00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับหลายคนนะครับอาจจะเคยได้ยินว่า
00:00:03 → 00:00:07 การลดคอเลสเตอรอลมากๆเนี่ยสามารถที่จะทำ
00:00:07 → 00:00:10 ให้เรามีปัญหาเรื่องของสมองเสื่อมได้แล้ว
00:00:10 → 00:00:13 ก็อาจจะทำให้เราเนี่ยมีการเกิดเลือดออกใน
00:00:13 → 00:00:17 สมองได้เวลาไปเห็นข้อมูลแบบนี้มาก็เลยทำ
00:00:17 → 00:00:20 ให้หลายๆคนเนี่ยกังวลใจในการกินยาลดไขมัน
00:00:20 → 00:00:22 โดยเฉพาะยาสแตติน
00:00:22 → 00:00:25 ข้อมูลเหล่านี้หลายครั้งนะครับออกมาจาก
00:00:25 → 00:00:28 influencer ต่างๆแล้วก็มีบางครั้งด้วย
00:00:28 → 00:00:31 ที่ออกมาจากหมอเองนี่แหละครับที่สำคัญไม่
00:00:31 → 00:00:34 ใช่หมอธรรมดานะครับแต่เป็นหมอที่มี
00:00:34 → 00:00:36 ตำแหน่งทางวิชาการค่อนข้างที่จะสูงเลยที
00:00:36 → 00:00:39 เดียวทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้นไป
00:00:39 → 00:00:41 ใหญ่นะครับวันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่อง
00:00:41 → 00:00:44 นี้มาเล่าให้เราฟังนะครับเพราะว่ามันมี
00:00:44 → 00:00:49 การทบทวนวรรณกรรมทางวิชาการอย่างเรียกว่า
00:00:49 → 00:00:51 ลึกซึ้งเลยทีเดียวนะครับเพื่อจะตอบคำถาม
00:00:51 → 00:00:53 นี้โดยเฉพาะนะฮะก็เดี๋ยวลองฟังกันดูเลยนะ
00:00:54 → 00:00:56 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวรรณนะ
00:00:56 → 00:00:58 ครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:58 → 00:01:00 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:01:00 → 00:01:02 วิกฤตบำบัดครับ
00:01:03 → 00:01:05 ประเด็นนี้เนี่ยไม่ใช่มีแค่ประเทศไทยเท่า
00:01:05 → 00:01:08 นั้นนะครับที่กังวลกันที่ต่างประเทศก็มี
00:01:08 → 00:01:11 กรรมความกังวลเหมือนกันเพราะว่ามันมีงาน
00:01:11 → 00:01:15 วิจัยบางอย่างนะครับที่พบว่าถ้าเราลด
00:01:15 → 00:01:17 คอเลสเตอรอลโดยเฉพาะ ldl คอเลสเตอรอลของ
00:01:18 → 00:01:21 เราเนี่ยลงต่ำแล้วเราเจอว่าอาจจะมีการมี
00:01:21 → 00:01:24 ความเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะความจำ
00:01:24 → 00:01:28 เสื่อมได้แล้วก็มีงานวิจัยบางอันที่ออกมา
00:01:28 → 00:01:33 บอกว่าเออมันเจอว่าคนที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ
00:01:33 → 00:01:35 ๆเนี่ยนะครับ ldl collectrol ต่ำๆอาจจะ
00:01:35 → 00:01:40 ทำให้เราเกิดปัญหาเลือดออกในสมองได้ทีนี้
00:01:40 → 00:01:44 กูรูหลายๆคนที่ถ้ำทองเรื่องของอาหารเสริม
00:01:44 → 00:01:48 นะครับก็ยิ้มเลยสิครับว่าเฮ้ยถ้าเรา ldl
00:01:48 → 00:01:51 สูงเนี่ยนะมันน่าจะดีต่อสมองนะครับแล้ว
00:01:51 → 00:01:55 ยิ่งสูงมันยิ่งดีก็เลยเป็นที่มาของปัญหา
00:01:55 → 00:01:57 อย่างนี้แล้วยิ่งมีคนออกมายืนยันมีหมอออก
00:01:57 → 00:01:59 มาพูดอีกว่าเอ้ยน่าจะเป็นอย่างนั้นก็เลย
00:01:59 → 00:02:02 สับสนกันไปใหญ่นะครับทีนี้ไอ้ความคิดแบบ
00:02:02 → 00:02:04 นี้มันเริ่มมายังไงนะครับจริงๆก่อนที่จะ
00:02:04 → 00:02:07 เริ่มเรื่องของงานวิจัยพวกนี้นะครับมันมี
