00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world By The
00:00:04 → 00:00:09 Voice ปรสิทธิ์เนี่ยเป็นสิ่งมีชีวิตนะ
00:00:09 → 00:00:13 ที่ดำรงชีวิตด้วยการอาศัยแพร่พันธอยู่ใน
00:00:13 → 00:00:16 สิ่งมีชีวิตอีกชนิดอื่นที่เรียกว่าโสหาก
00:00:16 → 00:00:19 ปราศจากโฮสเนี่ยเขาก็จะไม่สามารถดำรงอยู่
00:00:19 → 00:00:22 ได้จึงไม่ทำลายโฮสแต่มันจะเจริญเติบโต
00:00:22 → 00:00:25 แพร่กระจายโรคและก่อให้เกิดความเสียหาย
00:00:25 → 00:00:28 ต่อโฮสได้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการติด
00:00:28 → 00:00:31 เชื้อปรสิทธิ์คือคนที่มีถิ่นอาศัยในเขต
00:00:31 → 00:00:35 ร้อนโดยเฉพาะเขตชนบทการสาธารณสุขที่ไม่ดี
00:00:35 → 00:00:38 อาการที่จะเกิดอาจจะไม่มีอาการในกรณีที่
00:00:38 → 00:00:41 ติดเชื้อในปริมาณน้อยก็ได้ขึ้นกับการติด
00:00:41 → 00:00:44 เชื้อกับอวัยวะใดแล้วก็ปริมาณมากน้อย
00:00:44 → 00:00:46 เพียง
00:00:46 → 00:00:50 ใดฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:50 → 00:00:54 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:54 → 00:00:57 This Is tha PBS podcast วันนี้ค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 คุณผู้ฟังเราจะคุยกันถึงเรื่องของโรคที่
00:01:00 → 00:01:03 เกิดจากปรสิทธิ์นะคะเอ๊ปรสิทธิ์คืออะไรนะ
00:01:03 → 00:01:07 คะแล้วมีโรคอะไรบ้างเรามาคุยกับแพทหญิง
00:01:07 → 00:01:09 กิตยาศรีเเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่ายการ
00:01:09 → 00:01:13 แพทย์ AIA ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะโอ้โหคุณ
00:01:13 → 00:01:17 หมอคะมาและอีกเรื่องนึงโรคที่เกิดจาก
00:01:17 → 00:01:20 ปรสิทธิ์ทำความเข้าใจกันก่อนปรสิทธิ์ดู
00:01:20 → 00:01:23 มันเป็นคำแบบทางวิชาการวิชาการมากๆเลยใช่
00:01:23 → 00:01:26 แล้วก็บางท่านผู้ฟังบางท่านอาจจะไม่เคย
00:01:26 → 00:01:30 ได้ยินหรือเป่าปรสิทธิ์อะไรเนี่ยอืนะคะ
00:01:30 → 00:01:33 ปรสิทธิ์คืออะไรท่านผู้ฟังปรสิทธิ์เนี่ย
00:01:33 → 00:01:38 เป็นสิ่งมีชีวิตนะที่ดำรงชีวิตด้วยการ
00:01:38 → 00:01:41 อาศัยและแพร่พันธอยู่ในสิ่งมีชีวิตอีก
00:01:41 → 00:01:45 ชนิดอื่นที่เรียกว่าโฮสอืนะคะต้องอาศัยคน
00:01:45 → 00:01:48 เนี่ยเป็นแหล่งอาหารเพื่อการดำรงชีวิต
00:01:48 → 00:01:53 เจริญเติบโตแล้วก็สืบพันธหากปราศจากโฮส
00:01:53 → 00:01:56 เนี่ยเขาก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ค่ะด้วย
00:01:57 → 00:02:00 เหตุนี้ปารสิกจึงไม่ทำลายโฮสแต่มันจะ
00:02:00 → 00:02:03 เจริญเติบโตแพร่กระจายโรคและก่อให้เกิด
00:02:03 → 00:02:07 ความเสียหายต่อโฮสได้เอ้าอ่ะพสิทธิ์เป็น
00:02:07 → 00:02:11 พาหนำโรคภัยมาสู่มนุษย์ได้ตั้งแต่ท้อง
00:02:11 → 00:02:14 เสียอย่าสมองอักเสบปรสิทเนี่ยจะแบ่งได้
00:02:14 → 00:02:18 เป็นประเภทใหญ่ๆได้หลายประเภทเลยนะค่ะ
00:02:18 → 00:02:20 อย่างเช่นปรสิทธิ์ที่อาศัยในล้ำไส้ของ
00:02:20 → 00:02:23 มนุษย์หรือสัตว์นะคุณผู้ฟังก็จะได้ยิน
00:02:23 → 00:02:27 ชื่อแปลกๆหน่อยนะเช่นคริปโตสปอริเดียไม่
00:02:27 → 00:02:30 เคยได้ยินไกอาเดีย
00:02:30 → 00:02:32 เชื้อบิดมีตัวหรือว่า
00:02:33 → 00:02:36 เอตาไมโครสปอริเดีย
00:02:36 → 00:02:40 ไอโซสปอรปรสิทธิ์จำพวกหนอนพยาธเช่นพยาธิ
00:02:40 → 00:02:45 ตืดหมูพยาธไส้เดือนพยาธิตัวกลมพยาธิใบไม้
00:02:45 → 00:02:49 นะค่ะโดยปรสิทธิ์กลุ่มเนี้ยจะเป็นจะปน
00:02:49 → 00:02:52 เปื้อนออกมากับอุจจาระของคนแล้วก็สัตว์
00:02:52 → 00:02:56 ซึ่งอาจจะแพร่กระจายไปตามดินแหล่งน้ำหาก
00:02:56 → 00:03:01 คนรับประทานผักสดที่ล้างไม่สะอาดหรือดื่ม
00:03:01 → 00:03:04 น้ำที่กรองไม่สะอาดบริษัทเหล่านี้ก็จะ
00:03:04 → 00:03:07 เข้าสู่ร่างกายและก่อให้เกิดโรคต่างๆกับ
00:03:07 → 00:03:11 โพสตได้นอกจากเป็นปรสิทธิ์ที่อาศัยอยู่ใน
00:03:11 → 00:03:13 ลำไส้ของมนุษย์และสัตว์แล้วนะก็จะมี
00:03:13 → 00:03:15 ปรสิทธิ์ที่อยู่ภายนอกร่างกายเช่นอะไร
