00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีครับคราวที่แล้วที่ผมพูดเรื่อง
00:00:02 → 00:00:05 ของไขมันนะครับในแง่ของรายโปรตีนหรือ ldl
00:00:05 → 00:00:08 นี้นะครับก็มีคนที่รับประทานคีโตเจนิค
00:00:09 → 00:00:11 ไดเอทอยู่อาหาร keto เนี่ยครับแล้วก็อาจ
00:00:11 → 00:00:14 จะไปฟังแหล่งข้อมูลบางที่มานะครับก็มาสอบ
00:00:14 → 00:00:17 ถามนะฮะหรือมา comment ว่ายิ่งถ้าเราทาน
00:00:17 → 00:00:19 คีโตเจนิคไดเอทเนี่ยนะครับแล้วค่า
00:00:19 → 00:00:22 ไตรกรีเซอร์ไรด์ของเรามันต่ำลงกับค่าเอ๊ะ
00:00:22 → 00:00:24 เดียวของเรามันสูงขึ้นเนี่ยนะครับอ่าทำ
00:00:24 → 00:00:26 ให้ค่าของปรายกรีเซอไรด์หาด้วย HD เอา
00:00:26 → 00:00:29 เนี่ยต่ำกว่า 2 หรือทำคนจน 5 เนี่ยถือว่า
00:00:29 → 00:00:33 ปลอดภัยนะฮะแม้ว่าค่า ldl โคเลสเตอรอลของ
00:00:33 → 00:00:36 เราเนี่ยจะสูงมากๆก็ตามนะครับคำกล่าวนี้
00:00:36 → 00:00:39 นะครับผมไม่เห็นด้วยนะครับว่าทำไมมันถึง
00:00:39 → 00:00:41 ไม่เห็นด้วยนะครับมันมีปัญหาอย่างไรเพราะ
00:00:41 → 00:00:44 ว่าหลายๆคนก็สอบถามมาว่าๆอย่างนี้ถ้ารับ
00:00:44 → 00:00:46 ประทานยากลุ่มสตั๊ดเป็นเนี่ยมันก็ไม่
00:00:46 → 00:00:48 สามารถที่จะช่วยเรื่องนี้ได้หรอกนะครับ
00:00:48 → 00:00:51 มันโคเลสเตอรอลที่สูงขึ้นเนี่ยมันเป็น
00:00:51 → 00:00:53 ไอเดียเอาตัวดีนะครับเอา dl นี้ไม่ใช่ผู้
00:00:53 → 00:00:55 ร้ายเสมอไปนะครับวันนี้ผมก็จะมาเล่า
00:00:55 → 00:00:57 เรื่องให้ฟังลงไปจนถึงระดับโมเลกุลเลยนะ
00:00:57 → 00:01:00 ครับว่าทำไมผมจึงคิดว่ามันมีกล้องนะครับ
00:01:00 → 00:01:03 แล้วก็จะทำให้หลายๆคนเข้าใจในวิธีคิดของ
00:01:03 → 00:01:06 ผมด้วยนะครับพบกับผมนะครับนายธานีธนียวัน
00:01:06 → 00:01:08 นะครับเป็นอาจารย์แช่อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:01:08 → 00:01:10 อเมริกานะครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:01:10 → 00:01:13 ปอดและด้วยจิตบำบัดนะครับก่อนอื่นเลยนะ
00:01:13 → 00:01:15 ครับเราต้องมาเข้าใจก่อนนะครับว่าคำว่า
00:01:15 → 00:01:18 like โปรตีนเนี้ยมันคืออะไรกันแน่นะครับ
00:01:18 → 00:01:21 อ้ะมันอาจจะเป็นสิ่งที่เข้าใจยากหน่อยวัน
00:01:21 → 00:01:23 นี้ผมก็เลยก็ว่ารูปให้ดูเลยนะครับว่ามัน
00:01:23 → 00:01:25 มีอะไรบ้างครับเข้าเมื่อไหร่โปรตีนนะคะ
00:01:25 → 00:01:28 มันมีทำประกอบไปด้วย 2 ตัวคือคำแรกเขาว่า
00:01:28 → 00:01:30 อะไรโปรดแปลว่าไขมันมาจากคำว่าอะไรปิดนะ
00:01:30 → 00:01:34 ครับมีสองตัวนี้ก็ตัวแรกก็คือตัวอะไรคือ
00:01:34 → 00:01:37 สลายนั่นเองนะครับหรือตัวที่เรากำลังพูด
00:01:37 → 00:01:40 ถึงนะฮะตัวที่ 2 ก็คือคอเลสเตอรอลนะครับ
00:01:40 → 00:01:44 อ่าอ่ะไอ้ตัวนี้ทุกคนของรู้จักดีนะครับ
00:01:44 → 00:01:50 กับโปรตีนนะครับโปรตีนตัวนี้คือโป้ไลโป
00:01:50 → 00:01:52 โปรตีนนะครับ
00:01:52 → 00:01:56 และก็มีหลากหลายชนิดตามแต่ว่ามันคืออะไร
00:01:56 → 00:02:00 นะครับแล้วทีนี้ไอ้สามอย่างนี้นะครับมัน
00:02:00 → 00:02:03 ก็มีสัดส่วนที่แตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของ
00:02:03 → 00:02:07 รายโปรตีนนะครับอ่ะทุกๆไรปตีในจะประกอบไป
00:02:07 → 00:02:10 ด้วย 3 อย่างนี้เสมอนะครับมันจะไม่มีตัว
00:02:10 → 00:02:12 ใดตัวหนึ่งที่มีเฉพาะในกรีเซอไรด์แล้วก็
00:02:12 → 00:02:14 อีกตัวนึงมันมีเฉพาะคอเลสเตอรอลหรือตัว
00:02:14 → 00:02:16 นึงมันมีเฉพาะเอโป้ในโปรตีนนะคะมันจะต้อง
00:02:16 → 00:02:19 มีทั้ง 3 ตัวรวมกันนะครับที่นี่เรามาดู
00:02:19 → 00:02:22 ว่ามันมีอะไรบ้างกันดีกว่านะครับอ่ะอย่าง
00:02:22 → 00:02:25 แรกนะครับตัวนี้เดี๋ยวผมว่าให้ดูว่ามันจะ
00:02:25 → 00:02:29 มีตัวที่ใหญ่ที่สุดนะฮะอ่ะ
00:02:29 → 00:02:34 ถ้าอย่างนี้เราก็มีแบบเล็กรองลงมา
00:02:34 → 00:02:36 และหลังจากนั้นก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่ง
00:02:36 → 00:02:41 พ.ย
00:02:41 → 00:02:45 ม.ค
00:02:45 → 00:02:54 คะเดี๋ยวจะว่าถ้าเป็นหลายๆกันก่อนนะครับ
00:02:54 → 00:02:57 ฮะโอเค
00:02:57 → 00:03:00 เอ่ออ่ะตอนนี้เราต้องมาคอมทำความเข้าใจ
00:03:00 → 00:03:04 กับพวกนี้ก่อนนะคะว่ามีอะไรบ้างอันนี้ตัว
00:03:04 → 00:03:10 ใหญ่ที่สุดชื่อว่าใครโลไมครอนนะครับอ่ะ
00:03:10 → 00:03:14 ใครรวมไมครอนเนี่ยมันคืออะไรนะครับมันก็
00:03:14 → 00:03:17 คือเป็นเป็นอนุภาคอย่างหนึ่งที่เวลาที่
00:03:17 → 00:03:19 เรารับประทานอาหารที่มีไขมันเข้าไปนะครับ
00:03:19 → 00:03:21 แล้วมันจะต้องถูกดูดซึมเข้าไปนะส่วนใหญ่
00:03:21 → 00:03:24 จะเป็นไตรกลีเซอไรด์นะครับเวลาที่เราย่อย
00:03:24 → 00:03:26 อาหารจำเพศไขมันต่างๆไตรกรีเซอร์ไรด์
00:03:26 → 00:03:30 เนี่ยมันร้องเพื่อพี่อย่างในว่ากรรไกรที่
00:03:30 → 00:03:32 ทรายเนี่ยนะครับมันลักษณะเป็นอย่างนี้นะ
00:03:32 → 00:03:36 ครับมีมีตัวนึงหน้าตาแบบนี้ชื่อว่ากริช
00:03:36 → 00:03:39 ร่อนนะครับ
00:03:39 → 00:03:41 นี้นะครับแล้วหลังจากนั้นมันก็จะมีกรดไข
00:03:41 → 00:03:45 มันนะครับมาเกาะอยู่ 3 ตัวนะครับมีปัญหา
00:03:45 → 00:03:47 เหมือนแมงกะพรุนอย่างนี้นะครับชื่อว่า
00:03:47 → 00:03:51 ปาร์ตี้ Acid นะครับ
00:03:51 → 00:03:54 ก็อาจจะมีทั้งหมด 3 อันการที่มันเรียกว่า
00:03:54 → 00:03:56 ไกลโตยทลายคำว่าไตรในแปลว่า 3 นะครับแล้ว
00:03:56 → 00:03:59 ก็อ่า 3 นี่คือ 3 พัทยาสิทธิ์หรือว่ากด
00:03:59 → 00:04:01 ให้มันสั่งตัวมาต่อกันนะครับนี่คือใครดี
00:04:01 → 00:04:04 สลายนะครับแล้วอาหารแต่ละอย่างที่เรากิน
00:04:04 → 00:04:07 มันก็จะมีความยาวของตัวกดไขมันไม่เท่ากัน
00:04:07 → 00:04:09 นะครับถ้ากดใครมายิ่งยาวเท่าไหร่เนี่ยมัน
00:04:09 → 00:04:12 จะต้องมีการดูดซึมในระดับที่เข้าไปเป็น
00:04:12 → 00:04:15 ใครลมไอคอนนะครับเพราะว่ามันจะทำให้ละลาย
00:04:15 → 00:04:17 อยู่ในเลือดหรือในน้ำของเราได้นะครับใน
00:04:17 → 00:04:20 ร่างกายถ้าจะว่ามันเป็นตัวที่ยาวมากๆแล้ว
00:04:20 → 00:04:22 มันเข้าไปดูเดียวในเรือเรายังมันจะไม่
00:04:22 → 00:04:24 ละลายนะครับอันนั้นก็เลยทำให้มันมีปัญหา
00:04:24 → 00:04:26 ดังนั้นมันจะมันจะต้องเข้าไปอยู่ในคารม
00:04:26 → 00:04:28 ไอคอนเพื่อให้มันละลายได้นะครับแต่มันเคย
00:04:28 → 00:04:31 ลงไปเกาะเนี่ยส่วนใหญ่แล้วของใครรวมไอคอน
00:04:31 → 00:04:36 นะครับก็อาจจะเป็นไกลปีสลายก็ส่วนมากนะ
00:04:36 → 00:04:37 ครับอ่า
00:04:37 → 00:04:40 เอานี่ไปกินสลายส่วนมากนะฮะแล้วก็มีส่วน
00:04:40 → 00:04:43 น้อยนะครับเป็นคอเลสเตอรอลนะครับผมแทน
00:04:43 → 00:04:46 ด้วย cso ละกันนะครับแล้วก็มีส่วนเกิน
00:04:46 → 00:04:49 เป็นเอโป้ลายโปรตีนนะครับตัวเอโป้ใน
00:04:49 → 00:04:52 โปรตีนจริงมันก็มีหลายแบบนะครับเด่นของ