00:02:07 → 00:02:11 ที่มาแบบนี้ครับสมองคนเราเนี่ยนะครับ
00:02:11 → 00:02:15 25% น่ะคือ 25% ของคอเลสเตอรอลของทาง
00:02:15 → 00:02:17 ร่างกายเนี่ยทำมันอยู่ที่หัวอยู่ที่สมอง
00:02:17 → 00:02:21 ของเรานะครับก็เลยเป็นอวัยวะที่มีไขมัน
00:02:21 → 00:02:24 คอเลสเตอรอลสูงที่สุดในร่างกายนะครับแล้ว
00:02:24 → 00:02:26 คอเลสเตอรอลเหล่านั้นเนี่ยก็เป็นส่วน
00:02:26 → 00:02:29 ประกอบหลักของสมองเลยนะฮะเลยเป็นสิ่งที่
00:02:29 → 00:02:32 ทำให้หลายๆคนคิดว่าถ้าเราไปลดคอเลสเตอรอล
00:02:32 → 00:02:35 ในร่างกายมันจะทำให้คอเลสเตอรอลในสมองของ
00:02:35 → 00:02:38 เราหรือไขมันในสมองของเราหายไปด้วยมันน่า
00:02:38 → 00:02:41 จะต้องมีผลต่อโครงสร้างของสมองหรือการทำ
00:02:41 → 00:02:43 งานของสมองอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นแหละครับ
00:02:43 → 00:02:47 ที่ทำให้เกิดปัญหาได้แล้วก็นี่เองน่าจะ
00:02:47 → 00:02:49 เป็นตัวที่ทำให้เกิดเรื่องของความจำ
00:02:49 → 00:02:52 เสื่อมหรือเลือดออกในสมองตามมา
00:02:52 → 00:02:55 ทีนี้ก็วุ่นกันเลยสิครับถูกไหมครับเพราะ
00:02:55 → 00:02:59 ว่าผมเคยเอาเรื่องนี้มาอธิบายให้ฟังหลาย
00:03:00 → 00:03:02 รอบแล้วแล้วก็มีหลายๆคนสอบถามกันเข้ามานะ
00:03:02 → 00:03:06 ครับว่าเออการกินยา statin การใช้ยาลดไข
00:03:06 → 00:03:09 มันหรือว่าทำอย่างอื่นเพื่อที่จะลดไอ้ไข
00:03:09 → 00:03:12 มันเนี่ยมันจะทำให้มีปัญหาต่อสมองจริงแค่
00:03:12 → 00:03:16 ไหนนะครับจนผมก็ต้องไปนั่งค้นหลักฐานแต่
00:03:16 → 00:03:19 ละอันมายืนยันนะครับแต่ว่าตอนนี้ไม่ต้อง
00:03:19 → 00:03:20 อีกต่อไปแล้วครับเพราะว่า
00:03:20 → 00:03:23 มี American Heart association นะครับ
00:03:23 → 00:03:26 เขาเพิ่งจะรวบรวมหลักฐานเรื่องเกี่ยวข้อง
00:03:26 → 00:03:29 กับอันนี้เรื่องเกี่ยวข้องกับไขมัน ldl
00:03:29 → 00:03:31 คอเลสเตอรอลนะครับแล้วก็ปัญหาทางด้านสมอง
00:03:31 → 00:03:35 ทั้งหมดนะครับมารวมไว้ในแถลงการณ์ฉบับ
00:03:35 → 00:03:39 เดียวซึ่งผมอ่านแล้วเป็นงานที่รวบรวม
00:03:39 → 00:03:42 วารสารทางวิชาการที่เรียกว่าครบถ้วนมากๆ
00:03:42 → 00:03:46 ตอบทุกแง่ทุกมุมเลยนะครับแล้วอเมริกาฮ่ะ
00:03:46 → 00:03:51 คือเป็นองค์กรใหญ่ระดับโลกเลยนะครับที่
00:03:51 → 00:03:53 เขาเน้นเรื่องของโรคหัวใจแล้วก็หลอดเลือด
00:03:54 → 00:03:56 รวมทั้งไขมันคอเลสเตอรอลทั้งหมดเลยไม่ว่า
00:03:56 → 00:03:58 จะเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับ
00:03:58 → 00:04:01 พวกนี้รวมทั้งโรคทางเส้นเลือดสมองด้วยนะ
00:04:01 → 00:04:03 ครับอยู่ในอยู่ในแถลงการณ์ฉบับนี้เลยครับ
00:04:03 → 00:04:06 เขียนแบบละเอียดมากนะครับดังนั้นแล้ว
00:04:06 → 00:04:11 เนี่ยถ้าใครคิดว่าเอ่อมีเวลาผมอยากจะให้
00:04:11 → 00:04:13 ไปอ่านเอกสารฉบับนี้นะครับแล้วผมจะทิ้ง
00:04:13 → 00:04:17 ลิงก์ไว้ให้ด้วยนะครับในการวิเคราะห์ของ
00:04:17 → 00:04:19 เขาทั้งหมดเนี่ยเขาเอาหลักฐานทางวิชาการ
00:04:19 → 00:04:21 มาพูดทั้งหมดเลยนะครับและสิ่งที่เขาเจอ
