00:00:00 → 00:00:02 ผมพยายามอ่านทุกคอมเมนต์แต่ว่าคอมเมนต์
00:00:02 → 00:00:04 ที่จะโผล่มาให้ผมเห็นก่อนก็คือคอมเมนต์
00:00:04 → 00:00:07 ของสมาชิกที่มีสัญลักษณ์เหล่านี้ที่ทาย
00:00:07 → 00:00:10 ชื่อเขเวลาเคอมเมนต์คุณสามารถสมัครเป็น
00:00:10 → 00:00:12 สมาชิกได้โดยการกดปุ่ม
00:00:13 → 00:00:15 จอยโอเคสวัสดีอาจารย์อีกครั้งครับเมื่อ
00:00:15 → 00:00:17 กี้ไม่ได้ยินเสียงกันสวัสดีครับหมอป๊อบ
00:00:17 → 00:00:20 แล้วก็ผู้ชมทุกท่านที่อยู่ที่บ้านรู้สึก
00:00:20 → 00:00:23 เป็นเกียรติที่ได้คุยกับหมอป๊อบนะเป็น
00:00:23 → 00:00:26 เกียรติใช่ไงครับอาจารย์เราเคยกินข้าว
00:00:26 → 00:00:28 ด้วยกันแต่ว่าไม่เคยคุยด้วยกันเหโรของผม
00:00:28 → 00:00:32 ที่เป็นหมอที่กล้าออกมาบอกเป็นคนแรกของ
00:00:32 → 00:00:36 ประเทศไทยในเรื่องของเบาหวานที่รักษามา
00:00:36 → 00:00:39 ผิดวิธีตลอดจริงๆแล้วไม่ได้รักษาหรอกก็
00:00:39 → 00:00:41 คือเลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆนั่นแหละแต่ว่าหมอ
00:00:41 → 00:00:45 ป๊อมนี่เป็นบุคคลที่เป็นคนแรกเลยที่กล้า
00:00:45 → 00:00:48 สวนกระแสนะแล้วโอ้โหกระแสทางการแพทย์
00:00:49 → 00:00:51 เนี่ยมันแรงมากแล้วแพทย์ส่วนมากไม่กล้า
00:00:51 → 00:00:54 สวนกระแสผมเรียกว่าเป็นปูชนีบุคคลของไทย
00:00:54 → 00:00:57 เลยแหละที่สามารถทำอย่างนี้ได้นะและทำได้
00:00:57 → 00:01:01 สำเร็จโอต้องขอบคุณมากเลยครับ
00:01:01 → 00:01:04 อาจารย์วันนี้เรื่องที่เราจะคุยกันก็เป็น
00:01:04 → 00:01:07 เรื่องของงานวิจัยเนาะผมก็เห็นอาจารย์ทำ
00:01:07 → 00:01:10 คลิปพูดเรื่องนี้ไปแล้วนะครับครับผมว่า
00:01:11 → 00:01:13 ทุกคนที่เข้ามาในนี้ก็ผมว่าน่าจะเกิน
00:01:13 → 00:01:16 ครึ่งรู้อยู่แล้ว่ะว่าเรากำลังพูดถึงงาน
00:01:16 → 00:01:18 วิจัยตัวไหนและเรื่องอะไรเดี๋ยวผมขอ
00:01:18 → 00:01:20 อนุญาตเกริ่นเรื่องานวิจัยนี้คร่าวๆแล้ว
00:01:20 → 00:01:24 ก็เดี๋ยวจะขออนุญาตให้อาจารย์วิเคราะห์
00:01:24 → 00:01:26 เรื่องงานวิจัยนี้บนความเห็นของอาจารย์นะ
00:01:26 → 00:01:30 ครับแล้วก็ผมหลังนั้นผมจะแชร์ครับผมก่อน
00:01:30 → 00:01:34 ก่อนนิดนึงก็คือไอ้นิยามระหว่าง If กับ TR
00:01:34 → 00:01:37 เนี่ยก็คือ intermittent fasting กับ
00:01:37 → 00:01:39 Time restrict eating เนี่ยมันมีความ
00:01:39 → 00:01:44 คาบเกี่ยวกันอยู่นะโดยความรู้สึกเนี่ยก็
00:01:44 → 00:01:46 คือ intermittent fasting เรามักจะหมาย
00:01:46 → 00:01:50 ถึงกินวันนึงอ่ะไม่เกิน 2 มื้อแต่ Time
00:01:50 → 00:01:53 restricted eating ก็คือจำกัดเวลาในการ
00:01:53 → 00:01:56 กินทีนี้ถ้าเกิดจำกัดแค่อ่าสมมุติว่า
00:01:56 → 00:01:59 จำกัดแค่ 6 ชมงเนี่ยมันจะกินได้กี่มื้อ
00:01:59 → 00:02:01 มันก็ต้องกนกิน 2 มื้อถูกมั้ยครับเ่อ
00:02:01 → 00:02:04 อย่างภิกษุเนี่ยเขากินตั้งแต่ 7 นจนถึง
00:02:04 → 00:02:06 เที่ยนจะกินได้กี่มื้ออย่างเก่งก็ต้องกิน
00:02:07 → 00:02:10 ได้ 2 มื้อนะเพราะฉะนั้นไอ้ 2 คำนี้มันก็
00:02:10 → 00:02:14 คล้ายๆกันไอ้งานวิจัยที่ว่าเนี้ยพูดถึง
00:02:14 → 00:02:19 Time restricted eating ก็คือ tre นะ
00:02:19 → 00:02:21 แต่ว่าสำหรับเอ่อสำหรับคนไทยหรือพวกเรา
00:02:21 → 00:02:25 เนี่ยเราจะนึกถึง If มากกว่าผมมองว่าถ้า
00:02:25 → 00:02:27 เราเข้าใจ intermittent fasting คือการ
00:02:27 → 00:02:29 ที่เราควรจะต้องหยุดกินเป็นพรรคๆเนี่ย
00:02:29 → 00:02:31 เพื่อให้ร่างกายของเราเนี่ยออกจากโหมดของ
00:02:31 → 00:02:34 anabolic metabolism เข้าสู่ catabolic
00:02:34 → 00:02:36 metabolism เนี่ยเราก็จะเข้าใจตรงกันไม่
00:02:36 → 00:02:38 ว่ามันจะต้องหยุดการกินหรือไม่หยุดการกิน
00:02:38 → 00:02:41 นานแค่ไหนคราวนี้ในการที่เราปฏิบัติ
00:02:41 → 00:02:43 เรื่อง I มาตลอดเนี่ยนะฮะอาจารย์ไม่ว่าจะ
00:02:43 → 00:02:47 เป็น If หรือ TR เนี่ยเพราะว่าเรารู้สึก
00:02:47 → 00:02:49 ว่าเราได้ลองปฏิบัติแล้วมันดีต่อสุขภาพผม
00:02:49 → 00:02:51 ผมคิดว่าอาจารย์เหมือนผมแหละนะครับก็คือ
00:02:52 → 00:02:54 ว่าเราได้ลองปฏิบัติมาก่อนแล้วเรารู้สึก
00:02:54 → 00:02:57 ว่าเฮ้ยมันดีต่อสุขภาพจริงๆแล้วในฐานะที่
00:02:57 → 00:03:00 ผมเป็นหมอแล้วก็อาจารย์ก็ก็เป็นเรียกว่า
00:03:00 → 00:03:02 เป็น scientist ก็ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์
00:03:02 → 00:03:04 เราก็ได้มีการทดลองกับตัวเองแล้วเราก็แนะ
00:03:04 → 00:03:08 นำคนที่สุขภาพไม่ดีให้ปฏิบัติแล้วก็เรา
00:03:08 → 00:03:11 เห็นผลว่าตัวชี้วัดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ
00:03:11 → 00:03:14 สุขภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนักตัวนะ
00:03:14 → 00:03:16 ภาษาทางการแพทย์เค้าก็จะเรียกว่าคาริ
00:03:16 → 00:03:19 metabolic อ่าไอเกอร์มันดีขึ้นอย่างเช่น
00:03:19 → 00:03:22 ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงนะครับน้ำหนักตัว
00:03:22 → 00:03:25 ลดลงความดันที่สูงลดลงไขมันพอกตับลดลง
00:03:25 → 00:03:28 เอมไซม์ตับลดลงนะครับแม้กระทั่งในเรื่อง
00:03:28 → 00:03:32 ของระดับของไิที่ลดลงและ hdl ที่สูงขึ้น
00:03:32 → 00:03:35 ซึ่งเราถือว่าพวกนี้เป็นคิ metabolic mar
00:03:35 → 00:03:38 หมายว่าถ้าคุณมีตัวเลขตัวนี้ผิดปกติมันจะ
00:03:38 → 00:03:41 เสี่ยงต่อการเกิด cardiovascular disease
