:18 → 00:01:21 เตือนขึ้นเลยเออะไรนะโปรดใช้วิจารณ
00:01:21 → 00:01:24 วิจารณญาณโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมใช่
00:01:24 → 00:01:26 มั้ยแต่อันนี้ไม่ใช่รายการทีวีเป็นรายการ
00:01:26 → 00:01:31 พสเนี่ยเลยไม่มีอเตนใช้วิจารณญาณในการรับ
00:01:32 → 00:01:34 ฟังคือเพราะเรากำลังพูดถึงเรื่องพี่ออย
00:01:34 → 00:01:37 พูดถึงเรื่องเปิดประเด็นมาเรื่องผีผีเข้า
00:01:37 → 00:01:41 ออือๆแต่ว่ามีซึ่งถ้าบอกว่าเจอคนผีเข้า
00:01:41 → 00:01:44 นี่ก็แปลกก็แปลกแล้วนะก็แปลกค่ะแล้วเพราะ
00:01:44 → 00:01:47 ว่าเวลาที่เราดูเราก็เอ๊ผีจริงผีปลอมใช่
00:01:47 → 00:01:50 จริงไม่หรือเราไม่รู้นะฮะเราไม่รู้แต่ว่า
00:01:50 → 00:01:53 ที่พี่อ้อยพูดนี่ก็แปลกหนักเไปอีกผีก็ไม่
00:01:53 → 00:01:57 ใช่แต่สิงเก่งเนี่ยใช่มันคือมันคืออะไร
00:01:57 → 00:02:01 ครับเนี่ยมันคือเดี๋ยวเรามาดูอาการเอคน
00:02:01 → 00:02:03 นี้ก่อนที่พี่อ้อยถามเค้าเออๆคือพี่อ้อย
00:02:04 → 00:02:07 สงสัยมากเลยว่าคือเราเคยเห็นคนทั่วไปเรา
00:02:07 → 00:02:10 ก็ไม่รู้ใช่มั้ยฮะว่ามันเป็นยังไงพอดีคน
00:02:10 → 00:02:13 เนี้ยรู้จักกันสนิทกันเขาคก็มาเล่าแล้ว
00:02:13 → 00:02:16 ปรากฏว่าเราก็เลยถามเค้าเราอยากรู้สิ่ง
00:02:16 → 00:02:19 เนี้ยบอกว่าตอนที่ถูกผีเข้ามันเป็นไงเบอก
00:02:19 → 00:02:23 ว่าอยู่ๆเขาก็เหมือนแบบหนักอึ้งเข้ามาเลย
00:02:23 → 00:02:27 แล้วเอ่ะรู้ตัวอือแต่เขาควบคุมตัวเองไม่
00:02:27 → 00:02:31 ได้อ๋อเออเอแล้วเควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
00:02:31 → 00:02:34 เาก็พยายามดิ้นรนพยายามอะไรอย่างเงี้ยเออ
00:02:34 → 00:02:37 อันนี้มันก็เป็นสิ่งที่แปลกเนาะอืค่ะแล้ว
00:02:37 → 00:02:40 เราก็ไม่ไม่รู้หรอกว่ามันอาการนั้นมันมัน
00:02:40 → 00:02:44 ผีหรือมันคืออาการทางกายภาพอะไรเออใช่ๆ
00:02:44 → 00:02:47 ใช่มั้ยคะแต่ว่าอันที่เราอยากชวนคุยวัน
00:02:47 → 00:02:52 เนี้ยอือผีก็ไม่ใช่แต่สิงเกงถ้าผีก็ต้อง
00:02:52 → 00:02:55 สิงใช่มั้ยเออๆผีสิงผีสิงเออผีเนี่ยมัน
00:02:55 → 00:02:58 ต้องสิงแต่ว่าถ้าผีไม่ใช่ล่ะแล้วจะสิงยัง
00:02:58 → 00:03:01 ไงนะพี่วีคิดว่ายังไงประมาณว่าเหมือนกับ
00:03:01 → 00:03:04 ใครสักคนนึงคือสมมุติว่าคุณคุณเป็นคนคน
00:03:04 → 00:03:09 นึงคุณไม่ใช่ผีอ่าเออคคนเคนนี่แหละคุณจะ
00:03:09 → 00:03:12 ไม่ใช่ผีถ้าตามความเข้าใจผมนะถ้าพูดถึงผี
00:03:12 → 00:03:14 ก็ไม่ใช่แต่สิงเก่งเนี่ยหมายความว่าคุณ
00:03:14 → 00:03:18 เนี่ยเป็นคนอือคือคุณไม่ใช่ผีอือแต่คุณ
00:03:18 → 00:03:21 เนี่ยเป็นสิงเก่งคือคุณเป็นคนทั้งๆที่คุณ
00:03:22 → 00:03:27 เป็นคนนะอือแต่คุณไปเข้าสิงอีกคนนึงอเออ
00:03:27 → 00:03:31 ก็คือเป็นคนไงผีไม่ใช่แต่เข้าสิงอืผมก็
00:03:31 → 00:03:33 เลยกำลังพยายามทำความเข้าใจว่าแล้วคน
00:03:33 → 00:03:38 เนี่ยจะไปสิ่งยังไงไปเข้าสิงคนคนอื่นได้
00:03:38 → 00:03:42 ยังไงเออนะอันพอมีคำถามนี้ปุ๊บนะแต่ว่า
00:03:42 → 00:03:46 มันก็ย้อนกลับไปคำอธิบายเมื่อตะกี้ค่ะว่า
00:03:46 → 00:03:49 การที่ผีเข้าสิงเนี่ยหมายถึงว่าคนเมื่อ
00:03:49 → 00:03:51 ตะกี้เนี่ยประสบการณ์เค้าบอกเค้าโดนผี
00:03:51 → 00:03:56 เข้าเนี่ยหมายความว่าเรู้ตัวแต่เขาควบคุม
00:03:56 → 00:04:00 ตัวเองไม่ได้ค่ะๆอ่านั่นก็หยว่าอะไรหมาย
00:04:00 → 00:04:04 ความว่าคนๆนึงจะไปเข้าสิงอีกคนนึงเี่หมาย
00:04:04 → 00:04:07 ความว่าอะไรหมายความว่าคุณเนี่ยไปควบคุม
00:04:07 → 00:04:11 เขาใช่เลยใช่มั้ยคืออาการนี้ใช่มั้ยใช่