00:04:21 → 00:04:23 มันเป็นอย่างนี้ครับ
00:04:23 → 00:04:27 อย่างแรกเรื่องของความจำเสื่อมแล้วก็ทาง
00:04:27 → 00:04:30 ด้านของพฤติกรรมอะไรพวกนี้นะครับก็พบว่า
00:04:30 → 00:04:33 มันมีหลักฐานทางวิชาการบางอย่างบ่งบอกว่า
00:04:33 → 00:04:37 การที่ไปลดคอเลสเตอรอลนะครับอาจจะพอมีผล
00:04:37 → 00:04:40 ต่อทางด้านความจำเสื่อมอย่างไรก็ตามตรง
00:04:40 → 00:04:44 นี้สำคัญแล้วหลักฐานส่วนมากนะครับหลักฐาน
00:04:44 → 00:04:47 ส่วนมากยังชี้ไปในทางที่บอกว่ามันไม่มี
00:04:47 → 00:04:50 ความเกี่ยวข้องกันนะครับทีนี้เวลาที่เรา
00:04:50 → 00:04:52 มีหลักฐาน 2 ฝ่ายฝ่ายหนึ่งบอกว่าเกี่ยว
00:04:52 → 00:04:54 ฝ่ายหนึ่งบอกว่าไม่เกี่ยวเราต้องดูคุณภาพ
00:04:54 → 00:04:59 ของหลักฐานและปริมาณของหลักฐานนะครับ 2
00:04:59 → 00:05:01 อย่างนี้คุณภาพมันคล้ายๆกันแต่ว่าปริมาณ
00:05:01 → 00:05:04 ของงานวิจัยที่ออกมาบอกว่ามันไม่ได้
00:05:04 → 00:05:07 เกี่ยวข้องกับเรื่องของความจำเสื่อมนั้น
00:05:07 → 00:05:10 มันสูงกว่าดังนั้นในปัจจุบันนี้เรื่องของ
00:05:10 → 00:05:14 ความจำเนี่ยนะครับเราไม่ได้คิดว่าการไปลด
00:05:14 → 00:05:17 คอเลสเตอรอลด้วยยา statin หรือด้วยยาตัว
00:05:17 → 00:05:19 อื่นเช่น Asset Map นะครับหรือ
00:05:19 → 00:05:23 Development pcs K9 netter พวกนี้
00:05:23 → 00:05:25 จะทำให้เกิดปัญหาทางด้านของความจำเสื่อม
00:05:25 → 00:05:27 ก่อนวัยครับ
00:05:27 → 00:05:31 และตรงนี้มันสำคัญสำคัญยังไงนะครับหลายๆ
00:05:31 → 00:05:33 คนที่มีความจำเสื่อมเนี่ยก็กลัวเวลาที่
00:05:33 → 00:05:35 เราไปฟังข้อมูลอันนี้เพราะว่าบางครั้งเรา
00:05:35 → 00:05:38 ไปได้ยินมาจากคุณหมอทางด้านระบบประสาทเลย
00:05:38 → 00:05:41 โดยตรงเลยนะครับเป็นระดับบิ๊กๆเลยนะฮะ
00:05:41 → 00:05:45 ชื่อดังนะครับเราก็กังวลสิครับว่าเฮ้ย
00:05:45 → 00:05:47 ขนาดหมอระบบสมองเนี่ยยังบอกแบบนี้เลยว่า
00:05:47 → 00:05:49 เราไม่ควรกินนะไม่งั้นเดี๋ยวความจำเสื่อม
00:05:49 → 00:05:52 ไม่ใช่นะครับจริงๆเราต้องไปดูข้อมูลแล้ว
00:05:52 → 00:05:55 ก็กรณีของอเมริกันฮาร์ดแอสโซซิชั่นเขารวบ
00:05:55 → 00:05:59 รวมข้อมูลทั้งหมดมาพบกันเลยนะครับมันแปล
00:05:59 → 00:06:03 ว่าอะไรมันสำคัญตรงนี้ครับว่าเรารู้ชัด
00:06:03 → 00:06:07 แน่ๆว่าการลดระดับคอเลสเตอรอล ldl ลง
00:06:07 → 00:06:11 เป็นการป้องกันไม่ให้เราเกิดเส้นเลือดตีบ
00:06:11 → 00:06:14 ในสมองป้องกันการเกิด Stroke ต้องการการ
00:06:14 → 00:06:16 เกิดหลอดเลือดส่วนปลายอุดตันป้องกันการ
00:06:16 → 00:06:19 เกิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันแน่นอนอันนี้
00:06:19 → 00:06:23 เถียงไม่ได้ข้อมูลชัดเจนแบบ 100% นะครับ
00:06:23 → 00:06:27 ทีนี้เมื่อเราเอาเรื่องประโยชน์ของการลด
00:06:27 → 00:06:30 ไขมันมารวมกับเรื่องของโอกาสในการเกิด
00:06:30 → 00:06:32 ความจำเสื่อมแล้วล่ะก็เราจะเจอแบบนี้ครับ
00:06:32 → 00:06:35 โอกาสในการเกิดความจำเสื่อมจากการลดไขมัน
00:06:35 → 00:06:39 คอเลสเตอรอล ldl ตัวนี้นะครับมันไม่ชัด