00:03:41 → 00:03:44 จริงๆแล้วเนี่ยที่เราแตกตื่นกันมากกับ
00:03:44 → 00:03:46 ข่าวนี้ก็เพราะว่า 2 วันหลังจากที่มีการ
00:03:46 → 00:03:49 พรีเซนวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาประเด็น
00:03:49 → 00:03:51 ก็คือว่ามันเราไม่ได้แตกตื่นจากงานวิจัย
00:03:51 → 00:03:54 ใช่มฮอาจารย์เราแตกตื่นจากเดลหือหัวข้อ
00:03:54 → 00:03:57 ก่าเอ่าจข่าวจากข่าวคือโดยเฉพาะข่าวใน
00:03:57 → 00:04:02 เมืองไทยนี่คือคือเอาจุดที่เรียกว่าจุด
00:04:02 → 00:04:05 ไหนที่ขายข่าวได้อ่ะเอามาขยายให้ใหญ่เลย
00:04:05 → 00:04:09 นะแล้วคนก็จะแตกตื่นน่ะไอ้เนี่ยคือคือ
00:04:09 → 00:04:14 สิ่งที่เป็นมากในเมืองไทยขณะที่ในแคนาดา
00:04:14 → 00:04:18 ไม่เป็นในแไม่มีข่าวนี้คำถามใน inbox นี้
00:04:18 → 00:04:21 เพียบเลยอาจารแล้วก็มีความรู้สึกโอ้โหตอบ
00:04:21 → 00:04:24 ไม่หวาดไม่ไหวเหกันนะครับคราวนี้เราจะ
00:04:24 → 00:04:27 เห็นว่าในคนที่ปฏิบัติในการทำ Inter
00:04:27 → 00:04:30 fasting หรือ Time resting เนี่ยเพื่อ
00:04:30 → 00:04:33 ดูแลสุขภาพหลายคนเนี่ยถ้าเราไม่เข้าใจ
00:04:33 → 00:04:35 หลักการว่าเราจะวิเคราะห์งานวิจัยยังไง
00:04:35 → 00:04:38 งานวิจัยไหนหน้าหันหน้าไปอ่านหน้าที่จะ
00:04:38 → 00:04:42 หันหน้าไปฟังอ่านหรือฟังแล้วมีจะอาศัย
00:04:42 → 00:04:45 อะไรในการตัดใจว่าเราจะเชื่องานวิจัยหรือ
00:04:45 → 00:04:46 เปล่าก็อาจจะเกิดความสับสนผมว่าวันนี้
00:04:46 → 00:04:49 เป็นโอกาสที่ดีที่เชิญอาจารย์มานะครับ
00:04:49 → 00:04:52 เดี๋ยวผมจะเกริ่นงานวิจัยนี้คร่าวๆนิดนึง
00:04:53 → 00:04:54 แต่จะไม่ลงเรื่องผลลัพธ์เดี๋ยวจะเรื่อง
00:04:54 → 00:04:57 นั้นจะให้อาจารย์เป็นคนเปิดฉากนะครับงาน
00:04:57 → 00:05:00 วิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่จริงๆ
00:05:00 → 00:05:02 เราเรียกว่ามันก็ไม่ได้เป็นการทำงานวิจัย
00:05:02 → 00:05:04 ใหม่แต่มันเอาข้อมูลเก่ามานั่งรีวิวใหม่
00:05:04 → 00:05:08 นะครับงานวิจัยตัวนี้เป็นการรวบรวมนะครับ
00:05:08 → 00:05:12 ข้อมูลจากอ่ากลุ่มการศึกษาตัวนึงซึ่งมี
00:05:12 → 00:05:15 การทำการศึกษาที่นานมาแล้วที่เรียกว่า
00:05:15 → 00:05:17 enhance study นะครับเป็นการศึกษา
00:05:17 → 00:05:20 เรื่อง biomarker ของ metabolic Health
00:05:20 → 00:05:22 ต่างๆที่เกี่ยวผ่านกับ cardiovascular
00:05:22 → 00:05:24 disease ซึ่งมีการเก็บข้อมูลเมื่อปี
00:05:24 → 00:05:28 2000 3 ถึงปี 2018 นะครับซึ่งข้อมูลใน
00:05:28 → 00:05:30 การเก็บตอนนั้นถ้าเดี๋ยวผมขออนุญาตขึ้น
00:05:30 → 00:05:33 สไลด์แล้วกันนะจะได้เห็นภาพชัดอันเนี้ยผม
00:05:33 → 00:05:36 จะเห็นว่าอันนี้เป็นสไลด์โปสเตอร์ซึ่ง
00:05:36 → 00:05:39 เป็นโปสเตอร์เดียวแหละที่อยู่ในการบรรยาย
00:05:39 → 00:05:42 ของสมาคมร่องของใจอเมริกาเมื่อวันที่ 18
00:05:42 → 00:05:44 นะครับแล้วในรายละเอียดของโปสเตอร์ตัวนี้
00:05:44 → 00:05:47 ก็คืองานวิจัยตัวนี้เป็นการผมจะคร่าวๆใน
00:05:47 → 00:05:49 headline ตอนแรกเนี่ยใน introduction
00:05:49 → 00:05:51 ของเขาเนี่ยเขาคก็พูดถึงเรื่องของ
00:05:51 → 00:05:54 Timeless eating หรือคร่าวๆที่เราเรียก
00:05:54 → 00:05:56 ว่าติดปากว่า AF เนี่ยนะครับมันเป็นรูป
00:05:56 → 00:06:02 แบบของการกินซึ่งอ่ามี Popular มากคือหมา
00:06:02 → 00:06:04 ว่ามันคนสนใจกันมากในเรื่องของเป็น ry
00:06:04 → 00:06:06 intervention หรือว่ารูปแบบการปรับรูป
00:06:06 → 00:06:09 แบบการกินซึ่งเป็นการจำกัดช่วงเวลาการกิน
00:06:09 → 00:06:12 อาหารในแต่ละวันนะครับแล้วก็เขาก็กล่าว
00:06:12 → 00:06:14 อ้างว่ามันมี Short term Random contr
00:06:14 → 00:06:17 Control trial ก็คือทำให้คิ metabolic
00:06:17 → 00:06:19 rist Profile ต่างๆดีขึ้นอย่างที่ผมพูด
00:06:19 → 00:06:22 เมื่อกี้น้ำหนักตัวความดันแต่เขาก็ยัง
00:06:22 → 00:06:24 สงสัยว่าประโยชน์ใน long เทมหรือระยะยาว
00:06:24 → 00:06:27 เนี่ยโดยเฉพาะในเรื่องของผลต่ออัตราการ
00:06:27 → 00:06:30 ตายจะเป็นยังไงก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เามา
00:06:30 → 00:06:33 นั่งศึกษาตัวนี้นะครับโดยการตั้งสมมติฐาน
00:06:33 → 00:06:36 ว่าเฮ้ยถ้ามันทำให้คิ metabolic RE
00:06:36 → 00:06:39 profile ตัวชี้วต่างๆเมื่อกี้มันดีขึ้น
00:06:39 → 00:06:42 คนก็ควรจะตายช้าลงบทสรุปงานวิจัยเต้องการ
00:06:42 → 00:06:45 ศึกษาเรื่องผลต่ออัตราการตายว่าจะส่งผล
00:06:45 → 00:06:48 ต่ออัตราการตายแค่ไหนโดยการที่เขาได้มี
00:06:48 → 00:06:52 การติดตามอ่ากลุ่ม Subject นะครับคือ
00:06:52 → 00:06:55 กลุ่มที่เข้าอยู่ในกลุ่มทำงานวิจัยที่
00:06:55 → 00:06:58 เรียกว่า enhance study ประมาณ 43,000
00:06:58 → 00:07:01 รายซึ่งเริ่มต้นแต่ปี 2003 หรือปี 2018
00:07:01 → 00:07:04 เนี่ยแล้วก็มีการ exc criteria อไปโดย
00:07:04 → 00:07:08 การที่อ่าไครทีเรียหรือสิ่งที่เขาจะใช้ใน
00:07:08 → 00:07:12 การคัดคนไข้ออกนะครับก็คือว่าอ่าให้การ
00:07:12 → 00:07:14 การตอบคำถามที่เชื่อถือไม่ได้คัดออกอะไร
00:07:15 → 00:07:17 ประมาณนี้นะครับแล้วก็การกินที่น้อยเกิน
00:07:17 → 00:07:20 ไปหรือการกินที่มากเกินกันไปคือมีรูปแบบ
00:07:20 → 00:07:23 การกินที่อูจำกัดจำเขี่อาหารมากพยายาม
00:07:23 → 00:07:26 จำกัดแคลอรี่หรือคนที่กินแคลอรี่เยอะเกิน
