00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับอาจจะเคย
00:00:02 → 00:00:06 เห็นเคยใช้เคยได้ยินผลิตภัณฑ์ซึ่งทำมาจาก
00:00:06 → 00:00:09 manuka ฮันนี่หรือน้ำผึ้งมานูก้านั่นเอง
00:00:09 → 00:00:12 นะครับแล้วก็คงสงสัยว่าเอ๊ะมันมีดีกว่า
00:00:12 → 00:00:15 น้ำผึ้งอย่างอื่นยังไงบ้างนะครับทำไมมัน
00:00:15 → 00:00:18 ถึงราคาแพงนักแล้วมันมีต้นกำเนิดมีที่มา
00:00:18 → 00:00:21 อย่างไรนะครับเวลาที่เราจะเลือกซื้อเราจะ
00:00:21 → 00:00:23 เลือกอย่างไรบ้างวันนี้ผมก็เลยอยากจะเอา
00:00:23 → 00:00:25 เรื่องเนี้ยมาเล่าให้ทุกคนฟังกันเลยนะ
00:00:25 → 00:00:28 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวันเป็น
00:00:28 → 00:00:30 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:30 → 00:00:32 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:32 → 00:00:35 บำบัดนะครับสำหรับน้ำผึ้งมานูก้านั้น
00:00:35 → 00:00:37 เนี่ยมันก็มีต้นกำเนิดมาจากประเทศ
00:00:37 → 00:00:40 นิวซีแลนด์นะครับแล้วก็มีบางส่วนในประเทศ
00:00:40 → 00:00:43 ออสเตรเลียก็สามารถผลิตตัวนี้ได้โดยชน
00:00:43 → 00:00:45 เผ่าเมารีของนิวซีแลนด์เนี่ยเขามีการใช้
00:00:45 → 00:00:49 น้ำผึ้งมานูก้าเนี่ยมาค่อนข้างนานะนะครับ
00:00:49 → 00:00:53 โดยเา้าก็เอามาใช้ในกรณีที่่าเชื้อแผล
00:00:54 → 00:00:56 ต่างๆนะครับแล้วก็ช่วยในเรื่องของทางเดิน
00:00:56 → 00:00:59 อาหารที่มันผิดปกติทั้งรายแรงนะครับไม่
00:00:59 → 00:01:01 ว่าจะปวดท้องท้องเสียหรืออะไรพวกเก็จะใช้
00:01:01 → 00:01:04 น้ำผึ้งตัวนี้มาเป็นส่วนช่วยด้วยนะครับ
00:01:04 → 00:01:07 หลังจากนั้นเนี่ยก็เนื่องจากมันมีการเอา
00:01:07 → 00:01:10 มาใช้เนี่ยก็มีคนมาต่อยอดเพิ่มเติมขึ้นมา
00:01:10 → 00:01:12 มากมายนะครับแล้วก็ค้นพบว่ามันมี
00:01:12 → 00:01:14 คุณสมบัติหลายอย่างอีกมากมายทีเดียวเช่น
00:01:14 → 00:01:17 มันสามารถที่จะทำให้เราชุ่มคอได้นะครับ
00:01:17 → 00:01:20 แล้วก็ฆ่าเชื้อบริเวณช่องคอนะฮะลดอาการไอ
00:01:20 → 00:01:23 ได้นะครับลดอาการช่องปากอักเสบต่างๆหรือ
00:01:23 → 00:01:26 ว่าทางเดินอาหารที่มันมีปัญหานะครับเกิด
00:01:26 → 00:01:29 การติดเชื้อชนิดต่างๆนะครับดังนั้นมันก็
00:01:29 → 00:01:32 เลยมีส่วนตรงนี้แล้วไม่พอนะครับมันยังมี
00:01:32 → 00:01:35 สารต้านอนุมูลอิสระหรือแอนตี้ออกซินนะ
00:01:35 → 00:01:38 ครับก็เลยมีส่วนช่วยในการเอามาผสมกับ
00:01:38 → 00:01:40 ผลิตภัณฑ์ที่เอาไว้บำรุงผิวนะครับทั้ง
00:01:40 → 00:01:44 ครีมเซรั่มต่างๆนะครับหรือว่ายาสระผมอ่า
00:01:44 → 00:01:46 นะครับพวกนี้เป็นต้นนะฮะนอกเหนือจากการ
00:01:46 → 00:01:49 เอามากินเพื่อความอร่อยเฉยๆก็ยังมีส่วนดี
00:01:49 → 00:01:52 ในแง่นี้ด้วยนะครับดังนั้นน้ำผึ้งนี้มัน
00:01:52 → 00:01:55 ก็เลยมีที่มาที่ไปค่อนข้างเยอะนิดนึงนะ
00:01:55 → 00:02:00 ครับแล้วทีนี้มันก็ไม่ได้จบแค่นั้นน้ำึ้ง
00:02:00 → 00:02:02 มานูก้าเนี่ยขั้นตอนการผลิตมันค่อนข้าง
00:02:02 → 00:02:05 ที่จะเฉพาะเลยทีเดียวนะครับโดยผึ้งเนี่ย
00:02:05 → 00:02:09 จะต้องไปเอาน้ำผึ้งจากเกสรของต้นมานูก้า
00:02:09 → 00:02:11 นะครับหรือภาษาทางวิทยาศาสตร์เนี่ยเราจะ
00:02:11 → 00:02:16 เรียกมันว่า rtos spm scum นะครับตัว
