00:00:00 → 00:00:02 คือเมื่อก่อนเราจะได้ยินว่าเบสิคเนี่ยมัน
00:00:02 → 00:00:05 จะทำได้ไม่กี่ครั้งไม่รู้เราหรือว่าชมคน
00:00:05 → 00:00:05 เดียว
00:00:05 → 00:00:09 >> อืไม่จริงๆแล้วจำนวนครั้งไม่สำคัญเท่า 2
00:00:09 → 00:00:10 อย่างอันดับแรกก็คือ
00:00:10 → 00:00:13 >> คุณหมอแล้วอ่ะจริงๆถามจริงๆมันมีเคสไหม
00:00:13 → 00:00:15 ที่แบบ
00:00:15 → 00:00:16 เหมือนหนักมือไปนิดนึงเงี้ย
00:00:16 → 00:00:19 >> มันมีเคสนึงนะฮะเมื่อนานมากแล้วนะครับอัน
00:00:19 → 00:00:19 นี้
00:00:19 → 00:00:21 >> จะถามแต่ก็เหมือนจะรู้คำตอบอยู่แล้วมันมี
00:00:21 → 00:00:23 พฤติกรรมหรือมีนิสัยอะไรบ้างคะที่ทำให้
00:00:23 → 00:00:27 เราสายตาเราเสื่อมก่อนเวลาตอบคืออะไรครับ
00:00:27 → 00:00:30 >> ก็เล่นมือถืออะไเงี้ยนอนคุ้มโปงเล่นมือ
00:00:30 → 00:00:31 ถืออะไรอย่างเงี้ย
00:00:31 → 00:00:33 >> โอเคโอเคปรากฏว่าอันนั้นก็ยังไม่จริง
00:00:33 → 00:00:34 >> ยังหรอคะ
00:00:34 → 00:00:36 >> จริงๆแล้วพฤติกรรมการใช้งานสายตาเนี่ยนะ
00:00:36 → 00:00:38 ฮะมีผลต่อสุขภาพตาน้อยมากเลยครับ
00:00:38 → 00:00:41 >> ของชมที่บ้านมีอย่างนี้ด้วยนะป้าเจี๊ยบดู
00:00:41 → 00:00:45 แล้วเลือดจะออกมาทางลูกกตาเลย
00:00:45 → 00:00:47 >> คนที่ใส่คทactเลนส์เนี่ยมีโอกาสประมาณสัก
00:00:47 → 00:00:50 1- 5,000 เวลาที่จะติดเชื้อภายในปุ
00:00:50 → 00:00:53 อัตราการติดเชื้อของการใส่คactนปีจริงๆ
00:00:53 → 00:00:55 เยอะกว่าการทำตัดเบสิค
00:00:55 → 00:00:58 >> เขาบอกว่าถ้าสายตาไม่ดีเนี่ยทำให้สมอง
00:00:58 → 00:01:01 เสื่อมก่อนไวได้จริงเหรอคะตอนนี้ชมกำลัง
00:01:01 → 00:01:02 เสื่อมแล้วใช่มั้
00:01:02 → 00:01:03 >> คืออย่างงี้ตา
00:01:03 → 00:01:06 >> เปิดโลกดูแลสายตาเพื่อคุณภาพชีวิตกับผู้
00:01:06 → 00:01:09 บุกเบิกการรักษาเลสิทคนแรกของไทยนายแพทย์
00:01:09 → 00:01:11 เอกเทศชันซื่อผู้อำนวยการแพทย์ผู้เชี่ยว
00:01:11 → 00:01:14 ชาญด้านศารยกรรมกระจกตาผ่าตัดอรักษาภาวะ
00:01:14 → 00:01:18 สายตาผิดปกติจาก International and
00:01:18 → 00:01:24 Vision Center
00:01:24 → 00:01:26 คุณหมอค่ะของชมเนี่ยเรารู้สึกว่าเรายัง
00:01:26 → 00:01:29 ไม่ขนาดนั้นน่ะแต่ว่ารู้ตัวอีกทีก็คือดู
00:01:30 → 00:01:31 โทรศัพท์แบบนี้แล้ว
00:01:31 → 00:01:31 >> ครับ
00:01:31 → 00:01:35 >> อย่างี้คือถือว่าปกติมั้คะปีนี้ 44 ค่ะ
00:01:35 → 00:01:36 >> อ่าพอดีเลยครับ
00:01:36 → 00:01:37 >> พอดีเลยเหรอคะ
00:01:37 → 00:01:39 >> จริงๆแล้วก็คือภาวะที่เราเรียกว่าสายตา
00:01:39 → 00:01:41 ยาวตามอายุเนี่ยแหละครับมันจะค่อยๆเกิด
00:01:41 → 00:01:43 ขึ้นมาคือจริงๆแล้วค่ะ
00:01:43 → 00:01:46 >> เอิ่มมันจะมีการที่เราไม่สามารถจะมองใกล้
00:01:46 → 00:01:49 มากๆเนี่ยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคือตั้งแต่ตอน
00:01:49 → 00:01:51 เด็กเราอาจจะโฟกัสได้ใกล้อย่างี้เลยแล้ว
00:01:51 → 00:01:53 ค่อยออกมาแล้วพอถึงอายุประมาณเนี้ย 40
00:01:53 → 00:01:56 ต้นๆสำหรับผู้หญิงนะฮะผู้ชายอาจจะสัก 40
00:01:56 → 00:01:57 กลาง
00:01:57 → 00:02:00 >> นะครับก็จะเริ่มรู้สึกว่าแถวนี้ะเริ่มไม่
00:02:00 → 00:02:01 ค่อยชัดละ
00:02:01 → 00:02:04 >> อาจจะต้องยืดมือไปนิดนึงนะฮะก็ยังพอโฟกัส
00:02:04 → 00:02:05 ได้
00:02:05 → 00:02:07 >> แต่ไอ้ภาวะนี่มันไปเรื่อยๆนะเพราะฉะนั้น
00:02:07 → 00:02:10 >> เดี๋สักพักนึงก็จะเริ่มรู้สึกว่ายืดออกไป
00:02:10 → 00:02:10 แล้วมัน
00:02:10 → 00:02:12 >> คือต้องไปมองนู่นสุดกำแพงนู่นเลย
00:02:13 → 00:02:16 >> ใช่ก็ยังก็ยังดีที่จะมองไกลเห็นนะ
00:02:16 → 00:02:16 >> ค่ะ
00:02:16 → 00:02:18 >> กมเนื้อตาเรามันจะค่อยๆแย่ลงไปเรื่อยๆคือ
00:02:18 → 00:02:22 ตาเรานี่มันมีระบบมันมีระบบอutโตโฟกัสนะ
00:02:22 → 00:02:24 ครับคือจริงๆแล้วเวลาที่ของมันอยู่ที่
00:02:24 → 00:02:26 ระยะต่างกันนะฮะในทางแสงเนี่ยมันต้อง
00:02:26 → 00:02:28 โฟกัสไม่เหมือนกันถูกมั้
00:02:28 → 00:02:30 อยู่ที่ไกลมันก็ต้องใช้กำลังนึงมาอยู่ที่
00:02:30 → 00:02:33 ใกล้ก็ต้องใช้อีกกำลังนึงตาเรานี่มันมี
00:02:33 → 00:02:35 กลไกที่เรียกว่า accommodation นะเป็น
00:02:35 → 00:02:39 กลไกที่ใช้ในการเ่อโฟกัสภาพที่อยู่ใกล้นะ
00:02:39 → 00:02:39 ครับ
00:02:39 → 00:02:41 >> มันจะมีกล้ามเนื้อคอยเบบีบตัว
00:02:41 → 00:02:43 >> แล้วก็ทำให้เรามองใกล้ได้
00:02:43 → 00:02:45 >> มันก็เราก็เลยมีอาการแบบอย่างนี้ใช่มั้
00:02:45 → 00:02:48 >> ใช่เสร็จแล้วพอกล้ามเนื้อเนี่ยมันวกลงไป
00:02:48 → 00:02:51 เรื่อยๆตามเวลาเนี่ยเวลาจะสับระหว่างไกล
00:02:51 → 00:02:54 กับใกล้เนี่ยการปรับตัวของมันเนี่ยมันจะ
00:02:54 → 00:02:57 จะช้าลงช้าลงคือเข้ามาใกล้ก็โฟกัสยากขึ้น
00:02:57 → 00:03:00 พอจะมองไปไกลก็รู้สึกมัวก่อนแล้วก็จะค่อย
00:03:00 → 00:03:01 ๆคลาย
00:03:01 → 00:03:04 >> คุณหมอคะคืออาการสายตายาวอย่างเงี้ยคะมัน
00:03:04 → 00:03:06 ต้องเกิดกับทุกคนมย
00:03:06 → 00:03:09 >> คือเพราะว่าอ่ะอย่างเช่น
00:03:09 → 00:03:11 >> คือถ้ามันเป็นกล้ามเนื้ออย่างอื่นในร่าง
00:03:11 → 00:03:14 กายเราอ่ะค่ะการออกกำลังกายเนี่ยมันก็
00:03:14 → 00:03:16 ช่วยให้เราอ่ะแบบบิให้กล้ามเนื้อส่วนนั้น
00:03:16 → 00:03:19 น่ะแข็งแรงขึ้นเก่งขึ้นหรือว่าอ่ะถ้า
00:03:19 → 00:03:22 สมมุติว่าอย่างการแบบปรับแบบโฟกัสหรือ
00:03:22 → 00:03:24 อะไรเงี้ยมันก็อาจจะเหมือนการที่เราแบบ
00:03:24 → 00:03:26 เหมือนสปินหรือว่าพุ่งตัวอะไรอย่างเงี้ย
00:03:26 → 00:03:30 หรือเปล่าแล้วคือสายตาเราเราฝึกให้เขาแบบ
00:03:30 → 00:03:31 แข็งแกร่งไม่ได้หรอคะ
00:03:31 → 00:03:33 >> มันเป็นไปได้นะครับถ้าเผื่อมันเป็นที่
00:03:33 → 00:03:34 กล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว
00:03:34 → 00:03:36 >> จริงๆแล้วมันมีfacเตอร์อื่นด้วยอย่างเช่น
00:03:37 → 00:03:38 ตัวแก้วตาของเราเนี่ยนะฮะคือกล้ามเนื้อ
00:03:38 → 00:03:40 มันคอนโทรลคอนโทรลไอ้ตัวแก้วตาซึ่งอยู่
00:03:40 → 00:03:43 ข้างในเราเราเรียกศัพท์คือคริสaline lens
00:03:44 → 00:03:46 นะที่อยู่ข้างในตาที่เราเห็นเป็นลูกตา
00:03:46 → 00:03:49 เนี่ยเข้าไปในชั้นในก็จะเป็นม่านตาที่เรา
00:03:49 → 00:03:51 เห็นเป็นพระสีต่างๆกันในแต่ละเชื้อชาติ
00:03:51 → 00:03:53 เนี่ยแล้วเข้าหลังจากไอ้ม่านตาตรงนี้อีก
00:03:53 → 00:03:56 ทีเนี่ยเป็นเลนส์ตัวนึงนะตามธรรมชาตินะ
00:03:56 → 00:04:00 ครับซึ่งเลนซนนี้เนี่ยคอยปรับตัวตามกล้าม
00:04:00 → 00:04:02 เนื้อที่อยู่รอบๆนะเพื่อให้เราโฟกัสใกล้
00:04:02 → 00:04:04 ได้เพราะฉะนั้นเวลาอายุมากขึ้นเรื่อยๆ
00:04:04 → 00:04:07 เนี่ยไอ้ตัวเลนส์ส่วนนี้มันจะแข็ง
00:04:07 → 00:04:07 >> อื
00:04:07 → 00:04:09 >> จะแข็งขึ้นเรื่อยๆเหมือนกันเพราะฉะนั้น
00:04:09 → 00:04:13 กล้ามเนื้อดียังไงมันอยู่ใช่นะฮะมันก็ไม่
00:04:13 → 00:04:15 สามารถจะปรับตัวได้เพราะมันมีการเปลี่ยน
00:04:15 → 00:04:17 แปลงของเนื้อของตัวเลนส์ตัวนี้นะครับยัง
00:04:17 → 00:04:18 ไงก็ต้องเป็น
00:04:18 → 00:04:20 >> ทุกคนต้องสายตายาว
00:04:20 → 00:04:23 >> เอ่อในความหมายนี้นะฮะก็คือว่าเดิมที่เรา
00:04:23 → 00:04:25 เห็นไกลได้ดีเห็นใกล้ได้ดีพออายุมากขึ้น
00:04:25 → 00:04:27 เรื่อยเราจะมองใกล้แย่ลงอันนี้คือเป็นทุก
00:04:28 → 00:04:29 เป็นทุกคนค่ะ
00:04:29 → 00:04:31 >> แต่ทีนี้บางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าเป็นฮะนะ
00:04:31 → 00:04:33 ฮะอย่างเช่นเราเป็นคนใส่ตาสั้นสั้นประมาณ
00:04:33 → 00:04:37 สัก 200 นะครับ 200 เนี่ยถ้าเราใส่แว่นนะ
00:04:37 → 00:04:40 ครับเราก็จะเห็นมองไกลได้มองใกล้ได้ทีนี้
00:04:40 → 00:04:42 พออายุมากขึ้นเรื่อยๆเนี่ยกล้ามเนื้อมัน
00:04:42 → 00:04:44 เสียหายไปเรื่อยๆเนี่ยมันวิกลงไปเรื่อยๆ
00:04:44 → 00:04:47 เนี่ยนะครับเอ่อการมองใกล้เนี่ยในขณะที่
00:04:47 → 00:04:50 เราใส่แว่นมองไกลเนี่ยมันจะแย่ลงแต่ถ้าคน
00:04:50 → 00:04:52 นั้นเนี่ยถอดแว่นปุ๊บเนี่ยจะมองใกล้ได้