00:07:26 → 00:07:29 ไปก็จะจำกัดออกไปแล้วก็นะครับมีรูปแบบการ
00:07:29 → 00:07:32 กินที่ไม่แน่นอนผมก็ไม่แน่ใจว่าเ้าวัดยัง
00:07:32 → 00:07:35 ไงว่าแน่นอนไม่แน่นอนนะครับแล้วก็ไม่
00:07:35 → 00:07:38 สามารถให้การติดตามได้นะครับแล้วก็มีการ
00:07:38 → 00:07:40 แยกออกมาปรากฏว่าพอหลังจากตัดกลุ่มนี้ออก
00:07:40 → 00:07:43 ไปจาก 43,000 จะเหลือแค่ประมาณ 20,000 คน
00:07:43 → 00:07:47 ที่เข้าสู่งานวิจัยแล้วเก็มาแยกว่ามีการ
00:07:47 → 00:07:51 อ่าทำการสอบถามว่าคุณมีการกินแต่ละวัน
00:07:51 → 00:07:54 อยู่ในช่วงกี่ชั่วโมงก็มีตั้งแต่ 88 ชม
00:07:54 → 00:07:58 8-10 ชม 10-12 ชม 12-16 ช่มแล้วก็มาก
00:07:58 → 00:08:00 กว่า 16 ชั่วโมงแล้วก็ติดตามอัตราการตาย
00:08:00 → 00:08:04 โดยภาครวมเป็นระยะเวลาโดยเฉลี่ยการติดตาม
00:08:04 → 00:08:06 เค้าเนี่ยติดตามด้วยประมาณปี 2013 หรือปี
00:08:06 → 00:08:11 2019 นะครับโดยดูข้อมูลของการตายจาก
00:08:11 → 00:08:15 CDC ของอเมริกานะครับซึ่งก็แยกว่าตายโดย
00:08:15 → 00:08:17 รวมตายในโรคหัวใจตายด้วยมะเร็งนะครับอัน
00:08:17 → 00:08:20 นี้คือสิ่งที่เขาทำประเด็นที่ผมอยากจะชี้
00:08:21 → 00:08:23 นิดนึงก็คือในมุมมองผมก็คือข้อมูลเหล่า
00:08:23 → 00:08:26 นี้เนี่ยมีพอคัดเลือกมาประมาณ 22 คนแล้ว
00:08:26 → 00:08:30 การติดตามของเค้าเนี่ยอันนี้ผมผมไม่เห็น
00:08:30 → 00:08:32 รายละเอียดเพราะมันยังไม่ออกเป็น Play
00:08:32 → 00:08:34 รีวิวแต่เท่าที่อ่านดูเนี่ยความหมายเคคือ
00:08:34 → 00:08:37 เขามีการติดตามโดยการหลังจากที่เขา En
00:08:37 → 00:08:40 20,000 คนนี้ให้เข้าสู่การทำแบบสอบถาม
00:08:40 → 00:08:43 เขาเก็บข้อมูลเพื่อเช็คว่าคนไหนเนี่ยมี
00:08:43 → 00:08:46 รูปแบบการกินจำกัดอยู่กี่ชั่วโมงต่อวัน
00:08:46 → 00:08:50 โดยการใช้แบบสอบถามนะครับโดยการมีการถาม 2
00:08:50 → 00:08:54 ครั้งว่าในรอบ 24 ช่วโมงที่ผ่านมาเนี่ย
00:08:54 → 00:08:59 คุณกินคุณกินต่ำกว่า 8 ชมง 8-10 ชมงหรือ
00:08:59 → 00:09:01 10 ถึง 12 ชั่วโมหรือ 12 - 16 ชั่ม
00:09:01 → 00:09:03 หรือมากกว่า 16 ชั่วโมงโดยการใช้แบบสอบ
00:09:03 → 00:09:07 ถามว่า 24 ชั่มที่ผ่านมาโดยในรอบ 1 ปี
00:09:07 → 00:09:10 หลังจากที่เอลให้คนเข้าสู่การทดลองนี้ใน
00:09:10 → 00:09:15 รอบ 1 ปีจะมีการถามอย่างนี้ 2 ครั้งโกนิ
00:09:15 → 00:09:19 โก mas ยังมีส่วนช่วยเพิ่มไขมัน hdl ลด
00:09:19 → 00:09:23 โอกาสเกิดอัมพาตโรคหัวใจโรคมะเร็งมีรส
00:09:24 → 00:09:27 ชาติหอมอร่อยตามธรรมชาติส่วนโก mas
00:09:27 → 00:09:31 ช็อกแลตมีส่วนผสมของน้ำตาลจากหัวผักกาด
00:09:31 → 00:09:34 อันนี้กินง่ายแล้วก็เป็นที่นิยมมากแต่ว่า
00:09:34 → 00:09:37 เวลาสั่งเนี่ยจะต้องรอคิวและเป็นที่น่า
00:09:37 → 00:09:40 ภาคภูมิใจว่าคนไทยสามารถทำช็อกโกแลตใน
00:09:40 → 00:09:44 เกรดนี้ได้เอาล่ะครับกลับเข้าสู่เนื้อหา
00:09:44 → 00:09:47 แล้วก็ถือว่าจบแล้วก็สรุปเลยว่านี่แหละคน
00:09:47 → 00:09:50 นี้เขากินโดย Time Rest eating Time
00:09:50 → 00:09:54 แบบนี้นะครับแล้วก็มีการติดตามข้อมูลติด
00:09:54 → 00:09:58 ตามต่อไปโดยเฉลี่ยว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุ
00:09:58 → 00:10:01 อะไรบ้างอันนี้ผมผมน่าจะเข้าใจไม่ผิดถ้า
00:10:01 → 00:10:04 เข้าใจผิดอาจารย์ก็ช่วยแย้งตรงนี้ซึ่งใน
00:10:04 → 00:10:08 มุมมองผมการที่คุณจะเอาข้อมูลของการที่
00:10:08 → 00:10:11 ถามอยู่ในระยะการติดตามเฉลี่ย 8 ปีแล้ว
00:10:11 → 00:10:14 คุณถามอยู่แค่ 2 วันว่ากินยังไงแล้วมา
00:10:14 → 00:10:17 สรุปว่า 8 ปีทั้งหมดเค้าไอ้การถาม 2 วัน
00:10:17 → 00:10:20 นี้จะแทนรูปแบบการกินตลอด 8 ปีของเาเนี่ย
00:10:20 → 00:10:23 ผมว่ามันไอ้ตรงนี้เป็นจริงๆที่ผมไม่ไม่
00:10:23 → 00:10:25 อยากจะไลฟ์เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรกเพราะ
00:10:25 → 00:10:27 ว่าผมดูแค่นี้ผมก็ขี้เกียจอ่านละเพราะผม
00:10:27 → 00:10:30 รู้สึกว่าไอ้การที่ที่ถามว่า 24 ช่วโมง
00:10:30 → 00:10:33 ที่ผ่านมาคุณกินยังไงบ้างในช่วงเวลาเท่า
00:10:33 → 00:10:37 ไหร่ 2 ครั้งและเอาไปเฉลี่ยเป็นเป็นตั้ง
00:10:37 → 00:10:39 แต่ปี 2013 ถือปี 2019 หรือเป็นเฉลี่ย 8
00:10:39 → 00:10:42 ปีผมว่า 2 วันมันเป็นตัวแทน 8 ปีไม่ได้ก็
00:10:42 → 00:10:44 เลยเลิกอ่านไปตนี้ต้องมาอ่านรายละเอียด
00:10:44 → 00:10:47 เพราะว่าต้องมานั่งคุยอาจารย์แล้วก็หลัง
00:10:47 → 00:10:50 จากนั้นในเรื่องผลลัพธ์ที่ออกมานะครับ
00:10:50 → 00:10:53 เดี๋ยวตรงนี้ผมจะให้อาจารย์ในฐานะที่เป็น
00:10:53 → 00:10:56 ประธานเพียรรีวิวในสาขาวิศวกรรมแต่ในเป็น
00:10:56 → 00:11:00 ที่ผู้มีความสนใจในการศึกษาในในเรื่องของ
00:11:00 → 00:11:03 สุขภาพร่วมด้วยนะครับให้อาจารย์ได้ได้พูด
00:11:03 → 00:11:06 ในสิ่งที่หลังจากต่อไปนี้ผมเกริ่นบทนำมา
00:11:06 → 00:11:08 แล้วว่าเทำจุดนี้มาเพื่ออะไรครับครับขอ
00:11:08 → 00:11:12 เชิญอาจารย์เลยครับอ๋อครับคืออย่างงี้ผม
00:11:12 → 00:11:16 มองว่าวัตถุประสงค์ของการพริครั้งนี้
00:11:16 → 00:11:19 เนี่ยมันไม่ได้ต้องการจะตีพิมพ์อะไรหรอก
00:11:19 → 00:11:22 มันต้องการมี Paper อยู่ใน proceeding
00:11:22 → 00:11:25 แล้วมันก็ไม่ได้สนใจด้วยว่ามันจะผ่านเพีย
00:11:25 → 00:11:27 รีวิวหรือเปล่าแล้วผมเชื่อว่ามันไม่ผ่าน
00:11:27 → 00:11:32 แน่ๆนะแต่สิ่งที่ทำสำเร็จก็คือทำข่าวแล้ว