00:03:16 → 00:03:19 เห็บหาวหมัดไรฝุ่นและหิตพวกนี้ก็เป็น
00:03:19 → 00:03:23 ปาราสิตอค่ะมักจะอยู่บนผิวหนังเส้นผมของ
00:03:23 → 00:03:27 คนเส้นขนของสัตว์อย่างเช่นสุนัขแมว
00:03:27 → 00:03:30 กระต่ายค่ะนะคะแล้วติดติดมาสู่คนจากการ
00:03:30 → 00:03:34 จับอุ้มกอดสัมผัสกับสัตว์ที่มีเชื้อซึ่ง
00:03:34 → 00:03:36 ก่อให้เกิดอาการคันบริเวณที่ปรสิทธิ์ไป
00:03:36 → 00:03:40 เกาะอยู่อืหากเป็นเห็บก็จะพบเป็นรอยบวม
00:03:40 → 00:03:45 แดงมีผื่นเป็นวงกลมขนาดใหญ่อ๋อเอ๊ยคุณหมอ
00:03:45 → 00:03:49 คะคำว่าปรสิทธิ์กับพยาธิพยาธิเป็น
00:03:49 → 00:03:52 ปรสิทธิ์ชนิดนึงชนิดนึงใช่ออคือมันมีหลาย
00:03:52 → 00:03:56 ชนิดมันเยอะมากอือย่างที่เมื่อกี้ที่ชื่อ
00:03:56 → 00:04:00 แปลกๆอันนั้นก็ก็เป็นคนละอย่างกับพยาธิ
00:04:00 → 00:04:04 ใช่ค่ะอ๋อเไม่ใช่พยาธคือไม่คยไม่เคยได้
00:04:04 → 00:04:07 ยินชื่อต่างๆเหล่านี้แต่พระพยาธเนี่ยจะ
00:04:07 → 00:04:09 ได้ยินกันอยู่แล้วใช่มั้ยมันก็เป็นปาริท
00:04:09 → 00:04:13 ชนิดนึงคราวนี้อ่ะนอกจากอ่ะกลุ่มปรสิทที่
00:04:13 → 00:04:15 อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์หรือสัตว์ลนะ
00:04:15 → 00:04:18 แล้วก็เป็นปรสิทธิ์ที่อยู่ภายนอกร่างกาย
00:04:18 → 00:04:21 ก็จะมีโปรโตซัวอีกจำพวกนึงเรียกว่าจำพวก
00:04:21 → 00:04:25 อะมีบ้าเช่นก็จะไม่ได้ยินอีกแหละเช่น
00:04:25 → 00:04:26 เชื้อ
00:04:26 → 00:04:29 นิกรค่ะนะแคนา
00:04:29 → 00:04:33 ซึ่งเป็นอมีบาที่ดำรงชีพ
00:04:33 → 00:04:36 อิสระคือมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองตาม
00:04:36 → 00:04:40 ธรรมชาติเช่นแห่งน้ำลำคองหากเข้าสู่ร่าง
00:04:40 → 00:04:43 กายแล้วก็จะอาศัยคนเป็นโฮสและก่อโรคให้
00:04:43 → 00:04:50 กับเราได้อ้าซะอย่างงั้นแหละค่ะทีนี้มัน
00:04:50 → 00:04:53 มีโอกาสที่เราจะไปติดเชื้อปรสิทธิ์พวก
00:04:53 → 00:04:55 เนี้ยได้ยังไงอ่ะถ้าอย่างพยงพยาธนี่ก็ยัง
00:04:55 → 00:04:57 คงได้เคยได้ยินกันบ้างแต่มันแสดงว่ามัน
00:04:57 → 00:05:01 ต้องมาจากหลายๆทางได้ใช่เอ่อเราจะติด
00:05:01 → 00:05:04 เชื้อจากปรสิทธิ์ได้หลายทางทั้งปากจมูก
00:05:04 → 00:05:08 ผิวหนังเพศสัมพันธ์แล้วก็แมรงเป็นตัวนำ
00:05:08 → 00:05:11 โรคนะคะทางปากเช่นอะไรบ้างการได้รับเชื้อ
00:05:11 → 00:05:15 ปรสิทธิ์ทางปากจากปนเปื้อนอุจจาระที่ปน
00:05:15 → 00:05:19 เปื้อนเชื้อปรสิทนะคะเช่นโรคพยาธตัวตืด
00:05:19 → 00:05:22 ซึ่งอุจจาระมีเชื้อปรสิทนะเป็นได้ทั้ง
00:05:22 → 00:05:25 อุจจาระผู้ป่วยเองอุจจาระผู้ป่วยอื่นที่
00:05:25 → 00:05:28 มีเชื้อปาราสิตแล้วหรือว่าอุจจาระสัตว์
00:05:28 → 00:05:31 เลี้ยงลูกด้วยนมนะคะรวมถึงสัตว์เลี้ยง
00:05:31 → 00:05:32 เช่นแมว
00:05:32 → 00:05:36 สุนัขรวมถึงอุจจาระที่อาจปนเปื้อนในสิ่ง
00:05:36 → 00:05:39 ต่างๆที่พบบ่อยค่ะเช่นการรับประทานอาหาร
00:05:39 → 00:05:43 หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเช่นเ่อโดยเฉพาะ
00:05:43 → 00:05:47 อาหารสดผักสดผลไม้สดที่ล้างไม่สะอาดนะคน
00:05:47 → 00:05:50 ที่ชอบรับประทานผักสดผลไม้สดอะไรนี่นะที่
00:05:50 → 00:05:53 ล้างไม่สะอาดการดื่มน้ำจากแหล่งธรรมชาติ
00:05:53 → 00:05:57 ที่ไม่ผ่านการกรองรวมไปถึงอาหารสุกๆดิบๆ
00:05:57 → 00:06:02 ค่ะภาชนะบรรจุอาหารน้ำดื่มช้อนแก้วเช่น
00:06:02 → 00:06:07 ช้อนแก้วน้ำจานที่ไม่สะอาดนะคะอุจจาระปน
00:06:07 → 00:06:12 เปื้อนติดสิ่งของใช้นะอุจจาระปนเปื้อนติด
00:06:12 → 00:06:15 ที่ของที่ใช้ต่างๆเช่นของเล่นนะรวมถึง
00:06:15 → 00:06:20 เครื่องเล่นสาธารณะนะราวบันไดโทรศัพท์ผ้า
00:06:20 → 00:06:23 เช็ดหน้าผ้าคีริ้วรวมไปถึงอาหารต่างๆจาก
00:06:23 → 00:06:26 มือที่สัมผัสอุจจาระคนเปื้อนเชื้อแล้วก็
00:06:26 → 00:06:30 เ่อเอามือไปเข้าปากเช่นปากอมนิ้วอะไร
00:06:30 → 00:06:34 ประมาณนี้ค่ะนะอันนี้ก็คือติดจากทางปากอื
00:06:34 → 00:06:37 ต่อไปทางจมูกเช่นการพัดตกลงไปในแอ่งน้ำ
00:06:37 → 00:06:41 โคลนบ่อที่มีน้ำไม่สะอาดและสำลักน้ำทาง