00:04:11 → 00:04:15 เลยอ๋อโอหแสดงว่าผมนเดาเก่งนะเนี่ยเดา
00:04:15 → 00:04:19 เก่งมากใช่มั้ยก็คืออาการของคนๆนึงเวลา
00:04:19 → 00:04:22 ที่คุณไปเข้าสิงใครอีกคนนึงเนี่ยไม่ได้
00:04:22 → 00:04:24 หมายความว่าคุณกระโดดเข้าไปอยู่ในตัวเค้า
00:04:24 → 00:04:29 ไม่ใช่แต่ว่าอคุณสามารถเข้าไปควบคุมเขา
00:04:29 → 00:04:30 ได้
00:04:30 → 00:04:34 คือโดยมีเจตนาเข้าไปควบคุมอ่าเข้าไปควบ
00:04:34 → 00:04:39 คุมเราก็ใช้ความพฤติกรรมหรือความพยายาม
00:04:39 → 00:04:43 ที่จะเข้าไปควบคุมแต่คนถูกผีข้าวเนี่ยคน
00:04:43 → 00:04:48 ถูกสิงเนี่ยเขาจะยอมหรือไม่ยอมไม่รู้เอ
00:04:48 → 00:04:51 ไม่รู้แต่ว่าคนที่โดนถ้าเป็นผีปุ๊บเนี่ย
00:04:51 → 00:04:53 ไม่ยอมด้วยแล้วไม่ต้องการไม่อยากด้วยแต่
00:04:53 → 00:04:57 ว่าโดนควบคุมใช่นะแต่ว่าถ้าเป็นคนปึ๊บ
00:04:57 → 00:05:00 เนี่ยเอ้ยอยู่ๆใครจะมามาควบคุมเราเนี่ย
00:05:00 → 00:05:04 ใช่เฮ้ยมันง่ายเหรออืเราก็ยอมมั้ยก็ไม่
00:05:04 → 00:05:07 ยอมแต่ว่าเราไม่ยอมแต่คำถามคือมีมั้ยอ่ะ
00:05:07 → 00:05:10 มีเต็มเลยค่ะอจริงใชป่ะใช่อย่างเช่นอะไร
00:05:10 → 00:05:15 พี่ออยจริงก็คือคนที่ชอบสิ่งคนอื่นก็คือ
00:05:15 → 00:05:18 คนที่ชอบไปควบคุมคนอื่นให้ให้เป็นอย่าง
00:05:18 → 00:05:23 ที่ตัวเองต้องการอเออๆๆโหมีตั้งแต่ระดับ
00:05:23 → 00:05:27 ครอบครัวจนยันประเทศเลยพี่วีโอ้โหเออก็
00:05:27 → 00:05:31 คือถ้าในครอบครัวก็คือพ่อแม่ลูกสามีภรรยา
00:05:31 → 00:05:34 ใช่มั้ยคะถ้าในที่ทำงานก็เอ่อหัวหน้าลูก
00:05:34 → 00:05:38 น้องเจ้านายลูกจ้างอือะไรอย่างเงี้ยถ้า
00:05:38 → 00:05:42 เป็นเอ่อครูอาจารย์นักเรียนอืออะไรประมาณ
00:05:42 → 00:05:48 เนี้ยก็คือมีมีหมดทุกวงการโอเอคุณผู้ฟัง
00:05:48 → 00:05:51 ครับพอพี่ออยพูดแบบนี้ปึ๊บมันมันทำให้
00:05:51 → 00:05:54 เกิดความกระจ่างเลยว่าอไอ้เหตุการแบบนี้
00:05:54 → 00:05:57 มันมีอยู่จริงแล้วมันมีอยู่เยอะเยอะแล้ว
00:05:57 → 00:06:01 มันอยู่เกลื่อนไปหมดใช่โดยที่เราไม่ได้
00:06:01 → 00:06:04 นึกถึงเลยแล้วเราก็ไม่ได้ไม่ได้รู้ไม่ได้
00:06:04 → 00:06:07 สังเกตเลยว่าอ๋อไอ้อาการที่ใครบางคน
00:06:07 → 00:06:12 พยายามทำตัวเข้าไปควบคุมเาด้วยอะไรก็ได้
00:06:12 → 00:06:16 ควบคุมพฤติกรรมควบคุมความคิดควบคุมเป้า
00:06:16 → 00:06:19 หมายควบคุมอันนี้คือการสิงหมดเลยนะเนี่ย
00:06:19 → 00:06:22 ใช่โดยที่ไม่ต้องเป็นผีเลยโดยไม่ต้องเป็น
00:06:22 → 00:06:26 ผีเลยโอ้โหอเพราะฉะนั้นคนที่มีลักษณะชอบ
00:06:26 → 00:06:29 สิ่งคนอื่นเนี่ยอืไม่ว่าคุณจะอยู่ในสั
00:06:29 → 00:06:33 ฐานะได้อ่ะอือๆคุณก็จะทำพฤติกรรมแบบเนี้ย
00:06:33 → 00:06:38 อืเออคุณเป็นพ่อคุณเป็นแม่คุณก็จะสิงลูก
00:06:38 → 00:06:41 อืคุณเป็นหัวหน้าคุณจะสิงลูกน้องอะไร
00:06:41 → 00:06:45 อย่างเงี้ยค่ะสิงโอ้โหยอืหูเยอะๆๆเยอะค่ะ
00:06:45 → 00:06:48 แล้วแต่ว่าก่อนที่จะไปอีกประเด็นนึง้วนะ
00:06:48 → 00:06:51 แต่ผมจะเปิดไว้นิดนึงก่อนมันทำให้เราน่า
00:06:51 → 00:06:55 สนใจที่ว่าคไอ้อาการของการโดนใครสิงหรือ
00:06:55 → 00:07:00 ไปสิงใครเนี่ยมันมี 2 ฟากนะอค่ะคือคนที่
00:07:00 → 00:07:04 เข้าไปสิงเค้าใช่กับอีกประเด็นนึงที่เรา
00:07:04 → 00:07:07 ต้องคำนึงถึงก็คือคนที่โดนสิงใช่ๆแล้วเรา
00:07:07 → 00:07:10 จะรู้ตัวแล้วเราจะทำยังไงเพื่อเราจะได้
00:07:10 → 00:07:13 หลุดจากอาการที่เวไปสิงใครหรือว่าเราจะ
00:07:13 → 00:07:19 หลุดจากอิทธิพลหรือการโดนสิงอ่ะยังไงแต่
00:07:19 → 00:07:22 ว่าเมื่อกี้เนี่ยเอาฟากนี้ก่อนฟากที่ชอบ
00:07:22 → 00:07:26 มาสิงก่อนใช่ผมฟากเนี้ยเออขอโทษค่ะพี่บี