00:04:52 → 00:04:54 ใครลงในข้อเนี่ยมันจะเป็น apolipoprotein
00:04:54 → 00:04:58 b48 นะครับแต่มันก็มี apoprotein ซีไรก็
00:04:58 → 00:05:00 โปรตีนมีแต่ว่าตัวนั้นเราไม่ได้ไม่ต้องมา
00:05:00 → 00:05:02 สนใจนะครับปล่อยให้หมอที่เค้าเชี่ยวชาญ
00:05:02 → 00:05:03 เรื่องที่สนใจดีกว่านะครับเรื่องนี้ผมจะ
00:05:03 → 00:05:05 ผ่านไปเพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมี
00:05:05 → 00:05:08 นะฮะที่นี้ใครลงไมครอนเนี่ยนะครับเวลาที่
00:05:08 → 00:05:12 มันโดนดึงเอาไตรกลีเซอไรด์ออกไปนะครับใจ
00:05:12 → 00:05:15 คือสไลด์เนี่ยออกไปจากตัวนี้นะครับด้วย
00:05:15 → 00:05:18 เหตุผลเพราะว่าเวลาส่งการดินสลายไปตามที่
00:05:18 → 00:05:20 ต่างๆเนี่ยร่างกายเราต้องการใจกินแล้ว
00:05:20 → 00:05:23 เป็นพลังงานในการใช้นะครับยกตัวอย่างเช่น
00:05:23 → 00:05:26 หัวใจนะครับจะต้องใช้พลังงานจาก fatty
00:05:26 → 00:05:28 Acid ที่มาจากใต้ดินสลายประมาณสู่มากๆนะ
00:05:28 → 00:05:31 ครับหัวใจเนี่ยจะไม่ค่อยใช้พลังงานจากน้ำ
00:05:31 → 00:05:33 ตาหรือกลูโคสเหมือนอวัยวะอื่นนะครับเพราะ
00:05:33 → 00:05:36 ว่ากูก็จะให้พลังงานต่อหน่วยเนี่ยต่ำกว่า
00:05:36 → 00:05:39 ไขมันมีหัวใจในจะใช้ไขมันไตรกลีเซอไรด์
00:05:39 → 00:05:41 เป็นหลักนะครับตอนนี้เราจะเห็นความสำคัญ
00:05:41 → 00:05:44 ของใครก็คือลายละว่ามันจำเป็นมากๆที่นี่
00:05:44 → 00:05:47 มันจะมีเอนไซม์ตัวนึงย่อยตัว
00:05:47 → 00:05:50 ไตรกลีเซอไรด์ให้ออกมาจากตัวใครลงไปเกาะ
00:05:50 → 00:05:56 นะครับตัวนี้ชื่ออะไรโปรตีน
00:05:56 → 00:05:59 อ่าไลเปสนะครับอ่า
00:05:59 → 00:06:02 ไลเปสก็คือมาจากลายปิดแล้วก็ S นี่มันแปล
00:06:02 → 00:06:04 มันเป็นเอนไซม์อย่างนึงนะครับย่อยออกมาทำ
00:06:04 → 00:06:07 ให้ใครลงไม่ค่อยปล่อยเอาไปกินสไลด์เข้าไป
00:06:07 → 00:06:09 สู่อวัยวะหรือว่าเซลล์เหลืออะไรแล้วแต่
00:06:09 → 00:06:12 ที่ต้องการมันนะครับมันก็จะเล็กลงนะฮะก็
00:06:12 → 00:06:16 เป็นตัวนี้นะตัวนี้คือตัวที่ 2 ที่คือใคร
00:06:16 → 00:06:20 ลงไมครอน rem นั้นนะครับ
00:06:20 → 00:06:23 ขอเบอร์ก็เริ่มมีชื่อแปลกๆใหม่ๆขึ้นมา
00:06:23 → 00:06:25 แล้วนะครับเดิมนั้นนี้ก็แปลว่าส่วนที่หลง
00:06:25 → 00:06:28 เหลืออยู่นะฮะโดยใครลงในค่อนทั้งหมดนี่นะ
00:06:28 → 00:06:32 ครับมันจะมาจากทหารนะฮะอ่ะอ่ะมันจะมาจาก
00:06:32 → 00:06:36 อาหารที่นี้ตรงนี้เดี๋ยวจะผ่านไปก่อนไข้
00:06:36 → 00:06:39 ลงในก็เริ่มนั้นเนี่ยมันก็จะมีตัว b48
00:06:39 → 00:06:41 เหมือนกันนะครับแล้วก็จะมีแต่คือขณะที่ลด
00:06:41 → 00:06:45 ลงนะคะก่อนแล้วเราก็เหมือนเดิมนะแต่ว่า
00:06:45 → 00:06:48 อันนี้เราทักไปก่อนนะครับเราจะมาดูตัวที่
00:06:48 → 00:06:53 สำคัญลองถัดมาจากนั้นนะครับตรงนี้คือ
00:06:53 → 00:06:55 อ่าอันนี้เดี๋ยวผมว่านิดนึงแล้วกันมัน
00:06:55 → 00:06:57 เป็นตับนะครับ
00:06:57 → 00:07:00 หน้าตักแล้วอาจจะหน้าตาแปลกๆมันจะเป็นสาม
00:07:00 → 00:07:02 เหลี่ยมแบบนี้นะฮะตรงนี้ตรงกลางเนี่ยก็
00:07:02 → 00:07:06 เป็นอ่ะเส้นเอ็นที่ภาคระหว่างต่ำ 2 ข้าง
00:07:06 → 00:07:08 นะครับก็จะไม่ว่าเค้าฟอร์มได้กำแน่นนะ
00:07:08 → 00:07:10 ครับถ้าใครที่เรียนแพทย์ก็จะรู้จักตัวนี้
00:07:10 → 00:07:14 นะครับอ่าเราสิฟอร์มนะครับ
00:07:14 → 00:07:17 เลขอ้ะเหม็นอ้ะ
00:07:17 → 00:07:21 ตัวนี้นะครับก็คือตัดนะครับปั๊บเนี่ยมัน
00:07:21 → 00:07:25 มีหน้าที่สังเคราะห์ได้ไขมันพวกนี้นะครับ
00:07:25 → 00:07:28 แต่สังเคราะห์ใครลงใหม่ก็ไม่ได้นะครับตัด
00:07:28 → 00:07:30 จะไม่สังเคราะห์ใครลงไปก่อนนะฮะ
00:07:30 → 00:07:33 แล้วก็ที่สำคัญก็คือมีลำไส้เล็กหรือที่
00:07:33 → 00:07:37 เราว่าเอ็นเทนะครับ
00:07:37 → 00:07:40 มันก็จะสามารถสังเคราะห์พวกนี้ได้บ้างนะ
00:07:40 → 00:07:42 ครับพวกนี้คืออะไรโปรตีนทั้งหมดเลยครับ
00:07:42 → 00:07:45 ที่ผมจะพูดถึงน่ะอันนี้คือ
00:07:45 → 00:07:50 dl dl นะครับดี ldl ย่อมาจาก arial
00:07:50 → 00:07:53 เดนซิตี้ลายโปรตีนนะครับเว้น very low
00:07:53 → 00:07:55 density ก็คือความหนาแน่นมันต่ำมากๆเลย
00:07:55 → 00:07:58 นะครับอ่ะแล้วพอแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ย
00:07:58 → 00:08:02 นะครับถ้ามันปล่อยเอาไกล keizai ออกไปจาก
00:08:02 → 00:08:05 ตัวมันนะครับโดย n แฟนตัวเดียวกันเลยครับ
00:08:05 → 00:08:08 ไรโปรตีนไลเปสนะครับผมจะย่อมา LP แล้วกัน
00:08:08 → 00:08:11 นะครับอ้ะมันก็ปล่อยไปคือฉันออกไปตัวมัน
00:08:11 → 00:08:13 จะเล็กลงนะครับเล็กลงมันก็กลายเป็น
00:08:13 → 00:08:18 นี่มันจะมาทางนี้ละตัวนี้จะเป็น id L
00:08:18 → 00:08:20 หรืออินเตอร์มีเดียเดิร์นซิตี้และโปรตีน
00:08:20 → 00:08:23 คือและโปรตีนที่มีความหนาแน่นระดับกลางนะ
00:08:23 → 00:08:26 ครับสุดท้ายก็จะกลายเป็นตัวนี้ครับ
00:08:26 → 00:08:30 นี่เลยคือ L dl ที่เรากำลังพูดถึงนี่
00:08:30 → 00:08:32 แหละครับ low density lipoprotein ก็
00:08:32 → 00:08:38 คือมีความหนาแน่นต่ำลงไปอีกนะครับโทษทีนะ
00:08:38 → 00:08:40 ครับอาจจะอาจจะอยู่ตรงกลางๆ very low
00:08:40 → 00:08:43 นี่คือต่ำที่สุดนะครับ I ID เอาเนี่ยก็
00:08:43 → 00:08:45 จะมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นเอาเดียวเนี่ย
00:08:45 → 00:08:48 แน่นมากกว่านั้นอีกนะครับจะมีเอ๊ะเดียว
00:08:48 → 00:08:49 เดี๋ยวผมจะกล่าวต่อไปนะครับแต่ว่าจะยัง
00:08:49 → 00:08:51 ไม่พูดถึงตรงนี้นะฮะเอาให้เข้าใจตรงนี้
00:08:52 → 00:08:55 ก่อนนะครับดังนั้นสิ่งที่เราเจอก็คือถ้า
00:08:55 → 00:08:58 เราจาก vldl นี้นะฮะอ่า
00:08:58 → 00:09:03 vldl มาสู่ L dl นะครับสิ่งที่เกิดขึ้น
00:09:03 → 00:09:07 ก็คือเร็วเนี่ยจะมีปริมาณไตรกลีเซอไรด์ลด
00:09:07 → 00:09:09 ลงแต่คอเลสเตอรอลเนี่ยมันจะอยู่เท่าเดิม
00:09:09 → 00:09:14 นะครับอ้ะเค้าและเศร้าน่าจะอยู่เท่าเดิม
00:09:14 → 00:09:17 ทำให้ดูสัดส่วนแล้วเนี่ยคอเลสเตอรอลเนี่ย
00:09:17 → 00:09:19 มันจะดูเหมือนจะเยอะขึ้นนะครับเพราะว่า
00:09:19 → 00:09:22 ปริมาณใจคือสไลด์มันจะลดลงนะฮะแล้วที่
00:09:22 → 00:09:27 สำคัญคือนี่ครับกลุ่ม VR เดียว ID เอา
00:09:27 → 00:09:29 แล้วเดียวเนี่ยมันจะมีเอโป้และโปรตีนตัว
00:09:29 → 00:09:31 หนึ่งซึ่งเป็นตัวเดียวกันหมดเลยนะครับก็
00:09:31 → 00:09:34 คือเหตุโป้
00:09:34 → 00:09:37 b100 นะครับเออตัวเดียวแล้วก็เหมือนกัน
00:09:37 → 00:09:40 นะครับเอโป้ b100
00:09:40 → 00:09:44 ตัวเดียวก็เหมือนกันเอโป้ b100
00:09:44 → 00:09:46 นะครับ
00:09:46 → 00:09:51 สิ่งที่เราสังเกตผมว่าวงกลมเนี่ยหลายๆ
00:09:51 → 00:09:55 ขนาดนะครับในแต่ละรูปในแต่ละแบบนะครับก็
00:09:55 → 00:09:57 คืออย่างเช่นวีดีโอเดียวเนี่ยก็มีวงกลม