00:06:41 → 00:06:44 จมูกค่ะอืแล้วติดเชื้อได้อ่ะเนาะอันนี้
00:06:44 → 00:06:47 ทางผิวหนังผิวหนังสัมผัสคลุกคลีกับผู้ติด
00:06:47 → 00:06:52 เชื้อโดยตรงเช่นโรคหิตโรคเหาโลนอ๋อตอน
00:06:52 → 00:06:57 เด็กๆเป็นค่ะเป็นเหาอ่ะเหาเหาอ่ะค่ะ
00:06:57 → 00:07:00 สัมผัสสัตว์หรือคนที่มีปสิทธิเกาะอยู่
00:07:00 → 00:07:04 เช่นเห็บเหาหมัดเลือดที่แฝงอยู่ในสัตว์
00:07:04 → 00:07:06 เช่นสุนัขแมวกระต่ายหมูวัวซึ่งสามารถ
00:07:06 → 00:07:10 กระโดดเข้ามาอาศัยในร่างมนุษย์ได้อืจาก
00:07:10 → 00:07:13 การสัมผัสดินหรือน้ำที่ปนเปื้อนเช่นการ
00:07:13 → 00:07:16 เดินเท้าเปล่าบนดินหรือพื้นที่มี
00:07:16 → 00:07:19 ประสิทธิ์การลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
00:07:19 → 00:07:24 ที่ไม่สะอาดการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาดเช่น
00:07:24 → 00:07:26 ขณะเล่นน้ำสงกรานต์อะไรประมาณนี้อ๋อเอา
00:07:26 → 00:07:28 น้ำไม่สะอาดมาเล่นสาใส่กันใส่กันอะไร
00:07:28 → 00:07:31 อย่างงี้เนาะออืทางเพศสัมพันธ์เช่นโรค
00:07:31 → 00:07:35 พยาธในช่องคลอดโรคบิดมีตัวจักแมลงเป็นตัว
00:07:35 → 00:07:37 นำโรคเช่นอันเนี้ยโรคไขจับสั่นหรือ
00:07:37 → 00:07:40 มาลาเรียที่เกิดจากยุงกัับค่ะโดยปรสิทธิ์
00:07:40 → 00:07:43 อาศัยอยู่ในน้ำลายของยุงอืเช่นเชื้อ
00:07:43 → 00:07:46 มาลาเรียเนี่ยเป็นโปรโตซัวหรือพาราสิตใน
00:07:46 → 00:07:47 กลุ่มพลาสโมเดียม
00:07:47 → 00:07:51 สปีชีซึ่งมียุงก้นปล่องตัวเมียเป็นพหนำ
00:07:51 → 00:07:55 โลกอืเห็นมมันปาราสิตมันมีเยอะมากเยอะมาก
00:07:55 → 00:07:58 เข้าได้ทุกเกือบจะทุกทางแล้วเนี่ยใช่ไม่
00:07:58 → 00:08:01 เออทั้งปากก็ง่ายหน่อยใช่มั้ยคะค่ะเพราะ
00:08:01 → 00:08:05 ว่ามันก็บางทีเราเผลอไม่ทันได้แบบล้างมง
00:08:05 → 00:08:08 ล้างมืออะไรให้สะอาดเรียบร้อยอ่ะนะแต่ว่า
00:08:08 → 00:08:12 ความเสี่ยงตรงนี้เนี่ยที่จะเกิดโรคติด
00:08:12 → 00:08:14 เชื้อปรสิทธิ์อะไรต่างๆเหล่านี้เนี่ยค่ะ
00:08:14 → 00:08:17 ความเสี่ยงส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับใครอะไร
00:08:17 → 00:08:20 ยังไงมยคะค่ะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการ
00:08:20 → 00:08:23 ติดเชื้อปรสิทธิ์ทั้งหลายเนี่ยก็คือบุคคล
00:08:23 → 00:08:26 ที่มีถิ่นอาศัยในเขตร้อนโดยเฉพาะเขตชนบท
00:08:26 → 00:08:29 นะบุคคลที่อาศัยอยู่ในแหล่งแอร์อัดการสา
00:08:29 → 00:08:33 ณสุขที่ไม่ดีโดยเฉพาะส้วมที่ไม่ถูก
00:08:33 → 00:08:34 สุขอนามัย
00:08:34 → 00:08:39 นะคนที่ใช้น้ำบริโภคจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
00:08:39 → 00:08:42 ค่ะคนที่ขาดสุขอนามัยในการดำรงชีวิตการ
00:08:42 → 00:08:46 ปรุงอาหารการขับถ่ายไม่ค่อยล้างมือเนาะ
00:08:46 → 00:08:49 อืขาดการล้างมือบ่อยๆโดยเฉพาะก่อนกิน
00:08:49 → 00:08:52 อาหารและหลังเข้าห้องน้ำค่ะผู้ที่ต้องดู
00:08:52 → 00:08:55 แลผู้ป่วยหรือเด็กเล็กผู้ที่ต้องดูแล
00:08:55 → 00:08:58 เรื่องการขับถ่ายของบุคคลอื่นนักท่อง
00:08:58 → 00:09:02 เที่ยวที่ที่เดินทางท่องเที่ยวในถิ่นที่
00:09:02 → 00:09:07 ขาดสุขอนามัยพื้นฐานอืก็อะไรที่มันแบบ
00:09:07 → 00:09:10 เกี่ยวกับเรื่องของอุจจาระอย่างเงี้ยเนาะ
00:09:10 → 00:09:13 ค่อนข้างจะเยอะเลยทีเดียวทีนี้ด้วยความ
00:09:13 → 00:09:15 ที่ปรสิทธิ์เมื่อกี้คุณหมอบอกว่ามีหลาย
00:09:15 → 00:09:20 อย่างมากหลายประเภทมากใช่นะคะแล้วแต่ละ
00:09:20 → 00:09:22 อย่างอ่ะอาการอาการที่จะเกิดขึ้นใช่มั้ย
00:09:22 → 00:09:24 แบบเวลาเราได้รับเชื้อมามันมันมันก็ต้อง
00:09:24 → 00:09:28 ขึ้นกับชนิดของเชื้อที่ก่อโรคอาจจะไม่มี
00:09:28 → 00:09:32 อาการในกรณีที่ติดเชื้อในปริมาณน้อยก็ได้
00:09:32 → 00:09:35 นะคะหรือถ้ากรณีที่มีอาการเนี่ยแตกต่าง
00:09:36 → 00:09:38 กันในแต่ละผู้ป่วยนะขึ้นกับการติดเชื้อ
00:09:38 → 00:09:42 กับอวัยวะใดแล้วก็ติดเชื้อในปริมาณมาก
00:09:42 → 00:09:47 น้อยเพียงใดอืนะคะค่ะอืแต่ว่าถ้าเกิดว่า
00:09:47 → 00:09:51 จะที่เห็นแบบช่วงที่จะต้องเตือนกันบ่อยๆ