00:07:26 → 00:07:31 ฟากเนี้ยถ้าสมมุติว่าจัดการตัวเองได้เออ
00:07:31 → 00:07:36 ไม่ไปสิงชาวบ้านเออๆมันก็จะลดปัญหาไปเลย
00:07:36 → 00:07:38 คนที่ถูกสิงก็ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาไง
00:07:38 → 00:07:42 เพราะไม่อ่าเพราะฉะนั้นเราเราเราคุย
00:07:42 → 00:07:45 ประเด็นคนไปสิงชอบไปสิงคนอื่นก่อนก่อนเออ
00:07:45 → 00:07:47 อันนี้ต้นเรื่องถ้าไม่มีตรงนู้นก็ไม่มี
00:07:47 → 00:07:50 ตรงนี้นะใช่เพราะคุณเป็นต้นเหตุเนาะแต่
00:07:50 → 00:07:53 มันจะแก้ง่ายมั้ยพี่อ้อยเพราะเไหร่รู้ป่ะ
00:07:53 → 00:07:56 ค่ะเพราะผมเห็นนะส่วนใหญ่เมื่อกี้เนี่ย
00:07:56 → 00:07:58 ตัวอย่างที่พี่อ้อยยกมาหลายตัวอย่างมาก
00:07:58 → 00:08:02 เลยนะค่ะของคนที่ไม่ใช่ผีแต่ชอบไปสิ่งคน
00:08:02 → 00:08:05 อื่นเนี่ยที่แบบนึกว่าจะแก้ง่ายหรือยาก
00:08:05 → 00:08:09 เนี่ยเป็นเพราะว่าสาเหตุของการสิงเนี่ย
00:08:09 → 00:08:13 เป็นเพราะเค้าหวังดีนะใช่กำลังจะพูดเลย
00:08:13 → 00:08:17 ว่าอเหรอสาเหตุที่จะไปสิงคนอื่นเนี่ยเออ
00:08:18 → 00:08:20 ถ้าถ้าพี่อ้อยความคิดของพี่อ้อยนะคะมี 2
00:08:20 → 00:08:24 ข้อหลักๆเลยพี่วีเอออันแรกเลยเนี่ยความ
00:08:24 → 00:08:28 หวังดีที่พี่พี่หวีพูดเนี่ยแหละอืๆพอเรา
00:08:28 → 00:08:32 หวังดีปึ๊บเนี่ยเราจะคาดหวังอือืเราอยาก
00:08:32 → 00:08:36 ให้คนนั้นเค้าเค้าเดีเค้ามีความสุขเค้า
00:08:36 → 00:08:39 อ่าเคเจรินหรืออะไรอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:08:39 → 00:08:42 เราก็เลยคาดหวังเพราะมันเกิดจากความหวัง
00:08:42 → 00:08:46 ดีคือข้อแรกอือข้อที่ 2 ก็คือพี่อ้อยมอง
00:08:46 → 00:08:50 ว่ามันเป็นเรื่องแกบค่ะแบก็คือช่องว่าง
00:08:50 → 00:08:54 เนาะอความไม่เข้าใจช่องว่างเนี่ยมีมีหลาย
00:08:54 → 00:08:59 หลายด้านอือๆเช่นเอ่อ mindset หลักคิดที่
00:08:59 → 00:09:03 ที่มีช่องว่างอือเช่นตำแหน่งหน้าที่การ
00:09:03 → 00:09:07 งานที่มีช่องว่างอืหรือ Generation Gap
00:09:07 → 00:09:11 เลยแหละอวอ่าวเพราะฉนั้นพี่อ้อยก็เลยมอง
00:09:11 → 00:09:16 ว่ามันมี 2 ข้อหลักๆนี่แหละที่มันทำให้
00:09:16 → 00:09:23 เกิดความที่อยากจะไปควบคุมคนอื่นอือ่า
00:09:23 → 00:09:27 เพื่อให้เขาดีได้ดังใจหรืออะไรก็ว่าตตาม
00:09:27 → 00:09:30 ที่เราคิดอืตามที่เราคิดตามที่เราเข้าใจ
00:09:30 → 00:09:34 ค่ะเนี่ยโอหผมนึกถึงคู่แรกเลยพี่อ้อยแล้ว
00:09:34 → 00:09:36 มันจะทำให้เรานึกถึงอันนี้เพราะว่ามันจะ
00:09:36 → 00:09:39 มีคำอยู่คำที่เราได้ยินน่ะพี่อ้อยค่ะก็
00:09:39 → 00:09:44 คือพ่อแม่กับลูกนี่แหละอืใช่มั้ยค่ะแล้ว
00:09:44 → 00:09:46 เราก็จะแบบว่าตอนที่เราเป็นลูกเี่เราจะ
00:09:46 → 00:09:50 แบบเฮืยทำไมต้องเออทำไมต้องอย่างทำไมต้อง
00:09:50 → 00:09:53 อย่างงั้นทำไมต้องอย่างงี้แล้วยกตัวอย่าง
00:09:53 → 00:09:56 เคสที่ผมเจอทุกปีนะเจออยู่บ่อยๆเลยนะค่ะ
00:09:56 → 00:09:59 ก็คือต้องต้องมีพ่อแม่หรือไม่ก็ลูกมา
00:09:59 → 00:10:03 ปรึกษาเรื่องนี้ทุกปีเลยก็คือตอนที่เลือก
00:10:03 → 00:10:05 เรียนคณะอะไรไม่เลือกเรียนคณะอะไรอย่าง
00:10:05 → 00:10:08 เงี้ยอันนี้เป็นเป็นหนึ่งเรื่องนะฮะหรือ
00:10:08 → 00:10:10 ลูกพ่อแม่ก็บอกว่าลูกชอบเป็นอย่างงั้นลูก
00:10:10 → 00:10:13 ชอบเป็นอย่างงี้ทำยังไงดีลูกก็มาปรึกษา
00:10:13 → 00:10:15 ว่าพ่อแม่ชอบเป็นอย่างงั้นชอบเป็นอย่าง
00:10:15 → 00:10:19 งี้เอ่อทำไงดีมาจากเรื่องนี้เลยใช่เนี่ย
00:10:19 → 00:10:24 โดนโดนควบคุมโดนสิงเอแต่คราวนี้ผมนึกถึง