00:04:52 → 00:04:54 เพราะว่ามีสายตาสั้นอยู่แล้วคนที่สายตา
00:04:54 → 00:04:56 สั้นแปลว่าโฟกัสเอยู่ที่ใกล้อยู่แล้ว
00:04:56 → 00:04:57 >> ค่ะ
00:04:57 → 00:04:59 >> นะโดยที่ไม่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อ
00:04:59 → 00:05:01 >> นะฮะมันจะมันจะต้องคิดกลับไปกลับมานิด
00:05:01 → 00:05:01 หน่อย
00:05:01 → 00:05:02 >> อื
00:05:02 → 00:05:04 >> มันก็เลยกลายเป็นว่าคนนี้อาจจะไม่รู้สึก
00:05:04 → 00:05:06 ตัวว่าคือเพราะเป็นสายตายาวเนื่องจากว่า
00:05:06 → 00:05:08 จะมองใกล้เมื่อไหร่ก็ถอดแว่น
00:05:08 → 00:05:10 >> อันนี้คือที่เขาบอกว่ามีทั้งใกล้และไกลใน
00:05:10 → 00:05:11 คนเดียว
00:05:11 → 00:05:13 >> ใช่ถูกต้องนะฮะเมื่อไหร่ก็ตามที่ใส่คทact
00:05:13 → 00:05:17 lนหรือว่าใส่แว่นค้างมองไกลได้ดีแต่มอง
00:05:17 → 00:05:19 ใกล้ก็จะไม่ดีนะครับเป็นทุกคนอันนี้เป็น
00:05:19 → 00:05:22 ทุกคนมันมีที่แย่กว่านั้นอีกนะฮะคือมีสาย
00:05:22 → 00:05:24 ตายาวแต่กำเนิดด้วย
00:05:24 → 00:05:24 >> อือื
00:05:25 → 00:05:27 >> สายตายาวแต่กำเนิดเนี่ยมันต้องใช้กำลัง
00:05:27 → 00:05:29 กล้ามเนื้อเพื่อที่จะให้มองไกลชัดอยู่
00:05:29 → 00:05:29 แล้ว
00:05:29 → 00:05:32 >> แล้วพอยิ่งเข้าใกล้ยิ่งต้องใช้เยอะขึ้น
00:05:32 → 00:05:35 >> กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มองใกล้จะไปก่อน
00:05:35 → 00:05:36 เร็วหน่อยเร็วกว่าเพื่อนๆ
00:05:36 → 00:05:40 >> นะครับแล้วในที่สุดเนี่ยมองไกลมันไปด้วย
00:05:40 → 00:05:42 >> คือไม่ใช่สายตายาวต้องมองไกลดีนะครับคือ
00:05:42 → 00:05:45 คนนี้เนี่ยก็จะกลายเป็นว่าไม่มีระยะชัด
00:05:45 → 00:05:46 เลยไม่ว่าจะไกลหรือจะใกล้
00:05:46 → 00:05:49 >> อย่างเงี้ยคนที่สายตายาวโดยกำเนิดนะพอ 40
00:05:49 → 00:05:49 นี่ไม่
00:05:49 → 00:05:51 >> ยิ่งแย่เยอะเลย
00:05:51 → 00:05:53 >> เพราะมันจะมันจะเสียอาการมองใส่แว่นก็
00:05:53 → 00:05:53 เห็น
00:05:53 → 00:05:54 >> อืออ
00:05:54 → 00:05:56 >> คือพวกนี้คืออาการพวกเคือใส่แว่นจะช่วย
00:05:56 → 00:05:58 ได้หมดปรับเป็นโฟกัสแต่ทีนี้อาจจะเลือก
00:05:59 → 00:06:01 ไม่ได้ว่าจะเอาแว่นที่ใส่แล้วได้ทั้งใกล้
00:06:01 → 00:06:03 ทั้งไกลหรืออะไรเงี้ยนะพออายุมากขึ้น
00:06:03 → 00:06:05 เรื่อยๆมันจะมีแว่นpowerาเวอร์นึงสำหรับ
00:06:05 → 00:06:08 มองไกลแล้วนึงสำหรับการมองใกล้มันก็เลย
00:06:08 → 00:06:10 กลายเป็นแว่นที่มี 2 ชั้น
00:06:10 → 00:06:12 >> ที่มีสระอิใช่มั้คะสมัยก่อน
00:06:12 → 00:06:14 >> มีได้สระอิเป็นรูปยิ้มก็ได้เป็นรูปคว่ำก็
00:06:14 → 00:06:16 ได้นะฮะหรือเป็นเส้นก็ได้
00:06:16 → 00:06:18 >> นะฮะแต่มันแสดงอายุไงฮะ
00:06:18 → 00:06:20 >> ค่ะใช่
00:06:20 → 00:06:22 >> เก็เลยไม่เก็เลยทำเป็นอย่างอื่นเทำเป็น
00:06:22 → 00:06:25 progressive นะฮะ progressive ก็คือทำ
00:06:25 → 00:06:27 ให้เลนส์ใช่มันไม่มีรอยต่อส่วนบนเนี่ย
00:06:27 → 00:06:28 สำหรับมองไกลแล้วส่วนล่างเนี่ยเพิ่มกำลัง
00:06:29 → 00:06:30 มาเรื่อยๆจนกระทั่งเป็นการมองใกล้
00:06:30 → 00:06:34 >> ก็เหมือนเขาจะไล่เป็นออมเบรเฉดเป็นเฉดมา
00:06:34 → 00:06:35 ฮะใช่ครับ
00:06:35 → 00:06:39 >> ทีนี้ปัญหาก็คือว่าเลนส์ที่จะทำแบบนั้น
00:06:39 → 00:06:42 ได้เนี่ยมันจะต้องมีความที่เราจะต้องยอม
00:06:42 → 00:06:45 อะไรบางอย่างนิดนึงก็คือว่ามันไม่สามารถ
00:06:45 → 00:06:51 จะทำให้ทั้งเนี่ยมันมี object ที่ดีในการ
00:06:51 → 00:06:54 มองลงนะฮะเพราะฉะนั้นงั้นคนที่จะใส่
00:06:54 → 00:06:56 เพื่อน progressive เนี่ยก็จะต้องยอมรับ
00:06:56 → 00:06:58 นิดนึงว่ามันมองลงเฉียงๆงี้ไม่ได้มองลง
00:06:58 → 00:06:59 เฉียงๆไม่ได้
00:06:59 → 00:07:00 >> มันจะมีระยะที่มันไม่ชัด
00:07:00 → 00:07:03 >> มันจะมีจำเ่อตำแหน่งที่มันจะเบลอไปนะฮะ
00:07:03 → 00:07:06 แล้วก็มันจะได้แต่มองลงตรงๆเวลาจะมองอะไร
00:07:06 → 00:07:09 ลงเนี่ยต้องหันไปมองแล้วก็มองลง
00:07:09 → 00:07:10 >> ที่ว่าตกบันไดก็อันนี้รือเปล่าคะ
00:07:11 → 00:07:13 >> เป็นไปได้ใช่ครับถูกต้องเพราะมันมองลงนะ
00:07:13 → 00:07:13 ฮะค่ะ
00:07:13 → 00:07:16 >> เอ่อก็จะมีเรื่องเนี้ยเรื่องเดินลงบันได
00:07:16 → 00:07:19 นักกอล์ฟเนี่ยจะไม่ค่อยเข้ากันกับเ่อ
00:07:19 → 00:07:20 เลนส์แบบนี้เพราะว่าตีกอล์ฟเนี่ยมันต้อง
00:07:21 → 00:07:24 มีท่าที่มันพอดีกับตัวเขานะครับแล้วก็ถ้า
00:07:24 → 00:07:26 ใส่แว่นแบบ progressive เนี่ยเวลามองลง
00:07:26 → 00:07:30 เนี่ยเพื่อที่จะ address ลูกเนี่ยเอ่อมัน
00:07:30 → 00:07:34 จะไม่ชัดเพราะว่ามันโฟกัสมันจะกลายเป็น
00:07:34 → 00:07:35 ที่ใกล้
00:07:35 → 00:07:38 >> เพราะฉะนั้นจะมีอาการที่โดยไม่ไม่รู้ตัว
00:07:38 → 00:07:39 เนี่ยทิ้วศีรษะลง
00:07:39 → 00:07:42 >> เพื่อที่จะมองรู้กอล์ฟได้ชัด
00:07:42 → 00:07:43 >> ตอนนี้วงก็ไป
00:07:43 → 00:07:43 >> ค่ะ
00:07:43 → 00:07:45 >> ก็จะตีกอล์ฟได้แย่ลงอะไรอย่างเงี้ก็มี
00:07:45 → 00:07:47 ปัญหาได้หลายอย่างอยู่
00:07:47 → 00:07:47 >> อ
00:07:47 → 00:07:49 >> เอ่อเพราะฉะนั้นนี่ก็คือการใช้แว่นในการ
00:07:49 → 00:07:53 ที่จะเอ่อทำให้เรามองใกล้กลับขึ้นมาได้ม
00:07:53 → 00:07:55 แต่ว่ามันก็มีวิธีอื่นอีก
00:07:55 → 00:07:57 >> อย่างเงี้ยแปลว่าพวก contact เลนส์ก็มัน
00:07:57 → 00:07:59 ไม่สามารถทำเป็น progressive ได้ถูกมั้คะ
00:07:59 → 00:07:59 คุณ
00:07:59 → 00:08:01 >> เอ่อมีเหมือนกันครับ contact เลนสเนี่ย
00:08:01 → 00:08:04 สามารถจะทำให้เลนส์อันนึงเนี่ยมีหลายๆ
00:08:04 → 00:08:05 โฟกัสหลายๆระยะได้
00:08:05 → 00:08:06 >> แล้วมองยังไงคะ
00:08:06 → 00:08:09 >> มันมันเลือกมองของมันเองสมองมันเลือกจะมี
00:08:09 → 00:08:12 ภาพหลายแบบตกเข้ามาในตาแล้วตาเรามันต้อง
00:08:12 → 00:08:14 เลือกเองอะไรเงี้ยนะฮะมันก็จะทำให้สูญ
00:08:14 → 00:08:15 เสียความคมไป
00:08:15 → 00:08:18 >> นะฮะคือมองไกลก็จะไม่คมเต็มที่มองใกล้ก็
00:08:18 → 00:08:21 จะไม่ได้ดีเต็มที่แต่ว่ามันใช้ได้ทั้งคู่
00:08:21 → 00:08:21 ค่ะ
00:08:21 → 00:08:23 >> ทั้งมองไกลแล้วก็ทางหม่องไกลนะฮะงั้นเป็น
00:08:23 → 00:08:23 วิธี
00:08:23 → 00:08:24 >> ผสมกับเดาๆเอา
00:08:24 → 00:08:27 >> ผสมกับดาเอาใช่ถูกต้องคนเรารับได้เยอะ
00:08:27 → 00:08:30 เหมือนกันนะฮะทีนี้มันก็มีอีกเทคนิคนึง
00:08:30 → 00:08:32 ครับใช้กับแว่นก็ได้ใช้คactนก็ได้แล้วใน
00:08:32 → 00:08:35 ที่สุดใช้อาการผัดตัดก็ได้ก็คือเอ่อภาวะ
00:08:35 → 00:08:37 ที่เรียกว่า monovision เคยได้ยินมั้ฮะ
00:08:37 → 00:08:38 >> ไม่เคยได้ยินเลย
00:08:38 → 00:08:40 >> monion คือการที่ตาเราข้างนึงเนี่ยมอง
00:08:40 → 00:08:41 ไกลได้ดี
00:08:41 → 00:08:43 >> แล้วก็อีกข้างนึงเนี่ยจะมองใกล้ได้ดี
00:08:43 → 00:08:43 >> ค่ะ
00:08:43 → 00:08:46 >> นะในขณะที่ไอ้มันก็จะมีข้อเสียนิดนึงก็
00:08:46 → 00:08:49 คือว่าไอ้ตาที่มองไกลได้ดีเนี่ยจะมองใกล้
00:08:49 → 00:08:51 ไม่ค่อยได้นะไม่ไม่ค่อยชัดนะค่ะ
00:08:51 → 00:08:54 >> ตาที่มองใกล้ดีก็จะมองไกลไม่ค่อยชัดนะแต่
00:08:54 → 00:08:57 ทีนี้ 2 ข้างพอมาผสมกันเนี่ยสมองเรามัน
00:08:57 → 00:08:59 สามารถจะปรับตัวได้
00:08:59 → 00:09:01 >> แต่อันนี้ไม่ได้เป็นทุกคนทุกเคสใช่มั้คะ
00:09:01 → 00:09:03 >> มันเราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้
00:09:03 → 00:09:04 >> ออ
00:09:04 → 00:09:06 >> นะฮะด้วยแว่นหรือว่าด้วย contact หรือว่า
00:09:06 → 00:09:08 ด้วยอย่างที่เราบอกที่สุดท้ายคือการผ่า
00:09:08 → 00:09:10 ตัดถูกต้องใช่ครับอันนี้เป็นอะไรที่มีมา
00:09:10 → 00:09:12 นานมากแล้วก่อนที่จะมีการผ่าตัด
00:09:12 → 00:09:12 >> อื
00:09:13 → 00:09:15 >> นะแต่ว่าเรานี้เอา apply กับการผ่าตัดใน
00:09:15 → 00:09:18 คนไข้ที่อายุสัก 40 ขึ้นไปอะไรเงี้ยนะเรา
00:09:18 → 00:09:21 ก็จะพิจารณาดูซิว่าถ้าเราปรับปรับข้างนึง
00:09:21 → 00:09:24 ให้มองไกลให้ชัดเต็มที่ปรับอีกข้างนึงให้
00:09:24 → 00:09:27 มองใกล้ได้นะฮะแล้วก็ใช้ด้วยกันให้สมอง