00:09:51 → 00:09:54 อ่ะช่วงที่แบบฝนตกหนักๆเลยหรือว่าบางพื้น
00:09:54 → 00:09:57 ที่เกิดน้ำท่วมขังอย่างเงี้ยก็จะต้องแบบ
00:09:57 → 00:10:01 ว่าคอยบอกให้ระวังเรื่องการติดเชื้อหรือ
00:10:01 → 00:10:05 การแบบระวังท้องเสียอ่าเรื่องของอะไรอีก
00:10:05 → 00:10:09 อ่ะการรับเชื้อจากที่มากับน้ำอะไรอย่าง
00:10:09 → 00:10:11 เงี้ยค่อนข้างบ่อยเหมือนกันค่ะเนื่องจาก
00:10:11 → 00:10:13 เชื้อปรสิทธิ์เนี่ยมันมีหลายกลุ่มมากใช่
00:10:13 → 00:10:16 มั้ยท่านผู้ฟังฟังแล้วก็อาจจะสับสนมีชื่อ
00:10:17 → 00:10:20 อะไรแปลกๆเยอะทีนี้ก็เลยเรามาเฉพาะเจาะจง
00:10:20 → 00:10:23 กันที่เชื้อปรสิทธิ์ที่อาจจะพบได้ในภาวะ
00:10:23 → 00:10:27 น้ำท่วมก็แล้วกันอนะจะยกตัวอย่างบางโรคนะ
00:10:27 → 00:10:31 คะซึ่งปสิทิ์กลุ่มที่มากับน้ำท่วมนี่ก็
00:10:31 → 00:10:33 คือมันจะปนเปื้อนมากับอุจจาระของคนและ
00:10:33 → 00:10:37 สัตว์อมีที่ขับถ่ายใช่ไม่มีที่ขับถ่ายอาจ
00:10:37 → 00:10:40 จะแพร่กระจายไปตามแหล่งน้ำหากคนรับประทาน
00:10:40 → 00:10:43 ผักสดที่ล้างไม่สะอาดหรือดื่มน้ำที่ไม่
00:10:43 → 00:10:45 สะอาดเนี่ยปรสิทธิ์เหล่านี้ก็จะเข้าสู่
00:10:45 → 00:10:50 ร่างกายได้ค่ะนะยกตัวอย่างโรคที่เห็นง่าย
00:10:50 → 00:10:54 ๆนะคะเช่นเชื้อบิดมีตัวหรือซึ่งเกิดจาก
00:10:54 → 00:10:58 เชื้อเอตาฮิโตริเนี่ยค่ะเขาเรียกเชื้อบิด
00:10:58 → 00:11:01 มีตัวเชื้อบิดชนิดเนี้ยเมื่อเข้าสู่ร่าง
00:11:01 → 00:11:04 กายคนแล้วเนี่ยจะอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่นะ
00:11:04 → 00:11:08 คะทำให้เกิดโรคบิดอะมีบ้าในลำไส้อืระยะ
00:11:08 → 00:11:11 เฉียบพันธุ์ก็จะมีปวดท้องปวดเบ่งท้องร่วง
00:11:11 → 00:11:15 เกิดแผลในลำไส้ใหญ่อุจจระมีมูกเลือดปนนะ
00:11:15 → 00:11:18 แล้วก็กลิ่นเหม็นเน่าค่ะบางครั้งเนี่ย
00:11:18 → 00:11:21 เชื้อบิดอาจจะทำให้เกิดอะมีบ้านอกลำไส้
00:11:21 → 00:11:25 ได้เช่นไปเกิดที่ตับป่อนสมองค่ะเชื้อบิด
00:11:25 → 00:11:28 อาจทำลายผนังลำไส้เกิดลำไส้ทะลุทำให้เกิด
00:11:28 → 00:11:32 การอักเสบในช่องท้องได้นะอันนี้เ้าเลือก
00:11:32 → 00:11:36 เรียกเชื้อบิดมีตัวอืนะฮะคนละอย่างกับ
00:11:36 → 00:11:39 เชื้อบิดไม่มีตัวคืออันนั้นเป็นเชื้อ
00:11:39 → 00:11:42 แบคทีเรียค่ะการติดต่อก็โดยรับประทาน
00:11:42 → 00:11:47 อาหารหรือน้ำที่มีซิสระยะติดต่อปนเปื้อน
00:11:47 → 00:11:50 นะฮะป้องกันยังไงป้องกันโดยรับประทาน
00:11:50 → 00:11:53 อาหารที่ปรุงสุกสะอาดนะดื่มน้ำที่กรอง
00:11:53 → 00:11:55 แล้วหรือต้มให้เดือดจะช่วยป้องกันการติด
00:11:55 → 00:11:59 เชื้อถ่ายอุจจาระให้ถูกสุขลักษณะกำจัด
00:11:59 → 00:12:03 อุจจาระตามหลักสุขาภิบาลและรักษา
00:12:03 → 00:12:06 สุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดีอืค่ะค่ะอันนั้น
00:12:06 → 00:12:11 ตัวแรกเชื้อบิดมีตัวต่อไปอีกตัวนึงอาจจะ
00:12:11 → 00:12:14 ไม่เคยได้ยินชื่อเลยเชื้อไกอาเดีย
00:12:14 → 00:12:16 แมเบียซึ่งปรสิทธิ์ชนิดนี้เนี่ยจะอยู่ใน
00:12:17 → 00:12:19 ลำไส้เล็กทำให้เกิดอุจจาระร่วงเหมือนกัน
00:12:20 → 00:12:23 นะจะมีผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสียไถ่
00:12:23 → 00:12:26 อุจจาระเป็นน้ำปวดท้องท้องอืดแน่นท้อง
00:12:26 → 00:12:29 เบื่ออาหารขื่นไส้อาเจียนระยะเรื้อรังผู้
00:12:29 → 00:12:32 ป่วยก็จะมีอาการท้องเสียเรื้อรังถ่ายเหลว
00:12:32 → 00:12:36 เป็นน้ำค่ะอาจจะมีไขมันปนมูกการติดต่อก็
00:12:36 → 00:12:39 รับประทานหรือดื่มน้ำที่มีซีสระยะติดต่อ
00:12:39 → 00:12:45 ปนเปื้อนอือซึ่งตัวเก็อาจจะเจอได้ในระยะ
00:12:45 → 00:12:49 ที่มีน้ำท่วมอะไรแบบนี้เอ๊คุณหมอคำว่าซีส
00:12:49 → 00:12:54 คือมันเป็นเป็นตัวเหมือนแบบซีสซีสซีสก็
00:12:54 → 00:12:56 ซีสมันก็มีตัวอยู่ข้างในตัวเหมือนเป็นตัว
00:12:57 → 00:13:02 ่งตัวอ่อนอะไรงี้อืใช่นะคะก็ป้องกันก็โดย
00:13:02 → 00:13:05 รับประทานอาหารที่ปรุงสุกสะอาดดื่มน้ำที่