00:09:57 → 00:10:00 อันนี้ใหญ่กลางเล็กแล้วจริงๆมันมีตัดยอด
00:10:00 → 00:10:02 เร็วกว่านี้อีกนะครับไอเดียเราก็มีกลางจะ
00:10:02 → 00:10:05 มีใหญ่กับเล็กเอาเดียวเนี่ยก็มีอาจจะมีมี
00:10:05 → 00:10:09 มีตัวตัวใหญ่ๆนะครับอันนี้คือ Last L dl
00:10:09 → 00:10:13 นะครับนี่คือมันก็เล็กลงมานะครับอาจจะ
00:10:13 → 00:10:15 เรียกว่า Inter Media แล้วก็ตัวนี้คือ
00:10:16 → 00:10:19 ตัวเล็กสุดที่คนชอบพูดถึงคือ Small เด่น
00:10:19 → 00:10:20 นะครับ
00:10:20 → 00:10:25 เออแล้วไอ้ Small เด่นที่นะครับที่คนที่
00:10:25 → 00:10:28 กินขี้ตัวบอกว่ารีบมันอันตรายมากๆนะกับ
00:10:28 → 00:10:30 ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับเวลาที่เราไปดูงาน
00:10:31 → 00:10:35 วิจัยจริงๆนะฮะเราพบว่าคนกลุ่มที่นี่ More
00:10:35 → 00:10:38 then slide โปรตีนนะครับก็จริงมีความ
00:10:38 → 00:10:41 เกี่ยวข้องกับโรคหล่อด้วยของหัวใจแต่พอ
00:10:41 → 00:10:44 เราจัดการกับปัจจัยสิ่งอื่นๆที่คนนั้นมี
00:10:44 → 00:10:46 อยู่เนี่ยเราเพราะว่าในคนนึงในมาอาจจะ
00:10:46 → 00:10:48 เป็นปัจจัยสิ่งอื่นได้นะครับที่ทำให้เป็น
00:10:48 → 00:10:50 โรคหัวใจที่นอนมีครอบครัวเป็นโรคหัวใจนะ
00:10:50 → 00:10:52 ครับมีกรรมพันธุ์โรคหัวใจมีการสูบบุหรี่
00:10:52 → 00:10:55 มีความดันสูงมีอะไรพวกเนี้ยซึ่งเหล่านั้น
00:10:55 → 00:10:56 เนี่ยมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับโมเดสใน
00:10:56 → 00:10:59 โปรตีนต่ำว่าเป็นความสิ่งที่ทำให้เกิดโรค
00:10:59 → 00:11:02 ด้วยตัวหัวใจได้ถ้าเราตัดความสิ่งอื่นออก
00:11:02 → 00:11:04 ไปหมดแล้วนะครับจะพบว่าสมองเดนไดรต์
00:11:04 → 00:11:06 โปรตีนอ่ะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเท่า
00:11:06 → 00:11:09 ไหร่กับโลกร้อนของหัวใจนะครับแต่ตัวที่มี
00:11:09 → 00:11:15 ความเกี่ยวข้องมากๆเลยคือตัวนี้ครับ
00:11:15 → 00:11:19 ldl พอดีเคิล
00:11:19 → 00:11:21 คือ
00:11:21 → 00:11:24 ปริมาณของแอลเดียวครับมีอนุภาคจำนวนเท่า
00:11:24 → 00:11:26 ไหร่ของเราเดียวตัวนี้ต่างหากนะครับที่มี
00:11:26 → 00:11:30 ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการเกิดโรคหัว
00:11:30 → 00:11:32 ใจนะฮะอ่ะ
00:11:32 → 00:11:34 งั้นผมพูดมาตรงนี้มันยังไม่ได้ตอบคำถาม
00:11:34 → 00:11:37 เลยนะครับว่าเอ๊ะถ้าเอาเดียวสูงแล้วมันจบ
00:11:37 → 00:11:40 ลงไม่ดียังไงนะครับแล้วแต่คิดสไลด์หาร
00:11:40 → 00:11:43 ด้วยคอเลสรถหารด้วย x เดียวนี่มันตามๆมัน
00:11:43 → 00:11:45 จะดีนะครับหรือยังตอบคำถามไม่ได้อ่ะแต่
00:11:45 → 00:11:47 ตรงนี้มันเป็นคำถามพื้นฐานที่เราต้องรู้
00:11:47 → 00:11:51 ก่อนนะครับนี้แต่ผมจะบอกอย่างนี้ครับว่า
00:11:51 → 00:11:53 ทำไมมันถึงสำคัญน่ะ
00:11:53 → 00:11:57 ตอนนี้เรารู้ว่า Ariana เข้านะครับหรือก็
00:11:57 → 00:12:00 ก็ทั้งหมดของรายโปรตีนพานิโกเนี่ยเป็น
00:12:00 → 00:12:03 ส่วนที่สำคัญแล้วก็สัมพันธ์มากๆกับการ
00:12:03 → 00:12:06 เกิดโรคหัวใจนะครับผ่านเขาคือจำนวนของ
00:12:06 → 00:12:08 Ariana ทั้งหมดนะครับยิ่งเยอะไม่ดีนะ
00:12:08 → 00:12:10 ครับไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเล็กตัวใหญ่นะ
00:12:10 → 00:12:13 ครับน่าจะไม่ใช่ตัวใหญ่แล้วตัวเล็กเสมอไป
00:12:13 → 00:12:15 แล้วนะครับแล้วมันก็มีเหตุผลหนึ่งด้วยนะ
00:12:15 → 00:12:17 ครับเพราะว่า
00:12:17 → 00:12:23 กลุ่มที่เป็นโรคหัวใจนะครับตอนแรกนะเขา
00:12:23 → 00:12:26 เชื่ออย่างนี้นะครับว่าเวลาที่เรามีหลอด
00:12:26 → 00:12:30 เลือดอันหนึ่งนะครับหาสมุดมีเป็นหลอด
00:12:30 → 00:12:32 เลือดนะครับ
00:12:32 → 00:12:36 หลอดเลือดแบบนี้ถ้าเรามีส่ำเอาเด่น L dl
00:12:36 → 00:12:39 นะครับเช่นตัวนี้เป็นต้นผมจะยอมไปเลยเต็ม
00:12:39 → 00:12:42 L dl นะที่เราจะบอกว่าตัวเล็กๆนี่แหละ
00:12:42 → 00:12:45 ครับตัวเล็กมันจะเข้าไปอยู่ตรงผนังหลอด
00:12:45 → 00:12:46 เลือดได้เยอะนะครับแล้วมันก็จะเกิดการ
00:12:46 → 00:12:50 สะสมอยู่ตรงนี้นะครับมีเซลล์ตัวนึงชื่อ
00:12:50 → 00:12:52 ว่าแม็คโครปาดนะครับมากินมันแล้วก็เกิด
00:12:52 → 00:12:55 อ่าปฏิกิริยาออกซิเดชันนะครับออกซิไดซ์นะ
00:12:55 → 00:12:57 ครับทำให้มันเป็นโฟม Macro Flash แต่ง
00:12:57 → 00:13:00 ตัวนักโอกาสเซลล์ในลักษณะเป็นเหมือน
00:13:00 → 00:13:03 เหมือนฟองเยอะๆนะครับแล้วก็มีเอาตัวไฟ
00:13:03 → 00:13:06 บรินหรือพวกกลุ่มที่ได้เป็นทั้งผืน 5 มา
00:13:06 → 00:13:10 เกาะนะครับเกาะแต่ไม่หมดนะครับก็แบบนี้นะ
00:13:10 → 00:13:12 แล้วก็หลังจะมีแคลเซียมนะครับคือหินปูน
00:13:12 → 00:13:16 น่ะครับมันมาจับมันนะครับหินปูนมาจากจับๆ
00:13:16 → 00:13:18 นะครับทำให้มันเป็นก้อนอย่างนี้มานะครับ
00:13:18 → 00:13:21 แล้วก็ไปอุดตันทางเดินของเส้นเลือดของเรา
00:13:21 → 00:13:24 นะครับแต่ก่อนเราคิดว่า Small เดรสใน
00:13:24 → 00:13:26 โปรตีนเนี้ยมันเป็นเพราะมันเล็กมาเลยเข้า
00:13:26 → 00:13:29 ไปง่ายนะครับอันนี้เป็นปัจจัยที่ 1 นะ
00:13:29 → 00:13:31 ครับปัจจัยที่สองคือ Small แดงใส่โปรตีน
00:13:31 → 00:13:34 ปกติมารออยู่ในเลือดแต่ว่ามันจะถูกเอาออก
00:13:34 → 00:13:36 ไปจากเลื่อนก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับแต่ถ้า
00:13:36 → 00:13:38 มันออกไปได้ไม่ค่อยได้เนี่ยไม่ค่อยดีแล้ว
00:13:38 → 00:13:40 มันค้างอยู่ในเรือนั้นโอกาสมันจะเข้าไป
00:13:40 → 00:13:43 อยู่ตรงนี้ก็จะสูงขึ้นถูกไหมครับโมเดลไทย
00:13:43 → 00:13:46 โปรตีนอ่ะมันจะถูกเคลียร์ไปจากเลือดได้
00:13:46 → 00:13:49 ช้ากว่าแบบเดียวแบบโตนะครับหรือร้ายก็
00:13:49 → 00:13:52 เรียวหน้าเขตนั่นเองนะครับแต่ที่นี้ก็มี
00:13:52 → 00:13:54 งานวิจัยออกใหม่เพิ่มเติมนะครับว่าขนาด
00:13:54 → 00:13:57 มันไม่ได้สำคัญแล้วนะครับเพราะว่า
00:13:57 → 00:13:59 อยู่แถวเดียวทุกอย่างปกติหมดนะครับเป็น
00:13:59 → 00:14:02 เอาเดียวตัวโตๆนะครับก็เพราะว่านี่ครับ
00:14:02 → 00:14:06 นี่เลยคือใครรวมไอคอน rem นั้นนะฮะซึ่ง
00:14:06 → 00:14:08 ตัวโตก็พรุ่งนี้ทุกตัวเลยนะครับ
00:14:08 → 00:14:13 b l dl นะครับที่ตัวโตกะเดียวอีกนะฮะ I
00:14:13 → 00:14:17 dol นะฮะทั้ง 3 ตัวนี้นะครับมันใหญ่เบ้อ
00:14:17 → 00:14:20 เริ่มเทิ่มเลยนะฮะมีความเกี่ยวข้องกับการ
00:14:20 → 00:14:23 เกิดหลอดเลือดอุดตันแบบนี้ครับนะทั้ง 3
00:14:23 → 00:14:26 ตัวนี้ซึ่งมันใหญ่นั้นมันแปลว่าขนาดไม่
00:14:26 → 00:14:29 ใช่สิ่งที่สำคัญเสมอไปสำหรับการเกิดโรค
00:14:29 → 00:14:32 หลอดเลือดหัวใจแล้วที่สำคัญจริงๆนะครับ
00:14:32 → 00:14:37 มันจะมีโรครอบหนึ่งนะฮะชื่อว่าแฟมิเลี่ยว
00:14:37 → 00:14:40 ใครเปิดโกแลต rory เนี่ยนะครับให้เปิดรถ
00:14:40 → 00:14:44 สูงนะครับโคเลสเตอรอล