00:09:27 → 00:09:30 มันปรับตัวสมปรับตัวเราไม่ต้องไปคิดถึง
00:09:30 → 00:09:31 มัน
00:09:31 → 00:09:32 >> นะมีตัวอย่างนะครับ
00:09:33 → 00:09:35 >> โอเคจริงหรอคะคุณหมอเองเหรอคะ
00:09:35 → 00:09:36 >> ใช่ฮะ
00:09:36 → 00:09:38 >> แล้วมันมึนมั้ยคะคุณหมอ
00:09:38 → 00:09:38 >> ไม่มึนเหรอ
00:09:38 → 00:09:40 >> มันมันอยู่ที่การปรับตัวซึ่งทำนายยากว่า
00:09:40 → 00:09:42 คนนี้จะปรับตัวได้ดีแค่ไหนอ่ะนะครับจริงๆ
00:09:42 → 00:09:45 แล้วผมเริ่มทำเลสิกเนี่ยเมื่อ 30 ปีที่
00:09:45 → 00:09:47 แล้วมั้งปี 94 อ่ะนะครับ
00:09:47 → 00:09:48 >> อื
00:09:48 → 00:09:51 >> ญาติๆที่บ้านเนี่ยก็มีปัญหาเรื่องมองใกล้
00:09:51 → 00:09:54 นะผมก็รู้ว่าเออmonวิร์คได้ก็เลยเนี่ยคุณ
00:09:54 → 00:09:57 น้าคุณป้าทั้งหลายก็ก็ทำอันนี้ไป
00:09:57 → 00:09:58 >> แล้วก็ดูแฮปปี้ดีมาก
00:09:58 → 00:10:00 >> พอถึงตาผมเองเนี่ยเมื่อสัก 10 กว่าปีที่
00:10:00 → 00:10:01 แล้วเนี่ย
00:10:01 → 00:10:05 >> ก็เลยไม่ลังเลฮะก็ก็ก็ทำไปข้างนึง
00:10:05 → 00:10:07 >> ทำจากการที่มองไกลได้ดีมากทั้ง 2 ข้างนะ
00:10:07 → 00:10:08 ครับ
00:10:08 → 00:10:12 >> กลายเป็นมามองไกลข้างนึงอ่าใช่แต่ก็ตอน
00:10:12 → 00:10:14 นี้ก็ใช้งานได้ตามปกติเลยนะฮะนี้พออายุ
00:10:14 → 00:10:16 เรามากขึ้นเรื่อยๆเนี่ย
00:10:16 → 00:10:19 >> เอ่อภาวะนี้มันก็แย่ลงถูกมั้ฮะอาจจะต้อง
00:10:19 → 00:10:22 ปรับไอ้ข้างที่เราทำใกล้เนี่ยเป็นระยะๆะ
00:10:22 → 00:10:25 อย่างเช่นสัก 5 ปี 10 ปีครั้งนึงอะไร
00:10:25 → 00:10:25 อย่างเงี้ย
00:10:25 → 00:10:27 >> คือเมื่อก่อนเราจะได้ยินว่าไม่รู้เราหรือ
00:10:27 → 00:10:30 ว่าชมคนเดียวแต่ชมจะเข้าใจมาตลอดว่าเลสิค
00:10:30 → 00:10:32 เนี่ยมันจะทำได้ไม่กี่ครั้ง
00:10:32 → 00:10:35 >> อืมไม่จริงจริงๆแล้วจำนวนครั้งไม่ไม่
00:10:35 → 00:10:37 สำคัญเท่า 2 อย่างนะฮะอันดับแรกก็คือ
00:10:37 → 00:10:40 สุขภาพของของตาของผิวตาผิวตาซะส่วนใหญ่นะ
00:10:40 → 00:10:43 ครับพอตาแห้งเกินไปมั้อายุมากขึ้นมันจะ
00:10:43 → 00:10:45 แห้งมากขึ้นอันที่ 2 ก็คือความแข็งแรงของ
00:10:45 → 00:10:46 กระจกตา
00:10:46 → 00:10:46 >> ค่ะ
00:10:46 → 00:10:48 >> ความแข็งแรงกระจกตาอันนี้เนี่ยอาจจะ
00:10:48 → 00:10:51 equivวentได้กับการที่ความหนาของกระจกตา
00:10:51 → 00:10:53 ที่มีอยู่เพราะการทำเลสิกแต่ละครั้งความ
00:10:53 → 00:10:54 หนาจะหายไปบ้างนิดหน่อย
00:10:54 → 00:10:54 >> อ
00:10:54 → 00:10:57 >> ทีนี้กระจกตาเรามันก็รับได้ถึงจุดหนึ่ง
00:10:57 → 00:10:59 >> แล้วเกี่ยวมั้ยคะว่า
00:10:59 → 00:11:00 >> อเพราะงั้นจริงๆ
00:11:00 → 00:11:01 >> ตอนที่คุณหมอ
00:11:01 → 00:11:03 >> ทำรอบแรกเนี่ย
00:11:03 → 00:11:06 >> เหลือเหลือความหนาเกี่ยวใช่มั้คะว่าต้อง
00:11:06 → 00:11:07 ถอมใช่มั้ยคะ
00:11:07 → 00:11:09 >> ใช่เพราะฉะนั้นเวลาเราดูคนไข้เนี่ยเอิ่
00:11:09 → 00:11:12 เราจะพอบอกได้ว่าคนไข้คนเนี้ยจะแก้สายตา
00:11:12 → 00:11:14 ได้สักเท่าไหร่สมมุติเราบอกว่าสายตาสั้น
00:11:14 → 00:11:17 นะครับดูจากความหนากระจกตาแล้วเนี่ยรวมๆ
00:11:17 → 00:11:20 แล้วเนี่ยเราออกสายตาได้ออกได้ 1,000 น.
00:11:20 → 00:11:20 อื
00:11:20 → 00:11:22 >> แต่คนไข้สั้น 300 ก็คืออยู่ในเรange
00:11:22 → 00:11:25 >> ใช่มั้ฮะเราออกไป 300 ก็ยังเหลืออีก 700
00:11:25 → 00:11:25 >> ค่ะ
00:11:25 → 00:11:28 >> ที่เรายังเอาออกได้อีกในอนาคตกี่ครั้งก็
00:11:28 → 00:11:30 ตามไม่ได้ไม่ได้นับจำนวนครั้งแต่มันอยู่
00:11:30 → 00:11:32 ที่ว่าจำนวน
00:11:32 → 00:11:34 >> สายตาหรือขนาดของสายตาที่เราออกไปในแต่ละ
00:11:34 → 00:11:35 ครั้งมากกว่า
00:11:35 → 00:11:37 >> นะฮะถ้าเหลืออีก 700 เนี่ยเราเอา 7 ครั้ง
00:11:37 → 00:11:40 ก็ได้ครั้งละ 100 ใช่มั้ฮะเอาอีก 300 ก็
00:11:40 → 00:11:42 ได้ 2 ครั้งอะไรเงี้ยนะครับ
00:11:42 → 00:11:44 >> อทีเนี้ยเมื่อก่อนเราก็จะเคยได้ยินแต่ว่า
00:11:44 → 00:11:46 ทำเลสิคแบบเพื่อแก้สายตาสั้น
00:11:46 → 00:11:47 >> สายตาสั้นถูก
00:11:47 → 00:11:47 >> ค่ะ
00:11:47 → 00:11:48 >> ฮะ
00:11:48 → 00:11:50 >> แต่สายตายาวก็แก้ได้นานแล้ว
00:11:50 → 00:11:52 >> แล้วมันมันแตกต่างกันยังไงอ่ะคะเทคนิคใน
00:11:52 → 00:11:53 การทำ
00:11:53 → 00:11:55 >> เทคนิคเดียวกันเปี๊ยบนะครับก็คือการผ่า
00:11:55 → 00:11:57 ตัดเนี่ยถ้าเผิดจะเท้าความนิดนึงนะครับ
00:11:57 → 00:11:59 เลสิคเนี่ยเป็นการใช้เครื่องมือแยกชั้น
00:11:59 → 00:12:01 กระจกตาก่อนนะครับให้มันเป็นคือกระจกตา
00:12:01 → 00:12:03 มันมีความหนาของมันประมาณสักครึ่งมิมอ่ะ
00:12:03 → 00:12:04 ค่ะ
00:12:04 → 00:12:07 >> เราแยกให้มันเป็น 2 ชั้นแล้วเปิดขึ้นมานะ
00:12:07 → 00:12:08 ฮะยังมีขั้วอยู่นะครับ
00:12:08 → 00:12:12 >> ค่ะต่อมาเอารู้สึกเลยนะฮะจริงๆแล้วก็ใช้
00:12:12 → 00:12:13 examal rเซอร์เนี่ยซึ่งเป็นเลเซอร์
00:12:13 → 00:12:15 ประเภทนึงที่เราใช้ในตาเนี่ยนะเข้าไป
00:12:15 → 00:12:17 เปลี่ยนความโค้งของไอ้ตรงข้างล่างนะครับ
00:12:17 → 00:12:18 >> ค่ะ
00:12:18 → 00:12:20 >> แล้วก็ปิดนี่กลับเข้าก็เหมือนเราทำเลนส์
00:12:20 → 00:12:21 แว่นน่ะเนาะ
00:12:21 → 00:12:24 >> อ่ามันมันมันเหมือนเจียร์คอนทคอะไรเงี้ย
00:12:24 → 00:12:27 >> แต่เราใช้ใช่ฮะถูกต้องเลยครับแต่ว่าเรา
00:12:27 → 00:12:30 ใช้ exer ในการทำนะฮะเราจะทำให้มันเป็น
00:12:30 → 00:12:32 รูปอะไรก็ได้ไอ้รูปร่างที่มันง่ายที่สุด
00:12:32 → 00:12:36 เนี่ยสำหรับการเ้าเรียกว่า delivery
00:12:36 → 00:12:38 system ของเลเซอร์เนี่ยมันคือการยิงตรง
00:12:38 → 00:12:41 กลางให้เยอะกว่าพอยิงตรงกลางเยอะกว่ามัน
00:12:41 → 00:12:43 ก็เข้าทางการแก้ไตาซั้นเพราะว่าเรา
00:12:43 → 00:12:45 ต้องการให้กระจกตาเแฟลชลง
00:12:45 → 00:12:49 >> ทำโค้งเยอะๆมันโค้งน้อยลงมั้ฮะมันเยอะ
00:12:49 → 00:12:53 ยูนนะฮะก็นูนน้อยลงนะครับมันก็ทำได้ทีนี้
00:12:53 → 00:12:57 >> เอ่อมันก็ต้องมีลักษณะการไอ้ delivery
00:12:57 → 00:12:59 system ที่ว่าเนี่ยนะครับที่ที่เฉพาะที่
00:12:59 → 00:13:02 จะทำให้เลเซอร์นั้นยิงออกข้างๆมากกว่าได้
00:13:02 → 00:13:02 >> อื
00:13:02 → 00:13:04 >> นะพอข้างๆมากกว่าปุ๊บตรงกลางก็โค้งมาก
00:13:04 → 00:13:05 ขึ้น
00:13:05 → 00:13:06 >> อันนี้คือสำหรับสายตายาว
00:13:06 → 00:13:08 >> สำหรับสายตายาวมันก็จะแก้สายตายาวได้
00:13:08 → 00:13:11 >> แก้ได้ทั้งสายตายาวตามอายุแล้วก็สายตายาว
00:13:11 → 00:13:11 ตามกำเนิด
00:13:11 → 00:13:15 >> ค่ะคุณหมอแล้วอ่ะจริงๆถามจริงๆมันมีเคส
00:13:15 → 00:13:17 ไหมที่แบบ
00:13:17 → 00:13:19 เหมือนหนักมือไปนิดนึงอะไรเงี้ย
00:13:19 → 00:13:20 >> อ๋อ
00:13:20 → 00:13:21 >> เอาออกเยอะไปหน่อย
00:13:21 → 00:13:22 >> มันอยู่ที่เลเซอร์ครับ
00:13:22 → 00:13:24 >> เพราะว่ามันเป็นการคำนวณโดย
00:13:24 → 00:13:28 >> ใช่คือคือมันเกือบจะเป็นเอ่ออมติในแง่ของ
00:13:28 → 00:13:31 การรักษาที่เราเ่อกำหนดตัวเลขไปให้เลอ
00:13:31 → 00:13:32 เลเซอร์มันก็จะคำนวณเงี้
00:13:32 → 00:13:34 >> หมอหนักมือไม่ได้หรอกครับเพราะเลเซอร์มัน
00:13:34 → 00:13:36 ทำงานตรงนั้นนะเลสิคเดี๋ยวนี้ก็ตามเนี่ย
00:13:36 → 00:13:39 นะครับเราจะไม่ใช้ไอ้ตัวแยชักระจกตาที่
00:13:39 → 00:13:40 เป็น meanical แล้วมันก็เป็นเลเซอร์
00:13:40 → 00:13:42 เหมือนกันเพราะฉะนั้นเรเดี๋ยวนี้เราใช้
00:13:42 → 00:13:45 เลเซอร์ 2 เครื่อง second laser อีก
00:13:45 → 00:13:48 เครื่องนึงเป็น external laser นะฮะก็
00:13:48 → 00:13:50 คือไอ้อันที่ 2 ก็คือตัวที่เชฟกระจกตาตัว
00:13:50 → 00:13:52 เก่าแต่ว่าตัวแรกเนี่ยตัว second lasเerร
00:13:52 → 00:13:53 เนี่ย
00:13:53 → 00:13:55 >> เรามาใช้แยกชั้นกระจกตาแทนที่จะเป็น
00:13:55 → 00:13:56 เครื่องมือตัดเพราะงั้นตอนนี้เป็นเลเซอร์
00:13:56 → 00:13:59 ล้วนเลยเราเรียกว่าค่ะ
00:13:59 → 00:14:02 >> นะฮะแต่นี่ก็คือเหมือนกันทุกอย่างถูก
00:14:02 → 00:14:04 control ด้วยคอมพิวเตอร์ของเลเซอร์