00:13:05 → 00:13:07 กรองแล้วหรือต้มให้เดือดจะช่วยป้องกันการ
00:13:07 → 00:13:10 ติดเชื้อได้ค่ะนะคะถ่ายอุจจาระให้ถูก
00:13:10 → 00:13:13 สุขลักษณะอืนะอันนั้น 2 ตัวแล้วนะที่ทำ
00:13:13 → 00:13:18 ให้เกิดท้องเสียนะค่ะต่อไปคริปโตสปอมวุม
00:13:18 → 00:13:22 เป็นโปรโตซัวหรือเป็นโปรโตซัวที่อาศัย
00:13:22 → 00:13:25 อยู่ในลำไส้เหมือนกันนะคะก็ติดต่อโดยการ
00:13:25 → 00:13:27 ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่มีเชื้อระยะ
00:13:27 → 00:13:31 ติดต่อถ้าคนที่ภูมิคุ้มกันดีๆท้องเสียอาจ
00:13:31 → 00:13:34 จะหายได้เองแต่ว่าในคนที่ภูมิคุ้มกันบก
00:13:34 → 00:13:37 พร่องเนี่ยจะทำให้อุจจาระร่วงเหรือรัง
00:13:37 → 00:13:40 ร่วมกับขึ้นไส้อาเจียนเหมื่ออาหารน้ำหนัก
00:13:40 → 00:13:44 ลดอย่างมากอืนะคะการป้องกันก็คือดื่มน้ำ
00:13:44 → 00:13:47 ที่ต้มเดือนหรือผ่านการกรองแล้วรับประทาน
00:13:47 → 00:13:50 อาหารที่สุขสะอาดช่วงน้ำท่วมก็ต้องระมัด
00:13:50 → 00:13:54 ระวังเรื่องน้ำและอาหารค่ะใช่ต่อไปตัวนี้
00:13:54 → 00:13:58 อุ้ยเคยได้ยินเป็นครั้งคราวเนาะอามีบ้า
00:13:58 → 00:14:02 กินสมองอ่าเคยได้ยินใช่ค่ะเกิดจากเชื้อมี
00:14:02 → 00:14:08 บ้าสายพันธุ์นิกรี่เขาจะอยู่ในน้ำเข้าสู่
00:14:08 → 00:14:11 ร่างกายทางจมูกสำลักน้ำดำน้ำก่อให้เกิด
00:14:11 → 00:14:15 ภาวะเยื่อหุงสมองอักเสบนะพสิทธิ์ชนิด
00:14:15 → 00:14:18 เนี้ยเป็นโปรโตซัวที่ดำรงชีวิตอย่าง
00:14:18 → 00:14:23 อิสสระตามดินโคลนเลนและแหล่งน้ำยกเว้นน้ำ
00:14:23 → 00:14:28 กร่อยและน้ำทะเลนะคนที่ไปดำน้ำดูปะการัง
00:14:28 → 00:14:31 น้ำทะเลอะไรอย่าเงี้ยนะไม่ติดค่ะอือือมี
00:14:32 → 00:14:35 บ้ากินสมองนะผู้ที่เป็นโรคนี้มักมีสุขภาพ
00:14:35 → 00:14:37 แข็งแรงนะมักมีกิจกรรมเกี่ยวข้องกับทาง
00:14:37 → 00:14:42 น้ำเช่นการว่ายน้ำการเล่นสกีทางน้ำผู้
00:14:42 → 00:14:46 ป่วยที่มีประวัติการสำลักน้ำทางจมูกนะค่ะ
00:14:46 → 00:14:50 ก่อนเกิดอาการ 3-7 วันอาการก็จะมีคัดจมูก
00:14:50 → 00:14:53 เจ็บคอการได้กลิ่นเสียไปปวดศีรษะอย่าง
00:14:53 → 00:14:58 รุนแรงมีไข้คลื่นไส้อาเจียนคอแข็งหลัง
00:14:58 → 00:15:02 แข็งสับสนโอ้โหชักไม่รู้สึกตัวและเสีย
00:15:02 → 00:15:05 ชีวิตภายใน 1 สัปดาห์ได้นี่ถ้าเกิดไม่ได้
00:15:05 → 00:15:08 สังเกตอาการหรือว่าแบบย้อนกลับไปไทไลน์
00:15:08 → 00:15:12 3-7 วันว่ามีการสำลักน้ำมาเนี่ยไม่รู้
00:15:12 → 00:15:15 เลยนะเนี่ยสำักน้ใช่โอ้โหการติดต่อก็โดย
00:15:15 → 00:15:18 สำลักน้ำทางจมูกเพราะฉะนั้นการป้องกันก็
00:15:18 → 00:15:20 หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำหรือเล่นน้ำในแหล่ง
00:15:20 → 00:15:25 น้ำขังหรือน้ำจากโรงงานอุตสาหกรรมและ
00:15:25 → 00:15:29 ระวังการสำลักน้ำอืค่ะ
00:15:29 → 00:15:34 ต่อไปเชื้อปรสิทอีกตัวนึงเช่น aranta สปี
00:15:34 → 00:15:37 นะเป็นปาริทหรือโปรโตซัวที่ดำรงชีวิตเป็น
00:15:37 → 00:15:42 อิสระตามแหล่งน้ำดินโคนเลนเหมือนกันนะอ
00:15:42 → 00:15:46 ตัวนี้อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตานะ
00:15:46 → 00:15:50 อาจจะพบในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์นะก็จะเกิด
00:15:50 → 00:15:54 แผลที่กระจกตาตาแดงเคืองตาตามัวกลัวแสง
00:15:54 → 00:15:58 ปวดตาหรือการติดเชื้อที่สมองทำให้เกิดโรค
00:15:58 → 00:16:02 สมองและเหุ้มสมองอักเสบค่ะนะฮะก็เชื้อ
00:16:02 → 00:16:05 ปรสิทธิ์ตัวนี้เข้าสู่ร่างกายทางแผลที่
00:16:05 → 00:16:08 กระจกตาหรือผิวหนังและการหายใจเชื้ออาจจะ
00:16:09 → 00:16:11 เข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดการติดเชื้อ
00:16:11 → 00:16:15 ที่สมองและกระดูกการป้องกันก็ผู้ที่ใส่
00:16:15 → 00:16:18 คอนแทคเลนส์ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่า
00:16:18 → 00:16:21 เชื้อที่น้ำยาที่ผ่านการฆ่าเชื้อนะแล้ว
00:16:21 → 00:16:24 ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ในขณะว่ายน้ำหรือใส่
00:16:24 → 00:16:27 ขณะนอนหลับค่ะอันนี้เป็นกลุ่ม ananta