00:06:39 → 00:06:42 เจนแล้วที่สำคัญหลักฐานมันโน้มเอียงไปใน
00:06:42 → 00:06:45 ทางที่ว่าการลดคอเลสเตอรอลไม่ได้ทำให้
00:06:45 → 00:06:48 เกิดปัญหาเรื่องของความจำเสื่อมทีนี้
00:06:48 → 00:06:52 ระดับก็ประโยชน์ของคอเลสเตอรอลที่เราลดลง
00:06:52 → 00:06:55 ไปเนี่ยมันสูงกว่าชัดเจนเวลาที่เรามา
00:06:55 → 00:06:57 พิจารณาในกรณีของคนไข้หรือถ้าเราเป็นคน
00:06:57 → 00:07:02 ไข้เองนะครับเราต้องคิดอย่างนี้ถ้าเรามี
00:07:02 → 00:07:04 ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดพวกนี้
00:07:04 → 00:07:10 อุดตันมากๆนะครับอ่าเราควรจะต้องทำการลด
00:07:10 → 00:07:12 ระดับคอเลสเตอรอลลงมานะครับปัจจัยเสี่ยง
00:07:12 → 00:07:14 ความเสี่ยงที่เกิดจากการลดคอเลสเตอรอล
00:07:14 → 00:07:16 นั้นเรียกได้ว่าน้อยมากโดยเฉพาะทางด้าน
00:07:16 → 00:07:19 ปัญหาต่อสมองอันนี้ถือว่าน้อยนะครับถือ
00:07:19 → 00:07:21 ว่าน้อยมากๆเลยจริงๆแล้วก็หลักฐานเนี่ย
00:07:21 → 00:07:23 มันชี้ไปในทางที่ไม่มีความเสี่ยงซะมาก
00:07:24 → 00:07:25 กว่านะครับอันนี้คือเป็นสิ่งที่เราต้อง
00:07:25 → 00:07:27 เอามาคิดนะฮะ
00:07:27 → 00:07:30 ทีนี้มาถึงประเด็นที่ 2 แล้วประเด็นที่
00:07:30 → 00:07:33 เกิดเลือดออกในสมองจากการใช้ statin อัน
00:07:33 → 00:07:36 นี้เขาก็รวบรวมหลักฐานเยอะมากเหมือนกันนะ
00:07:36 → 00:07:42 ครับเราไปเจอว่าคนที่ไม่เคยเกิดเส้นเลือด
00:07:42 → 00:07:44 ในสมองแตกหรือว่ามีเลือดออกในสมองมาก่อน
00:07:44 → 00:07:45 นะครับ
00:07:45 → 00:07:50 การใช้ยาอะไรก็แล้วแต่ที่ไปลดคอเลสเตอรอล
00:07:50 → 00:07:52 ลงมาเนี่ยไม่ได้ทำให้เกิดเลือดออกในสมอง
00:07:52 → 00:07:54 เพิ่มขึ้นครับ
00:07:54 → 00:07:57 มันตรงข้ามกับสิ่งที่เราได้ยินมาแล้วมัน
00:07:57 → 00:08:01 ตรงข้ามกันแล้วนะครับแล้วที่สำคัญคือเขา
00:08:01 → 00:08:04 พบว่าคนเหล่านี้เนี่ยจริงๆมีงานวิจัยอัน
00:08:04 → 00:08:07 นึงที่เขาใช้ยาชื่อว่า pcs k9d Inverter
00:08:07 → 00:08:12 จนระดับ ldl คอเลสเตอรอลเนี่ยต่ำกว่า 30
00:08:12 → 00:08:16 ต่ำมากๆเลยนะครับต่ำกว่า 30 นี่ต่ำมากๆก็
00:08:16 → 00:08:19 ไม่พบว่าคนเหล่านี้เกิดเลือดออกในสมอง
00:08:19 → 00:08:22 เพิ่มขึ้นขนาดต่ำแบบนั้นยังไม่เจอเลยนะ
00:08:22 → 00:08:24 ครับว่ามันเป็นแบบนั้นได้
00:08:24 → 00:08:27 ดังนั้นคนที่
00:08:27 → 00:08:30 ไม่เคยเป็น Stroke มาก่อนนะครับไม่เคยมี
00:08:30 → 00:08:33 ประวัติว่ามีเส้นเลือดสมองตีบแต่อย่างใด
00:08:33 → 00:08:37 เนี่ยถ้าดูรวมๆแล้วนะครับท่านที่มีความ
00:08:37 → 00:08:39 เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดสมองตีบความ
00:08:39 → 00:08:42 เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจที่มีเส้นเลือด
00:08:42 → 00:08:44 หัวใจอุดตันหรือว่าความเสี่ยงในการเกิด
00:08:44 → 00:08:47 หลอดเลือดส่วนปลายอุดตันการใช้ยาเพื่อที่
00:08:47 → 00:08:49 จะลดคอเลสเตอรอลลงมายังได้ประโยชน์ในการ
00:08:49 → 00:08:54 ป้องกันปัญหาต่างๆมากกว่าอย่างชัดเจนมาก