00:10:24 → 00:10:26 พ่อแม่เป็นคู่แรกนี่เพราะอะไรพี่อ้อย
00:10:26 → 00:10:28 เพราะว่าพี่อ้อยไปพูดเกี่ยวกับเรื่องของ
00:10:28 → 00:10:31 ความปรารถนาดีพูดเกี่ยวกับเรื่องของแป
00:10:31 → 00:10:34 ช่องว่างระหว่างวัยหรือว่าบทบาทหน้าที่
00:10:34 → 00:10:37 อะไรอย่างเงี้ยคำพูดคลาสสิคมากเลยพี่อ้อย
00:10:37 → 00:10:40 ที่เราจะได้ยินก็คือว่าเวลาที่พ่อแม่จะ
00:10:40 → 00:10:43 เข้าไปสิงลูกนะอือก็จะบอกว่าบอกสิ่งที่
00:10:43 → 00:10:46 ต้องการแล้วไม่ได้ดั่งใจปึ๊บพ่อแม่ก็จะ
00:10:46 → 00:10:49 พูดว่าเดี๋ยวอีกหน่อยแกมีลูกแล้วแกจะเข้า
00:10:49 → 00:10:52 ใจฉัน
00:10:52 → 00:10:57 อมีเหตุผลมาสำทับด้วยนะเออเออเพื่อจะบอก
00:10:57 → 00:11:00 ว่าไอ้ที่ฉันมาสิงเนี่ยนะอือฉันหวังดีฉัน
00:11:00 → 00:11:03 ฉันมีประสบการณ์ฉันเป็นมาก่อนนู่นนี่นั่น
00:11:03 → 00:11:05 อะไรเงี้ยแล้วก็สำทับด้วยประโยคเด็ดเลย
00:11:05 → 00:11:10 เออวันไหนที่แกมีลูกแกจะเข้าใจฉันอือแล้ว
00:11:10 → 00:11:15 ก็ประโยคเดิมนี้เลยก็คือคนที่เป็นลูกเข้า
00:11:15 → 00:11:18 ใจมั้ยไม่เข้าใจหรอกอึดอัดมยอึดอัดอือ
00:11:18 → 00:11:22 แล้วพอกาลเวลาผ่านไปจริงๆอือพอมีลูกจริงๆ
00:11:22 → 00:11:29 อ่ะอือก็จะพูดว่าเออฉันเข้าใจแล้ว
00:11:29 → 00:11:32 ก็จะเป็นอย่างงี้เยอะเออค่ะก็จะเป็นอย่าง
00:11:32 → 00:11:36 งนี้เยอะเนี่ยพ่อแม่เราจะได้ยินประโยคนี้
00:11:36 → 00:11:39 เลยพี่อ้อยใชอันนี้เป็นเหตุเป็นผลพวงหรือ
00:11:39 → 00:11:43 เป็นเป็นปรากฏการณ์ของการเข้าสิงของพ่อ
00:11:43 → 00:11:46 แม่แล้วก็การโดนพ่อแม่เข้าสิงอือแล้วพอ
00:11:46 → 00:11:48 ถึงวันวันนึงจริงๆก็เป็นอย่างงั้นจริงๆนะ
00:11:48 → 00:11:52 อือๆเออพอวันที่เรามีลูกจริงๆแล้วถึงเออ
00:11:52 → 00:11:54 ฉันเข้าใจแล้วอ่ะแต่
00:11:54 → 00:11:57 ว่าวันที่เราบอกว่าเราเข้าใจแล้วเนี่ยออ
00:11:57 → 00:12:01 ตอนนั้นพ่อพ่อแม่านไม่รู้จะอยู่เป่าไม่
00:12:01 → 00:12:05 ส่วนใหญ่จะไม่อยู่แล้วใช่ป่ะค่ะเออแต่ว่า
00:12:05 → 00:12:11 มีบ้านนึงพี่วีเออๆแม่สิงห์เออแล้วแต่เขา
00:12:11 → 00:12:13 พูดประโยคนี้หรือเปล่าไม่รู้นะที่เดี๋ยว
00:12:13 → 00:12:18 อีกหน่อยแกมีลูกจะเข้าใจเนี่ยแต่ว่าแม่
00:12:18 → 00:12:23 ไม่ได้สิงเฉพาะลูกนะเออสิงสามีด้วยโอ
00:12:23 → 00:12:27 โอ้โหเฮียนนะเนี่ยอันนี้เรียกว่าผบทบเออๆ
00:12:27 → 00:12:32 โอหก็คือทำไหนคำนั้นเวลาพูดอะไรในบ้าน
00:12:32 → 00:12:36 เนี่ยต้องต้องตามนั้นเออๆแต่ที่เป็น
00:12:36 → 00:12:39 ประเด็นที่อยากเล่าเนี่ยก็คือว่าอือกับ
00:12:39 → 00:12:42 สามีเนี่ยก็ก็แล้วแต่เเราเราไม่เอา
00:12:43 → 00:12:46 ประเด็นนี้มาคุยแต่ประเด็นที่อยากคุยก็
00:12:46 → 00:12:51 คือประเด็นลูกคือมีลูก 2 คนอืออ่าลูก 2
00:12:51 → 00:12:57 คนเก่งมากเป็นหมออือเออคนโตเป็นผู้หญิงมี
00:12:58 → 00:13:04 แฟนแต่ว่าแม่ไม่ชอบแฟนลูกอืจะแบบไม่ไม่
00:13:04 → 00:13:09 รับอืออ่าแล้วก็ไม่ให้แต่งงานอือจนผ่านมา
00:13:09 → 00:13:14 เป็น 10 ปีแล้วนะอือก็ไม่ให้อือคือมองว่า
00:13:14 → 00:13:18 คือสิงลูกว่าลูกเนี่ยจะต้องมีผู้ชายที่
00:13:19 → 00:13:23 ฐานะการเงินการงานตำแหน่งหน้าที่การศึกษา
00:13:24 → 00:13:27 ทุกอย่างดีหมดเลยอืแต่ว่าลูกสาวเนี่ยเค
00:13:27 → 00:13:29 รักผู้ชายคนเนี้ยซึ่งเขาเป็นคนดีด้วยด้วย
00:13:29 → 00:13:33 นะเออก็เลยยังยังอยู่ในสถานะแบบครึ่งๆ
00:13:33 → 00:13:37 กลางๆแบบเนี่ยแต่งงานก็ไม่ได้ออือๆเออจะ
00:13:37 → 00:13:41 เลิกก็ไม่อยากเลิกพ่อรักกันดีด้วยออือ
00:13:41 → 00:13:46 ส่วนลูกชายเนี่ยยอมเลิกอือกับแฟนอือแล้ว