00:16:27 → 00:16:29 spey
00:16:29 → 00:16:31 ต่อไป
00:16:31 → 00:16:35 ที่อีกตัวนึงที่เราอาจจะได้ยินนะอาจจะ
00:16:35 → 00:16:38 เมื่อเรือเรื่องเกิดเมื่อต้นปีหรือเปล่า
00:16:38 → 00:16:40 เกิดจากเชื้อตาแดงจากเชื้อ
00:16:40 → 00:16:45 ไมโครส
00:16:45 → 00:16:49 ไมโครปิเปตพบได้ในสิ่งแวดล้อมสามารถอาศัย
00:16:49 → 00:16:51 อยู่ในสิ่งมีชีวิตอื่นได้ทั้งสัตว์บก
00:16:51 → 00:16:55 สัตว์น้ำสัตว์ปีกและแมลงรวมถึงคนนะคะ
00:16:55 → 00:16:58 สามารถเพิ่มจำนวนตัวเองในสิ่งมีชีวิตดัง
00:16:58 → 00:17:03 กล่าวได้เชื้อไมโสปอริเดียเนี่ยบนเปื้อน
00:17:03 → 00:17:05 อยู่ในสิ่งสู่สิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะแหล่ง
00:17:05 → 00:17:10 น้ำและดินจากการที่เชื้อถูกขับปนออกมากับ
00:17:10 → 00:17:13 อุจจาระปัสสาวะและเสมหะอืคราเนี้ยดูการ
00:17:13 → 00:17:15 ติดเชื้อมันติดได้ไงล่ะส่วนใหญ่สามารถติด
00:17:15 → 00:17:18 เชื้อจากการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่
00:17:18 → 00:17:22 ปนเปื้อนเชื้อโดยปกติไอ้เจ้าโปรโตซัว
00:17:22 → 00:17:25 ไมโคปอเนี่ยจะไม่ส่งผลอะไรกับผู้มีสุขภาพ
00:17:25 → 00:17:29 แข็งแรงแต่อาจจะเกิดท้องเสียได้ในผู้มี
00:17:29 → 00:17:33 ภูมิคุ้มกันต่ำหรือภูมิคุ้มกันบกบกพร่องอ
00:17:33 → 00:17:36 นะคือดื่มน้ำหรือรับประทานเข้าไปนะคะอือ
00:17:36 → 00:17:39 ต่อไปที่เราเกิดเป็นข่าวก็คืออะไรการปรา
00:17:39 → 00:17:43 ปนของเชื้อ
00:17:43 → 00:17:55 ไมโครสปริงเกอร์
00:17:55 → 00:17:59 ในแทงค์น้ำนั้นเนี่ยปิดไม่สนิทมีการรั่ว
00:17:59 → 00:18:03 ชำรุดทำให้เชื้อเนี่ยปนเปื้อนเข้าไปในแทง
00:18:03 → 00:18:10 น้ำนั้นนะคะค่ะถ้าพอคนในคอนโดนี้ก็อาบน้ำ
00:18:10 → 00:18:15 ล้างหน้าใช่มพอเชื้อเนี่ยจากแหล่งน้ำไปปะ
00:18:15 → 00:18:18 ปนอยู่ในแหล่งน้ำใช่มั้ยก็เข้าตาก็อาจจะ
00:18:18 → 00:18:22 เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาเยื่อบุตาทำให้
00:18:22 → 00:18:26 ปวดตาตาแดงแพ้แสงน้ำตาไหลค่ะการมองเห็นลด
00:18:26 → 00:18:31 ลงอืซึ่งต้องหารีบหาจากสู่แพทย์และรักษา
00:18:31 → 00:18:35 ทันทีจะเห็นเราจะเห็นในตอนนั้นในข่าวนะฮ
00:18:35 → 00:18:41 ในทีวีหลายช่องหรือในในเน็ตก็มีหูตาแดง
00:18:41 → 00:18:44 มากเลย 2 ข้างก็เกิดจากการติดเชื้อตัวนี้
00:18:44 → 00:18:47 เพราะว่าเาพิสูจน์แล้วโรงพยาบาลนึงเขาก็
00:18:47 → 00:18:51 เอาไปพิสูจน์ว่าเกิดจากการติดเชื้อไมโครส
00:18:51 → 00:18:54 แล้วเก็หาสาเหตุว่าเกิดจากแหล่งน้ำที่นี่
00:18:54 → 00:18:58 อือค่ะอืก็ต้องคือบางทีเราก็ไม่รู้อ่ะ
00:18:58 → 00:19:02 เพราะว่าเราใช้แหล่งน้ำร่วมกันนี่ขนาดแบบ
00:19:02 → 00:19:04 ว่าอยู่ในในคอนโดอะไรเงี้ยเออในคอนโดนั้น
00:19:04 → 00:19:09 มีคนตาแดงหลายสห้องมากมันไม่สงสัยขึ้นมา
00:19:09 → 00:19:13 แล้วก็ไปโรงพยาบาลเดียวกันอออ่าก็เลยนั่น
00:19:13 → 00:19:18 ขึ้นมาว่าเอ้ยจากอะไรค่ะก็มีการสอบสวนโรค
00:19:18 → 00:19:21 อือค่ะเพราะฉะนั้นการป้องกันก็คือต้อง
00:19:21 → 00:19:24 ดื่มน้ำรประทานอาหารที่สะอาดล้างมือให้
00:19:24 → 00:19:27 สะอาดหลังการสัมผัสน้ำสกปรกดินหรือสัตว์
00:19:27 → 00:19:30 ใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ที่สะอาดได้
00:19:30 → 00:19:34 มาตรฐานนะคะเนื่องจากมีการรายงานการติด
00:19:34 → 00:19:37 เชื้อเอ่อในกลุ่มผู้ใช้คอนแทคเลนบ่อยๆ
00:19:37 → 00:19:42 ทั้งทั้งประเทศไทยแล้วก็ต่างประเทศนะคะอื
00:19:42 → 00:19:45 เพราะฉะนั้นสรุปไอ้ปรสิทธิ์ที่พบในแหล่ง
00:19:46 → 00:19:49 น้ำเนี่ยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือโปรโตซัวที่
00:19:49 → 00:19:52 ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารค่ะแล้ว
00:19:52 → 00:19:56 ก็โปโตซัวที่เป็นเกิดอยู่เ้าอาศัยอยู่ใน
00:19:56 → 00:20:00 อิสระในธรรมชาติเลยค่ะนะก็ก่อโรคในคนได้
00:20:00 → 00:20:04 คือมันการค่ะการติดเอ่อการติดการป้องกัน
00:20:04 → 00:20:07 การติดเชื้อในเอ่อปรสิทธิ์ในลำไส้เนี่ยก็
