00:00:07 → 00:00:12 ในปี ค.ศ. 1965 แรนดี้ การ์ดเนอร์ นักเรียน มัธยมปลาย วัย 17 ปี
00:00:12 → 00:00:16 ตื่นอยู่ตลอดเวลาถึง 264 ชั่วโมง
00:00:16 → 00:00:20 ช่วง 11 วันที่อยากรู้ว่าการไม่ได้นอน มีผลอย่างไรบ้าง
00:00:20 → 00:00:23 ในวันที่สอง ตาทั้งสอง ไม่สามารถมองจดจ่ออะไรได้
00:00:23 → 00:00:27 ถัดมา ความสามารถในการแยกแยะสิ่งของ ด้วยการสัมผัสหายไป
00:00:27 → 00:00:30 ในวันที่สาม การ์เนอร์ อารมณ์ฉุนเฉียว และทำงานไม่สัมพันธ์กัน
00:00:30 → 00:00:33 เมื่อสิ้นสุดการทดลอง เขาต้องพยายามมากกับการรวบรวมสมาธิ
00:00:33 → 00:00:35 มีปัญหาอย่างมากกับความจำระยะสั้น
00:00:35 → 00:00:37 กลายเป็นคนโรคจิตหวาดระแวง
00:00:37 → 00:00:39 และเริ่มมีภาพหลอนประสาท
00:00:39 → 00:00:41 แม้ว่าการ์ดเนอร์จะหายจากอาการเหล่านั้น โดยไม่มีผลกับสุขภาพจิตในระยะยาว
00:00:41 → 00:00:43 หรือความเสียหายทางร่างกาย
00:00:43 → 00:00:47 แต่สำหรับคนอื่น ๆ การไม่นอน อาจเป็นสาเหตุของความไม่สมดุลของฮอร์โมน
00:00:47 → 00:00:48 การเจ็บป่วย
00:00:48 → 00:00:50 หรือในกรณีที่รุนแรง คือ ความตาย
00:00:50 → 00:00:55 เราเพิ่งจะเริ่มเข้าใจเหตุผลว่า ทำไมคนเราจำเป็นต้องนอน
00:00:55 → 00:00:56 แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น
00:00:56 → 00:00:59 ผู้ใหญ่จำเป็นต้องนอนคืนละเจ็ดถึงแปดชั่วโมง
00:00:59 → 00:01:02 ส่วนวัยรุ่นประมาณคืนละสิบชั่วโมง
00:01:02 → 00:01:04 เราเริ่มง่วงโดยมีสัญญาณจากร่างกายเรา
00:01:04 → 00:01:06 บ่งบอกว่าสมองของเราเหนื่อยล้า
00:01:06 → 00:01:10 และสัญญาณจากสภาพแวดล้อมที่บอกว่า ด้านนอกมืดแล้ว
00:01:10 → 00:01:12 การง่วงนอนมาจากระบบสารเคมี
00:01:12 → 00:01:15 เช่น อะดีโนซีน (adenosine) และ เมลาโทนิน (melatonin)
00:01:15 → 00:01:18 เมื่อมีค่าสูงขึ้น จะทำให้เรามีในอาการหลับในนิด ๆ
00:01:18 → 00:01:20 ทำให้เราหายใจแผ่วลงและหัวใจเต้นช้าลง
00:01:20 → 00:01:23 และกล้ามเนื้อของเราผ่อนคลาย
00:01:23 → 00:01:27 ภาวะการนอนช่วงตาไม่กระตุกนี้ (non-REM) เป็นช่วงที่มีการซ่อมแซมดีเอ็นเอ
00:01:27 → 00:01:30 ร่างกายของเราต้องเสริมเติมพลังตนเอง เพื่อวันรุ่งขึ้น
00:01:30 → 00:01:32 ในสหรัฐอเมริกา
00:01:32 → 00:01:36 ผู้ใหญ่ 30% และวัยรุ่น 66% โดยประมาณ
00:01:36 → 00:01:39 ที่นอนหลับไม่เพียงพอเป็นประจำ
00:01:39 → 00:01:41 นี่ไม่ใช่เรื่องน่ากวนใจเพียงเล็กน้อย
00:01:41 → 00:01:44 การนอนไม่หลับ ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย
00:01:44 → 00:01:46 เมื่อเราไม่นอน
00:01:46 → 00:01:47 การเรียนรู้
00:01:47 → 00:01:47 ความจำ
00:01:47 → 00:01:48 อารมณ์
00:01:48 → 00:01:50 และการโต้ตอบได้รับผลกระทบ
00:01:50 → 00:01:53 การไม่นอนอาจทำให้เกิดโรคผื่นคันการอักเสบ
00:01:53 → 00:01:54 อาการประสาทหลอน
00:01:54 → 00:01:55 ความดันโลหิตสูง
00:01:55 → 00:02:00 จนกระทั่งส่งผลให้เกิดโรคเบาหวาน และโรคอ้วนได้
00:02:00 → 00:02:03 ในปี ค.ศ. 2014 แฟนฟุตบอลพันธุ์แท้เสียชีวิต
00:02:03 → 00:02:08 หลังจากไม่นอนถึง 48 ชั่วโมง เพราะมัวแต่ดูการแข่งฟุตบอลโลก