00:13:46 → 00:13:52 หาใหม่จนกระทั่งพอใจแม่โอ้โหเออเออคือ
00:13:52 → 00:13:56 เขาคสิงเข้าไปเลยว่าถ้ามีแฟนจะต้องมีสเปค
00:13:56 → 00:14:00 แบบนี้แบบนี้แบบนี้ใช่เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:14:00 → 00:14:04 พี่อ้อยมองว่าเนี่ยพอแม่ไปสิงลูกมันทุกข์
00:14:04 → 00:14:09 ทั้ง 2 ฝ่ายนะอืพี่วีอืเนี่ยอันนี้เป็น
00:14:09 → 00:14:11 ประเด็นที่ผมกำลังคิดถึงเลยพี่อ้อยว่าเรา
00:14:11 → 00:14:14 พูดถึงเรื่องของการไปเที่ยวไปสิงใทก็คือ
00:14:14 → 00:14:17 ไปควบคุมใครเนี่ยค่ะในที่สุดแล้วมันอัน
00:14:17 → 00:14:20 นี้คือสิ่งที่มันเป็นแก่นของรายการเราเลย
00:14:20 → 00:14:23 คือสัตกรรมความสุขเนี่ยเพราะว่าเกิดฟังไป
00:14:23 → 00:14:27 เรื่อยๆเกิดความคิดว่าอ้าวไอ้อาการที่เข
00:14:27 → 00:14:30 ไปสิงใครกับการที่โดนใครสิงเนี่ยมันทุกข์
00:14:30 → 00:14:34 ทั้งคู่เลยว่ะใช่ใช่มั้ยแล้วอย่างงี้เรา
00:14:34 → 00:14:36 ถ้าเกิดว่าเรามองที่โฟกัสที่เป้าหมายของ
00:14:36 → 00:14:39 เรานะพี่อ้อยเสียนติกรรมความสุขก็คือว่า
00:14:39 → 00:14:42 อะไรที่เค้าทุกข์เนี่ยเราจะต้องหาวิธีที่
00:14:42 → 00:14:46 ทำยังไงที่วิธีคิดยังไงที่ทำให้เขาจะได้
00:14:46 → 00:14:49 ทุกข์น้อยลงหรือไม่ทุกข์เลยเงี้ยทั้ง 2
00:14:49 → 00:14:51 ฝั่งเลยเนี่ยอค่ะคนที่เที่ยวไปสิงห์ไทย
00:14:51 → 00:14:54 เนี่ยพี่อ้อยแน่นอนเลยพอไม่ได้ดั่งใจปุ๊บ
00:14:54 → 00:14:57 มันก็ทุกข์เนี่ยทำยังไงดีถึงจะไม่ทุกข์
00:14:57 → 00:15:01 อ่ะใชอืขอขอยกคำพูดของน้องคนนึงมาเออ
00:15:01 → 00:15:05 บังเอิญไปเจอพอดีเลยใน Facebook เออเค้า
00:15:05 → 00:15:09 เป็นคนที่เคยทุกข์มากมาก่อนอือแล้วเคก็
00:15:09 → 00:15:12 ปรับ mind เซตแล้วเคก็เป็นมนุษย์ที่ไปสิง
00:15:12 → 00:15:15 คนอื่นมาก่อนออคือพ่อแม่ต้องอย่างงั้น
00:15:16 → 00:15:18 น้องชายต้องอย่างงี้คนนั้นต้องอย่างงั้น
00:15:18 → 00:15:21 คนนี้ต้องอย่างงี้แต่ว่าเป็นความหวังดี
00:15:21 → 00:15:24 หมดเลยนะคะแล้วปรากฏว่าฟีดแบคที่กลับมา
00:15:24 → 00:15:29 เนี่ยโอ้โหตุ๊บตัๆัใส่ตัวเแบบจนแบบเเป็น
00:15:29 → 00:15:33 ทุกข์มากอือๆๆเออแล้วเราก็ได้รู้จักกัน
00:15:33 → 00:15:36 แล้วก็มีการสื่อสารอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
00:15:36 → 00:15:40 เค้าก็เอ่อมาตามเพจพี่อ้อยอือโอหหลายปีที
00:15:40 → 00:15:43 เดียวแต่วันนี้เค้าเขียนบทความนี้ขึ้นมา
00:15:43 → 00:15:48 พี่เมอยากเล่าเลยออเป็นข้อความสั้นๆเขา
00:15:48 → 00:15:52 บอกว่าเก่งได้แต่อย่าไปกดดันให้คนอื่น
00:15:52 → 00:15:57 เก่งเหมือนตัวเองอืดีได้แต่อย่าไปบีบให้
00:15:57 → 00:16:01 คนอื่นดีเหมือนตัวเองอืคนเราไม่เหมือนกัน
00:16:01 → 00:16:06 ขอเพียงเค้าดีในแบบของเค้าเก่งในแบบของ
00:16:06 → 00:16:10 เค้าโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอืแล้วเาก็ดู
00:16:10 → 00:16:13 แลตัวเองได้พอละ
00:16:13 → 00:16:18 อืนี่คือข้อความของคนๆนี้ที่เค้าเปลี่ยน
00:16:18 → 00:16:22 หลักคิดหรือไซตของเค้าแล้ววันนี้เคเป็นคน
00:16:22 → 00:16:27 สบายสบายอะไรยังไงก็ได้มีความสุขกับชีวิต
00:16:27 → 00:16:31 เบาสบายออือ่าพี่วีเห็นอะไรจากเอ่อข้อ
00:16:31 → 00:16:34 ความนี้แล้วได้คำตอบอะไรบางส่วนมั้ยคะโอห
00:16:34 → 00:16:38 ได้เลยพผมนึกถึงเลยว่าอ๋อนี่คือวิธีการ
00:16:38 → 00:16:41 คือวิธีการของเขาคก็คือครั้งนึงในชีวิต
00:16:41 → 00:16:45 เนี่ยเคคเคยเป็นคนที่มีความทุกข์มากมาย
00:16:45 → 00:16:48 มหาศาลเลยเพราะการที่เที่ยวไปสิงคนอื่นไป