00:08:54 → 00:08:59 กว่าอย่างชัดเจนนะครับแต่มีประเด็นหนึ่ง
00:08:59 → 00:09:02 ซึ่งจำเป็นจะต้องถกกันในอนาคตแล้วก็หลัก
00:09:02 → 00:09:05 ฐานเนี่ยมันยังไม่ชัดเจนประเด็นนั้นก็คือ
00:09:05 → 00:09:08 คนที่เคยมีเลือดออกในสมองเรียบร้อยแล้วใน
00:09:08 → 00:09:11 อดีตนะครับคนเหล่านี้เนี่ยข้อมูลยังไม่
00:09:11 → 00:09:14 ชัดเจนว่าการไปลดคอเลสเตอรอลในคนที่เคยมี
00:09:14 → 00:09:17 เลือดออกในสมองมันจะปลอดภัยไหมมันจะทำให้
00:09:17 → 00:09:20 เกิดเลือดออกในสมองในอนาคตหรือไม่นะครับ
00:09:20 → 00:09:23 ตรงนี้เนี่ยข้อมูลยังไม่เพียงพอให้บอกว่า
00:09:23 → 00:09:24 เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับไม่ว่าจะบอก
00:09:24 → 00:09:28 ว่าเออการกินยาสแตนตินหรือว่าการเป็นลดไข
00:09:28 → 00:09:30 มัน ldl หลังจากที่เราเคยมีเลือดออกใน
00:09:30 → 00:09:33 สมองแล้วมันจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้นหรือ
00:09:33 → 00:09:36 มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นตรงนี้ยังหาข้อสรุป
00:09:36 → 00:09:39 ไม่ได้นะครับดังนั้นถ้าเกิดคนไหนที่คิด
00:09:39 → 00:09:41 ว่าตัวเองเนี่ยแนะนำว่าเฮ้ยยา statin
00:09:41 → 00:09:44 หรือยา pcs Knight ยา ssmap พวกนี้มันไป
00:09:44 → 00:09:47 ลดคอเลสเตอรอล ldl เยอะๆแล้วทำให้เกิด
00:09:47 → 00:09:50 ปัญหาต่อสมองนะครับท่านไม่ได้ต้องมาต้อง
00:09:50 → 00:09:52 สู้กับผมนะครับท่านต้องไปสู้กับ American
00:09:52 → 00:09:55 Heart associations ท่านต้องไปสู้กับ
00:09:55 → 00:09:57 เขาด้วยข้อมูลทางวิชาการซึ่งเขารวบรวมมา
00:09:57 → 00:10:00 ทั้งโลกถ้าท่านคิดว่าท่านแน่จริงแล้ว
00:10:00 → 00:10:02 สามารถที่จะ
00:10:02 → 00:10:05 สู้กับเขาได้เอาเลยครับตามสบายเราสามารถ
00:10:05 → 00:10:07 ที่จะตีพิมพ์งานวิจัยออกมาเพื่อตอบตัวเขา
00:10:07 → 00:10:10 นี่ท่านจะได้เป็นคนที่ระดับโลกเลยจริงๆนะ
00:10:10 → 00:10:13 ครับไม่ว่าท่านจะดังแค่ไหนแต่ว่าผมเชื่อ
00:10:13 → 00:10:17 ว่าการที่จะเอาหลักฐานทางวิชาการมาพูดคุย
00:10:17 → 00:10:19 มาต่อสู้ซึ่งกันและกันเนี่ยมันเป็นสิ่ง
00:10:19 → 00:10:22 ที่สำคัญที่สุดนะครับเราจะไม่ใช่บอกว่า
00:10:22 → 00:10:25 เออเราเป็นเจ้าพ่อทางด้านของเรื่องของไข
00:10:25 → 00:10:28 มันเจ้าพ่อเรื่องของโรคสมองเสื่อมเจ้าพ่อ
00:10:28 → 00:10:29 เรื่องของอะไรสักอย่างเราเป็นหมอดังระดับ
00:10:29 → 00:10:34 โลกเลยแต่ความดังระดับโลกมันก็สู้หลักฐาน
00:10:34 → 00:10:37 ทางวิชาการระดับโลกไม่ได้ครับนะ
00:10:37 → 00:10:39 ดังนั้นเรื่องพวกนี้เนี่ยไม่จำเป็นจะต้อง
00:10:39 → 00:10:41 ต่อสู้อะไรกับผมเลยไม่จำเป็นต้องมาคัด
00:10:41 → 00:10:43 ค้านสิ่งที่ผมเล่าในวันนี้ท่านไปอ่านหลัก
00:10:43 → 00:10:46 ฐานทางวิชาการของอเมริกันและสูสีชันแล้ว
00:10:46 → 00:10:48 ถ้าท่านมีข้อแย้งท่านสามารถที่จะเขียนงาน
00:10:48 → 00:10:50 ของท่านแล้วเอาไปโต้แย้งกับเขาได้แล้วดู
00:10:50 → 00:10:53 ซิว่าเออหลักฐานของคนไหนเนี่ยมันจะครบมาก