00:14:04 → 00:14:06 >> ก็แปลว่าความ manual มันลดลง
00:14:06 → 00:14:08 >> มันลดลงไปใช่แต่ยังไงก็คือต้องเป็นคนเปิด
00:14:08 → 00:14:11 ขึ้นมาแล้วก็เล็งให้ถูกต้องแล้วก็
00:14:11 → 00:14:12 >> อะไรอย่างงี้นะครับ
00:14:12 → 00:14:12 >> อื
00:14:12 → 00:14:14 >> ก็คือเป็นคน operate เลเซอร์
00:14:14 → 00:14:14 >> ค่ะ
00:14:14 → 00:14:15 >> นะครับ
00:14:15 → 00:14:18 >> เ้าบอกว่ามียาหยอดตาแก้สายตาหยอด
00:14:18 → 00:14:18 จริงเหรอคะ
00:14:18 → 00:14:19 >> ไม่แก้ช่วย
00:14:19 → 00:14:20 >> อ่า
00:14:20 → 00:14:22 >> นะฮะมันจะไม่ใช่ว่าหยอดไปแล้วปุ๊บหายเลย
00:14:22 → 00:14:23 หรืออะไรอย่างงี้
00:14:23 → 00:14:24 >> คือพอหยอดแล้วตามัน
00:14:24 → 00:14:27 >> มันจะมองใกล้ได้ดีขึ้นมาเอ่ออันนี้ใช้
00:14:27 → 00:14:30 หลักของpิโฮeffectเฟectpิโฮคือหมาดพอง
00:14:30 → 00:14:33 ผ่านรูเล็กๆนะครับเอ่อคนที่เคยเห็นคนสาย
00:14:33 → 00:14:36 ตาสั้นที่เขาไม่ใส่แว่นมั้เจะทำตาอย่าง
00:14:36 → 00:14:36 งี้
00:14:36 → 00:14:37 >> ใช่ค่ะ
00:14:37 → 00:14:41 >> นะมันจะทำให้มันจะทำให้รูที่แสงเข้าตาม
00:14:41 → 00:14:44 เล็กลงนะพอรูเข้าตาแสงเล็กเล็กเล็กลง
00:14:44 → 00:14:47 เนี่ยมันไม่ได้ปรับโฟกัสของของลูกตา
00:14:47 → 00:14:50 แต่มันทำให้ dev เนี่ยมันมันขยายกว้าง
00:14:50 → 00:14:52 ขึ้นคือระยะที่ชัด
00:14:52 → 00:14:53 >> ค่ะ
00:14:53 → 00:14:56 >> มันจะมันจะมันจะมากขึ้นจะใกล้มาไกลนะครับ
00:14:56 → 00:14:58 เหมือนกับที่เราใช้ F Stop อ่ะ
00:14:58 → 00:15:00 >> นะในกล้องถ่ายรูปนะครับ F stop ถ้าเผื่อ
00:15:00 → 00:15:02 เราเปิดให้ดูมันกว้างเราก็จะเห็นแค่ส่วน
00:15:02 → 00:15:05 ที่โฟกัสแล้วก็ข้างหลังข้างหน้ามันก็จะ
00:15:05 → 00:15:07 เบลอถูกมั้ฮะแต่ถ้ายิ่งเล็กลงนะฮะคือ stop
00:15:07 → 00:15:10 ตัวเลขสูงขึ้นเนี่ยมันก็จะทำให้ความชัด
00:15:10 → 00:15:13 ข้างหน้าเพิ่มขึ้นข้างหลังเพิ่มขึ้น
00:15:13 → 00:15:15 >> แต่ไม่ใช่ไม่ใช่โฟกัสซักทีเดียวโฟกัสยัง
00:15:15 → 00:15:16 อยู่ที่เดิมค่ะ
00:15:16 → 00:15:18 >> ถูกมั้ฮะจุดโฟกัสอันนี้ใช่หลักการเดียว
00:15:18 → 00:15:22 กันก็คือพอดูมาตราเราโหดปุ๊บมันก็จะมอง
00:15:22 → 00:15:24 ไอ้สิ่งที่เคยเบลอมันก็ดีขึ้นไกล
00:15:24 → 00:15:25 >> ช่วยเพ่งช่วยเพ่ง
00:15:25 → 00:15:28 >> ช่วยเพ่งใช่ปัญญาบางตัวจะไปช่วยทำให้เกิด
00:15:28 → 00:15:30 accommodation เกิดไอ้การเกรงตัวของ
00:15:30 → 00:15:31 กล้ามเนื้อ
00:15:31 → 00:15:31 >> ค่ะ
00:15:31 → 00:15:34 >> เอ่อที่ใช้การโฟกัสเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ
00:15:34 → 00:15:36 >> แต่ยากลุ่มนี้เนี่ยไม่ใช่ยาใหม่นะฮะมัน
00:15:36 → 00:15:38 เป็นยาที่เราใช้มาตั้งแต่สมัยไหนแล้วก็
00:15:38 → 00:15:39 ไม่รู้
00:15:39 → 00:15:40 >> แล้วเค้าใช้กัน
00:15:41 → 00:15:43 >> ใช้ชั่วคราวครับคือหยอดให้มันได้ผลสัก 4
00:15:43 → 00:15:44 ช่มง 6 ช่โมงอะไรอย่างเงี้ย
00:15:44 → 00:15:46 >> คือหยอดแล้วก็ไปอ่านหนังสืออะไรอย่าง
00:15:46 → 00:15:48 เงี้ยแล้วก็หรือว่าใช้ทำนู่นนี่ที่เราคิด
00:15:48 → 00:15:50 ว่ากิจกรรมมันจำเป็นที่จำเป็น
00:15:50 → 00:15:53 >> อาจจะเป็นอ่าใช่บางทีเราอาจจะคิดไม่ถึงนะ
00:15:53 → 00:15:55 ฮะอย่างเช่นเรามานั่งทานข้าวเนี่ยแล้วมอง
00:15:55 → 00:15:57 ไม่เห็นก้างปลาเนี่ย
00:15:57 → 00:15:58 >> ค่ะ
00:15:58 → 00:16:01 >> ใช่มั้ครับหรือเนี่ยอยู่ใน
00:16:01 → 00:16:04 แล้วเราอ่านเมนูอาหารไม่ได้อะไรเงี้ย
00:16:04 → 00:16:07 >> เราอ่านได้สักคนนี่คือเป็นเป็นช่วงที่ไม่
00:16:07 → 00:16:08 อยาก
00:16:08 → 00:16:10 >> ไม่อยากใส่แว่นมองใกล้ถูกต้องนะซึ่งแว่น
00:16:10 → 00:16:13 มองใกล้มันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องที่แบบดู
00:16:13 → 00:16:14 แล้วไม่สวยอะไรเงี้ยอย่างเดียวมันเป็น
00:16:14 → 00:16:15 เรื่องความ
00:16:15 → 00:16:17 >> ความสบายในการใช้ชีวิต
00:16:17 → 00:16:17 >> ค่ะ
00:16:17 → 00:16:20 >> มันต้องของพวกนี้ทุกอย่างมันโยงไปในทาง
00:16:20 → 00:16:21 เรื่อง Quality of life
00:16:21 → 00:16:21 >> ค่ะ
00:16:21 → 00:16:23 >> นะฮะคือคุณภาพชีวิต
00:16:23 → 00:16:26 >> เพราะงั้นเ่อถ้าเผื่อเราสามารถจะมีอิสระ
00:16:26 → 00:16:29 ได้โดยที่มองใกล้ได้มองไกลได้อะไรเงี้ยนะ
00:16:29 → 00:16:31 ครับด้วยตาเปล่าได้เนี่ย
00:16:31 → 00:16:34 >> เอ่อเป็นอะไรที่คนมักจะชอบมากกว่าเนี่ยใน
00:16:34 → 00:16:36 กันในแง่ของคุณภาพชีวิตนะครับ
00:16:36 → 00:16:40 >> อย่างคุณหมอบอกว่า 40 เนี่ยก็คือเริ่มที่
00:16:40 → 00:16:40 จะมีอาการจะ
00:16:40 → 00:16:42 >> รู้สึกว่าเออแถวนี้ไม่ค่อยชัดต้องออกไป
00:16:43 → 00:16:43 หน่อย
00:16:43 → 00:16:45 >> แล้วมันมีมั้ยสมมุติว่า Let say ว่า 60
00:16:45 → 00:16:47 เท่ากันแต่ว่า
00:16:47 → 00:16:49 >> บางคนเห็นดีกว่าบางคนเห็นถูกต้องมีครับ
00:16:49 → 00:16:51 อาจจะเกี่ยวกับหลายอย่างอาจจะเกี่ยวกับรู
00:16:51 → 00:16:53 ม่านตาแต่ละคนอะไรพวกนี้ด้วยอาจจะเกี่ยว
00:16:53 → 00:16:56 กับเขาเรียกว่า optic หรือว่าการที่มี
00:16:56 → 00:16:58 เอ่อ abation คือความเพี้ยนของการรวมแสง
00:16:58 → 00:17:00 ด้วยเพราะตาคนเราไม่ได้เหมือนกับเลนส์ที่
00:17:00 → 00:17:04 เราสร้างขึ้นมาด้วยวัสดุอะไรนะฮะตาเรามัน
00:17:04 → 00:17:06 ความโค้งมันแปลกๆนิดนึงมันมีความโค้งตรง
00:17:06 → 00:17:09 นี้เยอะตรงนี้น้อยอะไรเงี้ยแล้วมันยังมี
00:17:09 → 00:17:11 หลายชั้นข้างในนะเพราะฉะนั้นบางทีเนี่ย
00:17:11 → 00:17:13 มันเกิดความเพี้ยนที่อาจจะช่วยในเรื่อง
00:17:13 → 00:17:15 การหม่องใกล้ซึ่งอันนี้เรา apply ได้
00:17:15 → 00:17:18 เหมือนกันนะครับเอ่อกับการผ่าตัดบางอย่าง
00:17:18 → 00:17:21 เอาชื่อสั้นๆว่า Press Beyond นะครับมัน
00:17:21 → 00:17:23 เป็นการผ่าตัดสายตายาวแบบที่เราสามารถจะ
00:17:23 → 00:17:27 เพิ่มความลึกได้นะโดยที่ไม่ทำให้การมอง
00:17:27 → 00:17:30 ทั่วๆไปเสียไปอะไรเงี้นะฮะเป็นการตั้งใจ
00:17:30 → 00:17:31 ใส่ความเพี้ยนเข้าไปนิดหน่อยนะครับอ
00:17:31 → 00:17:34 >> แล้วก็มีเขาบอกว่าถ้าสายตาไม่ดีเนี่ยทำ
00:17:34 → 00:17:37 ให้สมองเสื่อมก่อนวัยได้จริงเหรอคะ
00:17:37 → 00:17:38 >> ตอนนี้ชมกำลังเสื่อมแล้วใช่มั้
00:17:38 → 00:17:41 >> คืออย่างงี้แมคนเราก็เสื่อมมาตั้งแต่เกิด
00:17:41 → 00:17:44 แล้วนะครับใช่มั้ยฮะถึงจุดนึงเนี่ยมันจะ
00:17:44 → 00:17:46 จะจะเริ่มแสดงอาการของแต่ละส่วนของร่าง
00:17:47 → 00:17:49 กายออกมาแต่เอาอย่างงี้เวลาที่เราพูดถึง
00:17:49 → 00:17:51 การรับรู้สิ่งแวดล้อมของเราเนี่ยนะฮะในคน
00:17:51 → 00:17:54 เนี่ยนะครับแล้วประมาณกันว่าสัก 75% เี่
00:17:54 → 00:17:55 มาจาก Vision
00:17:55 → 00:17:55 >> อื
00:17:55 → 00:17:57 >> มาจากการมองเห็นสิ่งที่กระตุ้นเราเนี่ยนะ
00:17:57 → 00:17:59 ไม่ว่าจะทำอะไรอะไรก็ตามเนี่ยมันจะมี
00:17:59 → 00:18:03 กลิ่นมีรสมีเสียงอะไรอย่างเงี้ด้วยนะฮะ
00:18:03 → 00:18:05 แล้วก็การสัมผัสหรืออะไรแบบเยนี้การที่
00:18:05 → 00:18:08 ภาพไม่ชัดเนี่ยในคนที่อายุน้อยกับอายุมาก
00:18:08 → 00:18:11 เนี่ยเ่อมีผลแค่ไหนเนี่ยมันต่างกันนะครับ
00:18:11 → 00:18:14 ในคนอายุน้อยเนี่ยคือเด็กๆเลยเนี่ยนะครับ
00:18:14 → 00:18:17 ถ้าเผื่อเผื่อเอ่อไม่ได้รับภาพที่ชัดเลย
00:18:17 → 00:18:19 เนี่ยตั้งแต่เด็กเนี่ยเ่อมันจะมีส่วนของ
00:18:19 → 00:18:23 สมองที่รับภาพนะฮะอยู่ข้างหลังเนี่ยมันจะ
00:18:23 → 00:18:26 develop ไม่ดีมันจะพัฒนาได้ไม่ดีนะครับ
00:18:26 → 00:18:28 มันก็จะไม่รู้จักการมองเห็นภาพชัด
00:18:28 → 00:18:29 >> อื
00:18:29 → 00:18:32 >> นะฮะพออายุเกินสัก 7-8 ขวบไปแล้วเนี่ย
00:18:32 → 00:18:35 ภาวะนั้นเนี่ยจะอยู่คงที่ก็คือไม่สามารถ
00:18:35 → 00:18:37 ทำให้ดีขึ้นได้อีกแล้วนะฮะ
00:18:37 → 00:18:38 >> ก็คือจะไม่ชัดตลอดเลยไม่
00:18:38 → 00:18:42 >> ชัดตลอดใช่ถึงจะแก้สายตาให้หรืออะไรก็ตาม