00:16:48 → 00:16:51 สิงคนอื่นก็คือไปควบคุมคนอื่นอยากให้คน
00:16:51 → 00:16:55 อื่นเก่งเหมือนตัวเองดีเหมือนตัวเองคนู่น
00:16:55 → 00:16:58 เหมือนตัวเหมือนใช่อันเนี้ยมันก็เลยทำให้
00:16:58 → 00:16:59 เค้าเนี่ยทกทุกมากเพราะว่ามันไม่ได้เป็น
00:17:00 → 00:17:03 อย่างงั้นเพราะว่าอือพอเค้าปรารถนาดี
00:17:03 → 00:17:06 เนี่ยนะค่ะเพียงแต่เอาตัวเองเนี่ยเป็นที่
00:17:06 → 00:17:09 ตั้งอ่าใช่แล้วก็เอาตัวเองเป็นมาตรฐานใช่
00:17:09 → 00:17:12 แล้วเอามาตรฐานตัวเองไปครอบคนอื่นปั๊บ
00:17:12 → 00:17:14 เนี่ยถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปด้วยความ
00:17:14 → 00:17:17 ปรารถนาดีแต่มันทำให้คนอื่นเนี่ยอึดอัดอ
00:17:17 → 00:17:21 อืแล้วพอคนอื่นอึดอัดปึ๊บเา้าก็ต่อต้าน
00:17:21 → 00:17:23 ใช่พอต่อต้านเสร็จตัวเองก็เลยทุกข์ไปด้วย
00:17:23 → 00:17:29 เลยใช่วันนึงพอเค้าได้มีโอกาสมาคิดมาทำ
00:17:29 → 00:17:32 ความเข้าใจแล้วเค้าก็พบความเป็นจริงว่า
00:17:32 → 00:17:35 อ๋อไอ้ความปรารถนาดีที่เราอยากจะให้เค้า
00:17:36 → 00:17:39 เก่งเหมือนเราดีเหมือนเราเนี่ยโไม่ไหวึ
00:17:39 → 00:17:43 ว่ะอือวางดีกว่าก็เลยบอกว่าอย่าเอา
00:17:43 → 00:17:46 มาตรฐานเค้าเกิดความคิดว่าอย่าเอามาตรฐาน
00:17:46 → 00:17:50 ของตัวเองเนี่ยค่ะไปครอบคนอื่นพอเค้าเข้า
00:17:50 → 00:17:54 ใจเรื่องนี้ปึ๊บเบาสบายเลยใช่ผมนึกถึง
00:17:54 → 00:17:56 อะไรรู้ั้พี่อ้อยผมนึกถึงอะไรที่มันเป็น
00:17:56 → 00:18:00 สิ่งที่มันเป็นรูปธรรมชัดเจนนะอค่ะเหมือน
00:18:00 → 00:18:02 กับเสื้อผ้า
00:18:02 → 00:18:08 อืคือคล้ายๆว่าเราเนี่ยตัวขนาดนี้เราตัว
00:18:08 → 00:18:11 สมมุติเราเป็นคนตัวใหญ่เงี้ยอือเราก็ใส่
00:18:11 → 00:18:14 เสื้อผ้าใหญ่แล้วเราก็สบายใช่ป่ะอออือ
00:18:14 → 00:18:16 แล้วเราก็อยากให้คนอื่นใส่สบายเงี้ยเออก็
00:18:16 → 00:18:19 ไม่ผิดนะอือเพียงแต่ว่าวิธีการที่เราอยาก
00:18:19 → 00:18:24 ให้คนอื่นใส่สบายก็คือนี่เธอใส่เสื้อไซส์
00:18:24 → 00:18:27 แบบเดียวกับฉันสิอือฉันใส่แล้วฉันสบายมาก
00:18:27 → 00:18:29 เลยก็เลยเอาเสื้อที่ตัวเองใส่สบายไปให้
00:18:29 → 00:18:33 เค้าคนอื่นใส่ไงอือพอคนอื่นใส่เสแบบครโอห
00:18:33 → 00:18:36 มันมันหลวมขนาดนี้่ะแล้วมันใส่แล้วมันไม่
00:18:36 → 00:18:39 ได้ดูดีเลยอ่ะเค้าก็เลยไม่อยากใส่อือพอ
00:18:39 → 00:18:41 เค้าไม่อยากใส่เสื้อผ้าที่เราซื้อไปให้
00:18:41 → 00:18:45 เค้าใส่อือที่เราบอกว่าเราใส่สบายนะอือพอ
00:18:45 → 00:18:47 เค้าบอกใส่ไม่สบายปุ๊บเค้าแสดงสีหน้าไม่
00:18:47 → 00:18:50 อยากใส่ปุ๊บเราทุกข์อ่ะออือๆแล้วก็ไปไป
00:18:50 → 00:18:54 ไหว้เฮ้ยฉันหวังดีนะนี่ใส่สบายจริงๆแต่
00:18:54 → 00:18:58 ลืมไปนิดเดียวเลยอือลืมดูนิดเดียวว่าที่
00:18:58 → 00:19:01 เราใส่เพราะเราตัวใหญ่ค่ะแต่เค้าไม่ชอบ
00:19:01 → 00:19:05 เพราะเค้าตัวเล็กใช่มันเหมาะกับเราแต่มัน
00:19:05 → 00:19:08 ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนใช่อ่า็นมั้อันนี้
00:19:08 → 00:19:11 ผมพูดถึงไซส์นะค่ะแต่ถ้าพูดถึงเรื่องสี
00:19:11 → 00:19:15 ล่ะโอ้สารพัดเรื่องเลยแหละเออเห็นปมัน
00:19:15 → 00:19:18 เป็นเรื่องรสนิยมแบบอะไรทุกอย่างเลยนะคะ
00:19:18 → 00:19:22 เอออผมรู้จักมีลูกศิษย์หลายคนนะที่
00:19:22 → 00:19:24 มาเรียนเรื่องการสื่อสารกับผมแต่ว่าเา้า
00:19:24 → 00:19:27 เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกี่ยวกับการแต่ง
00:19:27 → 00:19:32 ตัวอืเาจะสอนเรื่องสีด้วยนะอ๋อว่าคนผิวสี