00:10:53 → 00:10:56 กว่ากันนะครับอ่าเล่ามาถึงตรงนี้แล้วผม
00:10:56 → 00:10:59 อยากเล่าเพิ่มอีกนิดนึงแล้วกันคือ
00:10:59 → 00:11:02 ปัจจุบันเนี่ยนะครับสิ่งหนึ่งที่เรารู้ก็
00:11:02 → 00:11:04 คือสมองเมื่อกี้ที่บอกว่ามันประกอบด้วย
00:11:04 → 00:11:07 ก้อนไขมันเยอะๆถูกไหมครับแล้วมันก็มีไข
00:11:07 → 00:11:10 มันเนี่ยมันต้องหาทางเอาไขมันในร่างกายใน
00:11:10 → 00:11:13 เลือดเราเนี่ยไปไว้ที่สมองถูกไหมครับ
00:11:13 → 00:11:16 คนที่เขาไม่เชื่อในกรณีของ ldl นั้นก็
00:11:16 → 00:11:19 พยายามจะไปกินก็บอกว่าการไปกินยาลดมัน
00:11:19 → 00:11:21 เนี่ยจะต้องเกิดปัญหาขึ้นมาแน่นอนเลยคือ
00:11:21 → 00:11:24 ldl ในร่างกายในเลือดมันต่ำในสมองมันจะ
00:11:24 → 00:11:26 มีได้ยังไงนะครับต้องบอกอย่างนี้ครับ
00:11:26 → 00:11:29 เลือดกับสมองเนี่ยมันจะมีผนังกั้นกำแพง
00:11:29 → 00:11:32 กั้นอันหนึ่งเรียกว่าลั่นไปเองแบริเออร์
00:11:32 → 00:11:34 นะครับรัฐเบรนด์แบริเออร์ตัวนี้เนี่ยมัน
00:11:34 → 00:11:38 จะเป็นตัวที่ควบคุมการเข้าออกของสารต่างๆ
00:11:38 → 00:11:41 มันขึ้นอยู่กับสมองมีความต้องการอะไรมัน
00:11:41 → 00:11:42 ก็จะดึงเอาตรงนั้นเข้าไปถ้ามันไม่ต้องการ
00:11:42 → 00:11:44 ให้อะไรเข้ามามันก็จะบอกว่าไม่ต้องเข้ามา
00:11:44 → 00:11:46 นะครับมันไม่ขึ้นกับปริมาณสารในเลือดครับ
00:11:46 → 00:11:49 มันขึ้นกับปริมาณการควบคุมของตัว
00:11:50 → 00:11:53 blackbrender ตัวนี้นะครับซึ่งการควบคุม
00:11:53 → 00:11:55 ของมันเนี่ยเรายังเข้าใจไม่หมดทุกอย่าง
00:11:55 → 00:11:58 ต่างๆดังนั้นตรงนี้คงจะต้องรอต่อไปใน
00:11:58 → 00:12:00 อนาคตเผื่อว่าเราจะมีความเข้าใจที่มาก
00:12:00 → 00:12:04 ขึ้นนะครับอีกอย่างหนึ่งซึ่งถ้าเราฟังการ
00:12:04 → 00:12:06 แถลงของ American Heart association
00:12:06 → 00:12:07 แล้วเนี่ย
00:12:07 → 00:12:12 คนที่เป็นกูรูแล้วก็แนะนำว่าเรากินคีโตสิ
00:12:12 → 00:12:16 เพราะว่ามันมีหลักฐานว่าสมองเสื่อมนะถ้า
00:12:16 → 00:12:19 คอเลสเตอรอลต่ำมากแล้วก็ถ้าเรามีเลือดออก
00:12:19 → 00:12:21 ในสมองเนี่ยมันน่ากลัวนะเราต้องเพิ่ม
00:12:21 → 00:12:23 ปริมาณไอโอดของเราหรือเราต้องกินคีโต
00:12:23 → 00:12:26 เพราะว่ามันเป็นการที่เพิ่มไขมันในร่าง
00:12:26 → 00:12:29 กายแล้วก็บางคนไปเจอว่าเฮ้ยนี่เลยกินคีโต
00:12:29 → 00:12:31 แล้วค่า ldl ของเราเนี่ย 2-300 ไม่มี
00:12:31 → 00:12:34 ปัญหาเพราะว่า 1 มันไปบำรุงสมองนี่ไงสมอง
00:12:34 → 00:12:36 เราจะได้ไม่เสื่อมเลือดจะได้ไม่ออกในสมอง
00:12:36 → 00:12:40 นะครับก็ไม่จริงแล้วนะครับไม่ถูกต้องแล้ว
00:12:40 → 00:12:42 นะครับเพราะว่างานวิจัยชิ้นเนี่ยชี้ให้
00:12:42 → 00:12:44 เห็นเลยนะครับว่ามันไม่ได้เกิดปัญหาอย่าง
00:12:45 → 00:12:47 นั้นเวลาที่ LD ต่ำและเรามีหลักฐานชัดเจน
00:12:47 → 00:12:50 ว่าเวลาที่ ldl มันต่ำแล้วเนี่ยมันสามารถ
00:12:50 → 00:12:53 ป้องกันการเกิดหลอดเลือดตีบในสมองหลอด
00:12:53 → 00:12:56 เลือดติดที่หัวใจแล้วก็หลอดจะปิดที่ส่วน
00:12:56 → 00:12:59 ปลายอย่างชัดเจนมากๆนะครับ