00:11:32 → 00:11:35 ก็พาดหัวข่าวไอ้พาดหัวข่าวเนี่ยเป็นเป้า
00:11:35 → 00:11:38 หมายที่สำคัญของกระบวนการนี้จะว่าไปไม่
00:11:38 → 00:11:41 ใช่กระบวนการเนี่ยมันเป็นขบวนการเลยแหละ
00:11:41 → 00:11:44 นะก็คือมีมีผู้เสียผลประโยชน์เอาอย่างนี้
00:11:44 → 00:11:48 ดีกว่าจากการที่ทำไอันแรกก็คือคนส่วนมาก
00:11:48 → 00:11:52 ที่ทำไเนี่ยเขาจะงดอาหารเช้าเป็นส่วนมาก
00:11:52 → 00:11:55 นะแล้วก็บริษัทที่ขายอาหารเช้าเนี่ยยอด
00:11:55 → 00:11:58 มันตกตั้งแต่ช่วงมีโควิดคือหลังจากที่มี
00:11:58 → 00:12:01 โควิดเนี่ยรวมถึงผมด้วยผมก็มาสนใจเรื่อง
00:12:01 → 00:12:07 สุขภาพนะผมก็อยากจะรู้ว่าเอ๊ะไอ้การที่
00:12:07 → 00:12:10 เราจะมีสุขภาพดีอ่ะมันต้องทำยังไงนะแล้ว
00:12:10 → 00:12:14 โดยเฉพาะผมมี ldl สูงนะผมก็อยากจะรู้ไอ้
00:12:14 → 00:12:16 ความจริงมันคืออะไรนะผมก็ศึกษาแล้วก็คน
00:12:16 → 00:12:20 อื่นเขาก็ศึกษาเหมือนกันนะแล้วก็ผลมันออก
00:12:20 → 00:12:23 มาคล้ายๆกันเพราะมันคือความจริงก็คือไอ้
00:12:23 → 00:12:27 พวกอาหารเอ่อ process Food และการกิน
00:12:27 → 00:12:29 บ่อยต่างหากที่มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้
00:12:30 → 00:12:33 metabolic ของของเราอ่ะมันไม่ดีนะนี่คือ
00:12:33 → 00:12:37 การเสียผลประโยชน์มหาศาลของกลุ่มที่ที่
00:12:37 → 00:12:40 ขายอาหารเช้าโดยเฉพาะพวกซีเรียลในอเมริกา
00:12:41 → 00:12:44 ในจีนก็เหมือนกันนะระยะ 15 ปีหลังเนี่ย
00:12:44 → 00:12:47 หลังจากที่มีรายได้เพิ่มก็หันมากินแบบ
00:12:47 → 00:12:50 ตะวันตกก็คือกินแบบอเมริกันก็คือกิน
00:12:50 → 00:12:55 ซีเรียลกับนมนะจนเอ่อถึงยุคโควิดยอดขาย
00:12:55 → 00:12:58 ซีเรียลมันก็ตกเดี๋ยวหมอป๊อบลองเลื่อนไป
00:12:58 → 00:13:01 ดูสไลด์ก่อนหน้าเนี้ยไอ้เนี่ยคนทำวิจัย
00:13:01 → 00:13:04 ทีมวิจัยทั้งหมดเป็นคนจีนมาเก็บข้อมูลใน
00:13:04 → 00:13:07 อเมริกานะดูนามสกุลก็รู้ว่าเป็นทีมจีน
00:13:07 → 00:13:11 ทั้งหมดแล้วมหาลัยก็มาจากเชียงไฮ้นะ
00:13:11 → 00:13:15 มหาลัยในจีนเนี่ยชอบพ้วงมหาลัยในอเมรกา
00:13:15 → 00:13:18 เพื่อให้ดูดูดีเหมือนกับพยายามสวมชุด
00:13:18 → 00:13:22 อเมริกันทั้งๆที่ตัวเองเ่ะเป็นทีมจีนและ
00:13:22 → 00:13:28 ในจีนในอินเดียชอบรับงานทำประเภทวิจัย
00:13:28 → 00:13:32 ปลอมแม้แต่ข่าวปลอมเนี่ยในจีนไม่มีคือไม่
00:13:32 → 00:13:36 มีลักษณะที่ว่าทำเป็นสตูดิโยกเว้นรัฐบาล
00:13:36 → 00:13:41 ทำปน้าเองนะแต่ในอินเดียมันมีเรียกว่ารับ
00:13:41 → 00:13:44 จ้างเลยรับจ้างทำสตูดิทำเป็นผู้ประกาศ
00:13:44 → 00:13:48 ข่าวออกข่าวปลอมทั้งหมดนะทำฉากหลังเป็น Un
00:13:48 → 00:13:53 ทำฉากหลังเป็นไอ้ Who มันทำได้หมดเลยและ
00:13:53 → 00:13:57 ผมเชื่อว่ามันมีความเชื่อมโยงของกลุ่มที่
00:13:57 → 00:14:00 เสียผลประโยชน์สังเกตไอกลุ่มเสียผล
00:14:00 → 00:14:03 ประโยชน์เนี่ยเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของ
00:14:03 → 00:14:07 สมาคมโลกหัวใจของอเมริกานะไม่ว่าจะเป็น
00:14:07 → 00:14:12 ไอ้กลุ่มที่ผลิตยาผลิตวซไอเครื่องอุปกรณ์
00:14:12 → 00:14:16 ทางการแพทย์เนี่ยแล้วก็กลุ่มอาหารนะไอร์
00:14:16 → 00:14:19 ก็เป็นตัวนึงที่เป็นสปอนเซอร์นะบริจาคทีง
00:14:20 → 00:14:23 เอ่อหลายสิบล้านเหรียญในเมื่อมีคนเสียผล
00:14:23 → 00:14:27 ประโยชน์เขาก็ต้องบูสนะยอดขายของเขาขึ้น
00:14:27 → 00:14:29 และสิ่งที่เขาต้องการเนี่ยเไม่ต้องการ
00:14:29 → 00:14:32 วิชาการจริงๆหรอกเต้องการข้อความนิดเดียว
00:14:32 → 00:14:36 เท่านั้นเองว่าเฮ้ยหันมากินอาหารเช้าเ
00:14:36 → 00:14:38 ต้องการแค่นี้เท่านั้นคือเอางานวิจัยเดิม
00:14:38 → 00:14:42 มาวิเคราะห์แล้วก็สรุปใหม่วิธีการเก็บข้อ
00:14:42 → 00:14:44 มูลของเขาคมันห่วยอยู่แล้วนะไอ้การสรุป
00:14:44 → 00:14:48 ของเขาเออมันก็ก็เป็นไปตามที่แต่ทีนี้ไอ้
00:14:48 → 00:14:51 ที่มันหนักกว่าเดิมเนี่ยก็คือไอ้งานวิจัย
00:14:51 → 00:14:54 อันที่ 2 เนี่ยที่มันไปเอาข้อมูลของอัน
00:14:54 → 00:14:59 เดิมแล้วมาสรุปเนี่ยมันสรุปก็คือคนที่ทำไ
00:14:59 → 00:15:03 f 168 เนี่ยนะเอ่อมีโอกาสตายจากโรคหลอด
00:15:03 → 00:15:08 เลือดหัวใจเพิ่มขึ้น 91% ไอ้นี้คือแย่มาก
00:15:08 → 00:15:12 ๆคือไปจับเอาตัวเลขมาผสมผสานกันแล้วก็
00:15:12 → 00:15:19 สรุปนะอันที่ 2 แม้กระทั่งทำ If 14 10
00:15:19 → 00:15:22 เนี่ยนะก็มีโอกาสตายจากโรคหัวใจโรคสโตก
00:15:22 → 00:15:27 เนี่ยเพิ่มขึ้น 66% นะอันที่ 3 If ไม่
00:15:27 → 00:15:30 ได้ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ
00:15:31 → 00:15:34 สรุปโดยที่เหมือนกับว่าตัวเองไม่รู้เลย
00:15:34 → 00:15:39 ว่ากำลังไปสำรวจคนที่มีมีโรคอยู่แล้วอ่ะ
00:15:39 → 00:15:42 ไอ้ที่เขาสำรวจเนี่ยก็คือสำรวจคนที่มีโรค
00:15:42 → 00:15:44 อยู่แล้วนะไม่ไม่ใช่สำรวจมนุษย์ปกติที่ทำ
00:15:44 → 00:15:46 ไนะ
00:15:46 → 00:15:50 ครับแล้วก็ผมก็บอกว่ามันไม่แฟร์ตรงที่
00:15:50 → 00:15:53 สมมุติว่าคนที่เป็นมะเร็งบางคนมันกินไม่
00:15:53 → 00:15:56 ได้ถูกมั้ยฮะบางคนก็กินได้มากไอ้คนที่กิน
00:15:56 → 00:15:58 ไม่ค่อยได้เนี่ยก็หมายความว่าเค้าเป็น
00:15:58 → 00:16:01 เยอะแล้วหมายความว่ามันไม่มีการคอนโทรล
00:16:01 → 00:16:03 ว่าเป็นมะเร็งระยะเดียวกันหรือเปล่าเป็น
00:16:03 → 00:16:06 มะเร็งแบบเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ไอ้