00:14:44 → 00:14:47 อีเมียก็คือรีเมียนี่คือแปลว่าอยู่ใน
00:14:47 → 00:14:50 เลือดนะครับนะการหรือให้เป็นกฎและ rov
00:14:50 → 00:14:52 เนี่ยสิ่งที่เจอก็คือ
00:14:52 → 00:14:57 L dl นี้มันสูงมากๆเลยนะฮะมากๆด้วยก็
00:14:57 → 00:15:00 เกือบทั้งหมดเนี่ยนะครับมันจะเป็นอัน
00:15:00 → 00:15:02 เดียวตัวโตๆ Last
00:15:02 → 00:15:07 L dl นะครับอ่ะไม่ใช่ Small เดสซาเลีย
00:15:07 → 00:15:10 ไม่ใช่เดียวตัวเล็กนะครับมันแปลว่าอะไร
00:15:10 → 00:15:13 คือคนที่เป็นโรคนี้เนี่ยถ้าเกิดเราเชื่อ
00:15:13 → 00:15:15 ตามคนที่เขาทาน kito บอกว่าเอ่อทั้งหมด
00:15:15 → 00:15:18 มันเป็นเอาเดียวตัวใหญ่นะฮะและเอาดีอ่ะ
00:15:18 → 00:15:20 มันเยอะมันไม่ได้หมายความว่าคนที่เสี่ยง
00:15:20 → 00:15:23 ต่อโรคหัวใจด้วยนะฮะถ้าเราเชื่อตามคนที่
00:15:23 → 00:15:26 กินขี้ตัวบางคนนะฮะแต่ไม่ใช่ครับเรารู้
00:15:26 → 00:15:28 ว่าโลกการบริหารจัดการและคลอรีนเนี่ยมี
00:15:28 → 00:15:30 ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด
00:15:30 → 00:15:34 ต่างๆเพิ่มขึ้นสูงแบบมากๆเลยนะครับเพิ่ม
00:15:34 → 00:15:36 ขึ้นสูงมากๆดังนั้นอันนี้ก็เป็นการยืนยัน
00:15:36 → 00:15:39 อีกอย่างหนึ่งนะครับว่าเรื่องของขนาดของ
00:15:39 → 00:15:42 ldl เนี่ยมันไม่ใช่ความสำคัญมากขนาดแต่
00:15:42 → 00:15:45 เท่ากับจำนวนอนุภาคอีกต่อไปแล้วนะครับ
00:15:45 → 00:15:47 นั้นเราจะบอกว่าถ้าเราโคเลสเตอรอล ldl
00:15:47 → 00:15:50 สู่มากๆนะครับแล้วทั้งหมดของเราเป็นเอา
00:15:50 → 00:15:54 เดียวตัวโตนะหรือเป็นแพทเทิร์น a นะฮะมัน
00:15:54 → 00:15:56 จะไม่อาจตลาดมันก็ไม่ใช่แล้วนะครับตอนนี้
00:15:56 → 00:15:58 คือข้อพิสูจน์แล้วล่ะมีมานานแล้วนะครับ
00:15:58 → 00:16:00 เรื่องของแฟ้มนี้ให้เป็นคนรัก Loli เมีย
00:16:00 → 00:16:03 รู้มาตั้งนวลห้าหกสิบปีแล้วนะครับว่าถ้า
00:16:03 → 00:16:06 มันเป็นแบบนี้เนี่ยโอกาสที่เกิดขึ้นแบบ
00:16:06 → 00:16:08 นี้มันจะอันตรายมากขึ้นนะครับ
00:16:08 → 00:16:11 งั้นตอนนี้เรารู้แล้วนะครับว่าขนาดเนี้ย
00:16:11 → 00:16:14 มันไม่ใช่เป็นสิ่งสำคัญแต่อนุภาคต่างๆนะ
00:16:14 → 00:16:18 ครับที่มีความสำคัญมากๆนะครับอันนี้ผมจะ
00:16:18 → 00:16:20 ต่อให้นิดนึงนะ
00:16:20 → 00:16:23 ต่อให้อีกนิดหนึ่ง
00:16:23 → 00:16:27 มันจริงๆตรงนี้เนี้ย L dl นี้มันจะมี
00:16:27 → 00:16:29 อายุภาคพิเศษอย่างหนึ่งซึ่งผมจะแถมให้ละ
00:16:29 → 00:16:33 กันนะครับจะลงคนที่กินคีโตแล้วก็ไปศึกษา
00:16:33 → 00:16:36 มานะฮะอาจจะศึกษาได้ไม่หมดนะครับผมก็จะมา
00:16:36 → 00:16:37 เพิ่มให้เพราะว่าหลายๆคนก็อาจจะไม่ทราบ
00:16:37 → 00:16:42 ตรงนี้นะครับเราจะเริ่มให้อีกรูปหนึ่งนี่
00:16:42 → 00:16:45 อ่าอันนี้นะฮะ
00:16:45 → 00:16:48 เรียกว่าไหล่โปร
00:16:48 → 00:16:50 โปรตีน
00:16:50 → 00:16:56 เรดิโอเอนะคะเมเล็กนะฮะคืออะไรมันก็คือ L
00:16:56 → 00:17:00 dl นี่แหละครับนะที่กลุ่มเอโป้ b100 ของ
00:17:00 → 00:17:42 มันนั้นนะครับไปจับกับเวปโป
00:17:42 → 00:17:44 มาแล้วตัวนี้เนี่ยคือ
00:17:44 → 00:17:49 ถ้าในคนที่กินยาสแตตินลดไขมันอยู่นะครับ
00:17:49 → 00:17:51 กินไปเต็มที่แล้วมันไม่ลดเนี่ยนะฮะก็ต้อง
00:17:51 → 00:17:53 ไปตรวจหาตัวนี้นะครับเพราะว่าบางคนไม่ลด
00:17:53 → 00:17:55 ก็เพราะว่าไอ้ตัวนี้แหละครับนะมันเป็นตัว
00:17:55 → 00:17:59 พิเศษน่ะแล้วต่อให้ท่านไปกินสลายหาด้วย HD
00:17:59 → 00:18:01 เอาตามมากๆตัวนี้มันสูงก็ยังเป็นอันตราย
00:18:01 → 00:18:04 ต่อท่านได้อยู่ดีนะครับนี่คือปัญหานะแล้ว
00:18:04 → 00:18:06 อาจจะมีคนหาว่าเราจะทำยังไงกับมันดีล่ะ
00:18:06 → 00:18:09 ถ้าจะว่ามันสูงเท่ากิน study มันช่วยนะ
00:18:09 → 00:18:11 ครับแต่ว่ามันอาจจะช่วยได้ไม่เต็มที่ก็จะ
00:18:11 → 00:18:13 มีอีกตัวนึงคือเรียกว่าในอาซีนหรือ
00:18:13 → 00:18:15 วิตามินบี 3 นั่นเองที่สามารถที่จะไปรถ
00:18:15 → 00:18:18 มันได้นะครับแล้วตรงนี้เราจะไม่ลงไปใน
00:18:18 → 00:18:20 สาเหตุตรงนั้นแล้วกันนะครับเพราะว่าอาจจะ
00:18:20 → 00:18:22 เข้าใจลำบากนิหนึ่งนะครับ
00:18:22 → 00:18:26 ที่นี่ผมพูดอะไรตรงนี้นะครับยังไม่ได้แตะ
00:18:26 → 00:18:27 เรื่องของคนเล็กเล่าเลยว่าเราตรวจเป็นยัง
00:18:27 → 00:18:29 ไงแล้วก็เล็กแล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้กัน
00:18:29 → 00:18:31 จำนวนอนุภาคนะครับก็อย่างที่เมื่อกี้ผม
00:18:31 → 00:18:35 บอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออนุภาคมี
00:18:35 → 00:18:38 จำนวนเท่าไหร่หรือภายในข้อมีจำนวนเท่า
00:18:38 → 00:18:41 ไหร่นะครับเวลาที่เราไปตรวจเลือดประจำปี
00:18:41 → 00:18:44 ทั่วไปนะครับว่ามันจะตรวจคอเลสเตอรอล
00:18:44 → 00:18:47 cholesterol เอามาอยู่ตรงไหนนะครับเรามา
00:18:47 → 00:18:50 ย้อนย้อนดูนะครับคนเล็กเศร้าน่ะอย่างที่
00:18:50 → 00:18:53 ผมบอกคือในอนุภาคไรโปรตีนทั้งหมดมีคนเล็ก
00:18:53 → 00:18:56 เศร้าหมดเลยนะครับเช่นตั้งแต่ใครลงไปก่อน
00:18:56 → 00:18:59 ก็มีโคเลสเตอรอลตรงนี้เห็นมะเริ่มนั้นก็
00:18:59 → 00:19:01 ยังมีคอเลสเตอรอลเหมือนกันนะครับมันย่อย
00:19:01 → 00:19:03 มันย้อนออกไปนะครับตรงนี้ก็มีคอเลสเตอรอล
00:19:03 → 00:19:07 นะฮะนี่มันก็จะมีอยู่ทุกๆที่เลยนะครับมี
00:19:07 → 00:19:09 คลาสเอาอยู่ทุกที่นะฮะ
00:19:09 → 00:19:13 นี่มึงมีหมดเลยนะครับสิ่งที่แตกต่างกัน
00:19:13 → 00:19:16 ของรายโปรตีนนะครับในแต่ละขนาดก็คือถ้า
00:19:16 → 00:19:18 มันยิ่งใหญ่มากๆเนี่ยมันจะมีไปถึงอะไรสูง
00:19:18 → 00:19:20 นะครับถ้ามันยิ่งเล็กไปดู Slam จะลดลงไป
00:19:20 → 00:19:24 เองนะครับอ่ะทีนี้ในเมื่อผมบอกว่าเราตรวจ
00:19:24 → 00:19:26 คอเลสเตอรอลเนี่ยเวลาเราตรวจออกมานะครับ
00:19:26 → 00:19:30 มันก็จะแปลว่าเราตรวจหาตัวแทนของอนุภาค
00:19:30 → 00:19:32 ทั้งหมดนะครับเพราะว่าเราตรวจหาข้อแล้วก็
00:19:32 → 00:19:35 วานิชที่มีทั้งหมดอย่างนี้นะฮะเป็นตัวแทน
00:19:35 → 00:19:38 ของทั้งหมดแต่เนื่องจากว่าปริมาณของตัวคอ
00:19:38 → 00:19:40 และเต้าในแต่ละอนุภาพมันไม่เข้ากันนะครับ
00:19:40 → 00:19:42 มันก็เลยทำให้การวัดคอเลสเตอรอลโดยออกมา
00:19:43 → 00:19:45 เนี่ยมันอาจจะไม่สามารถบ่งบอกถึงความ
00:19:45 → 00:19:48 เสี่ยงอะไรมากๆได้นะครับ
00:19:48 → 00:19:51 เห็นเราจะมีสมการตัวนึงนะครับตัวนี้ก็คือ
00:19:51 → 00:19:55 นี่เลยนะฮะเป็นตัวเท่า
00:19:55 → 00:19:58 โคเรสเล่านะครับหรือ cso ที่ผมย่อนะครับ
00:19:58 → 00:20:02 มันเท่ากับอะไรนะครับก็เท่ากับจริงๆถ้าจะ
00:20:02 → 00:20:04 เอาบวกให้หมดทุกอย่างนะครับก็จะมีกลุ่ม
00:20:04 → 00:20:08 เนี่ยนะครับของโทษทีเมื่อกี้ปิดไปกลุ่ม
00:20:08 → 00:20:13 ของใครลงไมครอนนะครับเออบวกกับ vldl