00:12:59 → 00:13:01 เราไม่สามารถเอาตรงนี้มาอ้างได้แล้วนะ
00:13:01 → 00:13:05 ครับแต่แน่นอนคนที่เขายืนยันมาทางนั้นเขา
00:13:05 → 00:13:08 ก็จะต้องอ้างต่อว่าเวลาที่ ldl สูงจาก
00:13:08 → 00:13:11 กรณีที่กิน keto เนี่ยมันเป็น ldl ตัว
00:13:11 → 00:13:14 ใหญ่นะครับแล้ว L เดียวตัวใหญ่เนี่ยมัน
00:13:14 → 00:13:16 ไม่ไปอุดไอ้หลอดเลือดไม่ทำให้เกิดปัญหา
00:13:16 → 00:13:19 หรอกแต่ ldl ตัวเล็กน่ะสิถึงจะมีปัญหา
00:13:19 → 00:13:21 ซึ่งตรงนี้เนี่ยก็ไม่ถูกต้องแล้วนะครับ
00:13:21 → 00:13:24 เพราะว่าอะไรเพราะว่า 2 ประการครับประการ
00:13:24 → 00:13:28 แรกถ้าคนไหนที่ติดตามงานวิจัยเรื่องของไข
00:13:28 → 00:13:32 มัน ldl เนี่ยตั้งแต่สมัยดรเค้านะครับทำ
00:13:32 → 00:13:35 งานวิจัยเรื่องนี้แล้วก็เจอค้นพบเรื่อง
00:13:35 → 00:13:37 ของ lbl ตัวใหญ่ตัวเล็กเนี่ยนะฮะตอนนั้น
00:13:37 → 00:13:39 ก็ตื่นเต้นกันมากว่า ldl ตัวเล็กมีความ
00:13:39 → 00:13:41 สัมพันธ์กับการเกิดหลอดเลือดที่มันอักเสบ
00:13:41 → 00:13:45 แล้วติดไปนะครับต่อมาสิ่งที่เขาเจอก็คือ
00:13:45 → 00:13:47 มันไม่ใช่ ldl ตัวเล็กนั่นแหละครับสิ่ง
00:13:47 → 00:13:50 ที่มันมีความเกี่ยวข้องก็คือปริมาณของ ldl
00:13:50 → 00:13:53 หรือที่เรียกว่า ldl particle นั่นเอง
00:13:53 → 00:13:56 คือมีอานุภาพของมันยิ่งเยอะยิ่งมีปัญหานะ
00:13:56 → 00:13:59 ครับแล้วที่สำคัญคือ ldl เนี่ยถ้าเราตรวจ
00:13:59 → 00:14:02 คอเลสเตอรอลสูงมันแปลได้อย่างเดียวครับ
00:14:02 → 00:14:05 ปริมาตรอนุภาคเนี่ยมันสูงไปด้วยซ้ำไปนะ
00:14:05 → 00:14:07 ครับและอีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นงานวิจัยที่
00:14:07 → 00:14:09 เอามายืนยันได้แล้วเรารู้กันในปัจจุบันก็
00:14:09 → 00:14:13 คือคนที่มีโรคนะครับโรคโรคหนึ่งชื่อ
00:14:13 → 00:14:17 Family hyperator คนที่มีโรคเหล่านี้
00:14:17 → 00:14:19 นั้น ldl ทั้งหมดของเขาเนี่ยเป็นตัวใหญ่
00:14:19 → 00:14:23 หมดเลยตัวใหญ่หมดเลยนะครับหรือไม่ก็เกือบ
00:14:23 → 00:14:26 หมดแต่เราพบว่าคนที่เป็นโรคโรคนี้เนี่ย
00:14:26 → 00:14:29 เกิดหลอดเลือดอุดตันที่สมองที่หัวใจที่
00:14:29 → 00:14:33 หลอดเลือดส่วนปลายสูงมาก
00:14:33 → 00:14:36 อย่างนั้นก็คัดค้านกับที่เราคิดแล้วสิ LD
00:14:36 → 00:14:38 เอาตัวใหญ่มันต้องไม่อุดตันแล้วทำไมคน
00:14:38 → 00:14:40 เหล่านี้เอาเรือใหญ่แล้วมันอุดตันล่ะนะ
00:14:40 → 00:14:42 ครับท่านก็ต้องหาเหตุผลมาตอบเรื่องพวกนี้
00:14:42 → 00:14:44 ก่อนที่จะบอกว่าเอ้ยเอา dl เยอะแล้วมัน
00:14:44 → 00:14:47 ไม่เป็นอะไรนะครับหรืออีกวิธีหนึ่งถ้าคิด
00:14:47 → 00:14:49 แบบชาวบ้านง่ายๆเลยสมมุตินะครับถ้าท่าน
00:14:49 → 00:14:53 กินคีโตแล้วเพื่อนท่านก็กินคีโตแล้วกินไป
00:14:53 → 00:14:55 แล้วเดือน 2 เดือนแล้วไปเจาะเลือดมาปรากฏ
00:14:55 → 00:14:59 ว่าเนี่ยท่านเจาะออกมาแล้ว ldl สูงมากเลย
00:14:59 → 00:15:01 นะครับแต่เพื่อนเขาเจาะออกมา ldl ปกติ
00:15:01 → 00:15:04 หรือต่ำแต่กินคีโตทั้งคู่นะครับท่านจะ