00:18:42 → 00:18:44 ไม่ชัดก็คืออาจจะไม่ได้ชัดเต็มที่แต่จะ
00:18:44 → 00:18:46 อยู่ยังอยู่ในระดับปานกลางพอใช้งานได้
00:18:46 → 00:18:47 อะไรอย่างเงี้ย
00:18:47 → 00:18:47 >> ค่ะ
00:18:47 → 00:18:50 >> เค้าเรียกว่าตาขี้เกียจเคได้ยินมั้ฮะ e
00:18:50 → 00:18:52 นะฮะเลซี่ ey ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุนะ
00:18:52 → 00:18:55 ครับแต่ว่าหลักๆก็คือว่าสมองเราเนี่ยมัน
00:18:55 → 00:18:57 ต้องรับภาพที่ชัดนะตั้งแต่มันถึงจะ
00:18:57 → 00:18:59 develop ในช่วงตั้งแต่เกิดจน
00:18:59 → 00:19:01 >> มันเหมือนกับว่าพอมันไม่ชัดมันก็เลยขี้
00:19:01 → 00:19:03 เกียจเพ่งปล่อยเบอร์อะไรเงี้ยมันมันใช่
00:19:03 → 00:19:06 อันนั้นส่วนมันมันปล่อยเบอร์ไปแต่ว่ามัน
00:19:06 → 00:19:08 ก็คือว่ามันไม่รู้จักว่าไอ้ความละเอียด
00:19:08 → 00:19:10 ของภาพที่จะได้จริงๆเนี่ยมันได้แค่ไหน
00:19:10 → 00:19:12 นั่งอ่านชาร์จตัวเลขอะไรต่างๆเขาจะลงมา
00:19:12 → 00:19:14 ได้ไม่ดีถึงจะใส่ตาสั้นใส่ทายาวใส่ตา
00:19:15 → 00:19:17 เอียงหรืออะไรก็ตามมาใส่ให้ปุ๊บให้เต็มดี
00:19:17 → 00:19:19 เต็มที่ยังไงเค้าก็ยังอ่านสู้คนอื่นไม่
00:19:19 → 00:19:20 ได้
00:19:20 → 00:19:23 >> นะมันเป็น limitation ของการรับภาพอันนี้
00:19:23 → 00:19:25 เป็นอะไรที่เป็นแล้วเป็นเลยควรจะตรวจตา
00:19:25 → 00:19:27 สักครั้งนึงอย่างตอนอายุน้อยๆเลย
00:19:27 → 00:19:29 >> จะได้ทราบว่าจะมีอะไรมั้ยที่จะทำให้เกิด
00:19:29 → 00:19:30 เป็นตาขี้เกียจ
00:19:30 → 00:19:30 >> อื
00:19:30 → 00:19:32 >> ถ้าเผื่อไม่มีอะไรเราก็ปล่อยได้เลย
00:19:32 → 00:19:34 >> แล้วอย่างเงี้ยพ่อแม่จะสังเกตได้มั้คะว่า
00:19:34 → 00:19:37 เอ๊ยลูกเรามีแบบเลซี่อายหรือเปล่า
00:19:37 → 00:19:39 อะไรอย่าเงี้ยค่ะถ้ามันจะมีอะไรเตือน
00:19:39 → 00:19:42 >> มากถ้าเผอเต้องยีตาร์บ่อยๆอะไรเงี้ยนะฮะ
00:19:42 → 00:19:45 ส่งไปตัวดีกว่าทีนี้ในวัยกลางคนอะไรต่างๆ
00:19:45 → 00:19:47 อันนี้ไม่เป็นไรอ่ะไม่ชัดข้างนึงก็ได้ไม่
00:19:47 → 00:19:50 เป็นไรนะครับแต่พออายุมากขึ้นเนี่ยเหมือน
00:19:50 → 00:19:53 กันอ้างกลับไปถึงที่ว่า 75% เนี่ยมาจาก
00:19:53 → 00:19:56 เ่อการกระตุ้นของเราเนี่ยมาจากเอ่อจากการ
00:19:56 → 00:19:56 มองเห็น
00:19:56 → 00:19:57 >> การมองเห็น
00:19:57 → 00:20:00 >> เอิ่มก็มีคนคrillate vision ที่ไม่ดี
00:20:00 → 00:20:02 เนี่ยกับการที่เป็น demi คือสมองเสื่อม
00:20:03 → 00:20:03 >> อื
00:20:03 → 00:20:04 >> นะฮะ
00:20:04 → 00:20:06 >> สมองเสื่อมก็รวมหลายๆอย่างนะก็อัลไซเมอร์
00:20:06 → 00:20:10 ด้วยแต่ว่าอันนั้นเป็นเรื่องที่อาจจะทั้ง
00:20:10 → 00:20:13 คุณหมอทั้งนิวโรอาจจะหรือทางประสาทวิธีจะ
00:20:13 → 00:20:14 ตอบได้ดีกว่าผม
00:20:14 → 00:20:17 >> แต่ว่ากับเด็กๆเนี่ยมีผลแน่นอนสังเกตเนาะ
00:20:17 → 00:20:18 ถูกต้องครับ
00:20:18 → 00:20:22 >> โอเคค่ะแล้วเอ่อแหมจะถามแต่ก็เหมือนจะรู้
00:20:22 → 00:20:24 คำตอบอยู่แล้วมันมีพฤติกรรมหรือมีนิสัย
00:20:24 → 00:20:27 อะไรบ้างคะที่ทำให้เราสายตาเราเสื่อมก่อน
00:20:27 → 00:20:29 เวลานั้นต่อคืออะไรครับ
00:20:29 → 00:20:32 >> ก็เล่นมือถืออะไรเงี้ยนอนคุ้มโปงเล่นมือ
00:20:32 → 00:20:34 ถืออะไรอย่างเงี้ยเออใช่มั้ย
00:20:34 → 00:20:35 >> ปรากฏว่าอันนั้นก็ยังไม่จริง
00:20:35 → 00:20:37 >> ยังหรอคะ
00:20:37 → 00:20:37 คือ
00:20:37 → 00:20:38 >> ยังเล่นได้เหรอคะคุณหมอ
00:20:38 → 00:20:40 >> จริงๆแล้วพฤติกรรมการใช้งานสายตาเนี่ยนะ
00:20:40 → 00:20:43 ฮะมีผลต่อสุขภาพตาน้องไม่มากเลยครับ
00:20:43 → 00:20:43 >> อื
00:20:43 → 00:20:45 >> จริงๆแล้วก็คือเอาเป็นว่าอย่างงี้
00:20:45 → 00:20:48 >> ตายแล้วไม่มีอะไรจะไปขู่ลูกละคุณหมอเชีย
00:20:48 → 00:20:49 อย่างงี้
00:20:49 → 00:20:50 >> ห้ามเล่นไอ้นี้รึเปล่า
00:20:50 → 00:20:54 >> ของชมที่บ้านมีอย่างงี้ด้วยนะป้าเจี๊ยบดู
00:20:54 → 00:20:58 แล้วเลือดจะออกมาทางลูกกตาเลยโอโห
00:20:58 → 00:21:01 >> เอออย่างงั้นก็แย่สิครับ
00:21:01 → 00:21:02 >> ก็มันหมดมุกแล้วมันไม่รู้จะป่วย
00:21:02 → 00:21:05 >> เออใช่เข้าใจใช่แต่ว่าจริงๆแล้วมันไม่มี
00:21:05 → 00:21:07 อะไรที่มาโยงใยทางวิทยาศาสตร์ได้เลยว่า
00:21:07 → 00:21:09 ไอ้การใช้สายตาที่ไม่ถูกต้องเนี่ยที่เรา
00:21:09 → 00:21:12 คิดว่าไม่ถูกเนี่ยอย่างเช่นดูมือถือในตอน
00:21:12 → 00:21:15 กลางคืนห้องมืดหมดอะไรเงี้ยหรือว่านอน
00:21:15 → 00:21:17 ตะแคงหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยนะครับมันจะมี
00:21:17 → 00:21:21 ผลเสียกับตัวลูกตาจริงๆตัวลูกตานะพูดถึง
00:21:21 → 00:21:23 นะครับเด็กเนี่ยนะครับการใช้สายตาเนี่ย
00:21:23 → 00:21:26 เ่อเคยมีการศึกษาว่ามันมีผลต่อการเปลี่ยน
00:21:26 → 00:21:29 แปลงของสายตาคือคือปกติสายตาสมมุติสายตา
00:21:29 → 00:21:32 สั้นเนี่ยนะครับมันมีการเปลี่ยนแปลงตาม
00:21:32 → 00:21:33 ธรรมชาติของมันก็คือมันจะค่อยๆสั้นขึ้น
00:21:34 → 00:21:38 เรื่อยๆนะฮะจนถึงประมาณสักอายุ 20 ต้นๆ
00:21:38 → 00:21:41 แล้วมันมักจะคงที่คำว่ามักจะแปลว่าบางคน
00:21:41 → 00:21:44 ก็ขึ้นไปเรื่อยๆก็มีอะไรเงี้นะครับ
00:21:44 → 00:21:47 >> ทีนี้มีการศึกษามาเหมือนกันในประเทศที่มี
00:21:47 → 00:21:50 คนใส่ตาสั้นเยอะๆเนี่ยนะครับเอ่อก็จะพบ
00:21:50 → 00:21:53 ว่ามันมีบางอย่างเหมือนกันที่ทำให้การใช้
00:21:53 → 00:21:56 งานเนี่ยนะฮะทำให้ตาเพิ่มขึ้นมากขึ้น
00:21:56 → 00:21:59 >> ก็คือเล่นมือถือหรอคะเล่นเกมเหรอคะ
00:21:59 → 00:22:01 >> เป็นไปได้ในเด็กนะฮะพูดถึงนะครับตอนที่ตา
00:22:01 → 00:22:02 มันยัง develop อยู่
00:22:02 → 00:22:04 >> ค่ะก็แปลว่าเรากลับไปขู่ลูกเราได้
00:22:04 → 00:22:07 >> พบว่าอ่าถ้าถ้าลูกเอ่อใช่เป็นไปได้นะครับ
00:22:07 → 00:22:09 แต่ว่าถ้าเปิดตัวแล้วเนี่ยอาจจะไม่ค่อยมี
00:22:09 → 00:22:12 ผลเท่าไหร่มันมีอยู่ว่าอย่างเช่นมียาหยอด
00:22:12 → 00:22:14 บางอย่างที่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อมันคลาย
00:22:14 → 00:22:16 ตัวนะฮะกล้ามเนื้อในตาเนี่ยมันคลายตัวทำ
00:22:17 → 00:22:20 ให้อาจจะหยุดยั้งหรือชะลอมากกว่าการสั้น
00:22:20 → 00:22:23 ขึ้นของเด็กนะคือมันไม่ได้รักษาไสตาสั้น
00:22:23 → 00:22:26 ที่มีอยู่ทำให้หายไปแต่มันทำให้สั้นขึ้น
00:22:26 → 00:22:29 ช้าลงนะครับแทนที่จะใช้เวลาใน indoor
00:22:29 → 00:22:31 >> ให้ออกไป outdoor มากขึ้นเรื่อยๆอย่าง
00:22:31 → 00:22:32 เช่น
00:22:32 → 00:22:35 >> เอ่อไปเล่นเล่นกีฬากลางแจ้งอะไรก็ได้สัก
00:22:35 → 00:22:37 อย่างนึงนะฮะ
00:22:37 → 00:22:37 >> อื
00:22:37 → 00:22:41 >> เตะบอลตีกอล์ฟแล้วแต่แล้วแต่ชอบนะฮะแต่
00:22:41 → 00:22:43 ว่านั้นมีผลนะมีผลไม่เยอะ
00:22:43 → 00:22:47 >> แปลว่าเด็กดูทีวีดูจอดูอะไรเนี่ยมีผลกับ
00:22:47 → 00:22:48 สายตาแน่นอน
00:22:48 → 00:22:50 >> ทีวีถ้าเผื่อมันไม่ได้ต้องเพ่งมากมันอยู่
00:22:50 → 00:22:53 ที่ไกลปกติก็น่าจะมีน้อยกว่าแต่ว่าเวลา
00:22:53 → 00:22:54 เข้ามาใกล้ถูกต้องมันจะต้องมี
00:22:55 → 00:22:57 accommodation ซึ่งมีผลต่อเด็กได้ทีนี้
00:22:57 → 00:23:00 ไอ้ในแง่อื่นอย่างเช่นถ้าถามว่าการใช้งาน
00:23:00 → 00:23:03 แบบไหนที่จะทำให้ตาเสียมไม่มี
00:23:03 → 00:23:05 >> แต่ดูมากๆก็ตาแห้งจริงๆนะคุณหมอ
00:23:05 → 00:23:08 >> อ่าใช่ฮะถูกต้องมันก็จะมีเรื่องตาแห้งมี
00:23:08 → 00:23:12 เรื่องความหล้านะฮะครับซึ่งก็ไม่ได้ส่วน
00:23:12 → 00:23:14 ใหญ่ก็มันจะไม่ใช่อะไรที่เสียหายแล้วก็
00:23:14 → 00:23:14 ถาวร
00:23:14 → 00:23:15 >> ก็นอนซะ
00:23:15 → 00:23:16 >> นอนซะใช่
00:23:16 → 00:23:19 >> แปลว่าแสงสีฟ้า
00:23:19 → 00:23:22 >> แสงสีฟ้าถ้าเผื่อ intens นะน่าจะมีปัญหา
00:23:22 → 00:23:22 >> อื
00:23:22 → 00:23:25 >> นะครับถ้ามีปัญหากับจอประสาทตาอะไรพวกนี้
00:23:25 → 00:23:27 แล้วตัวแก้วตาบ้างแต่ถ้าอ่อนๆแบบจอ
00:23:27 → 00:23:31 มอนิเตอร์เนี่ยก็ยังไม่มียังไม่มีหลักฐาน
00:23:31 → 00:23:32 อีกเหมือนกันนะครับ