00:02:16 → 00:02:20 นี้เนี่ยมันเป็นต้นไม้ชนิดพิเศษเลยที่
00:02:20 → 00:02:23 ผึ้งมันจะต้องไปกินมานะครับแล้วถ้ามันกิน
00:02:23 → 00:02:26 จากต้นกลุ่มเดียวนะเราจะเรียกว่าฟ floral
00:02:26 → 00:02:28 ก็คือมันเป็นจะเอามาจากดอกมานูก้าเนี่ย
00:02:28 → 00:02:30 กลุ่มเดียวเนี่ยนะครับจะเป็นน้ำผึ้ง
00:02:30 → 00:02:32 มานูก้าที่บริสุทธิ์ที่สุดหรือที่เรา
00:02:32 → 00:02:35 เรียกว่า k16 นะครับถ้าเราไปเอามาจากหลาย
00:02:35 → 00:02:37 ๆแหล่งเนี่ยเราจะเรียกว่า Multi floral
00:02:37 → 00:02:40 ซึ่งความบริสุทธิ์มันก็จะลดลงนะครับ
00:02:40 → 00:02:42 คุณค่าของน้ำผึ้งเนี่ยมันก็จะลดลงไอ้พวก
00:02:42 → 00:02:44 เนี้ยเราจะเรียกว่า k12 นะครับถ้าเกิดว่า
00:02:44 → 00:02:48 ใครไปดูมานะฮะทีนี้เวลาที่ผึ้งมันไปกิน
00:02:48 → 00:02:51 ไอ้ต้นเละนะฮะมันก็มาผลิตน้ำผึ้งให้เรา
00:02:51 → 00:02:53 นี่แหละนะครับแล้วในน้ำผึ้งเนี่ยมันมีสาร
00:02:53 → 00:02:56 มากมายหลากหลายเลยนะฮะอ้อมันมีอีกประการ
00:02:56 → 00:02:58 นึงบางคนเนี่ยอาจจะไปเข้าใจผิดนะครับว่า
00:02:58 → 00:03:01 ไอ้ต้นมนู้าเนี่ยคือต้น T3 ซึ่งมันไม่ใช่
00:03:01 → 00:03:04 นะครับ manuka นี่คือ manuka T3 ก็เป็น
00:03:04 → 00:03:06 อีกต้นนึงเป็นคนละชนิดกันเลยนะครับดัง
00:03:06 → 00:03:10 นั้นจะได้เข้าใจตรงกันนะสารประกอบในตัว
00:03:10 → 00:03:14 น้ำผึ้งมานูก้าเนี่ยเจอว่ามีมากกว่า 2,000
00:03:14 → 00:03:19 ชนิดเลยทีเดียวนะครับโดยมีทั้งสารต้าน
00:03:19 → 00:03:22 อนุมูลอนุมูลอิสระนะครับวิตามินบวิตามิน
00:03:22 → 00:03:26 ซีนะครับสารฟลาโวนอยด์นะฮะคาร์โบไฮเดรต
00:03:26 → 00:03:28 น้ำตาลอันนี้แน่นอนน้ำผึ้งมันก็ต้องมีน้ำ
00:03:28 → 00:03:30 ตาลเป็นส่วนประกอบแน่นอนอยู่แล้วแล้วนะ
00:03:30 → 00:03:32 ครับมีกรดอะมิโนอยู่ในนั้นด้วยนะครับก็
00:03:32 → 00:03:36 อาจจะมีมากกว่าเอ่อน้ำผึ้งชนิดอื่นๆด้วย
00:03:36 → 00:03:40 นะครับแล้วสารสำคัญของมันเลยนะที่มีหน้า
00:03:40 → 00:03:43 ที่ในการฆ่าเชื้อนะครับฆ่าเชื้อเนี่ยรวม
00:03:43 → 00:03:46 ทั้งเชื้อดื้อยาก็สามารถฆ่าได้ด้วยไอ้ตัว
00:03:46 → 00:03:49 สารตัวนี้ที่อยู่ในน้ำผึ้งมานูก้าด้วยมัน
00:03:49 → 00:03:53 ก็คือสารที่เรียกว่าเิไอกอลหรือ mgo นะ
00:03:53 → 00:03:57 ครับเมิไอกอลตัวนี้เนี่ยมันเป็นสารซึ่ง
00:03:57 → 00:03:59 เป็นพิษต่อแบคทีเรียนะครับแล้วจริงจริงๆ
00:04:00 → 00:04:01 แบคทีเรียเนี่ยมันมีการสร้างสารตัวนี้ออก
00:04:01 → 00:04:04 มาอยู่แล้วมันจำเป็นจะต้องสร้างวิธีในการ
00:04:04 → 00:04:06 กำจัดสารตัวนี้ออกไปให้พ้นตัวมันนะครับ
00:04:06 → 00:04:08 ไม่งั้นถ้ามันมีเยอะๆเนี่ยตัวมันเองก็ตาย
00:04:08 → 00:04:11 นะครับดังนั้นเนี่ยน้ำผึ้งมานูก้าซึ่งมัน
00:04:11 → 00:04:14 มีสารตัวนี้เยอะมากๆนะครับมันก็สามารถที่
00:04:14 → 00:04:17 จะไปฆ่าแบคทีเรียได้นะครับอย่างไรก็ตาม
00:04:17 → 00:04:20 สารตัวนี้เนี่ยมันมีรายละเอียดมากกว่า
00:04:20 → 00:04:24 นั้นคือในคนก็สามารถที่จะสร้าง mgo ได้นะ
00:04:24 → 00:04:28 ครับการสร้าง mto ในคนเนี่ยมันสร้างมาจาก
00:04:28 → 00:04:31 การสลายกลูโคสในร่างกายหรือน้ำตาลในร่าง
00:04:31 → 00:04:33 กายเรานี่แหละนะครับพอมันสลายแล้วเนี่ย