00:20:13 → 00:20:20 ก็บวกกับตัว I dol โบว์กับตัว L dl
00:20:20 → 00:20:24 แล้วก็บอกกับ HD L ทั้งหมดเนี่ยนะครับจะ
00:20:24 → 00:20:27 ต้องเป็นคอเลสเตอรอลซึ่งอยู่ในอนุภาพพวก
00:20:27 → 00:20:29 นี้นะครับมันไม่ได้วัดเอโป้ในนั้นไม่ได้
00:20:29 → 00:20:31 วะไตรกลีเซอไรด์ไม่ได้ว่าอะไรสักอย่างใน
00:20:31 → 00:20:34 นั้นนะครับนี่คือสมการทั้งหมดที่มันควรจะ
00:20:34 → 00:20:36 เป็นนะครับดังนั้นจะเห็นว่าถ้าเกิดว่าเรา
00:20:36 → 00:20:39 กินถ้าเรามีคอเลสเตอรอลในร่างกายเราไป
00:20:39 → 00:20:41 ตรวจมาทั้งหมดเนี่ยนะฮะมันก็ไม่ได้เป็น
00:20:41 → 00:20:44 การบ่งบอกถึงจำนวนอนุภาคพวกนี้เพราะว่า
00:20:44 → 00:20:47 มันขึ้นอยู่กับว่าในอนุภาคทั้งหมดนี้ก็
00:20:47 → 00:20:49 เล็กรอมากน้อยซึ่งมันก็มากน้อยไม่เท่ากัน
00:20:49 → 00:20:54 ในแต่ละคนนะครับก็มีคำถามว่าเอแล้วถ้าเรา
00:20:54 → 00:20:56 จะตรวจให้แม่นไปก่อนนะครับถ้าเราจะตรวจ
00:20:56 → 00:20:59 ว่ามีพอดีเข้าเหลืออนุภาคทั้งหมดเท่าไหร่
00:20:59 → 00:21:02 เราจะตรวจอะไรดีนะครับสิ่งที่สำคัญก็คือ
00:21:02 → 00:21:05 เราจะต้องตรวจหาตัวที่มันก่อให้เกิดโรค
00:21:05 → 00:21:09 หลอดเลือดหัวใจได้นั่นก็คือเมื่อกี้ที่ผม
00:21:09 → 00:21:11 บอกนะครับตัวที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจก็คือ
00:21:11 → 00:21:16 นี่เลยใครรมไอคอนริมแน่ะนะครับ vldl ID
00:21:16 → 00:21:19 L และจริงๆก็มีเอาเดียวด้วยนะครับนี่
00:21:19 → 00:21:22 ทั้งหมดนี้นะครับมันมีตัวนึงซึ่งมีร่วม
00:21:22 → 00:21:27 กันก็คือ apoprotein ไรเก็บโอตินดีนะครับ
00:21:27 → 00:21:30 b48 อันนี้มีปีร้อยตรงนี้ก็มีร้อยไอ้นี่
00:21:30 → 00:21:33 ก็มีรอยนะครับถ้าเราตรวจจำนวน
00:21:33 → 00:21:38 เอโป้ในโปรตีน b100 นะครับมันจะบอกได้
00:21:38 → 00:21:41 เข้าๆนะครับว่าเรามีปริมาณอนุภาคทั้งหมด
00:21:41 → 00:21:44 เท่าไหร่นะครับอ่ะแต่ไอ้ตัวนี้มันจะตรวจ
00:21:44 → 00:21:47 ยากนะคะมันจะต้องตรวจพิเศษแล้วมันก็ไม่มี
00:21:47 → 00:21:50 ความจำเป็นทั้งหมดน่ะมันก็เลยเป็นที่มา
00:21:50 → 00:21:52 ของการที่ถ้าเราตรวจแบบประจำปีเนี่ยนะ
00:21:52 → 00:21:56 ครับมันจะพอบอกได้ไหมว่าเรามีความเสี่ยง
00:21:56 → 00:22:00 มากน้อยแค่ไหนคำตอบคือได้ครับน่ะได้ถาม
00:22:00 → 00:22:05 ว่ายังไงนะเรามาดูตัวนี้
00:22:05 → 00:22:08 แต่ถ้าเราเข้าใจนะครับในเรื่องทั้งหมดนะ
00:22:08 → 00:22:13 สิ่งที่ทำให้คนไข้เนี่ยะมีอาการของหลอด
00:22:13 → 00:22:16 เลือดหัวใจอุดตันต่างๆนะๆมันจะเป็นตัวนึง
00:22:16 → 00:22:19 ซึ่งที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องที่ไม่ได้อยู่
00:22:19 → 00:22:21 ข้างในเรื่องนี้นะครับก็คือ S เดียวเป็น
00:22:21 → 00:22:23 ตัวเดียวที่ไม่เกี่ยวข้องนะฮะนอกนั้นมัน
00:22:23 → 00:22:26 เกี่ยวข้องหมดเลยนะครับดังนั้นจึงมีที่มา
00:22:26 → 00:22:32 ของการที่เราคำนวนนอน HD ll
00:22:32 → 00:22:36 คอลเลสเตอรอลนะครับโดยมันคุณมาจากไหนนะ
00:22:36 → 00:22:38 ครับคำนวณมาจากโททอล
00:22:38 → 00:22:41 ลดคอเลสเตอรอลนะครับ
00:22:41 → 00:22:43 ก็ลบด้วย
00:22:43 → 00:22:46 No html5
00:22:46 → 00:22:49 วันเวลาที่เราไปตรวจไขมันเนี่ยนะครับดู
00:22:49 → 00:22:52 ทั่วไปเวลาเขารายงานผลมาก็จะมีโพถ้อก็เลย
00:22:52 → 00:22:54 เศร้านะครับอ่ะ
00:22:54 → 00:22:58 แต่แกก็ชอบและก็มีไตรกลีเซอไรด์นะครับมี
00:22:58 → 00:23:02 HD ll นะครับแล้วก็มี L dl นะแต่เอาดี
00:23:02 → 00:23:05 เอานี้ท่านต้องดูนะครับว่ามันเป็นคำว่า
00:23:05 → 00:23:07 Direct
00:23:07 → 00:23:13 เอ่อ sel หรือเป็น Calculator n
00:23:13 → 00:23:16 เอ่อ L dl นะครับได้เร็วเดียวในเป็นการ
00:23:16 → 00:23:18 วัดตรงๆเลยครับว่าเอาเดียวในมี
00:23:18 → 00:23:21 คอเลสเตอรอลแค่ไหนนะครับแต่เข้าก็เล่นมัน
00:23:21 → 00:23:23 คือเป็นการคำนวณมาซึ่งก็จะผิดพลาดได้นะ
00:23:23 → 00:23:25 ครับโดยเฉพาะคนที่มีค่าปรายคือทรายสูง
00:23:25 → 00:23:29 เพราะว่ามึงคิดมาจากสูตรนี้ฮะสูตรที่ว่า
00:23:29 → 00:23:32 The Total ก็เรสเตอรอลในคนนี้นะฮะ
00:23:32 → 00:23:36 ว่ามันจะเข้ากับ L dl นะฮะ
00:23:36 → 00:23:40 น้องโบว์กับ VL อาโบกับไตรกลีเซอไรด์นะ
00:23:40 → 00:23:44 ครับส่วน 5 แล้วก็โบกกับ SD L นะก็คิด
00:23:44 → 00:23:49 สลายส่วน 5 ในก็คือ VR เดียวเนี่ยนะครับ
00:23:49 → 00:23:53 อยู่กับตัวไอเดียลถ้าไตรกีสไลของท่านสูง
00:23:53 → 00:23:56 เนี่ยนะครับสูงมากๆนะข้าเนี่ยสมการนี้มัน
00:23:56 → 00:23:57 จะไม่เป็นจริงมันก็ใช้ไม่ได้ก็ต้องเป็น
00:23:57 → 00:23:59 การวัดไดเร็คเซลล์เดียวเท่านั้นจะขอ
00:23:59 → 00:24:02 สามารถบอกได้นะครับอ่ะทีนี้เรากลับมาสู่
00:24:02 → 00:24:04 สมการตรงนี้ครับ
00:24:04 → 00:24:10 โอ้นี่ถ้าท่านสามารถรู้ได้ว่าข้านอนเอชดี
00:24:10 → 00:24:12 แอลโคเลสเตอรอลของท่านเนี่ยเป็นเท่าไหร่
00:24:12 → 00:24:14 นะครับทางเจ้าสามารถรู้ความเสี่ยงของตัว
00:24:15 → 00:24:17 เองได้นะครับยิ่งมันมากก็ยิ่งไม่ดีนะครับ
00:24:17 → 00:24:19 นอน HD L นะครับเพราะตัวที่ดีก็คือ s e
00:24:19 → 00:24:22 l น่ะ HD L เนี่ยเดี๋ยวเราจะพูดถึงอีก
00:24:22 → 00:24:25 นิดนึงนะครับว่าเอ๊ะเดียวคืออะไรนะครับ
00:24:25 → 00:24:31 อ่ะเกินถ้าเราจริงๆเรารีแคปก่อนว่าเราคุณ
00:24:31 → 00:24:34 มาถึงตรงนี้เรารู้อะไรบ้างนะครับเรารู้
00:24:34 → 00:24:36 ว่าอย่างแรก
00:24:36 → 00:24:38 มีงานวิจัยทั้งหมดที่มีในโลกนี้นะครับตอน
00:24:38 → 00:24:41 แรกคิดว่าตรวจเมาเด่น L dl เนี่ยเป็นตัว
00:24:41 → 00:24:44 ปัญหาเพราะว่ามันสามารถเข้าไปอยู่ใน
00:24:44 → 00:24:47 ตรงผนังหลอดเลือดแล้วก็ก่อให้เกิดตัวนี้
00:24:47 → 00:24:51 ขึ้นมาได้นะครับตัวนี้พอทางภาษาการให้เขา
00:24:51 → 00:24:53 เรียกว่าปาร์คนะครับ
00:24:53 → 00:24:57 นี่หรือคำว่า othello มานะครับอ้าเธอโรมา
00:24:57 → 00:24:59 นะ
00:24:59 → 00:25:02 วันเวลาที่มันเกาะตรงนี้มากๆทำให้ตันนะ
00:25:02 → 00:25:04 ครับโดยคิดว่าตัวเล็กมันเพราะว่าตัวเลข
00:25:04 → 00:25:07 ถึงแทรกเข้าไปได้แต่ก็มีงานวิจัยออกมายืน
00:25:07 → 00:25:09 ยันอีกหลายงานแล้วนะครับว่าตัวใหญ่เช่น
00:25:09 → 00:25:13 ใครลงไปค่อยเล่มนั้นนะครับเช่น vldl เช่น
00:25:13 → 00:25:15 ไอเดียลมันก็สามารถเข้าไปนี้ทำให้เกิดโรค
00:25:15 → 00:25:18 ได้ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าสไมล์เดนท์อะไร
00:25:18 → 00:25:21 โปรตีนเป็นตัวตายตัวเดียวไม่ใช่แล้วนะ
00:25:21 → 00:25:24 ครับน่ะแล้วอันที่สองคือเรารู้ว่า Family
00:25:24 → 00:25:27 แล้วให้ปักและคลอรีนเมียซึ่งมีเอาดีเอา
00:25:27 → 00:25:31 ตัวโตเยอะนะครับสิคนที่ที่ดู kito บางคน
00:25:31 → 00:25:34 บอกไม่อันตรายนี่นะครับตัวนี้นะฮะตัวเล็ก