00:23:32 → 00:23:35 >> ทีนี้แว่นตัดแสงสีฟ้าเนี่ยถ้าลองไปอ่านใน
00:23:35 → 00:23:37 เว็บดูเนี่ยนะฮะในอินเทอร์เน็ตเนี่ยก็จะ
00:23:37 → 00:23:39 เจอทั้ง 2 ฝั่งแต่ว่าค่ะ
00:23:39 → 00:23:43 >> นะฮะเอ่อว่าอันตรายมากไม่ได้ต้องต้องใส่
00:23:43 → 00:23:45 อะไรเงี้ยนะก็
00:23:45 → 00:23:48 >> อก็มีคนพูดอย่างงั้นแต่ว่าถ้าเราไปดูใน
00:23:48 → 00:23:51 องค์กรเอ่อ Professional เนี่ยองค์กร
00:23:51 → 00:23:52 อาชีพเนี่ยอย่างเช่น American Academy
00:23:53 → 00:23:54 of Optommology ซึ่งก็เป็นเกี่ยวกับ
00:23:54 → 00:23:56 เรื่องต่างมีคนถามไปเมื่อไหร่เขาก็จะบอก
00:23:56 → 00:23:59 กับว่าเ้าไม่ได้แนะนำให้ใช้
00:23:59 → 00:24:01 >> ไม่แนะนำไม่ได้ห้ามใช่ถูกครับไม่ได้ห้าม
00:24:01 → 00:24:03 นะครับคือไม่ได้มีหลักฐานเพียงพอที่จะ
00:24:03 → 00:24:05 ต้องแนะนำให้ใช้เอางั้นละกัน
00:24:05 → 00:24:07 >> แต่ถ้าอยากเสียตังค์ก็สบายใจ
00:24:07 → 00:24:09 >> ใช่ถูกต้องนะครับ
00:24:09 → 00:24:10 >> ถ้าเผื่อเราจะมองจากเรื่องนี้มันเหมือน
00:24:10 → 00:24:13 เรื่องไอ้อาหารเสริมบางอย่างอะไรหลายๆ
00:24:13 → 00:24:15 อย่างเนี่ยนะครับเราใช้คำว่าไม่เสียหาย
00:24:15 → 00:24:18 >> อค่ะถ้าในเรื่องของการมองเห็นถ้าคุณบอก
00:24:18 → 00:24:21 ว่าอาจจะไม่ได้มีผลร้ายแรงขนาดนั้นแต่ว่า
00:24:21 → 00:24:24 >> มันก็จะมีพวกเอ่อ Health กูหลายๆคนตอนนี้
00:24:24 → 00:24:26 เนาะที่บอกว่าเราแบบว่าตื่นมาปุ๊บเราก็
00:24:26 → 00:24:29 ไม่ควรจะต้องเจอแสงสีฟ้าก่อนเราควรที่จะ
00:24:29 → 00:24:31 ต้องไปเจอแสงเออไปเจอแสงพระอาทิตย์ก่อน
00:24:32 → 00:24:35 อะไรก่อนเพราะว่าอาจจะมีผลต่อ
00:24:35 → 00:24:36 >> rึมอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:24:36 → 00:24:39 >> ซึ่งเป็นไปได้คือของพวกที่อย่างที่บอกคือ
00:24:39 → 00:24:41 ทำถ้าระวังตัวเองอะไรพวกนี้น่าจะไม่เสีย
00:24:41 → 00:24:44 หายนะครับมันความเสียหาย
00:24:44 → 00:24:46 >> ถ้าเราไม่ทำตามนี้มันเยอะแค่ไหนเราไม่
00:24:46 → 00:24:47 ทราบ
00:24:47 → 00:24:47 >> อื
00:24:47 → 00:24:48 >> นะครับ
00:24:48 → 00:24:50 >> อ่ะทีนี้คนที่มีปัญหาสายตาค่ะ
00:24:50 → 00:24:51 >> ครับ
00:24:51 → 00:24:53 >> แต่ไม่อยากแก่เนาะคุณหมอ
00:24:53 → 00:24:56 >> ไม่อยากใส่แว่นเราก็ฝืนไปอย่างเงี้ยมัน
00:24:56 → 00:25:01 ระยะยาวคือชมอ่ะเคยได้ยินบางคนซึ่งชมก็
00:25:01 → 00:25:03 ไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่จริงว่าเขาบอกว่า
00:25:03 → 00:25:06 เหมือนยิ่งเราไปใส่แว่นน่ะมันก็เหมือนเรา
00:25:06 → 00:25:08 อ่ะยิ่ง
00:25:08 → 00:25:11 ไป surrender ให้กับมันเหมือนเราไปยอมมัน
00:25:11 → 00:25:14 น่ะแล้วก็ตามันก็จะยิ่งขี้เกียจแล้วก็จะ
00:25:14 → 00:25:15 ยิ่งไม่แบบ
00:25:15 → 00:25:17 >> ไม่ปรับแล้วก็
00:25:17 → 00:25:19 >> ตามันไม่ได้ขี้เกียจครับมันปรับไม่ได้
00:25:19 → 00:25:20 >> มันปรับไม่ได้
00:25:20 → 00:25:24 >> อายุมันเยอะเกินไปที่จะจะจะปรับนะฮะอายุ
00:25:24 → 00:25:26 ของตานะพูดถึงก็คือ
00:25:26 → 00:25:28 >> ซึ่งมันก็เท่ากับอายุคนนี่แหละแต่ว่าเออ
00:25:28 → 00:25:29 พูดยังไงก็เจ็บคุณหมอ
00:25:29 → 00:25:30 >> เออใช่
00:25:30 → 00:25:30 >> ออ
00:25:30 → 00:25:32 >> ผมเองก็เจ็บ
00:25:33 → 00:25:35 >> ก็คือแปลว่ายังไงก็แนะนำให้ใส่ใช่มั้คะ
00:25:35 → 00:25:37 >> ไม่ครับก็ต้องมันต้องเห็นนะมันก็ต้องใส่
00:25:37 → 00:25:38 สิ
00:25:38 → 00:25:40 >> อืถ้ามันมีผลต่อคุณภาพชีวิตเรายังไงก็
00:25:40 → 00:25:41 ต้องใส่
00:25:41 → 00:25:43 >> มันก็มีแค่ทางเลือกอีก 2 อย่างคือหยีตา
00:25:43 → 00:25:45 เกร็งขึ้นมามันก็ล้าขึ้นมาอีกทั้งกล้าม
00:25:46 → 00:25:47 เนื้อตาเหี่ยวขึ้นด้วย
00:25:47 → 00:25:48 >> อ้าถูกมั้ฮะ
00:25:48 → 00:25:51 >> ใช่เพราะว่าเราสซเราเราเพ่งใสเพราะงั้น
00:25:51 → 00:25:53 ใส่ให้มันสบายๆไม่ดีเหรอ
00:25:53 → 00:25:53 >> อื
00:25:53 → 00:25:54 >> ใช่มั้ครับ
00:25:54 → 00:25:54 >> ค่ะ
00:25:54 → 00:25:55 >> นะฮะ
00:25:55 → 00:25:58 >> เมื่อกี้เนี้ยคุณหมอบอกว่าอ่าอย่างในกรณี
00:25:58 → 00:26:01 ของเด็กๆอย่างเงี้ยที่ถ้าแบบว่าปล่อยให้
00:26:01 → 00:26:03 มองเบลอมองอะไรอย่างเงี้ยไปมันก็จะมีผล
00:26:03 → 00:26:06 ต่อพัฒนาการในของสมองเอย่างงี้ใช่มั้แล้ว
00:26:06 → 00:26:08 ถ้าอย่างเราอย่างเงี้ยมีปัญหาสายตายาวค่ะ
00:26:09 → 00:26:12 แต่ว่ามันไม่อยากใส่แว่นนะมันอาจจะรำคาญ
00:26:12 → 00:26:16 ด้วยแล้วมันก็ดูแบบดูแก่คุณหมอก็เลยปล่อย
00:26:16 → 00:26:21 เบลอไปแล้วก็แบบก็บางทีก็ทนแบบว่าทนมอง
00:26:21 → 00:26:23 เบลอๆไปอย่างเงี้ยในระยะยาวเนี่ยมันจริง
00:26:23 → 00:26:25 หรือเปล่าคะที่เขาบอกว่ามันจะเป็นการแบบ
00:26:25 → 00:26:30 เร่งความเสื่อมของดวงตาแล้วก็สมองด้วย
00:26:30 → 00:26:33 >> สมองเราถ้าเกิดมันยังอยู่ในวัยที่ยังไม่
00:26:33 → 00:26:35 ได้เริ่มจะสมองเสื่อมเลยพวกนี้ผมว่าคงไม่
00:26:35 → 00:26:36 นะครับ
00:26:36 → 00:26:36 >> ค่ะ
00:26:36 → 00:26:40 >> ว่าคงไม่เนี่ยฮะไวอย่างเราเนี่ยอะไรอย่าง
00:26:40 → 00:26:43 งี้นะน่าจะไม่เป็นไรคืออย่างงี้อย่างเช่น
00:26:44 → 00:26:46 ผมเป็นmonโนวิชionตอนนี้เนี่ยนะจากการทำ
00:26:46 → 00:26:47 ผัดเนี่ยครับ
00:26:47 → 00:26:49 >> เอ่อเวลาพี่ผมมองไกลเนี่ยข้างนี้มันก็จะ
00:26:49 → 00:26:50 เบลออ
00:26:50 → 00:26:52 >> นะแต่สมองมันไม่รับว่าเบลอเพราะว่ามันไป
00:26:52 → 00:26:53 สนใจข้างนี้
00:26:53 → 00:26:56 >> นะฮะเวลาเข้ามามองใกล้ปุ๊บข้างนี้จะเบลอ
00:26:56 → 00:26:58 แทนแต่ว่าสมองไม่สนใจเหมือนกันก็ไปสนใจ
00:26:58 → 00:26:59 ข้างนี้
00:26:59 → 00:26:59 >> ค่ะ
00:26:59 → 00:27:01 >> เพราะงั้นมันมีการเบลอที่เกิดขึ้นอยู่
00:27:01 → 00:27:04 แล้วการกระตุ้นของสมองมันก็ยังยังพอๆกว่า
00:27:04 → 00:27:06 เดิมอะไรเงี้นะครับใช่
00:27:06 → 00:27:08 >> คุณหมอค่ะแล้วอย่างคุณหมอตอนเนี้ยเป็น
00:27:08 → 00:27:09 โมโนวิชionอย่างเงี้ย
00:27:09 → 00:27:09 >> ฮะ
00:27:10 → 00:27:11 >> คุณหมออ่านฉลากยาดมได้มั้คะ
00:27:11 → 00:27:12 >> เอ้ยไม่ได้
00:27:12 → 00:27:15 >> อันนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนอ่าน
00:27:15 → 00:27:18 ไม่ทำให้คนอ่านมีให้ครบฮะเท่านั้นเองครับ
00:27:18 → 00:27:18 นะฮะ
00:27:18 → 00:27:21 >> เออแต่ว่าตอนเด็กๆมันอ่านได้นะคุณหมอ
00:27:21 → 00:27:22 >> เอาเข้ามาอย่างงี้ไง
00:27:22 → 00:27:25 >> ใช่มันอ่านได้นะตอนเด็กๆทำไมตอนนี้คือ
00:27:25 → 00:27:27 >> มันอ่านไม่ได้สักระยะเลยอ่ะไอ้พวกแบบยดม
00:27:27 → 00:27:30 อ่ะกล้ามกล้ามเนื้อที่ใช้ในการที่เกรงตัว
00:27:30 → 00:27:32 เพื่อช่วยในการโฟกัสใกล้เนี่ยมันแข็งแรง
00:27:32 → 00:27:34 มากตอนเด็กฮะเท่ากับสายตามัน 3,000 อะไร
00:27:34 → 00:27:37 เงี้ยคือเอาเข้ามาได้แล้วก็สามารถจะเห็น
00:27:37 → 00:27:39 รายละเอียดได้แล้วยิ่งเข้าใกล้ตัวมันยิ่ง
00:27:39 → 00:27:40 ใหญ่ถูกมั้ฮะ
00:27:40 → 00:27:42 >> ใช่มั้ฮะเพราะมันเป็นมุมที่ทำนะฮะเพราะ
00:27:42 → 00:27:43 ฉะนั้นมันก็จะอ่านได้
00:27:43 → 00:27:46 >> อันนี้เลสิคก็ช่วยไม่ได้ใช่มั้คะถ้าอยาก
00:27:46 → 00:27:48 อ่านถ้าเราเซ็ตมันไว้ตรงนี้มันก็จะชัดตรง
00:27:48 → 00:27:50 นี้แล้วเข้ามาใกล้อีกหน่อยก็จะเริ่มเบลอ
00:27:50 → 00:27:53 เหมือนกันนะครับแต่ว่าไอ้ตรงนั้นมันไม่
00:27:53 → 00:27:57 ใช่ไม่ใช่วิสัยคนปกติจะทำไงใช่มั้ยฮะ
00:27:57 → 00:28:01 >> แต่มันเป็นซอพาของคนเด็กอายุน้อยกับคนที่
00:28:01 → 00:28:03 สายตาสั้นมากๆค่ะ
00:28:03 → 00:28:05 >> คนที่สายตาสั้นมากๆอย่างเช่นเป็น 1,000
00:28:05 → 00:28:07 เนี่ยนะฮะเอาเข้ามาถึง 10 ซม.เค้ายังอ่าน
00:28:07 → 00:28:08 ได้
00:28:08 → 00:28:08 >> อื
00:28:08 → 00:28:11 >> นะครับเพราะว่าไอ้ชัดสุดของเค้าเนี่ยคือ
00:28:11 → 00:28:13 10 ซม.ค่ะ
00:28:13 → 00:28:14 >> เกินนี้ไปไม่ชัดครับ
00:28:14 → 00:28:14 >> อื
00:28:14 → 00:28:15 >> สั้น 1000 นึงนะพูดถึง