00:16:06 → 00:16:09 นี่ไม่เรียกว่าคล trial ละถูกมั้ยครับอัน
00:16:09 → 00:16:12 นี้ก็คือเป็นงานวิจัยที่เรียกว่าชั้นต่ำ
00:16:12 → 00:16:15 แล้วะสุดท้ายก็คือไอ้การกินมากกว่า 16
00:16:16 → 00:16:20 ชมงอ่ะต่อวันเนี่ยช่วยลดโอกาสการตายของ
00:16:20 → 00:16:23 กลุ่มที่เป็นโรคมะเร็งคือผมตีความหมายว่า
00:16:23 → 00:16:27 ไอ้คนที่มันเป็นมะเร็งแล้วมันพอกินได้อ่ะ
00:16:28 → 00:16:30 นะเค้าก็พยายามกินทุกวันแต่ว่าเเอ่อ
00:16:30 → 00:16:33 พยายามกินตลอดเวลาแต่ว่าเกินไม่ได้เยอะ
00:16:33 → 00:16:36 หรอกเกินได้ทีละนิดทีละนิดทีละนิดนะมันก็
00:16:36 → 00:16:39 จำกัดแคลอรีไปในตัวถูกมครับแต่ไอ้คนที่
00:16:39 → 00:16:42 กินไม่ได้ไม่อยากกินอะไรเลยกินไม่ได้นั้น
00:16:42 → 00:16:45 มันอาจจะเป็นระยะที่ว่าใกล้จะเสียชีวิต
00:16:45 → 00:16:47 แล้วไอ้นี้คือเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่
00:16:48 → 00:16:52 แฟร์ที่สุดและถ้าเกิดคุณมีสตางค์นะคุณหา
00:16:52 → 00:16:55 ซื้อ Extra vergin Olive Oil เอาของ
00:16:55 → 00:16:59 แท้ถ้าเกิดคุณหาซื้อไม่ได้ก็ลองติดต่อลาย
00:16:59 → 00:17:02 ตามที่เห็นของแท้ถ้าเกิดคุณเอาไปแช่ตู้
00:17:02 → 00:17:06 เย็นมันจะเป็นไขรสชาติมันหอมกลืนง่ายไม่
00:17:06 → 00:17:10 บาดคอแบบของปลอมหรือของปลอมปนแต่ว่าปลา
00:17:10 → 00:17:13 กระป๋องที่ได้มาตรฐานส่งออกไปอเมริกาใน
00:17:13 → 00:17:16 ยุโรปถือว่าเป็นซุเปอร์ Food เป็นของดี
00:17:16 → 00:17:20 และด้วยความกรุณาของบริษัทไทยยูเนียนก็
00:17:20 → 00:17:24 ผลิตตามมาตรฐานในประเทศพัฒนาแล้วตามสเปค
00:17:24 → 00:17:28 ตามรสชาติที่ผมกำหนดอาจารย์ก็ได้สรุปให้
00:17:28 → 00:17:31 เห็นภาพนะครับคือจริงๆมันมีหลายเรื่อง
00:17:31 → 00:17:33 เนาะจริงๆมีแฟนเพจบาคนต่อแล้วต้องเจอ
00:17:33 → 00:17:36 อาจารย์ลอยพูดตรงไม่ต้องแปลนะครับคือ
00:17:36 → 00:17:38 อย่างที่ผมให้ที่อาจารย์พูดเมื่อกี้นะผม
00:17:38 → 00:17:41 อยากจะให้เห็นตรงนี้ก็คือว่าถ้าเรามาดู
00:17:41 → 00:17:42 เหมือนอย่างที่อาจารย์พูดเมื่อกี้ว่า
00:17:42 → 00:17:46 กลุ่มที่อ่าในกลุ่มที่เค้าโฟกัสคืออะไรฮะ
00:17:46 → 00:17:49 คือกลุ่มที่ทานน้อยกว่า 8 ชมงหรือคนที่ทำ
00:17:49 → 00:17:53 fasting 1688 ก็คือ Fast 16 แล้วก็กิน
00:17:53 → 00:17:56 8 ชมงเนี่ยเราจะเห็นว่าโดยเฉลี่ยออกมา
00:17:56 → 00:17:59 เนี่ยนะครับโดยถ้าเราดูตรงนี้เราจะเห็น
00:17:59 → 00:18:02 ว่าโดยค่ามีนเนี่ยเราจะเห็นว่ากลุ่มนี้
00:18:02 → 00:18:05 เป็นกลุ่มที่มี BMI หรือน้ำหนักตัวเนี่ย
00:18:05 → 00:18:07 มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มทั้งหมดจริงที่
00:18:07 → 00:18:10 ผมทิกอันนึงซึ่งผมคิดว่าในอาจารย์คือคือ
00:18:10 → 00:18:13 ใช่ค่อนข้างจะอ้วนมันาติแล้วมันอ้วนขนาด
00:18:13 → 00:18:17 เนี้ยอันนี่คือคือถ้าเทียบกับมาตรฐานของ
00:18:17 → 00:18:20 เอ่อความสูงของคนอเมริกันนะปรับความสูง
00:18:20 → 00:18:23 อย่างนี้แล้วเนี่ย BMI 30 เนี่ยถือว่า
00:18:23 → 00:18:27 อ้วนแล้วมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนฟาขนาด
00:18:27 → 00:18:30 นี้แล้วแล้วจะอ้วนขนาดนี้ถูกมั้ยครับเป็น
00:18:30 → 00:18:33 ไปไม่ได้แล้วเราก็จะเห็นอย่างนึงนะฮะก็
00:18:33 → 00:18:35 คือกลุ่มอย่างที่อาจารย์พูดคือกลุ่มที่
00:18:35 → 00:18:39 อ่าฟา 16 ชมงเนี่ยก็คือเราจะเห็นว่าใน
00:18:39 → 00:18:42 กลุ่มเนี้มีโรคหัวใจสูงกว่าค่ามีนหรือค่า
00:18:42 → 00:18:44 เฉลี่ยของจำนวนเคสทั้งหมดครับเป็นว่า
00:18:44 → 00:18:48 สมมุติว่าเค้าเก็บข้อมูลถูกต้องนะเราก็
00:18:48 → 00:18:52 ต้องรู้ว่าไอ้คนที่กินเอ่อน้อยกว่า 8 ชม
00:18:52 → 00:18:56 เนี่ย Sample ไซสมันน้อยเนี่ยความเบี่ยง
00:18:56 → 00:18:57 เบนมันสูง
00:18:57 → 00:18:59 อื
00:18:59 → 00:19:03 ถูกมยใช่ฮะแต่ว่านี่คือประเด็นรองนะ
00:19:03 → 00:19:06 ประเด็นหลักก็คือก็คือมันผิดตั้งแต่
00:19:06 → 00:19:09 กระบวนการแล้วกระบวนการเก็บข้อมูลผมก็มอง
00:19:09 → 00:19:12 รู้สึกว่ามีปัญหาตั้งแต่แรกะฮะก็คืออัน
00:19:12 → 00:19:14 นี้คือคือ Foundation เลยเป็นเป็นเป็นฐาน
00:19:14 → 00:19:19 หน้าคของตึกเลยฮะคือไอ้คนที่เอามาเอ่อ
00:19:19 → 00:19:22 โปรโมทในรอบนี้เนี่ยนะผมว่าเขาอ้างอิงข้อ
00:19:22 → 00:19:26 มูลเก่าเพื่อไม่ให้ถูกแบนเนี่ยไม่ได้
00:19:26 → 00:19:29 สำรวจข้อมูลใหม่นะเอาข้อมูลมูเก่าแล้วก็
00:19:29 → 00:19:32 มาเล่นกับตัวเลขจริงๆถ้าไม่นับงานวิจัย
00:19:32 → 00:19:34 ตัวนี้รูปแบบงานวิจัยที่เอางานวิจัยเก่า
00:19:34 → 00:19:36 มาเล่นตัวเลขใหม่จริงๆเยอะด้วยนะอาจารย์
00:19:36 → 00:19:39 ช่วงนี้มีเยอะมากในทุกวันนี้ในโลกโซเชียล
00:19:39 → 00:19:43 ในประเทศไทยนะฮะมี researcher หรือนัก
00:19:43 → 00:19:45 วิจัยหลายคนไม่ว่าจะเป็นหมอหรือไม่ใช่หมอ
00:19:45 → 00:19:48 ในเมืองไทยหลายคนซึ่งหลายคนก็ไม่ได้
00:19:48 → 00:19:51 ซีเรียสกับการทำ fing ก็ยังออกมาพูดเลย
00:19:51 → 00:19:56 ว่างานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่ดูแล้วมัน
00:19:56 → 00:19:59 มันไม่ make sense นะครับซึ่งผมก็เห็น
00:19:59 → 00:20:01 ด้วยกับอาจารย์ว่าโอกาสจะผ่านเพียรีวิว
00:20:01 → 00:20:04 แล้วขึ้นมาพิบนนิยสานอารแพทย์นี่ยากแต่
00:20:04 → 00:20:06 จุดประสงค์แรกเ้าได้แล้วแนๆคือเฮดไลน์