00:20:07 → 00:20:11 คือสุขอนามัยส่วนตัวนี่แหละรับประทาน
00:20:11 → 00:20:15 อาหารปรุงสุกสะอาดดื่มน้ำต้มหรือผ่านการ
00:20:15 → 00:20:19 กรองน้ำสะอาดนะคะแล้วก็การป้องกันการติด
00:20:19 → 00:20:23 ต่อจากปรสิทธิ์ที่ดำรงชีวิตในธรรมชาติก็
00:20:23 → 00:20:27 ต้องระวังการสำลักน้ำการเล่นน้ำในแหล่ง
00:20:27 → 00:20:32 น้ำในบ่อในลำธารอะไรประมาณนี้ต้องระวังนะ
00:20:32 → 00:20:35 ผู้ที่มีแผลผิวหนังก็ไม่ควรเดินลุยใน
00:20:35 → 00:20:39 แหล่งน้ำขังค่ะนะคะอือันนี้คือปาราสิตโอ
00:20:39 → 00:20:42 ถ้าบ่อยๆถ้าจะไม่ให้เล่นน้ำหรือแหล่งน้ำ
00:20:42 → 00:20:46 คือมันไม่รู้อ่ะว่ามันมีปริอะไไม่มีไม่
00:20:46 → 00:20:48 รู้ไม่ทราบไม่มีทางหมายถึงว่าเราไม่ได้
00:20:48 → 00:20:50 เห็นไอ้ตัวพวกเชืพวกนี้อยู่มันไม่ได้ตัว
00:20:50 → 00:20:54 ใหญ่ๆเอออเข้าใจมั้ยแต่แบบเราทฉันก็เล่น
00:20:54 → 00:20:56 น้ำฉันก็กระโดดน้ำของฉันมาตั้งนานแล้วใช่
00:20:56 → 00:20:59 มันก็ข้าวตามั่งสำลักมั่งถูกมั้ยก็ไม่ได้
00:20:59 → 00:21:01 เป็นอะไรไม่ได้เป็นอะไรใช่อือแต่แต่ว่า
00:21:01 → 00:21:04 เอาเป็นว่าเป็นข้อมูลไว้ให้เพิ่มความ
00:21:04 → 00:21:09 ระมัดระวังเสี่งใช่ซึ่งจริงๆพรศิลป์นี่
00:21:09 → 00:21:12 มันเยอะมากนะคุณผู้ฟังยงอ่าในเรื่องของ
00:21:12 → 00:21:16 พยาธตัวตืดตัวก้มอะไรใบไม้ในเลือดอะไรแบบ
00:21:16 → 00:21:19 นี้ซึ่งเราต้องมาคุยรายละเอียดแต่ละโลก
00:21:19 → 00:21:22 เลยถ้าท่านผู้ฟังอยากทราบในเรื่องของไข้
00:21:22 → 00:21:24 จับสั่นหรือมาเลเรียอือ่าเกิดจากการไป
00:21:25 → 00:21:27 เข้าป่าถูกยุงก้นป่องกัดหรืออะไรประมาณ
00:21:27 → 00:21:30 นี้ก็ต้องคุยกันเรื่องมาลาเรียอย่างเดียว
00:21:30 → 00:21:33 ก็เฉพาะเจจมันเยอะแยะมากิเนี่ยเพราะเพราะ
00:21:33 → 00:21:36 ว่านี่ขนาดฟังชื่อคือหลายๆอย่างเนี่ยไม่
00:21:36 → 00:21:38 เคยได้ยินมาก่อนเลยแล้วก็แบบชื่อเรียกแบบ
00:21:38 → 00:21:42 ได้ใชฟังไว้ฟังไว้ค่ะก็นนๆมันก็จะเกิดที
00:21:42 → 00:21:44 นึงเป็นแหล่งน้ำหรืออะไรก็ระวังด้วยยิ่งๆ
00:21:44 → 00:21:48 ถ้าเกิดช่วงอุทกภัยน้ำท่วมน้ำท่วมขังหรือ
00:21:48 → 00:21:51 ว่าแบบว่าเอ่อเาเรียกว่าอะไรดีอ่ะเหมือน
00:21:51 → 00:21:55 แบบเราไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆใช่ที่ดู
00:21:55 → 00:21:59 แล้วแบบเอ้อสีน้ำมันไม่น่าเล่นเนาะอืค่ะ
00:21:59 → 00:22:01 อย่างก็มันอาจมีเชื้อพวกเอยู่เยอะก็ได้
00:22:01 → 00:22:05 อันตรายใช่มยคะใช่เออเพราะะนั้นก็ถ้าเป็น
00:22:05 → 00:22:08 แล้วมันก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีกเป็นแล้ว
00:22:08 → 00:22:10 เป็นซ้ำได้เชื้อปาราสิตไม่ได้มีภูมิต้าน
00:22:10 → 00:22:14 ทานแบบไวรัสนะอมันก็มีหลายสายพันธุ์หลาย
00:22:14 → 00:22:16 เชื้ออยู่ดีแหละเนาะใช่ไม่คือถ้าเกิด
00:22:16 → 00:22:19 เชื้อนี้ได้มามันอาจจะไปเผลอได้เชื้ออื่น
00:22:19 → 00:22:21 ขึ้นมาอีกก็ได้อ่ะใช่ค่ะอก็ต้องต้องระวัง
00:22:21 → 00:22:24 หลายๆอย่างเลยนะคะแล้วก็เข้าห้องน้องห้อง
00:22:24 → 00:22:27 น้ำนะคะก็ให้ถุงสุขอนามัยล้างมือให้เรียบ
00:22:27 → 00:22:32 ร้อยล้างมือล้างมือใช่อก็เป็นข้อมูลให้
00:22:32 → 00:22:34 คุณผู้ฟังฟังกันอะไรที่มันเรียกยากชื่อจำ
00:22:34 → 00:22:37 ยากๆก็ไม่เป็นไรนะคะนะคะแต่ให้รู้ว่ามี
00:22:37 → 00:22:40 เท่านั้นขอบคุณคุณหมอค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี
00:22:40 → 00:22:42 ค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่
00:22:42 → 00:22:44 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PBS
00:22:44 → 00:22:48 podcast นะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:22:48 → 00:22:51 This Is Thai PBS podcast อะไรบ้าง
00:22:51 → 00:22:53 ที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างโดยเฉพาะคน
00:22:53 → 00:22:56 ในครอบครัวและญาติพี่น้องเมื่อสมาชิกใน
00:22:56 → 00:22:59 บ้านพัวพันธุติดยาเสพติดดรวุฒวงทาง