00:28:15 → 00:28:17 >> คทactเลนส์นะคะคุณหมอทั้งเลนส์แบบปกติ
00:28:17 → 00:28:20 แล้วก็ Big Ey เนี่ยค่ะคือใส่นานๆมันมี
00:28:20 → 00:28:24 ผลกระทบระยะยาวมั้ยคะแล้วก็มีข้อควรระวัง
00:28:24 → 00:28:26 อะไรมั้คะในการใช้คทactเลนส์
00:28:26 → 00:28:28 >> คทactเลนส์เนี่ยเราอาจจะคิดว่าเป็น
00:28:28 → 00:28:31 พลาสติกแค่ไปแปะที่ปูตานะฮะ
00:28:31 → 00:28:32 >> จริงๆแล้วเราต้องถือว่าเป็นเครื่องมือทาง
00:28:32 → 00:28:35 การแพทย์เพราะมันเพิ่มโอกาสเกิดปัญหากับ
00:28:35 → 00:28:38 ตาที่สำคัญที่สุดก็คือ infection นะฮะคน
00:28:38 → 00:28:42 ที่ใส่ contact lนเนี่ยเอ่อดูแลอย่างดีนะ
00:28:42 → 00:28:44 พูดถึงนะครับไม่ใส่นอนไม่อะไรเลย
00:28:44 → 00:28:46 >> มีโอกาสประมาณสัก 1 ใน 5,000 อยู่แล้วที่
00:28:46 → 00:28:48 จะติดเชื้อภายใน 1 ปี
00:28:48 → 00:28:49 >> อื
00:28:49 → 00:28:52 นี่นะครับใส่ทุกวันใช่
00:28:52 → 00:28:54 >> soft lนคืออันที่ทิ้งทุกวันใช่มั้
00:28:54 → 00:28:57 >> ที่มันมันพับได้อ่ะมันอาจจะมีทั้งใช้
00:28:57 → 00:28:59 อาทิตย์นึงใช้เดือนนึงอะไรเงี้ยมันมันจะ
00:28:59 → 00:29:01 มีอยู่แต่ที่ดีที่สุดก็คือใช้วันต่อวัน
00:29:01 → 00:29:05 ถูกต้องนะฮะถ้าเผื่อ contact เลนส์ที่มัน
00:29:05 → 00:29:08 ไม่ได้ออกแบบมาให้ใส่ได้นานๆมันก็ยิ่งแย่
00:29:08 → 00:29:11 ใหญ่นะฮะงั้นอย่างเช่นพวกคทctเลนส์สี
00:29:11 → 00:29:13 contact eye ทั้งหลายเนี่ยส่วนใหญ่มัน
00:29:13 → 00:29:16 จะคุณภาพสำหรับตัวเราเนี่ยสำหรับสุขภาพ
00:29:16 → 00:29:18 เราเนี่ยมันจะไม่ดีถ้าไอ้คแบบ
00:29:18 → 00:29:22 >> ใสๆเล็กๆอ่อนอ่าอ่อนๆธรรมดานะครับเพราะ
00:29:22 → 00:29:24 ฉะนั้นถ้าจะใส่ต้องแน่ใจว่าเราดูแลมัน
00:29:24 → 00:29:27 เป็นนะฮะเอ่อไม่ใส่เกินเท่านี้ชั่วโมง
00:29:27 → 00:29:29 อะไรพวกนี้แล้วมีปัญหาเมื่อไหร่ต้องรีบไป
00:29:29 → 00:29:30 หาหมอ
00:29:30 → 00:29:30 >> ค่ะ
00:29:30 → 00:29:33 >> เพราะว่าพอเราเกิดอกชขึ้นมาบางทีเนี่ย
00:29:33 → 00:29:35 ยิ่งรักษาเร็วยิ่งดี
00:29:35 → 00:29:38 >> นะครับมันจะได้ไม่ทำความเสียหายมาเวลา
00:29:38 → 00:29:41 กระจกตาเสียหายเนี่ยมันเสียหายได้แบบถาวร
00:29:41 → 00:29:42 ได้
00:29:42 → 00:29:44 >> นะครับก็คือมีรอยแผ่นที่ตรงกลางแล้วมันทำ
00:29:44 → 00:29:46 ให้มองไม่เห็นไปเลย
00:29:46 → 00:29:48 >> มันเหมือนเราต้องมองผ่านแว่นที่มันมีรอย
00:29:48 → 00:29:49 stratชอะไรอย่างเงี้ยเนาะ
00:29:49 → 00:29:50 >> ถูกต้องนะฮะอ
00:29:50 → 00:29:51 >> เราจะมัวไปเลยอะไรเงี้ย
00:29:51 → 00:29:53 >> คือไม่ว่าจะบิ๊กอายไม่บิ๊ก eye ก็ต้องดู
00:29:53 → 00:29:56 แลทั้งนั้นใช่นะฮะจะว่าไปเนี่ยอัตราการ
00:29:56 → 00:30:00 ติดเชื้อของการใส่คอนทคเลนส์ปีนึงเนี่ย
00:30:00 → 00:30:02 จริงๆเยอะกว่าการทำผ่าตัดเลสิคหมายความ
00:30:03 → 00:30:06 ว่าเราทำเลสิคไปเนี่ยเอิ่มีโอกาสเกิดติด
00:30:06 → 00:30:08 เชื้อเท่าไหร่ซึ่งการการผ่าตัดเราต้องพูด
00:30:08 → 00:30:09 ถึงการติดเชื้ออยู่แล้ว
00:30:09 → 00:30:12 >> แต่ว่าการผ่าตัดเนี่ยเนี่ยให้่อ
00:30:12 → 00:30:14 incidence ของการติดเชื้อเนี่ยต่ำกว่า
00:30:14 → 00:30:15 การใส่
00:30:15 → 00:30:17 >> ก็อาจจะเป็นเพราะว่าในห้องผ่าตัดมันไฮจีน
00:30:17 → 00:30:17 กว่า
00:30:17 → 00:30:19 >> ใช่ถูกต้องแล้วมันก็ไม่ต้องซ้ำๆอะไรอย่าง
00:30:19 → 00:30:19 งี้ใช่มั้
00:30:19 → 00:30:22 >> มันก็คือทำเสร็จแล้วปุ๊บแผลปิดมันก็จบนะ
00:30:22 → 00:30:23 ครับ
00:30:23 → 00:30:25 >> มีเคสที่น่าสนใจมั้คะ
00:30:25 → 00:30:27 >> มันมีเคสนึงนะฮะเมื่อนานมากแล้วนะครับอัน
00:30:27 → 00:30:30 นี้พูดถึง 40 ปีอะไรเงี้ยแต่ผมยังไม่ได้
00:30:30 → 00:30:32 >> ไม่ได้เป็นหมอตาเตรียมตัวกำลังเรียนอยู่
00:30:32 → 00:30:34 นะที่เชียงใหม่ก็มีคิวเคสนึงที่เขายางรถ
00:30:34 → 00:30:37 ระเบิดแล้วก็ไอ้ฝาครอบล้อนี่มันจลับขึ้น
00:30:37 → 00:30:38 ไปพอดี
00:30:38 → 00:30:40 >> ไม่โดนอย่างอื่นโดนที่กระจกตาเฉยทำไมอ่ะ
00:30:40 → 00:30:42 เพราะมันเป็นจังหวะที่มันนูนออกมาอย่าง
00:30:42 → 00:30:42 เงี้ย
00:30:42 → 00:30:44 >> ใช่มันมันพอดีกันน่ะไม่รู้ทำไมมันตัดเข้า
00:30:44 → 00:30:47 ไปพอตัดเข้าไปปุ๊บเนี่ยดีที่ไม่ทะลุเข้า
00:30:47 → 00:30:50 ลูกตานะฮะกระจกตามีความหนาของมันอยู่
00:30:50 → 00:30:53 >> ไอ้แผ่นนี้มันพอดีเลยเฉือนเข้าไป
00:30:53 → 00:30:54 >> มันไม่กี่มิล
00:30:54 → 00:30:56 >> ไม่เข้าไปไม่ใช่ไม่กี่มิลไม่กี่ไมครอน
00:30:56 → 00:30:57 >> เออ
00:30:57 → 00:31:00 >> ไม่กี่ร้อยไมครอนนะครับก็มาตอนกลางดึกที่
00:31:00 → 00:31:02 ตอนที่เป็นเอ่อผมเป็นอยู่เวรนะครับกลาง
00:31:02 → 00:31:05 คืนห้องฉุกเฉินก็
00:31:05 → 00:31:08 >> ก็เลยเอามาดูว่าทำไงบ้างก็เห็นมันมีเลอะๆ
00:31:08 → 00:31:11 อะไรเต็มไปหมดเลยนะครับแล้วก็ไอ้กระจกตา
00:31:11 → 00:31:15 ก็บวมอยู่อะไรเงี้ยที่มันเป็นแผลมันก็มัน
00:31:15 → 00:31:17 เป็นมันเป็นแผ่นโดยที่มันไม่ได้ขาด 100%
00:31:17 → 00:31:19 มันก็ยุบยู่ๆอยู่นะครับ
00:31:19 → 00:31:19 >> ค่ะ
00:31:19 → 00:31:22 >> เอ่อก็ไม่รู้จะทำไงตอนนั้นไม่เคยเจออัน
00:31:22 → 00:31:26 นี้มาก่อนเลยนะฮะถามรุ่นพี่ก็ไม่เคยเจอมา
00:31:26 → 00:31:29 ก็เลยล้างล้างๆใส่ยาปฏิชีวนะกันติดเชื้อ
00:31:29 → 00:31:32 ล้างสะอาดปิดกลับเข้าไป
00:31:32 → 00:31:35 >> แล้วก็เย็บขอบ
00:31:35 → 00:31:35 เข้าหา
00:31:35 → 00:31:38 >> นะฮะยังนึกว่าตานี้คงใส่แย่ๆแล้วนะครับ
00:31:38 → 00:31:41 แต่ปรากฏว่าพอเช้าขึ้นมาไอ้ตรงนั้นมันใส
00:31:41 → 00:31:43 กลับมาเป็นเหมือนเดิมเป๊ยบเลย
00:31:43 → 00:31:47 >> คือหายเลยแล้วไหมมันก็ยังไงเราตัดออกได้
00:31:47 → 00:31:49 นะตัดเขียออกไม่ยากเพราะมันเส้นมันเล็ก
00:31:49 → 00:31:50 มากนะฮะ
00:31:50 → 00:31:53 >> ก็เลยเอ่อเพิ่งรู้เหมือนกันว่าไอ้กระจกตา
00:31:53 → 00:31:54 เนี่ยมันทนได้เยอะเหมือนกันนะฮะมันถูกแยก
00:31:54 → 00:31:56 ชั้นออกมาได้
00:31:56 → 00:31:58 >> แล้วถึงจะแบบโดนอะไรมาก็ตามเนี่ยวางแปะ
00:31:58 → 00:31:59 กลับเข้าไปเนี่ย
00:31:59 → 00:32:01 >> มันมักจะอยู่ของมันแล้วก็กลับมาเป็นสาย
00:32:01 → 00:32:02 ตามปกติได้
00:32:02 → 00:32:05 >> นะถ้าเราไม่ไปยุ่งกับเซลล์เซลล์ด้านหลัง
00:32:05 → 00:32:08 ของตัวกระจกตานะถ้าอยู่ข้างหน้าเนี่ยมัน
00:32:08 → 00:32:09 >> ทนพอสมควร
00:32:09 → 00:32:11 >> อันนี้คือก่อนเลสิคเลยเหรอ
00:32:11 → 00:32:13 >> ก่อนที่จะมีนานเลยครับผมเพิ่งทำผมทำเลสิค
00:32:13 → 00:32:17 ครั้งแรกเนี่ยเมื่อปี 94 30 ปีะกว่าๆนิด
00:32:18 → 00:32:20 ๆนะครับเอ่อแต่อันนี้มันเกิดขึ้นมา 40 ปี
00:32:20 → 00:32:23 ที่แล้วก็คือก่อนหน้านั้นก่อนหน้านั้นเลย
00:32:23 → 00:32:24 นะฮะ
00:32:24 → 00:32:26 >> เอ่อแต่ว่าเราก็รู้มาก่อนแล้วไงว่าเนี่ย
00:32:26 → 00:32:28 คือการแยกชั้นกระจกตาเนี่ยมันทำได้โดย
00:32:28 → 00:32:29 ปลอดภัย
00:32:29 → 00:32:33 >> นะครับอย่างงี้คุณหมอแนะนำเทคนิคการดูแล
00:32:33 → 00:32:37 ดวงตาแล้วก็สายตาของเราค่ะให้มันแบบไปช้า
00:32:37 → 00:32:37 ที่สุด
00:32:37 → 00:32:40 >> ให้มันไปช้าที่สุดมันไปของมันน่ะนะครับ
00:32:40 → 00:32:42 แต่ว่าอย่าไปเร่งมันก็แล้วกันนะครับก็คือ
00:32:42 → 00:32:44 อย่าไปยุ่งกับมันมากเช่นการขยี้ตาเนี่ย
00:32:44 → 00:32:46 มันควรทำถูกมั้ยฮะ
00:32:46 → 00:32:46 >> อื
00:32:46 → 00:32:49 >> มีมีการนวดบ้างอ่ะมีมีได้ถ้ามุตบางคนไป
00:32:49 → 00:32:52 ตรวจตาแล้วรู้สึกว่าเอ่อเห็นว่าเอคุณจะมี
00:32:53 → 00:32:55 การนวดนิดหน่อยเพื่อให้ไอ้ต่อมน้ำมันที่
00:32:55 → 00:32:57 เปลือกตามันขยะมันflowวดีขึ้นอะไรอย่าง
00:32:57 → 00:33:00 เงี้ยมันก็จะทำได้นะครับอันนี้ก็แล้วแต่
00:33:00 → 00:33:03 ว่าเรามีปัญหาอะไรแค่ไหนนะถ้าไม่มีปัญหา
00:33:03 → 00:33:05 ไม่ต้องไปยุ่งกับมันมากนะครับถ้ารู้สึกตา
00:33:05 → 00:33:08 แห้งบ้างก็ยังหยอดหยอดน้ำตาเทียมถ้ามัน
00:33:08 → 00:33:11 แห้งมากจนกระทั่งผิดสังเกตก็มาหาหมอให้