00:20:06 → 00:20:09 ข่าวนี่ใหญ่มากนะครับระเบิดระเบ้อคือถ้า
00:20:09 → 00:20:13 เกิดเข้าพบิดในเอ่อวารสารแพทย์ฉบับไหน
00:20:13 → 00:20:16 เนี่ยไอ้ฉบับนั้นน่ะเสียฉบับนั้นโดนโดน
00:20:16 → 00:20:19 แน่ๆเลยคือคือมันจะเสียเครดิตเลยครับไอ้
00:20:19 → 00:20:22 งานวิจัยเกรดอย่างเงี้ยเ่อสมมุติว่าถ้า
00:20:22 → 00:20:24 เป็นงานทางวิศวกรรมเหมืองแรบเหมืองบนดิน
00:20:24 → 00:20:28 เนี่ยส่งมาที่โต๊ะผมเนี่ยนะครับคือเสนอตี
00:20:28 → 00:20:30 พิมพ์ในใน journal ที่ที่ผมเป็นประธาน
00:20:31 → 00:20:32 สาขา
00:20:32 → 00:20:36 เนี่ยคือผมแค่อ่าน Abstract เนี่ยผมทิ้ง
00:20:36 → 00:20:40 เลยโยนทิ้งทันทีคือไม่มีการรีวิวบอกว่า
00:20:40 → 00:20:43 มาตรฐานไม่ถึงไม่สามารถเอาไปพูดหรือว่าไป
00:20:43 → 00:20:47 ทำ proceeding ในที่ประชุมได้เลยนะแล้วก็
00:20:47 → 00:20:50 ไอ้การที่จะลง pish ได้อ่าอย่างของผม
00:20:50 → 00:20:52 เนี่ยผมก็จะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญอ่าสมมุติ
00:20:52 → 00:20:54 ว่าผมตัดสินแล้วว่าไอ้เนี่ยเป็นงานที่
00:20:54 → 00:20:57 เรียกว่าใช้ได้แต่ว่าจะต้องให้ผู้เชี่ยว
00:20:57 → 00:21:01 ชาญสัก 23 3 คนมารีวิวนะผมก็จะส่งโดยที่
00:21:01 → 00:21:05 ปิดชื่อคนเขียนปิดชื่อสถาบันทั้งหมดนะ
00:21:05 → 00:21:09 แล้วก็แน่ใจว่าไอ้คนที่ตรวจสอบเนี่ยไม่
00:21:09 → 00:21:11 ได้อยู่สถาบันเดียวกันไม่ได้อยู่เอ่อ
00:21:11 → 00:21:14 University เดียวกันขณะเดียวกันผมก็จะปก
00:21:14 → 00:21:19 ปิดไม่ให้คนเขียนรู้ว่าผมไปส่งให้ใครไม่
00:21:19 → 00:21:24 ให้เกิดการล็อบบี้นะจนกระทั่งเอ่อคน
00:21:24 → 00:21:26 expert เนี่ยเค้าที่เค้ารีวิวแล้วเ้า
00:21:26 → 00:21:31 เห็นด้วยว่าไอ้เนี่ยคือคือเป็นเพอรที่
00:21:31 → 00:21:33 อยู่ในมาตรฐานนะอาจจะต้องมีการปรับแก้
00:21:33 → 00:21:38 อะไรกันนิดหน่อยนะแล้วก็เอ่อก็ส่งมาที่ผม
00:21:38 → 00:21:41 ทุกคนก็ส่งมาที่ผมแล้วผมก็สรุปว่าอ้ออัน
00:21:41 → 00:21:44 นี้ถูกต้องอันนี้คือ pish ได้นะต้องปรับ
00:21:44 → 00:21:49 แก้ตามที่เปคนไหนว่ามานะคือขั้นตอนของเพ
00:21:49 → 00:21:52 รีวิวมันเป็นแบบนี้ยกเว้นถ้าเกิดคนนึง
00:21:53 → 00:21:56 เห็นด้วยคนนึงไม่เห็นด้วยนะไอนี้ผมก็ต้อง
00:21:56 → 00:21:59 ตัดสินนะแล้วเค้าก็ให้เกียรติที่ผมเป็น
00:21:59 → 00:22:02 ประธานเป็นคนเป็นคนตัดสินคือหลายคนไม่รู้
00:22:02 → 00:22:05 ว่าไอ้ตำแหน่งเพียรรีวิวแชร์เนี่ยในในวง
00:22:05 → 00:22:08 วิชาการถือว่าเป็นเป็นท็อปสุดะนะเพราะว่า
00:22:08 → 00:22:12 มีมีที่ว่าเรารู้จักอ่ะนะเป็น expert
00:22:12 → 00:22:15 เป็นศาสตราจารย์เป็นเอ่อ consultant เอ่อ
00:22:15 → 00:22:18 ระดับท็อปๆเบอร์ต้นๆของโลกเนี่ยให้ความ
00:22:18 → 00:22:21 เคารพแล้วผมเชื่อว่าไอ้เพอร์เนี้ยไม่ได้
00:22:22 → 00:22:24 ตีพิมพ์หรอกนะคือถ้ามันจะตีพิมพ์อ่ะมัน
00:22:25 → 00:22:29 สงสัยต้องไปตีพิมพ์ในในจีนในอินเดียแล้ว
00:22:29 → 00:22:32 แล้วมันก็มีนะไอ้ประเภทในจีนในอินเดียที่
00:22:32 → 00:22:35 เขาทำเป็นเหมือนกับว่า journal ได้
00:22:35 → 00:22:40 มาตรฐานแต่ว่ามันรับเงินทั้งนั้นคือขอให้
00:22:40 → 00:22:43 จ่ายเงินมันตีพิมพ์ให้ไอ้สถาบันที่ที่จะ
00:22:43 → 00:22:46 เป็นหลักเนี่ยมันต้องส่วนมากมันจะเป็น
00:22:46 → 00:22:50 สถาบันเก่าแก่โอเคนะครับงั้นวันนี้ก็ผม
00:22:50 → 00:22:53 ว่าเพื่อนๆน่ะได้เห็นในมุมมองว่าเวลาเรา
00:22:54 → 00:22:57 จะดูงานวิจัยเนี่ยเราเราดูอะไรบ้างนะครับ
00:22:57 → 00:22:59 เหมือนอย่างที่ผมกับอาจารย์มีความเห็น
00:22:59 → 00:23:03 ตรงงกันก็คือว่าจริงๆอ่ะเราเราแทบจะไม่ดู
00:23:03 → 00:23:06 ข้อมูลหลังต่อจากนั้นเลยหลังจากที่เรารู้
00:23:06 → 00:23:09 ว่าเขามีวิธีการรวบรวมข้อมูลยังไงนะครับ
00:23:09 → 00:23:12 เมอย่างที่ผมบอกฮะในมุมมองของผมกับ
00:23:12 → 00:23:14 อาจารย์เนี่ยคือการใช้ question โดยการ
00:23:14 → 00:23:17 ให้คนไข้ recall memmory เนี่ยเป็น
00:23:17 → 00:23:20 เรื่องอะไรที่ผิดพลาดกันกันได้ง่ายมากนะ
00:23:20 → 00:23:21 ครับแล้วมันไม่ได้เป็นการเริ่มต้นจาก
00:23:21 → 00:23:25 กรุ๊ปใหม่แต่เป็นเอาการเอาข้อมูลเก่ามา
00:23:25 → 00:23:29 นั่งีย an ใหม่แล้วก็การทำีคอเนี่ยเขาถาม
00:23:30 → 00:23:35 แค่ 2 วันมีการีอ 2 วันภายใน 1 ปีนะครับ
00:23:35 → 00:23:39 แล้วก็ฟนว่า 8 ปีที่ผ่านมาคุณไยังไงซึ่ง
00:23:39 → 00:23:42 จริงๆไอ้การที่คุณกินแบบนั้นที่เขาถาม 2
00:23:42 → 00:23:43 วันคุณอาจจะไม่ได้กินอย่างนั้นตลอดทั้ง 7
00:23:44 → 00:23:47 ปี 8 ปีก็ได้ดังนั้นในตอนที่ผมนั่งอ่าน
00:23:47 → 00:23:49 รายละเอียดตอนี้เมื่อวานเนี่ยนั่นนั่นคือ
00:23:49 → 00:23:51 เหตุผลที่ตอนที่ผมโพสต์ผมโพสต์แค่อฟ
00:23:51 → 00:23:55 กราฟิกรูปเดียวลงไปนะครับว่ามันผมขี้
00:23:55 → 00:23:57 เกียจดูต่อจากนั้นแล้วเพราะว่าเหมือน
00:23:57 → 00:24:00 อย่างที่อาจารย์พูดคือคือพอเราดูที่ไปที่
00:24:00 → 00:24:02 ที่มา Data เราก็มีความรู้สึกว่าข้อมูล
00:24:02 → 00:24:04 ไม่ว่าจะออกมายังไงเนี่ยมันไม่มีความน่า
00:24:04 → 00:24:07 เชื่อถือแล้วไม่สามารถแปรผลอะไรได้นะครับ
00:24:07 → 00:24:10 เครื่องเทศน์ประมาณ 10 กว่ารายการที่ผมทำ
00:24:10 → 00:24:15 กินเองแล้วก็มีคนอยากจะให้ผมทำขายราคานี้
00:24:15 → 00:24:19 ถือว่าขายถูกมากค่าวัตถุดิบกับค่าแรงบวก