00:25:34 → 00:25:35 มันถ้าไม่มีเลยนะครับมีคนที่เป็นโรคนี้
00:25:35 → 00:25:37 มันยังไม่ยอมเพราะตัวโตอย่างเดียวนะครับ
00:25:37 → 00:25:39 แล้วก็ตัวโตอย่างเดียวก็ทำให้เกิดโรคหัว
00:25:39 → 00:25:42 ใจได้ดังนั้นมันแปลว่าอะไรครับแปลว่า
00:25:42 → 00:25:46 ปัจจุบันสิ่งที่เราทราบนะฮะคือเรารู้นะ
00:25:46 → 00:25:50 ครับว่า vldl ไอเดียวและ L เดียวทั้งใหญ่
00:25:50 → 00:25:53 ทั้งเล็กเนี่ยมีความเกี่ยวข้องกับโรคหลอด
00:25:53 → 00:25:55 เลือดหัวใจหมดนะครับทุกตัวนะครับไม่ขึ้น
00:25:55 → 00:25:58 อยู่กับขนาดแต่สิ่งที่มันขึ้นอยู่ก็คือ
00:25:58 → 00:26:01 จำนวนอนุภาคนะครับคะดังนั้นคนที่มีค่า ldl
00:26:01 → 00:26:05 โคเลสเตอรอลสูงมากๆนะครับถ้าเราไปตรวจ
00:26:05 → 00:26:07 ปริมาณอนุภาคในจำแนกที่สุดจะสามารถบอกได้
00:26:07 → 00:26:09 แต่ถ้าเราไม่สามารถตรวจปริมาณอนุภาคได้
00:26:09 → 00:26:12 เราไม่สามารถตรวจเอโป้ b100 ซึ่งทดแทนการ
00:26:12 → 00:26:16 ตรวจอนุภาคได้เราตรวจอะไรได้ก็เราสามารถ
00:26:16 → 00:26:18 ที่จะตรวจนี่ครับนอน S เดียวคอเลสเตอรอล
00:26:18 → 00:26:22 ซึ่งสามารถหาตัวนี้ได้ง่ายๆจากการที่เรา
00:26:22 → 00:26:24 ตรวจประจำปีอยู่แล้วโดยการเอาค่า
00:26:24 → 00:26:27 คอเลสเตอรอลทั้งหมดของท่านไปลบด้วยค่า SD
00:26:27 → 00:26:30 alcohol จะออกมาเป็นค่านอนเอ๊ะเดียว
00:26:30 → 00:26:33 คอเลสเตอรอลซึ่งเป็นตัวที่บ่งบอกถึงโอกาส
00:26:33 → 00:26:35 เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจถ้ามันยิ่งสูงก็
00:26:35 → 00:26:37 ยิ่งมีปัญหานะครับ
00:26:37 → 00:26:42 ที่นี้ถามว่าค่าตัวเนี้ยนะครับมันควรจะ
00:26:42 → 00:26:44 สูงเท่าไหร่นะครับมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเรา
00:26:44 → 00:26:47 ตั้งเป้าหมายของแอลดีแอลโคเลสเตอรอลไว้
00:26:47 → 00:26:49 เท่าไหร่นะครับเช่นถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้
00:26:49 → 00:26:50 ที่
00:26:50 → 00:26:53 ยกตัวอย่างนะครับเช่นคนที่เป็นโรคเบาหวาน
00:26:53 → 00:26:57 นะครับคนที่เป็นโรคเบาหวานหรือได้ dts นะ
00:26:57 → 00:26:59 ครับอ่ะ
00:26:59 → 00:27:03 The merit นะครับค่า Out เดียว
00:27:03 → 00:27:05 โคเลสเตอรอลที่เราควรจะเป็นมันจะต่ำกว่า
00:27:05 → 00:27:07 70 นะครับเราต้องตั้งให้มันถามว่าจะสิบ
00:27:07 → 00:27:10 น่ะและถ้าข้านอน HD เอาในคนนี้ในกรณีที่
00:27:10 → 00:27:13 เราสามารถทำให้ S ทำให้เอาเดียวในมันต่าง
00:27:13 → 00:27:15 ว่าจะสิบเข้าเป้าหมายแล้วก็หมายต่อไปที่
00:27:15 → 00:27:20 เราจะต้องดูก็คือฆ่านอน HD L นะครับ
00:27:20 → 00:27:23 โคเรสเตอรอลนะครับค่าตัวเนี้ยจะเข้ากับ
00:27:23 → 00:27:28 ค่า ldl ของเราเนี่ย Go นะครับก็คือเป้า
00:27:28 → 00:27:31 หมายของเราบวกไปอีก 30 นะครับนะดังนั้นใน
00:27:31 → 00:27:33 คนที่เป็นเบาหวานเนี่ยถ้าเมื่อไหร่ที่เรา
00:27:33 → 00:27:35 ทำให้เอาเดียวต่ำกว่าจะสิบได้แล้วเราจะ
00:27:35 → 00:27:37 ต้องดูให้แน่ใจว่าเขาไม่มีความเสี่ยงต่อ
00:27:37 → 00:27:39 การเกิดโรคหัวใจด้วยการคำนวณค่านี้นะครับ
00:27:39 → 00:27:41 นะค่านี้ของเขาอย่างที่บอกคือ 70 + 30
00:27:41 → 00:27:44 ได้เท่ากับ 100 ดังนั้นค่านี้ควรจะต้อง
00:27:44 → 00:27:46 ต่ำกว่า 100 คนที่เป็นเบาหวานนะครับอ่า
00:27:46 → 00:27:50 นี่ก็คือเป็นวิธีในการลดโอกาสการเกิดโรค
00:27:50 → 00:27:52 เราด้วยใจที่ดีที่สุดนะครับเพราะว่าบางคน
00:27:52 → 00:27:54 เนี่ยก็จะเป็นเบาหวานแล้วเจอว่าเอาดีเอา
00:27:54 → 00:27:57 ของเขาไม่ค่อยสูงก็มีนะครับอ่ะ L เดียวใน
00:27:57 → 00:27:58 คนที่เป็นเบาหวานส่วนใหญ่ไม่ค่อยสูงนะ
00:27:58 → 00:28:01 ครับแล้วถามว่าทำไมเกิดก็ได้นะครับก็
00:28:01 → 00:28:02 เพราะว่านอน S เดียวของท่านมันสุขนั่นเอง
00:28:02 → 00:28:05 นะครับแล้วนอน S เดียวมันคืออะไรนอน S
00:28:05 → 00:28:08 เดียวก็คือไอ้พวกนี้นะครับน้องเอ๊ะเดียว
00:28:08 → 00:28:11 ก็คือ We R dl นะฮะและไอเดียลร่วมกับ
00:28:11 → 00:28:13 ใครเราไม่เข้านำแนนพรุ่งนี้เข้าไปด้วยนะ
00:28:13 → 00:28:15 ครับหน้านั่นก็คือเป็นปัญหานะครับที่เรา
00:28:15 → 00:28:18 คำนวนนะแต่ว่าต้องบอกว่าส่วนที่มันได้
00:28:18 → 00:28:20 คำนวณแบบเป๊ะทุกอย่างนะคะมันจะมีความผิด
00:28:20 → 00:28:22 พลาดบ้างนะเนี่ยเราจะต้องอนุโลมให้ความ
00:28:22 → 00:28:25 ผิดท่านะบอกบางคนที่เป็นเค้าเรียกว่าเป็น
00:28:25 → 00:28:27 ผู้ช่วยกันนั้นไขมาหรือที่เราเรียกว่าใน
00:28:27 → 00:28:30 กี่โลจิสเนี่ยนะฮะก็อาจจะมัดแย้งผมได้ว่า
00:28:30 → 00:28:32 เอ่อของผมพูดไม่ละเอียดจริงๆนี่ละเอียดพอ
00:28:32 → 00:28:34 สมควรสำหรับคนทั่วไปแต่จริงมันก็ลงราย
00:28:34 → 00:28:36 ละเอียดได้มากกว่านี้แต่ผมจะทิ้งไหมขนาด
00:28:36 → 00:28:38 แค่นี้ก็พอมันเย็นยิ่งงงเข้าไปกว่านี้อีก
00:28:38 → 00:28:40 นะฮะอ่ะ
00:28:40 → 00:28:44 ที่นี่ผมก็อยากจะมาอธิบายอีกคำนึงก็คือ
00:28:44 → 00:28:47 ที่ที่เมื่อกี้ติดไว้เรื่องของเอสซีแอลนะ
00:28:47 → 00:28:53 ครับ HD เอาเนี่ยมันคือยังไงนะเออ HD L
00:28:53 → 00:28:55 นะครับมันก็เป็นอนุภาคที่สร้างมาจากตับนะ
00:28:55 → 00:28:59 ครับมันสร้างมาจากตับเป็นหลักนะครับนี่
00:28:59 → 00:29:03 เราว่าผมนี้นะครับตัวนี้คือ
00:29:03 → 00:29:06 HD L นะครับหรือ High density
00:29:06 → 00:29:08 lipoprotein สร้างมาจากตับเป็นหลักนะ
00:29:08 → 00:29:12 ครับมันก็จะมีตัวเล็กและตัวใหญ่เหมือนกัน
00:29:12 → 00:29:16 กับตัวอื่นนะครับนี่มีตัวเล็กตัวใหญ่นะ
00:29:16 → 00:29:19 ครับและในนี้ก็จะประกอบไปด้วย
00:29:19 → 00:29:21 คอเลสเตอรอลนะครับ
00:29:21 → 00:29:26 ใครกิจสรายนะครับและเอโป้ lipoprotein นะ
00:29:26 → 00:29:28 ครับแต่ว่าถ้าเป็น a potent s เดียว
00:29:28 → 00:29:31 เดี๋ยวจะเป็น epernay วันนะครับอ่ะเป็น
00:29:31 → 00:29:34 AOA วันนะครับการดีไซน์นี้จะมีน้อยมากๆ
00:29:34 → 00:29:36 นะครับน้อยมากๆเลยเพราะมันท่าจะไม่เหลือ
00:29:36 → 00:29:39 แล้วแต่ก็แล้วก็เรามันเยอะนะฮะ HD L นี้
00:29:39 → 00:29:41 มันมีหน้าที่เอาโคเลสเตอรอลเนี่ยไปส่งให้
00:29:41 → 00:29:45 กับเซลล์ซึ่งจำเป็นนะครับเช่นอะไรบ้างนะ
00:29:45 → 00:29:48 ครับเซลล์รังไข่นะครับโอวารี่
00:29:48 → 00:29:51 เซลล์อันธนาคารเพราะมันต้องสร้าง
00:29:51 → 00:29:57 สเตียรอยด์นะครับเซลล์ของอ่าต่อมหมวกไตนะ
00:29:57 → 00:30:00 ครับมาริโน่วว Grand นะครับหัวข้อมูลต่าง
00:30:00 → 00:30:03 ๆซึ่งสร้างมาจากตรงนี้จะมีความสำคัญมากๆ
00:30:03 → 00:30:06 นะครับตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งซึ่งมันส่ง
00:30:06 → 00:30:08 มาให้แล้วส่วนที่เหลือมันเอาไปไหนนะครับ
00:30:08 → 00:30:11 มันคืนตับครับกับเข้าต่ำเหมือนเดิมนะครับ