00:04:33 → 00:04:37 มันจะมีส่วนที่เหลือเกินออกมานึงอันเนี้ย
00:04:37 → 00:04:41 ก็จะเป็นสาร mgo ที่เราว่ากันละถ้ามันมี
00:04:41 → 00:04:44 เยอะๆเนี่ยไม่ดีนะครับเพราะว่ามันมีความ
00:04:44 → 00:04:46 เสี่ยงที่จะทำให้เราเกิดภาวะดื้ออินซูลิน
00:04:46 → 00:04:50 ได้มีการทำลายหลอดเลือดได้นะครับแล้วก็มี
00:04:50 → 00:04:52 ความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งมีความเกี่ยว
00:04:52 → 00:04:55 ข้องกับโรคทางระบบประสาทนะครับไม่ว่าจะ
00:04:55 → 00:04:57 เป็นกลุ่มประสาทเสื่อมที่เราเรียกว่า
00:04:57 → 00:05:00 neurodegenerative disease นะครับหรือ
00:05:00 → 00:05:02 กลุ่มอัลไซเมอร์ Parkinson พวกนี้นะครับ
00:05:03 → 00:05:06 ในกรณีแบบนี้เนี่ยเราจะเจอในคนที่เป็นเบา
00:05:06 → 00:05:08 หวานนะครับที่น้ำตาลคุมไม่ได้ะส่วนมากนะ
00:05:08 → 00:05:11 ครับแต่ถ้าเราเป็นคนทั่วไปเรากิน manuka
00:05:11 → 00:05:13 ฮันนี่เข้าไปเนี่ยไม่ได้ต้องกังวลว่ามัน
00:05:13 → 00:05:15 จะเกิดโรคเหล่านั้นนะไม่งั้นเดี๋ยวเอ๊ะผม
00:05:15 → 00:05:17 พูดอย่างนี้แล้วเราจะกลัวไม่กล้าใช้น้ำ
00:05:17 → 00:05:20 อ่านน้ำผึ้งมานูก้าอีกแล้วนะครับไม่ต้อง
00:05:20 → 00:05:23 กลัวนะครับมันสามารถที่จะใช้ได้นะแล้วาร
00:05:23 → 00:05:27 ตัวเนี้ย mg ก็เป็นสารตัวนึงเลยที่ถ้าเรา
00:05:27 → 00:05:29 จะดูเรื่องของคุณภาพนะครับเราจะต้องดูมัน
00:05:29 → 00:05:33 ด้วยนะว่ามันมีปริมาณเท่าไหร่ยังไงนะครับ
00:05:33 → 00:05:37 อ่าสารตัวต่อมานะครับที่มันมีความสำคัญ
00:05:37 → 00:05:44 ไม่แพ้กันก็คือสารตัวชื่อว่า
00:05:44 → 00:05:48 leospa นี่แหละนะครับต้นอื่นมันไม่มีดัง
00:05:48 → 00:05:51 นั้นเนี่ยก็เวลาเราจะตรวจสอบคุณภาพน้ำ
00:05:51 → 00:05:54 ผึ้งว่ามันมาจากแหล่งไหนมันมีการเจือปน
00:05:54 → 00:05:56 ว่าึ่งมันไปเอาเกสรดอกไม้ของต้นอื่นมาอีก
00:05:56 → 00:05:59 หรือเปล่าเนี่ยเราก็จะดูปริมาณสารนี้ถ้า
00:05:59 → 00:06:02 ปริมาณสารนี้มันมีเยอะมากๆนะครับก็จะเป็น
00:06:02 → 00:06:05 การบอกว่าเฮ้ยคุณภาพของ manuka ันี่ที่
00:06:05 → 00:06:07 เราได้มาเนี่ยนะมันสูงมากเลยเพราะว่ามัน
00:06:07 → 00:06:09 เอามาจากแหล่งนี้แหล่งเดียวเลยมันไม่ไป
00:06:09 → 00:06:11 เอาไปต้นต้นไม้อย่างอื่นที่ไม่ใช่มานูก้า
00:06:11 → 00:06:13 มากินถูกมั้ยครับเพราะผึ้งเค้าก็ไม่เลือก
00:06:13 → 00:06:15 นะผึ้งมันมีต้นอะไรอยู่ใกล้ๆเมีน้ำน้ำ
00:06:15 → 00:06:18 หวานให้เค้าเค้าก็ไปเอาตรงนั้นน่ะนะครับ
00:06:18 → 00:06:21 เออนะมันไม่สามารถเลือกได้ว่าเฮ้ยฉันจะ
00:06:21 → 00:06:23 กินแต่มานูก้าอย่างเดียวแต่ว่าก็กินอย่าง
00:06:23 → 00:06:25 อื่นด้วยดังนั้นเนี่ยเค้าวิธีในการเลี้ยง
00:06:25 → 00:06:28 ผึ้งพวกเก็จะต้องมีความเฉพาะเจาะจงมากนะ
00:06:28 → 00:06:32 ครับแล้ว 2 ตัวเนี้ยก็ไม่ใช่แค่ 2 ตัว
00:06:32 → 00:06:34 อย่างเดียวที่เราใช้ในการตรวจคุณภาพตัว
00:06:34 → 00:06:37 ที่ 3 ที่เราต้องใช้ในการตรวจคุณภาพก็คือ
00:06:37 → 00:06:40 ว่ามันเป็นการบอกว่าไอ้ตัวน้ำผึ้งตัว
00:06:40 → 00:06:45 เนี้ยมันจะอยู่ได้นานแค่ไหนนะครับการที่
00:06:45 → 00:06:47 มันจะอยู่ได้นานแค่ไหนโดยไม่เสื่อมคุณภาพ
00:06:47 → 00:06:51 เนี่ยมันขึ้นอยู่กับปริมาณสาร mgo นะครับ