00:24:19 → 00:24:22 กำไรนิดหน่อยเท่านั้นเองผมแนะนำให้คนกิน
00:24:22 → 00:24:25 เบอร์รี่อย่างละนิดอย่างละหน่อยไม่ต้อง
00:24:25 → 00:24:29 กินมากแต่ขอให้กินทุกวันมันเปรียบได้กับ
00:24:29 → 00:24:32 อาหารเสริมตามธรรมชาติมันเป็นส่วนที่ดี
00:24:32 → 00:24:35 ที่สุดของผลไม้และมันมีน้ำตาลน้อยอย่าง
00:24:35 → 00:24:37 ที่อาจารย์บอกนะเราก็รู้แหละว่ามันมัน
00:24:38 → 00:24:40 เกิดอะไรขึ้นจริงๆหลายคนที่อยู่ในวงการ
00:24:40 → 00:24:45 สุขภาพจะรู้ในเรื่องของอ่าการ funded
00:24:45 → 00:24:48 อะไรต่างๆเหล่านี้นะครับที่มันมีในเรื่อง
00:24:48 → 00:24:50 ของการ Back up ในเรื่องของการที่ให้นำ
00:24:50 → 00:24:53 เสนอข่าวอะไรต่างๆเพื่อเป็นประโยชน์ใน
00:24:53 → 00:24:55 เรื่องของ Business ในหลายๆอย่างเพียงแต่
00:24:55 → 00:24:58 ว่าผมเชื่อว่าอย่างหลายๆคนพูดนะว่าใน
00:24:58 → 00:25:00 เรื่องการพูดนี้ไม่มีใครตรงไปตรงมาเท่า
00:25:00 → 00:25:02 อาจารย์อีกแล้วไม่มีใครตรงไปตรงมาเท่า
00:25:02 → 00:25:06 อาจารย์รออีกแล้วนะครับแทรกนิดนึงครับขออ
00:25:06 → 00:25:09 ได้ๆนิดนึงก็คือแม้แต่สมาคมโลกหัวใจของ
00:25:09 → 00:25:13 อเมริกาเองเ่ะเขาก็ออกตัวนะว่า statement
00:25:13 → 00:25:15 and conclusion of the study เนี่ย
00:25:15 → 00:25:19 ก็คือที่พีนใน Meeting ครั้งนี้เนี่ยนะ
00:25:19 → 00:25:23 เป็นของผู้ประพันธ์เป็นของอเตอร์ล้นล้วน
00:25:23 → 00:25:26 คือสมาคมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยคือแม้
00:25:26 → 00:25:31 แต่จะ ref นโยบายหรือเป้าหมาย
00:25:31 → 00:25:35 วัตถุประสงค์ของสมาคมก็ไม่ใช่นะและอันที่
00:25:36 → 00:25:38 2 เขาก็บอกว่าสมาคมอ่ะไม่ได้เป็นตัวแทน
00:25:38 → 00:25:41 ของ Paper นี้แล้วก็ไม่ได้การันตีเรื่อง
00:25:41 → 00:25:45 ของ accuracy แล้วก็น่าเชื่อถือด้วยแต่
00:25:45 → 00:25:49 ว่าต้องไม่ลืมว่าสมาคมเนี่ยรับไปเต็มๆก็
00:25:50 → 00:25:54 คือรับเงินสปอนเซอร์จากการประชุมคือการ
00:25:54 → 00:25:57 ประชุมวิชาการเนี่ยถ้าคุณอยากจะพูดที่ว่า
00:25:57 → 00:26:00 มันเกี่ยวข้องอ่ะขอให้มาสปอนเซอร์แล้วก็
00:26:00 → 00:26:04 ได้พูดเอ่อไอ้นี่ก็จ่ายอย่างเดียวแล้วก็
00:26:04 → 00:26:07 ขอให้ได้พูดเอ่อสมาคมเขาก็บอกว่าเนี่ยที่
00:26:07 → 00:26:10 เขาให้พูดเพราะว่าเพื่อให้เกิดความหลาก
00:26:10 → 00:26:13 หลายเพื่อให้เกิดการถกเถียงอืแล้วก็ถือ
00:26:13 → 00:26:16 ว่ามันเป็นเอ่อขั้นประถมเป็นอะไรเท่านั้น
00:26:16 → 00:26:19 ที่ที่ยังไม่ได้ผ่านเพียรรีวิวนะก็คือผม
00:26:19 → 00:26:22 ไม่เคยเจอว่าโอ้โหไอ้สมาคมไหนมันจะต้อง
00:26:22 → 00:26:26 ออกตัวกันขนาดนี้ออกตัวแม้นกระทั่งว่าไอ้
00:26:26 → 00:26:30 เพอร์เนี้ยมันได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่ม
00:26:30 → 00:26:34 ไหนตัวสมาคมเองก็ได้รับเงินสนับสนุนคือ
00:26:34 → 00:26:38 บอกเป็นทางอ้อมอ่ะว่าเค้าเอ่อได้รับเงิน
00:26:38 → 00:26:42 บริจาคสำหรับโปรแกรมหรือสำหรับ Event ก็
00:26:42 → 00:26:45 หมายความว่าถ้าเกิดไอ้มีใครอยากจะ
00:26:45 → 00:26:48 สปอนเซอร์การประชุมของเขาใน event ไหน
00:26:48 → 00:26:50 เนี่ยก็สามารถระบุได้เลยว่าไอ้สปอนเซอร์
00:26:50 → 00:26:53 อเวนนี้แล้วเพื่อแลกเปลี่ยนกับอะไรอาจจะ
00:26:53 → 00:26:57 ไปตั้งบูทหรืออาจจะไปขอพูดในอีวนนั้นซะ
00:26:57 → 00:26:59 หน่อยนะอันนี้นี่ก็คือเขาก็ออกมายอมรับ
00:26:59 → 00:27:03 อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าคนที่อ่านเพอร์
00:27:03 → 00:27:07 อ่านไม่ถึงไอ้ท่อนสุดท้ายอ่ะที่เา dec
00:27:07 → 00:27:09 แล้วโดยเฉพาะผมว่าสื่อเมืองไทยไม่อ่าน
00:27:09 → 00:27:12 ด้วยซ้ำไปไอ้ท่อนที่พูดแล้วทำข่าวไม่ได้
00:27:12 → 00:27:15 มีเพื่อนถามว่าแล้วไม่มีงานวิจัยที่ทำ If
00:27:15 → 00:27:18 แลได้ผลมาแยงเลยเหรอมีครับแต่ว่าอย่างที่
00:27:18 → 00:27:20 เขากล่าวว่าส่วนมากงานวิจัยเรื่อง If
00:27:20 → 00:27:23 เนี่ยจะเป็นงานวิจัยที่เราเรียกเป็น Short
00:27:23 → 00:27:25 term การจะวัด mity หรืออัตราการตายคุณ
00:27:25 → 00:27:27 ต้องใช้ long เทมโอเคมอาจจะต้องดูไป 10
00:27:27 → 00:27:30 ปีคุณถึงจะบอกได้ว่าการปฏิบัติแบบเนี้ย
00:27:30 → 00:27:33 มันส่งผลต่อการเสียชีวิตแค่ไหนดังนั้นการ
00:27:33 → 00:27:36 วิจัยทางทำเนี่ยส่วนมากเราจะดูอะไรให้น้ำ
00:27:36 → 00:27:38 หนักตัวเปลี่ยนแปลงเป็นแนวทางที่ดีมน้ำ
00:27:38 → 00:27:39 ตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงเป็นแนวทางที่ดี
00:27:39 → 00:27:41 หรือเปล่าไขมันในเลือดเปลี่ยนแปลงเป็นแนว
00:27:42 → 00:27:45 ทางที่ดีมความดันสูงลดลงมการอักเสบในร่าง
00:27:45 → 00:27:47 กายอย่างเช่น High sensitive crp เนี่ย
00:27:47 → 00:27:51 ลดลงหรือเปล่าเอนไซมตับลดลงมไขมันพอกตับ
00:27:51 → 00:27:54 ลดลงมแต่ว่าอย่างงี้คือมันมีทดลองในหนู
00:27:54 → 00:27:58 ซึ่งมันอายุสั้นไอ้หนูที่กินแบบตดตลอด
00:27:58 → 00:28:01 เวลาคือมีอาหารตลอด 24 ช่มอ่ะไอ้พวกนี้
00:28:01 → 00:28:04 ตายเร็วและสาเหตุที่มันตายเร็วเพราะว่า
00:28:04 → 00:28:08 มันแก่เร็วขณะที่หนูที่กินจำกัดเวลาแค่ 2
00:28:08 → 00:28:11 ชั่วโมงคือมันจะกินอะไรก็กินเต็มที่ 2
00:28:11 → 00:28:13 ชั่วโมงแล้วที่เหลือมันไม่มีสิทธิ์กินไอ้
00:28:13 → 00:28:16 พวกนี้ปรากฏว่าแก่ช้าแล้วก็ตายช้าแต่แล้ว