00:30:11 → 00:30:14 ทำให้เอาคอและเข้าไปเก็บที่ตัดนะฮะก็แล้ว
00:30:14 → 00:30:16 โซโลสะสมที่ตับไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ
00:30:16 → 00:30:18 เพราะอะไรหลายคนบอกว่าอย่างนี้คนเล็กเรา
00:30:18 → 00:30:21 ไปอีกจากที่ตัดก็แย่สินะไม่ใช่นะครับตัว
00:30:21 → 00:30:24 ที่ทำให้ตัดท่านมีปัญหาก็คือใครมันต้อง
00:30:24 → 00:30:25 กับพวกนั้นจะเป็นไตรกรีเซอร์ไรด์ซะเป็น
00:30:25 → 00:30:28 ส่วนใหญ่นะฮะเกือบทั้งหมดเป็นไกลอิสลาย
00:30:28 → 00:30:29 ดังนั้นถ้าที่ทานแป้งก็เยอะเนี่ยจะสร้าง
00:30:29 → 00:30:32 ไปคือสลายก็ไม่ได้เยอะมันจะไปเพาะให้ตับ
00:30:32 → 00:30:33 ได้เยอะนะครับมันไม่ได้เป็นจากไขมันนะ
00:30:33 → 00:30:36 ครับแล้วก็บางคนบอกว่ากินยาสแตตินมันจะทำ
00:30:36 → 00:30:39 ให้ไขมันข้างในตับได้ไม่เกี่ยวกันนะครับ
00:30:39 → 00:30:41 แต่ทีนี้ช่วยเรื่องไขมันข้างในตับด้วยซ้ำ
00:30:41 → 00:30:44 ไปนะฮะอ่ะนี่ stm ผมบอกว่ามีตัวใหญ่กับ
00:30:45 → 00:30:47 ตัวเล็กนะครับตัวใหญ่เนี่ยปัจจุบันคิดว่า
00:30:47 → 00:30:49 แนวโน้มว่าฟังก์ชันหรือว่าการทำงานของมัน
00:30:49 → 00:30:51 จะดีกว่าตัวเล็กนะครับตัวใหญ่จะดีกว่าตัว
00:30:51 → 00:30:54 เล็กนั้น s d l นะแต่ว่าก็ยังได้ข้อ
00:30:54 → 00:30:57 สรุปไม่ชัดเจนนะครับเรื่องของจำนวนว่า
00:30:57 → 00:31:00 เอสซีแอลมีอนุภาคมากน้อยแค่ไหนและก็
00:31:00 → 00:31:02 เรื่องเรื่องนี้มันจะไม่ชัดเจนเท่ากรณี
00:31:02 → 00:31:04 ของแอลเดียวและอนุภาคของไขมันและโปรตีน
00:31:04 → 00:31:07 ตัวอื่นนะครับแต่ตัวที่ชัดเจนของ HD เอา
00:31:07 → 00:31:10 ก็คือเรื่องของฟังก์ชันหรือการทำงานนะ
00:31:10 → 00:31:13 ครับก็จะมีการพูดถึงว่าเอ๊ะเดียวที่ทำงาน
00:31:13 → 00:31:15 ได้ดีกับเชียวที่ทำงานได้ไม่ค่อยดีนะครับ
00:31:15 → 00:31:17 จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนอนุภาคนี้เป็น
00:31:17 → 00:31:19 แนวโน้มในปัจจุบันแต่ว่าการศึกษาไปยังไม่
00:31:19 → 00:31:21 สิ้นสุดนะครับก็จะต้องรอดูกันต่อไปว่าตก
00:31:21 → 00:31:25 ลงแล้วอะไรที่เป็นส่วนของเอ็เดียวในการทำ
00:31:25 → 00:31:27 หน้าที่ที่ดีของมันที่เราจำเป็นต้องเอามา
00:31:27 → 00:31:31 พิสูจน์แล้วก็ดูนะครับอ่ะตัวนี้คือ HD L
00:31:31 → 00:31:34 นะครับดังนั้นแล้วถ้าท่านลองดูนะครับ
00:31:34 → 00:31:37 เมื่อกี้ผมบอกว่าไอ้ตัวและโปรตีนทั้งหมด
00:31:37 → 00:31:40 เนี่ยจะมี taki ใส่เป็นส่วนประกอบการที่
00:31:40 → 00:31:42 ท่านตรวจไรดีสลายนะครับมันก็จะเป็นการ
00:31:43 → 00:31:46 ตรวจส่วนประกอบของทุกตัวนะครับเพราะในทุก
00:31:46 → 00:31:47 ตัวมันจะมีไตรกลีเซอไรด์ปนอยู่นะครับ
00:31:47 → 00:31:50 เนี่ยมันจะมีแต่เกย์สลายคนอยู่หมดทุกอัน
00:31:50 → 00:31:53 เลยนะครับอ่ะท่านเพื่อตรวจการกินอะไรทั้ง
00:31:53 → 00:31:58 หมดน่ะนี่เลยนะครับดังนั้นการที่ท่านตรวจ
00:31:58 → 00:32:00 ไปกี่ slide ทั้งหมดนะครับจริงก็ไม่ได้
00:32:00 → 00:32:03 เป็นตัวบ่งบอกอะไรชัดเจนมากเท่ากับตัว
00:32:03 → 00:32:05 Car legance
00:32:05 → 00:32:09 นะครับอ่ะนั่งนั้นที่ผมพูดมาทั้งหมดวัน
00:32:09 → 00:32:12 นี้นะครับอยากจะชี้ให้เห็นถึงว่าตัวที่
00:32:12 → 00:32:15 สำคัญในจริงๆมันไม่ใช่เป็นตัว L dl ตัว
00:32:16 → 00:32:18 เล็กอย่างเดียวแล้วนะครับเอาเดียวตัวเล็ก
00:32:18 → 00:32:21 นะว่ามันจะสามารถแทรกเข้าไปอยู่ตรงผนัง
00:32:21 → 00:32:23 หลอดเลือดได้นะว่ามันจะอยู่ในเลือดได้นาน
00:32:23 → 00:32:26 กว่านะครับแต่ไม่ได้หมายความว่าตัวอื่นๆ
00:32:26 → 00:32:28 ของแอลดีแอลไม่มีอันตรายเพราะว่าเรามีข้อ
00:32:28 → 00:32:30 พิสูจน์เรียบร้อยแล้วนะครับว่าในโลกใคร
00:32:30 → 00:32:33 แซวให้เป็นคนรัก Loli เมียเดียวมันจะเป็น
00:32:33 → 00:32:35 ตัวใหญ่นะครับ
00:32:35 → 00:32:38 มันก็มี l e r ตัวใหญ่เยอะมากๆจนทั้ง
00:32:38 → 00:32:41 หมดนะฮะแล้วก็มีอนุภาคเยอะซะด้วยนะครับ
00:32:41 → 00:32:43 ทั้งหมดเนี่ยมันก็ทำให้เกิดโรคร้อนในหัว
00:32:43 → 00:32:45 ใจได้นอกเหนือจากนี้ใครลงในค่อนเดิมนั้น
00:32:45 → 00:32:48 ก็ทำให้เกิดได้ทั้งที่มันตัวใหญ่มากๆน้ำ
00:32:48 → 00:32:50 ใหญ่กว่าหลายเข้าเมื่อเทียบกับตัว R dl
00:32:50 → 00:32:53 ที่เป็นชนิดมาเด่นนะครับตัวเดียวเดียว
00:32:53 → 00:32:55 ซึ่งใหญ่กว่ามากแค่นั้นก็สามารถทำให้เกิด
00:32:55 → 00:32:57 โรคหลอดเลือดหัวใจได้ดังนั้นเนี่ยตรง
00:32:57 → 00:33:00 เนี้ยเป็นสิ่งขึ้นพิสูจน์ได้ชัดเจนมีคำ
00:33:00 → 00:33:04 ว่าคนที่กินทีโตมากๆแล้วก็เอาดีเอาสุขมาก
00:33:04 → 00:33:07 ๆนะครับแล้วคิดว่าทั้งหมดมันเป็นธาตุขึ้น
00:33:07 → 00:33:09 ดีนะครับเธอเป็นแพทเทิร์น a หรือที่เรียก
00:33:09 → 00:33:12 ว่าเอาดีเอาตัวใหญ่ๆมากๆร่วมกับการที่มี
00:33:12 → 00:33:15 ค่าใดจะตายเนี่ยลดลงค่า f เดียวดีขึ้นนะ
00:33:15 → 00:33:17 ครับทุกอย่างมันดีขึ้นหมด ldl
00:33:17 → 00:33:18 cholesterol สูงมากๆแล้วมันเป็นตัวใหญ่
00:33:18 → 00:33:20 แล้วปลอดภัยเนี่ยก็ไม่เสมอไปแล้วนะครับ
00:33:20 → 00:33:23 เพราะว่ามันเหตุผลอย่างที่ผมวาดรูปให้ดู
00:33:23 → 00:33:27 นี่แหละครับน่ะเราคนที่
00:33:27 → 00:33:30 อยากจะไปตรวจท่าที่โคนนะครับไม่ได้มีความ
00:33:30 → 00:33:31 จำเป็นจะต้องตรวจครรภ์ที่เข้านะครับเพราะ
00:33:31 → 00:33:34 ว่าหนึ่งมันแพงมากนะครับผมไม่แน่ใจว่าที่
00:33:34 → 00:33:36 เมืองไทยตัวได้แค่ไหนนะคะอย่างที่อเมริกา
00:33:36 → 00:33:38 เนี่ยปกติก็ไม่ได้สั่งตรวจกันนะครับมัน
00:33:38 → 00:33:41 ตรวจค่าตัวค่อนข้างแพงเหมือนกันนะครับการ
00:33:41 → 00:33:43 ตรวจหาเรียมพาเด็กเข้าพรุ่งนี้แล้วตรวจมา
00:33:43 → 00:33:45 ก็ไม่ได้แปลก่อนได้ตรงไปตรงมานะครับมันจะ
00:33:45 → 00:33:48 มีปัญหาอย่างอื่นๆอีกนะฮะแต่ตัวที่เรามา
00:33:48 → 00:33:50 ใช้แทนได้ก็คือตัวนี้ครับนนท์เอชดีแอล
00:33:50 → 00:33:52 โคเลสเตอรอลนะครับนอนนิดเดียวก็และก็ตัว
00:33:52 → 00:33:55 นี้ก็คำนวณมาจาก Total ก็และเราลบด้วย
00:33:55 → 00:33:57 xp-l โดยเป้าหมายที่เราต้องการนะครับก็
00:33:57 → 00:34:01 คือสูงกว่าคาดจะเอา br อยู่ที่ 30 นะครับ
00:34:01 → 00:34:03 และเป้าหมายของแอลเดียวก็ขึ้นอยู่กับความ
00:34:03 → 00:34:06 เสี่ยงของแต่ละคนเช่นถ้าเป็นเบาหวานนะฮะ
00:34:06 → 00:34:08 เราจะเน้นให้เอาเดียวต่ำกว่าจะสิบถ้าคน
00:34:08 → 00:34:10 ที่มีโรคได้หัวใจแล้วเราจะไปยังไม่เอา
00:34:10 → 00:34:13 เดียวต่ำกว่า 70 นะครับซึ่งพวกนี้ส่วน
00:34:13 → 00:34:16 ใหญ่แล้วจะไม่ต้องใช้ยากลุ่ม zapping นะ
00:34:16 → 00:34:17 ฮะ
00:34:17 → 00:34:19 แต่ถ้าเราสามารถที่จะทำให้เอาเดียว
00:34:19 → 00:34:21 คอลเลสเตอรอลทุกอย่างต่ำกว่าจะเสร็จเรียบ
00:34:21 → 00:34:24 ร้อยแล้วนะครับเป้าหมายที่เราต้องดูต่อไป