00:06:51 → 00:06:54 หรือเิลไอกอลเมื่อตะกี้ปล่อยไว้นานๆนะ
00:06:54 → 00:06:56 ครับสารตัวนี้มันจะหายไปเรื่อยๆนะครับ
00:06:56 → 00:06:59 อย่างไรก็ตามมันมีการสร้างใหม่ได้ในน้ำ
00:06:59 → 00:07:02 ผึ้งอ่าตรงเนี้ยบางคนอาจจะเริ่มงงะแต่ไม่
00:07:02 → 00:07:04 ต้องงงครับมันสร้างมาจากอีกสารนึซึ่งมัน
00:07:04 → 00:07:06 อยู่ในน้ำผึ้งเหมือนกันสารตัวเนี้ยชื่อ
00:07:06 → 00:07:10 ว่า dha นะครับ dha ในที่นี้คือไดไฮเดรต
00:07:10 → 00:07:14 นะครับไม่ใช่ dha ในน้ำมันปลานะครับคนละ
00:07:14 → 00:07:18 อย่างคนละ dha กันนะอันนี้ dha คือไดฮัก
00:07:18 → 00:07:22 ซินมันจะค่อยๆกลายไปเป็น mgo นะครับดัง
00:07:22 → 00:07:25 นั้นเนี่ยถ้าน้ำผึ้งอูก้าอันไหนเนี่ยที่
00:07:25 → 00:07:28 มันมีสาร dha เยอะๆนะครับจะดีเพราะว่ามัน
00:07:28 → 00:07:30 จะอยู่ได้นานกว่าเวลาเราปล่อยไว้้นานๆ
00:07:30 → 00:07:32 เนี่ยมันก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงกเป็น mgo
00:07:32 → 00:07:34 เพื่อทดแทนในส่วน mgo ที่มันค่อยๆสลายไป
00:07:34 → 00:07:37 ตามกาลเวลานะครับทั่วไปแล้วเนี่ยน้ำผึ้ง
00:07:37 → 00:07:41 มานูก้าเนี่ยนะครับมันจะมีเอ่อครึ่งมี
00:07:41 → 00:07:43 ชีวิตอยู่ได้ประมาณสัก 3 ปีนะครับอยู่ได้
00:07:43 → 00:07:45 ประมาณ 3 ปีหลังจากนั้นเนี่ยมันจะเริ่ม
00:07:45 → 00:07:48 เสื่อมไปตามกาลเวลาละนะครับแต่รสชาติมัน
00:07:48 → 00:07:50 ก็อาจจะยังจะพอใช้ได้อยู่แต่ถ้าถามถึง
00:07:50 → 00:07:53 เรื่องของคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อนะครับ
00:07:53 → 00:07:55 ที่เป็นคุณสมบัติหลักของมันที่เรามันมา
00:07:55 → 00:07:59 ใช้เนี่ยก็ประมาณสัก 3 ปีนะครับ
00:07:59 → 00:08:03 และแน่นอนเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระ
00:08:03 → 00:08:06 ยิ่งเราปล่อยไว้นานนะครับมันก็ยิ่งเสื่อม
00:08:06 → 00:08:09 ไปแล้วยิ่งเราเอาโโดนแสงมากๆมันก็ยิ่ง
00:08:09 → 00:08:11 เสื่อมเข้าไปใหญ่นะครับดังนั้นอ่า 3 ปี
00:08:11 → 00:08:13 นี้คงจะเต็มที่แล้วเราคงจะเปลี่ยนน้ำผึ้ง
00:08:13 → 00:08:18 ไปเอาอย่างอื่นมาใช้ดีกว่านะครับอ่าทีนี้
00:08:18 → 00:08:20 มันก็มีอีกสารตัวนึงซึ่งเขาเอาไว้ควบคุม
00:08:20 → 00:08:24 คุณภาพนะครับเอิ่มสารตัวนี้ชื่อว่าสาร hmf
00:08:24 → 00:08:27 นะครับอ่าสาร hmf นี่น่าจะย่อมาจากอ่า
00:08:27 → 00:08:31 ไฮดรอกซีเมิล f Fic furfural เออ
00:08:31 → 00:08:34 hydroxy maty furfural นะครับตัวนี้
00:08:34 → 00:08:37 เนี่ยมันจะเป็นตัวบอกว่าถ้ามันมีเยอะๆนะ
00:08:37 → 00:08:40 ครับไม่ดีมันแปลว่ามันมีการผ่านกระบวนการ
00:08:40 → 00:08:43 ต่างๆมาเยอะมันมีการให้ความร้อนมากจนเกิน
00:08:43 → 00:08:46 ไปน้ำผึ้งอาจจะเสียนะครับทีนี้ผมพูดมาถึง
00:08:46 → 00:08:47 ตรงนี้
00:08:47 → 00:08:50 แล้วการที่มันต้องควบคุมคุณภาพทั้งหมดอ่ะ
00:08:50 → 00:08:53 ของไอ้สาร 4 ตัวเนี้ยทำให้มันมีราคาแพง
00:08:53 → 00:08:56 แล้วที่นิวซีแลนด์เนี่ยมันจะมีองค์กรอัน
00:08:56 → 00:08:59 นึงนะครับเอ่อที่เขาให้คุณภาพของของ
00:08:59 → 00:09:02 ผลิตภัณฑ์ที่มาจากน้ำผึ้ง manuka นะครับ
00:09:02 → 00:09:04 เวลาที่เราจะซื้อผลิตภัณฑ์อะไรเนี่ยให้
00:09:04 → 00:09:09 เราดูตัวนึงเลยคือ umf นะครับอ่า unique