00:19:32 → 00:19:35 นี้ควรใช่ป่ะค่ะแล้วเวลาที่เขาสอนเนี่ยผม
00:19:36 → 00:19:38 เคยเห็นไปดูเวลาที่เา้าแบบโพสต์เรื่องการ
00:19:38 → 00:19:42 สอนเนะเค้าก็จะให้คนที่มาปรึกษาเ้าเรื่อง
00:19:42 → 00:19:45 ว่าจะใส่เสื้อผ้าสีอะไรนั่งแล้วเค้าก็เอา
00:19:45 → 00:19:49 ผ้าสีต่างๆมาทาบเลยใช่ผิวเป็นผิวโทนร้อน
00:19:49 → 00:19:53 กับผิวโทนเย็นเพราะฉะนั้นเบสของสีจะไม่
00:19:53 → 00:19:55 เหมือนกันอย่างเงี้ยเห็นป่ะอันนี้เรื่อง
00:19:55 → 00:19:59 ถ้าใส่ผิดมันก็จะหมองเออๆเพราะฉะนั้น
00:19:59 → 00:20:02 เนี่ยก็กลายเป็นว่าเรื่องขนาดนี้ก็เรื่อง
00:20:02 → 00:20:04 นึงเรื่องสีอีกอือแล้วยังมีอะไรอีกครับ
00:20:04 → 00:20:07 พูดถึงแค่เสื้อผ้าอย่างเดียวเลยนะอือแบบ
00:20:07 → 00:20:12 อีกกันแบบบางคนชอบใส่เสื้อโหย้วยซะใช่ๆๆ
00:20:12 → 00:20:14 พี่อ้อยนี่ไม่ได้เลยใชเออเห็นป่ะอย่าง
00:20:14 → 00:20:17 เงี้ยค่ะพอเราไม่เข้ากับเราพอเราเข้าใจ
00:20:17 → 00:20:21 เรื่องนี้ปุ๊บว่าค่ะอ๋อถึงแม้มันจะ
00:20:21 → 00:20:25 ปรารถนาดีแต่ว่าเราต้องไม่ลืมใช่ว่าเค้า
00:20:25 → 00:20:30 ตัวไม่ใหญ่เท่าเราเคสีผิวไม่เหมือนเราค่ะ
00:20:30 → 00:20:33 ความชอบเค้าไม่เหมือนเราอะไรเงี้ยปึ๊บเรา
00:20:33 → 00:20:36 ก็จะพอเราวางสิ่งนี้ได้ปุ๊บก็เอาที่พี่
00:20:36 → 00:20:41 สบายใจอืถ้าเราพูดคำว่าคุณอยากใส่แบบไหน
00:20:41 → 00:20:43 ก็เอาที่คุณสบายใจปึ๊บเนี่ยผลที่ได้คือ
00:20:43 → 00:20:46 อะไรรู้มั้ยพี่อ้อยค่ะพอเราพูดอย่างงั้น
00:20:46 → 00:20:52 ปุ๊บคนที่สบายใจคือใครทั้งคู่ทั้งคู่ใช่ๆ
00:20:52 → 00:20:57 เราก็สบายใจเคก็สบายใจอืเนี่ยเพราะฉะนั้น
00:20:57 → 00:21:00 เนี่ยเราก็จะจะไม่ไปเที่ยวสิงหรือไปมี
00:21:00 → 00:21:04 อิทธิพลหรือไปควบคุมอือใครต่อใครที่อยู่
00:21:04 → 00:21:07 รอบตัวเราค่ะอันนี้เรายกตัวอย่างเรื่อง
00:21:07 → 00:21:09 เสื้อผ้าเพราะอะไรเพราะว่ามันเป็นรูปธรรม
00:21:09 → 00:21:12 ชัดเจนอใช่แต่ว่าเรื่องอื่นเหมือนกันหมด
00:21:13 → 00:21:15 อือเรื่องอะไรอีกกันนอกจากเสื้อผ้าพี่
00:21:15 → 00:21:18 ห้อยเรื่องอาหารการกินโอมันมันทุกเรื่อง
00:21:18 → 00:21:22 ในชีวิตนะพี่ีเอเรื่องการเลือกเส้นทางของ
00:21:22 → 00:21:29 ชีวิตใช่การพักผ่อนการดำเนินชีวิตเอออ่า
00:21:29 → 00:21:31 ความสัมพันธ์กับผู้คนโอ้ทุกเรื่องเลยใน
00:21:31 → 00:21:33 ชีวหรือเมื่อกี้พี่อ้ยกตัวอย่างเรื่องการ
00:21:33 → 00:21:37 เลือกคู่ครองอืค่ะอย่างเงี้ยเห็นป่ะค่ะพอ
00:21:37 → 00:21:40 เราเข้าใจเรื่องนี้ปึ๊บเนี่ยเราก็รู้จัก
00:21:40 → 00:21:43 คำเดี๋ยวผมว่าวันนี้วันนี้คำสำคัญที่ผม
00:21:43 → 00:21:46 ได้เจอนะคือคำว่าถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้
00:21:46 → 00:21:52 ปึ๊บว่าเราต่างกันอืในทุกมิติปึ๊บถึงแม้
00:21:52 → 00:21:55 ว่าจะปรารถนาดีปึ๊บเนี่ยเราก็วางความ
00:21:55 → 00:21:59 ปรารถนาดีเราลงนะค่ะแล้วก็ใส่ใจ
00:21:59 → 00:22:02 กับความต่างที่เราไม่มีใครเหมือนใครเลยนะ
00:22:02 → 00:22:05 ใชใช่แล้วเราก็ถ้าเราสามารถพูดคำคำนี้ได้
00:22:05 → 00:22:11 นะก็คือว่าโอเคฉันชอบแบบนี้อือแต่ถ้าเธอ
00:22:11 → 00:22:15 มีความชอบอีกแบบนึงนะอือเอาที่เธอสบายใจ
00:22:15 → 00:22:20 อืค่ะคือเอาที่สบายใจพอเราพูดคำว่าเอาที่
00:22:20 → 00:22:22 สบายใจได้ปึ๊บเนี่ยเมื่อกี้พี่อ้อยตอบมา
00:22:22 → 00:22:26 ชัดเจนมากเลยค่ะถ้าเราคนเดียวเลยนะพูดคำ
00:22:26 → 00:22:29 ว่าเอาที่เธอสบายใจได้คอืสรุปแล้วใครสบาย
00:22:29 → 00:22:34 ใจทั้ง 2 ฝ่ายทั้งคู่เออค่ะโอ้คำนี้คำ