00:34:24 → 00:34:26 ก็คือตัวนี้ครับนนท์ S เดียวคะแล้วเรา
00:34:26 → 00:34:28 เพื่อดูว่าเรามีความเสี่ยงหลงเหลืออยู่
00:34:28 → 00:34:30 หรือเปล่าถ้าเรายังมีความเสี่ยงหลงเหลือ
00:34:30 → 00:34:32 อยู่นะครับเราจะสามารถลดนน S เดียว
00:34:32 → 00:34:34 คอเลสเตอรอลลงไปได้อีกด้วยยากลุ่มอื่น
00:34:34 → 00:34:37 เช่นยากลุ่มไฟเบรคเป็นต้นนะครับหรือย้าย
00:34:37 → 00:34:39 กลุ่มไนอาซินเป็นต้นอย่างนี้หรือ Vitamin
00:34:39 → 00:34:42 B3 คือนายสินะพวกนี้นะครับแต่ Vitamin
00:34:42 → 00:34:44 B3 ที่เป็นอาญาสินี่เวลาเป็นยาในต้องกิน
00:34:44 → 00:34:46 ขนาดสูงนะครับไม่ใช่ว่าไปกินวิตามิน B
00:34:46 → 00:34:48 รวม Vitamin B ทั่วๆไปแล้วมันจะช่วยได้
00:34:48 → 00:34:50 เหมือนคนที่ผมก็อย่างนี้ไปกินอาหารเสริม
00:34:50 → 00:34:52 ช่วยได้อ้ะไม่ได้นะครับมันต้องเป็นกินขณะ
00:34:52 → 00:34:54 ที่เป็นแบบอย่างจริงๆนะครับถึงจะได้ผลนะ
00:34:54 → 00:34:58 ฮะโอเควันนี้ผมก็เล่ามาลงรายละเอียดลึกพอ
00:34:58 → 00:35:01 สมควรนะครับในหลายๆโลกนะมาถึงในกรณีของ
00:35:01 → 00:35:04 อะไรโปรตีนโดเอด้วยนะครับซึ่งหลายๆคนก็
00:35:04 → 00:35:06 อาจจะไม่เคยรู้จักไม่เคยได้ยินตัวนี้มา
00:35:06 → 00:35:11 ก่อนนะฮะอ่าถ้าใครสงสัยตรงไหนนะครับก็ลอง
00:35:11 → 00:35:13 ย้อนฟังซ้ำอีกรอบนึงได้นะครับเรื่องนี้
00:35:13 → 00:35:15 มันค่อนข้างที่จะยากแต่ผมพยายามวาดรูปให้
00:35:15 → 00:35:18 ดูว่าเรามีที่มาที่ไปอย่างไรและคิดอย่าง
00:35:18 → 00:35:21 ไรนะครับแล้วก็อยากจะเน้นย้ำอย่างหนึ่ง
00:35:21 → 00:35:22 คือตอนเนี้ย
00:35:22 → 00:35:25 ไตรกีซาไลน์ตัวนี้ที่หลายๆคนบอกว่ามัน
00:35:25 → 00:35:28 เป็นผู้ร้ายไม่ใช่ผู้ร้ายนะมันมีข้อดี
00:35:28 → 00:35:30 เหมือนกันมันเป็นที่เก็บพลังงานให้กับ
00:35:30 → 00:35:32 ร่างกายและที่สำคัญคือหัวใจของเราเนี่ยจะ
00:35:32 → 00:35:35 ต้องใช้ฮอร์โมนอาจจะต้องใช้พลังงานจากตัว
00:35:35 → 00:35:37 ไตรกลีเซอไรด์เนี่ยเป็นหลักเลยนะครับมัน
00:35:37 → 00:35:39 ใช้กับตู้หรือไม่ได้แล้วก็จะมีโรคบางโรค
00:35:39 → 00:35:42 ซึ่งถั่วใจใช้พนักงานผิดนะครับย้ายไปใช้
00:35:42 → 00:35:46 พลังงานจากกากน้ำตาลเนี่ยมันก็ทำให้หัวใจ
00:35:46 → 00:35:48 มีปัญหาได้นะครับก็ต้องมียาผลิตออกมา
00:35:48 → 00:35:52 เพื่อที่จะสลับที่หัวใจกลับไปใช้ไขมันใน
00:35:52 → 00:35:55 การสร้างพลังงานนะครับโอเควันนี้ก็เท่า
00:35:55 → 00:35:57 นี้นะครับใครมีข้อสงสัยอะไรก็สอบถามมาได้
00:35:57 → 00:36:00 นะครับใครไม่เข้าใจตรงนี้ก็ค่ะทำซ้ำอีก
00:36:00 → 00:36:02 รอบนึงครับผมเข้าใจว่ามันเข้าใจยากเหมือน
00:36:02 → 00:36:04 กันนะคะแล้วอันนี้คือ
00:36:04 → 00:36:08 กับต้องบอกอย่างนี้ครับผมยังไม่ได้ลงลึก
00:36:08 → 00:36:10 เลยนะครับเมื่อเทียบกับสิ่งที่แพทย์ต้อง
00:36:10 → 00:36:12 รู้นะครับดังนั้นท่านที่ไม่ใช่แพทย์นะฮะ
00:36:12 → 00:36:15 ทั้งที่ไม่ใช่แพทย์แล้วก็ไปอ่านความรู้
00:36:15 → 00:36:17 พวกนี้มาแล้วคิดว่าท่านอาจจะเข้าใจถูก
00:36:17 → 00:36:21 ต้องนะครับเอ่อท่านต้องไปอ่านให้มากกว่า
00:36:21 → 00:36:23 นั้นนะครับมันมีหลายๆอย่างซึ่งถ้าท่านไม่
00:36:23 → 00:36:25 ได้เรียนแค่มาเองขนาดจะไม่ทราบนะครับแล้ว
00:36:25 → 00:36:27 เรื่องนี้คือเป็นเรื่องที่ผมเรียนตั้งแต่
00:36:27 → 00:36:28 ตอนช่วงประมาณ
00:36:28 → 00:36:32 ปีสามที่ผมแต่นักเรียนแพทย์ปีสามนะปีสอง
00:36:32 → 00:36:33 ปีสามที่ผมได้เรียนเรื่องพวกนี้นะครับ
00:36:33 → 00:36:35 แล้วตอนนี้ผมก็ต่อยอดไปอีกนะครับเพราะว่า
00:36:35 → 00:36:38 ผมก็เข้าใจเพิ่มขึ้นนะครับนั้นถ้าท่านที่
00:36:38 → 00:36:40 จะต้องการเข้าใจเรื่องที่ตัวเองไม่ได้
00:36:40 → 00:36:43 เชี่ยวชาญนะครับเช่นอะไรก็แล้วแต่ครับ
00:36:43 → 00:36:46 แล้วต้องการศึกษาควรจะศึกษาลงไปให้ลึกๆ
00:36:46 → 00:36:48 อย่าเพิ่งไปฟังคนอื่นนะครับเพราะมันมี
00:36:48 → 00:36:51 ปัญหาได้นะฮะอย่างผมเนี่ยผมก็ยังจะไม่พูด
00:36:51 → 00:36:53 เรื่องของอะไรที่ผมไม่ใช่ชาเลยนะครับ
00:36:53 → 00:36:55 เดี๋ยวถ้าผมพูดเนี่ยผมก็จะเอางานวิจัยมา
00:36:55 → 00:36:59 แปะไว้หรือว่าบอกว่าเอ้อมันเป็นเป็นที่
00:36:59 → 00:37:02 มีความคิดเห็นของผมส่วนตัวนะครับไม่ได้
00:37:02 → 00:37:04 เป็นไม่ได้เป็นสิ่งที่เขายอมรับกันชัดเจน
00:37:04 → 00:37:06 นะครับเพราะว่าผมก็ไม่ใช่ชาญทางด้านนั้น
00:37:06 → 00:37:08 นะเช่นว่าผมอาจจะไม่ผมก็คงไม่บอกหรอกครับ
00:37:08 → 00:37:14 ว่าโต๊ะอ่านักวิศวะกรหรืออาหารชาวนาหรือ
00:37:14 → 00:37:17 เกษตรกรอะไรเนี่ยเขาเข้าใจผิดมาตลอดเวลา
00:37:17 → 00:37:20 เลย 50 60 ปีที่เขาทำมาไม่ถูกต้องนะครับ
00:37:20 → 00:37:22 สิ่งที่ผมเข้าใจถูกกว่าอย่างนั้นผมก็จะ
00:37:22 → 00:37:24 ไม่พูดเด็ดขาดนะครับเพราะว่าต่อให้ผม
00:37:24 → 00:37:25 ศึกษามาหรือยังไงผมก็ยังไม่มีความเชี่ยว
00:37:25 → 00:37:28 ชาญเท่ากับเขาแน่ๆแล้วนะครับแล้วก็ผมจะ
00:37:28 → 00:37:30 ให้เกียรติคนเหล่านั้นด้วยนะครับเพราะว่า
00:37:30 → 00:37:32 มันเป็นสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญเป็นหน้าที่
00:37:32 → 00:37:36 ของเขานั้นดังนั้นผมจะไม่ไม่ไปอะไรกับเขา
00:37:36 → 00:37:39 แน่ๆอย่างดีผมก็จะไปขอสอบถามความเข้าใจนะ
00:37:39 → 00:37:41 ครับเพิ่มเติมเพื่อที่จะให้เขาให้ผมเข้า
00:37:41 → 00:37:43 ใจถูกต้องมากขึ้นนะครับหรือจะยังไม่อยู่
00:37:43 → 00:37:46 ออกมาพูดเรื่องที่ผมไม่เข้าใจแน่ๆนั้น
00:37:46 → 00:37:49 เรื่องนี้นะครับถ้าใครที่ที่สงสัยเรื่อง
00:37:49 → 00:37:51 พรุ่งนี้นะครับโดยเฉพาะไปดิ้นมาจากที่ไหน
00:37:51 → 00:37:53 นะครับต้องเข้าใจให้ถูกต้องนะครับหรือบาง
00:37:53 → 00:37:57 คนไปยินหมออื่นไหมอ่านี่ตัวดีนะครับบางที
00:37:57 → 00:38:00 หมอก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าพูดในถ้าตัว
00:38:00 → 00:38:01 เองไม่ได้เชี่ยวชาญนะครับถ้าท่านอยากจะ
00:38:02 → 00:38:04 เข้าใจเรื่องพวกนี้จริงๆเนี่ยมีสองห่าง
00:38:04 → 00:38:07 ทางแรกท่านไปหาหมอที่เชี่ยวชาญด้านนั้น
00:38:08 → 00:38:10 โดยเฉพาะเลยนะครับโดยตรงหน้าอย่างชัดทัพ
00:38:10 → 00:38:13 ธรรมหมอโรคอื่นเนี่ยพูดเรื่องตอบแล้วก็
00:38:13 → 00:38:15 พูดไม่ถูกต้องเนี่ยผมชนะกรงแล้วก็ผมเป็น
00:38:15 → 00:38:17 หมอลบออกมันจะเข้าใจมากเขาแน่นอนนะไม่มี
00:38:17 → 00:38:22 นี้เขาจะเข้าใจผมนะฮะอันที่สองคือท่านไม่
00:38:22 → 00:38:24 ฌานขั้นต้องอ่านงานวิจัยเป็นท่านๆงาน
00:38:24 → 00:38:26 วิจัยไม่เป็นเนี่ยมันก็ไม่ได้ประโยชน์เลย
00:38:26 → 00:38:29 ขึ้นมาครับโอเควันนี้ก็บ่นมาเยอะเหมือน
00:38:29 → 00:38:32 กันนะครับถ้าใครมีข้อสงสัยและก็สอบถามมา
00:38:32 → 00:38:35 ได้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