00:22:59 → 00:23:02 สวัสดิ์นักจิตวิทยาการปรึกษามาเล่าให้ฟัง
00:23:02 → 00:23:05 ครับเพจริงๆความทุกข์ของการที่เรามีคนใน
00:23:05 → 00:23:08 บ้านเสียบยาหรือว่าติดยาเนาะมันจะมีความ
00:23:08 → 00:23:10 ทุกข์อยู่ 3 อย่างอย่างแรกคือด้วยความที่
00:23:10 → 00:23:13 เรารักเขามากๆอาจจะเป็นลูกเราเป็นพี่น้อง
00:23:13 → 00:23:15 เราอะไรก็ตามเป็นญาติเราที่รู้สึกว่ารัก
00:23:15 → 00:23:18 ผูกพันเงี้ยครับมันจะมีความทุกข์จากการ
00:23:18 → 00:23:20 รู้สึกเป็นห่วงอ่ะเราอยากให้เขาคหยุดเรา
00:23:20 → 00:23:22 อยากให้เขาคเลิกแต่เขาไม่เลิกหรือเขาคอาจ
00:23:22 → 00:23:24 จะคล้ายๆติดงอมแงมอะไรเงี้ยครับหรือเข้า
00:23:24 → 00:23:26 ขั้นแบบคล้ายๆเสพติดไปแล้วเงี้ยครับ
00:23:26 → 00:23:28 อันเนี้ยมันจะกลายเป็นความรู้สึกทุกข์ที่
00:23:28 → 00:23:30 คล้ายๆเราเห็นคนที่เรารักเนี่ยอยู่ในจุด
00:23:30 → 00:23:33 ของวังวนของหายนะตรงนี้นั่นคือความทุกข์
00:23:33 → 00:23:35 แบบแรกแบบที่ 2 เนี่ยมันเป็นเรียกว่าเกิด
00:23:35 → 00:23:37 ความขัดแย้งเกิดการทะเลาะเบาะแว้งในบ้าน
00:23:37 → 00:23:39 ซึ่งมันอาจจะขยายมาจากการเป็นห่วงนี่แหละ
00:23:39 → 00:23:42 ในข้อที่ 1 พอเราเป็นห่วงมากปั๊บเราก็
00:23:42 → 00:23:44 พยายามอยากบอกให้หยุดอยากให้เลิกบางทีมัน
00:23:44 → 00:23:46 ก็จะกลายเป็นอารมณ์ที่มันทะเลาะกันเพราะ
00:23:46 → 00:23:48 ว่าฝั่งนึงก็บอกฉันจะเสพอีกฝั่งนึงบอก
00:23:48 → 00:23:50 อยากให้หยุดอะไรเงี้ยครับมันก็กลายเป็น
00:23:50 → 00:23:52 การทะเลาะแล้วเกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ดี
00:23:52 → 00:23:55 บรรยากาศก็ไม่ดีในบ้านอย่างที่ 3 คือคน
00:23:55 → 00:23:59 เสียบยาเงี้ยครับเอ่อเรียกว่าหลอนหรือ
00:23:59 → 00:24:01 พฤติกรรมเปลี่ยนหรือเรียกว่าสร้างความ
00:24:01 → 00:24:04 วุ่นวายเดือดร้อนรำคาญค่ะทีเนี้มันจะไม่
00:24:04 → 00:24:06 ใช่เป็นเรื่องของความรักะแต่มันจะเป็น
00:24:06 → 00:24:09 ความรู้สึกว่าคนที่เสียบยาเนี่ยเป็นภัย
00:24:09 → 00:24:12 และเป็นสิ่งที่รบกวนรำคาญสร้างความเดือด
00:24:12 → 00:24:15 ร้อนรำคาญให้กับเราอหรือไม่ใช่แค่กับเรา
00:24:15 → 00:24:18 เนาะคนเสียบยาเนี้ยอาจจะไปมีพฤติกรรมหลอน
00:24:18 → 00:24:21 หรือทำร้ายคนอื่นนอกบ้านแล้วก็กลายเป็น
00:24:21 → 00:24:25 ว่าเอ่อคนข้างนอกก็จะตามมาบอกว่าทำไมญาติ
00:24:25 → 00:24:28 ไม่ดูแลอืตำรวจมาก็อาจจะบอกว่าต้องให้
00:24:28 → 00:24:31 ญาติดูแลนะญาติต้องพาไปบำบัดนะแต่บางที
00:24:31 → 00:24:34 ตัวญาติเองอ่ะครับอาจจะไม่ได้มีความพร้อม
00:24:34 → 00:24:36 ที่จะพาไปหรืออาจจะไม่ได้มีกำลังไม่มีคน
00:24:36 → 00:24:39 ช่วยหรืออาจจะไม่ได้มีเวลาเพราะว่าตเอง
00:24:39 → 00:24:42 ต้องทำมาหากินและยิ่งถ้าเกิดเอ่อเราพูด
00:24:42 → 00:24:45 ถึงระบบของการดูแลทางสุขภาพทางสถานะสุข
00:24:45 → 00:24:47 อะไรเงี้ยครับผมก็ไม่ได้คิดว่าการที่เรา
00:24:47 → 00:24:50 จะแจ้งหน่วยอะไรก็ตามที่จะให้เข้ามาช่วย
00:24:50 → 00:24:52 ดูแลเราเรื่องเนี้ยจะสามารถตอบรับหรือตอบ
00:24:52 → 00:24:55 สนองได้ทันทีอืบางทีมันต้องรอคิวบางทีโอ
00:24:56 → 00:24:58 คิวมันเยอะเจ้าหน้าที่ไม่พอหรือว่าแม้
00:24:58 → 00:25:01 กระทั่งเตียงที่ว่างที่จะแบบเอาไปแอดมิก็
00:25:01 → 00:25:03 ไม่มีอย่างเงี้ยครับผมว่าอันเนี้ยมันเลย
00:25:03 → 00:25:06 ทำให้เรียกว่าเคราะห์เนาะเคราะห์ตกไปอยู่
00:25:06 → 00:25:09 กับคนในบ้านที่ที่เรียกว่ามีคนในมีคนใน
00:25:09 → 00:25:12 บ้านตัวเองเนี่ยเสียบยาแล้วเขาจะอยู่ตรง
00:25:12 → 00:25:14 กลางระหว่างความกดดันของคนที่เสียบยาก็มี
00:25:14 → 00:25:18 ปัญหาสังคมก็กดดันเตัวเขาก็ไม่มีทางออกผม
00:25:18 → 00:25:20 ว่าคนที่อยู่ในบ้านตรงเนี้ยในฐานะผู้รับ
00:25:21 → 00:25:24 เคราะห์อันนี้แบบน่าเห็นใจ
00:25:24 → 00:25:29 มาก This Is tha PBS podcast
00:25:29 → 00:25:32 ติดตามรายการของ Thai PBS podcast ได้
00:25:32 → 00:25:48 ทางเว็บไซต์ www.thaipbs.or.th
00:25:48 → 00:25:51 [เพลง]