00:09:09 → 00:09:12 manuka Factor umf ตัวนี้นะครับมันจะ
00:09:12 → 00:09:15 เป็นการตรวจไอ้สาร 4 ตัวเมื่อตะกี้นะครับ
00:09:15 → 00:09:19 ให้มันมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมถ้ามี mgo
00:09:19 → 00:09:22 เยอะๆแปลว่าอันเนี้ยโอ้โหมันเป็นสุดยอด
00:09:22 → 00:09:25 มานูก้าฮีคุณภาพสูงนะครับแล้วก็
00:09:25 → 00:09:29 ประสิทธิภาพสูงนะครับสารต่อมาคือตัวเลส
00:09:29 → 00:09:32 Spin นะครับตัวนี้ถ้ามันมีเยอะๆเนี่ยแปล
00:09:32 → 00:09:35 ว่ามันมาจากแหล่งของ manuka ของแท้นะครับ
00:09:35 → 00:09:38 ถ้ามันมี dha เยอะๆแปลว่ามันจะอยู่ได้นาน
00:09:38 → 00:09:43 กว่าปกติและสุดท้ายถ้ามันมี hmf นะครับ
00:09:43 → 00:09:45 น้อยๆถึงจะดีเพราะว่ามันแปลว่ามันไม่ได้
00:09:45 → 00:09:47 ผ่านขบวนการอะไรมาทั้งหมดแต่คุณไม่ต้องสน
00:09:47 → 00:09:49 ใจค่าสตัวนี้เพราะว่าเค้าคิดให้คุณมา
00:09:49 → 00:09:53 เรียบร้อยแล้วถ้าคุณต้องการคุณภาพนะครับ
00:09:53 → 00:09:57 เรื่องของ umf ตัวเนี้ยมันจะแบ่งเป็นอ่ะ
00:09:57 → 00:10:00 50 15 5 20 25 หรืออะไรแถวเนี้ยนะ
00:10:00 → 00:10:02 ครับยิ่งต่ำยิ่งไม่ดียิ่งสูงยิ่ง
00:10:02 → 00:10:04 บริสุทธิ์ยิ่งดีนะครับดังนั้นถ้าเกิดว่า
00:10:04 → 00:10:06 คุณเลือกซื้อเนี่ยนะครับแล้วคุณอยากจะได้
00:10:06 → 00:10:09 คุณภาพสูงที่สุดเลยเนี่ยก็โน่นแหละครับ 20
00:10:09 → 00:10:13 25 นะครับแต่ถ้าอยากจะแค่เอามาผสมกับอ่า
00:10:13 → 00:10:16 ซีเรียลชงกับนมเป็นสารให้ความหวานธรรมดา
00:10:16 → 00:10:18 เนี่ยนะครับอย่างงั้นเลือกสัก 5-10 ก็พอะ
00:10:18 → 00:10:21 นะครับเพราะว่า 5-10 มันราคาถูกกว่าแบบ 25
00:10:21 → 00:10:24 แหงๆอยู่แล้วถูกมั้ยครับแต่ถ้าเกิดว่าเรา
00:10:24 → 00:10:27 ต้องการอ่าผลต่อสุขภาพจริงๆเนี่ยเช่นว่า
00:10:27 → 00:10:29 เออมาฆ่าเชื้ออะไรพวกเนี้ยท่านอาจจะต้อง
00:10:29 → 00:10:32 เลือกขนาดที่มันสูงหน่อยนะสัก 15-20 หรือ
00:10:32 → 00:10:34 มากกว่านั้นนะครับอ่านี้ก็เป็นวิธีในการ
00:10:34 → 00:10:38 เลือกนะมาดูก้าันี่ว่าเราอยากจะได้แบบไหน
00:10:38 → 00:10:41 ยิ่งยิ่งยิ่งสูงนะครับ umf ยิ่งสูงก็ยิ่ง
00:10:41 → 00:10:44 บริสุทธิ์แล้วมันก็ยิ่งแพงนะครับนี้เป็น
00:10:44 → 00:10:47 หลักนะอย่างไรก็ตามเมื่อตะกี้ผมบอกว่ามัน
00:10:47 → 00:10:49 เอามาเป็นสารให้ความหวานแล้วมันมีน้ำตาล
00:10:49 → 00:10:52 อยู่ในนั้นใช่มั้ยครับอันเนี้ยไม่ได้แปล
00:10:52 → 00:10:54 ว่าสารให้ความหวานจากมานูก้าฮันนี่เราฟัง
00:10:54 → 00:10:56 โอ้มันดีจังเลยอย่างนี้เรากินเท่าไหร่ก็
00:10:56 → 00:10:58 ได้ไม่ได้ครับเพราะว่ามันมีน้ำตาอยู่ใน
00:10:58 → 00:11:02 นั้นแล้วที่สำคัญคือมันมีค่าไลซิก index
00:11:02 → 00:11:04 ซึ่งค่อนข้างสูงมากดังนั้นเวลาที่เราได้
00:11:04 → 00:11:06 เข้าไปแล้วเนี่ยมันจะทำให้ระดับน้ำตาลใน
00:11:06 → 00:11:09 ร่างกายของเราเนี่ยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วก็
00:11:09 → 00:11:11 เป็นอันตรายกับคนที่เป็นเบาหวานทำให้เควบ
00:11:11 → 00:11:14 คุมน้ำตาลได้ยากขึ้นนะครับทั่วไปแล้ว
00:11:14 → 00:11:17 เนี่ย 1 ช้อนโต๊ะของ manuka ฮันนี่เนี่ย
00:11:17 → 00:11:21 มันมีสักประมาณ 60 กลแคลอรี่นะ 60 กิล