00:15:04 → 00:15:08 สบายใจหรือเปล่าถ้าไอเดียของท่านสูงแต่
00:15:08 → 00:15:11 ของเพื่อนมันไม่สูงเออ
00:15:11 → 00:15:13 ท่านจะสบายใจแบบไหนนะครับดังนั้นนี่เป็น
00:15:13 → 00:15:16 วิธีคิดแบบง่ายๆเลยนะครับถ้าเป็นผมผมกิน
00:15:16 → 00:15:18 คีโตแล้วผมไปเจาะเลือดแล้วแบบ ldl กลับมา
00:15:18 → 00:15:21 เฮ้ยปกติดีผมก็จะสบายใจแต่ถ้าผมไปกินแล้ว
00:15:21 → 00:15:23 ผมจอดแล้วมันสูงผมจะรู้สึกว่าเฮ้ยมันไม่
00:15:23 → 00:15:25 สบายใจแล้วนะนี่มันเหมือนแบบชาวบ้านชาว
00:15:25 → 00:15:29 บ้านเลยนะครับดังนั้นเนี่ยวันนี้ก็เลยจะ
00:15:29 → 00:15:32 เอาลิงค์ของอเมริกันฮาร์ทโซซีชั่นทิ้งไว้
00:15:32 → 00:15:35 ให้นะครับสำหรับท่านที่เป็นกูรูทางด้าน
00:15:35 → 00:15:38 สุขภาพ influencer สุขภาพหรือแม้จะเป็น
00:15:38 → 00:15:41 หมอก็ตามนะครับการรักษาคอเลสเตอรอลใน
00:15:41 → 00:15:43 ปัจจุบันนี้ยังถือว่ามีความสำคัญอยู่แล้ว
00:15:43 → 00:15:46 มันได้ประโยชน์ค่อนข้างที่จะชัดเจนแต่
00:15:46 → 00:15:48 อย่างที่ผมเคยเล่าไปในคลิปเรื่องสอนอ่าน
00:15:48 → 00:15:51 ผลไขมันนะครับว่าแต่ละคนเนี่ยจะมีเป้า
00:15:51 → 00:15:54 หมายของ ldl ไม่เท่ากันถ้าความเสี่ยงสูง
00:15:54 → 00:15:57 บางทีก็ต้องเอาต่ำกว่า 70 นะครับถ้าความ
00:15:57 → 00:15:59 เสี่ยงปานกลางก็ซัก 100 ถึง 130 อย่างนี้
00:16:00 → 00:16:01 ก็ลองโอเคถ้าความเสี่ยงมันไม่มีเลยอะไร
00:16:01 → 00:16:04 เงี้ยบางที 160 เรายังอนุโลมให้อยู่นะ
00:16:04 → 00:16:07 ครับดังนั้นแต่ละครั้งแต่ละคนมันก็ไม่
00:16:07 → 00:16:09 เหมือนกันเป้าหมายก็จะไม่เท่ากันดังนั้น
00:16:09 → 00:16:12 เราต้องดูว่าเป้าหมายของเราคือเท่าไหร่นะ
00:16:12 → 00:16:15 ครับแล้วถ้ามันไม่ได้ตามเป้าหมายการใช้ยา
00:16:15 → 00:16:16 statin ใช้ยาไอเซนติเมทหรือตัวอื่นๆ
00:16:16 → 00:16:19 เพื่อที่จะลดไขมัน ldl ให้เข้าสู่เป้า
00:16:19 → 00:16:23 หมายนั้นสามารถทำได้มีประโยชน์แล้วมันก็
00:16:23 → 00:16:25 ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องของสมอง
00:16:25 → 00:16:28 ความจำเสื่อมหรือเลือดออกในสมองแต่อย่าง
00:16:28 → 00:16:30 ไรข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจนมีอยู่ข้อเดียว
00:16:30 → 00:16:32 เลยก็คือเรื่องของคนที่เคยมีเลือดออกใน
00:16:32 → 00:16:36 สมองแล้วถ้ากินยาสแตนตินหรือยาที่ลดไขมัน
00:16:36 → 00:16:38 คอเลสเตอรอลตัวนี้เนี่ยจะทำให้เกิดเลือด
00:16:38 → 00:16:42 ออกได้ง่ายขึ้นจริงหรือไม่และถ้ากินมันจะ
00:16:42 → 00:16:44 ต้องกินตอนไหนตรงนี้คงจะต้องรอคำตอบใน
00:16:44 → 00:16:47 อนาคตนะครับโอเควันนี้ก็เท่านี้นะครับใคร
00:16:47 → 00:16:49 มีอะไรสงสัยก็สอบถามมาได้นะครับแล้วถ้า
00:16:49 → 00:16:52 เกิดคนไหนที่มีข้อมูลคัดค้านไม่ต้องส่งมา
00:16:52 → 00:16:53 ที่ผมนะครับส่งไปที่อเมริกา Heart
00:16:54 → 00:16:56 association แล้วท่านไปดีเบตกับเขาได้
00:16:56 → 00:16:58 โดยตรงเลยนะครับโอเควันนี้เท่านี้ครับ
00:16:58 → 00:17:02 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