00:02:08 → 00:02:10 สาเหตุการตายก่อนเวลา มีสาเหตุจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง
00:02:10 → 00:02:14 ผลการศึกษาระบุว่าการนอนหลับ น้อยกว่าคืนละหกชั่วโมงเป็นประจำ
00:02:14 → 00:02:18 เพิ่มสาเหตุความเสี่ยง การขาดเลือดไปเลี้ยงสมองถึงสี่เท่าครึ่ง
00:02:18 → 00:02:22 เมื่อเทียบกับคนที่นอนหลับคืนละเจ็ดถึงแปดชั่วโมง
00:02:22 → 00:02:27 สำหรับคนจำนวนหนึ่งบนโลก ที่มียีนส์ที่พบได้ยาก
00:02:27 → 00:02:30 การนอนน้อยคือเรื่องจริงในแต่ละวัน
00:02:30 → 00:02:34 ภาวะนี้ เรียกว่า โรคนอนไม่หลับมรณะ (Fatal Familial Insomnia)
00:02:34 → 00:02:37 มีอาการที่ทำให้ร่างกายตื่นตัว ในช่วงกลางคืนตลอดเวลา
00:02:37 → 00:02:40 ยับยั้งความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน
00:02:40 → 00:02:42 ในเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
00:02:42 → 00:02:47 ความรุนแรงของอาการนี้ จะนำไปสู่การเจ็บป่วยและเสียชีวิต
00:02:47 → 00:02:51 การนอนหลับเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยร้ายแรง ได้อย่างไร
00:02:51 → 00:02:55 นักวิทยาศาสตร์คิดว่าคำตอบนี้ ขึ้นอยู่กับสะสมของเสีย
00:02:55 → 00:02:56 ในสมอง
00:02:56 → 00:02:58 ระหว่างชั่วโมงที่เราตื่น
00:02:58 → 00:03:01 เซลล์ในร่างกายต่างง่วนอยู่กับ การใช้แหล่งพลังงาน
00:03:01 → 00:03:04 ซึ่งถูกสลายเป็นผลิตภัณฑ์ข้างเคียงต่าง ๆ
00:03:04 → 00:03:06 รวมทั้งอะดีโนซีน (adenosine)
00:03:06 → 00:03:08 เมื่ออะดีโนซีนถูกสะสมมากขึ้น
00:03:08 → 00:03:12 มันนำไปสู่การนอนหลับที่เร็วขึ้นหรือ ที่รู้จักกันว่าแรงกดดันให้นอนหลับ
00:03:12 → 00:03:18 อันที่จริง คาเฟอีนทำการสะกัดกั้น วิถีตัวรับอะดีโนซีน
00:03:18 → 00:03:20 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเสียอื่นก็ถูกสะสมมากขึ้น เช่นกันในสมอง
00:03:20 → 00:03:24 และถ้าไม่มีการขจัดออกไป พวกมันก็จะสะสมจนล้นสมอง
00:03:24 → 00:03:29 และคาดว่ามันนำไปสู่ผลอาการเชิงลบ ที่ทำให้ไม่ง่วงนอน
00:03:29 → 00:03:33 แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ในสมองของเรายามนอนหลับ ที่ได้ป้องกันการเกิดสิ่งเหล่านี้
00:03:33 → 00:03:37 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกับบางสิ่งที่เรียกว่า ระบบกลิมพาติค (glymphatic)
00:03:37 → 00:03:40 ระบบทำความสะอาดที่ขจัดสิ่งที่ก่อตัวสะสม
00:03:40 → 00:03:43 และมันมีประสิทธิภาพมากในขณะที่เราหลับ
00:03:43 → 00:03:48 มันทำงานโดยการใช้น้ำหล่อเลี้ยงไขสันหลัง ในการขจัดผลิตภัณฑ์ข้างเคียงที่เป็นพิษ
00:03:48 → 00:03:50 ที่สะสมอยู่ระหว่างเซลล์
00:03:50 → 00:03:54 ระบบน้ำเหลืองที่ทำหน้าที่ เป็นเส้นทางลำเลียงเซลล์ภูมิคุ้มกัน
00:03:54 → 00:03:57 ได้ถูกค้นพบในสมองเมื่อไม่นานมานี้
00:03:57 → 00:04:03 และพวกมันอาจมีบทบาทสำคัญ ในการขจัดของเสียในสมองทุกวัน
00:04:03 → 00:04:08 ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังศึกษาอย่างต่อเนื่อง ถึงกระบวนการซ่อมแซมเบื้องหลังการนอนหลับ
00:04:08 → 00:04:13 เรามั่นใจได้ว่าการนอนหลับเป็นสิ่งที่จำเป็น
00:04:13 → 00:04:16 ถ้าต้องการรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจให้ดี