00:33:11 → 00:33:14 ตรวจดูหน่อยนึงนะฮะแต่ยังไงก็ตามถึงจะเรา
00:33:14 → 00:33:16 ไม่มีอาการอะไรเลยนะฮะเราควรจะมีการตรวจ
00:33:16 → 00:33:18 กับหมอตาเป็นประจำ
00:33:18 → 00:33:18 >> ค่ะ
00:33:18 → 00:33:20 >> นะประจำที่ว่านี่ไม่ต้องบ่อยนะครับถ้า
00:33:20 → 00:33:23 เผื่ออายุยังไม่มากนักจะสัก 2 ปีครั้ง
00:33:23 → 00:33:24 >> อื
00:33:24 → 00:33:27 >> นะครับถ้าเผื่อ 40 ไปแล้วเนี่ยน่าจะตรวจ
00:33:27 → 00:33:28 ปีละครั้ง
00:33:28 → 00:33:30 >> ก็แอดไปในการตรวจสุขภาพประจำปีไปเลยเนาะ
00:33:30 → 00:33:31 รวมไปเลย
00:33:31 → 00:33:33 >> เอ่อได้ครับทีนี้มันอยู่ที่ว่าสุขภาพ
00:33:33 → 00:33:36 ประจำปีเนี่ยในแพ็คเกจเนี่ยเดูละเอียดแค่
00:33:36 → 00:33:40 ไหนใช่นะค่ะที่เราต้องดูจริงๆคือเรื่องติ
00:33:40 → 00:33:40 >> อื
00:33:40 → 00:33:42 >> นะฮะต้อหินเนี่ยมันเกิดไม่บ่อย
00:33:42 → 00:33:44 >> นะฮะจริงๆแล้วไม่ถึงเปอร์เซ็นต์อ่ะนะครับ
00:33:44 → 00:33:46 แต่ว่า
00:33:46 → 00:33:48 >> เอ่อเวลามันเป็นแล้วเนี่ยแล้วไม่รู้ตัว
00:33:48 → 00:33:50 เนี่ยมันเป็นไปเรื่อยๆจนกระทั่งตาบอดแล้ว
00:33:50 → 00:33:51 เอาคืนไม่ได้
00:33:51 → 00:33:53 >> นะไม่เหมือนต้ออื่นอย่างเช่นต้อกระจกหรือ
00:33:53 → 00:33:56 ว่าต้ออื่นที่มันไม่มันสบายนะครับเอ่อแก้
00:33:56 → 00:33:59 ได้อะไรเงี้ยแล้วกลับมาเห็นได้แต่ว่าต้อ
00:33:59 → 00:34:02 หินไม่ได้เพราะฉะนั้นการตรวจที่สำคัญคือ
00:34:02 → 00:34:05 ท็อปเลยก็คือการตรวจต้อหินดังนั้นก็จะมี
00:34:05 → 00:34:07 เรื่องคำเสริมของชาวพระสาตารอบรอบบ้างตรง
00:34:07 → 00:34:08 กลางบ้างอะไรทั้งหลาย
00:34:08 → 00:34:11 >> เราควรจะมีแบบว่าเบรกพักสายตาระหว่างวัน
00:34:11 → 00:34:12 อะไรอย่างเงี้ยมั้พ
00:34:12 → 00:34:15 >> นี่ครับเอิ่มตาคุณครูไม่เป็นไรขึ้นมานอก
00:34:15 → 00:34:17 จากแห้งนะฮะถ้าเราโอuseนะครับแต่ว่าการ
00:34:17 → 00:34:19 พักมันทำให้เราใช้ได้ทนขึ้นแล้วก็สบาย
00:34:19 → 00:34:23 ขึ้นนะฮะการพักเนี่ยเคยได้ยินเอ่อสูตรที่
00:34:23 → 00:34:25 เรียกว่า 20 20 มั้ฮะ
00:34:25 → 00:34:26 >> อืยังไงคะคุณหมอ
00:34:26 → 00:34:27 >> เบอกว่าอย่างงี้
00:34:27 → 00:34:30 >> ใช้ 20 แล้วนอน 20
00:34:30 → 00:34:33 >> ใช้ 20 นาทีพัก 20 วินาทีนะครับ
00:34:33 → 00:34:34 >> ออ
00:34:34 → 00:34:36 >> โดยที่มองไปไกลๆเกินสัก 20 อ่า
00:34:36 → 00:34:39 >> ฟุขึ้นไปฟุดนะฮะแต่จริงๆก็แล้วแต่ฮะ
00:34:39 → 00:34:41 >> แล้วถ้าเจ้านายเจ้านายมาเห็นเราตอน 20
00:34:42 → 00:34:45 วินาทีทำไงอ่ะคุณหมอ
00:34:45 → 00:34:46 >> มองไปไกลๆใช่มั้
00:34:46 → 00:34:47 >> ช่วงแบบว่าเอง
00:34:47 → 00:34:48 >> เออตอนเราตั้งใจทำงานก็
00:34:49 → 00:34:50 >> มองมองไปทางโต๊ะเจ้านายครับ
00:34:50 → 00:34:51 >> โอเค
00:34:51 → 00:34:54 >> ดูว่าเมาหันมาหรือเปล่า
00:34:54 → 00:34:56 เอ่อไม่ฮะแต่ก็ก็คงต้องทราบก็ไอ้นี่คือ
00:34:56 → 00:35:00 คือหลักการที่ดีที่จะทำให้เราไม่ล้า
00:35:00 → 00:35:00 >> อ่า
00:35:00 → 00:35:03 >> แต่ความล้าก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย
00:35:03 → 00:35:05 ขึ้นมานะครับแขงเพียงแต่ว่า
00:35:05 → 00:35:06 >> หลับได้ครับับได้อือจริงๆแล้วผมชอบให้
00:35:07 → 00:35:09 หลับตามากกว่าไอ้ 20 พุทธที่ว่าเนี่ย
00:35:09 → 00:35:12 >> ก็คือว่าทุกๆสัก 20 นาทีหลับตาสักครึ่ง
00:35:12 → 00:35:13 นาที
00:35:13 → 00:35:13 >> อือ
00:35:13 → 00:35:14 >> แค่นี้พอ
00:35:14 → 00:35:14 >> ค่ะ
00:35:14 → 00:35:17 >> นี่ผมมีเอ่อชาร์จ 2-3 อย่างมานะฮะคุณผู้
00:35:17 → 00:35:19 ชมทราบมั้ว่าตาเราเนี่ยมีข้างนึงที่ถนับ
00:35:19 → 00:35:20 ไปอีกข้างนึง
00:35:20 → 00:35:22 >> จริงหรอคะ
00:35:22 → 00:35:22 >> เหมือนแขน
00:35:22 → 00:35:23 >> อ่า
00:35:23 → 00:35:24 >> ถูกมั้ฮะ
00:35:24 → 00:35:27 >> เอ่อตาเรามีถนัดอยู่ข้างนึงนะเราทดสอบได้
00:35:27 → 00:35:28 นะเดี๋ยวลองดูนะครับ
00:35:28 → 00:35:31 >> คนส่วนมากจะถนัดข้างไหนคะป่า
00:35:31 → 00:35:33 >> ส่วนใหญ่เป็นข้างขวาแต่ว่าเปอร์เซ็นต์ไม่
00:35:33 → 00:35:36 ได้สูงเท่าคนที่ถนัดมือขวาแล้วก็ไม่แน่
00:35:36 → 00:35:37 ด้วยบางคนถนัดมือขวา
00:35:37 → 00:35:39 >> ไม่ได้เกี่ยวว่าถนัดมือขวาจะถนัดตาขวา
00:35:39 → 00:35:41 >> ใช่ถูกต้องคุณผู้ชมลองถืออะไรอย่างงี้นะ
00:35:41 → 00:35:44 ครับแล้วก็ลองเล็งอะไรสักอย่างนึงนะครับ
00:35:44 → 00:35:45 ตรงด้านหลังเนี่ย
00:35:45 → 00:35:48 >> เล็งเล็งนี่มจอมึงต้านลืมตาอ้า 2 ข้าง
00:35:48 → 00:35:52 แล้วก็มองที่จุดเล็กๆตรงไหนสักแห่งนึงก็
00:35:52 → 00:35:54 ได้ครับเอาเอาไอ
00:35:54 → 00:35:56 >> เทปที่อยู่บนจอนี่ก็ได้นะครับ
00:35:56 → 00:35:56 >> อ่า
00:35:56 → 00:35:59 >> ให้เห็นโดยที่ไม่รับตานี้ไม่มองทะลุก็มอง
00:35:59 → 00:36:00 ไม่ชัดล่ะค่ะ
00:36:00 → 00:36:03 >> ลืมลืมตา 2 ข้างอ่ะมาลองดูสิครับ
00:36:03 → 00:36:06 >> จับ 2 มือจับ 2 มืออ่าอย่างงั้นครับดีมาก
00:36:06 → 00:36:08 นะฮะเห็นแต่เทปตรงนั้น
00:36:08 → 00:36:09 >> เห็นแต่เบอร์ค่ะ
00:36:09 → 00:36:09 >> ครับ
00:36:09 → 00:36:10 >> แล้วทำไงต่อ
00:36:10 → 00:36:11 >> เห็นแต่เบอร์ด้วยเหรอฮะ
00:36:11 → 00:36:11 >> ใช่
00:36:11 → 00:36:15 >> โอเคงั้นลองหลับตาขวานิดนึงหลับตาขวายัง
00:36:15 → 00:36:17 เห็นอยู่มั้ยครับไม่เห็นแล้ว
00:36:17 → 00:36:18 >> เห็นค่ะเห็น
00:36:18 → 00:36:19 >> อ่ะงั้นหลับตาซ้าย
00:36:19 → 00:36:20 >> อ๋อแต่ตาซ้ายไม่เห็นแล้ว
00:36:21 → 00:36:21 >> ไม่เห็นแล้ว
00:36:21 → 00:36:23 >> หมายถึงว่ามันไม่อยู่ในรูไปเลยอ่ะ
00:36:23 → 00:36:27 >> ใช่ครับเพราะงั้นโดยโดยธรรมชาติเนี่ย
00:36:27 → 00:36:28 >> แปลว่าเราใช้ตาซ้ายเล็ง
00:36:28 → 00:36:31 >> ถูกต้องแต่ว่าคุณผู้ชมอ่ะใช้ตาซ้ายเล็ง
00:36:31 → 00:36:33 ตามตามโดยที่ไม่ได้ถูกบังคับอะไรเลยใช้ตา
00:36:33 → 00:36:37 ซ้ายเล็งนะอโอเคตาเป็นข้างเด่นจริงๆแล้ว
00:36:37 → 00:36:39 การเทสอันนี้ต้องต้องใส่แว่นก่อนนะครับ
00:36:39 → 00:36:41 ใส่ให้มันชัดเต็มที่แล้วค่อยทำนะเพราะมัน
00:36:41 → 00:36:44 จะได้มันไม่ได้ไอ้ความเบลอหรืออะไรมันจะ
00:36:44 → 00:36:47 ได้ไม่มีผลแต่ว่าถ้าโดยรวมอย่างเงี้ยก็
00:36:47 → 00:36:48 คือตาทรายเด่น
00:36:48 → 00:36:51 >> อันนี้มันมีผลไปถึงตอนตอนพิจารณาผ่าตัด
00:36:51 → 00:36:53 นิดนึงเวลาที่เราอยากจะทำแบบmonชที่เรา
00:36:53 → 00:36:55 พูดถึงเมื่อกี้เนี่ยนะครับ
00:36:55 → 00:36:58 >> เราจะเอาข้างที่เด่นเนี่ยไปมองไกล
00:36:58 → 00:36:58 >> อื
00:36:58 → 00:37:00 >> นะครับแล้วก็เอาข้างที่ไม่เด่นเนี่ย
00:37:00 → 00:37:03 >> ให้มองไกลนะครับมันจะได้มีปัญหากับการมอง
00:37:03 → 00:37:06 ไกลน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
00:37:06 → 00:37:07 ไม่เอาอย่างงั้น
00:37:07 → 00:37:09 >> วันนี้นะคะก็ได้ความรู้ดีๆเยอะเลยนะคะ
00:37:09 → 00:37:13 แล้วก็สำหรับใครนะคะที่เอ่อมีข้อสงสัยนะ
00:37:13 → 00:37:15 คะอยากจะให้ชมเนี่ยทำคเทนเกี่ยวกับเรื่อง
00:37:15 → 00:37:17 สุขภาพเรื่องไหนนะคะแชร์มาบอกกันได้เลย
00:37:17 → 00:37:20 ค่ะหรือว่าดูคเทนนี้นะคะจบแล้วเนี่ยชอบ
00:37:20 → 00:37:22 อะไรหรือว่าไม่ชอบอะไรเนี่ยนะคะก็เม้นต์
00:37:22 → 00:37:25 มาบอกกันได้เลยค่ะเพราะว่ารายการเรานะคะ
00:37:25 → 00:37:27 เราอยากที่จะพัฒนานะคะแล้วก็ปรับปรุงราย
00:37:27 → 00:37:29 การให้ดียิ่งๆขึ้นไปนะคะแล้วก็จะได้มี
00:37:29 → 00:37:32 สุขภาพที่ดีไปด้วยกันค่ะและที่สำคัญนะคะ
00:37:32 → 00:37:34 ฝากกดไลค์กดแชร์นะคะแล้วก็กด Subscribe
00:37:35 → 00:37:36 เป็นกำลังใจให้กับช่อง Life Do ของเรา
00:37:36 → 00:37:40 ด้วยนะคะและปลายปีนี้ค่ะเราจะมีงานใหญ่นะ
00:37:40 → 00:37:42 คะเพื่อคนรักสุขภาพนะคะ Live Expo ค่ะก็
00:37:42 → 00:37:45 จะเป็นงานมหกรรมนะคะชีวิตแล้วก็สุขภาพนะ
00:37:45 → 00:37:48 คะที่ครบวงจรที่สุดเลยนะคะก็ฝากติดตาม
00:37:48 → 00:37:49 ด้วยก็แล้วกัน
00:37:49 → 00:37:55 [เพลง]