00:11:21 → 00:11:23 แคลอรี่คุณลองคิดดูคุณต้องวิ่งแค่ไหนถึง
00:11:23 → 00:11:27 จะ 60 กิลแคลอรี่ใช่มั้ยฮะอย่างถ้าผมวิ่ง
00:11:27 → 00:11:30 เนี่ยผมต้องวิ่งซักประมาณอ่าโน่น 10 นาที
00:11:30 → 00:11:32 มั้งครับวิ่งด้วยความเร็วประมาณสัก 10
00:11:32 → 00:11:34 นาทีถึงจะเผาไปสัก 60 แคลอรี่หรืออาจจะ
00:11:34 → 00:11:37 ได้มากกว่านนิดหน่อยนะครับก็นี่แหละครับ
00:11:37 → 00:11:39 ต้องเอามาคิดด้วยนะเพราะว่าแค่ช้อนเดียว
00:11:39 → 00:11:42 มันไม่ทำให้คุณอิ่มแน่นอนนะครับแล้วบางที
00:11:42 → 00:11:44 ความหวานน่ะมันอาจจะดูเหมือนกับหวานน้อย
00:11:44 → 00:11:47 กว่าน้ำผึ้งชนิดอื่นๆด้วยดังนั้นก็เลยทำ
00:11:47 → 00:11:49 ให้รู้สึกเนี่ยเรากินเข้าไปไม่เห็นจะหวาน
00:11:49 → 00:11:53 เลยทำไมน้ำตาลเราถึงสูงขึ้นเออมันก็เพราะ
00:11:53 → 00:11:55 อย่างนี้นั่นแหละครับนะดังนั้นเนี่ยมานู
00:11:55 → 00:11:58 กานี่ถ้าเราเป็นเบาหวานแล้วเราจะกินเนี่ย
00:11:58 → 00:12:01 ต้องระมัดระวังนิดนึงนะดูเรื่องของน้ำตาล
00:12:01 → 00:12:04 ของเราให้ดีด้วยนะครับอ่ะเมื่อกี้เราพูด
00:12:04 → 00:12:07 ถึงกรณีของ umf ในการเลือกไปแล้วนะครับ
00:12:07 → 00:12:10 ว่าเราจะเลือกยังไงนะฮะแต่บางผลิตภัณฑ์
00:12:10 → 00:12:13 มันไม่ได้เขียน umf อ่ะมันเขียนอย่างอื่น
00:12:13 → 00:12:16 เช่นเขียนค่า mgo เลยอ่ะนะครับ mgo อย่าง
00:12:16 → 00:12:19 ที่เมื่อกี้ผมบอกนะครับเิกอกอตัวเนี้ยมัน
00:12:19 → 00:12:23 เป็นตัวที่บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นี้นะครับมี
00:12:23 → 00:12:26 ประสิทธิภาพของ muka hy เยอะแค่ไหนนะ
00:12:26 → 00:12:28 ครับถ้ามันเยอะมากๆก็แปลว่ามันฆ่าเชื้อ
00:12:28 → 00:12:32 โรคได้ดีมากๆนะครับทั่วไปเนี่ยถ้ามัน
00:12:32 → 00:12:36 เริ่มมันจะเริ่มจากเอิ่ม umf ที่ประมาณ 15
00:12:36 → 00:12:38 เนี่ยถึงจะดีนะครับ umf ประมาณ 15 เนี่ย
00:12:38 → 00:12:41 เขาจะตีค่า mgo ซักประมาณ 500 นะครับอ่ะ
00:12:42 → 00:12:45 500 800 นะครับ 1,000 หรือมากกว่านั้น
00:12:45 → 00:12:48 นะครับโดยทั่วไปถ้า mgo ประมาณ 500 ขึ้น
00:12:48 → 00:12:51 ไปเนี่ยถึงจะโอเคในแง่ของการอ่า่าเชื้อ
00:12:51 → 00:12:54 พวกแบคทีเรียต่างๆแต่ยิ่งสูงก็ยิ่งดีนะนะ
00:12:54 → 00:12:57 ครับแล้วตัว mgo เนี่ยมันเป็นตัวแทนของ
00:12:57 → 00:12:59 การที่บอกว่ามีสารอย่างอื่นที่ที่มันสม
00:12:59 → 00:13:02 ควรจะมีในอ่ามูกาอันนี้สูงขึ้นเช่นสาร
00:13:02 → 00:13:05 ต้านอนุมูลอิสระอ่ากรดอะมิโนฟลาโวนอยด์
00:13:05 → 00:13:08 พวกนี้นะครับสูงขึ้นตามไปด้วยนะหรือบางคน
00:13:08 → 00:13:11 อาจจะไปเจอตัวเลขอันนึงชื่อว่า npa นะ
00:13:11 → 00:13:14 ครับอ่า non peroxide activity ตัว
00:13:14 → 00:13:17 เนี้ยก็คล้ายๆกับ mgo เหมือนกันนะครับแต่
00:13:17 → 00:13:21 ว่ามันก็เป็นการมันเป็นการดูสารบางอย่าง
00:13:21 → 00:13:23 กลุ่มนึงะกันนะครับในน้ำผึ้งนะครับเทียบ
00:13:23 → 00:13:26 ได้กับ mgo แต่ว่าการที่เราดูแค่ mgo กับ
00:13:26 → 00:13:29 ดูแค่ npa เนี่ยมันไม่ได้บอกคุณสมบัติ
00:13:29 → 00:13:32 ทั้งหมดของน้ำผึ้งถ้าจะบอกให้ครบจริงๆ
00:13:32 → 00:13:35 เนี่ยต้องดูค่า umf ตัวนี้ละครับนะแล้ว
00:13:35 → 00:13:38 umf เนี่ยเป็นค่าที่ดีที่สุดในการบอกเลย