00:22:34 → 00:22:37 เดียวเนี่ยเราแก้ปัญหาได้จากทั้ง 2 ฝ่าย
00:22:37 → 00:22:41 เลยใช่ใช่มั้ยฮะจริงๆแล้วคือความปรารถนา
00:22:41 → 00:22:45 ดีเนี่ยยังอยู่ยังอยู่เพียงแต่ว่าเราไม่
00:22:45 → 00:22:49 เอามาตรฐานตัวเองไปครอบใครอืเพราะว่าคน
00:22:49 → 00:22:54 เรานั้นน่ะต่างกันอือืแล้วเพราะฉะนั้นถ้า
00:22:54 → 00:22:58 เรายังคงปรารถนาดีอยู่แล้วก็เอ่อเราเปิด
00:22:58 → 00:23:02 พื้นที่ให้อีกฝ่ายเขาทำอย่างที่เขาสบายใจ
00:23:02 → 00:23:05 อือซึ่งอย่างที่บอกว่ามันไม่ได้เกินเลยไป
00:23:05 → 00:23:08 อะไรที่ไม่ดีอย่างเงี้ยอันนั้นน่ะมันก็
00:23:08 → 00:23:11 เพียงพอแล้วมันก็จะเกิดความสบายใจทั้ง 2
00:23:11 → 00:23:14 ฝ่ายใช่ใช่โอ้โหเพราะฉะนั้นวันนี้เนี่ย
00:23:14 → 00:23:18 ครับคุณผู้ฟังเราพูดถึงผีก็ไม่ใช่แต่สิง
00:23:18 → 00:23:22 เก่งเนี่ยจะหมายถึงการไปควบคุมค่ะใครต่อ
00:23:22 → 00:23:25 ใครให้เป็นอย่างที่เราเป็นอย่างที่เราชอบ
00:23:25 → 00:23:29 ด้วยความปรารถนาดีเนี่ยอเราต้องไม่ลืมนึก
00:23:29 → 00:23:33 อีกอย่างนึงว่าจริงๆแล้วเราทุกคนมีความ
00:23:33 → 00:23:38 ต่างต่างกันชอบต่างกันขนาดต่างกันสีผิว
00:23:38 → 00:23:42 ต่างกันอันนี้พูดถึงเรื่องอร่างกายนะถ้า
00:23:42 → 00:23:45 พูดถึงเรื่องของวิถีชีวิตก็ความคิดอีกจใจ
00:23:45 → 00:23:48 อกคามคิดนู่นนี่โอ้โหต่างสารพัดเลยอื
00:23:48 → 00:23:51 ปรารถนาดีได้แต่ต้องต้องเข้าใจเรื่องความ
00:23:51 → 00:23:55 ต่างค่ะแล้วต้องใส่ใจในเรื่องของว่าถาม
00:23:55 → 00:23:56 เค้าหรือ
00:23:56 → 00:24:01 ยังอือใช่มั้ค่ะถามเค้าหรือยังเออถามเค
00:24:01 → 00:24:05 นิดนึงปรารถนาดีก็ได้แต่ถามเนิดนึงออือพอ
00:24:05 → 00:24:07 ถามเค้าแล้วเนี่ยพอเราเข้าใจแล้วว่าเคชอบ
00:24:07 → 00:24:11 อะไรไม่ชอบอะไรอือเราก็ใส่ใจในสิ่งนั้น
00:24:11 → 00:24:16 อือแล้วก็เอาที่เขาสบายใจค่ะบางทีหย่อน
00:24:16 → 00:24:18 ตัวเองไปนิดนึงไม่ต้องตึงอย่างที่ตัวเอง
00:24:18 → 00:24:21 อยากได้หรอกออแล้วมันมีความสุขขึ้นก็ดี
00:24:21 → 00:24:24 กว่าไม่ใช่เหรอใช่ๆแล้วในที่สุดเพราะว่า
00:24:24 → 00:24:26 ไม่ได้เสียหายเราต้องไม่ลืมว่าเป้าหมาย
00:24:27 → 00:24:29 ของเราเนี่ยที่เราอยากจะไปครอบงำเค้า
00:24:29 → 00:24:31 เพื่อให้เขาคมีความสุขใช่ป่ะอ่าเพื่อให้
00:24:31 → 00:24:34 เค้าดีเพื่อให้มีความสุขเจริญอะไรอย่าง
00:24:34 → 00:24:36 เงี้ยเอะเพราะฉะนั้นต้องอย่าลืมเป้าหมาย
00:24:36 → 00:24:39 เป้าหมายปลายทางอเป้าหมายคือเราอยากให้
00:24:39 → 00:24:42 เข้ามีความสุขอต้องอย่าลืมอันนี้แต่สิง
00:24:42 → 00:24:45 ปุ๊บทุกข์เลยทุกข์เลยทุกข์ทั้งคู่เลยค่ะ
00:24:45 → 00:24:48 อ่าเพราะฉะนั้นแสกรความสุขในวันนี้นะครับ
00:24:48 → 00:24:52 ผีก็ไม่ใช่แต่สิงเก่งเนี่ยเพราะฉะนั้นวัน
00:24:52 → 00:24:56 นี้เราต้องบอกว่าใช่ผีเราก็ไม่ใช่เพราะ
00:24:56 → 00:24:59 ฉะนั้นเราจะไม่ไปสิงใครอีกแล้วนะครับวัน
00:24:59 → 00:25:02 นี้ผมพี่วีและพี่อ้อยต้องลาไปก่อนนะครับ
00:25:02 → 00:25:05 สวัสดีครับสวัสดี
00:25:05 → 00:25:08 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:25:08 → 00:25:11 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:25:11 → 00:25:14 spotify soundcloud Google podcast
00:25:14 → 00:25:17 Apple podcast และ YouTube Channel
00:25:17 → 00:25:21 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:25:21 → 00:25:23 View the world via The
00:25:23 → 00:25:27 [เพลง]
00:25:27 → 00:25:31 Voice อ