00:28:16 → 00:28:19 อันที่ 2 ก็คืองานวิจัยที่ไม่เป็นข่าวผม
00:28:19 → 00:28:22 เข้าใจว่าออกมาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็คือ
00:28:22 → 00:28:24 ความสามารถในการวิดพื้นเป็นอินดิเคเตอร์
00:28:24 → 00:28:28 ที่สำคัญในการบอกเอ่อโรคหัวใจ
00:28:28 → 00:28:32 มากกว่าค่า ldl คอเลสเตอรอลแล้วก็เขาก็
00:28:32 → 00:28:36 แบ่งเลยว่าใครวิดพื้นได้ 10 ที 20 ที 30t
00:28:36 → 00:28:40 40t แล้วเขาเห็น coloration เนี่ยความ
00:28:40 → 00:28:43 สัมพันธ์ไอ้ตรงเนี้ยชัดเจนกว่า
00:28:43 → 00:28:46 ldl เยอะเลยคือคนละเรื่องกันเลยผมคิดว่า
00:28:47 → 00:28:48 ในห้องนี้เพื่อนๆหลายคนบอกว่าส่วนมากมาก
00:28:49 → 00:28:51 กว่า 90% น่าจะก้าวข้ามเรื่ององ ldl แล้ว
00:28:51 → 00:28:54 นะเรายังอยู่ติดอยู่กับ ldl อยู่น่าจะ
00:28:54 → 00:28:56 ก้าวข้ามแล้วนะมันเป็นเรื่องอะไรที่เรา
00:28:57 → 00:28:59 ถูกฝังหัวมาทางหน้าที่มี Data คัดค้าน
00:28:59 → 00:29:01 เยอะมากนะครับแล้วเรื่อง ldl เนี่ยมันผม
00:29:02 → 00:29:04 ห่วงสุขภาพของตัวเองเนี่ยก็เกิดจาก ldl
00:29:04 → 00:29:08 นี่แหละผมมี ldl สูงนะแล้วผมก็พยายาม
00:29:08 → 00:29:12 ศึกษาเอ๊ทำไมต้องลดเอ่อทำยังไงถึงจะลด ldl
00:29:12 → 00:29:15 เราจำเป็นต้องกินยาหรือเปล่ามันควรจะลด
00:29:15 → 00:29:18 หรือเปล่านะแล้วข้อสรุปก็คือไม่ควรจะไป
00:29:18 → 00:29:21 ยุ่งอะไรกับมันมันอยากจะสูงก็ให้มันสูงไป
00:29:21 → 00:29:25 แต่ว่าที่สำคัญก็คือเราต้องควบคุมน้ำตาล
00:29:25 → 00:29:29 ไกไลแล้วก็ลดการอักเสบในระดับเซลล์ให้ได้
00:29:29 → 00:29:32 นะแล้วผมเชื่อว่าผมเองเ่ะในขณะเนี้ยแม้น
00:29:32 → 00:29:36 มี ldl สูงถึง 300 นะแต่ผมเชื่อว่าผมไม่
00:29:36 → 00:29:39 มีความเสี่ยงนะก็มีเปอร์หนึที่พิออกมามี
00:29:39 → 00:29:43 การเารวบรวมติดตามคนที่สูงอายุผมจำไม่ได้
00:29:43 → 00:29:46 สูงอายุนี่เกินเท่าไหร่นะครับเป็นเวลา 35
00:29:46 → 00:29:49 ปีแล้วก็ดูว่ากลุ่มที่ได้ฉลองวันเกิดครบ
00:29:49 → 00:29:51 100 ปี1ึคือระดับของน้ำตาลสะสมหรือ
00:29:51 → 00:29:54 ฮิมกี่ในวซต่ำกว่าคนที่เสียชีวิตไปก่อน
00:29:54 → 00:29:57 โดยเฉลี่ยอันที่ 2 คือระดับของกดยูริกใน
00:29:57 → 00:30:00 เลือดต่ำกว่าคนที่เสียชีวิตไปก่อนนะถ้า
00:30:01 → 00:30:03 ใครตามผมกับอาจารย์รมานนึงน่าจะทราบว่า
00:30:03 → 00:30:06 ตัวการกดจริกจริงๆก็คือน้ำตาลฟลุกโต๊นะ
00:30:06 → 00:30:09 ครับคือก็คือตัวน้ำโมเลกุลของน้ำตาลฟลุก
00:30:09 → 00:30:12 โต๊ดอันที่ 3 นะครับเพบว่ากลุ่มคนที่ได้
00:30:12 → 00:30:16 ฉลองวันเกิดครบ 100 ปีพบว่ามีระดับ ldl
00:30:16 → 00:30:19 คอเลสเตอรอลที่สูงกว่าคนที่ตายไปก่อนนั่น
00:30:19 → 00:30:21 คือหมายว่าไงฮะ ldl ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด
00:30:22 → 00:30:24 ที่จะบอกว่าเราจะเสียชีวิตเร็วนะครับดัง
00:30:24 → 00:30:28 นั้นผมว่าจริงๆถือโอกาสวันนี้คูณ 2 เลย
00:30:28 → 00:30:31 ว่าแบบพยายามพาตัวเองก้าวข้ามเรื่อง ldl
00:30:31 → 00:30:34 เหอะนะคนคือแม้แต่คนที่แบบไม่ได้ติดตาม
00:30:34 → 00:30:38 เราเนี่ยนะรู้ว่าภิกษุอ่ะเคปฏิบัติอย่าง
00:30:38 → 00:30:42 เงี้ยมาหลายพันปีแล้วนะพพุทธเจ้านะบอกเอง
00:30:42 → 00:30:45 เลยว่านะการกินน้้อยมื้อเนี่ยช่วยให้
00:30:45 → 00:30:49 อาพาธน้อยผมเชื่อว่าพระป่าเนี่ยเป็นกลุ่ม
00:30:49 → 00:30:52 อาชีพที่อายุยืนที่สุดในประเทศไทยเลยแล้ว
00:30:52 → 00:30:55 อยู่กันเป็น 100 ปีอ่ะเยอะมากครับปรากฏ
00:30:55 → 00:30:58 ว่าแก่ช้าสังเกตผิวของเา้าถ้าเทียบกับวัย
00:30:58 → 00:31:01 เดียวกันน่ะผิวเขาจะเต่งตึงผิวเขาจะสวยนะ
00:31:01 → 00:31:06 เจะแก่ช้าแล้วถ้าเกิดคุณสนใจคำออกเสียง
00:31:06 → 00:31:10 ที่ถูกต้องโดยเฉพาะสำหรับคนไทยเนี่ยก็
00:31:10 → 00:31:14 สามารถเปิดจากหนังสือ Dictionary อังกฤษ
00:31:14 → 00:31:18 ไทยที่ผมเขียนเอาไว้ 20 กว่าปีก่อนเป็น
00:31:18 → 00:31:21 หนังสือที่ขายดีมากแห่งยุคแต่หนังสือ
00:31:21 → 00:31:25 เหล่านี้ไม่มีพิมพ์จำหน่ายอีกต่อไปแล้ว
00:31:25 → 00:31:30 มันกลายเป็นหนังสือสะสมเก่าเก็บและเหลือ
00:31:30 → 00:31:34 ที่มันค้างสต๊อกอยู่เนี่ยไม่กี่เล่มใน
00:31:34 → 00:31:37 เมื่อไม่มีการพิมพ์ต่อแล้วก็หมายความว่า
00:31:37 → 00:31:42 หมดแล้วหมดเลยเหมือนในคลิปเลยใช่ครับผม
00:31:42 → 00:31:44 แต่เอาจริงๆคือดูแบบใสกิ๊งเลยนะครับ
00:31:44 → 00:31:48 อาจารย์ทำไผมกินวันละ 1 มื้อเราพบในหนู
00:31:48 → 00:31:52 ว่าหนูที่กินวันละมื้อเนี่ยหรือกินแบบอดๆ
00:31:52 → 00:31:55 อยากๆนะอายุมันยืนอ๋ออายุยืนกว่าไม่เป็น
00:31:55 → 00:31:59 โรคออนะไอ้หนูที่กินอาหารไม่จำกัดอ่ะอื
00:31:59 → 00:32:02 อายุสั้นไอ้หนูที่อดๆอยากๆอ่ะปรากฏว่ามัน
00:32:02 → 00:32:07 แก่ช้าคุณสามารถดูคลิปอื่นในชุดสุขภาพโดย
00:32:07 → 00:32:11 การคลิกที่โลโก้ roy Academy คลิกที่
00:32:11 → 00:32:15 Playlist ตามสไลด์ที่เห็นสำหรับคนที่มี
00:32:15 → 00:32:18 คำถามผมแนะนำให้เข้า Facebook ค้นหากรุ๊ป
00:32:18 → 00:32:22 กินน้อยอิ่มนานมีเพื่อนสมาชิกที่มี
00:32:22 → 00:32:25 ประสบการณ์หลากหลายเทคนิคที่แตกต่างกันมี
00:32:25 → 00:32:29 สมาชิกหลายหมื่นคนอยู่ในนั้นมีการแชร์
00:32:29 → 00:32:33 ประสบการณ์การอดการกินการออกกำลังกายและ
00:32:33 → 00:32:37 ที่สำคัญก็คือไม่มีค่าใช้จ่าย