00:13:38 → 00:13:41 ว่าไอ้เนี่ยมันมีครบหรือเปล่าคือคุณภาพดี
00:13:41 → 00:13:44 มั้ยไม่มีสารเจือปนจากอื่นๆมันมาจาก
00:13:44 → 00:13:46 มานูก้าของแท้จริงหรือเปล่านะครับแล้วก็
00:13:46 → 00:13:49 อยู่อยู่ได้นานมยมีความทนทานนานมั้ยไม่
00:13:50 → 00:13:53 ได้มีการอ่าไปมีให้ความร้อนมากจนเกินไป
00:13:53 → 00:13:56 อะไรอย่างเงี้ยนะครับกับ uka ันี่พวกนี้
00:13:56 → 00:13:58 นะครับดังนั้นเนี่ย umf เนี่ยคือครบที่
00:13:58 → 00:14:01 สุดสุดแล้วะในบรรดาทั้งหมดนะครับดังนั้น
00:14:01 → 00:14:04 โดยสรุปนะครับตัว manuka ันี่เนี่ยจริงๆ
00:14:04 → 00:14:06 เค้ามีการศึกษาได้ค่อนข้างจะเยอะนะครับ
00:14:06 → 00:14:09 แล้วก็เอามาใช้ในการฆ่าเชื้อนะครับเป็น
00:14:09 → 00:14:11 หลักเลยนะเชื้อหรือยามันก็ฆ่าได้นะครับ
00:14:11 → 00:14:15 เนี่ยเจ๋งตรงเนี้ยนะครับนะแล้วที่สำคัญ
00:14:15 → 00:14:18 คือมันอาจจะเอามาช่วยในการอ่าฆ่าแผลเอ่อ
00:14:18 → 00:14:20 ฆ่าเชื้อในแผลนะครับเรื่องของโรคในทาง
00:14:20 → 00:14:23 เดินอาหารโรคทางช่องปากต่างๆการเจ็บคอการ
00:14:23 → 00:14:26 ไอเนี่ยการบำรุงผิวนะครับพวกนี้สามารถใช้
00:14:26 → 00:14:29 ได้หมดนะฮะแต่ถ้าจะกินมันเข้าไปต้องระวัง
00:14:29 → 00:14:31 ในคนที่เป็นเบาหวานหน่อยนะครับเพราะว่า
00:14:31 → 00:14:33 น้ำตาลมันก็จะสูงแล้วอย่างที่เมื่อกี้ผม
00:14:33 → 00:14:36 บอกว่าในคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยร่างกายเา
00:14:36 → 00:14:39 จะผลิตสาร mgo เยอะอยู่แล้วแลถ้ามี mgo
00:14:39 → 00:14:42 เยอะมากๆมันมีผลต่อความความเสื่อมของหลอด
00:14:42 → 00:14:46 เลือดนะครับมีผลต่อเรื่องของเ่าระบบต่างๆ
00:14:46 → 00:14:48 ของร่างกายทั้งระบบประสาทนะครับและการ
00:14:48 → 00:14:50 ดื้อของอินซูลินด้วยดังนั้นเนี่ย mgo ถ้า
00:14:50 → 00:14:52 เยอะเกินไปในคนเป็นเบาหวานเนี่ยก็ไม่ดี
00:14:52 → 00:14:54 แล้วถ้าเป็นเบาหวานอยู่แล้วจริงๆเนี่ยเรา
00:14:54 → 00:14:57 ก็ไม่ค่อยแนะนำให้กินน้ำผึ้งไม่ว่าจะชนิด
00:14:57 → 00:14:59 ไหนก็แล้วแต่หรือไม่ว่าเราจะเคยได้ยินมา
00:14:59 → 00:15:02 ว่านมูก้าฮันนี่มันดีมากมายก็ต้องระวังนะ
00:15:02 → 00:15:05 ครับถ้าเราจะกินก็กินเล็กน้อยพออาจจะซัก
00:15:05 → 00:15:07 แบบเอ่อช้อนชานึงก็พอนะครับหรืออย่างมาก
00:15:07 → 00:15:10 ก็ช้อนโต๊ะนึงเพราะว่าอย่าลืมน้ำตาลมัน
00:15:10 → 00:15:14 สูงนะครับแคลอรี่มันสูงแล้วก็มันมีไิ
00:15:14 → 00:15:16 index ที่สูงวันนั้นเรากินเข้าไปปุ๊บน้ำ
00:15:16 → 00:15:18 ตาลเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเลยนะครับตรง
00:15:18 → 00:15:20 นี้ต้องระวังเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยถ้าจะ
00:15:20 → 00:15:25 ซื้อนะครับก็ดูค่า umf นะครับ 15 ขึ้นไป
00:15:25 → 00:15:27 เนี่ยถึงว่าโอเคดีะแต่ถ้าแบบคนอยากได้สุด
00:15:27 → 00:15:30 ยอดก็นเอาไปเลยเกิน 25 แล้วกันนะฮะอนี้
00:15:30 → 00:15:33 คือสุดยอดที่สุดะนะครับแต่ถ้าเอาแบบมาทา
00:15:33 → 00:15:36 ตัวทาอะไรเงี้ยอาจจะใช้ต่ำลงหน่อยได้แต่
00:15:36 → 00:15:38 ถ้าบางคนอยากจะเอามาดูว่าเอ๊ะเรื่องของ
00:15:38 → 00:15:41 ผิวพรรณอะไรพวกเนี้ยก็เลือกสูงๆไว้ก่อนนะ
00:15:41 → 00:15:45 ครับถ้าไม่มีค่า umf ก็อาจจะดูค่า mg แทน
00:15:45 → 00:15:47 ได้นะถ้า mgo แบบ 500 800 อะไรอย่าง
00:15:47 → 00:15:50 เงี้ยเออน่าน่าจะซื้อมาใช้หน่อยนะครับถ้า
00:15:50 → 00:15:53 มันต่ำกว่านั้นเนี่ยก็อาจจะไม่ดีนะฮะต้อง
00:15:53 → 00:15:56 ระวังเวลาโฆษณานะผมจะยกตัวอย่างโฆษณาของ
00:15:56 → 00:15:59 manuka Honey ที่มันอาจจะทำให้คนเข้าใจ
00:16:00 → 00:16:03 ผิดแล้วก็คิดไปคิดเกินไปอ่ะเช่นว่า
00:16:03 → 00:16:07 มานูก้าันนี้อันนี้นะครับมีกรดอะมิโนสูง
00:16:08 → 00:16:10 เดี๋ยวกรดอะมิโนสูงมันแปลว่าอะไรมันสูง
00:16:10 → 00:16:13 เมื่อเทียบกับอะไรนะครับมันสูงแล้วมันดี
00:16:13 → 00:16:14 ยังไงนะครับอันนี้คือส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้
00:16:15 → 00:16:17 บอกแค่บอกว่ามีกรดอะมิโนสูงมีสารต้าน
00:16:17 → 00:16:20 อนุมูลอิสสระมีครับแต่มีเท่าไหร่อ่ะมีมาก
00:16:20 → 00:16:24 เท่าแซนทินวิตามินซีหรือผักแค่ไหนนะครับ
00:16:25 → 00:16:27 ก็บอกไม่ได้ถูกมั้ยครับมันไม่ได้บอกนะว่า
00:16:27 → 00:16:30 มีเท่าไหร่แต่มันมีนะฮะแล้วถ้าเราจะกิน
00:16:30 → 00:16:32 เข้าไปเพื่อที่จะได้สารตันอมูอิสระเราก็
00:16:32 → 00:16:35 อาจจะได้น้ำตาลเพิ่มขึ้นไปถูกครับบางทีเ
00:16:35 → 00:16:39 อาจจะบอกว่า uga ันี่เนี่ยมีแคลอรี่ต่ำ
00:16:39 → 00:16:42 กว่าฮันนี่หรือน้ำผึ้งชนิดอื่นๆต่ำกว่า
00:16:42 → 00:16:44 แต่เมื่อกี้ผมก็ยกตัวอย่างให้ท่านฟังแล้ว
00:16:44 → 00:16:46 นะครับว่ามันก็ไม่ได้ต่ำขนาดที่ท่านจะ
00:16:46 → 00:16:49 สบายใจกินเข้าไปเท่าไหร่ก็ได้ถูกมั้ยครับ
00:16:49 → 00:16:52 งั้นนี่ก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องเข้าใจด้วย
00:16:52 → 00:16:55 นะครับคือเรื่องของ manuka ันี่แล้วก็
00:16:55 → 00:16:57 ต้องไปดูนะว่ามันมีรายละเอียดยังไงแล้วผม
00:16:57 → 00:17:00 จะทิ้งเว็บไซต์นึงไว้ที่เป็นเว็บไซต์ของ
00:17:00 → 00:17:03 นี่เลยนะครับ umf นะครับ Honey
00:17:03 → 00:17:07 association ของนิวซีแลนด์นะเจะมีการ
00:17:07 → 00:17:09 เล่ารายละเอียดเกี่ยวข้องกับ manuka
00:17:09 → 00:17:11 Honey ที่ถ้าเกิดใครอยากจะรู้เพิ่มอ่ะก็
00:17:11 → 00:17:13 ไปอ่านเว็บไซต์อันนี้นะครับแล้วเขาก็มี
00:17:13 → 00:17:16 การมีผลิตภัณฑ์ซึ่งเขารับรองหลาย
00:17:16 → 00:17:19 ผลิตภัณฑ์เลยทีเดียวนะครับถ้าใครจะซื้อผม
00:17:19 → 00:17:21 ก็แนะนำว่าก็ลองไปดูในเว็บไซต์นี้แล้วกัน
00:17:21 → 00:17:24 เพราะว่ามันมีผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนกับ
00:17:24 → 00:17:28 umf อ่า Honey association เนี่ยอยู่ใน
00:17:28 → 00:17:30 เว็บไซต์นี้ก็เลือกเอาแล้วะกันว่าชอบ
00:17:30 → 00:17:33 ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อไหนที่มาจดทะเบียนกับ
00:17:33 → 00:17:35 เว็บไซต์นี้นะเพราะว่ามันจะเป็นการบอกเลย
00:17:35 → 00:17:37 ว่าผลิตภัณฑ์ที่มาจากที่นี่เนี่ยมันเป็น
00:17:37 → 00:17:41 manuka Honey แท้แล้วก็ได้มาตรฐานนะ
00:17:41 → 00:17:43 ครับโอเควันนี้ผมเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้
00:17:43 → 00:17:45 นะครับใครสงสัยอะไรก็สอบถามมานะครับ
00:17:45 → 00:17:47 ขอบคุณมากครับสวัสดี
00:17:47 → 00:17:50 ครับ